로고

「2015년 전염병법」

• 국가·지역: 태국 • 제 정 일: 2015년 8월 10일

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นปีที่ ๗๐ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วย โรคติดต่อ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตรา พระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยค าแนะน าและยินยอม ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้

มาตรา ๑

พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติ โรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘”

มาตรา ๒

พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นก าหนดหนึ่ง ร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจา นุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓

ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๒๓

มาตรา ๔

ในพระราชบัญญัตินี้ “โรคติดต่อ” หมายความว่า โรคที่เกิดจากเชื้อโรค หรือพิษของเชื้อโรคซึ่งสามารถแพร่โดยทางตรง หรือทางอ้อมมาสู่คน “โรคติดต่ออันตราย” หมายความว่า โรคติดต่อที่ มีความรุนแรงสูงและสามารถแพร่ไปสู่ผู้อื่นได้ อย่างรวดเร็ว “โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง” หมายความว่า โรคติดต่อที่ต้องมีการติดตาม ตรวจสอบ หรือ จัดเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่อง “โรคระบาด” หมายความว่า โรคติดต่อหรือโรคที่ ยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดโรคแน่ชัด ซึ่งอาจ แพร่ไปสู่ผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง หรือ มีภาวะของการเกิดโรคมากผิดปกติกว่าที่เคย เป็นมา “พาหะ” หมายความว่า คนหรือสัตว์ซึ่งไม่มี อาการของโรคติดต่อปรากฏแต่ร่างกายมีเชื้อโรค นั้น ซึ่งอาจติดต่อถึงผู้อื่นได้ “ผู้สัมผัสโรค” หมายความว่า คนซึ่งได้เข้าใกล้ชิด คน สัตว์ หรือสิ่งของติดโรค จนเชื้อโรคนั้นอาจ ติดต่อถึงผู้นั้นได้ “ระยะติดต่อของโรค” หมายความว่า ระยะเวลา ที่เชื้อโรคสามารถแพร่จากคนหรือสัตว์ที่มีเชื้อโรค ไปยังผู้อื่นได้โดยทางตรงหรือทางอ้อม “แยกกัก” หมายความว่า การแยกผู้สัมผัสโรค หรือพาหะไว้ต่างหากจากผู้อื่นในที่เอกเทศ เพื่อ ป้องกันมิให้เชื้อโรคแพร่โดยทางตรงหรือทางอ้อม ไปยังผู้ซึ่งอาจได้รับเชื้อโรคนั้น ๆ ได้ จนกว่าจะ พ้นระยะติดต่อของโรค “กักกัน” หมายความว่า การควบคุมผู้สัมผัสโรค หรือพาหะให้อยู่ในที่เอกเทศ เพื่อป้องกันมิให้เชื้อ โรคแพร่โดยทางตรงหรือทางอ้อมไปยังผู้ซึ่งอาจ ได้รับเชื้อโรคนั้น ๆ ได้ จนกว่าจะพ้นระยะฟักตัว ของโรคหรือจนกว่าจะพ้นความเป็นพาหะ “คุมไว้สังเกต” หมายความว่า การควบคุมดูแลผู้ สัมผัสโรคหรือพาหะโดยไม่กักกัน และอาจจะ อนุญาตให้ผ่านไปในที่ใด ๆ ก็ได้ โดยมีเงื่อนไขว่า เมื่อไปถึงท้องที่ใดที่ก าหนดไว้ ผู้นั้นต้องแสดงตัว ต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจ าท้องที่ นั้นเพื่อรับการตรวจในทางแพทย์ เพื่อป้องกันมิ ให้เชื้อโรคแพร่โดยทางตรงหรือทางอ้อมไปยังผู้ ซึ่งอาจได้รับเชื้อโรคนั้น ๆ ได้ “ระยะฟักตัวของโรค” หมายความว่า ระยะเวลา ตั้งแต่เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายจนถึงเวลาที่ผู้ติดโรค แสดงอาการป่ วยของโรคนั้น “เขตติดโรค” หมายความว่า ท้องที่หรือเมืองท่า ใดนอกราชอาณาจักรที่มีโรคติดต่ออันตรายหรือ โรคระบาดเกิดขึ้น “การสอบสวนโรค” หมายความว่า กระบวนการ เพื่อหาสาเหตุ แหล่งที่เกิดและแหล่งแพร่ของโรค เพื่อประโยชน์ในการควบคุมโรค “การเฝ้าระวัง” หมายความว่า การสังเกต การ เก็บรวบรวม และการวิเคราะห์ข้อมูล ตลอดจน การรายงาน และการติดตามผลของการแพร่ของ โรคอย่างต่อเนื่องด้วยกระบวนการที่เป็นระบบ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมโรค “พาหนะ” หมายความว่า ยานพาหนะ สัตว์ หรือ วัตถุ ซึ่งใช้ในการขนส่งคน สัตว์ หรือสิ่งของโดย ทางบก ทางน ้า หรือทางอากาศ “เจ้าของพาหนะ” หมายความรวมถึง ตัวแทน เจ้าของ ผู้เช่า ตัวแทนผู้เช่า หรือผู้ครอบครอง พาหนะนั้น “ผู้ควบคุมพาหนะ” หมายความว่า ผู้รับผิดชอบ ในการควบคุมพาหนะ “ผู้เดินทาง” หมายความว่า คนซึ่งเดินทางเข้ามา ในราชอาณาจักร และให้หมายความรวมถึงผู้ ควบคุมพาหนะและคนประจ าพาหนะ “การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค” หมายความว่า การกระท าทางการแพทย์ต่อคน หรือสัตว์โดย วิธีการใด ๆ เพื่อให้คนหรือสัตว์เกิดความ ต้านทานโรค “ที่เอกเทศ” หมายความว่า ที่ใด ๆ ซึ่งเจ้า พนักงานควบคุมโรคติดต่อก าหนดให้เป็นที่ ส าหรับแยกกักหรือกักกันคนหรือสัตว์ที่เป็นหรือมี เหตุสงสัยว่าเป็นโรคติดต่อใด ๆ เพื่อป้องกันมิให้ โรคนั้นแพร่โดยทางตรงหรือทางอ้อมไปยังผู้ซึ่ง อาจได้รับเชื้อโรคนั้น ๆ ได้ “สุขาภิบาล” หมายความว่า การควบคุม ป้องกัน หรือรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมและปัจจัยที่มีผลต่อ การเกิดหรือการแพร่ของโรคติดต่อ “ช่องทางเข้าออก” หมายความว่า ช่องทางหรือ สถานที่ใด ๆ ที่ใช้ส าหรับผ่านเข้าออกระหว่าง ประเทศของผู้เดินทาง พาหนะ และสิ่งของต่าง ๆ ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงพื้นที่หรือบริเวณที่ จัดไว้เพื่อให้บริการดังกล่าว “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการ โรคติดต่อแห่งชาติ “คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด” หมายความว่า คณะกรรมการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ ประจ าจังหวัด “คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร” หมายความว่า คณะกรรมการป้องกันและ ควบคุมโรคติดต่อประจ ากรุงเทพมหานคร “หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ราชการ ส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วน ท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และ หน่วยงานอื่นของรัฐ “เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตาม พระราชบัญญัตินี้ “อธิบดี” หมายความว่า อธิบดีกรมควบคุมโรค “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการ ตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๕

ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอ านาจ แต่งตั้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ออก กฎกระทรวงก าหนดกิจการอื่น ตลอดจนออก ระเบียบหรือประกาศเพื่อปฏิบัติการตาม พระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศนั้น เมื่อได้ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้

หมวด ๑ บทท่ัวไป

มาตรา ๖

เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุม โรคติดต่อ ให้รัฐมนตรีโดยค าแนะน าของ คณะกรรมการมีอ านาจประกาศก าหนด ดังต่อไปนี้

(๑) ชื่อและอาการส าคัญของโรคติดต่อ อันตรายและโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง

(๒) ช่องทางเข้าออกแห่งใดในราชอาณาจักร ให้เป็นด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และยกเลิกด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่าง ประเทศ

(๓) การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค

มาตรา ๗

เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุม โรคติดต่อ ให้รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการมีอ านาจประกาศก าหนด ดังต่อไปนี้

(๑) หลักเกณฑ์และวิธีการแจ้งในกรณีที่มี โรคติดต่ออันตราย โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง หรือโรคระบาดเกิดขึ้น

(๒) หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการ ด าเนินการหรือออกค าสั่ง และการสอบสวน โรค

(๓) หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับ การก าหนดค่าใช้จ่ายส าหรับเจ้าของพาหนะ หรือผู้ควบคุมพาหนะ

(๔) หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ผู้ เดินทางต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย

มาตรา ๘

เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุม โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดที่อาจจะเข้ามา ภายในราชอาณาจักร ให้รัฐมนตรีโดยค าแนะน า ของคณะกรรมการด้านวิชาการมีอ านาจประกาศ ให้ท้องที่หรือเมืองท่าใดนอกราชอาณาจักรเป็น เขตติดโรค และยกเลิกประกาศเมื่อสภาวการณ์ ของโรคนั้นสงบลงหรือกรณีมีเหตุอันสมควร

มาตรา ๙

เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุมโรค ระบาด ให้อธิบดีโดยค าแนะน าของ คณะกรรมการด้านวิชาการมีอ านาจประกาศชื่อ อาการส าคัญ และสถานที่ที่มีโรคระบาด และ แจ้งให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา ๓๔ ทราบ รวมทั้งประกาศยกเลิกเมื่อ สภาวการณ์ของโรคนั้นสงบลงหรือกรณีมีเหตุอัน สมควร

มาตรา ๑๐

ในกรณีที่ข้อมูลจากการเฝ้าระวัง การสอบสวน โรค หรือการแจ้งหรือรายงานตาม พระราชบัญญัตินี้ ซึ่งมีการพาดพิงถึงตัวบุคคล ทั้งที่ระบุตัวได้หรือไม่สามารถระบุตัวได้ จะต้อง เก็บเป็นความลับและประมวลผลโดยไม่เปิดเผย ชื่อ ทั้งนี้ การประมวลผลดังกล่าวจะต้อง เหมาะสมและตรงกับวัตถุประสงค์ในการป้องกัน และควบคุมโรค เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่ออาจเปิดเผยข้อมูล ตามวรรคหนึ่งบางส่วนที่เกี่ยวกับการรักษา การ ป้องกัน การควบคุมโรคติดต่ออันตราย หรือการ เกิดโรคระบาด ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพของ ประชาชน โดยได้รับค ายินยอมจากเจ้าของ ข้อมูลหรือตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ คณะกรรมการประกาศก าหนด

หมวด ๒ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ

มาตรา ๑๑

ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า “คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ” ประกอบด้วย

(๑) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็น ประธานกรรมการ

(๒) ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงการ ต่างประเทศ ปลัดกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวง แรงงาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการ คณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้บัญชาการต ารวจ แห่งชาติ อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบดีกรม ประชาสัมพันธ์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ อธิบดีกรม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อธิบดี กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบดีกรม ส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อธิบดีกรม อนามัย อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และปลัดกรุงเทพมหานคร เป็น กรรมการ

(๓) กรรมการซึ่งมาจากผู้แทนแพทยสภา ผู้แทนสภาการพยาบาล ผู้แทนสภาเทคนิค การแพทย์ และผู้แทนสมาคมโรงพยาบาล เอกชน จ านวนแห่งละหนึ่งคน

(๔) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้ง จากผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และมี ประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ในด้านการ สาธารณสุข การควบคุมโรค และด้านอื่นที่เป็น ประโยชน์ในการป้องกันควบคุมโรคติดต่อ จ านวนสี่คน โดยในจ านวนนี้ต้องแต่งตั้งจาก องค์กรพัฒนาเอกชนซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่มิใช่ เป็นการแสวงหาผลก าไรและด าเนินกิจกรรม ด้านการสาธารณสุข อย่างน้อยหนึ่งคน ให้อธิบดีกรมควบคุมโรคเป็นกรรมการและ เลขานุการ และให้ผู้อ านวยการส านักโรคติดต่อ ทั่วไปเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคนที่ หนึ่ง และผู้อ านวยการส านักระบาดวิทยาเป็น กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคนที่สอง คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการได้มาซึ่ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้เป็นไปตามระเบียบที่ รัฐมนตรี ประกาศก าหนด

มาตรา ๑๒

กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการด ารงต าแหน่ง คราวละสามปี ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากต าแหน่ง ก่อนครบวาระ ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเดียวกันแทนภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่พ้นจากต าแหน่ง และให้ผู้ได้รับ แต่งตั้งให้ด ารงต าแหน่งแทนอยู่ในต าแหน่ง เท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งตนแทน เว้นแต่วาระของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะ เหลืออยู่ไม่ถึงเก้าสิบวัน รัฐมนตรีจะไม่ ด าเนินการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนก็ ได้และในการนี้ให้คณะกรรมการประกอบด้วย กรรมการเท่าที่เหลืออยู่

มาตรา ๑๓

นอกจากการพ้นจากต าแหน่งตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากต าแหน่งเมื่อ

(๑) ตาย

(๒) ลาออก

(๓) รัฐมนตรีให้ออก เพราะมีพฤติกรรมเสื่อม เสีย บกพร่องหรือไม่สุจริตต่อหน้าที่ หรือหย่อน ความสามารถ

(๔) เป็นบุคคลล้มละลาย

(๕) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ ความสามารถ

(๖) ได้รับโทษจ าคุกโดยค าพิพากษาถึงที่สุดให้ จ าคุก เว้นแต่เป็นโทษส าหรับความผิดที่ได้ กระท าโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

มาตรา ๑๔

ให้คณะกรรมการมีอ านาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(๑) ก าหนดนโยบาย วางระบบ และแนวทาง ปฏิบัติในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุม โรคติดต่อ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และ คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ด าเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ (๒) พิจารณาให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติการ เฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อหรือ โรคระบาด และเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความ เห็นชอบ

(๒) พิจารณาให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติการ เฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อหรือ โรคระบาด และเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความ เห็นชอบ

(๓) เสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีในการออก กฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศและแนวทาง ปฏิบัติเพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้

(๔) ให้ค าปรึกษา แนะน า และประสานงานแก่ หน่วยงานของรัฐและเอกชนเกี่ยวกับการเฝ้า ระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อ

(๕) ติดตาม ประเมินผล และตรวจสอบการ ด าเนินงานของหน่วยงานของรัฐ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และ คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อหรือโรคระบาด ที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบตาม (๒)

(๖) พิจารณาให้ความเห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการเบิกจ่าย ค่าชดเชย ค่าทดแทน ค่าตอบแทน หรือ ค่าใช้จ่ายอื่นที่จ าเป็นในการด าเนินการเฝ้า ระวัง การสอบสวนโรค การป้องกัน หรือการ ควบคุมโรคติดต่อ

(๗) แต่งตั้งคณะกรรมการด้านวิชาการหรือ คณะอนุกรรมการ เพื่อปฏิบัติการตาม พระราชบัญญัตินี้

(๘) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่พระราชบัญญัตินี้ หรือกฎหมายอื่นบัญญัติให้เป็นอ านาจหน้าที่ ของคณะกรรมการ หรือตามที่คณะรัฐมนตรี มอบหมาย

มาตรา ๑๕

การประชุมของคณะกรรมการ ต้องมีกรรมการ มาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจ านวน กรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ จึงเป็นองค์ประชุม ให้ประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถ้า ประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติ หน้าที่ได้ ให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการ คนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้าง มาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุม ออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด

มาตรา ๑๖

ให้มีคณะกรรมการด้านวิชาการคณะหนึ่ง ประกอบด้วยประธานกรรมการซึ่งแต่งตั้งจาก กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๑๑ (๔) และ ให้มีกรรมการซึ่งแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความ เชี่ยวชาญ และประสบการณ์ด้านโรคติดต่อ อีก จ านวนไม่เกินเจ็ดคน คณะกรรมการด้านวิชาการมีอ านาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(๑) ให้ค าแนะน าแก่รัฐมนตรีในการประกาศ เขตติดโรค

(๒) ให้ค าแนะน าแก่อธิบดีในการประกาศโรค ระบาด

(๓) ให้ค าแนะน าแก่รัฐมนตรีหรืออธิบดีในการ ประกาศยกเลิกเมื่อสภาวการณ์ของโรคตาม (๑) หรือ (๒) แล้วแต่กรณี สงบลงหรือกรณีมี เหตุอันสมควร

(๔) ปฏิบัติการตามที่คณะกรรมการ มอบหมาย

ให้น าความในมาตรา ๑๒ และมาตรา ๑๓ มาใช้ บังคับแก่กรณีวาระการด ารงต าแหน่งและการพ้น จากต าแหน่งของคณะกรรมการด้านวิชาการโดย อนุโลม

มาตรา ๑๗

ให้น าความในมาตรา ๑๕ มาใช้บังคับแก่การ ประชุมของคณะกรรมการด้านวิชาการและ คณะอนุกรรมการโดยอนุโลม

มาตรา ๑๘

ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ให้ คณะกรรมการ คณะกรรมการด้านวิชาการ และ คณะอนุกรรมการมีอ านาจออกค าสั่งเป็นหนังสือ เรียกให้บุคคลใด ๆ มาให้ข้อเท็จจริงหรือแสดง ความคิดเห็น หรือให้จัดส่งข้อมูล หรือเอกสาร ใด ๆ ที่จ าเป็นหรือข้อคิดเห็นมาเพื่อใช้ ประกอบการพิจารณาได้

มาตรา ๑๙

ให้กรมควบคุมโรคเป็นส านักงานเลขานุการของ คณะกรรมการ คณะกรรมการด้านวิชาการ และ คณะอนุกรรมการ รับผิดชอบงานธุรการ โดยให้มี อ านาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(๑) เป็นหน่วยงานกลางในการด าเนินการ เกี่ยวกับการพิจารณาเสนอนโยบาย และวาง ระบบในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุม โรคติดต่อ

(๒) จัดท าระบบในการเฝ้าระวังโรคติดต่อ อันตราย โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง และโรค ระบาดเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการ

(๓) จัดท าแผนปฏิบัติการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อหรือโรคระบาดเพื่อเสนอ ต่อคณะกรรมการ

(๔) เป็นศูนย์ข้อมูลกลางในการประชาสัมพันธ์ หรือเผยแพร่ข้อมูลและข่าวสารเกี่ยวกับการ เฝ้าระวัง การป้องกัน และการควบคุม สภาวการณ์ของโรคติดต่อและโรคระบาด

(๕) เป็นหน่วยงานประสานงานในการติดตาม ประเมินผล และตรวจสอบการด าเนินการของ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และ คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับการด าเนินการตามแผนปฏิบัติการ เฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อหรือ โรคระบาดที่คณะกรรมการให้ความเห็นชอบ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการ

(๖) ปฏิบัติการ ประสานการปฏิบัติ ให้การ สนับสนุนและช่วยเหลือหน่วยงานของรัฐและ เอกชน ให้เกิดการปฏิบัติการตามนโยบายและ แผนการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุม โรคติดต่อ

(๗) ส่งเสริม สนับสนุน และประสานงาน ทางด้านวิชาการ เวชภัณฑ์และวัสดุอุปกรณ์ใน การเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุม หรือวินิจฉัย เกี่ยวกับโรคติดต่อ

(๘) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่คณะกรรมการ คณะกรรมการด้านวิชาการ หรือ คณะอนุกรรมการมอบหมาย

หมวด ๓ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด

มาตรา ๒๐

ให้มีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ประกอบด้วย

(๑) ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานกรรมการ

(๒) ปลัดจังหวัด ประชาสัมพันธ์จังหวัด ปศุ สัตว์จังหวัด หัวหน้าส านักงานป้องกันและ บรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ผู้อ านวยการ ส านักงานป้องกันควบคุมโรคที่รับผิดชอบใน เขตจังหวัด และนายกองค์การบริหารส่วน จังหวัด เป็นกรรมการ

(๓) นายกเทศมนตรี จ านวนหนึ่งคน และ นายกองค์การบริหารส่วนต าบล จ านวนหนึ่ง คน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้ง เป็น กรรมการ

(๔) ผู้อ านวยการโรงพยาบาลศูนย์หรือ ผู้อ านวยการโรงพยาบาลทั่วไป จ านวนหนึ่งคน ผู้อ านวยการโรงพยาบาลชุมชน จ านวนสอง คน และสาธารณสุขอ าเภอ จ านวนสองคน ซึ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งเป็นกรรมการ

(๕) ผู้ด าเนินการสถานพยาบาลตามกฎหมาย ว่าด้วยสถานพยาบาล จ านวนหนึ่งคน ซึ่งผู้ว่า ราชการจังหวัดแต่งตั้ง เป็นกรรมการ ในกรณีที่จังหวัดใดมีโรงพยาบาลในสังกัด หน่วยงานของรัฐอื่นนอกจาก (๔) ให้ผู้ว่าราชการ จังหวัดแต่งตั้งผู้อ านวยการโรงพยาบาลในสังกัด หน่วยงานของรัฐนั้น จ านวนไม่เกินสามคน เป็น กรรมการด้วย ในกรณีที่จังหวัดใดมีด่านควบคุมโรคติดต่อ ระหว่างประเทศ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้ง เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อซึ่งประจ าด่าน ควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ จ านวนแห่ง ละหนึ่งคน และแต่งตั้งผู้รับผิดชอบช่อง ทางเข้าออกประจ าด่าน จ านวนแห่งละหนึ่งคน เป็นกรรมการด้วย ให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เป็นกรรมการ และเลขานุการ และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้ง ข้าราชการในสังกัดส านักงานสาธารณสุขจังหวัด ที่ด าเนินงานด้านการป้องกันควบคุมโรค จ านวน ไม่เกินสองคน เป็นกรรมการและ ผู้ช่วยเลขานุการ

มาตรา ๒๑

การแต่งตั้ง วาระการด ารงต าแหน่ง และการพ้น จากต าแหน่งของกรรมการตามมาตรา ๒๐ (๓) (๔) และ (๕) และกรรมการตามมาตรา ๒๐ วรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศก าหนด

มาตรา ๒๒

ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดมีอ านาจ หน้าที่ ดังต่อไปนี้

(๑) ด าเนินการตามนโยบาย ระบบ และ แนวทางปฏิบัติในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และ ควบคุมโรคติดต่อ ที่คณะกรรมการก าหนด

(๒) จัดท าแผนปฏิบัติการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่ออันตราย โรคติดต่อที่ ต้องเฝ้าระวัง หรือโรคระบาดในเขตพื้นที่ จังหวัด

(๓) รายงานสถานการณ์โรคติดต่อหรือโรคที่ ยังไม่ทราบสาเหตุที่อาจเป็นโรคระบาดซึ่ง เกิดขึ้นในเขตพื้นที่จังหวัดต่ออธิบดี

(๔) สนับสนุน ส่งเสริม ติดตาม และ ประเมินผลการปฏิบัติของหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องภายในจังหวัดแล้วรายงานต่อ คณะกรรมการ

(๕) แต่งตั้งคณะท างานประจ าช่อง ทางเข้าออกตามมาตรา ๒๓ ในกรณีที่จังหวัด นั้นมีด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ

(๖) เรียกให้บุคคลใด ๆ มาให้ข้อเท็จจริงหรือ แสดงความคิดเห็น หรือให้จัดส่งข้อมูลหรือ เอกสารใด ๆ ที่จ าเป็นหรือข้อคิดเห็นมาเพื่อใช้ ประกอบการพิจารณา

(๗) ด าเนินการอื่นใดที่เกี่ยวกับการควบคุม โรคติดต่อตามที่คณะกรรมการหรือผู้ว่า ราชการจังหวัดมอบหมาย หรือตามที่บัญญัติ ไว้ในพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๒๓

คณะท างานประจ าช่องทางเข้าออก ประกอบด้วย

(๑) เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐซึ่งเป็น ผู้รับผิดชอบช่องทางเข้าออกนั้น เป็นประธาน คณะท างาน

(๒) ผู้แทนกรมปศุสัตว์ ผู้แทนกรมวิชาการ เกษตร ผู้แทนกรมศุลกากร ผู้แทนส านักงาน คณะกรรมการอาหารและยา และผู้แทน ส านักงานตรวจคนเข้าเมืองผู้ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ ในช่องทางเข้าออกนั้น เป็นคณะท างาน

(๓) ผู้อ านวยการโรงพยาบาลในสังกัด หน่วยงานของรัฐที่ดูแลรับผิดชอบช่อง ทางเข้าออกนั้น เป็นคณะท างาน

(๔) เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อซึ่งประจ า ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ จ านวน หนึ่งคน เป็นคณะท างานและเลขานุการ ในกรณีที่ช่องทางเข้าออกใดมีผู้แทนจาก หน่วยงานของรัฐปฏิบัติหน้าที่ในช่อง ทางเข้าออกน้อยกว่าหน่วยงานตามที่ก าหนด ไว้ใน (๒) ในการนี้ ให้คณะท างาน ประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานเท่าที่มีอยู่ ในกรณีที่ช่องทางเข้าออกใดมีผู้แทนจาก หน่วยงานของรัฐปฏิบัติหน้าที่ในช่องทางเข้าออก มากกว่าหน่วยงานตามที่ก าหนดไว้ใน (๒) ให้ คณะกรรมการมีอ านาจประกาศก าหนดเพิ่มเติม จากจ านวนที่มีอยู่เดิม

มาตรา ๒๔

ให้คณะท างานประจ าช่องทางเข้าออกมีอ านาจ หน้าที่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ดังต่อไปนี้

(๑) จัดท าแผนปฏิบัติการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและแผน เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้าน สาธารณสุข

(๒) ประสาน สนับสนุน และติดตาม ประเมินผลการด าเนินงานตามแผนใน (๑)

(๓) จัดท าแผนการติดต่อสื่อสารกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกับการเฝ้าระวัง ป้องกัน และ ควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ

(๔) ด าเนินการอื่นใดที่เกี่ยวกับการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อตามที่ คณะกรรมการหรือคณะกรรมการโรคติดต่อ จังหวัดมอบหมาย

มาตรา ๒๕

ให้น าความในมาตรา ๑๕ มาใช้บังคับแก่การ ประชุมของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและ คณะท างานประจ าช่องทางเข้าออกโดยอนุโลม

หมวด ๔ คณะกรรมการโรคติดต่อ กรุงเทพมหานคร

มาตรา ๒๖

ให้มีคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย

(๑) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธาน กรรมการ

(๒) ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้แทนส านักงาน ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกรมควบคุม โรค ผู้แทนกรมประชาสัมพันธ์ ผู้แทนกรมปศุ สัตว์ ผู้แทนกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ผู้อ านวยการส านักการแพทย์กรุงเทพมหานคร ผู้อ านวยการส านักป้องกันและบรรเทาสา ธารณภัยกรุงเทพมหานคร และผู้อ านวยการ โรงพยาบาลสังกัดสภากาชาดไทยในเขต กรุงเทพมหานคร เป็นกรรมการ

(๓) ผู้อ านวยการโรงพยาบาลในสังกัด กรุงเทพมหานคร จ านวนหนึ่งคน ผู้อ านวยการ โรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวง สาธารณสุข จ านวนหนึ่งคน และผู้อ านวยการ ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาใน กรุงเทพมหานคร จ านวนหนึ่งคน ซึ่งผู้ว่า ราชการกรุงเทพมหานครแต่งตั้ง เป็นกรรมการ

(๔) ผู้อ านวยการโรงพยาบาลในสังกัด หน่วยงานของรัฐนอกจาก (๓) ซึ่งผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานครแต่งตั้ง จ านวนไม่เกินห้าคน เป็นกรรมการ

(๕) ผู้ด าเนินการสถานพยาบาลตามกฎหมาย ว่าด้วยสถานพยาบาลในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแต่งตั้ง จ านวนหนึ่งคน เป็นกรรมการ

(๖) เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อซึ่งประจ า ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศในเขต กรุงเทพมหานคร จ านวนแห่งละหนึ่งคน และ แต่งตั้งผู้รับผิดชอบช่องทางเข้าออกประจ า ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศนั้น ๆ จ านวนแห่งละหนึ่งคน เป็นกรรมการ ให้ผู้อ านวยการส านักอนามัยกรุงเทพมหานคร เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานครแต่งตั้งข้าราชการในสังกัด ส านักอนามัยกรุงเทพมหานครที่ด ารงต าแหน่งใน ระดับไม่ต ่ากว่าผู้อ านวยการกอง จ านวนไม่เกิน สองคน เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ

มาตรา ๒๗

การแต่งตั้ง วาระการด ารงต าแหน่ง และการพ้น จากต าแหน่งของกรรมการตามมาตรา ๒๖ (๓) (๔) และ (๕) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศก าหนด

มาตรา ๒๘

ให้คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครมี อ านาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(๑) ด าเนินการตามนโยบาย ระบบ และ แนวทางปฏิบัติในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และ ควบคุมโรคติดต่อ ที่คณะกรรมการก าหนด

(๒) จัดท าแผนปฏิบัติการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่ออันตราย โรคติดต่อที่ ต้องเฝ้าระวังหรือโรคระบาดในเขตพื้นที่ กรุงเทพมหานคร

(๓) รายงานสถานการณ์โรคติดต่อหรือโรคที่ ยังไม่ทราบสาเหตุที่อาจเป็นโรคระบาดซึ่ง เกิดขึ้นในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครต่ออธิบดี

(๔) สนับสนุน ส่งเสริม ติดตาม และ ประเมินผลการปฏิบัติของหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องภายในกรุงเทพมหานคร แล้วรายงาน ต่อคณะกรรมการ

(๕) แต่งตั้งคณะท างานประจ าช่อง ทางเข้าออกตามมาตรา ๒๓

(๖) เรียกให้บุคคลใด ๆ มาให้ข้อเท็จจริงหรือ แสดงความคิดเห็น หรือให้จัดส่งข้อมูลหรือ เอกสารใด ๆ ที่จ าเป็นหรือข้อคิดเห็นมาเพื่อใช้ ประกอบการพิจารณา

(๗) ด าเนินการอื่นใดที่เกี่ยวกับการควบคุม โรคติดต่อตามที่คณะกรรมการหรือผู้ว่า ราชการกรุงเทพมหานครมอบหมาย หรือ ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๒๙

ให้น าความในมาตรา ๑๕ มาใช้บังคับแก่การ ประชุมของคณะกรรมการโรคติดต่อ กรุงเทพมหานครและคณะท างานประจ าช่อง ทางเข้าออกโดยอนุโลม

มาตรา ๓๐

ให้น าความในมาตรา ๒๓ และมาตรา ๒๔ มาใช้ บังคับแก่องค์ประกอบ และอ านาจหน้าที่ของ คณะท างานประจ าช่องทางเข้าออกที่ คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครแต่งตั้ง โดยอนุโลม

หมวด ๕ การเฝ้าระวังโรคติดต่อ

มาตรา ๓๑

ในกรณีที่มีโรคติดต่ออันตราย โรคติดต่อที่ต้อง เฝ้าระวัง หรือโรคระบาดเกิดขึ้นให้บุคคล ดังต่อไปนี้แจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ

(๑) เจ้าบ้านหรือผู้ควบคุมดูแลบ้าน หรือแพทย์ ผู้ท าการรักษาพยาบาลในกรณีที่พบผู้ที่เป็น หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดต่อ ดังกล่าวเกิดขึ้นในบ้าน

(๒) ผู้รับผิดชอบในสถานพยาบาล ในกรณีที่ พบผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็น โรคติดต่อดังกล่าวเกิดขึ้นในสถานพยาบาล

(๓) ผู้ท าการชันสูตรหรือผู้รับผิดชอบใน สถานที่ที่ได้มีการชันสูตร ในกรณีที่ได้มีการ ชันสูตรทางการแพทย์หรือทางการสัตวแพทย์ ตรวจพบว่าอาจมีเชื้ออันเป็นเหตุของโรคติดต่อ ดังกล่าว

(๔) เจ้าของ หรือผู้ควบคุมสถานประกอบการ หรือสถานที่อื่นใด ในกรณีที่พบผู้ที่เป็นหรือมี เหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดต่อดังกล่าว เกิดขึ้นในสถานที่นั้น หลักเกณฑ์ และวิธีการแจ้งตามวรรคหนึ่ง ให้ เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศก าหนดโดยความ เห็นชอบของคณะกรรมการ

มาตรา ๓๒

เมื่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อได้รับแจ้งตาม มาตรา ๓๑ ว่ามีเหตุสงสัย มีข้อมูลหรือหลักฐาน ว่ามีโรคติดต่ออันตราย โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง หรือโรคระบาด ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ แจ้งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือ คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี และรายงานข้อมูลนั้นให้กรม ควบคุมโรคทราบโดยเร็ว

มาตรา ๓๓

ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีโรคติดต่อ อันตราย โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังหรือโรคระบาด เกิดขึ้นในต่างประเทศ ให้กรมควบคุมโรค ประสานงานไปยังองค์การอนามัยโลกเพื่อขอ ข้อมูลเกี่ยวกับโรคดังกล่าว

หมวด ๖ การป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ

มาตรา ๓๔

เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุม โรคติดต่อ เมื่อเกิดโรคติดต่ออันตรายหรือโรค ระบาดหรือมีเหตุสงสัยว่าได้เกิดโรคติดต่อ อันตรายหรือโรคระบาดในเขตพื้นที่ใด ให้เจ้า พนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่นั้นมีอ านาจที่ จะด าเนินการเองหรือออกค าสั่งเป็นหนังสือให้ ผู้ใดด าเนินการ ดังต่อไปนี้

(๑) ให้ผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็น โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาด หรือผู้ที่เป็น ผู้สัมผัสโรคหรือเป็นพาหะ มารับการตรวจหรือ รักษา หรือรับการชันสูตรทางการแพทย์ และ เพื่อความปลอดภัยอาจด าเนินการโดยการ แยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกต ณ สถานที่ซึ่ง เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อก าหนด จนกว่า จะได้รับการตรวจและการชันสูตรทาง การแพทย์ว่าพ้นระยะติดต่อของโรคหรือสิ้นสุด เหตุอันควรสงสัย ทั้งนี้ หากเป็นสัตว์ให้ เจ้าของหรือผู้ครอบครองสัตว์เป็นผู้น าสัตว์มา รับการตรวจหรือรักษา หรือรับการชันสูตรทาง การแพทย์

(๒) ให้ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะติดโรคได้รับการ สร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ตามวัน เวลา และ สถานที่ ซึ่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ก าหนด เพื่อมิให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรค ระบาดแพร่ออกไป ทั้งนี้ หากเป็นสัตว์ให้ เจ้าของหรือผู้ครอบครองสัตว์เป็นผู้น าสัตว์มา รับการป้องกันโรค

(๓) ให้น าศพหรือซากสัตว์ซึ่งตายหรือมีเหตุอัน ควรสงสัยว่าตายด้วยโรคติดต่ออันตรายหรือ โรคระบาดไปรับการตรวจ หรือจัดการทาง การแพทย์ หรือจัดการด้วยประการอื่นใด เพื่อ ป้องกันการแพร่ของโรค

(๔) ให้เจ้าของ ผู้ครอบครอง หรือผู้พักอาศัยใน บ้าน โรงเรือน สถานที่ หรือพาหนะที่มี โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดเกิดขึ้น ก าจัดความติดโรคหรือท าลายสิ่งใด ๆ ที่มีเชื้อ โรคติดต่อหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีเชื้อ โรคติดต่อ หรือแก้ไขปรับปรุงการสุขาภิบาลให้ ถูกสุขลักษณะ เพื่อการควบคุมและป้องกัน การแพร่ของโรค ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับค าสั่งต้อง ด าเนินการตามค าสั่งดังกล่าวจนกว่าเจ้า พนักงานควบคุมโรคติดต่อจะมีค าสั่งยกเลิก

(๕) ให้เจ้าของ ผู้ครอบครอง หรือผู้พักอาศัยใน บ้าน โรงเรือน สถานที่ หรือพาหนะที่มี โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดเกิดขึ้น ด าเนินการเพื่อการป้องกันการแพร่ของโรค ด้วยการก าจัดสัตว์ แมลง หรือตัวอ่อนของ แมลงที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคติดต่อ อันตรายหรือโรคระบาด

(๖) ห้ามผู้ใดกระท าการหรือด าเนินการใด ๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะซึ่ง อาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรค ระบาดแพร่ออกไป

(๗) ห้ามผู้ใดเข้าไปหรือออกจากที่เอกเทศ เว้น แต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุม โรคติดต่อ

(๘) เข้าไปในบ้าน โรงเรือน สถานที่ หรือ พาหนะที่มีหรือสงสัยว่ามีโรคติดต่ออันตราย หรือโรคระบาดเกิดขึ้นเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมมิให้มีการแพร่ของโรค ในการด าเนินการตามวรรคหนึ่ง เจ้าพนักงาน ควบคุมโรคติดต่อต้องท าการสอบสวนโรคและ หากพบว่ามีโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาด เกิดขึ้นในเขตพื้นที่ใด ให้เจ้าพนักงานควบคุม โรคติดต่อแจ้งต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี และรายงานข้อมูลนั้นให้กรม ควบคุมโรคทราบโดยเร็ว หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการด าเนินการ หรือออกค าสั่งตามวรรคหนึ่ง และการสอบสวน โรคตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรี ประกาศก าหนดโดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการ

มาตรา ๓๕

ในกรณีที่มีเหตุจ าเป็นเร่งด่วนเพื่อเป็นการ ป้องกันการแพร่ของโรคติดต่ออันตรายหรือโรค ระบาด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือผู้ว่า ราชการกรุงเทพมหานครโดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร มี อ านาจในพื้นที่ความรับผิดชอบของตน ดังต่อไปนี้

(๑) สั่งปิดตลาด สถานที่ประกอบหรือจ าหน่าย อาหาร สถานที่ผลิตหรือจ าหน่ายเครื่องดื่ม โรงงาน สถานที่ชุมนุมชน โรงมหรสพ สถานศึกษา หรือสถานที่อื่นใดไว้เป็นการ ชั่วคราว

(๒) สั่งให้ผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็น โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดหยุดการ ประกอบอาชีพเป็นการชั่วคราว

(๓) สั่งห้ามผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า เป็นโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดเข้าไป ในสถานที่ชุมนุมชน โรงมหรสพ สถานศึกษา หรือสถานที่อื่นใด เว้นแต่ได้รับอนุญาตจาก เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ

มาตรา ๓๖

ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดโดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานครโดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการควบคุม โรคติดต่อขึ้นในทุกอ าเภอหรือทุกเขตอย่างน้อย หนึ่งหน่วย เพื่อท าหน้าที่ในการเฝ้าระวัง สอบสวนโรค ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อ อันตรายหรือโรคระบาด ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การ จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อให้ เป็นไปตามที่คณะกรรมการประกาศก าหนด หน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อตามวรรคหนึ่ง อย่างน้อยต้องประกอบด้วยเจ้าพนักงานควบคุม โรคติดต่อหนึ่งคน เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และ การสาธารณสุขสองคน และอาจแต่งตั้ง เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือ หน่วยงานภาคเอกชน ตามจ านวนที่ผู้ว่าราชการ จังหวัดหรือผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เห็นสมควรเป็นหน่วยปฏิบัติการควบคุม โรคติดต่อร่วมด้วยก็ได้

มาตรา ๓๗

ให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบช่องทางเข้าออกปฏิบัติ ตามวิธีการเพื่อการเฝ้าระวัง ป้องกัน และ ควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ในบริเวณช่อง ทางเข้าออก ดังต่อไปนี้

(๑) จัดการสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมให้ถูก สุขลักษณะ รวมทั้งก าจัดสิ่งอันอาจเป็น อันตรายต่อสุขภาพ

(๒) จัดการสุขาภิบาลเกี่ยวกับอาหารและน ้า ให้ถูกสุขลักษณะ

(๓) ก าจัดยุง และพาหะน าโรค

(๔) ปฏิบัติการตามวิธีการอื่นใดตามที่ คณะกรรมการประกาศก าหนด

มาตรา ๓๘

เมื่อมีเหตุอันสมควร ให้เจ้าพนักงานควบคุม โรคติดต่อประจ าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่าง ประเทศมีอ านาจตรวจตรา ควบคุม ก ากับดูแล ในพื้นที่นอกช่องทางเข้าออก และแจ้งให้เจ้า พนักงานท้องถิ่นด าเนินการก าจัดยุงและพาหะ น าโรคในบริเวณรัศมีสี่ร้อยเมตรรอบช่อง ทางเข้าออก ในการนี้ ให้เจ้าของหรือผู้อยู่ใน บ้าน โรงเรือน หรือสถานที่ในบริเวณดังกล่าว อ านวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุม โรคติดต่อประจ าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่าง ประเทศและเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามสมควร

มาตรา ๓๙

ในการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อระหว่าง ประเทศ เมื่อมีเหตุอันสมควรหรือมีเหตุสงสัยว่า พาหนะนั้นมาจากท้องที่หรือเมืองท่าใดนอก ราชอาณาจักรที่มีโรคระบาด ให้เจ้าพนักงาน ควบคุมโรคติดต่อประจ าด่านควบคุมโรคติดต่อ ระหว่างประเทศมีอ านาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(๑) ให้เจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะ แจ้งก าหนดวัน เวลา และสถานที่ที่พาหนะนั้น ๆ จะเข้ามาถึงด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่าง ประเทศต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ประจ าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ

(๒) ให้เจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะที่ เข้ามาในราชอาณาจักรยื่นเอกสารต่อเจ้า พนักงานควบคุมโรคติดต่อประจ าด่านควบคุม โรคติดต่อระหว่างประเทศ

(๓) ห้ามผู้ใดเข้าไปในหรือออกจากพาหนะที่ เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยังไม่ได้รับ การตรวจจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ประจ าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และห้ามผู้ใดน าพาหนะอื่นใดเข้าเทียบพาหนะ นั้น เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ควบคุมโรคติดต่อประจ าด่านควบคุม โรคติดต่อระหว่างประเทศ

(๔) เข้าไปในพาหนะและตรวจผู้เดินทาง สิ่งของ หรือสัตว์ที่มากับพาหนะ ตรวจตราและ ควบคุมให้เจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุม พาหนะแก้ไขการสุขาภิบาลของพาหนะให้ถูก สุขลักษณะ รวมทั้งก าจัดสิ่งอันอาจเป็น อันตรายต่อสุขภาพในพาหนะ ในการนี้ ให้ เจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะอ านวย ความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ประจ าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ

(๕) ห้ามเจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะ น าผู้เดินทางซึ่งไม่ได้รับการสร้างเสริม ภูมิคุ้มกันโรคตามที่รัฐมนตรีประกาศก าหนด โดยค าแนะน าของคณะกรรมการเข้ามาใน ราชอาณาจักร

การแจ้งและการยื่นเอกสารของเจ้าของพาหนะ หรือผู้ควบคุมพาหนะตาม (๑) และ (๒) และการ ห้ามเจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะตาม (๕) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เงื่อนไขที่ก าหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๔๐

เมื่อรัฐมนตรีประกาศให้ท้องที่หรือเมืองท่าใด นอกราชอาณาจักรเป็นเขตติดโรคตามมาตรา ๘ ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจ าด่าน ควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ มีอ านาจ ด าเนินการเอง หรือออกค าสั่งเป็นหนังสือให้ เจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะที่เข้ามาใน ราชอาณาจักรจากท้องที่หรือเมืองท่านั้น ด าเนินการดังต่อไปนี้

(๑) ก าจัดความติดโรค เพื่อป้องกันและ ควบคุมการแพร่ของโรค

(๒) จัดให้พาหนะจอดอยู่ ณ สถานที่ที่ ก าหนดให้จนกว่าเจ้าพนักงานควบคุม โรคติดต่อประจ าด่านควบคุมโรคติดต่อ ระหว่างประเทศจะอนุญาตให้ไปได้

(๓) ให้ผู้เดินทางซึ่งมากับพาหนะนั้นรับการ ตรวจในทางแพทย์ และอาจให้แยกกัก กักกัน คุมไว้สังเกต หรือรับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน โรค ณ สถานที่และระยะเวลาที่ก าหนด

(๔) ห้ามผู้ใดเข้าไปในหรือออกจากพาหนะนั้น หรือที่เอกเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้า พนักงานควบคุมโรคติดต่อประจ าด่านควบคุม โรคติดต่อระหว่างประเทศ

(๕) ห้ามผู้ใดน าวัตถุ สิ่งของ หรือเครื่องใช้ที่ เป็นหรือมีเหตุสงสัยว่าเป็นสิ่งติดโรคเข้าไปใน หรือออกจากพาหนะนั้น เว้นแต่ได้รับอนุญาต จากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจ าด่าน ควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ

มาตรา ๔๑

ให้เจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะเป็นผู้ ออกค่าใช้จ่ายในการขนส่งผู้เดินทางซึ่งมากับ พาหนะนั้น เพื่อแยกกัก กักกัน คุมไว้สังเกต หรือ รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ตลอดทั้งออก ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดู การรักษาพยาบาล การ ป้องกันและควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ตามมาตรา ๔๐ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง การก าหนดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการด าเนินการ ตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศก าหนดโดยความ เห็นชอบของคณะกรรมการ

มาตรา ๔๒

ในกรณีที่พบว่าผู้เดินทางเป็นหรือมีเหตุอันควร สงสัยว่าเป็นโรคติดต่ออันตรายโรคระบาด หรือ พาหะน าโรค ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ประจ าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศมี อ านาจสั่งให้บุคคลดังกล่าวถูกแยกกัก กักกัน คุม ไว้สังเกต หรือได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการด าเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้เดินทางผู้นั้นเป็นผู้รับผิดชอบ ทั้งนี้ ตาม หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรี ประกาศก าหนดโดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการ

มาตรา ๔๓

เพื่อประโยชน์ในการป้องกันโรคติดต่อระหว่าง ประเทศหรือโรคระบาด ให้อธิบดีหรือผู้ที่อธิบดี มอบหมายมีอ านาจออกหนังสือรับรองการสร้าง เสริมภูมิคุ้มกันโรคหรือการได้รับยาป้องกัน โรคติดต่อระหว่างประเทศ หรือหนังสือรับรองอื่น ๆ ให้แก่ผู้ร้องขอ โดยผู้ร้องขอเป็นผู้รับผิดชอบ ค่าใช้จ่าย การมอบหมาย การเรียกเก็บหรือการยกเว้นการ เรียกเก็บค่าใช้จ่าย ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศ ก าหนด

มาตรา ๔๔

ในกรณีที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อได้ออก ค าสั่งให้ผู้ใดด าเนินการตามมาตรา ๓๔ (๓) (๔) หรือ (๕) มาตรา ๓๘ มาตรา ๓๙ (๔) หรือมาตรา ๔๐ (๑) (๒) หรือ (๓) แล้ว ผู้นั้นละเลยไม่ ด าเนินการตามค าสั่งภายในเวลาที่ก าหนด เจ้า พนักงานควบคุมโรคติดต่อมีอ านาจด าเนินการ แทนได้ โดยให้ผู้นั้นชดใช้ค่าใช้จ่ายในการ ด าเนินการนั้นตามจ านวนที่จ่ายจริง ทั้งนี้ ตาม ระเบียบที่กระทรวงสาธารณสุขก าหนด

หมวด ๗ เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ

มาตรา ๔๕

เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อมีอ านาจ ดังต่อไปนี้

(๑) มีหนังสือเรียกบุคคลใด ๆ มาให้ถ้อยค า หรือแจ้งข้อเท็จจริงหรือท าค าชี้แจงเป็นหนังสือ หรือให้ส่งเอกสารหรือหลักฐานใดเพื่อ ตรวจสอบหรือเพื่อใช้ประกอบการพิจารณา

(๒) เข้าไปในพาหนะ อาคาร หรือสถานที่ใด ๆ ในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและพระ อาทิตย์ตก หรือในเวลาท าการของอาคารหรือ สถานที่นั้น เพื่อตรวจสอบหรือควบคุมให้ เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ และหากยัง ด าเนินการไม่แล้วเสร็จในเวลาดังกล่าวให้ สามารถด าเนินการต่อไปได้จนกว่าจะแล้ว เสร็จ

การด าเนินการตาม (๒) ให้เป็นไปตาม หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีก าหนด ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานควบคุม โรคติดต่อตาม (๒) ให้บุคคลที่เกี่ยวข้องอ านวย ความสะดวกตามสมควร

มาตรา ๔๖

ให้มีเครื่องแบบ เครื่องหมาย และบัตรประจ าตัว ส าหรับเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อเพื่อแสดง ตัวขณะปฏิบัติหน้าที่ต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง เครื่องแบบ เครื่องหมาย และบัตรประจ าตัวตาม วรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามแบบที่กระทรวง สาธารณสุขประกาศก าหนด

มาตรา ๔๗

ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้เจ้า พนักงานควบคุมโรคติดต่อเป็นเจ้าพนักงานตาม ประมวลกฎหมายอาญา

หมวด ๘ ค่าทดแทน

มาตรา ๔๘

ในการด าเนินการของเจ้าพนักงานควบคุม โรคติดต่อตามพระราชบัญญัตินี้ หากเกิดความ เสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของบุคคลใดจาก การเฝ้าระวัง การป้องกัน หรือการควบคุมโรคให้ ทางราชการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นให้แก่ผู้ นั้นตามความจ าเป็น การชดเชยความเสียหายตามวรรคหนึ่ง ให้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ ก าหนดในกฎกระทรวง

หมวด ๙ บทก าหนดโทษ

มาตรา ๔๙

ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามค าสั่งของคณะกรรมการ คณะกรรมการด้านวิชาการ หรือ คณะอนุกรรมการตามมาตรา ๑๘ หรือค าสั่งของ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตามมาตรา ๒๒ (๖) หรือค าสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อ กรุงเทพมหานครตามมาตรา ๒๘ (๖) หรือค าสั่ง ของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา ๔๕ (๑) ต้องระวางโทษจ าคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจ าทั้งปรับ

มาตรา ๕๐

ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการแจ้งตาม มาตรา ๓๑ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่น บาท

มาตรา ๕๑

ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามค าสั่งของเจ้า พนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา ๓๔ (๑) (๒) (๕) หรือ (๖) มาตรา ๓๙ (๑) (๒) (๓) หรือ (๕) มาตรา ๔๐ (๕) หรือไม่อ านวยความสะดวก แก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา ๓๙ (๔) ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

มาตรา ๕๒

ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามค าสั่งของเจ้า พนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา ๓๔ (๓) (๔) (๗) หรือ (๘) หรือมาตรา ๔๐ (๓) หรือ (๔) หรือผู้ว่าราชการจังหวัดหรือผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร ตามมาตรา ๓๕ ต้องระวาง โทษจ าคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสน บาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ

มาตรา ๕๓

ผู้ใดไม่อ านวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงาน ควบคุมโรคติดต่อหรือเจ้าพนักงานท้องถิ่นตาม มาตรา ๓๘ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่น บาท

มาตรา ๕๔

เจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะผู้ใดไม่ ปฏิบัติตามค าสั่งของเจ้าพนักงานควบคุม โรคติดต่อตามมาตรา ๔๐ (๒) ต้องระวางโทษ จ าคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจ าทั้งปรับ

มาตรา ๕๕

ผู้ใดขัดขวางหรือไม่อ านวยความสะดวกแก่เจ้า พนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา ๔๕ วรรค สาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

มาตรา ๕๖

ผู้ใดไม่มีสิทธิที่จะสวมเครื่องแบบหรือประดับ เครื่องหมายของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตามมาตรา ๔๖ กระท าการเช่นนั้นเพื่อให้บุคคล อื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ ต้องระวางโทษจ าคุกไม่เกิน หกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจ า ทั้งปรับ

มาตรา ๕๗

บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ที่มีโทษ ปรับสถานเดียวหรือมีโทษจ าคุกไม่เกินหนึ่งปี ให้ อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายมีอ านาจ เปรียบเทียบได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์การ เปรียบเทียบที่คณะกรรมการก าหนด เมื่อผู้ต้องหาได้ช าระเงินค่าปรับตามจ านวนที่ เปรียบเทียบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีการ เปรียบเทียบแล้ว ให้ถือว่าคดีเลิกกันตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

บทเฉพาะกาล

มาตรา ๕๘

ให้เจ้าพนักงานสาธารณสุขตามพระราชบัญญัติ โรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๒๓ เป็นเจ้าพนักงานควบคุม โรคติดต่อตามพระราชบัญญัตินี้จนกว่าจะมีการ แต่งตั้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตาม พระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๕๙

ในวาระเริ่มแรก ให้คณะกรรมการประกอบด้วย กรรมการตามมาตรา ๑๑ ยกเว้นกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๑๑ (๔) ปฏิบัติหน้าที่ คณะกรรมการตามพระราชบัญญัตินี้ไปพลาง ก่อนจนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ต้อง ไม่เกินหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่ พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

มาตรา ๖๐

บรรดากฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ หรือค าสั่ง ใดที่ออกตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๒๓ ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่ พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ใช้บังคับได้ต่อไป เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่ง พระราชบัญญัตินี้ จนกว่าจะมีกฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศตามพระราชบัญญัตินี้ใช้ บังคับ การด าเนินการออกกฎกระทรวง ระเบียบ หรือ ประกาศตามวรรคหนึ่งให้ด าเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในหนึ่งปี นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้ บังคับ หากไม่สามารถด าเนินการได้ ให้รัฐมนตรี รายงานเหตุผลที่ไม่อาจด าเนินการได้ต่อ คณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

「2015년 전염병법」

• 국가·지역: 태국 • 제 정 일: 2015년 8월 10일

푸미폰아둔야뎃 국왕 폐하께서 현 왕조의 70번째 해인 2015년(불기2558년) 8월 10일에 하사하셨다. 푸미폰아둔야뎃 국왕 폐하께서는 다음과 같이 공포하도록 하셨다. 전염병 관련 법률을 개정하는 것 이 합당하다. 그러므로 입법부의 조언과 동의 를 통하여 다음과 같이 법을 제 정한다.

제1조

이 법은 “2015년 전염병법”이라 고 한다.

제2조

이 법은 관보에 게재한 날부터 180일이 경과한 날에 시행하도 록 한다.

제3조

「1980년 전염병법」은 폐지하 도록 한다.

제4조

이 법에서 사용하는 용어의 뜻 은 다음과 같다. “전염병”이란 사람에게 직간접 적으로 전염될 수 있는 병원균 또는 병원균의 독소로 인해 발 생하는 질병을 말한다. “위험 전염병”이란 고도의 심각 성이 있으며, 빠르게 다른 사람 에게 전염될 수 있는 전염병을 말한다. “감시가 필요한 전염병”이란 지 속적인 모니터링과 조사 및 데 이터 수집이 필요한 전염병을 말한다. “유행병”이란 빠르고 광범위하 게 다른 사람에게 전염될 수 있 거나, 이전보다 더 비정상적으 로 발병률이 높을 수 있는 전염 병 또는 아직 발생 원인이 명확 하게 밝혀지지 아니한 병을 말 한다. “보균자”란 발현하는 전염병 증 상은 없으나, 신체에 해당 병원 균을 보유하고 있어 다른 사람 에게 전염시킬 수 있는 사람 또 는 동물을 말한다. “접촉자”란 감염된 사람이나 동 물 또는 물품에 전염될 수 있을 정도로 가까이 접근한 사람을 말한다. “전염기간”이란 병원균을 보유 한 사람 또는 동물로부터 다른 사람에게 직간접적으로 병원균 이 전염될 수 있는 기간을 말한 다. “분리”란 병원균이 해당 병원균 에 노출될 수 있는 사람에게 직 간접적으로 전염되지 아니하도 록 예방하기 위하여 질병 또는 매개체에 접촉한 사람을 전염기 간이 경과될 때까지 다른 사람 과 별도로 고립된 장소에 분리 하는 것을 말한다. “격리”란 해당 병원균에 노출될 수 있는 사람에게 병원균이 직 간접적으로 전염되지 아니하도 록 예방하기 위하여 질병 또는 매개체에 접촉한 사람을 전염기 간이 경과되거나, 매개체가 되 는 것에서 벗어날 때까지 다른 사람과 별도로 고립된 장소에 있도록 통제하는 것을 말한다 “관찰 관리”란 질병 또는 매개 체 접촉자를 격리 없이 감시하 는 것을 말하며, 병원균을 접촉 한 사람에게 해당 병원균이 직 간접적으로 전염되지 아니하도 록 예방하기 위하여 지정된 특 정 장소에 도착하였을 때 해당 자가 그 지역 주재 질병 통제 담당관에게 출두하여야 하도록 조건을 설정하여 어떠한 장소를 통과하도록 허가할 수도 있다. “잠복기”란 병원균이 몸속으로 침투한 때부터 전염자에게 해당 질병의 증상이 나타나는 때에 이르기까지를 말한다. “전염병 지역”이란 위험 전염병 또는 유행병이 발생한 국외의 지방 또는 항구 도시를 말한다. “질병 조사”란 질병 통제를 위 하여 질병의 원인과 발생원 및 전파원을 찾기 위한 과정을 말 한다. “감시”란 질병 통제의 목적으로 체계적인 절차를 통하여 질병의 전염 데이터를 관찰, 수집하고 분석하며, 결과를 보고하고 추 적하는 것을 말한다. “운송수단”이란 육상이나 수상 또는 항공으로 차량이나 동물, 또는 물품을 운송하는 데 이용 하는 차량이나 동물 또는 물체 를 말한다. “운송수단 소유주”란 해당 운송 수단 소유주의 대리인이나 임차 인, 임차인의 대리인 또는 점유 자를 포함하여 말한다. “운송수단 관리자”란 운송수단 관리의 책임자를 말한다. “여행자”이란 국내에 입국하는 사람을 말하여, 운송수단 관리 자 및 운송수단 승무원을 포함 하여 말하도록 한다. “면역화”란 사람이나 동물에게 질병에 대한 저항성을 유발하기 위하여 특정한 방법을 통하여 사람이나 동물에게 의료적 행위 를 하는 것을 말한다. “고립된 장소”란 질병 통제 담 당관이 병원균에 접촉할 수 있 는 사람에게 직간접적으로 질병 이 전염되지 아니하도록 예방하 기 위하여 어떠한 전염병에 감 염되었거나 감염이 의심되는 이 유가 있는 사람이나 동물의 분 리 또는 격리용으로 정하는 어 떠한 장소를 말한다. “위생”이란 전염병의 발생 또는 전파에 영향이 있는 환경 및 요 소를 통제하거나 예방 또는 관 리하는 것을 말한다. “출입국 통로”란 여행자나 운송 수단 또는 각종 물품의 국제 출 입국에 사용되는 경로나 장소를 말한다. 이와 관련하여 해당 서 비스 제공을 위하여 마련한 공 간이나 지역을 포함하여 말하도 록 한다. “위원회”란 국가전염병위원회를 말한다. “도전염병위원회”란 도지방 주 재 전염병 예방 및 통제 위원회 를 말한다. “방콕시전염병위원회”란 방콕시 주재 전염병 예방 및 통제 위원 회를 말한다. “국가기관”이란 중앙정부와 지 방정부, 지역정부, 국영기업, 공 공기관 및 기타 국가 기관을 말 한다. “전염병담당관”이란 장관이 이 법에 따른 집행을 위하여 임명 하는 사람을 말한다. “국장”이란 질병통제국장을 말 한다. “장관”이란 이 법에 따른 주무 장관을 말한다.

제5조

공중보건부 장관이 이 법에 따 른 주무 장관이 되도록 하며, 이 법에 따른 집행을 위하여 질 병통제담당관을 임명하고, 기타 업무를 규정하는 부령을 제정하 며, 규칙 및 고시 제정권을 갖 도록 한다. 그러한 부령과 규칙 및 고시는 관보에 게재 완료한 때에 시행 하도록 한다.

제1장 총칙

제6조

전염병 예방 및 통제의 목적을 위하여, 장관이 위원회의 조언 을 통하여 다음 각 항에 해당하 는 사항을 고시할 권한을 갖도 록 한다.

(1) 위험 전염병 및 감시가 필요한 전염병의 명칭 및 주요 증상

(2) 국내의 특정 출입국통로 에 대한 국제 전염병 통제소 지정 및 국제 전염병 통제소 지정 취소

(3) 면역화

제7조

전염병 예방 및 통제를 위하여, 장관이 위원회의 승인을 통하여 다음 각 항에 해당하는 사항을 고시할 권한을 갖도록 한다.

(1) 위험 전염병이나 감시가 필요한 전염병 또는 유행병이 발생한 경우에 대한 신고 원칙 및 방법

(2) 이행 또는 명령 및 질병 조사에 대한 원칙과 절차 및 조건

(3) 운송수단 소유주 또는 운 송수단 관리인에 대한 비용 규 정 관련 원칙과 절차 및 조건

(4) 여행자가 비용 부담자가 되어야 하는 원칙과 절차 및 조건

제8조

국내에 유입될 수 있는 위험 전 염병 또는 유행병 예방 및 통제 목적을 위하여, 장관이 학술 분 야 위원회의 조언을 통하여 국 외 지역 또는 항구 도시를 전염 병 지역으로 고시하고, 해당 질 병 상태가 진정된 때 또는 타당 한 이유가 있는 경우에는 취소 고시를 할 권한을 갖도록 한다.

제9조

유행병 예방 및 통제 목적을 위 하여, 국장이 학술 분야 위원회 의 조언을 통하여 유행병 명칭 과 주요 증상 및 발생 장소를 고시할 권한을 갖도록 하며, 제 34조에 따른 전염병 통제 담당 관에게 알리도록 하고, 아울러 해당 유행병이 진정된 때 또는 타당한 있는 경우에는 취소 고 시를 할 권한을 갖도록 한다.

제10조

신원 특정이 가능한지의 여부를 불문하고, 개인과 관련된 이 법 에 따른 질병 감시 또는 조사나 신고 또는 보고에 의한 정보인 경우에는 기밀 사항으로 간수하 여야 하며, 성명을 공개하지 아 니하고 결과를 수집하여야 한 다. 이와 관련하여 해당 결과 수집은 질병 예방 및 통제의 취 지에 합당하고 부합하여야 한 다. 전염병통제담당관은 정보 소유 주의 승낙을 받거나 위원회가 고시하는 원칙과 절차 및 조건 에 따라 국민의 건강에 영향을 미치는 위험 전염병 치료나 예 방, 통제 또는 유행병 발생과 관련한 첫번째 단락에 따른 정 보 일부분을 공개할 수도 있다.

제2장 국가전염병위원회

제11조

다음 각 항으로 구성되는 “국가 전염병위원회”라는 명칭의 위원 회 하나를 두도록 한다.

(1) 보건부 장관이 위원장이 된다.

(2) 국방부 사무차관과 외교 부 사무차관, 교통부 사무차 관, 내무부 사무차관, 노동부 사무차관, 교육부 사무차관, 보건부 사무차관, 법령위원회 사무처장, 경찰 총장, 의료국 장, 공보국장, 축산국장, 공해 방지경감국장, 의료과학국장, 지방자치지원국장, 위생국장, 국립공원야생동물식물종자국장 및 방콕시 정무부시장이 위원 이 된다.

(3) 각 단체당 1인의 의료협 의회 대표와 간호협의회 대표, 의료기술협의회 대표 및 사립 병원협회 대표가 위원이 된다.

(4) 공중보건, 질병 통제 분야 와 전염병 예방 및 통제에 유 용한 기타 분야에서 자명한 지 식과 전문성 및 경험을 갖춘 사람 중에서 장관이 임명하는 4인이 전문가 위원이 되며, 이 인원수 중에 적어도 1인은 이 윤을 추구하지 아니하고 공중 보건 분야 활동을 수행하는 목 적이 있는 비정부기구에서 임 명하여야 한다. 질병통제국장은 위원 겸 간사가 되도록 하며, 일반전염병사무처 장이 위원 겸 제1부간사, 역학 사무처장이 위원 겸 제2부간사 가 되도록 한다. 전문가 위원의 선정 자격과 원 칙 및 절차는 장관이 고시하는 규칙을 따르도록 한다.

제12조

전문가 위원의 임기는 회당 3년 이다. 전문가 위원이 임기 만료 전에 퇴임하는 경우, 퇴임일부터 30 일 이내에 장관이 같은 분야에 서 보궐 전문가 위원을 임명하 도록 하며, 임명된 사람은 본인 이 대신하는 전문가 위원의 잔 여 임기와 같은 기간 동안 재임 하도록 한다. 다만, 전문가 위원 의 잔여 임기가 90일 미만인 경 우에는 장관이 보궐 전문가 위 원 임명을 실시하지 아니할 수 도 있으며, 이와 같은 경우 위 원회는 남아 있는 위원으로만 구성하도록 한다.

제13조

전문가 위원은 임기에 따른 퇴 임 이외에도 다음 각 항의 어느 하나에 해당하는 때에는 퇴임한 다.

(1) 사망한 때

(2) 사임한 때

(3) 품행 불량, 직무에 대한 과실이나 부정 또는 능력 결여 로 장관이 면직한 때

(4) 파산자가 된 때

(5) 금치산자 또는 한정치산 자가 된 때

(6) 과실죄 또는 경범죄에 대 한 처벌을 제외하고, 최종 판 결에 의하여 금고형에 처하는 때

제14조

위원회에 다음 각 항에 해당하 는 권한과 직무를 부여한다.

(1) 국가 기관과 도전염병위 원회 및 방콕시전염병위원회가 이 법에 따라 집행하도록 하기 위한 전염병 감시와 예방 및 통제를 위한 정책과 체계 수립 및 방침 설정

(2) 전염병 또는 유행병 감시 와 예방 및 통제 실시 계획 승 인 검토하고 승인을 위하여 장 관에게 제출

(3) 장관에게 이 법에 따른 집행을 위한 부령과 규칙, 고 시 제정 및 집행 방침 설정에 대한 제언

(4) 전염병 감시와 예방 및 통제와 관련한 국가 기관 또는 민간에 대한 조언과 권고 제공 및 주선

(5) 제(2)항에 의거하여 장관 이 승인한 전염병 또는 유행병 감시와 예방 및 통제 실시 계 획에 따라 집행하도록 하기 위 한 국가 기관과 도전염병위원 회 및 방콕시전염병위원회의 업무 진행에 대한 관찰과 평가 및 조사

(6) 전염병 감시나 질병 조사, 예방 또는 통제 실시에 필요한 배상금이나 보상금, 사례금 또 는 기타 비용 지급과 관련한 원칙과 절차 및 조건 승인 검 토

(7) 이 법에 따른 집행을 위 한 학술 분야 위원회 또는 소 위원회 임명

(8) 위원회의 권한과 직무로 규정한 이 법 또는 기타 법률 에 따른 집행이나 장관이 위임 한 바에 따른 집행

제15조

위원회의 회의는 재적 위원 과 반수가 참석하여야 정족수가 된 다. 위원장이 회의의 의장이 되도록 한다. 만약 위원장이 회의에 불 참하거나 직무 수행을 할 수 없 다면, 회의에 참석한 위원 중 1 인이 의장이 되도록 한다. 회의의 결정은 다수결을 따르도 록 한다. 위원 1인은 1개의 표결권을 갖 도록 한다. 만약 동률이라면, 의 장이 추가로 하나의 결정표를 갖도록 한다.

제16조

제11조제(4)항에 따른 전문가 위원 중에서 임명하는 위원장으 로 구성되는 학술 분야 위원회 하나를 두도록 하며, 전염병 분 야의 지식과 전문성을 갖춘 사 람 중에서 임명하는 추가 7인의 위원을 포함하도록 한다. 학술 분야 위원회는 다음 각 항 의 권한과 직무를 담당한다.

(1) 장관에게 전염병 지역 고 시에 대한 제언

(2) 국장에게 전염병 고시에 대한 제언

(3) 장관 또는 국장에게 경우 에 따라 제(1)항 또는 제(2) 항에 따른 질병의 상태가 진정 된 때 또는 타당한 이유가 있 는 경우의 취소 고시에 대한 제언

(4) 위원회가 위임한 바에 따 른 집행

제12조 및 제13조의 내용을 학 술 분야 위원회의 임기 또는 퇴 임의 경우에 대하여 준용하도록 한다.

제17조

제15조의 내용을 학술 분야 위 원회 및 소위원회의 회의에 준 용하도록 한다.

제18조

이 법에 따른 직무 수행에서 위 원회와 학술 분야 위원회 및 소 위원회는 검토하는 데에 참고하 기 위하여 어떤 사람을 소환하 여 진술이나 의견 제시, 필요한 자료나 문서 제출 또는 견해를 표시하도록 하는 서면 명령권을 갖도록 한다.

제19조

질병통제국에 다음 각 항의 권 한과 직무를 부여하여 위원회와 학술 분야 위원회 및 소위원회 의 사무처로서 사무 업무를 책 임지도록 한다.

(1) 전염병 감시와 예방 및 통제 정책 제안 및 체계 수립 검토와 관련한 실행의 중앙 기 관이 된다.

(2) 위원회에 제출하기 위하 여 위험 전염병과 감시가 필요 한 전염병 및 유행병의 체제를 작성한다.

(3) 위원회에 제출하기 위한 전염병 또는 유행병 감시와 예 방 및 통제 실시 계획을 작성 한다.

(4) 전염병 및 유행병의 상태 감시와 예방 및 통제와 관련한 자료 및 정보 홍보 또는 전파 를 위한 중앙 정보 센터가 된 다.

(5) 위원회가 승인한 전염병 또는 유행병 감시와 예방 및 통제 실시 계획에 따른 집행과 관련한 도전염병위원회 및 방 콕시전염병위원회의 집행에 대 하여 관찰하고 평가하며, 조사 하기 위한 조정 기관이 된다.

(6) 국가 기관 및 민간이 전 염병 감시와 예방 및 통제 정 책 및 계획에 따른 집행을 실 현하도록 집행하고 협력하며, 지지 및 도움을 제공한다.

(7) 전염병과 관련한 감시나 예방, 통제 또는 연구에 대하 여 학술적인 방면과 의료 기재 또는 기구를 후원 및 지원하고 조정한다.

(8) 위원회나 학술 분야 위원 회 또는 소위원회가 위임하는 바에 따른 기타 직무를 수행한 다.

제3장 도전염병위원회

제20조

다음 각 항으로 구성되는 도전 염병위원회를 두도록 한다.

(1) 도지사가 위원장이 된다.

(2) 부도지사, 도공보국장, 도 축산국장, 도방재실장, 도지역 의 질병통제사무처장 및 도 행 정 기관장이 위원이 된다.

(3) 도지사가 임명하는 시장 1인 및 구청장 1인이 위원이 된다.

(4) 도지사가 임명하는 중앙 병원장 또는 종합병원장 1인 과 지역사회병원장 2인 및 군 지역 공중 위생 담당관 2인이 위원이 된다.

(5) 도지사가 임명하는 의료 기관 관련 법률에 따른 의료기 관 운영자 1인이 위원이 된다. 어떤 도에 제(4)항 이외 기타 국가 기관 산하 병원이 있는 경 우, 도지사는 3인 이하의 해당 국가 기관 산하 병원장을 위원 으로 임명하도록 한다. 어떤 도에 국제전염병통제검문 소가 있는 경우, 도지사는 각 국제전염병통제검문소 주재 전 염병통제담당관 각 1인과 각 출 입국 통로 책임자 각 1인을 위 원으로 임명하도록 한다. 도공중보건의는 위원 겸 간사가 되도록 하며, 도지사는 2인 이 하의 질병 예방 통제 분야 직무 를 수행하는 도공중보건사무처 소속 공무원을 위원 겸 부간사 로 임명하도록 한다.

제21조

제20조제(3)항과 제(4)항 및 제(5)항에 따른 위원 및 제20 조 두번째 단락에 따른 위원의 임명과 임기 및 퇴임은 위원회 가 고시하는 원칙과 절차 및 조 건을 따르도록 한다.

제22조

도전염병위원회에 다음 각 항의 권한과 직무를 부여한다.

(1) 위원회가 정하는 전염병 감시와 예방 및 통제 정책과 시스템 및 실행 방침에 따른 이행

(2) 도 지역에서의 위험 전염 병이나 감시가 필요한 전염병 또는 유행병 감시와 예방 및 통제 실행 계획 작성

(3) 국장에게 도지역에서 발 생한 전염병 또는 전염병이 될 수 있는 원인 불명의 질병에 대하여 보고

(4) 도내 관련 기관의 집행에 지원 및 후원하고 관찰, 평가 하여 위원회에 보고

(5) 해당 도내에 국제전염병 통제검문소가 있는 경우, 제23 조에 따른 출입국 통로 주재 실무단 임명

(6) 어떤 사람을 소환하여 진 술 또는 의견을 제시하도록 하 거나, 필요한 자료 또는 문서 또는 견해를 송부하도록 하여 검토하는 데에 참고

(7) 위원회 또는 도지사가 위 임하거나 이 법률에 규정한 바 에 따른 전염병 통제 관련 기 타 이행

제23조

출입국 통로 실무단은 다음 각 항으로 구성된다.

(1) 해당 출입국 통로 책임자 인 국가 기관의 담당관이 실무 단장이 된다.

(2) 해당 출입국 통로에서 직 무를 수행하는 축산국 대표와 농학국 대표, 관세청 대표, 식 약청 대표 및 출입국관리사무 소 대표가 실무진이 된다.

(3) 해당 출입국 통로에 대한 감독 및 책임을 담당하는 국가 기관 산하 병원장이 실무진이 된다.

(4) 국제전염병통제검문소 주 재 전염병 통제 담당관 1인이 실무진 겸 간사가 된다. 어떤 출입국 통로에서 직무를 수행하는 기관 대표가 제(2)항 에서 정하는 바에 따른 기관보 다 적은 경우, 실무단은 실재하 는 기관 출신 대표로만 구성하 도록 한다. 어떤 출입국 통로에서 직무를 수행하는 기관 대표가 제(2)항 에서 정하는 바에 따른 기관보 다 많은 경우에는 실무단이 기 존 인원수에서 추가로 정하여 고시할 권한을 갖도록 한다.

제24조

출입국 통로 주재 실무단은 관 할 지역에서 다음 각 항의 권한 과 직무를 담당하도록 한다.

(1) 국제 전염병 감시와 예방 및 통제 실행 계획과 공중보건 분야 비상 사태 대비 계획 작 성

(2) 제(1)항의 계획에 따른 이행 평가 조정과 지원 및 관 찰

(3) 국제 전염병 감시와 예방 및 통제 관련 기관과의 연락 계획 작성

(4) 위원회 또는 도전염병위 원회가 위임하는 바에 따른 전 염병 감시와 예방 및 통제 관 련 기타 이행

제25조

제14조의 내용을 도전염병위원 회 및 출입국 통로 주재 실무단 의 회의에 준용하도록 한다.

제4장 방콕시전염병위원회

제26조

다음 각 항으로 구성되는 방콕 시전염병위원회를 두도록 한다.

(1) 방콕시장이 위원장이 된 다.

(2) 방콕시 정무부시장과 내 무부 사무차관실 대표, 질병 통제국 대표, 홍보국 대표, 축 산국 대표, 근로복지보호국 대 표, 방콕시 의료소장, 방콕시 방재소장 및 방콕시 지역 적십 자협회 산하 병원장이 위원이 된다.

(3) 방콕시장이 임명하는 방 콕시 산하 병원장 1인과 보건 부 의료국 산하 병원장 1인 및 방콕시 교육 지역 사무국장 1인이 위원이 된다.

(4) 방콕시장이 임명하는 제 (3)항 이외의 국가 기관 산하 병원장 5인이 위원이 된다.

(5) 방콕시장이 임명하는 의 료기관 관련 법률에 따른 방콕 시 지역 의료기관 운영자 1인 이 위원이 된다.

(6) 방콕시 지역의 국제전염 병검문소 주재 질병통제담당관 각 지역당 1인 및 해당 국제 질병통제검문소 주재 출입국 통로 책임자 각 지역당 1인을 위원으로 임명한다. 방콕시 위생청장이 위원 겸 간 사가 되도록 하며, 방콕시장이 과장 직급 이상의 방콕시 위생 청 소속 공무원 2인을 위원 겸 부간사로 임명하도록 한다.

제27조

제26조제(3)항과 제(4)항 및 제(5)항에 따른 위원의 임명과 임기 및 퇴임은 위원회가 고시 하는 원칙과 절차 및 조건을 따 르도록 한다.

제28조

방콕시전염병위원회에 다음 각 항의 권한과 직무를 부여한다.

(1) 위원회가 정하는 전염병 감시와 예방 및 통제 정책과 시스템 및 실행 방침에 따른 시행

(2) 방콕시 지역의 위험 전염 병이나 감시가 필요한 전염병 또는 유행병 감시와 예방 및 통제 실행 계획 작성

(3) 국장에게 방콕시 지역에 서 발생한 전염병 또는 원인 불명의 질병에 대하여 보고

(4) 방콕시내 관련 기관의 집 행을 지원 및 후원하고 관찰, 평가하여 위원회에 보고

(5) 제23조에 따른 출입국 통 로 주재 실무단 임명

(6) 검토하는 데에 참고하기 위하여 어떤 사람을 소환하여 진술 또는 의견을 제시하도록 하거나, 필요한 자료 또는 문 서 또는 견해를 송부하도록 요 구

(7) 위원회 또는 방콕시장이 위임하거나 이 법률에서 규정 하 는 바에 따른 전염병 통제 관련 기타 이행

제29조

제15조의 내용을 방콕시전염병 위원회 및 출입국 통로 실무단 의 회의에 준용하도록 한다.

제30조

제23조 및 제24조의 내용을 방 콕시전염병위원회가 임명하는 출입국 통로 주재 실무단의 구 성과 권한 및 직무에 준용하도 록 한다.

제5장 전염병 감시

제31조

위험 전염병이나 감시가 필요한 전염병 또는 유행병이 발생한 경우, 다음 각 항의 어느 하나 에 해당하는 사람은 전염병통제 담당관에게 신고하도록 한다.

(1) 집에서 해당 전염병 감염 자를 발견하거나, 감염이 발생 하였다고 의심할 만한 이유가 있는 경우, 집주인이나 집의 관리인 또는 의료를 제공하는 의사

(2) 의료기관에서 해당 전염 병 감염자를 발견하거나, 감염 이 발생하였다고 의심할 만한 이유가 있는 경우, 의료기관 책임자

(3) 의료 또는 수의학적 검진 을 하여 해당 질병의 병원균이 있을 수 있다는 것을 발견한 경우, 검진을 실시한 사람 또 는 검진을 실시한 현장의 책임 자

(4) 사업장 또는 어떤 장소에 서 해당 전염병 감염자를 발견 하거나, 감염이 발생하였다고 의심할 만한 이유가 있는 경 우, 그러한 장소의 소유자 또 는 관리자 첫번째 단락에 따른 신고 원칙 과 절차는 위원회의 승인을 통 하여 장관이 고시하는 바를 따 르도록 한다.

제32조

전염병통제담당관이 제31조에 따라 위험 전염병이나 감시가 필요한 전염병 또는 유행병이 있다고 의심할 만한 이유가 있 거나, 자료 또는 증거가 있다는 신고를 접수한 때에는, 전염병 통제담당관은 신속하게 경우에 따라 도전염병위원회 또는 방콕 시전염병위원회에 통보하고, 해 당 자료를 질병통제국에 보고하 도록 한다.

제33조

외국에서 위험 전염병이나 감시 가 필요한 전염병 또는 유행병 이 발생했다고 의심할 만한 이 유가 있는 경우, 질병통제국은 세계보건기구와 조정하여 해당 질병 관련 자료를 요청하도록 한다.

제6장 전염병 예방 및 통제

제34조

전염병 예방 및 통제를 위하여 어떤 지역에서 위험 전염병 또 는 유행병이 발생하거나, 위험 전염병 또는 유행병이 발생하였 다고 의심할 만한 이유가 있는 때에는 해당 지역의 전염병통제 담당관이 다음 각 항을 직접 실 행하거나, 어떤 사람에게 서면 으로 실행을 명령할 권한을 갖 도록 한다.

(1) 위험 전염병 또는 유행병 에 감염되었거나 감염이 의심 되는 합리적인 이유가 있는 사 람 또는 질병이나 매개체 접촉 자인 사람에게 진단이나 진료 또는 의료적 검사를 받도록 한 다. 또한 안전을 위하여, 전염 기간이 지났거나 의심할 만한 이유가 소멸되었다는 진단 또 는 의학적 검사를 받을 때까지 는 전염병통제담당관이 정하는 장소에서 분리나 격리 또는 관 찰 관리하여 조치할 수도 있 다. 이와 관련하여, 만약 동물 이라면 동물의 소유주 또는 보 호자가 동물을 데리고 가서 진 단이나 진료 또는 수의학적 검 사를 받도록 명령한다.

(2) 위험 전염병이나 유행병 이 확산되지 아니하도록 하기 위하여 질병에 걸릴 위험이 있 는 사람에게 전염병통제담당관 이 정하는 날짜와 시간 및 장 소에 따라 면역화 조치를 받도 록 명령한다.

(3) 질병의 확산을 방지하기 위하여 위험 전염병 또는 유행 병으로 인하여 사망하였거나 사망하였다고 의심할 합리적인 이유가 있는 시신이나 동물 사 체를 조사 또는 의료적 조치를 하거나 다른 방법으로 처리하 도록 명령한다.

(4) 위험 전염병 또는 유행병 이 발생한 주택, 공동주택, 장 소 또는 운송수단의 소유주나 점유자 또는 거주자에게 질병 의 확산을 통제하고 방지하기 위하여 감염성을 제거하거나, 전염병 병원균이 있거나, 전염 병 병원균이 있다고 의심할 만 한 정당한 이유가 있는 것들을 파괴하거나, 위생 시설을 위생 적으로 개선하도록 명령한다. 이와 관련하여 명령을 받은 사 람은 전염병통제담당관이 명령 을 취소할 때까지 명령에 따라 조치하여야 한다.

(5) 위험 전염병 또는 유행병 이 발생한 주택이나 공동주택, 장소 또는 운송수단의 소유주 나 점유자 또는 거주자에게 위 험 전염병 또는 유행병 발생의 원인이 되는 동물이나 벌레 또 는 유충을 제거하여 질병의 확 산을 방지하기 위한 조치를 하 도록 명령한다.

(6) 어떤 사람도 위험 전염병 또는 유행병 확산의 원인이 될 수 있는 비위생적인 상태를 유 발할 수 있는 행위 또는 실행 을 하지 아니하도록 금지하는 명령을 한다.

(7) 전염병통제담당관의 허가 를 받은 사람을 제외한 어떤 사람도 고립된 장소에 출입하 지 아니하도록 금지하는 명령 을 한다.

(8) 질병의 확산을 감시하고 예방하며 통제하기 위하여 위 험 전염병 또는 유행병이 발생 하였거나 발생이 의심되는 주 택이나 공동주택, 장소 또는 운송수단에 진입한다. 첫번째 단락에 따른 조치를 하 는 때에는 전염병통제담당관은 질병 조사를 실시하여야 하며, 만약 어떤 지역에 위험 전염병 또는 유행병이 발생하였다는 것 을 발견한다면, 전염병통제담당 관은 신속하게, 경우에 따라, 도 전염병위원회 또는 방콕시전염 병위원회에 통보하고, 해당 자 료를 질병통제국에 보고하도록 한다. 첫번째 단락에 따른 조치 또는 명령의 원칙과 절차 및 조건과 두번째 단락에 따른 질병 조사 는 위원회의 승인을 통하여 장 관이 고시하는 바를 따르도록 한다.

제35조

위험 전염병 또는 유행병의 확 산을 방지하기 위하여 서둘러야 하는 필요성이 있는 경우, 도전 염병위원회의 승인을 통하여 도 지사 또는 방콕시전염병위원회 의 승인을 통하여 방콕시장이 본인의 책임 지역에서 다음 각 항에 해당하는 권한을 갖도록 한다.

(1) 시장이나 식품 사업장 또 는 판매소, 음료 생산 또는 판 매소, 공장, 집회소, 극장, 교 육기관 또는 기타 시설에 대한 임시 폐쇄를 명령한다.

(2) 위험 전염병 또는 유행병 에 감염되었거나 감염이 의심 되는 사람에게 임시로 생업 중 지를 명령한다.

(3) 전염병통제담당관의 허가 를 받은 경우를 제외하고, 위 험 전염병 또는 유행병에 감염 되었거나 감염이 의심되는 사 람에게 집회소나 극장, 교육기 관 또는 기타 장소에 대한 출 입 금지를 명령한다.

제36조

경우에 따라 도전염병위원회의 승인을 통하여 도지사 또는 방 콕시전염병위원회의 승인을 통 하여 방콕시장에게 위험 전염병 또는 유행병에 대한 감시와 질 병 조사, 예방 및 통제를 위한 실무단을 모든 군 또는 모든 구 역에 1개소 이상 설치하도록 한 다. 이와 관련하여 전염병통제 실무단 설치 원칙은 위원회가 고시하는 바를 따르도록 한다. 첫번째 단락에 따른 전염병통제 실무단은 최소한 전염병통제담 당관 1인과 의료담당관 및 공중 보건담당관 2인으로 구성되어야 하며, 도지사 또는 방콕시장이 타당하다고 판단하는 인원수에 따라 관련 기관 또는 민간 조직 담당자를 전염병통제실무단으로 함께 임명할 수도 있다.

제37조

출입국 통로에서의 국제 전염병 감시와 예방 및 통제를 위하여 출입국 통로 책임자는 다음 각 항에 해당하는 절차를 따르도록 한다.

(1) 건강에 유해할 수 있는 것들을 제거하는 것을 포함하 는 위생적인 환경 위생 처리

(2) 식품 및 물 관련 위생 시 설에 대한 위생 관리

(3) 모기 및 질병 매개체 제 거

(4) 위원회가 고시하는 바에 따른 기타 절차에 따른 집행

제38조

정당한 이유가 있는 경우, 국제 전염병통제검문소 주재 전염병 통제담당관은 출입국 통로 외의 지역에서 순찰과 통제 및 감독 권한을 갖도록 하며, 지역 담당 관에게 출입국 통로 반경 400 미터 주변 지역의 모기 및 질병 매개체를 제거하도록 통지한다. 이와 같은 경우, 해당 지역 내 주택이나 공동 주택, 또는 장소 의 소유주 또는 거주자는 국제 전염병통제검문소 주재 전염병 통제담당관 및 지역 담당관에게 편의를 제공하도록 한다.

제39조

국제적 전염병 예방 및 통제에 서 정당한 이유가 있거나, 해당 매개체가 유행병이 발생한 국외 의 어떤 지방 또는 도시에서 유 래하였다고 의심할 이유가 있는 때에는, 국제전염병통제검문소 에서 주재하는 전염병통제담당 관에게 다음 각 항의 권한을 부 여한다.

(1) 운송수단 소유주 또는 운 송수단 관리자에 대한 국제전 염병통제검문소 주재 전염병통 제담당관에게 해당 운송수단이 국제전염병통제검문소에 도착 하는 날짜와 시간 및 장소를 신고하도록 한다.

(2) 국내에 입국하는 운송수 단 소유주 또는 운송수단 관리 자는 국제전염병통제검문소 주 재 전염병통제담당관에게 서류 를 제출하도록 한다.

(3) 어떤 사람도 국제전염병 통제검문소에서 주재하는 전염 병통제담당관의 조사가 완료되 지 아니한 국내 입국 운송수단 에 출입하지 아니하도록 금지 한다. 또한, 어떤 사람도 해당 운송수단 옆에 다른 운송수단 을 접근시키지 아니하도록 금 지한다. 다만, 국제전염병통제 검문소 주재 전염병통제담당관 에게 허가를 받은 것은 제외한 다.

(4) 운송수단에 진입하여, 운 송수단으로 입국한 여행자나 물품 또는 동물을 조사하고, 건강에 유해할 수 있는 것을 운송수단에서 제거하는 것을 포함하여 운송수단 소유주 또 는 운송수단 관리자가 운송수 단을 위생적으로 개선하도록 살피고 감독한다. 이와 관련하 여, 운송수단 소유주 또는 운 송수단 관리자는 국제전염병통 제검문소 주재 전염병통제담당 관에게 편의를 제공하도록 한 다.

(5) 운송수단 소유주 또는 운 송수단 관리자가 위원회의 승 인을 통하여 장관이 고시하는 바에 따른 면역화 조치를 받지 아니한 여행자를 국내에 입국 시키는 것을 금지한다.

제(1)항과 제(2)항 및 제(3)항 에 따른 운송수단 소유주 또는 운송수단 관리자의 신고 및 서 류 제출과 제(4)항에 따른 운송 수단 소유주 또는 운송수단 관 리자에 대한 금지 사항은 부령 에서 정하는 원칙과 절차 및 조 건을 따르도록 한다.

제40조

장관이 제8조에 따라 국외 지방 또는 도시를 전염병 지역으로 고시한 때에는 국제전염병통제 검문소 주재 전염병통제담당관 이 다음 각 항에 해당하는 사항 을 직접 실시하거나 서면으로 해당 지방 또는 도시에서 국내 에 입국하는 운송수단 소유주나 운송수단 관리자가 실시하도록 명령할 권한을 갖도록 한다.

(1) 질병의 확산을 예방하고 통제하기 위한 감염 제거

(2) 국제질병통제소에 주재하 는 전염병통제담당관이 이동을 허가할 때까지 지정된 장소에 운송수단 정차

(3) 해당 운송수단으로 입국 한 여행자에 대한 의학적 진단 및 지정된 장소와 기간 동안 분리나 격리, 관찰 관리 또는 면역화 조치

(4) 국제전염병통제검문소 주 재 전염병통제담당관의 허가를 받은 것을 제외하고, 어떤 사 람도 해당 운송수단 또는 고립 된 장소에 출입하지 아니하도 록 금지

(5) 국제전염병통제검문소 주 재 전염병통제담당관의 허가를 받은 것을 제외하고, 어떤 사 람도 감염되었거나 감염이 의 심되는 물질이나 물품 또는 도 구를 해당 운송수단에 반입 또 는 반출하지 아니하도록 금지

제41조

운송수단 소유주 또는 운송수단 관리자가 해당 운송수단으로 입 국한 여행자에 대한 제80조에 따른 분리나 격리, 관찰 관리 또는 면역화를 위한 비용을 부 담하도록 하며, 아울러 돌봄 비 용과 의료, 전염병 예방 및 통 제 비용을 부담하도록 한다. 첫번째 단락에 따른 조치에서 발생하는 비용 규정은 위원회의 승인을 통하여 장관이 고시하는 원칙과 절차 및 조건을 따르도 록 한다.

제42조

여행자가 위험 전염병이나 유행 병 또는 질병 매개체에 감염되 었거나 감염을 의심할 만한 합 리적인 이유가 있는 경우, 국제 전염병통제검문소 주재 전염병 통제담당관은 해당자를 분리하 거나, 격리, 관찰 관리 또는 면 역화 조치를 받도록 명령한다. 첫번째 단락에 따른 조치로 인 하여 발생하는 비용은 해당 여 행자가 부담하도록 한다. 이와 관련하여 위원회의 승인을 통하 여 장관이 고시하는 원칙과 절 차 및 조건을 따르도록 한다.

제43조

국제적인 전염병 또는 유행병 예방을 위하여 국장 또는 국장 이 위임한 사람은 국제적 전염 병 면역화 또는 예방 접종 확인 서 또는 기타 확인서를 신청자 가 비용을 부담하도록 하여 신 청자에게 발급할 권한을 갖도록 한다. 비용 청구에 대한 위임이나 청 구 또는 면제는 위원회가 고시 하는 원칙과 절차 및 조건을 따 르도록 한다.

제44조

전염병통제담당관이 어떤 사람 에게 제34조제(3)항이나 제(4) 항 또는 제(5)항, 제38조, 제39 조제(4)항 또는 제40조제(1)항 이나 제(2)항 또는 제(3)항에 따른 조치 명령 후 해당자가 기 한 내에 명령을 무시하고 이행 하지 아니하는 경우, 전염병통 제담당관은 실제로 지불한 비용 에 따라 그러한 조치 비용을 해 당자에게 변상하도록 하여 대신 조치할 권한이 있다. 이와 관련 하여 공중보건부가 정하는 규칙 을 따른다.

제7장 전염병통제담당관

제45조

질병통제담당관에게 이 법에 따 른 집행을 위하여 다음 각 항의 권한을 부여한다.

(1) 검토에 참고하기 위하여 어떤 사람을 소환하여 서면으 로 진술 또는 사실 관계를 밝 히거나, 답변서를 작성하거나, 서류 또는 증거를 제출하도록 한다.

(2) 이 법을 따르도록 조사 또는 감독하기 위하여, 운송수 단이나 건물 또는 어떤 장소에 일출시부터 일몰시 또는 해당 건물 또는 장소의 업무 시간에 진입하며, 만약 해당 기한 내 에 조치를 완료하지 아니한다 면, 완료할 때까지 계속하여 조치할 수 있도록 한다.

제(2)항에 따른 조치는 국장이 정하는 원칙과 절차 및 조건을 따르도록 한다. 제(2)항에 따른 전염병통제담당 관의 직무 수행에 대하여 관계 자가 편의를 제공하도록 한다.

제46조

관계자에게 직무 수행 중임을 표시하기 위하여 전염병통제담 당관의 제복과 표식 및 신분증 을 갖추도록 한다. 첫번째 단락에 따른 제복과 표 식 및 신분증은 공중보건부가 정하는 양식을 따르도록 한다.

제47조

이 법에 따른 직무 수행에서, 전염병통제담당관은 「형법전」 에 따른 담당관이 되도록 한다.

제8장 보상금

제48조

이 법에 따른 전염병통제담당관 의 직무 수행에서, 만약 질병 감시나 예방 또는 통제로 인하 여 개인 또는 어떤 개인의 재산 에 피해를 야기한다면, 당국이 필요한 바에 따라 해당자에게 발생한 피해에 대한 보상을 하 도록 한다. 첫번째 단락에 따른 보상은 부 령에서 정하는 원칙과 절차 및 조건을 따르도록 한다.

제9장 처벌 규정

제49조

제18조에 따른 위원회나 학술 분야 위원회 또는 소위원회의 명령이나 제22조제(6)항에 따 른 도전염병통제위원회의 명령 또는 제18조제(6)항에 따른 방 콕시전염병위원회의 명령을 준 수하지 아니하는 사람은 1개월 이하의 금고형 또는 1만바트 이 하의 벌금형에 처하거나, 금고 형과 벌금형을 병과한다.

제50조

제31조에 따른 신고 원칙 및 절 차를 준수하지 아니하는 사람은 2만바트 이하의 벌금형에 처한 다.

제51조

제34조제(1)항이나 제(2)항, 제 (5)항 또는 제(6)항, 제39조제 (1)항이나 제(2)항, 제(3)항 또 는 제(5)항, 제40조제(5)항에 따른 전염병통제담당관의 명령 을 위반 또는 준수하지 아니하 거나 제39조제(4)항에 따른 전 염병통제담당관에게 편의를 제 공하지 아니하는 사람은 2만바 트 이하의 벌금형에 처한다.

제52조

제34조제(3)항이나 제(4)항, 제 (7)항 또는 제(8)항, 제40조제 (3)항이나 제(4)항에 따른 전염 병통제담당관의 명령 또는 제35 항에 따른 도지사나 방콕시장의 명령을 위반하거나 준수하지 아 니하는 사람은 1년 이하의 금고 형 또는 10만바트 이하의 벌금 형에 처하거나, 금고형과 벌금 형을 병과한다.

제53조

전염병통제담당관 또는 지방 담 당관에게 제38조에 따른 편의를 제공하지 아니하는 사람은 2만 바트 이하의 벌금형에 처한다.

제54조

제40조제(2)항에 따른 전염병 통제담당관의 명령을 준수하지 아니하는 운송수단 소유주 또는 운송수단 관리자는 2년 이하의 금고형 또는 5십만바트 이하의 벌금형에 처하거나, 금고형과 벌금형을 병과한다.

제55조

제45조 세번째 단락에 따른 질 병통제담당관을 방해하거나 편 의를 제공하지 아니하는 사람은 2만바트 이하의 벌금형에 처한 다.

제56조

본인이 권리를 보유하였다고 타 인을 기망하기 위하여, 해당 권 리를 가지지 아니하고 제46조에 따른 전염병통제담당관의 제복 을 착용하거나 표지를 부착하는 사람은 6개월 이하의 금고형 또 는 5만바트 이하의 벌금형에 처 하거나, 금고형과 벌금형을 병 과한다.

제57조

벌금형만 있거나 1년 이하의 금 고형에 해당하는 이 법에 따른 모든 위법 행위에 대해서는 국 장 또는 국장이 위임한 사람이 벌금 부과권을 갖도록 한다. 이 와 관련하여 위원회가 정하는 벌금 부과 원칙을 따르도록 한 다. 피의자가 벌금이 부과된 날부터 30일 이내에 부과된 액수에 따 라 벌금을 납부한 때에는, 「형 사소송법전」에 따라 사건이 종 결된 것으로 보도록 한다.

경과 규정

제58조

「1980년 전염병법」에 따른 공중보건담당관은 이 법률에 따 라 전염병통제담당관 임명이 있 을 때까지 이 법에 따른 전염병 통제담당관이 되도록 한다.

제59조

초기에는 위원회를 제11조제 (4)항에 따른 전문가 위원을 제 외한 제11조에 따른 위원으로만 구성하도록 하고, 이 법에 따른 전문가 위원 임명이 있을 때까 지는 우선 이 법에 따라 위원회 직무를 수행하도록 한다. 이와 관련하여 이 법의 시행일부터 180일을 초과하지 아니한다.

제60조

이 법의 시행일 전에 적용 중인 「1980년 전염병법」에 따라 제정된 모든 부령과 규칙, 고시 및 명령은 이 법에 위배되거나 모순되지 아니하는 한 이 법률 에 따른 부령이나 규칙 또는 고 시가 있을 때까지는 계속 적용 하도록 한다. 첫번째 단락에 따른 부령이나 규칙 또는 고시 제정 실행은 이 법률의 시행일부터 1년 이내에 완료하도록 한다. 만약 실행이 불가능하다면, 장관이 실행 불 가능한 이유를 내각에 보고하도 록 한다. 부서 대장 쁘라윳 짠오차 총리