สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ให้ไว้ ณ วันที' ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๑ เปป็นปัที' ๓ ในรัชกาลปีจจุบัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระ ราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที'เปป็นการสมควรมีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั.,ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี.,มีบทบัญญัติบางประการเกี'ยวกับ การจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ'งมาตรา ๒๖ ประกอบกับมาตรา ๒๗ มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ และมาตรา ๓๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทําได้ โดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เหตุผลและความจําเปป็นในการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระ ราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี., เพื'อให้การดําเนินการเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เปป็นไปโดยสุจริตและเที'ยงธรรม ซึ'งการตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี., สอดคล้องกับเงื'อนไขที'บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ขึ.,นไว้โดยคําแนะนําและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติทําหน้าที'รัฐสภา ดังต่อไปนี.,
กําหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิก
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้ แทนราษฎรและการได้มาซึ'งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๕๐ เฉพาะในส่วนที'เกี'ยวกับการเลือก ตั.,งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้ แทนราษฎรและการได้มาซึ'งสมาชิกวุฒิสภา (ฉบับที' ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที' ๕๗/๒๕๕๗ เรื'อง ให้ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญบางฉบับมีผลบังคับใช้ต่อไป ลงวันที' ๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗ เฉพาะในส่วนที'เกี'ยวกับการเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการการเลือกตั.,งตามกฎหมาย ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั.,ง “กรรมการ” หมายความว่า กรรมการการเลือกตั.,งตามกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั.,ง และให้หมายความรวมถึงประธานกรรมการ การเลือกตั.,งด้วย “ผู้ตรวจการเลือกตั.,ง” หมายความว่า ผู้ตรวจการเลือกตั.,งตามกฎหมาย ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั.,ง “ผู้อํานวยการการเลือกตั.,งประจําจังหวัด” หมายความว่า ผู้อํานวยการ การเลือกตั.,งประจําจังหวัดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการ เลือกตั.,ง “เจ้าพนักงานผู้ดําเนินการเลือกตั.,ง” หมายความว่า ผู้อํานวยการการเลือก ตั.,งประจําเขตเลือกตั.,ง ประธานกรรมการและกรรมการการเลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,ง ประธานกรรมการและกรรมการประจําหน่วยเลือกตั.,ง เจ้าหน้าที'รักษาความปลอดภัย และผู้ ซึ'งได้รับแต่งตั.,งให้ช่วยเหลือการปฏิบัติงานในการเลือกตั.,ง “ผู้มีสิทธิเลือกตั.,ง” หมายความว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร วันเลือกตั.,ง “ผู้สมัคร” หมายความว่า ผู้สมัครรับเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร “วันเลือกตั.,ง” หมายความว่า วันที'คณะกรรมการประกาศกําหนดให้เปป็น “การเลือกตั.,ง” หมายความว่า การเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร “เขตเลือกตั.,ง” หมายความว่า ท้องที'ที'กําหนดเปป็นเขตเลือกตั.,งสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั.,ง “หน่วยเลือกตั.,ง” หมายความว่า ท้องที'ที'กําหนดให้ทําการออกเสียงลง คะแนน “ที'เลือกตั.,ง” หมายความว่า สถานที'ที'กําหนดให้ทําการออกเสียงลงคะแนน และให้หมายความรวมถึงบริเวณที'กําหนดขึ.,นโดยรอบที'เลือกตั.,งด้วย “จังหวัด” หมายความรวมถึงกรุงเทพมหานครด้วย “อําเภอ” หมายความรวมถึงเขตด้วย “ตําบล” หมายความรวมถึงแขวงด้วย “ศาลากลางจังหวัด” หมายความรวมถึงศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ด้วย “ที'ว่าการอําเภอ” หมายความรวมถึงสํานักงานเขตด้วย “เทศบาล” หมายความรวมถึงเมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ'น อื'นที'มีกฎหมายจัดตั.,งขึ.,นเปป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ'นรูปแบบพิเศษด้วย “กองทุน” หมายความว่า กองทุนเพื'อการพัฒนาพรรคการเมืองตาม กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง “สํานักงาน” หมายความว่า สํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั.,งตาม กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั.,ง “เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั.,งตาม กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั.,ง
ในกรณีที'พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี.,กําหนดให้คณะกรรมการ มีอํานาจกําหนดหรือมีคําสั'งเรื'องใด ถ้ามิได้กําหนดวิธีการไว้เปป็นการเฉพาะ ให้คณะ กรรมการกําหนดโดยทําเปป็นระเบียบ ประกาศ หรือคําสั'ง แล้วแต่กรณี และถ้าระเบียบ ประกาศ หรือคําสั'งนั.,นใช้บังคับแก่บุคคลทั'วไป ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และให้ ดําเนินการประกาศตามวรรคหนึ'งด้วย ทั.,งนี., ถ้าระเบียบ ประกาศ หรือคําสั'งใดมีการ กําหนดขั.,นตอนการดําเนินงานไว้ คณะกรรมการต้องกําหนดระยะเวลาการดําเนินงานใน แต่ละขั.,นตอนให้ชัดเจนด้วย
อาจกําหนดให้ศาลชั.,นต้นที'มีเขตอํานาจในเขตเลือกตั.,งนั.,นเปป็นผู้รับคําร้องแทนเพื'อจัดส่งให้ ศาลฎีกาวินิจฉัย หรืออาจให้ศาลชั.,นต้นดังกล่าวเปป็นผู้ไต่สวนพยานหลักฐานหรือดําเนินการ อื'นที'จําเปป็นแทนศาลฎีกาก็ได้ การปฏิบัติหน้าที'ของศาลฎีกาเกี'ยวกับการเลือกตั.,งตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญนี., ผู้พิพากษาซึ'งร่วมประชุมใหญ่ศาลฎีกา องค์คณะผู้พิพากษา ตลอด จนบุคคลซึ'งองค์คณะผู้พิพากษามอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที'มีสิทธิได้รับเบี.,ยประชุมหรือค่า ตอบแทน แล้วแต่กรณี ตามระเบียบที'คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมตามกฎหมายว่า ด้วยระเบียบบริหารราชการศาลยุติธรรมกําหนด
การส่งเสริม สนับสนุน และการแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลตามวรรคหนึ'ง ให้ เปป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที'คณะกรรมการกําหนด โดยอย่างน้อยต้องมีมาตรการ คุ้มครองมิให้เกิดอันตรายแก่ผู้แจ้งเบาะแสหรือข้อมูล รวมตลอดทั.,งมาตรการรักษาความลับ ของผู้แจ้งเบาะแสหรือข้อมูลด้วย เบาะแสหรือข้อมูลที'องค์กร ชุมชน หรือบุคคลตามวรรคหนึ'งแจ้งต่อคณะ กรรมการ จะนําไปเปป็นเหตุในการดําเนินคดีแก่ผู้แจ้งเบาะแสหรือข้อมูลนั.,นในทางใดมิได้ เว้น แต่เปป็นเบาะแสหรือข้อมูลที'ผู้แจ้งรู้อยู่แล้วว่าเปป็นเท็จ
เมื'อมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั.,งทั'วไปขึ.,นใช้บังคับ ให้คณะกรรมการดําเนินการจัดให้มีการเลือกตั.,ง ดังต่อไปนี.,
การเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั.,งจํานวนสี' ร้อยคน ซึ'งเปป็นการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั.,งผู้สมัครเปป็นรายบุคคลตามการแบ่งเขตเลือก ตั.,งที'กําหนด เขตเลือกตั.,งละหนึ'งคน
การเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื'อจํานวนหนึ'ง ร้อยคน ซึ'งเปป็นการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั.,งบัญชีรายชื'อผู้สมัครที'พรรคการเมืองจัดทํา ขึ.,น โดยเลือกเพียงพรรคการเมืองเดียวทั.,งประเทศ
ทั'วไปใช้บังคับ ให้คณะกรรมการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเกี'ยวกับการเลือกตั.,ง ดังต่อ ไปนี.,
กําหนดวันเลือกตั.,ง
กําหนดวันรับสมัครรับเลือกตั.,งแบบแบ่งเขตเลือกตั.,ง โดยเริ'มรับสมัคร ไม่เกินยี'สิบห้าวันนับแต่วันที'พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั.,งทั'วไปใช้บังคับ และต้อง กําหนดวันรับสมัครไม่น้อยกว่าห้าวัน
จํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั.,งที'แต่ละจังหวัด จะพึงมีและจํานวนเขตเลือกตั.,งแบบแบ่งเขตเลือกตั.,งของแต่ละจังหวัด ซึ'งต้องมีรายละเอียด เกี'ยวกับอําเภอหรือเขตพื.,นที'ที'อยู่ในเขตเลือกตั.,ง
กําหนดวันและสถานที'ที'พรรคการเมืองจะส่งบัญชีรายชื'อผู้สมัคร แบบบัญชีรายชื'อ ในกรณีที'มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั.,งแทนตําแหน่งที' ว่าง ให้นําความใน (๑) และ (๒) มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม
เมื'อพรรคการเมืองแจ้งรายชื'อบุคคลใดตามวรรคหนึ'งแล้ว บุคคลนั.,นหรือ พรรคการเมืองนั.,นจะถอนรายชื'อหรือเปลี'ยนแปลงรายชื'อบุคคลนั.,นได้เฉพาะกรณีบุคคลนั.,น ตายหรือขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม และต้องกระทําก่อนปั"ดการรับสมัครรับ เลือกตั.,ง การคัดเลือกรายชื'อบุคคลตามวรรคหนึ'ง ให้เปป็นไปตามกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พรรคการเมืองจะไม่เสนอรายชื'อบุคคลตามวรรคหนึ'งก็ได้
เกณฑ์ ดังต่อไปนี.,
ต้องมีหนังสือยินยอมของบุคคลซึ'งได้รับการเสนอชื'อ โดยมีราย ละเอียดตามที'คณะกรรมการกําหนด
ผู้ได้รับการเสนอชื'อต้องเปป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามที' จะเปป็นรัฐมนตรีตามที'บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และไม่เคยทําหนังสือยินยอมตาม (๑) ให้ พรรคการเมืองอื'นในการเลือกตั.,งคราวนั.,น การเสนอชื'อบุคคลใดที'มิได้เปป็นไปตามวรรคหนึ'ง ให้ถือว่าไม่มีการเสนอชื'อ บุคคลนั.,น
สามารถจัดการเลือกตั.,งทั'วไปพร้อมกันทั'วราชอาณาจักรตามวันที'คณะกรรมการประกาศ กําหนดตามมาตรา ๑๒ (๑) อันมิใช่เปป็นกรณีตามมาตรา ๑๐๒ และคณะกรรมการมีมติด้วย คะแนนไม่น้อยกว่าสองในสามของกรรมการทั.,งหมดเท่าที'มีอยู่ว่าการดําเนินการเลือกตั.,งต่อ ไปตามกําหนดวันเดิมจะก่อให้เกิดความไม่เปป็นธรรมหรือเรียบร้อย คณะกรรมการจะ ประกาศกําหนดวันเลือกตั.,งใหม่ก็ได้ แต่ต้องจัดให้มีการเลือกตั.,งภายในสามสิบวันนับแต่วัน ที'เหตุดังกล่าวสิ.,นสุดลง ในกรณีที'มีเหตุตามวรรคหนึ'งเกิดขึ.,นในระหว่างเวลาเปั"ดการลงคะแนน คณะกรรมการจะสั'งยกเลิกการเลือกตั.,ง และประกาศกําหนดวันเลือกตั.,งใหม่ก็ได้ เพื'อประโยชน์ในการนับอายุของผู้มีสิทธิเลือกตั.,งและอายุของผู้สมัคร ให้ นับถึงวันเลือกตั.,งที'คณะกรรมการได้กําหนดไว้ตามมาตรา ๑๒ (๑)
ในกรณีที'มีการเลือกตั.,งใหม่ตามวรรคหนึ'ง ให้ถือว่าผู้สมัครเดิมที'มี คุณสมบัติครบถ้วนและไม่มีลักษณะต้องห้ามยังคงเปป็นผู้สมัครในการเลือกตั.,งที'จะจัดขึ.,นใหม่ โดยไม่ต้องรับสมัครใหม่ เว้นแต่จะไม่มีผู้สมัครเดิมเหลืออยู่
การพิจารณาคดีและการทําคําพิพากษาหรือคําสั'งของศาลปกครองสูงสุด ตามวรรคหนึ'ง ให้เปป็นไปตามระเบียบของที'ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดโดย ประกาศในราชกิจจานุเบกษาซึ'งต้องกําหนดให้การพิจารณาเปป็นไปโดยรวดเร็วและเที'ยง ธรรม ทั.,งนี., คําพิพากษาหรือคําสั'งของศาลปกครองสูงสุดไม่กระทบถึงการดําเนินการเลือก ตั.,งหรือการกระทําอื'นใดที'ได้ดําเนินการไปก่อนศาลปกครองสูงสุดมีคําพิพากษาหรือคําสั'ง การปฏิบัติหน้าที'ของศาลปกครองสูงสุดเกี'ยวกับการเลือกตั.,งตามพระราช บัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี., ตุลาการซึ'งร่วมประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด องค์คณะตุลาการ ตลอดจนบุคคลซึ'งองค์คณะตุลาการมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที'มีสิทธิได้ รับเบี.,ยประชุมหรือค่าตอบแทน แล้วแต่กรณี ตามระเบียบที'คณะกรรมการบริหารศาล ปกครองตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั.,งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองกําหนด การพิจารณาของศาลปกครองสูงสุดตามมาตรานี.,ให้ดําเนินการให้แล้ว เสร็จก่อนวันเลือกตั.,งไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน และในกรณีที'ศาลปกครองสูงสุดยังไม่ได้มีคํา พิพากษาหรือคําสั'งให้การพิจารณาเปป็นอันยุติ และให้ดําเนินการไปตามคําสั'งของคณะ กรรมการ
บุคคลเปป็นเจ้าพนักงานผู้ดําเนินการเลือกตั.,ง ดังต่อไปนี.,
ผู้อํานวยการการเลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,งหนึ'งคน มีหน้าที'เกี'ยวกับ การรับสมัครรับเลือกตั.,งแบบแบ่งเขตเลือกตั.,ง และดําเนินกิจการที'จําเปป็นเกี'ยวกับการเลือก ตั.,งให้เปป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี.,
คณะกรรมการการเลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,งไม่น้อยกว่าสามคน มีหน้าที'เกี'ยวกับการกําหนด หน่วยเลือกตั.,ง ที'เลือกตั.,ง การจัดทําบัญชีรายชื'อผู้มีสิทธิเลือก ตั.,ง การเพิ'มชื'อ และการถอนชื'อผู้มีสิทธิเลือกตั.,งในเขตเลือกตั.,ง รวมทั.,งมีหน้าที'กํากับดูแล การออกเสียงลงคะแนน การนับคะแนน และการประกาศผลการนับคะแนน การแต่งตั.,งและการพ้นจากตําแหน่งของผู้อํานวยการการเลือกตั.,งประจํา เขตเลือกตั.,งและคณะกรรมการการเลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,ง ให้เปป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที'คณะกรรมการกําหนด เพื'อประโยชน์ในการดําเนินการเลือกตั.,ง ให้คณะกรรมการมีอํานาจแต่งตั.,ง หรือมอบหมายให้ผู้อํานวยการการเลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,งหรือคณะกรรมการการเลือก ตั.,งประจําเขตเลือกตั.,งแต่งตั.,งคณะอนุกรรมการ คณะบุคคล หรือบุคคลใด เปป็นผู้ช่วยเหลือ การปฏิบัติงานในการเลือกตั.,งได้ตามสมควร การใดที'เปป็นหน้าที'และอํานาจของผู้อํานวยการการเลือกตั.,งประจําเขต เลือกตั.,งหรือคณะกรรมการการเลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,ง คณะกรรมการจะออกระเบียบ ให้ผู้อํานวยการการเลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,ง หรือคณะกรรมการการเลือกตั.,งประจําเขต เลือกตั.,งมีอํานาจมอบหมายให้คณะอนุกรรมการ คณะบุคคล หรือบุคคลตามวรรคสามทํา หน้าที'แทนก็ได้ ในกรณีเช่นนั.,น การดําเนินการ การแจ้ง หรือการยื'นที'กระทําต่อผู้ซึ'งได้รับ มอบหมาย ให้ถือว่าเปป็นการดําเนินการ แจ้ง หรือได้ยื'นต่อผู้อํานวยการการเลือกตั.,งประจํา เขตเลือกตั.,งหรือคณะกรรมการการเลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,งแล้ว
คณะกรรมการประจําหน่วยเลือกตั.,งเก้าคน มีหน้าที'เกี'ยวกับการ ออกเสียงลงคะแนนในที'เลือกตั.,งและนับคะแนนของหน่วยเลือกตั.,งแต่ละแห่ง ในกรณีที' หน่วยเลือกตั.,งใดมีความจําเปป็นอาจแต่งตั.,งกรรมการประจําหน่วยเลือกตั.,งเพิ'มได้ตามหลัก เกณฑ์และไม่เกินจํานวนที'คณะกรรมการกําหนด
เจ้าหน้าที'รักษาความปลอดภัยอย่างน้อยหนึ'งคน ซึ'งแต่งตั.,งจากเจ้า หน้าที'ของรัฐเพื'อทําหน้าที'รักษาความปลอดภัยและสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที'ของคณะ กรรมการประจําหน่วยเลือกตั.,ง การแต่งตั.,งและการฝcgกอบรมคณะกรรมการประจําหน่วยเลือกตั.,งและเจ้า หน้าที'รักษาความปลอดภัยให้เปป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที'คณะกรรมการกําหนด โดยในการฝcgกอบรมจะดําเนินการฝcgกอบรมผู้มีคุณสมบัติตามวรรคหนึ'งเพื'อสํารองไว้ มากกว่าจํานวนที'ต้องใช้จริงแต่ไม่เกินจํานวนที'คณะกรรมการกําหนดก็ได้ ในกรณีที'คณะกรรมการการเลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,งหรือผู้ตรวจการ เลือกตั.,งพบเห็นกรรมการประจําหน่วยเลือกตั.,งหรือเจ้าหน้าที'รักษาความปลอดภัยผู้ใด กระทําผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี., หรือกระทําการใดอันอาจเปป็นเหตุ ให้การเลือกตั.,งมิได้เปป็นไปโดยสุจริตหรือเที'ยงธรรม หรือเปป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ให้ รายงานคณะกรรมการหรือกรรมการโดยทันที และให้คณะกรรมการหรือกรรมการมี อํานาจสั'งเปลี'ยนกรรมการประจําหน่วยเลือกตั.,งหรือเจ้าหน้าที'รักษาความปลอดภัยได้ตาม ที'เห็นสมควร ในกรณีที'เกี'ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที'ของรัฐ ให้ผู้ตรวจการเลือกตั.,งมี อํานาจแจ้งเตือนให้ปฏิบัติให้ถูกต้องได้ ถ้าไม่มีการดําเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตามที'แจ้ง เตือน ให้รายงานให้คณะกรรมการหรือกรรมการทราบโดยเร็ว ในกรณีที'กรรมการเปป็นผู้พบเห็นการกระทําตามวรรคสาม ให้กรรมการมี อํานาจสั'งเปลี'ยนกรรมการประจําหน่วยเลือกตั.,งหรือเจ้าหน้าที'รักษาความปลอดภัยได้ตาม ที'เห็นสมควร ทั.,งนี., ในกรณีที'เห็นว่าการกระทําหรือการงดเว้นการกระทําดังกล่าวเปป็นการ กระทําของเจ้าหน้าที'ของรัฐ ให้มีอํานาจสั'งให้ระงับ ยับยั.,ง แก้ไขเปลี'ยนแปลง หรือสั'งให้ กระทําการอย่างใดอย่างหนึ'งได้ตามที'เห็นสมควร ถ้าเปป็นการกระทําของบุคคลซึ'งมิใช่เปป็น เจ้าหน้าที'ของรัฐ ให้มีอํานาจสั'งให้พนักงานฝ'ายปกครองหรือตํารวจ หรือพนักงานฝ'าย ปกครองหรือตํารวจชั.,นผู้ใหญ่ดําเนินการตามหน้าที'และอํานาจ หรือสั'งให้ผู้อํานวยการการ เลือกตั.,งประจําจังหวัดบันทึกพฤติกรรมแห่งการกระทําและรวบรวมพยานหลักฐานไว้เพื'อ ดําเนินการต่อไปได้ตามที'จําเปป็น หรือในกรณีจําเปป็นอันไม่อาจหลีกเลี'ยงได้จะสั'งให้ระงับ หรือยับยั.,งการดําเนินการเลือกตั.,งในหน่วยเลือกตั.,งบางหน่วยหรือทุกหน่วยในเขตเลือกตั.,งที' พบเห็นการกระทําหรือการงดเว้นการกระทํานั.,นก็ได้แล้วรายงานต่อคณะกรรมการเพื'อ ทราบโดยเร็ว ทั.,งนี., ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื'อนไขที'คณะกรรมการกําหนด
ในกรณีที'กรรมการประจําหน่วยเลือกตั.,งมาปฏิบัติหน้าที'ไม่ถึงกึ'งหนึ'ง ให้ กรรมการประจําหน่วยเลือกตั.,งที'มาปฏิบัติหน้าที'อยู่ในขณะนั.,นรายงานต่อคณะกรรมการ การเลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,งเพื'อแต่งตั.,งบุคคลผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๙ เปป็น กรรมการประจําหน่วยเลือกตั.,งให้ครบจํานวนโดยเร็ว ในกรณีที'ไม่มีกรรมการประจําหน่วยเลือกตั.,งมาปฏิบัติหน้าที'เลย ให้คณะ กรรมการการเลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,งแต่งตั.,งบุคคลผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๙ เปป็น กรรมการประจําหน่วยเลือกตั.,งเพื'อปฏิบัติหน้าที'ในหน่วยเลือกตั.,งนั.,น การแต่งตั.,งและการปฏิบัติหน้าที'ของกรรมการประจําหน่วยเลือกตั.,งให้เปป็น ไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื'อนไขที'คณะกรรมการกําหนด
แล้วรายงานให้คณะกรรมการทราบ
กรรมการ เลขาธิการ ผู้ตรวจการเลือกตั.,ง ผู้อํานวยการการเลือกตั.,งประจํา จังหวัด หรือเจ้าพนักงานผู้ดําเนินการเลือกตั.,ง ซึ'งปฏิบัติหน้าที'ตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญนี., หรือกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ หรือคําสั'งของคณะกรรมการ หรือปฏิบัติ ตามคําสั'งของศาลอันเกี'ยวกับการเลือกตั.,ง หากได้กระทําโดยสุจริต ย่อมได้รับความ คุ้มครอง ไม่ต้องรับผิดทั.,งทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางปกครอง
กรรมการ เลขาธิการ ผู้ตรวจการเลือกตั.,ง และผู้อํานวยการการเลือก ตั.,งประจําจังหวัด
เจ้าพนักงานผู้ดําเนินการเลือกตั.,ง สําหรับบุคคลตาม (๒) ให้เปป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญานับ แต่วันที'ได้รับการแต่งตั.,งจนสิ.,นสุดแห่งการงานในหน้าที'
จํานวนสมาชิก เขตเลือกตั.,ง หน่วยเลือกตั.,ง และที'เลือกตั.,ง
การกําหนดจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที'แต่ละจังหวัด จะพึงมีและการแบ่งเขตเลือกตั.,ง ให้ดําเนินการตามวิธีการ ดังต่อไปนี.,
ให้ใช้จํานวนราษฎรทั.,งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรที' ประกาศในปัสุดท้ายก่อนปัที'มีการเลือกตั.,ง เฉลี'ยด้วยจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสี'ร้อย คน จํานวนที'ได้รับให้ถือว่าเปป็นจํานวนราษฎรต่อสมาชิกหนึ'งคน
จังหวัดใดมีราษฎรไม่ถึงเกณฑ์จํานวนราษฎรต่อสมาชิกหนึ'งคนตาม
ให้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดนั.,นได้หนึ'งคน โดยให้ถือเขตจังหวัดเปป็นเขตเลือก ตั.,ง
จังหวัดใดมีราษฎรเกินจํานวนราษฎรต่อสมาชิกหนึ'งคน ให้มีสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดนั.,นเพิ'มขึ.,นอีกหนึ'งคนทุกจํานวนราษฎรที'ถึงเกณฑ์จํานวน ราษฎรต่อสมาชิกหนึ'งคน
เมื'อได้จํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของแต่ละจังหวัดตาม (๒) และ (๓) แล้ว ถ้าจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยังไม่ครบสี'ร้อยคน จังหวัดใดมีเศษที'เหลือจาก การคํานวณตาม (๓) มากที'สุด ให้จังหวัดนั.,นมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพิ'มขึ.,นอีกหนึ'งคน และให้เพิ'มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามวิธีการดังกล่าวแก่จังหวัดที'มีเศษที'เหลือจากการ คํานวณนั.,นในลําดับรองลงมาตามลําดับจนครบจํานวนสี'ร้อยคน
จังหวัดใดมีการเลือกตั.,งได้เกินหนึ'งคน ให้แบ่งเขตจังหวัดออกเปป็นเขต เลือกตั.,งเท่าจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที'พึงมี โดยต้องแบ่งพื.,นที'ของเขตเลือกตั.,งแต่ละ เขตให้ติดต่อกันและต้องจัดให้มีจํานวนราษฎรในแต่ละเขตใกล้เคียงกัน
เกณฑ์ดังต่อไปนี.,
ให้รวมอําเภอต่าง ๆ เปป็นเขตเลือกตั.,ง โดยคํานึงถึงพื.,นที'ที'ติดต่อใกล้ชิด กัน ความสะดวกในการคมนาคมระหว่างกัน และการเคยอยู่ในเขตเลือกตั.,งเดียวกัน ถ้าการ รวมอําเภอในลักษณะนี.,จะทําให้มีจํานวนราษฎรมากหรือน้อยเกินไป ให้แยกตําบลของ อําเภอออกเพื'อให้ได้จํานวนราษฎรพอเพียงสําหรับการเปป็นเขตเลือกตั.,ง แต่จะแยกหรือรวม เฉพาะเพียงบางส่วนของตําบลไม่ได้
ในกรณีที'การกําหนดพื.,นที'ตามเกณฑ์ใน (๑) จะทําให้จํานวนราษฎรใน แต่ละเขตเลือกตั.,งมีจํานวนไม่ใกล้เคียงกันหรือไม่มีสภาพเปป็นชุมชนเดียวกัน ให้ดําเนินการ แบ่งเขตเลือกตั.,งตามสภาพของชุมชนที'ราษฎรมีการติดต่อกันเปป็นประจําในลักษณะที'เปป็น ชุมชนเดียวกันหรือใกล้เคียงกันและสามารถเดินทางติดต่อกันได้โดยสะดวก โดยจะต้อง ทําให้จํานวนราษฎรมีจํานวนใกล้เคียงกันมากที'สุด
เปั"ดโอกาสให้พรรคการเมืองและประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิด เห็นเพื'อประกอบการพิจารณาเกี'ยวกับการแบ่งเขตเลือกตั.,งตาม (๑) และ (๒) ทั.,งนี., ตาม หลักเกณฑ์และวิธีการที'คณะกรรมการกําหนด
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และให้ใช้เขตเลือกตั.,งนั.,นจนกว่าจะมีการเลือกตั.,งทั'วไปครั.,ง ใหม่ ในกรณีที'มีการกําหนดเขตเลือกตั.,งใหม่และมีผลให้พื.,นที'ของเขตเลือกตั.,ง เปลี'ยนแปลงไป ให้การดําเนินการใดที'ได้ดําเนินการไปโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วก่อนมีการ กําหนดเขตเลือกตั.,งใหม่ เปป็นอันใช้ได้
ให้ใช้เขตหมู่บ้านเปป็นเขตของหน่วยเลือกตั.,ง เว้นแต่ในกรณีที'มีผู้มีสิทธิ เลือกตั.,งจํานวนน้อย จะรวมหมู่บ้านที'อยู่ติดกันตั.,งแต่สองหมู่บ้านขึ.,นไปเปป็นหน่วยเลือกตั.,ง เดียวกันก็ได้ สําหรับในเขตเทศบาล เขตกรุงเทพมหานคร หรือเขตชุมชนหนาแน่น อาจ กําหนดให้ใช้เขตชุมชน แนวถนน ตรอก ซอย คลอง หรือแม่น엄า เปป็นเขตของหน่วยเลือกตั.,ง ก็ได้ โดยคํานึงถึงความสะดวกในการเดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั.,งของผู้มีสิทธิเลือกตั.,ง
ให้ถือเกณฑ์จํานวนผู้มีสิทธิเลือกตั.,งหน่วยละหนึ'งพันคนเปป็นประมาณ แต่ถ้าเห็นว่าไม่เปป็นการสะดวกหรือไม่ปลอดภัยในการไปออกเสียงลงคะแนนของผู้มีสิทธิ เลือกตั.,ง อาจกําหนดจํานวนผู้มีสิทธิเลือกตั.,งมากกว่าจํานวนดังกล่าวก็ได้ หรือจะกําหนด หน่วยเลือกตั.,งเพิ'มขึ.,นโดยให้มีจํานวนผู้มีสิทธิเลือกตั.,งน้อยกว่าจํานวนดังกล่าวก็ได้
ที'เลือกตั.,งต้องเปป็นสถานที'ที'ผู้มีสิทธิเลือกตั.,งเข้าออกได้สะดวก เพื'อการ ออกเสียงลงคะแนนมีความเหมาะสม มีขนาดพอสมควร และควรตั.,งอยู่ในย่านกลางของ หน่วยเลือกตั.,ง พร้อมทั.,งให้มีปนี้ายหรือเครื'องหมายอื'นใดเพื'อแสดงขอบเขตบริเวณของที' เลือกตั.,งไว้ด้วย ตามลักษณะของท้องที'และภูมิประเทศในการออกเสียงลงคะแนนของผู้มี สิทธิเลือกตั.,ง ในท้องที'ใดถ้าเห็นว่าจะเปป็นการอํานวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั.,ง หรือ เพื'อความปลอดภัยของผู้มีสิทธิเลือกตั.,ง อาจประกาศกําหนดที'เลือกตั.,งนอกเขตของหน่วย เลือกตั.,งก็ได้ แต่ต้องอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับหน่วยเลือกตั.,งนั.,น ให้ปั"ดประกาศการกําหนดหน่วยเลือกตั.,งและที'เลือกตั.,งไว้ ณ ที'เลือกตั.,ง หรือบริเวณใกล้เคียงกับที'เลือกตั.,ง การเปลี'ยนแปลงเขตของหน่วยเลือกตั.,งหรือที'เลือกตั.,ง ให้กระทําได้โดย ประกาศก่อนวันเลือกตั.,งไม่น้อยกว่าสิบวัน เว้นแต่ในกรณีเกิดจลาจล อุทกภัย อัคคีภัย เหตุสุดวิสัย หรือเหตุจําเปป็นอย่างอื'น จะประกาศก่อนวันเลือกตั.,งน้อยกว่าสิบวันก็ได้ และให้ นําความในวรรคสองมาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม
มีสัญชาติไทย แต่บุคคลผู้มีสัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติ ต้องได้ สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปั
มีอายุไม่ต나ากว่าสิบแปดปัในวันเลือกตั.,ง
มีชื'ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั.,งมาแล้วเปป็นเวลาไม่น้อยกว่าเก้า สิบวันนับถึงวันเลือกตั.,ง
เปป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั.,งไม่ว่าคดีนั.,นจะถึงที'สุดแล้วหรือ ไม่
ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคําสั'งที'ชอบด้วยกฎหมาย (๔) วิกลจริตหรือจิตฟ' ~นเฟ더อนไม่สมประกอบ
ใช้สิทธิเลือกตั.,ง ในการแจ้งเหตุตามวรรคหนึ'ง ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั.,งทําเปป็นหนังสือหรือโดยวิธี การอื'นเพื'อชี.,แจงเหตุดังกล่าว โดยอาจมอบหมายให้บุคคลใดไปยื'นต่อบุคคลซึ'งคณะ กรรมการแต่งตั.,งแทน หรือจัดส่งหนังสือชี.,แจงเหตุนั.,นทางไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือแจ้งโดย วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ ในกรณีที'บุคคลซึ'งคณะกรรมการแต่งตั.,งพิจารณาแล้วเห็นว่าเหตุที'ผู้มีสิทธิ เลือกตั.,งแจ้งนั.,นมิใช่เหตุอันสมควร ให้แจ้งให้ผู้มีสิทธิเลือกตั.,งทราบภายในสามวันนับแต่วันที' ได้รับแจ้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั.,งที'ได้รับแจ้งตามวรรคสาม มีสิทธิยื'นอุทธรณ์ต่อผู้อํานวย การการเลือกตั.,งประจําจังหวัดภายในสามสิบวันนับแต่วันเลือกตั.,ง การแจ้งเหตุ วิธีการแจ้งเหตุทางอิเล็กทรอนิกส์ บุคคลที'จะรับแจ้งเหตุ สถานที'รับแจ้งเหตุ การพิจารณาการแจ้งเหตุ และการอุทธรณ์ ให้เปป็นไปตามหลักเกณฑ์และ วิธีการที'คณะกรรมการกําหนด โดยในการกําหนดดังกล่าวให้คํานึงถึงการอํานวยความ สะดวกแก่ประชาชนด้วย ในการนี., ให้คณะกรรมการกําหนดรายละเอียดของเหตุที'ทําให้ผู้มี สิทธิเลือกตั.,งไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั.,งไว้ เพื'อเปป็นแนวทางในการพิจารณาของบุคคลซึ'งคณะ กรรมการแต่งตั.,งด้วย
ในกรณีที'ประกาศรายชื'อตามวรรคหนึ'งมีความผิดพลาดคลาดเคลื'อนจาก ข้อเท็จจริง ให้ผู้มีส่วนได้เสียยื'นคําร้องต่อผู้อํานวยการการเลือกตั.,งประจําจังหวัดหรือบุคคล ซึ'งคณะกรรมการแต่งตั.,งตามมาตรา ๓๓ เพื'อดําเนินการแก้ไข ทั.,งนี., ตามหลักเกณฑ์และวิธี การที'คณะกรรมการกําหนด
ยื'นคําร้องคัดค้านการเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
สมัครรับเลือกตั.,งเปป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกสภาท้อง ถิ'นหรือผู้บริหารท้องถิ'น หรือสมัครรับเลือกเปป็นสมาชิกวุฒิสภา
สมัครรับเลือกเปป็นกํานันและผู้ใหญ่บ้านตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะ ปกครองท้องที'
ดํารงตําแหน่งข้าราชการการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบ ข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ'ายการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบ ข้าราชการรัฐสภา
ดํารงตําแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ'น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ'น ผู้ช่วย เลขานุการผู้บริหารท้องถิ'น ประธานที'ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ'น ที'ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ'น หรือคณะที'ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ'น ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั.,งองค์กรปกครองส่วนท้อง ถิ'น การจํากัดสิทธิตามวรรคหนึ'งให้มีกําหนดเวลาครั.,งละสองปันับแต่วันเลือก ตั.,งครั.,งที'ผู้มีสิทธิเลือกตั.,งไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั.,ง และหากในการเลือกตั.,งครั.,งต่อไปผู้นั.,นไม่ไป ใช้สิทธิเลือกตั.,งอีกให้นับเวลาการจํากัดสิทธิครั.,งหลังนี.,โดยนับจากวันที'มิได้ไปใช้สิทธิเลือก ตั.,งครั.,งใหม่ หากกําหนดเวลาการจํากัดสิทธิครั.,งก่อนยังเหลืออยู่เท่าใด ให้กําหนดเวลาการ จํากัดสิทธินั.,นสิ.,นสุดลง
บัญชีรายชื'อผู้มีสิทธิเลือกตั.,งตามวรรคหนึ'ง มิให้ระบุเลขประจําตัว ประชาชนของผู้มีสิทธิเลือกตั.,ง บัญชีรายชื'อผู้มีสิทธิเลือกตั.,งที'จัดทําขึ.,นเพื'อประโยชน์ของเจ้าหน้าที'ในการ ตรวจสอบผู้มาใช้สิทธิเลือกตั.,ง ณ ที'เลือกตั.,ง ให้ระบุเลขประจําตัวประชาชนของผู้มีสิทธิเลือก ตั.,งด้วย
เมื'อได้รับคําร้องตามวรรคหนึ'งแล้ว ให้คณะกรรมการการเลือกตั.,งประจํา เขตเลือกตั.,งตรวจสอบหลักฐาน และถ้าเห็นว่าผู้ยื'นคําร้องหรือผู้มีชื'ออยู่ในทะเบียนบ้านเปป็น ผู้มีสิทธิเลือกตั.,ง ให้สั'งเพิ'มชื'อตามที'ยื'นคําร้องลงในบัญชีรายชื'อผู้มีสิทธิเลือกตั.,งโดยเร็ว ถ้า คณะกรรมการการเลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,งเห็นว่าผู้ยื'นคําร้องหรือผู้มีชื'ออยู่ในทะเบียน บ้านเปป็นผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั.,งก็ให้สั'งยกคําร้อง และแจ้งให้ผู้ยื'นคําร้องทราบภายในสามวันนับ แต่วันที'ได้รับคําร้องโดยแสดงเหตุผลไว้ด้วย เมื'อได้รับแจ้งตามวรรคสองแล้ว ผู้ยื'นคําร้องมีสิทธิยื'นคําร้องต่อศาล จังหวัดที'ตนมีภูมิลําเนาอยู่ หรือต่อศาลแพ่งสําหรับผู้ที'มีภูมิลําเนาอยู่ในกรุงเทพมหานคร ก่อนวันเลือกตั.,งไม่น้อยกว่าห้าวัน โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาลในการดําเนิน กระบวนการพิจารณา เพื'อให้ศาลวินิจฉัยว่าจะให้เพิ'มชื'อในบัญชีรายชื'อผู้มีสิทธิเลือกตั.,ง ตามที'ได้รับคําร้องหรือไม่ เมื'อศาลได้รับคําร้องตามวรรคสามแล้ว ให้ศาลดําเนินการพิจารณาโดย เร็ว คําสั'งของศาลให้เปป็นที'สุด และให้ศาลแจ้งคําสั'งไปยังคณะกรรมการการเลือกตั.,งประจํา เขตเลือกตั.,ง เพื'อปฏิบัติการตามคําสั'งโดยเร็วที'สุด และในกรณีที'มีการประกาศบัญชีรายชื'อ ผู้มีสิทธิเลือกตั.,งไปก่อนได้รับคําสั'งศาล ให้คณะกรรมการการเลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,ง ดําเนินการแก้ไขบัญชีรายชื'อผู้มีสิทธิเลือกตั.,งทุกฉบับให้ถูกต้องด้วย การใดที'ได้ปฏิบัติไปตามคําสั'งของคณะกรรมการการเลือกตั.,งประจําเขต เลือกตั.,งก่อนได้รับคําสั'งศาลให้เปป็นอันสมบูรณ์ตามกฎหมาย
เลือกตั.,ง เมื'อคณะกรรมการการเลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,งพิจารณาแล้วเห็นว่า สมควรสั'งถอนชื'อผู้ซึ'งไม่มีสิทธิเลือกตั.,งออกจากบัญชีรายชื'อผู้มีสิทธิเลือกตั.,ง หรือสมควรยก คําร้อง ก็ให้มีคําสั'งถอนชื'อผู้นั.,นหรือยกคําร้อง แล้วแต่กรณี และให้แจ้งคําสั'งให้ผู้นั.,นหรือเจ้า บ้านทราบ และให้นําความในมาตรา ๓๗ วรรคสาม วรรคสี' และวรรคห้า มาใช้บังคับด้วย โดยอนุโลม
คําสั'งศาล กรณีตามวรรคหนึ'ง ให้สํานักงานศาลยุติธรรมแจ้งคําพิพากษาดังกล่าวต่อ สํานักงาน เพื'อดําเนินการแก้ไขบัญชีรายชื'อผู้มีสิทธิเลือกตั.,งให้สอดคล้องกัน
กรณีดังต่อไปนี., ให้สันนิษฐานว่าเปป็นการย้ายบุคคลเข้ามาในทะเบียนบ้าน เพื'อประโยชน์ในการเลือกตั.,งโดยมิชอบ
การย้ายบุคคลตั.,งแต่ห้าคนขึ.,นไปซึ'งไม่มีชื'อสกุลเดียวกับเจ้าบ้านเข้ามา ในทะเบียนบ้านเพื'อให้บุคคลดังกล่าวมีสิทธิเลือกตั.,งที'จะมีขึ.,นภายในสองปันับแต่วันที'ย้าย เข้ามาในทะเบียนบ้าน
การย้ายบุคคลเข้ามาในทะเบียนบ้านโดยบุคคลนั.,นมิได้อยู่อาศัยจริง โดยไม่มีเหตุอันสมควร
การย้ายบุคคลเข้ามาในทะเบียนบ้านโดยมิได้รับความยินยอมจากเจ้า บ้าน ความในวรรคสอง (๑) มิให้ใช้บังคับแก่หน่วยงานของรัฐ สถานศึกษา หรือ สถานประกอบการ หรือสถานที'อื'นใดที'คณะกรรมการประกาศกําหนด ที'ย้ายเจ้าหน้าที' นักศึกษา หรือพนักงานของตน หรือบุคคลที'คณะกรรมการประกาศกําหนด เข้ามาใน ทะเบียนบ้านของตน ทั.,งนี., ตามหลักเกณฑ์และเงื'อนไขที'คณะกรรมการกําหนด
ผู้สมัครรับเลือกตั.,ง
มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
มีอายุไม่ต나ากว่ายี'สิบห้าปันับถึงวันเลือกตั.,ง
เปป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ'งแต่เพียง พรรคการเมืองเดียวเปป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับถึงวันเลือกตั.,ง เว้นแต่ใน กรณีที'มีการเลือกตั.,งทั'วไปเพราะเหตุยุบสภา ระยะเวลาเก้าสิบวันดังกล่าวให้ลดลงเหลือ สามสิบวัน นี.,ด้วย
ผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั.,ง ต้องมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ'งดังต่อไป (ก) มีชื'ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที'สมัครรับเลือกตั.,งมาแล้วเปป็น เวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าห้าปันับถึงวันสมัครรับเลือกตั.,ง (ข) เปป็นบุคคลซึ'งเกิดในจังหวัดที'สมัครรับเลือกตั.,ง (ค) เคยศึกษาในสถานศึกษาที'ตั.,งอยู่ในจังหวัดที'สมัครรับเลือกตั.,งเปป็น เวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าห้าปัการศึกษา (ง) เคยรับราชการหรือปฏิบัติหน้าที'ในหน่วยงานของรัฐ หรือเคยมีชื'อ อยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที'สมัครรับเลือกตั.,ง แล้วแต่กรณี เปป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า ห้าปั
ติดยาเสพติดให้โทษ
เปป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเปป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
เปป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื'อมวลชนใด ๆ ไม่
เปป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั.,งไม่ว่าคดีนั.,นจะถึงที'สุดแล้วหรือ
วิกลจริตหรือจิตฟ' ~นเฟ더อนไม่สมประกอบ
อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั.,งเปป็นการชั'วคราวหรือ ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั.,ง
ต้องคําพิพากษาให้จําคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล
เคยได้รับโทษจําคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปันับถึงวันเลือกตั.,ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
เคยถูกสั'งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะ ทุจริตต่อหน้าที' หรือถือว่ากระทําการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ
เคยต้องคําพิพากษาหรือคําสั'งของศาลอันถึงที'สุดให้ทรัพย์สินตก เปป็นของแผ่นดินเพราะร나ารวยผิดปกติ หรือเคยต้องคําพิพากษาอันถึงที'สุดให้ลงโทษจําคุก เพราะกระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการปนี้องกันและปราบปรามการทุจริต
เคยต้องคําพิพากษาอันถึงที'สุดว่ากระทําความผิดต่อตําแหน่งหน้าที' ราชการหรือต่อตําแหน่งหน้าที'ในการยุติธรรม หรือกระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วย ความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี'ยวกับทรัพย์ที' กระทําโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที' เปป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดในความผิดฐานเปป็นผู้ผลิต นําเข้า ส่ง ออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเปป็นเจ้ามือหรือเจ้าสํานัก กฎหมาย ว่าด้วยการปนี้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วยการปนี้องกันและปราบ ปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน การเลือกตั.,ง การเมือง
เคยต้องคําพิพากษาอันถึงที'สุดว่ากระทําการอันเปป็นการทุจริตใน
เปป็นข้าราชการซึ'งมีตําแหน่งหรือเงินเดือนประจํานอกจากข้าราชการ
เปป็นสมาชิกสภาท้องถิ'นหรือผู้บริหารท้องถิ'น
เปป็นสมาชิกวุฒิสภาหรือเคยเปป็นสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกภาพสิ.,น สุดลงยังไม่เกินสองปั
เปป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจ หรือเปป็นเจ้าหน้าที'อื'นของรัฐ
เปป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ (๑๙) อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง
เคยพ้นจากตําแหน่งเพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามีการเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระทําด้วยประการใด ๆ ที'มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิก วุฒิสภา หรือกรรมาธิการมีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณราย จ่าย
เคยพ้นจากตําแหน่งเพราะศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองมีคําพิพากษาว่าเปป็นผู้มีพฤติการณ์ร나ารวยผิดปกติ หรือ กระทําความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที' หรือจงใจปฏิบัติหน้าที'หรือใช้อํานาจขัดต่อบทบัญญัติ แห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ'าฝ더นหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่าง ร้ายแรง
หนังสือรับรองการส่งผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั.,งของหัวหน้า พรรคการเมือง ซึ'งต้องมีคํารับรองด้วยว่าได้ดําเนินการถูกต้องครบถ้วนตามกฎหมาย ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองแล้วตามแบบที'คณะกรรมการกําหนด
หลักฐานแสดงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเปป็นเวลาติดต่อกัน สามปันับถึงปัที'สมัครรับเลือกตั.,งของผู้สมัคร เว้นแต่เปป็นผู้ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ ให้ทําหนังสือ ยืนยันการไม่ได้เสียภาษีพร้อมทั.,งสาเหตุแห่งการไม่ได้เสียภาษี
เงินค่าธรรมเนียมการสมัครคนละหนึ'งหมื'นบาท
เอกสารและหลักฐานอื'นตามที'คณะกรรมการกําหนดเท่าที'จําเปป็นต่อ การดําเนินการเลือกตั.,ง ให้สํานักงานจัดทําข้อมูลหลักฐานตาม (๒) และเปั"ดเผยให้ประชาชนทราบ เปป็นการทั'วไป
ที'จะต้องตรวจสอบการสมัครของผู้สมัครว่าได้ส่งเอกสารและหลักฐานตามมาตรา ๔๕ ถูก ต้องครบถ้วนหรือไม่ ถ้าเห็นว่าไม่ถูกต้องครบถ้วน ให้คืนเอกสารและหลักฐานทั.,งหมดให้ผู้ สมัครนั.,น ในกรณีที'ผู้สมัครได้ส่งเอกสารและหลักฐานตามมาตรา ๔๕ ถูกต้องครบ ถ้วนแล้ว ให้ผู้อํานวยการการเลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,งออกหลักฐานการรับสมัครรับเลือก ตั.,งให้แก่ผู้สมัครนั.,นเรียงตามลําดับการยื'นสมัคร และให้ทําสําเนาคู่ฉบับไว้เปป็นหลักฐานและ ให้ประกาศรายชื'อผู้สมัครภายในเจ็ดวันนับแต่วันปั"ดรับสมัครไว้โดยเปั"ดเผย ณ ที'เลือกตั.,ง หรือบริเวณใกล้เคียงกับที'เลือกตั.,ง หรือสถานที'อื'นที'เห็นสมควร ประกาศตามวรรคสองอย่างน้อยให้มีชื'อตัว ชื'อสกุล และรูปถ่ายของผู้ สมัคร พรรคการเมืองที'สังกัด และหมายเลขประจําตัวผู้สมัครที'จะใช้ในการออกเสียงลง คะแนน
ให้นําความในมาตรา ๑๖ มาใช้บังคับแก่การจัดการเลือกตั.,งในเขตเลือกตั.,ง ตามมาตรานี.,ด้วยโดยอนุโลม
ในกรณีที'มีผู้มาสมัครพร้อมกันหลายคนและไม่อาจตกลงลําดับในการยื'น ใบสมัครได้ ให้ใช้วิธีจับสลากระหว่างผู้สมัครที'มาพร้อมกัน เมื'อได้กําหนดหมายเลขประจําตัวผู้สมัครแล้วจะเปลี'ยนแปลงหมายเลข ประจําตัวผู้สมัครไม่ได้ไม่ว่าด้วยประการใด ๆ
กระทบกระเทือนถึงการปฏิบัติก่อนทราบคําวินิจฉัยของศาล
ในกรณีที'คณะกรรมการมีคําวินิจฉัยให้ถอนการรับสมัครของผู้ใด ให้ผู้นั.,น มีสิทธิยื'นอุทธรณ์คําวินิจฉัยดังกล่าวต่อศาลฎีกาได้ภายในสามวันนับแต่วันที'ถูกถอนการรับ สมัคร และในกรณีที'ศาลฎีกายังมิได้มีคําวินิจฉัยเปป็นประการใดก่อนวันเลือกตั.,ง ให้การ พิจารณาเปป็นอันยุติ และให้ดําเนินการเลือกตั.,งไปตามคําสั'งของคณะกรรมการ
เมื'อถึงวันเลือกตั.,ง ถ้าปรากฏว่าศาลฎีกายังมิได้วินิจฉัย ให้ดําเนินการเลือก ตั.,งไปตามประกาศรายชื'อผู้สมัครที'มีผลอยู่ในวันนั.,น
ก่อนประกาศผลการเลือกตั.,ง หากผู้อํานวยการการเลือกตั.,ง ประจําเขตเลือกตั.,งตรวจสอบแล้วเห็นว่าผู้สมัครผู้ใดไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั.,งเนื'องจากขาด คุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั.,งและผู้สมัครผู้นั.,นได้คะแนนอยู่ ในลําดับที'จะได้รับการเลือกตั.,ง ให้เสนอเรื'องต่อคณะกรรมการเพื'อวินิจฉัย ในกรณีที'คณะ กรรมการวินิจฉัยว่าผู้สมัครผู้นั.,นมีเหตุดังกล่าว ให้มีคําสั'งยกเลิกการเลือกตั.,งในเขตเลือกตั.,ง นั.,นและสั'งให้ดําเนินการเลือกตั.,งใหม่ ในกรณีตามวรรคหนึ'ง หากผู้สมัครผู้นั.,นรู้อยู่แล้วว่าตนเปป็นผู้ไม่มีสิทธิ สมัครรับเลือกตั.,ง ให้คณะกรรมการสั'งระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั.,งไว้เปป็นการชั'วคราว และ ดําเนินการต่อไปตามมาตรา ๑๓๘
ในกรณีตามวรรคหนึ'ง หากผู้สมัครผู้นั.,นรู้อยู่แล้วว่าตนเปป็นผู้ไม่มีสิทธิ สมัครรับเลือกตั.,งแล้วปกปั"ดหรือไม่แจ้งข้อความจริงนั.,น ให้ถือว่าการเลือกตั.,งในเขตเลือกตั.,ง นั.,นมิได้เปป็นไปโดยสุจริตหรือเที'ยงธรรม และให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคําสั'งเพิกถอนสิทธิสมัคร รับเลือกตั.,งของผู้นั.,น เมื'อศาลรัฐธรรมนูญได้รับเรื'องไว้พิจารณาแล้ว หากปรากฏเหตุอันควร สงสัยว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้ถูกร้องมีกรณีตามที'ถูกร้อง ให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคําสั'ง ให้ผู้นั.,นหยุดปฏิบัติหน้าที'จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคําวินิจฉัย
ผู้แทนพรรคการเมืองตามวรรคหนึ'ง ต้องอยู่ในที'ซึ'งจัดไว้ ณ ที'เลือกตั.,งซึ'ง สามารถมองเห็นการปฏิบัติงานได้ และต้องปฏิบัติตามที'กรรมการประจําหน่วยเลือกตั.,ง กําหนด ในกรณีที'มีการกระทําอันเปป็นการฝ'าฝ더นความในวรรคสอง ให้คณะ กรรมการประจําหน่วยเลือกตั.,งมีคําสั'งให้ผู้แทนพรรคการเมืองนั.,นออกไปจากที'เลือกตั.,ง และให้เจ้าหน้าที'รักษาความปลอดภัยประจําหน่วยเลือกตั.,งดําเนินการเพื'อให้เปป็นไปตามคํา สั'ง การปฏิบัติงานของผู้แทนพรรคการเมืองให้เปป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธี การที'คณะกรรมการกําหนด
ดําเนินการสรรหาผู้สมัครแบบบัญชีรายชื'อตามวิธีการที'กําหนดไว้ใน กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
พรรคการเมืองจะเสนอรายชื'อบุคคลใดต้องได้รับความยินยอมเปป็น หนังสือจากบุคคลนั.,น และบุคคลดังกล่าวต้องเปป็นสมาชิกของพรรคการเมืองที'จะเสนอราย ชื'อเพียงพรรคเดียว
ให้จัดทําบัญชีรายชื'อตามแบบที'คณะกรรมการกําหนด โดยจัดเรียง ลําดับรายชื'อผู้สมัครตามลําดับหมายเลข
รายชื'อในบัญชีผู้สมัครของพรรคการเมืองต้องไม่ซ엄ากับพรรคการเมือง อื'นและไม่ซ엄ากับรายชื'อผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั.,ง การจัดทําบัญชีรายชื'อตามวรรคหนึ'งต้องให้สมาชิกของพรรคการเมืองมี ส่วนร่วมในการพิจารณาด้วย โดยต้องคํานึงถึงผู้สมัครรับเลือกตั.,งจากภูมิภาคต่าง ๆ และ ความเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง ทั.,งนี., ตามที'บัญญัติไว้ในกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
การรับสมัครรับเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั.,ง ตามวิธีการและ สถานที'ที'คณะกรรมการกําหนด กรณีมีเหตุจําเปป็นอันมิอาจหลีกเลี'ยงได้ คณะกรรมการอาจ เปลี'ยนวิธีการหรือสถานที'รับสมัครก็ได้ ในการยื'นบัญชีรายชื'อผู้สมัครตามวรรคหนึ'ง ต้องยื'นพร้อมเอกสารและ หลักฐานดังต่อไปนี.,
หนังสือยินยอมของผู้สมัคร
หนังสือรับรองของพรรคการเมืองว่าได้ดําเนินการถูกต้องครบถ้วน ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองแล้ว
หลักฐานแสดงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเปป็นเวลาติดต่อกัน สามปันับถึงปัที'สมัครรับเลือกตั.,งของผู้สมัคร เว้นแต่เปป็นผู้ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ ให้ทําหนังสือ ยืนยันการไม่ได้เสียภาษีพร้อมทั.,งสาเหตุแห่งการไม่ได้เสียภาษี
เงินค่าธรรมเนียมการสมัครคนละหนึ'งหมื'นบาท
เอกสารและหลักฐานอื'นตามที'คณะกรรมการกําหนดเท่าที'จําเปป็นต่อ การดําเนินการเลือกตั.,ง ให้สํานักงานจัดทําข้อมูลหลักฐานตาม (๓) และเปั"ดเผยให้ประชาชนทราบ เปป็นการทั'วไป ในกรณีพรรคการเมืองใดยื'นเอกสารและหลักฐานการสมัครรับเลือกตั.,ง ของผู้สมัครรายใดไม่ถูกต้องครบถ้วน ให้คณะกรรมการมีอํานาจไม่รับสมัครรับเลือกตั.,งผู้ สมัครรายนั.,นได้ และให้สํานักงานแจ้งเหตุผลให้พรรคการเมืองทราบ ทั.,งนี., ตามที'คณะ กรรมการกําหนด ให้นําความในมาตรา ๔๘ มาใช้บังคับแก่การให้หมายเลขประจําตัวสําหรับ ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื'อด้วยโดยอนุโลม
มิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั.,ง ให้ยื'นคําร้องต่อศาลฎีกาให้ถอนชื'อผู้นั.,นออกจากประกาศราย ชื'อผู้สมัคร และให้นําความในมาตรา ๕๒ วรรคสอง มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม
ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั.,งและวิธีการหาเสียง
ให้คณะกรรมการประกาศกําหนดจํานวนเงินค่าใช้จ่ายใน การเลือกตั.,ง ดังต่อไปนี.,
จํานวนเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั.,งของผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั.,งที' จะใช้จ่ายในการเลือกตั.,ง
จํานวนเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั.,งของพรรคการเมืองที'จะใช้จ่ายใน การเลือกตั.,ง ในกรณีที'ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื'อผู้ใดของพรรคการเมืองได้ใช้จ่ายไปเพื'อการ เลือกตั.,งเปป็นจํานวนเท่าใด ให้นับรวมเปป็นค่าใช้จ่ายของพรรคการเมืองด้วย ในการกําหนดจํานวนเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั.,งตาม (๒) จะกําหนดโดย ใช้จํานวนสมาชิกของพรรคการเมืองที'ส่งสมัครรับเลือกตั.,งเปป็นรายบุคคลมาเปป็นฐานในการ คํานวณมิได้ โดยให้คณะกรรมการหารือกับหัวหน้าพรรคการเมือง และให้มีการทบทวนการ กําหนดจํานวนเงินดังกล่าวให้สอดคล้องกับความจําเปป็นและสภาวะทางเศรษฐกิจอย่างน้อย ทุกสี'ปั
ในกรณีที'เปป็นการเลือกตั.,งทั'วไปอันเนื'องมาจากการครบอายุของสภาผู้ แทนราษฎร ให้คํานวณค่าใช้จ่ายที'ใช้จ่ายไปตั.,งแต่หนึ'งร้อยแปดสิบวันก่อนวันที'คณะ กรรมการประกาศให้มีการเลือกตั.,ง จนถึงวันเลือกตั.,ง
ในกรณีที'เปป็นการเลือกตั.,งทั'วไปอันเนื'องมาจากการยุบสภา หรือการ เลือกตั.,งแทนตําแหน่งที'ว่าง ให้คํานวณค่าใช้จ่ายที'ใช้จ่ายไปตั.,งแต่วันที'ยุบสภาหรือวันที' ตําแหน่งว่างลง แล้วแต่กรณี จนถึงวันเลือกตั.,ง ในกรณีที'มีเหตุอันสมควรเพื'อประโยชน์ในการดําเนินการหรือการจัดการ เลือกตั.,งให้เปป็นไปโดยสุจริตและเที'ยงธรรม คณะกรรมการจะขยายระยะเวลาตามวรรคหนึ'ง ออกไปก็ได้ ให้คณะกรรมการประกาศประเภทของค่าใช้จ่ายในการเลือกตั.,งไว้เปป็น ตัวอย่างให้ผู้สมัคร พรรคการเมือง และประชาชนทราบเปป็นการทั'วไป ประกาศดังกล่าวให้มี การปรับปรุงให้เปป็นปีจจุบัน
การกระทําตามวรรคหนึ'ง ถ้าเปป็นการกระทําของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ'งกระทําภายในเขตเลือกตั.,งของตน ให้ถือว่าเปป็นการใช้จ่ายเกี'ยวกับการเลือกตั.,งตาม มาตรา ๖๔ โดยให้นําไปรวมคํานวณเปป็นค่าใช้จ่ายของผู้นั.,นในการเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรครั.,งต่อไป ความในวรรคหนึ'งและวรรคสองมิให้ใช้บังคับแก่การให้ตามปกติประเพณี หรือเมื'อมีเหตุอันสมควร ทั.,งนี., ตามจํานวน หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื'อนไขที'คณะกรรมการ กําหนด
ให้คณะกรรมการเปั"ดเผยรายงานสรุปรายรับและรายจ่ายของผู้สมัคร แต่ละคนและพรรคการเมืองแต่ละพรรคโดยประกาศให้ประชาชนทราบเปป็นการทั'วไป ให้คณะกรรมการดําเนินการให้มีการตรวจสอบรายการค่าใช้จ่ายตาม วรรคหนึ'งตามวิธีการที'คณะกรรมการกําหนด ในกรณีที'ความปรากฏต่อคณะกรรมการหรือมีการคัดค้านว่าผู้สมัครผู้ใด หรือพรรคการเมืองใดใช้จ่ายเกี'ยวกับการเลือกตั.,งเกินจํานวนค่าใช้จ่ายที'คณะกรรมการ กําหนด หรือปรากฏว่าบัญชีรายรับและรายจ่ายไม่ถูกต้องครบถ้วนตามความเปป็นจริง ให้ คณะกรรมการดําเนินการให้มีการสืบสวนหรือไต่สวนและวินิจฉัยเพื'อดําเนินการต่อไปโดย เร็ว และให้เก็บรักษาบัญชีรายรับและรายจ่าย เอกสารและหลักฐานดังกล่าวไว้จนกว่าคณะ กรรมการจะดําเนินการแล้วเสร็จ
เรียบร้อย ให้คณะกรรมการกําหนดวิธีการหาเสียงเลือกตั.,งให้ผู้สมัครและพรรคการเมือง ต้องปฏิบัติ วิธีการหาเสียงเลือกตั.,งดังกล่าวให้มีผลภายในกําหนดเวลา ดังต่อไปนี.,
ในกรณีที'เปป็นการเลือกตั.,งทั'วไปอันเนื'องมาจากการครบอายุของสภาผู้ แทนราษฎร ให้กระทําได้ตั.,งแต่หนึ'งร้อยแปดสิบวันก่อนวันครบอายุ จนถึงวันก่อนวันเลือก ตั.,ง
ในกรณีที'เปป็นการเลือกตั.,งทั'วไปอันเนื'องมาจากการยุบสภา หรือการ เลือกตั.,งแทนตําแหน่งที'ว่าง ให้กระทําได้ตั.,งแต่วันที'ยุบสภาหรือวันที'ตําแหน่งว่างลง แล้วแต่ กรณี จนถึงวันก่อนวันเลือกตั.,ง
ในกรณีมีการสั'งให้มีการเลือกตั.,งใหม่ ให้กระทําได้ตั.,งแต่วันที'มีคําสั'งให้ มีการเลือกตั.,งใหม่ จนถึงวันก่อนวันเลือกตั.,ง
ในกรณีมีการสั'งให้มีการออกเสียงลงคะแนนใหม่ ผู้ใดจะหาเสียงเลือก ตั.,งมิได้ เว้นแต่คณะกรรมการจะมีมติเปป็นอย่างอื'นโดยคํานึงถึงความสุจริตและเที'ยงธรรม
ตามมาตรา ๘๑
ในการกําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื'อนไขตามวรรคหนึ'ง ให้คณะ กรรมการหารือกับพรรคการเมือง และผู้ที'เกี'ยวข้องกับวิชาชีพสื'อมวลชนทั.,งสื'อหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และสื'อทางอิเล็กทรอนิกส์ ด้วย ในกรณีที'ความปรากฏต่อคณะกรรมการว่าผู้ใดกระทําการตามวรรคหนึ'ง โดยไม่เปป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการ หรือฝ'าฝ더นเงื'อนไขที'คณะกรรมการกําหนดตาม วรรคหนึ'ง คณะกรรมการมีอํานาจสั'งให้แก้ไข เปลี'ยนแปลง หรือลบข้อมูลภายในเวลาที'คณะ กรรมการกําหนด ให้นําค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั.,งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตาม มาตรานี., ไปรวมคํานวณเปป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั.,งของผู้สมัครและพรรคการเมืองด้วย
จูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั.,งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื'น หรือบัญชีรายชื'อของ พรรคการเมืองใด ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือบัญชีรายชื'อของ พรรคการเมืองใด หรือการชักชวนให้ไปลงคะแนนไม่เลือกผู้ใดเปป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ด้วยวิธีการดังต่อไปนี.,
จัดทํา ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื'อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื'นใดอันอาจคํานวณเปป็นเงินได้แก่ผู้ใด
ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื'นใดไม่ ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือ สถาบันอื'นใด
ทําการโฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื'นเริงต่าง ๆ (๔) เลี.,ยงหรือรับจะจัดเลี.,ยงผู้ใด
หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือ จูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ความใน (๓) มิให้ใช้บังคับแก่ผู้สมัครที'ใช้ความรู้ความสามารถทางศิลปะ ของตน หาเสียงให้แก่ตนเองโดยไม่ใช้อุปกรณ์ในการแสดงมหรสพ ความผิดตาม (๑) หรือ (๒) ให้ถือว่าเปป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่า ด้วยการปนี้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และให้คณะกรรมการมีอํานาจส่งเรื'องให้ สํานักงานปนี้องกันและปราบปรามการฟอกเงินดําเนินการตามหน้าที'และอํานาจได้
ห้ามมิให้ผู้ใดกระทําการตามวรรคหนึ'ง เพื'อจูงใจหรือควบคุมให้ผู้มีสิทธิ เลือกตั.,งไปลงคะแนนเลือกหรือลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด บทบัญญัติในมาตรานี.,มิให้ใช้บังคับแก่การที'หน่วยงานของรัฐจัดยาน พาหนะเพื'ออํานวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั.,ง ทั.,งนี., ตามที'คณะกรรมการกําหนด
ราชการหรือเปป็นการประกอบอาชีพตามปกติโดยสุจริตของผู้นั.,น
การใช้ตําแหน่งหน้าที'โดยมิชอบด้วยกฎหมายตามวรรคหนึ'ง มิให้ หมายความรวมถึงการปฏิบัติหน้าที'ตามปกติที'พึงต้องปฏิบัติในตําแหน่งของเจ้าหน้าที'ของ รัฐนั.,น หรือการแนะนําหรือช่วยเหลือในการดําเนินการที'เกี'ยวข้องกับการเลือกตั.,งของผู้ สมัครหรือพรรคการเมือง โดยมิได้เกี'ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที' แม้ว่าการกระทําจะเปป็น คุณหรือเปป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด ในกรณีมีหลักฐานอันควรเชื'อได้ว่ามีการฝ'าฝ더นบทบัญญัติตามวรรคหนึ'ง ให้คณะกรรมการหรือกรรมการที'พบเห็นมีอํานาจสั'งให้เจ้าหน้าที'ของรัฐยุติหรือระงับการก ระทําใดที'เห็นว่าอาจเปป็นคุณหรือเปป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด ในกรณีตามวรรคสาม ให้คณะกรรมการแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีหน้า ที'และอํานาจกํากับดูแลเจ้าหน้าที'ของรัฐผู้นั.,น สั'งให้เจ้าหน้าที'ของรัฐที'มีพฤติการณ์อันอาจ เปป็นคุณหรือเปป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดพ้นจากหน้าที'เปป็นการชั'วคราว หรือสั'ง ให้ประจํากระทรวง ทบวง กรม ศาลากลางจังหวัด หรือที'ว่าการอําเภอ ในเขตเลือกตั.,งหรือ นอกเขตเลือกตั.,ง หรือห้ามเข้าเขตเลือกตั.,งใดเขตเลือกตั.,งหนึ'งได้
ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองจะมีผู้ช่วยหาเสียงก็ได้ แต่ต้องไม่เกินจํานวนที' คณะกรรมการกําหนด และต้องแจ้งให้สํานักงานทราบรายละเอียดเกี'ยวกับผู้ช่วยหาเสียง หน้าที'และค่าตอบแทนผู้ช่วยหาเสียง ทั.,งนี., ตามรายการและวิธีการที'คณะกรรมการกําหนด
ด้วยก็ได้ ในการสนับสนุนการโฆษณาหาเสียงเลือกตั.,งตามวรรคหนึ'ง คณะ กรรมการอาจจัดเวทีประชันนโยบายบริหารประเทศสําหรับพรรคการเมืองได้ด้วย
พนักงานหรือลูกจ้างของสํานักงาน หรือเจ้าพนักงานตํารวจซึ'งมีหน้าที' ตามวรรคหนึ'ง ผู้ใดไม่รายงานให้คณะกรรมการทราบโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้ถือว่าผู้นั.,น กระทําความผิดทางวินัย และให้คณะกรรมการส่งเรื'องให้ผู้มีอํานาจดําเนินการทางวินัย ดําเนินการตามหน้าที'และอํานาจแก่ผู้นั.,นโดยเร็ว และแจ้งผลให้คณะกรรมการทราบด้วย ใน กรณีที'ผู้ไม่ปฏิบัติหน้าที'ตามวรรคหนึ'งเปป็นผู้ตรวจการเลือกตั.,ง ให้ถือว่าละทิ.,งหน้าที'หรือไม่ ยอมปฏิบัติหน้าที'ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั.,ง
การออกเสียงลงคะแนน
การออกเสียงลงคะแนนให้ใช้บัตรเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้ แทนราษฎร แบบละหนึ'งใบ ซึ'งต้องมีลักษณะแตกต่างที'สามารถจําแนกออกจากกันได้อย่าง ชัดเจน บัตรเลือกตั.,งแบบแบ่งเขตเลือกตั.,งต้องมีช่องทําเครื'องหมายและหมายเลข ไม่น้อยกว่าจํานวนผู้สมัครในเขตเลือกตั.,งนั.,น บัตรเลือกตั.,งแบบบัญชีรายชื'อต้องมีช่องทําเครื'องหมายและหมายเลขของ บัญชีรายชื'อของพรรคการเมืองและชื'อพรรคการเมืองพร้อมภาพเครื'องหมาย พรรคการเมืองครบทุกพรรคที'ส่งสมัครรับเลือกตั.,งแบบบัญชีรายชื'อ บัตรเลือกตั.,งตามวรรคสองและวรรคสามต้องมีช่องทําเครื'องหมายว่าไม่ เลือกผู้สมัครใดหรือบัญชีรายชื'อของพรรคการเมืองใด แล้วแต่กรณี ด้วย การออกเสียงลงคะแนนให้เปป็นไปตามวิธีการที'คณะกรรมการกําหนด มาตรา ๘๕ หีบบัตรเลือกตั.,งและบัตรเลือกตั.,งให้มีลักษณะตามที'คณะ กรรมการกําหนด ในการกําหนดเกี'ยวกับหีบบัตรเลือกตั.,งต้องกําหนดให้สามารถใช้หีบบัตร เลือกตั.,งเดิมได้ด้วย
สิทธิเลือกตั.,ง ณ ที'เลือกตั.,ง
บัตรประจําตัวประชาชนแม้จะหมดอายุแล้วก็ให้สามารถใช้ในการแสดง ตนตามวรรคหนึ'งได้ ขั.,นตอนและวิธีการตรวจสอบการแสดงตนให้เปป็นไปตามที'คณะกรรมการ กําหนด
หน่วยเลือกตั.,งใด ให้ออกเสียงลงคะแนนได้ ณ ที'เลือกตั.,งของหน่วยเลือกตั.,งนั.,น และให้มีสิทธิ ลงคะแนนได้เพียงแห่งเดียว
การออกเสียงลงคะแนน ให้ทําเครื'องหมายกากบาทลงใน ช่องทําเครื'องหมายของหมายเลขผู้สมัครหรือบัญชีรายชื'อของพรรคการเมืองในบัตรเลือก ตั.,ง และในกรณีที'ผู้มีสิทธิเลือกตั.,งประสงค์จะออกเสียงลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดหรือ บัญชีรายชื'อของพรรคการเมืองใด ให้ทําเครื'องหมายกากบาทลงในช่องทําเครื'องหมาย “ไม่ เลือกผู้สมัครผู้ใด” หรือ “ไม่เลือกบัญชีรายชื'อของพรรคการเมืองใด”
ในกรณีที'คณะกรรมการเห็นสมควร อาจกําหนดให้มีการจัดที'เลือกตั.,ง สําหรับคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุ เปป็นกรณีพิเศษ โดยจัดให้บุคคลนั.,นได้ลง ทะเบียนเพื'อขอใช้สิทธิเลือกตั.,ง ณ สถานที'ดังกล่าว และเมื'อได้ลงทะเบียนแล้ว ให้หมดสิทธิ เลือกตั.,งในหน่วยเลือกตั.,งที'ตนมีชื'ออยู่ในทะเบียนบ้าน การอํานวยความสะดวกตามวรรคหนึ'ง การจัดที'เลือกตั.,งและการลง ทะเบียนเพื'อขอใช้สิทธิตามวรรคสอง ให้เปป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที'คณะกรรมการ กําหนด การลงทะเบียนดังกล่าวให้เปป็นไปตามวิธีการที'คณะกรรมการกําหนด ซึ'งต้องคํานึง ถึงความสะดวกของผู้ขอลงทะเบียนด้วย
ภายใต้บังคับมาตรา ๙๒ เมื'อผู้มีสิทธิเลือกตั.,งทํา เครื'องหมายกากบาทลงในบัตรเลือกตั.,งแล้วให้พับบัตรเลือกตั.,งเพื'อมิให้ผู้อื'นทราบว่าลง คะแนนอย่างไร แล้วให้นําบัตรเลือกตั.,งนั.,นใส่ลงในหีบบัตรเลือกตั.,งด้วยตนเองต่อหน้า กรรมการประจําหน่วยเลือกตั.,ง
ห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั.,งผู้ใดนําบัตรเลือกตั.,งออกไปจากที'เลือกตั.,ง
ที'บัตรเลือกตั.,ง
บัตรเลือกตั.,งที'ตนได้ลงคะแนนเลือกตั.,งแล้ว
เหตุให้มีบัตรเลือกตั.,งเพิ'มขึ.,นจากความจริง
ห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั.,งนําบัตรเลือกตั.,งที'ออกเสียงลง คะแนนแล้วแสดงต่อผู้อื'น เพื'อให้ผู้อื'นทราบว่าตนได้ลงคะแนนอย่างไร
คะแนน
รายงานต่อคณะกรรมการโดยเร็ว ในกรณีที'เหตุตามวรรคหนึ'งเกิดขึ.,นในวันเลือกตั.,ง ให้คณะกรรมการการ เลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,งหรือคณะกรรมการประจําหน่วยเลือกตั.,งประกาศงดลงคะแนน ในหน่วยเลือกตั.,งนั.,น แล้วรายงานต่อคณะกรรมการโดยเร็ว การดําเนินการตามวรรคหนึ'งและวรรคสองให้เปป็นไปตามหลักเกณฑ์และ วิธีการที'คณะกรรมการกําหนด เมื'อได้รับรายงานตามวรรคหนึ'งหรือวรรคสองแล้ว ให้คณะกรรมการ พิจารณาและกําหนดวันลงคะแนนใหม่ในหน่วยเลือกตั.,งนั.,น หรือมีคําสั'งเปป็นอย่างอื'นเพื'อ ประโยชน์แห่งความสุจริตและเที'ยงธรรมในการเลือกตั.,งโดยเร็ว
บุคคลตามวรรคหนึ'ง หากประสงค์จะใช้สิทธิเลือกตั.,งก่อนวันเลือกตั.,งนอก เขตเลือกตั.,ง ให้ยื'นขอลงทะเบียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,งภายใน ระยะเวลาที'คณะกรรมการกําหนด และให้นําความในมาตรา ๑๐๗ วรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี' มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม
การยื'นขอลงทะเบียนตามวรรคหนึ'ง ถ้าเปป็นการขอใช้สิทธิเลือกตั.,งก่อนวัน เลือกตั.,งในเขตเลือกตั.,งที'ตนมีสิทธิเลือกตั.,ง ให้ยื'นต่อคณะกรรมการการเลือกตั.,งประจําเขต เลือกตั.,งที'ตนมีสิทธิเลือกตั.,ง ถ้าเปป็นการขอใช้สิทธิเลือกตั.,งก่อนวันเลือกตั.,งนอกเขตเลือกตั.,งที' ตนมีสิทธิเลือกตั.,ง จะยื'นต่อคณะกรรมการการเลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,งที'ตนมีสิทธิเลือก ตั.,งหรือที'ตนประสงค์จะขอใช้สิทธิเลือกตั.,งก็ได้ หรือคณะกรรมการจะกําหนดให้ลงทะเบียน ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที'คณะกรรมการกําหนดก็ได้ เมื'อคณะกรรมการการเลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,งได้ตรวจสอบการมีสิทธิ เลือกตั.,งของผู้ขอลงทะเบียนตามวรรคหนึ'งแล้ว ถ้าเห็นว่าถูกต้อง ให้ทําบัญชีรายชื'อผู้มีสิทธิ เลือกตั.,งที'ประสงค์จะออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั.,งที'ได้ลงทะเบียนไว้แล้ว และ ประกาศให้ประชาชนทราบเปป็นการทั'วไปถึงจํานวนผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั.,งก่อนวันเลือกตั.,งนั.,น และกําหนดที'เลือกตั.,งกลางที'ผู้นั.,นจะไปใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนน และแจ้งให้คณะ กรรมการประจําหน่วยเลือกตั.,งที'ผู้นั.,นมีชื'อในบัญชีรายชื'อผู้มีสิทธิเลือกตั.,งทราบ และ หมายเหตุสถานที'ที'ผู้นั.,นจะไปใช้สิทธิเลือกตั.,งในเอกสารที'เกี'ยวข้อง เมื'อคณะกรรมการการ เลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,งลงทะเบียนผู้ใดแล้ว ให้ผู้นั.,นหมดสิทธิที'จะใช้สิทธิเลือกตั.,ง ณ หน่วยเลือกตั.,งที'ตนมีสิทธิอยู่เดิม สําหรับการเลือกตั.,งครั.,งนั.,น การขอใช้สิทธิเลือกตั.,งตามวรรคหนึ'ง สถานที'และจํานวนที'เลือกตั.,งกลาง วันที'กําหนดให้มาใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนน การออกเสียงลงคะแนน และการนับคะแนน การส่งบัตรเลือกตั.,ง และการดําเนินการอื'นที'จําเปป็นให้เปป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที' คณะกรรมการกําหนด ทั.,งนี., วันที'กําหนดให้มาใช้สิทธิต้องเปป็นวันเดียวกันทุกแห่งและจะ กําหนดให้ลงคะแนนเกินหนึ'งวันมิได้ ความในมาตรานี.,ให้ใช้บังคับแก่บุคคลที'มีหลักฐานแสดงว่าในวันเลือกตั.,ง ตนมีหน้าที'จะต้องไปปฏิบัติหน้าที' ณ ที'อื'นใดนอกเขตเลือกตั.,งที'ตนมีสิทธิเลือกตั.,ง จนไม่ สามารถใช้สิทธิเลือกตั.,งในเขตเลือกตั.,งที'ตนมีสิทธิเลือกตั.,งได้ด้วยโดยอนุโลม
เมื'อได้ลงทะเบียนตามวรรคหนึ'งแล้ว ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั.,งใช้สิทธิเลือกตั.,งได้ ตามที'กําหนดไว้ในมาตรา ๑๑๐ และมาตรา ๑๑๑ ให้นําความในมาตรา ๑๐๗ วรรคสี' และมาตรา ๑๐๘ มาใช้บังคับด้วยโดย อนุโลม เว้นแต่ในส่วนที'เกี'ยวกับวันที'กําหนดให้มาใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนน คณะ กรรมการจะกําหนดให้แตกต่างกันในแต่ละประเทศ ตามที'เห็นสมควรก็ได้
ในการออกเสียงลงคะแนนนอกราชอาณาจักร คณะกรรมการโดยความ เห็นชอบของกระทรวงการต่างประเทศจะกําหนดให้มีการนับคะแนนนอกราชอาณาจักร ก็ได้ หากจะเปป็นการสะดวก รวดเร็ว และมีค่าใช้จ่ายที'น้อยกว่าการดําเนินการตามวรรค หนึ'ง ทั.,งนี., ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที'คณะกรรมการกําหนด หลักเกณฑ์ดังกล่าวจะ กําหนดให้แตกต่างไปจากมาตรา ๑๙ วรรคหนึ'ง (๑) และ (๒) ตามความจําเปป็นและเหมาะ สมก็ได้
ในกรณีที'มีการนับคะแนนนอกราชอาณาจักร ถ้ามีหลักฐานอันควรเชื'อได้ ว่าการออกเสียงลงคะแนนที'ใดมิได้เปป็นไปโดยสุจริตหรือเที'ยงธรรม ให้ถือว่าการนับคะแนน นั.,นเปป็นโมฆะและให้ถือว่าบัตรเหล่านั.,นเปป็นบัตรเสีย
ในกรณีมีเหตุตามวรรคหนึ'งสองครั.,งติดต่อกัน ให้คณะกรรมการหรือผู้ซึ'ง คณะกรรมการมอบหมายสั'งงดการออกเสียงลงคะแนนสําหรับการออกเสียงลงคะแนนก่อน วันเลือกตั.,งในเขตเลือกตั.,งหรือนอกเขตเลือกตั.,ง หรือการออกเสียงลงคะแนนนอกราช อาณาจักรในเขตเลือกตั.,งนั.,น ในกรณีเช่นนั.,น ถ้าผู้ลงทะเบียนมิได้ไปใช้สิทธิเลือกตั.,ง ให้ถือว่า การลงทะเบียนนั.,นเปป็นการแจ้งเหตุอันสมควรและไม่ถูกจํากัดสิทธิตามมาตรา ๓๕
การนับคะแนนให้เปป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที'คณะกรรมการ กําหนด ซึ'งต้องกําหนดให้มีการนับคะแนนที'ผู้มีสิทธิเลือกตั.,งทําเครื'องหมายในช่องทํา เครื'องหมาย “ไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด” หรือ “ไม่เลือกบัญชีรายชื'อของพรรคการเมืองใด” ด้วย
บัตรเลือกตั.,งดังต่อไปนี., ให้ถือว่าเปป็นบัตรเสีย (๑) บัตรปลอม
บัตรที'มีการทําเครื'องหมายเพื'อเปป็นที'สังเกตหรือเขียนข้อความใด ๆ ลง ในบัตรเลือกตั.,งนอกจากเครื'องหมายในการลงคะแนน เว้นแต่เปป็นการกระทําโดยชอบด้วย กฎหมายของเจ้าพนักงานผู้ดําเนินการเลือกตั.,ง
บัตรที'มิได้ทําเครื'องหมายลงคะแนน
บัตรที'ทําเครื'องหมายลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครเกินจํานวนหนึ'งคน หรือเลือกบัญชีรายชื'อของพรรคการเมืองเกินหนึ'งบัญชีรายชื'อ
บัตรที'ไม่อาจทราบได้ว่าลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครหรือบัญชีรายชื'อ ของพรรคการเมืองใด เว้นแต่เปป็นการทําเครื'องหมายในช่อง “ไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด” หรือ “ไม่ เลือกบัญชีรายชื'อของพรรคการเมืองใด”
บัตรที'ทําเครื'องหมายลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครหรือบัญชีรายชื'อของ พรรคการเมือง และทําเครื'องหมายในช่อง “ไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด” หรือ “ไม่เลือกบัญชีราย ชื'อของพรรคการเมืองใด” ด้วย
บัตรที'พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี.,กําหนดให้เปป็นบัตรเสีย (๘) บัตรที'มีลักษณะตามที'คณะกรรมการกําหนดว่าเปป็นบัตรเสีย ให้คณะกรรมการประจําหน่วยเลือกตั.,งสลักหลังในบัตรตามมาตรานี.,ว่า “เสีย” พร้อมทั.,งระบุเหตุผลว่าเปป็นบัตรเสียตามความในอนุมาตราใด และลงลายมือชื'อกํากับ ไว้ไม่น้อยกว่าสองคน เว้นแต่เปป็นกรณีตาม (๗) ให้จัดทําบันทึกเหตุแห่งการเปป็นบัตรเสียไว้ เปป็นหลักฐานแทนการสลักหลัง
เพื'อประโยชน์แก่การแจ้งข้อมูลการเลือกตั.,งต่อประชาชนให้เกิดความ รวดเร็ว คณะกรรมการอาจดําเนินการให้มีการรายงานผลการนับคะแนนอย่างไม่เปป็น ทางการได้ การประกาศผลการนับคะแนน การรายงานผลการนับคะแนน และการ รายงานผลการนับคะแนนอย่างไม่เปป็นทางการ ให้เปป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที'คณะ กรรมการกําหนด
เมื'อคณะกรรมการการเลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,งได้รับรายงานตามวรรค หนึ'งแล้วพบว่ามีบัตรเลือกตั.,งที'ได้มีการออกเสียงลงคะแนนแล้วชํารุดหรือสูญหาย ให้ รายงานคณะกรรมการเพื'อพิจารณาสั'งให้มีการออกเสียงลงคะแนนใหม่ในหน่วยเลือกตั.,ง นั.,น การเก็บรักษาบัตรเลือกตั.,ง หีบบัตรเลือกตั.,ง และเอกสารเกี'ยวกับการเลือก ตั.,ง รวมทั.,งวิธีการนับคะแนนใหม่ ให้เปป็นไปตามที'คณะกรรมการกําหนด
ในกรณีที'ผลการนับคะแนนปรากฏว่าจํานวนผู้มาใช้สิทธิ เลือกตั.,งไม่ตรงกับจํานวนบัตรเลือกตั.,งที'ใช้ออกเสียงลงคะแนน ให้คณะกรรมการประจํา หน่วยเลือกตั.,งดําเนินการตรวจสอบความถูกต้อง หากยังไม่ตรงกันอีกให้รายงานความไม่ ถูกต้องตรงกันพร้อมเหตุผลต่อคณะกรรมการ พร้อมทั.,งแจ้งให้คณะกรรมการการเลือกตั.,ง ประจําเขตเลือกตั.,งทราบ และนําส่งหีบบัตรและอุปกรณ์แก่คณะกรรมการการเลือกตั.,ง ประจําเขตเลือกตั.,งหรือผู้ซึ'งคณะกรรมการการเลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,งมอบหมาย เมื'อคณะกรรมการได้รับรายงานตามวรรคหนึ'งแล้ว ให้สั'งให้มีการนับ คะแนนใหม่หรือสั'งให้ออกเสียงลงคะแนนใหม่ในหน่วยเลือกตั.,งนั.,น เว้นแต่คณะกรรมการจะ มีความเห็นว่าความไม่ถูกต้องตรงกันนั.,นมิได้เกิดจากการทุจริตและไม่ทําให้ผลการเลือกตั.,ง ในเขตเลือกตั.,งนั.,นเปลี'ยนแปลงไป จะสั'งให้ยุติก็ได้
เมื'อรวบรวมผลการนับคะแนนทุกหน่วยเลือกตั.,งในเขต เลือกตั.,งนั.,น รวมทั.,งคะแนนที'ได้จากการออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั.,งและการลง คะแนนเลือกตั.,งนอกราชอาณาจักรแล้ว ให้คณะกรรมการการเลือกตั.,งประจําเขตเลือกตั.,ง ดําเนินการ ดังต่อไปนี.,
ประกาศผลการนับคะแนนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือก ตั.,ง และคะแนนที'ไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด
ประกาศผลการนับคะแนนที'แต่ละพรรคการเมืองได้รับจากการเลือก ตั.,งแบบบัญชีรายชื'อ และคะแนนที'ไม่เลือกบัญชีรายชื'อของพรรคการเมืองใด
ในการจัดให้มีการเลือกตั.,งใหม่ตามวรรคหนึ'ง ให้นําความในมาตรา ๑๖ วรรคหนึ'ง มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม
ในการตรวจสอบเบื.,องต้นตามวรรคหนึ'ง คณะกรรมการต้องรับฟ~งรายงาน ของผู้ตรวจการเลือกตั.,งและข้อมูลข่าวสารที'ได้รับจากแหล่งต่าง ๆ มาประกอบการ พิจารณาด้วย ให้นําความในวรรคหนึ'งมาใช้บังคับแก่การประกาศผลการเลือกตั.,งแทน ตําแหน่งที'ว่างด้วยโดยอนุโลม ในกรณีที'มีการเลือกตั.,งใหม่ กําหนดเวลาการประกาศผลการเลือกตั.,งตาม วรรคหนึ'ง ให้เริ'มนับตั.,งแต่วันที'มีการเลือกตั.,งใหม่
เมื'อคณะกรรมการได้รับรายงานผลรวมคะแนนแบบ บัญชีรายชื'อจากผู้อํานวยการการเลือกตั.,งประจําจังหวัดแล้ว ให้ดําเนินการคํานวณสัดส่วน เพื'อหาผู้ได้รับเลือกตั.,งเปป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื'อ ดังต่อไปนี.,
ให้รวมผลคะแนนทั.,งหมดที'ทุกพรรคการเมืองได้รับจากการเลือกตั.,ง แบบบัญชีรายชื'อทั.,งประเทศ
ให้นําคะแนนรวมจาก (๑) หารด้วยหนึ'งร้อย ผลลัพธ์ที'ได้ให้ถือเปป็น คะแนนเฉลี'ยต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื'อหนึ'งคน
ในการคํานวณหาจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื'อที' แต่ละพรรคการเมืองจะได้รับ ให้นําคะแนนรวมจากการเลือกตั.,งแบบบัญชีรายชื'อที'แต่ละ พรรคการเมืองได้รับ หารด้วยคะแนนเฉลี'ยตาม (๒) ผลลัพธ์ที'ได้เฉพาะส่วนที'เปป็น จํานวนเต็มคือจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื'อที'พรรคการเมืองนั.,นได้รับ
ในกรณีที'จํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื'อที' พรรคการเมืองได้รับรวมกันทุกพรรคการเมืองมีจํานวนไม่ครบหนึ'งร้อยคน ให้ พรรคการเมืองที'มีผลลัพธ์ที'เปป็นเศษโดยไม่มีจํานวนเต็มและพรรคการเมืองที'มีเศษหลังจาก การคํานวณตาม (๓) พรรคใดเปป็นหรือมีเศษจํานวนมากที'สุด ให้ได้รับจํานวนสมาชิกสภาผู้ แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื'ออีกหนึ'งคนเรียงตามลําดับ จนกว่าจะมีจํานวนสมาชิกสภาผู้ แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื'อที'พรรคการเมืองทั.,งหมดได้รับรวมกันครบจํานวนหนึ'งร้อยคน
ในการดําเนินการตาม (๔) ถ้าในลําดับใดมีเศษเท่ากันและจะทําให้ จํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื'อเกินจํานวนหนึ'งร้อยคน ให้ตัวแทนของ พรรคการเมืองที'มีเศษเท่ากันจับสลากตามวันและเวลาที'คณะกรรมการกําหนด เพื'อให้ได้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื'อครบจํานวน ให้ถือว่าผู้สมัครตามบัญชีรายชื'อผู้สมัครของพรรคการเมืองตามจํานวนที' พรรคการเมืองนั.,นได้รับตามผลการคํานวณตามวรรคหนึ'งได้รับเลือกตั.,งเรียงตามลําดับ หมายเลขในบัญชีรายชื'อของพรรคการเมืองนั.,นจนครบจํานวน แต่ต้องไม่เกินจํานวนผู้ สมัครแบบบัญชีรายชื'อเท่าที'มีอยู่ในแต่ละบัญชีรายชื'อผู้สมัครที'พรรคการเมืองนั.,นได้ส่ง สมัคร จํานวนที'ยังขาดอยู่ให้เปป็นไปตามมาตรา ๘๓ วรรคสี' ของรัฐธรรมนูญแห่งราช อาณาจักรไทย
เมื'อคณะกรรมการดําเนินการคํานวณสัดส่วนจํานวน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื'อของแต่ละพรรคการเมืองตามมาตรา ๑๒๘ แล้ว และคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื'อได้ว่าการเลือกตั.,งนั.,นเปป็นไปโดยสุจริตและเที'ยง ธรรม ให้คณะกรรมการประกาศผลการเลือกตั.,งว่าผู้สมัครผู้ใดเปป็นผู้ได้รับการเลือกตั.,งเปป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื'อให้แล้วเสร็จโดยเร็ว แต่ต้องไม่ช้ากว่าหกสิบวัน นับแต่วันเลือกตั.,ง
เมื'อคณะกรรมการประกาศผลการเลือกตั.,งแล้วให้นําผล การเลือกตั.,งไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา และเมื'อมีประธานรัฐสภาแล้ว ให้ส่งบัญชีราย ชื'อผู้สมัครแบบบัญชีรายชื'อของทุกพรรคการเมืองไปยังประธานรัฐสภาเพื'อทราบโดยเร็ว
(ยกเลิก)
ในกรณีที'การกระทําการนั.,นเปป็นการกระทําเกี'ยวกับการเลือกตั.,งแบบ แบ่งเขตเลือกตั.,ง ให้คณะกรรมการสั'งยกเลิกการเลือกตั.,งและให้มีการเลือกตั.,งใหม่ และสั'ง ระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั.,งของผู้สมัครซึ'งกระทําการเช่นนั.,นทุกรายไว้เปป็นการชั'วคราว เปป็น ระยะเวลาไม่เกินหนึ'งปันับแต่วันที'คณะกรรมการมีคําสั'ง
ในกรณีที'การกระทําการนั.,นเปป็นการกระทําเกี'ยวกับการเลือกตั.,งแบบ บัญชีรายชื'อ ให้บัตรเลือกตั.,งที'ลงคะแนนให้แก่บัญชีรายชื'อของพรรคการเมืองนั.,นในหน่วย เลือกตั.,งนั.,นเปป็นบัตรเสีย และให้คณะกรรมการสั'งมิให้นับเปป็นคะแนนในการคํานวณหา จํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื'อของพรรคการเมืองนั.,น ทั.,งนี., มิให้นําความ ในมาตรา ๑๑๘ วรรคสอง มาใช้บังคับแก่บัตรเสียดังกล่าว เฉพาะกรณีที'คณะกรรมการมีคํา สั'งภายหลังการนับคะแนนแล้ว คําสั'งของคณะกรรมการตามวรรคหนึ'ง ให้เปป็นที'สุด ถ้าการกระทําของบุคคลตามวรรคหนึ'ง ปรากฏหลักฐานอันควรเชื'อได้ว่า หัวหน้าพรรคการเมืองหรือคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีส่วนรู้เห็น หรือปล่อยปละ ละเลยหรือทราบถึงการกระทํานั.,นแล้วมิได้ยับยั.,งหรือแก้ไขเพื'อให้การเลือกตั.,งเปป็นไปโดย สุจริตหรือเที'ยงธรรม ให้คณะกรรมการดําเนินการเสนอคําร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื'อให้ ยุบพรรคการเมืองนั.,น ในกรณีที'ศาลรัฐธรรมนูญมีคําสั'งให้ยุบพรรคการเมืองนั.,น ให้ศาล รัฐธรรมนูญมีคําสั'งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั.,งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง นั.,นด้วย ในกรณีที'ปรากฏต่อคณะกรรมการว่ามีการกระทําอันเปป็นการฝ'าฝ더นความ ในวรรคหนึ'ง ไม่ว่าเปป็นการกระทําของผู้ใด ถ้าเห็นว่าผู้สมัครผู้ใดหรือพรรคการเมืองใดจะได้ รับประโยชน์จากการกระทํานั.,น คณะกรรมการมีอํานาจสั'งให้ผู้สมัครผู้นั.,นหรือ พรรคการเมืองนั.,นระงับหรือดําเนินการใดเพื'อแก้ไขความไม่สุจริตหรือเที'ยงธรรมนั.,นภายใน เวลาที'กําหนด ในกรณีที'ผู้สมัครผู้นั.,นหรือพรรคการเมืองนั.,นไม่ดําเนินการตามคําสั'งของ คณะกรรมการโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้สันนิษฐานว่าผู้สมัครผู้นั.,นเปป็นผู้สนับสนุนการกระ ทํานั.,นหรือพรรคการเมืองนั.,นมีส่วนรู้เห็นในการกระทํานั.,น เว้นแต่ผู้สมัครหรือ พรรคการเมืองนั.,นพิสูจน์ได้ว่าไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทําดังกล่าว เมื'อศาลรัฐธรรมนูญมีคําสั'งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั.,งของคณะ กรรมการบริหารพรรคการเมืองผู้ใดแล้ว ให้คณะกรรมการพิจารณาดําเนินการให้มีการ ดําเนินคดีอาญาแก่ผู้สมัครหรือคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองผู้นั.,นด้วย ในการนี., ให้ ถือว่าคณะกรรมการเปป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ในกรณีที'มีคําสั'งระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั.,งตามมาตรานี.,ภายหลังวันลง คะแนนเลือกตั.,ง แต่ก่อนวันประกาศผลการเลือกตั.,ง และผู้สมัครที'ถูกระงับสิทธิสมัครรับ เลือกตั.,งเปป็นผู้สมัครในการเลือกตั.,งแบบแบ่งเขตเลือกตั.,งที'ได้คะแนนเลือกตั.,งในลําดับซึ'งจะ เปป็นผู้ได้รับเลือกตั.,งในเขตเลือกตั.,งนั.,น ให้คณะกรรมการสั'งให้มีการเลือกตั.,งใหม่ เพื'อให้ได้ผู้ ได้รับเลือกตั.,งครบจํานวนที'จะพึงมีในเขตเลือกตั.,งนั.,น ผู้ตรวจการเลือกตั.,งหรือเจ้าพนักงานผู้ดําเนินการเลือกตั.,งผู้ใดพบเห็น การกระทําตามวรรคหนึ'งมีหน้าที'รายงานให้คณะกรรมการหรือกรรมการทราบโดยพลัน
การแต่งตั.,ง การปฏิบัติหน้าที' ระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที' และค่า ตอบแทนของคณะกรรมการตามวรรคหนึ'ง ให้เปป็นไปตามที'คณะกรรมการกําหนด
ถ้ามีผู้แจ้งต่อเจ้าพนักงานตํารวจหรือเจ้าพนักงานตํารวจพบเห็นการกระ ทําตามวรรคหนึ'ง และการกระทํานั.,นเปป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ นี., ให้เจ้าพนักงานตํารวจจับกุมและดําเนินคดีโดยเร็ว และแจ้งต่อคณะกรรมการเพื'อให้ พิจารณาดําเนินการต่อไป
ให้คณะกรรมการยื'นคําร้องต่อศาลจังหวัดหรือศาลแพ่งที'การยึดหรือ อายัดอยู่ในเขตศาลภายในสามวันนับแต่วันยึดหรืออายัดตามวรรคหนึ'ง เมื'อศาลได้รับคํา ร้องแล้ว ให้ดําเนินการไต่สวนฝ'ายเดียวให้แล้วเสร็จภายในห้าวันนับแต่วันที'ได้รับคําร้อง ถ้า ศาลเห็นว่าเงินหรือทรัพย์สินตามคําร้องน่าจะได้ใช้หรือจะใช้เพื'อการเลือกตั.,งโดยไม่ชอบ ด้วยกฎหมาย ให้ศาลมีคําสั'งยึดหรืออายัดเงินหรือทรัพย์สินนั.,นไว้จนกว่าจะมีการประกาศ ผลการเลือกตั.,ง ความในมาตรานี.,ไม่เปป็นการตัดอํานาจของผู้ซึ'งมีฐานะเปป็นพนักงานฝ'าย ปกครองหรือตํารวจชั.,นผู้ใหญ่ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการ เลือกตั.,ง ในอันที'จะใช้อํานาจยึดหรืออายัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ก่อนหรือในวันเลือกตั.,ง ให้เปป็นหน้าที'ของคณะกรรมการ ที'จะดําเนินการสอดส่อง สืบสวน ไต่สวน หรือแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน เพื'อ ตรวจสอบให้การเลือกตั.,งเปป็นไปโดยสุจริตและเที'ยงธรรม ถ้าคณะกรรมการสืบสวนหรือ ไต่สวนแล้ว มีเหตุอันควรสงสัยว่าการเลือกตั.,งมิได้เปป็นไปโดยสุจริตหรือเที'ยงธรรม หรือ กรรมการแต่ละคนพบเห็นการกระทําหรือการงดเว้นการกระทําใดอันอาจเปป็นเหตุให้การ เลือกตั.,งมิได้เปป็นไปโดยสุจริตหรือเที'ยงธรรม หรือเปป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ให้มี อํานาจสั'งระงับ ยับยั.,ง แก้ไขเปลี'ยนแปลง หรือยกเลิกการเลือกตั.,ง และสั'งให้ดําเนินการเลือก ตั.,งใหม่หรือนับคะแนนใหม่สําหรับการเลือกตั.,งแบบแบ่งเขตเลือกตั.,ง หรือการเลือกตั.,งแบบ บัญชีรายชื'อที'มีเหตุอันควรสงสัยว่ามิได้เปป็นไปโดยสุจริตหรือเที'ยงธรรมในหน่วยเลือกตั.,ง บางหน่วยหรือทุกหน่วยเลือกตั.,งได้ ในกรณีที'เปป็นการดําเนินการของกรรมการให้เปป็นไปตาม หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื'อนไขที'คณะกรรมการกําหนด
นั.,น การพิจารณาของศาลฎีกาให้นําสํานวนการสืบสวนหรือไต่สวนของคณะ กรรมการเปป็นหลักในการพิจารณา และเพื'อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ให้ศาลมีอํานาจสั'ง ไต่สวนข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ'มเติมได้ เมื'อศาลฎีกามีคําสั'งรับคําร้องไว้พิจารณาแล้ว ถ้าผู้ถูกกล่าวหาเปป็นสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร ให้ผู้นั.,นหยุดปฏิบัติหน้าที'จนกว่าศาลฎีกาจะพิพากษาว่าผู้นั.,นมิได้กระทํา ความผิด ในกรณีที'ศาลฎีกาพิพากษาว่าบุคคลตามวรรคหนึ'งกระทําความผิดตามที' ถูกร้อง ให้ศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั.,งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั.,งของผู้นั.,น และ ในกรณีที'ผู้นั.,นเปป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้สมาชิกภาพของผู้นั.,นสิ.,นสุดลงนับแต่วันที' หยุดปฏิบัติหน้าที' และให้คณะกรรมการจัดให้มีการเลือกตั.,งแทนตําแหน่งที'ว่าง
เงินที'ได้รับมาตามวรรคหนึ'งให้นําส่งเข้ากองทุน
ผู้มีสิทธิยื'นคัดค้านการเลือกตั.,งตามวรรคหนึ'งอาจยื'นคัดค้านได้ตั.,งแต่วันที' คณะกรรมการประกาศกําหนดวันเลือกตั.,งจนถึงสามสิบวันนับแต่วันประกาศผลการเลือก ตั.,ง เว้นแต่
การคัดค้านเพราะเหตุตามมาตรา ๖๓ หรือมาตรา ๖๗ ให้ยื'นได้ตั.,งแต่ วันเลือกตั.,งจนถึงหนึ'งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศผลการเลือกตั.,ง
การคัดค้านเกี'ยวกับการนับคะแนนให้คัดค้านในระหว่างเวลาที'ยังนับ คะแนนไม่แล้วเสร็จ หรือในกรณีคัดค้านการรวมคะแนนให้คัดค้านก่อนประกาศผลการนับ คะแนนที'หน่วยเลือกตั.,ง เมื'อคณะกรรมการได้รับคําคัดค้านการเลือกตั.,งให้ดําเนินการสืบสวนหรือ ไต่สวนเพื'อหาข้อเท็จจริงโดยพลัน และพิจารณาดําเนินการตามหมวดนี., แล้วแต่กรณี ต่อไป ทั.,งนี., การยื'นคําคัดค้านการเลือกตั.,งและการพิจารณาให้เปป็นไปตามวิธีการที'คณะกรรมการ กําหนด
โทษจําคุกไม่เกินสองปั หรือปรับไม่เกินสี'หมื'นบาท และให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตั.,งของผู้ นั.,นมีกําหนดห้าปั ถ้าการกระทําตามวรรคหนึ'งเปป็นการเพื'อจะแกล้งให้ผู้สมัครนั.,นถูกเพิกถอน สิทธิเลือกตั.,งหรือสิทธิสมัครรับเลือกตั.,ง หรือเพื'อไม่ให้มีการประกาศผลการเลือกตั.,ง ต้อง ระวางโทษจําคุกตั.,งแต่ห้าปัถึงสิบปั และปรับตั.,งแต่หนึ'งแสนบาทถึงสองแสนบาท และให้ ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตั.,งของผู้นั.,นมีกําหนดยี'สิบปั ถ้าการกระทําตามวรรคหนึ'งเปป็นการแจ้งหรือให้ถ้อยคําต่อคณะกรรมการ ต้องระวางโทษจําคุกตั.,งแต่เจ็ดปัถึงสิบปั และปรับตั.,งแต่หนึ'งแสนสี'หมื'นบาทถึงสองแสน บาท และให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตั.,งของผู้นั.,นมีกําหนดยี'สิบปั ถ้าการกระทําตามวรรคสองหรือวรรคสามเปป็นการกระทําหรือก่อให้ผู้อื'น กระทําสนับสนุนหรือรู้เห็นเปป็นใจของหัวหน้าพรรคการเมืองหรือคณะกรรมการบริหาร พรรคการเมือง ให้ถือว่าพรรคการเมืองนั.,นกระทําการอันเปป็นการบ่อนทําลายความมั'นคง ของราชอาณาจักรตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
ถ้าผู้กระทําความผิดตามวรรคหนึ'งเปป็นเจ้าพนักงานผู้ดําเนินการเลือกตั.,ง ต้องระวางโทษจําคุกตั.,งแต่หนึ'งปัถึงสิบปั และปรับตั.,งแต่สองหมื'นบาทถึงสองแสนบาท และ ให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตั.,งของผู้นั.,นมีกําหนดยี'สิบปั
ในกรณีที'ผู้กระทําความผิดตามวรรคหนึ'งเปป็นเจ้าหน้าที'ของรัฐ ต้องระวาง โทษเพิ'มขึ.,นอีกกึ'งหนึ'ง และให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั.,งของผู้นั.,น
บทบัญญัติในวรรคหนึ'งให้ใช้บังคับแก่วันลงคะแนนตามมาตรา ๑๐๖ และ มาตรา ๑๐๗ ด้วย
ถ้าการกระทําตามวรรคหนึ'งเปป็นการกระทําของผู้สมัครหรือ พรรคการเมือง ต้องระวางโทษจําคุกตั.,งแต่หนึ'งปัถึงสิบปั หรือปรับตั.,งแต่สองหมื'นบาทถึง สองแสนบาท หรือทั.,งจําทั.,งปรับ และให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั.,งของผู้สมัคร หรือหัวหน้าพรรคการเมือง แล้วแต่กรณี
หรือปรับไม่เกินสี'หมื'นบาทหรือทั.,งจําทั.,งปรับ และให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตั.,งของผู้นั.,นมี กําหนดห้าปั
ในกรณีที'ผู้กระทําความผิดตามวรรคหนึ'งเปป็นผู้ซึ'งได้รับเลือกตั.,งเปป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ศาลมีคําสั'งให้ผู้นั.,นคืนเงินประจําตําแหน่งและประโยชน์ ตอบแทนอย่างอื'นที'ได้รับมาเนื'องจากการดํารงตําแหน่งดังกล่าวให้แก่สํานักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎรด้วย
กําหนดห้าปั
ในกรณีที'พรรคการเมืองกระทําความผิดตามวรรคหนึ'ง ต้องระวางโทษ ปรับตั.,งแต่สองแสนบาทถึงสองล้านบาท หรือปรับเปป็นจํานวนสามเท่าของจํานวนเงินที'เกิน ค่าใช้จ่ายที'คณะกรรมการกําหนด แล้วแต่จํานวนใดจะมากกว่ากัน ในกรณีที'พรรคการเมืองกระทําความผิดตามวรรคสอง ถ้าหัวหน้า พรรคการเมือง เลขาธิการพรรคการเมือง หรือเหรัญญิกของพรรคการเมืองรู้เห็นเปป็นใจ ด้วยกับการกระทําความผิด ต้องรับโทษและถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั.,งตามที'บัญญัติไว้ใน วรรคหนึ'ง
ถ้าบัญชีรายรับและรายจ่ายที'ยื'นตามมาตรา ๖๗ เปป็นเท็จ ผู้สมัครหรือ หัวหน้าพรรคการเมืองต้องระวางโทษจําคุกตั.,งแต่หนึ'งปัถึงห้าปั และปรับตั.,งแต่สองหมื'น บาทถึงหนึ'งแสนบาท และให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตั.,งของผู้นั.,นมีกําหนดสิบปั
ฝ'าฝ더นมาตรา ๖๙ มาตรา ๗๐ หรือมาตรา ๗๙
หาเสียงเลือกตั.,งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ไม่เปป็นไปตามหลัก เกณฑ์ วิธีการ หรือเงื'อนไขที'คณะกรรมการกําหนดตามมาตรา ๗๐ ผู้นั.,นต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ'งหมื'นบาท หรือทั.,งจําทั.,งปรับ
ในกรณีที'ศาลมีคําพิพากษาถึงที'สุดให้ลงโทษผู้กระทําความผิดตามมาตรา ๗๓ (๑) หรือ (๒) ให้ศาลสั'งจ่ายเงินสินบนนําจับไม่เกินกึ'งหนึ'งจากจํานวนเงินค่าปรับแก่ผู้ แจ้งความนําจับ ในกรณีที'พรรคการเมืองกระทําความผิดตามมาตรา ๗๕ หัวหน้า พรรคการเมืองหรือกรรมการบริหารพรรคการเมืองของพรรคการเมืองนั.,นซึ'งรู้เห็นเปป็นใจ ด้วยในการกระทําความผิดต้องระวางโทษตามที'กําหนดไว้ในวรรคหนึ'ง และให้ศาลสั'งเพิก ถอนสิทธิเลือกตั.,งของหัวหน้าพรรคการเมืองหรือกรรมการบริหารพรรคการเมืองของ พรรคการเมืองนั.,น และให้ถือเปป็นเหตุที'จะยุบพรรคการเมืองนั.,นตามกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตั.,งของผู้นั.,นมีกําหนดยี'สิบปั และให้นําความในมาตรา ๑๕๘ วรรค สอง มาใช้บังคับด้วย
ในกรณีที'ผู้ฝ'าฝ더นตามวรรคหนึ'งเปป็นผู้รับหรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือ ประโยชน์อื'นใด ถ้าได้แจ้งถึงการกระทําดังกล่าวต่อคณะกรรมการหรือผู้ซึ'งคณะกรรมการ มอบหมายก่อนถูกจับกุม ผู้นั.,นไม่ต้องรับโทษและไม่ต้องถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั.,ง ให้นําความในวรรคสองมาใช้บังคับแก่ผู้ฝ'าฝ더นตามวรรคหนึ'งที'คณะ กรรมการเห็นสมควรกันไว้เปป็นพยานด้วยโดยอนุโลม
เมื'อคณะกรรมการมีมติไม่ดําเนินคดีกับบุคคลใดแล้วให้สิทธิในการดําเนิน คดีอาญาเปป็นอันระงับไป เว้นแต่ปรากฏในภายหลังว่าผู้ถูกกันไว้เปป็นพยานได้ให้ถ้อยคําอัน เปป็นเท็จ หรือไม่ไปเบิกความ หรือไปเบิกความแต่ไม่เปป็นไปตามที'ได้ให้ถ้อยคํา หรือแจ้ง เบาะแสหรือข้อมูลไว้ ให้การกันบุคคลไว้เปป็นพยานนั.,นสิ.,นสุดลงและคณะกรรมการอาจ ดําเนินการตามกฎหมายกับบุคคลนั.,นต่อไปได้ มาตรการในการกันบุคคลไว้เปป็นพยานตามวรรคหนึ'ง และการเพิกถอน การกันไว้เปป็นพยานตามวรรคสอง ให้เปป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื'อนไขที'คณะ กรรมการกําหนด
บทเฉพาะกาล
๒๕๕๐ ให้ถือว่าผู้นั.,นถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั.,งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี.,
การกระทําใด ๆ อันเปป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ'งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๕๐ ถ้าการกระทํานั.,นยังเปป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี., ให้พนักงาน สอบสวน พนักงานอัยการ คณะกรรมการการเลือกตั.,ง และศาล มีอํานาจดําเนินการต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและ การได้มาซึ'งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๕๐ โดยให้ถือว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ'งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๕๐ ยังมีผลใช้บังคับอยู่
ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี., คือ โดยที' รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้มีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื'อให้การจัดการเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เปป็นไปโดยสุจริตและเที'ยงธรรมตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึง จําเปป็นต้องตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี.,
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี., คือ โดยที' รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ'มเติม (ฉบับที' ๑) พุทธศักราช ๒๕๖๔ กําหนดให้ สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิกจํานวนห้าร้อยคน โดยเปป็นสมาชิกซึ'งมาจากการเลือก ตั.,งแบบแบ่งเขตเลือกตั.,งจํานวนสี'ร้อยคน และสมาชิกซึ'งมาจากการเลือกตั.,งแบบบัญชีรายชื'อ จํานวนหนึ'งร้อยคน โดยให้ใช้บัตรเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบละหนึ'งใบ และการ คํานวณสัดส่วนผู้สมัครรับเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามบัญชีรายชื'อของแต่ละ พรรคการเมืองที'จะได้รับเลือกตั.,งให้เปป็นสัดส่วนที'สัมพันธ์กันโดยตรงกับจํานวนคะแนนที' แต่ละพรรคการเมืองได้รับการเลือกตั.,งรวมกันทั.,งประเทศ โดยหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เงื'อนไขในการสมัครรับเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื'อ การออกเสียงลง คะแนน การนับคะแนน การรวมคะแนน การประกาศผลการเลือกตั.,ง และการอื'นที'เกี'ยวข้อง ให้เปป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั.,งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร ประกอบกับเปป็นการสมควรแก้ไขเพิ'มเติมบทบัญญัติเพื'อเพิ'มประสิทธิภาพในการ ดําเนินการเลือกตั.,งและการตรวจสอบการเลือกตั.,งให้เปป็นไปโดยสุจริตและเที'ยงธรรม จึง จําเปป็นต้องตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี., อัมพิกา / Maker 2 กุมภาพันธ์ 2566 ปาจรีย์ / Checker 2 กุมภาพันธ์ 2566 ปาจรีย์ / Authorizer 2 กุมภาพันธ์ 2566 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๕/ตอนที' ๖๘ ก/หน้า ๔๐/๑๒ กันยายน ๒๕๖๑
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๔๐/ตอนที' ๗ ก/หน้า ๑/๒๘ มกราคม ๒๕๖๖