로고

ให้ไว้ ณ วันที' ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เป็นปีที' ๖๘ ในรัชกาลปVจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที'เป็นการสมควรให้มีกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พระราชบัญญัตินี-มีบทบัญญัติบางประการเกี'ยวกับการจํากัดสิทธิและ เสรีภาพของบุคคล ซึ'งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ มาตรา ๔๑ มาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทําได้โดยอาศัย อํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ-นไว้โดยคําแนะนํา และยินยอมของรัฐสภา ดังต่อไปนี-

มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี-เรียกว่า “พระราชบัญญัติวิชาชีพการแพทย์ แผนไทย พ.ศ. ๒๕๕๖”

มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี-ให้ใช้บังคับตั-งแต่วันถัดจากวันประกาศใน

ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี-

“การแพทย์แผนไทย” หมายความว่า กระบวนการทางการแพทย์เกี'ยวกับ การตรวจ วินิจฉัย บําบัด รักษา หรือป.,องกันโรค หรือการส่งเสริมและฟ- 스นฟูสุขภาพของ มนุษย์ การผดุงครรภ์ การนวดไทย และให้หมายความรวมถึง การเตรียมการผลิตยาแผน ไทย และการประดิษฐ์อุปกรณ์และเครื'องมือทางการแพทย์ ทั-งนี- โดยอาศัยความรู้หรือ ตําราที'ได้ถ่ายทอดและพัฒนาสืบต่อกันมา “วิชาชีพการแพทย์แผนไทย” หมายความว่า วิชาชีพที'เกี'ยวกับการ ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ “การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย” หมายความว่า การประกอบ วิชาชีพที'กระทําหรือมุ่งหมายจะกระทําต่อมนุษย์ เกี'ยวกับการแนะนํา การตรวจโรค การ วินิจฉัยโรค การบําบัดโรค การรักษาโรค การป.,องกันโรค การส่งเสริมและการฟ- 스นฟูสุขภาพ โดยอาศัยองค์ความรู้ด้านเวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย การผดุงครรภ์ไทย การนวดไทย การแพทย์พื-นบ้านไทย และองค์ความรู้ด้านอื'นตามที'รัฐมนตรีประกาศกําหนดโดยคํา แนะนําของคณะกรรมการ ทั-งนี- ด้วยกรรมวิธีการแพทย์แผนไทยซึ'งถ่ายทอดหรือพัฒนาสืบ ต่อกันมาตามตําราการแพทย์แผนไทยหรือจากสถานศึกษาที'สภาการแพทย์แผนไทยรับรอง “การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์” หมายความว่า การ ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย โดยอาศัยองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และ วิทยาศาสตร์การแพทย์ซึ'งศึกษาจากสถานศึกษาที'สภาการแพทย์แผนไทยรับรอง รวมทั-ง การประยุกต์ใช้เครื'องมือหรืออุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ทั-งนี- ตามระเบียบและข้อ บังคับของสภาการแพทย์แผนไทย “กรรมวิธีการแพทย์แผนไทย” หมายความว่า กรรมวิธีที'เกี'ยวข้องกับการ แพทย์แผนไทยที'สภาการแพทย์แผนไทยกําหนดหรือรับรอง แล้วแต่กรณี “เวชกรรมไทย” หมายความว่า การตรวจ การวินิจฉัย การบําบัด การ รักษา การป.,องกันโรค การส่งเสริมและการฟ- 스นฟูสุขภาพ รวมถึงการผดุงครรภ์ไทย เภสัชกรรมไทย และการนวดไทย ทั-งนี- ด้วยกรรมวิธีการแพทย์แผนไทย “เภสัชกรรมไทย” หมายความว่า การกระทําในการเตรียมยา การผลิตยา การประดิษฐ์ยา การเลือกสรรยา การควบคุมและการประกันคุณภาพยา การปรุงยาและ การจ่ายยาตามใบสั'งยาของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการ แพทย์แผนไทยประยุกต์และการจัดจําหน่ายยาตามกฎหมายว่าด้วยยา ทั-งนี- ด้วยกรรมวิธี การแพทย์แผนไทย “การผดุงครรภ์ไทย” หมายความว่า การตรวจ การวินิจฉัย การบําบัด การ รักษา การส่งเสริมสุขภาพหญิงมีครรภ์ การป.,องกันความผิดปกติในระยะตั-งครรภ์และระยะ คลอด การทําคลอด การดูแล การส่งเสริมและการฟ- 스นฟูสุขภาพมารดาและทารกในระยะ หลังคลอด ทั-งนี- ด้วยกรรมวิธีการแพทย์แผนไทย “การนวดไทย” หมายความว่า การตรวจ การวินิจฉัย การบําบัด การ รักษา การป.,องกันโรค การส่งเสริมและการฟ- 스นฟูสุขภาพ โดยใช้องค์ความรู้เกี'ยวกับศิลปะ การนวดไทย ทั-งนี- ด้วยกรรมวิธีการแพทย์แผนไทย “การแพทย์พื-นบ้านไทย” หมายความว่า การตรวจ การวินิจฉัย การบําบัด การรักษา การป.,องกันโรค การส่งเสริมและการฟ- 스นฟูสุขภาพ โดยใช้องค์ความรู้ซึ'งสืบทอด กันมาในชุมชนท้องถิ'น ทั-งนี- ด้วยกรรมวิธีการแพทย์แผนไทย “ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย” หมายความว่า บุคคลซึ'งได้ขึ-น ทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยจากสภาการแพทย์แผน ไทย “ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์” หมายความว่า บุคคลซึ'ง ได้ขึ-นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์จากสภา การแพทย์แผนไทย “ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์ แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ของสภาการแพทย์แผนไทย “สมาชิก” หมายความว่า สมาชิกสภาการแพทย์แผนไทย “กรรมการ” หมายความว่า กรรมการสภาการแพทย์แผนไทย “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการสภาการแพทย์แผนไทย “เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธิการสภาการแพทย์แผนไทย “พนักงานเจ้าหน้าที'” หมายความว่า ผู้ซึ'งรัฐมนตรีแต่งตั-งให้ปฏิบัติการ ตามพระราชบัญญัตินี- “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี- มาตรา ๔ วิชาชีพการแพทย์แผนไทยตามพระราชบัญญัตินี- ประกอบด้วย

การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ได้แก่ การประกอบวิชาชีพ ด้านเวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย การผดุงครรภ์ไทย การนวดไทย การแพทย์พื-นบ้านไทย หรือการแพทย์แผนไทยประเภทอื'นตามที'รัฐมนตรีประกาศกําหนดโดยคําแนะนําของคณะ กรรมการ

การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์

มาตรา ๕ ในกรณีที'บทบัญญัติแห่งกฎหมายใดอ้างถึงการประกอบโรค ศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทย การประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ผู้ ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทย ประยุกต์ ผู้แทนคณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทย หรือผู้แทนคณะกรรมการ วิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ให้หมายความถึงการประกอบวิชาชีพการแพทย์ แผนไทย การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผน ไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ หรือผู้แทนสภาการแพทย์แผนไทย ตามพระราชบัญญัตินี-

มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการตามพระราช บัญญัตินี- และให้มีอํานาจแต่งตั-งพนักงานเจ้าหน้าที' กับออกกฎกระทรวงกําหนดค่า ธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัตินี- รวมทั-งออกระเบียบและประกาศใด ๆ เพื'อ ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี-

กฎกระทรวง ระเบียบและประกาศนั-น เมื'อได้ประกาศในราชกิจจานุ เบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้

หมวด ๑ สภาการแพทย์แผนไทย

มาตรา ๗ ให้มีสภาการแพทย์แผนไทยเป็นนิติบุคคล ซึ'งมีวัตถุประสงค์ และอํานาจหน้าที'ตามที'บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี-

มาตรา ๘ สภาการแพทย์แผนไทย มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี-

ส่งเสริมการศึกษา การพัฒนา การวิจัย การประกอบวิชาชีพการแพทย์ แผนไทย และการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์

ควบคุม กํากับ ดูแล และกําหนดมาตรฐานการให้บริการของผู้ ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์

ควบคุมความประพฤติ จริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผน ไทยและผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ให้เป็นไปตามจรรยาบรรณแห่ง วิชาชีพการแพทย์แผนไทย

ช่วยเหลือ แนะนํา เผยแพร่ และให้การศึกษาแก่ประชาชนและองค์กร อื'นในเรื'องที'เกี'ยวกับการแพทย์แผนไทย

ให้คําปรึกษาหรือข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลเกี'ยวกับวิชาชีพการแพทย์ แผนไทย

ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิก

ผดุงไว้ซึ'งสิทธิ ความเป็นธรรม และส่งเสริมสวัสดิการให้แก่สมาชิก (๘) เป็นตัวแทนผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและผู้ประกอบ วิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ของประเทศไทย

มาตรา ๙ สภาการแพทย์แผนไทย มีอํานาจหน้าที'ดังต่อไปนี-

รับขึ-นทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการ แพทย์แผนไทย และผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์

ออกคําสั'งตามมาตรา ๔๕

รับรองปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตรในวิชาชีพการแพทย์ แผนไทยของสถาบันต่าง ๆ เพื'อประโยชน์ในการสมัครเป็นสมาชิก

รับรองหลักสูตรสําหรับการฝ~กอบรมเป็นผู้ชํานาญการในด้านต่าง ๆ ของวิชาชีพการแพทย์แผนไทยของสถาบันที'ทําการฝ~กอบรมดังกล่าว

รับรองวิทยฐานะของสถาบันที'ทําการฝ~กอบรมใน (๔)

ออกหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชํานาญในการ ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ และออกหนังสือแสดงวุฒิอื'นในวิชาชีพการแพทย์แผนไทย

จัดทําแผนการดําเนินงานและรายงานผลการดําเนินงานเสนอต่อสภา นายกพิเศษอย่างน้อยปีละครั-ง

ดําเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสภาการแพทย์แผนไทย (๙) บริหารกิจการใด ๆ ตามวัตถุประสงค์ และอํานาจหน้าที'ตามพระราช บัญญัตินี- ตลอดจนกิจการใด ๆ ของสภาการแพทย์แผนไทย

มาตรา ๑๐ สภาการแพทย์แผนไทยอาจมีรายได้ดังต่อไปนี- (๑) เงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน

ค่าจดทะเบียนสมาชิก ค่าบํารุง และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ

ผลประโยชน์ที'ได้จากการจัดการทรัพย์สินและกิจกรรมตาม วัตถุประสงค์ที'กําหนดในมาตรา ๘

เงินและทรัพย์สินซึ'งมีผู้ให้แก่สภาการแพทย์แผนไทย (๕) ดอกผลของเงินและทรัพย์สินตาม (๑) (๒) (๓) และ (๔)

มาตรา ๑๑ ให้รัฐมนตรีดํารงตําแหน่งสภานายกพิเศษแห่งสภาการแพทย์ แผนไทยและมีอํานาจหน้าที'ตามที'บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี-

หมวด ๒ สมาชิก

มาตรา ๑๒ สมาชิกสภาการแพทย์แผนไทย ต้องมีคุณสมบัติและไม่มี ลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี-

มีอายุไม่ตbากว่ายี'สิบปีบริบูรณ์

มีความรู้ในวิชาชีพการแพทย์แผนไทยดังต่อไปนี- (ก) ได้รับการฝ~กอบรมจากสถาบันหรือสถานพยาบาลที'สภาการแพทย์ แผนไทยรับรองโดยมีผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยซึ'งได้รับอนุญาตให้ถ่ายทอด ความรู้เป็นผู้ให้การอบรมและต้องสอบผ่านความรู้ตามที'กําหนดไว้ในข้อบังคับสภาการ แพทย์แผนไทย หรือ (ข) ได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาสาขาการ แพทย์แผนไทยหรือสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์จากสถาบันการศึกษาที'สภาการ แพทย์แผนไทยรับรองและต้องสอบผ่านความรู้ตามที'กําหนดไว้ในข้อบังคับสภาการแพทย์ แผนไทย หรือ (ค) เป็นผู้ที'ส่วนราชการรับรองความรู้การแพทย์พื-นบ้านไทย โดยผ่าน การประเมินหรือการสอบตามที'กําหนดไว้ในข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทย

ไม่เป็นผู้ประพฤติเสียหายซึ'งคณะกรรมการเห็นว่าจะนํามาซึ'งความ เสื'อมเสียเกียรติศักดิ'แห่งวิชาชีพ

ไม่เคยต้องโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที'สุดในคดีที'คณะกรรมการ เห็นว่าจะนํามาซึ'งความเสื'อมเสียเกียรติศักดิ'แห่งวิชาชีพ

ไม่เป็นผู้วิกลจริต จิตฟ' Vนเฟ스อนไม่สมประกอบ หรือไม่เป็นโรคที'กําหนด ไว้ในข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทย

มาตรา ๑๓ สิทธิและหน้าที'ของสมาชิกมีดังต่อไปนี-

ขอขึ-นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผน ไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ขอหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรแสดง ความรู้ความชํานาญในการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย หรือการประกอบวิชาชีพ การแพทย์แผนไทยประยุกต์หรือขอหนังสือแสดงวุฒิอื'นในวิชาชีพการแพทย์แผนไทย โดย ปฏิบัติตามข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทยว่าด้วยการนั-น

แสดงความเห็นเป็นหนังสือเกี'ยวกับกิจการของสภาการแพทย์แผน ไทยส่งไปยังคณะกรรมการเพื'อพิจารณา และในกรณีที'สมาชิกร่วมกันตั-งแต่ห้าสิบคนขึ-นไป เสนอให้คณะกรรมการพิจารณาเรื'องใดที'เกี'ยวกับกิจการของสภาการแพทย์แผนไทย คณะ กรรมการต้องพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้เสนอทราบภายในเก้าสิบวันนับแต่วัน ได้รับเรื'อง อนุญาต

เลือก รับเลือก หรือรับเลือกตั-งเป็นกรรมการ เฉพาะสมาชิกที'มีใบ

ผดุงไว้ซึ'งเกียรติศักดิ'แห่งวิชาชีพและปฏิบัติตนตามพระราชบัญญัตินี- มาตรา ๑๔ สมาชิกภาพของสมาชิกสิ-นสุดลงเมื'อ

ตาย (๒) ลาออก

ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๑๒ (๒)

คณะกรรมการมีมติให้พ้นจากสมาชิกภาพ เพราะเห็นว่าเป็นผู้นํามาซึ'ง ความเสื'อมเสียเกียรติศักดิ'แห่งวิชาชีพตามมาตรา ๑๒ (๓) หรือ (๔)

มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๒ (๕) และผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม จํานวนไม่น้อยกว่าสามคน ซึ'งคณะกรรมการกําหนด ลงความเห็นว่าไม่สามารถบําบัดรักษา ให้หายเป็นปกติได้ หรือต้องใช้ระยะเวลาในการบําบัดรักษาเกินกว่าสองปี ในกรณีที'สมาชิกผู้ใดมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๒ (๕) แต่ยังไม่ถึง ขนาดที'สมาชิกภาพสิ-นสุดลงตามวรรคหนึ'ง (๕) คณะกรรมการอาจมีมติให้พักใช้ใบอนุญาต ของสมาชิกผู้นั-นได้ โดยมีกําหนดเวลาตามที'เห็นสมควรแต่ไม่เกินสองปี และให้นําความใน มาตรา ๓๑ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

หมวด ๓

คณะกรรมการ

มาตรา ๑๕

ให้มีคณะกรรมการสภาการแพทย์แผนไทย ประกอบด้วย

กรรมการโดยตําแหน่ง ได้แก่ ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์ แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และเลขาธิการคณะ กรรมการอาหารและยา

กรรมการซึ'งเป็นคณบดี หรือหัวหน้าหน่วยงานที'เรียกชื'ออย่างอื'นที'มี ฐานะเทียบเท่าคณะหรือหัวหน้าภาควิชาที'ผลิตบัณฑิตสาขาการแพทย์แผนไทยหรือสาขา การแพทย์แผนไทยประยุกต์ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและสถาบันอุดมศึกษาของเอกชนที' จัดตั-งขึ-นตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งละหนึ'งคน เลือกกันเองให้เหลือ สาขาละสามคน

กรรมการซึ'งเป็นผู้แทนสมาคมหรือมูลนิธิที'เกี'ยวข้องกับวิชาชีพการ แพทย์แผนไทยแห่งละหนึ'งคน เลือกกันเองให้เหลือสามคน

หัวหน้าสถาบันหรือสถานพยาบาลที'สภาการแพทย์แผนไทยรับรอง โดยมีผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยซึ'งได้รับอนุญาตให้ถ่ายทอดความรู้เป็นผู้ให้การ อบรม เลือกกันเองให้เหลือจํานวนสามคน

กรรมการซึ'งได้รับเลือกตั-งโดยสมาชิกมีจํานวนเท่ากับจํานวน กรรมการใน (๑) (๒) (๓) และ (๔) รวมกันในขณะเลือกตั-งแต่ละคราว ทั-งนี- ให้คํานึงถึง สัดส่วนของวิชาชีพการแพทย์แผนไทยตามมาตรา ๔

มาตรา ๑๖ คณะกรรมการอาจแต่งตั-งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที'ปรึกษาได้ และ ให้มีอํานาจถอดถอนที'ปรึกษาด้วย

ให้ที'ปรึกษาดํารงตําแหน่งตามวาระของกรรมการตามมาตรา ๑๕ (๕) มาตรา ๑๗ ให้คณะกรรมการเลือกกรรมการจากมาตรา ๑๕ (๕) ภายใน สามสิบวันนับจากวันเลือกตั-งกรรมการตามมาตรา ๑๕ (๕) เพื'อดํารงตําแหน่งนายกสภาการ แพทย์แผนไทย อุปนายกสภาการแพทย์แผนไทยคนที'หนึ'ง และอุปนายกสภาการแพทย์แผน ไทยคนที'สอง ตําแหน่งละหนึ'งคน ให้นายกสภาการแพทย์แผนไทยเลือกกรรมการเพื'อดํารงตําแหน่ง เลขาธิการ รองเลขาธิการ ประชาสัมพันธ์ และเหรัญญิก ตําแหน่งละหนึ'งคน และอาจเลือก กรรมการเพื'อดํารงตําแหน่งอื'นได้ตามความจําเป็น ทั-งนี- โดยความเห็นชอบของคณะ กรรมการ ให้นายกสภาการแพทย์แผนไทยมีอํานาจถอดถอนเลขาธิการ รอง เลขาธิการ ประชาสัมพันธ์ เหรัญญิก และผู้ดํารงตําแหน่งอื'นตามวรรคสองออกจาก ตําแหน่งได้ ทั-งนี- โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ให้นายกสภาการแพทย์แผนไทย อุปนายกสภาการแพทย์แผนไทยคนที' หนึ'งและอุปนายกสภาการแพทย์แผนไทยคนที'สอง ดํารงตําแหน่งตามวาระของกรรมการ ตามมาตรา ๑๕ (๕) เมื'อผู้ดํารงตําแหน่งนายกสภาการแพทย์แผนไทยพ้นจากหน้าที' ให้ เลขาธิการ รองเลขาธิการ ประชาสัมพันธ์ เหรัญญิก และผู้ดํารงตําแหน่งอื'นตามวรรคสอง พ้นจากตําแหน่งด้วย

มาตรา ๑๘ การเลือกกรรมการตามมาตรา ๑๕ (๒) (๓) และ (๔) การเลือก ตั-งกรรมการตามมาตรา ๑๕ (๕) การแต่งตั-งที'ปรึกษาตามมาตรา ๑๖ การเลือกกรรมการ เพื'อดํารงตําแหน่งต่าง ๆ ตามมาตรา ๑๗ และการเลื'อนหรือการเลือกหรือการเลือกตั-ง กรรมการตามมาตรา ๒๓ ให้เป็นไปตามข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทย

มาตรา ๑๙ กรรมการตามมาตรา ๑๕ (๓) (๔) และ (๕) ต้องมีคุณสมบัติดัง

ต่อไปนี-

เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ การแพทย์แผนไทยประยุกต์

เป็นผู้ไม่เคยถูกสั'งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต (๓) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย

มาตรา ๒๐ กรรมการตามมาตรา ๑๕ (๒) (๓) (๔) และ (๕) มีวาระการ ดํารงตําแหน่งคราวละสามปี และอาจได้รับเลือก หรือได้รับเลือกตั-งใหม่ได้ แล้วแต่กรณี แต่ จะดํารงตําแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันไม่ได้

ให้กรรมการที'พ้นจากตําแหน่งตามวาระปฏิบัติหน้าที'ไปพลางก่อนจนกว่า จะมีการเลือกหรือเลือกตั-งกรรมการขึ-นใหม่

มาตรา ๒๑ นอกจากการพ้นจากตําแหน่งตามวาระ กรรมการตามมาตรา ๑๕ (๓) (๔) และ (๕) พ้นจากตําแหน่งเมื'อ

สมาชิกภาพสิ-นสุดลงตามมาตรา ๑๔

ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๙ (๓) ลาออก กรรมการตามมาตรา ๑๕ (๒) พ้นจากตําแหน่งเมื'อ

พ้นจากตําแหน่งคณบดีหรือหัวหน้าหน่วยงานที'เรียกชื'ออย่างอื'นที'มี ฐานะเทียบเท่าคณะหรือหัวหน้าภาควิชาที'ผลิตบัณฑิตสาขาการแพทย์แผนไทยหรือสาขา การแพทย์แผนไทยประยุกต์ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและสถาบันอุดมศึกษาของเอกชนที' จัดตั-งขึ-นตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน

ลาออก

มาตรา ๒๒ เมื'อตําแหน่งกรรมการตามมาตรา ๑๕ (๒) (๓) และ (๔) ว่าง ลงก่อนครบวาระให้คณะกรรมการดําเนินการให้ได้มาภายในสามสิบวันนับแต่วันที'ตําแหน่ง กรรมการนั-นว่างลง

ในกรณีที'วาระของกรรมการตามวรรคหนึ'งเหลืออยู่ไม่ถึงเก้าสิบวัน คณะ กรรมการจะให้มีการเลือกกรรมการแทนหรือไม่ก็ได้ ให้ผู้ซึ'งเป็นกรรมการแทนนั-นอยู่ในตําแหน่งได้เพียงเท่าวาระที'เหลืออยู่ของ กรรมการซึ'งตนแทน

มาตรา ๒๓ เมื'อตําแหน่งกรรมการตามมาตรา ๑๕ (๕) ว่างลงไม่เกินหนึ'ง ในสามของจํานวนกรรมการดังกล่าวทั-งหมดก่อนครบวาระ ให้คณะกรรมการเลื'อนสมาชิกผู้ มีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๙ และได้รับคะแนนจากการเลือกตั-งกรรมการตามมาตรา ๑๕ (๕) ในลําดับถัดไปขึ-นเป็นกรรมการแทนภายในสามสิบวันนับแต่วันที'ตําแหน่งกรรมการนั-นว่าง ลง

ในกรณีที'ตําแหน่งกรรมการตามวรรคหนึ'งว่างลงรวมกันเกินหนึ'งในสาม ของจํานวนกรรมการซึ'งได้รับเลือกตั-ง ให้คณะกรรมการจัดให้มีการเลือกตั-งสมาชิกขึ-นเป็น กรรมการแทนภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที'จํานวนกรรมการดังกล่าวได้ว่างลงเกินหนึ'งใน สาม ในกรณีไม่มีผู้ได้รับการเลื'อนขึ-นเป็นกรรมการแทนตามวรรคหนึ'ง หรือมีแต่ ยังไม่ครบตามจํานวนตําแหน่งกรรมการที'ว่างลง ให้นําความในวรรคสองมาใช้บังคับโดย อนุโลม ถ้าวาระของกรรมการตามวรรคหนึ'งเหลืออยู่ไม่ถึงเก้าสิบวันไม่ต้องเลื'อน หรือเลือกตั-งกรรมการแทน ให้ผู้ซึ'งเป็นกรรมการแทนนั-นอยู่ในตําแหน่งได้เพียงเท่าวาระที'เหลืออยู่ของ กรรมการซึ'งตนแทน

มาตรา ๒๔ ให้คณะกรรมการมีอํานาจหน้าที'ดังต่อไปนี-

บริหารและดําเนินกิจการสภาการแพทย์แผนไทยตามวัตถุประสงค์ และอํานาจหน้าที'ที'กําหนดในมาตรา ๘ และมาตรา ๙ รวมทั-งการบริหารเงินรายได้ตาม มาตรา ๑๐

แต่งตั-งคณะอนุกรรมการการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย คณะอนุกรรมการการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะอนุกรรมการ จรรยาบรรณ คณะอนุกรรมการสอบสวนและคณะอนุกรรมการอื'น เพื'อทํากิจการหรือ พิจารณาเรื'องต่าง ๆ อันอยู่ในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์และอํานาจหน้าที'ของสภาการ แพทย์แผนไทย

กําหนดแผนการดําเนินงานและงบประมาณของสภาการแพทย์แผน ไทย

ออกข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทยว่าด้วย (ก) การเป็นสมาชิก (ข) การกําหนดโรคตามมาตรา ๑๒ (๕) (ค) การกําหนดค่าจดทะเบียนสมาชิก ค่าบํารุง และค่าธรรมเนียมอื'น นอกจากที'กําหนดไว้ในอัตราค่าธรรมเนียมท้ายพระราชบัญญัตินี- (ง) การเลือก การเลือกตั-งกรรมการ การเลื'อนผู้มีคุณสมบัติขึ-นเป็น กรรมการแทน การแต่งตั-งที'ปรึกษา และการเลือกกรรมการเพื'อดํารงตําแหน่งต่าง ๆ ตาม มาตรา ๑๘ (จ) การประชุมคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะที'ปรึกษา (ฉ) การกําหนดอํานาจหน้าที'ของผู้ดํารงตําแหน่งที'ปรึกษาตามมาตรา ๑๖ (ช) การกําหนดอํานาจหน้าที'ของผู้ดํารงตําแหน่งอื'นตามมาตรา ๑๗ วรรคสอง (ซ) คุณสมบัติของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและผู้ประกอบ วิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ตามมาตรา ๓๕ (ฌ) แบบและประเภทใบอนุญาต หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื'อนไขใน การขึ-นทะเบียน การออกใบอนุญาต อายุใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการออกใบ แทนใบอนุญาต (ญ) หลักเกณฑ์การออกหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ ความ ชํานาญในการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผน ไทยประยุกต์ รวมทั-งหนังสือแสดงวุฒิอื'นในวิชาชีพการแพทย์แผนไทย (ฎ) หลักเกณฑ์การพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต (ฏ) จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพการแพทย์แผนไทย (ฐ) การจัดตั-ง การดําเนินการ และการเลิกสถาบันที'ทําการฝ~กอบรม เป็นผู้ชํานาญการของวิชาชีพการแพทย์แผนไทย รวมทั-งการกําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการ ว่าด้วยการศึกษาต่อเนื'องของการแพทย์แผนไทยเพื'อเพิ'มพูนความรู้และเสริมทักษะการ ประกอบวิชาชีพ (ฑ) หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื'อนไขในการสอบความรู้หรือการประเมิน ตามมาตรา ๑๒ (๒) (ฒ) หลักเกณฑ์การสืบสวนหรือสอบสวนในกรณีที'มีการกล่าวหาหรือ การกล่าวโทษผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผน ไทยประยุกต์ (ณ) ข้อจํากัดและเงื'อนไขในการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย และการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ (ด) เรื'องอื'น ๆ อันอยู่ในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์หรืออยู่ในอํานาจ หน้าที'ของสภาการแพทย์แผนไทยตามพระราชบัญญัตินี-หรือกฎหมายอื'นที'เกี'ยวข้อง ทั-งนี- โดยคํานึงถึงความสําคัญในการช่วยเหลือ แนะนํา เผยแพร่ และให้ความรู้แก่ประชาชนใน เรื'องที'เกี'ยวกับการแพทย์แผนไทยเพื'อให้สามารถดูแลตนเองได้ ภายใต้บังคับมาตรา ๓๐ ข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทยเมื'อได้ประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้

มาตรา ๒๕ นายกสภาการแพทย์แผนไทย อุปนายกสภาการแพทย์แผน ไทยคนที'หนึ'ง อุปนายกสภาการแพทย์แผนไทยคนที'สอง เลขาธิการ รองเลขาธิการ ประชาสัมพันธ์ เหรัญญิก ที'ปรึกษา และผู้ดํารงตําแหน่งอื'น มีอํานาจหน้าที'ดังต่อไปนี-

นายกสภาการแพทย์แผนไทย มีอํานาจหน้าที' (ก) บริหารและดําเนินกิจการของสภาการแพทย์แผนไทย ให้เป็นไป ตามพระราชบัญญัตินี-หรือตามมติของคณะกรรมการ (ข) เป็นผู้แทนสภาการแพทย์แผนไทย ในกิจการต่าง ๆ (ค) เป็นประธานในที'ประชุมคณะกรรมการ นายกสภาการแพทย์แผนไทยอาจมอบหมายเป็นหนังสือให้กรรมการ อื'นปฏิบัติหน้าที'แทนตามที'เห็นสมควร

อุปนายกสภาการแพทย์แผนไทยคนที'หนึ'ง เป็นผู้ช่วยนายกสภาการ แพทย์แผนไทยในกิจการอันอยู่ในอํานาจหน้าที'ของสภาการแพทย์แผนไทยตามที'นายกสภา การแพทย์แผนไทยมอบหมายและเป็นผู้ทําการแทนนายกสภาการแพทย์แผนไทย เมื'อนายก สภาการแพทย์แผนไทยไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที'ได้

อุปนายกสภาการแพทย์แผนไทยคนที'สอง เป็นผู้ช่วยนายกสภาการ แพทย์แผนไทยในกิจการอันอยู่ในอํานาจหน้าที'ของนายกสภาการแพทย์แผนไทยตามที' นายกสภาการแพทย์แผนไทยมอบหมายและเป็นผู้ทําการแทนนายกสภาการแพทย์แผนไทย เมื'อทั-งนายกสภาการแพทย์แผนไทยและอุปนายกสภาการแพทย์แผนไทยคนที'หนึ'งไม่อยู่ หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที'ได้

เลขาธิการ มีอํานาจหน้าที' (ก) ควบคุมบังคับบัญชาเจ้าหน้าที'สภาการแพทย์แผนไทย ทุกระดับ (ข) ควบคุมรับผิดชอบในงานธุรการทั'วไปของสภาการแพทย์แผนไทย (ค) รับผิดชอบในการดูแลรักษาทะเบียนสมาชิก ทะเบียนผู้ประกอบ วิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์และทะเบียนอื'น ๆ ของสภาการแพทย์แผนไทย (ง) ควบคุมดูแลทรัพย์สินของสภาการแพทย์แผนไทย (จ) เป็นเลขานุการคณะกรรมการ

รองเลขาธิการ เป็นผู้ช่วยเลขาธิการในกิจการอันอยู่ในอํานาจหน้าที' ของเลขาธิการตามที'เลขาธิการมอบหมาย และเป็นผู้ทําการแทนเลขาธิการเมื'อเลขาธิการ ไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที'ได้

ประชาสัมพันธ์ มีอํานาจหน้าที'ในการประชาสัมพันธ์ แนะนํา และเผย แพร่กิจการของสภาการแพทย์แผนไทยแก่ประชาชนและองค์กรอื'น

เหรัญญิก มีอํานาจหน้าที'ควบคุม ดูแล รับผิดชอบการบัญชี การเงิน และการงบประมาณของสภาการแพทย์แผนไทย

ผู้ดํารงตําแหน่งที'ปรึกษาตามมาตรา ๑๖ มีอํานาจหน้าที'ตามที'คณะ กรรมการกําหนด

ผู้ดํารงตําแหน่งอื'นตามมาตรา ๑๗ วรรคสอง มีอํานาจหน้าที'ตามที' คณะกรรมการกําหนด

มาตรา ๒๖ ให้มีคณะอนุกรรมการการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย คณะหนึ'ง มีอํานาจหน้าที' องค์ประกอบ คุณสมบัติ และวิธีการได้มาซึ'งอนุกรรมการตามข้อ บังคับของสภาการแพทย์แผนไทย

มาตรา ๒๗ ให้มีคณะอนุกรรมการการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผน ไทยประยุกต์คณะหนึ'ง มีอํานาจหน้าที' องค์ประกอบ คุณสมบัติ และวิธีการได้มาซึ'ง อนุกรรมการตามข้อบังคับของสภาการแพทย์แผนไทย

หมวด ๔ การดําเนินการของคณะกรรมการ

มาตรา ๒๘ การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อย กว่ากึ'งหนึ'งของจํานวนกรรมการทั-งหมดที'มีอยู่ในขณะนั-น จึงจะเป็นองค์ประชุม

มติของที'ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก ในการลงคะแนนกรรมการคนหนึ'งมี เสียงหนึ'งเสียง ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที'ประชุมออกเสียงเพิ'มขึ-นอีกเสียงหนึ'ง เป็นเสียงชี-ขาด มติของที'ประชุมในกรณีให้สมาชิกพ้นจากสมาชิกภาพตามมาตรา ๑๔ (๔) ให้ถือคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจํานวนกรรมการทั-งหมดที'มีอยู่ในขณะนั-น การประชุมคณะอนุกรรมการ ให้นําความในวรรคหนึ'งและวรรคสองมาใช้ บังคับโดยอนุโลม การประชุมคณะที'ปรึกษา ให้เป็นไปตามข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทย มาตรา ๒๙ สภานายกพิเศษจะเข้าฟVงการประชุมและชี-แจงแสดงความ เห็นในที'ประชุมคณะกรรมการ หรือจะส่งความเห็นเป็นหนังสือไปยังสภาการแพทย์แผนไทย ในเรื'องใด ๆ ก็ได้

มาตรา ๓๐ มติของที'ประชุมคณะกรรมการในเรื'องดังต่อไปนี- ต้องได้รับ ความเห็นชอบจากสภานายกพิเศษก่อน จึงจะดําเนินการตามมตินั-นได้

การออกข้อบังคับ

การกําหนดแผนการดําเนินงานและงบประมาณของสภาการแพทย์ แผนไทย

การให้สมาชิกพ้นจากสมาชิกภาพตามมาตรา ๑๔ (๔)

การวินิจฉัยชี-ขาดให้พักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาตตาม มาตรา ๔๕ วรรคสาม (๔) หรือ (๕) ให้นายกสภาการแพทย์แผนไทยเสนอมติตามวรรคหนึ'งต่อสภานายก พิเศษโดยไม่ชักช้า สภานายกพิเศษอาจมีคําสั'งยับยั-งมตินั-นได้ ในกรณีที'มิได้ยับยั-งมติตาม วรรคหนึ'ง (๑) ภายในสามสิบวันหรือมิได้ยับยั-งมติตามวรรคหนึ'ง (๒) (๓) หรือ (๔) ภายใน สิบห้าวันนับแต่วันที'ได้รับมติที'นายกสภาการแพทย์แผนไทยเสนอ ให้ถือว่าสภานายกพิเศษ ให้ความเห็นชอบมตินั-น ถ้าสภานายกพิเศษยับยั-งมติใด ให้คณะกรรมการประชุมพิจารณาอีกครั-ง หนึ'งภายในสามสิบวันนับแต่วันที'ได้รับการยับยั-ง ในการประชุมนั-นถ้ามีเสียงยืนยันมติไม่ น้อยกว่าสองในสามของจํานวนกรรมการทั-งหมดที'มีอยู่ในขณะนั-น ก็ให้ดําเนินการตามมติ นั-นได้

หมวด ๕ การควบคุมการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย และการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์

มาตรา ๓๑ ห้ามมิให้ผู้ใดซึ'งมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย หรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ กระทําการประกอบวิชาชีพการแพทย์ แผนไทยหรือการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ เว้นแต่ในกรณีอย่างใดอย่าง หนึ'งดังต่อไปนี-

การกระทําต่อตนเอง

การช่วยเหลือแก่ผู้ป'วยตามหน้าที' ตามกฎหมาย ตามหลักมนุษยธรรม หรือตามธรรมจรรยาโดยมิได้รับประโยชน์ตอบแทน

นักเรียน นักศึกษา หรือผู้รับการฝ~กอบรม ซึ'งทําการฝ~กหัดหรือฝ~ก อบรมในความควบคุมของสถาบันการศึกษาวิชาชีพการแพทย์แผนไทยของรัฐหรือที'ได้รับ อนุญาตจากทางราชการให้จัดตั-งสถาบันทางการแพทย์ของรัฐ หรือสถาบันการศึกษา หรือ สถาบันทางการแพทย์อื'นที'สภาการแพทย์แผนไทยรับรอง ทั-งนี- ภายใต้ความควบคุมของ เจ้าหน้าที'ผู้ฝ~กหัดหรือผู้ให้การฝ~กอบรมซึ'งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์

บุคคลซึ'งกระทรวง ทบวง กรม เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตําบล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ'นรูป แบบพิเศษอื'นตามที'มีกฎหมายกําหนด หรือสภากาชาดไทย มอบหมายให้ประกอบวิชาชีพ การแพทย์แผนไทยในความควบคุมของเจ้าหน้าที'ซึ'งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผน ไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ หรือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทั-งนี- ตามระเบียบที'รัฐมนตรีกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา

บุคคลซึ'งปฏิบัติงานในสถานพยาบาล ตามกฎหมายว่าด้วยสถาน พยาบาลกระทําการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือการประกอบวิชาชีพการแพทย์ แผนไทยประยุกต์ในความควบคุมของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบ วิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ทั-งนี- ตามระเบียบที'รัฐมนตรีกําหนดโดยประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา

การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือการประกอบวิชาชีพการ แพทย์แผนไทยประยุกต์ของที'ปรึกษาหรือผู้เชี'ยวชาญของทางราชการ ทั-งนี- โดยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื'อนไขที'คณะกรรมการกําหนด

หมอพื-นบ้าน ซึ'งมีความรู้ความสามารถในการส่งเสริมและดูแล สุขภาพของประชาชนในท้องถิ'นด้วยภูมิปVญญาการแพทย์แผนไทย ตามวัฒนธรรมของ ชุมชนที'สืบทอดกันมานานไม่น้อยกว่าสิบปีเป็นที'นิยมยกย่องจากชุมชน โดยมีคณะกรรมการ หมู่บ้านหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ'นเสนอให้หน่วยงานที'กระทรวงสาธารณสุขกําหนด เป็นผู้รับรอง ทั-งนี- ตามระเบียบที'รัฐมนตรีกําหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา

มาตรา ๓๒ ห้ามมิให้ผู้ใดซึ'งมิได้รับปริญญา ประกาศนียบัตร หรือ วุฒิบัตรในวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ใช้คําหรือข้อความด้วยอักษรไทยหรืออักษรต่าง ประเทศว่าแพทย์แผนไทย หรือใช้อักษรย่อของคําดังกล่าว หรือใช้คําแสดงวุฒิการศึกษา ทางแพทย์แผนไทย หรือใช้อักษรย่อของวุฒิดังกล่าวประกอบกับชื'อหรือชื'อสกุลของตน หรือ ใช้คําหรือข้อความอื'นใดที'มีความหมายเช่นเดียวกัน ซึ'งทําให้ผู้อื'นเข้าใจว่าตนเป็นผู้ประกอบ วิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ทั-งนี- รวม

ถึงการใช้ จ้าง วาน หรือยินยอมให้ผู้อื'นกระทําดังกล่าวให้แก่ตน

มาตรา ๓๓ ห้ามมิให้ผู้ใดใช้คําหรือข้อความที'แสดงให้ผู้อื'นเข้าใจว่าตนเป็น ผู้มีความรู้ความชํานาญในการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือการประกอบวิชาชีพ การแพทย์แผนไทยประยุกต์ หรือแสดงด้วยวิธีใด ๆ ให้ผู้อื'นเข้าใจว่าตนมีสิทธิเป็นผู้ประกอบ วิชาชีพดังกล่าว ทั-งนี- รวมถึงการใช้ จ้าง วาน หรือยินยอมให้ผู้อื'นกระทําดังกล่าวให้แก่ตน เว้นแต่ผู้นั-นเป็นผู้ได้รับหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรว่าเป็นผู้มีความรู้ความชํานาญในการ ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ จากสภาการแพทย์แผนไทย หรือที'สภาการแพทย์แผนไทยรับรอง หรือเป็นผู้ประกอบ วิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ซึ'งมี คุณสมบัติตามที'กําหนดในข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทย

มาตรา ๓๔ การขึ-นทะเบียน การออกใบอนุญาต อายุใบอนุญาต การต่อ อายุใบอนุญาต การออกหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชํานาญในวิชาชีพ การแพทย์แผนไทย และหนังสือแสดงวุฒิอื'น รวมทั-งการออกใบแทนในการประกอบวิชาชีพ การแพทย์แผนไทยและการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ให้เป็นไปตามข้อ บังคับสภาการแพทย์แผนไทย

มาตรา ๓๕ ผู้ขอขึ-นทะเบียนและรับใบอนุญาตต้องสมัครเป็นสมาชิกแห่ง สภาการแพทย์แผนไทยและมีคุณสมบัติตามที'กําหนดไว้ในข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทย

เมื'อสมาชิกภาพของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบ วิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ผู้ใดสิ-นสุดลงตามมาตรา ๑๔ ให้ใบอนุญาตของผู้นั-นสิ-น สุดลง ให้ผู้ซึ'งสมาชิกภาพสิ-นสุดลงตามมาตรา ๑๔ (๓) และ (๔) ส่งคืนใบอนุญาต ต่อเลขาธิการภายในสิบห้าวันนับแต่วันที'ทราบการสิ-นสุดสมาชิกภาพ

มาตรา ๓๖ ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและผู้ประกอบวิชาชีพ การแพทย์แผนไทยประยุกต์ต้องประกอบวิชาชีพภายใต้บังคับแห่งข้อจํากัดและเงื'อนไขและ ต้องรักษาจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพการแพทย์แผนไทยตามที'กําหนดไว้ในข้อบังคับสภาการ แพทย์แผนไทย

มาตรา ๓๗ บุคคลซึ'งได้รับความเสียหายเพราะการประพฤติผิดตาม มาตรา ๓๖ ของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผน ไทยประยุกต์มีสิทธิกล่าวหาผู้ก่อให้เกิดความเสียหายนั-น โดยทําคํากล่าวหาเป็นหนังสือยื'น ต่อสภาการแพทย์แผนไทย

บุคคลอื'นมีสิทธิกล่าวโทษผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ว่าประพฤติผิดตามมาตรา ๓๖ โดยทําคํากล่าว โทษเป็นหนังสือยื'นต่อสภาการแพทย์แผนไทย กรรมการมีสิทธิกล่าวโทษผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ว่าประพฤติผิดตามมาตรา ๓๖ โดยแจ้งเรื'องต่อ สภาการแพทย์แผนไทย สิทธิการกล่าวหาตามวรรคหนึ'งหรือสิทธิการกล่าวโทษตามวรรคสองหรือ วรรคสามสิ-นสุดลงเมื'อพ้นหนึ'งปีนับแต่วันที'ผู้ได้รับความเสียหายหรือผู้กล่าวโทษรู้เรื'องการ ประพฤติผิดตามมาตรา ๓๖ และรู้ตัวผู้ประพฤติผิด ทั-งนี- ไม่เกินสามปีนับแต่วันที'มีการ ประพฤติผิดตามมาตรา ๓๖ การถอนเรื'องการกล่าวหาหรือการกล่าวโทษที'ได้ยื'นหรือแจ้งไว้แล้วนั-นไม่ เป็นเหตุให้ระงับการดําเนินการตามพระราชบัญญัตินี-

มาตรา ๓๘ เมื'อสภาการแพทย์แผนไทยได้รับเรื'องการกล่าวหาหรือการ กล่าวโทษตามมาตรา ๓๗ หรือในกรณีที'คณะกรรมการมีมติว่ามีพฤติการณ์อันสมควรให้มี การพิจารณาเกี'ยวกับการประพฤติผิดตามมาตรา ๓๖ ของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผน ไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ให้เลขาธิการเสนอเรื'องดังกล่าวต่อ ประธานอนุกรรมการจรรยาบรรณโดยไม่ชักช้า

มาตรา ๓๙ ให้คณะกรรมการแต่งตั-งคณะอนุกรรมการจรรยาบรรณจาก สมาชิกประกอบด้วยประธานคนหนึ'ง และอนุกรรมการมีจํานวนรวมกันไม่น้อยกว่าสามคน มีอํานาจหน้าที'สืบสวนหาข้อเท็จจริงในเรื'องที'ได้รับตามมาตรา ๓๘ แล้วทํารายงานพร้อม ทั-งความเห็นเสนอคณะกรรมการเพื'อพิจารณา

คณะกรรมการอาจแต่งตั-งคณะอนุกรรมการจรรยาบรรณเกินกว่าหนึ'ง คณะก็ได้ ให้คณะอนุกรรมการจรรยาบรรณดําเนินการตามอํานาจหน้าที'ที'กําหนด ในวรรคหนึ'งให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที'คณะกรรมการกําหนด ถ้ามีเหตุจําเป็นไม่อาจ ดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที'กําหนดให้ประธานอนุกรรมการจรรยาบรรณแจ้ง ให้คณะกรรมการทราบก่อนครบกําหนดเวลาดังกล่าว ในการนี- ให้คณะกรรมการพิจารณา ขยายระยะเวลาดําเนินการออกไปได้ไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันที'ครบกําหนดเวลา

มาตรา ๔๐ เมื'อคณะกรรมการได้รับรายงานและความเห็นของคณะ อนุกรรมการจรรยาบรรณแล้วให้คณะกรรมการพิจารณารายงานและความเห็นดังกล่าว แล้วมีมติอย่างใดอย่างหนึ'งดังต่อไปนี-

ให้คณะอนุกรรมการจรรยาบรรณสืบสวนหาข้อเท็จจริงเพิ'มเติมเพื'อ เสนอให้คณะกรรมการพิจารณา

ให้คณะอนุกรรมการสอบสวนทําการสอบสวนในกรณีที'เห็นว่าข้อ กล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษนั-นมีมูล

ให้ยกข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษในกรณีที'เห็นว่าข้อกล่าวหาหรือข้อ กล่าวโทษนั-นไม่มีมูล

มาตรา ๔๑ ให้คณะกรรมการแต่งตั-งคณะอนุกรรมการสอบสวนจาก สมาชิกประกอบด้วยประธานคนหนึ'ง และอนุกรรมการมีจํานวนรวมกันไม่น้อยกว่าสามคน มีอํานาจหน้าที'สอบสวน สรุปผลการสอบสวนและเสนอสํานวนการสอบสวนพร้อมทั-งความ เห็นต่อคณะกรรมการเพื'อวินิจฉัยชี-ขาด

คณะกรรมการอาจแต่งตั-งคณะอนุกรรมการสอบสวนเกินกว่าหนึ'งคณะ ก็ได้ ให้คณะอนุกรรมการสอบสวนดําเนินการตามอํานาจหน้าที'ที'กําหนดใน วรรคหนึ'งให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที'คณะกรรมการกําหนด ถ้ามีเหตุจําเป็นไม่อาจ ดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที'กําหนด ให้ประธานอนุกรรมการสอบสวนแจ้งให้ คณะกรรมการทราบก่อนครบกําหนดเวลาดังกล่าว ในการนี- ให้คณะกรรมการพิจารณา ขยายระยะเวลาดําเนินการออกไปได้ไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันที'ครบกําหนดเวลา

มาตรา ๔๒ ในการปฏิบัติหน้าที'ของคณะอนุกรรมการจรรยาบรรณและ ของคณะอนุกรรมการสอบสวนตามพระราชบัญญัตินี- ให้อนุกรรมการจรรยาบรรณและ อนุกรรมการสอบสวนเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มีอํานาจเรียกบุคคลใด ๆ มาให้ถ้อยคําและมีหนังสือแจ้งให้บุคคลใด ๆ ส่งเอกสารหรือวัตถุเพื'อประโยชน์แก่การ ดําเนินงานของคณะอนุกรรมการดังกล่าว

มาตรา ๔๓ ให้ประธานอนุกรรมการสอบสวนมีหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา หรือข้อกล่าวโทษ พร้อมทั-งส่งสําเนาเรื'องที'กล่าวหาหรือกล่าวโทษให้ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูก กล่าวโทษไม่น้อยกว่าสิบห้าวันก่อนวันเริ'มทําการสอบสวน

ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวโทษมีสิทธิทําคําชี-แจงหรือนําพยานหลักฐาน ใด ๆ มาให้คณะอนุกรรมการสอบสวน คําชี-แจงหรือพยานหลักฐานให้ยื'นต่อประธานอนุกรรมการสอบสวน ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที'ได้รับแจ้งจากประธานอนุกรรมการสอบสวน หรือภายในกําหนด เวลาที'คณะอนุกรรมการสอบสวนจะขยายให้

มาตรา ๔๔ เมื'อคณะอนุกรรมการสอบสวนทําการสอบสวนเสร็จสิ-นแล้ว ให้เสนอสํานวนการสอบสวนพร้อมทั-งความเห็นต่อคณะกรรมการภายในสิบห้าวันนับแต่วัน ที'ทําการสอบสวนเสร็จสิ-นและต้องไม่เกินกําหนดเวลาตามมาตรา ๔๑ วรรคสาม เพื'อให้ คณะกรรมการวินิจฉัยชี-ขาด

มาตรา ๔๕ เมื'อคณะกรรมการได้รับสํานวนการสอบสวนและความเห็น ของคณะอนุกรรมการสอบสวนแล้ว ให้คณะกรรมการพิจารณาสํานวนการสอบสวนและ ความเห็นดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที'ได้รับสํานวนการสอบสวนและ ความเห็นของคณะอนุกรรมการสอบสวน

คณะกรรมการอาจให้คณะอนุกรรมการสอบสวนทําการสอบสวนเพิ'มเติม ก่อนวินิจฉัยชี-ขาดก็ได้ และให้นําความในมาตรา ๔๑ วรรคสาม มาใช้บังคับโดยอนุโลม คณะกรรมการมีอํานาจวินิจฉัยชี-ขาดอย่างใดอย่างหนึ'งดังต่อไปนี- (๑) ยกข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษ

ว่ากล่าวตักเตือน (๓) ภาคทัณฑ์

พักใช้ใบอนุญาตมีกําหนดเวลาตามที'เห็นสมควรแต่ไม่เกินสองปี (๕) เพิกถอนใบอนุญาต ภายใต้บังคับมาตรา ๓๐ คําวินิจฉัยชี-ขาดของคณะกรรมการตามมาตรานี- ให้ทําเป็นคําสั'งสภาการแพทย์แผนไทยพร้อมด้วยเหตุผลของการวินิจฉัยชี-ขาด และให้ถือ เป็นที'สุด

มาตรา ๔๖ ให้เลขาธิการแจ้งคําสั'งสภาการแพทย์แผนไทยตามมาตรา ๔๕ ไปยังผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวโทษเพื'อทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันที'มีคําสั'งดังกล่าว และให้บันทึกข้อความตามคําสั'งนั-นไว้ในทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือ ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ พร้อมทั-งแจ้งผลการวินิจฉัยชี-ขาดให้ผู้กล่าว หาหรือผู้กล่าวโทษทราบด้วย

มาตรา ๔๗ ภายใต้บังคับมาตรา ๓๑ ห้ามมิให้ผู้ประกอบวิชาชีพการ แพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ซึ'งอยู่ในระหว่างถูกสั'งพัก ใช้ใบอนุญาตหรือซึ'งถูกสั'งเพิกถอนใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือ แสดงด้วยวิธีใด ๆ ให้ผู้อื'นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยนับแต่ วันที'ทราบคําสั'งสภาการแพทย์แผนไทยที'สั'งพักใช้ใบอนุญาตหรือสั'งเพิกถอนใบอนุญาตนั-น

มาตรา ๔๘ ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพ การแพทย์แผนไทยประยุกต์ ซึ'งอยู่ในระหว่างถูกสั'งพักใช้ใบอนุญาต ผู้ใดกระทําการฝ'าฝ스น ตามมาตรา ๔๗ และถูกลงโทษจําคุกตามมาตรา ๕๓ โดยคําพิพากษาถึงที'สุด ให้คณะ กรรมการสั'งเพิกถอนใบอนุญาตของผู้นั-นนับแต่วันที'ศาลมีคําพิพากษาถึงที'สุด

มาตรา ๔๙ ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพ การแพทย์แผนไทยประยุกต์ ซึ'งถูกสั'งเพิกถอนใบอนุญาตอาจขอรับใบอนุญาตอีกได้เมื'อพ้น สองปีนับแต่วันที'ถูกสั'งเพิกถอนใบอนุญาต แต่เมื'อคณะกรรมการได้พิจารณาคําขอรับใบ อนุญาตและปฏิเสธการออกใบอนุญาต ผู้นั-นจะยื'นคําขอรับใบอนุญาตในครั-งต่อ ๆ ไปได้อีก ต่อเมื'อสิ-นระยะเวลาหนึ'งปีนับแต่วันที'คณะกรรมการปฏิเสธการออกใบอนุญาต

หมวด ๖ พนักงานเจ้าหน้าที'

มาตรา ๕๐ ในการปฏิบัติหน้าที'ให้พนักงานเจ้าหน้าที'มีอํานาจดังต่อไปนี-

เข้าไปในสถานที'ทําการของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ในเวลาทําการของสถานที'นั-น เพื'อตรวจสอบ หรือควบคุมให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี-

เข้าไปในสถานที'หรือยานพาหนะใด ๆ ที'มีเหตุอันควรสงสัยว่า จะมี การกระทําความผิดตามพระราชบัญญัตินี- ในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ-นถึงพระอาทิตย์ตก หรือในเวลาทําการของสถานที'นั-นเพื'อตรวจค้นเอกสารหรือวัตถุใด ๆ ที'อาจใช้เป็นหลักฐาน ในการดําเนินการกระทําผิดตามพระราชบัญญัตินี- ประกอบกับกรณีมีเหตุอันควรเชื'อได้ว่า หากเนิ'นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้ เอกสารหรือวัตถุดังกล่าวจะถูกยักย้าย ซุกซ่อน ทําลายหรือทําให้เปลี'ยนสภาพไปจากเดิม

ยึดเอกสาร หรือวัตถุใด ๆ ที'อาจใช้เป็นหลักฐานในการดําเนินคดีการก ระทําความผิดตามพระราชบัญญัตินี- ในการปฏิบัติหน้าที'ของพนักงานเจ้าหน้าที'ตามวรรคหนึ'ง ให้บุคคลที' เกี'ยวข้องอํานวยความสะดวกตามสมควร

มาตรา ๕๑ ในการปฏิบัติหน้าที' พนักงานเจ้าหน้าที'ต้องแสดงบัตรประจํา

ตัว บัตรประจําตัวพนักงานเจ้าหน้าที'ให้เป็นไปตามแบบที'รัฐมนตรีกําหนดโดย ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

มาตรา ๕๒ ในการปฏิบัติหน้าที' ให้พนักงานเจ้าหน้าที'เป็นเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา

หมวด ๗ บทกําหนดโทษ

มาตรา ๕๓ ผู้ใดฝ'าฝ스นมาตรา ๓๑ หรือมาตรา ๔๗ ต้องระวางโทษจําคุก ไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื'นบาท หรือทั-งจําทั-งปรับ

มาตรา ๕๔ ผู้ใดฝ'าฝ스นมาตรา ๓๒ หรือมาตรา ๓๓ ต้องระวางโทษจําคุก ไม่เกินหนึ'งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื'นบาท หรือทั-งจําทั-งปรับ

มาตรา ๕๕ ผู้ใดฝ'าฝ스นมาตรา ๓๕ วรรคสาม หรือไม่อํานวยความสะดวก แก่พนักงานเจ้าหน้าที'ตามมาตรา ๕๐ วรรคสอง มีความผิดทางพินัยต้องชําระค่าปรับเป็น พินัยไม่เกินสองพันบาท*

[*มาตรา ๓๙ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี'ยนความผิดอาญาที'มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่า อัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย]

มาตรา ๕๖ ผู้ใดไม่มาให้ถ้อยคําหรือไม่ส่งเอกสารหรือวัตถุใด ๆ ตามที' เรียกหรือแจ้งให้ส่งตามมาตรา ๔๒ โดยไม่มีเหตุอันควร ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ'ง เดือนหรือปรับไม่เกินหนึ'งพันบาท หรือทั-งจําทั-งปรับ

มาตรา ๕๗ พนักงานเจ้าหน้าที'ผู้ใดฝ'าฝ스นมาตรา ๕๑ วรรคหนึ'ง โดยไม่มี เหตุอันควรมีความผิดทางพินัยต้องชําระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกินสองพันบาท*

[*มาตรา ๓๙ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี'ยนความผิดอาญาที'มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่า อัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย] บทเฉพาะกาล

มาตรา ๕๘ ผู้ใดได้ขึ-นทะเบียนและรับใบอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบโรค ศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยหรือสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ตามกฎหมายว่าด้วย การประกอบโรคศิลปะอยู่ในวันที'พระราชบัญญัตินี-ใช้บังคับ ให้ถือว่าผู้นั-นเป็นสมาชิกสภา การแพทย์แผนไทยตามพระราชบัญญัตินี-

มาตรา ๕๙ ผู้ใดได้ขึ-นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนไทยหรือสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ตามกฎหมายว่าด้วยการ ประกอบโรคศิลปะ และใบอนุญาตนั-นยังคงใช้ได้ในวันที'พระราชบัญญัตินี-ใช้บังคับ ให้ถือว่า ผู้นั-นได้ขึ-นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้

ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ตามพระราชบัญญัตินี-

มาตรา ๖๐ ให้นําความในมาตรา ๔๙ มาใช้บังคับกับผู้ประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนไทยและผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ตาม กฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะ ซึ'งถูกสั'งเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรค ศิลปะในวันก่อนวันที'พระราชบัญญัตินี-ใช้บังคับ ที'จะยื'นคําขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบ วิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ตามพระราช

บัญญัตินี-ด้วย

มาตรา ๖๑ ในระยะเริ'มแรกที'ยังมิได้เลือกกรรมการตามมาตรา ๑๕ (๒) (๓) (๔) และเลือกตั-งกรรมการตามมาตรา ๑๕ (๕) ให้คณะกรรมการประกอบด้วย ปลัด กระทรวงสาธารณสุข เป็นนายกสภาการแพทย์แผนไทย อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เลขาธิการคณะกรรมการ อาหารและยา เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ประธานและรองประธานคณะ กรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทย และประธานและรองประธานคณะกรรมการ วิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะที'ดํารง ตําแหน่งอยู่ในวันที'พระราชบัญญัตินี-ใช้บังคับ และนายกสมาคมแพทย์แผนไทยแห่ง ประเทศไทยเป็นกรรมการ

ให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขแต่งตั-งกรรมการตามวรรคหนึ'ง ทําหน้าที' เลขาธิการ รองเลขาธิการ เหรัญญิกและผู้ดํารงตําแหน่งอื'น ตามความจําเป็น การเลือกกรรมการตามมาตรา ๑๕ (๒) (๓) และ (๔) และการเลือกตั-ง กรรมการตามมาตรา ๑๕ (๕) ให้กระทําให้แล้วเสร็จภายในหนึ'งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที' พระราชบัญญัตินี-ใช้บังคับ เพื'อประโยชน์แห่งการขจัดส่วนได้เสีย ในวาระแรกห้ามมิให้ผู้ที'เป็น กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติวิชาชีพการแพทย์แผนไทยในชั-นสภาผู้ แทนราษฎรและวุฒิสภาดํารงตําแหน่งนายกสภาการแพทย์แผนไทย และเลขาธิการสภา การแพทย์แผนไทย ภายในสองปีนับแต่วันที'พ้นจากตําแหน่งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว

มาตรา ๖๒ ในระหว่างที'ยังมิได้ออกกฎกระทรวง ระเบียบ ข้อบังคับ หรือ ประกาศเพื'อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี- ให้นํากฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที' ออกตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะในส่วนที'เกี'ยวกับวิชาชีพการแพทย์แผนไทย มาใช้บังคับโดยอนุโลม แต่ต้องไม่เกินสองปีนับแต่วันที'พระราชบัญญัตินี-ใช้บังคับ

มาตรา ๖๓ ให้ถือว่าการประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพหรือข้อ จํากัดและเงื'อนไขในการประกอบโรคศิลปะตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะใน ส่วนที'เกี'ยวกับวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ซึ'งได้กระทําก่อนวันที'พระราชบัญญัตินี-ใช้บังคับ และยังไม่มีการดําเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะ เป็นการประพฤติผิด จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพหรือข้อจํากัดและเงื'อนไขในการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผน ไทยและการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ตามพระราชบัญญัตินี-และการ ดําเนินการต่อไปให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี-

ในกรณีที'มีการดําเนินการกับผู้ประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพหรือ ข้อจํากัดและเงื'อนไขในการประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยและสาขาการแพทย์ แผนไทยประยุกต์ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะก่อนวันที'พระราชบัญญัตินี-ใช้ บังคับ ให้ถือว่าการดําเนินการดังกล่าวเป็นการดําเนินการตามพระราชบัญญัตินี- และการ ดําเนินการต่อไปให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี- ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ยิ'งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อัตราค่าธรรมเนียมวิชาชีพการแพทย์แผนไทย

ค่าขึ-นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ การแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์ แผนไทยประยุกต์ ฉบับละ ๓,๐๐๐ บาท

ค่าต่ออายุใบอนุญาต ฉบับละ ๒,๐๐๐ บาท

ค่าหนังสือรับรองการขึ-นทะเบียนเป็นผู้ประกอบ วิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพ การแพทย์แผนไทยประยุกต์

ค่าหนังสืออนุมัติ หรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชํานาญ ฉบับละ ๕๐๐ บาท ในการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือ การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ฉบับละ ๒,๐๐๐ บาท

๕ พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที' ๑๙) พ.ศ. ๒๕๖๒

ค่าใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ ๕๐๐ บาท หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี- คือ โดยที'การประกอบโรค ศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยและสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ อยู่ในความควบคุม ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะ ซึ'งมีคณะกรรมการการประกอบโรคศิลปะ ทํา หน้าที'กํากับดูแลการประกอบโรคศิลปะต่าง ๆ และมีคณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์ แผนไทยและสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ทําหน้าที'ควบคุมการประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนไทยและสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ รวมทั-งจรรยาบรรณแห่ง วิชาชีพ ซึ'งในปVจจุบันจํานวนผู้ประกอบโรคศิลปะในสาขาการแพทย์แผนไทยและสาขาการ แพทย์แผนไทยประยุกต์มีจํานวนเพิ'มมากขึ-นประกอบกับมีบุคลากรเหล่านี-มีคุณสมบัติ วัย วุฒิ ความรู้ความชํานาญด้านวิชาชีพแพทย์แผนไทยและวิชาชีพแพทย์แผนไทยประยุกต์ อีก ทั-งในปVจจุบันวิทยาการและเทคโนโลยีทางด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนไทย ประยุกต์ ได้เจริญก้าวหน้าขึ-นเป็นอันมาก และมีศักยภาพเพียงพอที'จะปกครองตนเองได้ใน วงการแพทย์แผนไทยด้วยกัน อีกทั-งเพื'อให้เป็นการสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราช อาณาจักรไทย ที'ให้บุคคลมีเสรีภาพในการประกอบกิจการหรือประกอบอาชีพและการ แข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรม รวมตลอดจนให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยตรง จึงสมควรแยกการกํากับดูแลและการควบคุมการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและ การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ออกจากอํานาจหน้าที'ของคณะกรรมการ การประกอบโรคศิลปะและคณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทยและสาขาการ แพทย์แผนไทยประยุกต์ โดยจัดตั-ง “สภาการแพทย์แผนไทย” ขึ-น เพื'อส่งเสริมการประกอบ วิชาชีพการแพทย์แผนไทยและการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ กําหนด และควบคุมมาตรฐานและจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและผู้ ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ให้เป็นไปตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพการ แพทย์แผนไทยและควบคุมมิให้มีการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากบุคคลซึ'งไม่มีความรู้ อันก่อให้เกิดภัยและความเสียหายแก่ประชาชน พร้อมกับเป็นการสนับสนุน ส่งเสริม พัฒนา ให้วิชาชีพการแพทย์แผนไทยมีความเจริญก้าวหน้าในภายภาคหน้าต่อไป จึงจําเป็นต้อง ตราพระราชบัญญัตินี-

มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี-ให้ใช้บังคับตั-งแต่วันถัดจากวันประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๑๖ บรรดาบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คําสั'ง และมติของคณะรัฐมนตรีใดที'ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที'พระราชบัญญัตินี- ใช้บังคับ อ้างถึง “กระทรวงศึกษาธิการ” “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ” “ปลัด กระทรวงศึกษาธิการ” หรือผู้ดํารงตําแหน่งหรือผู้ปฏิบัติหน้าที'ในกระทรวงศึกษาธิการ หาก เกี'ยวกับการอุดมศึกษาหรือการจัดตั-งสถาบันอุดมศึกษา ซึ'งอยู่ในอํานาจหน้าที'ของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้ถือว่าบทบัญญัตินั-นอ้างถึง “กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม” “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม” “ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม” หรือผู้ดํารงตําแหน่งหรือผู้ปฏิบัติหน้าที'ในกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตามพระราชบัญญัตินี- แล้วแต่กรณี

ให้เปลี'ยนแปลงองค์ประกอบของสภาหรือคณะกรรมการตามกฎหมายที' เกี'ยวข้องกับการโอนสํานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ไปเป็น ส่วนราชการตามมาตรา ๑๐ วรรคสอง เพื'อให้สอดคล้องกับการโอนอํานาจหน้าที'และการ เปลี'ยนแปลงผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี- ทั-งนี- ตามที'กําหนดในบัญชี ๔ ท้ายพระราช บัญญัตินี- ความในวรรคหนึ'งและวรรคสองไม่ใช้บังคับแก่สถาบันการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ที'จัดตั-งขึ-นตามกฎหมายว่าด้วยการอาชีวศึกษา

มาตรา ๑๗ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี- พระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี- คือ โดยที'การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นกลไกสําคัญในการพัฒนาประเทศให้เจริญเติบโต อย่างมั'นคง มั'งคั'ง และยั'งยืน เพื'อรองรับความเปลี'ยนแปลงของโลกที'จะเกิดขึ-นในอนาคต สมควรจัดตั-งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมขึ-น เพื'อให้มีการบู รณาการ การเรียนการสอน การวิจัย และการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศาสตร์อื'นเข้าด้วยกัน และให้เกิดความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที'ระหว่าง สถาบันอุดมศึกษาและสถาบันวิจัยในทิศทางที'สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผน และ นโยบายในการพัฒนาประเทศ จึงจําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี-

มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี-ให้ใช้บังคับเมื'อพ้นกําหนดสองร้อยสี'สิบวัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป เว้นแต่บทบัญญัติแห่งมาตรา ๓๗ และ มาตรา ๓๘ วรรคหนึ'ง ให้ใช้บังคับตั-งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้น ไป

มาตรา ๔ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี- และมีอํานาจ ออกกฎกระทรวงเพื'อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี-

กฎกระทรวงนั-น เมื'อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้ มาตรา ๓๙ เมื'อพ้นกําหนดสามร้อยหกสิบห้าวันนับแต่วันที'พระราช บัญญัตินี-ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้เปลี'ยนความผิดอาญาที'มีโทษปรับสถานเดียว ตามกฎหมายในบัญชี ๑ ท้ายพระราชบัญญัตินี- เป็นความผิดทางพินัยตามพระราชบัญญัติ นี- และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาที'บัญญัติไว้ในกฎหมายดังกล่าว เป็นอัตราค่าปรับเป็น พินัยตามพระราชบัญญัตินี- หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี- คือ โดยที'มาตรา ๗๗ ของ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้บัญญัติให้รัฐพึงกําหนดโทษอาญาเฉพาะความผิด ร้ายแรง ประกอบกับแผนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายได้กําหนดให้มีการปรับปรุง กฎหมายในการกําหนดโทษอาญาให้เหมาะสมกับสภาพความผิดหรือกําหนดมาตรการ ลงโทษให้เหมาะสมกับการกระทําความผิด และฐานะของผู้กระทําความผิดเพื'อมิให้บุคคล ต้องรับโทษหนักเกินสมควร หรือต้องรับภาระในการรับโทษที'แตกต่างกันอันเนื'องมาจาก ฐานะทางเศรษฐกิจที'แตกต่างกัน เนื'องจากกรณีที'กฎหมายกําหนดโทษปรับ ผู้มีฐานะทาง เศรษฐกิจดีย่อมสามารถชําระค่าปรับได้ แต่ผู้มีฐานะยากจนและไม่อยู่ในฐานะที'จะชําระค่า ปรับได้จะถูกกักขังแทนค่าปรับอันกระทบต่อศักดิ'ศรีความเป็นมนุษย์อย่างรุนแรง ประกอบ กับเมื'อคํานึงถึงข้อห้ามหรือข้อบังคับที'กฎหมายกําหนดให้ประชาชนต้องปฏิบัติหรือไม่ ปฏิบัติแล้ว จะพบว่ามีข้อห้ามหรือข้อบังคับจํานวนมากอาจรุกล\าเข้าไปในสิทธิพื-นฐานหรือ สร้างภาระอันเกินสมควรแก่ประชาชน และนับวันจะมีกฎหมายตราออกมากําหนดการ กระทําให้เป็นความผิดมากขึ-น หลายกรณีทําให้ประชาชนกลายเป็นผู้กระทําความผิดเพรารู้ เท่าไม่ถึงการณ์ บางกรณีกระทําไปเพราะความยากจนเหลือทนทาน และเมื'อได้กระทํา ความผิดแล้ว ก็ต้องถูกนําตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา เช่น ถูกจับกุม คุมขัง พิมพ์ลายนิ-วมือ และลงบันทึกประวัติอาชญากรเป็นประวัติติดตัวตลอดไป และในที'สุดไม่ว่า ผู้นั-นจะเป็นผู้กระทําความผิดหรือไม่ กระบวนการที'กล่าวมาย่อมสร้างรอยด่างให้เกิดแก่ ศักดิ'ศรีความเป็นมนุษย์อย่างหลีกเลี'ยงไม่ได้ ถ้ามีทางใดที'จะป.,องกันมิให้ประชาชนจะต้อง ตกเข้าสู่กระบวนการนั-นได้ จะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนและขจัดความเหลื'อมล\าในสังคม ลงได้ตามสมควร แม้ว่าการกําหนดมาตรการอันเป็นโทษที'ผู้กระทําการอันเป็นการฝ'าฝ스น หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเป็นสิ'งจําเป็นที'จะต้องมีเพื'อให้กฎหมายมีสภาพบังคับ แต่โทษ นั-นก็ไม่จําเป็นต้องใช้โทษอาญาเสมอไป ซึ'งนานาประเทศได้เริ'มปรับเปลี'ยนบทลงโทษจาก ความผิดอาญาเป็นมาตรการอื'นที'มิใช่โทษอาญามากขึ-น รวมทั-งการใช้มาตรการอื'นแทน การลงโทษทางอาญา เช่น การคุมประพฤติกรณีจึงสมควรที'ประเทศไทยจะพัฒนากฎหมาย ไทยให้สอดคล้องกับนานาประเทศ และเกิดประโยชน์แก่ประชาชนยิ'งขึ-น โดยปรับเปลี'ยน โทษอาญาบางประการที'มุ่งต่อการปรับเป็นเงินตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติ เปลี'ยนเป็น มาตรการปรับเป็นพินัยที'สร้างขึ-นใหม่ไม่ให้มีสภาพเป็นโทษอาญา โดยกําหนดหลักเกณฑ์ให้ ใช้ดุลพินิจกําหนดค่าปรับที'ต้องชําระให้เหมาะสมกับสภาพความร้ายแรงแห่งการกระทํา และฐานะทางเศรษฐกิจของผู้กระทําความผิดให้สอดคล้องกัน และในกรณีที'ผู้กระทําความ ผิดไม่มีเงินชําระค่าปรับ อาจขอทํางานบริการสังคมหรือทํางานสาธารณประโยชน์แทนการ ชําระค่าปรับได้ โดยไม่มีการกักขังแทนค่าปรับดังเช่นที'เป็นอยู่ในคดีอาญา การเปลี'ยน สภาพบังคับไม่ให้เป็นโทษอาญาโดยกําหนดวิธีการดําเนินการขึ-นใหม่เป็นการเฉพาะนี- ย่อม จะช่วยทําให้ประชาชนที'ถูกกล่าวหาว่ากระทําความผิดไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการทางอาญา และไม่มีประวัติอาชญากรรมติดตัวอีกต่อไป การเปลี'ยนแปลงเช่นนี-จะเป็นกลไกทาง กฎหมายเพื'อสร้างความเป็นธรรมและขจัดความเหลื'อมล\าทางสังคมและส่งเสริมการบังคับ ใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพยิ'งขึ-น ตามเจตนารมณ์ของมาตรา ๗๗ และมาตรา ๒๕๘ ค. ด้านกฎหมาย (๑) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและแผนการปฏิรูปประเทศด้าน กฎหมาย นอกจากนั-น สําหรับกฎหมายบางฉบับที'กําหนดให้มีโทษทางปกครอง แต่บัญญัติ ให้ฟ.,องคดีต่อศาลที'มีเขตอํานาจในการพิจารณาคดีอาญาเพื'อบังคับชําระค่าปรับทาง ปกครองไว้แล้ว สมควรเปลี'ยนโทษดังกล่าวเป็นมาตรการปรับเป็นพินัยเช่นเดียวกัน จึง จําเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี- พิชญ์สินียา / Maker 13 กันยายน 2566 อรญา / Checker 14 กันยายน 2566 สถาพร / Authorizer 24 ตุลาคม 2566 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๐/ตอนที' ๑๐ ก/หน้า ๑/๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖

มาตรา ๑๕ แก้ไขเพิ'มเติมโดยพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที' ๑๙) พ.ศ. ๒๕๖๒

ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๖/ตอนที' ๕๗ ก/หน้า ๑/๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๙/ตอนที' ๖๖ ก/หน้า ๒๒/๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๕