ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์และเด็ก พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ มาตรา ๓๖ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
“แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ” (ยกเลิก) “การบังคับใช้แรงงานหรือบริการ” (ยกเลิก) *ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๒๙ ก/หน้า ๒๕/ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ *มาตรา ๔: นิยามคำว่า “แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ” ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ "องค์กรอาชญากรรม" หมายความว่า คณะบุคคลซึ่งมีการจัดโครงสร้างโดยสมคบกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปไม่ว่าจะเป็นการกระทำชั่วระยะเวลาหนึ่ง และไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างที่มีลักษณะ มีการกำหนดบทบาทของสมาชิกอย่างแน่นอนหรือมีความต่อเนื่องของสมาชิกภาพหรือไม่ ทั้งนี้ โดยมี วัตถุประสงค์ที่จะกระทำความผิดฐานหนึ่งฐานใดหรือหลายฐานไม่ว่าจะเป็นฐานที่บัญญัติไว้ในกฎหมายนี้หรือกระทำความผิดฐานที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติอื่น เพื่อแสวงหาประโยชน์ทางทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม "เด็ก" หมายความว่า บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปี "กองทุน" หมายความว่า กองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ "คณะกรรมการ" หมายความว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ "กรรมการ" หมายความว่า กรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ "พนักงานเจ้าหน้าที่" หมายความว่า พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และให้หมายความรวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเฉพาะเรื่อง และเจ้าพนักงานซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้มีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ "รัฐมนตรี" หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ให้ประธานศาลฎีกาออกข้อบังคับเกี่ยวกับการดำเนินการของศาล และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศ เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ข้อบังคับประกาศศาลฎีกา กฎกระทรวง และระเบียบดังนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
บททั่วไป
เป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่ อาศัย หรือรับไว้ซึ่งบุคคลใด โดยมิชอบ ไม่ว่ากับสิ่งตอบแทน สักหน้า ชื่ออวด หลอกลวง ใช้อำนาจ
โดยมีเจตนาเจาะจงบุคคลด้วยเหตุที่อยู่ในภาวะอ่อนด้อยทางร่างกาย จิตใจ การศึกษา หรือ ทางสังคมโดยต้องการผู้เสียหายจะได้รับการทารุณกรรมโดยเฉพาะ หรือโดยให้เห็นหรือลงประโยชน์ อย่างอื่นแก่ผู้บุคคลหรือผู้อื่นบุคคลนั้นเพื่อให้บุคคลหรือผู้อื่นได้ความนิยมชมชอบแก่ตนหรือทำ ความผิดในการแสวงหาประโยชน์จากบุคคลที่ตนดูแล หรือ
เป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้มีที่อยู่ หรือรับไว้ซึ่งเด็ก ถ้าการกระทำดังกล่าวนั้นกระทำโดยมีความมุ่งหมายเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ผู้กระทำจะ ต้องรับผิดฐานค้ามนุษย์ การแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบตามวรรคหนึ่ง หมายความว่า การแสวงหาประโยชน์ จากการค้าประเวณี การผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามก การแสวงหาประโยชน์จากแรงงานหรือ การเอาคนลงเป็นทาสหรือให้มีฐานะคล้ายทาส การบังคับขอทาน การตัดอวัยวะเพื่อการค้า การบังคับใช้แรงงานหรือบริการตามมาตรา ๖/๑ หรือการอื่นใดที่คล้ายคลึงกันอันเป็นการบังคับ บุคคลไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
ทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน ของบุคคลนั้นเองหรือของผู้อื่น
ขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ
ใช้อำนาจในทางมิชอบ
ยึดเอกสารสำคัญประจำตัวของบุคคลนั้น
นำกระทำด้วยวิธีการอื่นใดอันทำให้บุคคลนั้นไม่สามารถขัดขืนได้
ทำด้วยประการอื่นใดอันมีลักษณะคล้ายคลึงกับการกระทำดังกล่าวข้างต้น ถ้าได้กระทำให้ผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ผู้บังคับจะทำความผิดฐานบังคับใช้แรงงานหรือ บริการ
งานหรือบริการที่อยู่ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร สำหรับงาน ในหน้าที่ราชการโดยเฉพาะ
งานหรือบริการที่จำเป็นอันเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่เพื่อป้องกันหรือรักษาความสงบเรียบร้อย ตามรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย
งานหรือบริการอื่นเป็นผลมาจากคำพิพากษาของศาลหรือคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งมี การต้องโทษตามคำพิพากษาของศาล *มาตรา ๖/๑ เพิ่มโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม การค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๘ (๒๕๕๘/๒๕๕๘) *มาตรา ๖/๒ เพิ่มโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม การค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๘ (๒๕๕๘/๒๕๕๘)
งานหรือบริการเพื่อประโยชน์ในการป้องกันหรือบรรเทาสาธารณภัย หรือในกรณีที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือในขณะมีภัยพิบัติร้ายแรงในภาวะสงครามหรือการรบ
สนับสนุนการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์
อุปการะโดยให้ที่อยู่หรือที่พักอาศัย จัดหาให้ประโยชน์หรือทำให้เกิดประโยชน์แก่การกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์
ช่วยเหลือด้วยประการใดเพื่อให้การกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์พ้นจากการถูกจับกุม
เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์เพื่อให้การกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ลุล่วงไป
ดำรงตำแหน่ง หรือเป็นสมาชิกขององค์กรอาชญากรรมเพื่อประโยชน์ในการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์
ในกรณีที่ความผิดได้กระทำสำเร็จแล้ว ผู้กระทำความผิด แต่แจ้งต่อเจ้าพนักงานของรัฐก่อนที่เจ้าพนักงานจะรู้การกระทำความผิดนั้น ต้องระวางโทษเพียงสองในสามของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ข้อผู้สมคบกันเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ตามมาตรา ๖ หรือกระทำไปตลอดแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล ผู้สมคบกันจะระวางโทษตามที่บัญญัติไว้ในวรรคแรก ถ้าผู้กระทำความผิดตามวรรคแรกกลับใจไม่กระทำความผิดนั้นและแจ้งการสมคบต่อเจ้าพนักงานก่อนที่เจ้าพนักงานจะรู้การกระทำความผิดนั้น ศาลจะไม่ลงโทษหรือจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้
ในกรณีที่สมาชิกขององค์กรอาชญากรรมคนใดแจ้งต่อเจ้าพนักงานของรัฐ ศาล หรือสมาชิกขององค์กรอาชญากรรมทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และรู้เห็นหรือยอมรับการกระทำความผิดดังกล่าว ต้องระวางโทษตามที่บัญญัติไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา ๖ ได้กระทำเพื่อให้เสร็จภายในที่ซ่อนหรือนำส่งออกไปนอกราชอาณาจักรหรือเป็นการกระทำของผู้มีอำนาจเหนือบุคคล ต้องระวางโทษเพิ่มสองเท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
กรรมการ กรรมการ ป.ป.ช. อนุกรรมการ สำนักงานอัยการสูงสุด และเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เช่นเดียวกัน ต้องระวางโทษเป็นสองเท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
ให้บังคับกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีค้ามนุษย์มาใช้บังคับกับการพิจารณาคดีบังคับใช้แรงงานหรือบริการด้วยโดยอนุโลม
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องไม่เป็นข้าราชการที่มีตำแหน่ง
เสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีในการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
เสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้มีการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือโครงสร้างของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อให้การปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในสถานประกอบกิจการ โรงงาน และสถานประกอบการอื่นที่คาดว่าอาจเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ต้องอยู่ภายใต้บังคับของมาตรการดังกล่าว
กำหนดยุทธศาสตร์และแผนการในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
กำหนดแนวทางและกำกับดูแลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์และแผนการดังกล่าวตลอดจนการให้ความร่วมมือและประสานงานกับต่างประเทศเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
สั่งการและกำกับดูแลให้หน่วยงานของรัฐและองค์กรเอกชนดำเนินการ เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
วางระเบียบเกี่ยวกับการจดทะเบียนองค์กรเอกชนที่มีวัตถุประสงค์ด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ตลอดจนหลักเกณฑ์ในการช่วยเหลือการดำเนินกิจกรรมขององค์กรดังกล่าว
วางระเบียบโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน การจัดหาผลประโยชน์ และการจัดการกองทุน
วางระเบียบเกี่ยวกับการดำเนินการตามแผนการเงินและการคลังแห่งชาติ เพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้
สั่งการและกำกับดูแลการดำเนินงานของคณะกรรมการ ปคม.
ดำเนินการตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย
ปิดสถานประกอบกิจการหรือโรงงานชั่วคราว
พักใช้ใบอนุญาตประกอบการสำหรับการประกอบธุรกิจหรือโรงงาน
ห้ามใช้สถานที่จนกว่าจะมีการตรวจสอบ
ดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้มีการกระทำผิดเกิดขึ้น ทั้งนี้ การสั่งการตาม (1) (2) และ (3) ต้องไม่เกินครั้งละสิบวันนับแต่วันที่เจ้าของ ผู้ครอบครอง หรือผู้ดำเนินกิจการสถานประกอบกิจการ โรงงาน หรือสถานบริการนั้น ได้รับทราบคำสั่ง ในกรณีมีการออกคำสั่งใด ๆ ตามวรรคหนึ่ง ให้คณะอนุกรรมการตามมาตรา 25/4 วรรคสอง แจ้งให้หน่วยงานที่มีความดูแลสถานประกอบกิจการ โรงงาน หรือสถานบริการนั้นทราบ และให้หน่วยงานดังกล่าวถือปฏิบัติตามนั้น การพิจารณาสถานประกอบกิจการหรือโรงงานตามวรรคสอง การพักใช้ใบอนุญาตประกอบการสำหรับการประกอบธุรกิจหรือโรงงาน การห้ามใช้สถานที่จนกว่าจะมีการตรวจสอบ *มาตรา 25/3 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558* *มาตรา 25/4 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558* สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ดำเนินมาตรการที่จำเป็นเพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำผิดเกิดขึ้นอีก ตามวรรคหนึ่ง และการแจ้งให้หน่วยงานรับทราบตามวรรคสามให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
คำวินิจฉัยของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด
ตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและที่ปรึกษาจะไม่พ้นจากตำแหน่งตั้งแต่ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งตนแทน
``` - ๑๐ -
จัดทำและกำกับการดำเนินการตามแผนงานและแนวทางในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
จัดให้มีและกำกับการดำเนินการตามโครงการรณรงค์และการให้การศึกษาแก่ประชาชนทั่วไปเพื่อประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
จัดให้มีการรายงานผลการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ มาตรการ และการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องต่อคณะกรรมการ
ติดตามและจัดทำรายงานเกี่ยวกับการดำเนินการตามพันธกรณีระหว่างประเทศ การให้ความร่วมมือและประสานงานกับต่างประเทศเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เสนอคณะกรรมการ
กำหนดหลักเกณฑ์และอนุมัติการใช้เงินและทรัพย์สินของกองทุนตามมาตรา ๔๔ (๔)
จัดทำและกำกับแผนปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และสอดคล้องกับกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และพันธกรณีระหว่างประเทศ
ดำเนินการตามที่คณะกรรมการมอบหมาย
คณะกรรมการ ปคม. ต้องมีการประชุมอย่างน้อยครั้งหนึ่ง
ปฏิบัติหน้าที่ธุรการทั่วไปของคณะกรรมการและคณะกรรมการ ปคม.
เป็นศูนย์กลางในการประสานงานและประมวลข้อมูลข่าวสาร ท่ามกลางของรัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและต่างประเทศ ในการดำเนินงานตามพระราชบัญญัตินี้
``` (ก) จัดระบบงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ รวมทั้งช่วยเหลือ เยียวยาและคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายให้มีประสิทธิภาพ (ข) จัดให้มีการรวบรวม ศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการป้องกันและ ปราบปรามการค้ามนุษย์ รวมทั้งจัดให้มีการสำรวจพื้นที่เป้าหมายในการเฝ้าระวังและชี้จุดพื้นที่ ปราบปรามการค้ามนุษย์ (ค) จัดให้มีข้อมูลสารสนเทศและการเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลด้านการป้องกันและ ปราบปรามการค้ามนุษย์ (ง) ปฏิบัติตามมติของคณะกรรมการและคณะกรรมการ ปคม. หรือความที่ คณะกรรมการและคณะกรรมการ ปคม. มอบหมาย ให้สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จัด งบประมาณและบุคลากรให้เพียงพอและเหมาะสมกับการปฏิบัติหน้าที่ของสวพม.
อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่
มีหนังสือเรียกให้บุคคลใดมาให้ถ้อยคำหรือส่งเอกสารหรือเอกสารหลักฐาน มาเพื่อประกอบการพิจารณา
ตรวจสถานที่ของผู้เสียหายหรือที่ซึ่งมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทำความผิดฐาน ค้ามนุษย์อยู่มิใช่ในเคหสถาน แต่ถ้าผู้เสียหายเป็นผู้ซึ่งสมัครใจอยู่ในที่ดังกล่าว
ตรวจค้นเคหสถานหรือสถานที่อื่นใดของผู้เสียหายหรือของบุคคลที่ตกเป็นผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์อยู่ในสถานที่นั้น
เข้าไปในเคหสถานหรือสถานที่ใด ๆ เพื่อตรวจค้น ยึด หรืออายัด เมื่อมีเหตุอัน ควรเชื่อได้ว่ามีหลักฐานเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ หรือเพื่อพบและช่วยบุคคลที่ตกเป็นผู้เสียหายจากการ กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และหากเป็นกรณีเร่งด่วนอาจเข้าไปในเวลากลางคืนได้ พบหลักฐานในเวลากลางคืน เช่น ย่อมให้ย้าย หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ซ่อนเร้น หรือทำลายไปเสียก่อน หรือบุคคลนั้นอาจถูกทำร้าย โยกย้าย ในการดำเนินการตาม (๒) และ (๓) พนักงานเจ้าหน้าที่อาจสั่งให้ผู้ได้รับคำบัญชาดำเนินการแทนได้ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ พนักงานเจ้าหน้าที่จะออกหมายเพื่อขอความอนุเคราะห์เช่นนั้นตามมาตราพระราชบัญญัตินี้ก็ได้ แต่จะบังคับให้ผู้ใดปฏิบัติโดยขัดต่อเจตจำนงอันตรายแก่ผู้นั้นไม่ได้
บัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามแบบที่รัฐมนตรีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
(ก) ไม่อาจใช้วิธีการอื่นใดที่เหมาะสมหรือมีประสิทธิภาพมากกว่าได้ การอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้กำหนดช่วงอนุญาตให้ได้กระทำและไม่เกินสิบห้าวันโดยระบุ กำหนดเงื่อนไขใด ๆ ก็ได้ และให้แจ้งข้อบังคับเอกสารหรือข้อมูลสาระตามคำสั่งดังกล่าวให้ความ ร่วมมือเพื่อให้เป็นไปตามความในวรรคนี้ ภายหลังที่สิ้นสุดช่วงอนุญาต ทุกคนที่ถูกแจ้งให้ทราบและ ความจำเป็นไม่เป็นไปตามพระบูรพกิจการเปลี่ยนแปลงไป ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เปลี่ยนแปลงคำสั่ง อนุญาตให้ตามที่เห็นสมควร ในการดำเนินการตามคำสั่งของตน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถร้องขอหรือขอให้บุคคลใด ช่วยเหลือในการปฏิบัติหน้าที่ได้ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าวแล้ว ให้ พนักงานเจ้าหน้าที่บันทึกรายละเอียดผลการดำเนินการนั้น และให้ส่งบันทึกนั้นไปยังศาลที่สั่ง โดยเร็ว บรรดาเอกสารหรือข้อมูลข่าวสารที่ได้มาตามวรรคหนึ่ง ให้เก็บรักษาและใช้ ประโยชน์ในการสืบสวนและใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดีความผิดฐานค้ามนุษย์เท่านั้น ทั้งนี้ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด
และปราบปรามการค้ามนุษย์ พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้หรือเจ้าพนักงานตามกฎหมาย อื่นที่เกี่ยวข้องมีอำนาจร้องขอต่อศาลเพื่อขออนุญาตให้เด็กนั้นอยู่ในความดูแลของพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือสถานสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็กหรือสถานที่อื่นใดที่เหมาะสมเป็นการ ชั่วคราวได้ บุคคลผู้ใดที่พนักงานเจ้าหน้าที่ร้องขอให้ช่วยเหลือในการปฏิบัติหน้าที่ตามวรรคหนึ่งต้องให้ ความช่วยเหลือเท่าที่สามารถกระทำได้ ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ร้องขอให้เด็กนั้นอยู่ในความดูแลของพนักงานเจ้าหน้าที่หรือ สถานสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็กหรือสถานที่อื่นใดที่เหมาะสมเป็นการชั่วคราว
ตามที่เห็นสมควรที่ให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตได้ และให้บังคับความในมาตรา ๒๗ ทวิ วรรคสาม และ วรรคสี่ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาใช้บังคับโดยอนุโลม ถ้าต้องมีการพิจารณาคดีในศาลหรือมีเหตุจำเป็นในการกระทำความผิดตามที่กำหนดไว้ใน
เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
การช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
ความช่วยเหลือแก่บุคคลซึ่งเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์โดยไม่เลือกปฏิบัติในเรื่องเพศ เชื้อชาติ อายุ สัญชาติ ภาษา ศาสนา ความเชื่อ การศึกษา ความคิดเห็นทางการเมือง หรือสถานะอื่นใด การให้ความช่วยเหลือตามวรรคหนึ่ง การจัดที่พักอาศัยชั่วคราว การให้การศึกษา การฝึกอบรม การให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมาย การส่งกลับไปยังประเทศต้นทางหรือภูมิลำเนาของผู้เสียหาย การ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ดำเนินคดีเพื่อเรียกร้องค่าชดเชยแทนให้ผู้เสียหายตามระเบียบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และความแตกต่างทางเพศ อายุ สัญชาติ เชื้อชาติ ประเพณีหรือธรรมเนียมปฏิบัติของผู้เสียหาย การแจ้งสิทธิของผู้เสียหายที่ให้ได้รับการคุ้มครองในแต่ละขั้นตอนที่พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการหรือ ตลอดจนช่วยเหลือและชี้แจงในการดำเนินการต่าง ๆ เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย และต้องรับฟังความคิดเห็นของผู้เสียหายก่อนด้วย การให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายที่เป็นเด็กหรือบุคคลซึ่งไม่มีความสามารถในการจัดการงานของตนเอง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามความเหมาะสมเพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็กหรือบุคคลซึ่งไม่มีความสามารถในการจัดการงานของตนเองนั้น โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและการป้องกันตนเองเป็นสำคัญ และในกรณีที่ผู้เสียหายเป็นเด็กหรือบุคคลซึ่งไม่มีความสามารถในการจัดการงานของตนเอง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งสิทธิของผู้เสียหายให้ผู้ปกครองหรือผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กหรือบุคคลซึ่งไม่มีความสามารถในการจัดการงานของตนเองนั้นทราบด้วย
วรรคตอนที่หนึ่ง (ยกเลิก) วรรคตอนที่สอง (ยกเลิก) วรรคสี่ (ยกเลิก)
ในกรณีที่ผู้เสียหายจะให้การหรือเบิกความเป็นพยานในคดีความผิดฐานค้ามนุษย์ตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้เสียหายซึ่งยังเป็นเด็กหรือบุคคลซึ่งไม่มีความสามารถในการจัดการงานของตนเอง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดให้มีการคุ้มครองพยานในคดีอาญา ผู้เสียหายต้องดำเนินการเพื่อให้ได้รับสิทธิในที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัย หรือที่พักบุคคลในครอบครัวของผู้เสียหายด้วยอยู่ในประเทศนั้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดให้มีการคุ้มครองพยานในคดีอาญาในประเทศนั้น ไม่ว่าจะเป็นการคุ้มครองพยานในคดีอาญาในประเทศนั้น หรือการคุ้มครองพยานในสถานที่สุขสงบในประเทศนั้น ทั้งนี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดให้มีการคุ้มครองพยานในคดีอาญาในประเทศนั้น
กองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
เงินงบประมาณที่รัฐจัดสรรให้
เงินอุดหนุนที่รัฐจัดสรรให้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี
เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคหรืออุดหนุนให้
เงินที่ได้รับจากการจัดกิจกรรมหรือดำเนินกิจการเพื่อหารายได้
ดอกผลและผลประโยชน์ที่เกิดจากกองทุน
เงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินของกองทุนหรือที่ได้จากการจัดหารายได้
ค่าปรับตามที่กระทรวงการคลังอนุญาต ให้นำไปใช้โดยไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้ของแผ่นดิน
เงินหรือทรัพย์สินอื่นตามกองทุนหรือกองทุนที่ได้รับตามกฎหมายอื่น
การช่วยเหลือผู้เสียหายตามมาตรา ๓๓
การดูแลหรือความปลอดภัยให้แก่ผู้เสียหายตามมาตรา ๓๔
การช่วยเหลือผู้เสียหายให้เป็นไปตามรายงานที่ได้แจ้งไว้ในรายงานการจัดหรืออื่นที่อยู่ตามมาตรา ๓๔
การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ตามระเบียบที่คณะกรรมการ ปคม. กำหนด
การบริหารกองทุน
พิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินกองทุนที่กำหนดไว้ในมาตรา ๔๔
บริหารกองทุนให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
รายงานผลการดำเนินงานและการจัดการกองทุนต่อคณะกรรมการตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
ให้บังคับมาตรา ๔๗ มาตรา ๔๘ มาตรา ๔๙ มาตรา ๕๐ มาตรา ๕๑ มาใช้บังคับกับการจัดทำแผนดำเนินงาน การพิจารณาตำแหน่ง และการประชุมของคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของกองทุน โดยอนุโลม
(ก) ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินงานของกองทุน (ข) รายงานผลการปฏิบัติงานพร้อมทั้งข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการ (ค) เรียกเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับกองทุนจากบุคคลใดหรือเรียกบุคคลใด มาให้ข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการพิจารณาเป็นผล
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบและรับรองภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันสิ้นปีบัญชี ให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินจัดทำรายงานผลการตรวจสอบและรับรองบัญชีและ การเงินของกองทุนเสนอต่อคณะกรรมการภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันสิ้นปีบัญชี เพื่อให้ คณะกรรมการเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา รายงานผลการตรวจสอบบัญชีตามวรรคสอง ให้รัฐมนตรีเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อ นำเสนอรัฐสภาในระหว่างสมัยประชุมและจัดให้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
บทกำหนดโทษ
สิบสองปีและปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสองแสนบาท ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง ได้กระทำแก่กองทุนซึ่งมีทรัพย์สินเกินกว่าห้าล้านบาท ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสี่แสนบาท ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง ได้กระทำแก่กองทุนซึ่งมีทรัพย์สินเกินกว่าห้าสิบล้านบาท ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต
หกเดือนถึงสี่ปี หรือปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นเหตุให้กองทุนได้รับความเสียหายสาหัส หรือเป็นโรคร้ายแรงซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี และ ปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสองล้านบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต
พ.ศ. ๒๕๖๐
การทุจริตมนุษย์ พ.ศ. ๒๕๖๐ (ฉบับที่ ๓) ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม เป็นการที่ผู้บังคับบัญชาให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชากระทำหรือเป็นการเพราะเหตุความยากจนหรือสถานการณ์ หรือเนื่องด้วยการที่ผู้กระทำความผิดหรือเหยื่อถูกบังคับหรือแบร่วางโทษแล้ว ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ลงโทษผู้กระทำความผิดเลยก็ได้
ข้อเท็จจริงหรือเบิกความ หรือเพื่อให้ข้อเท็จจริงหรือเบิกความอันเป็นเท็จ หรือไปให้ข้อเท็จจริงหรือเบิกความในการดำเนินคดีแก่คณะกรรมการตามพระราชบัญญัตินี้
ใช้กำลังข่มขืน ขู่เข็ญ ข่มขู่ ข่มขืนใจ ยุยงกลาง หรือกระทำการอื่นใดเพื่อให้บุคคลซึ่งเกี่ยวข้องย้ายถิ่นฐานไปพ้นจากถิ่นที่ทำกิน พื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่การอยู่อาศัย หรือไปในลักษณะเพื่อให้ข้อเท็จจริงหรือเบิกความ หรือเพื่อให้บุคคลนั้นให้ข้อเท็จจริงหรือเบิกความอันเป็นเท็จ หรือไม่ให้ข้อเท็จจริงหรือเบิกความในการดำเนินคดีแก่คณะกรรมการตามพระราชบัญญัตินี้
ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ เอาไปเสีย แก้ไข เปลี่ยนแปลง ปลอม หรือย่อมเอกสารหรือพยานหลักฐานใด ๆ หรือของกลาง ทำ หรือย่อมเอกสารหรือพยานหลักฐานใด ๆ อันเป็นเท็จในการดำเนินคดีแก่คณะกรรมการตามพระราชบัญญัตินี้
ให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่คณะกรรมการ กรรมการ ปปท. อนุกรรมการ สมาชิกของคณะทำงาน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ หรือให้พนักงานในตำแหน่งตุลาการ พนักงานอัยการ หรือพนักงานสอบสวน หรือเรียก รับ หรือยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามพระราชบัญญัตินี้ หรือ
ใช้กำลังข่มขืน ขู่เข็ญ ข่มขู่ ข่มขืนใจ หรือกระทำการอื่นเพื่อขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการ กรรมการ ปปท. อนุกรรมการ สมาชิกของคณะทำงาน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ หรือเพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามพระราชบัญญัตินี้
บันทึกภาพ แพร่ภาพ พิมพ์รูป หรือบันทึกเสียง แพร่เสียง หรืออื่นใดที่สามารถแสดงว่าบุคคลใดเป็นผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์
โฆษณาหรือเผยแพร่ข้อความ ซึ่งปรากฏในทางสื่อมวลชนของหนังสือพิมพ์ หรือในทางวิทยุการกระจายเสียงหรือการกระจายภาพ หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่ออื่นใดที่สามารถแสดงว่าบุคคลใดเป็นผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ทั้งนี้ ไม่ว่าบุคคลดังกล่าวจะยินยอมหรือไม่
โฆษณาหรือเผยแพร่ข้อความ ซึ่งปรากฏในทางสื่อมวลชนของหนังสือพิมพ์ หรือในทางวิทยุการกระจายเสียงหรือการกระจายภาพ หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่ออื่นใดที่สามารถแสดงว่าบุคคลใดเป็นผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่การกระทำที่ผู้กระทำจำต้องกระทำเพื่อประโยชน์ของทางราชการในการบรรเทาภัยหรือช่วยเหลือผู้เสียหาย หรืออยู่ในสภาพยอมโดยบริสุทธิ์ใจ
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นการสนับสนุนการให้ผู้อื่นเดินตามทางการหรือให้บริการเพราะเหตุความลำบากของชีวิตความเป็นอยู่หรือการละเลยหรือการหลงลืม หรือเหตุอื่นอันควรปรากฏขึ้นแล้วศาลจะไม่ลงโทษผู้กระทำความผิดเลยก็ได้ บทเฉพาะกาล
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี มาตรา ๔๗/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐ หมวดเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ยังมิได้กำหนดหลักเกณฑ์และกลไกให้ครอบคลุมการกระทำที่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากบุคคลที่มิใช่เด็กแต่รวมถึงหญิงและเด็ก และกระทำด้วยวิธีการที่หลากหลายมากขึ้น เช่น การบังคับขู่เข็ญ การใช้กำลังประทุษร้ายไปจนถึงการล่อลวงบังคับ บังคับให้แรงงานบริการหรือการค้าประเวณี บังคับให้ขอทานหรือการทำ หรือการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากบุคคลในรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชนและกฎหมายระหว่างประเทศที่ประเทศไทยได้ลงนามในสนธิสัญญาและข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในลักษณะองค์การ และเพื่อการคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้เสียหายจากการกระทำดังกล่าว ตลอดจนเพื่อให้การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สอดคล้องกับบริบทของสังคมและวิถีการดำรงชีวิตที่หลากหลายของมนุษย์ในปัจจุบัน รวมทั้งปรับปรุงการช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายให้เหมาะสม ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้เสียหาย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป หมวดเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๔๒ มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการให้แนวทางเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในปัจจุบันที่มีความรุนแรง ซับซ้อน และเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ จึงเห็นควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์โดยกำหนดให้มีมาตรการสร้างแรงจูงใจให้ผู้แจ้งเบาะแสการค้ามนุษย์ซึ่งต้องอยู่ในข่ายที่กำหนดไว้ และกำหนดมาตรการคุ้มครองพยานบุคคลให้เหมาะสมยิ่งขึ้น รวมทั้งปรับปรุงกฎหมายให้เหมาะสมยิ่งขึ้นและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยแก้ไขบทนิยามคำว่า “แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ” และ “การบังคับในแรงงานหรือบริการ” ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ปรับปรุงฐานความผิดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การเลือกค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมอันเนื่องมาจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และกำหนดฐานความผิดที่เกี่ยวข้องต่อเด็กที่มีอายุไม่เกินสิบห้าปีให้มีความชัดเจนหรือให้การบังคับการบังคับแรงงานหรือบริการและผลกระทบต่อร่างกายหรือจิตใจ การเจ็บป่วยตาย หรือพัฒนาการของบุคคลนั้น รวมทั้งให้เพิ่มเติมบทกำหนดโทษให้เหมาะสมยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกำหนดนี้ พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ พ.ศ. ๒๕๖๖ มาตรา ๒ พระราชกำหนดนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกำหนดฉบับนี้ คือ โดยที่ในปัจจุบันยังไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายที่กำหนดหลักเกณฑ์และมาตรการในการคุ้มครองผู้เสียหายจากการบังคับในแรงงานหรือบริการ ทำให้ไม่สามารถบังคับและแก้ไขปัญหาการบังคับในแรงงานหรือบริการที่เป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังไม่มีบทบัญญัติที่กำหนดฐานความผิดเกี่ยวกับการบังคับในแรงงานหรือบริการที่มีผลกระทบต่อร่างกายหรือจิตใจ การเจ็บป่วยตาย หรือพัฒนาการของบุคคลนั้น รวมทั้งบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ต่อเด็กที่มีอายุไม่เกินสิบห้าปีให้มีความชัดเจน และบทกำหนดโทษที่เหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ อันตรายต่อมนุษย์ ``` - ๒๔ - สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อมรรัตน์/แก้ไข วิมล/ตรวจ ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ สัญญา/ผู้จัดทำ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๘ นุสรา/เพิ่มเติม ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ปริญลักษณ์/เพิ่มเติม ๓๐ มกราคม ๒๕๖๐ ทิมพิมล/เพิ่มเติม ๑๐ เมษายน ๒๕๖๒ ```