로고

การอุดมศึกษา พ.ศ. 2562 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ให้ไว้ ณ วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2562 เป็นปีที่ 4 ในรัชกาลปัจจุบัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการ โปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีสัญญาบัตรว่าด้วยการอุดมศึกษา พระราชบัญญัตินี้เป็นบทบัญญัติว่าด้วยการเกี่ยวกับการจัดที่จัดตั้งและเสรีภาพ ของบุคคล ซึ่งมาตรา 26 ประกอบกับมาตรา 32 มาตรา 33 มาตรา 34 และมาตรา 40 ของ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจแห่งบทบัญญัติ แห่งกฎหมาย เหตุผลและความจำเป็นในการจัดที่จัดตั้งและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชบัญญัติ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการอุดมศึกษาให้สอดคล้องกับ การพัฒนาประเทศในยุคปัจจุบัน และเพื่อให้การจัดการอุดมศึกษามีความเป็นอิสระและ ที่เป็นอยู่ในรูปแบบที่เหมาะสมตามหลักการของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้ตราพระราชบัญญัตินี้ไว้โดยคำแนะนำและยินยอม ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ทำหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้ มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. 2562” มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา นุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา 3 ในพระราชบัญญัตินี้ “การอุดมศึกษา” หมายความว่า การศึกษาในระดับที่สูงกว่าการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งรวมถึงการจัดการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย การสร้าง ผลิต และพัฒนาความรู้ รวมทั้งการจัดการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการสร้างนวัตกรรม และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ “สถาบันอุดมศึกษา” หมายความว่า สถาบันที่จัดการศึกษาตามระดับปริญญาและ ระดับต่ำกว่าปริญญาที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัตินี้ * จากราชกิจจานุเบกษา เล่ม 136/ตอนที่ 40 ก/หน้า 43/วันที่ 1 พฤษภาคม 2562 * "สถานบันอุดมศึกษาของรัฐ" หมายความว่า สถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสังกัดของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และสถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่ไม่อยู่ในสังกัดของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม "สถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสังกัดของกระทรวง" หมายความว่า สถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่เป็นส่วนราชการหรืออยู่ในสังกัดของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และสถาบันอุดมศึกษาของรัฐในกำกับของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม "มาตรฐานการอุดมศึกษา" หมายความว่า ข้อกำหนดที่ใช้เป็นเกณฑ์กำกับดูแลคุณภาพ และเกณฑ์อ้างอิงในการจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา ข้อกำหนดดังกล่าวอาจกำหนดเป็นกรอบแนวทางของเกณฑ์ในภาพรวมโดยกว้างๆ และอาจระบุรายละเอียดตามที่กำหนดในกฎกระทรวง เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการส่งเสริม การกำกับดูแล การตรวจสอบ ติดตาม และประเมินผล และการประกันคุณภาพการศึกษาระดับอุดมศึกษา "หน่วยงานของรัฐ" หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม ส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็นกระทรวง ทบวง กรม ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่มิใช่หน่วยงานในบังคับบัญชาหรือกำกับดูแลของสถาบันอุดมศึกษา ฝ่ายบริหาร ฝ่ายตุลาการ องค์กรอิสระ หรือองค์กรอัยการ "คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา" หมายความว่า คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม "คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม" หมายความว่า คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ "สำนักงานปลัดกระทรวง" หมายความว่า สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม "สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม" หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ "กระทรวง" หมายความว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม "รัฐมนตรี" หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ และแนวปฏิบัติ เพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ และแนวปฏิบัตินั้น เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้ หมวด 1 บททั่วไป มาตรา 5 การจัดการอุดมศึกษาต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ ดังต่อไปนี้ (ก) พัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีความเชี่ยวชาญในศาสตร์ทางวิชาการหรือวิชาชีพที่แตกต่าง สามารถตอบสนองต่อความต้องการของประเทศ และสร้างความสามารถในการแข่งขันในระดับโลกได้ (ข) พัฒนาบุคคลให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรมที่จำเป็น เป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ เข้าใจและสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาล มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ รวมถึงแก้ปัญหาสังคม และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขได้อย่างมีความสุข (ค) ตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติ และแผนและนโยบายของประเทศในด้านต่าง ๆ รวมถึงการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อป้องกันความเสื่อมโทรมของประเทศและการแก้ไขปัญหาของประเทศในระยะยาว (ง) ส่งเสริมให้ประชาชนได้รับการเรียนรู้และพัฒนาตนเองในระบบการศึกษาในระดับอุดมศึกษา รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนเรียนรู้และพัฒนาตนเองในระบบการศึกษาตลอดชีวิต มาตรา 6 ให้สถาบันอุดมศึกษาพัฒนาความรู้ จัดการเรียนการสอน การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่อื่นให้สอดคล้องกับมาตรา 5 มาตรา 7 รัฐพึงจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรทางการศึกษาให้เหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการและความจำเป็นของสถาบันอุดมศึกษา และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท แผนการปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติ และแผนด้านการอุดมศึกษา นอกจากนี้การปรับงบประมาณและทรัพยากรทางการศึกษาของกระทรวงที่มี สถาบันอุดมศึกษา พึงจัดสรรรวมระบบในรูปแบบของงบประมาณที่สนับสนุนการดำเนินงานของสถาบันอุดมศึกษาอย่างเสรีและสร้างสรรค์ รวมถึงการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาให้มีความเป็นเลิศในศาสตร์ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ มาตรา 8 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ และแนวปฏิบัติ เพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ และแนวปฏิบัตินั้น เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้ หมวด 2 หลักการของการจัดการอุดมศึกษา ส่วนที่ ๑ หลักการทั่วไปในการจัดการอุดมศึกษา มาตรา ๙ การจัดการอุดมศึกษาต้องเป็นไปตามหลักการ ดังต่อไปนี้ (๑) หลักความรับผิดชอบต่อสังคม (๒) หลักเสรีภาพทางวิชาการ (๓) หลักความเป็นอิสระ (๔) หลักความเสมอภาค (๕) หลักธรรมาภิบาล (๖) หลักการอื่นตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา

มาตรา ๑๐ เพื่อให้การจัดการอุดมศึกษาของรัฐสู่จุดประสงค์ตามมาตรา ๙ และเป็นไปตามหลักการตามมาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการอุดมศึกษา กำหนดแนวปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามหลักการดังกล่าว แนวปฏิบัตินั้นเมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้

ให้สถานบันอุดมศึกษาทุกแห่งเปิดเผยผลการดำเนินการตามแนวปฏิบัติดังกล่าวพร้อมทั้งให้ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นและวิจารณ์รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการอุดมศึกษา

ส่วนที่ ๒

หลักความรับผิดชอบต่อสังคม

มาตรา ๑๑ สถาบันอุดมศึกษาต้องดำเนินการเพื่อประโยชน์ของชุมชน สังคม และประเทศ

ชุมชนและสังคมมีสิทธิติดตามและตรวจสอบสถาบันอุดมศึกษาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการอุดมศึกษา

มาตรา ๑๒ สถาบันอุดมศึกษาต้องดำเนินการพัฒนาความรู้ให้เหมาะสม จัดการศึกษาให้ตอบสนองต่อความต้องการกำลังคนของประเทศ ให้เกิดการสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรม รวมทั้งให้บริการวิชาการแก่สังคมโดยคำนึงถึงความต้องการของชุมชนและสังคมโดยรวม และเผยแพร่ความรู้ที่ถูกต้องตามหลักวิชาการในเรื่องต่าง ๆ ต่อสาธารณะ

สถาบันอุดมศึกษาต้องจัดให้มีการศึกษาแก่ผู้เรียน คนทำงาน และบุคคลทั่วไปทั้งในและนอกระบบการศึกษา มีส่วนร่วมสนับสนุน และส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา เพื่อสร้างสำนึกรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม

มาตรา ๑๓ สถาบันอุดมศึกษาต้องดำเนินการเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่สังคมในการรักษาวินัยทางวิชาชีพที่เกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ

ส่วนที่ 3

หลักเสรีภาพทางวิชาการ

มาตรา 14 เสรีภาพทางวิชาการในการศึกษาวิจัย ในการเรียนการสอน และการแสดงความคิดเห็นทางวิชาการตามหลักวิชา ย่อมได้รับความคุ้มครอง แต่การใช้เสรีภาพนั้นต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย ทำนิยมหรือจารีตของสังคมไทย และศีลธรรมอันดีของประชาชน และต้องเคารพและไม่ล่วงเกินความคิดเห็นของบุคคลอื่น

การบิดเบือน บุกลุก ครอบงำ หรือจัดทำการในเสรีภาพทางวิชาการจนมีเหตุจะกระทำให้ได้ให้สถานบันอุดมศึกษาจัดให้มีเสรีภาพและเสมอในการประกัน การให้ความช่วยเหลือ และความคุ้มครองแก่บุคคลผู้ใช้เสรีภาพตามมาตรานี้

ส่วนที่ 4

หลักความเป็นอิสระ

มาตรา 15 สถาบันอุดมศึกษาต้องมีอิสระในการจัดการเรียนการสอน การศึกษาวิจัย การบริหารวิชาการ การบริหารบุคคล การเงิน งบประมาณ และทรัพย์สิน โดยมีมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและขจัดการแทรกแซงหรือการครอบงำและผลกระทบของทั้งฝ่ายตามกฎหมายหรือฝ่ายการเมืองที่อาจมีต่อการดำเนินงานของสถาบันอุดมศึกษา

การควบคุมและกำกับดูแลของรัฐต้องกระทำเท่าที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ของประชาชนหรือประเทศเป็นสำคัญ และเท่าที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่น

มาตรา 16 สภาวิชาชีพจะออกข้อบังคับหรือหลักเกณฑ์เพื่อจัดระเบียบการประกอบอาชีพโดยมีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติหรือกีดกันการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาไม่ได้

ส่วนที่ 5

หลักความเสมอภาค

มาตรา 17 สถาบันอุดมศึกษาต้องจัดการศึกษาให้แก่บุคคลผู้เรียนให้เสมอภาคเท่าเทียมกัน ไม่เลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมไม่ว่าจะด้วยเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา หรือความคิดเห็นทางการเมือง หรือความแตกต่างอื่นใด

มาตรการหรือการดำเนินการใดของสถาบันอุดมศึกษาที่มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคหนึ่ง ต้องจัดให้มีระบบหรือกลไกเพื่อขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมดังกล่าวให้ผู้เรียนได้รับการศึกษาเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ไม่เป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมตามวรรคหนึ่ง

มาตรา ๑๘ สถานรับดูแลเด็กจะต้องจัดสรรงบประมาณหรือรายได้ตามสมควร เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้แก่ผู้เรียนที่มีผลการเรียนดีและมีความประพฤติดี ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามที่ สภาสถานรับดูแลเด็กกำหนดและประกาศให้ทราบเป็นการทั่วไป

ส่วนที่ ๖ หลักธรรมาภิบาล

มาตรา ๑๙ สถานรับดูแลเด็กและบุคลากรต้องปฏิบัติหน้าที่ตามหลักธรรมาภิบาล สถานรับดูแลเด็กจำต้องให้มีระบบควบคุมภายในและระบบการตรวจสอบที่มี ประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและขจัดการดำเนินการที่แฝงผลประโยชน์ และการทุจริตและ ประพฤติมิชอบ

มาตรา ๒๐ สภาสถานรับดูแลเด็กจำต้องจัดให้มีประมวลจริยธรรมของสถานรับดูแลเด็ก กรรมการสภาสถานรับดูแลเด็ก ผู้บริหารและบุคลากรของสถานรับดูแลเด็ก และผู้เรียน โดยมีกลไกในการส่งเสริม ตรวจสอบ และบังคับใช้ที่มีประสิทธิภาพ

มาตรา ๒๑ นายกสภาสถานรับดูแลเด็กและกรรมการสภาสถานรับดูแลเด็ก ต้องเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยจริยธรรมอันดีงาม โดยให้ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต มีความรับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่ และผลประโยชน์ของสถานรับดูแลเด็กและประเทศชาติอย่างเคร่งครัด และกระทำการใด ๆ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของสถานรับดูแลเด็กและประเทศชาติเป็นสำคัญ รวมทั้งต้องปฏิบัติตามประมวลจริยธรรม และมาตรฐานทางจริยธรรมที่สภาสถานรับดูแลเด็กกำหนดและอนุมัติแล้วอย่างเคร่งครัด

สถานรับดูแลเด็กและบุคลากรต้องยึดถือและปฏิบัติตามพันธกิจที่ประกาศตาม วรรคหนึ่ง การกำหนดพันธกิจดังกล่าวของสถานรับดูแลเด็กต้องรับฟังความคิดเห็นของ ผู้มีส่วนได้เสียและแปลงเป็นรูปธรรมทั้งกล่าวถึงให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคมและประเทศ เป็นระยะ ทั้งนี้ ตามที่สภาสถานรับดูแลเด็กกำหนด

หมวด ๓ ประเภทและกลุ่มเป้าหมายสถานรับดูแลเด็ก

มาตรา ๒๒ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมกำกับดูแล รัฐมนตรีย่อมประกาศกำหนดประเภท ของสถานรับดูแลเด็กได้

มาตรา ๒๓ เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริม สนับสนุน ประเมินคุณภาพ กำกับดูแล และตรวจสอบการดำเนินงานของสถานรับดูแลเด็ก รัฐมนตรีอาจประกาศกำหนดกลุ่มเป้าหมาย เป็นรายกลุ่มได้ โดยคำนึงถึงกลุ่มอายุ พันธกิจ ศักยภาพ และผลการดำเนินงานที่ผ่านมา

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา - 7 - ของสถาบันอุดมศึกษาแต่ละกลุ่ม โดยต้องกำหนดมาตรการส่งเสริม สนับสนุน ประเมินคุณภาพ กำกับ ดูแล และจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องกับการดำเนินการกลุ่มอุดมศึกษาดังกล่าวด้วย ในกรณีที่รัฐมนตรีประธานให้สถาบันอุดมศึกษากลุ่มใดมีพันธกิจหลักในการให้ การศึกษารวมทั้งชะลอชั้นสูงเพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้และทักษะในการปฏิบัติงาน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท แผนการปฏิรูปประเทศ และแผนเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ สถาบันอุดมศึกษากลุ่มนั้นย่อมได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษตามมาตรการที่รัฐมนตรี กำหนด การจัดสถาบันอุดมศึกษาเป็นกลุ่มและการกำหนดมาตรการตามวรรคหนึ่ง รวมทั้ง การกำหนดกลุ่มสถาบันอุดมศึกษาและการให้ความสนับสนุนเป็นพิเศษตามวรรคสอง ให้เป็นไปตาม หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง ในกรณีที่เห็นสมควร รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการอุดมศึกษา อาจประกาศกำหนดให้มีกลุ่มส่วนราชการหรือกลุ่มส่วนงานภายในของสถาบันอุดมศึกษาใด สถาบันอุดมศึกษาแห่งนั้นเพื่อดำเนินการตามมาตราที่กำหนดไว้

มาตรา ๒๕ การกำหนดมาตรฐานการอุดมศึกษาต้องกำหนดให้สอดคล้องกับ ประเทศและกลุ่มของสถาบันอุดมศึกษาตามความเหมาะสม

หมวด ๔ หน้าที่และอำนาจของสถาบันอุดมศึกษา

ส่วนที่ ๑ หน้าที่และอำนาจ

มาตรา ๒๖ สถาบันอุดมศึกษามีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ (๑) การจัดการศึกษา (๒) การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (๓) การบริการวิชาการแก่สังคม (๔) การทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม (๕) หน้าที่และอำนาจอื่นตามที่กฎหมายกำหนด การดำเนินการตามวรรคหนึ่งต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท แผนการปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาการศึกษาธิการและสังคมแห่งชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติ และ แนวนโยบายการอุดมศึกษา และสอดคล้องความจำเป็นและความต้องการของประเทศในด้านต่าง ๆ การส่งเสริมให้เกิดประชาคมการศึกษาไทยไปในระดับสากล การพัฒนาศักยภาพของประเทศ และการจัดการศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประเทศไทยพัฒนาไปสู่ประเทศที่มีความสามารถในทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และมีคุณภาพชีวิตที่มีคุณภาพ การดำเนินการตาม (๑) โดยใช้งบประมาณแผ่นดินต้องสอดคล้องกับแนวทางที่สภา นโยบายกำหนด

มาตรา ๒๗ สถาบันอุดมศึกษาต้องดำเนินการให้คนการเรียนและบุคคลทั่วไปมีความรู้เท่าทันความก้าวหน้าทางวิชาการในโลก พัฒนาการเรียนการสอน การวิจัยให้ทันสมัยสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางวิชาการ ความเปลี่ยนแปลงของโลก สังคม และเทคโนโลยี และส่งเสริมและสนับสนุนการผลิตผลงานทางวิชาการในระดับชาติและระดับนานาชาติ

มาตรา ๒๘ สถาบันอุดมศึกษาต้องส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนการเรียนรู้ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และชุมชน นำความรู้ ผลงานวิจัย หรือนวัตกรรมของสถาบันอุดมศึกษาไปใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง

สถาบันอุดมศึกษาต้องส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการสร้างนวัตกรรมและนวัตกรรมไปในการสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ให้กับประเทศ สถาบันอุดมศึกษาต้องกำหนดมาตรการใด ๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง รวมถึงการสนับสนุนทางด้านการเงินเพื่อการประกอบธุรกิจใหม่ ในการดำเนินการตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง สถาบันอุดมศึกษาจะให้บุคคลตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง นำความรู้ ผลการวิจัย หรือผลงานวิจัยทางวรรณกรรมที่มิใช่โดยสิทธิไม่มีประโยชน์ตอบแทนแก่ได้ หรือจะร่วมดำเนินการกับผู้ประกอบการ หรือเป็นผู้ดำเนินการ โดยได้รับผลตอบแทนสนับสนุนทางธุรกิจในความการก็ได้ รายได้ของสถาบันอุดมศึกษาจากการรู้หรือให้ใช้ประโยชน์จากการดำเนินการตามความในไม่ต้องส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน

มาตรา ๒๙ สถาบันอุดมศึกษาต้องจัดให้มีการสนับสนุนทุนการศึกษาเพื่อช่วยเหลือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์อย่างแท้จริงให้โอกาสเรียนจนสำเร็จปริญญาตรี

สถาบันอุดมศึกษาของรัฐอาจใช้ทุนสนับสนุนรัฐที่ได้สำหรับการคัดเลือกนักศึกษาไม่สูงกว่าระดับปริญญาตรีในสถาบันอุดมศึกษา เพราะเหตุที่ไม่มีเงินจ่ายระหว่างเรียนการศึกษาเมื่อมีอาจจากการขาดแคลนทุนทรัพย์อย่างแท้จริง หรือจะให้ผู้เรียนอยู่ดีหรือจนถึงผู้เรียนในสถาบันอุดมศึกษานั้นเพราะเหตุหลักการก็ได้

ส่วนที่ ๒

การจัดการศึกษา

มาตรา ๓๐ การจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาใหม่ต้องดำเนินการให้มีเหตุผล ความคุ้มค่า และความจำเป็นในระดับประเทศ รวมถึงความเหมาะสมกับบริบทของพื้นที่

การจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาใหม่ตามวรรคหนึ่งต้องไม่เป็นไปเพื่อการแสวงหากำไรในกรณีสถาบันอุดมศึกษาเอกชน หลักเกณฑ์และวิธีการจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาให้รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบจัดตั้งหรืออนุญาตให้จัดตั้งหรือจะสถาบันอุดมศึกษาเอกชนต้องจัดตั้งในรูปแบบของนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไรตามกฎหมาย หรือกำหนดให้นำทรัพย์สินหรือรายได้ของสถาบันอุดมศึกษาไปจ่ายเป็นเงินปันผลหรือแบ่งปันผลกำไรให้แก่ผู้ถือหุ้นหรือผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์สินหรือรายได้ของสถาบันอุดมศึกษา ทั้งนี้ ไม่รวมในกรณีการจ้างงาน

มาตรา 13 หลักสูตรการศึกษาที่สถานรับดูแลเด็กจะอนุมัติเพื่อให้เปิดสอนได้ ต้องมีมาตรฐานไม่น้อยกว่าหลักเกณฑ์ขั้นต่ำที่คณะกรรมการมาตรฐานการศึกษากำหนด และต้องมุ่งเน้นในการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน พัฒนาวิชาชีพหรือทักษะอาชีพขั้นสูง หรือการค้นคว้าวิจัยเพื่อพัฒนาจัดระบบและเพิ่มพูนองค์ความรู้และเพื่อพัฒนาสังคม

สถานรับดูแลเด็กจะต้องให้หลักสูตรการศึกษาที่จัดการเรียนการสอนในรูปแบบที่หลากหลายและเหมาะสมกับผู้เรียน มีคุณภาพและมาตรฐานที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต การศึกษาและสังคม เพื่อพัฒนาศักยภาพและทักษะการพัฒนาของบุคคลในทุกช่วงวัย การจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นการพัฒนาให้เด็กในสถานรับดูแลเด็กเข้าถึงกระบวนการที่ได้ในกรณีที่คณะกรรมการมาตรฐานการศึกษากำหนดหลักสูตรการศึกษาในหลักสูตรการศึกษาดังกล่าว ให้ส่งเสริมสถานรับดูแลเด็กให้เป็นไปในกรอบอุดมศึกษาที่กล่าวมา

มาตรา 14 สถานรับดูแลเด็กต้องจัดให้การศึกษาอย่างเต็มที่กับผู้เรียน โดยมุ่งพัฒนาสถานรับดูแลเด็กให้มีความเป็นเลิศในด้านวิชาการหรือวิชาชีพ และเป็นแกนนำของสังคม

สถานรับดูแลเด็กต้องสร้างเสริมผู้เรียนให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม และมีความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศ ให้สถานรับดูแลเด็กจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

มาตรา 15 เพื่อเป็นการสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนของสถานรับดูแลเด็ก ให้กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดให้มีการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อความเท่าเทียมในการเข้าถึงการศึกษาของสถานรับดูแลเด็ก

มาตรา 16 สถานรับดูแลเด็กจะต้องส่งเสริมและรองรับการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม และในด้านอื่น ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของประเทศ

ความร่วมมือมีความครอบคลุมถึงการให้บุคลากรร่วมกัน การระดมทุน ออกค่าใช้จ่าย การให้ทรัพยากรร่วมกัน หรือความร่วมมืออย่างอื่น ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 17 สถานรับดูแลเด็กจะพึงสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคอุตสาหกรรมเพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนของสถานรับดูแลเด็ก เพื่อให้ผู้เรียนมีความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติงานจริง และเพื่อพัฒนาศักยภาพ ทักษะ สมรรถนะ และคุณลักษณะเฉพาะของผู้เรียนให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน

หลักสูตรการศึกษา การเรียนการสอน การจัดการและการประเมิน โดยผู้เรียนใช้เวลาส่วนที่เป็นสถานรับดูแลเด็ก และส่วนที่สถานรับดูแลเด็กจัดให้มีการเรียนการสอนอย่างเหมาะสม ในการจัดการศึกษาดังกล่าว สถานรับดูแลเด็กต้องจัดให้มีการประเมินผลการศึกษาเพื่อให้บุคลากรและผู้เรียนไปปฏิบัติภารกิจที่เหมาะสมได้ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการมาตรฐานการศึกษากำหนด

มาตรา ๑๖ หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานภาคเอกชนที่ให้ความร่วมมือในการดำเนินการตามมาตรา ๑๕๔ อาจได้รับสิทธิประโยชน์ ดังต่อไปนี้

การสนับสนุนด้านวิชาการและทรัพยากรตามสมควรแก่กรณี

ได้รับการลดหย่อนภาษี

สิทธิประโยชน์ทางการอุดรอยตามประมวลรัษฎากร

สิทธิประโยชน์อื่นตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการอุดมศึกษา

ส่วนที่ ๓

การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม

มาตรา ๑๗ การวิจัยและการสร้างนวัตกรรมจะต้องสอดคล้องกับความต้องการและความจำเป็นของประเทศ เพื่อมุ่งไปในการพัฒนาและแก้ปัญหาของประเทศให้ต่อเนื่องเป็นรูปธรรมและเพื่อความก้าวหน้าทางวิชาการ และสอดคล้องกับแผนการศึกษาแห่งชาติและยุทธศาสตร์การส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมที่เหมาะสม

รัฐมนตรีที่กำกับดูแลหรือเสริมการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ให้เป็นไปเพื่อการสร้างความรู้และนวัตกรรมเพื่อไปในการพัฒนาชุมชน สังคม และประเทศ

มาตรา ๑๘ ให้สถาบันอุดมศึกษาดำเนินการให้ความร่วมมือในการจัดทำข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ

มาตรา ๑๙ เพื่อส่งเสริมให้มีการนำผลการวิจัยและนวัตกรรมของสถาบันอุดมศึกษาไปใช้ประโยชน์ สถาบันอุดมศึกษาพึงสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรในด้านการวิจัยและการสร้างนวัตกรรม การบริหารการวิจัย การแลกเปลี่ยนบุคลากร การสร้างเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญ การแสดงผลการวิจัยให้เป็นรูปธรรมระหว่างสถาบันอุดมศึกษากับองค์กรภาครัฐส่วนท้องถิ่น หน่วยงานอื่นของรัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สถาบันอุดมศึกษาย่อมจัดตั้งนิติบุคคลหรือร่วมลงทุนกับหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเห็นชอบเพื่อการดำเนินการดังกล่าวให้เกิดประโยชน์แก่สาธารณชน

ส่วนที่ ๔

การบริหารการศึกษาเพื่อสังคม

มาตรา ๒๐ สถาบันอุดมศึกษามีหน้าที่นำเสนอการให้บริการวิชาการ ให้คำปรึกษาทางวิชาการ และถ่ายทอดความรู้แก่ชุมชนและสังคมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งการสร้างนวัตกรรมและการแก้ปัญหาของชุมชนและสังคม เพื่อมุ่งการนำไปใช้ประโยชน์และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต

สถาบันอุดมศึกษาในฐานะที่เป็นพื้นที่ทางวิชาการของชุมชนและสังคม ต้องร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนในการพัฒนาพื้นที่ที่ใกล้เคียงกับที่ตั้งของสถาบันอุดมศึกษานั้น หรือพื้นที่ชนบทที่สถาบันอุดมศึกษาเห็นสมควร สถาบันอุดมศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมต่าง ๆ กับสังคม เพื่อสร้างเสริมจิตสาธารณะในการนำความรู้และประสบการณ์มาใช้เพื่อสร้างประโยชน์แก่ส่วนรวม

ส่วนที่ ๔

การทะนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม

มาตรา ๔๓ สถาบันอุดมศึกษามีหน้าที่ในการทะนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม โดยการอนุรักษ์ ฟื้นฟู สืบสาน และเผยแพร่มรดกภูมิปัญญาท้องถิ่นและของชาติ รวมทั้งส่งเสริมให้มีการบูรณาการการทะนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมกับการเรียนการสอนและกิจกรรมของผู้เรียน

หมวด ๕

ข้อมูลการอุดมศึกษา

มาตรา ๔๔ สถาบันอุดมศึกษาต้องเก็บและข้อมูลที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของสถาบันอุดมศึกษาและรายงานข้อมูลดังกล่าวต่อกระทรวงตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่กำหนดในกฎกระทรวง

อุดมศึกษา การวิจัยและนวัตกรรม ตลอดจนการมีส่วนร่วมของสาธารณชน ในการตรวจสอบสถาบันอุดมศึกษา ให้ดำเนินการจัดทำและส่งข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการศึกษาและมาตรฐานการศึกษา การวิจัยและนวัตกรรม การให้บริการทางวิชาการ และข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องให้แก่กระทรวง ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๔๕ ให้หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยงาน และหน่วยงานของเอกชนตามลักษณะที่สภานโยบายประกาศกำหนด ส่งข้อมูลเกี่ยวกับการอุดมศึกษาและการอื่นที่เกี่ยวข้องให้แก่กระทรวงตามที่ได้รับการร้องขอ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่กำหนดในกฎกระทรวง

สถาบันอุดมศึกษาต้องจัดให้มีระบบข้อมูลสารสนเทศของหน่วยงานอย่างรู้ถึงกันของข้อมูลการอุดมศึกษาเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามหน้าที่ได้

มาตรา ๔๖ ให้กระทรวงดำเนินการจัดทำข้อมูลการอุดมศึกษาของประเทศ โดยรวบรวม วิเคราะห์ สังเคราะห์ และเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวกับการอุดมศึกษา สถาบันอุดมศึกษา และการอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการในหน้าที่ของรัฐตามมาตรา ๕ วรรคสอง ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวต้องไม่เป็นการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และจะนำไปเปิดเผยในกรณีหรือช่วงกำหนดสุด ๆ ได้

หมวด 6

ทรัพยากรอุดมศึกษา

ส่วนที่ 1

การจัดสรรทรัพยากรในการจัดการอุดมศึกษา

มาตรา 45 การจัดสรรและการจัดระบบงบประมาณสำหรับการอุดมศึกษาให้ดำเนินการดังต่อไปนี้

1

งบบุคลากรซึ่งเป็นเงินเดือน ค่าจ้าง และสิทธิประโยชน์ของบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสังกัดของกระทรวง ให้สถาบันอุดมศึกษาดำเนินการต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง และให้ดำเนินการตามระเบียบที่กระทรวงกำหนดต่อการบริหารงบประมาณของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสังกัดของกระทรวงและแผน

2

งบดำเนินงานและรายจ่ายอื่นซึ่งเป็นรายจ่าย รวมทั้งงบที่มิใช่งบลงทุนตาม (1) ให้สถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสังกัดของกระทรวงดำเนินการต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง และให้ดำเนินการตามระเบียบที่กระทรวงกำหนดต่อการบริหารงบประมาณของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสังกัดของกระทรวง เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการบริหารงบประมาณและทรัพยากรทางการศึกษา โดยต้องนำเงินงบประมาณดังกล่าวไปใช้เพื่อการบริหารจัดการ การพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา และการผลิตและพัฒนากำลังคนที่มีคุณภาพสูง รวมทั้งการส่งเสริมการวิจัยและนวัตกรรมตามกฎหมายว่าด้วยสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ เพื่อใช้ไปในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ การวิจัย และการสร้างนวัตกรรม

3

การจัดสรรเงินกองทุนให้มีอยู่คงเดิมซึ่งดำเนินการให้แก่สถาบันอุดมศึกษาเอกชนเพื่อพัฒนาการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น การจัดสรรงบประมาณตาม (1) (2) และ (3) ต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ หรือข้อกำหนดของสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และแผนยุทธศาสตร์

มาตรา 46 ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเสนอแผนการจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนเงินทุนเพิ่มเติมสำหรับสถาบันอุดมศึกษาของรัฐในสังกัดของกระทรวงตามข้อเสนอของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยคำนึงถึงความเหมาะสมของหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการสนับสนุนเงินทุนเพิ่มเติม และความสนับสนุนเงินทุนเพิ่มเติมอื่นจากภาคเอกชน ให้เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยข้อเสนอของสภานโยบาย

มาตรา ๔๙ ในกรณีที่เห็นสมควร คณะรัฐมนตรีโดยข้อเสนอร่วมกันของกระทรวง และกระทรวงการคลังอาจจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาการอุดมศึกษาขึ้น เพื่อพัฒนาความเป็นเลิศ ของสถาบันอุดมศึกษา และส่งเสริมการผลิตกำลังคนระดับสูงเฉพาะทางตามความต้องการของประเทศ

มาตรา ๕๐ คณะรัฐมนตรีอาจกำหนดมาตรการทางการเงิน การคลัง และมาตรการอื่น เพื่อกระตุ้นให้ทรัพยากรแก่พัฒนาการอุดมศึกษาได้ การกำหนดมาตรการทางการคลังที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ

มาตรา ๕๑ เงินรายได้ของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้ แผ่นดิน

ส่วนที่ ๒

การจัดการทรัพยากรของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ

มาตรา ๕๒ ให้สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ มีอำนาจในการบริหาร จัดการ ดูแล บำรุงรักษา ใช้ และจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินของสถาบันอุดมศึกษานั้น ทั้งที่เป็นทรัพย์สินตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ และที่เป็นทรัพย์สินอื่น รวมทั้งจัดการให้มีความร่วมมือของสถาบันอุดมศึกษา และเก็บค่าธรรมเนียมการศึกษาที่ไม่เกินหรือเกินกว่าค่าใช้จ่ายจริง และการจัดกิจการของสถาบันอุดมศึกษา

บรรดารายได้และผลประโยชน์ของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ รวมทั้งผลประโยชน์ที่เกิดจากทรัพย์สินซึ่งเป็นรายได้จากการผลิตสติปัญญาสาธารณะ และรายได้อื่นที่เกิดจากการผลิตสติปัญญา การซื้อทรัพย์สินหรือจ้างทำของที่ดำเนินการโดยใช้งบประมาณ รายได้จากทรัพย์สินทางปัญญาที่เกิดขึ้นจากการวิจัยไม่ว่าจะมาจากแหล่งทุนใด ไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน

หมวด ๗

การควบคุมและกำกับดูแลสถาบันอุดมศึกษา

มาตรา ๕๓ รัฐมนตรีว่าการที่เกี่ยวข้องกับการอุดมศึกษาแต่ละแห่งมีอำนาจในการกำกับดูแลโดยทั่วไปเกี่ยวกับการอุดมศึกษา และให้คณะรัฐมนตรีกำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนพัฒนาการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมให้สอดคล้องกับนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนพัฒนาประเทศ และให้คณะกรรมการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมกำหนดมาตรฐานการอุดมศึกษา และการจัดการทรัพยากรของสถาบันอุดมศึกษา รวมถึงการควบคุมการบริหารจัดการและการดำเนินงานของสถาบันอุดมศึกษานั้น

ในกรณีที่มีปัญหาในการดำเนินกิจการของสถานบันอุดมศึกษาของรัฐในสังกัดของกระทรวงที่มีหน้าที่ดูแลกฎหมาย ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือการไม่ปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลอย่างร้ายแรง หรือไม่เป็นไปตามมาตรฐานการอุดมศึกษาอย่างร้ายแรง หรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อส่วนรวม ให้รัฐมนตรีโดยเสนอแนะของคณะกรรมการการอุดมศึกษาหรือคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา แล้วแต่กรณี แจ้งสถานบันอุดมศึกษาให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาภายในระยะเวลาที่กำหนด ในกรณีที่สถานบันอุดมศึกษาไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ให้รัฐมนตรีโดยข้อเสนอแนะของคณะกรรมการการอุดมศึกษาหรือคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา แล้วแต่กรณี เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบและคณะรัฐมนตรีอาจมีมติให้รัฐมนตรีดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้ ยุบหรือควบรวมสถานบันอุดมศึกษา หรือการสั่งให้กระทรวง ยับยั้ง หรือยุติการดำเนินการตามวรรคสองของ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบในกรณีที่เห็นว่าการดำเนินการตามวรรคสองของรัฐมนตรีไม่เป็นเหตุให้ปัญหาการดำเนินการของสถานบันอุดมศึกษาดังกล่าวได้ เมื่อคณะรัฐมนตรีมีมติแล้ว ให้รัฐมนตรีแจ้งให้สถานบันอุดมศึกษาดำเนินการตามมติของคณะรัฐมนตรีต่อไป การดำเนินการดูแลตรวจสอบและตรวจตราต้องทำเท่าที่จำเป็นเพื่อให้สถานบันอุดมศึกษาดำเนินการตามวรรคสอง โดยไม่เป็นการแทรกแซง ความเป็นอิสระ และเสรีภาพทางวิชาการของสถานบันอุดมศึกษาโดยประการทั้งปวง

มาตรา ๕๓ ให้คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษากำกับดูแลให้สถานบันอุดมศึกษาจัดการศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐานการอุดมศึกษา รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนสถานบันอุดมศึกษาให้สามารถยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สูงกว่ามาตรฐานการอุดมศึกษาที่กำหนด

หากปรากฏว่าสถานบันอุดมศึกษาไม่ดำเนินการตามมาตรฐานการอุดมศึกษา ให้คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาดำเนินการแจ้งให้สถานบันอุดมศึกษาดำเนินการแก้ไขปรับปรุงภายในระยะเวลาที่กำหนด หากสถานบันอุดมศึกษาไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาดังกล่าวหรือไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ให้คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาเสนอเรื่องต่อรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาสั่งการให้สถานบันอุดมศึกษาดำเนินการหยุดการดำเนินการ หรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป

มาตรา ๕๔ หลักสูตรการศึกษาของสถานบันอุดมศึกษา ต้องเป็นหลักสูตรการศึกษาที่มีมาตรฐานการศึกษาตามที่คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษากำหนด โดยต้องเป็นไปตามมาตรฐานการอุดมศึกษาที่คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษากำหนด

มาตรา ๕๕ เมื่อสถานบันอุดมศึกษาอนุมัติหลักสูตรการศึกษาแล้ว ให้คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาตรวจสอบหลักสูตรการศึกษาดังกล่าวต่อไป

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาที่จะต้องตรวจสอบหลักสูตรการศึกษาที่ได้รับแจ้งมาตรฐานที่ระบุนั้นไปตามมาตรฐานมาตรา 45 หรือในกรณีที่เห็นว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ให้คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาสั่งให้สถาบันอุดมศึกษาแก้ไขปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐานภายในระยะเวลาที่กำหนด และในกรณีเช่นนี้เพื่อป้องกันความเสียหาย คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษายังอาจสั่งให้สถาบันอุดมศึกษาระงับการดำเนินการตามหลักสูตรการศึกษานั้นไว้ก่อนก็ได้

มาตรา 56 ในการตรวจสอบหรือกิจการหลักสูตรคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาตามมาตรา 45 ให้คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษามีอำนาจเรียกให้สถาบันอุดมศึกษาหรือมอบหมายบุคคลของคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาที่มีหน้าที่ตรวจสอบการดำเนินการจัดการศึกษา ของสถาบันอุดมศึกษา

ในกรณีที่ปรากฏว่าสถาบันอุดมศึกษาไม่ได้จัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษาที่ได้แจ้งตามมาตรา 45 ให้คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษามีอำนาจสั่งให้สถาบันอุดมศึกษาแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนด หากสถาบันอุดมศึกษาไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาดังกล่าวให้ถือว่าไม่มีเหตุอันสมควร ให้คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาสั่งยกเลิกการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษานั้นทุกระดับการหรือดำเนินการใดอื่นต่อไป ในกรณีที่เห็นสมควรว่าไม่รับรองมาตรฐานการอุดมศึกษาอาจสั่งให้สถาบันอุดมศึกษาระงับการดำเนินการจัดการศึกษานั้นไว้ก่อนหรือไม่ระบุผู้ดำเนินการจัดการศึกษาไปก่อนแล้ว การไม่รับรองมาตรฐานการอุดมศึกษาอาจสั่งให้ระงับการดำเนินการจัดการศึกษาไว้ก่อนก็ได้ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการแจ้งเพื่อการรับรองมาตรฐานการอุดมศึกษา และการตรวจสอบการดำเนินการจัดการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาประกาศกำหนด

มาตรา 57 ในการตรวจสอบการดำเนินการจัดการศึกษาตามมาตรา 56 ให้คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาหรือบุคคลผู้ได้รับแต่งตั้งหรือมอบหมายจากคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษามีอำนาจหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้

1

เข้าไปในสถานที่ของสถาบันอุดมศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษาในระหว่างเวลาทำการของที่นั้นเพื่อตรวจติดตาม หรือประเมินผลการจัดการศึกษา

2

สั่งให้บุคคลใด ๆ มาให้ถ้อยคำ หรือให้ส่งเอกสารหรือหลักฐานใด ๆ มาเพื่อประกอบการพิจารณา แต่ผู้ที่จะร้องขอเอกสารหรือหลักฐานตามวรรคหนึ่งจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งหรือมอบหมายจากคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาโดยแสดงบัตรประจำตัวที่คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษากำหนด และให้ถือว่าเอกสารที่ได้รับการร้องขอเป็นเอกสารลับตามกฎหมายว่าด้วยความลับของทางราชการ ให้บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งหรือมอบหมายจากคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา ๕๙ ภายใต้บังคับมาตรา ๕๘ และมาตรา ๖๕ สถาบันอุดมศึกษาอาจจัดให้มีการเรียนการสอนนอกสถานที่ตั้งของสถาบันอุดมศึกษาได้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการการอุดมศึกษาประกาศกำหนด

การจัดให้มีสถาบันซึ่งมิใช่สถาบันอุดมศึกษาตามกฎหมายนี้ แต่ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการการอุดมศึกษาประกาศกำหนด และแจ้งให้สำนักงานปลัดกระทรวงทราบ การจัดการเรียนการสอนนอกสถานที่ตั้งตามวรรคหนึ่งให้เฉพาะกรณีมีการจัดผู้มีบัตรในการเรียนการสอน หรือการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดที่จำเป็นต่อการจัดการเรียนการสอนนอกสถานที่ตั้งของสถาบันอุดมศึกษาด้วย

มาตรา ๖๐ สถาบันอุดมศึกษาอาจจัดการศึกษาโดยผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศหรือโดยวิธีอื่นได้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการโดยข้อเสนอแนะและความเห็นชอบของคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษากำหนด

มาตรา ๖๑ ในกรณีที่ผลการตรวจสอบตามมาตรา ๕๒ ปรากฏว่าการจัดการศึกษาในหลักสูตรการศึกษาใดในสถาบันอุดมศึกษาเป็นไปตามที่ได้แจ้งความจำนง และให้คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาประกาศรับรองมาตรฐานการศึกษาในหลักสูตรการศึกษาดังกล่าว ซึ่งต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกำหนด

มาตรา ๖๒ ให้คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษากำหนดหลักเกณฑ์การประเมินคุณภาพการอุดมศึกษาเป็นการทั่วไป แล้วให้แจ้งให้สถาบันอุดมศึกษารับรองมาตรฐานการอุดมศึกษาที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบ

มาตรา ๖๓ ให้สถาบันอุดมศึกษาจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการอุดมศึกษาของสถาบันอุดมศึกษา

การประกันคุณภาพของสถาบันอุดมศึกษาในส่วนที่เกี่ยวกับการประเมินคุณภาพภายใน การติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา และการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาประกาศกำหนด

มาตรา ๖๔ เมื่อสถาบันอุดมศึกษาดำเนินการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรา ๖๓ เสร็จสิ้นแล้ว ให้รายงานผลการประเมินต่อสภาสถาบันอุดมศึกษา และให้สถาบันอุดมศึกษานำผลการประเมินดังกล่าวไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการอุดมศึกษาให้ดียิ่งขึ้น และให้แจ้งให้สำนักงานปลัดกระทรวงทราบเพื่อดำเนินการแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสาธารณชนทราบ

ในกรณีที่สถาบันอุดมศึกษาไม่สามารถดำเนินการประเมินคุณภาพการศึกษาภายในตามมาตรา ๖๓ ได้ เพราะกรณีใดก็ตาม ให้สำนักงานปลัดกระทรวงแจ้งให้คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาทราบและแจ้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการทราบเพื่อดำเนินการต่อไป ```

มาตรา ๒๕ การประเมินคุณภาพภายนอกอาจประเมินโดยหน่วยงานต่างประเทศ ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง หรืออาจประเมินโดยหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานเอกชน หรือหน่วยงานในต่างประเทศที่คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาเห็นชอบก็ได้ สถาบันอุดมศึกษาของรัฐและเอกชนให้คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา ให้ความเห็นชอบให้หน่วยงานอื่นนอกจากที่กำหนดไว้ตามวรรคหนึ่งทำหน้าที่ประเมินคุณภาพภายนอกได้

มาตรา ๒๖ เมื่อหน่วยงานตามมาตรา ๒๕ ดำเนินการประเมินคุณภาพภายนอกเสร็จสิ้นแล้ว ให้แจ้งผลการประเมินต่อสถาบันอุดมศึกษาและสำนักงานคณะกรรมการเพื่อทราบ ในกรณีที่หน่วยงานต่างประเทศที่ผู้ประเมิน ให้สถาบันอุดมศึกษาส่งผลการประเมินต่อสำนักงานคณะกรรมการเพื่อทราบ ในกรณีที่สถาบันอุดมศึกษาเห็นว่าผลการประเมินที่ได้รับแจ้งตามวรรคหนึ่งคลาดเคลื่อนหรือไม่ตรงต่อความเป็นจริง สถาบันอุดมศึกษาอาจทำหนังสือโต้แย้งผลการประเมินได้ และให้แจ้งสำเนาถึงกระทรวงทรวงการด้วย ให้ถือว่าการประเมินคุณภาพภายนอกตามพระราชบัญญัตินี้เป็นการประเมินตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ

มาตรา ๒๗ ให้อธิการบดีในการประชุมมาตรา ๒๔ ประกาศสถาบันอุดมศึกษาใดมีการจัดการศึกษาไม่เป็นไปตามมาตรฐานการอุดมศึกษาให้คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษานั้นให้สถาบันอุดมศึกษาดำเนินการแก้ไขให้เป็นไปตามมาตรฐานการอุดมศึกษา และให้แจ้งผลการดำเนินการให้คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาทราบภายในระยะเวลาที่กำหนด

มาตรา ๒๘ ให้มีคณะกรรมการการพิจารณาอุทธรณ์ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยความเห็นชอบของที่ประชุมร่วมคณะกรรมการการอุดมศึกษาและคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา ทำหน้าที่พิจารณาอุทธรณ์ตามมาตรา ๒๖ จำนวน องค์ประกอบ หลักเกณฑ์ และวิธีการได้มา คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม วาระการดำรงตำแหน่ง และการพ้นจากตำแหน่งของคณะกรรมการการพิจารณาอุทธรณ์ ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๙ สถาบันอุดมศึกษาของรัฐและเอกชนต้องจัดตั้งของคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา ตามมาตรา ๕๓ วรรคสอง มาตรา ๕๔ วรรคสอง มาตรา ๕๕ วรรคสอง หรือมาตรา ๕๖ เพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้และกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ โดยให้มีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับการกำหนดมาตรฐานการอุดมศึกษา การประกันคุณภาพการศึกษา การพัฒนาคุณภาพการศึกษา การพิจารณาอนุมัติหลักสูตร และการจัดการศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐานการอุดมศึกษา

ในกรณีที่สถาบันอุดมศึกษาไม่สามารถจัดตั้งคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาได้ ให้แจ้งเหตุผลและความจำเป็นต่อสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ```

มาตรา ๑๙ เพื่อประโยชน์ในการสร้างนวัตกรรมการอุดมศึกษา รัฐมนตรีอาจเสนอคณะรัฐมนตรีขอผ่อนผันหรือยกเว้นให้สถาบันอุดมศึกษาหรือส่วนงานในสถาบันอุดมศึกษาจัดการศึกษาในแตกต่างไปจากมาตรฐานการอุดมศึกษาได้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่สภาสถาบันอำนาจกำหนด ซึ่งอย่างน้อยต้องกำหนดเรื่องดังต่อไปนี้

ระยะเวลาที่ดำเนินการ

ผลลัพธ์หรือสิ่งที่จะได้รับที่เป็นผู้เรียน

การสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิต

กลไกและมาตรการในการกำกับ และการประกันคุณภาพการศึกษา

การตรวจสอบและติดตามประเมินผลโดยคณะผู้ประเมินอิสระ

การดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องในคราวระยะเวลาตาม (๑) แล้ว ในระหว่างที่สถาบันอุดมศึกษาหรือส่วนงานในสถาบันอุดมศึกษาดำเนินการตามวรรคหนึ่ง มีใบกำกับมาตรฐานการอุดมศึกษาไม่ใช้บังคับแก่การจัดการศึกษาดังกล่าว และให้ถือว่าการจัดการศึกษานั้นเป็นไปตามมาตรฐานการอุดมศึกษาที่เกี่ยวข้องแล้ว ในกรณีที่มีผลการประเมินผลการจัดการศึกษาตามวรรคหนึ่งประสบความสำเร็จ ให้แจ้งให้คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษาปรับปรุงแก้ไขมาตรฐานการอุดมศึกษาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

มาตรา ๒๐ เพื่อประโยชน์ในการรักษามาตรฐานการอุดมศึกษา หลักธรรมาภิบาล และความเชื่อถือสูงสุดทางวิชาการ ห้ามมิให้ผู้ใด จ้าง วาน ให้ หรือให้ผู้อื่นจ้างวานให้กระทำการที่เป็นไปได้ว่าผลการเรียนหรือผลการศึกษาของผู้เรียนไม่เป็นไปตามความเป็นจริง หรือเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักธรรมาภิบาลของการจัดการศึกษา

การเลื่อนตำแหน่ง การเลื่อนวิทยฐานะ หรือการให้ได้รับเงินเดือนหรือเงินอื่นในระดับที่สูงขึ้น ทั้งนี้ไม่ว่าจะมีประโยชน์ตอบแทนหรือไม่ก็ตาม ห้ามมิให้ผู้ใดรับจ้างหรือรับดำเนินการตามวรรคหนึ่ง เพื่อให้ผู้อื่นนำผลการดำเนินการนั้นไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินการตามวรรคหนึ่ง เว้นแต่เป็นการช่วยเหลือโดยสุจริตตามสมควร

หมวด ๔

การคุ้มครองผู้เรียน

มาตรา ๒๑ ในกรณีที่มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการดำเนินการตามมาตรา ๑๙ วรรคสอง หรือมีการกระทำให้ได้มาซึ่งผลการเรียนหรือผลการศึกษาของผู้เรียนไม่เป็นไปตามความเป็นจริง หรือมีการดำเนินการที่ขัดต่อหลักธรรมาภิบาลของการจัดการศึกษา ให้คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษามีอำนาจสั่งให้สถาบันอุดมศึกษาหรือส่วนงานในสถาบันอุดมศึกษาดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง หรือสั่งให้ยกเลิกการดำเนินการดังกล่าวได้

การดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษามีอำนาจสั่งให้สถาบันอุดมศึกษาหรือส่วนงานในสถาบันอุดมศึกษาดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง หรือสั่งให้ยกเลิกการดำเนินการดังกล่าวได้

มาตรา ๓๒ ห้ามมิให้นายกสภาสถาบันอุดมศึกษา กรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษา ผู้บริหาร อาจารย์ ผู้ปฏิบัติงานในสถาบันอุดมศึกษา ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต ครอบงำให้ผู้เรียน กระทำหรือไม่กระทำการใด

หมวด ๔

บทกำหนดโทษ

ส่วนที่ ๑

โทษทางปกครอง

มาตรา ๓๓ ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๑๓ วรรคสาม ให้พิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน

มาตรา ๓๔ หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานของเอกชนที่ไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติ ไม่ถูกต้องตามมาตรา ๑๕ โดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้กระทรวงส่งหนังสือเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรหากหน่วยงาน นั้นไม่ดำเนินการให้ถูกต้องภายในเวลาที่กำหนด

ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานของเอกชนที่ไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติผิด ตามวรรคหนึ่งภายในเวลาที่กำหนด ให้ถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย และให้ดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดในกฎหมายหรือประกาศที่เกี่ยวข้องโดยต้องเสนอ ต่อกระทรวง หากหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานของเอกชนของหน่วยงานของรัฐฝ่าฝืนหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่ตามที่มีลักษณะบกพร่องร้ายแรงเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษปรับทางปกครองไม่เกินห้าแสนบาท และต้องระวางโทษปรับเป็นรายวันวันละ ห้าหมื่นบาทจนกว่าจะปฏิบัติถูกต้องที่กระทรวงร้องขอ

ส่วนที่ ๒

โทษทางอาญา

มาตรา ๓๕ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายหรือข้อกำหนดมาตรา ๑๕ วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๓๖ ผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอันชอบด้วย กฎหมายหรือข้อกำหนดมาตรา ๓๒ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๓๗ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๒ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน หกแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๗๖ นายกสภาสถาบันอุดมศึกษา กรรมการสภาสถาบันอุดมศึกษา ผู้บริหาร อาจารย์ ผู้ปฏิบัติงานในสถาบันอุดมศึกษา ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๖๕ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในกรณีที่กระทำผิดตามมาตรา ๗๒ เป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่หรืออำนาจกระทำ การในทางแพ่ง ผู้กระทำต้องระวางโทษหนักเป็นสองเท่าของโทษที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง

บทเฉพาะกาล

มาตรา ๗๗ บรรดากฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ และคำสั่งเกี่ยวกับการอุดมศึกษา ไม่ว่าจะออกตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยระเบียบราชการ กระทรวงศึกษาธิการ กฎหมายว่าด้วยระเบียบราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา กฎหมายว่าด้วย การบริหารส่วนงานภายในของสถาบันอุดมศึกษา และกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้ง กับพระราชบัญญัตินี้ จนกว่าจะมีกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือคำสั่งใหม่ที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ ใช้บังคับ แต่ต้องไม่เกินสองปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

มาตรา ๗๘ เมื่อพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

มาตรา ๗๙ ให้คณะกรรมการการอุดมศึกษาที่แต่งตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบราชการ กระทรวงศึกษาธิการ ทำหน้าที่คณะกรรมการการอุดมศึกษาตามพระราชบัญญัตินี้ไปพลางก่อน จนกว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการการอุดมศึกษาตามพระราชบัญญัตินี้

ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ``` - ๒๒ - หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่สถานอุดมศึกษาเป็นสถาบันทางการศึกษาที่สำคัญในการเสริมสร้างพื้นฐานของการพัฒนาศักยภาพของประเทศและการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีนานาชาติให้สอดคล้องกับทิศทางนโยบายของรัฐบาล ประกอบกับในปัจจุบันมีการจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมทั้งการจัดการด้านการอุดมศึกษาที่หลากหลาย เพื่อให้การจัดการอุดมศึกษา และการพัฒนาบุคลากรของประเทศเป็นไปอย่างมีคุณภาพและมาตรฐานที่เหมาะสมกับความต้องการของประเทศและสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การจัดการอุดมศึกษาจึงต้องมีการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ มีความเป็นอิสระทางวิชาการ สามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในแต่ละด้าน และสามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในแต่ละด้าน ที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก มีการวิจัยและพัฒนาที่สามารถตอบสนองต่อภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทันต่อความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีความเป็นเลิศในทางวิชาการและมีทักษะที่จำเป็นในการประกอบวิชาชีพ สามารถตอบสนองความต้องการของภาครัฐและภาคเอกชนได้อย่างแท้จริง และส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา มีคุณธรรม จริยธรรม และจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อความมั่นคงและเกียรติภูมิแห่งสังคมไทย อันจะนำไปสู่ความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคม จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ ``` ทิมพิมพ์คำ/นายดี/จัดทำ ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๒ พิมพ์/ตรวจ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๒