로고

สถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นปีที่ ๗๐ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลซึ่งจะเป็นการจัด เสริมกำลังในการประกอบกิจการหรือประกอบอาชีพและการบำบัดโรคเสริมสร้างเป็นธรรม จึงสมควร ตรา พระราชบัญญัติให้ทรงทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่ง กฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอม ของรัฐสภา ดังต่อไปนี้

มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๘”

มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑

มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้

“สถานพยาบาล” หมายความว่า สถานที่รับตรวจหรือรักษาโรค ประกอบโรคศิลปะตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะ การประกอบวิชาชีพเวชกรรมตาม กฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรม การประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ตามกฎหมาย ว่าด้วยวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ การประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมตามกฎหมายว่าด้วย วิชาชีพเภสัชกรรม การประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัดตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพกายภาพบำบัด การประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ การประกอบ วิชาชีพการแพทย์แผนไทยและการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ตามกฎหมายว่าด้วย วิชาชีพการแพทย์แผนไทย “ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๒/ตอนที่ ๒๕ ก/หน้า ๑๕/๑๔ มีนาคม ๒๕๕๘” “มาตรา ๔ นิยามคำว่า ‘สถานพยาบาล’ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒” วิชาชีพการแพทย์แผนไทย หรือการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุขอื่นตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น ทั้งนี้ โดยจะกระทำเป็นปกติธุระไม่ว่าจะได้รับประโยชน์ตอบแทนหรือไม่ “ผู้ป่วย” หมายความว่า ผู้ขอรับบริการในสถานพยาบาล “ผู้รับอนุญาต” หมายความว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล “ผู้ดำเนินการ” หมายความว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล “ผู้ประกอบวิชาชีพ” หมายความว่า ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ หรือผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุขอื่นตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น และให้หมายความรวมถึงบุคคลตามมาตรา 33 แห่งกฎหมายว่าด้วยการประกอบโรคศิลปะ “ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล หรือใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล “พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ “ผู้อนุญาต” หมายความว่า อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพหรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพมอบหมาย “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการสถานพยาบาล “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ ออกกฎกระทรวง กำหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้ ตลอดจนออกประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา 5 นิยามคำว่า “ผู้ประกอบวิชาชีพ” แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559

“มาตรา 5 นิยามคำว่า “ผู้อนุญาต” แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 “มาตรา 5 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2559 ตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ เมื่อได้ประกาศในราชกิจจา นุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้

หมวด ๓ คณะกรรมการสถานพยาบาล

มาตรา ๗ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการสถานพยาบาล” ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานกรรมการ อธิบดีหรือหัวหน้าส่วนราชการที่ เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเป็นกรมทุกกรมในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้แทนกระทรวงกลาโหม ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการ คุ้มครองผู้บริโภค และผู้แทนสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) เป็นกรรมการ โดยตำแหน่ง กับกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ดังต่อไปนี้ (๑) ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมซึ่งมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม (๒) ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรมซึ่งมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม (๓) ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ซึ่งมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์ (๔) ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมซึ่งมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม (๕) ผู้แทนองค์กรเอกชนที่ดำเนินกิจกรรมทางด้านคุ้มครองผู้บริโภคที่จดทะเบียนตามกฎหมาย ว่าด้วยการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม (๖) ผู้แทนองค์กรเอกชนที่ดำเนินกิจกรรมทางด้านคุ้มครองผู้บริโภคที่จดทะเบียนตามกฎหมาย ว่าด้วยการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม

ให้รองอธิบดีองค์กรสนับสนุนบริการสุขภาพของกรมอนามัยเป็นกรรมการและ เลขานุการ และผู้อำนวยการกองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการ สุขภาพเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

มาตรา ๘ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๗ มีวาระการดำรงตำแหน่ง คราวละสามปี กรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระ อาจได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งติดต่อกันได้อีก ไม่เกินสองวาระก็ได้

ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งตามวาระ แต่ยังมิได้แต่งตั้ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใหม่ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ไปพลางก่อนจนกว่าจะได้แต่งตั้ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใหม่

มาตรา ๙ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามมาตรา ๘ กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ

- มาตรา ๑๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ - มาตรา ๑๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ```

ตาย

ลาออก

รัฐมนตรีให้ออก

เป็นบุคคลล้มละลาย

เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

พ้นจากการเป็นผู้ป่วยจิตเวชอันตราย ผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรัง ผู้ติดยาเสพติดให้โทษแต่ยังให้เป็นกรรมการในกรณีนั้น

ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดหรือด้วยกฎหมายถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งผู้ซึ่งเป็นกรรมการแทน และให้กรรมการดังกล่าวดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งตนแทน แต่ถ้าการจัดตำแหน่งของกรรมการเหลือไม่ถึงหกเดือนจะไม่แต่งตั้งก็ได้ ในการนี้ให้คณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการเท่าที่เหลืออยู่

มาตรา ๑๐ การประชุมของคณะกรรมการต้องมีกรรมการประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม

ในกรณีที่ประธานกรรมการไม่อาจมาประชุมหรือไม่อยู่ในที่ประชุม ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานที่ประชุม การตัดสินข้อขัดข้องหรือข้อโต้แย้งต่าง ๆ กรรมการคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งเสียง การลงคะแนนให้ถือเสียงข้างมาก ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด

มาตรา ๑๑ คณะกรรมการมีหน้าที่ให้คำปรึกษา ให้ความเห็น และให้คำแนะนำแก่รัฐมนตรีหรือข้อมูลในเรื่องดังต่อไปนี้

การออกกฎกระทรวงหรือประกาศเพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้

การอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล การดำเนินการสถานพยาบาล การปิดสถานพยาบาล หรือการพักถอนใบอนุญาต

การส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพการบริการของสถานพยาบาล

การควบคุมหรือการพิจารณาเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการดำเนินการสถานพยาบาล

การกำหนดลักษณะและมาตรฐาน หรือการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลที่ได้รับบทในมาตรา ๖ วรรคหนึ่ง และการแจ้งให้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขตามที่กำหนดไว้ในมาตราดังกล่าว

การกำหนดผู้ป่วยฉุกเฉินตามกฎหมายว่าด้วยการแพทย์ฉุกเฉิน โรคติดต่ออันตราย โรคติดต่อต้องแจ้งความหรือโรคระบาดตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ หรือการจัดทำข้อกำหนดเกี่ยวกับโรคดังกล่าว ``` กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดยฉุกเฉินจากสถานพยาบาล และการกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินการในกรณีเช่นว่านั้น

เรื่องอื่น ๆ ตามที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอนุญาตหรือตามมติของคณะกรรมการ

มาตรา ๑๒ คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาเสนอความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการหรือที่คณะกรรมการมอบหมาย

ให้มาดำเนินการ อมาให้ข้อสรุปนำเสนอคณะกรรมการโดยมิต้อง ประชุม

มาตรา ๑๓ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นตามมาตรา ๑๒ มีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือเรียกให้บุคคลที่บุคคลใดมาให้ถ้อยคำหรือให้นำเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องหรือมีความเกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาได้

หมวด ๒

การประกอบกิจการสถานพยาบาลและการดำเนินการสถานพยาบาล

มาตรา ๑๔ สถานพยาบาลแบ่งเป็น ๒ ประเภท ดังต่อไปนี้

สถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน

สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน

ลักษณะของสถานพยาบาลแต่ละประเภทตามวรรคหนึ่งและลักษณะการให้บริการของสถานพยาบาลให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๑๕ สถานพยาบาลอาจจัดให้มีการศึกษา การฝึกอบรม การวิจัยทางการแพทย์และสาธารณสุข หรือการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือองค์กรเอกชนในการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อเสริมสร้างและพัฒนาคุณภาพการรักษาพยาบาล ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๑๖ ให้รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการเป็นผู้ออกประกาศกำหนดมาตรฐานการบริการของสถานพยาบาล

มาตรา ๑๗ ห้ามมิให้บุคคลใดประกอบกิจการสถานพยาบาล เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต

การขอ การออกใบอนุญาต และการประกอบกิจการสถานพยาบาลประเภทใดให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๑๗ ผู้ขอรับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล ต้องมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามดังนี้

มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์

มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย

ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

ไม่เป็นโรคตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา

ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย

ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ในกรณีที่มีบุคคลเป็นผู้ขอรับอนุญาต ผู้จัดการหรือผู้แทนของนิติบุคคลนั้นต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามวรรคหนึ่งด้วย

มาตรา ๑๘ ในการพิจารณาออกใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลของผู้อนุญาต จะต้องปรากฏว่าผู้ขอรับใบอนุญาตได้ดำเนินการดังต่อไปนี้ถูกต้องครบถ้วนแล้ว

มีแผนงานการจัดตั้งสถานพยาบาลที่ได้ระบุวัตถุประสงค์ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มีสถานพยาบาลตามลักษณะที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๑๔

มีเครื่องมือ เครื่องใช้ เวชภัณฑ์หรือยา และบุคลากรที่จำเป็นสำหรับสถานพยาบาลนั้น ตามที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๑๔

มีผู้ดำรงตำแหน่งผู้ดำเนินการสถานพยาบาลที่มีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามกฎกระทรวง

ชื่อสถานพยาบาลต้องเป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง เพื่อประโยชน์แห่งการคุ้มครองผู้บริโภคด้านบริการทางสาธารณสุข รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการมีอำนาจประกาศกำหนดจำนวนสถานพยาบาลที่จะอนุญาตให้ตั้ง หรือบริการทางการแพทย์บางประเภทในสถานพยาบาลในท้องที่หนึ่งท้องที่ใด

มาตรา ๑๙ ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล ให้ใช้ได้จนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคมของปีที่สิ้นสุดในอายุใบอนุญาต

การขอต่ออายุใบอนุญาต ให้ยื่นคำขอต่อใบอนุญาตดังกล่าว เมื่อใบอนุญาตนั้นจะสิ้นอายุ ให้ผู้ขอรับอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลต่อไป จนกว่าผู้อนุญาตจะสั่งไม่อนุญาตให้ต่ออายุ การต่ออายุใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๐ ผู้ขออนุญาตต้องชำระค่าธรรมเนียมตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวงตลอดเวลาที่ใบอนุญาตยังมีอายุ ถ้าผู้ขอรับอนุญาตชำระค่าธรรมเนียมล่าช้าในเวลาที่กำหนด ให้ชำระเงินเพิ่มอีกอัตราหนึ่งซึ่งกำหนดไว้ และถ้ายังไม่ชำระค่าธรรมเนียมและเงินเพิ่มที่ล่าช้าในกำหนดหนึ่งเดือน ให้เพิกถอนใบอนุญาตดังกล่าวตามมาตรา ๑๔ ต่อไป

``` - 7 -

มาตรา ๒๐ การโอนใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลให้แก่บุคคลผู้ซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๗ ให้กระทำได้ เมื่อได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต การขอใบอนุญาตและการขออนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๑ ถ้าผู้รับอนุญาตตายและมีบุคคลแสดงความจำนงขอเป็นผู้รับอนุญาตภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ผู้รับอนุญาตตาย เพื่อขอประกอบกิจการที่ต่อเนื่องได้รับอนุญาตให้ดำเนินการได้ ผู้เป็นผู้อนุญาตพิจารณาแล้วว่าบุคคลนั้นมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๗ ก็ให้แสดงความจำนงเป็นผู้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ ตั้งแต่วันที่ผู้รับอนุญาตตาย การแสดงความจำนงและการตรวจสอบให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๒ ผู้รับอนุญาตต้องจัดให้มีผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ซึ่งเป็นผู้ที่มีหน้าที่ควบคุม ดูแล และรับผิดชอบในการดำเนินการสถานพยาบาล

มาตรา ๒๓ ห้ามมิให้บุคคลใดดำเนินการสถานพยาบาล เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต การขอและการออกใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๔ ในการพิจารณาออกใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาลของผู้อนุญาตต้องประกาศกลุ่มผู้ขอใบอนุญาต (๑) เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ แต่บุคคลซึ่งเข้าอาจจะได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ดำเนินการตามประเภทใดหรือสถานพยาบาลที่ให้บริการทางการแพทย์ใด ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง (๒) ไม่เป็นผู้ดำเนินการอยู่ก่อนแล้วสองแห่ง แต่ในกรณีที่เป็นผู้ดำเนินการประจำพื้นที่รับผิดชอบให้จำกัดอยู่ในพื้นที่นั้น จะอนุญาตให้เป็นผู้ดำเนินการประจำพื้นที่ผู้ป่วยให้จำกัดอยู่ในพื้นที่นั้นไม่ได้ (๓) เป็นผู้มีหน้าที่ควบคุมดูแลกิจการสถานพยาบาลได้โดยใกล้ชิด

มาตรา ๒๕ ถ้าผู้ดำเนินการพ้นจากหน้าที่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นการชั่วคราว ผู้รับอนุญาตต้องมอบหมายให้บุคคลที่มีคุณสมบัติตามมาตรา ๒๔ (๑) (๒) (๓) ปฏิบัติหน้าที่แทนเป็นการชั่วคราวในกรณีเช่นนี้ให้ผู้รับอนุญาตแจ้งให้ดำเนินการในกรณีเช่นนี้ให้แจ้งเป็นหนังสือแจ้งให้ผู้อนุญาตทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ดำเนินการแทน

มาตรา ๒๖ (๔) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙

``` ผู้รับอนุญาตให้ดำเนินการแทนตามวรรคหนึ่ง ให้หน้าที่และความรับผิดชอบ เช่นเดียวกับผู้ดำเนินการ

มาตรา ๒๙ ผู้รับอนุญาต ผู้ดำเนินการ และผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลแห่งหนึ่ง ๆ จะเป็นบุคคลคนเดียวกันก็ได้

มาตรา ๓๐ ใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาลให้มีอายุถึงวันที่สิ้นปีปฏิทินของปีที่สองนับแต่ปีที่ออกใบอนุญาต การขอต่ออายุใบอนุญาต ให้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตล่วงหน้า มูลโดยน้อยกว่าหนึ่งเดือนก่อนสิ้นอายุ ให้ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลอยู่ในใบอนุญาตส่งใบอนุญาตให้ต่ออายุ การขอต่ออายุใบอนุญาตและการอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๓๑ ในกรณีที่มีผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตไม่ออกใบอนุญาต หรือไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาต ผู้ขอรับใบอนุญาตหรือผู้ขอต่ออายุใบอนุญาต แล้วแต่กรณี มีสิทธิอุทธรณ์เป็นหนังสือต่อรัฐมนตรีภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งว่าไม่ออกใบอนุญาตหรือการไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาต คำวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด ในกรณีที่มีการอุทธรณ์ตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตหรือผู้ขอต่ออายุใบอนุญาต แล้วแต่กรณี สามารถดำเนินการสถานพยาบาลต่อไปได้จนกว่ารัฐมนตรีจะมีคำวินิจฉัย หรือถึงกำหนดเวลาสามสิบวัน นับแต่วันที่มีการอุทธรณ์แล้วแต่กรณีใดจะถึงก่อน

มาตรา ๓๒ ในกรณีที่ใบอนุญาตสูญหายหรือถูกทำลายในสาระสำคัญ ให้ผู้รับอนุญาตหรือผู้ดำเนินการ แล้วแต่กรณี แจ้งขอใบอนุญาตและคำขอรับใบแทนใบอนุญาตภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับทราบสูญหายหรือถูกทำลายดังกล่าว การขอและการออกใบแทนใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๓๓ ผู้รับอนุญาตต้องแสดงใบอนุญาตไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย ณ สถานพยาบาลนั้น

มาตรา ๓๔ ผู้รับอนุญาตต้องแสดงรายละเอียดดังต่อไปนี้ ณ สถานพยาบาลนั้น (๑) ชื่อสถานพยาบาล (๒) รายการเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล (๓) อัตราค่ารักษาพยาบาล ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการอื่น และสิทธิของผู้ป่วยที่สถานพยาบาลต้องแจ้งตามมาตรา ๓๕ วรรคหนึ่ง

มาตรา ๓๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๒

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา การแสดงรายละเอียดตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 33 "รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการมีอำนาจประกาศกำหนดชนิดหรือประเภทของการรักษาพยาบาล ยาและเวชภัณฑ์ การบริการทางการแพทย์ หรือการบริการอื่นของสถานพยาบาล และสิทธิของผู้ป่วย ซึ่งรัฐมนตรีอาจกำหนดตามความใน (ก) หรือ (ข) หรือ (ค) อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างก็ได้ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาล ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ หรือค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องให้มีลักษณะไม่สิ้นเปลือง และต้องไม่เป็นการให้ผู้ป่วยตามสิทธิที่ได้แสดงไว้

มาตรา 34 "เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองสุขภาพของประชาชน ให้รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการมีอำนาจประกาศกำหนดผู้ป่วยอุบัติใหม่ตามกฎหมายว่าด้วยการแพทย์ฉุกเฉิน โรคติดต่ออันตราย โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง หรือโรคระบาดตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ หรืออาการเจ็บป่วยตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและระงับอันตรายจากสารเคมี ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดยถูกกักตัวในสถานพยาบาลตามมาตรา 33

(ก) ควบคุมและดูแลให้ผู้ป่วยหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยได้รับการปฏิบัติอย่างเหมาะสมตามกฎหมายเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพเวชกรรม (ข) ควบคุมและดูแลให้การรับผู้ป่วยไว้ทำการรักษาในสถานพยาบาลมีจำนวนเตียงตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงตลอดเวลาที่ทำการ (ค) ควบคุมและดูแลสถานพยาบาลให้สะอาด เรียบร้อย ปลอดภัย และมีลักษณะอันเหมาะสมแก่การใช้เป็นสถานพยาบาล

มาตรา 35 ให้ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการสถานพยาบาลที่มีหน้าที่และความรับผิดชอบดังต่อไปนี้

(ก) จัดให้มีผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลตามลักษณะ วิธีการและจำนวนที่กำหนดในกฎกระทรวงตลอดเวลาที่ทำการ (ข) จัดให้มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่จำเป็น และเครื่องมือและอุปกรณ์ที่จำเป็นประจำสถานพยาบาลนั้นตามชนิดที่กำหนดในกฎกระทรวง (ค) จัดให้มีและรายงานหลักฐานเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลและผู้ป่วย และเอกสารอื่นที่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 36 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562

มาตรา 37 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562

มาตรา 38 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กฎกระทรวง โดยต้องเก็บรักษาไว้ให้อยู่ในสภาพที่ตรวจสอบได้ไม่น้อยกว่าห้าปี นับแต่วันที่จัดทำ

ควบคุมและดูแลการประกอบกิจการสถานพยาบาลให้เป็นไปตามมาตรฐานการ บริการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดตามมาตรา ๔๕

มาตรา ๓๖ ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการของสถานพยาบาลต้องควบคุมและดูแล

ให้มีการช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วยตามมาตรฐาน ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาพยาบาลโดยถูกต้อง รักษาไว้ซึ่งมาตรฐานตามปกติสุขของมนุษย์ รวมทั้งคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนใน สถานพยาบาลนั้น ๆ เพื่อประโยชน์สาธารณะ ในการดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้สถานพยาบาลที่มีที่ ระบุบททรัพยากรและสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อเยียวยาหรือดำเนินการตามความเหมาะสมและความ จำเป็น การดำเนินการตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการ เมื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วยตามวรรคหนึ่งแล้ว ถ้ามีความจำเป็นต้องส่งต่อ หรือผู้ป่วยมีความประสงค์จะไปรับการรักษาพยาบาลที่สถานพยาบาลอื่น ผู้รับอนุญาตและ ผู้ดำเนินการต้องจัดการให้มีการส่งต่อไปยังสถานพยาบาลตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ตาม หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามวรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสี่ ให้เป็นไปตาม หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีกำหนด

มาตรา ๓๗ ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการของสถานพยาบาลต้องจัดให้มีการส่งต่อ

ให้ผู้อื่นใช้สถานพยาบาลประกอบกิจการสถานพยาบาลผิดประเภทหรือผิดลักษณะการให้บริการ ตามที่ระบุไว้ในใบอนุญาต

มาตรา ๓๘ ผู้มีประสงค์จะโฆษณาหรือประกาศด้วยประการใด ๆ เกี่ยวกับการ

ประกอบกิจการของสถานพยาบาล โดยการโฆษณาและลักษณะสถานพยาบาลตามที่ปรากฏใน ใบอนุญาต ต้องได้รับอนุญาตข้อความ เสียง หรือภาพที่ใช้ในการโฆษณาหรือประกาศจากผู้อนุญาต ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และค่าใช้จ่ายที่ผู้อนุญาตประกาศกำหนด การโฆษณาหรือประกาศด้วยประการใด ๆ ซึ่งมีที่ตั้ง หรือกิจการของ สถานพยาบาล หรือคุณวุฒิหรือความสามารถของผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล เพื่อชักจูงให้ ผู้มาขอรับบริการจากสถานพยาบาลโดยข้อความ เสียง หรือภาพที่เป็นเท็จหรือโอ้อวดเกินความจริง หรือทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับการประกอบกิจการของสถานพยาบาล จะกระทำมิได้ ค่าใช้จ่ายที่ได้รับตามวรรคหนึ่งให้ส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน

มาตรา ๓๙ ในกรณีที่มีการโฆษณาหรือประกาศฝ่าฝืนมาตรา ๓๘ ผู้อนุญาตมี

อำนาจ

แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙

แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา 48 ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการของสถานพยาบาลไปแตกต่างไปจากที่ระบุไว้ในใบอนุญาต หรือยกเลิกกิจการเดิมใหม่ หรือดัดแปลงอาคารเกินกว่าที่กำหนดในกฎกระทรวงเพื่อใช้ในการประกอบกิจการสถานพยาบาลให้กระทำได้เมื่อได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต การขอและการอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 49 ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลต้องการย้ายสถานพยาบาลไปประกอบกิจการที่อื่น ให้ดำเนินการเสนอใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลใหม่

มาตรา 50 เมื่อมีการเปลี่ยนตัวผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล ตามมาตรา 44 (4) ผู้รับอนุญาตต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้อนุญาตทราบภายในกำหนดสามสิบวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลงนั้น

มาตรา 51 ภายใต้บังคับมาตรา 48 (4) การเปลี่ยนชื่อสถานพยาบาลต้องได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต

มาตรา 52 ผู้รับอนุญาตผู้ใดประสงค์จะเลิกกิจการสถานพยาบาล ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้อนุญาตทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสามสิบวัน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง เมื่อได้รับแจ้งตามวรรคหนึ่ง ผู้อนุญาตต้องแจ้งให้ผู้รับอนุญาตต้องปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใดก่อนเลิกกิจการได้ ทั้งนี้ โดยให้พิจารณาถึงประโยชน์และส่วนได้เสียของผู้ป่วยในสถานพยาบาลนั้นเป็นสำคัญ

มาตรา 53 ให้ผู้อนุญาตดำเนินการให้มีพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจลักษณะของสถานพยาบาลและการประกอบกิจการของสถานพยาบาลเป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องตลอดเวลาตามสมควร หรือเมื่อมีผู้ใดแจ้ง หรือร้องเรียนว่ามีการประกอบกิจการสถานพยาบาลไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วยในสถานพยาบาลหรือผู้ที่อยู่ใกล้เคียงสถานพยาบาล ผู้อนุญาตมีอำนาจออกคำสั่งให้ผู้รับอนุญาตแก้ไขปรับปรุงให้เหมาะสมภายในระยะเวลาที่กำหนดให้ ทั้งมาตรา 48 และมาตรา 55 มาใช้บังคับโดยอนุโลม

หมวด 3

พนักงานเจ้าหน้าที่

มาตรา 54 ในการปฏิบัติหน้าที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจดังต่อไปนี้

๑๔

เข้าไปในอาคารสถานที่หรือยานพาหนะที่พนักงานเจ้าหน้าที่มีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นสถานพยาบาลที่ไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้

๑๕

เข้าไปในสถานพยาบาลในระหว่างเวลาทำการเพื่อตรวจสอบและควบคุมให้การเป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้

๑๖

มีหนังสือเรียกผู้รับอนุญาต ผู้ดำเนินการ ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล หรือเจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลมาให้ถ้อยคำหรือส่งเอกสารหรือสิ่งที่เกี่ยวข้องมาเพื่อประกอบการพิจารณา

๑๗

ยึดหรืออายัดบัตรเอกสารหรือสิ่งของที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้รับอนุญาต ผู้ดำเนินการ ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล เจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาล หรือบุคคลซึ่งอยู่ในสถานพยาบาลนั้นอำนวยความสะดวกตามสมควร

มาตรา ๔๘ ในการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๔๙ ในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ให้ผู้อนุญาตและพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา

หมวด ๘

การยกเลิกสถานพยาบาลและการเพิกถอนใบอนุญาต

มาตรา ๕๐ เมื่อปรากฏว่าผู้รับอนุญาตหรือผู้ดำเนินการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่รายงานข้อเท็จจริงต่อผู้อนุญาต แล้วเตือนหรือท้วงติงให้ปฏิบัติให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่เหมาะสม แต่หากไม่เป็นเหตุอันควรสงสัยว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๕๑ ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตหรือผู้ดำเนินการ กระทำการหรือละเว้นกระทำการอย่างใด ๆ จนเป็นเหตุให้เกิดอันตราย ความเสียหายหรือความเดือดร้อนอย่างร้ายแรงแก่ผู้ที่อยู่ในสถานพยาบาลหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถานพยาบาล หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้อนุญาตตามมาตรา ๕๐ หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้ผู้อนุญาตมีอำนาจสั่งให้สถานพยาบาลเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะได้ดำเนินการให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด

ถ้าผู้รับอนุญาตหรือผู้ดำเนินการไม่ดำเนินการให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนดแล้ว ให้ผู้อนุญาตสั่งเพิกถอนคำสั่งตั้งสถานพยาบาล

มาตรา ๕๒ ในกรณีที่ผู้รับอนุญาตหรือผู้ดำเนินการกระทำความผิด หรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๗ หรือมาตรา ๒๖ แล้วแต่กรณี หรือผู้ดำเนินการหรือผู้ดำเนินการไม่

ดำเนินการให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่ผู้อุปการะกำหนดตามมาตรา 50 ให้ผู้อุปการะโดยคำแนะนำของคณะกรรมการออกคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลได้ ถ้าผู้รับอนุญาตหรือผู้ดำเนินการหรือเจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลที่มีความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ และผู้อุปการะเห็นว่าเป็นกรณีร้ายแรงอันอาจมีผลกระทบกระเทือนต่อการรักษาพยาบาลผู้ป่วยต่อไป ให้ผู้อุปการะโดยคำแนะนำของคณะกรรมการมีคำสั่งออกคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตของผู้นั้นได้

มาตรา 52 เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองผู้ป่วยในสถานพยาบาลในกรณี

1

ผู้รับอนุญาตตาย และไม่มีผู้แสดงความจำนงเพื่อขอประกอบกิจการหรือผู้แสดงความจำนงนั้น ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม ที่มี ตามที่บัญญัติในมาตรา 26

2

ผู้อุปการะมีคำสั่งปิดสถานพยาบาลเป็นการชั่วคราวตามมาตรา 50 หรือมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตตามมาตรา 50 ผู้อุปการะอาจมีคำสั่งให้สถานพยาบาลนั้น อยู่ในความควบคุมของคณะกรรมการเพื่อดำเนินการใด ๆ ตามที่เห็นสมควรได้

มาตรา 53 คำสั่งของผู้อุปการะในหน้าที่ที่ตามมาตรา 52 หรือของผู้อุปการะตามมาตรา 50 หรือมาตรา 51 ผู้ที่ได้รับคำสั่งมีสิทธิอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงในเวลาสิบห้าวันนับแต่วันที่ทราบคำสั่ง

คำวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด

หมวด 5

บทกำหนดโทษ

มาตรา 54 ผู้ใดถูกเพิกถอนใบอนุญาตแล้วจะขอรับใบอนุญาตใหม่อีกไม่ได้จนกว่าจะพ้นกำหนดสองปีนับแต่วันที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต

มาตรา 55 คำสั่งของผู้อุปการะในหน้าที่ที่ตามมาตรา 54 หรือของผู้อุปการะตามมาตรา 50 หรือมาตรา 51 ผู้ที่ได้รับคำสั่งมีสิทธิอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงในเวลาสิบห้าวันนับแต่วันที่ทราบคำสั่ง

คำวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด

มาตรา 56 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการตามมาตรา 13 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๔๘ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๑๖ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๒๘ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลอาจสั่งริบรถหรือสิ่งของที่ใช้ในการประกอบกิจการสายพานดังกล่าวได้

มาตรา ๔๙ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้อนุญาตตามมาตรา ๔๕ หรือมาตรา ๔๖ หรือคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๔๔ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๕๐ ผู้รับอนุญาตผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๑ มาตรา ๒๓ มาตรา ๒๙ มาตรา ๔๘ หรือมาตรา ๔๙ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

มาตรา ๕๑ ผู้รับอนุญาตผู้ใดประกอบกิจการสายพานโดยไม่ได้ให้ผู้ดำเนินการตามมาตรา ๒๓ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๕๒ ผู้ใดมีหน้าที่ต้องแจ้งให้ผู้อนุญาตทราบ แต่ไม่แจ้งภายในกำหนดเวลาตามมาตรา ๒๖ มาตรา ๓๐ หรือมาตรา ๔๔ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

มาตรา ๕๓ ผู้รับอนุญาตผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๓๑ วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๕๔ ผู้ดำเนินการผู้ใดไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามมาตรา ๔๕ (๑) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๕๕ ผู้ดำเนินการผู้ใดไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามมาตรา ๓๕ (๓) หรือ (๔) ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

มาตรา ๕๖ ผู้รับอนุญาตหรือผู้ดำเนินการผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๔๔ (๒) หรือมาตรา ๔๕ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๕๗ ผู้รับอนุญาตหรือผู้ดำเนินการผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๔๖ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๕๘ ผู้รับอนุญาตหรือผู้ดำเนินการผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๗ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

มาตรา ๕๙ ผู้รับอนุญาตหรือผู้ดำเนินการผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๘ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๖๐ ผู้รับอนุญาตหรือผู้ดำเนินการผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๙ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

มาตรา ๖๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙

มาตรา ๖๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒

ไม่เกินสองหมื่นบาท

มาตรา ๒๙ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๓ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท และให้ปรับอีกวันละไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทนับแต่วันที่ฝ่าฝืนคำสั่งที่ให้ระงับการโฆษณา หรือประกาศ ทั้งนี้ จนกว่าจะระงับการโฆษณาหรือประกาศดังกล่าว

ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๓ วรรคสอง หรือกระทำการโฆษณา หรือประกาศในลักษณะที่ฝ่าฝืนคำสั่งที่ให้ ระงับการโฆษณาหรือประกาศ ทั้งนี้ จนกว่าจะระงับการโฆษณาหรือประกาศดังกล่าว

มาตรา ๓๐ ผู้รับอนุญาตผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้อนุญาตตามมาตรา ๒๔ วรรค สอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๓๑ ผู้รับอนุญาต ผู้ดำเนินการ ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล หรือ เจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาล หรือบุคคลซึ่งอยู่ในสถานพยาบาล ผู้ใดไม่อำนวยความสะดวกให้แก่ พนักงานเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการตามที่กำหนดในมาตรา ๒๘ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

มาตรา ๓๒ ผู้ป่วยหรือญาติของผู้ป่วยหรือบุคคลใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปิดบังตัวตนของผู้ป่วยตามมาตรา ๒๕ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้ง ปรับ และให้ปรับอีกวันละไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทนับแต่วันที่ฝ่าฝืนคำสั่งของคณะกรรมการที่สั่งให้เปิดเผยตัวตนของผู้ป่วย

มาตรา ๓๓ ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งของคณะกรรมการที่สั่งให้เปิดเผยตัวตนของผู้ป่วยในกรณีการ ดำเนินการตามมาตรา ๒๕ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้ง จำทั้งปรับ

มาตรา ๓๔ ผู้รับอนุญาต ผู้ดำเนินการ ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาล หรือ เจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลผู้ใด จัดทำหรือยินยอมให้ผู้อื่นจัดทำสำเนาเอกสารการรักษาพยาบาล และสำเนาเอกสารของผลการตรวจโรค เอกสารแสดงผลการรักษาพยาบาลของสถานพยาบาล หรือ เอกสารอื่นที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลอันเป็นเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับ ไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๓๕ ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดเป็นนิติบุคคล ถ้าการกระทำความผิดของ นิติบุคคลนั้นเกิดจากการสั่งการหรือการกระทำของกรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่ง รับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลนั้น หรือโดยการละเว้นการกระทำอันเป็นหน้าที่ต้องสั่งการ กระทำการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทำการอันเป็นเหตุให้มีการกระทำความผิดดังกล่าว ผู้นั้นต้อง รับโทษตามที่บัญญัติไว้สำหรับความผิดนั้น ๆ ด้วย

มาตรา ๓๖ ให้ยกเลิกกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๗ มาตรา ๓๗ ให้ยกเลิกกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๙

มาตรา ๑๕ ให้มีคณะกรรมการเปรียบเทียบคดี

ในเขตกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เป็นประธานกรรมการ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นกรรมการ และให้อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพแต่งตั้งข้าราชการของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพคนหนึ่ง เป็นเลขานุการ และอีกไม่เกินสองคน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ

ในเขตจังหวัดอื่น ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานกรรมการ อัยการจังหวัดและนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เป็นกรรมการ และให้แพทย์สาธารณสุขจังหวัดแต่งตั้งข้าราชการของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดคนหนึ่ง เป็นเลขานุการ และอีกไม่เกินสองคน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ที่ไม่อาจปรับสถานเดียวหรือที่มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ให้คณะกรรมการเปรียบเทียบคดีตามมาตรา ๑๕ เปรียบเทียบปรับได้ ถ้าผู้ต้องหายินยอมชำระค่าปรับหรือชำระได้ครบถ้วนทุกจำนวน ในกรณีที่คณะกรรมการเปรียบเทียบคดีของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเป็นผู้ทำการเปรียบเทียบคดีแทนคณะกรรมการเปรียบเทียบคดีของจังหวัด ให้ส่งเงินค่าปรับทั้งหมดที่ได้รับจากการเปรียบเทียบคดีนั้นเป็นรายได้แผ่นดิน เมื่อผู้ต้องหาได้เสียค่าปรับตามที่เปรียบเทียบแล้วเป็นอันเลิกกันในกรณีนั้น เว้นแต่มีการเปรียบเทียบปรับ ให้คณะกรรมการเปรียบเทียบคดีประสานความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ในกรณีที่ผู้ต้องหาไม่ยินยอมชำระค่าปรับหรือไม่ชำระค่าปรับได้ครบถ้วน ให้คณะกรรมการเปรียบเทียบคดีและผู้ยื่นเรื่องเสนอให้เปรียบเทียบคดีนั้น ให้พนักงานสอบสวนส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

มาตรา ๑๖ ใบอนุญาตให้ตั้งสถานพยาบาล และใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาลที่ออกตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ให้ถือว่าเป็นใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลหรือใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาลตามพระราชบัญญัตินี้ และให้ใช้ได้ถึงสิ้นสุดสิทธิในปีปฏิทินของปีที่พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับ

มาตรา ๑๗ บรรดากฎกระทรวง หรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และยังใช้บังคับอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเพียงเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ จนกว่าจะมีกฎกระทรวงหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ชวน หลีกภัย หมายเหตุ :- มาตรา ๑๕ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙ ``` นายกรัฐมนตรี ``` อัตราค่าธรรมเนียม 1. ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล ประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน ฉบับละ 3,000 บาท 2. ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล ประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน (ก) ไม่เกิน 10 เตียง ฉบับละ 5,000 บาท (ข) เกิน 10 เตียง แต่ไม่เกิน 25 เตียง ฉบับละ 10,000 บาท (ค) เกิน 25 เตียง แต่ไม่เกิน 50 เตียง ฉบับละ 20,000 บาท (ง) เกิน 50 เตียง แต่ไม่เกิน 100 เตียง ฉบับละ 30,000 บาท (จ) เกิน 100 เตียง ฉบับละ 50,000 บาท และ ให้คิดค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นสำหรับที่เกิน 100 เตียง เตียงละ 500 บาท 3. ใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล ประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน ฉบับละ 500 บาท 4. ใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล ประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน (ก) ไม่เกิน 10 เตียง ฉบับละ 500 บาท (ข) เกิน 10 เตียง แต่ไม่เกิน 25 เตียง ฉบับละ 2,500 บาท (ค) เกิน 25 เตียง แต่ไม่เกิน 50 เตียง ฉบับละ 5,000 บาท (ง) เกิน 50 เตียง แต่ไม่เกิน 100 เตียง ฉบับละ 10,000 บาท (จ) เกิน 100 เตียง ฉบับละ 20,000 บาท และ ให้คิดค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นสำหรับที่เกิน 100 เตียง เตียงละ 500 บาท 5. การต่ออายุใบอนุญาต ครั้งละเท่ากับค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประเภทนั้น ๆ แต่ละฉบับ 6. ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ 200 บาท 7. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขในใบอนุญาต ครั้งละ 300 บาท 8. ค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการสถานพยาบาล ปีละ 10,000 บาท หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่กฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลได้ใช้บังคับตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๑ นั้น ไม่เหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบัน และไม่สอดคล้องกับลักษณะการประกอบกิจการของสถานพยาบาลปัจจุบัน สมควรที่จะดำเนินการควบคุมกิจการสถานพยาบาลเพื่อให้ความคุ้มครองประชาชนผู้รับบริการสถานพยาบาลอย่างยิ่งขึ้นโดยกำหนดหลักเกณฑ์ให้ประกอบด้วยการเลิก การย้าย การเปลี่ยนแปลงสถานพยาบาล การเพิกถอนใบอนุญาต การเพิ่มกิจกรรมของสถานพยาบาล ตลอดจนกำหนดค่าปรับแก่ผู้ที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล และกำหนดหน้าที่ของผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการสถานพยาบาลให้เหมาะสมยิ่งขึ้น รวมทั้งให้มีการกำหนดลักษณะสถานพยาบาลที่ต้องให้จัดเป็นชื่ออื่นเพื่อมิให้เกิดความสับสนต่อการให้บริการสถานพยาบาลที่มีลักษณะเฉพาะให้เหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อให้การประกอบกิจการสถานพยาบาลเป็นการประกอบกิจการที่มีประโยชน์แก่ประชาชนอย่างแท้จริง สมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลให้เหมาะสมยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัตินี้ได้ผ่านบัญญัติให้สอดคล้องกับการโอนอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๖

มาตรา ๑๒๖ ในพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ให้แก้ไขคำว่า “อธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อ” เป็น “อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ” และคำว่า “สำนักงานคณะกรรมการสถานพยาบาล” เป็น “กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ”

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดให้มีการโอนอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม นั้นแล้ว และเนื่องจากพระราชบัญญัติฉบับกล่าวได้บัญญัติให้อำนาจหน้าที่ของส่วนราชการ รัฐบาลหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่เกี่ยวข้องตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายฉบับนั้น ให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ที่โอนให้โดย ชอบ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตามหลักการที่ปรากฏในพระราชบัญญัติและพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว จึงสมควรแก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายให้สอดคล้องกับการโอนอำนาจหน้าที่ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายโดยไม่เกิดข้อขัดข้องหรือความล่าช้า อันเนื่องมาจากบทบัญญัติเดิมที่มีความไม่สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่หรือรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายฉบับเดิม โดยแก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายให้มีการเปลี่ยนชื่อส่วนราชการ รัฐบาลหรือรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวสอดคล้องกับการโอนอำนาจหน้าที่ และเพื่อมิให้เกิดความล่าช้าในการปฏิบัติหน้าที่ของส่วนราชการหรือรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายฉบับเดิมที่มีการแก้ไขแล้ว จึงเป็นการสมควรแก้ไขพระราชบัญญัติฉบับนี้ และพระราชบัญญัติฉบับนี้จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๖

มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ได้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยไปซึ่งอยู่ในบัญญัติเดิมเฉพาะ สมควรปรับปรุงบัญญัติใหม่ส่วนที่เกี่ยวกับงานในลักษณะ “สถานพยาบาล” และ “ผู้ประกอบวิชาชีพ” รวมทั้งงานบัญญัติอื่นที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกันด้วย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๕๘

มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓ ให้คณะกรรมการสถานพยาบาลซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ คงอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสถานพยาบาลตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ต้องไม่เกินหกเดือนนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวง ประกาศกระทรวง และระเบียบเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ประกาศ ณ วันที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาตรา ๒๕ บรรดาคำสั่งกระทรวงหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ที่ใช้บังคับอยู่ในก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเพียงเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้จนกว่าจะมีกฎกระทรวงหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ การดำเนินการออกกฎกระทรวงหรือประกาศตามมาตราต่าง ๆ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการได้ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ มาตรา ๒๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่สถานพยาบาลที่ให้บริการแก่ประชาชนซึ่งมีสถานพยาบาลที่จัดดำเนินการโดยภาครัฐและสถานพยาบาลที่ดำเนินการโดยเอกชน แต่กฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลไม่ได้บัญญัติให้สถานพยาบาลภาครัฐต้องดำเนินการโดยการคำนึงถึงมาตรฐานเดียวกันกับสถานพยาบาลเอกชน จึงควรแก้ไขให้สถานพยาบาลซึ่งดำเนินการโดยภาครัฐต้องมีลักษณะและมาตรฐานตามที่กำหนด หรือเทียบเท่ากับมาตรฐานที่กำหนดสำหรับสถานพยาบาลเอกชน เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน รวมทั้งกำหนดให้มีการจัดระบบบริการปฐมภูมิซึ่งเป็นด่านแรกในระบบบริการสุขภาพ และแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการดำเนินการของสถานพยาบาลเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ ``` ปณตตร/ผู้จัดทำ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖ ชวัลพร/เพิ่มเติม ๒๓ ธันวาคม ๒๕๔๘ วิพาพร/ตรวจ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๔๘ ```