ให้ไว้ ณ วันที' ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นปีที' ๖๘ ในรัชกาลปVจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที'เป็นการสมควรให้มีกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พระราชบัญญัตินี-มีบทบัญญัติบางประการเกี'ยวกับการจํากัดสิทธิและ เสรีภาพของบุคคล ซึ'งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทําได้โดยอาศัย อํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ-นไว้โดยคําแนะนํา และยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี-
ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
“การแพทย์แผนไทย” หมายความว่า กระบวนการทางการแพทย์เกี'ยวกับ การตรวจ วินิจฉัย บําบัด รักษา หรือป.,องกันโรค หรือการส่งเสริมและฟ- 스นฟูสุขภาพของ มนุษย์ การผดุงครรภ์ การนวดไทย และให้หมายความรวมถึง การเตรียมการผลิตยาแผน ไทย และการประดิษฐ์อุปกรณ์และเครื'องมือทางการแพทย์ ทั-งนี- โดยอาศัยความรู้หรือ ตําราที'ได้ถ่ายทอดและพัฒนาสืบต่อกันมา “วิชาชีพการแพทย์แผนไทย” หมายความว่า วิชาชีพที'เกี'ยวกับการ ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ “การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย” หมายความว่า การประกอบ วิชาชีพที'กระทําหรือมุ่งหมายจะกระทําต่อมนุษย์ เกี'ยวกับการแนะนํา การตรวจโรค การ วินิจฉัยโรค การบําบัดโรค การรักษาโรค การป.,องกันโรค การส่งเสริมและการฟ- 스นฟูสุขภาพ โดยอาศัยองค์ความรู้ด้านเวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย การผดุงครรภ์ไทย การนวดไทย การแพทย์พื-นบ้านไทย และองค์ความรู้ด้านอื'นตามที'รัฐมนตรีประกาศกําหนดโดยคํา แนะนําของคณะกรรมการ ทั-งนี- ด้วยกรรมวิธีการแพทย์แผนไทยซึ'งถ่ายทอดหรือพัฒนาสืบ ต่อกันมาตามตําราการแพทย์แผนไทยหรือจากสถานศึกษาที'สภาการแพทย์แผนไทยรับรอง “การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์” หมายความว่า การ ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย โดยอาศัยองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และ วิทยาศาสตร์การแพทย์ซึ'งศึกษาจากสถานศึกษาที'สภาการแพทย์แผนไทยรับรอง รวมทั-ง การประยุกต์ใช้เครื'องมือหรืออุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทั-งนี- ตามระเบียบและข้อ บังคับของสภาการแพทย์แผนไทย “กรรมวิธีการแพทย์แผนไทย” หมายความว่า กรรมวิธีที'เกี'ยวข้องกับการ แพทย์แผนไทยที'สภาการแพทย์แผนไทยกําหนดหรือรับรอง แล้วแต่กรณี “เวชกรรมไทย” หมายความว่า การตรวจ การวินิจฉัย การบําบัด การ รักษา การป.,องกันโรค การส่งเสริมและการฟ- 스นฟูสุขภาพ รวมถึงการผดุงครรภ์ไทย เภสัชกรรมไทย และการนวดไทย ทั-งนี- ด้วยกรรมวิธีการแพทย์แผนไทย “เภสัชกรรมไทย” หมายความว่า การกระทําในการเตรียมยา การผลิตยา การประดิษฐ์ยา การเลือกสรรยา การควบคุมและการประกันคุณภาพยา การปรุงยาและ การจ่ายยาตามใบสั'งยาของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการ แพทย์แผนไทยประยุกต์และการจัดจําหน่ายยาตามกฎหมายว่าด้วยยา ทั-งนี- ด้วยกรรมวิธี การแพทย์แผนไทย “การผดุงครรภ์ไทย” หมายความว่า การตรวจ การวินิจฉัย การบําบัด การ รักษา การส่งเสริมสุขภาพหญิงมีครรภ์ การป.,องกันความผิดปกติในระยะตั-งครรภ์และระยะ คลอด การทําคลอด การดูแล การส่งเสริมและการฟ- 스นฟูสุขภาพมารดาและทารกในระยะ หลังคลอด ทั-งนี- ด้วยกรรมวิธีการแพทย์แผนไทย “การนวดไทย” หมายความว่า การตรวจ การวินิจฉัย การบําบัด การ รักษา การป.,องกันโรค การส่งเสริมและการฟ- 스นฟูสุขภาพ โดยใช้องค์ความรู้เกี'ยวกับศิลปะ การนวดไทย ทั-งนี- ด้วยกรรมวิธีการแพทย์แผนไทย “การแพทย์พื-นบ้านไทย” หมายความว่า การตรวจ การวินิจฉัย การบําบัด การรักษา การป.,องกันโรค การส่งเสริมและการฟ- 스นฟูสุขภาพ โดยใช้องค์ความรู้ซึ'งสืบทอด กันมาในชุมชนท้องถิ'น ทั-งนี- ด้วยกรรมวิธีการแพทย์แผนไทย “ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย” หมายความว่า บุคคลซึ'งได้ขึ-น ทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยจากสภาการแพทย์แผน ไทย “ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์” หมายความว่า บุคคลซึ'ง ได้ขึ-นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์จากสภา การแพทย์แผนไทย “ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์ แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ของสภาการแพทย์แผนไทย “สมาชิก” หมายความว่า สมาชิกสภาการแพทย์แผนไทย “กรรมการ” หมายความว่า กรรมการสภาการแพทย์แผนไทย “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการสภาการแพทย์แผนไทย “เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธิการสภาการแพทย์แผนไทย “พนักงานเจ้าหน้าที'” หมายความว่า ผู้ซึ'งรัฐมนตรีแต่งตั-งให้ปฏิบัติการ ตามพระราชบัญญัตินี- “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี- มาตรา ๔ วิชาชีพการแพทย์แผนไทยตามพระราชบัญญัตินี- ประกอบด้วย
การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ได้แก่ การประกอบวิชาชีพ ด้านเวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย การผดุงครรภ์ไทย การนวดไทย การแพทย์พื-นบ้านไทย หรือการแพทย์แผนไทยประเภทอื'นตามที'รัฐมนตรีประกาศกําหนดโดยคําแนะนําของคณะ กรรมการ
การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์
กฎกระทรวง ระเบียบและประกาศนั-น เมื'อได้ประกาศในราชกิจจานุ เบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
ส่งเสริมการศึกษา การพัฒนา การวิจัย การประกอบวิชาชีพการแพทย์ แผนไทย และการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์
ควบคุม กํากับ ดูแล และกําหนดมาตรฐานการให้บริการของผู้ ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์
ควบคุมความประพฤติ จริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผน ไทยและผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ให้เป็นไปตามจรรยาบรรณแห่ง วิชาชีพการแพทย์แผนไทย
ช่วยเหลือ แนะนํา เผยแพร่ และให้การศึกษาแก่ประชาชนและองค์กร อื'นในเรื'องที'เกี'ยวกับการแพทย์แผนไทย
ให้คําปรึกษาหรือข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลเกี'ยวกับวิชาชีพการแพทย์ แผนไทย
ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิก
ผดุงไว้ซึ'งสิทธิ ความเป็นธรรม และส่งเสริมสวัสดิการให้แก่สมาชิก (๘) เป็นตัวแทนผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและผู้ประกอบ วิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ของประเทศไทย
รับขึ-นทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการ แพทย์แผนไทย และผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์
ออกคําสั'งตามมาตรา ๔๕
รับรองปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตรในวิชาชีพการแพทย์ แผนไทยของสถาบันต่าง ๆ เพื'อประโยชน์ในการสมัครเป็นสมาชิก
รับรองหลักสูตรสําหรับการฝ~กอบรมเป็นผู้ชํานาญการในด้านต่าง ๆ ของวิชาชีพการแพทย์แผนไทยของสถาบันที'ทําการฝ~กอบรมดังกล่าว
รับรองวิทยฐานะของสถาบันที'ทําการฝ~กอบรมใน (๔)
ออกหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชํานาญในการ ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ และออกหนังสือแสดงวุฒิอื'นในวิชาชีพการแพทย์แผนไทย
จัดทําแผนการดําเนินงานและรายงานผลการดําเนินงานเสนอต่อสภา นายกพิเศษอย่างน้อยปีละครั-ง
ดําเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสภาการแพทย์แผนไทย (๙) บริหารกิจการใด ๆ ตามวัตถุประสงค์ และอํานาจหน้าที'ตามพระราช บัญญัตินี- ตลอดจนกิจการใด ๆ ของสภาการแพทย์แผนไทย
ค่าจดทะเบียนสมาชิก ค่าบํารุง และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
ผลประโยชน์ที'ได้จากการจัดการทรัพย์สินและกิจกรรมตาม วัตถุประสงค์ที'กําหนดในมาตรา ๘
เงินและทรัพย์สินซึ'งมีผู้ให้แก่สภาการแพทย์แผนไทย (๕) ดอกผลของเงินและทรัพย์สินตาม (๑) (๒) (๓) และ (๔)
มีอายุไม่ตbากว่ายี'สิบปีบริบูรณ์
มีความรู้ในวิชาชีพการแพทย์แผนไทยดังต่อไปนี- (ก) ได้รับการฝ~กอบรมจากสถาบันหรือสถานพยาบาลที'สภาการแพทย์ แผนไทยรับรองโดยมีผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยซึ'งได้รับอนุญาตให้ถ่ายทอด ความรู้เป็นผู้ให้การอบรมและต้องสอบผ่านความรู้ตามที'กําหนดไว้ในข้อบังคับสภาการ แพทย์แผนไทย หรือ (ข) ได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาสาขาการ แพทย์แผนไทยหรือสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์จากสถาบันการศึกษาที'สภาการ แพทย์แผนไทยรับรองและต้องสอบผ่านความรู้ตามที'กําหนดไว้ในข้อบังคับสภาการแพทย์ แผนไทย หรือ (ค) เป็นผู้ที'ส่วนราชการรับรองความรู้การแพทย์พื-นบ้านไทย โดยผ่าน การประเมินหรือการสอบตามที'กําหนดไว้ในข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทย
ไม่เป็นผู้ประพฤติเสียหายซึ'งคณะกรรมการเห็นว่าจะนํามาซึ'งความ เสื'อมเสียเกียรติศักดิ'แห่งวิชาชีพ
ไม่เคยต้องโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที'สุดในคดีที'คณะกรรมการ เห็นว่าจะนํามาซึ'งความเสื'อมเสียเกียรติศักดิ'แห่งวิชาชีพ
ไม่เป็นผู้วิกลจริต จิตฟ' Vนเฟ스อนไม่สมประกอบ หรือไม่เป็นโรคที'กําหนด ไว้ในข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทย
ขอขึ-นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผน ไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ขอหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรแสดง ความรู้ความชํานาญในการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย หรือการประกอบวิชาชีพ การแพทย์แผนไทยประยุกต์หรือขอหนังสือแสดงวุฒิอื'นในวิชาชีพการแพทย์แผนไทย โดย ปฏิบัติตามข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทยว่าด้วยการนั-น
แสดงความเห็นเป็นหนังสือเกี'ยวกับกิจการของสภาการแพทย์แผน ไทยส่งไปยังคณะกรรมการเพื'อพิจารณา และในกรณีที'สมาชิกร่วมกันตั-งแต่ห้าสิบคนขึ-นไป เสนอให้คณะกรรมการพิจารณาเรื'องใดที'เกี'ยวกับกิจการของสภาการแพทย์แผนไทย คณะ กรรมการต้องพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้เสนอทราบภายในเก้าสิบวันนับแต่วัน ได้รับเรื'อง อนุญาต
เลือก รับเลือก หรือรับเลือกตั-งเป็นกรรมการ เฉพาะสมาชิกที'มีใบ
ผดุงไว้ซึ'งเกียรติศักดิ'แห่งวิชาชีพและปฏิบัติตนตามพระราชบัญญัตินี- มาตรา ๑๔ สมาชิกภาพของสมาชิกสิ-นสุดลงเมื'อ
ตาย (๒) ลาออก
ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๑๒ (๒)
คณะกรรมการมีมติให้พ้นจากสมาชิกภาพ เพราะเห็นว่าเป็นผู้นํามาซึ'ง ความเสื'อมเสียเกียรติศักดิ'แห่งวิชาชีพตามมาตรา ๑๒ (๓) หรือ (๔)
มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๒ (๕) และผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม จํานวนไม่น้อยกว่าสามคน ซึ'งคณะกรรมการกําหนด ลงความเห็นว่าไม่สามารถบําบัดรักษา ให้หายเป็นปกติได้ หรือต้องใช้ระยะเวลาในการบําบัดรักษาเกินกว่าสองปี ในกรณีที'สมาชิกผู้ใดมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๒ (๕) แต่ยังไม่ถึง ขนาดที'สมาชิกภาพสิ-นสุดลงตามวรรคหนึ'ง (๕) คณะกรรมการอาจมีมติให้พักใช้ใบอนุญาต ของสมาชิกผู้นั-นได้ โดยมีกําหนดเวลาตามที'เห็นสมควรแต่ไม่เกินสองปี และให้นําความใน มาตรา ๓๑ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
คณะกรรมการ
ให้มีคณะกรรมการสภาการแพทย์แผนไทย ประกอบด้วย
กรรมการโดยตําแหน่ง ได้แก่ ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์ แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และเลขาธิการคณะ กรรมการอาหารและยา
กรรมการซึ'งเป็นคณบดี หรือหัวหน้าหน่วยงานที'เรียกชื'ออย่างอื'นที'มี ฐานะเทียบเท่าคณะหรือหัวหน้าภาควิชาที'ผลิตบัณฑิตสาขาการแพทย์แผนไทยหรือสาขา การแพทย์แผนไทยประยุกต์ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและสถาบันอุดมศึกษาของเอกชนที' จัดตั-งขึ-นตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งละหนึ'งคน เลือกกันเองให้เหลือ สาขาละสามคน
กรรมการซึ'งเป็นผู้แทนสมาคมหรือมูลนิธิที'เกี'ยวข้องกับวิชาชีพการ แพทย์แผนไทยแห่งละหนึ'งคน เลือกกันเองให้เหลือสามคน
หัวหน้าสถาบันหรือสถานพยาบาลที'สภาการแพทย์แผนไทยรับรอง โดยมีผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยซึ'งได้รับอนุญาตให้ถ่ายทอดความรู้เป็นผู้ให้การ อบรม เลือกกันเองให้เหลือจํานวนสามคน
กรรมการซึ'งได้รับเลือกตั-งโดยสมาชิกมีจํานวนเท่ากับจํานวน กรรมการใน (๑) (๒) (๓) และ (๔) รวมกันในขณะเลือกตั-งแต่ละคราว ทั-งนี- ให้คํานึงถึง สัดส่วนของวิชาชีพการแพทย์แผนไทยตามมาตรา ๔
ให้ที'ปรึกษาดํารงตําแหน่งตามวาระของกรรมการตามมาตรา ๑๕ (๕) มาตรา ๑๗ ให้คณะกรรมการเลือกกรรมการจากมาตรา ๑๕ (๕) ภายใน สามสิบวันนับจากวันเลือกตั-งกรรมการตามมาตรา ๑๕ (๕) เพื'อดํารงตําแหน่งนายกสภาการ แพทย์แผนไทย อุปนายกสภาการแพทย์แผนไทยคนที'หนึ'ง และอุปนายกสภาการแพทย์แผน ไทยคนที'สอง ตําแหน่งละหนึ'งคน ให้นายกสภาการแพทย์แผนไทยเลือกกรรมการเพื'อดํารงตําแหน่ง เลขาธิการ รองเลขาธิการ ประชาสัมพันธ์ และเหรัญญิก ตําแหน่งละหนึ'งคน และอาจเลือก กรรมการเพื'อดํารงตําแหน่งอื'นได้ตามความจําเป็น ทั-งนี- โดยความเห็นชอบของคณะ กรรมการ ให้นายกสภาการแพทย์แผนไทยมีอํานาจถอดถอนเลขาธิการ รอง เลขาธิการ ประชาสัมพันธ์ เหรัญญิก และผู้ดํารงตําแหน่งอื'นตามวรรคสองออกจาก ตําแหน่งได้ ทั-งนี- โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ให้นายกสภาการแพทย์แผนไทย อุปนายกสภาการแพทย์แผนไทยคนที' หนึ'งและอุปนายกสภาการแพทย์แผนไทยคนที'สอง ดํารงตําแหน่งตามวาระของกรรมการ ตามมาตรา ๑๕ (๕) เมื'อผู้ดํารงตําแหน่งนายกสภาการแพทย์แผนไทยพ้นจากหน้าที' ให้ เลขาธิการ รองเลขาธิการ ประชาสัมพันธ์ เหรัญญิก และผู้ดํารงตําแหน่งอื'นตามวรรคสอง พ้นจากตําแหน่งด้วย
ต่อไปนี-
เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ การแพทย์แผนไทยประยุกต์
เป็นผู้ไม่เคยถูกสั'งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต (๓) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
ให้กรรมการที'พ้นจากตําแหน่งตามวาระปฏิบัติหน้าที'ไปพลางก่อนจนกว่า จะมีการเลือกหรือเลือกตั-งกรรมการขึ-นใหม่
สมาชิกภาพสิ-นสุดลงตามมาตรา ๑๔
ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๙ (๓) ลาออก กรรมการตามมาตรา ๑๕ (๒) พ้นจากตําแหน่งเมื'อ
พ้นจากตําแหน่งคณบดีหรือหัวหน้าหน่วยงานที'เรียกชื'ออย่างอื'นที'มี ฐานะเทียบเท่าคณะหรือหัวหน้าภาควิชาที'ผลิตบัณฑิตสาขาการแพทย์แผนไทยหรือสาขา การแพทย์แผนไทยประยุกต์ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและสถาบันอุดมศึกษาของเอกชนที' จัดตั-งขึ-นตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
ลาออก
ในกรณีที'วาระของกรรมการตามวรรคหนึ'งเหลืออยู่ไม่ถึงเก้าสิบวัน คณะ กรรมการจะให้มีการเลือกกรรมการแทนหรือไม่ก็ได้ ให้ผู้ซึ'งเป็นกรรมการแทนนั-นอยู่ในตําแหน่งได้เพียงเท่าวาระที'เหลืออยู่ของ กรรมการซึ'งตนแทน
ในกรณีที'ตําแหน่งกรรมการตามวรรคหนึ'งว่างลงรวมกันเกินหนึ'งในสาม ของจํานวนกรรมการซึ'งได้รับเลือกตั-ง ให้คณะกรรมการจัดให้มีการเลือกตั-งสมาชิกขึ-นเป็น กรรมการแทนภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที'จํานวนกรรมการดังกล่าวได้ว่างลงเกินหนึ'งใน สาม ในกรณีไม่มีผู้ได้รับการเลื'อนขึ-นเป็นกรรมการแทนตามวรรคหนึ'ง หรือมีแต่ ยังไม่ครบตามจํานวนตําแหน่งกรรมการที'ว่างลง ให้นําความในวรรคสองมาใช้บังคับโดย อนุโลม ถ้าวาระของกรรมการตามวรรคหนึ'งเหลืออยู่ไม่ถึงเก้าสิบวันไม่ต้องเลื'อน หรือเลือกตั-งกรรมการแทน ให้ผู้ซึ'งเป็นกรรมการแทนนั-นอยู่ในตําแหน่งได้เพียงเท่าวาระที'เหลืออยู่ของ กรรมการซึ'งตนแทน
บริหารและดําเนินกิจการสภาการแพทย์แผนไทยตามวัตถุประสงค์ และอํานาจหน้าที'ที'กําหนดในมาตรา ๘ และมาตรา ๙ รวมทั-งการบริหารเงินรายได้ตาม มาตรา ๑๐
แต่งตั-งคณะอนุกรรมการการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย คณะอนุกรรมการการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะอนุกรรมการ จรรยาบรรณ คณะอนุกรรมการสอบสวนและคณะอนุกรรมการอื'น เพื'อทํากิจการหรือ พิจารณาเรื'องต่าง ๆ อันอยู่ในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์และอํานาจหน้าที'ของสภาการ แพทย์แผนไทย
กําหนดแผนการดําเนินงานและงบประมาณของสภาการแพทย์แผน ไทย
ออกข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทยว่าด้วย (ก) การเป็นสมาชิก (ข) การกําหนดโรคตามมาตรา ๑๒ (๕) (ค) การกําหนดค่าจดทะเบียนสมาชิก ค่าบํารุง และค่าธรรมเนียมอื'น นอกจากที'กําหนดไว้ในอัตราค่าธรรมเนียมท้ายพระราชบัญญัตินี- (ง) การเลือก การเลือกตั-งกรรมการ การเลื'อนผู้มีคุณสมบัติขึ-นเป็น กรรมการแทน การแต่งตั-งที'ปรึกษา และการเลือกกรรมการเพื'อดํารงตําแหน่งต่าง ๆ ตาม มาตรา ๑๘ (จ) การประชุมคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะที'ปรึกษา (ฉ) การกําหนดอํานาจหน้าที'ของผู้ดํารงตําแหน่งที'ปรึกษาตามมาตรา ๑๖ (ช) การกําหนดอํานาจหน้าที'ของผู้ดํารงตําแหน่งอื'นตามมาตรา ๑๗ วรรคสอง (ซ) คุณสมบัติของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและผู้ประกอบ วิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ตามมาตรา ๓๕ (ฌ) แบบและประเภทใบอนุญาต หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื'อนไขใน การขึ-นทะเบียน การออกใบอนุญาต อายุใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการออกใบ แทนใบอนุญาต (ญ) หลักเกณฑ์การออกหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ ความ ชํานาญในการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผน ไทยประยุกต์ รวมทั-งหนังสือแสดงวุฒิอื'นในวิชาชีพการแพทย์แผนไทย (ฎ) หลักเกณฑ์การพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต (ฏ) จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพการแพทย์แผนไทย (ฐ) การจัดตั-ง การดําเนินการ และการเลิกสถาบันที'ทําการฝ~กอบรม เป็นผู้ชํานาญการของวิชาชีพการแพทย์แผนไทย รวมทั-งการกําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ ว่าด้วยการศึกษาต่อเนื'องของการแพทย์แผนไทยเพื'อเพิ'มพูนความรู้และเสริมทักษะการ ประกอบวิชาชีพ (ฑ) หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื'อนไขในการสอบความรู้หรือการประเมิน ตามมาตรา ๑๒ (๒) (ฒ) หลักเกณฑ์การสืบสวนหรือสอบสวนในกรณีที'มีการกล่าวหาหรือ การกล่าวโทษผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผน ไทยประยุกต์ (ณ) ข้อจํากัดและเงื'อนไขในการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย และการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ (ด) เรื'องอื'น ๆ อันอยู่ในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์หรืออยู่ในอํานาจ หน้าที'ของสภาการแพทย์แผนไทยตามพระราชบัญญัตินี-หรือกฎหมายอื'นที'เกี'ยวข้อง ทั-งนี- โดยคํานึงถึงความสําคัญในการช่วยเหลือ แนะนํา เผยแพร่ และให้ความรู้แก่ประชาชนใน เรื'องที'เกี'ยวกับการแพทย์แผนไทยเพื'อให้สามารถดูแลตนเองได้ ภายใต้บังคับมาตรา ๓๐ ข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทยเมื'อได้ประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
นายกสภาการแพทย์แผนไทย มีอํานาจหน้าที' (ก) บริหารและดําเนินกิจการของสภาการแพทย์แผนไทย ให้เป็นไป ตามพระราชบัญญัตินี-หรือตามมติของคณะกรรมการ (ข) เป็นผู้แทนสภาการแพทย์แผนไทย ในกิจการต่าง ๆ (ค) เป็นประธานในที'ประชุมคณะกรรมการ นายกสภาการแพทย์แผนไทยอาจมอบหมายเป็นหนังสือให้กรรมการ อื'นปฏิบัติหน้าที'แทนตามที'เห็นสมควร
อุปนายกสภาการแพทย์แผนไทยคนที'หนึ'ง เป็นผู้ช่วยนายกสภาการ แพทย์แผนไทยในกิจการอันอยู่ในอํานาจหน้าที'ของสภาการแพทย์แผนไทยตามที'นายกสภา การแพทย์แผนไทยมอบหมายและเป็นผู้ทําการแทนนายกสภาการแพทย์แผนไทย เมื'อนายก สภาการแพทย์แผนไทยไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที'ได้
อุปนายกสภาการแพทย์แผนไทยคนที'สอง เป็นผู้ช่วยนายกสภาการ แพทย์แผนไทยในกิจการอันอยู่ในอํานาจหน้าที'ของนายกสภาการแพทย์แผนไทยตามที' นายกสภาการแพทย์แผนไทยมอบหมายและเป็นผู้ทําการแทนนายกสภาการแพทย์แผนไทย เมื'อทั-งนายกสภาการแพทย์แผนไทยและอุปนายกสภาการแพทย์แผนไทยคนที'หนึ'งไม่อยู่ หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที'ได้
เลขาธิการ มีอํานาจหน้าที' (ก) ควบคุมบังคับบัญชาเจ้าหน้าที'สภาการแพทย์แผนไทย ทุกระดับ (ข) ควบคุมรับผิดชอบในงานธุรการทั'วไปของสภาการแพทย์แผนไทย (ค) รับผิดชอบในการดูแลรักษาทะเบียนสมาชิก ทะเบียนผู้ประกอบ วิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์และทะเบียนอื'น ๆ ของสภาการแพทย์แผนไทย (ง) ควบคุมดูแลทรัพย์สินของสภาการแพทย์แผนไทย (จ) เป็นเลขานุการคณะกรรมการ
รองเลขาธิการ เป็นผู้ช่วยเลขาธิการในกิจการอันอยู่ในอํานาจหน้าที' ของเลขาธิการตามที'เลขาธิการมอบหมาย และเป็นผู้ทําการแทนเลขาธิการเมื'อเลขาธิการ ไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที'ได้
ประชาสัมพันธ์ มีอํานาจหน้าที'ในการประชาสัมพันธ์ แนะนํา และเผย แพร่กิจการของสภาการแพทย์แผนไทยแก่ประชาชนและองค์กรอื'น
เหรัญญิก มีอํานาจหน้าที'ควบคุม ดูแล รับผิดชอบการบัญชี การเงิน และการงบประมาณของสภาการแพทย์แผนไทย
ผู้ดํารงตําแหน่งที'ปรึกษาตามมาตรา ๑๖ มีอํานาจหน้าที'ตามที'คณะ กรรมการกําหนด
ผู้ดํารงตําแหน่งอื'นตามมาตรา ๑๗ วรรคสอง มีอํานาจหน้าที'ตามที' คณะกรรมการกําหนด
มติของที'ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก ในการลงคะแนนกรรมการคนหนึ'งมี เสียงหนึ'งเสียง ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที'ประชุมออกเสียงเพิ'มขึ-นอีกเสียงหนึ'ง เป็นเสียงชี-ขาด มติของที'ประชุมในกรณีให้สมาชิกพ้นจากสมาชิกภาพตามมาตรา ๑๔ (๔) ให้ถือคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจํานวนกรรมการทั-งหมดที'มีอยู่ในขณะนั-น การประชุมคณะอนุกรรมการ ให้นําความในวรรคหนึ'งและวรรคสองมาใช้ บังคับโดยอนุโลม การประชุมคณะที'ปรึกษา ให้เป็นไปตามข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทย มาตรา ๒๙ สภานายกพิเศษจะเข้าฟVงการประชุมและชี-แจงแสดงความ เห็นในที'ประชุมคณะกรรมการ หรือจะส่งความเห็นเป็นหนังสือไปยังสภาการแพทย์แผนไทย ในเรื'องใด ๆ ก็ได้
การออกข้อบังคับ
การกําหนดแผนการดําเนินงานและงบประมาณของสภาการแพทย์ แผนไทย
การให้สมาชิกพ้นจากสมาชิกภาพตามมาตรา ๑๔ (๔)
การวินิจฉัยชี-ขาดให้พักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาตตาม มาตรา ๔๕ วรรคสาม (๔) หรือ (๕) ให้นายกสภาการแพทย์แผนไทยเสนอมติตามวรรคหนึ'งต่อสภานายก พิเศษโดยไม่ชักช้า สภานายกพิเศษอาจมีคําสั'งยับยั-งมตินั-นได้ ในกรณีที'มิได้ยับยั-งมติตาม วรรคหนึ'ง (๑) ภายในสามสิบวันหรือมิได้ยับยั-งมติตามวรรคหนึ'ง (๒) (๓) หรือ (๔) ภายใน สิบห้าวันนับแต่วันที'ได้รับมติที'นายกสภาการแพทย์แผนไทยเสนอ ให้ถือว่าสภานายกพิเศษ ให้ความเห็นชอบมตินั-น ถ้าสภานายกพิเศษยับยั-งมติใด ให้คณะกรรมการประชุมพิจารณาอีกครั-ง หนึ'งภายในสามสิบวันนับแต่วันที'ได้รับการยับยั-ง ในการประชุมนั-นถ้ามีเสียงยืนยันมติไม่ น้อยกว่าสองในสามของจํานวนกรรมการทั-งหมดที'มีอยู่ในขณะนั-น ก็ให้ดําเนินการตามมติ นั-นได้
การกระทําต่อตนเอง
การช่วยเหลือแก่ผู้ป'วยตามหน้าที' ตามกฎหมาย ตามหลักมนุษยธรรม หรือตามธรรมจรรยาโดยมิได้รับประโยชน์ตอบแทน
นักเรียน นักศึกษา หรือผู้รับการฝ~กอบรม ซึ'งทําการฝ~กหัดหรือฝ~ก อบรมในความควบคุมของสถาบันการศึกษาวิชาชีพการแพทย์แผนไทยของรัฐหรือที'ได้รับ อนุญาตจากทางราชการให้จัดตั-งสถาบันทางการแพทย์ของรัฐ หรือสถาบันการศึกษา หรือ สถาบันทางการแพทย์อื'นที'สภาการแพทย์แผนไทยรับรอง ทั-งนี- ภายใต้ความควบคุมของ เจ้าหน้าที'ผู้ฝ~กหัดหรือผู้ให้การฝ~กอบรมซึ'งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์
บุคคลซึ'งกระทรวง ทบวง กรม เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตําบล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ'นรูป แบบพิเศษอื'นตามที'มีกฎหมายกําหนด หรือสภากาชาดไทย มอบหมายให้ประกอบวิชาชีพ การแพทย์แผนไทยในความควบคุมของเจ้าหน้าที'ซึ'งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผน ไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ หรือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทั-งนี- ตามระเบียบที'รัฐมนตรีกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
บุคคลซึ'งปฏิบัติงานในสถานพยาบาล ตามกฎหมายว่าด้วยสถาน พยาบาลกระทําการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือการประกอบวิชาชีพการแพทย์ แผนไทยประยุกต์ในความควบคุมของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบ วิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ทั-งนี- ตามระเบียบที'รัฐมนตรีกําหนดโดยประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา
การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือการประกอบวิชาชีพการ แพทย์แผนไทยประยุกต์ของที'ปรึกษาหรือผู้เชี'ยวชาญของทางราชการ ทั-งนี- โดยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื'อนไขที'คณะกรรมการกําหนด
หมอพื-นบ้าน ซึ'งมีความรู้ความสามารถในการส่งเสริมและดูแล สุขภาพของประชาชนในท้องถิ'นด้วยภูมิปVญญาการแพทย์แผนไทย ตามวัฒนธรรมของ ชุมชนที'สืบทอดกันมานานไม่น้อยกว่าสิบปีเป็นที'นิยมยกย่องจากชุมชน โดยมีคณะกรรมการ หมู่บ้านหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ'นเสนอให้หน่วยงานที'กระทรวงสาธารณสุขกําหนด เป็นผู้รับรอง ทั-งนี- ตามระเบียบที'รัฐมนตรีกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ถึงการใช้ จ้าง วาน หรือยินยอมให้ผู้อื'นกระทําดังกล่าวให้แก่ตน
เมื'อสมาชิกภาพของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบ วิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ผู้ใดสิ-นสุดลงตามมาตรา ๑๔ ให้ใบอนุญาตของผู้นั-นสิ-น สุดลง ให้ผู้ซึ'งสมาชิกภาพสิ-นสุดลงตามมาตรา ๑๔ (๓) และ (๔) ส่งคืนใบอนุญาต ต่อเลขาธิการภายในสิบห้าวันนับแต่วันที'ทราบการสิ-นสุดสมาชิกภาพ
บุคคลอื'นมีสิทธิกล่าวโทษผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ว่าประพฤติผิดตามมาตรา ๓๖ โดยทําคํากล่าว โทษเป็นหนังสือยื'นต่อสภาการแพทย์แผนไทย กรรมการมีสิทธิกล่าวโทษผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ว่าประพฤติผิดตามมาตรา ๓๖ โดยแจ้งเรื'องต่อ สภาการแพทย์แผนไทย สิทธิการกล่าวหาตามวรรคหนึ'งหรือสิทธิการกล่าวโทษตามวรรคสองหรือ วรรคสามสิ-นสุดลงเมื'อพ้นหนึ'งปีนับแต่วันที'ผู้ได้รับความเสียหายหรือผู้กล่าวโทษรู้เรื'องการ ประพฤติผิดตามมาตรา ๓๖ และรู้ตัวผู้ประพฤติผิด ทั-งนี- ไม่เกินสามปีนับแต่วันที'มีการ ประพฤติผิดตามมาตรา ๓๖ การถอนเรื'องการกล่าวหาหรือการกล่าวโทษที'ได้ยื'นหรือแจ้งไว้แล้วนั-นไม่ เป็นเหตุให้ระงับการดําเนินการตามพระราชบัญญัตินี-
คณะกรรมการอาจแต่งตั-งคณะอนุกรรมการจรรยาบรรณเกินกว่าหนึ'ง คณะก็ได้ ให้คณะอนุกรรมการจรรยาบรรณดําเนินการตามอํานาจหน้าที'ที'กําหนด ในวรรคหนึ'งให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที'คณะกรรมการกําหนด ถ้ามีเหตุจําเป็นไม่อาจ ดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที'กําหนดให้ประธานอนุกรรมการจรรยาบรรณแจ้ง ให้คณะกรรมการทราบก่อนครบกําหนดเวลาดังกล่าว ในการนี- ให้คณะกรรมการพิจารณา ขยายระยะเวลาดําเนินการออกไปได้ไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันที'ครบกําหนดเวลา
ให้คณะอนุกรรมการจรรยาบรรณสืบสวนหาข้อเท็จจริงเพิ'มเติมเพื'อ เสนอให้คณะกรรมการพิจารณา
ให้คณะอนุกรรมการสอบสวนทําการสอบสวนในกรณีที'เห็นว่าข้อ กล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษนั-นมีมูล
ให้ยกข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษในกรณีที'เห็นว่าข้อกล่าวหาหรือข้อ กล่าวโทษนั-นไม่มีมูล
คณะกรรมการอาจแต่งตั-งคณะอนุกรรมการสอบสวนเกินกว่าหนึ'งคณะ ก็ได้ ให้คณะอนุกรรมการสอบสวนดําเนินการตามอํานาจหน้าที'ที'กําหนดใน วรรคหนึ'งให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที'คณะกรรมการกําหนด ถ้ามีเหตุจําเป็นไม่อาจ ดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที'กําหนด ให้ประธานอนุกรรมการสอบสวนแจ้งให้ คณะกรรมการทราบก่อนครบกําหนดเวลาดังกล่าว ในการนี- ให้คณะกรรมการพิจารณา ขยายระยะเวลาดําเนินการออกไปได้ไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันที'ครบกําหนดเวลา
ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวโทษมีสิทธิทําคําชี-แจงหรือนําพยานหลักฐาน ใด ๆ มาให้คณะอนุกรรมการสอบสวน คําชี-แจงหรือพยานหลักฐานให้ยื'นต่อประธานอนุกรรมการสอบสวน ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที'ได้รับแจ้งจากประธานอนุกรรมการสอบสวน หรือภายในกําหนด เวลาที'คณะอนุกรรมการสอบสวนจะขยายให้
คณะกรรมการอาจให้คณะอนุกรรมการสอบสวนทําการสอบสวนเพิ'มเติม ก่อนวินิจฉัยชี-ขาดก็ได้ และให้นําความในมาตรา ๔๑ วรรคสาม มาใช้บังคับโดยอนุโลม คณะกรรมการมีอํานาจวินิจฉัยชี-ขาดอย่างใดอย่างหนึ'งดังต่อไปนี- (๑) ยกข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษ
ว่ากล่าวตักเตือน (๓) ภาคทัณฑ์
พักใช้ใบอนุญาตมีกําหนดเวลาตามที'เห็นสมควรแต่ไม่เกินสองปี (๕) เพิกถอนใบอนุญาต ภายใต้บังคับมาตรา ๓๐ คําวินิจฉัยชี-ขาดของคณะกรรมการตามมาตรานี- ให้ทําเป็นคําสั'งสภาการแพทย์แผนไทยพร้อมด้วยเหตุผลของการวินิจฉัยชี-ขาด และให้ถือ เป็นที'สุด
เข้าไปในสถานที'ทําการของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ในเวลาทําการของสถานที'นั-น เพื'อตรวจสอบ หรือควบคุมให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี-
เข้าไปในสถานที'หรือยานพาหนะใด ๆ ที'มีเหตุอันควรสงสัยว่า จะมี การกระทําความผิดตามพระราชบัญญัตินี- ในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ-นถึงพระอาทิตย์ตก หรือในเวลาทําการของสถานที'นั-นเพื'อตรวจค้นเอกสารหรือวัตถุใด ๆ ที'อาจใช้เป็นหลักฐาน ในการดําเนินการกระทําผิดตามพระราชบัญญัตินี- ประกอบกับกรณีมีเหตุอันควรเชื'อได้ว่า หากเนิ'นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้ เอกสารหรือวัตถุดังกล่าวจะถูกยักย้าย ซุกซ่อน ทําลายหรือทําให้เปลี'ยนสภาพไปจากเดิม
ยึดเอกสาร หรือวัตถุใด ๆ ที'อาจใช้เป็นหลักฐานในการดําเนินคดีการก ระทําความผิดตามพระราชบัญญัตินี- ในการปฏิบัติหน้าที'ของพนักงานเจ้าหน้าที'ตามวรรคหนึ'ง ให้บุคคลที' เกี'ยวข้องอํานวยความสะดวกตามสมควร
ตัว บัตรประจําตัวพนักงานเจ้าหน้าที'ให้เป็นไปตามแบบที'รัฐมนตรีกําหนดโดย ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
[*มาตรา ๓๙ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี'ยนความผิดอาญาที'มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่า อัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย]
[*มาตรา ๓๙ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี'ยนความผิดอาญาที'มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่า อัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย] บทเฉพาะกาล
ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ตามพระราชบัญญัตินี-
บัญญัตินี-ด้วย
ให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขแต่งตั-งกรรมการตามวรรคหนึ'ง ทําหน้าที' เลขาธิการ รองเลขาธิการ เหรัญญิกและผู้ดํารงตําแหน่งอื'น ตามความจําเป็น การเลือกกรรมการตามมาตรา ๑๕ (๒) (๓) และ (๔) และการเลือกตั-ง กรรมการตามมาตรา ๑๕ (๕) ให้กระทําให้แล้วเสร็จภายในหนึ'งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที' พระราชบัญญัตินี-ใช้บังคับ เพื'อประโยชน์แห่งการขจัดส่วนได้เสีย ในวาระแรกห้ามมิให้ผู้ที'เป็น กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพการแพทย์แผนไทยในชั-นสภาผู้ แทนราษฎรและวุฒิสภาดํารงตําแหน่งนายกสภาการแพทย์แผนไทย และเลขาธิการสภา การแพทย์แผนไทย ภายในสองปีนับแต่วันที'พ้นจากตําแหน่งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ในกรณีที'มีการดําเนินการกับผู้ประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพหรือ ข้อจํากัดและเงื'อนไขในการประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยและสาขาการแพทย์ แผนไทยประยุกต์ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะก่อนวันที'พระราชบัญญัตินี-ใช้ บังคับ ให้ถือว่าการดําเนินการดังกล่าวเป็นการดําเนินการตามพระราชบัญญัตินี- และการ ดําเนินการต่อไปให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี- ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ยิ'งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อัตราค่าธรรมเนียมวิชาชีพการแพทย์แผนไทย
ค่าขึ-นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ การแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์ แผนไทยประยุกต์ ฉบับละ ๓,๐๐๐ บาท
ค่าต่ออายุใบอนุญาต ฉบับละ ๒,๐๐๐ บาท
ค่าหนังสือรับรองการขึ-นทะเบียนเป็นผู้ประกอบ วิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพ การแพทย์แผนไทยประยุกต์
ค่าหนังสืออนุมัติ หรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชํานาญ ฉบับละ ๕๐๐ บาท ในการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือ การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ฉบับละ ๒,๐๐๐ บาท
ค่าใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ ๕๐๐ บาท หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี- คือ โดยที'การประกอบโรค ศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยและสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ อยู่ในความควบคุม ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะ ซึ'งมีคณะกรรมการการประกอบโรคศิลปะ ทํา หน้าที'กํากับดูแลการประกอบโรคศิลปะต่าง ๆ และมีคณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์ แผนไทยและสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ทําหน้าที'ควบคุมการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนไทยและสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ รวมทั-งจรรยาบรรณแห่ง วิชาชีพ ซึ'งในปVจจุบันจํานวนผู้ประกอบโรคศิลปะในสาขาการแพทย์แผนไทยและสาขาการ แพทย์แผนไทยประยุกต์มีจํานวนเพิ'มมากขึ-นประกอบกับมีบุคลากรเหล่านี-มีคุณสมบัติ วัย วุฒิ ความรู้ความชํานาญด้านวิชาชีพแพทย์แผนไทยและวิชาชีพแพทย์แผนไทยประยุกต์ อีก ทั-งในปVจจุบันวิทยาการและเทคโนโลยีทางด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนไทย ประยุกต์ ได้เจริญก้าวหน้าขึ-นเป็นอันมาก และมีศักยภาพเพียงพอที'จะปกครองตนเองได้ใน วงการแพทย์แผนไทยด้วยกัน อีกทั-งเพื'อให้เป็นการสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราช อาณาจักรไทย ที'ให้บุคคลมีเสรีภาพในการประกอบกิจการหรือประกอบอาชีพและการ แข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม รวมตลอดจนให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยตรง จึงสมควรแยกการกํากับดูแลและการควบคุมการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและ การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ออกจากอํานาจหน้าที'ของคณะกรรมการ การประกอบโรคศิลปะและคณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทยและสาขาการ แพทย์แผนไทยประยุกต์ โดยจัดตั-ง “สภาการแพทย์แผนไทย” ขึ-น เพื'อส่งเสริมการประกอบ วิชาชีพการแพทย์แผนไทยและการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ กําหนด และควบคุมมาตรฐานและจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและผู้ ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ให้เป็นไปตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพการ แพทย์แผนไทยและควบคุมมิให้มีการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากบุคคลซึ'งไม่มีความรู้ อันก่อให้เกิดภัยและความเสียหายแก่ประชาชน พร้อมกับเป็นการสนับสนุน ส่งเสริม พัฒนา ให้วิชาชีพการแพทย์แผนไทยมีความเจริญก้าวหน้าในภายภาคหน้าต่อไป จึงจําเป็นต้อง ตราพระราชบัญญัตินี-
ให้เปลี'ยนแปลงองค์ประกอบของสภาหรือคณะกรรมการตามกฎหมายที' เกี'ยวข้องกับการโอนสํานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ไปเป็น ส่วนราชการตามมาตรา ๑๐ วรรคสอง เพื'อให้สอดคล้องกับการโอนอํานาจหน้าที'และการ เปลี'ยนแปลงผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี- ทั-งนี- ตามที'กําหนดในบัญชี ๔ ท้ายพระราช บัญญัตินี- ความในวรรคหนึ'งและวรรคสองไม่ใช้บังคับแก่สถาบันการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ที'จัดตั-งขึ-นตามกฎหมายว่าด้วยการอาชีวศึกษา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี- คือ โดยที'การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นกลไกสําคัญในการพัฒนาประเทศให้เจริญเติบโต อย่างมั'นคง มั'งคั'ง และยั'งยืน เพื'อรองรับความเปลี'ยนแปลงของโลกที'จะเกิดขึ-นในอนาคต สมควรจัดตั-งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมขึ-น เพื'อให้มีการบู รณาการ การเรียนการสอน การวิจัย และการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศาสตร์อื'นเข้าด้วยกัน และให้เกิดความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที'ระหว่าง สถาบันอุดมศึกษาและสถาบันวิจัยในทิศทางที'สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผน และ นโยบายในการพัฒนาประเทศ จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี-
กฎกระทรวงนั-น เมื'อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้ มาตรา ๓๙ เมื'อพ้นกําหนดสามร้อยหกสิบห้าวันนับแต่วันที'พระราช บัญญัตินี-ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้เปลี'ยนความผิดอาญาที'มีโทษปรับสถานเดียว ตามกฎหมายในบัญชี ๑ ท้ายพระราชบัญญัตินี- เป็นความผิดทางพินัยตามพระราชบัญญัติ นี- และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาที'บัญญัติไว้ในกฎหมายดังกล่าว เป็นอัตราค่าปรับเป็น พินัยตามพระราชบัญญัตินี- หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี- คือ โดยที'มาตรา ๗๗ ของ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้บัญญัติให้รัฐพึงกําหนดโทษอาญาเฉพาะความผิด ร้ายแรง ประกอบกับแผนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายได้กําหนดให้มีการปรับปรุง กฎหมายในการกําหนดโทษอาญาให้เหมาะสมกับสภาพความผิดหรือกําหนดมาตรการ ลงโทษให้เหมาะสมกับการกระทําความผิด และฐานะของผู้กระทําความผิดเพื'อมิให้บุคคล ต้องรับโทษหนักเกินสมควร หรือต้องรับภาระในการรับโทษที'แตกต่างกันอันเนื'องมาจาก ฐานะทางเศรษฐกิจที'แตกต่างกัน เนื'องจากกรณีที'กฎหมายกําหนดโทษปรับ ผู้มีฐานะทาง เศรษฐกิจดีย่อมสามารถชําระค่าปรับได้ แต่ผู้มีฐานะยากจนและไม่อยู่ในฐานะที'จะชําระค่า ปรับได้จะถูกกักขังแทนค่าปรับอันกระทบต่อศักดิ'ศรีความเป็นมนุษย์อย่างรุนแรง ประกอบ กับเมื'อคํานึงถึงข้อห้ามหรือข้อบังคับที'กฎหมายกําหนดให้ประชาชนต้องปฏิบัติหรือไม่ ปฏิบัติแล้ว จะพบว่ามีข้อห้ามหรือข้อบังคับจํานวนมากอาจรุกล\าเข้าไปในสิทธิพื-นฐานหรือ สร้างภาระอันเกินสมควรแก่ประชาชน และนับวันจะมีกฎหมายตราออกมากําหนดการ กระทําให้เป็นความผิดมากขึ-น หลายกรณีทําให้ประชาชนกลายเป็นผู้กระทําความผิดเพรารู้ เท่าไม่ถึงการณ์ บางกรณีกระทําไปเพราะความยากจนเหลือทนทาน และเมื'อได้กระทํา ความผิดแล้ว ก็ต้องถูกนําตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา เช่น ถูกจับกุม คุมขัง พิมพ์ลายนิ-วมือ และลงบันทึกประวัติอาชญากรเป็นประวัติติดตัวตลอดไป และในที'สุดไม่ว่า ผู้นั-นจะเป็นผู้กระทําความผิดหรือไม่ กระบวนการที'กล่าวมาย่อมสร้างรอยด่างให้เกิดแก่ ศักดิ'ศรีความเป็นมนุษย์อย่างหลีกเลี'ยงไม่ได้ ถ้ามีทางใดที'จะป.,องกันมิให้ประชาชนจะต้อง ตกเข้าสู่กระบวนการนั-นได้ จะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนและขจัดความเหลื'อมล\าในสังคม ลงได้ตามสมควร แม้ว่าการกําหนดมาตรการอันเป็นโทษที'ผู้กระทําการอันเป็นการฝ'าฝ스น หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเป็นสิ'งจําเป็นที'จะต้องมีเพื'อให้กฎหมายมีสภาพบังคับ แต่โทษ นั-นก็ไม่จําเป็นต้องใช้โทษอาญาเสมอไป ซึ'งนานาประเทศได้เริ'มปรับเปลี'ยนบทลงโทษจาก ความผิดอาญาเป็นมาตรการอื'นที'มิใช่โทษอาญามากขึ-น รวมทั-งการใช้มาตรการอื'นแทน การลงโทษทางอาญา เช่น การคุมประพฤติกรณีจึงสมควรที'ประเทศไทยจะพัฒนากฎหมาย ไทยให้สอดคล้องกับนานาประเทศ และเกิดประโยชน์แก่ประชาชนยิ'งขึ-น โดยปรับเปลี'ยน โทษอาญาบางประการที'มุ่งต่อการปรับเป็นเงินตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติ เปลี'ยนเป็น มาตรการปรับเป็นพินัยที'สร้างขึ-นใหม่ไม่ให้มีสภาพเป็นโทษอาญา โดยกําหนดหลักเกณฑ์ให้ ใช้ดุลพินิจกําหนดค่าปรับที'ต้องชําระให้เหมาะสมกับสภาพความร้ายแรงแห่งการกระทํา และฐานะทางเศรษฐกิจของผู้กระทําความผิดให้สอดคล้องกัน และในกรณีที'ผู้กระทําความ ผิดไม่มีเงินชําระค่าปรับ อาจขอทํางานบริการสังคมหรือทํางานสาธารณประโยชน์แทนการ ชําระค่าปรับได้ โดยไม่มีการกักขังแทนค่าปรับดังเช่นที'เป็นอยู่ในคดีอาญา การเปลี'ยน สภาพบังคับไม่ให้เป็นโทษอาญาโดยกําหนดวิธีการดําเนินการขึ-นใหม่เป็นการเฉพาะนี- ย่อม จะช่วยทําให้ประชาชนที'ถูกกล่าวหาว่ากระทําความผิดไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการทางอาญา และไม่มีประวัติอาชญากรรมติดตัวอีกต่อไป การเปลี'ยนแปลงเช่นนี-จะเป็นกลไกทาง กฎหมายเพื'อสร้างความเป็นธรรมและขจัดความเหลื'อมล\าทางสังคมและส่งเสริมการบังคับ ใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพยิ'งขึ-น ตามเจตนารมณ์ของมาตรา ๗๗ และมาตรา ๒๕๘ ค. ด้านกฎหมาย (๑) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและแผนการปฏิรูปประเทศด้าน กฎหมาย นอกจากนั-น สําหรับกฎหมายบางฉบับที'กําหนดให้มีโทษทางปกครอง แต่บัญญัติ ให้ฟ.,องคดีต่อศาลที'มีเขตอํานาจในการพิจารณาคดีอาญาเพื'อบังคับชําระค่าปรับทาง ปกครองไว้แล้ว สมควรเปลี'ยนโทษดังกล่าวเป็นมาตรการปรับเป็นพินัยเช่นเดียวกัน จึง จําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี- พิชญ์สินียา / Maker 13 กันยายน 2566 อรญา / Checker 14 กันยายน 2566 สถาพร / Authorizer 24 ตุลาคม 2566 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๐/ตอนที' ๑๐ ก/หน้า ๑/๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๖/ตอนที' ๕๗ ก/หน้า ๑/๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๙/ตอนที' ๖๖ ก/หน้า ๒๒/๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๕