로고

พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๖๑ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ให้ไว้ ณ วันที่ ๓๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นปีที่ ๓ ในรัชกาลปัจจุบัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๖ ประกอบกับมาตรา ๓๗ และมาตรา ๖๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้จึงมีผลใช้บังคับแก่บุคคลทุกคนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ทั้งนี้เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินสามารถดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ดังกล่าวไว้ในมาตรา ๒๖ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญขึ้นไว้ โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้

มาตรา ๑ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๖๑”

มาตรา ๒ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓ ให้ยกเลิก (๑) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๒

(ข) ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๒๔/๒๕๕๗ เรื่อง ให้ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญลักษณะปกติใช้บังคับ ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๒ (ค) ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๓๗/๒๕๕๗ เรื่อง การสรรหา คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ลงวันที่ ๒๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗ (ง) คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๓/๒๕๖๐ เรื่อง การแก้ไข ปัญหาความต่อเนื่องของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ลงวันที่ ๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดิน และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (จ) คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๔/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๒๓/๒๕๖๐ เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดิน

มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้ “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน “ผู้ว่าการ” หมายความว่า ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน “สำนักงาน” หมายความว่า สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน “หน่วยรับตรวจ” หมายความว่า (ก) กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเป็น กระทรวง ทบวง หรือกรม (ข) หน่วยงานของราชการส่วนภูมิภาค (ค) หน่วยงานของราชการส่วนท้องถิ่น (ง) รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและตามกฎหมายอื่น (จ) ทุนหมุนเวียน (ฉ) หน่วยงานของรัฐอื่น (ช) หน่วยงานที่รัฐมีวิธีใดวิธีหนึ่งได้จ่ายเงินอุดหนุน หรือถือหุ้น หรือเงินลงทุนจากหน่วยรับตรวจตาม (๑) (๒) (๓) (๔) หรือ (๕) เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับเงินอุดหนุน หรือกิจการดังกล่าว (ซ) หน่วยงานอื่นใดหรือกิจการใดที่มีงบประมาณให้จากหน่วยรับตรวจสอบ หรือที่กฎหมายกำหนดหรือรองให้อยู่ภายใต้การตรวจสอบ

"หน่วยงานของราชการส่วนท้องถิ่น" หมายความว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้น "ทุนหมุนเวียน" หมายความว่า กองทุน กองทุนหมุนเวียน เงินทุน เงินทุนหมุนเวียน ทุน หรือทุนหมุนเวียน ที่ตั้งขึ้นเพื่อกิจการที่มีอนุญาตให้เก็บรายรับมาใช้จ่ายได้โดยไม่ต้องนำส่งคลัง "ผู้รับตรวจ" หมายความว่า หัวหน้าส่วนราชการหรือหัวหน้าหน่วยงานอื่นของรัฐที่มีอำนาจในการปฏิบัติราชการหรือการบริหารของหน่วยรับตรวจ "ตรวจเงินแผ่นดิน" หมายความว่า ตรวจสอบการเงินของหน่วยรับตรวจ พิจารณาสงตรวจการจัดเก็บรายได้ การรับ การจ่าย การใช้ประโยชน์ การเก็บรักษา และการบริหารทรัพย์สิน ทรัพย์สิน สิทธิ และผลประโยชน์ของหน่วยรับตรวจหรือที่อยู่ในความครอบครองหรืออำนาจใช้จ่ายของหน่วยรับตรวจว่าเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และแบบแผนการปฏิบัติราชการ หรือไม่ และตรวจการดำเนินงานเพื่อให้ทรัพย์สินนั้นเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของหน่วยรับตรวจที่กำหนดไว้ รวมตลอดถึงการตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยรับตรวจและแผนความเห็นต่อผลของการตรวจสอบ และการตรวจสอบอื่นที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ประกอบรัฐธรรมนูญ "ตรวจสอบ" หมายความว่า ตรวจเงินแผ่นดิน "กองทุน" หมายความว่า กองทุนเพื่อการตรวจเงินแผ่นดิน "เจ้าหน้าที่" หมายความว่า เจ้าหน้าที่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน

มาตรา 5 ในกรณีที่พระราชบัญญัตินี้กำหนดให้คณะกรรมการหรือผู้ว่าการกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือมีอำนาจหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่ง ให้คณะกรรมการหรือผู้ว่าการมีอำนาจออกประกาศอื่นๆ การใดที่กำหนดให้แจ้ง ยื่น หรือส่งหนังสือหรือเอกสารให้บุคคลใดเป็นการเฉพาะ ถ้าได้แจ้ง ยื่น หรือ ส่งหนังสือหรือเอกสารให้บุคคลนั้น ณ ภูมิลำเนาหรือที่อยู่ที่ปรากฏตามหลักฐานทางทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร ให้ถือว่าได้แจ้ง ยื่น หรือส่งโดยชอบด้วยพระราชบัญญัตินี้ประกอบรัฐธรรมนูญดังนั้น และในการนี้พระราชบัญญัตินี้ประกอบรัฐธรรมนูญกำหนดให้ประกาศหรือส่งเอกสารหรือแจ้งให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป ให้คณะกรรมการประกาศหรือเผยแพร่ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศหรือระบบหรือวิธีการอื่นใดที่เห็นว่าเหมาะสมที่ไม่เป็นการขัดต่อศีลธรรมอันดีและความสงบเรียบร้อยของประชาชน

ในกรณีที่พระราชบัญญัตินี้ประกอบรัฐธรรมนูญกำหนดให้คณะกรรมการหรือผู้ว่าการมีอำนาจกำหนดหรือสั่งสิ่งใดไว้ ถ้าได้กำหนดหรือสั่งไว้เป็นการเฉพาะ ให้คณะกรรมการหรือผู้ว่าการกำหนดโดยเป็นระเบียบ ประกาศ คำสั่ง คำแนะนำ หรือแนวทางปฏิบัติ และระเบียบ ประกาศ คำสั่ง คำแนะนำ หรือแนวทางปฏิบัตินั้น ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

มาตรา 6 ในการปฏิบัติหน้าที่ คณะกรรมการหรือผู้ว่าการ ผู้ว่าการต้องให้ความร่วมมือและความช่วยเหลืออย่างจริงจังทุกกรณี ในกรณีที่มีเหตุการณ์หรือการดำเนินการที่อาจทำให้ขัดต่อกฎหมาย

แต่อยู่ในหน้าที่และอำนาจขององค์กรอิสระอื่น ให้คณะกรรมการโดยข้อเสนอแนะของผู้ว่าการมีหนังสือแจ้งองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไปโดยไม่ชักช้า ในกรณีที่คณะกรรมการโดยข้อเสนอแนะของผู้ว่าการเห็นว่าการดำเนินการเรื่องใดที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการหรือผู้ว่าการอาจมีลักษณะเป็นการกระทำที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจขององค์กรอิสระอื่นด้วย ให้คณะกรรมการปรึกษาหารือร่วมกับองค์กรอิสระอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแนวทางในการดำเนินการร่วมกันเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรอิสระนั้นไม่ขัดหรือแย้งกัน และไม่ซ้ำซ้อนกัน เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามวรรคสอง ให้ประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธานองค์กรอิสระอันเป็นสมาชิกขององค์กรอิสระซึ่งรวมประธาน

มาตรา 9 ให้ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดินรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ประกอบรัฐธรรมนูญนี้

หมวด 1

บททั่วไป

มาตรา 10 การตรวจเงินแผ่นดินต้องกระทำด้วยความสุจริต รอบคอบ โปร่งใส เที่ยงธรรม กล้าหาญ ประกาศกติกา และเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล

การตรวจสอบต้องดำเนินการตามหน้าที่ที่ต้องรู้ แผนโยบายแห่งรัฐ และยุทธศาสตร์ชาติ รวมถึงความคุ้มค่า ความสมบูรณ์ร้อย ความไว้วางใจอาสาระบบ การดำเนินงานโดยสุจริต ผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพในการใช้งบเงินของหน่วยรับตรวจ และการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่การเงินการคลังของรัฐ

มาตรา 11 ในการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดิน และให้โอกาสแก่เจ้าหน้าที่ของหน่วยรับตรวจได้ชี้แจงเหตุผลและแสดงพยานหลักฐานของตน

หมวด 2

มาตรา 12 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินประกอบด้วยกรรมการจำนวนเจ็ดคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของวุฒิสภา จากผู้ซึ่งได้รับการสรรหาโดยคณะกรรมการสรรหา ผู้ซึ่งได้รับการสรรหาต้องเป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์เกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดิน กฎหมาย การบัญชี การตรวจสอบ ภายใน การเงินการคลัง และด้านอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการตรวจเงินแผ่นดิน ทั้งนี้ เป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบปี

มาตรา 13 นอกจากคุณสมบัติตามมาตรา 12 แล้ว กรรมการต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ด้วย

1

มีสัญชาติไทยโดยการเกิด

2

มีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบห้าปี แต่ไม่เกินเจ็ดสิบปี

3

สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า

4

มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์

5

มีสุขภาพที่สมบูรณ์บริบูรณ์ที่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่

มาตรา 14 กรรมการต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

1

เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการการเมือง หรือผู้บริหารท้องถิ่น เว้นแต่พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี

2

เป็นหรือเคยเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระใดต่อมาในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยองค์กรนั้น

3

ติดยาเสพติดให้โทษ

4

เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต

5

เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการสื่อมวลชนใด ๆ

6

เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือ นักบวช

7

อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าด้วยเหตุหนึ่งเหตุใดหรือไม่

8

จงใจหรือกระทำผิดจริยธรรมที่เป็นที่ประจักษ์

9

อยู่ระหว่างกระบวนการหรือการได้รับสิทธิเพื่อกลับคืนสู่ตำแหน่งข้าราชการ หรือผู้ถูกถอนสิทธิอันเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่

10

ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล

11

เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่า กระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ

12

เคยต้องคำพิพากษาให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้คืนหรือชดใช้ความเสียหายแก่ทางราชการเพราะการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

13

เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือต่อหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือกฎหมายเกี่ยวกับการฟอกเงิน อาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการฟอกเงินที่เป็นการร้องโดยประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการฟอกเงินในความผิดฐานเป็นเจ้าของหรือผู้จัดทำ กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐหรือในภาคเอกชน

๑๓

เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง

๑๔

อยู่ในระหว่างจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก

๑๕

เคยต้องคำพิพากษาแห่งพระราชอาญาถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือกระทำความผิดประการใด ๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งหรือการเลือกตั้งเป็นโมฆะ

๑๖

เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง หรือเป็นผู้พฤติการณ์หรือกระทำผิดกฎหมาย หรือกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย

๑๗

เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

๑๘

เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกหรือผู้บริหารพรรคการเมือง สุขาภิบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น เว้นแต่พ้นจากตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี

๑๙

เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกหรือผู้บริหารพรรคการเมืองที่มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศในระยะสิบปีนับถึงวันประกาศสรรหา

๒๐

เป็นข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจประจำ

๒๑

เป็นข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น

๒๒

เป็นผู้ดำรงตำแหน่งในห้างหุ้นส่วน บริษัท หรือองค์การที่ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งหมายผลกำไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน หรือเป็นลูกจ้างของบุคคลใด

๒๓

เป็นผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ

๒๔

มีพฤติการณ์อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

มาตรา ๑๕ เมื่อมีการแต่งตั้งสรรหาผู้สมัครได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการตามมาตรา ๑๒ ให้เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการสรรหา ซึ่งประกอบด้วย

ประธานศาลฎีกา เป็นประธานกรรมการ

ประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นกรรมการ

บุคคลซึ่งมีความรู้และคุณสมบัติที่ได้รับการยอมรับในด้านจริยธรรมจริยธรรมอันดีเด่นแต่งตั้งจากผู้ปฏิบัติตามมาตรา ๑๓ และมาตรา ๑๔ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๔ และไม่เคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองในระยะสิบปีนับถึงวันประกาศสรรหา เป็นกรรมการ ให้เลขาธิการคณะกรรมการปฏิบัติหน้าที่เป็นเลขานุการของคณะกรรมการสรรหา ในการดำเนินการแต่งตั้งบุคคลตาม (๔) ให้คณะรัฐธรรมูญและองค์กรอิสระที่ไม่ใช่คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินดำเนินการเสนอชื่อบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการสรรหา ภายในสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากนายกรัฐมนตรี โดยให้คัดเลือกจากบุคคลซึ่งมีความเป็นกลางชื่อสัตย์สุจริต และมีความเข้าใจในการคัดสรรคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ซึ่งได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการสรรหาพึงต้องได้รับคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมดที่มีอยู่ของคณะกรรมการรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระดังกล่าว และในกรณีที่มีคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ถือว่าคะแนนเสียงนั้นไม่พอถึงกึ่งหนึ่ง ให้กรรมการสรรหาที่มีอยู่ดำเนินการคัดเลือกใหม่ โดยการคัดเลือกผู้ได้รับการคัดเลือกที่มีคะแนนสูงสุดรองลำดับแรกแทนในกรณีของคะแนนเท่ากัน ให้คณะกรรมการสรรหาดำเนินการคัดเลือกกรรมการตรวจเงินแผ่นดินให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในกฎหมายนี้ ในการดำเนินการแต่งตั้งกรรมการสรรหาตาม (๕) หรือกรรมการสรรหาตาม (๖) ให้คณะกรรมการสรรหาที่มีอยู่ดำเนินการแต่งตั้งกรรมการสรรหาขึ้นใหม่โดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ในกฎหมายนี้ ให้กรรมการสรรหาตาม (๔) อยู่ในวาระการดำรงตำแหน่งตามที่กำหนดไว้ในมาตรา ๑๗ วรรคสอง และวรรคสาม และมาตรา ๑๘ และให้กรรมการสรรหาดำเนินการคัดเลือกกรรมการตรวจเงินแผ่นดินให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในกฎหมายนี้ ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการสรรหาตาม (๔) แล้ว จะเป็นกรรมการสรรหาในคณะกรรมการสรรหาตามรัฐธรรมนูญขององค์กรอิสระที่เป็นหน้าที่ตามกฎหมายประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา ๑๖ ในการสรรหากรรมการ ให้คณะกรรมการสรรหาปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นอิสระ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ในกฎหมายนี้

ผู้ซึ่งจะได้รับการสรรหาต้องได้รับคะแนนเสียงถึงสองในสามของจำนวนทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของคณะกรรมการสรรหา ถ้าไม่มีบุคคลใดได้รับคะแนนเสียงตามวรรคสาม หรือมีผู้ได้รับคะแนนถึงจำนวนดังกล่าวสรรหาให้ครบถ้วนใหม่สำหรับผู้ได้รับคะแนนไม่ถึงสองในสาม ให้มีการลงคะแนนอีกครั้งหนึ่ง ในกรณีที่การลงคะแนนครั้งหลังนี้ยังไม่มีบุคคลใดถึงจำนวนที่ จะต้องสรรหาให้ดำเนินการสรรหาใหม่สำหรับผู้ได้รับคะแนนไม่ถึงจำนวนดังกล่าว ภายในสามวันนับแต่วันปิดรับสมัคร ให้คณะกรรมการสรรหาประกาศรายชื่อผู้สมัครที่ได้รับ การสรรหาให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป ประกาศดังกล่าวให้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับคุณวุฒิ และประวัติการทำงานด้านคณะกรรมการสรรหากำหนดด้วย

มาตรา ๑๗ ผู้ได้รับการสรรหาเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการต้องได้รับความ เห็นชอบจากวุฒิสภาด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของ วุฒิสภา

ในกรณีที่วุฒิสภาไม่ให้ความเห็นชอบผู้ได้รับการสรรหาใด ให้ดำเนินการสรรหา บุคคลใหม่แทนผู้นั้น แต่ในกรณีวุฒิสภาให้ความเห็นชอบเพียงบางส่วน ให้ดำเนินการสรรหา เฉพาะผู้ที่ไม่ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาในครั้งนั้น เมื่อมีผู้ได้รับการสรรหาเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการครบถ้วนตามจำนวนที่ กำหนดแล้ว ให้ผู้ได้รับการสรรหาดำเนินการประชุมร่วมกับกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ยังดำรง ตำแหน่งอยู่ เพื่อให้ความเห็นชอบร่วมกันเป็นเอกฉันท์ในเรื่องการกำหนดตำแหน่งของกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิแต่ละคน ให้แล้วเสร็จภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา ในกรณีที่ไม่สามารถให้ความเห็นชอบร่วมกันได้ ให้ประธานกรรมการดำเนินการจับสลาก เพื่อกำหนดตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแต่ละคนให้แล้วเสร็จภายในสามวันนับแต่วันที่ ไม่สามารถให้ความเห็นชอบร่วมกันได้ ให้ประธานวุฒิสภาดำเนินการบังคับบุคคลผู้ที่ทรงแต่งตั้งประธานกรรมการและ กรรมการ และเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ

มาตรา ๑๘ ผู้ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาแต่งตั้งเป็นกรรมการโดยยังมิได้พ้นจาก ตำแหน่งตามมาตรา ๑๔ (๒) หรือ (๓) หรือมีประกอบวิชาชีพตามมาตรา ๑๓ (๓) อยู่ ต้องแสดงหลักฐานว่าได้ลาออกหรือเลิกประกอบวิชาชีพดังกล่าว ต่อประธานวุฒิสภาในเวลา ที่ประธานวุฒิสภากำหนด ซึ่งผู้แจ้งเป็นเวลาเกินกว่าที่ประธานวุฒิสภาแจ้งให้ทราบจะถือว่า ทราบแล้วผู้สมัครกรรมการ ในกรณีที่มีการสรรหาใหม่ให้กำหนดเวลาต่างหาก ให้ดำเนินการสรรหาใหม่ และให้ดำเนินการสรรหาใหม่

มาตรา ๑๙ ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติหรือข้ออธิษฐานต้องพิจารณาของผู้สมัคร หรือผู้ได้รับการสรรหา ให้เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการสรรหาที่ปฏิบัติอยู่ คำวินิจฉัยของ คณะกรรมการสรรหาถือเป็นที่สุด

การเสนอเรื่องเพื่อให้คณะกรรมการสรรหาวินิจฉัยตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการสรรหากำหนด การวินิจฉัย ให้ใช้เสียงข้างมากโดยเปิดเผย ให้คำนึงถึงความโปร่งใส วรรณะลอย และวรรณะสาม มาใช้บังคับแก่กรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการสรรหาต้องโดยอุปไมย แต่กรรมการสรรหาที่ถูกกล่าวหาว่าขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามอยู่ในที่ประชุมในขณะพิจารณาและวินิจฉัยได้

มาตรา ๑๓ ให้ประธานกรรมการสรรหาและกรรมการสรรหาได้รับเบี้ยประชุมและค่าตอบแทนอื่นตามที่ประธานผู้พิพากษาศาลฎีกากำหนด แต่สำหรับเบี้ยประชุมให้กำหนดให้ได้รับสำหรับครั้งที่มีการประชุมในอัตราไม่เกินอัตราที่กำหนดของประธานกรรมการหรือกรรมการในคณะกรรมการข้าราชการรัฐสภาตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการรัฐสภาได้ในแต่ละครั้งเท่านั้น แล้วแต่กรณี

มาตรา ๑๔ กรรมการวิสามัญตรวจตราตำแหน่งหนึ่งตำแหน่งซึ่งเป็นตำแหน่งที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง และให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว

ในการนี้เมื่อกรรมการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ ให้กรรมการที่พ้นจากตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการใหม่แทน

มาตรา ๑๕ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการพ้นจากตำแหน่งเมื่อ

ตาย

ลาออก

ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๑๒ หรือมาตรา ๑๓ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๔

มาตรา ๑๖ พ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุอื่นตามรัฐธรรมนูญ

เมื่อประธานกรรมการพ้นจากตำแหน่งไปหรือกรรมการ ให้พ้นจากตำแหน่งกรรมการด้วย ในกรณีที่มีปัญหาว่ากรรมการผู้ใดพ้นจากตำแหน่งตาม (๒) หรือ (๓) หรือไม่ ให้เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการสรรหาที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้วย คำวินิจฉัยของคณะกรรมการสรรหาที่เป็นที่สุด ในกรณีเช่นนี้ผู้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการหรือกรรมการซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าพ้นจากตำแหน่ง ให้กรรมการเลือกกรรมการคนหนึ่งทำหน้าที่แทนประธานกรรมการ ในระหว่างที่คณะกรรมการสรรหาพิจารณาเรื่องดังกล่าว ให้กรรมการที่ถูกกล่าวหาว่าพ้นจากตำแหน่งตาม (๒) หรือ (๓) ให้กรรมการที่เหลืออยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป แต่ถ้าคณะกรรมการสรรหาพิจารณาแล้วเห็นว่ากรรมการที่ถูกกล่าวหาดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งแล้ว ให้กรรมการที่เหลืออยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการใหม่แทน ในกรณีที่กรรมการสรรหาพิจารณาแล้วเห็นว่ากรรมการที่ถูกกล่าวหาดังกล่าวไม่พ้นจากตำแหน่ง ให้กรรมการที่ถูกกล่าวหาดังกล่าวกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้ ภายในเรื่องเดียวกันตามที่กำหนดในมาตรา ๑๔ แต่กรรมการที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามเหตุมาตรา ๑๕ ให้ดำเนินการสรรหากรรมการใหม่แทนตำแหน่งว่างลง

มาตรา 23 เมื่อมีผู้ร้องขอโดยมีหลักฐานตามสมควรว่ากรรมการผู้ใดพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 20 (2) หรือ (3) ให้เลขาธิการวุฒิสภาเสนอเรื่องต่อประธานกรรมาธิการภายในกำหนดวันที่ได้รับการร้องขอ และให้คณะกรรมาธิการวินิจฉัยให้แล้วเสร็จโดยเร็วในการประชุมนัดแรกหลังจากนั้นและให้ถือคำวินิจฉัยของคณะกรรมาธิการเป็นที่สุด ในกรณีที่มีเสียงเท่ากัน ให้ประธานกรรมาธิการออกเสียงเพิ่มขึ้นเป็นเสียงชี้ขาด หลักฐานตามมาตรานี้ ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมาธิการกำหนด

มาตรา 24 ในกรณีที่กรรมการต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เพราะถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดทางอาญาอันมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 20 (5) หรือ (6) และกรรมการผู้นั้นยังอยู่ในตำแหน่ง ให้ประธานกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สภาสูงสั่งการให้กรรมการผู้นั้นหยุดปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างที่มีการดำเนินคดีอาญา และไม่สามารถต้องห้ามเกี่ยวกับกรรมการท่านที่เป็นกรรมการในเรื่องดังกล่าวให้พ้นจากตำแหน่งโดยให้ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งท่านที่เป็นกรรมการได้รับการแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่แทนที่ได้ หรือจากวงจรการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งแทน

มาตรา 25 อาศัยอำนาจตามมาตรา 26 วรรคหนึ่ง การประชุมของคณะกรรมาธิการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด ในกรณีที่กรรมการคนใดไม่อาจมาประชุมได้ ให้ส่งหนังสือแจ้งไปยังประธานกรรมาธิการ การลงมติในการประชุมคณะกรรมาธิการให้ถือเสียงข้างมาก โดยประธานในที่ประชุมลงคะแนนเสียงได้ในกรณีที่มีคะแนนเสียงเท่ากัน และให้การลงคะแนนเสียงในที่ประชุมถือเป็นที่สุด ในกรณีที่มีเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมลงคะแนนเสียงเพิ่มขึ้นเป็นเสียงชี้ขาด การไม่เข้าประชุมหรือไม่อยู่ในที่ประชุมตามวรรคสองโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้ถือว่าเป็นการจงใจฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ให้ประธานกรรมาธิการเป็นประธานในที่ประชุม สภาประธานกรรมาธิการไม่มาประชุม ให้กรรมการที่เป็นประธานในที่ประชุมเป็นประธานในที่ประชุม ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการประชุมที่คณะกรรมาธิการกำหนด ในการประชุมคณะกรรมาธิการ ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมาธิการกำหนดขึ้นแสดงความคิดเห็นเห็นด้วย เห็นแย้งในการประชุมเพื่อพิจารณามาตรา 50 (4) ให้ประธานกรรมาธิการ กรรมการ และผู้ว่าจ้างได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้งเท่ากับกรรมการตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเบี้ยประชุมกรรมการ

มาตรา 26 กรรมการต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มเวลา และปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต เพื่อธรรมาภิบาล ลักษณะ และความคาดหวังในการใช้คุณภาพ และปฏิบัติตามหลักคุณธรรมและจริยธรรม ในระหว่างการดำรงตำแหน่งกรรมการต้องไม่รับหรือบริหารกิจการหรือการจัดการใด ๆ อันใช้ในนามหลักสูตรหรือโครงการที่คณะกรรมาธิการไม่อนุมัติหรือมอบหมายสำหรับกรรมการ

มาตรา 27 ให้คณะกรรมการมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้

(ก) วางนโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน (ข) กำหนดหลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดิน (ค) กำกับการตรวจเงินแผ่นดินให้เป็นไปตาม (ก) และ (ข) และกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ (ง) ให้คำปรึกษา แนะนำ หรือเสนอแนะเกี่ยวกับการใช้งบเงินแผ่นดินให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ รวมทั้งการให้คำแนะนำหน่วยงานของรัฐในการแก้ไขข้อบกพร่องเกี่ยวกับการใช้งบเงินแผ่นดิน (จ) ส่งเสริมให้ทางปกครองมีการบังคับการะทำตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ (ฉ) หน้าที่และอำนาจอื่นตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้หรือกฎหมายอื่น ในการกำหนดหลักเกณฑ์มาตรฐานตาม (ข) ให้คณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นของหน่วยรับตรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย

มาตรา 28 นโยบายการตรวจเงินแผ่นดินตามมาตรา 27 (ก) ให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการตรวจเงินแผ่นดินเป็นประจำปีและนโยบายการตรวจเงินแผ่นดินระยะยาว ซึ่งอย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญ ดังต่อไปนี้

(ก) ทิศทางและเป้าหมายในการตรวจเงินแผ่นดิน (ข) ผลสัมฤทธิ์ในการตรวจเงินแผ่นดิน (ค) การพัฒนาการตรวจเงินแผ่นดินให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นโยบายการตรวจเงินแผ่นดินที่คณะกรรมการจัดทำแล้ว ให้แจ้งสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และคณะรัฐมนตรีทราบ และเผยแพร่ให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปด้วย

มาตรา 29 หลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดินที่คณะกรรมการกำหนดขึ้นตามมาตรา 27 (ข) ต้องสอดคล้องกับหลักการและวาระการตรวจเงินแผ่นดินที่ได้รับการยอมรับของสากล แต่ให้ใช้ได้เฉพาะคณะกรรมการจะมีมติให้เปลี่ยนแปลงเป็นครั้งคราวตามความเหมาะสม แต่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ถ้ากระทบต่อหน่วยรับตรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมีระยะเวลาให้หน่วยรับตรวจเตรียมพร้อมที่จะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์มาตรฐานนั้น

หลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดินตามวรรคหนึ่ง ให้เผยแพร่ให้หน่วยรับตรวจและประชาชนทราบเป็นการทั่วไป ในกรณีที่หน่วยรับตรวจไม่สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์มาตรฐานได้ ให้เสนอแผนให้กำหนดตามวรรคหนึ่ง ต่อให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกำหนด หรือแนะนำในแผนการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี หรือแผนแผนการปฏิบัติราชการ จะส่งให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินพิจารณาปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์มาตรฐาน หรือเสนอแนะในแผนการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี หรือแผนแผนการปฏิบัติราชการของราชการกำลังกล่าวตามที่คณะกรรมการเห็นสมควรได้

มาตรา 30 หลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดินตามมาตรา 27 (6) อย่างน้อย ต้องประกอบด้วย

(ก) วิธีการตรวจเงินแผ่นดินแต่ละด้าน (ข) ความละเอียดในวิธีตรวจแห่งวิชาชีพในการตรวจเงินแผ่นดิน (ค) ระยะเวลาในการตรวจเงินแผ่นดิน (ง) วิธีปฏิบัติในการเก็บข้อมูล (จ) วิธีการให้คำแนะนำหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหาแก่หน่วยรับตรวจ (ฉ) วิธีการเปิดโอกาสให้หน่วยรับตรวจชี้แจง (ช) วิธีการรายงาน การแจ้ง และการเผยแพร่ผลการตรวจ

มาตรา 31 การวางนโยบายการตรวจเงินแผ่นดินและการกำหนดหลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดิน ตามมาตรา 27 (6) และ (7) หากผู้ว่าการเห็นว่านโยบายหรือหลักเกณฑ์มาตรฐานที่คณะกรรมการกำหนดส่งผลเป็นการเลือกปฏิบัติแก่หน่วยรับตรวจ หรือทำให้มีการตรวจสอบอื่น ๆ ที่นอกเหนือหน้าที่และอำนาจของผู้ว่าการ หรือมีผลให้ผู้ว่าการไม่มีความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ ผู้ว่าการอาจขอให้คณะกรรมการพิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์ได้

มติของคณะกรรมการในการพิจารณาทบทวนตามวรรคหนึ่งให้เป็นที่สุด เว้นแต่ในกรณีที่ผู้ว่าการเห็นว่ามติของคณะกรรมการดังกล่าวส่งผลให้ผู้ว่าการไม่มีความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ ให้ผู้ว่าการมีสิทธิยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยต่อไป

มาตรา 32 นอกจากบทบัญญัติตามมาตรา 27 ให้คณะกรรมการมีอำนาจออกระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งเกี่ยวกับ

(ก) การกำกับการตรวจเงินแผ่นดินตามมาตรา 27 (8) (ข) การจัดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานของสำนักงานโดยผู้ประเมินอิสระ (ค) การจัดเก็บค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ในการปฏิบัติงานของสำนักงาน (ง) การยกเลิกใบอนุญาตหรือคำสั่งแต่งตั้งผู้ว่าการหรือการเลิกสำนักงาน หรือการทำให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งประสิทธิภาพ การออกระเบียบตาม (ค) จะกำหนดให้ผู้ว่าการต้องจัดทำรายงานผลการตรวจเงินแผ่นดินโดยสรุปเป็นรายไตรมาสก็ได้

มาตรา 33 ในการกำกับการตรวจเงินแผ่นดินตามมาตรา 27 (8) ถ้าความจำเป็นต่อคณะกรรมการว่าการตรวจสอบไม่เป็นไปตามนโยบายการตรวจเงินแผ่นดินหรือหลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดินที่คณะกรรมการกำหนด หรือความจำเป็นต่อการสั่งของรัฐ ให้คณะกรรมการมีอำนาจสั่งให้ผู้ว่าการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามที่ถูกต้องต่อไป

ก่อนสั่งการตามวรรคหนึ่ง คณะกรรมการต้องมีคำชี้แจงและความเห็นของผู้ว่าการมาประกอบการพิจารณาเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย

มาตรา ๑๙ ในกรณีที่ผู้ว่าการเห็นว่ามีปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจเงินแผ่นดินตามนโยบายการตรวจเงินแผ่นดินที่หรือหลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดิน และการประสานส่งให้รับคำแนะนำจากคณะกรรมการ ให้ผู้ว่าการปรึกษาหารือคณะกรรมการเพื่อขอคำแนะนำหรือข้อเสนอแนะ เพื่อนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว

มาตรา ๒๐ ในกรณีที่มีข้อขัดข้องหรือความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการตีความหมายหรือการตรวจสอบให้เป็นไปตามนโยบายการตรวจเงินแผ่นดินที่หรือหลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดิน หน่วยตรวจสอบสิทธิ์อาจร้องขอไปยังคณะกรรมการเพื่อพิจารณาให้ข้อแนะนำเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการยื่นคำร้องตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา ๒๑ ในกรณีที่จำเป็นต้องได้ข้อมูลหรือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องใด คณะกรรมการอาจขอให้สำนักงานผู้ตรวจเงินแผ่นดินหรือหน่วยงานอื่นที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญดำเนินการในเรื่องนั้นได้ตามที่เห็นสมควรโดยไม่กระทบต่อความเป็นอิสระในหน้าที่ของผู้ตรวจเงินแผ่นดินหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยต้องคำถึงถึงความคุ้มค่าและประสิทธิภาพที่เกิดขึ้นด้วย ทั้งนี้ ก่อนการดำเนินการดังกล่าว คณะกรรมการต้องกำหนดเป้าหมาย ผลสัมฤทธิ์ และระยะเวลาของการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวให้ชัดเจน

หลักเกณฑ์และวิธีการต่างๆ และคำตอบเป็นลายลักษณ์อักษรของคณะกรรมการ ต้องผ่านความเห็นชอบของอนุกรรมการ อนุกรรมการต้องรายงานผลการพิจารณาให้คณะกรรมการกำหนด

มาตรา ๒๒ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ให้คณะกรรมการมีอำนาจขอให้หน่วยรับตรวจนำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง หรือส่งเอกสารหลักฐานหรือพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และเรียกผู้รับตรวจมาให้ถ้อยคำ เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ

มาตรา ๒๓ เงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอื่นของกรรมการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น ให้กรรมการได้รับเงินค่าเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายอื่นตามข้อกำหนดวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด ทั้งนี้ต้องไม่เป็นภาระเงินงบประมาณที่หน่วยงานของประธานกรรมการหรือกรรมการ แล้วแต่กรณี

เงินดังกล่าวในวรรคหนึ่งต้องไม่เป็นเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง หรือประโยชน์ตอบแทนอื่นที่คณะกรรมการได้รับเป็นเงินหรือสิ่งอื่นที่มีมูลค่าในลักษณะเดียวกันตามที่กำหนดไว้ ดังต่อไปนี้

ครอบครัว

ตาย

ลาออก

ข้อยุติการจัดสรร ในการคำนวณบำเหน็จตอบแทนขั้น ให้คำนวณอัตราเงินเดือนตามมาตรา 37 ด้วยจำนวนปีที่ดำรงตำแหน่ง เศษของปีให้นับเป็นหนึ่งปี สิทธิในบำเหน็จตอบแทนขั้น เป็นสิทธิเฉพาะตัว จะโอนมิได้ ในแต่ละกรณีจะให้คนในคู่สมรสและทายาทที่ได้แจ้งไว้ และถ้าการจ่ายบำเหน็จดังกล่าวมีเหตุปัญหาหรือมีการปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้รับเป็นสองเท่าของบำเหน็จตอบแทนที่กำหนดให้ตามวรรคสอง

หมวด 3

ผู้ทำการตรวจเงินแผ่นดิน

มาตรา 48 ให้มีผู้ทำการคนหนึ่งซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของคุรุสภา โดยได้รับการเสนอชื่อจากคณะกรรมการ

ผู้ทำการต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามเช่นเดียวกับกรรมการ

มาตรา 49 เมื่อมีตำแหน่งว่างต้องแต่งตั้งผู้ทำการ ให้คณะกรรมการดำเนินการสรรหาบุคคลที่สมควรได้รับการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งเป็นผู้ทำการ

มาตรา 50 ในการสรรหาผู้ทำการ ให้คณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อเข้าประกอบการสรรหาในประเด็นความไม่เหมาะสมต่าง ๆ ซึ่งผู้ต้องหาให้โอกาสโต้แย้ง และให้มีการประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อในที่เปิดเผยเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเกี่ยวกับความเหมาะสมของบุคคลดังกล่าว และรายงานผลการสรรหาทุกขั้นตอน ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา 51 ให้คณะกรรมการปรึกษาหารือเพื่อคัดเลือกให้ได้บุคคลซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดิน กฎหมาย การบัญชี การตรวจสอบภายใน การเงินการคลัง และด้านอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการตรวจเงินแผ่นดิน และเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบสูง มีความกล้าหาญและความซื่อสัตย์สุจริตในการปฏิบัติหน้าที่ และมีจริยธรรมทางวิชาชีพรวมอยู่ในตัวอย่างที่ต้องสงสัย รวมบุคคลดังที่มีหน้าที่คัดค้านการเสนอในกรณีที่ได้เกิดผลสำเร็จ

มาตรา 52 ในกรณีที่ผลการเสนอแนะโดยเปิดเผย และให้การประกาศไว้ในบันทึกเหตุผลในการเสนอแนะตามที่กำหนดไว้แล้ว

ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งเป็นผู้ทำการต้องได้รับคะแนนเสียงสองในสามของจำนวนทั้งหมดที่มีอยู่ของคณะกรรมการ ในกรณีที่ไม่มีผู้ได้รับคะแนนเสียงสองในสามให้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้

1

ในกรณีมีผลการเสนอแนะเดิม ให้ดำเนินการสรรหาใหม่

ในกรณีมีผู้สมัครรองคนให้คะแนนใหม่อีกครั้งหนึ่ง ถ้ายังไม่มีผู้ใดได้คะแนนเสียงถึงสองในสาม ให้ดำเนินการสรรหาใหม่

ในกรณีมีผู้สมัครเกินสองคนขึ้นไป ให้คัดผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดของลำดับแรกมาลงคะแนนใหม่ ถ้ายังไม่มีผู้ใดได้คะแนนเสียงถึงสองในสาม ให้ดำเนินการสรรหาใหม่ กรณีผู้ได้รับคะแนนเท่ากันจนเป็นเหตุให้ผู้ได้รับคะแนนสูงสุดมีคนเดียว ให้ประธานกรรมการจ้างที่ได้รับคะแนนเท่ากันเป็นผู้ที่มีสิทธิลดคะแนนสูงสุดแต่เพียงผู้เดียว

มาตรา ๔๖ เมื่อคณะกรรมการคัดเลือกบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งมีมติให้การคัดเลือกแล้ว ให้เสนอชื่อต่อผู้ได้รับการคัดเลือกพร้อมความยินยอมของผู้เสนอประธานคณะกรรมการ ให้กับนายบัญญัติบุคคลมาตรา ๑๙ มาใช้บังคับกับผู้ได้รับการคัดเลือกด้วยโดยอนุโลม

มาตรา ๔๗ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งเป็นผู้ว่าการ ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสรรหาเสียก่อนและไม่ต้องยกเลิกการพิจารณาของคณะกรรมการแต่เพียงผู้เดียว

ในกรณีที่มีการเสนอชื่อให้ความเห็นชอบผู้ได้รับการเสนอชื่อ ต้องเป็นการสรรหาบุคคลใหม่แทนที่นั้น แต่เสนอชื่อบุคคลเดิมให้ความเห็นชอบได้ โดยผู้ที่ไม่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการในครั้งนั้นจะมีสิทธิได้รับการสรรหาในครั้งใหม่ไม่ได้ ให้ประธานกรรมการสรรหาเป็นผู้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการแต่งตั้งผู้ว่าการ และเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ

มาตรา ๔๘ ให้ผู้ว่าการมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละหกปีนับแต่วันที่ได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้ง และให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว

มาตรา ๔๙ ให้ผู้ว่าการมีความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่โดยรับผิดชอบต่อคณะกรรมการ และเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของสำนักงาน

ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้ว่าการพึงรับฟังคำแนะนำ ข้อเสนอแนะ หรือข้อท้วงติงของคณะกรรมการซึ่งอยู่ในกรอบของความเป็นอิสระในการตรวจสอบและแนะนำผู้ว่าการ

มาตรา ๕๐ ผู้ว่าการต้องปฏิบัติหน้าที่เต็มเวลา และการปฏิบัติหน้าที่นั้นต้องกระทำโดยอำนาจของผู้ว่าการซึ่งต้องเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม กล้าหาญ และปราศจากอคติทั้งในทางการใช้ดุลพินิจ และปฏิบัติให้ถูกต้องตามมาตรฐานทางจริยธรรม ในระหว่างการดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการจะเข้ารับการศึกษา หรืออบรมในหลักสูตรหรือโครงการใด ๆ มิได้ เว้นแต่เป็นหลักสูตรหรือโครงการที่จัดขึ้นโดยเฉพาะสำหรับกรรมการและผู้ว่าการ

มาตรา ๕๑ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา ๔๘ ผู้ว่าการพ้นจากตำแหน่งเมื่อ

ตาย

ลาออก

ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๑๓ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๔

คณะกรรมการมีมติให้พ้นจากตำแหน่งด้วยคะแนนเสียงข้างมากในที่ประชุมคณะกรรมการ ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ เนื่องจากกรณีที่ส่งผลต่อไปนี้แก่การปฏิบัติตามนโยบายการตรวจเงินแผ่นดินหรือหลักเกณฑ์และ มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดินที่คณะกรรมการกำหนด และคณะกรรมการมิได้แก้ไขให้แล้วเสร็จ ไม่ว่าด้วยการภายในเวลาที่สมควรตามข้อกำหนดหรือคำสั่งนายกรัฐมนตรีหรือตามที่นายกรัฐมนตรี เห็นสมควร (๕) พ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุอื่นตามรัฐธรรมนูญ (๖) ไม่สามารถทำหน้าที่ได้สมบูรณ์

มาตรา ๕๒ ในกรณีที่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินพ้นจากตำแหน่งเพราะถูกกล่าวหาและคดีถูก หรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประทับรับฟ้อง ให้รองผู้ว่าการตรวจเงิน แผ่นดินซึ่งมีอาวุโสสูงสุดปฏิบัติหน้าที่แทน จนกว่าผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินจะกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้ หรือจนกว่าจะมีการ แต่งตั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินแทน หลักเกณฑ์การกำหนดอาวุโสตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามระเบียบที่ผู้ว่าการโดย ความเห็นชอบของคณะกรรมการกำหนด

มาตรา ๕๓ ให้ผู้ว่าการได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง ค่าราชการอื่นๆ และ ประโยชน์ตอบแทนอื่นเช่นเดียวกับกรรมการ

มาตรา ๕๔ ให้ผู้ว่าการมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ (๑) ตรวจเงินแผ่นดินตามแผนการตรวจเงินแผ่นดินที่คณะกรรมการกำหนด และตามมาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดินที่คณะกรรมการกำหนด และตามมาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดินที่คณะกรรมการกำหนด และตามมาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดินที่คณะกรรมการกำหนด และตามมาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดินที่คณะกรรมการกำหนด และตามมาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดินที่คณะกรรมการกำหนด และตามมาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดินที่คณะกรรมการกำหนด และตามมาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดินที่คณะกรรมการกำหนด และตามมาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดินที่คณะกรรมการกำหนด

แจ้งผลการตรวจสอบและติดตามให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามหน้าที่ และอำนาจเพื่อให้เป็นไปตามผลการตรวจสอบ

วางระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของสำนักงานเท่าที่ไม่ขัดระเบียบหรือประกาศหรือมติของคณะกรรมการ

แต่งตั้งที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาการหรือในกิจการต่าง ๆ เพื่อช่วยการปฏิบัติงานของสำนักงาน ทั้งนี้ ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด

จัดจ้างและกำหนดค่าจ้างที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญในการปฏิบัติงานของสำนักงาน ทั้งนี้ ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด

มอบหมายหน้าที่แทนเพื่อปฏิบัติการตาม (๒) (๓) และ (๔) และมาตรา ๓๗ วรรคสาม รวมถึงรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดังกล่าว

ปฏิบัติหน้าที่อื่นใดตามที่มีกฎหมายกำหนดหรือคณะกรรมการมอบหมาย การกำหนดแผนการตรวจสอบของ (๑) ต้องสอดคล้องกับนโยบายการตรวจเงินแผ่นดินและหลักเกณฑ์หรือระเบียบเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดินที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา ๕๔ การใช้งบประมาณตามมาตรา ๓๓ และมาตรา ๔๔ นั้น ห้ามมิให้ผู้ว่าการหรือเจ้าหน้าที่ที่มีตำแหน่งขาดจากตำแหน่งหรือถูกสอบบัญชีโดยมีสาระเกี่ยวข้องจากหน่วยรับตรวจ ยืนยันการจัดหาพัสดุและประโยชน์

มาตรา ๕๕ ห้ามมิให้มีการเปิดเผยหรือแสดงเอกสารหรือข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบที่เกี่ยวกับการให้สาระจากหน่วยงาน จนกว่าจะได้ยื่นต่อคณะกรรมการหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้พิจารณาแล้ว หรือในกรณีที่มีการเปิดเผยหรือแสดงเอกสารหรือข้อมูลดังกล่าว เป็นผลหรือเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากคำให้ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด แต่ไม่ว่าจะเป็นกรณีใด การเปิดเผยต้องไม่เสียหายต่อการพิจารณาหรือการดำเนินการที่เกิดขึ้นแล้ว

มาตรา ๕๖ ในกรณีที่หน่วยรับตรวจสอบเกี่ยวกับการปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญแห่งมาตรานี้ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน หรือในเรื่องที่อยู่ในอำนาจการตรวจสอบของผู้ว่าการ ให้ผู้ว่าการหรือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตอบข้อสอบถามเป็นหนังสือโดยเร็ว จึงต้องไม่ทำความล่าช้าอันเป็นเหตุให้การตรวจสอบล่าช้า

ในการที่หน่วยรับตรวจจะไม่ปฏิบัติตามที่ได้รับแจ้งจากกรรมการหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องที่เป็นผู้มีหน้าที่ที่ดูแลการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี หรือแบบแผนแผนการปฏิบัติราชการให้แจ้งให้ทราบได้ มีได้อย่างในการกระทำที่ไม่ชอบหรือไม่ถูกต้องต่อไป ผู้ว่าการหรือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายต้องแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบถึงเหตุผล ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี หรือแบบแผนการปฏิบัติราชการดังกล่าว และในการดำเนินการดังกล่าวนี้ แทกต่างไป มิให้มีผลกระทบกับการกระทำที่ได้ดำเนินการไปก่อนแล้ว

หมวด ๔

สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน

มาตรา ๔๙ ให้มีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ มีฐานะเป็นนิติบุคคล และอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของผู้ว่าการ ให้สำนักงานทำหน้าที่เป็นฝ่ายธุรการของคณะกรรมการ

มาตรา ๕๐ สำนักงานมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้

รับผิดชอบงานธุรการ และดำเนินการใดที่คณะกรรมการหรือคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลการปฏิบัติงานของสำนักงานมอบหมาย

อำนวยความสะดวก ช่วยเหลือ ส่งเสริม และสนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ กรรมการ และผู้ว่าการ

ดำเนินการเพื่อให้หน่วยรับตรวจมีความรู้ความเข้าใจในหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และแบบแผนการปฏิบัติราชการ

จัดให้มีการฝึกอบรมและพัฒนาความรู้ความเข้าใจให้แก่เจ้าหน้าที่และบุคลากรอื่นของสำนักงาน เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการตรวจสอบ

ประสานงานและร่วมมือกับหน่วยงานที่มีประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดิน

จัดทำรายงานแสดงผลการปฏิบัติงานของสำนักงานและรายงานผลการปฏิบัติงานของผู้ว่าการ เสนอคณะกรรมการเพื่อให้คณะกรรมการนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา หรือทั้งสองสภา และคณะรัฐมนตรีตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัตินี้

ติดตามผลการตรวจสอบและประเมินผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน

จัดทำรายงานแสดงผลการตรวจสอบและข้อเสนอแนะเพื่อเสนอคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลการปฏิบัติงานของสำนักงาน เพื่อเสนอคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติและนำเสนอรายงานต่อหน่วยรับตรวจรวมและประชาชนทราบ

เผยแพร่ผลการตรวจสอบให้ประชาชนทราบในกรณีทั่วไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด

๑๐

ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดหรือคณะกรรมการหรือผู้ว่าการมอบหมาย

มาตรา ๕๑ ในการกำกับดูแลสำนักงาน ให้คณะกรรมการดำเนินการออกระเบียบหรือประกาศ ในเรื่องดังต่อไปนี้

การแบ่งส่วนราชการภายในของสำนักงานและขอบเขตหน้าที่และอำนาจของส่วนราชการต่างๆ

การกำหนดตำแหน่ง การจัดประเภทตำแหน่งและระดับตำแหน่ง และการเทียบตำแหน่ง อัตราเงินเดือน เงินเพิ่มพิเศษสำหรับตำแหน่ง และค่าตอบแทนพิเศษหรือสิทธิประโยชน์อื่นของเจ้าหน้าที่

การกำหนดคุณสมบัติ การคัดเลือก การบรรจุ การแต่งตั้ง การออกจากราชการ การเลื่อนขั้น การลงโทษ และการดำเนินการบริหารงานบุคคลสำหรับเจ้าหน้าที่

การกำหนดวิธีการและเงื่อนไขในการจ้างลูกจ้างของสำนักงาน รวมตลอดทั้งอัตราเงินเดือน เงินเพิ่ม และค่าตอบแทนพิเศษหรือสิทธิประโยชน์อื่นของลูกจ้างของสำนักงาน

การกำหนดวิธีการและเงื่อนไขในการจ้างที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยการปฏิบัติงานของสำนักงาน รวมตลอดทั้งค่าจ้างหรือค่าตอบแทนอื่นของที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญ

การบริหารจัดการการเงินและทรัพย์สิน การงบประมาณ และการผลิตของสำนักงาน

การจัดสวัสดิการหรือการสงเคราะห์อื่นแก่เจ้าหน้าที่และบุคลากรอื่นของสำนักงาน

การกำหนดเครื่องแบบและการแต่งเครื่องแบบของกรรมการ ผู้ว่าการ เจ้าหน้าที่ และบุคลากรอื่นของสำนักงาน การดำเนินการตาม (๖) และ (๗) ต้องคำนึงถึงความมีประสิทธิภาพและความคล่องตัว การกำหนดตาม (๒) และ (๔) ต้องคำนึงถึงค่าครองชีพ และความเพียงพอในการดำรงชีพและการครองชีพตลอดจนพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเหมาะสมด้วย ในการออกระเบียบเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลตามมาตรา ๒๐ ให้คณะกรรมการคำถึงถึงความมีเสรีธรรม “อันสูงและสำคัญของบุคลากร ให้มีระบบการบริหารงานบุคคลที่เหมาะสมกับการบริหารงานของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มุ่งเห็นชอบแล้ว และเมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้ การดำเนินการตามระเบียบดังกล่าว ให้ถือเป็นการบริหารงานบุคคลที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของราชการ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นที่เห็นชอบจากคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อมีกรณีที่ต้องแต่งตั้งรองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินหรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นที่เทียบเท่า ให้เทียบความสามารถบุคคลผู้เหมาะสมแต่งตั้งต่อไป

มาตรา ๒๑ ข้าราชการสำนักงาน ให้แก่นุคคลซึ่งได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้เป็นข้าราชการตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน

ให้ข้าราชการสำนักงานเป็นข้าราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน ข้าราชการ การดำเนินเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลที่มีให้กำหนดให้เป็นพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ หรือระเบียบหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ให้เป็นกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนในลักษณะเดียวกันกับการบริหารงานบุคคลของสำนักงานที่หัวข้อโดยอนุโลม การจ่ายเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งให้แก่ข้าราชการสำนักงาน ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยส่วนนั้น

มาตรา ๒๒ อัตราเงินเดือนตามมาตรา ๒๑ วรรคแรก และเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามมาตรา ๒๑ ให้คณะกรรมการที่กำหนดที่เป็น ก. พ. ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน

และมีอำนาจแต่งตั้งอนุกรรมการเพื่อทำหน้าที่เป็นคณะอนุกรรมการข้าราชการสำนักงานได้ โดยมี องค์ประกอบและหน้าที่และอำนาจตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด ให้คณะอนุกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งทำหน้าที่แทนคณะอนุกรรมการสามัญ ประจำกระทรวง ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะอนุกรรมการในฐานะองค์การกลางบริหารงานบุคคลและ คณะอนุกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้ง ให้เสนอให้ความเห็นไปยังประธาน ก.พ. หรือ อ.ก.พ. แล้วแต่กรณี

มาตรา ๒๓ ให้คณะกรรมการออกข้อกำหนดทางจริยธรรมใช้บังคับแก่บุคคลทุกคนที่ทำ หน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสำนักงาน ทั้งนี้ ข้อกำหนดทางจริยธรรมดังกล่าวต้องระบุข้อจริยธรรมที่สำคัญ หรือไม่ปฏิบัติตามจะต้องได้รับโทษอย่างใด

มาตรา ๒๔ การใช้อำนาจการตามกฎหมายอื่นนอกจากระบุเป็นหน้าที่การดำเนินการสำนักงาน อาจกระทำได้เท่าที่จำเป็นต่อการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ความคับข้องใจของประชาชนที่ส่งผลเสียหาย คณะกรรมการเพื่อพิจารณาข้อมูลต่าง ๆ ทั้งนี้ จะต้องให้มีการดำเนินการระดับและได้รับเงินเดือนเท่าใด ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด แต่ในกรณีที่มีข้อสงสัยเรื่องการใช้อำนาจการดำเนินการดังกล่าว ให้คณะกรรมการเป็นผู้พิจารณา เพื่อประโยชน์ในการเป็นบรรทัดฐาน ให้คณะกรรมการจัดเตรียมเรื่องดังกล่าว โดยมอบหมายอธิบดีหรือเจ้าหน้าที่ในสำนักงานเป็นผู้รวบรวมข้อมูลและเสนอความเห็นต่อพระมหากษัตริย์ตามประมวลจริยธรรมแห่งรัฐธรรมนูญนี้ด้วย

การโอนอำนาจการดำเนินการดังกล่าวให้แก่คณะกรรมการต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการและสำนักงานก่อน

มาตรา ๒๕ ในกิจการของสำนักงานที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก ให้ผู้ทำการเป็นผู้แทน ของสำนักงาน เพื่อการระงับข้อขัดแย้งหรือการเจรจาอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ ตามระเบียบที่ คณะกรรมการกำหนด

มาตรา ๒๖ ในการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ผู้ทำการ เจ้าหน้าที่ และบุคคลอื่น ต้องแสดงบัตรประจำตัวต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง บัตรประจำตัวตามพระราชบัญญัติ ให้เป็นไปตามแบบที่ผู้ทำการกำหนด โดยประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา

มาตรา ๒๗ ในการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ให้ ประธานกรรมการ กรรมการ ผู้ทำการ และเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตามมาตรา ๒๔ มาตรา ๒๕ และมาตรา ๒๖ แสดงพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ เป็นเอกสารหลักฐานประกอบทุกสถานะที่เกี่ยวข้อง

มาตรา ๒๘ ให้ผู้ทำการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการเสนอของประธาน รายงานเพื่อจริยธรรมเป็นลำดับชุดหน่วยของคณะกรรมการและสำนักงานมาให้ไว้ในราชพระราชบัญญัติ

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ หรือร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม แล้วแต่กรณี ในกรณีที่ผู้ตรวจสอบงบประมาณรายจ่ายที่ได้รับการจัดสรรให้แก่เจ้าพนักงาน ให้ผู้ว่าการ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการเสนอคำขอเบิกจ่ายต่อคณะกรรมการบริหารกิจการงบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรได้โดยตรง ในกรณีเสนอร่างงบประมาณรายจ่ายดังกล่าวให้ผู้ว่าการพิจารณาแล้วเสนอความของคณะผู้ตรวจสอบตามมาตรา ๗๗ ประกอบด้วย ในการเสนอร่างงบประมาณรายจ่ายตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ให้ผู้ว่าการแจ้งให้คณะรัฐมนตรีทราบกรณีได้และทรัพย์สินที่อยู่ด้วย

มาตรา ๒๘ เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณหรือพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมตามมาตรา ๒๗ ใช้บังคับแล้ว ให้สำนักงานจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีเพื่อออกตามที่เห็นชอบจากคณะกรรมการ และเผยแพร่ให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป

การใช้งบเงินของสำนักงานต้องเป็นไปตามที่ระบุไว้ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามวรรคหนึ่ง เว้นแต่จะเป็นกรณีมติคณะกรรมการในการพิจารณา ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณรายจ่ายที่ไม่ได้ระบุไว้ในงบประมาณรายจ่ายประจำปี ให้สำนักงานจัดทำคำขอเบิกจ่ายงบประมาณเพิ่มเติมตามความจำเป็นและเหมาะสม รวมถึงเหตุผล และให้คณะกรรมการพิจารณาอนุมัติการใช้งบประมาณดังกล่าวก่อนดำเนินการต่อไป

มาตรา ๒๙ รายได้และทรัพย์สินในการดำเนินกิจการของสำนักงาน ประกอบด้วย

(ก) เงินอุดหนุนที่ได้รับตามมาตรา ๒๘ (ข) ทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้แก่สำนักงาน (ค) ดอกผลหรือประโยชน์ของเงินหรือทรัพย์สินของสำนักงาน (ง) รายได้อื่นตามที่กฎหมายกำหนด ในกรณีทรัพย์สินตาม (ข) ให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายในการปฏิบัติหน้าที่ และในกรณีที่คณะกรรมการเห็นว่าการบริหารทรัพย์สินดังกล่าวไม่เหมาะสมต่อการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงาน ให้สำนักงานจัดทำคำขอเบิกจ่ายงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อให้ทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้แก่สำนักงานสามารถนำไปใช้ในกิจการของสำนักงานได้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด เงินอุดหนุนตามมาตรา ๒๘ ให้ถือเป็นเงินงบประมาณรายจ่ายของสำนักงานตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้สำนักงานจัดทำบัญชีแยกประเภทเงินรายได้และเงินอุดหนุนตามวรรคหนึ่งแยกออกจากกัน และให้ผู้แทนราษฎร ผู้ตรวจ และคณะกรรมการมีสิทธิตรวจสอบงบประมาณรายจ่ายดังกล่าวได้ การใช้จ่ายเงินของสำนักงานต้องเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในงบประมาณรายจ่าย หรือมติคณะกรรมการที่กำหนด แต่สำนักงานอาจนำเงินรายได้มาใช้ หรือหาประโยชน์ได้

มาตรา ๒๐ ทรัพย์สินของสำนักงานไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี และผู้ใดจะยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้มิได้

มาตรา ๒๑ ให้คณะกรรมการกำกับการตรวจสอบเพื่อทำหน้าที่ในการกำกับการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบสำนักงานของคณะผู้ตรวจสอบ และดูแลให้คณะผู้ตรวจสอบมีความอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบสำนักงาน ประกอบด้วย (๑) ประธานผู้ตรวจสอบเป็นประธานกรรมการ (๒) ประธานองค์กรอิสระทุกองค์กร ยกเว้นประธานกรรมการการเงินแห่งเดินเป็นกรรมการ ให้รองอธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นกรรมการและเลขานุการ

มาตรา ๒๒ ให้กรมบัญชีกลางโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับการตรวจสอบแต่งตั้งคณะผู้ตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ในกรมบัญชีกลางซึ่งมีจำนวนที่เพียงพอต่อการปฏิบัติงานที่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบสำนักงาน โดยให้คณะผู้ตรวจสอบที่แต่งตั้งมานั้นมีคุณสมบัติที่เหมาะสมและมีความเชี่ยวชาญในการตรวจเงินแผ่นดินตามพระราชบัญญัติว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม

มาตรา ๒๓ ให้สำนักงานจัดทำรายงานการเงินประจำปีซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงินและงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงินของสำนักงานส่งคณะผู้ตรวจสอบ ภายในกำหนดวันนั้นจนถึงสิ้นปีงบประมาณ

มาตรา ๒๔ ให้สำนักงานจัดให้มีระบบการตรวจสอบภายในเพื่อตรวจสอบการดำเนินงานต่าง ๆ ของสำนักงานและกองทุน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา ๒๕ ให้สำนักงานจัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีเสนอคณะรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีพิจารณา ภายในเดือนธันวาคมของปีงบประมาณถัดไป โดยรายงานผลการปฏิบัติงานดังกล่าวต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องที่คณะกรรมการกำหนดและเรื่องที่คณะกรรมการกำกับการตรวจสอบเห็นชอบ รวมถึงเป็นเรื่องที่กระทรวงการคลังเห็นสมควรเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา

ในกรณีที่รายงานผลการปฏิบัติงานดังกล่าวมีข้อเสนอแนะให้แก้ไขปรับปรุงหรือปรับปรุงการดำเนินงานของสำนักงาน ให้สำนักงานดำเนินการให้แล้วเสร็จในระยะเวลาที่เหมาะสม นอกเหนือจากรายงานตามวรรคหนึ่งนี้

หมวด ๔

กองทุนเพื่อการพัฒนาการตรวจเงินแผ่นดิน

มาตรา ๑๙ ให้มีกองทุนเพื่อการพัฒนาการตรวจเงินแผ่นดินในสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้จ่ายในการสนับสนุนและพัฒนาการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อให้การตรวจเงินแผ่นดินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

มาตรา ๒๐ กองทุนประกอบด้วยเงินและทรัพย์สิน ดังต่อไปนี้

เงินที่ได้รับโดยกฎหมายมาตรา ๑๑๖

รายได้จากค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ในการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงาน

เงินรายได้ตามมาตรา ๑๑๐ (๔) ที่ดำเนินการแล้วมีเหลือจ่ายในแต่ละปีงบประมาณ

เงินหรือทรัพย์สินอื่นที่มีผู้บริจาคให้กองทุน

ดอกผลหรือผลประโยชน์ที่เกิดจากเงินหรือทรัพย์สินของกองทุน เงินและทรัพย์สินของกองทุนตามวรรคหนึ่งให้ถือว่าเป็นเงินหรือทรัพย์สินของแผ่นดิน

มาตรา ๒๑ เงินกองทุนให้ใช้จ่ายเพื่อการตามวัตถุประสงค์ของกองทุน ดังต่อไปนี้

เป็นค่าใช้จ่ายในการพัฒนาประสิทธิภาพในการตรวจเงินแผ่นดิน

เป็นค่าใช้จ่ายในการพัฒนาประสิทธิภาพในการตรวจเงินแผ่นดิน

สมทบเป็นค่าตอบแทนพิเศษ และสวัสดิการของเจ้าหน้าที่และบุคลากรอื่นของสำนักงาน

เป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ และลูกจ้างเพื่อช่วยในการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงาน

ค่าใช้จ่ายอื่นใดที่จำเป็นหรือเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานตามที่คณะกรรมการกองทุนกำหนด การใช้จ่ายเงินกองทุนตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกองทุนกำหนด กำหนด

มาตรา ๒๒ เงินกองทุนให้เก็บรักษาไว้ในธนาคารของรัฐ หรือในสถาบันการเงินอื่นที่กระทรวงการคลังกำหนด แต่ในกรณีที่มีความจำเป็น คณะกรรมการกองทุนอาจกำหนดให้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่รัฐรับรองหรือรัฐจัดตั้ง ทั้งนี้ต้องกระทำด้วยความระมัดระวังเพื่อรักษาประโยชน์ของกองทุน

มาตรา ๒๔ ให้คณะกรรมการกองทุนประกอบด้วย ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นประธานกรรมการ กรรมการตรวจเงินแผ่นดินคนหนึ่งซึ่งคณะกรรมการสอบคัดเลือก รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินคนหนึ่งซึ่งผู้ว่าการสอบคัดเลือก และผู้แทนกองทุนประกัน เป็นกรรมการ ให้ผู้อำนวยการสำนักงานการเงินและการคลัง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นเลขานุการ และผู้ว่าการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่เป็นผู้ช่วยเลขานุการเท่าที่เห็นสมควรได้

มาตรา ๒๕ ให้คณะกรรมการกองทุนมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้

บริหารจัดการ อนุมัติการจัดสรรเงินกองทุน และกำกับดูแลการใช้จ่ายเงินกองทุนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์

จัดทำและรักษาไว้ซึ่งระบบบัญชีที่เหมาะสมเพื่อให้สามารถจัดทำรายงานการเงินประจำปี ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงินและงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงินของกองทุน โดยต้องถูกต้องตามหลักการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป

ปฏิบัติการอื่นใดตามที่พระราชบัญญัตินี้ระบุหรือกฎหมายอื่นกำหนดให้เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการกองทุน ให้คณะกรรมการกองทุนส่งรายงานการเงินของกองทุนตาม (๒) ให้คณะผู้ตรวจสอบภายในกลับมาพิจารณาแต่ต้นฉบับประจำปี

มาตรา ๒๖ ให้คณะผู้ตรวจสอบตามมาตรา ๒๕ เป็นผู้สอบบัญชีของกองทุน ทำหน้าที่ตรวจสอบรายงานการเงินของกองทุนแต่ละกรณีและความเห็นต่อรายงานนั้น และเสนอให้ประธานกรรมการเป็นการประจำปี

หมวด ๖

หน้าที่และอำนาจในการตรวจสอบของผู้ว่าการ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๒๗ ในกรณีที่ผลการตรวจสอบปรากฏว่ามีความผิดปกติของการเบิกจ่ายจากเจ้าหน้าที่ของหน่วยรับตรวจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ สัญญา หรือแบบแผนการปฏิบัติราชการ ให้ผู้ว่าการแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ของหน่วยรับตรวจหรือหัวหน้าหน่วยรับตรวจเพื่อดำเนินการแก้ไข และควบคุมหรือกำกับดูแลการปฏิบัติให้ถูกต้อง แต่ผู้ว่าการต้องรับฟังข้อเท็จจริงและเหตุผลหรือความจำเป็นก่อนแจ้งเตือนหรือรับตรวจข้อดังกล่าว

ในกรณีที่มีความร้ายแรง ถ้าผู้ใดไม่ดำเนินการแก้ไขหรือหัวหน้าหน่วยรับตรวจไม่ดำเนินการแก้ไข ให้ผู้ว่าการแจ้งให้หัวหน้าหน่วยรับตรวจหรือผู้บังคับบัญชาของหัวหน้าหน่วยรับตรวจทราบเพื่อให้สามารถดำเนินการแก้ไขและกำกับดูแลการปฏิบัติให้ถูกต้องได้ และเมื่อผู้ว่าการตรวจพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย ให้ผู้ว่าการแจ้งให้หัวหน้าหน่วยรับตรวจหรือผู้บังคับบัญชาของหัวหน้าหน่วยรับตรวจทราบเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินเป็นกรรมการโดยตำแหน่งในคณะกรรมการกองทุน ในกรณีที่ผลการตรวจสอบปรากฏว่ามีความผิดปกติของการเบิกจ่ายจากเจ้าหน้าที่ของหน่วยรับตรวจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ สัญญา หรือแบบแผนการปฏิบัติราชการ ให้ผู้ว่าการแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ของหน่วยรับตรวจหรือหัวหน้าหน่วยรับตรวจเพื่อดำเนินการแก้ไข และควบคุมหรือกำกับดูแลการปฏิบัติให้ถูกต้อง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มติคณะรัฐมนตรี หรือแบบแผนการปฏิบัติราชการที่เหมาะสมต่อไป ในกรณีเช่นนั้น การดำเนินการ ของหน่วยรับตรวจที่เหมาะสมให้เป็นอันยับยั้ง ไว้แต่เป็นกรณีทุจริต

มาตรา ๔๖ ในกรณีที่ผลการตรวจสอบปรากฏว่า หน่วยรับตรวจจัดเก็บรายได้หรือ ผลตอบแทนไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือสัญญา ให้ผู้ว่าการเงินแผ่นดินแจ้งข้อบกพร่องพร้อมทั้ง ข้อเสนอแนะไปยังหน่วยรับตรวจเพื่อดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายหรือสัญญา และให้แจ้งเรื่องดังกล่าว ไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลหรือควบคุมหน่วยรับตรวจนั้น และในกรณีที่มีความจำเป็น ให้กำหนด ระยะเวลาในการดำเนินการดังกล่าวด้วย

ในกรณีที่ผู้ว่าการไม่เห็นด้วยกับการแจ้งเหตุผลของหน่วยรับตรวจ หรือเห็นว่าการ ดำเนินการไม่เป็นไปตามข้อเสนอแนะหรือไม่อาจดำเนินการโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้ผู้ว่าการแจ้ง รัฐมนตรีเจ้าสังกัด หรือรัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการหรือควบคุมการของหน่วยรับ ตรวจ หรือรัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมาย เพื่อพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป ในกรณีที่ผู้ว่าการเห็นว่าผลที่เกิดขึ้นอาจนำไปสู่ความเสียหายต่อหน่วยรับตรวจหรือในการดำเนินการ ภายใต้กฎหมาย กฎระเบียบ หรือข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ให้ผู้ว่าการแจ้งรัฐมนตรีเจ้าสังกัด หรือรัฐมนตรีผู้รักษาการ ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือรายงานต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป อำนาจในการดำเนินการดังกล่าวเป็นของผู้ว่าการเงินแผ่นดินโดยลำพัง หากมีกรณีที่เกี่ยวกับ การอายัดหรือยึดทรัพย์ ผู้ว่าการอาจมอบหมายให้อัยการหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจดำเนินการแทนได้ ในการตรวจสอบรายได้หรือผลตอบแทนของหน่วยรับตรวจ หากมีเหตุอันสมควรให้ ใช้อำนาจประเมินแทนหน่วยรับตรวจ หรือเป็นการวินิจฉัยรายรับของผู้เสียภาษีอากรแทนผู้เสียภาษีอากร อันเป็นได้

มาตรา ๔๗ ในกรณีที่ผลการตรวจสอบปรากฏว่า หน่วยรับตรวจที่มีหน้าที่และ อำนาจบริหารจัดการ ดูแลรักษา และติดตามทรัพย์สินของแผ่นดิน จะไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ กำหนดไว้ในกฎหมาย ไม่ดูแลรักษา หรือไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามข้อเสนอแนะเพื่อ ดำเนินการให้ถูกต้อง โดยให้หน่วยรับตรวจแจ้งเหตุผลหรือแจ้งผลการดำเนินการภายในระยะเวลาที่ ผู้ว่าการกำหนด

ในกรณีที่หน่วยรับตรวจไม่ดำเนินการโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้ผู้ว่าการแจ้งรัฐมนตรี เจ้าสังกัด หรือรัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการหรือควบคุมการของหน่วยรับตรวจ หรือรัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมาย เพื่อพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป หรือใน กรณีที่มีความจำเป็นอาจเสนอให้ผู้ว่าการดำเนินการเองได้ตามที่กฎหมายกำหนด หรือในกรณีที่มีความจำเป็น อาจเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาดำเนินการเองได้ตามที่กฎหมายกำหนด

มาตรา ๔๘ ในกรณีที่ผลการตรวจสอบปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า มีการ กระทำอันอาจเป็นความผิด ให้ผู้ว่าการแจ้งรัฐมนตรีเจ้าสังกัด หรือรัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการหรือพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ หรืออาจเสนอให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการเองได้ตามที่ กฎหมายกำหนด

เจ้าหน้าที่ของหน่วยรับตรวจจัดทำโครงการหรืออนุมัติหรือจัดสรรเงินงบประมาณโดยรู้ว่ามีการดำเนินการดังกล่าว ให้ผู้กระทำผิดและกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป ในการดำเนินการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่า รายงานและเอกสารและหลักฐานที่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินหรือเจ้าหน้าที่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นเอกสารและหลักฐานที่ได้มาหรือรวบรวมตามอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

มาตรา ๔๘ ในการตรวจสอบผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพ ต้องตรวจสอบเปรียบเทียบการดำเนินการหลังสิ้นแล้ว เว้นแต่ผู้ว่าการจะเห็นว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์หรือขาดประสิทธิภาพ จะแจ้งให้หน่วยรับตรวจทราบก่อนหรือระหว่างดำเนินการก็ได้ ในกรณีเช่นนี้ ผู้ว่าการต้องเสนอวิธีดำเนินการที่ถูกต้องให้หน่วยรับตรวจปฏิบัติด้วย และในกรณีที่หน่วยรับตรวจเห็นว่าการดำเนินการที่ผู้ว่าการเสนอแนะนั้นไม่สามารถดำเนินการได้โดยมีเหตุผลอันสมควร ให้แจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ว่าการทราบ และผู้ว่าการอาจดำเนินการตรวจสอบหรือจัดผู้ตรวจสอบเพื่อดำเนินการให้เกิดความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงประการใด ให้หน่วยรับตรวจดำเนินการไปตามข้อยุตินั้น

มาตรา ๔๙ ในการตรวจสอบผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพในการใช้จ่ายเงินของหน่วยรับตรวจ ให้ผู้ว่าการจัดทำรายงานผลการตรวจสอบและข้อเสนอแนะที่จำเป็นไปประกอบเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ และประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์ที่หน่วยรับตรวจกำหนดไว้หรือไม่ และให้จัดทำสำเนารายงานส่งให้หน่วยรับตรวจในกรณีที่เห็นว่าหน่วยรับตรวจควรปรับปรุงการดำเนินการของหน่วยรับตรวจ

ในการตรวจสอบความคุ้มค่า ต้องคำนึงถึงประเพณี วัฒนธรรม สังคม และความนิยมของท้องถิ่น รวมถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนในด้านต่าง ๆ โดยให้รับฟังเหตุผลและความจำเป็นของหน่วยรับตรวจประกอบด้วย

มาตรา ๕๐ ให้ผู้ว่าการตรวจสอบรายงานการเงินที่หน่วยงานของรัฐส่งให้ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องในแต่ละปีงบประมาณในวันหนึ่งวันใดในปีงบประมาณถัดจากปีงบประมาณที่ได้ตกลงกับกระทรวงการคลัง และมอบสำเนารายงานต่อหน่วยรับตรวจ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่เกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดินที่คณะกรรมการกำหนดตามมาตรา ๒๗ (๒)

มาตรา ๕๑ การตรวจสอบการใช้จ่ายเงินราชการแผ่นดิน หรือเงินอื่นที่เกี่ยวข้องกับเงินราชการกลับให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด แต่หลักเกณฑ์ดังกล่าวต้องไม่กำหนดในลักษณะที่จะขัดต่อวัตถุประสงค์ของการใช้จ่ายเงินราชการกลับ

มาตรา ๕๒ ในการตรวจสอบ ให้ผู้ว่าการและเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตรวจสอบมาเยี่ยมอำนวยความสะดวกแก่หน่วยรับตรวจเพื่อสืบค้นบัญชี รายงาน เอกสาร หรือหลักฐานในการใช้จ่ายและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวในความรับผิดชอบของหน่วยรับตรวจและให้ถือปฏิบัติ ดังต่อไปนี้

ให้ผู้รับตรวจหรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยรับตรวจมีหนังสือแจ้งข้อเท็จจริง มาให้ถ้อยคำ หรือส่งมอบบัญชี ทะเบียน เอกสาร หรือหลักฐานอื่นบรรดาที่หน่วยรับตรวจจัดทำขึ้นหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ

อายัดบัญชี ทะเบียน เอกสาร หรือหลักฐานอื่นที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยรับตรวจ

ให้บุคคลใดให้ถ้อยคำหรือส่งมอบบัญชี ทะเบียน เอกสาร หรือหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องกับหน่วยรับตรวจที่ทำขึ้นเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ

มีอำนาจเข้าไปในสถานที่ใด ๆ ในระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก หรือในเวลาทำการ เพื่อตรวจสอบ ค้น ยึด หรืออายัด บัญชี ทะเบียน เอกสาร หรือหลักฐานอื่น หรืออายัดเงินหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องเพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับหน่วยรับตรวจที่ทำขึ้น ในการมอบหมายเจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการฯ จะให้มีอำนาจทำหนังสือหรือบันทึกข้อความให้ระบุให้ชัดเจน โดยคำสั่งมอบของเจ้าหน้าที่ในแต่ละระดับ

มาตรา ๕๔ บรรดาบัญชีและเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวกับการตรวจสอบ ถ้าเป็นภาษาอังกฤษและเจ้าหน้าที่ไม่อาจเข้าใจได้ จะให้แปลข้อความเป็นภาษาไทยให้แล้วเสร็จภายในเวลาตามที่เห็นสมควรได้

หมวด ๗

วินัยการเงินการคลัง

มาตรา ๕๕ ในการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ หากข้อบกพร่องที่ตรวจพบไม่มีลักษณะเป็นการทุจริต และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐหรือหน่วยรับตรวจ ผู้ทำการจะส่งให้ผู้รับตรวจทราบเพื่อกำชับดูแลให้เกิดความพร้อมหรือแก้ไข

ในกรณีที่ข้อบกพร่องที่ตรวจพบมีลักษณะเป็นการทุจริต ให้ผู้ทำการส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติดำเนินการต่อไป และให้ดำเนินการในมาตรา ๔๘ วรรคสอง มาใช้บังคับต่อไปโดยอนุโลม ในกรณีที่พบว่า ผู้รับตรวจ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือหน่วยงานของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต ให้ผู้ทำการแจ้งให้ผู้รับตรวจพิจารณาดำเนินการเพื่อให้มีการตรวจสอบหรือสอบสวนต่อไป หรือดำเนินการทางวินัยตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

มาตรา ๕๖ ผู้ตรวจเงินแผ่นดินมีอำนาจสั่งให้หน่วยรับตรวจดำเนินการตามมาตรา ๕๕ วรรคสอง หากหน่วยรับตรวจไม่ดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าว คณะกรรมการฯ ให้ลงโทษทางวินัยตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลัง

ในการเสนอเพื่อให้ลงโทษทางวินัยกรรมหนึ่ง ให้ผู้ว่าการสรุปข้อเท็จจริง และพฤติการณ์ที่เป็นเหตุอันควรลงโทษทางปกครอง พร้อมทั้งข้อเสนอแนะเกี่ยวกับโทษที่สมควรลงด้วย

มาตรา ๙๗ เจ้าหน้าที่ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ จงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐและเป็นกรณีที่ไม่อาจดำเนินการตามมาตรา ๙๕ หรือมาตรา ๙๖ หรือกรณีที่คณะกรรมการเห็นควรเสนอให้ลงโทษทางปกครองแก่ผู้นั้น โดยให้ทำความเห็นตามวรรคสอง ส่งไปยังคณะรัฐมนตรีโดยด่วน

มาตรา ๙๘ โทษทางปกครอง มีดังต่อไปนี้

ภาคทัณฑ์

ตักเตือนโดยเปิดเผยต่อสาธารณชน

ปรับทางปกครอง ในการลงโทษปรับทางปกครอง จะลงโทษปรับเป็นเงินเกินเงินเดือนสิบสองเดือนของผู้ถูกลงโทษมิได้ ในการพิจารณาโทษทางปกครองตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการคำนึงถึงความร้ายแรงแห่งพฤติการณ์ที่กระทําผิดและความเสียหายที่เกิดจากการกระทํานั้น

มาตรา ๙๙ ในการพิจารณาวินิจฉัยเพื่อลงโทษทางปกครอง ให้คณะกรรมการได้รายงานผลการตรวจสอบของผู้ว่าการเพิ่มเติม แต่ต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงแสดงหลักฐานประกอบการพิจารณาด้วย

การลงโทษทางปกครองตามวรรคแรก และการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา ๑๐๐ ผู้บริหารหรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยรับตรวจผู้ใดกระทำความผิดตามที่บัญญัติไว้ในหมวดนี้ เพราะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ทางคณะกรรมการเห็นว่า ผู้บริหารหรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยรับตรวจผู้นั้นได้แจ้งหรือคัดค้านคำสั่งนั้นแล้ว ให้พ้นจากโทษทางปกครองทุกกรณีที่เกิดในหมวดนี้

มาตรา ๑๐๑ การดำเนินการเกี่ยวกับความผิดวินัยการเงินการคลังของรัฐระงับลงในกรณี ดังต่อไปนี้

ผู้ถูกกล่าวหาถึงแก่ความตาย

คำสั่งทางปกครองไม่สามารถลงโทษทางปกครองกับผู้กระทำผิดได้

มาตรา ๑๐๒ การวินิจฉัยลงโทษทางวินัยกรณีการเงินการคลังของรัฐเป็นการตัดอำนาจของผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกกล่าวหาในส่วนที่ไม่ปรับใช้ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง แต่โทษดังกล่าวจะต้องเป็นโทษซึ่งมิใช่เป็นโทษถึงขั้นไล่ออกหรือปลดออก

มาตรา ๑๓๓ ผู้ถูกสั่งลงโทษทางปกครองอาจอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายในกำหนดวันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่ง

หมวด ๘

บทกำหนดโทษ

มาตรา ๑๓๔ ผู้ใดเปิดเผยข้อความ ซึ่งเท็จจริง หรือข้อมูลที่ได้มาเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ เพื่อระงับโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ความในวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับแก่การเปิดเผยผลการตรวจสอบที่เสร็จสิ้นแล้วโดยไม่ระบุชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือเป็นการเปิดเผยตามมาตรา ๖๖ หรือเป็นการเปิดเผยต่อศาลพนักงานอัยการ หรือหน่วยงานที่ต้องดำเนินการตามผลการตรวจสอบดังกล่าว หรือเป็นการเปิดเผยของคณะกรรมการตามพระราชบัญญัตินี้ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ หรือเป็นการกระทำตามหน้าที่ที่กระทำโดยสุจริต

มาตรา ๑๓๕ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการตามมาตรา ๖๖ หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือข้อกำหนดของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินตามมาตรา ๖๖ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๓๖ ผู้ใดตรวจสอบหรือสำรวจหรือกระทำการเกี่ยวกับบัญชี รายรับ รายจ่าย เอกสาร หรือหลักฐานอื่นของหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานอื่นที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินโดยมิชอบ หรือทำให้สูญหายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๓๗ เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจและหน้าที่ตรวจเงินไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดิน ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำผิดวินัย และให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ผู้นั้นตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป

บทเฉพาะกาล

มาตรา ๑๓๘ ให้ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและกรรมการตรวจเงินแผ่นดินซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ เป็นประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและกรรมการตรวจเงินแผ่นดินตามพระราชบัญญัตินี้ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ โดยให้ดำรงตำแหน่งต่อไปตามกฎหมายพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้จนกว่าจะมีการแต่งตั้งใหม่หรือจนกว่าจะพ้นจากตำแหน่งตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายนี้

มาตรา ๑๐๙ ให้ผู้ทำการตรวจเงินแผ่นดินซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ เป็นผู้ทำการตรวจเงินแผ่นดินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ โดยให้มีวาระการดำรงตำแหน่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ตั้งแต่วันที่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งผู้ทำการตรวจเงินแผ่นดินต่อเนื่องในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ให้รัฐสภาแต่งตั้งผู้ทำการตรวจเงินแผ่นดินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ และให้ผู้ทำการตรวจเงินแผ่นดินซึ่งพ้นจากตำแหน่งไปแล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งผู้ทำการตรวจเงินแผ่นดินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ในกรณีที่ได้มีการลาออก ตัดเลือก หรือเสียชีวิตของผู้ทำการตรวจเงินแผ่นดินอยู่ในวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ให้ถือว่าเป็นการดำเนินการที่ชอบด้วยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ และให้ดำเนินการต่อไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ด้วย ให้สภาผู้แทนราษฎรดำเนินการแต่งตั้งผู้ทำการตรวจเงินแผ่นดินคนใหม่ก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ เป็นผู้ทำการตรวจเงินแผ่นดินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ โดยอนุโลมมาตรา ๑๔ (๔) ประกอบกับมาตรา ๔๐ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ด้วย

มาตรา ๑๑๐ ให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๕ เป็นสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้

บรรดาสิทธิ หน้าที่ และความผูกพันใด ๆ ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๕ มีอยู่กับบุคคลใดในวันก่อนที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ให้โอนมาเป็นของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้

มาตรา ๑๑๑ ให้เงินบำรุงราชการ หรือทรัพย์สิน ข้าราชการ และลูกจ้างของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๕ มาเป็นของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ และให้ถือว่าเป็นประโยชน์ได้ในลักษณะการหรือภาระอื่นอันเกิดขึ้นจากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๕ เป็นสิทธิและหน้าที่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดไว้เช่นเดียวกัน

มาตรา ๑๑๒ ให้เงินบำรุงราชการเงินที่ได้รับจากการตรวจสอบบัญชีหรือการปฏิบัติหน้าที่อื่นซึ่งมิได้กำหนดกระทรวงการคลัง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๕ มาเป็นของงบประมาณเพื่อการพัฒนาการตรวจเงินแผ่นดิน

มาตรา ๑๓๓ บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ มติและคำสั่งของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ที่ออกตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งใช้บังคับอยู่ในวันก่อนที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ให้มีผลใช้บังคับต่อไปเสมือนระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ มติและคำสั่งของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ที่ออกตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ทั้งนี้ เท่าที่ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้

มาตรา ๑๓๔ บรรดาการดำเนินการใด ๆ ตามหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งดำเนินการในวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ หากการนั้นอยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการดำเนินการนั้นเป็นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ส่วนการดำเนินการอื่นใดที่ไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ให้เป็นอันยุติ

มาตรา ๑๓๕ การดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณและการคลังที่ได้กระทำตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๔๒ ไปแล้วก่อนวันใช้บังคับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ หากการนั้นอยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเงินการคลังตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้

ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คือ โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 131 (7) มาตรา 268 และมาตรา 273 มาตรา 270 และมาตรา 272 บัญญัติให้มีมาตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อกำหนดคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม การสรรหา การพ้นจากตำแหน่ง หน้าที่และอำนาจ ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อให้การตรวจเงินแผ่นดินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในการเงินการคลังของรัฐ โดยการดำเนินการดังกล่าวมิอาจดำเนินการตามพระราชบัญญัติฉบับที่มีผลใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันได้ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ สำเนาเอกสารนี้มีข้อความที่สามารถอ่านได้ดังนี้: ปุณิกา/จัดทำ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ปริณิธิ/ตรวจ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑