พระราชบัญญัติ ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม พ.ศ. ๒๕๔๓ 2000년 중소기업진흥법
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็นปีที่ ๕๕ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรให้มีกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการ จ˚ากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระท˚าได้โดยอาศัยอ˚านาจ ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติข้ึน ไว้โดยค˚าแนะน˚าและยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี้ 푸미폰 아둔야뎃 국왕 재위 55 년 2000 년 2 월 6 일 현재 푸미폰 아둔야뎃 국왕께서 중소기업 진흥 관련 법률을 제정하는 것 이 마땅하다고 왕명을 내리신 바 이 법에는 태국 「헌법」 제 29 조 및 제 31 조와 관련된 개인의 권리와 자유를 제 한하는 특정 조항이 포함되어 있으며 해 당 제한은 법률의 규정에 따른 경우로 한정된다. 이에 국왕께서는 의회의 조언과 동의를 받아 다음의 법률을 제정하는 바이다.
พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติส่งเสริม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. ๒๕๔๓”
พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ในพระราชบัญญัตินี้ “วิสาหกิจ” หมายความว่า กิจการผลิตสินค้า กิจการ ให้บริการ กิจการค้าส่ง กิจการค้าปลีก หรือกิจการอื่น ตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา “กองทุน” หมายความว่า กองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาด กลางและขนาดย่อม “องค์การเอกชน” หมายความว่า องค์การของเอกชนที่ จัดตั้งขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หรือตาม กฎหมายเฉพาะที่มีสมาชิกจ านวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของ จ านวนสมาชิกทั้งหมดเป็นวิสาหกิจขนาดกลางหรือ วิสาหกิจขนาดย่อมที่ด าเนินการในทางการอุตสาหกรรม การบริการ หรือการค้า และให้หมายความรวมถึงองค์การ เอกชนอื่นที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษาด้วย “ส านักงาน” หมายความว่า ส านักงานส่งเสริมวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการส่งเสริม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม “คณะกรรมการบริหาร” หมายความว่า คณะกรรมการ บริหารส านักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาด ย่อม “ผู้อ านวยการ” หมายความว่า ผู้อ านวยการส านักงาน ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตาม พระราชบัญญัตินี้
วิสาหกิจขนาดกลางหรือวิสาหกิจขนาดย่อม ได้แก่ วิสาหกิจที่มีจ านวนการจ้างงาน รายได้ มูลค่าสินทรัพย์ ถาวร หรือทุนจดทะเบียนที่ช าระแล้ว ตามหลักเกณฑ์ที่ ก าหนดในกฎกระทรวง
ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้ มีอ านาจออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตาม พระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงและประกาศนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจา นุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
ให้มีคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาด ย่อมประกอบด้วย
ให้ผู้อ านวยการเป็นกรรมการและเลขานุการ ในกรณีที่ไม่มีผู้ด ารงต าแหน่งกรรมการตาม (๔) หรือ (๕) หรือมีไม่ครบไม่ว่าด้วยเหตุใดให้คณะกรรมการปฏิบัติ หน้าที่ต่อไปได้ โดยให้ถือว่าคณะกรรมการประกอบด้วย กรรมการเท่าที่มีอยู่ เว้นแต่มีกรรมการตาม (๔) และ (๕) เหลืออยู่รวมกันไม่ถึงเจ็ดคน
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะ ต้องห้ามดังต่อไปนี้
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระอยู่ในต าแหน่งคราวละสองปี ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากต าแหน่งก่อนวาระ หรือในกรณีที่ได้มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เพิ่มขึ้นในระหว่างที่กรรมการซึ่งแต่งตั้งไว้แล้วยังมีวาระอยู่ ให้ผู้ได้รับแต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งแทนหรือเป็นกรรมการ เพิ่มขึ้นอยู่ในต าแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการ ซึ่งได้รับแต่งตั้งไว้แล้ว เมื่อครบก าหนดตามวาระในวรรคหนึ่ง หากยังมิได้มีการ แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นใหม่ ให้กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากต าแหน่งตามวาระนั้นอยู่ใน ต าแหน่งเพื่อด าเนินงานต่อไปจนกว่ากรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าท กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากต าแหน่งตามวาระอาจ ได้รับแต่งตั้งอีกได้แต่จะด ารงต าแหน่งติดต่อกันเกินสอง วาระไม่ได้
นอกจากการพ้นจากต าแหน่งตามวาระตามมาตรา ๘ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากต าแหน่งเมื่อ
การประชมุ คณะกรรมการ ตอ้ งมีกรรมการมาประชมุ ไม่ นอ้ ยกวา่ กึ่งหนงึ่ ของจา˚ นวนกรรมการทงั้ หมด จึงเป็นองค์ ประชมุ ใหป้ ระธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชมุ ในกรณีที่ ประธานกรรมการไมม่ าประชมุ หรือไมอ่ าจปฏิบติหนา้ ที่ได้ ใหร้ องประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชมุ ถา้ ประธานกรรมการหรอื รองประธานกรรมการไมม่ าประชมุ หรอื ไมอ่ าจปฏิบติหนา้ ที่ได้ ใหก้ รรมการซงึ่ มาประชมุ เลอื ก กรรมการคนหนงึ่ เป็นประธานในที่ประชมุ การวินิจฉยั ชีข้ าดของที่ประชมุ ใหถ้ ือเสยี งขา้ งมาก กรรมการคนหนงึ่ ใหมีเสยี งหนงึ่ ในการลงคะแนน ถา้ คะแนนเสยี งเทา่ กนั ใหป้ ระธานในที่ประชมุ ออกเสยี ง เพิ่มขนึ้ อีกเสยี งหนงึ่ เป็นเสยี งชีข้ าด
คณะกรรมการมีอ านาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้
ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อติดตามและประเมินผลการใช้จ่ายงบประมาณ คณะกรรมการอาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการอื่นตามที่ เห็นสมควรเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่ง ตามที่คณะกรรมการมอบหมายได้ ให้น าความในมาตรา ๑๐ และมาตรา ๑๒ มาใช้บังคับแก่ การปฏิบัติหน้าที่ของคณะอนุกรรมการตามมาตรานี้โดย อนุโลม
ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ คณะกรรมการ อาจมอบหมายให้ส านักงาน ส่วนราชการ หน่วยงานของ รัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์การเอกชน เป็นผู้ปฏิบัติการ หรือ เตรียมข้อเสนอมายังคณะกรรมการเพื่อพิจารณา ด าเนินการต่อไปได้
ให้ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ กรรมการ ประธานอนุกรรมการ และอนุกรรมการ ได้รับเบี้ยประชุม และประโยชน์ตอบแทนอื่นตามที่รัฐมนตรีก าหนด
ให้จัดตั้งส านักงานขึ้นเรียกว่า “ส านักงานส่งเสริมวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม” และให้เป็นนิติบุคคล มี วัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
ส านักงานมีอ านาจหน้าที่กระท าการต่างๆ ภายในขอบ แห่งวัตถุประสงค์ ตามที่ระบุไว้ในมาตรา ๑๖ และอ านาจ หน้าที่เช่นว่านี้ให้รวมถึง
ให้มีคณะกรรมการบริหารส านักงานส่งเสริมวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อมประกอบด้วย
ให้น าความในมาตรา ๗ มาตรา ๘ และมาตรา ๙ มาใช้ บังคับแก่การด ารงต าแหน่งของประธานกรรมการและ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหาร โดย อนุโลม เว้นแต่การพ้นจากต าแหน่งตามมาตรา ๙ (๓) ให้ เป็นอ านาจของคณะกรรมการ
คณะกรรมการบริหารมีอ านาจหน้าที่วางนโยบาย บริหารงาน ควบคุม ก ากับดูแลกิจการโดยทั่วไป และ รับผิดชอบซึ่งกิจการของส านักงาน อ านาจหน้าที่เช่นว่านี้ ให้รวมถึง
คณะกรรมการบริหารมีอ านาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เพื่อปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่คณะ กรรมการบริหารมอบหมายได้ ให้น ามาตรา ๑๐ มาใช้บังคับแก่การประชุมของ คณะกรรมการบริหารและคณะอนุกรรมการที่ คณะกรรมการบริหารแต่งตั้งโดยอนุโลม
ให้ประธานกรรมการ กรรมการ ประธานอนุกรรมการ และ อนุกรรมการในคณะกรรมการบริหาร ได้รับเบี้ยประชุม และประโยชน์ตอบแทนอื่นตามที่คณะกรรมการก าหนด
ให้คณะกรรมการบริหารเป็นผู้แต่งตั้งผู้อ านวยการ รวมทั้ง ก าหนดเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนของผู้อ านวยการ ทั้งนี้ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการและให้เป็นไป ตามสัญญาจ้างที่คณะกรรมการบริหารก าหนด
ผู้อ านวยการต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
ผู้อ านวยการมีวาระอยู่ในต าแหน่งคราวละสี่ปี ผู้อ านวยการซึ่งพ้นจากต าแหน่งตามวาระอาจได้รับ แต่งตั้งอีกได้ แต่จะด ารงต าแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระ ไม่ได้
นอกจากการพ้นจากต าแหน่งตามวาระตามมาตรา ๒๕ ผู้อ านวยการพ้นจากต าแหน่งเมื่อ
ผู้อ านวยการมีอ านาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
ในกิจการที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก ให้ผู้อ านวยการเป็น ผู้แทนของส านักงาน และเพื่อการนี้ ผู้อ านวยการจะมอบ อ านาจให้บุคคลใดปฏิบัติงานเฉพาะอย่างแทนก็ได้ ทั้งนี้ ตามข้อบังคับที่คณะกรรมการบริหารก าหนด
ให้ส านักงานวางและถือไว้ซึ่งระบบบัญชีที่เหมาะสมแก่ กิจการ แยกตามประเภทงานส่วนที่ส าคัญ มีสมุดบัญชี แสดงรายการรับและจ่ายเงิน สินทรัพย์ และหนี้สินที่แสดง กิจการที่เป็นอยู่ตามความจริง และถูกต้องตามประเภท งาน พร้อมด้วยข้อความและหลักฐานอันเป็นที่มาของ รายการนั้น ๆ และให้มีการตรวจสอบบัญชีภายในเป็น ประจ า
ให้ส านักงานจัดท างบดุล บัญชีท าการ บัญชีแสดงรายรับ และบัญชีแสดงรายจ่ายส่งผู้สอบบัญชี และให้ผู้สอบบัญชี ตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันสิ้น ปีบัญชีทุกปี และให้ถือวันที่ ๓๑ ธันวาคม เป็นวันสิ้นปี บัญชี ให้ผู้สอบบัญชีที่คณะกรรมการบริหารเห็นชอบเป็นผู้สอบ บัญชีของส านักงานทุกรอบปี แล้วท ารายงานผลการสอบ บัญชีเสนอต่อคณะกรรมการบริหารเพื่อเสนอ คณะกรรมการ ให้ส านักงานตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบรับรองรายงานผล การตรวจสอบบัญชีตามวรรคสอง
ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันสิ้นปีบัญชีทุกปี ให้ ส านักงานท ารายงานประจ าปีเสนอต่อคณะ กรรมการบริหารเพื่อเสนอคณะกรรมการ โดยแสดงงบดุล บัญชีท าการ บัญชีแสดงรายรับ และบัญชีแสดงรายจ่ายที่ ผู้สอบบัญชีรับรองว่าถูกต้องแล้ว พร้อมทั้งรายงานของ ผู้สอบบัญชีรวมทั้งแสดงผลงานของส านักงานในปีที่ล่วง มาด้วย
ให้จัดตั้งกองทุนขึ้นกองทุนหนึ่งในส านักงานเรียกว่า “กองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม” ประกอบด้วย
รายได้ของกองทุนและของส านักงานให้น าส่งเข้ากองทุน เพื่อใช้ในกิจการตามที่ก าหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ โดย ไม่ต้องส่งกระทรวงการคลังตามกฎหมายว่าด้วยเงินคง คลังและกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ
เงินกองทุนให้ใช้จ่ายเพื่อกิจการ ดังต่อไปนี้
ในการพิจารณาจัดสรรเงินกองทุนตามมาตรา ๒๐ (๕) ให้ คณะกรรมการบริหารพิจารณาให้สอดคล้องกับ แผนปฏิบัติการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาด ย่อมตามมาตรา ๓๗ ในกรณีเป็นการจัดสรรเงินกองทุนเพื่อให้วิสาหกิจขนาด กลาง วิสาหกิจขนาดย่อม หรือกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมกู้ยืมตามมาตรา ๓๔ (๑) ให้คณะกรรมการ บริหารพิจารณาก าหนดระยะเวลาช าระคืนเงินที่กู้ยืมจาก กองทุน อัตราดอกเบี้ย และหลักประกันตามความจ าเป็น และเหมาะสมด้วย ในกรณีเป็นการให้ความช่วยเหลือส่วนราชการ หน่วยงาน ของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์การเอกชนตามมาตรา ๓๔ (๒) ให้คณะกรรมการบริหารพิจารณาความจ าเป็นตาม แผนปฏิบัติการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาด ย่อมของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือ องค์การเอกชนนั้น โดยในส่วนของส่วนราชการ หน่วยงาน ของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจให้ค านึงถึงงบประมาณแผ่นดิน หรือเงินอุดหนุนที่ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจนั้นได้รับการจัดสรรไว้แล้วด้วย
คณะกรรมการบริหารอาจมอบหมายให้สถาบันการเงินที่มี นโยบายส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ เห็นสมควรเป็นผู้จัดการกองทุนในเงินกองทุนส่วนที่จัดสรร ตามมาตรา ๓๔ และมาตรา ๔๒ ทั้งนี้ ตามระเบียบที่คณะ กรรมการบริหารก าหนดโดยความเห็นชอบจาก คณะกรรมการตามมาตรา ๒๐ (๑๓) ระเบียบตามวรรคหนึ่งต้องสอดคล้องกับแผนปฏิบัติการ ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมตามมาตรา ๓๗ และมาตรา ๓๘
ให้ส านักงานจัดท าแผนปฏิบัติการเรียกว่า “แผนปฏิบัติ การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม” เพื่อ ปฏิบัติตามนโยบายและแผนการส่งเสริมวิสาหกิจขนาด กลางและขนาดย่อมตามมาตรา ๑๑ (๑) เสนอต่อคณะ กรรมการบริหาร เพื่อเสนอให้คณะกรรมการให้ความ เห็นชอบ แผนปฏิบัติการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาด ย่อมตามวรรคหนึ่ง เมื่อคณะกรรมการให้ความเห็นชอบ แล้ว ให้รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา
แผนปฏิบัติการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาด ย่อมตามมาตรา ๓๗ ให้ส านักงานจัดท าโดยการ ประสานงานกับส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องโดยค านึงถึงผลการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนสภาพความจ าเป็นและเงื่อนไขด้านเศรษฐกิจ และสังคมของปัญหาดังกล่าวที่ส่วนราชการ หน่วยงาน ของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจนั้นต้องด าเนินการตามอ านาจ หน้าที่ โดยอาจจัดท าเป็นแผนระยะสั้น ระยะกลาง หรือ ระยะยาว ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคตามความ เหมาะสม และควรจะต้องประกอบด้วยแผนงาน โครงการ กิจกรรม หรือมาตรการในเรื่องดังต่อไปนี้
ให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจที่มี หน้าที่ด าเนินการตามแผนปฏิบัติการส่งเสริมวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม รายงานผลการด าเนินงานต่อ คณะกรรมการอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง ตามแบบรายงานที่ คณะกรรมการก าหนด
เพื่อให้การด าเนินการตามแผนปฏิบัติการส่งเสริมวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อมตามมาตรา ๓๗ บรรลุเป้าหมาย และเพื่อประโยชน์ในการประเมินผลการด าเนินงานตาม แผนและการก าหนดแผนปฏิบัติการดังกล่าว ให้ส่วน ราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจที่มีหน้าที่ตาม แผนปฏิบัติการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาด ย่อมจัดท าและรับรองสถิติข้อมูลเกี่ยวกับวิสาหกิจขนาด กลางและขนาดย่อมออกเผยแพร่ รายละเอียดของสถิติข้อมูลตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตาม แบบที่คณะกรรมการก าหนด สถิติข้อมูลที่จะท าการเผยแพร่ตามวรรคหนึ่ง ต้องเป็น สถิติข้อมูลที่แสดงภาพรวมของวิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อมแต่ละสาขา เว้นแต่วิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อมที่มีส่วนได้เสียในเรื่องนั้นจะยินยอมให้เผยแพร่ สถิติข้อมูลในรายละเอียดอื่นได้ด้วย ให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจส่งสถิติ ข้อมูลที่จัดท าขึ้นตามวรรคหนึ่งให้ส านักงานเพื่อเก็บ รวบรวมไว้เป็นข้อมูลประกอบการจัดท านโยบายและ แผนการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงการจัดท ารายงานสถานการณ์และแผนปฏิบัติการ ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมต่อไป
เพื่อประโยชน์ในการจัดท าสถิติข้อมูลเกี่ยวกับวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อมของส่วนราชการ หน่วยงานของ รัฐ หรือรัฐวิสาหกิจตามมาตรา ๔๐ ให้รัฐมนตรีโดยความ เห็นชอบของคณะกรรมการมีอ านาจออกกฎกระทรวง ก าหนดประเภทของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือองค์การ เอกชนที่ต้องรายงานสถิติข้อมูลต่อส่วนราชการ หน่วยงาน ของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจตามมาตรา ๔๐
วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กลุ่มวิสาหกิจขนาด กลางและขนาดย่อม หรือองค์การเอกชน ที่ประสงค์จะ ขอรับความช่วยเหลือ ส่งเสริม หรือสนับสนุนจากกองทุน ตามมาตรา ๓๔ ให้ยื่นค าขอต่อส านักงาน หรือสถาบัน การเงินที่คณะกรรมการบริหาร โดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการมอบหมายให้เป็นผู้จัดการกองทุน หรือส่วน ราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจที่คณะกรรมการ บริหารโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการมอบหมาย แล้วแต่กรณี พร้อมด้วยรายละเอียดแสดงแผนงานและ โครงการที่จะด าเนินการ การขอและการให้ความช่วยเหลือ การส่งเสริม หรือการ สนับสนุน ตลอดจนคุณสมบัติของวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม กลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือองค์การเอกชนที่มีสิทธิขอความช่วยเหลือ ส่งเสริม หรือสนับสนุนตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ก าหนดในกฎกระทรวง
ในการพิจารณาค าขอรับความช่วยเหลือ ส่งเสริม หรือ สนับสนุนตามมาตรา ๔๒ ให้ส านักงานโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการบริหารพิจารณาจัดสรรให้สอดคล้องกับ แผนงาน โครงการ กิจกรรม หรือมาตรการตามมาตรา ๓๘ โดยค านึงถึงความเป็นไปได้และความจ าเป็นในทาง เศรษฐกิจ การเงินการลงทุน และเงินทุนหมุนเวียนของ วิสาหกิจ กลุ่มวิสาหกิจ หรือองค์การเอกชนผู้ยื่นค าขอ
เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และเพื่อ ส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้ มีความสามารถในการประกอบกิจการและแข่งขันกับ กิจการอื่น ให้คณะกรรมการมีอ านาจก าหนดประเภทและ ขนาดของวิสาหกิจที่คณะกรรมการเห็นว่าสมควรได้รับ สิทธิและประโยชน์ เพื่อเสนอแนะให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจที่มีอ านาจหน้าที่ในเรื่อง สิทธิและประโยชน์ดังกล่าว พิจารณาด าเนินการตาม อ านาจหน้าที่ของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจนั้น ในการเสนอแนะตามวรรคหนึ่ง ให้ระบุรายละเอียดของ สิทธิและประโยชน์ที่จะให้เพื่อเป็นการจูงใจในการ ประกอบกิจการ รวมตลอดถึงหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และ ระยะเวลาในการรับสิทธิและประโยชน์ของวิสาหกิจนั้นไว้ ด้วย
ในกรณีที่ปรากฏว่าผู้ประกอบวิสาหกิจ กลุ่มวิสาหกิจ หรือ องค์การเอกชนใดกระท าการโดยไม่สุจริต เพื่อให้วิสาหกิจ กลุ่มวิสาหกิจ หรือองค์การเอกชนของตนมีสิทธิได้รับการ ช่วยเหลือ ส่งเสริมหรือสนับสนุนตามมาตรา ๔๒ หรือ ได้รับสิทธิและประโยชน์ที่ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจที่มีอ านาจหน้าที่ก าหนดตามข้อเสนอแนะ ของคณะกรรมการตามมาตรา ๔๔ ให้คณะกรรมการมี อ านาจสั่งเพิกถอนการช่วยเหลือ ส่งเสริมหรือสนับสนุน รวมถึงให้สิทธิและประโยชน์ที่วิสาหกิจ กลุ่มวิสาหกิจ หรือ องค์การเอกชนได้รับตามบทบัญญัติดังกล่าวได้ไม่เกินห้า ปีนับแต่วันที่คณะกรรมการพิจารณาสั่งเพิกถอนการ ช่วยเหลือ ส่งเสริม หรือสนับสนุน และให้สิทธิและ ประโยชน์ดังกล่าว
วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กลุ่มวิสาหกิจขนาด กลางและขนาดย่อม หรือองค์การเอกชนใด มิได้รายงาน สถิติข้อมูลตามมาตรา ๔๑ อาจถูกตัดสิทธิการได้รับการ ช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุน และสิทธิและประโยชน์ ตาม มาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๔ ในกรณีที่คณะกรรมการเห็นสมควรตัดการช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุน และสิทธิและประโยชน์ตามวรรคหนึ่ง ให้ส านักงานแจ้งรายชื่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาด ย่อม กลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ องค์การเอกชนนั้น ให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจที่มีหน้าที่ตามแผนปฏิบัติการส่งเสริมวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม หรือที่มีอ านาจหน้าที่ในเรื่อง สิทธิและประโยชน์ตามมาตรา ๔๔ พิจารณาด าเนินการ ตามอ านาจหน้าที่ของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจนั้น
ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจที่ได้รับ ข้อเสนอแนะจากคณะกรรมการตามมาตรา ๑๑ (๕) (๖) (๗) และ (๘) และมาตรา ๔๔ หรือต้องด าเนินการตามที่ คณะกรรมการก าหนดตามมาตรา ๓๙ มาตรา ๔๐ และ มาตรา ๔๖ วรรคสอง ต้องพิจารณาด าเนินการให้เป็นไป ตามข้อเสนอแนะหรือข้อก าหนดของคณะกรรมการ ใน กรณีที่เห็นว่าไม่อาจด าเนินการตามข้อเสนอแนะหรือ ข้อก าหนดของคณะกรรมการได้ ให้รายงานประธาน กรรมการหรือผู้ซึ่งประธานกรรมการมอบหมายพิจารณา พร้อมรายละเอียดแสดงเหตุผลภายในสิบห้าวันนับแต่ วันที่ได้รับข้อเสนอแนะหรือข้อก าหนดเช่นว่านั้น หรือได้รับ แจ้งค าสั่งของคณะกรรมการ ในกรณีที่ประธานกรรมการหรือผู้ซึ่งประธานกรรมการ มอบหมายเห็นควรด าเนินการกับรายงานตามวรรคหนึ่ง ประการใด ให้น าเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป
ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามค าสั่งของคณะกรรมการตามมาตรา ๑๒ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ในวาระเริ่มแรก ให้อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ปฏิบัติหน้าที่ในต าแหน่งกรรมการและเลขานุการใน คณะกรรมการและคณะกรรมการบริหาร และให้กรม ส่งเสริมอุตสาหกรรมด าเนินงานในหน้าที่ของส านักงาน ไปก่อนจนกว่าจะได้มีการจัดตั้งส านักงานและมีการ แต่งตั้งผู้อ านวยการ ทั้งนี้ ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับ แต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี
พระราชบัญญัติ ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม พ.ศ. ๒๕๔๓ 2000년 중소기업진흥법
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็นปีที่ ๕๕ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรให้มีกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริม วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการ จ˚ากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๑ ของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระท˚าได้โดยอาศัยอ˚านาจ ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติข้ึน ไว้โดยค˚าแนะน˚าและยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี้ 푸미폰 아둔야뎃 국왕 재위 55 년 2000 년 2 월 6 일 현재 푸미폰 아둔야뎃 국왕께서 중소기업 진흥 관련 법률을 제정하는 것 이 마땅하다고 왕명을 내리신 바 이 법에는 태국 「헌법」 제 29 조 및 제 31 조와 관련된 개인의 권리와 자유를 제 한하는 특정 조항이 포함되어 있으며 해 당 제한은 법률의 규정에 따른 경우로 한정된다. 이에 국왕께서는 의회의 조언과 동의를 받아 다음의 법률을 제정하는 바이다.
이 법은 "「2000 년 중소기업진흥법」"이 라 한다.
이 법은 관보에 게재한 다음 날부터 시 행한다.
이 법에서 사용하는 용어의 뜻은 다음과 같다. "기업"이란 장관이 관보에 고시한 바에 따른 제품생산업, 서비스업, 도매업, 소매 업 또는 그 밖의 사업을 말한다. "기금"이란 중소기업진흥기금을 말한다. "민간기관"이란 「민상법전」 또는 전체 구성원의 과반수가 산업, 서비스 또는 무 역 분야에 종사하는 중규모 기업 또는 소규모 기업에 관한 특별법에 따라 설립 된 민간의 기관을 말하며 장관이 관보에 고시한 그 밖의 민간기관도 포함된다. "청"이란 중소기업진흥청을 말한다. "위원회"란 중소기업진흥위원회를 말한 다. "운영위원회"란 중소기업진흥청운영위원 회를 말한다. "청장"이란 중소기업진흥청의 청장을 말 한다. "장관"이란 이 법의 시행을 책임지고 통 제하는 장관을 말한다.
중규모 기업 또는 소규모 기업이란 부령 에서 정한 규칙에 따라 고용 수, 수익, 고정자산가치 또는 납입등록자본을 갖춘 기업이다.
총리는 이 법에 따른 책임을 지며 이 법 에 따라 이행하기 위한 부령과 고시를 제정할 권한이 있다.
중소기업진흥위원회는 다음과 같이 구성 한다.
청장이 위원과 간사를 겸임한다. 제(4)항 또는 제(5)항에 따른 위원직을 수행할 자가 없거나 어떠한 이유로든 위 원의 수가 부족한 경우, 위원회는 현존하 는 위원의 인원수로 구성한 것으로 간주 하여 그 직무를 계속 수행한다. 다만, 제 (4)항 및 제(5)항에 따른 위원의 인원수 가 7 명 미만인 경우에는 그러하지 아니 하다.
전문가위원은 다음의 자격을 갖추어야 하며 결격사유가 없어야 한다.
전문위원의 임기는 2 년으로 한다. 전문가위원이 임기 전에 퇴임하거나 위 촉된 위원의 임기 중에 추가로 전문가위 원을 위촉하는 경우, 보궐위원 또는 추가 로 위촉된 위원은 전임 위원의 남은 임 기 동안 위원직을 수행한다. 제 1 문단에 따라 임기가 만료되었을 때 전문가위원을 새로 위촉하지 않은 경우, 임기가 만료된 전문가위원은 후임 전문 가위원을 위촉할 때까지 해당 직을 계속 수행한다. 임기가 종료된 전문가위원은 연임할 수 있으나 2 회 이상 연임할 수 없다.
제 8 조에 따른 퇴임 외에 다음의 경우 전 문가위원직은 종료된다.
위원회 회의는 전체 위원의 과반수 출석 으로 개의한다. 위원장이 의장이 되며 위원장이 회의에 출석하지 아니하거나 직무를 수행할 수 없는 경우, 부위원장이 의장이 된다. 위 원장 또는 부위원장이 회의에 출석하지 아니하거나 직무를 수행할 수 없는 경우, 출석위원이 투표하여 1 명의 위원을 회의 를 주재할 의장으로 선출한다. 회의의 결정은 과반수 찬성으로 이루어 진다. 위원 1 명에게 하나의 표결권이 주 어지며 가부동수인 때에는 의장이 추가 로 한 표를 더 표결한다.
위원회는 다음의 권한과 의무가 있다.
ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ คณะกรรมการ มีอ านาจเรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยค าหรือแจ้งข้อเท็จจริง หรือให้ส่งเอกสารเพื่อประกอบการพิจารณาได้
이 법에 따른 직무 수행을 위하여 위원 회는 사람을 소환하여 진술하게 하거나 사실을 알리게 하거나 심의에 사용할 문 서를 제출하게 할 수 있다.
예산지출성과를 점검하고 평가하기 위하 여 위원회는 소위원회를 둔다. 위원회가 필요하다고 인정하는 경우, 위 원회가 위탁한 업무를 수행하거나 심의 하기 위하여 다른 소위원회를 둘 수 있 다. 소위원회의 직무 수행은 제 10 조 및 제 12 조를 준용한다.
이 법에 따른 직무 수행과 관련하여 위 원회는 청, 행정기관, 정부기관, 국영기업 또는 민간기관에 위탁하여 업무를 수행 하도록 하거나 제안서를 작성하여 위원 회의 심의를 받도록 할 수 있다.
장관이 정하는 바에 따라 위원장, 부위원 장, 위원, 소위원장 및 소위원에게 회의 수당 및 그 밖의 보수를 지급한다.
다음의 목적을 위하여 "중소기업진흥청" 이라 하는 기관을 설립하며 법인으로 한 다.
청은 제16조에 따른 목적의 범위 내에서 다양한 권한과 의무를 가지며 이러한 권 한과 의무는 다음을 포함한다.
중소기업진흥청운영위원회는 다음과 같 이 구성한다.
운영위원회의 위원장직 및 전문가위원직 의 수행과 관련하여 제 7 조, 제 8 조 및 제 9 조의 규정을 준용한다. 다만, 제 9 조 제(3)항에 따른 위원직의 종료는 위원회 의 권한으로 한다.
운영위원회는 업무운영정책의 수립, 일반 사업의 감독관리 및 청 사업의 책임에 대한 권한과 의무를 가지며 이러한 권한 과 의무는 다음 사항을 포함한다.
운영위원회는 소위원회를 설치하여 운영 위원회가 위탁하는 업무를 수행하도록 할 수 있다. 운영위원회 및 운영위원회가 임명한 소 위원회의 회의에는 제 10 조를 준용한다.
운영위원회의 위원장, 위원, 소위원장 및 소위원에게 위원회가 정한 바에 따라 회 의 수당 및 그 밖의 보수를 지급한다.
운영위원회는 위원회의 동의를 받아 청 장을 위촉하고 청장의 월급과 보수를 결 정하며 이는 운영위원회가 정한 고용계 약에 따른다.
청장은 다음의 자격을 갖추어야 하며 결 격사유가 없어야 한다.
청장의 임기는 4 년으로 한다. 임기에 따라 퇴임한 청장은 재임명될 수 있으나, 2 회를 초과하여 연임할 수 없다.
제25조에 따른 청장직의 종료 외에 다음 의 경우 청장직은 종료된다.
청장은 다음의 권한과 의무가 있다.
외부인과 관련된 사업에 있어 청장은 청 의 대리인이 되며 이를 위해 청장은 운 영위원회가 제정한 규정에 따라 자신을 대신하여 특정 업무를 수행하도록 다른 사람에게 권한을 위임할 수 있다.
청은 사업에 적합한 회계시스템을 마련 및 유지하고 주요 업무 유형에 따라 분 류하며 업무 유형에 따라 사업의 정확하 고 실제적인 상태를 나타내는 자금, 자산 및 부채에 관한 출납 회계장부와 더불어 해당 내역의 출처에 관한 내역서와 증거 를 구비하여야 한다. 또한 정기적으로 내 부회계감사를 실시하여야 한다.
청은 대차대조표, 운용계정, 수입 및 지 출계정을 작성하여 회계감사인에게 제출 하여야 한다. 회계감사인은 매년 회계연 도가 끝나는 날부터 120 일 이내에 감사 를 완료하여야 하며 12 월 31 일을 회계 연도가 끝나는 날로 본다. 운영위원회가 동의한 회계감사인이 매년 청의 회계를 감사하며 위원회에 제출할 수 있도록 회계감사결과 보고서를 작성 하여 운영위원회에 제출한다. 감사원 사무처는 제 2 문단에 따른 회계감 사결과 보고서를 조사하고 인증하여야 한다.
청은 회계연도가 끝나는 날부터 180 일 이내에 위원회에 제출할 수 있도록 회계 감사인의 보고서와 지난 해 청의 실적과 함께 회계감사인이 인증한 대차대조표, 운용계정, 수입 및 지출계정을 명시하여 연례보고서를 작성하고 운영위원회에 제 출하여야 한다.
"중소기업진흥기금"이라 하는 기금을 청 에 설치하며 다음과 같이 구성한다.
기금 및 청의 수입은 이 법에서 정한 바 에 따른 사업에 사용하기 위하여 기금에 적립하며 국고준비금 관련 법률 및 예산 절차 관련 법률에 따라 재무부로 이전하 지 아니한다.
기금은 다음의 사업을 위하여 사용한다.
운영위원회는 제 20 조제(5)항에 따른 기 금 배당에 관하여 제37조에 따른 중소기 업진흥실시계획과 부합하도록 검토한다. 제 34 조제(1)항에 따라 중규모 기업, 소 규모 기업 또는 중소기업그룹에 대출해 주기 위하여 기금을 배정하는 경우, 운영 위원회는 필요에 따라 적정한 상환기간, 금리 및 보증에 대하여 검토하여 정한다. 제 34 조제(2)항에 따라 행정기관, 정부기 관, 국영기업 또는 민간기업에 지원을 제 공하는 경우, 운영위원회는 행정기관, 정 부기관 또는 국영기업이 이미 배정받은 국가예산이나 보조금을 고려하여 해당 행정기관, 정부기관, 국영기업 또는 민간 기관의 중소기업진흥실시계획에 따른 필 요성에 대하여 검토한다.
운영위원회는 합리적인 중소기업진흥정 책을 갖춘 금융기관을 제 34 조 및 제 42 조에 따라 배정된 기금의 자금을 관리하 는 기금 관리자로 위탁할 수 있다. 이는 제 20 조제(13)항에 따라 위원회의 동의 를 받아 운영위원회가 제정하는 규칙에 따른다. 제 1 문단에 따른 규칙은 제 37 조 및 제 38 조에 따른 중소기업진흥실시계획에 부 합하여야 한다.
청은 제 11 조제(1)항에 따라 중소기업진 흥정책과 계획에 따라 수행하기 위하여 이사회에 승인을 제안하기 위한 "중소기 업진흥실시계획"이라 하는 시행계획을 수 립하여 운영위원회에 제출한다. 제 1 문단에 따른 중소기업진흥실시계획은 위원회가 승인한 후 장관이 관보에 고시 한다.
제 37 조에 따른 중소기업진흥실시계획은 공단이 연구 및 개발 결과뿐만 아니라 해당 행정기관, 정부기관 또는 국영기업 이 권한과 의무에 따라 다루어야 하는 문제의 경제적·사회적 필요성 및 여건을 고려하여 관련 행정기관, 정부기관 또는 국영기업과 조정하여 수립한다. 중앙 및 지방의 단기, 중기 또는 장기계획으로 수 립할 수 있으며 다음 사항에 대한 업무 계획, 정책, 활동 또는 기준을 포함하여 야 한다.
중소기업진흥실시계획에 따라 시행할 의 무가 있는 행정기관, 정부기관 또는 국영 기업은 최소 일 년에 1 회 위원회가 정한 보고양식에 따라 위원회에 시행결과를 보고한다.
제 37 조에 따른 중소기업진흥실시계획의 목적 달성과 실행성과의 평가 및 실행계 획의 수립을 위하여 중소기업진흥실시계 획에 따라 이행할 의무가 있는 행정기관, 정부기관 또는 국영기업은 중소기업과 관련한 통계자료를 작성 및 인증하여 발 표한다. 제 1 문단에 따른 통계자료의 세부사항은 위원회가 정한 양식에 따른다. 제 1 문단에 따라 발표한 통계자료는 각 분야의 중소기업에 대한 전반적인 사항 을 나타내는 자료여야 한다. 다만, 해당 사안과 이해관계가 있는 중소기업이 그 밖의 세부사항에 대한 통계자료를 발표 하는 것에 동의하는 경우에는 그러하지 아니하다. 행정기관, 정부기관 또는 국영기업은 제 1 문단에 따라 작성한 통계자료를 청에 송부하여 중소기업진흥정책 및 계획 수 립을 위한 자료로 보관하고 중소기업 시 행계획 및 현황보고서를 작성한다.
제 40 조에 따라 행정기관, 정부기관 또는 국영기업의 중소기업에 관한 통계자료 작성을 위하여 장관은 위원회의 동의를 받아 제 40 조에 따른 행정기관, 정부기관 또는 국영기업에 통계자료를 보고하여야 하는 중소기업, 중소기업그룹 또는 민간 기관 유형의 결정에 관한 부령을 제정할 권한이 있다.
제 34 조에 따라 기금으로부터 원조, 육성 또는 지원을 받으려는 중소기업, 중소기 업그룹 또는 민간기관은 경우에 따라 청 또는 운영위원회가 위원회의 승인을 받 아 기금관리자로 위탁한 금융기관 또는 운영위원회가 위원회의 동의를 받아 위 탁한 행정기관, 정부기관 또는 국영기업 에 운영할 업무계획 및 정책의 세부사항 과 함께 신청서를 제출한다. 제 1 문단에 따라 원조, 육성 또는 지원을 신청할 권리가 있는 중소기업, 중소기업 그룹 또는 민간기관의 자격을 포함하여 원조, 육성 또는 지원의 신청 및 이에 대 한 제공은 부령에서 정한 규칙, 절차 및 조건에 따른다.
제 42 조에 따른 원조, 육성 또는 지원 신 청에 대한 승인은 청이 위원회의 동의를 받아 신청한 기업, 기업그룹 또는 민간기 관의 경제적 가능성과 필요성, 투자자금 및 유동자금을 고려하여 제 38 조에 따른 업무계획, 정책, 활동 또는 기준에 부합 하도록 검토한다.
국가경제 발전 및 중소기업의 사업경영 능력과 다른 기업과의 경쟁력을 촉진하 고 개발하기 위하여 위원회는 권리와 혜 택을 받을 자격이 있다고 인정하는 기업 의 유형과 규모를 정할 권한이 있으며 이를 해당 권리 및 혜택에 관한 사항을 담당하는 행정기관, 정부기관 또는 국영 기업에 제안하여 권한과 의무에 따른 조 치를 검토하도록 한다. 제 1 문단에 따른 제안에는 해당 기업이 권리와 혜택을 받을 수 있는 기준, 조건 과 기간을 포함하여 사업경영의 동기부 여로서, 제공할 권리 및 혜택의 상세내용 을 제시한다.
중소기업, 중소기업그룹 또는 민간기관을 영위하는 자가 자신의 중소기업, 중소기 업그룹 또는 민간기관이 제 42 조에 따른 원조, 육성 또는 지원을 받거나 제 44 조 에 따른 위원회의 제안에 따라 정한 담 당 행정기관, 정부기관 또는 국영기업으 로부터 권리와 혜택을 받기 위하여 부정 한 행위를 하는 경우, 위원회는 위원회가 해당 원조, 육성 또는 지원 및 권리와 혜 택의 철회에 대하여 심사한 날부터 5 년 이내에 중소기업, 중소기업그룹, 민간기 관이 해당 조항에 따라 받은 원조, 육성 또는 지원 및 권리와 혜택에 대하여 철 회할 권한이 있다.
중소기업, 중소기업그룹 또는 민간기관이 제 41 조에 따라 통계자료를 보고하지 않 은 경우, 제 42 조 및 제 44 조에 따라 원 조, 육성, 지원, 권리 및 혜택을 받을 권 리를 박탈당할 수 있다. 위원회가 제1문단에 따라 원조, 육성, 지 원, 권리 및 혜택을 받을 권리를 박탈할 필요가 있다고 인정하는 경우, 청은 중소 기업진흥시행계획 또는 제 44 조에 따라 권리 및 혜택에 관한 사항을 담당하는 행정기관, 정부기관 또는 국영기업에 해 당 중소기업, 중소기업그룹 또는 민간기 관의 명단을 통지하여 해당 행정기관, 정 부기관 또는 국영기업의 권리와 의무에 따른 조치를 검토하도록 한다.
제 11 조제(5)항, 제(6)항, 제(7)항, 제 (8)항 및 제 44 조에 따라 위원회의 제안 을 받거나 제 39 조, 제 40 조 및 제 46 조 제 2 문단에 의거하여 위원회가 정한 바에 따라 이행하여야 하는 행정기관, 정부기 관 또는 민간기관은 위원회의 권고 또는 규정에 따라 이행하는 것에 대하여 검토 하여야 한다. 위원회의 권고 또는 규정에 따라 이행하지 않기로 결정하는 경우, 그 러한 권고 또는 규정을 전달받거나 위원 회의 명령을 통지받은 날부터 15 일 이내 에 위원장 또는 위원장이 위탁한 사람에 게 그 상세 이유와 함께 보고한다. 위원장 또는 위원장에게 위탁받은 사람 이 제 1 문단에 따른 보고를 할 필요가 있 다고 인정하는 경우, 내각에 제안하여 심 의하도록 한다.
제12조에 따른 위원회의 명령에 따라 이 행하지 아니하는 자에게는 10,000 밧 이 하의 벌금을 부과한다.
초기에는 이 법 시행일부터 180 일 이내 에 청을 설립하고 청장을 위촉할 때까지 산업진흥국장이 위원회 및 운영위원회의 위원 및 간사직을 수행하며 산업진흥국 이 청의 직무를 수행한다. 부서 추언 릭파이 총리