``` ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. เป็นปีที่ ๑๑ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๙
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายอาญาเสียใหม่พระอันเป็นได้ประกาศใช้กฎหมายลักษณะอาญา ในยุครัตโกสินทร์ ๑๒๗ เป็นลำมา พฤติการณ์ของบ้านเมืองได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นอันมาก
ถ้ากำหนดโทษขั้นที่ ๑ หมายความว่า ปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาท ถ้ากำหนดโทษขั้นที่ ๒ หมายความว่า ปรับไม่เกินห้าร้อยบาท ถ้ากำหนดโทษขั้นที่ ๓ หมายความว่า จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้ากำหนดโทษขั้นที่ ๔ หมายความว่า จำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
``` มาใช้บังคับ แต่สำหรับความผิดที่ได้กระทำก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ มิให้ กำหนดโทษที่หนักกว่าที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติ และจะต้องเป็นโทษปรับหรือมาตรการทาง กฎหมายอื่นๆ ในกรณีที่วิธีการเพื่อความปลอดภัยตามมาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัติ ให้บังคับผู้ซึ่งแสดงพฤติการณ์แห่งความวิกลจริตหรือมีลักษณะอันน่าจะใช้บังคับ เสริมอื่นในกรณีที่มีความผิดตามกฎหมาย แต่หากมีการกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันใน เวลาที่ผู้ต้องหามีอาการที่ต้องการพิจารณาให้เหมาะสมโดยคณะกรรมการฯ แล้วแต่ให้บังคับตามเงื่อนไขที่ผู้ต้องหามีความผิดตามกฎหมายในมาตราที่มีเนื้อหาเดียวกัน เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ท่านผู้บัญญัติ กฎหมายโดยอ้างถึงกฎหมายลักษณะอาญา หรือกฎหมายอื่นที่บัญญัติเป็นการเฉพาะ ให้ถือว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายนี้ทั้งฉบับเป็นพระราชบัญญัติ หรือบทบัญญัติ แห่งพระราชบัญญัติในบทมาตราที่มีเนื้อหาเดียวกัน แล้วแต่กรณี ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี สารบัญ พระราชบัญญัติอาญา ภาค ๑ บทบัญญัติทั่วไป
๑
๒-๑๘
๑๔-๓๘
๓๙-๔๐
และการอธิกรณ์โทษ ๔๕-๔๘
๔๙-๕๗
๕๘-๖๐
๖๑-๖๔
๖๕-๖๗
๖๘-๗๐
๙๕-๑๐๑
๑๐๑-๑๐๖ ภาค ๒ ความผิด
รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ๑๐๗-๑๑๒
ราชอาณาจักร ๑๑๓-๑๑๗
ราชอาณาจักร ๑๑๘-๑๒๖/๔
๑๒๗-๑๒๙
๑๓๕/๑-๑๓๕/๔
๑๓๖-๑๔๗
๑๔๘-๑๖๖
๑๖๗-๑๗๓
๑๗๔-๒๐๐
๒๐๖-๒๐๘
๒๐๙-๒๑๖
ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล ๒๑๗-๒๒๒
๒๔๐-๒๔๕
๒๔๖-๒๕๒
๒๖๔-๒๖๘
๒๖๙/๑-๒๖๙/๗
๒๖๒/๗-๒๖๒/๑๕
๒๖๒/๑๖-๒๖๔
๒๖๕-๒๘๗
๒๘๘-๒๙๕
๒๙๖-๓๐๐
๓๐๑-๓๐๕
๓๐๖-๓๐๘
๓๐๙-๓๑๒
๓๑๓-๓๑๕
๓๒๖-๓๓๓
๓๓๔-๓๓๖
และปล้นทรัพย์ ๓๓๗-๓๔๐
๓๔๑-๓๔๔
๓๔๙-๓๕๐
๓๕๖
๓๕๗
๓๕๘-๓๖๒
๓๖๔-๓๖๖
๓๖๗/๑-๓๖๗/๖ ภาค ๓ ลหุโทษ ๓๖๘-๓๙๘ ประมวลกฎหมายอาญา ภาค ๑ บทบัญญัติทั่วไป
บทบัญญัติทั่วไปเกี่ยวกับความผิดทั่วไป
บทนิยาม
"โดยทุจริต" หมายความว่า เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น
"ทางสาธารณะ" หมายความว่า ทางบกหรือทางน้ำสำหรับประชาชนใช้ในการจราจร และให้หมายความรวมถึงทางรถไฟและทางรถรางที่มีสายเด่น สำหรับประชาชนโดยสารด้วย
"สถานที่สาธารณะ" หมายความว่า สถานที่ใด ๆ ซึ่งประชาชนมีความชอบธรรมที่จะเข้าไปได้
"เคหสถาน" หมายความว่า ที่ซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัย เช่น เรือน โรง เรือน หรือแพ ซึ่งบุคคลอาศัย และให้หมายความรวมถึงบริเวณของที่ซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัยนั้นด้วย จะมีรั้วล้อมหรือไม่ก็ตาม
"อาวุธ" หมายความรวมถึงสิ่งซึ่งไม่เป็นอาวุธโดยสภาพ แต่ใช้หรือเจตนาจะใช้เป็นอาวุธทำร้ายร่างกายหรือทำลายทรัพย์ก็เป็นอาวุธ
"ใช้กำลังประทุษร้าย" หมายความว่า ทำการประทุษร้ายแก่กายหรือจิตใจของบุคคล ไม่ว่าจะทำด้วยใช้แรงกายหรืออาวุธหรือวิธีอื่นใด และให้หมายความรวมถึงการทำให้ตกใจ ซึ่งเป็นเหตุให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ไม่ว่าจะโดยใช้ยาหรือทำให้หมดสติหรือใช้วิธีอื่นใดด้วยก็ตาม
"เอกสาร" หมายความว่า กระดาษหรือวัตถุอื่นใดซึ่งได้ทำให้ปรากฏความหมายด้วยตัวอักษร ตัวเลข ผังหรือแผนแบบอย่างอื่น จะเป็นโดยวิธีพิมพ์หรือวิธีถ่ายภาพหรือวิธีอื่นอันเป็นหลักฐานแห่งความหมายนั้น
"เอกสารราชการ" หมายความว่า เอกสารซึ่งเจ้าพนักงานได้ทำขึ้นหรือรับรองในหน้าที่ และให้หมายความรวมถึงสำเนาเอกสารนั้น ๆ ที่เจ้าพนักงานได้รับรองในหน้าที่ด้วย
"เอกสารสิทธิ" หมายความว่า เอกสารที่เป็นหลักฐานแห่งการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวนหรือระงับซึ่งสิทธิ
"ลายมือชื่อ" หมายความรวมถึงลายพิมพ์นิ้วมือและเครื่องหมายอื่นที่บุคคลลงไว้แทนลายมือชื่อของตน
"กลางคืน" หมายความว่า เวลาระหว่างพระอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ขึ้น
"คุมขัง" หมายความว่า คุมตัว ควบคุม จับ กักขังหรือจำคุก
"ค่าไถ่" หมายความว่า ทรัพย์สินหรือประโยชน์ที่เรียกเอา หรือให้เพื่อแลกเปลี่ยนเสรีภาพของผู้ถูกเอาตัวไป ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือผู้ถูกกักขัง
"ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์" หมายความว่า
เอกสารหรือข้อมูลอื่นใดในลักษณะอักษรตัวเลขหรือสัญลักษณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งอยู่ในสื่อหรือระบบที่ไม่สามารถ โดยปกติทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจความหมายได้โดยการมองเห็นธรรมดา เช่น การมองเห็นกระดาษ ไฟฟ้า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือสื่ออื่นใดในลักษณะเดียวกัน ทั้งรวมถึงการประมวลผลการจัดการการส่งหรือการรับข้อมูลดังกล่าวด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วย รหัส หมายเลขบัตร หรือสัญลักษณ์อื่นใด ทั้งที่สามารถมองเห็นและมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
ข้อมูล รหัส หมายเลขบัญชี หมายเลขชุดทางอิเล็กทรอนิกส์หรือเครื่องมือทางอัตโนมัติ ใด ๆ ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ โดยมิได้มีการออกเอกสารหรือวัตถุอื่นใดให้ แต่มีวิธีการให้เห็นทางเดียวกับ (ก) หรือ
สิ่งอื่นใดที่ใช้ประกอบกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลกับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อระบุบุคคลผู้เป็นเจ้าของ
[7] "หนังสือเดินทาง" หมายความว่า เอกสารสำคัญประจำตัวไม่ว่าจะมีรูปลักษณะใดที่รัฐหรือเจ้าหน้าที่รัฐออกให้ หรือองค์กรระหว่างประเทศออกให้แก่บุคคลใด เพื่อใช้แสดงในกรณีเดินทางระหว่างประเทศ และให้หมายความรวมถึงเอกสารที่ใช้แทนหนังสือเดินทางและแบบหนังสือเดินทางที่รัฐหรือองค์กรระหว่างประเทศออกให้ด้วย
[8] "เจ้าพนักงาน" หมายความว่า บุคคลซึ่งกฎหมายบัญญัติว่าเป็นเจ้าพนักงานหรือได้รับแต่งตั้งตามกฎหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ราชการ ไม่ว่าเป็นประจำหรือครั้งคราว และไม่ว่าจะได้รับค่าตอบแทนหรือไม่
[9] "สื่ออิเล็กทรอนิกส์" หมายความว่า วัตถุหรือสิ่งที่แสดงให้รู้หรือเห็นถึงการกระทำทางเพศของเด็กหรือเด็กซึ่งอยู่ในสภาพไม่เกินสมควร โดยรูป เรื่อง หรือคำอันสามารถสื่อไปในทางลามกอนาจาร ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพถ่าย ภาพยนตร์ เครื่องฉายภาพยนตร์ แบบบันทึกเสียง แบบเทปบันทึกภาพ หรือรูปแบบใดในลักษณะเดียวกัน หรือในลักษณะของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือในลักษณะของอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่สามารถแสดงผลให้เห็นหรือได้ยินได้
[10] "กระทำชำเรา" หมายความว่า การกระทำ กระทำชำเรา กระทำโดยการใช้อวัยวะเพศหรือสิ่งอื่นใดกระทำต่ออวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น หรือให้ผู้อื่นกระทำในลักษณะดังกล่าวต่อผู้กระทำหรือบุคคลอื่น
การใช้กฎหมายอาญา
ถ้าตามบทบัญญัติของกฎหมายที่บัญญัติในภายหลัง การกระทำนั้นไม่เป็นความผิดต่อไป ให้ผู้ใดกระทำการนั้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด และถ้าได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษผู้นั้นแล้ว ก็ให้ผลของคำพิพากษาถึงที่สุดนั้นสิ้นไปด้วย ถ้าได้กระทำความผิดนั้น ถ้ารับโทษอยู่ให้การลงโทษนั้นสิ้นสุดลง
ถ้าผู้กระทำความผิดยังไม่ได้รับโทษ หรือกำลังรับโทษอยู่ และโทษที่กำหนดตามคำพิพากษานั้นมากกว่าโทษที่กำหนดตามกฎหมายที่บัญญัติในภายหลัง เมื่อมีคำขอของผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้กระทำความผิด ผู้แทนโดยธรรมของผู้เยาว์ ผู้อนุบาลของผู้ที่มีจิตฟั่นเฟือนหรือไม่สมประกอบ ให้ศาลพิจารณาเพื่อมีคำสั่งลดโทษให้ตามบัญญัติในภายหลัง ในกรณีที่ศาลสั่งลดโทษใหม่ให้ปรากฏว่า ผู้กระทำความผิดได้รับโทษมามากแล้ว เมื่อได้มีคำสั่งลดโทษใหม่ให้ศาลมีคำสั่งปล่อยตัวผู้กระทำความผิดนั้นไป สมควร ศาลอาจกำหนดโทษน้อยกว่าโทษขั้นต่ำที่กฎหมายบัญญัติในภายหลังกำหนดไว้ก็ได้ หากมีโทษใหม่ หรือกำหนดโทษที่ผู้กระทำความผิดได้รับมาแล้วนั้นเป็นการเพียงพอ ควรปล่อยตัวผู้กระทำความผิดนั้นไป
ถ้าศาลพิพากษาให้โทษประหารชีวิตผู้กระทำความผิดแล้วและต่อมาได้มีการบัญญัติในภายหลัง ให้เปลี่ยนโทษประหารชีวิตเป็นโทษอย่างอื่น ให้ศาลพิจารณาเพื่อมีคำสั่งลดโทษประหารชีวิตตามคำพิพากษาได้เปลี่ยนเป็นโทษสูงสุดที่ต้องพึงลงได้ตามกฎหมายที่บัญญัติในภายหลัง
การกระทำความผิดในเรือไทยหรืออากาศยานไทย ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ใด ให้ถือว่ากระทำความผิดในราชอาณาจักร
ในกรณีการกระทำความผิด หรือพยายามกระทำการใดซึ่งกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด แม้แต่การกระทำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือผลแห่งการกระทำส่วนหนึ่งส่วนใดจะได้กระทำหรือล่วงไปนอกเขตราชอาณาจักร ผลแห่งการกระทำส่วนหนึ่งส่วนใดจะได้เกิดขึ้นในราชอาณาจักรหรือมุ่งต่อราชอาณาจักร ให้ถือว่าการกระทำความผิดนั้นได้กระทำในราชอาณาจักร
สนับสนุน หรือของผู้ใช้ให้กระทำความผิดนั้นจะได้กระทำต่อราชอาณาจักร ก็ให้ถือว่า ตัวการ ผู้สนับสนุนหรือผู้ใช้ให้กระทำได้กระทำในราชอาณาจักร
ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๐๗ ถึงมาตรา ๑๑๒
(ก)[11] ความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๓๕/๑ มาตรา ๑๓๕/๒ มาตรา ๑๓๕/๓ และมาตรา ๑๓๕/๔
ความผิดเกี่ยวกับการปลอมและการแปลง ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๔๐ ถึงมาตรา ๒๔๕ มาตรา ๒๕๐ มาตรา ๒๕๒ มาตรา ๒๕๗ และมาตรา ๒๖๖ (๓) และ (๔)
ความผิดเกี่ยวกับเพศตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๗๖ และมาตรา ๒๘๕
ความผิดฐานลักทรัพย์ ฐานวิ่งราวทรัพย์ ฐานชิงทรัพย์ ฐานปล้นทรัพย์ และความผิดฐานรับของโจร ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๓๔ ซึ่งได้กระทำในทะเลหลวง
ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่การกระทำผิดได้เกิดขึ้น หรือผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ
ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนต่างด้าว และรัฐหรือคนไทยที่เป็นผู้เสียหาย และผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ ถ้าความผิดนั้นเป็นความผิดดังระบุไว้ต่อไปนี้ จะต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร คือ
ความผิดเกี่ยวกับการก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชน ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๒๐ มาตรา ๒๒๑ มาตรา ๒๒๔ ถึงมาตรา ๒๒๗ ทั้งนี้ในกรณีที่เกี่ยวกับมาตรา ๒๒๐ วรรคแรก และมาตรา ๒๒๑ วรรคแรก ให้ถือว่ามาตรา ๒๒๗ มาตรา ๒๒๘ มาตรา ๒๒๙ ถึงมาตรา ๒๓๐ ทั้งนี้เฉพาะแต่ในกรณีเดียวกันตามมาตรา ๒๒๐
ความผิดเกี่ยวกับวัตถุอันตราย ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๒๖ มาตรา ๒๒๖/๔ มาตรา ๒๒๖/๕ และ (๒) มาตรา ๒๒๖/๖ ทั้งนี้ในกรณีเดียวกันตามมาตรา ๒๒๖
ความผิดเกี่ยวกับวัตถุระเบิดหรืออาวุธเคมี ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๒๖/๗ ถึงมาตรา ๒๒๖/๑๑
ความผิดเกี่ยวกับสินค้าอันตรายตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๒๖/๑๒ ถึงมาตรา ๒๒๖/๑๔ (c) ความผิดเกี่ยวกับเพศ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๗๖ มาตรา ๒๘๐ และมาตรา ๒๘๕ ทั้งนี้เฉพาะที่เกี่ยวกับมาตรา ๒๘๕ (d) ความผิดต่อชีวิต ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๘๙ ถึงมาตรา ๒๙๐ (e) ความผิดต่อร่างกาย ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๙๕ ถึงมาตรา ๒๙๗ (f) ความผิดฐานทอดทิ้งเด็ก คนป่วยเจ็บหรือคนชรา ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๐๖ ถึงมาตรา ๓๐๗ (g) ความผิดต่อเสรีภาพ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๐๙ มาตรา ๓๑๐ มาตรา ๓๑๒ ถึงมาตรา ๓๑๔ และมาตรา ๓๑๗ ถึงมาตรา ๓๒๐ (h) ความผิดฐานลักทรัพย์และวิ่งราวทรัพย์ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๓๔ ถึงมาตรา ๓๓๕ (i) ความผิดฐานกรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ และปล้นทรัพย์ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๓๗ ถึงมาตรา ๓๔๐ (10) ความผิดฐานฉ้อโกง ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๔๑ ถึงมาตรา ๓๔๔ มาตรา ๓๔๗ และมาตรา ๓๕๗ (11) ความผิดฐานยักยอก ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๕๒ ถึงมาตรา ๓๕๕ (12) ความผิดฐานรับของโจร ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๕๗ (13) ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๕๘ ถึงมาตรา ๓๖๐
(a) ได้มีคำพิพากษาของศาลในต่างประเทศถึงที่สุดให้ปล่อยผู้กระทำผิดนั้น หรือ (b) ศาลในต่างประเทศพิพากษาให้ลงโทษผู้นั้นแล้ว ถ้าผู้กระทำผิดนั้นได้ถูกลงโทษในต่างประเทศแล้ว ศาลในราชอาณาจักรจะลงโทษผู้นั้นอีกก็ได้ แต่เมื่อรวมกับโทษที่ได้ลงในต่างประเทศแล้วจะต้องไม่เกินโทษสูงสุดที่กฎหมายไทยกำหนดไว้ หรือจะไม่ลงโทษเขาก็ได้ ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงความยุติธรรมแล้ว
เนื้อหาภาพ에서 텍스트를 추출한 결과는 다음과 같습니다: นั้นตามคำพิพากษาของศาลในต่างประเทศผสมแล้วทั้งหมด หรือแต่บางส่วน ศาลจะลงโทษ น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ หรือจะไม่ลงโทษเลยก็ได้ ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงโทษที่ผู้นั้นได้รับมาแล้ว ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดในราชอาณาจักร หรือกระทำความผิดที่ ประมวลกฎหมายนี้บัญญัติว่าให้กระทำในราชอาณาจักรได้ถูกฟ้องต่อศาลในต่างประเทศโดย รัฐบาลไทยร้องขอ ห้ามมิให้ลงโทษผู้นั้นในราชอาณาจักรเพราะการกระทำนั้นอีก ถ้า
ได้สลักพิกากษาของศาลในต่างประเทศอันถึงที่สุดให้ปล่อยตัวผู้นั้น หรือ
ศาลในต่างประเทศพิกากาให้ลงโทษ และผู้พ้นโทษนั้นได้พ้นโทษแล้ว
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ของผู้นั้น ผู้นำชุมชนของผู้นั้นหรือพนักงานอื่นอาการว่า พฤติการณ์เกี่ยวกับการใช้บังคับนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ศาลจะสั่งพักถอนหรืองดการใช้บังคับวิธีการเพื่อความปลอดภัยแก่ผู้นั้นไว้ชั่วคราวตามที่เห็นสมควรก็ได้
โทษและวิธีการเพื่อความปลอดภัย
โทษ
ประหารชีวิต
จำคุก
กักขัง
ปรับ
ริบทรัพย์สิน โทษประหารชีวิตและโทษจำคุกตลอดชีวิตมิให้นำมาใช้บังคับแก่ผู้กระทำความผิดในขณะมีอายุเก้าสิบกว่าปีขึ้นไป ในกรณีผู้กระทำความผิดในขณะมีอายุเก้าสิบกว่าปีลงไปได้กระทำความผิดที่ระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต ให้ถือว่า ระวางโทษดังกล่าวได้เปลี่ยนเป็นระวางโทษจำคุกห้าสิบปี
หลักเกณฑ์และวิธีการประหารชีวิต ให้เป็นไปตามระเบียบที่กระทรวงยุติธรรมกำหนด โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ถ้าผู้กระทำความผิดไม่ชำระค่าปรับภายในเดือน ให้บังคับค่าปรับนั้นแทนหนึ่งเดือน ถ้ากำหนดเป็นปี ให้บังคับค่าปรับแทนหนึ่งปี เมื่อผู้ต้องคำพิพากษาจำคุกครบกำหนดแล้ว ให้ปล่อยตัวในวันถัดจากวันที่ครบกำหนด
ในกรณีที่คำพิพากษากล่าวไว้เป็นอย่างอื่น โทษจำคุกตามคำพิพากษาเมื่อรวมจำนวนวันที่ถูกคุมขังตามคำพิพากษาในคดีอื่นนั้นแล้วด้วย ต้องไม่เกินอัตราโทษสูงสุดของกฎหมายที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่ได้กระทำลงนั้น ทั้งนี้ ไม่เป็นการกระทบกระเทือนกับบทบัญญัติมาตรา 77
ถ้าสถานที่เป็นการสมควร อาจสั่งกักขังผู้ต้องโทษกักขังไว้ที่บ้านของผู้ต้องโทษนั้นเอง หรือของผู้อื่นซึ่งยินยอมรับผู้ต้องโทษนั้นไว้ หรือสถานที่อื่นที่อาจทำได้ เพื่อให้เหมาะสมกับประเภทหรือสภาพของผู้ต้องโทษนั้น ถ้าความปรากฏแก่ศาลว่า การกักขังผู้ต้องโทษกักขังไว้ในสถานที่ที่กำหนดตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง อาจทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้ต้องโทษกักขัง หรือทำให้ผู้ต้องโทษกักขังนั้นหลบหนีได้ง่าย หรือทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ศาลจะสั่งให้กักขังผู้ต้องโทษกักขังไว้ในเรือนจำก็ได้ แต่ต้องให้แยกต่างหากจากผู้ต้องขังอื่น และต้องจัดให้ผู้ต้องโทษกักขังนั้นได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสมกับฐานะของผู้ต้องโทษกักขัง ในกรณีที่ศาลสั่งให้กักขังผู้ต้องโทษกักขังไว้ในเรือนจำตามวรรคสาม ให้ศาลสั่งเจ้าของหรือผู้ครอบครองสถานที่ซึ่งผู้ต้องโทษกักขังเคยถูกกักขังอยู่เดิม และให้เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมดูแลและให้คำสั่งผู้ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา(19)
ผู้ต้องโทษกักขังจะต้องทำตามระเบียบ ข้อบังคับและข้อ กำหนดโทษกักขังของสถานที่ที่กำหนดนั้นด้วย ถ้าผู้ต้องโทษกักขังไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับหรือข้อกำหนดดังกล่าว ให้เจ้าพนักงานผู้ควบคุมดูแลมีอำนาจลงโทษผู้ต้องโทษกักขังได้ แต่ต้องไม่ใช่ด้วยการลงโทษทางร่างกาย
혹은 사용자 요청에 따라 OCR된 텍스트를 제공할 수 있습니다: หรือผู้ควบคุมดูแลสถานที่ที่ขังว่า
ผู้ต้องโทษทำขังฝ่าฝืนระเบียบ ข้อบังคับ หรือวินัยของสถานที่ที่ขัง
ผู้ต้องโทษทำขังไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำหนด หรือ
ผู้ต้องโทษทำขังต้องคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุก ศาลอาจเปลี่ยนโทษทำขังเป็นโทษจำคุกก็ได้ตามแต่สถานที่ที่ขังเห็นสมควร แต่ต้องไม่นานเกินกว่าระยะเวลาที่ผู้ต้องโทษซึ่งต้องโทษทำขังต้องโทษทำขังต่อไปอีกเท่าใด ผู้ต้องโทษทำขังนั้นต้องชำระค่าทำขังตามที่กำหนดไว้ในคำพิพากษาอย่างต่อคล
ความในวรรคสองของมาตรา ๒๖ มิให้นำมาใช้บังคับแก่การทำขังแทนค่าปรับ ปรับ
ในกรณีที่มีการยึดทรัพย์สิน ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยการบังคับคดีโดยยึด โดยให้เจ้าพนักงานคลังที่ได้รับแต่งตั้งเป็นพนักงานอัยการเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการบังคับคดีและให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจหน้าที่ถือทรัพย์สินหรือสิทธิเรียกร้องในทรัพย์สินของผู้ต้องโทษปรับและขายทอดตลาดตามที่ได้รับแจ้งจากพนักงานอัยการ ทั้งนี้ ให้หน่วยงานของรัฐยึดกฎหมายธรรมเนียมซึ่งต้องใช้ช่วยจากผู้ดำเนินการบังคับคดี การตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องโทษปรับโดยพนักงานอัยการเพื่อการบังคับคดีตามการตรวจสอบ ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในข้อบังคับของอัยการสูงสุด บทบัญญัติมาตรานี้ให้กระทำต่อการที่ศาลจะมีคำสั่งตามมาตรา ๒๗ วรรคหนึ่ง
ในการคำนวณระยะเวลาทำขัง ให้วันเริ่มทำขังนับรวมวันด้วยและให้เป็นไปเพื่อให้เสร็จโดยใช้เวลาต่อเนื่องกันจนชั่วโมง ในกรณีที่ผู้ต้องโทษปรับถูกคุมขังชั่วคราวคลายพิษทาง ให้เจ้าพนักงานผู้คุมขังนั้นออกจากการคุมขังชั่วคราว โดยต้องมีคำหรือคำสั่งจากพนักงานอัยการ หรือคำพิพากษาให้ลงโทษทั้งจำคุกและปรับ ในกรณีเช่นนี้ หากต้องคุมขังชั่วคราวนั้นผู้ต้องโทษออกจากการจำคุกตามมาตรา 26 ก็ให้พิจารณาเสียก่อนเพื่อดำเนินการให้พ้นจากเงินค่าปรับ เมื่อผู้ต้องโทษปรับถูกคุมขังแทนค่าปรับครบกำหนดแล้ว ให้ปล่อยตัวในวันต้องจากนั้นที่ครบกำหนด ถ้าหนี้เงินค่าปรับที่จำจะครบแล้ว ให้พิจารณาให้พ้นจากเงินค่าปรับตามมาตรา 26/1 โดยให้ผู้ต้องโทษปรับที่ถูกคุมขังแทนค่าปรับนั้นมีสิทธิที่จะได้รับการปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ และไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องค่าชดเชยหรือสิทธิอื่นใดจากการที่ถูกคุมขังแทนค่าปรับนั้น การจัดจดคำร้องตามวรรคแรก เมื่อศาลได้พิจารณาเห็นว่าการกระทำของผู้ต้องโทษปรับนั้นมีลักษณะเป็นการกระทำที่เป็นประโยชน์แก่สังคม หรือการทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับได้ ให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ต้องโทษปรับนั้นทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับก็ได้ การดำเนินการตามวรรคแรก ให้พิจารณาถึงเพศ อายุ ประวัติ การนับถือศาสนา ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษา อาชีพ สุขภาพ การแสดงถึงความสำนึกผิดหรือการสำนึกของผู้ต้องโทษปรับประกอบด้วย และควรจะกำหนดเงื่อนไขอย่างหนึ่งอย่างใดให้ผู้ต้องโทษปรับปฏิบัติเพื่อแก้ไขฟื้นฟูหรือป้องกันมิให้ผู้ต้องโทษกระทำความผิดซ้ำอีกก็ได้ ถ้าการพิจารณาคำร้องตามวรรคแรกเกี่ยวกับการทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์ของผู้ต้องโทษปรับได้เปลี่ยนแปลงไป ศาลอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงสิ่งที่กำหนดไว้ในคำสั่งได้ ในการกำหนดระยะเวลาการทำงานแทนค่าปรับตามวรรคแรก ให้เทียบกับจำนวนเงินค่าปรับ 300 บาท ให้เป็นหนึ่งวันโดยปัดเศษ และในกรณีที่ศาลได้กำหนดให้ผู้ต้องโทษปรับทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ ศาลจะต้องกำหนดระยะเวลาการทำงานให้เหมาะสมกับลักษณะของงานนั้นด้วย เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามมาตรานี้ ให้กระทรวงยุติธรรมจัดให้มีหน่วยงานหรือองค์กรที่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์ สำหรับผู้ต้องโทษปรับที่ศาลมีคำสั่งให้ทำงานดังกล่าว และเสนอรายงานให้ศาลทราบตามสมควร
โทษปรับเงินซึ่งจะนำมาปรับได้ในเวลาที่มีคำร้องตามมาตรา ๖๐/๑ หรือคำสั่งหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเมื่อมีเหตุที่ศาลกำหนด ศาลอาจพิจารณาคำสั่งอนุญาตดังกล่าวและปรับหรือกำหนดแนวทางปรับ โดยให้เจ้าหน้าที่ทำงานแลกออกจากจำนวนเงินค่าปรับได้ ในระหว่างการทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับหากผู้ต้องโทษไม่ประสงค์จะทำงานดังกล่าวต่อไป อาจขอเปลี่ยนเป็นโทษปรับเงินหรือโทษจำคุกแทนได้โดยให้ศาลพิจารณาคำสั่งอนุญาตดังกล่าวหรือ โดยให้เจ้าหน้าที่ทำงานแลกออกจากจำนวนเงินค่าปรับ
ทรัพย์สินซึ่งบุคคลได้ใช้ หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด หรือ
ทรัพย์สินซึ่งบุคคลได้โดยใช้ในการกระทำความผิด หรือ
ทรัพย์สินซึ่งเป็นสิ่งตอบแทนในการกระทำความผิด หรือ
ทรัพย์สินซึ่งเป็นสิ่งตอบแทนในการกระทำความผิด หรือ
ทรัพย์สินซึ่งเป็นสิ่งตอบแทนในการกระทำความผิด หรือ
ซึ่งได้ให้ตามความในมาตรา ๑๓๓ มาตรา ๑๔๔ มาตรา ๑๔๕ มาตรา ๑๕๐ มาตรา ๑๖๑ มาตรา ๒๐๙ หรือมาตรา ๒๑๐ หรือ
ซึ่งได้เพื่อจูงใจบุคคลให้กระทำความผิด หรือเพื่อเป็นรางวัลในการที่บุคคลได้กระทำความผิด ให้ริบเสียทั้งสิ้น เว้นแต่ทรัพย์สินนั้นเป็นของผู้ซึ่งมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด
ให้ยึดทรัพย์สินนั้น
ให้ขายทรัพย์สินหรือสิ่งอื่นของผู้ชั้นนั้นเพื่อชำระความเสียหาย หรือ
ในกรณีที่ศาลเห็นว่า ผู้ชั้นของทรัพย์สินดังกล่าวไม่มีให้ยึด ไม่มีให้ขาย หรือชำระจากทรัพย์สินอื่นได้ แต่ไม่ชำระ ให้ศาลมีอำนาจสั่งให้จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งปี แต่ถ้าการกระทำดังกล่าวเกิดความเสียหาย หรือโดยคำสั่งศาลของผู้ชั้นนั้น ผู้ชั้นไม่สามารถส่งทรัพย์สินดังกล่าวได้ ให้ศาลมีอำนาจสั่งให้จำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วิธีการเพื่อความปลอดภัย
กักกัน
ห้ามเข้าเขตกำหนด
เรียกประกันตัวหรือกันชน
คุมตัวไว้ในสถานพยาบาล
ห้ามการประกอบอาชีพบางอย่าง
ความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชน ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๙๕ ถึงมาตรา ๒๙๖
ความผิดเกี่ยวกับการก่อให้เกิดภัยอันตรายต่อประชาชน ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๙๗ ถึงมาตรา ๓๐๔
ความผิดเกี่ยวกับเงินตรา ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๔๐ ถึงมาตรา ๒๔๖
ความผิดเกี่ยวกับไปรษณีย์ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖๐ ถึงมาตรา ๒๖๒ ``` (5) ความผิดต่อชีวิต ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 288 ถึงมาตรา 290 มาตรา 292 ถึงมาตรา 294 (6) ความผิดต่อร่างกาย ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 295 ถึงมาตรา 298 (7) ความผิดต่อเสรีภาพ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 309 ถึงมาตรา 312 (8) ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 334 ถึงมาตรา 340 มาตรา 357 และมาตรา 358 และภายในเวลาสิบปี นับแต่วันที่ผู้กระทำผิดพ้นจากการกักกัน หรือพ้นโทษแล้วแต่กรณี ผู้นั้นได้กระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใดในกรณีที่ระบุให้ถือว่าอาจพิจารณาโทษกักกันไม่ว่ากรณีหนึ่งกรณีใดสำหรับการกระทำความผิดนั้น ศาลอาจสั่งให้ผู้นั้นต้องระวางโทษกักกันต่อไป และจะพิจารณาให้กักกันกำหนดเวลาไม่เกินกว่าสิบปี และไม่น้อยกว่าห้าปีได้ ความผิดซึ่งผู้กระทำได้กระทำในขณะหรือที่สมควรเชื่อว่ากำลังเป็นบ้าหรือมีเหตุเป็นความผิดที่อาจนำมาพิจารณากักกันตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 28
ระยะเวลากักกัน และการปล่อยตัวผู้ถูกกักกัน ให้กำหนดบัญญัติมาตรา 22 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
``` ถ้าผู้นั้นไม่ยอมทำหนังสือสัญญาประกันไม่ได้ ให้ศาลมีอำนาจสั่งกักขังผู้นั้นจนกว่าจะทำหนังสือสัญญาประกันได้ แต่ไม่ให้กักขังเกินกว่าหนึ่งเดือน หรือจะสั่งห้ามผู้นั้นเข้าในเขตตำบลตามมาตรา ๕๕ ก็ได้ การกระทำของผู้ซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีให้อยู่ในบังคับแห่งบัญญัติตามมาตรานี้
ไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน หรือ
เคยรับโทษจำคุกมาก่อนแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ หรือเป็นโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือ
เคยรับโทษจำคุกมาก่อนแต่เป็นโทษจำคุกมาแล้วเกินกว่านั้น แล้วมาตราพิจารณาคดี โดยความผิดในครั้งหลังเป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ และเมื่อศาลได้สั่งแก้ไขหรือจำคุก ประจำตัว ควบประพฤติ สติปัญญา การศึกษาอบรม สุขภาพ การแพ้สิ่งเสพติด นิสัย อาชีพ และสิ่งแวดล้อมของผู้กระทำความผิด การรู้สึกสำนึกผิดของผู้กระทำความผิด และความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำความผิดนั้นแล้ว ศาลจะพิพากษาว่าผู้นั้นมีความผิดแต่รอการกำหนดโทษหรือกำหนดโทษแต่รอการลงโทษไว้ไม่ว่าจะเป็นโทษจำคุกหรือปรับอย่างหนึ่งอย่างใดหรือทั้งสองอย่าง เพื่อให้โอกาสกลับตัวภายในระยะเวลาที่ศาลจะได้กำหนดแต่ต้องไม่เกินห้าปีเว้นแต่กรณีเป็นผู้ที่ศาลพิพากษาโดยจะกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติของผู้กระทำความผิดด้วยหรือไม่ก็ได้ เงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติของผู้กระทำความผิดตามมาตราหนึ่ง ศาลอาจกำหนดข้อเดียวหรือหลายข้อจากมาตราหนึ่งได้ ดังต่อไปนี้
ให้ไปปรากฏตัวต่อเจ้าพนักงานที่ศาลระบุไว้เป็นครั้งคราว เพื่อเจ้าพนักงานจะได้สอบถาม แนะนำ และช่วยเหลือ หรือกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติและการประกอบอาชีพ หรือข้อให้เจ้าพนักงานตรวจการกระทำหรือการงดเว้นการกระทำประการหนึ่ง
ให้ทำหรือห้ามทำอย่างหนึ่งอย่างใดหรือหลายอย่างดังระบุ
ให้ละเว้นการคบหาสมาคมหรือการประกอบอาชีพหรือการกระทำใดอันอาจนำไปสู่การกระทำความผิดในทำนองเดียวกันอีก
ให้ไปบำเพ็ญประโยชน์การชดใช้การเสียหายให้แก่ผู้เสียหายหรือให้โทษ ความร้ายแรงร่วมจากการกระทำ หรือความเจ็บป่วยอย่างอื่น ณ สถานที่และตามระยะเวลาที่ศาลกำหนด
ให้เข้ารับการศึกษาอบรม ณ สถานที่และตามระยะเวลาที่ศาลกำหนด (9) ห้ามออกนอกสถานที่ที่อยู่อาศัย หรือห้ามเข้าในสถานที่ใดในระหว่างเวลาที่ศาลกำหนด ทั้งนี้ จะใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์อื่นใดที่สามารถใช้ตรวจสอบหรือจำกัดการเดินทางด้วยก็ได้ (10) ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือเยียวยาความเสียหายโดยวิธีอื่นให้แก่ผู้เสียหายตามที่ผู้กระทำความผิดและผู้เสียหายตกลงกัน (11) ให้แก้ไขฟื้นฟูหรือเยียวยาความเสียหายที่เกิดแก่ทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม หรือชดใช้ค่าเสียหายเพื่อการดังกล่าว (12) ให้ทำหน้าที่บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ตามที่ศาลเห็นสมควร ทั้งนี้ ศาลจะกำหนดเงื่อนไขให้ผู้กระทำความผิดต้องปฏิบัติตามในระหว่างที่ได้รับการปล่อยชั่วคราวหรือในระหว่างที่ได้รับการรอการกำหนดโทษหรือรอการลงโทษก็ได้
กระทำโดยประมาท หรือเว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยแจ้งชัดให้ต้องรับผิดแม้ได้กระทำโดยไม่เจตนา กระทำโดยเจตนา ได้แก่การกระทำโดยรู้สำนึกในการที่จะกระทำและในขณะเดียวกันผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น ถ้าผู้กระทำมิได้รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิด จะถือว่าผู้กระทำประสงค์ต่อผล หรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นมิได้ กระทำโดยประมาท ได้แก่การทำความผิดมิใช่โดยเจตนา แต่กระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจะพึงมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นนั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่ การกระทำ ให้หมายความรวมถึงการให้เกิดผลอย่างอื่นขึ้นโดยมิต้องเป็นการที่ตัวเองกระทำเพื่อป้องกันผลนั้นด้วย
บุคคลจะต้องรับโทษหนักขึ้นโดยข้อเท็จจริงใด บุคคลนั้นจะต้องได้รู้ข้อเท็จจริงนั้น
แต่ถ้าผู้กระทำความผิดยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้าง หรือยังสามารถบังคับตนเองได้บ้าง ศาลจะลงโทษผู้นั้นสำหรับความผิดนั้น แต่ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้
เพราะอยู่ในที่บังคับหรือภายใต้อำนาจซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือขัดขืนได้ หรือ
เพราะเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นพ้นจากภัยอันตรายที่ใกล้จะถึงและไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้พ้นโดยวิธีอื่นได้ เมื่อภัยอันตรายนั้นมิได้เกิดขึ้นจากการกระทำผิดของตน ถ้าการกระทำนั้นไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุ ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ
ความผิดอันเกิดจากการกระทำของผู้ซึ่งไม่สามารถรู้ผิดชอบหรือไม่สามารถบังคับตนเองได้ในขณะกระทำความผิดนั้น จะต้องเป็นความผิดที่ผู้กระทำกระทำลงโดยเจตนา แม้ผู้กระทำจะไม่ต้องรับโทษสำหรับความผิดนั้นก็ตาม แต่ถ้าผู้กระทำกระทำความผิดโดยประมาท ผู้กระทำจะต้องรับโทษสำหรับความผิดนั้น และนอกจากนั้น ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้
ให้พนักงานสอบสวนส่งตัวเด็กตามควรแก่กรณีให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก เพื่อดำเนินการคุ้มครองสวัสดิภาพตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
ว่ากล่าวตักเตือนเด็กนั้นแล้วปล่อยตัวไป และถ้าศาลเห็นสมควรจะเรียกบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือบุคคลที่เด็กนั้นอาศัยอยู่มาว่ากล่าวตักเตือนด้วยก็ได้
กำหนดเงื่อนไขว่า บิดา มารดา หรือผู้ปกครองตามควรดูแลเด็กนั้นให้ศาลจะสั่งให้บิดา มารดา หรือผู้ปกครองไปปฏิบัติตามเงื่อนไขนั้น โดยการยื่นคำขอให้บิดา มารดา หรือผู้ปกครองรับข้อกำหนดคำสั่งของศาลที่บังคับใช้ได้สำหรับบิดา มารดา หรือผู้ปกครองดังกล่าวภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนดไว้ในคำสั่งนั้น หากบุคคลดังกล่าวไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาล ให้ศาลลงโทษบุคคลนั้นตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๔๐๙ แห่งประมวลกฎหมายอาญา
ส่งตัวเด็กนั้นไปยังสถานศึกษา หรือสถานฝึกและอบรม หรือสถานแนะนำทางจิต หรือสถานที่ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อฝึกและอบรมเด็ก ตลอดระยะเวลาที่ศาลกำหนด แต่ไม่ให้เกินกว่าที่เด็กนั้นจะมีอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ ในกรณีที่ศาลลงมือดำเนินการดังที่ได้เห็นบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือบุคคลที่เด็กนั้นอาศัยอยู่ อาศัย (ข) ศาลจะกำหนดเงื่อนไขของบุคคลตามที่เห็นสมควรเพื่อให้เด็กนั้นอยู่ในความควบคุมของบุคคลนั้นก็ได้ ในกรณีที่ศาลเห็นว่าไม่มีบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง หรือบุคคลที่เด็กนั้นอาศัยอยู่ดูแลเด็กได้ หรือในกรณีที่บิดา มารดา หรือผู้ปกครอง หรือบุคคลดังกล่าวไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง (ข) ศาลจะสั่งให้บุคคลตามที่ศาลเห็นสมควรรับเด็กนั้นไปอยู่ในความควบคุมของบุคคลนั้นก็ได้ โดยกำหนดเงื่อนไขของบุคคลดังกล่าวตามที่ศาลเห็นสมควรด้วยก็ได้ หรือศาลจะสั่งให้เด็กนั้นอยู่ในความดูแลขององค์กรที่มีหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก อบรม และส่งเสริม รวมถึงการจัดการ กำหนดที่อยู่และการจัดให้เด็กมีงานทำความสมควรหรือให้ดำเนินการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามกฎหมายว่าด้วยการนั้นก็ได้ คำสั่งของศาลดังกล่าวใน (ข) (3) วรรคสอง และวรรคสามนั้น ถ้าในขณะใดภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนดไว้ ความปรากฏแก่ศาลโดยคำร้องหรือคำเสนอของผู้มีส่วนได้เสีย พนักงานอัยการ หรือบุคคลหรือองค์กรที่ศาลสั่งให้ติดตามเด็กและส่งเสริม หรือเจ้าพนักงานพนักงานพิทักษ์สิทธิเด็กและเยาวชนว่าเด็กได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลเปลี่ยนแปลงไปหรือกลับไปกระทำผิดซ้ำอีกในลักษณะเดิมหรือมีลักษณะใหม่กล่าวมาในมาตรานี้
ในกรณีที่ศาลได้บังคับให้ชดใช้ค่าเสียหาย ผู้ปกครองหรือบุคคลที่เด็กและเยาวชนอยู่ด้วยจะเรียกชำระเงินตามข้อกำหนดนั้น ถ้าศาลมิได้เปลี่ยนแปลงแก้ไขคำสั่งที่ได้วางข้อกำหนดนั้นเป็นอย่างอื่นตามความในมาตรา 77 วรรคท้าย ก็ให้ถือว่าคำสั่งนั้นคงใช้บังคับได้ต่อไปจนสิ้นเวลาที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดนั้น
เหตุยกเว้นโทษนั้นได้แก่การทำความผิดโดยมิได้เจตนาอันเป็นเหตุปัญญาตกอยู่ในความจำเป็นหรือความผิดนั้นเกิดจากการกระทำของผู้กระทำความผิดเองโดยมิได้เจตนา หรือเหตุอื่นใดที่ศาลเห็นสมควรลดโทษให้แก่ผู้กระทำความผิดนั้น
การพยายามกระทำความผิด
ผู้ใดพยายามกระทำความผิด ผู้นั้นต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
ถ้าการกระทำดังกล่าวในวรรคแรกได้กระทำไปโดยความเชื่ออย่างงมงาย ศาลจะไม่ลงโทษก็ได้
ตัวการและผู้สนับสนุน
ถ้าความผิดมิได้กระทำลงไปว่าจะเป็นเพราะผู้ถูกใช้ไม่ยอมกระทำ ยังไม่ได้กระทำ หรือหยุดยั้งไป ผู้ใช้ต้องระวางโทษเพียงหนึ่งในสามของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ถ้าผู้ถูกใช้ได้กระทำความผิดแล้ว ผู้ใช้ต้องรับโทษเสมือนเป็นตัวการ และถ้าผู้ถูกใช้เป็นบุคคลอายุไม่เกินสิบแปดปี ผู้ใช้ต้องรับโทษหนักกว่าผู้ถูกใช้ถึงกึ่งหนึ่ง ในกรณีที่ผู้ถูกใช้ได้กระทำความผิดแล้ว ผู้ใช้จะยกเอาข้ออ้างว่าผู้ถูกใช้กระทำความผิดเกินกว่าที่ตนได้ใช้ให้กระทำขึ้นเป็นข้อแก้ตัวมิได้ แต่ถ้าผู้ถูกใช้กระทำความผิดนั้นเป็นความผิดที่หนักกว่าความผิดที่ตนได้ใช้ให้กระทำ ผู้ใช้ต้องรับโทษเพียงเท่าที่ตนได้ใช้ให้กระทำ
ถ้าการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นได้กระทำไปในระหว่างที่การกระทำความผิดได้สิ้นสุดลงแล้ว ผู้นั้นไม่เป็นผู้สนับสนุน
เป็นการเปิดเผยถึงการทำความผิดของผู้ใช้ให้ทราบว่าทำความผิดหรือผู้ใช้นำเสนอหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้ทราบถึงความผิด และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการดำเนินคดีแก่บุคคลดังกล่าว ศาลจะลงโทษผู้ชี้เบาะแสข่าวสารหรือทำให้ข่าวนั้นแพร่หลายรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้
ในกรณีนี้ผู้ใช้ ผู้เสนอหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระทำความผิด หรือผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ต้องรับผิดทางอาญาตามความผิดที่เกิดขึ้นนั้นด้วย แต่ถ้าโดยลักษณะของความผิด ผู้กระทำต้องรับผิดทางอาญาเพียงแต่โทษสูงขึ้นเพียงแต่ผู้กระทำต้องรับโทษสูงขึ้นเพียงผู้เดียว หรือความผิดนั้นได้อาจจะเกิดผลลัพธ์นั้นขึ้น ผู้ใช้ให้กระทำความผิด ผู้เสนอหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระทำความผิด หรือผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ต้องรับผิดทางอาญาตามความผิดที่เกิดขึ้นนั้นด้วย แต่ถ้าความผิดที่เกิดขึ้นนั้นได้อาจจะเกิดผลลัพธ์นั้นขึ้น ผู้ใช้ให้กระทำความผิด ผู้เสนอหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระทำความผิด หรือผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ต้องรับผิดทางอาญาตามความผิดที่เกิดขึ้นนั้นด้วย
การกระทำความผิดหลายบทหรือหลายกระทง
สิบปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงไม่เกินสามปี
ยี่สิบปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปีแต่ไม่เกินสิบปี
ห้าสิบปี สำหรับกรณีความผิดกระทงที่หนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสิบปีขึ้นไป เว้นแต่กรณีที่ศาลลงโทษจำคุกตลอดชีวิต
การกระทำความผิดอีก
ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๐๘ ถึงมาตรา ๑๑๘
ความผิดต่อเจ้าพนักงาน ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๓๖ ถึงมาตรา ๑๖๖
ความผิดต่อเจ้าพนักงานที่รักษาความสงบเรียบร้อย ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๖๖ ถึงมาตรา ๑๗๐
ความผิดเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๙๐ ถึงมาตรา ๒๐๐ และมาตรา ๒๐๒
ความผิดเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๐๐ ถึงมาตรา ๒๐๒ (b) ความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชน ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 208 ถึงมาตรา 216 (c) ความผิดเกี่ยวกับการก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชน ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 217 ถึงมาตรา 236 มาตรา 238 ถึงมาตรา 240 และมาตรา 242 ถึงมาตรา 248 (d) ความผิดเกี่ยวกับเงินตรา ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 240 ถึงมาตรา 249 ความผิดเกี่ยวกับตราแผ่นดินและดวงตรา ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 250 ถึงมาตรา 256 และความผิดเกี่ยวกับเอกสาร ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 264 ถึงมาตรา 275 (e) ความผิดเกี่ยวกับการค้า ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 270 ถึงมาตรา 275 (10) ความผิดเกี่ยวกับเพศ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 276 ถึงมาตรา 287 (11) ความผิดต่อชีวิต ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 288 ถึงมาตรา 290 และมาตรา 292 ความผิดต่อร่างกาย ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 295 ถึงมาตรา 298 ความผิดฐานทำให้แท้งลูก ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 301 ถึงมาตรา 305 และความผิดฐานทอดทิ้งเด็ก คนป่วย เจ็บหรือคนชรา ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 306 ถึงมาตรา 308 (12) ความผิดต่อเสรีภาพ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 309 มาตรา 310 และมาตรา 312 ถึงมาตรา 320 (13) ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 334 ถึงมาตรา 336
อายุความ
(1) สิบห้าปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกยาวกว่ายี่สิบปี (2) ยี่สิบปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกยี่สิบปี (3) สิบปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกกว่าสามปีถึงสิบปี (4) ห้าปี สำหรับความผิดต้องระวางโทษจำคุกกว่าหนึ่งเดือนถึงสามปี
ทั้งนี้ สำหรับความผิดอันระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งเดือนลงมาหรือโทษระหว่างโทษอย่างอื่น ถ้าได้ฟ้องและได้อุทธรณ์หรือทำความผิดมาภายหลังศาลแล้ว ผู้กระทำความผิดหลบหนีหรือจำคุกจริง และศาลสั่งลงโทษจำคุกระหว่างโทษเกินกำหนดตั้งแต่วันหนึ่งเดือนขึ้นไปหรือวันหนึ่งเดือนขึ้นไปหลังจากการพิจารณา ก็ให้ถือว่าเป็นวันขาดอายุความนับเดือนกำหนดตามมาตรา ๙๘ วรรคหนึ่ง และถ้าผู้กระทำความผิดหลบหนีหรือจำคุกจริงในระหว่างการพิจารณา ก็ให้ถือว่าเป็นวันขาดอายุความนับเดือนกำหนดตามมาตรา ๙๘ วรรคสอง
สี่สิบปี สำหรับโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกสี่สิบปี
สามสิบปี สำหรับโทษจำคุกกว่าสิบปีแต่ยังไม่ถึงสามสิบปี
สิบปี สำหรับโทษจำคุกกว่าหนึ่งปีถึงสิบปี
ห้าปี สำหรับโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งเดือนถึงหนึ่งปีหรือโทษอย่างอื่น
ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับในกรณีการทำชำระแทนค่าปรับที่ทำต่อเนื่องกับการลงโทษจำคุก
บทบัญญัติที่ใช้แก่ความผิดลหุโทษ
ภาค ๒ ความผิด
ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
ผู้ใดพยายามกระทำการเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน ผู้ใดกระทำการโดยเป็นการเตรียมเพื่อปลอมพระปรมาภิไธย หรือรู้ว่าผู้อื่นจะปลอมพระปรมาภิไธย กระทำการโดยเป็นการช่วยปกปิดไว้ ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต
ผู้ใดพยายามกระทำการเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน ถ้าการกระทำที่แท้จริงนั้นจะเป็นอันตรายแก่พระมหากษัตริย์ ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต ผู้ใดกระทำการโดยเป็นการเตรียมเพื่อประทุษร้ายต่อพระองค์ หรือเสรีภาพของพระมหากษัตริย์ ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี ผู้ใดกระทำการโดยเป็นการช่วยปกปิดไว้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี
ผู้ใดยามากระทำการเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน ผู้ใดกระทำการโดยเป็นการระเตรียมเพื่อปลงพระชนม์พระราชินีหรือรัชทายาท หรือเพื่อให้ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ หรือผู้ปลงพระชนม์พระราชินีหรือรัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ กระทำการโดยเป็นการช่วยปกปิดไว้ ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือสิบห้าปี
ผู้ใดยามากระทำการเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน ถ้าการกระทำนั้นมีลักษณะอันน่าวิตกเป็นอันตรายแก่พระชนม์ชีพ ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต ผู้ใดกระทำการโดยเป็นการระเตรียมเพื่อประทุษร้ายต่อพระองค์ หรือเสรีภาพของพระราชินีหรือรัชทายาท หรือต่อร่างกายหรือเสรีภาพของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ หรือรู้ว่าผู้ประทุษร้ายต่อพระองค์หรือเสรีภาพของพระราชินีหรือรัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ กระทำการโดยเป็นการช่วยปกปิดไว้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี
ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร
ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ
ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวไม่ได้ หรือ
แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร ผู้กระทำความผิดฐานนี้ในกรณีปกติ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
ถ้าการลงมือกระทำนั้นได้กระทำลงโดยผู้ร่วมกระทำการตั้งแต่สามคนและสมรรถภาพของการยกเว้นทหารหรือตำรวจเสื่อมทรามลง ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี
เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนหรือใช้กำลังประทุษร้าย
เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ
เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี
ผู้ใดกระทำความผิดต่อความมั่นคงแห่งอาณาจักรด้วยการร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้างหรือการร่วมกันไม่ยอมค้าขายหรือติดต่อทางธุรกิจกับบุคคลใด ๆ นั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดกระทำความผิดต่อความมั่นคงดังกล่าว และใช้กำลังประทุษร้าย ผู้มีบุญจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือทำให้เกิดการกลัวว่าจะประทุษร้ายใด ๆ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร
ถ้าการอุปกรณ์นั้นเป็นการ
ทำให้พ้อม ค่าย สนามบิน ยานรบ ยานพาหนะ ทางคมนาคม สิ่งที่ใช้ในการสื่อสาร ยุทธภัณฑ์ เสบียงอาหาร อาวุธ อาคาร หรือสิ่งอื่นใดสำหรับใช้เพื่อการสงคราม ใช้การไม่ได้หรือเสื่อมไปอยู่ในสภาพของซึ่งสึก
ยุยงทหารให้ละเลยไม่กระทำการตามหน้าที่ ต่อการรบกับข้าศึก หรือสมคบคิดกัน
กระทำการจารกรรม นำหรือแพร่ข่าวให้ข้าศึก หรือ
กระทำโดยประการอื่นใดให้ข้าศึกได้เปรียบในการรบ ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
ถ้าความลับนั้นได้กระทำในระหว่างประเทศอยู่ในการรบหรือการสงคราม ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบห้าปี ถ้าความลับนั้นได้กระทำในระหว่างประเทศอยู่ในการรบหรือการสงคราม และเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของข้าศึก ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
โทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี
ถ้าเหตุร้ายนั้นถึงขั้น ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี
ความผิดต่อสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ
ผู้ใดพยายามกระทำการเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน
ผู้ใดพยายามกระทำการเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน
ความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย
ใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการใดอันอาจให้เกิดอันตรายต่อชีวิต หรือบังคับรายอย่างใดรายอย่างร้ายแรง หรือเสรีภาพของบุคคลใด ๆ
กระทำการใดอันอาจให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ระบบการขนส่งสาธารณะ ระบบโทรคมนาคม หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะ
กระทำการใดอันอาจให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หรือของบุคคลใดหรือสิ่งแวดล้อม อันนำให้เกิดหรืออาจนำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างสำคัญ ถ้าการกระทำนั้นได้กระทำโดยมีความมุ่งหมายเพื่อขู่เข็ญหรือบังคับรัฐบาลไทย รัฐบาลต่างประเทศ หรือองค์กรระหว่างประเทศ ให้กระทำหรือไม่กระทำการใดอันอาจให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง หรือเพื่อสร้างความปั่นป่วนโดยให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน ผู้กระทำการตามความผิดฐานการก่อการร้าย ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงหกล้านบาท การกระทำในการเดินขบวน ชุมนุม ประท้วง โต้แย้ง หรือเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้รัฐช่วยเหลือหรือให้ได้รับความเป็นธรรมอันเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ไม่เป็นการกระทำความผิดฐานการก่อการร้าย
รู้เห็นว่าอาจจะมีการทำการก่อการร้าย โดยมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่าบุคคลนั้นจะกระทำการดังกล่าวขึ้นจริง หรือ
สงเคราะห์หรืออุปการะ จัดหาหรือรวบรวมทรัพย์สิน ให้หรือรับการฝึกการก่อการร้าย ตระเตรียมการอื่นใด หรือสมคบกัน เพื่อก่อการร้าย หรือกระทำความผิดใด ๆ อันเป็นส่วนของแผนการเพื่อก่อการร้าย หรือชุมนุมประชาชนให้เกิดส่วนในการก่อการร้าย หรือรู้ว่ามีผู้จะทำการก่อการร้ายแล้วกระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้ ผู้นั้นต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สี่หมื่นบาทถึงสองแสนบาท
ความผิดเกี่ยวกับการปกครอง
ความผิดเกี่ยวกับเจ้าพนักงาน
ถ้าการต่อสู้หรือขัดขวางนั้น ได้กระทำโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้ากระทำโดยวางอุบายกู้ยืม หรืออย่างใด ไม่ว่าอย่างยืมหรือช่องโจรนั้นจะมีอยู่หรือไม่ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สี่หมื่นบาทถึงสองแสนบาท ถ้าความผิดตามมาตรานี้ได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด ผู้กระทำต้องระวางโทษหนักกว่าที่กำหนดไว้ในสองวรรคก่อนหนึ่ง
สถานะเป็นบัญชีเงินฝากรัฐ สมาชิกสภาจังหวัดหรือสมาชิกสภาเทศบาลโดยวิธีอื่นๆจงใจหรือผิด กฎหมายมารยาทโดยอ้างสิทธิของตนให้กระทำการ หรือไม่กระทำการในหน้าที่อันเป็นเหตุหรือประโยชน์แก่บุคคลใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เจ้าพนักงานผู้ใดได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติการตามลักษณะหน้าที่ต่อไปแล้ว ยังฝ่าฝืนกระทำการใด ๆ ในลักษณะหน้าที่นั้น ต้องระวางโทษตามที่กำหนดไว้ในวรรคแรกอุกฉกรรจ์
ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
ในการซื้อหรือรักษาลังนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
รับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรืออาการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ
รับรองเป็นหลักฐานว่า ได้มีการแจ้งข้อความอันได้มีการแจ้ง
ละเว้นไม่ลงข้อความที่ตนมีหน้าที่ต้องรับจดหรือเปลี่ยนแปลงข้อความเช่นว่านั้น หรือ
รับรองเป็นหลักฐานอันเป็นเท็จด้วยเอกสารนั้นเพื่อมุ่งจุดอันอาจจะเป็นความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เปิด หรือยอมให้ผู้อื่นเปิด จดหมายหรือสิ่งอื่นที่ส่งทางไปรษณีย์หรือโทรเลข
ทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้สูญหาย หรือยอมให้ผู้อื่นทำให้เสียหาย ทำลายหรือทำให้สูญหาย จดหมายหรือสิ่งอื่นที่ส่งทางไปรษณีย์หรือโทรเลข
กัก ส่งให้ผิดทาง หรือส่งให้แก่บุคคลซึ่งรู้ว่าใช้เป็นผู้ควรรับซึ่งจดหมายหรือสิ่งอื่นที่ส่งทางไปรษณีย์หรือโทรเลข หรือ
เปิดเผยข้อความที่ส่งทางไปรษณีย์หรือโทรเลข ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าความผิดนั้นได้กระทำเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดิน เพื่อบังคับรัฐบาลหรือเพื่อข่มขู่ประชาชน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท
ความผิดเกี่ยวกับการยุติธรรม
ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม
ถ้าการแจ้งข้อความความในวรรคแรกเป็นการแจ้งข้อความเพื่อจะให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ถ้าความผิดดังกล่าวในวรรคแรก ได้กระทำในหน้าที่ในการพิจารณาคดีอาญา ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เป็นการกระทำในการแต่งข้อความว่า ผู้ใดกระทำความผิดที่มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีขึ้นไป ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่เกือบหนึ่งถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท
เป็นการกระทำในการแต่งข้อความว่า ผู้ใดกระทำความผิดที่มีระวางโทษถึงประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่เกือบถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสามแสนบาท
ตลาดของเจ้าพนักงานเนื่องจากคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม
ถ้าการกระทำหรือไม่กระทำนั้นเป็นการเพื่อจะกลั่นแกล้งให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดต้องรับโทษ รับโทษหนักขึ้น หรือได้รับโทษโดยปราศจากเหตุอันสมควร ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท
ถ้าผู้ที่หลุดพ้นจากการคุมขังไปแล้วเป็นบุคคลซึ่งต้องคำพิพากษาของศาลหนึ่งศาลใดให้ลงโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่สิบปีขึ้นไป หรือมีจำนวนตั้งแต่สามคนขึ้นไป ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สิบหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
ถ้าผู้ที่หลุดพ้นจากการคุมขังไปแล้วกระทำโดยประมาทเป็นบุคคลซึ่งต้องคำพิพากษาของศาลหนึ่งศาลใดให้ลงโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่สิบปีขึ้นไป หรือมีจำนวนตั้งแต่สามคนขึ้นไป ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้กระทำความผิดดังได้โดยผู้ที่หลุดพ้นจากการคุมขังคืนมาภายในสามเดือน ให้ลดการลงโทษแก่ผู้กระทำความผิดนั้น
ความผิดเกี่ยวกับศาสนา
ความผิดเกี่ยวกับความสงบสุขของประชาชน
ผู้ซึ่งมีตำแหน่งดังนี้ไป ผู้ซึ่งกระทำความผิดฐานเป็นซ่องโจร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าเป็นการสมคบกันเพื่อกระทำความผิดที่มีระวางโทษจำคุกประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกสูงสุดซึ่งเกินสิบปีขึ้นไป ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี สิบปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จัดหาให้ประชุมหรือที่พักนักให้แก่ซ่องโจรหรือซ่องโจร
ชักชวนบุคคลให้เข้าเป็นสมาชิกซ่องโจรหรือพรรคพวกซ่องโจร
อุปการะซ่องโจรหรือซ่องโจรโดยให้ทรัพย์หรือโดยประการอื่น หรือ
ช่วยจำหน่ายทรัพย์หรือซ่องโจรได้มาโดยการกระทำความผิด ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดฐานเป็นซ่องโจรหรือซ่องโจร แล้วแต่กรณี
ถ้าการกระทำความผิดนั้น เป็นการกระทำเพื่อช่วยบอก มาตรา บุคคล หรือรายงานของผู้กระทำ ศาลจะไม่ลงโทษก็ได้
ถ้าผู้กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดอาวุธ บรรดาผู้กระทำความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้กระทำความผิดนั้นทำ หรือเป็นผู้ที่มีส่วนที่สำคัญในการกระทำความผิดนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ความผิดเกี่ยวกับการก่อให้เกิดอันตรายต่อประชาชน
โรงเรือน เรือ หรือแพที่คนอยู่อาศัย
โรงเรือน เรือหรือแพอันเป็นที่เก็บหรือที่ทำสินค้า
โรงมหรสพหรือสถานที่ประชุม
โรงเรือนอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน เป็นสาธารณสถาน หรือเป็นที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
สถานีรถไฟ ท่าอากาศยานหรือยวดยานหรือเรือสาธารณะ
เรือกลไฟ หรือเรือยนต์ อันใช้ในการเดินทะเล หรือรถไฟที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะ ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่หกปีถึงยี่สิบปี
ถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวในวรรคแรก เป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้แก่ทรัพย์ของผู้อื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖๗
``` เป็นทรัพย์ที่มีราคาน้อย และการกระทำนั้นไม่น่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้ากระทำให้บุคคลอื่นรับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี
ถ้าการกระทำดังกล่าวในวรรคแรกเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท
``` ทางบก การเดินเรือหรือการเดินอากาศ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท
รถโดยสาร อากาศยาน รถไฟหรือรถราง
รถยนต์ที่ใช้สำหรับบรรทุกคนส่งสารธารณะ หรือ
เรือกลไฟ หรือเรือยนต์อันมีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป ที่ใช้สำหรับบรรทุกคนส่งสารธารณะ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท
ความผิดเกี่ยวกับการปลอมและการแปลง
ความผิดเกี่ยวกับเงินตรา
ผู้ใดนำเงินตราปลอมเข้ามาในราชอาณาจักร นำออกไปนอกราชอาณาจักร หรือทำให้เงินตราปลอมแพร่หลายโดยรู้ว่าเป็นเงินตราปลอมตามมาตรา ๒๔๐ ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน
ให้อำนาจให้ออกใช้ หรือเกี่ยวกับพันธบัตรรัฐบาลสําหรับประเทศไทยหรือไปค้ําประกันสําหรับ ออกพันธบัตรเช่นนั้น ผู้กระทําต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปีในมาตราอื่น ๆ
ปลอมขึ้นเองแล้วด้วย ให้ลงโทษผู้กระทําตามมาตรา ๒๖ อนุมาตรา ๒๖ (๑) หรือมาตรา ๒๖ (๒) แต่กระทงเดียว
ขนาดคล้ายคลึงกับบัตร ไม่ว่าจะเป็นพันธบัตรหรือโลหะตราเช่นนั้น ๆ ซึ่งรัฐจะออก ใช้หรือให้มีไว้ หรือทําบัตรหรือโลหะตราเช่นนั้น หรือจําหน่ายบัตรหรือโลหะตราเช่นนั้น นั้น ๆ หรือจําหน่ายบัตรหรือโลหะตราเช่นนั้น ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับ ไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ถ้าการจําหน่ายบัตร หรือโลหะตราดังกล่าวในวรรคแรกเป็นการจําหน่าย โดยการจําหน่ายออกใช้ซึ่งบัตรเช่นใด ๆ ที่กล่าวในวรรคแรก ผู้กระทําต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน สามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ความผิดเกี่ยวกับตรา ตราสมเด็จและสัตว์
หรือพระราชลัญจกร ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาท ถึงสี่หมื่นบาท
การเมือง ขององค์การสาธารณะ หรือของเจ้าพนักงาน ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปี ถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท
ต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น ๆ
หรือมาตรา ๓๐ ซึ่งเป็นของตราหรือรอยตราแท้จริง และได้ตราหรือรอยตราเช่นนั้น โดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือมิได้มีอํานาจหน้าที่ที่จะมีไว้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี
หรือพระราชลัญจกร หรือรอยตราแห่งสยามแลนเด้น หรือรอยตราแผ่นดิน หรือพระราช ลัญจกร หรือรอยตราแห่งสยามแลนเด้น หรือรอยตราแผ่นดิน หรือพระราชลัญจกร ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท
ตราแผ่นดิน พระปรมาภิไธย ตราสมเด็จหรือรอยตราแห่งสยามแลนเด้น ขององค์การ สาธารณะ หรือของเจ้าพนักงาน หรือแสดงซึ่งรูปในมาตรา ๒๙ อนุมาตรา ๒๙ (๑) หรือ
ปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้อื่นหรือผู้ดูแลผลเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ผู้กระทำความผิดฐานปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดกระทำข้อความปลอมหรือแสดงข้อความอันเป็นเท็จในสิ่งซึ่งมีลายมือชื่อของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม หรือโดยฝ่าฝืนคำสั่งของผู้มีอำนาจสั่งเช่นนั้น ถ้าได้กระทำเพื่อให้เอกสารนั้นไปใช้เป็นหลักฐานหรืออาจใช้เป็นหลักฐานเพื่อให้ผู้อื่นหรือประชาชน ให้ถือว่าผู้นั้นปลอมเอกสาร ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้ปลอมเอกสาร
เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ
พินัยกรรม
ในหุ้น ใบหุ้นกู้ หรือใบสำคัญของใบหุ้นหรือใบหุ้นกู้
ตั๋วเงิน หรือ
บัตรเงินฝาก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท สองแสนบาท
ถ้าผู้กระทำความผิดตามมาตรานี้เป็นผู้ปลอมเอกสารนั้น หรือเป็นผู้แจ้งให้เจ้าพนักงานลงข้อความอันเป็นเท็จในเอกสารนั้น ให้ถือว่าผู้นั้นได้กระทำความผิดฐานใช้หรืออ้างเอกสารนั้นด้วย
ความผิดเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์[198]
ผู้ใดจำหน่ายหรือโฆษณาหรือมีสิ่งใด ๆ ที่ทำปลอมหรือแปลงขึ้นตาม มาตรา ๒๖๗/๑ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึง สองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับบทลงโทษที่ศาลวินิจฉัยกรณีการกระทำความผิดเกี่ยวกับบัตร อิเล็กทรอนิกส์ตามมาตรา ๒๖๗/๑ ให้ลงโทษตามมาตรานี้แต่กระทงเดียว
ความผิดเกี่ยวกับหนังสือเดินทาง[206]
เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นหนังสือเดินทางที่แท้จริง ผู้กระทำความผิดฐานปลอมหนังสือเดินทาง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
ผู้ใดจำหน่ายหรือมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งหนังสือเดินทางปลอมตามมาตรา ๒๖๘/๘ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงสองแสนบาท การมีหนังสือเดินทางปลอมตามมาตรา ๒๖๘/๘ จำหน่ายแต่ละฉบับขึ้นไป ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าไว้เพื่อจำหน่าย ถ้าผู้กระทำความผิดตามมาตราหนึ่งหรือธรรมดาเป็นผู้ปลอมซึ่งหนังสือเดินทาง ตามมาตรา ๒๖๘/๘ ให้ลงโทษตามมาตรานั้นแต่กระทงเดียว
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งได้กระทำไปเพื่อจำหน่าย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
ผู้ใดจัดทำหนังสือเดินทางให้ผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน
ผู้ใดกระทำความผิดตามมาตราหนึ่งเป็นผู้ปลอมซึ่งตราดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นประตรวจลงตรา ต้องลงโทษตามมาตรานั้นแต่กระทงเดียว
ที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖๘/๑๑
ความผิดเกี่ยวกับการค้า
เอาชื่อ รูป รอยประดิษฐ์หรือข้อความใด ๆ ในการประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้ หรือทำให้ปรากฏที่สินค้า หีบ ห่อ หีบห่อที่บรรจุสินค้า หรือฉลาก รายการแสดงราคา ตามลักษณะเกี่ยวกับการค้าหรือสิ่งอื่นอันเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้า หรือการค้าของผู้อื่น
เลียนแบบหรือทำให้คล้ายคลึงกับเครื่องหมายของผู้อื่นอันเกี่ยวกับการค้าของผู้อื่นเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้า หรือการค้าของผู้อื่น หรือ
ใช้ข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความเพื่อให้เสียความเชื่อถือในสถานที่การค้า สินค้าอุตสาหกรรมหรือพาณิชยการของผู้อื่นผู้ใด โดยมุ่งประโยชน์แก่การค้าของตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความผิดตามมาตรานี้เป็นความผิดอันยอมความได้
ยินดีตามความในมาตรา 227 หรือมาตรา 225 ต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น ๆ
ความผิดเกี่ยวกับเพศ
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง ได้กระทำโดยทำให้ผู้ถูกกระทำเข้าใจว่าผู้กระทำเป็นหรือสัตว์ร้ายชนิด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่เจ็ดปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนสี่หมื่นบาทถึงสี่แสนบาท ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง ได้กระทำโดยมีอาวุธเป็นหรือวัตถุระเบิด หรือโดยใช้อาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงหรือกระทำชำเราชายในลักษณะเดียวกัน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นการกระทำความผิดระหว่างคู่สมรส และผู้สมรสฝ่ายหนึ่งประสงค์จะดำเนินคดีตามลักษณะนี้ ศาลอาจพิจารณาให้คู่สมรสฝ่ายที่กระทำความผิดให้เงินหรือทรัพย์สินอื่นแก่คู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด หรือบุตรของคู่สมรสฝ่ายที่ถูกกระทำความผิด ของเด็กผู้ถูกกระทำหรือผู้กระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็กแทนการลงโทษได้ ในกรณีการกระทำของตน ให้คำนึงถึงวัย ประวัติ ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษาอบรม สุขภาพ ภาวะแห่งจิต นิสัย อาชีพ สิ่งแวดล้อมของผู้กระทำความผิดและเด็กผู้ถูกกระทำ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้กระทำความผิดกับเด็กผู้ถูกกระทำ หรือเหตุอื่นอันควรเพื่อประโยชน์ของเด็กผู้ถูกกระทำด้วย ในกรณีที่ได้มีการดำเนินการคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กผู้ถูกกระทำหรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็กแล้วและเด็กผู้กระทำผิดไม่ต้องรับโทษ แต่ถ้าการกระทำของเด็กผู้กระทำผิดนั้นเป็นความผิดร้ายแรงหรือเป็นการกระทำที่มีลักษณะเป็นภัยต่อสังคมจนไม่อาจให้โอกาสเด็กผู้กระทำผิดกลับตัวเป็นคนดีได้ ให้ดำเนินการตามมาตรา ๒๗๖ วรรคสอง โดยไม่ต้องมีเหตุอันควรดังกล่าว
รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สามแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต
ถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
ถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นการกระทำโดยใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่นซึ่งมิใช่อวัยวะเพศสอดใส่อวัยวะเพศหรือทวารหนักของบุคคลนั้น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสามแสนบาท ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคสอง ได้กระทำโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือในลักษณะเป็นการทรมานร่างกายหรือจิตใจของบุคคลนั้น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต ระหว่างที่บุคคลซึ่งกระทำความผิดตามมาตรา ๒๗๖ วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง หรือมาตรา ๒๗๖ จัตวา วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีหรือระหว่างการรับโทษ ให้ศาลมีอำนาจสั่งให้บุคคลนั้นเข้ารับการบำบัดรักษา ฟื้นฟูสมรรถภาพ หรืออบรมในสถานพยาบาลหรือสถานที่อื่นตามที่ศาลเห็นสมควร
บาน หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำความผิดตามมาตราหนึ่ง เป็นการกระทำแก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปี ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำความผิดตามมาตราหนึ่งหรือวรรคสอง ผู้กระทำได้กระทำโดยผู้มีอำนาจปกครองใด ๆ โดยให้ลักษณะประมาทร้าย โดยเป็นผู้มีปัญญาที่ไม่สามารถชัดเจนได้ หรือโดยทำให้เด็กเสียใจโดยการล่วงเกินส่วนตัว ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำความผิดตามมาตราหนึ่งหรือวรรคสาม เป็นการกระทำโดยใช้วัตถุหรือวัสดุอื่นซึ่งมิใช่อวัยวะเพศส่วนล่างของเพศหรืออวัยวะเพศส่วนอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต ถ้าการกระทำความผิดตามมาตราหนึ่ง เป็นการกระทำแก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปี ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต ถ้าการกระทำความผิดตามมาตราสี่วรรคห้า ได้กระทำโดยทำให้ผู้ถูกกระทำเข้าใจว่าตนจะต้องมีชีวิตอยู่ในอันตราย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต ถ้าการกระทำความผิดตามมาตราสี่วรรคห้า ได้กระทำโดยมีการข่มขู่หรือรังแก หรือโดยใช้กำลัง หรือโดยใช้วิธีการใด ๆ ที่ทำให้ผู้ถูกกระทำต้องอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี หรือปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต
(1) รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต (2) ถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
ถ้าผู้กระทำความผิดตามมาตรานี้ เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งภาพหรือเสียงการกระทำอันร้ายแรงหรือการกระทำที่ไม่เหมาะสมใด ๆ ต้องระวางโทษหนักกว่าที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น ๆ หนึ่งในสาม
มาตรา ๒๖๒ วรรคหนึ่ง และมาตรา ๒๖๗ วรรคสอง ซึ่งเป็นการกระทำระหว่างคู่สมรส ถ้าได้เกิดต่อหน้าการกระทำนั้น หรือไม่เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ความตาย
มาตรา ๒๖๒ วรรคหนึ่ง ถ้าได้เกิดต่อหน้าการกระทำนั้น ไม่เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ความตาย หรือมิได้เป็นการกระทำแก่บุคคลซึ่งอยู่ในมาตรา ๒๖๔ และมาตรา ๒๖๕/๒
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรกเป็นการกระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสองแสนบาท ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรกเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่แสนบาทถึงห้าแสนบาท ผู้ใดเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น รับจ้างบุคคลซึ่งมีผู้จัดหา ล่อไป หรือพาไปการอนาจาร วรรคสอง การกระทำความผิด หรือสนับสนุนในการกระทำความผิดดังกล่าว ต้องระวางโทษตามบัญญัติในวรรคแรก หรือวรรคสองของการกระทำความผิดนั้น
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรกเป็นการกระทำแก่บุคคลอายุยังไม่เกินสิบปี ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ใดชักชวนบุคคลซึ่งถูกพาไปตามวรรคแรกหรือวรรคสอง ต้องระวางโทษตามที่บัญญัติในวรรคแรกหรือวรรคสอง แล้วแต่กรณี ความผิดตามวรรคแรกและวรรคสองเฉพาะกรณีที่กระทำกับบุคคลอายุเกินสิบห้าปี เป็นความผิดอันยอมความได้
ผู้ใดชักชวนบุคคลซึ่งถูกพาไปตามวรรคแรก ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้พาไปนั้น ความผิดตามมาตรานี้ เป็นความผิดอันยอมความได้
ช่วยเหลือ ให้ความสะดวก หรืออุปการะการกลับประเทศของผู้อื่น
รับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการกลับประเทศของผู้อื่นซึ่งต้องระวางโทษในกรณีนี้
บังคับ ขู่เข็ญ หลอกลวง หรือใช้อำนาจผิดทำนองคลองธรรมเพื่อบังคับผู้อื่นให้ทำงานเพื่อการกลับประเทศ
จัดให้มีการกลับประเทศระหว่างผู้ที่กลับประเทศด้วยกัน
ปกปิดหรืออำพรางแหล่งที่มาของรายได้ทรัพย์สินที่ได้มาจากการกลับประเทศ อยู่ร่วมกับผู้ซึ่งลำบากประณีตหรือสมาคมกับผู้ซึ่งลำบากประณีตคนเดียวหรือหลายคนเป็นอาจินต์ และไม่สามารถแสดงที่มาของรายได้ในการดำรงชีพของตน
ขัดขวางการดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ในกรณีป้องกัน ควบคุม ช่วยเหลือ หรือให้การศึกษาแก่ผู้ลำบากประณีต ผู้ซึ่งจะเข้าร่วมในการลำบากประณีต หรือผู้ซึ่งอาจได้รับอันตรายจากการลำบากประณีต ความในวรรคหนึ่ง (ก) และ (ข) มิให้ใช้บังคับแก่ผู้ซึ่งเป็นประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดซึ่งพึงได้รับตามกฎหมายหรือจารีตประเพณี
เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงต่อคนในประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือมิให้นำเข้าในกรณีการออกจากจักร ส่งออกหรือมิให้ออกไปนอกราชอาณาจักร ทำไปหรือมิให้นำไปหรือมิให้นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยประการใด ๆ ซึ่งแสดงการ ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แบบบันทึกเสียง แบบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก
ประกอบการค้า หรือมีส่วนร่วมในการซื้อขายในทางลามกอนาจาร หรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จำหน่ายแจกหรือแสดงต่อคนในประชาชน หรือให้เช่าหรือให้เช่าวัสดุเช่นนั้น
เพื่อช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าจัดจำหน่ายหรือแสดงลามกดังกล่าวแล้ว โดยจงใจทำโดยประการใด ๆ ว่ามีลักษณะลามกอนาจาร หรือเพื่อการโฆษณาลามกอนาจารโดยประการใด ๆ วัสดุสิ่งของลามกดังกล่าวแล้วตามที่ได้ความว่าได้จากบุคคลใด หรือโดยวิธีใด ต้องระวางโทษ[247]จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่งส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็กผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงต่อคนในประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือมิให้นำเข้าในกรณีการออกจากจักร ส่งออกหรือมิให้ออกไปนอกราชอาณาจักร ทำไปหรือมิให้นำไปหรือมิให้นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยประการใด ๆ ซึ่งสื่อถึงลามกอนาจารเด็ก
ประกอบการค้า หรือมีส่วนร่วมในการซื้อขายในทางลามกอนาจารเด็ก หรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จำหน่ายแจกหรือแสดงต่อคนในประชาชน หรือให้เช่าหรือให้เช่าวัสดุเช่นนั้น
เพื่อช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าจัดจำหน่ายหรือแสดงลามกอนาจารเด็กดังกล่าวแล้ว โดยจงใจทำโดยประการใด ๆ ว่ามีลักษณะลามกอนาจารเด็ก หรือเพื่อการโฆษณาลามกอนาจารเด็กโดยประการใด ๆ วัสดุสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าสื่อกลางบอกบางกรณีเด็กดังกล่าวแล้วจะหาได้จากบุคคลใด หรือโดยวิธีใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
ความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย
ความผิดต่อชีวิต
(1) ฆ่าบุพการี (2) ฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่ต้องกระทำหรือได้กระทำการตามหน้าที่ (3) ฆ่าผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ในการที่เจ้าพนักงานนั้นกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่บุคคลนั้นจะช่วยหรือได้ช่วยเจ้าพนักงานดังกล่าวมาแล้ว (4) ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน (5) ฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย (6) ฆ่าผู้อื่นเพื่อเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น หรือ (7) ฆ่าผู้อื่นเพื่อเอาอวัยวะหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา ในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ต้องระวางโทษประหารชีวิต
ถ้าการทำร้ายผู้อื่นนั้นเป็นความผิดลหุโทษ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี
ตนเอง ถ้าการชำระหนี้นั้นได้เกิดขึ้นหรือได้มีการพยายามชำระหนี้ตนเอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท
ถ้าผู้ที่เข้าร่วมในการชุมนุมอันมิชอบด้วยกฎหมายแสดงได้ว่า ได้กระทำไป เพื่อห้ามการชุมนุมอันมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ
ความผิดต่อร่างกาย
อันตรายสาหัสนั้น คือ
ตาบอด หูหนวก ลิ้นขาด หรือเสียความประสาท
เสียอวัยวะสืบพันธุ์หรือความสามารถสืบพันธุ์
เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้วหรืออวัยวะอื่นใด
หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว
แท้งลูก
จิตพิการอย่างติดตัว
ทุกข์ทรมาน หรือป่วยเจ็บเรื้อรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิต (5) พุพองภาพหรือป่วยเป็นด้วยอาการทุกขเวทนากินกว่าสิบวัน หรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่าสิบวัน
ถ้าผู้ที่เข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้นั้นแสดงได้ว่า ได้กระทำไปเพื่อห้ามการชุลมุนต่อสู้นั้น หรือเพื่อป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ
ความผิดฐานทำให้แท้งลูก
ถ้าการกระทำนั้นแสดงให้หญิงรู้รับอันตรายสาหัสด้วย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้หญิงถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท
ถ้าการกระทำนั้นแสดงให้หญิงรู้รับอันตรายสาหัสด้วย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้หญิงถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับไม่เกินสี่แสนบาท
กรณีดังต่อไปนี้ ผู้กระทำไม่มีความผิด
จำเป็นต้องกระทำเนื่องจากหากหญิงตั้งครรภ์ต่อไปจะเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายต่อสุขภาพทางกายหรือจิตใจของหญิงนั้น
จำเป็นต้องกระทำเนื่องจากมีความเสี่ยงอย่างมากหรือเหตุผลทางการแพทย์บ่งชี้ว่า หากการคลอดออกมาจะส่งผลให้บุตรมีสภาพทุพพลภาพอย่างร้ายแรง
หญิงยืนยันต่อผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมว่ามีความตั้งครรภ์เนื่องจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับเพศ
หญิงซึ่งมีอายุครรภ์ไม่เกินสิบสองสัปดาห์ยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์
หญิงซึ่งมีอายุครรภ์เกินสิบสองสัปดาห์ แต่ไม่เกินยี่สิบสัปดาห์ ยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์หลังจากการรับการปรึกษาทางเลือกจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมผู้ประกอบวิชาชีพอื่นตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดตามคำแนะนำของแพทยสภาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น
ความผิดฐานทอดทิ้งเด็ก คนป่วยเจ็บหรือคนชรา
ความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพและชื่อเสียง
ความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพ
ความผิดตามมาตราแรกได้กระทำโดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป หรือได้กระทำเพื่อให้ผู้ถูกบังคับเข้าใจผิด ถอย ทำให้เสียหาย หรือทำลายเอกสารสิทธิอย่างใด ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการทำโดยอ้างว่ากำลังตั้งหรือยังมีหรือยังโง่ ไม่ว่าอ้างสิ่งซึ่งยังโง่หรือยังโง่เป็นอยู่หรือไม่ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท
ถ้าการกระทำความผิดตามมาตราแรก เป็นเหตุให้ผู้ถูกทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายถึงแก่ความตาย หรือรับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 290 มาตรา 297 หรือมาตรา 300
ถ้าการกระทำความผิดตามมาตราแรก เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยว ถูกกักขัง หรือปราศจากเสรีภาพในร่างกายถึงแก่ความตายหรือรับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 290 หรือมาตรา 300
ถ้าการกระทำความผิดตามมาตราแรก หรือมาตรา 300 ทวิ หรือมาตรา 302 เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำ
รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบห้าปี และปรับไม่เกินสามแสนบาท
รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี
ถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรกเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เอาตัวเด็กอายุไม่เกินสิบแปดปีไป
เอาตัวบุคคลอายุเกินสิบแปดปีไป โดยใช้จูงบทยหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด หรือ
หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใด ต้องระวางโทษ[277]จำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรกเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตายไป ผู้ถูกกระทำเหนื่อย หรือผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย หรือเป็นการกระทำที่มีลักษณะทารุณโหดร้าย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย หรือถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรกเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตายไป ผู้ถูกกระทำเหนื่อย หรือผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย หรือเป็นการกระทำที่มีลักษณะทารุณโหดร้าย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย หรือถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต
ผู้ใดโดยทุจริต ซื้อ จำหน่าย หรือรับตัวเด็กอายุห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้พรากนั้น ถ้าภาพถ่าย 문서의 텍스트를 OCR로 추출한 결과는 다음과 같습니다: ถ้าความผิดตามมาตรา ๓๗๙ นี้ได้กระทำเพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสองแสนบาท
ผู้ใดโดยทุจริต ซื้อ จำหน่าย หรือรับซื้อผู้เยาว์ซึ่งถูกพาออกจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแล ต้องระวางโทษเช่นเดียวกันกับผู้พาผู้นั้น ถ้าความผิดตามมาตรา ๓๘๐ นี้ได้กระทำเพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร ผู้กระทำต้องระวางโทษ (๒๘๓) จำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสามแสนบาท
ผู้ใดโดยทุจริต ซื้อ จำหน่าย หรือรับซื้อผู้เยาว์ซึ่งถูกพาออกจากบิดามารดาผู้ปกครองหรือผู้ดูแล ต้องระวางโทษเช่นเดียวกันกับผู้พาผู้นั้น
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรกได้กระทำเพื่อให้ผู้ถูกพา หรือส่งไปนั้นตกอยู่ในอำนาจของผู้ใช้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อจะให้เป็นคนอนาจาร ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสามแสนบาท
ความผิดฐานเปิดเผยความลับ
```
ผู้รับการศึกษาอบรมในอาชีพดังกล่าวในวรรคแรก เปิดเผยความลับของผู้อื่น อันตนได้ล่วงรู้หรือได้มาจากการศึกษาอบรมนั้น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน
ความผิดฐานหมิ่นประมาท
เพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนหรือป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับสิ่งที่ตามคลองธรรม
ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติการตามหน้าที่
ติชมด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลสาธารณะเปิดเผยในวิจารณญาณของตน หรือ
ในการชุมนุมด้วยความเป็นธรรมเพื่อการดำเนินการอันเป็นไปโดยเปิดเผย ศาลหรือในการประชุม ``` ผู้นั้นไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
แต่ห้ามไม่ให้พิสูจน์ ถ้าข้อที่ว่าหมิ่นประมาทนั้นเป็นการใส่ความในเรื่องส่วนตัว และการพิสูจน์จะไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน
ศาลอาจสั่ง
ให้ยึด และทำลายวัตถุหรือส่วนของวัตถุที่มีข้อความหมิ่นประมาทนั้น
ให้โฆษณาคำพิพากษาทั้งหมด หรือแต่บางส่วนในหนังสือพิมพ์หนึ่งฉบับหรือหลายฉบับ ครั้งเดียวหรือหลายครั้ง โดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณา
ถ้าผู้เสียหายในความผิดฐานหมิ่นประมาทตายสิทธิที่จะร้องทุกข์ ให้บิดามารดา ผู้สืบสันดาน ผู้เป็นสามีหรือภริยาของผู้ตายร้องทุกข์แทนได้
ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์
ความผิดฐานลักทรัพย์และวิ่งราวทรัพย์
ในเวลากลางคืน
ในที่หรือบริเวณที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ การระเบิด อุทกภัย หรือในที่หรือบริเวณที่มีอุบัติเหตุ เหตุทุกขภัยหรือในที่หรือบริเวณที่ชุมนุมเพื่อช่วยเหลือโดยสาร หรือที่พนักงานมีอำนาจสั่งการ หรือขัดขวางเจ้าพนักงาน หรือขัดขวางโอกาสที่ประชาชนกำลังลำบากอันเนื่องด้วยภัยใด ๆ
โดยทำด้วยการทำลายสิ่งกีดขวางหรือกระทำด้วยความรุนแรงต่อทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งกีดขวางด้วยประการใด ๆ
โดยทำด้วยการทำลายสิ่งที่ได้ทำขึ้นโดยได้ตั้งขึ้นให้เป็นทางคนเดิน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจได้ปิดไว้ให้เข้า
โดยแสดงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น มอบหน้าที่หรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้
โดยอ้างว่าเป็นเจ้าพนักงาน
โดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป
ในเหตุการณ์ สถานที่หรือการจัดงานซึ่งมีลักษณะให้ต้องให้บริการสาธารณะที่มิใช่ในโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือข้อห้ามอย่างอื่นที่บัญญัติขึ้น
ในสถานที่ซึ่งสารธารณะ สถานที่ใดๆ ท่ออากาศยานที่จอดรถหรือเรือสารธารณะ สารธารณะสถานสำหรับขนถ่ายสินค้า หรือในขณะยาสารธารณะ
ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสารธารณประโยชน์
ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง
ที่เป็นของผู้มีอาชีพกิจกรรม บรรดาที่เป็นผลิตภัณฑ์ พืชพันธุ์ สัตว์ หรือเครื่องมืออื่นที่ใช้สำหรับประกอบกิจกรรมหรือได้รับจากการทำกิจกรรมนั้น ต้องระวางโทษ[๒๙๖] จำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท ถ้าความผิดตามวรรคแรกเป็นการกระทำที่ปรากฏข้อเท็จจริงและตั้งบัญญัติอย่างชัดเจนว่ามีการกระทำโดยเจตนาเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินของราชอาณาจักรไทยหรือจำหน่ายในราชอาณาจักรไทย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงสองแสนบาท ถ้าความผิดตามวรรคแรกเป็นการกระทำต่อทรัพย์ที่เป็นโค กระบือ เครื่องกลหรือเครื่องจักรที่ผู้มีอาชีพกิจกรรมใช้สำหรับประกอบกิจกรรม ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสองแสนบาท[๒๙๗] ถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวในวรรคนี้ เป็นการกระทำโดยความจำใจหรือความยากจนเหลือทนทาน และทรัพย์นั้นมีราคาน้อย ศาลจะลงโทษผู้กระทำความผิดดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๓๗ ก็ได้
ถ้าความผิดตามวรรคแรกเป็นการกระทำโดยเจตนา ได้ทรัพย์สินของชาติ หรือสถานที่ที่มีในครอบครองของรัฐหรือของเอกชน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสองแสนบาท
ถ้าความผิดตามวรรคแรกเป็นการกระทำโดยเจตนาเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินของราชอาณาจักรไทยหรือจำหน่ายในราชอาณาจักรไทย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงห้าหมื่นบาท ถ้าการจึงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้รับจึงรับทรัพย์มอบสิทธิ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสองแสนบาท ถ้าการจึงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้รับจึงเสียความสามารถ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสามแสนบาท
ความผิดฐานกรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์และปล้นทรัพย์
ถ้าความผิดฐานกรรโชกได้กระทำโดย
ขู่เข็ญว่า จะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจหรือของบุคคลที่สาม หรือขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับของผู้ถูกข่มขืนใจ หรือ
มีอาวุธติดตัวมาขู่เข็ญ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท
ให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือการพาทรัพย์นั้นไป
ให้ยินยอมให้ทรัพย์นั้น
ถือเอาทรัพย์นั้นไว้
ปกปิดการกระทำความผิดนั้น หรือ
ให้พ้นจากการจับกุม ผู้ที่กระทำความผิดฐานลิขสิทธิ์ ต้องระวางโทษ[305]จำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสี่ปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงแปดแสนบาท ถ้าการลิขสิทธิ์เป็นการกระทำที่ประกอบด้วยลักษณะดังบัญญัติไว้ในอนุมาตราหนึ่งมาตราใดแห่งมาตรา ๓๗๕ หรือเป็นการกระทำต่อทรัพย์ที่เป็น เรือ เครื่องยนต์หรือเครื่องจักรที่ใช้สำหรับการเดินเรือหรือการบิน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสองล้านบาท[306] ถ้าการลิขสิทธิ์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สามแสนบาทถึงสี่แสนบาท ถ้าการลิขสิทธิ์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต
ถ้าการลิขสิทธิ์เป็นการกระทำในลักษณะดังบัญญัติไว้ในมาตรา ๓๗๕ วรรคสอง ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสามแสนบาท ถ้าการลิขสิทธิ์เป็นการกระทำที่มีลักษณะดังบัญญัติไว้ในเหตุให้ผู้อื่นรับอันตราย การกระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่สามแสนบาทถึงสี่แสนบาท ถ้าการลิขสิทธิ์มีความรุนแรงหรือวรรคสองเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงสิบห้าปี ถ้าการลิขสิทธิ์มีความรุนแรงหรือวรรคสองเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต
ถ้าในการลิขสิทธิ์ ผู้กระทำมีลักษณะเป็นส่วนบุคคลโดยมีความรู้ความคิดใดๆ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสี่แสนบาท ถ้าการลิขสิทธิ์เป็นการกระทำที่มีลักษณะดังบัญญัติไว้ในมาตรา ๓๗๕ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงสิบห้าปี ถ้าการปล้นทรัพย์หรือชิงทรัพย์โดยมีผลความรุนแรงเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายถึงแก่ชีวิต ใดๆ ในการกระทำดังกล่าว ผู้กระทำการกระทำตาม ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงสิบห้าปี ถ้าการปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต
ถ้าการปล้นทรัพย์นั้นเป็นการกระทำในสถานที่ซึ่งบัญญัติไว้ในมาตรา ๓๓๕ ทวิ วรรคสองด้วย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สามแสนบาทถึงสี่แสนบาท ถ้าการปล้นทรัพย์ตามวรรคแรกหรือวรรคสอง ผู้กระทำงานแต่คนหนึ่งคนใดมีอาวุธติดตัวไปด้วย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี ถ้าการปล้นทรัพย์ตามวรรคแรกหรือวรรคสองเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต ถ้าการปล้นทรัพย์ตามวรรคแรกหรือวรรคสองได้กระทำโดยแสดงความทารุณจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัสถึงตาย ใช้ยานพาหนะ หรือมีอาวุธปืนหรือกระทำทรมาน ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต ถ้าการปล้นทรัพย์ตามวรรคแรกหรือวรรคสองเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต
ความผิดฐานฉ้อโกง
แสดงเป็นคนอื่น หรือ
อาศัยความเท็จปัญญาของผู้ถูกหลอกลวงซึ่งเป็นเด็ก หรือคนที่มีความอ่อนแอแห่งตัวของผู้ถูกหลอกลวง ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวในวรรคแรก ต้องโทษจำคุกแล้วแต่ กรณีตามวรรคสองของมาตรา 317 ด้วย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่เดือน หนึ่งถึงปีหนึ่ง และปรับเงินเพิ่มหนึ่งหมื่นบาทต่อเดือนที่กระทำความผิด
ความผิดฐานโกงเจ้าหนี้
ความผิดฐานยักยอก
ถ้าทรัพย์นั้นได้ตกมาอยู่ในความครอบครองของผู้กระทำความผิด เพราะผู้อื่นส่งมอบให้โดยสำคัญผิดในข้อประการใด หรือเป็นทรัพย์สินหายซึ่งผู้กระทำความผิดเก็บได้ ผู้กระทำต้องระวางโทษแต่เบากว่าที่ระบุไว้ในวรรคหนึ่ง
ความผิดฐานรับของโจร
ถ้าการกระทำความผิดฐานรับของโจรนั้น ได้กระทำเพราะเหตุที่ได้กระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ตามมาตรา 335 ทวิ หรือมาตรา 335 ตรี ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินที่มีมูลค่าถึงสองแสนบาท ถ้าการกระทำความผิดฐานรับของโจรนั้น ได้กระทำต่อทรัพย์อันได้มาโดยการลักทรัพย์ตามมาตรา ๓๓๕ หรือการชิงทรัพย์ตามมาตรา ๓๓๖ หรือการปล้นทรัพย์ตามมาตรา ๓๓๙ ทวี ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาททั้งสามมาตรา[329]
ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
เครื่องกลหรือเครื่องจักรที่ใช้ในการประกอบกิจการหรืออุตสาหกรรม
ปศุสัตว์
ยอดยางหรือสิ่งทำนองนี้ที่ใช้ในการขนส่งสาระหรือในการประกอบกิจการหรืออุตสาหกรรม หรือ
พืชหรือพืชผลของสิทธิ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ความผิดฐานบุกรุก
โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย
โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป หรือ
ในเวลากลางคืน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ความผิดเกี่ยวกับศพ[๓๓๙]
ภาค ๓ ลหุโทษ
ถ้าการสั่งนั้นชอบแก่กฎหมาย เป็นคำสั่งให้ช่วยทำการในหน้าที่ของเจ้าพนักงาน หรือให้ช่วยตามกำลังและความสามารถ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
บุคคล หรือทรัพย์ หรือแสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าเป็นเชื้ออันตราย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำในที่สารธารณะสถาน หรือต่อหน้าธารกำนัล หรือเป็นการกระทำอันมีลักษณะส่อไปในทางที่จะก่อให้เกิดความเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคสองเป็นการกระทำโดยเจตนาหรือผู้กระทำกระทำความผิดอยู่ในอาการมึนเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
สายสัมพันธ์ / Maker 7 สิงหาคม 2566 ภิมุขพร / Checker 10 สิงหาคม 2566 ภิมุขพร / Authorizer 10 สิงหาคม 2566 (1) ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 71/ตอนที่ 55/ฉบับพิเศษ หน้า 1/94 พฤศจิกายน 2497 (2) ภาค 2 ลักษณะ 1/ ความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย เพิ่มโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2546 (3) ภาค 2 ลักษณะ 7 หมวด 4 ความผิดเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2547 (4) ภาค 2 ลักษณะ 7 หมวด 6 ความผิดเกี่ยวกับหนังสือเดินทาง เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2550 (5) ภาค 2 ลักษณะ 8 ความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ. 2562 (6) มาตรา 9 (6) เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2547 (7) มาตรา 9 (9) เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2550 (8) มาตรา 9 (10) เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ. 2562 (9) มาตรา 9 (11) เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2547 (10) มาตรา 9 (12) เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 18) พ.ศ. 2550 (11) มาตรา 7 (9) เพิ่มโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2546 (12) มาตรา 9 (12 ทวิ) เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2550 (13) มาตรา 9 (12 ตรี) เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 20) พ.ศ. 2551 (14) มาตรา 9 (12 จัตวา) เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ. 2562 [15] มาตรา 18 วรรคสอง เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 16) พ.ศ. 2506 [16] มาตรา 18 วรรคสาม เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2502 [17] มาตรา 20 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2499 [18] มาตรา 20 วรรคสาม แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2506 [19] มาตรา 20 วรรคสี่ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2522 [20] มาตรา 20/1 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2516 [21] มาตรา 20/2 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 25) พ.ศ. 2548 [22] มาตรา 20/3 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 25) พ.ศ. 2548 [23] มาตรา 30 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 15) พ.ศ. 2545 [24] มาตรา 30/1 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 15) พ.ศ. 2545 [25] มาตรา 30/1 วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 25) พ.ศ. 2548 [26] มาตรา 30/2 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 15) พ.ศ. 2545 [27] มาตรา 30/3 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 15) พ.ศ. 2545 [28] มาตรา 31 วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 20) พ.ศ. 2546 [29] มาตรา 32 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2522 [30] มาตรา 33 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2499 (31) มาตรา 57 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 (32) มาตรา 57 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 (33) มาตรา 60 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2495 (34) มาตรา 62 วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 (35) มาตรา 62 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2530 (36) มาตรา 62 วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 27) พ.ศ. 2550 (37) มาตรา 74 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2526 (38) มาตรา 74 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2535 (39) มาตรา 76 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2535 (40) มาตรา 84 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 25) พ.ศ. 2548 (41) มาตรา 84/1 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 27) พ.ศ. 2550 (42) มาตรา 87 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2526 (43) มาตรา 88 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2535 (44) มาตรา 92 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2535 (45) มาตรา 93 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 19) พ.ศ. 2535 (46) มาตรา 98 แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 (47) ข้อร่างโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (48) มาตรา 137/1 แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 (49) ข้อร่างโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (50) มาตรา 137/1 แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 (51) ข้อร่างโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (52) มาตรา 137/1 แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 (53) ข้อร่างโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (54) มาตรา 137/1 แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 (55) ข้อร่างโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (56) ลักษณะ 1/1 ความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย มาตรา 135/1 ถึงมาตรา 135/4 เพิ่มโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2546 (57) มาตรา 135/1 เพิ่มโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2546 (58) มาตรา 135/2 เพิ่มโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2546 (59) มาตรา 135/3 เพิ่มโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2546 (60) มาตรา 135/4 เพิ่มโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2546 (61) มาตรา 136 แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 (62) ข้อร่างโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (63) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (64) มาตรา 137 แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 45 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 (65) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (66) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (67) มาตรา 180 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 (68) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (69) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (70) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (71) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (72) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (73) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (74) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (75) มาตรา 195 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2560 (76) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (77) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2560 (78) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ (95) มาตรา ๑๙๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๖๐ (96) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ (97) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ (98) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ (99) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ (100) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ (101) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ (102) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ (103) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ (104) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ (105) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ (106) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ (107) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ (108) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ (109) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ (110) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ (111) ข้อราชโองการ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (112) ข้อราชโองการ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (113) ข้อราชโองการ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (114) ข้อราชโองการ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (115) ข้อราชโองการ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (116) ข้อราชโองการ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (117) ข้อราชโองการ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (118) ข้อราชโองการ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (119) ข้อราชโองการ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (120) ข้อราชโองการ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (121) ข้อราชโองการ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (122) ข้อราชโองการ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (123) ข้อราชโองการ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (124) ข้อราชโองการ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (125) ข้อราชโองการ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (126) ข้อราชโองการ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 (127) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (128) มาตรา 157 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 (129) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (130) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (131) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (132) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (133) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (134) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (135) มาตรา 144 แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 49 ลงวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2519 (136) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (137) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (138) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (139) มาตรา 200 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2560 (140) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (141) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (142) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (143) ชื่อตราไท แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (144) ชื่อตราไท แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (145) ชื่อตราไท แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (146) มาตรา 206 แก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2519 (147) ชื่อตราไท แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (148) ชื่อตราไท แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (149) ชื่อตราไท แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (150) ชื่อตราไท แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (151) ชื่อตราไท แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (152) ชื่อตราไท แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (153) ชื่อตราไท แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (154) ชื่อตราไท แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (155) มาตรา 206 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2519 (156) ชื่อตราไท แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (157) ชื่อตราไท แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (158) ชื่อตราไท แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (159) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (160) มาตรา 226 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 (161) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (162) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (163) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (164) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (165) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (166) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (167) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (168) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (169) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (170) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (171) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (172) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (173) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (174) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (175) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (176) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (177) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (178) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (179) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (180) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (181) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (182) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (183) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (184) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (185) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (186) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (187) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (188) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (189) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (190) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (191) ข้อธอโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (192) ข้อธอโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (193) ข้อธอโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (194) ข้อธอโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (195) มาตรา 226 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2495 (196) ข้อธอโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (197) ข้อธอโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (198) มาตรา 4 ความผิดเกี่ยวกับการเช็คธนาคาร มาตรา 269/4 ถึงมาตรา 269/7 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2547 (199) มาตรา 269/4 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2547 (200) มาตรา 269/5 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2547 (201) มาตรา 269/6 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2547 (202) มาตรา 269/7 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2547 (203) มาตรา 269/4 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2547 (204) มาตรา 269/5 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2547 (205) มาตรา 269/6 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2547 (206) มาตรา 4 ความผิดเกี่ยวกับหนังสือเดินทาง มาตรา 269/4 ถึงมาตรา 269/7 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 17) พ.ศ. 2547 [207] มาตรา ๒๖๕/๔ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๐ [208] มาตรา ๒๖๕/๕ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๐ [209] มาตรา ๒๖๕/๖ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๐ [210] มาตรา ๒๖๕/๗ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๐ [211] มาตรา ๒๖๕/๘ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๐ [212] มาตรา ๒๖๕/๙ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๐ [213] มาตรา ๒๖๕/๑๐ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๐ [214] มาตรา ๒๖๕/๑๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๐ [215] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ [216] มาตรา ๒๑๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๒ [217] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ [218] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ [219] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ [220] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๒๖) พ.ศ. ๒๕๖๐ [221] มาตรา ๒๖๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๐ [222] มาตรา ๒๖๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๐ [223] มาตรา 287 ทวิ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 27) พ.ศ. 2562 [224] มาตรา 287 ตรี แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 27) พ.ศ. 2562 [225] มาตรา 287 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2506 [226] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2506 [227] มาตรา 287 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2506 [228] มาตรา 287 วรรคสอง เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 27) พ.ศ. 2562 [229] มาตรา 287 วรรคสี่ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 27) พ.ศ. 2562 [230] มาตรา 287 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 27) พ.ศ. 2562 [231] มาตรา 60 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2506 [232] มาตรา 60/1 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 27) พ.ศ. 2562 [233] มาตรา 60 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 27) พ.ศ. 2562 [234] มาตรา 60 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2506 [235] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2506 [236] มาตรา 60 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 27) พ.ศ. 2562 [237] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 27) พ.ศ. 2562 [238] มาตรา 60 ทวิ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2506 [239] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 [240] มาตรา 245 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2526 [241] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 [242] มาตรา 245 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2526 [243] มาตรา 245/1 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 27) พ.ศ. 2559 [244] มาตรา 245/2 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 27) พ.ศ. 2559 [245] มาตรา 246 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2526 [246] มาตรา 247 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2526 [247] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 [248] มาตรา 247/1 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 27) พ.ศ. 2559 [249] มาตรา 247/2 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 27) พ.ศ. 2559 [250] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 [251] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 [252] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 [253] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 [254] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (255) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (256) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (257) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (258) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (259) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (260) มาตรา 310 แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 3 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 27) พ.ศ. 2564 (261) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (262) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (263) มาตรา 308 แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (264) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (265) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (266) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (267) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (268) มาตรา 308 เพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2544 (269) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (270) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (277) ข้อราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (278) มาตรา 307 ตรี เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2527 (275) ข้อราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (276) มาตรา 307 ตรี เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2500 (277) ข้อราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (278) มาตรา 307 ตรี แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2522 (279) ข้อราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 90 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (280) มาตรา 307 ตรี แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2500 (281) ข้อราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (282) มาตรา 307 ตรี แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2500 (283) ข้อราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (284) มาตรา 307 ตรี แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2500 (285) ข้อราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (286) มาตรา 307 ตรี แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2500 (287) ข้อราไทย แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (288) มาตรา 210/9 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับ ที่ 27) พ.ศ. 2559 (289) ข้อราไทย แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (290) ข้อราไทย แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (291) ข้อราไทย แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (292) มาตรา 206 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2559 (293) มาตรา 207 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2559 (294) ข้อราไทย แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (295) มาตรา 208 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2560 (296) ข้อราไทย แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (297) มาตรา 209 วรรคสาม แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายอาญา (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2560 (298) มาตรา 209 วรรค 3 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย อาญา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2560 (299) ข้อราไทย แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (300) ข้อราไทย แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (301) มาตรา 206 ทวิ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 9) ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 (302) ข้อราไทย แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (303) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (304) มาตรา 337 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 (305) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (306) มาตรา 337 วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (307) มาตรา 337 ทวิ แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 (308) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (309) มาตรา 337 วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2522 (310) มาตรา 340 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 (311) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 2 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (312) มาตรา 340 ทวิ แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 (313) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 2 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (314) มาตรา 340 ตรี เพิ่มโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 (315) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (316) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (317) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (318) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (319) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (320) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (321) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (322) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (323) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (324) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (325) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (326) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (327) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (328) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (329) มาตรา 357 วรรคสาม เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (330) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (331) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (332) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 (333) มาตรา 4/1 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2499 (334) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 16 แห