로고

「2017년 무역 부문 경쟁법」

• 국 가 ‧ 지 역: 태국 • 제 정 일: 2017년 7월 2일

มเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ให้ไว้ ณ วันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ เป็นปีที่ ๒ ในรัชกาลปัจจุบัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทร เทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการ แข่งขันทางการค้า จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติ ขึ้นไว้โดยค าแนะน าและยินยอมของสภานิติบัญญัติ แห่งชาติท าหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้

มาตรา ๑

พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติการ แข่งขันทางการค้า พ.ศ. ๒๕๖๐”

มาตรา ๒

พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นก าหนดเก้า สิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็น ต้นไป

มาตรา ๓

ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. ๒๕๔๒

มาตรา ๔

พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่การกระท าของ (๑) ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค หรือ ราชการส่วนท้องถิ่น (๒) รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือหน่วยงาน อื่นของรัฐ ทั้งนี้ เฉพาะในส่วนที่ด าเนินการตาม กฎหมายหรือมติของคณะรัฐมนตรีที่มีความ จ าเป็นเพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงของ รัฐ ประโยชน์สาธารณะ ผลประโยชน์ส่วนรวม หรือ จัดให้มีสาธารณูปโภค (๓) กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ หรือชุมนุมสหกรณ์ซึ่ง มีกฎหมายรับรอง และมีวัตถุประสงค์ด าเนินการ ทางธุรกิจเพื่อประโยชน์ในการประกอบอาชีพของ เกษตรกร (๔) ธุรกิจที่มีกฎหมายเฉพาะก ากับดูแลในเรื่อง การแข่งขันทางการค้า

มาตรา ๕

ในพระราชบัญญัตินี้ “ธุรกิจ” หมายความว่า กิจการอันด าเนินการเพื่อ ประโยชน์ทางการค้าในทางเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม การเงิน การ ประกันภัย และการบริการ และให้หมายความ รวมถึงกิจการอื่นตามที่ก าหนดโดยกฎกระทรวง “ผู้ประกอบธุรกิจ” หมายความว่า ผู้จ าหน่าย ผู้ผลิตเพื่อจ าหน่าย ผู้สั่งหรือน าเข้ามาใน ราชอาณาจักรเพื่อจ าหน่าย ผู้ซื้อเพื่อผลิตหรือ จ าหน่ายต่อซึ่งสินค้า หรือผู้ให้บริการในธุรกิจ “สินค้า” หมายความว่า สิ่งของที่ใช้ในการอุปโภค หรือบริโภค รวมทั้งเอกสารแสดงสิทธิในสิ่งของนั้น “บริการ” หมายความว่า การรับจัดท าการงาน การ ให้สิทธิใด ๆ การให้ใช้หรือให้ประโยชน์ในทรัพย์สิน หรือกิจการใด ๆ โดยเรียกค่าตอบแทนเป็นเงินหรือ ผลประโยชน์อื่น แต่ไม่รวมถึงการจ้างแรงงาน “ราคา” หมายความว่า ราคาสินค้า และให้ หมายความรวมถึงค่าตอบแทนส าหรับการ ให้บริการด้วย “ตลาด” หมายความว่า ตลาดที่เกี่ยวเนื่องใน สินค้าหรือบริการชนิดเดียวกันหรือที่สามารถใช้ ทดแทนกันได้ โดยให้พิจารณาด้านคุณลักษณะ ราคา หรือวัตถุประสงค์การใช้งานของสินค้าหรือ บริการ และด้านพื้นที่ในการจ าหน่ายสินค้าหรือ ให้บริการ “ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอ านาจเหนือตลาด” หมายความว่า ผู้ประกอบธุรกิจรายหนึ่งหรือหลาย รายในตลาดใดตลาดหนึ่ง ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดและ ยอดเงินขายเกินกว่าเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ประกาศก าหนด โดยให้น าปัจจัยสภาพการแข่งขัน ของตลาดอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง แล้วแต่กรณี มาประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ ให้ คณะกรรมการพิจารณาทบทวนเกณฑ์ส่วนแบ่ง ตลาดและยอดเงินขายอย่างน้อยหนึ่งครั้งภายใน ระยะเวลาสามปีนับแต่วันออกประกาศ การนับส่วนแบ่งตลาดและยอดเงินขายของผู้ ประกอบธุรกิจรายหนึ่งซึ่งมีอ านาจเหนือตลาด ให้ นับรวมส่วนแบ่งตลาดและยอดเงินขายในตลาดใด ตลาดหนึ่งของบรรดาผู้ประกอบธุรกิจที่มี ความสัมพันธ์กันทางนโยบายหรืออ านาจสั่งการ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศก าหนด ด้วย และให้ถือว่าบรรดาผู้ประกอบธุรกิจที่มีส่วน แบ่งตลาดและยอดเงินขายดังกล่าวเป็นผู้ประกอบ ธุรกิจซึ่งมีอ านาจเหนือตลาด “ปัจจัยสภาพการแข่งขัน” หมายความว่า จ านวนผู้ ประกอบธุรกิจในตลาด จ านวนเงินลงทุน การ เข้าถึงปัจจัยการผลิตที่ส าคัญ ช่องทางการจัด จ าหน่าย เครือข่ายในการประกอบธุรกิจ โครงสร้างพื้นฐานที่จ าเป็นในการประกอบธุรกิจ กฎระเบียบของภาครัฐ และปัจจัยอื่นตามที่ คณะกรรมการประกาศก าหนด “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการ การแข่งขันทางการค้า “กรรมการ” หมายความว่า กรรมการการแข่งขัน ทางการค้า “ส านักงาน” หมายความว่า ส านักงาน คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า “เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธิการ คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า “พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า เลขาธิการ และพนักงานของส านักงานซึ่งด ารงต าแหน่งใน ระดับไม่ต ่ากว่าข้าราชการพลเรือนสามัญระดับ ปฏิบัติการซึ่งคณะกรรมการแต่งตั้งให้ปฏิบัติการ ตามพระราชบัญญัตินี้ “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการ ตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๖

ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์รักษาการตาม พระราชบัญญัตินี้ และให้มีอ านาจออก กฎกระทรวงก าหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตรา ท้ายพระราชบัญญัตินี้ ลดหรือยกเว้น ค่าธรรมเนียม และก าหนดกิจการอื่นเพื่อ ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจา นุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้

หมวด ๑ คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า

มาตรา ๗

ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า” ประกอบด้วย ประธานกรรมการ รองประธาน กรรมการหนึ่งคน และกรรมการอื่นอีกห้าคน ซึ่ง นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจากบุคคลที่ผ่านการ คัดเลือกโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตร ให้เลขาธิการเป็นเลขานุการคณะกรรมการ

มาตรา ๘

กรรมการต้องเป็นผู้ที่มีผลงานหรือเคยปฏิบัติงานที่ แสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้มีความรู้ และมีความ เชี่ยวชาญหรือมีประสบการณ์ไม่น้อยกว่าสิบปี ใน สาขานิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเงิน การบัญชี อุตสาหกรรม การบริหารธุรกิจ การคุ้มครอง ผู้บริโภค หรือในสาขาอื่น อันจะเป็นประโยชน์ต่อ การก ากับดูแลการแข่งขันทางการค้า ทั้งนี้ การ นับระยะเวลาข้างต้นให้น ามารวมกันได้

มาตรา ๙

กรรมการต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะ ต้องห้าม ดังต่อไปนี้ (๑) มีสัญชาติไทย (๒) มีอายุไม่ต ่ากว่าสี่สิบปีบริบูรณ์ แต่ไม่เกินเจ็ด สิบปีบริบูรณ์ (๓) ไม่เป็นผู้ด ารงต าแหน่งทางการเมือง (๔) ไม่เป็นผู้ด ารงต าแหน่งใดในพรรคการเมือง (๕) ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟื อนไม่ สมประกอบ (๖) ไม่ติดยาเสพติดให้โทษ (๗) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย หรือไม่เคยเป็นบุคคล ล้มละลายทุจริต (๘) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ ความสามารถ (๙) ไม่เป็นบุคคลที่ต้องค าพิพากษาให้จ าคุกและ ถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล (๑๐) ไม่เป็นบุคคลที่เคยต้องค าพิพากษาให้จ าคุก โดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงห้าปีในวันได้รับการเสนอ ชื่อต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบตาม มาตรา ๑๒ (๓) เว้นแต่ในความผิดอันได้กระท า โดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ (๑๑) ไม่เป็นบุคคลที่เคยต้องค าพิพากษาหรือ ค าสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน เพราะร ่ารวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น ผิดปกติ (๑๒) ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจาก ราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือ หน่วยงานของเอกชน เพราะทุจริตต่อหน้าที่ ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง หรือถือว่ากระท าการ ทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (๑๓) ไม่เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการ การเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรรมการตรวจ เงินแผ่นดิน หรือกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (๑๔) ไม่เคยถูกถอดถอนออกจากต าแหน่งตาม กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต

มาตรา ๑๐

นอกจากคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตาม มาตรา ๙ แล้ว กรรมการต้อง (๑) ไม่ด ารงต าแหน่งใด ๆ ในองค์กรธุรกิจ หรือเป็น หุ้นส่วนที่มีอ านาจจัดการในห้างหุ้นส่วน หรือผู้ถือ หุ้นที่เกินกว่าร้อยละห้าของทุนทั้งหมดในบริษัทใด (๒) ไม่เป็นข้าราชการซึ่งมีต าแหน่งหรือเงินเดือน ประจ า (๓) ไม่เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของ รัฐ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือไม่เป็นกรรมการ หรือที่ปรึกษาของหน่วยงานของรัฐที่ด าเนินธุรกิจ (๔) ไม่เป็นผู้ด ารงต าแหน่งใด ๆ ในสถาบันหรือ สมาคมซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของผู้ประกอบธุรกิจที่ มีวัตถุประสงค์หรือประโยชน์ร่วมกันในทางการค้า ในกรณีที่ผู้ได้รับเลือกตามมาตรา ๑๒ เป็นบุคคล ตามวรรคหนึ่ง นายกรัฐมนตรีจะแต่งตั้งได้ต่อเมื่อผู้ นั้นได้ลาออกจากการเป็นบุคคลตามวรรคหนึ่งแล้ว ซึ่งต้องกระท าภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับ เลือก แต่ถ้าผู้นั้นมิได้ลาออกภายในเวลาที่ก าหนด ให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยได้รับเลือกให้เป็นกรรมการ และให้ด าเนินการคัดเลือกกรรมการแทนบุคคล ดังกล่าวตามมาตรา ๑๒

มาตรา ๑๑

ในการแต่งตั้งกรรมการ ให้มีคณะกรรมการสรรหา คณะหนึ่งจ านวนเก้าคนท าหน้าที่คัดเลือกบุคคลที่ สมควรได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ ประกอบด้วยบุคคลดังต่อไปนี้ (๑) ปลัดกระทรวงการคลัง (๒) ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (๓) ปลัดกระทรวงพาณิชย์ (๔) ปลัดกระทรวงยุติธรรม (๕) ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม (๖) เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (๗) เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (๘) ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศ ไทย (๙) ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ให้คณะกรรมการสรรหาเลือกกรรมการสรรหาคน หนึ่งเป็นประธานกรรมการสรรหา ประธานกรรมการสรรหาและกรรมการสรรหาไม่มี สิทธิสมัครเป็นกรรมการ ให้ส านักงานท าหน้าที่เป็นหน่วยงานธุรการในการ ด าเนินการคัดเลือกกรรมการ ให้ประธานกรรมการสรรหาและกรรมการสรรหา ได้รับค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอื่นในการ ปฏิบัติงานตามที่คณะรัฐมนตรีก าหนด

มาตรา ๑๒

การคัดเลือกและแต่งตั้งกรรมการให้ด าเนินการ ดังต่อไปนี้ (๑) ให้คณะกรรมการสรรหาประกาศรับสมัคร บุคคลที่มีผลงานหรือเคยปฏิบัติงานที่แสดงให้เห็น ถึงการเป็นผู้มีความรู้ และมีความเชี่ยวชาญหรือมี ประสบการณ์ตามมาตรา ๘ รวมทั้งมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๙ และ มาตรา ๑๐ ให้ทราบเป็นการทั่วไปอย่างน้อย สามสิบวันติดต่อกัน (๒) เมื่อพ้นก าหนดระยะเวลาตาม (๑) แล้ว ให้ คณะกรรมการสรรหาพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครที่มี คุณสมบัติที่จะเป็นกรรมการให้ได้จ านวนกรรมการ ตามมาตรา ๗ และให้เสนอบัญชีรายชื่อของบุคคล ที่ได้รับการคัดเลือกต่อรัฐมนตรี พร้อมทั้ง รายละเอียดของบุคคลดังกล่าวซึ่งต้องระบุชัดเจน หรือมีหลักฐานแสดงให้เห็นได้ว่าเป็นบุคคลที่มี ความเหมาะสมในด้านหนึ่งด้านใดตามมาตรา ๘ การมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม มาตรา ๙ และมาตรา ๑๐ (๓) ให้รัฐมนตรีเสนอรายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกเป็น กรรมการพร้อมทั้งรายละเอียดตาม (๒) ต่อ คณะรัฐมนตรีภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับการ เสนอรายชื่อจากคณะกรรมการสรรหาเพื่อให้ ความเห็นชอบ (๔) เมื่อคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบบุคคลเป็น กรรมการครบจ านวนแล้ว ให้เสนอนายกรัฐมนตรี เพื่อมีค าสั่งแต่งตั้งเป็นกรรมการ ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบไม่ครบ จ านวนกรรมการที่จะได้รับแต่งตั้ง ให้ คณะกรรมการสรรหาด าเนินการพิจารณาคัดเลือก บุคคลให้ครบจ านวนที่ยังขาดอยู่ โดยให้ ด าเนินการตาม (๑) (๒) (๓) และ (๔) จนกว่าจะ ได้กรรมการครบจ านวน ในการแต่งตั้งกรรมการครั้งแรก เมื่อคณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบบุคคลเป็นกรรมการครบจ านวน แล้ว ให้บุคคลดังกล่าวประชุมร่วมกันเพื่อเลือก กันเองเป็นประธานกรรมการและรองประธาน กรรมการหนึ่งคนก่อนเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อมี ค าสั่งแต่งตั้งต่อไป ก าหนดระยะเวลา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การคัดเลือกกรรมการให้เป็นไปตามที่ก าหนดใน กฎกระทรวง

มาตรา ๑๓

กรรมการมีวาระการด ารงต าแหน่งคราวละสี่ปี และให้ด ารงต าแหน่งได้เพียงสองวาระ ในวาระเริ่มแรกเมื่อครบก าหนดสองปี ให้กรรมการ ออกจากต าแหน่งจ านวนสามคนโดยวิธีจับสลาก และให้ถือว่าการออกจากต าแหน่งโดยการจับ สลากดังกล่าวเป็นการพ้นจากต าแหน่งตามวาระ ให้กรรมการซึ่งพ้นจากต าแหน่งตามวาระอยู่ใน ต าแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะได้มีการ แต่งตั้งกรรมการขึ้นใหม่ ก่อนครบก าหนดตามวาระเป็นเวลาไม่น้อยกว่า เก้าสิบวัน ให้คณะกรรมการสรรหาด าเนินการ คัดเลือกบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็น กรรมการขึ้นใหม่ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

มาตรา ๑๔

นอกจากการพ้นจากต าแหน่งตามวาระ กรรมการ พ้นจากต าแหน่งเมื่อ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) คณะรัฐมนตรีมีมติให้ออก เพราะบกพร่องต่อ หน้าที่ มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือหย่อน ความสามารถ (๔) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตาม มาตรา ๙ (๕) กระท าการอันเป็นการฝ่ าฝืนมาตรา ๑๐ เมื่อประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ หรือ กรรมการพ้นจากต าแหน่งตามวรรคหนึ่ง ให้ ด าเนินการคัดเลือกและแต่งตั้งประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ หรือกรรมการแทนต าแหน่ง ที่ว่างตามมาตรา ๑๒ โดยให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งแทน อยู่ในต าแหน่งเท่าวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน เว้นแต่วาระที่เหลืออยู่ไม่ถึงเก้าสิบวันจะไม่ ด าเนินการเพื่อแต่งตั้งกรรมการขึ้นใหม่แทนก็ได้ ในระหว่างที่ยังมิได้มีการแต่งตั้งประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ หรือกรรมการตามวรรคสอง ให้กรรมการเท่าที่เหลืออยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ โดยให้ถือว่าคณะกรรมการประกอบด้วยประธาน กรรมการ รองประธานกรรมการ หรือกรรมการ เท่าที่มีอยู่ เว้นแต่จ านวนที่เหลืออยู่ไม่ถึงสี่คน

มาตรา ๑๕

ในกรณีที่ประธานกรรมการหรือรองประธาน กรรมการพ้นจากต าแหน่งตามมาตรา ๑๓ และได้ มีการแต่งตั้งกรรมการขึ้นใหม่แล้ว หรือในกรณีที่ ประธานกรรมการหรือรองประธานกรรมการพ้น จากต าแหน่งตามมาตรา ๑๔ ให้คณะกรรมการ ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธาน กรรมการหรือรองประธานกรรมการ และให้เสนอ นายกรัฐมนตรีเพื่อมีค าสั่งแต่งตั้งเป็นประธาน กรรมการหรือรองประธานกรรมการ แล้วแต่กรณี

มาตรา ๑๖

ห้ามมิให้ผู้ซึ่งพ้นจากต าแหน่งประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ หรือกรรมการด ารงต าแหน่ง ใด ๆ ในบริษัทจ ากัด บริษัทมหาชนจ ากัด หรือ ธุรกิจอื่นใดซึ่งเป็นคู่กรณีที่อยู่ในกระบวนพิจารณา ของคณะกรรมการ เว้นแต่จะได้พ้นจากต าแหน่ง มาแล้วไม่น้อยกว่าสองป

มาตรา ๑๗

ให้คณะกรรมการมีอ านาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ (๑) เสนอแนะต่อรัฐมนตรีในการออกกฎกระทรวง ตามพระราชบัญญัตินี้ (๒) ออกระเบียบหรือประกาศเพื่อปฏิบัติการตาม พระราชบัญญัตินี้ (๓) ก ากับดูแลการประกอบธุรกิจและก าหนด แนวทางปฏิบัติเพื่อให้มีการแข่งขันทางการค้า อย่างเสรีและเป็นธรรม (๔) พิจารณาเรื่องร้องเรียนและสอบสวนการ กระท าความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ (๕) พิจารณาวินิจฉัยค าร้องขอตามมาตรา ๕๙ (๖) วางระเบียบการสืบสวนและสอบสวนของ คณะอนุกรรมการสอบสวน (๗) ประกาศแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อ ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ (๘) ด าเนินคดีอาญาตามที่ผู้เสียหายร้องทุกข์ตาม มาตรา ๗๘ (๙) พิจารณาก าหนดโทษปรับทางปกครองตาม มาตรา ๘๐ มาตรา ๘๑ มาตรา ๘๒ และมาตรา ๘๓ รวมทั้งฟ้องคดีต่อศาลปกครอง (๑๐) เชิญบุคคลหนึ่งบุคคลใดมาให้ข้อเท็จจริง ค าอธิบาย ค าแนะน าหรือความเห็น (๑๑) เสนอความเห็นและเสนอแนะต่อรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับนโยบายของรัฐด้านการ แข่งขันทางการค้า (๑๒) ให้ค าแนะน าแก่หน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับกฎ ระเบียบ หรือค าสั่งที่เป็นอุปสรรคต่อการแข่งขัน ทางการค้า ท าให้เกิดการกีดกัน จ ากัดการแข่งขัน หรือลดการแข่งขันทางการค้า อันก่อให้เกิดความ ไม่เป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบธุรกิจ (๑๓) ก าหนดแผน กลยุทธ์ และแนวทางการ บริหารงานของส านักงาน (๑๔) ออกระเบียบหรือข้อบังคับเกี่ยวกับโครงสร้าง องค์กร การบริหารงานบุคคล การงบประมาณ การเงินและทรัพย์สิน และการด าเนินงานอื่นของ ส านักงาน (๑๕) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายก าหนดให้ เป็นอ านาจหน้าที่ของคณะกรรมการ บรรดาระเบียบหรือประกาศที่ใช้บังคับเป็นการ ทั่วไป เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้ บังคับได้

มาตรา ๑๘

ให้คณะกรรมการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น ของผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนทั่วไปเพื่อน า ความคิดเห็นที่ได้มาประกอบการพิจารณาก่อน ออกระเบียบหรือประกาศเกี่ยวกับการก ากับดูแล การแข่งขันทางการค้าที่มีผลใช้บังคับเป็นการ ทั่วไป โดยต้องให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องและประเด็นที่ ต้องการรับฟังความคิดเห็น ทั้งนี้ ระยะเวลาใน การรับฟังความคิดเห็นต้องไม่น้อยกว่าสามสิบวัน เว้นแต่ในกรณีมีเหตุฉุกเฉินหรือมีความจ าเป็น เร่งด่วน คณะกรรมการอาจก าหนดระยะเวลาใน การรับฟังความคิดเห็นให้น้อยกว่าสามสิบวันก็ได้ ให้ส านักงานจัดท าบันทึกสรุปผลการรับฟังความ คิดเห็นที่ประกอบด้วยความคิดเห็นที่ได้รับมติหรือ ผลการพิจารณาของคณะกรรมการที่มีต่อความ คิดเห็นดังกล่าว พร้อมทั้งเหตุผลและแนวทางใน การด าเนินการต่อไป และเผยแพร่บันทึกดังกล่าว ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของส านักงาน

มาตรา ๑๙

การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมา ประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจ านวนกรรมการ ทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม ในการประชุมคณะกรรมการ ถ้าประธานกรรมการ ไม่มาประชุม หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้รอง ประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถ้ารอง ประธานกรรมการไม่มาหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานใน ที่ประชุม การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออก เสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด

มาตรา ๒๐

คณะกรรมการมีอ านาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใด ตามที่คณะกรรมการมอบหมาย

มาตรา ๒๑

ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ สอบสวนขึ้นคณะหนึ่งหรือหลายคณะ โดยในแต่ ละคณะประกอบด้วยผู้ซึ่งมีความรู้และ ประสบการณ์ทางคดีอาญาซึ่งแต่งตั้งจากผู้ที่เป็น หรือเคยเป็นพนักงานอัยการ ผู้ที่เป็นหรือเคยเป็น ต ารวจ และผู้ที่เป็นหรือเคยเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ มีความรู้และประสบการณ์ด้านเศรษฐศาสตร์ นิติศาสตร์ พาณิชยศาสตร์ การบัญชี หรือสาขาอื่น ๆ ที่จ าเป็นเป็นอนุกรรมการสอบสวน และ มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นอนุกรรมการ สอบสวนและเลขานุการ ทั้งนี้ ให้ คณะอนุกรรมการสอบสวนประชุมเลือก อนุกรรมการสอบสวนคนหนึ่งเป็นประธาน อนุกรรมการสอบสวน ให้คณะอนุกรรมการสอบสวนมีอ านาจหน้าที่ สืบสวนและสอบสวนเกี่ยวกับการกระท าความผิด ตามพระราชบัญญัตินี้ และเมื่อคณะอนุกรรมการ สอบสวนเห็นว่าการสอบสวนเสร็จแล้ว ให้ท า ความเห็นพร้อมส านวนเสนอคณะกรรมการ ภายในสิบสองเดือนนับแต่วันที่คณะกรรมการ แต่งตั้ง เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุจ าเป็นให้ขยายได้อีก ไม่เกินหกเดือน แต่ต้องบันทึกเหตุผลและความ จ าเป็นในการขยายเวลาไว้ในส านวนด้วย

มาตรา ๒๒

ให้น าบทบัญญัติมาตรา ๑๙ มาใช้บังคับแก่การ ประชุมคณะอนุกรรมการและคณะอนุกรรมการ สอบสวนโดยอนุโลม

มาตรา ๒๓

ให้ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และ กรรมการ เป็นผู้ปฏิบัติงานเต็มเวลา โดยได้รับ ค่าตอบแทน ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติหน้าที่ และ สิทธิประโยชน์อื่นตามที่คณะรัฐมนตรีก าหนด ทั้งนี้ ในการก าหนดค่าตอบแทนให้ค านึงถึงข้อห้าม การด ารงต าแหน่งภายหลังพ้นจากต าแหน่งตาม มาตรา ๑๖ ด้วย ค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอื่นในการปฏิบัติหน้าที่ ของประธานอนุกรรมการ และอนุกรรมการตาม มาตรา ๒๐ และมาตรา ๒๑ ให้เป็นไปตามที่ คณะรัฐมนตรีก าหนด

มาตรา ๒๔

ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ กรรมการ และอนุกรรมการสอบสวนเป็นเจ้า พนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และมี อ านาจหน้าที่เช่นเดียวกับพนักงานสอบสวนตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

มาตรา ๒๕

ในกรณีที่คณะกรรมการมีความเห็นควรสั่งฟ้อง และส่งความเห็นพร้อมส านวนไปยังพนักงาน อัยการ แต่พนักงานอัยการมีค าสั่งไม่ฟ้อง การแย้ง ค าสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการตามความใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้ ประธานกรรมการเป็นผู้ใช้อ านาจของผู้บัญชาการ ต ารวจแห่งชาติหรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่ กรณี ในกรณีที่ประธานกรรมการแย้งค าสั่งของพนักงาน อัยการ ให้ส่งส านวนพร้อมความเห็นที่แย้งกันไป ยังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณา หากอัยการสูงสุด เห็นว่าส านวนพร้อมความเห็นที่ประธานกรรมการ ส่งให้ยังไม่สมบูรณ์พอที่จะด าเนินคดีได้ ให้อัยการ สูงสุดแจ้งให้คณะกรรมการทราบเพื่อด าเนินการ ต่อไป โดยให้ระบุข้อที่ไม่สมบูรณ์นั้นให้ครบถ้วนใน คราวเดียวกัน ในกรณีนี้ ให้ประธานกรรมการและ อัยการสูงสุดร่วมกันตั้งคณะท างานขึ้นคณะหนึ่ง ประกอบด้วยผู้แทนจากแต่ละฝ่ายจ านวนฝ่ ายละ เท่ากัน โดยมีอ านาจหน้าที่ในการพิจารณา พยานหลักฐานที่ไม่สมบูรณ์และรวบรวม พยานหลักฐานให้สมบูรณ์ แล้วส่งให้อัยการสูงสุด เพื่อสั่งคดีต่อไป ให้ส านักงานท าหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการของ คณะท างานตามวรรคสอง

มาตรา ๒๖

การฟ้องคดีอาญาและการฟ้องคดีเรียกค่าเสียหาย ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้อยู่ในเขตอ านาจของ ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่าง ประเทศ

หมวด ๒ ส านักงานคณะกรรมการการแข่งขัน ทางการค้า

มาตรา ๒๗

ให้จัดตั้งส านักงานคณะกรรมการการแข่งขันทาง การค้าขึ้นเป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่เป็นส่วน ราชการและไม่เป็นรัฐวิสาหกิจและให้มีฐานะเป็น นิติบุคคล กิจการของส านักงานไม่อยู่ภายใต้บังคับกฎหมาย ว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วย แรงงานสัมพันธ์กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน แต่พนักงานและ ลูกจ้างของส านักงานต้องได้รับประโยชน์ตอบแทน ไม่น้อยกว่าที่ก าหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการ คุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยการ ประกันสังคม และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน

มาตรา ๒๘

ให้ส านักงานมีส านักงานแห่งใหญ่ใน กรุงเทพมหานครหรือจังหวัดใกล้เคียง และจะตั้ง ส านักงานสาขาขึ้น ณ ที่อื่นใดก็ได้

มาตรา ๒๙

ให้ส านักงานมีอ านาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้ (๑) รับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการและ คณะอนุกรรมการ (๒) ติดตามพฤติกรรมของผู้ประกอบธุรกิจที่อาจ ก่อให้เกิดการฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้และรายงาน ต่อคณะกรรมการ (๓) ศึกษา ค้นคว้า วิเคราะห์วิจัยเกี่ยวกับสินค้า การบริการและพฤติกรรมในการประกอบธุรกิจ รวมทั้งเสนอแนะแนวทางและให้ความเห็นในการ ส่งเสริม พัฒนาและก ากับดูแลการประกอบธุรกิจ (๔) จัดท าฐานข้อมูลขนาดตลาดสินค้าหรือบริการ ที่มีแนวโน้มจะก่อให้เกิดการผูกขาดตลาดตามที่ คณะกรรมการก าหนด และเผยแพร่ต่อ สาธารณชน (๕) รับเรื่องร้องเรียนที่บุคคลใดอ้างว่าได้มีการฝ่า ฝืนพระราชบัญญัตินี้และด าเนินการแสวงหา ข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานในเรื่องที่ ร้องเรียนให้ได้ข้อเท็จจริงเพียงพอเพื่อน าเสนอ คณะกรรมการพิจารณา ทั้งนี้ตามระเบียบที่ คณะกรรมการก าหนด (๖) ถือกรรมสิทธิ์มีสิทธิครอบครองและมี ทรัพยสิทธิใด ๆ (๗) ก่อตั้งสิทธิหรือท านิติกรรมใด ๆเกี่ยวกับ ทรัพย์สิน (๘) แลกเปลี่ยนข้อมูล ร่วมด าเนินการในการเจรจา ท าความตกลงและร่วมมือกับองค์กรหรือ หน่วยงานในประเทศและต่างประเทศในกิจการท เกี่ยวกับการด าเนินงานของส านักงาน (๙) จัดให้มีหรือให้ความร่วมมือกับองค์กรอื่นใน การศึกษาอบรมและพัฒนาความรู้เกี่ยวกับการ แข่งขันทางการค้า (๑๐) ประสานงานและให้ความร่วมมือกับส่วน ราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในการ ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ (๑๑) รับค่าธรรมเนียมตามที่ก าหนดในกฎหมาย และค่าตอบแทน ค่าบริการ หรือรายได้จากการ ด าเนินงาน (๑๒) เผยแพร่ผลค าวินิจฉัยของคณะกรรมการต่อ สาธารณชน (๑๓) จัดท ารายงานประจ าปีแสดงผลงานและ อุปสรรคในการด าเนินงานของคณะกรรมการและ ส านักงานเสนอต่อคณะรัฐมนตรีและเผยแพร่ต่อ สาธารณชน (๑๔) ปฏิบัติการตามประกาศ ระเบียบ มติของ คณะกรรมการและปฏิบัติการตามที่ คณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการมอบหมาย (๑๕) ปฏิบัติการอื่นใดที่กฎหมายก าหนดให้เป็น อ านาจหน้าที่ของส านักงาน

มาตรา ๓๐

ให้ส านักงานมีเลขาธิการเป็นผู้รับผิดชอบการ ปฏิบัติงานของส านักงานขึ้นตรงต่อประธาน กรรมการและเป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานและ ลูกจ้างของส านักงาน ในกิจการของส านักงานที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก ให้เลขาธิการเป็นผู้แทนส านักงาน เพื่อการนี้ เลขาธิการจะมอบอ านาจให้บุคคลใดปฏิบัติงาน เฉพาะอย่างแทนก็ได้ ทั้งนี้ตามระเบียบที่ คณะกรรมการก าหนด

มาตรา ๓๑

ให้ประธานกรรมการโดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการเป็นผู้แต่งตั้งและถอดถอน เลขาธิการ หลักเกณฑ์และวิธีการประกาศรับสมัคร การ คัดเลือก และการแต่งตั้งเลขาธิการ ให้เป็นไป ตามที่คณะกรรมการประกาศก าหนด

มาตรา ๓๒

ผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการต้องม คุณสมบัติดังต่อไปนี้ (๑) มีสัญชาติไทย (๒) มีอายุไม่เกินหกสิบห้าปีบริบูรณ์ (๓) สามารถท างานให้แก่ส านักงานได้เต็มเวลา (๔) มีความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขานิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์การเงิน การบัญชีอุตสาหกรรม การบริหารธุรกิจ การคุ้มครองผู้บริโภค หรือใน สาขาอื่นตามที่คณะกรรมการประกาศก าหนด (๕) คุณสมบัติอื่นตามที่คณะกรรมการประกาศ ก าหนด

มาตรา ๓๓

ผู้มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ต้องห้าม มิให้เป็นเลขาธิการ (๑) เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคล ล้มละลายทุจริต (๒) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ ความสามารถ (๓) เป็นบุคคลที่ต้องค าพิพากษาให้จ าคุกและถูก คุมขังอยู่โดยหมายของศาล (๔) เป็นบุคคลที่เคยต้องค าพิพากษาให้จ าคุก เว้น แต่ในความผิดอันได้กระท าโดยประมาทหรือ ความผิดลหุโทษ (๕) เป็นกรรมการ ผู้จัดการ หรือผู้มีอ านาจในการ บริหารหรือจัดการในบริษัทจ ากัด บริษัทมหาชน จ ากัด หรือธุรกิจอื่นใดที่อยู่ภายใต้บังคับ พระราชบัญญัตินี้ (๖) เป็นข้าราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของส่วน ราชการหรือรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ หรือของราชการส่วนท้องถิ่น (๗) เป็นหรือเคยเป็นผู้ด ารงต าแหน่งทางการเมือง เว้นแต่จะได้พ้นจากต าแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่า หนึ่งปี (๘) เป็นหรือเคยเป็นกรรมการหรือผู้ด ารงต าแหน่ง อื่นในพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ของพรรค การเมือง เว้นแต่จะได้พ้นจากต าแหน่งมาแล้วไม่ น้อยกว่าหนึ่งปี (๙) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจาก ราชการ หน่วยงานของรัฐรัฐวิสาหกิจ หรือ หน่วยงานของเอกชน เพราะทุจริตต่อหน้าที่ ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง หรือถือว่ากระท าการ ทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (๑๐) เป็นบุคคลที่เคยต้องค าพิพากษาหรือค าสั่ง ของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะ ร ่ารวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ (๑๑) เป็นผู้ด ารงต าแหน่งใด ๆในสถาบันหรือ สมาคมซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของผู้ประกอบธุรกิจที่ มีวัตถุประสงค์หรือประโยชน์ร่วมกันในทางการค้า

มาตรา ๓๔

ให้เลขาธิการได้รับเงินเดือนและประโยชน์ตอบ แทนอื่นตามที่คณะกรรมการก าหนด ทั้งนี้ในการ ก าหนดเงินเดือนให้ค านึงถึงข้อห้ามการด ารง ต าแหน่งภายหลังพ้นจากต าแหน่งเลขาธิการตาม มาตรา ๔๓ ด้วย

มาตรา ๓๕

เลขาธิการมีวาระการด ารงต าแหน่งคราวละสี่ปี เลขาธิการซึ่งพ้นจากต าแหน่งตามวาระอาจได้รับ แต่งตั้งอีกได้แต่จะด ารงต าแหน่งติดต่อกันเกิน สองวาระไม่ได้

มาตรา ๓๖

นอกจากการพ้นจากต าแหน่งตามวาระ เลขาธิการ พ้นจากต าแหน่งเมื่อ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๓๒ หรือมีลักษณะ ต้องห้ามตามมาตรา ๓๓ (๔) เป็นผู้มีส่วนได้เสียตามมาตรา ๔๑ (๕) คณะกรรมการมีมติให้ออก เพราะบกพร่องต่อ หน้าที่ มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือหย่อน ความสามารถ

มาตรา ๓๗

ให้มีรองเลขาธิการตามจ านวนที่คณะกรรมการ ก าหนดเพื่อช่วยเลขาธิการในการปฏิบัติหน้าที่ ตามที่เลขาธิการมอบหมาย

มาตรา ๓๘

เลขาธิการมีอ านาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้ (๑) บรรจุแต่งตั้ง ถอดถอน เลื่อน ลด ตัดเงินเดือน หรือค่าจ้าง ลงโทษทางวินัยพนักงานและลูกจ้าง ตลอดจนให้พนักงานหรือลูกจ้างออกจากต าแหน่ง ทั้งนี้ตามข้อบังคับที่คณะกรรมการก าหนด แต่ถ้า เป็นพนักงานต าแหน่งรองเลขาธิการ ผู้บริหาร ระดับสูงและผู้ตรวจสอบภายใน ต้องได้รับความ เห็นชอบจากคณะกรรมการก่อน (๒) วางระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของ ส านักงานโดยไม่ขัดหรือแย้งกับข้อบังคับหรือมติที่ คณะกรรมการก าหนด (๓) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายก าหนดให้ เป็นอ านาจหน้าที่ของเลขาธิการ

มาตรา ๓๙

ในการปฏิบัติหน้าที่ เลขาธิการอาจมอบอ านาจให้ พนักงานกระท าการแทนได้ตามข้อบังคับที่ คณะกรรมการก าหนด ให้ผู้ได้รับมอบอ านาจตามวรรคหนึ่งมีอ านาจ หน้าที่เช่นเดียวกับเลขาธิการในเรื่องที่ได้รับมอบ อ านาจนั้น

มาตรา ๔๐

ในกรณีที่ไม่มีผู้ด ารงต าแหน่งเลขาธิการหรือมีแต่ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้คณะกรรมการแต่งตั้ง รองเลขาธิการคนหนึ่งเป็นผู้รักษาการแทน เลขาธิการ ในกรณีที่ไม่มีรองเลขาธิการหรือมีแต่ไม่ อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้คณะกรรมการแต่งตั้ง พนักงานของส านักงานคนหนึ่งเป็นผู้รักษาการ แทนเลขาธิการ ให้ผู้รักษาการแทนเลขาธิการตามวรรคหนึ่งมี อ านาจหน้าที่เช่นเดียวกับเลขาธิการ

มาตรา ๔

เลขาธิการต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในนิติกรรมที่ ท ากับส านักงานหรือในกิจการที่กระท าให้แก่ ส านักงาน ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เว้นแต่เป็น เพียงผู้ถือหุ้นเพื่อประโยชน์ในการลงทุนโดยสุจริต ในบริษัทจ ากัดหรือบริษัทมหาชนจ ากัดที่กระท า การอันมีส่วนได้เสียเช่นว่านั้น ไม่เกินอัตราตาม ข้อบังคับที่คณะกรรมการก าหนด ในกรณีที่บุพการีคู่สมรส ผู้สืบสันดาน หรือบุพการี ของคู่สมรสของเลขาธิการกระท าการตามวรรค หนึ่ง ให้ถือว่าเลขาธิการเป็นผู้มีส่วนได้เสียตาม วรรคหนึ่ง

มาตรา ๔๒

ิติกรรมหรือกิจการใดที่ท าขึ้นโดยไม่ถูกต้องตาม มาตรา ๔๑ ไม่มีผลผูกพันส านักงาน

มาตรา ๔๓

ห้ามมิให้ผู้ซึ่งพ้นจากต าแหน่งเลขาธิการด ารง ต าแหน่งใด ๆในบริษัทจ ากัด บริษัทมหาชนจ ากัด หรือธุรกิจอื่นใดซึ่งเป็นคู่กรณีที่อยู่ในกระบวน พิจารณาของคณะกรรมการ เว้นแต่จะได้พ้นจาก ต าแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่าสองป

มาตรา ๔๔

เงินและทรัพย์สินในการด าเนินงานของส านักงาน ประกอบด้วย (๑) เงินและทรัพย์สินที่ได้รับโอนมาตามมาตรา ๙๑ (๒) เงินที่รัฐบาลจ่ายให้เป็นทุนประเดิม (๓) เงินอุดหนุนทั่วไปที่รัฐบาลจัดสรรให้ (๔) ค่าธรรมเนียม ค่าตอบแทน ค่าบริการ หรือ รายได้จากการด าเนินงาน (๕) เงินและทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้หรือเงินอุดหนุน จากต่างประเทศรวมทั้งองค์การระหว่างประเทศ ทั้งนี้ต้องไม่มีเงื่อนไขหรือข้อผูกมัดใด ๆ ที่อาจ ส่งผลต่อการปฏิบัติงานของคณะกรรมการหรือ ส านักงาน (๖) ดอกผลหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่เกิดจากเงิน หรือทรัพย์สินของส านักงาน

มาตรา ๔๕

บรรดารายได้ทั้งปวงที่ส านักงานได้รับจากการ ด าเนินงานในปีหนึ่งๆให้ตกเป็นของส านักงาน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายส าหรับการด าเนินงานและค่า ภาระต่างๆ ที่เหมาะสม เช่น ค่าบ ารุงรักษาและค่า เสื่อมราคา ประโยชน์ตอบแทนของคณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการ และเงินส ารองเพื่อใช้จ่าย ในกิจการของส านักงานหรือเพื่อการอื่น รายได้ตามวรรคหนึ่งไม่ต้องน าส่งคลังเป็นรายได้ แผ่นดิน ในกรณีรายได้ของส านักงานมีจ านวนไม่พอ ส าหรับค่าใช้จ่ายในการด าเนินงานอย่างมี ประสิทธิภาพของส านักงาน และค่าภาระต่างๆ ที่ เหมาะสม และไม่สามารถหาเงินจากแหล่งอื่นได้ รัฐพึงจัดสรรเงินงบประมาณแผ่นดินให้แก่ ส านักงานเท่าจ านวนที่จ าเป็น เพื่อเป็นเงินอุดหนุน ทั่วไปตามมาตรา ๔๔ (๓)

มาตรา ๔๖

ค่าปรับทางปกครองตามพระราชบัญญัตินี้ให้ ส านักงานน าส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินโดยเร็วเมื่อ พ้นก าหนดระยะเวลาฟ้องคดีหรือเมื่อศาลมีค า พิพากษาถึงที่สุด แล้วแต่กรณี

มาตรา ๔๗

เพื่อประโยชน์ในการจัดสรรเงินงบประมาณ แผ่นดินให้แก่ส านักงานตามมาตรา ๔๔ (๓) ให้ ส านักงานเสนองบประมาณรายจ่ายของ ปีงบประมาณที่ขอความสนับสนุนต่อ คณะรัฐมนตรีเพื่อจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไปของ ส านักงานไว้ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ รายจ่ายประจ าปีหรือร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม แล้วแต่กรณ

มาตรา ๔๘

ทรัพย์สินของส านักงานไม่อยู่ในความรับผิดแห่ง การบังคับคดีและบุคคลใดจะยกอายุความขึ้นเป็น ข้อต่อสู้กับส านักงานในเรื่องทรัพย์สินของ ส านักงานมิได้

มาตรา ๔๙

ให้ส านักงานจัดท างบการเงิน และบัญชีท าการ ของส านักงานส่งผู้สอบบัญชีภายในหนึ่งร้อยยี่สิบ วันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณ ในทุกรอบปีงบประมาณ ให้ส านักงานการตรวจ เงินแผ่นดินเป็นผู้สอบบัญชีและประเมินผลการใช้ จ่ายเงินและทรัพย์สินของส านักงาน โดยให้ วิเคราะห์ประสิทธิผลของการใช้จ่ายเงินพร้อมทั้ง แสดงความคิดเห็นว่าการใช้จ่ายดังกล่าวเป็นไป ตามวัตถุประสงค์และได้ผลตามเป้าหมายเพียงใด ด้วย แล้วท าบันทึกรายงานผลเสนอต่อ คณะกรรมการ คณะรัฐมนตรีและรัฐสภา ให้ส านักงานเป็นหน่วยรับตรวจตามกฎหมาย ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน หมวด ๓ การป้องกันการผูกขาดและการค้าที่ไม่ เป็นธรรม

หมวด ๓ การป้องกันการผูกขาดและการค้าทไี่ ม่ เป็ นธรรม

มาตรา ๕๐

ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอ านาจเหนือตลาด กระท าการในลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ (๑) ก าหนดหรือรักษาระดับราคาซื้อหรือขาย สินค้าหรือค่าบริการอย่างไม่เป็นธรรม (๒) ก าหนดเงื่อนไขในลักษณะที่ไม่เป็นธรรมให้ผู้ ประกอบธุรกิจอื่นซึ่งเป็นคู่ค้าของตนต้องจ ากัดการ บริการ การผลิต การซื้อ หรือการจ าหน่ายสินค้า หรือต้องจ ากัดโอกาสในการเลือกซื้อหรือขาย สินค้าการได้รับหรือให้บริการ หรือในการจัดหา สินเชื่อจากผู้ประกอบธุรกิจอื่น (๓) ระงับ ลด หรือจ ากัดการบริการ การผลิต การ ซื้อ การจ าหน่าย การส่งมอบ การน าเข้ามาใน ราชอาณาจักรโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ท าลาย หรือท าให้เสียหายซึ่งสินค้า ทั้งนี้เพื่อลดปริมาณ ให้ต ่ากว่าความต้องการของตลาด (๔) แทรกแซงการประกอบธุรกิจของผู้อื่นโดยไม่มี เหตุผลอันสมควร

มาตรา ๕๑

ผู้ประกอบธุรกิจที่กระท าการรวมธุรกิจอันอาจ ก่อให้เกิดการลดการแข่งขันอย่างมีนัยส าคัญใน ตลาดใดตลาดหนึ่งซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ คณะกรรมการประกาศก าหนด ต้องแจ้งผลการ รวมธุรกิจต่อคณะกรรมการภายในเจ็ดวันนับแต่ วันที่รวมธุรกิจ ผู้ประกอบธุรกิจที่จะกระท าการรวมธุรกิจอันอาจ ก่อให้เกิดการผูกขาดหรือการเป็นผู้ประกอบธุรกิจ ซึ่งมีอ านาจเหนือตลาดต้องได้รับอนุญาตจาก คณะกรรมการ ประกาศตามวรรคหนึ่ง ให้ระบุว่ามีส่วนแบ่งตลาด ยอดเงินขาย จ านวนทุน จ านวนหุ้น หรือจ านวน สินทรัพย์ไม่น้อยกว่าจ านวนเท่าใด ไว้ด้วย การรวมธุรกิจให้หมายความรวมถึง (๑) การที่ผู้ผลิตรวมกับผู้ผลิต ผู้จ าหน่ายรวมกับผู้ จ าหน่าย ผู้ผลิตรวมกับผู้จ าหน่าย หรือผู้บริการ รวมกับผู้บริการอันจะมีผลให้สถานะของธุรกิจ หนึ่งคงอยู่และอีกธุรกิจหนึ่งสิ้นสุดลงหรือเกิดเป็น ธุรกิจใหม่ขึ้น (๒) การเข้าซื้อสินทรัพย์ทั้งหมดหรือบางส่วนของ ธุรกิจอื่นเพื่อควบคุมนโยบายการบริหารธุรกิจ การ อ านวยการ หรือการจัดการตามหลักเกณฑ์ที่ คณะกรรมการประกาศก าหนด (๓) การเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดหรือบางส่วนของธุรกิจ อื่น ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมเพื่อควบคุม นโยบายการบริหารธุรกิจ การอ านวยการ หรือการ จัดการตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศ ก าหนด การแจ้งผลการรวมธุรกิจตามวรรคหนึ่ง และการ ขออนุญาตและการอนุญาตการรวมธุรกิจตาม วรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการและ เงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศก าหนด บทบัญญัติตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง มิให้ใช้ บังคับกับการรวมธุรกิจเพื่อปรับโครงสร้างภายใน ของผู้ประกอบธุรกิจที่มีความสัมพันธ์กันทาง นโยบายหรืออ านาจสั่งการ ตามหลักเกณฑ์ที่ คณะกรรมการประกาศก าหนด

มาตรา ๕๒

ในการพิจารณาอนุญาตตามมาตรา ๕๑ วรรคสอง ให้คณะกรรมการด าเนินการให้แล้วเสร็จภายใน เก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับค าขอและในกรณีมี ความจ าเป็นที่ไม่อาจพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน ก าหนดเวลา ให้ขยายเวลาออกไปได้อีกไม่เกินสิบ ห้าวัน โดยบันทึกเหตุผลและความจ าเป็นที่ต้อง ขยายเวลาไว้ในการพิจารณาวินิจฉัยด้วย ให้คณะกรรมการพิจารณาอนุญาตโดยค านึงถึง ความจ าเป็นตามควรทางธุรกิจ ประโยชน์ต่อการ ส่งเสริมการประกอบธุรกิจ การไม่ก่อให้เกิดความ เสียหายต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง และการไม่ กระทบต่อประโยชน์ส าคัญอันควรมีควรได้ของ ผู้บริโภคส่วนรวม ในกรณีที่มีค าสั่งอนุญาต คณะกรรมการอาจ ก าหนดระยะเวลาหรือเงื่อนไขใด ๆให้ผู้ประกอบ ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตปฏิบัติได้ คณะกรรมการต้องระบุเหตุผลในการสั่งอนุญาต หรือไม่อนุญาตให้รวมธุรกิจ ทั้งในปัญหา ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย และลงลายมือชื่อของ กรรมการที่พิจารณาและให้น าบทบัญญัติมาตรา ๖๑ วรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนุโลม ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งได้รับแจ้งค าสั่งของ คณะกรรมการและไม่เห็นด้วยกับค าสั่งดังกล่าวมี สิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองภายในหกสิบวันนับ แต่วันที่ได้รับแจ้งค าสั่ง

มาตรา ๕๓

ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตให้รวมธุรกิจ ต้อง ด าเนินการตามระยะเวลาและเงื่อนไขที่ได้รับ อนุญาตจากคณะกรรมการ ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการมีอ านาจเพิกถอนค าสั่งอนุญาต ทั้งหมดหรือบางส่วน โดยจะก าหนดระยะเวลาให้ ปฏิบัติไว้ด้วยก็ได้

มาตรา ๕๔

ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจใดร่วมกับผู้ประกอบ ธุรกิจอื่นที่แข่งขันในตลาดเดียวกันกระท าการใด ๆ อันเป็นการผูกขาด หรือลดการแข่งขัน หรือจ ากัด การแข่งขันในตลาดนั้นในลักษณะอย่างหนึ่งอย่าง ใดดังต่อไปนี้ (๑) ก าหนดราคาซื้อหรือราคาขายหรือเงื่อนไขทาง การค้าใด ๆไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมที่ส่งผลต่อ ราคาสินค้าหรือบริการ (๒) จ ากัดปริมาณของสินค้าหรือบริการที่ผู้ ประกอบธุรกิจแต่ละรายจะผลิต ซื้อจ าหน่าย หรือ บริการตามที่ตกลงกัน (๓) ก าหนดข้อตกลงหรือเงื่อนไขในลักษณะสมรู้ กัน เพื่อให้ฝ่ ายหนึ่งได้รับการประมูลหรือประกวด ราคาสินค้าหรือบริการ หรือเพื่อมิให้ฝ่ายหนึ่งเข้า แข่งขันราคาในการประมูลหรือประกวดราคา สินค้าหรือบริการ (๔) ก าหนดแบ่งท้องที่ที่ผู้ประกอบธุรกิจแต่ละราย จะจ าหน่าย หรือลดการจ าหน่าย หรือซื้อสินค้า หรือบริการได้ในท้องที่นั้น หรือก าหนดผู้ซื้อหรือ ผู้ขายที่ผู้ประกอบธุรกิจแต่ละรายจะจ าหน่ายหรือ ซื้อสินค้าหรือบริการได้โดยผู้ประกอบธุรกิจอื่นจะ ไม่ซื้อหรือจ าหน่ายหรือซื้อสินค้าหรือบริการนั้น บทบัญญัติตามวรรคหนึ่ง มิให้ใช้บังคับกับการ กระท าระหว่างผู้ประกอบธุรกิจที่มีความสัมพันธ์ กันทางนโยบายหรืออ านาจสั่งการตามหลักเกณฑ์ ที่คณะกรรมการประกาศก าหนด

มาตรา ๕๕

ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจใดร่วมกับผู้ประกอบ ธุรกิจอื่นกระท าการใด ๆอันเป็นการผูกขาด หรือ ลดการแข่งขัน หรือจ ากัดการแข่งขันในตลาดใด ตลาดหนึ่งในลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ (๑) ก าหนดเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ในมาตรา ๕๔ (๑) (๒) หรือ(๔) ระหว่างผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่คู่แข่ง ขันในตลาดเดียวกัน (๒) ลดคุณภาพของสินค้าหรือบริการให้ต ่าลงกว่า ที่เคยผลิตจ าหน่ายหรือให้บริการ (๓) แต่งตั้งหรือมอบหมายให้บุคคลใดแต่ผู้เดียว เป็นผู้จ าหน่ายสินค้าหรือให้บริการอย่างเดียวกัน หรือประเภทเดียวกัน (๔) ก าหนดเงื่อนไขหรือวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการซื้อ หรือการจ าหน่ายสินค้าหรือการบริการเพื่อให้ ปฏิบัติตามที่ตกลงกัน (๕) ความตกลงร่วมกันในลักษณะอื่น ๆ ตามที่ คณะกรรมการประกาศก าหนด

มาตรา ๕๖

บทบัญญัติมาตรา ๕๕ มิให้ใช้บังคับกับกรณี ดังต่อไปนี้ (๑) การกระท าระหว่างผู้ประกอบธุรกิจที่มี ความสัมพันธ์กันทางนโยบายหรืออ านาจสั่งการ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศก าหนด (๒) การตกลงร่วมกันในธุรกิจที่มีวัตถุประสงค์เพื่อ การพัฒนาการผลิต การจัดจ าหน่ายสินค้า และ การส่งเสริมให้เกิดความก้าวหน้าทางเทคนิคหรือ เศรษฐกิจ (๓) การตกลงร่วมกันในรูปแบบธุรกิจที่มีสัญญา ระหว่างผู้ประกอบธุรกิจในต่างระดับกัน โดยฝ่าย หนึ่งเป็นผู้ให้ใช้สิทธิในสินค้าหรือบริการ เครื่องหมายการค้า วิธีการด าเนินธุรกิจ หรือการ สนับสนุนการประกอบธุรกิจ และอีกฝ่ายหนึ่งเป็น ผู้รับสิทธิซึ่งมีหน้าที่ช าระค่าสิทธิค่าธรรมเนียม หรือให้ผลตอบแทนอื่นใดตามที่ระบุในสัญญา (๔) ลักษณะข้อตกลงหรือรูปแบบธุรกิจตามที่ ก าหนดในกฎกระทรวงตามค าแนะน าของ คณะกรรมการ การตกลงร่วมกันตามวรรคหนึ่ง (๒) และ (๓) ต้อง ไม่สร้างข้อจ ากัดที่เกินกว่าความจ าเป็นในการ บรรลุประโยชน์ข้างต้น และไม่ก่อให้เกิดอ านาจ ผูกขาด หรือจ ากัดการแข่งขันในตลาดนั้นอย่างมี นัยส าคัญ โดยค านึงถึงผลกระทบต่อผู้บริโภคด้วย

มาตรา ๕๗

ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจกระท าการใด ๆอันเป็น ผลให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ประกอบธุรกิจรายอื่น ในลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ (๑) กีดกันการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจ รายอื่นอย่างไม่เป็นธรรม (๒) ใช้อ านาจตลาดหรืออ านาจต่อรองที่เหนือกว่า อย่างไม่เป็นธรรม (๓) ก าหนดเงื่อนไขทางการค้าอันเป็นการจ ากัด หรือขัดขวางการประกอบธุรกิจของผู้อื่นอย่างไม่ เป็นธรรม (๔) กระท าการในลักษณะอื่นตามที่คณะกรรมการ ประกาศก าหนด

มาตรา ๕๘

ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจในประเทศท านิติกรรม หรือสัญญากับผู้ประกอบธุรกิจในต่างประเทศ อย่างไม่มีเหตุผลอันสมควรอันก่อให้เกิด พฤติกรรมการผูกขาดหรือจ ากัดการค้าอย่างไม่ เป็นธรรม และส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อ เศรษฐกิจและผลประโยชน์ของผู้บริโภคโดยรวม

มาตรา ๕๙

ื่ออ านวยความสะดวกแก่การประกอบธุรกิจ ผู้ ประกอบธุรกิจอาจยื่นค าร้องขอต่อคณะกรรมการ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยเป็นการล่วงหน้าในเรื่อง ดังต่อไปนี้ (๑) การกระท าของผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอ านาจ เหนือตลาดตามมาตรา ๕๐ (๒) การประกอบธุรกิจที่มีลักษณะตามมาตรา ๕๔ มาตรา ๕๕ มาตรา ๕๗ หรือมาตรา ๕๘ การยื่นค าร้องขอตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตาม หลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการประกาศ ก าหนด การวินิจฉัยค าร้องขอตามวรรคหนึ่ง คณะกรรมการอาจก าหนดเงื่อนไขใด ๆ ที่ผู้ ประกอบธุรกิจต้องปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตาม พระราชบัญญัตินี้ได้ ค าวินิจฉัยของคณะกรรมการให้มีผลผูกพันเฉพาะ ผู้ร้องขอและตามขอบเขตและระยะเวลาที่ คณะกรรมการก าหนด หากต่อมาภายหลังปรากฏ ต่อคณะกรรมการว่าข้อมูลที่ได้รับจากผู้ร้องขอที่ใช้ ในการพิจารณาวินิจฉัยของคณะกรรมการไม่ ถูกต้องครบถ้วนในสาระส าคัญ หรือผู้ประกอบ ธุรกิจที่ยื่นค าร้องไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ คณะกรรมการก าหนดตามวรรคสาม ให้ คณะกรรมการเพิกถอนค าวินิจฉัยและแจ้งให้ผู้ ประกอบธุรกิจทราบ

มาตรา ๖๐

ในกรณีที่คณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ ว่าผู้ประกอบธุรกิจฝ่าฝืนหรือจะฝ่าฝืนมาตรา ๕๐ มาตรา ๕๑ วรรคสอง มาตรา ๕๔ มาตรา ๕๕ มาตรา ๕๗ หรือมาตรา ๕๘ ให้คณะกรรมการมี อ านาจสั่งเป็นหนังสือให้ผู้ประกอบธุรกิจระงับ หยุด หรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงการกระท านั้นได้ ทั้งนี้ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาในการปฏิบัติตามที่คณะกรรมการ ก าหนด การออกค าสั่งตามวรรคหนึ่ง คณะกรรมการอาจ ก าหนดเงื่อนไขใด ๆเท่าที่จ าเป็นเพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัตินี้ ผู้ประกอบธุรกิจซึ่งได้รับแจ้งค าสั่งตามวรรคหนึ่งที่ ไม่เห็นด้วยกับค าสั่งดังกล่าว มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาล ปกครองภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง ค าสั่ง

มาตรา ๖๑

ในการมีค าสั่งตามมาตรา ๖๐ คณะกรรมการต้อง ระบุเหตุผลในการสั่งทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและ ข้อกฎหมายและลงลายมือชื่อของกรรมการที่ พิจารณา การแจ้งค าสั่งตามวรรคหนึ่ง ให้กระท าภายในเจ็ด วันนับแต่วันที่คณะกรรมการมีค าสั่ง และให้น า บทบัญญัติมาตรา ๖๖ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา ๖๒

้ได้รับแจ้งค าสั่งตามมาตรา ๖๐ ต้องปฏิบัติตาม ค าสั่งดังกล่าว เว้นแต่ศาลปกครองจะได้มีค า พิพากษาหรือค าสั่งให้ทุเลาการบังคับตามค าสั่ง หรือให้เพิกถอนค าสั่งของคณะกรรมการ

หมวด ๔ พนักงานเจ้าหน้าที่

มาตรา ๖๓

ในการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ให้ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอ านาจดังต่อไปนี้ (๑) มีหนังสือเรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยค า แจ้ง ข้อเท็จจริงหรือท าค าชี้แจงเป็นหนังสือ หรือให้ส่ง บัญชีทะเบียน เอกสาร หรือหลักฐานใดเพื่อ ตรวจสอบหรือเพื่อประกอบการพิจารณา (๒) เข้าไปในสถานที่ท าการ สถานที่ผลิต สถานที่ จ าหน่าย สถานที่รับซื้อ สถานที่เก็บสินค้า สถานที่ ให้บริการของผู้ประกอบธุรกิจหรือของบุคคลใด หรือสถานที่อื่นที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการฝ่า ฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้เพื่อ ตรวจสอบให้การเป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ หรือเพื่อตรวจค้นและยึดหรืออายัดเอกสาร บัญชี ทะเบียน หรือพยานหลักฐานอื่นเพื่อประโยชน์ใน การตรวจสอบ และด าเนินคดีตามพระราชบัญญัติ นี้ ในการนี้ให้มีอ านาจสอบถามข้อเท็จจริง หรือเรียก บัญชีทะเบียน เอกสาร หรือพยานหลักฐานอื่น จากผู้ประกอบธุรกิจ หรือจากบุคคลซึ่งเกี่ยวข้อง ตลอดจนสั่งให้บุคคลดังกล่าวซึ่งอยู่ในสถานที่นั้น ปฏิบัติการเท่าที่จ าเป็น (๓) เก็บหรือน าสินค้าในปริมาณพอสมควรไปเป็น ตัวอย่าง เพื่อตรวจสอบหรือตรวจวิเคราะห์โดยไม่ ต้องช าระราคาสินค้านั้น ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์ที่ คณะกรรมการประกาศก าหนด ในกรณีตาม (๒) หากมีลักษณะเป็นการค้นตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาต้องมี หมายค้น เว้นแต่มีเหตุอันควรเชื่อว่าหากเนิ่นช้า กว่าจะเอาหมายค้นมาได้เอกสารหรือ พยานหลักฐานดังกล่าวจะถูกยักย้าย ซุกซ่อน ท าลาย หรือท าให้เปลี่ยนสภาพไปจากเดิม ให้ ด าเนินการค้น ยึดหรืออายัดเอกสารหรือหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับการกระท าความผิดได้โดยไม่ต้องมี หมายค้นแต่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความอาญาว่าด้วยการค้น แต่จะเริ่มการ ค้นในเวลากลางคืนมิได้เว้นแต่เป็นเวลาท าการ ของสถานที่นั้น

มาตรา ๖๔

ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้ บุคคลซึ่งเกี่ยวข้องอ านวยความสะดวกตาม สมควร

มาตรา ๖๕

ในการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดง บัตรประจ าตัวต่อบุคคลซึ่งเกี่ยวข้อง บัตรประจ าตัวให้เป็นไปตามแบบที่คณะกรรมการ ประกาศก าหนด

มาตรา ๖๖

ในการส่งหนังสือเรียกตามมาตรา ๖๓ (๑) ให้น า บทบัญญัติเกี่ยวกับการแจ้งตามกฎหมายว่าด้วย วิธีปฏิบัติราชการทางปกครองมาใช้บังคับโดย อนุโลม

มาตรา ๖๗

ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ให้ พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวล กฎหมายอาญา

มาตรา ๖๘

ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ให้ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอ านาจเช่นเดียวกับพนักงาน ฝ่ายปกครองหรือต ารวจตามประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความอาญา

หมวด ๕ การฟ้องคดีเรียกค่าเสียหาย

มาตรา ๖๙

ให้บุคคลซึ่งได้รับความเสียหายอันเนื่องจากการ ฝ่าฝืนมาตรา ๕๐ มาตรา ๕๑ วรรคสอง มาตรา ๕๔ มาตรา ๕๕ มาตรา ๕๗ หรือมาตรา ๕๘ มี สิทธิฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายจากผู้กระท าการฝ่า ฝืนนั้นได้ ในการฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายตามวรรคหนึ่ง ให้ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สมาคมหรือ มูลนิธิที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภครับรอง ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค มีสิทธิ ฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายแทนผู้บริโภคหรือสมาชิก ของสมาคมหรือมูลนิธิได้แล้วแต่กรณี

มาตรา ๗๐

การฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายตามมาตรา ๖๙ ถ้า มิได้น าคดีสู่ศาลภายในก าหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่ผู้ ได้รับความเสียหายรู้หรือควรจะได้รู้ถึงเหตุ ดังกล่าว ให้สิทธิในการน าคดีสู่ศาลเป็นอันสิ้นไป

หมวด ๖ บทก าหนดโทษ

ส่วนที่ ๑ โทษอาญา

มาตรา ๗๑

ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๑๖ หรือมาตรา ๔๓ ต้องระวาง โทษจ าคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสน บาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ

มาตรา ๗๒

้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๕๐ หรือมาตรา ๕๔ ต้องระวาง โทษจ าคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินร้อยละสิบ ของรายได้ในปีที่กระท าความผิด หรือทั้งจ าทั้ง ปรับ ในกรณีที่เป็นการกระท าความผิดในปีแรกของการ ประกอบธุรกิจ ต้องระวางโทษจ าคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ

มาตรา ๗๓

ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามหนังสือเรียกของพนักงาน เจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๖๓ (๑) ต้องระวางโทษ จ าคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ

มาตรา ๗๔

ผู้ใดขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงาน เจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๖๓ (๒) หรือ(๓) ต้องระวาง โทษจ าคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่น บาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ

มาตรา ๗๕

ผู้ใดไม่อ านวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา ๖๔ ต้องระวางโทษจ าคุกไม่เกินหนึ่ง เดือน หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจ าทั้ง ปรับ

มาตรา ๗๖

ผู้ใดเปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกิจการหรือการ ด าเนินงานของผู้ประกอบธุรกิจอันเป็นข้อเท็จจริง ที่ตามปกติวิสัยของผู้ประกอบธุรกิจจะพึงสงวนไว้ ไม่เปิดเผยซึ่งตนได้มาหรือล่วงรู้เนื่องจากการ ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ต้องระวางโทษจ าคุก ไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้ง จ าทั้งปรับ เว้นแต่เป็นการเปิดเผยในการปฏิบัติ ราชการหรือเพื่อประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวน การด าเนินคดีการพิจารณาคดีหรือการ ด าเนินการของส านักงาน ผู้ใดได้มาหรือล่วงรู้ข้อเท็จจริงใดจากบุคคลตาม วรรคหนึ่งเปิดเผยข้อเท็จจริงนั้นในประการที่น่าจะ เสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน

มาตรา ๗๗

ในกรณีที่ผู้กระท าความผิดเป็นนิติบุคคล ถ้าการ กระท าความผิดของนิติบุคคลนั้นเกิดจากการสั่ง การหรือการกระท าของกรรมการ หรือผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการด าเนินงานของ นิติบุคคลนั้น หรือในกรณีที่บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ ต้องสั่งการหรือกระท าการและละเว้นไม่สั่งการ หรือไม่กระท าการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้น กระท าความผิด ผู้นั้นต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้ ส าหรับความผิดนั้น ๆ ด้วย

มาตรา ๗๘

ผู้เสียหายมีสิทธิร้องทุกข์ความผิดตามมาตรา ๗๒ ต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาตาม พระราชบัญญัตินี้แต่ไม่มีสิทธิฟ้องคดีอาญาด้วย ตนเอง

มาตรา ๗๙

บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ให้ คณะกรรมการมีอ านาจเปรียบเทียบได้ในการใช้ อ านาจดังกล่าวคณะกรรมการอาจมอบหมายให้ เลขาธิการกระท าการแทนได้ เมื่อผู้ต้องหาได้ช าระเงินค่าปรับตามจ านวนที่ เปรียบเทียบภายในระยะเวลาที่ก าหนดแล้ว ให้ถือ ว่าคดีเลิกกันตามบทบัญญัติแห่งประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา การก าหนดจ านวนเงินค่าปรับที่จะเปรียบเทียบให้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่ คณะกรรมการประกาศก าหนด

ส่วนที่ ๒ โทษทางปกครอง

มาตรา ๘๐

ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๕๑ วรรคหนึ่ง ต้องช าระค่าปรับ ทางปกครองในอัตราไม่เกินสองแสนบาท และ ปรับอีกในอัตราไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทต่อวัน ตลอดเวลาที่ฝ่ าฝืนอยู

มาตรา ๘๑

ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๕๑ วรรคสอง หรือไม่ปฏิบัติตาม มาตรา ๕๓ ต้องช าระค่าปรับทางปกครองในอัตรา ไม่เกินร้อยละศูนย์จุดห้าของมูลค่าธุรกรรมในการ รวมธุรกิจ

มาตรา ๘๒

ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๕๕ มาตรา ๕๗ หรือมาตรา ๕๘ ต้องช าระค่าปรับทางปกครองในอัตราไม่เกินร้อย ละสิบของรายได้ในปีที่กระท าความผิด ในกรณีที่เป็นการกระท าความผิดในปีแรกของการ ประกอบธุรกิจให้ช าระค่าปรับทางปกครองใน อัตราไม่เกินหนึ่งล้านบาท

มาตรา ๘๓

้ใดฝ่าฝืนค าสั่งตามมาตรา ๖๐ ต้องช าระค่าปรับ ทางปกครองในอัตราไม่เกินหกล้านบาท และปรับ อีกในอัตราไม่เกินสามแสนบาทต่อวันตลอดเวลาที่ ฝ่าฝืนอยู

มาตรา ๘๔

ในกรณีที่ผู้กระท าความผิดซึ่งต้องรับโทษปรับทาง ปกครองเป็นนิติบุคคลถ้าการกระท าความผิดของ นิติบุคคลนั้นเกิดจากการสั่งการหรือการกระท า ของกรรมการ หรือผู้จัดการหรือบุคคลใดซึ่ง รับผิดชอบในการด าเนินงานของนิติบุคคลนั้น หรือ ในกรณีที่บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ต้องสั่งการหรือ กระท าการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระท าการ จนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้นกระท าความผิด ผู้นั้น ต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้ส าหรับความผิดนั้น ๆ ด้วย

มาตรา ๘๕

ในการพิจารณาออกค าสั่งลงโทษปรับทางปกครอง ให้คณะกรรมการค านึงถึงความร้ายแรงแห่ง พฤติกรรมที่กระท าผิด ในกรณีที่ผู้ถูกลงโทษปรับทางปกครองไม่ยอม ช าระค่าปรับทางปกครอง ให้น าบทบัญญัติ เกี่ยวกับการบังคับทางปกครองตามกฎหมายว่า ด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองมาใช้บังคับโดย อนุโลม และในกรณีที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ด าเนินการ บังคับตามค าสั่ง หรือมีแต่ไม่สามารถด าเนินการ บังคับทางปกครองได้ให้คณะกรรมการมีอ านาจ ฟ้องคดีต่อศาลปกครองเพื่อบังคับช าระค่าปรับ ในการนี้ถ้าศาลปกครองเห็นว่าค าสั่งให้ช าระ ค่าปรับนั้นชอบด้วยกฎหมาย ให้ศาลปกครองมี อ านาจพิจารณาพิพากษา และบังคับให้มีการยึด หรืออายัดทรัพย์สินขายทอดตลาดเพื่อช าระ ค่าปรับได้

บทเฉพาะกาล

มาตรา ๘๖

ให้คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าตาม พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งด ารงต าแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่ พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ปฏิบัติหน้าที่ตาม พระราชบัญญัตินี้ต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้ง คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าตาม พระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ให้ด าเนินการสรรหาและ คัดเลือกกรรมการการแข่งขันทางการค้าตาม พระราชบัญญัตินี้ให้แล้วเสร็จภายในสองร้อยเจ็ด สิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

มาตรา ๘๗

ให้อธิบดีกรมการค้าภายในปฏิบัติหน้าที่ของ เลขาธิการจนกว่าจะมีการแต่งตั้งเลขาธิการตาม พระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ให้ด าเนินการแต่งตั้ง เลขาธิการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวัน นับแต่วันที่ได้แต่งตั้งคณะกรรมการการแข่งขันทาง การค้าครั้งแรก

มาตรา ๘๘

เพื่อให้การปฏิบัติงานของส านักงานด าเนินการไป ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รัฐมนตรีอาจอนุมัติให้ ข้าราชการในสังกัดกระทรวงพาณิชย์มาช่วย ปฏิบัติงานในส านักงานเป็นการชั่วคราว ไม่เกิน สองคราว คราวละไม่เกินสองปีโดยให้ได้รับ เงินเดือนทางสังกัดเดิม

มาตรา ๘๙

ภายใต้บังคับมาตรา ๙๐ ให้ข้าราชการที่ปฏิบัติ ราชการในส านักงานคณะกรรมการการแข่งขัน ทางการค้าตามพระราชบัญญัติการแข่งขันทาง การค้า พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งด ารงต าแหน่งอยู่ในวันพ้น ก าหนดเวลาตามมาตรา ๙๐ เป็นข้าราชการของ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์และให้ ปฏิบัติหน้าที่ในส านักงาน โดยให้ถือว่าการปฏิบัติ หน้าที่ดังกล่าวเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการของ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ให้ข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ในส านักงานตามวรรค หนึ่งได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้าง รวมทั้งสิทธิและ ประโยชน์ต่างๆเท่าที่เคยได้รับอยู่เดิมไปพลาง ก่อนจนกว่าจะได้บรรจุและแต่งตั้งให้ด ารง ต าแหน่งในส านักงาน แต่จะแต่งตั้งให้ได้รับ เงินเดือนหรือค่าจ้างต ่ากว่าเงินเดือนหรือค่าจ้างที่ ได้รับอยู่เดิมไม่ได้

มาตรา ๙๐

ข้าราชการตามมาตรา ๘๙ ซึ่งสมัครใจเปลี่ยนไป เป็นพนักงานของส านักงาน ให้ใช้สิทธิแจ้งความ จ านงเป็นหนังสือต่อผู้บังคับบัญชาภายในหกสิบ วันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ส าหรับผู้ ไม่ได้ใช้สิทธิแจ้งความจ านงภายในระยะเวลา ดังกล่าว ให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ในกรมการค้า ภายใน กระทรวงพาณิชย์ การบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการซึ่งสมัครใจ เปลี่ยนไปเป็นพนักงานตามวรรคหนึ่ง ให้ด ารง ต าแหน่งใดในส านักงาน ให้เป็นไปตามอัตราก าลัง คุณสมบัติและอัตราเงินเดือนหรือค่าจ้างตามที่ คณะกรรมการก าหนด ให้โอนเงินงบประมาณหมวดเงินเดือนและค่าจ้าง ของข้าราชการของกรมการค้าภายใน กระทรวง พาณิชย์ซึ่งได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้เป็น พนักงานของส านักงานตามวรรคสองไปเป็นของ ส านักงานนับแต่วันที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้ง การบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการซึ่งสมัครใจ เปลี่ยนไปเป็นพนักงานตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าเป็น การให้ออกจากราชการเพราะเลิกหรือยุบต าแหน่ง ตามกฎหมายว่าด้วยบ าเหน็จบ านาญข้าราชการ หรือกฎหมายว่าด้วยกองทุนบ าเหน็จบ านาญ ข้าราชการ แล้วแต่กรณี

มาตรา ๙๑

ให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิหน้าที่ หนี้ และงบประมาณของกรมการค้าภายใน กระทรวง พาณิชย์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานของส านักงาน คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า กรมการค้า ภายใน กระทรวงพาณิชย์ไปเป็นของส านักงาน

มาตรา ๙๒

บรรดากฎกระทรวง ประกาศ หลักเกณฑ์หรือ ระเบียบที่ออกตามพระราชบัญญัติการแข่งขันทาง การค้า พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่ พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับได้ ต่อไปเพียงเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัติ นี้จนกว่าจะมีกฎกระทรวงประกาศ หรือระเบียบ ที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ การด าเนินการออกกฎกระทรวง ประกาศ หรือ ระเบียบตามวรรคหนึ่ง ให้ด าเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในสามร้อยหกสิบห้าวันนับแต่วันที่ พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หากไม่สามารถ ด าเนินการได้ให้รัฐมนตรีรายงานเหตุผลที่ไม่อาจ ด าเนินการได้ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ

ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อัตราค่าธรรมเนียม (๑) การขออนุญาตรวมธุรกิจตามมาตรา ๕๑ วรรคสอง ครั้งละ ๒๕๐,๐๐๐ บาท (๒) การขอให้วินิจฉัยตามมาตรา ๕๙ ครั้งละ ๕๐,๐๐๐ บาท (๓) ค่าคัดหรือรับรองส าเนาค าสั่งตามมาตรา ๕๒ ค าวินิจฉัยตามมาตรา ๕๙ หรือค าสั่งตามมาตรา ๖๐ หน้าละ ๑๐๐ บาท

「2017년 무역 부문 경쟁법」

• 국 가 ‧ 지 역: 태국 • 제 정 일: 2017년 7월 2일

마하와치라롱껀 버딘트라텝파야와 랑꾼 국왕 폐하께서 현 왕조 2번째 해인 2017년(불기 2560년) 7월 2일에 하사하셨다. 마하와치라롱껀 버딘트라텝파야와 랑꾼 국왕 폐하께서는 다음과 같이 공포하도록 하셨다. 무역 부문 경쟁에 관한 법률을 개 정하는 것이 타당하므로, 의회 직무를 수행하는 입법부의 조 언과 동의를 통하여 다음과 같이 법에 날인한다.

제1조

이 법은 “2017년 무역 부문 경쟁 법”이라고 칭한다.

제2조

이 법은 관보에 공고한 날부터 90일의 기한이 지난 날부터 시행 한다.

제3조

「1999년(불기2542년) 무역 부문 경쟁법」은 폐지한다.

제4조

이 법은 다음 각 항에는 적용하 지 아니한다. (1) 중앙정부, 지방정부 또는 지 방자치단체 (2) 국영기업, 공공기관 또는 정 부의 기타 기관. 이는 국가의 안 보, 공익, 공리를 지키는데 유용 하거나 공익사업을 마련하기 위 하여 필요한 법률 또는 내각의 의결에 따라 조치하는 부분만 해 당한다. (3) 법률이 보장하고, 농민이 직 업에 종사하기 위한 사업을 진행 하는 데 그 목적이 있는 농민단 체, 협동조합 또는 협동조합단 (4) 경쟁과 관련하여 특별히 감독 하는 법률이 있는 사업

제5조

이 법에서 사용하는 용어의 뜻은 다음과 같다. “사업”이란 무역, 농업, 산업, 상 업, 금융, 보험업 및 서비스업 방 면의 이익을 위하여 진행하는 업 무를 뜻하며, 부(部)가 정한 바에 따른 기타 업무까지 포함하여 뜻 하도록 한다. “사업자”란 판매자, 판매를 위하 여 생산하는 사람, 판매를 위하여 주문 또는 수입하는 사람, 상품의 생산 또는 재판매를 위한 구입자 또는 사업에서 서비스를 제공하 는 사람을 뜻한다. “상품”이란 사용 또는 소비하는 데 사용하는 물건과 그 물건에 대한 권리를 표시하는 문서까지 포함하여 뜻한다. “서비스”란 금품 또는 기타 이익 으로 보수를 청구하여 업무를 담 당하거나, 어떠한 권리를 제공하 거나, 어떠한 재산 또는 업무상의 이익을 사용하게 하거나 제공하 는 것을 뜻한다. 그러나, 노동력 을 제공하는 것은 포함하지 아니 한다. “가격”이란 상품의 가격을 뜻하 며, 서비스 제공의 보수도 포함하 여 뜻하도록 한다. “시장”이란 속성이나 가격 또는 상품이나 서비스의 사용 목적과 상품이나 서비스를 판매하는 데 있어서의 지역을 고려한, 한 종류 의 상품이나 대체하여 사용할 수 있는 상품 또는 서비스와 관련한 시장을 뜻한다. “시장지배권을 가진 사업자”란 위원회가 경우에 따라 하나 또는 다수의 시장 경쟁 상황 요소를 적용하여 정한 공고 범위에 대하 여 어느 한 시장에서 해당 범위 를 초과하여 시장 또는 총판매 금액을 분할한 몫을 차지하는 하 나 또는 다수의 사업자를 뜻한다. 이와 관련하여 위원회는, 공고한 날부터 3년의 기간 내에 최소한 한 번 이상 시장 및 총판매 금액 을 나눈 몫에 대하여 재검토하도 록 한다. 시장지배권을 가진 사업자의 시 장 및 총판매 금액을 나눈 몫을 계산하는 것은, 위원회가 정하여 공고한 원칙에 따라, 정책 또는 통솔권 측면에서 연관이 있는 모 든 사업자가, 어떠한 시장 한 곳 에서 차지하는 시장 및 총판매 금액 분할 분을 합산하도록 하고, 이에 해당하는 시장 및 총판매 금액을 분할 분을 차지하는 사업 자 모두를 시장지배권을 가진 사 업자로 간주하도록 한다. “경쟁상황요소”란 시장에서의 사 업자 수, 투자금액, 주요 생산요 소에 대한 접근, 판로, 사업망, 필수 기본 구조, 정부 부문의 규 정 및 위원회가 정하여 공고한 바에 따르는 기타 요소를 뜻한다. “위원회”란 무역부문경쟁위원회 를 뜻한다. “위원”이란 무역부문경쟁위원회 위원을 뜻한다. “사무처”란 무역부문경쟁위원회 사무처를 뜻한다. “사무총장”이란 무역부문경쟁위 원회 사무총장을 뜻한다. “담당관”이란 사무총장과 위원회 가 이 법에 따라 이행하도록 임 명한 실무급 공무원보다 낮지 아 니한 직위에 있는 사무처의 직원 을 뜻한다. “장관”이란 이 법에 따른 주무자 인 장관을 뜻한다.

제6조

상무부 장관이 이 법을 대행하도 록 하며, 부령 제정과 이 법에 첨 부한 비율을 초과하지 아니하는 수수료 규정, 수수료 감면 및 이 법을 시행하기 위한 기타 업무를 규정하는 권한을 갖도록 한다. 해당 부령은 관보에 게재하였을 때 시행할 수 있다.

제1장 무역부문경쟁위원회

제7조

위원장과 부위원장 1인 및 내각 의 승인으로 선발을 통과한 사람 5인을 위원으로 하여 구성되는 “무역부문경쟁위원회”라는 명칭 의 위원회 하나를 둔다. 사무총장이 위원회의 간사가 되 도록 한다.

제8조

위원은 법학, 경제학, 금융, 회계, 산업, 사업 경영, 소비자 보호 또 는 경쟁 감독에 유용한 분야에서 실적이 있거나 지식과 전문성을 갖춘 사람이라는 것을 증명할 수 있는 업무를 수행하였거나 또는 10년 이상의 경력이 있는 사람이 어야 한다. 이와 관련하여 상술한 기간들은 합산할 수 있다.

제9조

위원은 다음 각 항에 해당하는 자격을 갖추어야 하며 금지 유형 에는 해당하지 아니하여야 한다. (1) 태국 국적자이어야 한다. (2) 연령이 만40세 이상 만70세 이하이어야 한다. (3) 정치적 지위에 있지 아니하여 야 한다. (4) 정당에 재직하는 사람이 아니 어야 한다. (5) 정신이상자 또는 지적장애인 이 아니어야 한다. (6) 처벌되는 약물의 중독자가 아 니어야 한다. (7) 파산자가 아니어야 하며, 불 법적으로 파산한 적이 있는 사람 이 아니어야 한다. (8) 금치산자 또는 한정치산자가 아니어야 한다. (9) 징역형을 선고받고 법원의 영 장에 의하여 수감되어야 하는 사 람이 아니어야 한다. (10) 제12조 제(3)항에 의거한 내 각의 승인을 위하여 천거된 날에 구금 판결을 받고 사면 또는 탈 죄한 날부터 5년 미만으로 경과 한 사람이 아니어야 한다. 다만 과실에 의한 잘못이나 경범죄는 예외로 한다. (11) 비정상적인 부(富) 또는 비 정상적인 축재로 인하여 재산을 국가 소유로 몰수하라는 판결 또 는 법원의 명령을 받은 적이 없 는 사람이어야 한다. (12) 직무에 대한 부정행위나 심 각한 악행 또는 공직에서 부정행 위나 부당한 품행이라고 간주되 는 행위로 인하여 공직, 정부기 관, 국영기업 또는 민간기관에서 제적이나 파면 또는 해임된 적이 없어야 한다. (13) 헌법재판소 재판관, 선거위 원회 위원, 민정조사관, 부패방지 위원회 위원, 국고금회계감사위원 회 위원 또는 국가인권위원회 위 원이 아니어야 한다. (14) 부패 방지 및 단속 관련 법 률에 의거하여 면직된 적이 없어 야 한다.

제10조

위원은 제9조에 따른 자격 및 금 지 유형 이외에도 다음 각 항에 해당하는 사람이어야 한다. (1) 어떠한 사업 기관에 재임하거 나 합명회사에서 경영권을 가진 동업자 또는 어떠한 회사 총투자 금액의 5%를 초과하여 소유하는 주주가 아니어야 한다. (2) 직무를 담당하거나 또는 정기 적으로 급여를 수령하는 공무원 이 아니어야 한다. (3) 정부기관이나 지방정부의 직 원이나 피고용자 또는 사업을 진 행하는 정부 기관의 위원이나 고 문이 아니어야 한다. (4) 상거래 부문의 목적 또는 공 동 이익을 갖는 사업자의 단체의 연합 기관이나 협회에서 재임하는 사람이 아니어야 한다. 제12조에 의거하여 선발된 사람 이 첫 번째 단락에 해당하는 사 람인 경우, 해당자가 임명된 날부 터 30일 이내에 이행하여야 하는 첫 번째 단락에 해당하는 직책에 서 사임하였을 때 임명될 수 있 다. 그러나, 만약 해당자가 기한 내에 사임하지 아니한다면 해당 자는 위원으로 선발된 적이 없는 것으로 간주하고, 제12조에 의거 하여 해당하는 사람을 대신할 위 원을 선발하도록 한다.

제11조

위원을 임명하는 때에는 위원으 로 지명되기 합당한 사람을 선발 하는 직무를 담당하는, 다음 각 항에 해당하는 9인으로 구성되는 차출위원회 하나를 둔다. (1) 재무부 차관 (2) 농업협동조합부 차관 (3) 상무부 차관 (4) 법무부 차관 (5) 산업부 차관 (6) 국가경제사회개발위원회 사무 총장 (7) 소비자보호위원회 사무총장 (8) 태국상공회의소 회장 차출위원회는 차출위원 1인을 차 출위원장으로 선출하도록 한다. 차출위원장 및 차출위원은 위원 으로 지원할 자격이 없다. 사무처가 위원 선발을 실시하는 데 있어서의 행정사무를 수행하 도록 한다. 차출위원장 및 차출위원은 내각 이 정한 바에 따른 업무를 수행 하는 데 있어서의 보수 및 기타 비용을 수령하도록 한다.

제12조

위원의 선발과 임명에 관련하여 다음 각 항을 시행하도록 한다. (1) 차출위원회가 제9조 및 제10 조에 따른 자격을 갖추고 금지 유형에 해당하지 아니하는 것을 포함하여 제8조에 따른 실적이 있거나, 지식과 전문성이 있는 사 람이라는 것을 증명할 수 있는 업무를 수행했거나, 10년 이상의 경력이 있는 사람을 모집하는 공 고를 최소한 30일 이상 계속하여 게재하도록 한다. (2) 제(1)항의 기한이 만료되었을 때 차출위원회는 위원으로 자격 이 있는 지원자를 제7조에 의거 한 인원수에 따라 선발하고, 선발 된 사람의 명단과 함께 해당자에 대하여 명기한 상세 사항 또는 제8조에 따라 어떤 한 분야에 적 합하고 제9조 및 제10조에 따른 자격을 갖추었으며 금지 유형에 해당하지 아니하는 사람이라는 것을 나타내는 증빙을 장관에게 제출하여야 한다. (3) 장관은 차출위원회로부터 명 단을 수령한 날부터 30일 이내에 내각의 승인을 받기 위하여 제(2) 항에 따른 상세 사항과 함께 위 원으로 선발된 사람의 명단을 제 출하여야 한다. 내각이 정수의 인원을 위원으로 승인하였을 때에는 위원 임명 명 령을 받기 위하여 총리에게 제출 하여야 한다. 내각이 위원으로 임명될 정수를 충족하지 못 하는 인원만을 승인 한 경우, 차출위원회는 인원의 정 수가 충족될 때까지 제(1)항, 제 (2)항, 제(3)항 및 제(4)항을 실시 하여 부족한 인원의 정수를 충족 할 수 있도록 위원 선발 검토 조 치를 취하도록 한다. 첫 회의 위원 임명에서, 내각이 정수의 인원을 위원으로 승인하 였을 때에는, 승인을 받은 해당자 들은, 1인의 위원장과 부위원장을 선출하기 위한 회의를 임명 명령 을 받기 위하여 장관에게 제출하 기 전에 실시하여야 한다. 위원 선발 기간, 원칙과 방법 및 조건은 부령에서 정하는 바에 따 르도록 한다.

제13조

위원의 임기는 4년이며, 단 2회 차만 재임하도록 한다. 첫 회차에서 2년의 기간이 지났 을 때, 추첨을 통하여 3인의 위원 을 퇴임하도록 하고, 해당 추첨으 로 퇴임하는 것은 임기 만료로 퇴임하는 것으로 간주하도록 한 다. 임기에 의하여 퇴임하는 위원은 새로운 위원의 임명이 있을 때까 지 직무 수행을 계속 하도록 한 다. 임기 만료 최소한 90일 전에 차 출위원회는 새로운 위원으로 임 명될 만한 사람의 선발을 신속하 게 진행하도록 한다.

제14조

위원은 임기에 따른 퇴임 이외에 다음 각 항에 해당하는 때 퇴임 한다. (1) 사망한 때 (2) 사임한 때 (3) 직무에 대한 과오, 부정행위 또는 능력 감소로 인하여 내각이 해임한 때 (4) 제9조에 따른 자격을 결여하 거나 금지 유형에 해당하는 때 (5) 제10조를 위반하는 행위를 한 때 위원장이나 부위원장 또는 위원 이 첫 번째 단락에 따라 면직한 때에는, 대신 임명되는 사람의 임 기를 자신이 대신할 사람의 잔여 임기와 동일하게 하여, 제12조에 따라 공석인 위원장이나 부위원 장 또는 위원의 선발 및 임명을 시행하도록 한다. 다만 잔여 임기 가 90일 미만일 때에는 대신할 새로운 위원을 임명하기 위한 조 치를 취하지 아니하여도 된다. 두 번째 단락에 따른 위원장이나 부위원장 또는 위원의 임명이 완 료되지 아니한 기간에는, 잔여 인 원만으로, 위원장이나 부위원장 또는 위원으로 위원회가 구성되 었다고 간주하여, 잔여 인원이 계 속하여 직무를 수행하도록 한다. 다만, 잔여 인원이 4인 이하일 경 우는 제외한다.

제15조

제13조에 따라 위원장이나 부위 원장이 퇴임하고 새로운 위원의 임명이 있는 경우 또는 제14조에 따라 위원장이나 부위원장이 면 직된 경우 위원회는 위원 1인을 위원장 또는 부위원장으로 선출 하는 회의를 개최하도록 하고, 위 원장 또는 부위원장의 임명 명령 을 위하여 총리에게 제출하도록 한다.

제16조

퇴임한 위원장이나 부위원장 또 는 위원은 위원회 검토 절차의 당사자인 유한회사(limited company)나 주식회사(public limited company) 또는 어떠한 다른 사 업에서도 재직하지 아니하도록 금지한다. 다만, 퇴임 후 2년 이 상 경과하였을 때에는 제외한다.

제17조

다음 각 항에 해당하는 권한과 직무를 위원회에 부여한다. (1) 총리에게 이 법률에 따라 부 령 제정과 관련하여 제안한다. (2) 이 법률을 시행하기 위한 규 칙을 제정하거나 공고를 한다. (3) 자유롭고 공정한 경쟁을 위하 여 사업 운영을 감독하고 시행 방침을 정한다. (4) 이 법률에 따라 청원을 검토 하고 위법 행위를 조사한다. (5) 제59조에 따라 청원을 검토하 고 결정한다. (6) 조사위원회의 수사 및 조사 규칙을 정한다. (7) 이 법률을 집행하기 위한 담 당관의 임명을 공고한다. (8) 제78조에 의거하여 피해자가 고소한 바에 따른 형사사건의 법 적 조치를 집행한다. (9) 행정법원에 제소하는 것을 포 함하여 제80조와 제81조, 제82조 및 제83조에 의거한 행정 측면의 처벌 규정을 검토한다. (10) 특정인을 소환하여 진상을 밝히거나 설명, 조언 또는 견해를 표하도록 한다. (11) 경쟁 부문의 정부 정책과 관 련하여 총리 및 내각에 의견을 제시하거나 조언한다. (12) 사업자 간에 불공정을 발생 시키는 경쟁 방해나 제한 또는 무역 부문 경쟁을 축소시키는 장 애물이 되는 규칙이나 규정 또는 명령과 관련하여 정부기관에 조 언한다. (13) 사무처의 운영 계획과 전략 및 방침을 정한다. (14) 사무처의 기관 구조, 인사운 영, 예산, 금융 및 자산과 기타 업무 운영과 관련한 규칙 또는 수칙을 정한다. (15) 법이 위원회의 권한과 직무 로 규정한 바에 따른 기타 업무 를 이행한다. 보편적으로 적용하는 모든 규칙 또는 공고문은 관보에 게재하였 을 때 시행할 수 있다.

제18조

보편적으로 적용하는 경쟁 감독 관련 규칙이나 공고를 정하기 전 에 위원회는 피해자와 일반 국민 을 대상으로 의견을 청취하는 조 치를 취하여, 의견을 청취하는 사 건 및 논점 관련 자료를 제공하 고 청취한 의견을 심의하는 데 참조하도록 한다. 이와 관련하여 의견을 청취하는 기간은 30일 이 상이어야 한다. 다만, 긴급한 사 유 또는 서둘러야 할 필요성이 있는 경우는 예외로 하여, 위원회 가 의견 청취 기간을 30일 미만 으로 정할 수도 있다. 사무처는 해당 의견에 대한 위원 회의 의결 또는 심의 결과를 얻 은 의견으로 이루어진 의견 청취 결과와 함께 차후 조치 사유와 방침을 요약 기록하고 해당 기록 을 사무처의 정보망 시스템을 통 하여 공개한다.

제19조

위원회의 회의는 전체 위원의 과 반수 이상의 인원이 참석하여야 의결정족수가 된다. 만약 위원장이 위원회의 회의에 불참하거나 직무를 수행할 수 없 다면 부위원장이 회의에서 의장 이 되도록 한다. 만약 위원장 또 는 부위원장이 회의에 불참하거 나 직무를 수행할 수 없다면, 회 의에 참석한 위원이 위원 1인을 회의의 의장으로 선출하도록 한 다. 회의의 결정은 다수결을 따르도 록 한다. 위원 1인은 1개의 표결 권을 갖도록 한다. 만약 찬반 동 률이라면, 위원장이 1개의 표결권 을 추가로 갖도록 한다.

제20조

위원회는 위원회가 위임하는 바 에 따라 어떠한 한 가지 사안을 검토하거나 이행하도록 하기 위 한 소위원회 임명권이 있다.

제21조

위원회는 검찰 직원이거나 직원 이었던 사람과 경찰이거나 경찰 이었던 사람 및 경제학, 법학, 상 학, 회계 또는 소위원회가 될 필 요가 있는 기타 분야에 지식이나 경험이 있는 정부 담당자이거나 담당자였던 사람으로 구성되는 한 개 또는 여러 개의 조사소위 원회를 임명하고 담당관을 소위 원회 위원 및 간사로 위임하도록 한다. 이와 관련하여 조사소위원 회는 조사소위원회 위원 중 1인 을 조사소위원회 위원장으로 선 출하는 회의를 개최하도록 한다. 조사소위원회에 이 법률에 따른 위법 행위와 관련한 수사 및 조 사 권한과 임무를 부여하고, 조사 소위원회가 조사가 완료되었다고 판단하였을 때에는, 사건 경위서 와 함께 의견을 작성하여 위원회 가 임명된 날부터 12개월 이내에 위원회에 제출하도록 한다. 다만, 부득이한 사유가 있을 때는 6개 월 이하의 기간을 추가로 연장할 수 있으나, 사건 경위서에 기간을 연장하는 사유와 그 필요성을 기 록하여야 한다

제22조

제19조의 조항을 소위원회 및 조 사소위원회의 회의에 준용하도록 한다.

제23조

위원장과 부위원장 및 위원은 직 무를 수행하는 보수 및 비용과 내각이 정한 기타 권리 혜택을 받는 전일제 실무자가 되도록 한 다. 이와 관련하여, 제16조에 따 른 퇴임 이후의 재직 금지 항목 까지 고려하여 보수를 정하도록 한다. 제20조와 제21조에 의거한 소위 원회 위원장 및 위원의 직무 수 행 보수 및 기타 비용은 내각이 정한 바에 따르도록 한다.

제24조

이 법에 의거한 직무를 수행하는 데 있어서, 위원장, 부위원장, 위 원 및 조사소위원회 위원은 「형 법전」에 의거한 담당관이 되도록 하여 「형사소송법전」에 의거한 조사관과 동일한 권한 갖도록 한 다.

제25조

위원회가 기소 의견을 가지고 있 으며, 사건 경위서와 함께 의견을 검찰로 송부하였으나, 검찰 담당 자가 불기소 의견을 가지고 있는 경우, 「형사소송법전」의 내용에 따른 검찰 담당자의 불기소 반론 에 대하여 위원장이 경우에 따라 경찰청장 또는 도지사의 권한을 사용하도록 한다. 위원장이 검찰 담당자의 명령에 대해 이의를 제기하는 경우, 이의 를 제기하는 의견과 함께 사건 경위서를 대검찰청에 송부하여 검토하도록 한다. 만약 대검찰청 에서 위원장이 송부한 사건 경위 서와 의견이 법적 조치를 취하기 에 불충분하다고 판단한다면, 불 충분한 항목을 모두 기입하여, 차 후 조치를 취하도록 위원회에 통 지하여야 한다. 이에 해당하는 경우, 위원장과 대 검찰청과 공동으로, 불충분한 증 거를 검토하고 불충분한 증거를 충분하게 수집하여 법적 조치를 취하도록 검찰에 송부하는 권한 과 임무를 담당하는 각각 동수의 양측 대리인으로 구성된 1개의 작업 그룹(working group)을 설 치하도록 한다. 사무처는 두 번째 단락에 따른 작업 그룹의 간사 측이 되는 직 무를 담당하도록 한다.

제26조

이 법률에 의거한 형사 소송 및 손해액 청구 소송은 지적재산 및 국제무역 재판소의 권한 범주에 속하도록 한다.

제2장 무역부문경쟁위원회 사무처

제27조

정부기관이나 국영기업이 아니며, 법인의 자격을 갖추도록 하는 정 부 부서로 무역부문경쟁위원회 사무처를 설치하도록 한다. 사무처의 업무는 근로자보호에 관한 법률, 근로관계에 관한 법 률, 사회보험에 관한 법률 및 보 상금에 관한 법률의 적용을 받지 아니한다. 다만, 사무처의 직원 및 피고용자는 근로자보호에 관 한 법률, 사회보장에 관한 법률 및 보상금에 관한 법률에 정한 것보다 적지 아니한 보수 혜택을 받아야 한다.

제28조

사무처는 방콕 또는 그 인접 짱 왓(도)에 본부를 설치하며, 다른 곳에 지부를 설치할 수도 있다.

제29조

사무처는 다음 각 항의 직무와 권한을 맡도록 한다. (1) 위원회와 소위원회의 행정사 무를 책임진다. (2) 이 법에 대하여 위반을 야기 할 수 있는 사업자의 행위를 감 시하고, 위원회에 보고한다. (3) 상품과 서비스 및 사업을 운 영하는 데 있어서의 행위와 관련 하여 학습, 분석, 연구하고, 사업 운영을 지원, 개발, 감독하는 것 에 대한 방침과 의견을 제시한다. (4) 위원회가 정하는 바에 따라, 독점 발생의 경향이 있는 상품이 나 서비스 시장의 규모에 관한 데이터베이스를 구축하고 대중에 게 공개한다. (5) 이 법에 대한 위반이 있었다 는 청원을 접수하고, 위원회에 제 출하기 위하여 진상에 대한 조사 를 실시하며, 청원이 충분한 진상 을 갖추도록 하는 증거를 수집한 다. 이와 관련하여 위원회가 정하 는 규칙을 따른다. (6) 소유권과 점유권 및 재산권이 있다. (7) 재산과 관련하여 어떠한 권리 를 설정하거나 법률행위를 한다. (8) 사무처의 업무 진행과 관련한 사업에 대하여 국내외의 기관 또 는 부서와 교섭과 합의 및 제휴 하는 데 있어서 자료를 교환하고 협력한다. (9) 무역 부문 경쟁과 관련한 지 식을 교육하고 개발하거나 다른 부서와 협력한다. (10) 이 법에 따른 직무를 수행하 는 것과 관련하여 정부기관이나 정부 부서와 업무를 조정하고 협 조한다. (11) 부령에서 정하는 바에 따른 수수료와 보수나 서비스요금 또 는 업무수행에 따른 수입을 수령 한다. (12) 위원회의 연구결과를 국민에 게 공개한다. (13) 위원회와 사무처의 업무 추 진 결과 및 애로사항을 표시하는 연례보고서를 작성하여 내각에 제출하고 국민에게 공개한다. (14) 위원회의 공고와 규칙, 의결 에 따라 이행하고 위원회 또는 소위원회가 위임한 바에 따른 직 무를 수행한다. (15) 사무처의 직무와 권한이 되 도록 법으로 정한 기타 직무를 수행한다.

제30조

사무처는 위원장 직속으로 사무 처의 직무 수행 책임자 및 사무 처 직원 및 피고용자의 관리자가 되는 사무처장을 두도록 한다. 외부인과 관련한 사무처의 사업 에 대하여 사무처장이 위원회의 대표자가 되도록 하며 이를 위하 여 사무처장은 특정한 업무를 수 행하도록 다른 사람에게 권한을 위임할 수도 있다. 이와 관련하여 위원회가 정하는 규칙에 따른다.

제31조

위원장이 위원회의 승인을 받아 사무처장을 임명하고 면직시키도 록 한다. 사무처장의 구인 공고와 선발 및 임명 원칙과 방법은 위원회가 정 하는 바를 따르도록 한다.

제32조

사무처장으로 임명될 사람은 다 음 각 항의 자격을 갖추어야 한 다. (1) 태국 국적자 (2) 만65세 이하 (3) 사무처에 상근 가능한 사람 (4) 법학, 경제학, 금융, 회계, 산 업, 경영, 소비자보호 또는 위원 회가 정하여 공고한 기타 분야의 지식과 전문성을 갖춘 사람 (5) 위원회가 정하여 공고한 바에 따른 기타 자격을 갖춘 사람

제33조

다음 각 항의 어느 하나에 해당 하는 유형의 사람은 사무처장이 되지 아니하도록 금지한다. (1) 파산자이거나 불법적으로 파 산한 적이 있는 사람 (2) 금치산자 또는 한정치산자 (3) 징역형을 선고받고 법원의 선 고에 따라 수감된 사람 (4) 과실이나 경범죄에 의한 것을 제외하고 징역형을 선고받았던 사람 (5) 유한회사, 공공유한회사 또는 이 법의 적용 하에 있는 기타 사 업에서 경영 또는 운영하는 이사 나 경영자 또는 권한을 가지 사 람 (6) 정부기관이나 공기업 또는 정 부의 기타 부서 또는 지방 정부 의 공무원이나 직원 또는 피고용 자 (7) 퇴임한 날부터 1년 이상이 경 과한 경우를 제외하고 정치적 지 위에 있거나 지위에 있었던 사람 (8) 퇴임한 날부터 1년 이상 경과 한 경우를 제외하고 정당의 위원 또는 기타 직위에 있거나 있었던 사람 또는 정당의 담당자 (9) 공직, 정부 기관, 공기업 또는 민간 기관에서 직무에 대한 부정 행위나 심각한 과실 또는 공직계 통에서 부정행위 또는 불법행위 를 저질렀다고 간주되는 사람 (10) 비정상적인 부 또는 비정상 적인 축재로 인하여 재산을 국가 소유로 몰수하도록 하는 법원의 판결이나 명령을 받은 사람 (11) 무역 부문에서 목적이나 이 익을 공유하는 사업자 집단인 학 회 또는 협회에 재임하는 사람

제34조

사무처장은 위원회가 정하는 바 에 따른 월급 및 혜택을 받도록 한다. 이와 관련하여 제43조에 따른 사무처장 면직 이후의 재직 금지 항목까지 고려하여 월급을 정하도록 한다.

제35조

사무처장의 임기는 회당 4년이다. 임기에 따라 퇴임한 사무처장은 재임될 수 있으나 2회를 초과하 여 연임할 수 없다.

제36조

임기에 따른 퇴직 이외에 사무처 장은 다음 각 항의 어느 하나에 해당하는 때에 퇴임한다. (1) 사망한 때 (2) 사임한 때 (3) 제32조에 따른 자격의 결핍 또는 제33조에 따른 금지 유형에 해당하는 때 (4) 제41조에 따른 이해당사자가 된 때 (5) 직무능력 부족이나 비위행위 또는 능력 감소하여 위원회가 해 임을 결의한 때

제37조

사무처장이 위임한 바에 따른 직 무 수행을 보조하기 위하여 위원 회가 정하는 인원에 따라 사무처 장을 두도록 한다.

제38조

사무처장은 다음 각 항의 직무와 권한을 맡는다. (1) 직원 또는 피고용인을 해임하 는 것과 아울러 임용, 임명, 파 면, 승진, 감축하고, 월급 또는 임금 삭감하며, 직원 및 피고용자 에 대한 규율 측면 처벌한다. 이 와 관련하여 위원회가 정하는 규 정을 따른다. 그러나, 만약 사무 처장, 고위직 행정가, 내부 감사 직위의 직원이라면, 사전에 위원 회의 승인을 받아야 한다. (2) 위원회가 정하는 규정 또는 결정에 반하거나 모순되지 아니 하도록 하여 사무처의 직무 수행 과 관련한 규칙을 정한다. (3) 사무처장의 직무와 권한으로 법에 정한 바에 따른 기타 직무 를 수행한다.

제39조

직무를 수행하는 경우 사무처장 은 위원회가 정하는 규정에 따라 직원이 대신 수행하도록 권한을 위임할 수도 있다. 첫번째 단락에 따라 위임을 받은 사람에게 권한을 위임받은 건에 대하여 사무처장과 동일한 직무 와 권한을 부여한다.

제40조

사무처장으로 재임할 사람이 없 거나 있지만 직무를 수행할 수 없는 경우에는 위원회가 사무차 장 1인을 사무처장 대행으로 임 명한다. 사무차장이 없거나 있지 만 직무를 수행할 수 없는 경우 에는 위원회가 사무처의 직원 1 인을 사무처장 대행으로 임명한 다. 첫번째 단락에 따른 사무처장 대 행에게 사무처장과 동일한 직무 와 권한을 부여한다.

제41조

사무처장은 직접적이거나 간접적 인 것에 관계없이 사무처와 수행 하는 법률 행위 또는 사무처에 행위를 제공하는 사업에 있어서 이해당사자가 되지 아니하여야 한다. 다만, 해당 이해 행위가 위 원회가 정하는 규칙에 따른 비율 을 초과하지 아니하는 유한회사 또는 공공유한회사에 정당하게 투자한 이익을 위한 투자자인 것 은 제외한다. 사무처장의 부모, 배우자, 자손 또는 배우자의 부모가 첫번째 단 락에 따른 행위를 한 경우, 사무 처장을 첫 번째 단락에 따른 이 해당사자로 간주하도록 한다.

제42조

제41조에 따라 정확하게 행하지 아니한 법률행위 또는 업무는 사 무처에 구속력을 갖지 아니한다.

제43조

사무처장직에서 퇴임한 사람은 위원회의 검토 절차 중에 있는 소송당사자인 유한회사나 공공유 한회사 또는 어떠한 사업에서도 재임할 수 없다. 다만 퇴임한 날 부터 2년 이상 경과한 때에는 제 외한다.

제44조

사무처의 업무 추진을 위한 자금 과 자산은 다음 각 항으로 구성 된다. (1) 제91조에 따라 이양 받은 자 금과 자산 (2) 정부가 착수 자금으로 지급한 자금 (3) 정부가 할당하는 일반 보조금 (4) 수수료, 보수, 서비스 요금 또 는 업무수행에 따른 수입 (5) 기탁받은 자금 또는 자산이나 국제기구를 포함한 외국으로부터 의 보조금. 이와 관련하여 위원회 또는 사무처가 업무를 추진하는 데 영향을 주는 조건이나 구속력 이 없어야 한다. (6) 사무처의 자금이나 자산에서 발생한 수익이나 이익

제45조

사무처의 연간 업무수행에서 얻 은 모든 수입은 유지비 및 감가 상각비, 업무를 수행하는 비용 및 부담금과 같은 비용 및 타당한 업무비, 위원회와 소위원회의 보 수 및 사무처의 사업 비용이나 기타 업무를 위하여 사무처의 소 유가 되도록 한다. 첫번째 단락에 따른 수입은 국가 수입으로 국고로 투입할 필요가 없다. 사무처의 수입이 사무처가 업무 를 효율적으로 수행하기 위한 비 용과 타당한 업무비로 부족하고 다른 출처에서 자금을 구할 수 없는 경우, 정부는 국가예산을 배 분하여 필요한 금액만큼 사무처 에 제44조 제(3)항에 따른 일반 보조금으로 지급하여야 한다.

제46조

이 법에 따른 행정 과징금에 대 해서는 경우에 따라 소송 기한이 지난 때 또는 법원의 최종판결이 있는 때에는 사무처가 신속히 국 가 소득으로 국고에 투입하도록 한다.

제47조

제44조 제(3)항에 따라 사무처에 국가예산 할당 목적을 위하여 사 무처는 사무처의 일반 보조금 할 당을 위하여, 경우에 따라 지출예 산법률 초안이나 추가지출예산법 률 초안에 두어 지원을 요청하는 회계연도의 지출예산을 내각에 제출하도록 한다.

제48조

사무처의 자산은 강제 집행의 책 임에 있지 아니하며, 어떠한 사람 이 사무처의 자산 건에서 사무처 와 다툴 항목으로 공소시효를 구 실로 삼을 수 없다.

제49조

사무처는 사무처의 재무제표와 회계장부를 작성하여 회계년도가 종료된 날부터 120일 이내에 감 사에게 제출하도록 한다. 모든 회계연도 주기에 국고금조 사사무처를 감사가 되도록 하고, 지출의 실효를 분석하여 자금과 자산 지출 결과를 산정하는 동시 에 해당 지출이 얼마나 목적에 따랐고 목표에 따른 결과를 얻었 는지 의견을 표시한 결과 보고 기록을 작성하여 위원회와 내각 및 의회에 제출하도록 한다. 사무처는 국고금 조사에 관한 기 본 법률에 따라 조사를 받는 부 서가 된다.

제3장 독점 및 불공정 무역 방지

제50조

시장지배권을 가진 사업자가 다 음 각항에 해당하는 형태의 행위 를 하는 것을 금한다. (1) 불공정한 상품 매매 가격 또 는 서비스 가격 수준을 정하거나 유지하는 행위 (2) 자신의 거래 상대인 다른 사 업자가 서비스나 상품을 생산, 구 매 또는 판매하는 것을 제한하거 나 상품 매매, 서비스 거래 또는 다른 사업자로부터의 신용거래 기회를 제한하는 형태의 조건을 정하는 행위 (3) 시장의 수요보다 양을 낮추기 위하여 타당한 이유 없이 서비스 나 상품의 생산, 구매, 판매, 인 도, 국내로의 수입 저지나 축소 또는 제한하거나 파손 또는 손상 시키는 행위 (4) 타당한 이유 없이 타인의 사 업 운영에 개입하는 행위

제51조

어느 한곳의 시장에서 중요한 의 의를 갖는 경쟁의 감소를 유발할 수 있는, 위원회가 정하여 공고하 는 원칙에 따르는 기업결합 행위 를 하는 사업자는 기업을 결합한 날부터 7일 이내에 위원회에 기 업결합 결과를 신고하여야 한다. 독점 또는 시장독점권을 유발할 수 있는 기업결합 행위를 하는 사업자는 위원회의 허가를 취득 하여야 한다. 첫번째 단락에 의거한 공고는 어 떠한 액수보다 적지 아니한 시장 분할 부분이나 총판매 금액, 자본 액 또는 자산액을 기록해 두도록 한다. 기업결합이란 다음 각항을 포함 하는 뜻이다. (1) 한 사업의 잔존과 다른 한 사 업의 종료 또는 다른 사업으로의 창출을 유발할 수도 있는 생산자 와 생산자의 결합, 판매자와 판매 자의 결합, 생산자와 판매자의 결 합 또는 서비스제공업자와 서비 스제공업자의 결합 (2) 사업 운영, 주관 또는 위원회 가 정하여 공고한 원칙에 따르는 조치의 정책을 통제하기 위한, 다 른 사업의 자산 전체 또는 일부 구입 (3) 직접적이거나 간접적인 방법 에 상관없이, 사업 운영, 주관 또 는 위원회가 정하여 공고한 원칙 에 따르는 조치의 정책을 통제하 기 위한 다른 사업의 주식 구입 첫번째 단락에 따른 기업결합 결 과 신고와 두번째 단락에 따른 기업결합 허가 신청 및 허가는 위원회가 정하여 공고한 원칙과 방법 및 조건에 따르도록 한다. 첫번째 단락과 두번째 단락에 따 른 규정은 위원회가 정하여 공고 한 규칙에 따른 정책 또는 지휘 권 측면에서 관계가 있는 사업자 의 내부 구조를 조정하기 위한 기업결합에는 적용하지 아니하도 록 한다.

제52조

제51조 두번째 단락에 따른 허가 를 검토하는 데 있어서, 위원회는 신청을 접수한 날부터 90일 이내 에 조치를 완료하도록 하고, 90일 이내의 기한에 검토를 완료하지 못하는 불가피한 경우에는 검토 기간을 연장하는 사유와 필요성 을 기록하여, 추가로 15일을 연 장하도록 한다. 위원회는 사업적인 측면과 사업 운영 지원에 대한 이익, 경제에 심각한 손실을 야기 여부와, 소비 자들이 취득해야 하는 주요 이익 에 영향에 대한 영향 여부를 고 려하여 허가를 검토하도록 한다. 허가 명령이 있는 경우, 위원회는 어떠한 기한 또는 조건을 정하여 허가 받는 사업자가 이행하도록 할 수 있다. 위원회는 기업결합에 대하여 허 가 또는 불허를 명하는 이유와 함께 진위 및 법조문 문제를 기 재하고 검토한 위원이 서명하도 록 하며, 제61조 두번째 단락의 규정을 준용하도록 한다. 위원회의 명령 통지를 받고 해당 명령에 이의가 있는 사업자는 명 령 통지를 받은 날부터 60일 이 내에 행정법원에 소송을 제기할 권리가 있다.

제53조

기업결합 허가를 받은 사업자는 위원회로부터 허가 받은 기간과 조건에 따라 조치하여야 한다. 첫번째 단락에 따른 위반 또는 불이행이 있는 경우, 위원회는 이 행 기한을 정하여, 허가 명령의 전체 또는 일부를 취소한 권한을 갖도록 한다.

제54조

어떠한 사업자가 다음 각항에 해 당하는 형태로 동일한 시장에서 경쟁하는 다른 사업자와 결합하 는 것이나 독점 또는 경쟁제한 행위를 하는 것 또는 해당 시장 에서 경쟁을 제한하는 행위를 하 는 것을 금한다. (1) 직접적이거나 간접적인 방법 에 상관없이, 상품 또는 서비스 가격에 영향을 미치는 구매 또는 판매 가격이나 거래 조건을 정하 는 행위 (2) 합의에 따라 각 사업자가 생 산이나 구매, 판매 또는 서비스하 는 상품이나 서비스의 양을 제한 하는 행위 (3) 어떠한 일방이 상품 또는 서 비스 가격의 입찰 또는 입찰을 받거나 다른 일방이 상품 또는 서비스 가격 입찰 또는 응찰에 경쟁하지 못하도록 하기 위하여 공모하는 형태의 합의 또는 조건 을 정하는 행위 (4) 다른 사업자가 구매 또는 판 매하지 아니하거나 해당 상품이 나 서비스를 구매 또는 판매하지 아니함으로써 각 사업자가 판매 지역을 분할을 정하거나 상품 또 는 서비스 판매나 구매를 축소하 거나 각 사업자가 상품 또는 서 비스 판매나 구매하는 구매자 또 는 판매자를 정하는 행위 첫번째 단락에 따른 규정은 위원 회가 정하여 공고한 원칙에 의거 하여 정책 또는 지휘권 측면에서 관계가 있는 사업자 간의 행위에 는 적용하지 아니한다.

제55조

한 시장에서 어떠한 사업자가 다 른 사업자와 공동으로 독점이나 또는 경쟁의 축소 또는 제한하는 다음 각항에 해당하는 행위를 하 는 것을 금한다. (1) 동일한 시장에서 경쟁자가 아 닌 사업자 사이에 제54조 제(1)항 이나 제(2)항 또는 제(4)항에 기 록한 바에 따라 조건을 정하는 행위 (2) 상품 또는 서비스의 품질을 생산이나 판매 또는 서비스를 제 공했던 것보다 낮추는 행위 (3) 어떠한 한 사람만을 동일하거 나 같은 종류의 상품을 판매하거 나 서비스를 제공하도록 임명하 거나 위임하는 행위 (4) 합의를 이행하기 위하여 상품 또는 서비스 구매 또는 판매와 관련하여 조건 또는 이행 방법을 정하는 행위 (5) 위원회가 정하여 공고한 바와 다른 공동 합의 행위

제56조

제55조의 조항은 다음 각항에 해 당하는 경우에는 적용하지 아니 한다. (1) 위원회가 정하여 공고한 원칙 에 따라 정책 또는 지휘권 측면 에서 서로 관계가 있는 사업자 간의 행위 (2) 상품의 생산과 판매를 개발하 고 기술 또는 경제 측면의 발전 을 지원하기 위한 목적이 있는 사업에서의 합의 (3) 어떤 일방이 상품 또는 서비 스에서 상표 또는 사업 운영 방 법이나 사업 지원에서 권리를 사 용하도록 하는 사람이며 다른 일 방이 권리의 대가나 수수료를 지 불하거나 계약에 명시한 바에 따 라 대가를 지급하는 권리를 취득 하는 사람이 되어 각각의 단계에 서의 사업자 간에 계약한 사업 형태에서의 협의 (4) 위원회의 권고에 의거하여 부 령에서 정하는 바에 따른 합의 또는 사업 형태의 유형 첫번째 단락의 제(1)항과 제(2)항 은 상기의 이익을 달성에 있어서 의 필요성을 초과하는 한계를 설 정하지 아니하여야 하며, 해당 시 장에서, 소비자에 대한 영양을 고 려하여 주요 의의가 있는 독점이 나 경쟁 제한을 야기하지 아니하 여야 한다.

제57조

사업자가 다른 사업자에게 손해 를 야기하는 결과가 되는 다음 각항에 해당하는 형태의 행위를 하는 것을 금한다. (1) 다른 사업자의 사업을 불공정 하게 방해하는 행위 (2) 우위에 있는 시장지배력 또는 교섭력을 불공정하게 사용하는 행위 (3) 다른 사람의 사업 운영을 제 한하거나 지장을 주는 상거래 측 면을 조건을 불공정하게 정하는 행위 (4) 위원회가 정하여 공고하는 바 에 따른 기타 형태의 행위

제58조

국내 사업자가 외국 사업자와 타 당한 이유 없이 불공정하게 상거 래 독점 또는 규제하는 행위이며, 경제와 소비자의 이익에 막대한 영향을 미치는 법률행위를 하거 나 계약을 체결하는 것을 금한다.

제59조

사업자에게 편의를 제공하기 위 하여 사업자는 위원회에 다음 각 항에 해당하는 건에 대하여 사전 에 검토 판결하도록 요청할 수 있다. (1) 제50조에 의거하여 시장지배 권을 가진 사업자의 행위 (2) 제54조나 제55조, 제57조 또 는 제58조에 따른 형태를 가진 사업 운영 첫번째 단락에 따른 요청은 위원 회가 정하여 공고한 원칙과 방법 에 따르도록 한다. 첫번째 단락에 따른 요청을 판결 함에 있어서, 이 법을 준수하기 위하여 사업자가 이행해야 하는 조건을 정할 수 있다. 위원회의 판단은 요청한 사람에 대해서만 구속력이 있으며, 위원 회가 정하는 범위와 기간에 따른 다. 만약 이후에 위원회가 검토 판단에 사용한, 요청한 사람으로 부터 접수한 자료가 주요 내용에 서 완전히 옳지 아니하거나 요청 을 제기한 사업자가 세번째 단락 에 의거하여 위원회가 정하는 규 칙을 이행하지 아니하였다는 것 이 드러난다면, 위원회는 판결을 취소하고 사업자에게 통지하도록 한다.

제60조

사업자가 제50조나 제51조의 두 번째 단락, 제54조, 제55조 제 57조 또는 제58조를 위반하거나 위반할 것이라고 믿어야 하는 증 거를 위원회가 보유한 경우, 위원 회는 사업자가 해당 행위를 제지 하거나 중단 또는 개선하도록 문 서로 명할 권한을 갖도록 한다. 이와 관련하여 위원회가 정하는 이행 방법과 조건 및 기한을 따 르도록 한다. 이 법의 목적을 달성하기 위하여, 첫번째 단락에 따른 명령에 대하 여 위원회가 필요한 만큼의 조건 을 정할 수 있다. 첫번째 단락에 따른 명령을 수령 하고 해당 명령에 동의하지 아니 하는 사업자는 명령을 수령한 날 부터 60일 이내에 행정법원에 소 송을 제기할 권리가 있다.

제61조

위원회는 제60조에 따른 명령에 대하여 명령의 이유와 함께 진위 및 법조문 문제를 기재하고, 검토 한 위원이 서명하도록 한다. 첫번째 단락에 따른 명령의 통지 는 위원회의 명령이 있는 날부터 7일 이내에 행하도록 하며, 제66 조를 준용하도록 한다.

제62조

제60조에 따른 명령 통지를 받은 사람은 해당 명령에 따라 이행하 여야 한다. 다만, 행정법원이 위 원회의 명령에 따른 집행을 유예 하거나 취소하도록 판결하거나 명하는 경우는 제외한다.

제4장 담당관

제63조

이 법의 시행과 관련하여 담당관 에게 다음 각항의 권한을 부여한 다. (1) 진술을 하거나, 진술서를 작 성하거나, 조사 또는 검토에 참고 하기 위하여 장부, 등록증, 서류 또는 다른 증거를 보내도록 어떠 한 사람에게 소환장을 발부하는 권한 (2) 이 법에 따라 진행되도록 조 사하거나 조사를 위하여 서류, 장 부, 등록증 또는 기타 증빙자료를 수색하거나 압수 또는 압류하기 위하여 사업자 또는 다른 사람의 사업장, 생산지, 판매장, 수매장, 상품보관장소나 서비스제공장소 또는 이 법의 위반이 있다고 의 심되는 기타 장소에 진입하고 이 법에 따라 법적인 조치를 집행하 는 권한 해당 권한을 실행함에 있어서 진 상을 신문하거나 사업자 또는 관 련자에게 장부나 등록증, 서류 또 는 기타 증빙서류를 요구하며, 해 당 장소에 있는 사람이 필요한 조처를 취하도록 명할 권한을 부 여한다. (3) 조사 또는 분석을 위하여 상 품의 가격을 지불하지 아니하고 적당한 양의 상품을 샘플로 징집 하거나 인도하는 권한 제(2)항에 따른 경우, 만약 「형사 소송법전」에 따른 수색의 유형이 라면 수색영장이 있어야 한다. 다 만, 만약 수색영장을 발부 받기 위하여 지체하면 해당 서류 또는 증빙서류가 옮겨지거나 숨겨지거 나 파기되거나 원상태에서 바뀌 게 된다고 믿어야 하는 이유가 있는 경우는 예외로 하여, 수색영 장 없이 수색이나 압수 또는 압 류 조치를 취할 수 있도록 하나, 수색에 관한 형사절차법전에 따 라 집행하여야 하며, 야간에는 수 색을 시작할 수 없다. 다만, 해당 장소의 근무시간인 경우는 예외 로 한다.

제64조

담당관이 직무를 수행하는 경우 관계자는 합당한 편의를 제공하 도록 한다.

제65조

임무를 수행함에 있어서 담당관 은 관계자에게 신분증을 제시하 여야 한다. 신분증은 위원회가 정하여 공고 한 양식을 따르도록 한다.

제66조

제63조 제(1)항에 따라 소환장을 발송하는 데에는 행정공무집행방 법에 관한 법률에 따른 고지와 관련한 조항을 준용하도록 한다.

제67조

이 법에 의거하여 임무를 수행하 는 데 있어서 담당관은 「형법전」 에 의거한 담당관이 되도록 한다.

제68조

이 법에 의거하여 임무를 수행하 는 것과 관련하여 담당관에게 「형사소송법전」에 따른 행정 담 당관 또는 경찰관과 동등한 권한 을 부여한다.

제5장 손해 배상 청구 소송

제69조

제50조, 제51조 두번째 단락, 제 54조, 제55조, 제57조 또는 제58 조에 대한 위반으로 인한 피해자 는 해당 위반자로부터 손해 배상 청구 소송을 제기할 권리를 갖도 록 한다. 첫번째 단락에 따른 손해 배상 청구 소송에서, 소비자보호위원 회, 소비자보호에 관한 법률에 따 라 소비자보호위원회가 보증하는 협회 또는 재단은 경우에 따라 소비자 또는 협회나 재단의 회원 을 대신하여 손해배상청구소송을 제기할 권리를 갖도록 한다.

제70조

제69조에 따른 손해 배상 청구 소송은, 만약 피해자가 인지하거 나 해당 사유를 인지할 수 있어 야 하는 날부터 규정한 1년 이내 에 사건을 재판에 붙이지 아니하 였다면, 사건을 재판에 붙이는 권 리는 종료되도록 한다.

제6장 처벌 규정

제1절 형사 처벌

제71조

제16조 또는 제43조를 위반하는 사람은 1년 이하의 징역형 또는 10만바트 이하의 벌금형에 처하 거나 징역형과 벌금형을 병과한 다.

제72조

제50조 또는 제54조를 위반하는 사람은 2년 이하의 징역형 또는 위법 행위를 한 해 소득의 10퍼 센트 이하의 벌금형에 처하거나, 징역형과 벌금형을 병과한다. 사업 운영 첫해에 위법 행위를 한 경우, 2년 이하의 징역형 또는 100만바트 이하의 벌금형에 처하 거나 징역형과 벌금형을 병과한 다.

제73조

제63조 제(1)항에 따른 담당관의 소환장에 따라 이행하지 아니하 는 사람은 3개월 이하의 징역형 또는 5천바트 이항의 벌금형에 처하거나, 징역형과 벌금형을 병 과한다.

제74조

제63조 제(2)항 또는 제(3)항에 따른 담당관의 임무 수행을 방해 하는 사람은 1년 이하의 징역형 또는 2만바트 이항의 벌금형에 처하거나, 징역형과 벌금형을 병 과한다.

제75조

제64조에 따라 담당관에게 편의 를 제공하지 아니하는 사람은 1 개월 이하의 징역형 또는 2천바 트 이하의 벌금형에 처하거나 징 역형과 벌금형을 병과한다.

제76조

이 법의 집행을 통하여 본인이 취득하거나 사전 인지한, 통상적 으로 공개하지 아니하고 지켜야 하는 사실인, 사업자의 사업 또는 업무 수행 관련 사실을 공개하는 사람은 1년 이하의 징역형 또는 10만바트 이하의 벌금형에 처하 거나, 징역형과 벌금형을 병과한 다. 다만, 다만 공무 수행에서의 공개이거나 수사, 법적 조치, 재 판 또는 사무처의 조치를 위한 것은 제외한다. 첫번째 단락에 따른 사람으로부 터 어떠한 사실을 취득하거나 사 전 인지하여, 어떠한 사람에게 피 해를 야기할 만한 사항에서 해당 사실을 공개한 사람은 동일하게 처벌되어야 한다.

제77조

위법 행위를 한 사람이 법인인 경우, 만약 해당 법인의 잘못이 이사 또는 관리자의 지시에 의하 여 발생하였거나, 이사 또는 관리 자의 잘못이거나, 어떠한 사람이 해당 법인의 잘못에 책임이 있는 사람이거나, 해당자가 지시 또는 행위를 할 책임이 있으며 지시 또는 행위를 하지 아니하여 해당 법인이 저지른 위법 행위의 사유 가 되는 경우, 해당자는 해당 잘 못에 대하여 규정해 둔 바에 따 라 처벌되어야 한다.

제78조

피해자는 제72조에 따라 이 법에 따른 검토를 위하여 위원회에 진 정할 권리가 있으나, 직접 행정소 송을 제기할 권리는 없다.

제79조

이 법에 따른 모든 잘못은 해당 권한을 사용하는 것에 대하여 위 원회가 비교할 권한을 갖도록 하 며, 위원회는 간사가 대신하도록 위임할 수 있다. 용의자가 기한 내에 대비된 금액 에 따라 벌금을 납부를 완료하였 을 때에는 「형사소송법전」의 규 정에 따라 사건이 종료된 것으로 간주하도록 한다. 부과하는 벌금 액수 규정은 위원 회가 규정 공고한 원칙과 방법 및 조건에 따른다.

제2절 행정 처벌

제80조

제51조 첫번째 단락을 위반하는 사람은 20만바트 이하의 비율에 서 행정 과징금을 납부하여야 하 며, 위반하고 있는 기간 동안의 1 일에 대하여 1만바트 이하의 비 율에서 추가로 과징금을 부과한 다.

제81조

제51조 두번째 단락을 위반하였 거나 제53조를 준수하지 아니하 는 사람은 기업결합에 따른 거래 금액의 0.5% 비율 이하의 행정 과징금을 납부하여야 한다.

제82조

제55조, 제57조 또는 제58조를 위반하는 사람은 위법 행위를 한 해 소득의 10% 비율 이하의 행 정 과징금을 납부하여야 한다. 사업 운영 첫 해에 위법 행위를 한 경우, 100만바트 이하의 행정 과징금을 납부하여야 한다.

제83조

제60조에 의거한 명령을 위반하 는 사람은 600만바트 이하의 행 정 과징금을 납부하여야 하며, 위 반하고 있는 기간 동안의 1일에 대하여 30만바트 이하의 비율에 서 추가로 과징금을 부과한다.

제84조

행정 처벌을 받아야 하는 위법 행위를 한 사람이 법인인 경우, 만약 해당 법인의 잘못이 이사 또는 관리자의 지시에 의하여 발 생하였거나, 이사 또는 관리자의 잘못이거나, 어떠한 사람이 해당 법인의 잘못에 책임이 있는 사람 이거나, 해당자가 지시 또는 행위 를 할 책임이 있으며 지시 또는 행위를 하지 아니하여 해당 법인 이 저지른 위법 행위의 사유가 되는 경우, 해당자는 해당 잘못에 대하여 규정해 둔 바에 따라 처 벌되어야 한다.

제85조

행정 처벌 명령을 검토하는 경우 위원회는 위법을 저지른 행위의 심각성에 대하여 고려하도록 한 다. 행정 과징금형에 처해진 사람이 과징금 납부를 거부하는 경우, 행 정 공무 이행에 관한 법률에 따 른 행정 처분 관련 규정을 준용 하도록 하고, 명령에 따라 강제할 담당자가 없거나 행정처분 담당 자만 있는 경우, 위원회는 벌금을 납부하도록 강제하기 위하여 행 정법원에 소송을 제기할 권한을 갖도록 한다. 이에 대하여 만약 행정법원이 과징금을 납부하도록 하는 명령이 적법하다고 판단한 다면 판결을 검토하고 벌금 납부 를 위하여 재산을 압류 또는 압 수하여 경매하도록 하는 권한을 갖도록 한다.

경과규정

제86조

「1999년 무역부문경쟁법」에 따라 이 법이 발효되기 전에 재임하고 있는 경쟁위원회는 이 법에 따라 경쟁위원회가 임명되기 전까지 계속하여 이 법에 따라 직무를 수행하도록 한다. 이와 관련하여 이 법이 발효된 날부터 270일 이 내에 이 법에 따라 경쟁위원회 위원을 선발하도록 한다.

제87조

이 법에 따라 간사를 임명할 때 까지 국내무역국장이 간사의 직 무를 수행하도록 한다. 이와 관련 하여 최초로 무역부문경쟁위원회 가 임명된 날부터 280일 이내에 간사 임명을 완료하도록 한다.

제88조

사무처의 업무를 수행하도록 하 기 위하여 효율적으로 처리할 수 있다. 장관은 상무부 소속 공무원 이 원래 소속에서 급여를 수령하 여 2회 이하, 회당 2년 이하 임 시로 사무처에서 업무 수행을 조 력하도록 허가할 수 있다.

제89조

제90조의 적용 하에 「1999년 무 역부문경쟁법」에 따라 무역부문 경쟁위원회 사무처에서 공무를 수행하고 제90조에 따라 기한을 지난 날에 재임하고 있는 공무원 은 상무부 국내무역국 공무원이 되며, 해당 직무 수행을 상무부 국내무역국의 직무를 수행하는 것으로 간주하여 사무처의 직무 를 수행하도록 한다. 첫번째 단락에 따라 직무를 수행 하는 공무원은 사무처에서 재임 하도록 임용 및 임명되기 전까지, 기존에 받았던 적이 있는 각종 권리와 혜택을 포함한 급여 또는 임금을 우선 수령하도록 한다. 그 러나, 기존에 수령했던 급여 또는 임금 이하의 급여 또는 임금을 수령하도록 임명할 수 없다.

제90조

제89조에 따라 사무처의 직원이 되려고 자원하는 공무원은 이 법 이 발효되는 날부터 60일 이내에 상관에게 문서로 의사를 밝힐 권 리를 갖도록 한다. 해당 기간 내 에 의사를 밝힐 권리를 사용하지 아니하는 사람은 상무부 국내무 역국으로 귀환하여 직무를 수행 하도록 한다. 첫번째 단락에 따라 직원이 되도 록 자원하는 공무원의 임용 및 임명은 위원회가 정하는 사무처 의 어떠한 능력과 자격 및 급여 또는 임금률에 따르도록 하여 어 떠한 직위를 담당하도록 한다. 두번째 단락에 따라 사무처의 직 원으로 임용 및 임명된 상무부 국내무역국 공무원의 급여 및 임 금 예산은 임용 및 임용된 날부 터 사무처로 이관하도록 한다. 첫번째 단락에 따라 사무처의 직 원으로 자원한 공무원의 임용 및 임명은 공무원 퇴직금에 관한 법 률 또는 공무원 퇴직 기금에 관 한 법률에 따라 퇴직 또는 직위 해제로 공직에서 물러나는 것으 로 간주하도록 한다.

제91조

상무부 국내무역국 무역부문경쟁 위원회 사무처의 업무와 관련된 부분이 있는 상무부 무역국의 모 든 업무, 자산, 권리, 책임, 부채 및 예산은 사무처로 이관하도록 한다.

제92조

이 법의 시행 전에 「1999년 무역 부문경쟁법」에 따라 제정되어 시 행되고 있는 모든 부령이나 고시, 원칙 또는 규칙은 이 법에 따라 부령이나 공고 또는 규칙이 제정 될 때까지 이 법에 위배되거나 저촉되는 것을 제외하고 적용하 도록 한다. 첫번째 단락에 따른 부령이나 공 고 또는 규칙 제정은 이 법이 발 효하는 날부터 365일 이내에 이 행을 완료하도록 한다. 만약 이행 이 불가능하다면 장관이 이행이 불가능한 사유를 내각에 보고하 여 알리도록 한다.

부서 대령 쁘라윳 짠오차 총리 수수료 (1) 제51조 두번째 단락에 따른 기업결합 허가 신청 회당 25만바 트 (2) 제59조에 따른 심사 청구 회당 5만바트 (3) 제52조에 따른 사본 복사 및 공증 비용이나 제59조에 따른 판 결 또는 제60조에 따른 명령 장 당 100바트