พระราชบัญญัติ การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พ.ศ. ๒๕๖๒ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ให้ไว้ ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นปีที่ ๔ ในรัชกาลปัจจุบัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการ โปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของ บุคคลซึ่งมาตรา ๒๖ ประกอบกับมาตรา ๓๗ มาตรา ๓๘ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่ง กฎหมาย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
ชาติทางทะเล พ.ศ. ๒๕๖๒”
"ผลประโยชน์ของชาติทางทะเล" หมายความว่า ผลประโยชน์ของประเทศไทยซึ่งพึงได้รับจากกิจกรรมทางทะเล หรือประโยชน์อื่นใดในเขตทางทะเล ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม เพื่อให้เกิดประโยชน์ในทุก ๆ ด้าน เช่น ด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านทรัพยากร หรือด้านสิ่งแวดล้อม "เขตทางทะเล" หมายความว่า ชายฝั่งทะเลและพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ในประเทศไทย อำนาจอธิปไตยหรือสิทธิอธิปไตย หรือสิทธิหรือเขตอำนาจศาลที่ประเทศไทยมีอยู่ตามกฎหมายระหว่างประเทศหรือสนธิสัญญาที่ประเทศไทยเป็นภาคี ได้แก่ น่านน้ำภายใน ทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง เขตเศรษฐกิจจำเพาะ ไหล่ทวีป และเขตทางทะเลอื่นใด รวมถึงเกาะแก่ง สมดุลย์ และสิ่งปลูกสร้างในเขต รวมทั้งทรัพยากรที่มีอยู่หรือที่เกิดขึ้นในเขตดังกล่าว และพื้นที่ทางทะเลอื่นตามที่คณะกรรมการกำหนดให้เป็นเขตทางทะเล "กิจกรรมทางทะเล" หมายความว่า การดำเนินการเพื่อใช้ประโยชน์ในเขตทางทะเลในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การขนส่งสินค้าทางเรือ การประมง การท่องเที่ยว การแสดงประโยชน์จากทรัพยากรที่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต การอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมทางทะเล การอนุรักษ์และการบริหารทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่ง การป้องกันและปราบปรามการกระทำผิด หรือการสำรวจและวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล "บทบาททะเล" หมายความว่า เรื่อง อากาศยาน หรือบทบาททางทะเลใด ๆ ที่สามารถบรรทุกคนหรือสิ่งของไปในทะเลได้ "จังหวัดชายทะเล" หมายความว่า จังหวัดที่มีอาณาเขตติดต่อกับเขตทางทะเลตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกำหนดในกฎกระทรวง "หน่วยงานของรัฐ" หมายความว่า ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอื่นของรัฐ แต่ไม่รวมถึง สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และองค์กรตามรัฐธรรมนูญ "เจ้าหน้าที่ของรัฐ" หมายความว่า ข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ "คณะกรรมการ" หมายความว่า คณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล "ศรชล." หมายความว่า ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล "ผู้อำนวยการ" หมายความว่า ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล "พนักงานเจ้าหน้าที่" หมายความว่า ผู้ซึ่งผู้อำนวยการแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ จากบุคคลดังต่อไปนี้ (ก) นายทหารหรือนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร หรือนายทหารหรือนายตำรวจชั้นประทวนที่ดำรงตำแหน่งผู้บังคับบัญชา (ข) ผู้มีคุณสมบัติและขึ้นทะเบียนที่ผู้อำนวยการกำหนด
คณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน กรรมการ
กรรมการโดยตำแหน่ง จำนวนยี่สิบสี่คน ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ปลัดกระทรวงพลังงาน ปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงแรงงาน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) และผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง จำนวนไม่เกินเจ็ดคน จากผู้มี ความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ในเรื่องที่เกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ให้ปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นกรรมการและเลขานุการ และให้หัวหน้าส่วนราชการหรือหัวหน้าหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเพิ่มเติม และเจ้าหน้าที่ของ ศรชล. ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งเพิ่มเติม เป็นผู้ช่วยเลขานุการ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ คณะกรรมการอาจแต่งตั้งให้นายกรัฐมนตรีหรือหัวหน้าหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ในเรื่องที่เกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเป็นกรรมการในคณะกรรมการเฉพาะกิจได้ โดยให้มีระเบียบการประชุมเช่นเดียวกับการประชุมคณะกรรมการสำหรับการประชุมครั้งนั้น
มีสัญชาติไทย
ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับ ความผิดที่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งซึ่งรับผิดชอบการบริหารพรรคการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมือง
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระ อาจได้รับแต่งตั้งหรือเลือกตั้งเป็นกรรมการในคณะกรรมการอื่นของราชการได้
(ก) ตาย (ข) ลาออก (ค) คณะรัฐมนตรีให้ออก (ง) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา ๖
ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ ให้คณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการที่มีอยู่ปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นจากตำแหน่งไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการเข้ารับหน้าที่
กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนงานและแนวทางปฏิบัติทางวิชาการ และมาตรการในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และยุทธศาสตร์ชาติ
ให้คำแนะนำ ปรึกษา และสนับสนุนการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานในส่วนที่เป็นนโยบาย ยุทธศาสตร์ แผนแม่บท มาตรการในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลที่คณะรัฐมนตรี ศรชล. หรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง และเสนอผลการดำเนินงานต่อคณะรัฐมนตรี
ปฏิบัติการอื่นใดที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
การประชุมคณะอนุกรรมการ ให้ถือความในมาตรา ๑๒ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
การประชุม จดหมาย ให้ถือความในมาตรา ๑๒ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
ศรชล. อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อ นายกรัฐมนตรี โดยวิธีการปฏิบัติราชการ และการบริหารงาน การจัดโครงสร้าง การแบ่งส่วนงาน และหน้าที่และอำนาจของส่วนงานและ ตัวกำหนดให้เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ให้ นายกรัฐมนตรี มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้บังคับบัญชาตามที่นายกรัฐมนตรี มอบหมาย เรียกโดยย่อว่า “ผอ.ศรชล.” เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างใน ศรชล. และ รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของ ศรชล. โดยให้มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้ ผู้ว่าราชการอาวุโสแห่ง ศรชล. ซึ่งผู้ว่าราชการจากจังหวัดที่เกี่ยวข้องกับ ศรชล. หรือ เจ้าหน้าที่ของรัฐอื่นที่ตามความเหมาะสม โดยคำสั่งจัดโครงสร้างและการแบ่งส่วนงานของ ศรชล. ให้สนับสนุนการบริหารเชิงบูรณาการ ศรชล. มีหน้าที่รับผิดชอบงานอำนวยการและ ธุรการของ ศรชล. รองผู้ว่าราชการ ผู้ช่วยอำนวยการ และเลขานุการ ศรชล. มีอำนาจบังคับบัญชา ข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างใน ศรชล. และมีหน้าที่และอำนาจอื่น ทั้งนี้ ตามที่ผู้ว่าราชการ กำหนด ให้ผู้ว่าราชการมีอำนาจพิจารณาธรรม ฟ้องคดี ถูกฟ้องคดี และดำเนินการทั้งปวง เกี่ยวกับคดีนั้นเมื่อเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของ ศรชล. ทั้งนี้ โดยกระทำในนามของสำนักงานนายกรัฐมนตรี ในกรณีปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการ ผู้ว่าราชการจะมอบ อำนาจเป็นหนังสือให้รองผู้ว่าราชการเป็นผู้ปฏิบัติหรือใช้อำนาจแทนก็ได้
วางแผน อำนวยการ ประสานงาน สั่งการ และสนับสนุนการปฏิบัติงานของ หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลในแผนและโครงการที่เกี่ยวข้องให้เกิดผลดี ทุกภาคผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และรายงานคณะกรรมการ และคณะรัฐมนตรี ศึกษาสั่ง เพื่อพิจารณาต่อไป
เสนอแผนและแนวทางในการปฏิบัติงานและดำเนินการตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ หรือแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเลต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ และเมื่อ คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้ว ให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนและโครงการที่ ปฏิบัติให้สอดคล้องกับแผนและแนวทางที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ
วางแผน พัฒนา และดำเนินการเกี่ยวกับระบบข้อมูลข่าวสาร อุปกรณ์ และ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของ ศรชล. ให้มีความเหมาะสม หรือ และเชื่อมโยงกับระบบข้อมูลข่าวสาร อุปกรณ์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของ หน่วยงานของรัฐ องค์กรอื่น หรือรัฐอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดประโยชน์ของชาติทางทะเลในทุกด้าน
เสนอแนะการแก้ไขกฎหมาย กฎ ระเบียบ และสิทธิในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ทางทะเลในลักษณะต่าง ๆ และปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่กระทบต่อผลประโยชน์ของชาติหรืองานของ ศรชล.
ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่และอำนาจของ ศรชล. หรือทางที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย
ให้หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับงานของ ศรชล. ให้ความร่วมมือและดำเนินการให้เป็นไปตามที่ ผอ.ศรชล. ขอความร่วมมือหรือร้องขอ
ให้เลขาธิการ ศรชล. เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้รองเลขาธิการ ศรชล. ซึ่งผู้บัญชาการทหารเรือแต่งตั้งเพิ่มเติม เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
พิจารณาให้ความเห็นชอบแผนหรือแนวทางเกี่ยวกับการจัดทำแผนงาน โครงการ และงบประมาณเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการให้ความเห็นชอบ
เสนอแนะหรือให้คำปรึกษาในการปฏิบัติงานในหน้าที่และอำนาจของ ศรชล. (ก) วางระเบียบเกี่ยวกับการอำนวยการและประสานงานกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ข) วางระเบียบเกี่ยวกับการดำเนินการเพื่อให้การบูรณาการในการปฏิบัติการร่วมกันระหว่างหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมิน ตรวจสอบ หรือเตรียมการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์หรือสถานการณ์ใด ๆ ที่กระทบหรืออาจส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือกิจกรรมทางทะเลเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติการร่วมกันอย่างมีเอกภาพและมีประสิทธิภาพ (ค) วางระเบียบเกี่ยวกับการรวบรวมและบูรณาการข้อมูลข่าวสารที่สามารถติดต่อ เชื่อมโยง หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้ เพื่อประโยชน์ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเล (ง) วางระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของ ศรชล. ศรชล.ภาค และ ศรชล.จังหวัด (จ) วางระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติงานที่ การสืบสวน และการสอบสวนตามพระราชบัญญัตินี้ ระเบียบดังกล่าวต้องคำนึงถึงหลักเกณฑ์และวิธีการในการปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนพนักงานสอบสวนที่มีหน้าที่สอบสวนตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา กำหนดสถานที่ควบคุมตัวผู้ต้องหา และการเฝ้าระวังและการดำเนินการเกี่ยวกับของกลาง ทั้งนี้ ต้องสอดคล้องกับระเบียบหรือวิธีพิจารณาความอาญา (ฉ) ออกข้อบังคับเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล การเงิน การคลัง การจัดการทรัพย์สินของ ศรชล. ศรชล.ภาค และ ศรชล.จังหวัด และการดำเนินการอื่นใดที่จำเป็น (ช) แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ (ซ) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ศรชล. เพื่อให้การดำเนินงานของ ศรชล. เป็นไปตามแผนและให้คำแนะนำหรือเสนอแนะต่อ ศรชล.ภาค และ ศรชล.จังหวัด (ฌ) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการบริหาร ศรชล. หรือคณะที่คณะกรรมการมอบหมาย (ญ) แต่งตั้งคณะที่ปรึกษา ศรชล. ตาม (๑๐) ให้มีส่วนร่วมของประชาชนในภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในด้านต่าง ๆ ตามระเบียบที่คณะกรรมการบริหาร ศรชล. กำหนด
เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานของ ศรชล. ภาค ให้หัวหน้าผู้รับผิดชอบตั้งข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของทัพเรือภาค พนักงาน และลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐที่อยู่ในพื้นที่ให้มาปฏิบัติงานประจำหรือเป็นครั้งคราวใน ศรชล.ภาค ได้ ย่อ.ตรช.ภาค เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างที่ได้รับคำสั่งให้มาปฏิบัติงานใน ตรช.ภาค และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของ ตรช.ภาค การจัดโครงสร้าง การแบ่งส่วนงานและหน้าที่และอำนาจ อัตรากำลัง และการบริหารงานของส่วนงานภายใน ตรช.ภาค ให้เป็นไปตามที่ผู้บัญชาการกำหนด เพื่อประโยชน์ในการอำนวยการและการประสานงานของ ตรช.ภาค ผู้บังคับบัญชาอาจแต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษา ตรช.ภาค เพื่อให้คำปรึกษาหรือช่วยเหลือ ย่อ.ตรช.ภาค ในการปฏิบัติงานในหน้าที่และอำนาจของ ตรช.ภาค รวมทั้งให้คำปรึกษาหรือช่วยเหลือ ผอ.ตรช.ภาค ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในเขตพื้นที่ ตรช.ภาค ทั้งนี้ การประชุมและการดำเนินงานอื่นของคณะกรรมการที่ปรึกษา ตรช.ภาค ให้เป็นไปตามระเบียบที่ผู้บัญชาการกำหนด ให้ ตรช. และหน่วยงานของรัฐจัดการสนับสนุนด้านบุคลากร ทรัพย์สิน และงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนด้านบุคลากรและทรัพย์สิน ในการปฏิบัติงานของ ตรช.ภาค ตามที่ ผอ.ตรช.ภาค ร้องขอ และให้ถือว่าเวลาปฏิบัติงานของบุคคลดังกล่าวเป็นเวลาของหน่วยงานต้นสังกัด
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ภารกิจการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
ในกรณีความผิดเกี่ยวกับภารกิจการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลโดยทั่วไป ตามวรรคหนึ่งกรณีใดที่มีความสงสัยว่าอาจจะของหน่วยงานของรัฐ กรณีที่ไม่มีหน่วยงานของรัฐใดรับผิดชอบ กรณีที่มีความจำเป็นต้องมีการบูรณาการในการปฏิบัติงาน หรือกรณีที่มีความจำเป็นอันควรตามที่คณะกรรมการกำหนดให้ ศรชล. เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการฝ่ายพลเรือน ข้าราชการฝ่ายทหาร และลูกจ้างในการจัดการหรือแก้ไขปัญหา รวมทั้งเพื่อเพิ่มอำนาจและอำนาจของหน่วยงานของรัฐเกี่ยวข้องที่เห็นว่าเป็นการป้องกัน ปราบปราม หรือแก้ไขปัญหา เหตุการณ์ หรือการกระทำที่ผิดกฎหมายเกี่ยวกับหรืออาจส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องมีการบูรณาการในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การป้องกัน ปราบปราม หรือแก้ไขปัญหาเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ศรชล. ที่กระทรวงต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรมผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือกิจกรรมทางทะเลของหน่วยงานของรัฐอื่น ๆ ที่กระทรวงหรือกรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ทะเลเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติการกิจตามมาตรา ๒๗ ได้พ้นต่อสถานการณ์และมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ตามระเบียบที่คณะกรรมการบริหาร ศรชล. กำหนด
กำกับ ติดตาม และเร่งรัดหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการหรือรู้นาการในการดำเนินการให้เป็นไปตามแผนเผชิญเหตุ หรือคำสั่งการของ ศรชล. ที่เกี่ยวข้อง
สั่งการและกำกับดูแลหน่วยงานหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ โดยให้มีอำนาจสั่งการฝ่ายพลเรือน ตำรวจ ทหารเรือรวมถึง กิจการแพทย์ และหน่วยที่หรือสถานที่ซึ่งอยู่นอกการบังคับ กำหนด ทั้งนี้ ในกรณีตามมาตรา ๒๗ วรรคหนึ่ง หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ควบคุมดูแลหรือกิจการดังกล่าวต้องร้องขอ
สั่งการหรือควบคุมเรือหรือยานพาหนะที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด รวมถึงให้มีอำนาจในการตรวจค้นเรือหรือยานพาหนะนั้นเพื่อเป็นการป้องกันหรือปราบปราม การกระทำความผิดที่เกี่ยวข้อง
สั่งการหรือควบคุมเรือหรือยานพาหนะที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และ การตรวจสอบเรือหรือยานพาหนะนั้นเพื่อเป็นการป้องกันหรือปราบปรามการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้อง
สั่งการค้นหา และควบคุมเรือหรือยานพาหนะที่ต้องสงสัย ให้ตรวจหรือยึดของ ในเขตทางทะเลใด ๆ เพื่อการค้น โดยไม่ต้องมีหมายค้น
ควบคุมผู้ต้องสงสัย ตลอดจนควบคุมยานพาหนะ และสิ่งของที่จะใช้หรือได้ใช้ในการกระทำความผิด หรือได้มาจากการกระทำความผิด ถ้าการตรวจค้นพบพยานหลักฐานที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าอาจมีหรือได้มีการกระทำความผิด ห้ามมิให้ควบคุมยานพาหนะ ผู้ควบคุมยานพาหนะ หรือบุคคลในยานพาหนะไว้เกินความจำเป็นจนเป็นเหตุให้การเดินทางล่าช้าเกินควร
ให้ตรวจยานพาหนะ หรือให้ทำการอื่นเพื่อให้ยานพาหนะนั้นไปยังที่ซึ่งจะตรวจแก่การตรวจค้น การตรวจเอกสาร หรือการดำเนินการอื่น
ได้ตามยานพาหนะใด ๆ ที่กระทำหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าได้กระทำการความผิดตามกฎหมายที่ประเทศไทยมีเขตอำนาจ รวมทั้งได้ตามจับกุมผู้ต้องสงสัยในกรณีความจำเป็น
สอบสวนและควบคุมผู้ต้องหาว่าการกระทำความผิดไว้ได้เป็นสิ่งแปลกซึ่งไม่แน่ใจว่าผู้ต้องหาสามารถหลบหนี ณ ที่ทำการของพนักงานเจ้าหน้าที่ และมิให้เดินทางตามปกติที่นำผู้ต้องหามาส่งที่ทำการของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เป็นสถานควบคุมผู้ต้องหาของพนักงานสอบสวนหรือสถานที่ซึ่งพนักงานสอบสวนกำหนด ทั้งนี้ เพื่อการสอบสวนเสร็จสิ้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งผู้ต้องหาไปยังสถานที่ที่พนักงานสอบสวนกำหนดโดยเร็วที่สุด และมิให้ควบคุมผู้ต้องหาไว้เกินความจำเป็นในกรณีที่ไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องส่งผ่านไปยังพนักงานสอบสวนที่กำหนด ให้ส่งไปยังสถานที่ที่ยึดทรัพย์หรือสถานที่ยึดทรัพย์
กรณีตรวจสอบหรือการสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจบัญญัติในกฎหมาย และคำสั่งนั้นไม่ให้คำสั่งของอัยการสูงสุดหรือศาล ให้มีผลในกรณีตรวจสอบหรือการสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจบัญญัติในกฎหมาย และคำสั่งนั้นไม่ให้คำสั่งของอัยการสูงสุดหรือศาล ให้มีผลในกรณีตรวจสอบหรือการสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจบัญญัติในกฎหมาย และคำสั่งนั้นไม่ให้คำสั่งของอัยการสูงสุดหรือศาล ให้มีผลในกรณีตรวจสอบหรือการสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจบัญญัติในกฎหมาย และคำสั่งนั้นไม่ให้คำสั่งของอัยการสูงสุดหรือศาล ให้มีผลในกรณีตรวจสอบหรือการสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจบัญญัติในกฎหมาย
ผู้อำนวยการจะกำหนดให้เครื่องหมายแสดงเป็นบัตรประจำตัวสำหรับพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ได้ ทั้งนี้ การใช้หรือแสดงเครื่องหมายให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
การไล่ตามติดในวรรคหนึ่ง อาจกระทำโดยเรือหรืออากาศยานอย่างอื่นของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการระดับ กศรส. ก็ได้ ในกรณีที่การไล่ตามติดดังกล่าวโดยอากาศยาน ให้เกิดความในวรรคหนึ่งแล้ว ให้บันทึกข้อมูลปูม โดยอาศัยข้อมูลคำสั่งเหตุผลที่ต้องไล่ตามติดหรือการจำกัดเสรีภาพของบุคคลด้วยเหตุผลระหว่างเรือหรืออากาศยานที่เกี่ยวข้องตามที่เห็นสมควรอย่างชัดเจนจริงจัง ติดแนบไว้ และในขณะเดียวกันให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยภายในกำหนดกระชับที่ได้ออกจากนายของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้ไล่ตามติดหรือแต่งตั้งเป็นผู้แทนระดับอาวุโสของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในกรณีที่การไล่ตามติดดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นได้ภายในกำหนดกระชับที่ได้ออกจากนายของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้ไล่ตามติดหรือแต่งตั้งเป็นผู้แทนระดับอาวุโสของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในกรณีที่การไล่ตามติดดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นได้ภายในกำหนดกระชับที่ได้ออกจากนายของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้ไล่ตามติดหรือแต่งตั้งเป็นผู้แทนระดับอาวุโสของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในกรณีที่การไล่ตามติดดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นได้ภายในกำหนดกระชับที่ได้ออกจากนายของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้ไล่ตามติดหรือแต่งตั้งเป็นผู้แทนระดับอาวุโสของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในกรณีที่การไล่ตามติดดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นได้ภายในกำหนดกระชับที่ได้ออกจากนายของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้ไล่ตามติด เป็นเรือแห่หรือเรือเข้าในเขตทางทะเลที่ประเทศไทยมีเขตอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นตัวการร่วมกระทำ หรือ เป็นผู้สนับสนุนกระทำความผิด แม้กระทั่งนอกอาณาเขต ให้ถือว่าเป็นการกระทำในราชอาณาจักร และให้เป็นไปตามราชอาณาจักร
ข้อกำหนดตามวรรคหนึ่งจะกำหนดหลักเกณฑ์ ข้อยกเว้น เงื่อนไขเวลาหรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ด้วยก็ได้ ทั้งนี้ การกำหนดดังกล่าวต้องไม่ก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ
พนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในกรณีได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต ทุพพลภาพ พิการหรือสูญเสียอวัยวะอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ ให้ได้รับสิทธิประโยชน์อื่นนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ ตามระเบียบที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
บทกำหนดโทษ
ถ้าการกระทำดังกล่าวมีความร้ายแรง เป็นการขัดขวางหรือฝ่าฝืนการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ให้กระทำการอันเป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ดังกล่าว ผู้กระทำความผิดต้องรับโทษตามที่บัญญัติสำหรับความผิดนั้น ๆ ตามประมวลกฎหมายอาญา
การดำเนินการออกระเบียบ ประกาศ หรือข้อบังคับตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้คณะรัฐมนตรีรายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการให้คืบหน้าและให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเพื่อทราบ
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ในปัจจุบันมีปัญหาเกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ทั้งภายในและภายนอกอาณาเขตของรัฐ ซึ่งปัญหาดังกล่าวอยู่ในเขตทางทะเลอันมีลักษณะซับซ้อนที่การทหารและประชาชนไทยต้องใช้อธิปไตยที่ไทยต้องรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลไว้ รวมทั้งมีข้อกำหนดที่มีนานาอารยประเทศทั่วโลกที่ประเทศไทยไม่มีพันธกรณีจะต้องปฏิบัติตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ อันทำให้ทุกหน่วยที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถใช้บังคับในเขตทางทะเลที่อยู่ภายนอกอาณาเขตของรัฐ หรือรวมถึงการปฏิบัติการในเขตทางทะเลของชาติทางทะเลที่มีอยู่ในทุก ๆ ด้าน เช่น ด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านทรัพยากร หรือด้านสิ่งแวดล้อม จึงมีความจำเป็นต้องมีหน่วยปฏิบัติหน้าที่เฉพาะซึ่งรับผิดชอบดำเนินการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลโดยมุ่งเอกภาพบูรณาการ และประสานการปฏิบัติการในเขตทางทะเลให้มีอย่างมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พัชราภรณ์/ธนบดี/จัดทำ 13 มีนาคม 2562 นุสรา/ตรวจ 17 มีนาคม 2562