พ.ศ. ๒๕๔๙ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. เป็นปีที่ ๖๑ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๙
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้น
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยคำแนะนำ และยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ. ๒๕๔๙”
๒๕๕๐ เป็นต้นไป
ความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด และบริษัทจำกัด
ชื่อในดวงตรา ป้ายชื่อ หนังสือเอกสารต่างๆร้อง ออกหมาย ในเรื่องความ หรือเอกสารอย่าง อื่นเกี่ยวกับธุรกิจของห้างหุ้นส่วน
ถ้าเป็นอักษรไทย ไม่ได้กล่าวว่า “ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล” หรือ “ห้าง หุ้นส่วนจำกัด” ประกอบชื่อ แล้วแต่กรณี
ถ้าเป็นอักษรต่างประเทศ ไม่ได้ใช้คำที่มีความหมายว่า “ห้างหุ้นส่วน สามัญนิติบุคคล” หรือ “ห้างหุ้นส่วนจำกัด” ตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ประกอบ ชื่อ แล้วแต่กรณี มีความผิดตามพินัยต้องชำระค่าปรับเป็นเงินไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท และ ชำระรายวันอีกวันละห้าร้อยบาทจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง [“มาตรา ๓๗ แห่งพระราชบัญญัติห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน พ.ศ. ๒๔๗๔ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดตามพินัยเป็นความผิดอาญาในกรณีที่มีความผิดซ้ำ และให้ถือว่า ...] อัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพันน้อย
*มาตรา ๗๗ แห่งพระราชบัญญัติด้วยการปรับเป็นพันน้อย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพันน้อย
*มาตรา ๗๗ แห่งพระราชบัญญัติด้วยการปรับเป็นพันน้อย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพันน้อย
ถ้าเป็นอักษรไทย ไม่ได้คำว่า "บริษัท" ไว้หน้าชื่อ และ "จำกัด" ไว้ท้ายชื่อ
ถ้าเป็นอักษรต่างประเทศ ไม่ได้คำซึ่งมีความหมายว่า "บริษัทจำกัด" ตามประกาศของกระทรวงเศรษฐการประกอบชื่อ มีความผิดทางพินัยต้องชำระค่าปรับเป็นพันน้อยที่ไม่เกินสองหมื่นบาท และชำระค่าปรับเป็นพันน้อยที่ไม่เกินห้าร้อยบาท* จนกว่าจะได้เลิกใช้หรือจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง แล้วแต่กรณี *มาตรา ๗๗ แห่งพระราชบัญญัติด้วยการปรับเป็นพันน้อย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพันน้อย "บริษัท" หรือ "จำกัด" หรืออักษรต่างประเทศซึ่งมีความหมายดังกล่าวประกอบ ในเอกสาร ป้ายชื่อ หนังสือบอกกล่าวทวงถาม จดหมาย ในเรื่องความ หรือเอกสารอย่างอื่นเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัท โดยมิได้เป็นบริษัทจำกัด หรือมิได้เป็นการใช้ในการขอจดทะเบียนเกี่ยวกับการตั้งบริษัทจำกัด มีความผิดทางพินัยต้องชำระค่าปรับเป็นพันน้อยที่ไม่เกินสองหมื่นบาท และชำระค่าปรับเป็นพันน้อยที่ไม่เกินห้าร้อยบาท* จนกว่าจะได้เลิกใช้หรือจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง แล้วแต่กรณี (มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้กำหนดด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญานั้นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
(มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้กำหนดด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญานั้นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
(มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้กำหนดด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญานั้นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
(มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้กำหนดด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญานั้นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
(มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้กำหนดด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญานั้นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
(มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้กำหนดด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญานั้นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
(“มาตรา ๗๗ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
(“มาตรา ๗๗ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
(“มาตรา ๗๗ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
(“มาตรา ๗๗ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
(“มาตรา ๗๗ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
"มาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้กำหนดการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๔ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย"
ไม่ทำบัญชีซึ่งงวดตามมาตรา ๑๑๓๖ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ไม่จัดให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบบัญชี ไม่นำบัญชีงบดุลเสนอเพื่ออนุมัติในที่ประชุมใหญ่ ไม่ส่งสำเนางบดุล หรือไม่มีสำเนางบดุล ตามมาตรา ๑๑๙๗ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือ
ไม่จัดทำรายงานงบดุลแก่ผู้ปรากฏว่าจะซื้อ ตามมาตรา ๑๑๙๙ วรรคหนึ่ง แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มีความผิดทางพินัยต้องชำระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกินสองหมื่นบาท "มาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้กำหนดการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๔ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย"
"มาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้กำหนดการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๔ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย"
"มาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้กำหนดการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๔ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย"
"มาตรา ๑๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้กำหนดการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๔ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย" อัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพันนัย
("มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัติด้วยการปรับเป็นพันนัย พ.ศ. ๒๕๖๖ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพันนัย)
("มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัติด้วยการปรับเป็นพันนัย พ.ศ. ๒๕๖๖ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพันนัย)
("มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัติด้วยการปรับเป็นพันนัย พ.ศ. ๒๕๖๖ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพันนัย)
("มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัติด้วยการปรับเป็นพันนัย พ.ศ. ๒๕๖๖ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพันนัย)
("มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัติด้วยการปรับเป็นพันนัย พ.ศ. ๒๕๖๖ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพันนัย)
(*มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้ด้วยการปรับเป็นเงิน พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดตามกฎหมายที่กำหนดโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางแพ่ง และให้ถือว่าอัตราโทษปรับตามกฎหมายเป็นอัตราค่าปรับทางแพ่ง)
ไม่ส่งสำเนาบัญชีตามมาตรา ๑๑๗๕ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ไม่จัดให้สอบบัญชีตามมาตรา ๑๒๐๖ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือ
ไม่จัดให้จดบันทึก หรือไม่เก็บรักษาสมุดตามมาตรา ๑๒๐๗ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
(29) ไม่ส่งงบการเงิน ทรัพย์สิน บัญชี เอกสาร และหลักฐานต่าง ๆ ตามมาตรา ๑๒๐๖/๑ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือไม่จดทะเบียนการควบรวมบริษัทตามมาตรา ๑๒๐๘ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มีความผิดทางแพ่งต้องชำระค่าปรับเป็นเงินไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท (*มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้ด้วยการปรับเป็นเงิน พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดตามกฎหมายที่กำหนดโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางแพ่ง และให้ถือว่าอัตราโทษปรับตามกฎหมายเป็นอัตราค่าปรับทางแพ่ง)
(*มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้ด้วยการปรับเป็นเงิน พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดตามกฎหมายที่กำหนดโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางแพ่ง และให้ถือว่าอัตราโทษปรับตามกฎหมายเป็นอัตราค่าปรับทางแพ่ง)
ผู้ใดให้ หรือสัญญาว่าจะให้ประโยชน์เป็นเงินสดแก่ผู้ถือหุ้นเพื่อเป็นการจูงใจให้ซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ หรือเพื่อเป็นการจูงใจให้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทขายหุ้น มีความผิดทางแพ่งต้องชำระค่าปรับเป็นเงินไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท (*มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้ด้วยการปรับเป็นเงิน พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดตามกฎหมายที่กำหนดโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางแพ่ง และให้ถือว่าอัตราโทษปรับตามกฎหมายเป็นอัตราค่าปรับทางแพ่ง) อัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย
(*มาตรา 79 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญานั้นคืออัตราค่าปรับเป็นพินัย)
(*มาตรา 79 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญานั้นคืออัตราค่าปรับเป็นพินัย)
(*มาตรา 79 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญานั้นคืออัตราค่าปรับเป็นพินัย)
(*มาตรา 79 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญานั้นคืออัตราค่าปรับเป็นพินัย)
(*มาตรา 79 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญานั้นคืออัตราค่าปรับเป็นพินัย)
(*มาตรา ๓๘ แห่งพระราชบัญญัตินี้ได้อาศัยอำนาจปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๕๘ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางแพ่ง และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
ไม่ทำงบลบ หรือไม่เรียกประชุมใหญ่ตามมาตรา ๑๒๕๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ไม่ทำรายงาน หรือไม่เปิดเผยรายงานตามมาตรา ๑๒๖๗ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ไม่ทำรายงาน ไม่เรียกประชุมใหญ่ หรือไม่แจ้งกิจการตามมาตรา ๑๒๖๐ วรรคหนึ่ง แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือ
ไม่มอบบัญชีและเอกสารตามมาตรา ๑๒๖๐ วรรคหนึ่ง แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มีความผิดทางแพ่งต้องชำระค่าเสียหายและค่าปรับเป็นเงินไม่เกินห้าหมื่นบาท* (*มาตรา ๓๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้ได้อาศัยอำนาจปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๕๘ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางแพ่ง และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
(*มาตรา ๔๐ แห่งพระราชบัญญัตินี้ได้อาศัยอำนาจปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๕๘ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางแพ่ง และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
(*มาตรา ๔๑ แห่งพระราชบัญญัตินี้ได้อาศัยอำนาจปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๕๘ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางแพ่ง และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
บริษัทนั้น มีความผิดทางแพ่งต้องชำระค่าปรับเป็นเงินไม่เกินห้าหมื่นบาท *มาตรา ๗๗ แห่งพระราชบัญญัตินี้กำหนดด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับรังควานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญานั้นอัตราค่าปรับเป็นพินัย*
*มาตรา ๗๗ แห่งพระราชบัญญัตินี้กำหนดด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับรังควานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญานั้นอัตราค่าปรับเป็นพินัย*
ย้าย ซ่อน หรือโอนให้ผู้อื่นซึ่งทรัพย์สินของนิติบุคคลดังกล่าว หรือ
แกล้งให้เกิดบุคคลดังกล่าวเป็นหนี้ซึ่งไม่เป็นความจริง ถ้าได้กระทำเพื่อให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ทั้งหมดหรือบางส่วน ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
*มาตรา ๗๗ แห่งพระราชบัญญัตินี้กำหนดด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับรังควานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญานั้นอัตราค่าปรับเป็นพินัย*
ทำให้เสียหาย ทำลาย เปลี่ยนแปลง ตัดทอน หรือปลอมบัญชี เอกสาร หรือหลักประกันของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท หรือเกี่ยวกับหุ้นส่วนหรือบริษัท หรือ
ลงข้อความเท็จ หรือไม่ลงข้อความสำคัญในบัญชี หรือเอกสารของห้างหุ้นส่วน หรือบริษัท หรือเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท ถ้ากระทำหรือยินยอมให้กระทำการเพื่อฉ้อฉลให้ห้างหุ้นส่วน บริษัท ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นตนเองประโยชน์อันควรได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
*มาตรา ๔๗ แห่งพระราชบัญญัติการจัดการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญานั้นถือว่าเป็นอัตราปรับเป็นพินัย
ลงบัญชีอันได้เสียในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทให้ตนเองประโยชน์อันควรได้จากห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทนั้นหรือ
จูงใจบุคคลให้เข้ามีส่วนร่วมในห้างหุ้นส่วน ให้ยอมมอบหรือให้ทรัพย์สินให้แก่ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้น หรือให้เข้าเป็นผู้ค้ำประกันหรือให้ทรัพย์สินเป็นประกันห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ใดให้บุคคลในการกระทำความผิดดังกล่าวในวรรคหนึ่ง โดยส่งมอบเอกสารแสดงการเข้าซื้อหุ้น หรือในบัญชีที่ได้ใช้ในการออกเสียงในที่ประชุมดังกล่าว ต้องระวางโทษปรับเป็นพินัยไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท *มาตรา ๕๑ แห่งพระราชบัญญัติการจัดการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญานั้นถือว่าเป็นอัตราปรับเป็นพินัย
``` (*มาตรา ๓๗ แห่งพระราชบัญญัตินี้ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๕๔ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญานั้นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
ถ้าผู้กระทำความผิดไม่ยอมชำระค่าปรับเมื่อยอมแล้วไม่ชำระเงินค่าปรับในเวลาที่กำหนด ให้ดำเนินคดีต่อไป
ความผิดเกี่ยวกับสมาคมและมูลนิธิ[56]
(*มาตรา ๓๗ แห่งพระราชบัญญัตินี้ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๕๔ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญานั้นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
(*มาตรา ๓๗ แห่งพระราชบัญญัตินี้ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๕๔ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญานั้นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
``` อัตราโทษปรับรายๆ เป็นอัตราค่าปรับเป็นพันบัย
(*มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพันบัย พ.ศ. ๒๕๒๕ บัญญัติให้เมื่อมีความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับรายๆ เป็นอัตราค่าปรับเป็นพันบัย)
(*มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพันบัย พ.ศ. ๒๕๒๕ บัญญัติให้เมื่อมีความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับรายๆ เป็นอัตราค่าปรับเป็นพันบัย)
(*มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพันบัย พ.ศ. ๒๕๒๕ บัญญัติให้เมื่อมีความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับรายๆ เป็นอัตราค่าปรับเป็นพันบัย)
(*มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพันบัย พ.ศ. ๒๕๒๕ บัญญัติให้เมื่อมีความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับรายๆ เป็นอัตราค่าปรับเป็นพันบัย)
("มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่ไม่ปรากฏในส่วนเดียวกันเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่า อัตราโทษปรับอาญานั้นถือว่าเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
("มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่ไม่ปรากฏในส่วนเดียวกันเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่า อัตราโทษปรับอาญานั้นถือว่าเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
("มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่ไม่ปรากฏในส่วนเดียวกันเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่า อัตราโทษปรับอาญานั้นถือว่าเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
("มาตรา ๗๙ แห่งพระราชบัญญัตินี้ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่ไม่ปรากฏในส่วนเดียวกันเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่า อัตราโทษปรับอาญานั้นถือว่าเป็นอัตราค่าปรับเป็นพินัย)
(*มาตรา ๙๗ แห่งพระราชบัญญัตินี้ก่อนการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติไว้เป็นส่วนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับตามนี้คืออัตราค่าปรับเป็นพินัย)
(*มาตรา ๙๗ แห่งพระราชบัญญัตินี้ก่อนการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติไว้เป็นส่วนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวเป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่าอัตราโทษปรับตามนี้คืออัตราค่าปรับเป็นพินัย)
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ความผิดเกี่ยวกับการดำเนินกิจการของสมาคมและมูลนิธิที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เป็นความผิดอาญา และมีลักษณะเป็นความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียว ซึ่งไม่เหมาะสมกับสภาพของความผิดดังกล่าว สมควรปรับปรุงให้เป็นความผิดทางพินัย เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพของความผิดดังกล่าว และเพื่อให้การดำเนินการเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัติแก้ไขความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๓(78)
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากได้มีการแก้ไขปรับปรุงประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด และได้กำหนดบังคับใช้ในส่วนที่เกี่ยวกับการออกจากการเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการในห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนและห้างหุ้นส่วนจำกัด และการจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด และบริษัทจำกัดต่อไปในการดำเนินการตามพระราชบัญญัติแก้ไขความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ พ.ศ. ๒๕๔๑ ให้สอดคล้องกับการแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัติแก้ไขความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๔(79)
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในลักษณะ ๒๓ หุ้นส่วนและบริษัทของบรรพ ๓ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในส่วนที่เกี่ยวกับการออกจากการเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการในห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนและห้างหุ้นส่วนจำกัด และการจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด และบริษัทจำกัด เพื่อให้การดำเนินการตามพระราชบัญญัติแก้ไขความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ พ.ศ. ๒๕๔๑ สอดคล้องกับการแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัติแก้ไขความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๔(80)
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในลักษณะ ๒ หุ้นส่วนและบริษัทของบรรพ ๓ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ให้ห้างหุ้นส่วนสามัญและห้างหุ้นส่วนจำกัดได้และให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดสามารถจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงเป็นบริษัทจำกัดได้โดยไม่ต้องเลิกกิจการและจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ รวมทั้งกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมควรที่จะแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดในทางอาญาของผู้แทนนิติบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๐
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๕๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๓๗ วรรคสอง เป็นข้อยกเว้นไม่ให้ออกกฎหมายขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๖ และต่อมารัฐธรรมนูญได้สิ้นสุดในลักษณะดังกล่าวของคำสั่งนายกรัฐมนตรี คือ พระราชบัญญัติสิ่งลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๕๗ มาตรา ๗๗ พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ๒๕๔๔ มาตรา ๖๔ พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรร พ.ศ. ๒๕๔๔ มาตรา ๒๔/๔ และพระราชบัญญัติยา พ.ศ. ๒๕๕๗ มาตรา ๔๐/๒ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๓๗ วรรคสอง เป็นข้อยกเว้นไม่ให้ออกกฎหมายขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๖ เพื่อเป็นไปตามบัญญัติของกฎหมายลักษณะและกฎหมายอื่นที่มีบทบัญญัติในลักษณะเดียวกันกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ขัดรัฐธรรมนูญ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ เพื่อให้การกำหนดความผิดและบทกำหนดโทษในเรื่องดังกล่าวสอดคล้องกับบทบัญญัติในประมวลกฎหมายอาญาแห่งพระพุทธศักราช ซึ่งจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕
กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
หมายเหตุ : เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัตินี้ คือ โดยที่มาตรา ๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้บัญญัติให้รัฐพึงจัดให้มีกฎหมายเท่าที่จำเป็น รัฐพึงยกเลิกหรือปรับปรุงกฎหมายที่หมดความจำเป็นหรือไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์ และพึงจัดให้มีกฎหมายที่มีบทบัญญัติที่มีผลใช้บังคับเป็นการทั่วไปมีความชัดเจน ไม่สร้างภาระแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุหรือความจำเป็น และไม่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพหรือการดำรงชีวิตของประชาชน ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการปฏิบัติตามกฎหมายและได้รับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และด้วยปัจจุบันมีความจำเป็นต้องออกกฎหมายเพื่อกำหนดให้เป็นความผิดทางพินัยสำหรับการกระทำที่ไม่ร้ายแรงและไม่อยู่ในฐานะที่จะต้องกำหนดโทษทางอาญา เช่น การจอดรถผิดที่ การตั้งสิ่งของกีดขวางทางจราจร เป็นต้น เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์แก่ประเทศและเกิดประโยชน์แก่ประชาชนยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ เปลี่ยนโทษอาญาบางประเภทที่มีผู้ออกประกาศที่มีมูลต่อการปรับเป็นเงินสถานบัญชีทรัพยพระราชบัญญัติ เปลี่ยนเป็นมาตรการปรับเป็นพันธบัตรที่สร้างขึ้นใหม่ไม่ให้มีผลภาพเป็นโทษอาญา โดยกำหนดหลักเกณฑ์ให้มีข้อมูลเพื่อกำหนดต่อการปรับดังกล่าวให้เหมาะสมกับสถานภาพความรับผิดแห่งการกระทำและฐานะทางเศรษฐกิจของผู้กระทำความผิดให้ตลอดคล้องกัน และในกรณีที่มี กระทำความผิดไม่มีส่วนร้ายแรงบำบัด บางอย่างพิจารณาบริการสังคมหรือทำงาน สาธารณประโยชน์แทนการชำระค่าปรับได้ โดยไม่มีการกำหนดค่าปรับขั้นต่ำดังที่เป็นอยู่ในอดีตอีกต่อไป การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ไม่ให้มีผลย้อนหลังโดยให้การปรับเป็นพันธบัตรใหม่เป็นการเฉพาะที่ ย่อมจะช่วยทำให้ประชาชนที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดเล็กน้อยอันมิใช่ร้ายแรงทางอาญา และไม่มีประวัติอาชญากรรมเสียด้วยดีต่อไป การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้มีผลให้ทางอาญาแห่งเดิมที่มีผลเป็นโทษอาญาเปลี่ยนแปลงเป็นมาตรการปรับเป็นพันธบัตรที่สร้างขึ้นใหม่โดยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตามเจตนารมณ์ของมาตรา ๗๗ และมาตรา ๒๕๘ ค. ด้านกฎหมาย (๑) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและแผนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย นอกจากนี้ สำหรับกฎหมายบางฉบับที่กำหนดให้เจ้าหน้าที่ทางปกครอง มีหน้าที่บังคับใช้พิจารณาคดีอาญาเสียด้วยนอกจากในการจัดการคดีอาญาที่เกี่ยวกับชำระค่าปรับทางปกครองไปแล้ว สมควรเปลี่ยนโทษดังกล่าวเป็นมาตรการปรับเป็นพันธบัตรเช่นเดียวกัน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ ปิยพันธ์ / Maker 29 กันยายน 2566 ภานุรุจ / Checker 23 ตุลาคม 2566 ภานุรุจ / Authorizer 24 ตุลาคม 2566 (1) ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๔๗/ตอนที่ ๕๕/ฉบับพิเศษ หน้า ๑๘๒/๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (2) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (๑) แห่งพระราชบัญญัติทำนองความผิดเกี่ยวกับ ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๖ (3) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (๒) แห่งพระราชบัญญัติทำนองความผิดเกี่ยวกับ ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๖ (4) มาตรา ๓ (๓) เพิ่มโดยพระราชบัญญัติทำนองความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๖ (5) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (๔) แห่งพระราชบัญญัติทำนองความผิดเกี่ยวกับ ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๖ ๒๕๔๕ (7) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (๗) แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ (8) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (๘) แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ (9) มาตรา ๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ (10) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (๑๐) แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ (11) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (๑๑) แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ (12) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (๑๒) แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ (13) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (๑๓) แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ (14) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (๑๔) แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ (15) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (๑๕) แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ (16) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (๑๖) แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ (17) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (๑๗) แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ (18) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (๑๘) แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (๓) แห่งพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (๓) แห่งพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (๓) แห่งพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔
มาตรา ๒๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔
มาตรา ๒๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔
มาตรา ๒๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการกำหนดความผิดในทางอาญาของผู้แทนโดยปกติบุคคล พ.ศ. ๒๕๔๔
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (๓) แห่งพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (๓) แห่งพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (๓) แห่งพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔
มาตรา ๒๙ วรรคหนึ่ง (๔) แก้ไขโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔
มาตรา ๒๙ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔
อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (๓) แห่งพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ [32] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (ข) แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ [33] มาตรา ๓๑/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๖ [34] มาตรา ๓๑/๒ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๘ [35] มาตรา ๓๑/๓ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๕๐ [36] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (ค) แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ [37] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (ง) แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ [38] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (จ) แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ [39] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (ฉ) แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ [40] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (ช) แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ [41] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (ซ) แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ [42] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (ฌ) แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ [43] มาตรา ๓๗/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๘ [44] อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๓ (ญ) แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ (45) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 3 (ซ) แห่งพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (46) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 3 (ฌ) แห่งพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (47) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 3 (ญ) แห่งพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (48) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 3 (ฎ) แห่งพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (49) มาตรา 44 ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (50) มาตรา 45 ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (51) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 3 (ฏ) แห่งพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (52) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 3 (ฐ) แห่งพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (53) อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 3 (ฑ) แห่งพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (54) มาตรา 46/1 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2548 (55) มาตรา 46/2 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2548 (56) หมวด 2 ความผิดเกี่ยวกับสมาคมและมูลนิธิ มาตรา 47 ถึง มาตรา 49 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (57) มาตรา 49 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (58) มาตรา 58 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (59) มาตรา 59 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (60) มาตรา 60 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (61) มาตรา 61 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (62) มาตรา 62 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (63) มาตรา 63 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (64) มาตรา 64 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (65) มาตรา 65 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (66) มาตรา 66 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (67) มาตรา 67 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (68) มาตรา 68 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (69) มาตรา 69 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (70) มาตรา 70 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (71) มาตรา 71 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (72) มาตรา 72 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 (73) มาตรา 73 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 [74] มาตรา ๖๖ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ [75] มาตรา ๗๖ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ [76] มาตรา ๘๔ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ [77] มาตรา ๘๗ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ [78] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๘/ตอนที่ ๔๕ ก/หน้า ๔๘/๘ เมษายน ๒๕๔๔ [79] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๑๗ ก/หน้า ๕/๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ [80] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๕๐ ก/หน้า ๕๐/๑ มีนาคม ๒๕๕๑ [81] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๕/ตอนที่ ๑๘ ก/หน้า ๑/๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ [82] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๕/ตอนที่ ๕๙ ก/หน้า ๑๐/๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ [83] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๙/ตอนที่ ๖๖ ก/หน้า ๒๒/๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๕