พระราชบัญญัติ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2566 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดินและกฎหมายว่าด้วยภาษีบำรุงท้องที่ พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 26 ประกอบกับมาตรา 32 มาตรา 33 มาตรา 37 มาตรา 40 มาตรา 41 และมาตรา 43 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เหตุผลและความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชบัญญัตินี้ เพื่อให้การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเพื่อให้การจัดเก็บภาษีดังกล่าวมีความเหมาะสมและเป็นธรรมยิ่งขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจของประเทศ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัตินี้ไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ทำหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2566" มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป มาตรา 3 ให้ยกเลิก (1) พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน ทุกฉบับ *ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 123/ตอนที่ 30 ก/หน้า 1/30 มีนาคม 2566 (ข) พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดินแก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช ๒๕๐๔ (ค) พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน (ฉบับที่ ๓) พุทธศักราช ๒๕๐๔ (ง) พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๘ (จ) พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๑๐ (ฉ) พระราชบัญญัติภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. ๒๔๘๑ (ช) ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๐๓ ลงวันที่ ๑๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๑๕ (ซ) พระราชบัญญัติภาษีบำรุงท้องที่ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๐๔ (ฌ) พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. ๒๕๐๘ ๒๕๔๕ (๑๐) พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. ๒๕๐๘ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๔ (๑๑) พระราชบัญญัติภาษีบำรุงท้องที่ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๔ (๑๒) พระราชบัญญัติค่าภาคหลวงแร่ทองคำที่ดินสำหรับการประเมินภาษีบำรุง ท้องที่ พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๓ กฎหมาย กฎ ระเบียบและข้อบังคับใดที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่ พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับซึ่งมีบทบัญญัติในเรื่องโรงเรือนและที่ดินภาษีบำรุงท้องที่ตามที่กล่าวถึงการ โรงเรือนและที่ดินหรือภาษีบำรุงท้องที่ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีบำรุงท้องที่ ให้ไม่มีความหมายเป็น การกล่าวถึงหรืออ้างถึงภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ กฎหมายใดที่ได้บัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับพระราชบัญญัติที่ใช้บังคับ ซึ่งได้บัญญัติให้ ทรัพย์สินหรือบุคคลได้รับการยกเว้นภาษีโรงเรือนและที่ดินหรือภาษีบำรุงท้องที่ ให้ทรัพย์สินหรือบุคคล ประเภทหนึ่งโดยเฉพาะหรือได้รับการยกเว้นภาษีโรงเรือนและที่ดินตามกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือน และที่ดินหรือภาษีบำรุงท้องที่ตามกฎหมายว่าด้วยภาษีบำรุงท้องที่ ให้ไม่มีความหมายเป็นการยกเว้น ภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ ความในวรรคสองนี้ให้บังคับกับการยกเว้นภาระภาษีอากรตามกฎหมายที่ตราขึ้นตาม ข้อมูลที่พบในประเทศไทยไม่อยู่ในอาการที่จะประกาศใช้ หรือกฎหมายระหว่างประเทศ หรือกฎหมาย ความตกลงระหว่างประเทศ หรือกฎหมายที่ต้องปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้ “ภาษี” หมายความว่า ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง “สิ่งปลูกสร้าง” หมายความว่า บุคคลธรรมดาหรือเป็นบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินหรือสิ่ง ปลูกสร้างที่ตั้งอยู่บนที่ดินนั้นเพื่อประโยชน์ในทางเศรษฐกิจหรือเพื่อประโยชน์ในทางอื่นใด ซึ่งไม่รวมถึงที่ดินที่เสียภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ และไม่รวมถึงที่ดินที่ใช้เพื่อการเกษตรกรรมซึ่ง ผู้เสียภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ต้อง “ที่ดิน” หมายความว่า ที่ดิน และให้หมายความรวมถึงที่ดินที่มีสิ่งปลูกสร้างหรือสิ่งปลูกสร้างที่ตั้งอยู่ “สิ่งปลูกสร้าง” หมายความว่า อาคาร โรงเรือน สถานที่ หรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ที่ บุคคลอาจเข้าอยู่อาศัยหรือใช้สอยได้ หรือที่ใช้เป็นที่เก็บสินค้าเพื่อประกอบการอุตสาหกรรมหรือการค้า ยกรวมและให้หมายความรวมถึงห้องชุดหรือแฟลตบุคคลอาจใช้อยู่อาศัยหรือที่มีไว้เพื่อทำ ผลประโยชน์ด้วย “ห้องชุด” หมายความว่า ห้องชุดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุดที่มีเอกสารสิทธิ แสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุดแล้ว “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นตามที่มีกฎหมายกำหนด แต่ไม่หมายความ รวมถึงองค์กรบริหารส่วนจังหวัด “เขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า (๑) เขตเทศบาล (๒) เขตองค์การบริหารส่วนตำบล (๓) เขตกรุงเทพมหานคร (๔) เขตเมืองพัทยา (๕) เขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นตามที่มีกฎหมายกำหนด แต่ไม่หมายความ รวมถึงเขตขององค์กรบริหารส่วนจังหวัด “ผู้บริหารท้องถิ่น” หมายความว่า (๑) นายกเทศมนตรี (๒) นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (๓) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (๔) นายกเมืองพัทยา (๕) ผู้บริหารท้องถิ่นอื่นตามที่มีกฎหมายกำหนด แต่ไม่หมายความรวมถึงนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัด “ข้อตกลงท้องถิ่น” หมายความว่า (๑) เทศบัญญัติ (๒) ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบล (๓) ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร (๔) ข้อบัญญัติเกมืองพัทยา (๕) ข้อตกลงท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นตามที่มีกฎหมายกำหนด แต่ไม่ หมายความรวมถึงข้อตกลงขององค์กรบริหารส่วนจังหวัด “คณะกรรมการมาตรฐานการเงินท้องถิ่น” หมายความว่า คณะกรรมการ กำหนดกรอบเงินทุนทรัพย์งบประมาณท้องถิ่น “คณะกรรมการประเมินราคาทรัพย์สิน” หมายความว่า คณะกรรมการซึ่งจัดตั้ง ตามพระราชบัญญัติที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง “คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษี” หมายความว่า คณะกรรมการ พิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษีซึ่งจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีกรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี “เจ้าหน้าที่ประเมิน” หมายความว่า ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้มีหน้าที่สำรวจที่ดินและสิ่ง ปลูกสร้างหรือผู้เสียภาษีซึ่งเป็นเจ้าของหรือครอบครองอยู่ “เจ้าหน้าที่ประเมิน” หมายความว่า ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้มีหน้าที่ประเมินภาษี "พนักงานเก็บภาษี" หมายความว่า ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้มีหน้าที่รับชำระภาษี และเร่งรัดการเก็บภาษี "ปี" หมายความว่า ปีปฏิทิน "รัฐมนตรี" หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่เกี่ยวข้อง รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของตน กฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้ หมวด ๑ บททั่วไป มาตรา ๗ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจจัดเก็บภาษีอากรที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ ภาษีที่จัดเก็บได้ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด ให้เป็นรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น มาตรา ๘ ให้ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นทรัพย์สินดังต่อไปนี้ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ (๑) ทรัพย์สินของรัฐหรือของหน่วยงานของรัฐซึ่งใช้ในกิจการของรัฐหรือของหน่วยงานของรัฐโดยมิได้หาผลประโยชน์ (๒) ทรัพย์สินที่เป็นที่ทำการขององค์กรระหว่างประเทศ หน่วยการบัญชีพิเศษขององค์การระหว่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศ ซึ่งประเทศไทยต้องผูกพันต้องยกเว้นภาษีให้ตามสนธิสัญญาหรือความตกลงที่มี (๓) ทรัพย์สินที่เป็นที่ทำการสถานกงสุลของต่างประเทศ ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของปฏิญญาต่อกัน (๔) ทรัพย์สินของสถานทูตไทย (๕) ทรัพย์สินที่เป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เฉพาะในกิจการสาธารณะ ศาสนสถานที่ใช้ในกิจการสาธารณะ หรือทรัพย์สินที่เป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งใช้ในกิจการสาธารณะไม่ว่าในสถานใด หรือทรัพย์สินที่เป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งใช้ในกิจการสาธารณะ ทั้งนี้ เฉพาะที่มิได้หาผลประโยชน์ (๖) ทรัพย์สินที่ไม่ได้เป็นสถานประกอบการหรืออยู่ในสถานประกอบการ โดยมิได้รับประโยชน์ตอบแทน (๗) ทรัพย์สินที่เป็นของมูลนิธิหรือองค์กรการกุศลตามที่กระทรวงศึกษาธิการหรือกระทรวงการคลังกำหนดประกาศกำหนด ทั้งนี้ เฉพาะที่มิได้หาผลประโยชน์ (๘) ทรัพย์สินของเอกชนเฉพาะส่วนที่ได้ยินยอมให้ทางราชการจัดให้ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนด (๙) ทรัพย์ส่วนกลางที่ใช้เพื่อหรือเป็นประโยชน์ร่วมกันสำหรับเจ้าของร่วมตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด (๑๐) ที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน (๑๑) ที่ดินอันเป็นที่สาธารณประโยชน์ตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมแห่งประเทศไทย (๑๒) ทรัพย์สินอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง มาตรา ๘ ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของหรือครอบครองหรือคนครองที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอยู่ในวันที่ ๑ มกราคม ของปีใด เป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีสำหรับปีนั้น ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ การเสียภาษีอาจมอบให้ผู้เสียภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ ไม่เป็นเหตุให้เกิดสิทธิขาดตามกฎหมายอื่น มาตรา ๙ ในกรณีที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองหรือการจดทะเบียนทรัพย์สินที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง ขอผู้เสียภาษีจะส่งให้แก่บุคคลใดที่รับรองนิติการแล้ว และอยู่ ณ ภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่หรือสถานที่ทำการที่ปรากฏว่าเป็นของผู้เสียภาษีนั้นก็ได้ ถ้าไม่สามารถส่งหนังสือตามวิธีการที่กำหนดในวรรคหนึ่งได้ จะกระทำโดยวิธีปิดหนังสือในที่ที่เห็นได้ง่าย ณ ภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่หรือสถานที่ทำการของผู้เสียภาษีนั้นหรือส่งประกาศแจ้งความในหนังสือพิมพ์ก็ได้ เมื่อได้ดำเนินการตามวรรคสองและวรรคสามแล้วให้ถือว่าหนังสือนั้นได้ส่งถึงแก่บุคคลดังกล่าว ให้ถือว่าผู้เสียภาษีได้รับหนังสือนั้นแล้ว
กำหนดเวลาต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ มิใช่ระยะเวลาที่กระทรวงมหาดไทยเห็นเป็นการสมควรที่จะเลื่อนหรือเลิกกำหนดเวลานั้นออกไปเป็นการทั่วไปตามความจำเป็นแก่กรณีได้
คณะกรรมการวินิจฉัยอาชีพที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ราชการของสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเป็นเลขานุการ และอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ราชการของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
ให้คำวินิจฉัยเกี่ยวกับการกำหนดประเภทที่ดินสำหรับการจัดเก็บภาษีและการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ตามที่คณะกรรมการประจำจังหวัดหรือเจ้าพนักงานประเมิน กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย หรือผู้เสียภาษีร้องขอ
ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้และตามที่คณะกรรมการวินิจฉัยอาชีพที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตำบล หรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นในจังหวัดตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศกำหนด คณะกรรมการการขีดแนวเขตที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำจังหวัด มีหน้าที่และอำนาจพิจารณาให้ความเห็นชอบข้อราชการเกี่ยวกับการขีดแนวเขตที่ดินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง ให้ความเห็นชอบการลดหย่อนภาษีหรือยกเว้นภาษีของผู้บริหารท้องถิ่นตามมาตรา ๑๓ วรรคสอง และให้ความเห็นชอบการกำหนดอัตราภาษีของผู้บริหารท้องถิ่นตามมาตรา ๑๓ วรรคสาม รวมทั้งปฏิบัติการอื่นใดตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ทั้งนี้ “ผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นในจังหวัด” ให้หมายความรวมถึงนายกเมืองพัทยาด้วย
ในกรณีที่กระทรวงมหาดไทยไม่เห็นด้วยกับคำปรึกษาหรือคำแนะนำของคณะกรรมการการขีดแนวเขตที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำจังหวัดตามวรรคหนึ่ง ให้กระทรวงมหาดไทยส่งเรื่องพร้อมกับความเห็นไปยังคณะกรรมการวินิจฉัยการขีดแนวเขตที่ดินและสิ่งปลูกสร้างภายในกำหนดเวลาดังนี้ได้รับคำปรึกษาหรือคำแนะนำดังกล่าว การแจ้งและการส่งเรื่องตามมาตรานี้ ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศกำหนด
ให้กรุงเทพมหานครจัดส่งข้อมูลที่เกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีในกรุงเทพมหานครให้แก่กระทรวงมหาดไทยโดยตรง ให้กระทรวงมหาดไทยประมวลผลข้อมูลที่ได้รับจากวรรคสองและวรรคสาม และให้จัดส่งข้อมูลที่ได้จากการประมวลผลแล้วให้แก่คณะกรรมการการขีดแนวเขตที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต่อไป ให้หน่วยงานควบคุมส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายว่าด้วยการกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การรวบรวมและการจัดส่งข้อมูลตามมาตรานี้ ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศกำหนด
การสำรวจและจัดทำบัญชีรายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
ในการดำเนินการสำรวจดังกล่าว หากเจ้าพนักงานสำรวจขอให้ผู้เสียภาษีจัดเตรียมเอกสารหรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างได้ ในการสำรวจที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามวรรคหนึ่ง ถ้าที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างมีลักษณะพิเศษ ให้นักงานสำรวจขอคำแนะนำผู้เชี่ยวชาญหรือที่ปรึกษาเพื่อมีหนังสือรับรองเอกสารหรือหลักฐานดังกล่าวต่อไป
การคำนวณมูลค่าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
ที่ดิน ให้ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินนั้นในแต่ละปีในการคำนวณ
สิ่งปลูกสร้าง ให้ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์สิ่งปลูกสร้างในแต่ละปีในการคำนวณ
สิ่งปลูกสร้างที่เป็นห้องชุด ให้ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์ห้องชุดนั้นในแต่ละปีในการคำนวณ คำนวณ กรณีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มีราคาประเมินทุนทรัพย์ การคำนวณให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง ราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นห้องชุด ให้เป็นไปตามราคาประเมินทุนทรัพย์ของอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวกับภาระภาษีตามพระราชบัญญัติภาษีและกิจการตามประมวลกฎหมายที่ดิน ที่คณะอนุกรรมการประจำจังหวัดกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์
ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ให้มีอัตราภาษีไม่เกินร้อยละศูนย์จุดหนึ่งห้าของฐานภาษี
ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย ให้มีอัตราภาษีไม่เกินร้อยละศูนย์จุดสองของฐานภาษี
ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์อื่นนอกจาก (๑) หรือ (๒) ให้มีอัตราภาษีไม่เกินร้อยละศูนย์จุดเจ็ดห้าของฐานภาษี
ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้ระบุไว้ในลำดับที่หนึ่งถึงสาม ให้มีอัตราภาษีไม่เกินร้อยละหนึ่งของฐานภาษี การใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม (๑) ต้องเป็นการทำนา ทำไร่ ทำสวน เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงสัตว์น้ำ และกิจการอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังร่วมกันออกกฎกระทรวงกำหนดการใช้ประโยชน์ดังกล่าว การใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย (๒) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังร่วมกันออกกฎกระทรวงกำหนด ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้ระบุไว้ในลำดับที่หนึ่งถึงสาม (๔) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวง ``` อัตราภาษีที่ใช้จัดเก็บความวรรคนั้น ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา โดยจะกำหนดเป็นตัวการเสียภาษีอากรหรือจำนวนลูกสุกรอย่างอื่นหรือสิ่งปลูกสร้างก็ได้ ทั้งนี้ ต้องไม่เป็นอัตราภาษีที่กำหนดตามความวรรคนั้น และจะกำหนดแตกตามประเภทการใช้ประโยชน์หรือความจำเป็นในแต่ละประเภทการใช้ประโยชน์ก็ได้ ในการนี้ต้องกำหนดการจัดเก็บความวรรคนั้นให้มีความประสงค์ที่จะจัดเก็บภาษีในอัตราที่สูงกว่าอัตราภาษีที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกาในความวรรคนั้น แต่ต้องไม่เกินอัตราภาษีที่กำหนดในความวรรคนั้น ในการตรวจบัญชีของผู้ต้องเสียภาษีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามความวรรคนั้น ยกเว้นกรุงเทพมหานครการสอบบัญชีจะต้องใช้บัญชีของผู้ต้องเสียภาษีที่จัดเก็บตามบัญชีในกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้บัญชีการจัดเก็บเสนอต่ออัตราการสอบบัญชีของผู้ต้องเสียภาษีให้คณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำจังหวัดให้ความเห็นชอบก่อน เมื่อคณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำจังหวัด เห็นชอบอัตราการสอบบัญชีของผู้ต้องเสียภาษีแล้วจึงให้บัญชีการจัดเก็บเสนอไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้ ในการนี้คณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำจังหวัดไม่เห็นชอบกับอัตราการสอบบัญชีตามบัญชีของผู้ต้องเสียภาษี ให้ส่งความเห็นเกี่ยวกับอัตราการสอบบัญชีของผู้ต้องเสียภาษีไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น หรือหากมีความเห็นว่าอัตราการสอบบัญชีตามบัญชีของผู้ต้องเสียภาษีไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้อง ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาให้คณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำจังหวัดทราบ หากคณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำจังหวัดยังไม่เห็นชอบกับอัตราการสอบบัญชีตามบัญชีของผู้ต้องเสียภาษี ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเป็นผู้ตัดสิน
``` สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา การยกเว้นมูลค่าของฐานภาษีตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยร่วมกันประกาศกำหนด
ในกรณีที่บุคคลธรรมดาเป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้าง แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดิน และใช้สิ่งปลูกสร้างดังกล่าวเป็นที่อยู่อาศัย และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรไม่น้อยกว่า 1 ปี มูลค่าคงของฐานภาษีนั้น ให้ได้รับยกเว้นมูลค่าของฐานในการคำนวณภาษีไม่เกินสิบล้านบาท ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเพื่อคำนวณการยกเว้นมูลค่าของฐานภาษีตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง มีให้พิจารณาการโอนกรรมสิทธิ์หรือการครอบครองในสิ่งปลูกสร้างที่เป็นสิ่งปลูกสร้างหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรไม่น้อยกว่า 1 ปี นับจากเวลาที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือการครอบครองดังกล่าว ตั้งกล่าวมานี้จะเหตุขึ้นในกรณีการจดทะเบียนหรือการโอนกรรมสิทธิ์หรือการครอบครองสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรไม่น้อยกว่า 1 ปี นับจากเวลาที่มีการโอนกรรมสิทธิ์หรือการครอบครองดังกล่าว
เพื่อประโยชน์ในการคำนวณจำนวนภาษีตามวรรคหนึ่ง กรณีที่ดินตามแปลงดังมีอาณาเขตติดต่อกันและเป็นของเจ้าของเดียวกัน ให้คำนวณมูลค่าที่ดินทั้งหมดรวมกันเป็นฐานภาษี
ให้แจ้งอัตราภาษีดังกล่าวด้วยข้อมูลมูลค่าในทุกส่วน แต่ต้องการให้มีการแจ้งเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จในระยะเวลา
การแจ้งการประเมินภาษี และแบบประเมินภาษี ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศกำหนด ซึ่งอย่างน้อยต้องมีรายการที่แสดงถึงมูลค่าที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ราคาประเมินทุนทรัพย์ อัตราภาษี และจำนวนภาษีที่ต้องชำระ
ผู้จัดการมรดกกรณีทรัพย์สินที่เสียภาษีตกอยู่แก่กองมรดก
ผู้จัดการทรัพย์สิน กรณีทรัพย์สินที่เสียภาษีไม่อยู่ภายใต้การประกอบกองมรดกและพาณิชย์ด้วยส่วนตัว
ผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ ในกรณีทรัพย์สินที่เสียภาษีเป็นของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ แล้วแต่กรณี
ผู้แทนของนิติบุคคล ในกรณีทรัพย์สินที่เสียภาษีเป็นของนิติบุคคล
ผู้แทนของบุคคลที่ไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย ในกรณีทรัพย์สินที่เสียภาษีเป็นของบุคคลดังกล่าว
เจ้าของรวมคนหนึ่งคนใด ในกรณีทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษีเป็นของบุคคลหลายคนรวมกัน
สำนักงานเขตเทศบาล สำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในเขตเทศบาล
ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล สำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบล
สำนักงานเขตที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างตั้งอยู่ สำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร
สำนักงานเมืองพัทยา สำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในเขตเมืองพัทยา
ที่ทำการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายกำหนด สำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ในกรณีที่มีความจำเป็น ผู้บริหารท้องถิ่นอาจกำหนดให้ใช้สถานที่อื่นภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น เป็นสถานที่สำหรับชำระภาษีสรรพสามิตได้ตามที่เห็นสมควร การชำระภาษีสรรพสามิต ให้ถือว่าวันที่พนักงานเก็บภาษีลงลายมือชื่อในใบเสร็จรับเงินเป็นวันที่ชำระภาษี
ในกรณีที่ต้องมีการชำระภาษีเพิ่มเติม ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งการประเมินภาษีตามพระราชบัญญัติ และส่งแบบประเมินภาษีแก่ผู้เสียภาษี และให้ผู้เสียภาษีชำระภาษีที่ต้องเสียเพิ่มเติมโดยไม่ต้องเสียเบี้ยปรับหรือเงินเพิ่มภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับการประเมิน ในกรณีที่มีการชำระภาษีไว้เกินจำนวนที่ต้องเสีย ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีหนังสือแจ้งให้ผู้เสียภาษีทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ตรวจสอบพบว่ามีการประเมินภาษีผิดพลาด เพื่อให้การเงินส่วนที่ชำระเกินคืนแก่ผู้เสียภาษีในทันทีหรือในกำหนดเวลาที่เหมาะสม
การขอรับเงินคืนตามวรรคหนึ่ง ให้ยื่นคำร้องต่อผู้บริหารท้องถิ่นตามแบบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศกำหนด ภายในสามปีนับแต่วันที่ชำระภาษี ในการนี้ให้ผู้ยื่นคำร้องแสดงหลักฐาน หรือคำชี้แจงใด ๆ ประกอบคำร้องด้วย ให้ผู้บริหารท้องถิ่นพิจารณาคำร้องและแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ยื่นคำร้องทราบภายในกำหนดเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้บริหารท้องถิ่นพิจารณาแล้วเห็นว่าผู้ยื่นคำร้องมีสิทธิได้รับเงินคืน ให้ผู้บริหารท้องถิ่นคืนเงินให้แก่ผู้ยื่นคำร้อง โดยต้องแจ้งคำสั่งให้ผู้ยื่นคำร้องทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่มีคำสั่ง ในกรณีที่มีคำสั่งให้คืนเงินแก่ผู้ยื่นคำร้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจคืนเงินให้แก่ผู้ยื่นคำร้องเป็นเงินสดหรือเช็ค หรือโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ยื่นคำร้องตามที่ผู้ยื่นคำร้องแจ้ง ทั้งนี้ หากผู้ยื่นคำร้องไม่ขอรับเงินคืนในภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง ให้เงินนั้นตกเป็นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
เมื่อมีการสำรวจข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่ามีความเสียหายจริง ให้จัดการดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากปรากฏข้อเท็จจริงเป็นที่เชื่อได้ว่ามีเหตุให้ต้องลดราคาประเมินทุนทรัพย์ ให้ผู้บริหารท้องถิ่นแจ้งให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ทราบเพื่อพิจารณาและดำเนินการตามมาตรา 60 หรือผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาและดำเนินการตามมาตรา 61 แล้วแต่กรณี หากคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์หรือผู้ว่าราชการจังหวัดเห็นชอบด้วย ให้ผู้บริหารท้องถิ่นดำเนินการแก้ไขบัญชีรายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่ได้รับประโยชน์จากที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างนั้น
อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินนั้นไม่ได้ แต่ห้ามมิให้อายัด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้เสียภาษีในกรณีว่าภาระจำเป็นของครัวเรือนที่จำเป็นสำหรับการยังชีพ เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามคำสั่งเป็นหน้าที่ของอธิบดี อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้บริหารท้องถิ่นตามวรรคหนึ่ง ในกรณีที่เป็นนายกเทศมนตรี นายองค์การบริหารส่วนตำบล และนายเมืองพัทยา ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัด วิธีการอายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้เสียภาษีตามมาตรา 26 ให้ดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีการทางปกครองและไม่ให้นำประมวลกฎหมายวิธีการทางปกครองมาใช้บังคับโดยอนุโลม เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้ การอายัด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้เสียภาษี ไม่ให้นำมาตราว่าด้วยการอายัด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้เสียภาษีที่ทำการอายัดแทนตามมาตรา 9
ในกรณีผู้บริหารหรือผู้อนุมัติให้ยกเว้นภาษีในเหตุผลอันควรแก่การยกเว้น และได้มีการชำระภาษีภายในกำหนดเวลาที่ขยายให้นั้น เงินเพิ่มตามวรรคหนึ่งให้ลดลงหรือยกเว้นตามที่กำหนดหรือเหตุผลเดือน เงินเพิ่มตามวรรคหนึ่ง ให้ไม่นับเป็นองค์ประกอบในการคำนวณภาษีเงินได้ที่มีการชำระภาษี แต่ให้ถือเป็นภาระภาษีที่ต้องชำระโดยไม่รวมเบี้ยปรับ และไม่ให้คำนวณดอกเบี้ย
ผู้บริหารท้องถิ่นต้องพิจารณาคำร้องของผู้เสียภาษีและแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้เสียภาษีทราบโดยไม่ชักช้า กรณีผู้บริหารท้องถิ่นพิจารณาคำร้องของผู้เสียภาษีไม่แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ถือว่าผู้บริหารท้องถิ่นเห็นชอบกับคำร้องของผู้เสียภาษี ในกรณีที่ผู้บริหารท้องถิ่นพิจารณาเห็นชอบกับคำร้องของผู้เสียภาษี ให้แจ้งจำนวนภาษีที่ต้องเสียเพิ่มเติมหรือเงินส่วนที่ต้องชำระคืนแก่ผู้เสียภาษี และให้ผู้เสียภาษีชำระเงินภาษีภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งผลการพิจารณาดังกล่าว ในกรณีที่ผู้บริหารท้องถิ่นพิจารณาไม่เห็นชอบกับคำร้องของผู้เสียภาษี ให้ผู้เสียภาษีนั้นมีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษี โดยยื่นอุทธรณ์ต่อผู้บริหารท้องถิ่นภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งผลการพิจารณา ทั้งนี้ ให้ผู้บริหารท้องถิ่นส่งคำอุทธรณ์พร้อมทั้งความเห็นของตนไปยังคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษีเพื่อพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ให้ผู้เสียภาษีทราบโดยเร็ว การคัดค้านการประเมินภาษีไม่เป็นการงดเว้นการชำระภาษี เว้นแต่ผู้บริหารท้องถิ่นหรือคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษีจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ในกรณีที่ผู้เสียภาษีไม่ชำระภาษีภายในกำหนดเวลา ให้ผู้บริหารท้องถิ่นมีอำนาจเรียกเก็บเงินเพิ่มจากจำนวนภาษีที่ค้างชำระในอัตราร้อยละสองต่อเดือนของจำนวนภาษีที่ค้างชำระ ทั้งนี้ การคำนวณเงินเพิ่มให้คิดเป็นรายวันตามจำนวนวันที่ค้างชำระ ในกรณีที่ผู้บริหารท้องถิ่นให้เหตุอันควรที่จะระงับการชำระภาษีไว้แล้ว ถ้าต่อมาปรากฏว่าผู้เสียภาษีเป็นฝ่ายแพ้คดีหรือหากมีคำสั่งให้ชำระภาษีหรือชำระภาษีบางส่วน ให้ผู้บริหารท้องถิ่นมีอำนาจเรียกเก็บเงินเพิ่มจากจำนวนภาษีที่ค้างชำระในอัตราร้อยละสองต่อเดือนของจำนวนภาษีที่ค้างชำระ ทั้งนี้ การคำนวณเงินเพิ่มให้คิดเป็นรายวันตามจำนวนวันที่ค้างชำระ
ให้ผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นเลขานุการ เป็นผู้พิจารณาร่วมกับเลขานุการของผู้บริหารท้องถิ่นตามมาตรา 5 ทั้งนี้ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกำหนด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด เป็นเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ
ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแต่งตั้งข้าราชการสังกัดกรุงเทพมหานคร เป็นเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ เมื่อประธานกรรมการหรือกรรมการรายใดพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา ๔๗ และมาตรา ๔๘ มีการยกร่างตำแหน่งใหม่คราวละสามปี
เมื่อครบกำหนดตามวาระในวรรคหนึ่ง หากยังไม่ได้มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นใหม่ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งตามวาระนั้น อยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งใหม่จะเข้ารับหน้าที่ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระไม่ได้
ตาย
ลาออก
เป็นบุคคลล้มละลาย
เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
ถูกจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก
คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษีมีมติสำคัญให้ออกจากตำแหน่งบางกรณีอย่างอื่นที่หรือมีความประพฤติเสื่อมเสียอย่างร้ายแรง ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ ให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษีแต่งตั้งผู้ซึ่งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทน และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างนั้นอยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่าที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นตำแหน่งแล้ว
ผู้ถูกอุทธรณ์ซึ่งไม่ปฏิบัติตามหนังสือเรียกของกรรมการดังกล่าวนี้ โดยไม่มีเหตุอันสมควร คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษีอาจอนุญาตหรือยกอุทธรณ์นั้นเสียก็ได้
ในกรณีที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษี มีคำวินิจฉัยให้คืนเงินแก่ผู้ถูกอุทธรณ์ ให้แจ้งคำวินิจฉัยไปยังผู้รับคำร้องที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการคืนเงินแก่ผู้ถูกอุทธรณ์ภายในกำหนดวันที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษีกำหนด ให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์การประเมินภาษี สั่งคืนหรือหักเงินให้คืนตามคำวินิจฉัยนั้นในกรณีที่มีคำวินิจฉัยให้คืนเงิน แต่ต้องไม่เกินจำนวนเงินที่ได้รับคืน ถ้าผู้ถูกอุทธรณ์ไม่รับเงินคืนภายในกำหนดวันที่บัญญัติไว้ในคำวินิจฉัย ให้เงินคืนตกเป็นของกรมภาษีอากรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บทกำหนดโทษ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เงินค่าปรับที่ได้จากการเปรียบเทียบตามพระราชบัญญัตินี้เกิดขึ้นในเขตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด ให้ตกเป็นรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น บทเฉพาะกาล
การจัดส่งข้อมูลให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามวรรคหนึ่ง ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยวิธีการที่เป็นธรรมและหรือที่อาจตามประกาศกำหนดตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด
ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม (ก) มูลค่าของฐานภาษีไม่เกินห้าสิบล้านบาท ให้ใช้อัตราการย่อยศูนย์จุดศูนย์หนึ่ง (ข) มูลค่าของฐานภาษีเกินห้าสิบล้านบาท แต่ไม่เกินหนึ่งร้อยล้านบาท ให้ใช้อัตราการย่อยศูนย์จุดศูนย์สอง (ค) มูลค่าของฐานภาษีเกินหนึ่งร้อยล้านบาท แต่ไม่เกินห้าร้อยล้านบาท ให้ใช้อัตราการย่อยศูนย์จุดศูนย์สาม (ง) มูลค่าของฐานภาษีเกินห้าร้อยล้านบาท แต่ไม่เกินหนึ่งพันล้านบาท ให้ใช้อัตราการย่อยศูนย์จุดศูนย์ห้า (จ) มูลค่าของฐานภาษีเกินหนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป ให้ใช้อัตราการย่อยศูนย์จุดหนึ่ง
ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร (ก) มูลค่าของฐานภาษีไม่เกินสิบล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์ห้า (ข) มูลค่าของฐานภาษีเกินสิบล้านบาท แต่ไม่เกินห้าสิบล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์เจ็ดห้า (ค) มูลค่าของฐานภาษีเกินห้าสิบล้านบาทขึ้นไป ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดหนึ่ง (ง) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัยโดยการยื่นขอจดทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร (จ) มูลค่าของฐานภาษีไม่เกินห้าสิบล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์สอง (ฉ) มูลค่าของฐานภาษีเกินห้าสิบล้านบาท แต่ไม่เกินหนึ่งร้อยล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์สาม (ช) มูลค่าของฐานภาษีเกินหนึ่งร้อยล้านบาทขึ้นไป ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์ห้า (ซ) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัยโดยการยื่นขอจดทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร (ฌ) มูลค่าของฐานภาษีไม่เกินห้าสิบล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์สอง (ญ) มูลค่าของฐานภาษีเกินห้าสิบล้านบาท แต่ไม่เกินหนึ่งร้อยล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์สาม (ฎ) มูลค่าของฐานภาษีเกินหนึ่งร้อยล้านบาทขึ้นไป ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์ห้า (ฏ) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์นอกจากการประกอบเกษตรกรรมและเป็นที่อยู่อาศัย (ฐ) มูลค่าของฐานภาษีไม่เกินห้าสิบล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์สอง (ฑ) มูลค่าของฐานภาษีเกินห้าสิบล้านบาท แต่ไม่เกินหนึ่งร้อยล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์สาม (ฒ) มูลค่าของฐานภาษีเกินหนึ่งร้อยล้านบาทขึ้นไป ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์ห้า (ณ) มูลค่าของฐานภาษีไม่เกินห้าสิบล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์สอง (ด) มูลค่าของฐานภาษีเกินห้าสิบล้านบาท แต่ไม่เกินหนึ่งร้อยล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์สาม (ต) มูลค่าของฐานภาษีเกินหนึ่งร้อยล้านบาทขึ้นไป ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละศูนย์จุดศูนย์ห้า ``` (ก) มูลค่าของฐานภาษีเกินสองร้อยล้านบาท แต่ไม่เกินห้าร้อยล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละสี่จุดหกห้า (ข) มูลค่าของฐานภาษีเกินห้าร้อยล้านบาท แต่ไม่เกินหนึ่งพันล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละสี่จุดหกศูนย์ (ค) มูลค่าของฐานภาษีเกินหนึ่งพันล้านบาทขึ้นไป ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละสี่จุดหกศูนย์ห้า
เพื่อประโยชน์ในการคำนวณจำนวนภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ กรณีที่ดินหลายแปลงซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกันและเป็นของเจ้าของเดียวกัน ให้ถือว่ามูลค่าที่ดินทั้งหมดรวมกันเป็นฐานภาษี
ต้องเสียภาษีหรือจ่ายไปก่อน เฉลี่ยอัตราภาษีเท่าใด ให้ผู้เสียภาษีชำระภาษีดังนี้
ปีที่หนึ่ง ร้อยละสิบจากจำนวนภาษีที่เหลือ
ปีที่สอง ร้อยละห้าสิบของจำนวนภาษีที่เหลือ
ปีที่สาม ร้อยละเจ็ดสิบของจำนวนภาษีที่เหลือ
ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ``` หมาเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่กฎหมายว่าด้วยการชั่งตวง และตวงและกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดที่ใช้บังคับอยู่ในเวลานี้มีความล้าสมัย การดำเนินการพัฒนากฎหมายทั้งสองฉบับไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน สมควรแก้ไขกฎหมายทั้งสองฉบับดังกล่าวและให้มีกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดและสิ่งปลูกสร้างแทน โดยมุ่งเน้นการปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้รับผิดชอบการจัดเก็บรายได้หลักๆ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติฉบับนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พัชราภรณ์/ธนบดี/จัดทำ 13 มีนาคม 2562 นุสรา/ตรวจ 17 มีนาคม 2562