로고

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. เป็นปีที่ ๗๑ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า

ให้ไว้ ณ วันที่ ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติสถานประกอบการ

เพื่อสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๕๙”

มาตรา ๒[1] พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ

ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้

“สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ” หมายความว่า สถานที่ที่ตั้งขึ้นเพื่อดำเนิน กิจการ ดังต่อไปนี้

(๑)

กิจการสปา อันได้แก่ บริการที่เกี่ยวกับการดูแลและเสริมสร้างสุขภาพ โดยวิธีการบำบัดด้วยน้ำและกระบวนการอื่นเพื่อฟื้นฟู ประกอบกับบริการอื่นตามที่กำหนด ในกฎกระทรวงอย่างน้อยสามอย่าง เว้นแต่เป็นการดำเนินการในสถานพยาบาลตาม กฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล หรือการอาบน้ำ นวด หรืออบตัวที่เป็นการให้บริการใน สถานอาบน้ำ นวด หรืออบตัวตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ

(๒)

กิจการนวดเพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมความงาม เว้นแต่การนวดเพื่อ สุขภาพหรือเพื่อเสริมความงามในสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล หรือ ในหน่วยงานของรัฐ หรือการนวดเพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมความงามที่ให้บริการในสถาน อาบน้ำ นวด หรืออบตัวตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ

(๓)

กิจการอื่นที่กำหนดในกฎกระทรวง “ผู้อนุญาต” หมายความว่า อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย “ผู้รับอนุญาต” หมายความว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถาน ประกอบการเพื่อสุขภาพ "ผู้ดำเนินการ" หมายความว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินการบริหารจัดการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ "ผู้ให้บริการ" หมายความว่า ผู้ได้รับการขึ้นทะเบียนให้ทำหน้าที่บริการเพื่อสุขภาพในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ "คณะกรรมการ" หมายความว่า คณะกรรมการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ "พนักงานเจ้าหน้าที่" หมายความว่า ข้าราชการพลเรือน หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับสามหรือเทียบเท่าซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ "อธิบดี" หมายความว่า อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ "ปลัดกระทรวง" หมายความว่า ปลัดกระทรวงสาธารณสุข "รัฐมนตรี" หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา 6 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสามปี

เมื่อครบกำหนดตามวาระในวรรคหนึ่ง หากยังมิได้มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใหม่ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งเมื่อครบกำหนดวาระนั้นอยู่ในตำแหน่งเพื่อดำเนินงานต่อไปจนกว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระไม่ได้

มาตรา 7 นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ

(ก)

ตาย

(ข)

ลาออก

(ค)

เป็นบุคคลล้มละลาย

(ง)

เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

(จ)

ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก

(ฉ)

รัฐมนตรียกเว้นออกเพราะขาดพ้นหรือหย่อนความสามารถ

มาตรา 8 ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งแทน เว้นแต่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งดังกล่าวมิได้เกิดสิทธิว่างจะไม่แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนก็ได้ และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทนตำแหน่งว่างนั้นอยู่ในตำแหน่งทำหน้าที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งดังกล่าวจนครบวาระ

ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ ให้คณะกรรมการขออนุมัติกรรมการทรัพยากรที่พ้นตำแหน่งมีอำนาจจัดสรรกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามความในวรรคหนึ่ง

มาตรา 9 คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(ก)

เสนอแผนงาน แผน และยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพต่อรัฐมนตรี

(ข)

กำหนดมาตรการในการส่งเสริมสนับสนุนประกอบการเพื่อสุขภาพให้ได้มาตรฐาน ตลอดจนส่งเสริมคุณภาพชีวิตของทุกคนในสังคมและได้รับประโยชน์

(ค)

กำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาของผู้รับผิดชอบหรือรับรองการประกอบกิจการเพื่อสุขภาพที่ได้รับการรับรองสถานบริการสักแห่ง หน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ

(ง)

กำหนดหลักเกณฑ์การสอบและประเมินผลความรู้ความสามารถของผู้ดำเนินการ

(๕)

ให้คำแนะนำแก่รัฐมนตรีในการออกกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัตินี้

(๖)

ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ หรือตามที่รัฐมนตรีมอบหมาย

มาตรา ๑๐ การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม

ในการประชุมคณะกรรมการ ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งมีหนึ่งเสียงในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด

มาตรา ๑๑ คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณา หรือปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดแทนคณะกรรมการ หรือตามที่คณะกรรมการมอบหมายได้

การประชุมคณะอนุกรรมการ ให้บังคับบัญญัติมาตรา ๑๐ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

หมวด ๒

ใบอนุญาตและการขึ้นทะเบียน

มาตรา ๑๒ ผู้ใดประสงค์จะประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพต้องได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพจากผู้อนุญาต

การขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต แบบใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต และการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ให้เป็นไปตามแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง กฎกระทรวงตามวรรคสอง รัฐมนตรีออกกฎโดยแยกใบอนุญาตตามประเภทหรือมาตรฐานของสถานประกอบการเพื่อสุขภาพก็ได้

มาตรา ๑๓ ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

(๑)

คุณสมบัติของบุคคลธรรมดา

(ก)

เป็นบุคคลสัญชาติไทย

(ข)

เป็นบุคคลที่มีอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์

(ค)

ไม่เป็นผู้เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระทำผิดในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ ความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ หรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (c) เป็นผู้เจ็บป่วยด้วยโรคติดต่ออันเป็นที่รังเกียจแห่งสังคม โรคพิษสุราเรื้อรัง หรือติดยาเสพติดให้โทษ

(ง)

เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

(จ)

เป็นผู้เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ และยังไม่พ้นกำหนดสองปีนับตั้งแต่วันที่คำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ในกรณีที่ผู้อนุญาตเห็นว่าผู้ขอใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแทนผู้ขอใบอนุญาตนั้นยังมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามความในวรรคหนึ่ง

มาตรา 15 ในใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพให้มีอายุห้าปีนับแต่วันที่ออกใบอนุญาต

การขอต่ออายุใบอนุญาต ให้ผู้รับอนุญาตยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตก่อนที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ และเมื่อได้ยื่นคำขอต่ออายุแล้ว ให้ผู้รับอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพนั้นต่อไปได้จนกว่าจะได้รับแจ้งเป็นหนังสือว่าไม่ต่ออายุใบอนุญาต การขอต่ออายุใบอนุญาตและการให้ต่ออายุใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ตลอดจนต้องชำระค่าธรรมเนียมตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 16 ให้ผู้รับอนุญาตชำระค่าธรรมเนียมรายปีสำหรับการประกอบกิจการเพื่อสุขภาพรายปีอย่างต่อเนื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และอัตราค่าธรรมเนียมกำหนดในกฎกระทรวง

ผู้รับอนุญาตผู้ใดไม่ชำระค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่งภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ผู้อนุญาตสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพจนกว่าจะชำระค่าธรรมเนียม ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตซึ่งถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตตามวรรคสองไม่ชำระค่าธรรมเนียมภายในกำหนดอีกเช่นกัน ให้ผู้อนุญาตสั่งเพิกถอนใบอนุญาต

มาตรา 17 ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพสิ้นสุดลง เมื่อผู้รับอนุญาต

(ก)

ตาย เว้นแต่ได้ดำเนินการตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 18 หรือสิ้นสุดความเป็นนิติบุคคล

(ข)

เลิกประกอบกิจการตามมาตรา 9

(ค)

ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพตามมาตรา 15 วรรคสาม หรือมาตรา 16 (ข) หรือ (ค) หรือวรรคสาม กรณีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพสิ้นสุดลง ให้คืนค่าธรรมเนียมส่วนที่มีอยู่ล่วงหน้าและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามความในมาตรา 9 ให้กระทำได้เมื่อได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต การขอโอนใบอนุญาตและการอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๑๘ ในกรณีผู้รับอนุญาตถึงแก่ความตายและทายาทมีความประสงค์จะประกอบการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพต่อไป ให้ผู้จัดการมรดกหรือทายาทซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ หรือในกรณีที่มีทายาทหลายคนให้ทายาทตกลงกันเลือกตั้งทายาทคนหนึ่งซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ ดำเนินการยื่นคำขอรับโอนใบอนุญาตภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ผู้รับอนุญาตตาย ถ้าไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าใบอนุญาตนั้นเป็นอันสิ้นสุดลง

ในระหว่างระยะเวลากลางวรรคหนึ่ง ให้ผู้จัดการมรดกหรือทายาทซึ่งเป็นผู้ยื่นคำขอรับโอนใบอนุญาตมีประกอบการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ โดยมีหน้าที่และความรับผิดชอบเสมือนผู้รับอนุญาต ทั้งนี้ จนกว่าผู้ขออนุญาตจะสิ้นไม่อนุญาต ถ้าผลการตรวจสอบปรากฏว่าผู้ยื่นคำขอมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ ให้ผู้อำนวยการสั่งอนุญาตแก่ผู้ยื่นคำขอ การขอโอนและการอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๑๙ ผู้รับอนุญาตซึ่งประสงค์จะเลิกประกอบกิจการ ให้แจ้งให้นายทะเบียนทราบ พร้อมทั้งยื่นคำขอเพิกถอนใบอนุญาตต่อผู้อำนวยการ ทั้งนี้ ให้ถือว่าใบอนุญาตเป็นอันสิ้นสุดลงนับแต่วันที่ผู้อำนวยการมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต

การขอเพิกถอนใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๐ ผู้ขอใบอนุญาตหรือผู้รับใบอนุญาตที่มีหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ต้องได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการจากผู้อนุญาต

การขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต แบบใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต และการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ให้เป็นไปตามแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๑ ผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

ก. คุณสมบัติ

(๑)

มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์

(๒)

ได้รับวุฒิการศึกษาหรือประกาศนียบัตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง

(๓)

ผ่านการทดสอบและประเมินความรู้ความสามารถจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ข. ลักษณะต้องห้าม สามารถ

(๑)

เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

(๒)

เป็นผู้เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระทำผิดในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

(๓)

เป็นผู้ป่วยด้วยโรคติดต่ออันเป็นที่รังเกียจแห่งสังคม โรคพิษสุราเรื้อรัง หรือติดยาเสพติดให้โทษ

(๔)

เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการ

(๕)

เป็นผู้เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการ และยังไม่พ้นกำหนดหนึ่งปีนับตั้งแต่วันที่คำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการ

มาตรา ๒๑ ผู้ใดประสงค์จะปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการที่มีใบรับรองในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ให้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ดำเนินการต่อผู้อนุญาต

การขึ้นทะเบียนตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๒ ผู้ขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ดำเนินการ ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

ก. คุณสมบัติ

(๑)

มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์

(๒)

ได้รับวุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรด้านการบริการเพื่อสุขภาพที่ได้รับการรับรองจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ข. ลักษณะต้องห้าม

(๑)

เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

(๒)

[๒] (ยกเลิก)

(๓)

เป็นผู้ป่วยด้วยโรคติดต่ออันเป็นที่รังเกียจแห่งสังคม โรคพิษสุราเรื้อรัง หรือติดยาเสพติดให้โทษ

หมวด ๓

หน้าที่ของผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการ

มาตรา ๒๓ ผู้รับอนุญาตต้องประกอบกิจการให้ตรงตามประเภทของสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ระบุไว้ในใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

มาตรา ๒๕ การใช้ชื่อสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่อธิบดีประกาศกำหนด

มาตรา ๒๖ มาตรฐานด้านสถานที่ ความปลอดภัย และการให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพแต่ละประเภท ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๗ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภทใดต้องมีผู้ดำเนินการ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่อธิบดีประกาศกำหนด

มาตรา ๒๘ ผู้รับอนุญาตมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(๑)

แสดงใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย ณ สถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ระบุไว้ในใบอนุญาต

(๒)

จัดให้มีผู้ดำเนินการอยู่ประจำสถานประกอบการเพื่อสุขภาพตลอดเวลาทำการ พร้อมทั้งแสดงชื่อผู้ดำเนินการในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย

(๓)

จัดทำและเก็บประวัติผู้ดำเนินการและผู้ให้บริการ

(๔)

รักษามาตรฐานด้านสถานที่ ความปลอดภัย และการให้บริการให้เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต

(๕)

รับผู้ซึ่งมิใช่แพทย์เป็นผู้ให้บริการตามมาตรา ๒๒ เท่านั้นเข้าทำงานในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

(๖)

ไม่โฆษณาเกี่ยวกับการให้บริการเพื่อสุขภาพในลักษณะ ดังต่อไปนี้

(ก)

ใช้ข้อความโฆษณาอันเป็นเท็จ หรือโอ้อวดเกินความเป็นจริง

(ข)

ใช้อวดสรรพคุณของการบริการเพื่อสุขภาพ หรืออุปกรณ์ผลิตภัณฑ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ อันเป็นส่วนประกอบในการให้บริการทำงามความงาม รักษา หรือป้องกันโรคได้ หรือใช้ข้อความอื่นที่มีความหมายในทำนองเดียวกัน

(ค)

โฆษณาในรูปการที่น่าจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับการให้บริการเพื่อสุขภาพ

(ง)

โฆษณาที่มีลักษณะล่อไปในทางลามกอนาจาร

(จ)

ความล่อแหลมให้สถานประกอบการเพื่อสุขภาพก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อาศัยในบริเวณใกล้เคียง

(ฉ)

ห้ามมิให้มีการจัดสถานที่หรือสิ่งอื่นใดสำหรับให้บริการแสดงมหรสพเพื่อให้การแสดงดังกล่าวมีการใช้

(ช)

ความล่อแหลมให้มีการทดลองหรือบริการกับร่างกาย หรือการกระทำ หรือบริการที่ขัดต่อกฎหมาย ความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

(ซ)

ห้ามมิให้จัดอาบอบนวดหรือปล่อยละเลยให้มีการทำหรือละเมิดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือสิ่งเสพติดในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

(๑๑)

ห้ามมิให้หรือยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

(๑๒)

ห้ามมิให้หรือยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีผู้อาการมีแนวโน้มประพฤติตนวุ่นวายหรือควบคุมสติไม่ได้เข้าไปในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพระหว่างเวลาทำการ

(๑๓)

ห้ามมิให้หรือยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการนำอาวุธเข้าไปในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ

มาตรา ๒๙ ผู้ดำเนินการมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(ก)

จัดทำคู่มือปฏิบัติงานสำหรับบริการหรือมีอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ และพัฒนาสู่ให้บริการให้สามารถให้บริการได้ตามคู่มือที่จัดทำขึ้น

(ข)

ควบคุมดูแลการบริการ อุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ และเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ ให้ได้มาตรฐาน ถูกสุขลักษณะ และใช้ได้อย่างปลอดภัย

(ค)

สอบถามและบันทึกข้อมูลสุขภาพพื้นฐาน และคัดกรองผู้รับบริการเพื่อจัดบริการที่เหมาะสมแก่สุขภาพของผู้รับบริการ

(ง)

ควบคุมดูแลให้บริการให้ปฏิบัติตามคู่มือการปฏิบัติงาน อุปกรณ์ เครื่องมือ และผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริการออกไปใช้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพในเวลาทำการ

(จ)

ควบคุมดูแลความปลอดภัยในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพแก่ผู้รับบริการ ผู้ให้บริการ ผู้ที่รับบริการ และบุคคลซึ่งทำงานในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพทุกช่วงขณะมีทางเพศ นอกจากหน้าที่ที่กำหนดไว้ในวรรคหนึ่ง ให้ผู้ดำเนินการมีหน้าที่ตามมาตรา ๒๗ (๗) (๑๐) (๑๑) (๑๒) และ (๑๓) ด้วย

หมวด ๔

การพักใช้ใบอนุญาต การเพิกถอนใบอนุญาต และการลงชื่อออกจากทะเบียน

มาตรา ๓๐ เมื่อปรากฏแก่นายทะเบียนว่าผู้รับอนุญาตฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๗ (๗) (๘) (๙) (๑๐) (๑๑) (๑๒) (๑๓) หรือ (๑๔) ทวิ หรือกระทำการหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้ผู้รับอนุญาตดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด

หากผู้รับอนุญาตไม่ดำเนินการแก้ไขภายในระยะเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนดตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เสนอให้นายทะเบียนพักใช้ใบอนุญาต ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๗ (๗) (๘) (๙) (๑๐) (๑๑) (๑๒) (๑๓) หรือ (๑๔) ทวิ หรือกระทำการหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิดซ้ำอีก ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เสนอให้นายทะเบียนเพิกถอนใบอนุญาต ผู้รับอนุญาตซึ่งถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตต้องหยุดประกอบกิจการตามที่ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต

มาตรา ๓๑ เมื่อปรากฏแก่นายงานเจ้าหน้าที่ว่าผู้ดำเนินการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๗ วรรคหนึ่ง กฎกระทรวง หรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ ให้นายงานเจ้าหน้าที่มีคำสั่งให้ผู้ดำเนินการปฏิบัติตามหน้าที่ที่ขอบัญญัติไว้ภายในระยะเวลาที่กำหนด

หากผู้ดำเนินการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งภายในระยะเวลาที่นายงานเจ้าหน้าที่กำหนดตามวรรคหนึ่ง ให้นายงานเจ้าหน้าที่มีคำสั่งให้ผู้อนุญาตเพิกถอนใบอนุญาต หรือให้ผู้อนุญาตสั่งพักใช้ใบอนุญาตเป็นการชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตได้ จนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง เมื่อผู้ดำเนินการได้ปฏิบัติให้ถูกต้องแล้ว ให้ผู้อนุญาตสั่งเพิกถอนคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตนั้น ผู้ดำเนินการซึ่งถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามที่ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต

มาตรา ๓๒ อธิบดีมีอำนาจสั่งเพิกถอนใบอนุญาต เมื่อปรากฏว่า

(๑)

ผู้รับอนุญาตขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๓ (๑) (๒) (๓) หรือ (๖)

(๒)

ผู้รับอนุญาตฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๘ (๑๐) (๑๑) (๑๒) หรือ (๑๓)

(๓)

ผู้รับอนุญาตฝ่าฝืนคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตตามมาตรา ๓๑

(๔)

ผู้ดำเนินการขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๒๐ ก. (๑) (๒) หรือ (๓) หรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๒๐ ข. (๑) (๒) (๓) หรือ (๔)

(๕)

ผู้ดำเนินการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๗ วรรคสอง

(๖)

ผู้ดำเนินการฝ่าฝืนคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตตามมาตรา ๓๑ ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตเป็นบุคคลธรรมดา หากอธิบดีสั่งเพิกถอนใบอนุญาตตาม (๑) ให้ศาลสามารถระงับการสอบประกอบการเพื่อสุขภาพได้ต่อไปอีกห้าสิบวันนับตั้งแต่วันที่อธิบดีสั่งเพิกถอนใบอนุญาต ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตเป็นนิติบุคคล และปรากฏว่าผู้ดำเนินการซึ่งมีอำนาจจัดการแทนนิติบุคคลขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตาม (๔) หรือ (๕) ให้นิติบุคคลนั้นแต่งตั้งผู้ดำเนินการซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๐ ก. และมาตรา ๒๐ ข. เพื่อทำหน้าที่แทนภายในระยะเวลาสามสิบวันนับตั้งแต่วันที่อธิบดีสั่งเพิกถอนใบอนุญาต

มาตรา ๓๓ ในกรณีที่ปรากฏให้เห็นว่าผู้ใดขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดในมาตรา ๒๐ ให้ผู้อนุญาตสั่งยุติการขึ้นทะเบียนจากทะเบียน

มาตรา ๓๗ คำสั่งพักใช้ใบอนุญาต คำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต และคำสั่งลบชื่อออกจากทะเบียน ให้ทำเป็นหนังสือแจ้งผู้รับอนุญาต ผู้ดำเนินการ หรือผู้ให้บริการทราบแล้วแต่กรณี

การแจ้งคำสั่งตามวรรคหนึ่ง ให้กำหนดว่าจะดำเนินการแจ้งตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองมาใช้บังคับโดยอนุโลม

หมวด ๕

พนักงานเจ้าหน้าที่

มาตรา ๓๙ ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจ ดังต่อไปนี้

(๑)

เข้าไปในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพในระหว่างเวลาทำการของสถานที่นั้น เพื่อตรวจสอบหรือควบคุมให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้

(๒)

เก็บรวบรวมอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ และเครื่องมือหรือสิ่งต่าง ๆ ที่ใช้ในการให้บริการเพื่อสุขภาพในปริมาณพอสมควรแก่การตรวจสอบหรือวิเคราะห์

(๓)

ยึดหรืออายัดอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ และเครื่องมือหรือสิ่งต่าง ๆ ตลอดจนรายงานหรือรูป หนังสือ เอกสารหรือสิ่งอื่น ๆ และเอกสารหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ และเครื่องมือหรือสิ่งต่าง ๆ นั้นไว้เป็นการชั่วคราวเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดี

(๔)

สั่งให้ผู้รับอนุญาต ผู้ดำเนินการ หรือผู้ให้บริการ หรือเจ้าของหรือผู้ครอบครองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพนั้นอำนวยความสะดวกตามสมควร

มาตรา ๔๐ ในการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง

บัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด

มาตรา ๔๑ ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา

หมวด ๖

การอุทธรณ์

มาตรา ๔๒ ในกรณีที่ผู้อนุญาตไม่ออกใบอนุญาต ไม่ให้ต่ออายุใบอนุญาต ไม่ให้ออกใบอนุญาต หรือไม่รับจดทะเบียนเป็นผู้ให้บริการ ให้ผู้ขออนุญาต ผู้ขอต่ออายุใบอนุญาต ผู้ขอรับใบอนุญาต หรือผู้ขอจดทะเบียนเป็นผู้ให้บริการมีสิทธิอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งไม่ออกใบอนุญาต การไม่ให้ออกใบอนุญาต การไม่ต่ออายุใบอนุญาต การไม่ให้ใบอนุญาต หรือการไม่รับจดทะเบียน แล้วแต่กรณี

มาตรา ๗๙ ผู้รับอนุญาต ผู้ดำเนินการ หรือผู้ให้บริการ ซึ่งถูกพักใช้ใบอนุญาต ถูกเพิกถอนใบอนุญาต หรือถูกสั่งซื้อออกจากทะเบียน สิทธิของผู้กระทำดังกล่าวย่อมสิ้นสุดระหว่างวันที่เริ่มนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต หรือคำสั่งซื้อออกจากทะเบียน แล้วแต่กรณี

การอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัตินี้ไม่เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำดังกล่าวใช้ใบอนุญาต คำสั่งพักถอนใบอนุญาต หรือคำสั่งซื้อออกจากทะเบียน

มาตรา ๘๐ การพิจารณาอุทธรณ์ตามมาตรา ๗๙ หรือมาตรา ๘๐ ให้ปลัดกระทรวงพิจารณาอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำอุทธรณ์ ถ้ามีเหตุจำเป็นไม่อาจพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว ให้แจ้งหนังสือแจ้งให้ผู้ยื่นอุทธรณ์ทราบก่อนครบกำหนดเวลาดังกล่าว ในกรณีนี้ ให้ขยายระยะเวลาพิจารณาอุทธรณ์ออกไปได้ไม่เกินสิบห้าวันนับแต่วันที่ครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าว

คำวินิจฉัยของปลัดกระทรวงให้เป็นที่สุด

หมวด ๗

บทกำหนดโทษ

มาตรา ๘๑ ผู้ใดใช้ชื่อหรือคำแสดงชื่อในธุรกิจว่า “สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ” “กิจการสปา” “นวดเพื่อสุขภาพหรือเพื่อผ่อนคลาย” หรือคำอื่นอันมีคำที่กำหนดในกฎกระทรวงหรือคำที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖ หรือคำอื่นใดที่มีความหมายเช่นเดียวกันโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเพื่อสุขภาพในมาตรา ๖

มาตรา ๔๕ ผู้รับอนุญาตผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๙ (๗) (๑๐) (๑๑) (๑๒) หรือ (๑๓) หรือผู้ดำเนินการผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๙ วรรคสอง มีความผิดทางพินัยต้องชำระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกินสามหมื่นบาท

(“มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย”)

มาตรา ๔๖ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๔๕ วรรคสอง มีความผิดทางพินัยต้องชำระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกินห้าหมื่นบาท

(“มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย”)

มาตรา ๔๗ ในกรณีที่มีเหตุความผิดเป็นนิติบุคคล ถ้าการกระทำความผิดของนิติบุคคลนั้นเกิดจากการสั่งการ หรือการกระทำของบุคคลใด หรือไม่สั่งการ หรือไม่กระทำการอันเป็นหน้าที่ที่ต้องกระทำของกรรมการผู้จัดการ หรือบุคคลใด ซึ่งรับผิดชอบใน การดำเนินงานของนิติบุคคลนั้น ผู้มีหน้าที่รับโทษตามที่บัญญัติไว้สำหรับความผิดนั้น ๆ ด้วย

มาตรา ๔๘ บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ผู้ถูกกล่าวหาเปลี่ยนเป็นได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้เกี่ยวกับค่าคำพินัย

เมื่อผู้ต้องหาชำระเงินค่าปรับตามคำพินัยที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ครบถ้วนแล้ว ให้ถือว่าคดีเลิกกันและไม่สามารถฟ้องผู้ต้องหาในความผิดฐานเดียวกันนั้นได้อีก เว้นแต่จะมีการกระทำความผิดซ้ำในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ หรือในกรณีที่ผู้ต้องหาปฏิเสธการชำระค่าปรับตามคำพินัย บทเฉพาะกาล

มาตรา ๔๙ ผู้ประกอบกิจการ ผู้ดำเนินการ และผู้ให้บริการในสถานที่เพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมสวยที่ได้รับการรับรองตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดสถานที่เพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมสวย มาตรฐานของสถานที่ การบริการ ผู้ให้บริการ หลักเกณฑ์ และวิธีการตรวจสอบเพื่อการรับรองให้เป็นไปตามมาตรฐานสำหรับสถานที่เพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมสวยตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. ๒๕๐๙ พ.ศ. ๒๕๔๕ อยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ถือว่าเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ คำอนุญาตในอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการ หรือคำอนุญาตเป็นผู้ให้บริการต่อผู้อนุญาตในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และให้ถือว่าใบอนุญาตดังกล่าวมีอายุถึงวันที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตนั้นแล้ว ให้ประกอบกิจการต่อไปได้ตามเงื่อนไข หรือให้บริการต่อไปได้ตามอายุได้รับ แม้ว่าผู้ใดมิได้ขอใบอนุญาตหรือได้รับใบรับรองที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย แล้วแต่กรณี

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อัตราค่าธรรมเนียม ```

(๑)

ใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ฉบับละ ๑๐,๐๐๐ บาท

(๒)

ใบอนุญาตเป็นผู้ดำเนินการ ฉบับละ ๑,๖๐๐ บาท

(๓)

การต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ครั้งละเท่ากับค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประเภทและขนาดนั้น ๆ แต่ละฉบับ

(๔)

ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ ๕๐๐ บาท

(๕)

การเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในใบอนุญาต ครั้งละ ๖๐๐ บาท

(๖)

ค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ รายปี ปีละ ๑,๐๐๐ บาท หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่กิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเป็นกิจการด้านบริการที่สร้างงานและรายได้ในประเทศเป็นจำนวนมาก และเป็นกิจการที่ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้รับบริการทั้งในและต่างประเทศในความสามารถ จึงมีผู้ประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้น แต่ละปี แต่ปัจจุบันยังไม่มีมาตรฐานกำกับดูแลการดำเนินกิจการให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีของกิจการ ผู้ดำเนินการ และผู้ให้บริการ รวมทั้งยังไม่มีการควบคุมดูแลให้การประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่มีลักษณะเป็นการรักษา หรือการให้บริการที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน หรือจิตใจของผู้รับบริการ ประกอบกับผู้ใช้บริการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และมีความต้องการการให้บริการที่มีคุณภาพและมาตรฐาน จึงสมควรกำหนดมาตรฐานของสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ผู้ดำเนินการ และผู้ให้บริการ เพื่อให้การประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพเป็นไปอย่างมีคุณภาพและมาตรฐาน และคุ้มครองผู้บริโภค จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒(3)

มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่กฎหมายว่าด้วยสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการว่าจะต้องไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกหรือคำพิพากษาในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์สินตามกฎหมายว่าด้วยทรัพย์สินทางปัญญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ ซึ่งมีลักษณะเป็นการกำหนดคุณสมบัติของผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ไม่เหมาะสม จึงสมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพให้เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยยึดถือการคุ้มครองผู้บริโภค กระทรวงสาธารณสุขจึงได้ตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้นไว้ใช้บังคับ พระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับปรุงกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๖๒(4) ```

มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสองร้อยสี่สิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป เว้นแต่บทบัญญัติแห่งมาตรา 37 และมาตรา 97 วรรคหนึ่ง ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา 4 ให้หน่วยรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และมีอำนาจออกกฎกระทรวงเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้

มาตรา 97 เมื่อพ้นกำหนดหกเดือนนับแต่วันที่บังคับใช้พระราชบัญญัตินี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวตามกฎหมายในบัญชี 9 ท้ายพระราชบัญญัตินี้ เป็นความผิดทางปกครองตามพระราชบัญญัตินี้ และให้ถือว่าการปรับอาญาที่บัญญัติไว้ในกฎหมายดังกล่าว เป็นอัตราค่าปรับเป็นเงินตามพระราชบัญญัตินี้

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้บัญญัติให้รัฐพึงทบทวนกฎหมายที่มีความผิดอาญาร้ายแรง ประกอบกับแนวทางการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายได้กำหนดให้มีการปรับปรุงกฎหมายในการกำหนดโทษอาญาให้เหมาะสมกับสภาพความผิดหรือกำหนดมาตรการลงโทษที่ไม่ใช่โทษทางอาญา เช่น ค่าปรับทางปกครอง เพื่อเสริมสร้างความเป็นธรรมในสังคม และลดจำนวนประชาชนที่เป็นผู้กระทำความผิดและต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา เช่น ถูกจับกุม คุมขัง เพิ่มพูนภาระให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐอาจกระทบต่อประสิทธิภาพโดยรวม และให้เกิดไม่ว่าผู้กระทำผิดไม่ถูกดำเนินคดีหรือได้รับโทษที่เหมาะสมกับการกระทำความผิดที่ได้กระทำลงไป อันเป็นการบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการบังคับใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ทั้งนี้ การลงโทษที่เหมาะสมกับการกระทำความผิดจะต้องคำนึงถึงความร้ายแรงของการกระทำความผิดและความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมทั้งการป้องกันมิให้เกิดการกระทำความผิดซ้ำอีกในอนาคตด้วย ดังนั้น เพื่อให้การกำหนดมาตรการลงโทษที่เหมาะสมกับการกระทำความผิดและความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมทั้งการป้องกันมิให้เกิดการกระทำความผิดซ้ำอีกในอนาคตด้วย กระทำความผิดไม่มีเงินชำระค่าปรับ อาจจะทำงานบริการสังคมหรือทำงาน สาธารณประโยชน์แทนการชำระค่าปรับได้ โดยไม่มีการกำหนดเงินค่าปรับขั้นต่ำเป็นอยู่ ในลำดับถัดๆ การเปลี่ยนการบังคับไม่ให้เป็นโทษจำคุกโดยกำหนดวิธีการดำเนินการขึ้น ใหม่เป็นการเฉพาะนี้ ย่อมจะช่วยทำให้ประชาชนที่ถูกกล่าวหากระทำความผิดไม่ต้องเข้า สู่กระบวนการทางอาญา และไม่มีประวัติอาชญากรรมติดตัวอีกต่อไป การเปลี่ยนแปลงแนว นี้จะเป็นไปตามเจตนารมณ์เพื่อสร้างความเป็นธรรมและจัดความสมดุลย์ทางสังคมและ ส่งเสริมการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตามแผนแม่บทของยุทธศาสตร์ชาติ และ มาตรา ๒๗ ข. (๕) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและแผนการ ปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย นอกจากนี้ สำหรับกฎหมายบางฉบับที่กำหนดให้มีโทษทาง ปกครองเป็นโทษปรับทางปกครองไว้แล้ว สมควรเปลี่ยนโทษดังกล่าวเป็นมาตรการปรับเป็นพินัยเช่น เดียวกัน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ จริยา / Maker 6 ตุลาคม 2566 สุภัททิพย์ / Checker 11 ตุลาคม 2566 สุภัททิพย์ / Authorizer 25 ตุลาคม 2566 [1] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๙/ตอนที่ ๓๐ ก/หน้า ๑๐/๑๓ มีนาคม ๒๕๕๕ [2] มาตรา ๒๗ ข. (๕) ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ [3] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๖/ตอนที่ ๕๐ ก/หน้า ๒๐๘/๑๖ เมษายน ๒๕๖๒ [4] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๗/ตอนที่ ๖๖ ก/หน้า ๒๒/๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๓