로고

พระราชบัญญัติ สวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรามหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร พระราชทานไว้ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 เป็นปีที่ 4 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรามหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร พระราชทานไว้ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 26 ประกอบกับมาตรา 32 มาตรา 33 และมาตรา 40 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เหตุผลและความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ เพื่อให้การสงวน คุ้มครอง และรักษาทรัพยากรธรรมชาติของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และการจัดการสัตว์ป่า พันธุกรรมของสัตว์ป่า และทรัพยากรธรรมชาติที่เกี่ยวข้อง เป็นไปเพื่อประโยชน์อย่างสมดุลและยั่งยืน ซึ่งการตราพระราชบัญญัตินี้สอดคล้องกับเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา 26 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ตราพระราชบัญญัตินี้ไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติสวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562" มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา 3 ให้ยกเลิก (ก) พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 (ข) พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2557 (ค) พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 * จากที่มาจากน. เล่ม 136/ตอนที่ 37 ก/หน้า 1/24 พฤษภาคม 2562 มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้ “สัตว์ป่า” หมายความว่า สัตว์ทุกชนิดซึ่งโดยทั่วไปมักจะเกิดและดำรงชีวิตอยู่เป็นธรรมชาติอย่างเป็นอิสระ และให้หมายความรวมถึงเนื้อและซากของสัตว์เหล่านั้นด้วย แต่ไม่หมายความรวมถึงสัตว์ทางทะเลตามกฎหมายว่าด้วยสัตว์ทะเล สัตว์ที่ได้รับการอนุบาลในทางการค้าหรือการส่งออกซึ่งเป็นสัตว์ป่าในไซเตสด้วย และสัตว์ที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ของสัตว์ที่กล่าวมา “สัตว์ป่าในไซเตส” หมายความว่า สัตว์ป่าที่ระบุไว้ในบัญชีท้ายอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ และสัตว์ป่าอื่นที่ต้องมีมาตรการควบคุมที่เหมาะสมตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ “สัตว์ป่าคุ้มครอง” หมายความว่า สัตว์ป่าที่มีความสำคัญต่อการอนุรักษ์และการพัฒนาประชากรของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าในถิ่นที่แนวโน้มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา “ส่งออก” หมายความว่า นำหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร และให้หมายความรวมถึงนำสัตว์หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งสัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากสัตว์ป่า ที่เคยนำเข้ามาในราชอาณาจักรแล้ว “นำเข้า” หมายความว่า การนำสัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากสัตว์ป่าเข้ามาในราชอาณาจักร “ด้านทรัพยสัตว์ป่า” หมายความว่า ด้านทรัพยสัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่า “สวนสัตว์” หมายความว่า สถานที่ที่รวบรวมสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ ไว้และจัดแสดงไว้เพื่อประโยชน์ในการพักผ่อนหย่อนใจ การเรียน การศึกษา การวิจัย การอนุรักษ์ หรือการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าเพื่อประโยชน์แก่การสาธารณชน “พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า “อธิบดี” หมายความว่า อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรืออธิบดีกรมประมงเฉพาะที่เกี่ยวกับสัตว์น้ำ “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ ตลอดจนออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินกว่าที่กำหนดไว้ในท้ายพระราชบัญญัตินี้ หรือกำหนดการอื่นใดเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ค่าธรรมเนียมให้แตกต่างกันได้ตามลักษณะชนิด ชนิดพันธุ์ ประเภท หรือจำนวนของสัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากสัตว์ป่า หรือขนาด ลักษณะ หรือประเภทของกิจการหรือกิจกรรมที่ขอดำเนินการก็ได้ กฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศ เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้ หมวด ๑ สัตว์ป่า ส่วนที่ ๑ ประเภทสัตว์ป่า มาตรา ๕ ให้สัตว์ป่าตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติมบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ ให้แก้ไขโดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ในกรณีที่มีข้อร้องขัดความเห็นของของคณะกรรมการเห็นว่าสัตว์ป่าตัวใดรวมไปตามที่กำหนดในวรรคหนึ่งและวรรคสอง มีจำนวนเพิ่มขึ้นจนไม่สมควรแก่การคุ้มครองพันธุ์และไม่ควรนำมาเป็นสัตว์ป่าสงวนและอนุรักษ์ไว้ต่อไปของชาติ ต่อไป จะเสนอให้สัตว์ป่านั้นพ้นจากการเป็นสัตว์ป่าสงวนก็ได้ โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา มาตรา ๘ การกำหนดให้สัตว์ป่าชนิดใดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ให้กำหนดในกฎกระทรวงโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ มาตรา ๙ การกำหนดให้สัตว์ป่าคุ้มครองชนิดใดที่มีสภาพในการเป็นประโยชน์ในทางเศรษฐกิจเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่เพาะพันธุ์ได้ ให้กำหนดโดยประกาศของรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

มาตรา ๑๐ การกำหนดให้สัตว์ป่าชนิดใดเป็นสัตว์ป่าควบคุม ให้เป็นไปตามประกาศของรัฐมนตรี

มาตรา ๑๑ ในกรณีที่การพิจารณาของรัฐมนตรีตามมาตรา ๗ วรรคสอง กำหนดชนิดของสัตว์ป่าสงวนเพิ่มเติม ให้ผู้มีใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่าต้องยื่นคำขออนุญาตครอบครองสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่าตามชนิดที่เพิ่มขึ้นนั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในกำหนดเวลาที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยให้แสดงจำนวนของสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่าที่ครอบครองอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกากำหนดชนิดของสัตว์ป่าสงวนเพิ่มเติมมีผลใช้บังคับ และต้องแสดงหลักฐานการได้มาซึ่งสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่านั้นด้วย หากผู้ครอบครองสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่าดังกล่าวไม่ยื่นคำขออนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามวรรคหนึ่งแล้ว หากผู้ครอบครองสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่าดังกล่าวประสงค์จะครอบครองสัตว์ป่าสงวนหรือซากสัตว์ป่าสงวนนั้นต่อไป ให้พนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาออกใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวนดังกล่าวหรือใบอนุญาตครอบครองซากสัตว์ป่าสงวนนั้นให้

เมื่อได้รับรายการที่เกี่ยวข้องและพิจารณาแล้วว่าผู้ครอบครองสัตว์ป่าสงวนหรือซากสัตว์ป่าสงวนดังกล่าวมีสิทธิที่จะได้รับใบอนุญาตดังกล่าวตามที่เห็นสมควรโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมประสงค์จะทำลาย ขาย หรือโอนสัตว์ป่าสงวนดังกล่าวให้แก่รัฐเป็นปกติสุขตามที่เห็นสมควรโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมประสงค์จะทำลาย ขาย หรือโอนสัตว์ป่าสงวนดังกล่าวให้แก่รัฐเป็นปกติสุขตามที่เห็นสมควรโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมประสงค์จะทำลาย ขาย หรือโอนสัตว์ป่าสงวนดังกล่าวให้แก่รัฐเป็นปกติสุขตามที่เห็นสมควรโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม

มาตรา ๑๑ ในกรณีที่มีการออกกฎกระทรวงตามมาตรา ๙ กำหนดชนิดของสัตว์ป่าคุ้มครองเพิ่มเติม ให้นำความในมาตรา ๑๐ วรรคหนึ่งและวรรคสอง มาใช้บังคับแก่ผู้ที่มีในครอบครอง ซึ่งสัตว์ป่านั้น ซากสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าโดยอนุโลม ทั้งนี้จะต้องเป็นชนิดของสัตว์ป่าคุ้มครองที่กำหนดเพิ่มเติมอยู่ในวันที่กฎกระทรวงดังกล่าวมีผลใช้บังคับโดยปริยาย

ในกรณีที่ผู้ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองตามวรรคหนึ่งจะส่งสัตว์ป่า ซากสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าว ให้แก่ผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งและประกอบกิจการสวนสัตว์ตามมาตรา ๓๓ หรือสวนสัตว์ที่หน่วยงานของรัฐจัดตั้งตามกฎหมาย หรือจำหน่ายสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าวให้แก่ผู้รับใบอนุญาตค้าสัตว์ป่าคุ้มครองตามมาตรา ๒๙ ในกรณีดังกล่าว ให้ผู้ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าวแจ้งการส่งมอบสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดในระเบียบตามวรรคสอง

มาตรา ๑๔ ห้ามมิให้ผู้ใดเก็บ ทำอันตราย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าสงวน เว้นแต่เป็นการเสียสละซากสัตว์ป่าสงวนไว้ในครอบครองโดยถูกต้องตามพระราชบัญญัตินี้

ห้ามมิให้ผู้ใดเก็บ ทำอันตราย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครอง เว้นแต่เป็นซากของสัตว์ป่าคุ้มครองตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนดและได้เสียชีวิตไปตามปกติก่อนที่เจ้าหน้าที่ หรือเป็นซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยได้รับการอนุญาตจากอธิบดีตามพระราชบัญญัตินี้ การเก็บ ทำอันตราย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองตามวรรคสอง ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการรักษาแร่ธาตุอื่น และต้องดำเนินการตามข้อบังคับที่อธิบดีออกโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ขอรับใบอนุญาตและผู้รับใบอนุญาต หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาต อายุใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การโอนใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาตตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

มาตรา ๑๕ ห้ามมิให้ผู้ใดที่หรือปล่อยหรือปล่อยซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือสัตว์ป่าควบคุม หรือกระทำการใด ๆ ให้สัตว์นั้นพ้นจากการดูแลของตน

ความในวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับแก่ผู้ใดในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือสัตว์ป่าควบคุมที่ได้มาโดยถูกต้องตามพระราชบัญญัตินี้ หรือได้รับการอนุญาตจากอธิบดีให้ปล่อยสัตว์ป่านั้นสู่สภาพธรรมชาติ หรือให้ส่งสัตว์นั้นไปยังที่อื่นเพื่อการดูแล หรือทำการใด ๆ เพื่อประโยชน์แก่สัตว์นั้น และทั้งนี้ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด

มาตรา ๑๖ ในกรณีสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือสัตว์ป่าควบคุมที่ได้มาโดยถูกต้องตามพระราชบัญญัตินี้ มีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถเลี้ยงดูสัตว์ไปได้นั้นต่อไปได้ และซากสัตว์ของสัตว์ป่านั้นให้แก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือกรมประมงในกรณีที่สัตว์ป่านั้นเป็นสัตว์น้ำ ให้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยผู้ครอบครองสัตว์ป่านั้นจะต้องชำระค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์ป่านั้นแก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือกรมประมงแล้วแต่กรณี และให้สัตว์ป่านั้นเป็นของให้สัตว์ป่านั้นตกเป็นของแผ่นดิน

หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้ง การส่งมอบสัตว์ การรับมอบสัตว์ ค่าใช้จ่าย ค่าใช้จ่าย การชำระค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์ และการยกเว้นค่าใช้จ่ายดังกล่าว ให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือกรมประมงแล้วแต่กรณี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ทั้งนี้ การกำหนดค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์ต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์ที่เกิดขึ้นจริงโดยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และต้องไม่เป็นภาระแก่ผู้ครอบครองสัตว์จนเกินสมควร

ส่วนที่ ๓ การครอบครองสัตว์ป่า

มาตรา ๑๗ ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่านั้นลักษณะใด เว้นแต่

เป็นการครอบครองโดยผู้รับใบอนุญาตตั้งและประกอบกิจการสวนสัตว์ ตามมาตรา ๑๓ หรือสวนสัตว์ที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำหนดที่มิใช่ การครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองที่เพาะพันธุ์โดยผู้รับใบอนุญาตดำเนินกิจการ เพาะพันธุ์สัตว์ป่าตามมาตรา ๒๔ ที่มีไว้เพื่อการเพาะพันธุ์หรือได้มาจากการเพาะพันธุ์ หรือซากสัตว์ป่า ดังกล่าว (๓) เป็นกรณีตามมาตรา ๑๙ หรือมาตรา ๒๐

มาตรา ๑๙ ผู้ใดจะได้รับใบครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองที่เพาะพันธุ์ได้ตามมาตรา ๔ ที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้รับใบอนุญาตดำเนินการเพาะพันธุ์ หรือการครอบครองตามใบอนุญาตดังกล่าวในผู้รับใบอนุญาตดำเนินการตามมาตรา ๒๔ ให้ยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ขอรับใบอนุญาตและผู้รับใบอนุญาต หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาต อายุใบอนุญาต การต่ออายุ ใบอนุญาต การโอนใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาต ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๐ ผู้ใดจะมีไว้ในครอบครองสัตว์ป่าควบคุมตามมาตรา ๖ เฉพาะในกรณีที่ รัฐบาลประกาศกำหนดว่ารายการสัตว์ป่าดังกล่าว ให้แจ้งการครอบครองต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เว้นแต่ เป็นการครอบครองในสวนสัตว์ตามที่กำหนดไว้ในผู้รับใบอนุญาตดำเนินกิจการสวนสัตว์ตามมาตรา ๑๓ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการแจ้งการครอบครอง ให้เป็นไป ตามระเบียบที่อธิบดีกรมกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

มาตรา ๒๑ ในกรณีการครอบครองสัตว์ป่าควบคุมตามมาตรา ๖ ตามความในมาตรา ๑๙ หรือมาตรา ๒๐ ให้ผู้ครอบครองสัตว์ป่าควบคุมดังกล่าวอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าควบคุมตามมาตรา ๖ ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ภายในเวลาที่อธิบดีกรมกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งกำหนดเวลาดังกล่าวต้องไม่เกินกว่า สามสิบวัน หรือทั้งนี้แล้วแต่ให้สาระเหมาะสมแก่ความสำเร็จที่อธิบดีกรมเห็นสมควรไม่เกินกว่า สามสิบวัน

มาตรา ๒๒ ความในมาตรา ๑๙ มาตรา ๒๐ และมาตรา ๒๑ มิให้ใช้บังคับแก่ การช่วยเหลือสัตว์ป่าในสถาน สัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์ป่าคุ้มครองที่เพาะพันธุ์ได้ สัตว์ป่าควบคุมที่ ถูกทอดทิ้ง ตกอยู่ใน ป่วย หรืออ่อนแอ และได้รับการช่วยเหลือสัตว์ป่าแต่ไม่เกินเจตนาในหน้าที่ที่ ตามระเบียบที่อธิบดีกรมกำหนด

ส่วนที่ ๔ การนำเข้า ส่งออก หรือผ่านนำส่งสัตว์ป่า และซากของสัตว์ป่า

มาตรา ๒๓ ห้ามมิให้ผู้ใดนำเข้า หรือส่งออกสัตว์ป่าสงวน ซากสัตว์ป่าสงวน หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าสงวน เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากอธิบดี

การอนุญาตตามวรรคหนึ่งจะกระทำได้เฉพาะกรณีที่เป็นการกระทำเพื่อกิจการสวนสัตว์ของผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งและประกอบกิจการสวนสัตว์ตามมาตรา ๓๓ หรือสวนสัตว์ที่หน่วยงานของรัฐจัดตั้งตามหน้าที่ คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ขอรับใบอนุญาตและผู้รับใบอนุญาต หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาต อายุใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การโอนใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาต ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๓๕ ผู้ใดจะนำสัตว์ซึ่งออกซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ สัตว์ป่าควบคุม ซากสัตว์ป่าควบคุม หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าดังกล่าวเข้ามาในราชอาณาจักร จะกระทำได้เฉพาะกรณีที่เป็นการกระทำเพื่อกิจการสวนสัตว์ของผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งและประกอบกิจการสวนสัตว์ตามมาตรา ๓๓ หรือสวนสัตว์ที่หน่วยงานของรัฐจัดตั้งตามหน้าที่

ความในวรรคแรกมิให้ใช้บังคับแก่การนำเข้าซึ่งซากสัตว์ป่าควบคุม หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าดังกล่าว เพื่อใช้เฉพาะส่วนตัวตามชนิด ประเภท และจำนวนที่อธิบดีกำหนด คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ขอรับใบอนุญาตและผู้รับใบอนุญาต หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบรับรองและการออกใบรับรอง อายุใบรับรอง การต่ออายุใบรับรอง การโอนใบรับรอง และการออกใบแทนใบรับรอง ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๓๖ ในกรณีที่มีสัตว์ซึ่งออกซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์ป่าควบคุมที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ สัตว์ป่าควบคุม ซากสัตว์ป่าควบคุม หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าดังกล่าว ให้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจสัตว์ป่า

ระเบียบเกี่ยวกับด่านตรวจสัตว์ป่าให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๓๗ ให้ผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งและประกอบกิจการสวนสัตว์ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในใบอนุญาตโดยเคร่งครัด

มาตรา ๓๘ ผู้ใดได้รับใบอนุญาตให้นำเข้าหรือนำออกซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์ป่าควบคุม ซากสัตว์ป่าควบคุม หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าดังกล่าว ให้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจสัตว์ป่า

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตั้งกล่าว เมื่อมีการนำเข้าส่งหรือส่งออกซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์ป่าคุ้มครองที่เพาะพันธุ์ได้ สัตว์ป่าควบคุมซากสัตว์ป่าดังกล่าว หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าดังกล่าว ให้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจสัตว์ป่า โดยแสดงใบอนุญาตนำเข้าหรือส่งออก เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้วให้เคลื่อนย้ายต่อไปได้ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการแจ้งและการรับแจ้ง ให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

ส่วนที่ 5 การดำเนินกิจการเพาะพันธุ์สัตว์ป่า และการค้าสัตว์ป่า

มาตรา 24 ผู้ใดจะดำเนินกิจการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองที่เพาะพันธุ์ได้ตามมาตรา 8 หรือสัตว์ป่าควบคุมตามมาตรา 4 เฉพาะชนิดที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ต้องได้รับใบอนุญาตจากอธิบดี คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ขอรับใบอนุญาตและผู้รับโอนใบอนุญาต หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาต อายุใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การโอนใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาต ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 25 ห้ามมิให้ผู้ใดค้าสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง จากสัตว์ป่าดังกล่าว หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าดังกล่าว ตามมาตรา 8 เฉพาะชนิดที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด จากสัตว์ป่าดังกล่าว หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าดังกล่าว ต้องได้รับใบอนุญาตจากอธิบดี คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ขอรับใบอนุญาตและผู้รับโอนใบอนุญาต หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาต อายุใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การโอนใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาต ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ความในวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับแก่ผู้ได้รับใบอนุญาตดำเนินกิจการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าตามมาตรา 24 เฉพาะสัตว์ป่าที่เพาะพันธุ์ได้หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าดังกล่าว และการค้าสัตว์ป่าหรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าดังกล่าว ตามมาตรา 8 เฉพาะชนิดที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด จากสัตว์ป่าดังกล่าว หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าดังกล่าว โดยผู้ได้รับใบอนุญาตดำเนินกิจการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าตามมาตรา 24 ต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

มาตรา 26 การค้าสัตว์ป่าหรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าตามมาตรา 25 เฉพาะสัตว์ป่าหรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ต้องมีหลักฐานแสดงการได้มาซึ่งสัตว์ป่าหรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าดังกล่าวตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

ที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งกำหนดเวลาตั้งกล่าวจะต้องไม่น้อยกว่าสามสิบวัน พร้อมทั้งแผนบริหารจัดการตามมาตรฐานวิธีการที่อธิบดีกำหนดเป็นรายไม่ก่อนกำหนดดังกล่าวสิ้นสุด เมื่อมีคำสั่งของรับใบอนุญาตแล้ว ให้ดำเนินการเพาะพันธุ์ครุฑป่าตามคำสั่งดังกล่าว หรือคำสั่งควบคุม ซากสัตว์ป่าดังกล่าว หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าดังกล่าวต่อไปโดยนำคำร้องยินดี จะมีคำสั่งไม่อนุญาต

ส่วนที่ 6

การดำเนินการต่อสัตว์ป่าอันตราย

มาตรา 32 การกำหนดให้สัตว์ป่า ชนิด ประเภท หรือจำนวนใด เป็นสัตว์ป่าอันตราย ให้เป็นไปตามประกาศของรัฐมนตรี

ผู้ใดเลี้ยงสัตว์ป่าอันตรายหรือซากสัตว์ป่าอันตรายไว้ในครอบครอง ให้แจ้งต่อพนักงาน เจ้าหน้าที่และปฏิบัติตามมาตรการควบคุมสัตว์ป่าอันตรายหรือซากสัตว์ป่าอันตรายที่รัฐมนตรีกำหนด และในกรณีที่สัตว์ป่าอันตรายหรือซากสัตว์ป่าอันตรายดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล ทรัพย์สิน หรือสิ่งแวดล้อม ให้ผู้ครอบครองสัตว์ป่าอันตรายหรือซากสัตว์ป่าอันตรายดังกล่าวดำเนินการแก้ไขความเสียหาย หรือชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่บุคคล ทรัพย์สิน หรือสิ่งแวดล้อมดังกล่าวทันที ห้ามมิให้ผู้ใดพาสัตว์ป่าอันตรายหรือซากสัตว์ป่าอันตรายออกนอกเขตพื้นที่ที่กำหนด

หมวด 7

สวนสัตว์

มาตรา 33 ผู้ใดจะจัดตั้งและประกอบกิจการสวนสัตว์ต้องได้รับใบอนุญาตจากอธิบดี โดยยื่นขอการโครงการจัดตั้งและประกอบกิจการสวนสัตว์ บัญชีรายการชนิดและจำนวนสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่าที่มีหรือจะมีในครอบครองโดยต้องแสดงหลักฐานการได้มา พร้อมด้วยแผนที่แสดงที่ตั้ง แบบแปลน และแผนผังของสวนสัตว์

โครงการจัดตั้งและประกอบกิจการสวนสัตว์ และแบบแปลนและแผนผังของสวนสัตว์ตามวรรคหนึ่ง ต้องเป็นไปตามมาตรฐานการจัดการสวนสัตว์ที่อธิบดีกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่เห็นว่าโครงการจัดตั้งและประกอบกิจการสวนสัตว์ แบบแปลน หรือแผนผังที่ยื่นขอรับใบอนุญาตไม่เป็นไปตามมาตรฐานการจัดการสวนสัตว์ที่อธิบดีกำหนด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตแก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด หากแก้ไขปรับปรุงไม่ถูกต้องหรือไม่แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตทราบเป็นหนังสือ และให้ถือว่าคำขอรับใบอนุญาตนั้นเป็นอันตกไป มาตรฐานการจัดการสวนสัตว์ต้องมีอย่างน้อยดังต่อไปนี้ (ก) การจัดการสัตว์ป่าและจัดแสดงสัตว์ (ข) การดูแลด้านโภชนาการ (ฉ) การสุขาภิบาล การบำบัดน้ำเสีย การกำจัดของเสีย และการควบคุมโรค (ช) การดูแลรักษาสัตว์ (ซ) การจัดสวัสดิภาพสัตว์ (ฌ) ความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย (ญ) การปฏิบัติการและมาตรการฉุกเฉินต่าง ๆ

4

แนวทางการให้ความรู้หรือการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ขอรับใบอนุญาตและผู้รับใบอนุญาต หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต อยู่ในความดูแล การต่ออายุ ใบอนุญาต การโอนใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต และการออกหนังสือรับรอง ให้เป็นไปตามที่ กำหนดในกฎกระทรวง ในกรณีที่ผู้ขอรับใบอนุญาตใดนำสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่า ดังกล่าวซึ่งแสดงให้รับใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าว หรือใบรับรอง การครอบครองจากสัตว์ดังกล่าวมาด้วย การพิจารณารับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ ให้เป็นไปตาม ครอบครองสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าวตามกฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ดังกล่าวนั้นเมื่อเห็นสมควรแล้วไม่รับใบอนุญาตดังกล่าวและประกอบกิจการสถานที่

มาตรา ๓๘ ในระหว่างการตรวจสอบสัตว์ หรือการอนุญาตตามแนวทางที่กำหนด

และพันธุ์พืช กรมปศุสัตว์หรือสำนักงานอาจส่งเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบสัตว์หรือพันธุ์พืชดังกล่าว ไม่เป็นไปตามโครงการที่กำหนดและประกอบกิจการสถานที่ดังกล่าวตามที่กำหนดในกฎกระทรวง และส่งแบบแปลนและแผนที่ให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยผ่านเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องแจ้งการพิจารณาสถานที่แบบแปลนและแผนที่นั้นเป็นไปตามมาตรฐานการจัดการสถานสัตว์ ตามมาตรา ๓๗ หรือไม่ ทั้งนี้ หากไม่กลับเป็นหนังสือในวันดังกล่าวให้แจ้งให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ผล ภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตดำเนินการต่อไปได้ เจ้าพนักงานฯ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องการดำเนินการดังกล่าวแจ้งเป็นหนังสือให้เจ้าพนักงาน ทราบภายในกำหนดนั้นเป็นไปตามที่กำหนดไว้ หากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่แจ้งให้เจ้าพนักงาน ให้แจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าวให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ทราบและแจ้งให้เจ้าพนักงาน ดังกล่าว ให้ต้องตรวจสอบความถูกต้องต่อไป

มาตรา ๓๙ ในกรณีที่การประกอบกิจการสถานที่ดังกล่าว ให้ผู้ขอรับใบอนุญาต

และพันธุ์พืช กรมปศุสัตว์หรือสำนักงานตรวจสอบสัตว์หรือพันธุ์พืชดังกล่าวตามมาตรฐาน การจัดการสถานสัตว์ตามมาตรา ๓๗ ในกรณีที่ตรวจสอบความรู้รับใบอนุญาตได้ดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐาน การจัดการสถานสัตว์ตามมาตรา ๓๗ หรือมีข้อกำหนดในระยะเวลาที่กำหนดให้เป็นไปตามข้อกำหนด จำกุมแก่ประชาชน หรือก่อให้เกิดอันตรายหรือความทุกข์ทรมานแก่สัตว์ป่า ให้อธิบดีมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือให้ผู้รับใบอนุญาตแก้ไขปรับปรุงสภาพนั้นให้เหมาะสม ในกรณีที่สัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์ป่าควบคุม หรือซากสัตว์ป่าดังกล่าวที่อยู่ในความครอบครองมีจำนวนเพิ่มขึ้นหรือลดลง หรือในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือโอนกรรมสิทธิ์ซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์ป่าควบคุม หรือซากสัตว์ป่าดังกล่าวระหว่างผู้ครอบครอง ให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการให้แจ้งต่ออธิบดีหรือเจ้าพนักงานซึ่งอธิบดีมอบหมายภายในเจ็ดวัน ทั้งนี้ ตามระเบียบที่อธิบดีกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

มาตรา ๓๖ การประกอบกิจการสวนสัตว์ที่ไม่ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา ๓๔ หรือประกอบกิจการสวนสัตว์ทั้งที่ขาดอธิบดีการอนุญาตแห่งมาตรา ๓๕ ถือว่า เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย และต้องรับผิดทางแพ่ง สำหรับการประกอบกิจการสวนสัตว์แห่งนั้น และผู้ได้รับใบอนุญาตถูกสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตจนโดยฉับพลัน ให้ส่งเสริมการประกอบกิจการสวนสัตว์ที่เหมาะสมซึ่งควรดำเนินการให้เกิดกับการแก้ไขปรับปรุงให้เป็นไปตามที่ข้อบังคับกำหนดหรือให้ส่งเสริมการเลิกกิจการในอนุญาตดังกล่าวนั้น แล้วแต่กรณี

มาตรา ๓๗ ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดฝ่าฝืนและประกอบกิจการสวนสัตว์แห่งใดโดยประสงค์จะเลิกประกอบกิจการ ให้แจ้งเป็นหนังสือถึงอธิบดีราชการล่วงหน้าก่อนเลิกกิจการตามระเบียบที่อธิบดีมีกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ และให้นำความในมาตรา ๓๕ มาใช้บังคับกับการดำเนินการดังกล่าวด้วยหรือหากมีการยกเลิกการอนุญาตสวนสัตว์แห่งใดตามระเบียบที่อธิบดีมีกำหนด ให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการตามที่อธิบดีมอบหมายเพื่อให้เกิดกับการเลิกกิจการสวนสัตว์

มาตรา ๓๘ เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลสวนสัตว์ที่หน่วยงานของรัฐจัดตั้งตามหน้าที่ที่เกี่ยวกับการเปิดให้บริการสวนสัตว์ที่หน่วยงานของรัฐจัดตั้งตามหน้าที่ ให้หน่วยงานของรัฐดังกล่าวแจ้งการจัดตั้งสวนสัตว์ต่ออธิบดีเพื่อให้ตรวจสอบ หากพนักงานเจ้าหน้าที่พบว่าการจัดตั้งสวนสัตว์นั้นไม่เป็นไปตามแนวทางการบริหารจัดการสวนสัตว์ที่เหมาะสม ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้หน่วยงานของรัฐแห่งนั้นแก้ไขปรับปรุงให้เป็นไปตามแนวทางการบริหารจัดการสวนสัตว์ที่เหมาะสม และให้หน่วยงานของรัฐแห่งนั้นดำเนินการแก้ไขปรับปรุงสวนสัตว์แห่งนั้นให้เป็นไปตามมาตรฐานกิจการสวนสัตว์ ให้เสร็จสิ้นแจ้งหน่วยงานของรัฐให้แก้ไขกิจการสวนสัตว์

การดำเนินการตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีมีกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสวนสัตว์ป่า

หมวด ๓ คณะกรรมการสวนสัตว์และคุ้มครองสัตว์ป่า

มาตรา ๑๓๙ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า “คณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า” ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นรองประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อธิบดีกรมป่าไม้ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อธิบดีกรมศุลกากร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ อธิบดีกรมประมง และอธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นกรรมการ และมีผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ด้านนิเวศวิทยา ด้านนิติศาสตร์ หรือด้านอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีสัญชาติไทย ความเชี่ยวชาญ หรือมีประสบการณ์ในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านชนบทธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชุมชน หรือด้านกฎหมาย เป็นกรรมการ

ให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นกรรมการและเลขานุการ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามวรรคหนึ่ง ให้แต่งตั้งจากผู้แทนภาคประชาชนซึ่งรวมกันต้องไม่เกินห้าคน ทั้งนี้

มาตรา ๑๔๐ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้ ก. คุณสมบัติ (๑) มีสัญชาติไทย (๒) มีประสบการณ์หรือทำงานในด้านที่ได้รับการแต่งตั้งไม่น้อยกว่าห้าปี ข. ลักษณะต้องห้าม (๑) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ (๒) เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต (๓) เป็นผู้เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ (๔) เป็นเจ้าของหรือกรรมการในองค์กรซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการทำพรรคการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการองค์กรส่วนท้องถิ่นซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการทำพรรคการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมือง

มาตรา ๑๔๑ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการดำรงตำแหน่งคราวละสามปี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระได้กรณีดังต่อไปนี้ แต่ต้องดำรงตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะมีผู้ได้รับแต่งตั้งแทน (๑) ตาย (๒) ลาออก

มาตรา ๑๔๒ นอกจากกรณีการพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา ๑๔๑ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ (๑) ตาย (๒) ลาออก

คณะรัฐมนตรีให้ออก เพราะบกพร่องต่อหน้าที่ มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือหย่อนความสามารถ

ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๔๐

มาตรา ๔๓ ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ หรือในกรณีที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มขึ้นแทนที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นไปแล้วซึ่งวาระอยู่ในกำหนด ให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทนที่หรือเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มขึ้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นไปแล้ว เว้นแต่กรณีเพื่อรองรับให้เกิดจำนวนไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ

มาตรา ๔๔ การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม

ในการประชุมคณะกรรมการ ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถ้ารองประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ประธานเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม การวินิจฉัยชี้ขาดให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนใดมีส่วนได้เสียในเรื่องที่พิจารณาจะลงมติไม่ได้ ในกรณีคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด

มาตรา ๔๕ คณะกรรมการมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้

พิจารณาให้ความเห็นชอบกับการกำหนดพื้นที่เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า และการขยายหรือการเพิกถอนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า

เสนอแนะนโยบายและมาตรการที่จำเป็นเพื่อการคุ้มครองและดูแลรักษาสภาพธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า และพื้นที่ที่สมควูแก่การจัดการสัตว์ป่า

ให้ความเห็นชอบแผนแม่บทการบริหารจัดการการอนุรักษ์สัตว์ป่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า

กำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อการอนุรักษ์และแพร่พันธุ์สัตว์ป่า การศึกษาค้นคว้าด้านป่า และผลิตผลด้านการล่าสัตว์ป่า และการประกอบกิจการล่าสัตว์ป่า

พิจารณาให้ความเห็นชอบกับการกำหนดมาตรฐาน ระเบียบ หรือประกาศที่พระราชบัญญัตินี้กำหนดให้ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ

ให้คำปรึกษาอย่างรัฐมนตรีในเรื่องที่เกี่ยวกับสัตว์ป่า และปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่คณะรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีมอบหมาย

ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ

มาตรา ๔๖ ให้คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่คณะกรรมการมอบหมาย

การประชุมของคณะอนุกรรมการ ให้บังคับตามมาตรา ๔๔ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

หมวด 4

"เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า"

ส่วนที่ 1

การกำหนดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า

มาตรา 37 เมื่อปรากฏว่าในบริเวณพื้นที่ใดมีสภาพธรรมชาติของทรัพยากรต้องอนุรักษ์ไว้

ให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าอย่างปลอดภัย และรักษาไว้ซึ่งพันธุ์สัตว์ป่า ตลอดจนคุ้มครอง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือระบบนิเวศให้คงเดิม เพื่อประโยชน์ในการอนุรักษ์และคุ้มครอง สัตว์ป่า และความหลากหลายทางชีวภาพ ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการเสนอคณะรัฐมนตรีขอให้ความเห็นชอบโดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา และให้แผนที่แสดงแนวเขตของพื้นที่ดังกล่าว บริเวณพื้นที่ดังกล่าวให้เรียกว่า "เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า" เพื่อประโยชน์ของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ให้กรมอุทยานฯ คุ้มครองในพื้นที่ดังกล่าวเป็นไปตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้ ในเขตดังกล่าวอาจจะให้กำหนด มาตรการในเรื่องดังกล่าวไม่ต่ำกว่ามาตรการที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้

มาตรา 38 พื้นที่ที่กำหนดให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ต้องเป็นพื้นที่ที่มี

หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามกฎหมายว่าด้วยที่ดิน หรือเป็นพื้นที่ของรัฐ หรือเป็นของหน่วยงานของรัฐ หรือมีหน่วยงานของรัฐได้รับอนุญาตให้มีการใช้หรือทำประโยชน์ ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชขอความเห็นจากหน่วยงานของรัฐนั้นก่อน ในการกำหนดให้พื้นที่บริเวณใดเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ให้มีการพิจารณาคิดเห็น และการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย ชุมชนที่เกี่ยวข้อง และประชาชน เพื่อกำหนดแนวทางการจัดการ ดำเนินการ ทั้งนี้ ตามประกาศที่รัฐมนตรีกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

มาตรา 39 ในกรณีที่มีความเหมาะสมจำกัด สัตว์ป่า และพันธุ์พืชให้ทำการสำรวจ

พื้นที่ดังกล่าวแล้วเห็นว่ามีความเหมาะสมจะกำหนดเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตามมาตรา 37 ให้จัดทำ กรอบยุทธศาสตร์แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชตามความเหมาะสมของพื้นที่ดังกล่าว โดยให้กรมอุทยานฯ เสนอคณะกรรมการเพื่อพิจารณาและให้ความเห็นชอบก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอความเห็นชอบ ในการตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ในระหว่างการดำเนินการเพื่อกำหนดพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ตามมาตรา 37 ให้มาตรา 44 และมาตรา 45 ใช้บังคับกับพื้นที่ดังกล่าวโดยอนุโลม โดยให้กรมอุทยานฯ กำหนดมาตรการคุ้มครองพื้นที่ดังกล่าวตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ให้ถือว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่าตามพระราชบัญญัตินี้จนกว่าจะมีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่าแล้วเสร็จ

มาตรา 50 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดให้มีหลักเขต ป้าย เครื่องหมายแสดงแนวเขตเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเครื่องหมายอื่นที่จำเป็น เพื่อให้ประชาชนทราบว่าเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และอำนวยความสะดวกและให้ความปลอดภัยแก่ประชาชน

หลักเกณฑ์ วิธีการ และรูปแบบในการจัดให้มีหลักเขต ป้าย เครื่องหมายแสดงแนวเขต และเครื่องหมายอื่น ให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกำหนด

มาตรา 51 การขยายหรือการลดเขตของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าให้ดำเนินการโดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา และในกรณีนี้ในการขยายเขตของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ให้รวมถึงให้แผนที่แสดงแนวเขตที่เปลี่ยนแปลงไปในแบบท้ายพระราชกฤษฎีกาด้วย

ให้ถือความในมาตรา 48 มาตรา 44 มาตรา 45 และมาตรา 50 มาใช้บังคับแก่การขยายหรือการลดเขตของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยอนุโลม

ส่วนที่ 2 การคุ้มครอง บำรุง ดูแล และรักษาเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า

มาตรา 52 เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครอง บำรุง ดูแล และรักษาเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ให้จัดให้มีแผนการอนุรักษ์และคุ้มครองพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและแผนพัฒนาระบบนิเวศของทุนตามแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เมื่อร่วมกับแผนการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านั้น

แผนการอนุรักษ์และคุ้มครองพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตามวรรคหนึ่ง ต้องสอดคล้องกับแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์ป่าและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ตามมาตรา 25 (3) และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชประกาศกำหนด โดยอย่างน้อยต้องประกอบด้วยการรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย ชุมชนที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในการจัดทำแผน แผนการอนุรักษ์และคุ้มครองสัตว์ป่า การดูแลและการพัฒนาระบบนิเวศของทุนตามแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านั้น หรือทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมอื่นที่มีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินการในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านั้น

มาตรา 53 ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปในเขตพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายอื่นที่ต้องเข้าไปปฏิบัติการตามหน้าที่

ผู้ใดประสงค์จะเข้าไปในเขตพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ต้องยื่นคำขอรับอนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชตามแบบและหลักเกณฑ์ที่กำหนดในระเบียบที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกำหนด และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในใบอนุญาต หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการอนุญาตและการอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการฯ

มาตรา ๔๕ ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้ามมิให้บุคคลใดล่าสัตว์ป่า เก็บหรือทำอันตรายแก่รังของสัตว์ป่า หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของไข่ เว้นแต่จะกระทำเพื่อการสำรวจ การศึกษา การวิจัย หรือการทดลองทางวิชาการ และได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาต ให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

มาตรา ๔๖ ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้ามมิให้บุคคลใดกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้

กระทำให้หลักเขต ป้าย เครื่องหมายแสดงแนวเขต หรือเครื่องหมายอื่น ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้แสดงพระปรมาภิไธยย่อพร้อมคำว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประโยชน์สุข หรือรัชกาลที่ ๙ หรือรัชกาลที่ ๑๐ หรือข้อความอื่นใดที่แสดงว่า เป็นของทางราชการเสียหาย สูญหาย หรือไร้ประโยชน์

ติดหรือทิ้งครอบครองวัตถุที่มีควัน ก่อสร้าง เผาสิ่งใดๆ เผาป่า หรือทำด้วยประการใดให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติเดิม

เปลี่ยนแปลงทางน้ำหรือทำให้น้ำในลำน้ำ ลำคลอง หนอง บึง ทะเลสาบ เหือดแห้ง เปลี่ยนสี หรือเป็นพิษ

บันทึกหรือทำให้เกิดภาพแสงแห่งทางน้ำหรือทางบก

เก็บหา นำออกไป กระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพซึ่งไม้ ดิน หิน กรวด ทราย แร่ ปิโตรเลียม หรือทรัพยากรธรรมชาติ หรือซากดึกดำบรรพ์

นำสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่าเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือปล่อยสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่าออกไปจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เว้นแต่จะกระทำเพื่อการสำรวจ การศึกษา การวิจัย หรือการทดลองทางวิชาการ การถ่ายทำภาพยนตร์ วีดิทัศน์หรือสื่อสารสนเทศ การถ่ายภาพ การศึกษาธรรมชาติ การบำรุงรักษาโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน หรือเพื่อความปลอดภัยจากพิบัติภัย นาขนานหรือเจ้าหน้าที่ของอุทยานให้อนุญาตกระทำการตาม (๔) (๕) หรือ (๖) ในลักษณะเป็นรายพื้นที่ที่กำหนด ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวอยู่ในความควบคุมดูแลของพนักงานเจ้าหน้าที่ ไม่รวมการดำรงชีวิตตามธรรมชาติของสัตว์ป่าในสภาวะธรรมชาติ และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาต และการควบคุมดูแลตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

มาตรา ๔๗ ความในมาตรา ๔๕ มาตรา ๔๖ หรือมาตรา ๔๗ มิให้ใช้บังคับแก่การกระทำของพนักงานเจ้าหน้าที่ในกรณีดังต่อไปนี้

การกระทำเพื่อการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดของบุคคล หรือบุคคล หรือเพื่อรักษาสภาพธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม หรือเพื่อป้องกันอันตรายและภัยพิบัติ เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่กระทำโดยไม่ให้กระทบต่อสัตว์ป่าและพันธุ์พืชในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเพื่อการปฏิบัติหน้าที่

เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครอง ดูแลรักษา หรือบำรุงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือการสำรวจการศึกษา การวิจัย หรือการทดลองทางวิชาการ หรือเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อธรรมชาติ หรือเพื่อลดความปลอดภัย หรือให้ความรู้แก่ประชาชนโดยทั่วไป การดำเนินการของเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม (๑) พนักงานเจ้าหน้าที่อาจร้องขอให้เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐหรือบุคคลช่วยเหลือในการกระทำดังกล่าวก็ได้ และให้กระทำตามกระบวนการที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยสัตว์ป่า สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

มาตรา ๔๓ เพื่อให้การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติเป็นไปอย่างสมดุลและยั่งยืน หากพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ามีพื้นที่ใดที่ศึกษาเหมาะสมแล้วในการเก็บหา หรือใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของพื้นที่ดังกล่าวเพื่อกิจกรรมที่เหมาะสม และพื้นที่ดังกล่าวไม่กระทบต่อระบบนิเวศ สภาพธรรมชาติ และสัตว์ป่า หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอาจเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาเพื่อจัดทำโครงการหรือกิจกรรมที่เหมาะสมได้

หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขในการศึกษา จัดทำโครงการ การอนุญาต การเก็บหา หรือการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ ให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

หมวด ๕ เงินค่าบริการหรือเงินค่าตอบแทน

มาตรา ๔๔ เพื่อประโยชน์ในการรักษาสภาพการเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ ความปลอดภัย ความสะดวก ความเป็นระเบียบเรียบร้อย การให้บริการ และการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ให้หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

มาตรา ๕๔ เงินที่เรียกเก็บได้ตามมาตรา ๕๔ และเงินที่มีผู้บริจาค ไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน แต่ให้นำรายจ่ายแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเป็นรายรับในกองทุนรักษาพันธุ์ และบำรุงรักษาเขตห้ามล่าสัตว์ป่า หรือเขตหล่าสัตว์ป่า เพื่อการอนุรักษ์สัตว์ป่าและรักษาป่า ซึ่งแหล่งที่อยู่อาศัยรวมถึงแหล่งกินของสัตว์ป่า หรือเพื่อการช่วยเหลือเยียวยาสัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากสัตว์ป่า

มาตรา ๕๕ เงินตามมาตรา ๕๔ ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชนำไปใช้จ่ายเพื่อกิจการ ดังต่อไปนี้

ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการการอนุรักษ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า หรือเขตหล่าสัตว์ป่า ให้เป็นไปตามแผนที่คณะกรรมการกำหนดตามมาตรา ๕๔ (๓)

การคุ้มครอง ดูแล บำรุงรักษา หรือฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขตหล่าสัตว์ป่า หรือพื้นที่ซึ่งคณะกรรมการเห็นชอบให้เป็นพื้นที่เตรียมการที่เกี่ยวกับการสนับสนุน ส่งเสริม และรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในเขตนั้น

การวิจัยหรือศึกษาด้านที่ หรือการจัดการสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการอนุรักษ์ความสะอาด ความปลอดภัย การให้ความรู้ การศึกษาธรรมชาติของประชาชน

ค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือ รื้อถอน ย้ายสิ่งปลูกสร้าง หรือผู้ที่กระทำความผิดตามมาตรา ๒๔ (๓)

การคุ้มครอง ดูแล รักษา หรือช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ได้รับบาดเจ็บหรือสัตว์ป่าที่ถูกจับที่เป็นของแผ่นดินตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า หรือสัตว์ป่าที่มีเจ้าของหรือสัตว์ป่าที่มีบางคนเจ็บ ป่วย อ่อนแอ

การฝึกอบรม การศึกษา การวิจัย หรือการทดลองทางวิชาการของพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าและการอนุรักษ์สัตว์ป่า

เงินรางวัลการหรือเงินช่วยเหลือให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ หรืออาสาสมัครที่ได้รับบาดเจ็บ บาดเจ็บ เสียชีวิต หรือเป็นเงินช่วยเหลือในการต่อสู้คดีจากการปฏิบัติหน้าที่ใน การคุ้มครอง ดูแลรักษาเขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขตหล่าสัตว์ป่า หรือพื้นที่ซึ่งคณะกรรมการเห็นชอบให้เตรียมการกำหนดเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหรือเขตหล่าสัตว์ป่า หรือการปฏิบัติงานหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้

การช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสัตว์ป่า การใช้จ่ายเงินตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกำหนดโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง

มาตรา ๕๖ การเก็บรักษาและการเก็บรักษาเงินตามมาตรา ๕๔ ให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกำหนดโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง

หมวด ๖ เขตหล่าสัตว์ป่า

มาตรา 26 บริเวณพื้นที่ใดที่มีเป็นพื้นที่ดินที่มีหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดินหรือกฎหมายอื่นของบุคคลใด ให้แปลงพื้นที่ของบุคคลผู้นั้นของรัฐ ตามความจำเป็นในแหล่งที่อยู่อาศัยหรือแหล่งทำกินของสัตว์ป่าชนิดใดหรือบางชนิดหรือรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการจะกำหนดให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยหรือแหล่งทำกินของสัตว์ป่านั้นได้ โดยที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และให้แปลงพื้นที่แสดงแผนที่นั้นด้วย

เมื่อประกาศตามวรรคหนึ่งแล้วให้เจ้าพนักงานที่ดินจัดทำการรังวัดและทำแผนที่แสดงแปลงที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นไปตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่กฎหมายอื่นจะได้กำหนดไว้เป็นการเฉพาะในเรื่องดังกล่าวไว้ไม่ขัดต่อการที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้ ให้นำความในมาตรา 45 วรรคสองและวรรคสาม มาใช้บังคับในการกำหนดเขตตามลำดับสัตว์ป่าโคอุบลูโซม

มาตรา 27 ในกรณีที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชจะกำหนดให้พื้นที่ใดเป็นเขตแหล่งที่อยู่อาศัยตามมาตรา 26 หรือเขตแหล่งทำกินตามมาตรา 26 ให้ดำเนินการในมาตรา 45 มาใช้บังคับในการกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เดียวในการกำหนดเขตตามลำดับสัตว์ป่าโคอุบลูโซม

มาตรา 28 รายละเอียดวิธีการกำหนดเขตตามลำดับสัตว์ป่าไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนให้กระทำโดยประกาศของรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ในกรณีที่เป็นการประกาศหรือแก้ไขเพิ่มเติมเขตตามลำดับสัตว์ป่า ให้แสดงแผนที่แสดงแปลงที่ดินในพื้นที่นั้นด้วย

ให้นำความในมาตรา 45 วรรคสองและวรรคสาม มาใช้บังคับในการกำหนดเขตตามลำดับสัตว์ป่าโคอุบลูโซม

มาตรา 29 ให้ความในมาตรา 50 มาใช้บังคับในการจัดให้มีหลักเขต ป้าย หรือเครื่องหมายแสดงแนวเขตตามลำดับสัตว์ป่าโคอุบลูโซม

มาตรา 30 ภายใต้บังคับมาตรา 29 ในกรณีที่การกำหนดเขตตามลำดับสัตว์ป่าแห่งใดครอบคลุมบริเวณสถานที่ที่ใช้ในราชการ หรือเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์หรือประโยชน์ร่วมกันหน่วยงานของรัฐและประชาชนผู้มีสิทธิในประโยชน์ในพื้นที่ที่เป็นตามลำดับสัตว์ป่าแห่งใดได้ตามแนวทางรัฐมนตรีและผู้ครอบครองพื้นที่ตามลำดับสัตว์ป่าแห่งนั้นจะต้องทำให้เกิดผลกระทบต่อการพัฒนาหรือการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐหรือประชาชนผู้มีสิทธิในประโยชน์ในพื้นที่ที่เป็นตามลำดับสัตว์ป่าแห่งนั้นให้น้อยที่สุด ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการใช้ประโยชน์ดังกล่าวจะต้องให้เกิดผลกระทบหรือการพัฒนาหรือการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐหรือประชาชนผู้มีสิทธิในประโยชน์ในพื้นที่ที่เป็นตามลำดับสัตว์ป่าแห่งนั้นให้น้อยที่สุด ทั้งนี้ ในกรณีที่มีการใช้ประโยชน์ดังกล่าวจะต้องให้เกิดผลกระทบกระทบหรือการพัฒนาหรือการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐหรือประชาชนผู้มีสิทธิในประโยชน์ในพื้นที่ที่เป็นตามลำดับสัตว์ป่าแห่งนั้นให้น้อยที่สุด

มาตรา 31 เมื่อมีประกาศของคณะรัฐมนตรีกำหนดให้พื้นที่ตามลำดับสัตว์ป่าบางส่วนในประเทศใดแล้ว ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการ ดังต่อไปนี้

1

สร้างที่อยู่อาศัยหรือสิ่งปลูกสร้างอื่น หรือแก้ไขหรือดัดแปลงสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ตามลำดับสัตว์ป่าแห่งใด เว้นแต่จะได้รับอนุญาต

ตัด โค่น แผ้วถาง เผา ทำลาย ชำต้นหรือพฤกษชาติอื่น หรือทำลาย ทำให้เสื่อมสภาพขุด เก็บ ล้มล้าง ดิน กรวด ทราย ลูกรัง ของป่า หรือทรัพยากรธรรมชาติ หรือสิ่งมีชีวิต หรือปล่อยสัตว์หรือสิ่งต่าง ๆ หรือเปลี่ยนแปลงทางน้ำ หรือทำให้เกิดน้ำขัง ลำราง หนอง บึง หล่มหิน หรือที่ดินแห่ง เป็นเหตุให้ทรัพยากรในเขตอุทยานแห่งชาติสูญเสียหรือเสื่อมสภาพ เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือมีข้อยกเว้นตามกฎหมายเฉพาะด้าน สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ประกาศหายไปแล้วในราชกิจจานุเบกษา ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติที่มีการกำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่การกระทำของพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานอื่นที่มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการหรือปฏิบัติการเพื่อประโยชน์ในการสำรวจ การศึกษา การวิจัย หรือการทดลองทางวิชาการ หรือการคุ้มครอง รักษาพยาบาลหรือสัตว์ป่า แต่ต้องปฏิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืชกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

มาตรา ๓๔ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครอง บำรุง ดูแล และรักษาเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ดังต่อไปนี้

ดูแลรักษาที่ปฏิบัติส่วนในเขตที่อยู่ภายใน และเขตที่กำหนดของสัตว์ป่าให้เกิดความยั่งยืน

ให้คำแนะนำรูปแบบการอนุรักษ์และคุ้มครองสัตว์ป่า

มาตรา ๓๕ ในกรณีมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อประโยชน์ในการจัดการพื้นที่สัตว์ป่าอย่างยั่งยืนตามหลักเกณฑ์ที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกำหนด โดยอย่างน้อยต้องประกอบด้วยแผนการอนุรักษ์และคุ้มครองสัตว์ป่าในเขตพื้นที่ที่อยู่ภายในและเขตที่กำหนดสัตว์ป่า การดูแลควบคุมและป้องกันผลกระทบจากการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวของระบบนิเวศ หรือเป็นที่สำรวจประโยชน์หรือประโยชน์ประชาชนในเขตพื้นที่ดังกล่าวสัตว์ป่า

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ถือมีมติร่วมจากคณะกรรมการให้บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ควบคุมเพื่อการจัดการสัตว์ป่าชนิดหรือประเภทนั้น ให้โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาและเรียกพื้นที่ตามชนิดหรือประเภทดังกล่าวในประกาศนั้นว่า "ประกาศกำหนดพื้นที่ที่ควบคุมเพื่อการจัดการสัตว์ป่าในวงศ์วานนั้น" ให้กำหนดระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดให้ชัดเจน โดยต้องไม่เกินสองปี และในกรณีสมควรจำเป็น อธิบดีอาจประกาศขยายระยะเวลาการกำหนดพื้นที่ที่ควบคุมเพื่อการจัดการสัตว์ป่าได้คราวละไม่เกินหนึ่งร้อยแปดสิบวัน โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในพื้นที่ที่ควบคุมเพื่อการจัดการสัตว์ป่า ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปดูแล รักษาพันธุ์ และเก็บหามาตรการควบคุมหรือออกคำสั่งห้ามหรือกำหนดเงื่อนไขในการทำกิจกรรมใด ๆ ในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อการจัดการสัตว์ป่าโดยคำนึงถึงความจำเป็นและเหมาะสม และหากพนักงานดังกล่าวมีมูลมีเหตุอันควรเชื่อหรือครอบครองอยู่โดยชอบด้วยกฎหมาย ให้จัดดำเนินการให้เหมาะสมตามคำสั่งของคำสั่งของเจ้าหน้าที่ด้วย หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจ่ายค่าเสียหายหรือค่าใช้จ่ายจากเขตอาณาวรรณะตามให้เป็นไปตามระเบียบหรือข้อบังคับที่คณะกรรมการเห็นชอบของคณะกรรมการ

หมวด ๗ การใช้ประโยชน์จากทางหากทางชีวภาพ

มาตรา ๒๗ ผู้เก็บ รวบรวม จัดหา หรือรวบรวมพันธุ์ไม้ พันธุ์สัตว์ป่า หรือส่วนที่เกี่ยวข้องของพันธุ์ไม้หรือพันธุ์สัตว์ป่าดังกล่าว รวมถึงการนำมาหรือการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร หรือการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เพื่อการศึกษาหรือการวิจัยต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการ หรือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตามมาตรา ๒๘ ซึ่งต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของคณะกรรมการ การแบ่งผลประโยชน์จากผลการศึกษาหรือวิจัยจากทางหากทางชีวภาพในเขตศึกษา พันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่าให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น

หมวด ๘ การควบคุมและพนักงานเจ้าหน้าที่

มาตรา ๒๘ ความในมาตรา ๒๑ มาตรา ๒๓ วรรคหนึ่งและวรรคสอง มาตรา ๒๔ มาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ มาตรา ๒๗ มาตรา ๒๘ มาตรา ๒๙ มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๑ และมาตรา ๓๒ ให้ใช้บังคับแก่การศึกษา การวิจัย หรือการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ป่า การป้องกันหรือแก้ไขภัยอันตรายแก่ประชาชนหรือสัตว์ หรือเพื่อเสริมกิจกรรมการเพาะพันธุ์สัตว์ป่า หรือเพื่อเสริมกิจกรรมการอนุรักษ์สัตว์ป่าให้เกิดความใน

มาตรา ๑๒ มาตรา ๑๔ มาตรา ๑๕ วรรคหนึ่งและวรรคสอง มาตรา ๑๕ มาตรา ๑๗ มาตรา ๑๘ มาตรา ๑๙ มาตรา ๒๔ และมาตรา ๒๕ มาใช้บังคับแก่

การดำเนินการของหน่วยงานของรัฐตามภารกิจของหน่วยงานของรัฐที่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดี ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตและการอนุญาตให้เป็นตามระเบียบที่ออกโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการตามภารกิจของหน่วยงานของรัฐ โดยต้องปฏิบัติตามระเบียบที่ชื่อบังคับทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ออกโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

มาตรา ๑๔ ในกรณีที่มีการดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๒๗ เป็นต้นไป เพื่อประโยชน์แก่การส่งเสริมกิจการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำตามมาตรา ๒๗ หรือกิจการระบัดสัตว์ตามมาตรา ๑๓๓ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เรียกเก็บค่าใช้จ่าย ค่าบริการ หรือค่าตอบแทน และราคาสัตว์น้ำ ตามอัตราที่กำหนดในระเบียบซึ่งต้องจัดทำตามความเห็นชอบของคณะกรรมการ

มาตรา ๑๕ ในกรณีที่บุคคลใดประสงค์จะให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้นอกเวลาราชการหรือในสถานที่ราชการโดยปกติไม่ได้กำหนดไว้ ให้ยื่นคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่และต้องชำระค่าเกี่ยวเนื่องให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติราชการ รวมทั้งต้องชำระค่าอาหารและค่าที่พักให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติราชการ และใช้จ่ายจริงในการปฏิบัติราชการนั้น

การชำระค่าเกี่ยวเนื่อง ค่าอาหารและค่าที่พัก ค่าพาหนะเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่นตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราที่กำหนดในระเบียบ

มาตรา ๑๖ เมื่อปรากฏว่าผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองผู้ใดไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎกระทรวงหรือระเบียบที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ หรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตหรือใบรับรอง หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สั่งการตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือให้ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรอง แก้ไขหรือปฏิบัติให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด

มาตรา ๑๗ ให้ถือกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ให้ไปออกคำสั่งในเรื่องการเพิกถอนใบอนุญาตหรือใบรับรองตามมาตรา ๑๖ ให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตหรือใบรับรองดังกล่าวได้

การเพิกถอนใบอนุญาตหรือใบรับรองตามวรรคหนึ่ง ให้ดำเนินการโดยคำสั่งเป็นหนังสือแจ้งให้ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองทราบ และให้ถือว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นที่สุด

มาตรา ๑๘ ให้ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตหรือใบรับรองไว้ เมื่อปรากฏว่าผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองได้ปฏิบัติแก้ไขให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎกระทรวง หรือระเบียบที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ หรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตหรือใบรับรอง ให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจพิจารณาออกใบอนุญาตหรือใบรับรองใหม่ให้แก่ผู้ขอได้

มาตรา ๓๙ ในกรณีที่มีอธิบดีสั่งเพิกถอนใบอนุญาตหรือใบรับรอง ถ้าผู้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตหรือใบรับรองสัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์ป่าควบคุม หรือซากสัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากสัตว์ป่าควบคุมในครอบครองตามใบอนุญาตหรือใบรับรองที่ถูกเพิกถอนนั้น ให้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ให้เสร็จสิ้นภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ผู้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตหรือใบรับรอง

จำหน่าย ขาย หรือโอนสัตว์ป่าดังกล่าว ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์ป่าควบคุม หรือซากสัตว์ป่าควบคุมให้แก่รัฐหรือบุคคลที่ได้รับอนุญาตหรือใบรับรองตามพระราชบัญญัตินี้ หรือขายสัตว์ที่มีทะเบียนตามพระราชบัญญัตินี้

จำหน่าย ขาย หรือโอนสัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากสัตว์ป่าคุ้มครองที่เพาะพันธุ์ตามมาตรา ๒๘ ควบคุม หรือซากสัตว์ป่าควบคุมให้แก่บุคคลที่ดำเนินการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าคุ้มครองหรือเพาะพันธุ์สัตว์ป่าควบคุมตามมาตรา ๘ หรือสัตว์ป่าควบคุมให้ยื่นคำขอใบอนุญาตตามมาตรา ๘

กรณีที่มีประสงค์จะครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองที่เพาะพันธุ์ได้ตามมาตรา ๘ หรือซากสัตว์ป่าดังกล่าว ให้ยื่นคำขอใบอนุญาตตามมาตรา ๘

กรณีที่มีประสงค์จะครอบครองสัตว์ป่าควบคุมหรือซากสัตว์ป่าควบคุม ให้แจ้งการครอบครองตามมาตรา ๓๗ ในกรณีที่ผู้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตหรือใบรับรองดำเนินการไม่แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจดำเนินการตาม (๑) (๒) (๓) หรือ (๔) แทนผู้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตหรือใบรับรอง และให้ผู้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตหรือใบรับรองเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

มาตรา ๔๐ ใบอนุญาตหรือใบรับรองที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ ให้มีได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตหรือใบรับรอง ถ้าผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองประสงค์จะขอต่ออายุใบอนุญาตหรือใบรับรอง ให้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตหรือใบรับรองภายในกำหนดสามสิบวันก่อนใบอนุญาตหรือใบรับรองเดิมสิ้นอายุ เมื่อใบคำขอต่ออายุได้รับการพิจารณาอนุมัติ ให้ดำเนินการตามใบอนุญาตหรือใบรับรองเดิมต่อไปได้จนกว่าผู้มีอำนาจอนุญาตจะมีคำสั่งไม่ต่ออายุใบอนุญาตหรือใบรับรอง

ในกรณีที่ผู้มีอำนาจอนุญาตมีคำสั่งไม่ต่ออายุใบอนุญาตหรือใบรับรอง ถ้าผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองมีสัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์ป่าควบคุม หรือซากสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าควบคุมในครอบครองตามใบอนุญาตหรือใบรับรองที่ได้รับการต่ออายุใบอนุญาตหรือใบรับรองนั้น ให้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา ๓๙ ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ผู้มีอำนาจอนุญาตมีคำสั่งไม่ต่ออายุใบอนุญาตหรือใบรับรอง และให้ผู้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

มาตรา ๔๑ ในการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ ดังต่อไปนี้

มีหนังสือเรียกบุคคลใดให้ถ้อยคำ หรือให้ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ (ข) เข้าไปในสถานประกอบการหรือสถานที่ใด ๆ ในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก หรือในเวลาทำการของสถานประกอบการหรือสถานที่นั้น เพื่อตรวจสอบและควบคุมให้การดำเนินงานตามพระราชบัญญัตินี้ (ค) ตรวจค้นสถานที่หรือยานพาหนะใด ๆ ในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตกในเวลาทำการของสถานที่นั้น ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้และกฎหมายอื่นซึ่งเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดดังกล่าวได้มีการซุกซ่อนสิ่ง หรือเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด (ง) ยึดหรืออายัดสิ่งของ วัตถุ สารเคมี วัตถุอันตราย เอกสารหรือหลักฐาน หรือวัตถุใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบหรือดำเนินคดี เมื่อตรวจค้น หรือยึดหรืออายัดตาม (ค) หรือ (ง) แล้ว ถ้าดำเนินการไม่แล้วเสร็จ จะกระทำต่อไปในเวลาหลังพระอาทิตย์ตกหรือเวลานอกเวลาทำการของสถานที่นั้นก็ได้

มาตรา ๔๓ ในกรณีที่มีการกระทำใด ๆ อันไม่เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่ง ดังต่อไปนี้

สั่งให้ผู้ที่อยู่ในสถานที่กระทำใด ๆ หรือสั่งให้ออกไปจากสถานที่นั้นหรือเขตปลอดภัยดังกล่าว

สั่งเป็นหนังสือให้ผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ระงับ ยับยั้ง แก้ไข หรือกระทำการใด ๆ เพื่อให้การกระทำดังกล่าวถูกต้องตามพระราชบัญญัตินี้ หรือสั่งให้ย้ายหรือเปลี่ยนแปลงเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิด

ยึด ทำลาย รื้อถอน แก้ไข หรือทำประกาศอื่น เมื่อผู้กระทำความผิดไม่ปฏิบัติตาม (๒) หรือไม่ปรากฏตัวผู้กระทำความผิด หรือผู้กระทำความผิดหลบหนีตัวไปพ้น

ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่เห็นสมควร ทั้งนี้ เพื่อป้องกันหรือระงับความเสียหายแก่ชีวิตร่างกายหรืออนามัยสาธารณะ หรือในกรณีที่เห็นว่าจำเป็นเหตุอันสมควร

มาตรา ๔๔ พนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่เห็นสมควรมีอำนาจเข้าไปตรวจในเวลาทำการได้กำหนดไว้ในมาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๓ ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน หรือจะต้องได้รับอนุญาตบุคคลใดก่อนดำเนินการ รวมทั้งจัดการปฏิบัติหน้าที่ และดูแลป้องกันการบุกรุกหรือทำลายสถานที่แต่ละระดับ ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ในกรณีการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวอาจแต่งตั้งหรือมอบหมายให้บุคคลอื่นทำหน้าที่แทนได้

มาตรา ๔๕ เพื่อประโยชน์ในการจับกุมผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานตำรวจตามอำนาจหน้าที่

มาตรา ๒๖ ในการจัดการแหล่งต้นน้ำที่พนักงานเจ้าหน้าที่หรือได้รับหรือสัตว์ป่าที่ตกเป็นของแผ่นดินตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า หรือสัตว์ป่าที่มีผู้ทอดทิ้ง หรือสัตว์ป่าที่บาดเจ็บ ป่วย อ่อนแอ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ช่วยเหลือ ดูแล รักษา ดำเนินการปล่อยสู่ธรรมชาติ ส่งคืนถิ่นกำเนิด โอน ทำลาย เอาไว้ใช้ในราชการ หรือจัดการอย่างหนึ่งอย่างใดแต่ต้องดำเนินการให้ดี

ในการช่วยเหลือ ดูแล รักษาสัตว์ป่าตามวรรคหนึ่ง พนักงานเจ้าหน้าที่อาจส่งตัวไปยังศูนย์เพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์ป่า สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า สถานีอนุรักษ์สัตว์ป่า สถานีวิจัยสัตว์ป่า สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ หรือสถานพยาบาลสัตว์ สถานเสาวภา หรือสถานที่ที่มีความเหมาะสมสำหรับการช่วยเหลือ ดูแล รักษาสัตว์ป่าได้ การจัดสภาพสัตว์ป่า หรือสถานพยาบาลสัตว์เพื่อช่วยเหลือ ดูแล รักษาสัตว์ป่าจะต้องดำเนินการโดยเหมาะสมกับกรณีตามแนวทางแห่งชาติ ตัวอย่าง และพันธุ์สัตว์ หรือกรมประมง แล้วแต่กรณี ถ้าความปรากฏภายหลังว่า ตัวสัตว์ป่าได้ตายไปตามธรรมชาติหรือไม่ใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ให้ทรัพย์นั้นตกเป็นของแผ่นดินตามความเหมาะสมกับกรณีและให้ดำเนินการจัดการทรัพย์สินนั้นตามความเหมาะสมกับกรณีตามที่คณะกรรมการกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ในการดำเนินการตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง คณะกรรมการจะกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขึ้นทะเบียน และการเก็บตัวอย่างเพื่อขึ้นทะเบียนสัตว์ป่าที่ได้ช่วยเหลือ ดูแล รักษาสัตว์ป่าไว้ ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

หมวด ๔

บทกำหนดโทษ

มาตรา ๔๗ ผู้ใดกระทำการหรือจงใจไม่กระทำการไม่ว่าด้วยใจหรือประมาทเลินเล่อโดยมีเจตนาต้องกฎหมาย และก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า นั้นต้องชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายไปนั้น

ค่าเสียหายตามวรรคหนึ่ง ให้หมายความรวมถึงค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ระบบนิเวศ และความหลากหลายทางชีวภาพนั้นด้วย หลักเกณฑ์ในการคำนวณมูลค่าของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายไปนั้น ให้เป็นไปตามระเบียบที่อธิบดีกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้ ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชมีอำนาจจัดทำบัญชีทรัพยากรธรรมชาติในกรณีที่จำเป็น

มาตรา ๔๘ ผู้ใดกระทำความผิดฐานล่าสัตว์ป่าหรือเก็บ หรือทำอันตรายแก่รังไข่ หรือรวบรวมไข่ของสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้ ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือกรมประมง แล้วแต่กรณี เป็นผู้เสียหายในคดี

มาตรา ๑๔๘ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๒ หรือมาตรา ๑๔๕ ถ้าการกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคุ้มครอง หรือเงื่อนไขที่เจ้าพนักงานคุ้มครองกำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๒ มาตรา ๒๖ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๑๔๕ ถ้าการกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคุ้มครอง หรือเงื่อนไขที่เจ้าพนักงานคุ้มครองกำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบห้าปี หรือปรับไม่เกินสามเท่าของค่าที่เสียหายแก่แผ่นดิน หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๕๐ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๔ มาตรา ๒๖ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔๕ วรรคหนึ่ง หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๖ วรรคสอง มาตรา ๒๖ วรรคสี่ มาตรา ๒๖ วรรคห้า มาตรา ๒๖ วรรคหก หรือมาตรา ๒๖ วรรคเจ็ด หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๖ วรรคแปด หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๗ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๕๑ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๔๗ มาตรา ๑๔๘ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๒๖ (๓) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๕๒ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๓ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๒๖ วรรคสอง หรือวรรคสี่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๕๓ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๒๖ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๕๔ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๒๖ วรรคหนึ่ง หรือฝ่าฝืนมาตรา ๑๔๕ (๑) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๕๕ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๕๖ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามระเบียบหรือคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๔๓ วรรคสอง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท

มาตรา ๑๕๗ ผู้ใดไม่อำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๔๔ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

มาตรา ๙๙ ผู้ใดถือครองหรือครอบครองที่ดิน ก่อสร้าง แล้วเผา เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้เสียสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติในเขตที่ดินในเขตที่ห้ามเข้าครอบครอง อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๔๕ (๒) ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสองปี หรือปรับตั้งแต่แสนบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ในกรณีความผิดตามวรรคหนึ่ง ถ้าได้กระทำในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ หรือพื้นที่ป่าไม้ตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ หรือพื้นที่ป่าตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้

มาตรา ๑๐๔ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๘๒ (๒) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากต้องระวางโทษตามวรรคหนึ่งแล้ว ผู้นั้นยังต้องระวางโทษปรับอีกวันละไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง

มาตรา ๑๐๕ บรรดาค่าปรับที่ศาลปรับสถานเดียวหรือโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีให้ถือว่าเป็นหรือผู้ซึ่งต้องมีส่วนร่วมในความรับผิดในฐานะผู้แทนตามที่ระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด เมื่อผู้ต้องหาได้กระทำความผิดในฐานะผู้แทนตามที่ระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนดในเวลาวันนั้นจนกว่าที่มีการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง ให้ถือว่าผู้ต้องหาได้กระทำความผิดในฐานะผู้แทนตามที่ระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนดในเวลาวันนั้นจนกว่าที่มีการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง

มาตรา ๑๐๖ ในกรณีที่มีบัญชีตามที่ผู้ได้รับพระราชบัญญัตินี้ เมื่อพนักงานต้องการยื่นฟ้องคดีต่าง ๆ ให้ร้องกล่าวเสียหายตามมาตรา ๔๔ หรือมาตรา ๔๘ ในโอกาสต่อกัน

มาตรา ๑๐๗ ในกรณีที่มีบัญชีที่ผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานยื่นคำร้องขอคัดค้าน และให้ศาลถือว่าผู้ต้องสงสัยเงินสินบนกับเงินที่รับเป็นเงินที่ไม่เหมาะสมของจำนวนเงินค่าปรับตามคำพิพากษาโดยจำนวนเงินค่าปรับที่ศาลสั่งคดีความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ไม่รวมค่าปรับตามคำพิพากษาในคดีอื่น ๆ ถ้าผู้กระทำความผิดไม่ชำระเงินค่าปรับตามคำพิพากษาในคดีอื่น ๆ ยังยอมรับเงินสินบนกับเงินที่รับเป็นเงินที่ไม่เหมาะสมของจำนวนเงินค่าปรับตามคำพิพากษาในคดีอื่น ๆ ให้ถือว่าผู้ต้องสงสัยเงินสินบนกับเงินที่รับเป็นเงินที่ไม่เหมาะสมของจำนวนเงินค่าปรับตามคำพิพากษาในคดีอื่น ๆ

มาตรา ๑๐๘ บรรดาได้ “จากสัตว์ป่า” หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่นใดที่มีอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ตามที่ระบุในคำสั่งของพนักงานการกระทำความผิด หรือจากสัตว์ป่าหรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่า ที่ได้มาจากการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ อาวุธ เครื่องมือ เครื่องใช้ สิ่งปลูกสร้าง อุปกรณ์ ตัวทำพาหนะ ยานพาหนะ หรือเครื่องจักรกลใด ๆ ที่ได้ใช้ในการกระทำความผิดหรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดตามมาตรา ๔๕ (๔) (๕) (๖) (๗) (๘) (๙) หรือ (๑๐) หรือมาตรา ๔๖ (๑) หรือ (๒) ให้ริบเสียทั้งสิ้น โดยไม่ต้องคำนึงว่าเป็นของผู้กระทำความผิดและถึงแม้จะมิได้มีคำพิพากษาของศาลหรือไม่

ให้พนักงานยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งริบทรัพย์ในมาตราดังกล่าว และเมื่อศาลมีคำสั่งให้ริบของดังกล่าวแล้วให้พนักงานดำเนินการให้ประกาศ ณ ที่ทำการกำนัน ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน และที่ทำการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในท้องที่ที่ได้ยึดทรัพย์นั้นไว้ และให้ประกาศในหนังสือพิมพ์รายวันอย่างน้อยหนึ่งฉบับ ในกรณีที่ไม่มีผู้ใดคัดค้านในเวลาสามสิบวัน หรือมีคำสั่งของศาลสั่งยกคำร้อง ให้ถือว่าเป็นการตกลงกันระหว่างผู้มีสิทธิ์และเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรม เพื่อให้บุคคลดังกล่าวได้มีโอกาสยื่นคำร้องขอคัดค้านคำสั่งของศาลยุติธรรม ในกรณีที่ไม่มีผู้ใดคัดค้านในเวลาสามสิบวัน หรือมีคำสั่งของศาลยุติธรรม แต่เจ้าของไม่สามารถพิสูจน์ให้ศาลเชื่อได้ว่าเป็นโอกาสการกระทำความผิดของผู้กระทำความผิด ทรัพย์สินดังกล่าวไปใช้ในการกระทำความผิด อีกทั้งหากมิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้วที่จะป้องกัน มิให้มีการกระทำความผิดเช่นนั้นเกิดขึ้น หรือไม่ประกอบกิจอันให้ศาลเชื่อได้ว่าตนมิได้มีโอกาสกระทำการ หรือไม่มีเหตุอันควรสงสัยว่าจะมีการนำทรัพย์สินดังกล่าวไปใช้ในการกระทำความผิดตาม พระราชบัญญัตินี้ ให้ศาลสั่งริบทรัพย์สินดังกล่าวได้เมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุดในกรณีที่มีการแจ้งความ หรือ ปิดประกาศ ในกรณีที่ปรากฏหลักฐานว่าบุคคลเป็นเจ้าของทรัพย์สินโดยสุจริตในขณะที่นำทรัพย์สิน นั้นไปใช้ในการกระทำความผิดหรือในขณะที่ทรัพย์สินนั้นถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิด และในการนี้มิได้มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล และในกรณีที่ไม่มีให้เจ้าของทรัพย์สินดังกล่าวยื่นคำร้องต่อศาล แก่ผู้ครอบครองสัตว์ป่าสงวนนั้น ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงสวัสดิภาพและความปลอดภัยของสัตว์ป่านั้นเป็นสำคัญ และผู้รับใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวนจำพวกขาย ขาย หรือโอนสัตว์ป่าสงวนต่อไปให้แก่ ผู้อื่นโดยการทดแทนงามเจตนา แต่หากไม่ประสงค์จะครอบครองสัตว์ป่าสงวนต่อไป ให้ผู้ครอบครอง จำหน่าย ขาย หรือโอนสัตว์ป่าสงวนดังกล่าวให้แก่ผู้รับใบอนุญาตดังกล่าว หรือประพฤติการครอบครองสัตว์ ตามมาตรา 13 หรือขอรับสัตว์ที่นายทะเบียนของรัฐจัดหามาให้ที่ได้รับอนุญาตให้ครอบครองสัตว์ป่า นั้นเป็นผู้รับโอนสัตว์ป่าสงวนดังกล่าวแทน ทั้งนี้ โดยให้ผู้ครอบครองสัตว์ป่าสงวนดังกล่าวแจ้งเป็นหนังสือ ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในเขตท้องที่ที่สัตว์ป่าสงวนนั้นอยู่ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้โอนสัตว์ป่าสงวนดังกล่าวให้แก่ผู้รับโอนสัตว์ป่าสงวนดังกล่าวแล้ว และ ให้ผู้รับโอนส่งมอบสัตว์ป่าสงวนให้แก่กรมประมงแจ้งเป็นหนังสือไปดำเนินการตามความเห็นชอบของคณะกรรมการ

8

สำหรับชนิดของวาฬบรูด้า (Balaenoptera edeni) วาฬโอมูระ (Balaenoptera omurai) เต่ามะเฟือง (Dermochelys coriacea) และปลากระเบนราหู (Rhincodon typus) ให้อธิบดีกรมประมงพิจารณา ออกใบรับรองการครอบครองสัตว์ป่าสงวนให้แก่ผู้ครอบครองเดิมของสัตว์ป่าสงวน จำพวกดังกล่าวต่อไปได้ แต่จะจำหน่าย ขาย หรือโอนให้แก่ผู้อื่นมิได้ เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจาก อธิบดีกรมประมงโดยการพิจารณาความเหมาะสม หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการแจ้งและการรับแจ้ง การออกใบอนุญาต ครอบครองสัตว์ป่าสงวนจำพวก การออกใบรับรองการครอบครองสัตว์ป่าสงวน อายุตามใบอนุญาต การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน การโอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าสงวน

มาตรา ๑๓๗ การอนุญาต ใบอนุญาต หนังสืออนุญาต หลักฐานการแจ้งการครอบครอง และใบรับรองที่ออกให้แก่บุคคลใด ๆ ตามพระราชบัญญัตินี้และกฎหมายว่าด้วยสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้คงใช้ต่อไปจนกว่าจะสิ้นอายุหรือถูกถอน

มาตรา ๑๓๘ บรรดาคำขอใด ๆ ที่ยื่นไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ถือว่าเป็นคำขอตามพระราชบัญญัตินี้ และให้อธิบดีมีอำนาจสั่งการหรือดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ที่กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติที่ให้ใช้บังคับ เว้นแต่คำขอนั้นไม่อาจอนุญาตได้ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ถือว่าเป็นอันสุดสิ้น

มาตรา ๑๓๙ บรรดาสัญญาบัตร ประทานบัตร และใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยแร่ สัมปทาน ใบอนุญาต หนังสืออนุญาตที่ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้หรือกฎหมายว่าด้วยสวนป่า รวมทั้งสัญญาเช่าที่ดินที่ทำไว้ถูกต้องตามกฎหมายที่ผู้มีอำนาจหน้าที่สั่งการให้ดำเนินการได้ ในขณะที่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้คงใช้ต่อไปเพียงเท่าที่บทบัญญัติของสัญญาบัตร ประทานบัตร และใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยแร่ สัมปทาน ใบอนุญาต หนังสืออนุญาตที่ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้หรือกฎหมายว่าด้วยสวนป่านั้น

มาตรา ๑๔๐ ให้เงินในเงินทุนตามมาตรา ๖๖ วรรคหนึ่ง และพันธุ์พืชสัตว์ในเงินทุนเป็นรายได้ท้องถิ่นของรัฐและรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือดำเนินการสำคัญใด ๆ ตามมาตรา ๖๖ แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ และเป็นเงินทุนตามมาตรา ๖๖ แห่งพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๑๔๑ ให้โครงการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า และพันธุ์พืชสัตว์ที่มีการจัดการหรือการจัดตั้งของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชที่ดำเนินการอยู่ในขณะวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

เมื่อพ้นระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง และรัฐบาลมีแนวนโยบายในการช่วยเหลือประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินและอยู่อาศัยหรือจัดทำโครงการสำหรับผู้ยากไร้เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนตามที่กำหนดไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการจัดทำโครงการการอนุรักษ์และดูแลรักษาที่ทรัพยากรธรรมชาติอันเหมาะสมในการรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตที่อยู่อาศัยสัตว์ป่าในพื้นที่นั้น ๆ เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ โดยคำนึงถึงพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นต้องเร่งดำเนินการเพื่ออนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าในพื้นที่ที่มีความสำคัญและให้ค่อย ๆ ดำเนินการจัดทำโครงการรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในพื้นที่ดังกล่าว ภายใต้กรอบของตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ เรื่อง การแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ โดยต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับแผนแม่บทที่จัดทำขึ้นตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ และรัฐมนตรีลงนามรับรองแล้วในโครงการที่เสนอให้ดำเนินการในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ ต้องไม่กระทบต่อการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าในพื้นที่ดังกล่าวหรือทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ หน้าที่ของรัฐในการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าในพื้นที่ดังกล่าว ทางชีวภาพภายในเขตพื้นที่ดำเนินโครงการหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการอยู่อาศัยหรือทำกิน และการส่งเสริมการอยู่อาศัยหรือทำกิน และมาตรการในการกำกับดูแล การติดตาม และการประเมินผลการดำเนินโครงการ ในกรณีบุคคลที่อยู่อาศัยหรือทำกินในครอบครองที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้เสื่อมสภาพหรือเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไปจากเดิม เก็บหา นำออกไป กระทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตราย หรือให้เกิดความเสียหายแก่ไม้ ดิน ต้นน้ำ ลำธาร ทรัพยากรป่าไม้ หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ หรือความหลากหลายทางชีวภาพ หรือทำประโยชน์อื่นใดในพื้นที่เขตโครงการตามพระราชกฤษฎีกาตราขึ้นตามมาตรา 9 หากการกระทำดังกล่าวเป็นไปเพื่อการดำรงชีพอย่างยั่งยืนเป็นปกติสุข และได้ปฏิบัติเช่นนั้นไปตามระเบียบที่ข้อบังคับตามมติความเห็นชอบของคณะกรรมการแล้ว ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ข้อราค่าธรรมเนียม (๑) ใบอนุญาตเก็บ ทำอันตราย หรือเป็นครอบครอง ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ฉบับละ ๕๐,๐๐๐ บาท (๒) ใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองที่เพาะพันธุ์ได้ แต่รวมกันไม่เกิน ๑๐ ตัว ตัวละ ๑,๐๐๐ บาท ฉบับละ ๑๐,๐๐๐ บาท (๓) ใบอนุญาตครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่เพาะพันธุ์ได้ที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ ฉบับละ ๕,๐๐๐ บาท (๔) ใบอนุญาตนำเข้าหรือส่งออกสัตว์ป่าครั้งงาน ตัวละ ๑๐,๐๐๐ บาท (๕) ใบอนุญาตนำเข้าหรือส่งออกซากสัตว์ป่าครั้งงาน หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าครั้งงาน ฉบับละ ๕๐,๐๐๐ บาท (๖) ใบอนุญาตนำเข้าหรือส่งออกสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ตัวละ ๑๐,๐๐๐ บาท แต่รวมกันไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท (๗) ใบอนุญาตนำเข้าหรือส่งออกซากสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ฉบับละ ๕๐,๐๐๐ บาท (๘) ใบอนุญาตนำเข้าหรือส่งออกสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่า ตามมาตรา ๒๔ ตัวละ ๕๐๐ บาท แต่รวมกันไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท (๙) ใบรับรองการนำเข้าหรือส่งออกซากสัตว์ป่า หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าตามมาตรา ๒๔ ฉบับละ ๕,๐๐๐ บาท (๑๐) ใบอนุญาตเดินทางเพาะพันธุ์สัตว์ป่าคุ้มครอง ที่เพาะพันธุ์ได้หรือซากป่าคุ้มครอง ฉบับละ ๑๐,๐๐๐ บาท (๑๑) ใบอนุญาตสัตว์ป่าคุ้มครองที่เพาะพันธุ์ได้ หรือซากสัตว์ป่าคุ้มครองที่เพาะพันธุ์ได้ หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าดังกล่าว ที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าคุ้มครอง ตัวละ ๑,๐๐๐ บาท (๑๒) ใบอนุญาตจัดตั้งและประกอบกิจการสวนสัตว์ ฉบับละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท (๑๓) หนังสืออนุญาตดำเนินกิจกรรมใด ๆ ในเขตรักษา พันธุ์สัตว์ป่า หรือในเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ฉบับละ ๕๐,๐๐๐ บาท (๑๔) ใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่า คุ้มครองชั่วคราว ตัวละ ๑,๐๐๐ บาท แต่รวมกันไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท (๑๕) ใบรับรองการครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครองหรือ ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท (๑๖) การต่ออายุใบอนุญาตหรือใบรับรอง ครั้งละเท่ากับค่าธรรมเนียมใบอนุญาต สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (๑๓) การโอนใบอนุญาตหรือใบรับรอง หรือใบรับรองนั้น (๑๔) ใบแทนใบอนุญาตหรือใบรับรอง ที่จะสะสมที่ของค่าธรรมเนียม ในอนุญาตหรือใบรับรองนั้น ฉบับละ ๕,๐๐๐ บาท ลำดับที่ | สัตว์ป่าชนิดที่ | สัตว์ป่าคุ้มครอง ---|---|--- 1 | สัตว์ป่าจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม | กระซู่ (Dicerorhinus sumatrensis) 2 | | กวางผา (Naemorhedus griseus) 3 | | กูปรีหรือโคไพร (Bos sauveli) 4 | | เก้งหม้อ (Muntiacus feae) 5 | | ควายป่า (Bubalus bubalis) 6 | | พะยูนหรือหมูน้ำ (Dugong dugon) 7 | | แมวดาวหินอ่อน (Pardofelis marmorata) 8 | | แรด (Rhinoceros sondaicus) 9 | | ละองหรือละมั่ง (Cervus eldii) 10 | | เลียงผาหรือเยืองหรือกูรำหรือโครำ (Capricornis sumatraensis) 11 | | วาฬบรูด้า (Balaenoptera edeni) 12 | | วาฬโอมูระ (Balaenoptera omurai) 13 | | สมเสร็จ (Tapirus indicus) 14 | | สมันหรือเนื้อสมัน (Cervus schomburgki) 15 | สัตว์ป่าจำพวกนก | นกกระเรียน (Grus antigone) 16 | | นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร (Pseudochelidon sirintarae) 17 | | นกแต้วแล้วท้องดำ (Pitta gurneyi) 18 | สัตว์ป่าจำพวกสัตว์เลื้อยคลาน | เต่ามะเฟือง (Dermochelys coriacea) 19 | สัตว์ป่าจำพวกปลา | ปลาฉลามวาฬ (Rhincodon typus) หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติสวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน ทำให้บทบัญญัติบางประการไม่เหมาะสมกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนไปตามกาลสมัยและไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งในเชิงเนื้อหาหรือเจตนาอันเป็นอุดมการณ์ รวมทั้งคุ้มครอง ดูแลรักษา ฟื้นฟูสัตว์ป่าและแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า รวมทั้งทรัพยากรธรรมชาติอื่นให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ประกอบกับประเทศได้เข้าเป็นภาคีสมาชิกของอนุสัญญาระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์สัตว์ป่าและพืชป่า ซึ่งมีข้อผูกพันตามพันธกรณีของภาคีสมาชิก เพื่อให้สอดคล้องกับการบริหารจัดการ การค้า การนำ การส่งออก หรือการนำเข้าสัตว์ป่า "ซากสัตว์ป่า" และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่า ตลอดจนการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าให้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพ สมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ สำนักคณะกรรมการกฤษฎีกา ปุณิกา/พีไลลภย์/ธนบดี/จัดทำ 31 พฤษภาคม 2562 พิมพ์/ตรวจ 10 มิถุนายน 2562