สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. เป็นปีที่ ๖๘ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า บุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่ง กฎหมาย
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ
พ.ศ. ๒๕๕๖”
เป็นต้นไป
พระราชบัญญัติการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ พุทธศักราช ๒๔๗๙
พระราชบัญญัติการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๒) พุทธศักราช ๒๔๘๘
พระราชบัญญัติการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๖
พระราชบัญญัติการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๐๘
พระราชบัญญัติการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๓๓
พระราชบัญญัติการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๔๒ * ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๐/ตอนที่ ๓๙ ก/หน้า ๑๔/๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๖
พระราชบัญญัติความคุมการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๔๐
คำสั่งของคณะปฏิวัติการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๒๓ ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๙
พระราชบัญญัติความคุมการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๕๐
“การประกอบโรคศิลปะ” หมายความว่า การประกอบวิชาชีพที่กระทรวงหรือผู้แทน จะกระทำต่อมนุษย์เกี่ยวกับการตรวจโรค การวินิจฉัยโรค การบำบัดโรค การป้องกันโรค การส่งเสริม และการฟื้นฟูสุขภาพ การผดุงครรภ์ แต่ไม่รวมถึงการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุขอื่นตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น ๆ “การแพทย์แผนไทย” (ยกเลิก) “เวชกรรมไทย” (ยกเลิก) “เภสัชกรรมไทย” (ยกเลิก) “การผดุงครรภ์ไทย” (ยกเลิก) “การแพทย์แผนไทยประยุกต์” (ยกเลิก) “กายภาพบำบัด” (ยกเลิก) “เทคนิคการแพทย์” (ยกเลิก) “กิจกรรมบำบัด” หมายความว่า การกระทำเกี่ยวกับความสามารถของบุคคลที่มี ความบกพร่องทางด้านร่างกาย จิตใจ หรือพัฒนาการเพื่อแก้ไขโดยการตรวจ การประเมิน ส่งเสริม ป้องกันบำบัดและฟื้นฟูสมรรถภาพ ให้สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ เพื่อให้บุคคลนั้นดำรงชีวิตได้ตามปกติสุข โดยใช้วิธีการและวิธีการ และอุปกรณ์ที่เหมาะสมแก่การบำบัด _________________________ “มาตรา ๔ นิยามคำว่า “การแพทย์แผนไทย” ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติการประกอบโรค ศิลปะ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๔๐” “มาตรา ๔ นิยามคำว่า “เวชกรรมไทย” ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๔๐” “มาตรา ๔ นิยามคำว่า “เภสัชกรรมไทย” ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๔๐” “มาตรา ๔ นิยามคำว่า “การผดุงครรภ์ไทย” ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๔๐” “มาตรา ๔ นิยามคำว่า “การแพทย์แผนไทยประยุกต์” ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติการ ประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๔๐” “มาตรา ๔ นิยามคำว่า “กายภาพบำบัด” ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๔๐” “มาตรา ๔ นิยามคำว่า “เทคนิคการแพทย์” ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติการประกอบโรค ศิลปะ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๔๐” “มาตรา ๔ นิยามคำว่า “กิจกรรมบำบัด” เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๔๐” ``` - ๓ - สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา “การแก้ความผิดปกติของการสื่อความหมาย” หมายความว่า การแก้ไขการพูดและการแก้ไขการได้ยิน “การแก้ไขการพูด” หมายความว่า การกระทำต่อมนุษย์ซึ่งเกี่ยวกับการตรวจประเมิน การวินิจฉัย และการบำบัดความผิดปกติของการพูดและการสื่อความหมาย การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกัน และการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการพูด และความสามารถทางการสื่อสาร ด้วยวิธีการแก้ไขการพูด หรือการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางโสตสัมผัสวิทยา รวมทั้งการให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยในข้อกฎหมาย “การแก้ไขการได้ยิน” หมายความว่า การกระทำต่อมนุษย์ซึ่งเกี่ยวกับการตรวจประเมิน การวินิจฉัย และการบำบัดความผิดปกติของการได้ยิน การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกัน การแก้ไขและการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการได้ยิน หรือการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางโสตสัมผัสวิทยา ด้วยวิธีการทางโสตสัมผัสวิทยา รวมทั้งการให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยในข้อกฎหมาย “เทคโนโลยีช่วยและตรวจวัด” หมายความว่า การกระทำต่อมนุษย์ซึ่งเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับใบและปอด และการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประคับประคองการทำงานของระบบมนุษย์รวมถึงการให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยในข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ดังกล่าวเพื่อการดูแลผู้ป่วยหนักหรือผู้ป่วยในข้อยุ่งยากอื่น “จิตวิทยาคลินิก” หมายความว่า การกระทำใด ๆ ต่อมนุษย์ซึ่งได้รับสิทธิหรือการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านการตรวจประเมิน การวินิจฉัย การบำบัดรักษา หรือการให้เครื่องมือและอุปกรณ์อย่างอื่นที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคหรือการป้องกันโรคทางจิตวิทยาคลินิกที่รัฐมนตรีประกาศให้เป็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางจิตวิทยาคลินิก “จิตวิทยา” หมายความว่า การกระทำต่อมนุษย์ซึ่งเกี่ยวกับการตรวจประเมิน การวินิจฉัย การบำบัดรักษา การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกัน การฟื้นฟูสมรรถภาพทางจิตใจ รวมทั้งการวิจัย การส่งเสริมอารมณ์ พฤติกรรม การปรับตัว ความเครียดหรือพฤติกรรมทางสมอง รวมทั้งการวิจัย การส่งเสริมและประเมินภาวะสุขภาพทางจิต ด้วยวิธีการเฉพาะทางจิตวิทยาคลินิก หรือการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ทดสอบทางจิตวิทยาคลินิกที่รัฐมนตรีประกาศให้เป็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางจิตวิทยาคลินิก
``` ``` “กายอุปกรณ์” หมายความว่า การกระทำต่อร่างกายมนุษย์เกี่ยวกับการตรวจ ประเมินความพิการ การผลิตดัดแปลงเสริมหรือซ่อมแซมอุปกรณ์เพื่อช่วยการทำงาน สำหรับใช้ทดแทนส่วน ของร่างกายที่สูญหายหรือบกพร่อง เพื่อกับระบบประสาท กล้ามเนื้อ และกระดูก ตามที่ผู้ประกอบ วิชาชีพเวชกรรมได้วินิจฉัยสั่งการรักษา “การแพทย์แผนจีน” หมายความว่า การกระทำต่อมนุษย์ซึ่งมีพื้นฐานมาจากการแพทย์แผนจีนอันเกี่ยวกับการตรวจ การวินิจฉัย การบำบัด การป้องกันโรค การส่งเสริมสุขภาพ โดยใช้ความรู้แบบแพทย์แผนจีน “ผู้ประกอบโรคศิลปะ” หมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบ โรคศิลปะจากคณะกรรมการวิชาชีพ “ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการการประกอบโรคศิลปะ “กรรมการ” หมายความว่า กรรมการการประกอบโรคศิลปะ “คณะอนุกรรมการ” หมายความว่า คณะอนุกรรมการการประกอบโรคศิลปะ “อนุกรรมการ” หมายความว่า อนุกรรมการการประกอบโรคศิลปะ “นายกรัฐมนตรี” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตาม พระราชบัญญัตินี้ “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
สาขากิจกรรมบำบัด
สาขาการแก้ไขความผิดปกติของการสื่อความหมาย
สาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก
สาขารังสีเทคนิค
สาขาจิตวิทยาคลินิก
สาขากายอุปกรณ์
สาขาการแพทย์แผนจีน
สาขาอื่นตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา
``` ```
ทุกกระทรวง ทบวงกรมและประการทั้งนั้น เมื่อได้รับการแจ้งจากเจ้าพนักงานแล้วให้ใช้บังคับได้
คณะกรรมการการประกอบโรคศิลปะ
กรรมการซึ่งเป็นผู้แทนจากกระทรวงกลาโหม สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กรมการแพทย์ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กรมอนามัย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา แพทยสภา ทันตแพทยสภา สภาการพยาบาล สภาเภสัชกรรม สภาเทคนิคการแพทย์และสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการประกอบโรคศิลปะ และ
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในด้านการประกอบโรคศิลปะ ด้านการศึกษา ด้านการวิจัย หรือด้านต่าง ๆ ตามพระราชบัญญัตินี้จำนวนไม่เกินห้าคน ให้รองอธิบดีซึ่งมีอำนาจหน้าที่สนับสนุนบริการสุขภาพของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ และผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการ พยาบาลและการผดุงครรภ์ ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ ผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัด หรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพนั้น
ยกเลิกข้อความในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒
แก้ไขเพิ่มเติมข้อความในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ ```
เป็นผู้ไม่เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ กฎหมายว่าด้วยวิชาชีพกายภาพบำบัด กฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ กฎหมายว่าด้วยวิชาชีพทันตกรรม กฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเภสัชกรรม กฎหมายว่าด้วยวิชาชีพกายภาพบำบัด กฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ กฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย แล้วแต่กรณี
ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระหรือในกรณีที่รัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มในระหว่างที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งแต่งตั้งไว้แล้วยังมีวาระอยู่ในตำแหน่ง ให้ผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนหรือให้เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มขึ้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งแต่งตั้งไว้แล้วนั้น
ตาย
ลาออก
รัฐมนตรีให้ออก
เสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีในการกำหนดนโยบาย แผนงาน และมาตรการในการกำกับดูแลการประกอบโรคศิลปะ
ให้คำแนะนำหรือเสนอความเห็นต่อรัฐมนตรี ในการเพิ่มประเภทและสาขาของการประกอบโรคศิลปะ หรือการออกกฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศต่าง ๆ ตามที่เห็นสมควร เพื่อให้ประชาชนพลานามัยดีซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของการประกอบโรคศิลปะ
ให้คำปรึกษาและแนะนำแก่คณะกรรมการวิชาชีพ
พิจารณาอุทธรณ์ของผู้ประกอบวิชาชีพตามคำสั่งของคณะกรรมการวิชาชีพตามมาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๔
เร่งรัดให้หน่วยงานในหน้าที่ ส่วนราชการ หรือคณะกรรมการวิชาชีพปฏิบัติตามอำนาจและหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด
แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อกระทำการใด ๆ อันอยู่ในอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการ
ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการ *มาตรา ๑๑ (๒) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๘* สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พิจารณาหรือดำเนินการในเรื่องอื่นตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมอบหมาย
คณะกรรมการวิชาชีพ
คณะกรรมการวิชาชีพสาขากิจกรรมบำบัด
คณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแก้ไขความผิดปกติของการสื่อความหมาย
คณะกรรมการวิชาชีพสาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอก
คณะกรรมการวิชาชีพสาขารังสีเทคนิค
คณะกรรมการวิชาชีพสาขาจิตวิทยาคลินิก
คณะกรรมการวิชาชีพสาขากายอุปกรณ์
คณะกรรมการวิชาชีพสาขาแพทย์แผนจีน
คณะกรรมการวิชาชีพสาขาอื่นตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามมาตรา ๕ (๘)
กรรมการวิชาชีพซึ่งเป็นผู้แทนกรมการแพทย์ ผู้แทนกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และผู้แทนกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แห่งละหนึ่งคน
กรรมการวิชาชีพซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในวิชาชีพนั้น จำนวนห้าคน โดยในจำนวนนี้จะต้องแต่งตั้งจากบุคคลที่ประกอบวิชาชีพนั้นในประเทศไทยมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี
กรรมการวิชาชีพซึ่งได้รับเลือกตั้งโดยผู้ประกอบโรคศิลปะสาขากิจกรรมบำบัด จำนวนเท่ากับจำนวนกรรมการวิชาชีพ (๑) (๒) และ (๓) รวมกันในแต่ละครั้ง ให้ผู้ว่าการการสถาปนาสถานพยาบาลและกรรมการประกอบโรคศิลปะเป็นกรรมการและเลขานุการ
กรรมการวิชาชีพซึ่งเป็นผู้แทนกรมการแพทย์ และผู้แทนกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แห่งละหนึ่งคน ...
คณะกรรมการสาขาการให้ความเห็นประกอบการสื่อความหมายหรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ หรือหัวหน้าภาควิชา หรือหัวหน้าหน่วยงานที่ผลิตบัณฑิตสาขาการแพทย์ในความรับผิดชอบการสื่อความหมายในสาขานั้นของสถาบันอุดมศึกษาของเอกชนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน และพนักงานเลือกกันเองให้เหลือสองคน
กรรมการวิชาชีพที่ผู้รับรู้ร่วมกันว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในสาขานั้นจะต้องแต่งตั้งมาจากบุคคลในสัดส่วนที่มีความเหมาะสมกับการให้การพูดแนะนำในทุกๆ หนึ่งคน
กรรมการวิชาชีพซึ่งได้รับเลือกตั้งโดยผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแก้ความผิดปกติของการสื่อความหมายมีจำนวนเท่ากับจำนวนกรรมการวิชาชีพใน (ข) (ค) และ (ง) รวมกันในขณะเลือกตั้งแต่ละครั้ง ให้ผู้อำนวยการสำนักงานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะเป็นกรรมการและเลขานุการ
กรรมการวิชาชีพซึ่งเป็นผู้แทนกรมการแพทย์ และผู้แทนกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แห่งละหนึ่งคน
คณบดีคณะเทคโนโลยีหัวใจหรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ หรือหัวหน้าภาควิชา หรือหัวหน้าหน่วยงานที่ผลิตบัณฑิตสาขาเทคโนโลยีหัวใจในความรับผิดชอบของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ เลือกกันเองให้เหลือสองคน
กรรมการวิชาชีพซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนสามคน ในจำนวนนี้จะต้องแต่งตั้งจากผู้แทนสมาคมที่เกี่ยวข้องตามที่ได้รับการรับรองจากประเทศในข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
กรรมการวิชาชีพซึ่งได้รับเลือกตั้งโดยผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอกมีจำนวนเท่ากับจำนวนกรรมการวิชาชีพใน (ข) (ค) และ (ง) รวมกันแต่ละครั้ง ให้ผู้อำนวยการสำนักงานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะเป็นกรรมการและเลขานุการ
กรรมการวิชาชีพซึ่งเป็นผู้แทนกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และผู้แทนกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แห่งละหนึ่งคน
คณบดีคณะรังสีเทคนิคหรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ หรือหัวหน้าภาควิชา หรือหัวหน้าหน่วยงานที่ผลิตบัณฑิตสาขารังสีเทคนิค ``` - ๙ - สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สถานบันอุดมศึกษาของรัฐ และสถานบันอุดมศึกษาของเอกชนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยสถานบันอุดมศึกษาเอกชน แห่งละหนึ่งคน เลือกกันเองให้เหลือสามคน
กรรมการวิชาชีพซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ในจำนวนนี้จะต้องแต่งตั้งจากผู้แทนสมาคมวิชาชีพแห่งประเทศไทยอย่างน้อยหนึ่งคน
กรรมการวิชาชีพซึ่งได้รับเลือกตั้งโดยผู้ประกอบโรคศิลปะซึ่งมีสัดส่วนเท่ากับจำนวนเท่ากับจำนวนกรรมการวิชาชีพใน (๑) และ (๒) (๒) และ (๓) รวมกันในแต่ละสาขา ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตและการประกอบโรคศิลปะเป็นกรรมการและเลขานุการ
กรรมการวิชาชีพซึ่งเป็นผู้แทนกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และผู้แทนกรมสุขภาพจิต แห่งละหนึ่งคน
คณบดีคณะวิทยาศาสตร์คลินิกหรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ หรือหัวหน้าภาควิชา หรือหัวหน้าหน่วยงานที่มีลักษณะเดียวกันจากคณะแพทย์ในสถานบันอุดมศึกษาของรัฐ และสถานบันอุดมศึกษาของเอกชนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยสถานบันอุดมศึกษาเอกชน แห่งละหนึ่งคน เลือกกันเองให้เหลือสามคน
กรรมการวิชาชีพซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ในจำนวนนี้จะต้องแต่งตั้งจากผู้แทนสมาคมวิชาชีพแห่งประเทศไทยอย่างน้อยหนึ่งคน
กรรมการวิชาชีพซึ่งได้รับเลือกตั้งโดยผู้ประกอบโรคศิลปะจากวิทยาศาสตร์คลินิกมีจำนวนเท่ากับจำนวนกรรมการวิชาชีพใน (๑) (๒) และ (๓) รวมกันในแต่ละสาขา ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตและการประกอบโรคศิลปะเป็นกรรมการและเลขานุการ
กรรมการวิชาชีพซึ่งเป็นผู้แทนกรมการแพทย์ และผู้แทนกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แห่งละหนึ่งคน
คณบดีคณะกายอุปกรณ์หรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ หรือหัวหน้าภาควิชา หรือหัวหน้าหน่วยงานที่มีลักษณะเดียวกันจากคณะแพทย์ในสถานบันอุดมศึกษาของรัฐ และสถานบันอุดมศึกษาของเอกชนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยสถานบันอุดมศึกษาเอกชน แห่งละหนึ่งคน เลือกกันเองให้เหลือสามคน
กรรมการวิชาชีพซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ในจำนวนนี้จะต้องแต่งตั้งจากผู้แทนสมาคมวิชาชีพแห่งประเทศไทยอย่างน้อยหนึ่งคน
กรรมการวิชาชีพซึ่งได้รับเลือกตั้งโดยผู้ประกอบโรคศิลปะในสาขากายอุปกรณ์มีจำนวนเท่ากับจำนวนกรรมการวิชาชีพใน (๑) (๒) และ (๓) รวมกันในแต่ละสาขา ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตและการประกอบโรคศิลปะเป็นกรรมการและเลขานุการ
``` ให้อำนวยการสำนักงานสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะเป็นกรรมการและเลขานุการ
กรรมการวิชาชีพซึ่งเป็นผู้แทนสมาพันธ์แพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ผู้แทนกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และผู้แทนสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งแต่งตั้งจากผู้มีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. ๒๕๔๒
คณบดีคณะการแพทย์แผนจีนหรือหัวหน้าสาขาวิชาการแพทย์แผนจีนในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และสถาบันอุดมศึกษาเอกชนอย่างละหนึ่งคน ซึ่งแต่งตั้งจากผู้มีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. ๒๕๔๒
กรรมการวิชาชีพซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกินสามคน ในจำนวนนี้จะต้องแต่งตั้งจากผู้แทนสมาคมหรือผู้แทนสถาบันที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์แผนจีนในประเทศไทยอย่างน้อยหนึ่งคน
กรรมการวิชาชีพซึ่งได้รับเลือกตั้งโดยผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนจีนซึ่งมีจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการวิชาชีพใน (๑) (๒) และ (๓) รวมกันในปีแรกแต่งตั้งคณะกรรมการวิชาชีพ ให้ผู้อำนวยการสำนักงานสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะเป็นกรรมการและเลขานุการ
- มาตรา ๑๔/๑๐ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๖ - มาตรา ๑๔/๑๑ ถึงมาตรา ๑๔/๑๔ ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๖ - มาตรา ๑๔/๑๕ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๖ - มาตรา ๑๔/๑๐ แก้ไขโดยพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๖๒ - มาตรา ๑๔/๑๕ แก้ไขโดยพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๖๒
ในกรณีกรรมการตามมาตรา ๑๔/๔ (๒) มาตรา ๑๔/๕ (๒) มาตรา ๑๔/๖ (๒) มาตรา ๑๔/๗ (๒) มาตรา ๑๔/๘ (๒) มาตรา ๑๔/๙ (๒) และมาตรา ๑๔/๑๐ (๒) มีไม่ถึงสามคน ให้ถือว่าคณะกรรมการวิชาชีพนั้นยังคงประกอบขึ้นเท่าที่มีอยู่
กรรมการวิชาชีพซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระ ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการวิชาชีพชุดใหม่จะเข้ารับหน้าที่ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามวรรคหนึ่ง กรรมการวิชาชีพตามมาตรา ๑๔/๔ (๒) (๓) (๔) หรือ (๔) มาตรา ๑๔/๕ (๒) (๓) หรือ (๔) มาตรา ๑๔/๖ (๒) (๓) หรือ (๔) มาตรา ๑๔/๗ (๒) (๓) หรือ (๔) มาตรา ๑๔/๘ (๒) (๓) หรือ (๔) มาตรา ๑๔/๙ (๒) (๓) หรือ (๔) และมาตรา ๑๔/๑๐ (๒) หรือ (๔) พ้นจากตำแหน่งเมื่อ
ตาย
ลาออก
รัฐมนตรีให้ออก สำหรับกรรมการวิชาชีพซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งตามมาตรา ๑๔/๑๐ (๒) มาตรา ๑๔/๑๐ (๓) มาตรา ๑๔/๑๑ (๒) มาตรา ๑๔/๑๑ (๓) มาตรา ๑๔/๑๑ (๔) หรือมาตรา ๑๔/๑๑ (๕)
ขาดคุณสมบัติและต้องห้ามอย่างหนึ่งอย่างใดของกรรมการวิชาชีพนั้น ๆ
____________________
```
รับขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะในสาขานั้น ๆ
เพิกถอนใบอนุญาตกรณีผู้ประกอบโรคศิลปะในสาขานั้นขาดคุณสมบัติ
เสนอความเห็นต่อคณะกรรมการเพื่อใช้อำนาจตามมาตรา ๑๓ (๓)
ใช้อำนาจตามมาตรา ๔๕ ในกรณีผู้ประกอบโรคศิลปะในสาขานั้นประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ
ให้คำปรึกษาและให้คำแนะนำสถาบันศึกษาเกี่ยวกับหลักสูตรการศึกษา การประกอบโรคศิลปะในสาขานั้น
แต่งหรือโยกย้ายอาจารย์ควบคุมโรคใด ๆ ตามที่เห็นสมควร เพื่อมิให้ประชาชนหลงเข้าใจผิด ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อการประกอบโรคศิลปะในสาขานั้น
ส่งเสริม พัฒนา และกำหนดมาตรฐานการประกอบโรคศิลปะในสาขานั้น
ออกหนังสือรับรองความรู้ความชำนาญเฉพาะทางในการประกอบโรคศิลปะในสาขานั้น
พิจารณาและเสนอชื่อผู้แทนคณะกรรมการวิชาชีพในสาขานั้นเป็นกรรมการการประกอบโรคศิลปะ
แต่งตั้งคณะอนุกรรมการวิชาชีพเพื่อกระทำการใด ๆ อันอยู่ในอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการวิชาชีพในสาขานั้น
ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการวิชาชีพในสาขานั้น
พิจารณาหรือดำเนินการในเรื่องอื่นตามที่รัฐมนตรีหรือคณะกรรมการมอบหมาย
การดำเนินการของคณะกรรมการการประกอบโรคศิลปะ และคณะกรรมการวิชาชีพ
มติของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
```
หนังสือเรียกมาให้ถ้อยคำหรือหนังสือแจ้งให้ส่งเอกสารหรือวัตถุตามวรรคหนึ่ง ต้องระบุข้อความให้ถ้อยคำหรือส่งเอกสารหรือวัตถุในเรื่องใด
การควบคุมการประกอบโรคศิลปะ
การประกอบโรคศิลปะที่กระทำต่อตนเอง
การช่วยเหลือหรือเยียวยาผู้ป่วยตามหน้าที่ ตามกฎหมาย หรือจารีตประเพณี โดยมิได้รับประโยชน์ตอบแทน
นักเรียน นักศึกษา หรือผู้รับการฝึกอบรมซึ่งทำการฝึกหรืออบรมในความควบคุมของผู้ประกอบโรคศิลปะซึ่งเป็นผู้ให้การศึกษา หรือฝึกอบรม ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการวิชาชีพกำหนด (4) (ยกเลิก)
บุคคลซึ่งกระทรวง ทบวง กรม กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล สุขาภิบาล องค์การบริหารส่วนตำบล หรือหน่วยงานอื่นของรัฐกำหนด หรือสถานพยาบาล มอบหมายให้ประกอบโรคศิลปะในความควบคุมของผู้ประกอบโรคศิลปะซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพในสาขานั้น ทั้งนี้ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด
บุคคลซึ่งปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการประกอบโรคศิลปะในความควบคุมของผู้ประกอบโรคศิลปะซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพในสาขานั้น
การประกอบโรคศิลปะของที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญของทางราชการหรือผู้สอนในสถาบันการศึกษาซึ่งมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะของต่างประเทศ ทั้งนี้ โดยได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการวิชาชีพ และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการวิชาชีพกำหนด
อายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์
ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียตามมาตรา ๓๐
ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเลวร้ายอย่างร้ายแรงหรือกระทำการอันเป็นการเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
ไม่เป็นผู้มีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
ไม่เป็นคนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
สาขาการแพทย์แผนปัจจุบัน ต้องมีความรู้ในวิชาชีพที่ได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาจากสถาบันการศึกษาที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขานั้น ๆ รับรอง และต้องสอบความรู้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขานั้น ๆ กำหนด
สาขาการแพทย์แผนไทย ต้องมีความรู้ในวิชาชีพที่ได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาจากสถาบันการศึกษาที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขานั้น ๆ รับรอง และต้องสอบความรู้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขานั้น ๆ กำหนด สัญชาติไทย ต้องได้รับอนุญาตให้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแก้ไขความผิดปกติของการสื่อความหมายจากประเทศที่สำเร็จการศึกษาด้วย
สาขาเทคโนโลยีในห้องตรวจ ต้องมีความรู้ในวิชาชีพคือเป็นผู้ได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาสาขาเทคโนโลยีในห้องตรวจจากสถาบันการศึกษาที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขาเทคโนโลยีในห้องตรวจรับรอง และต้องสอบความรู้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขาเทคโนโลยีในห้องตรวจกำหนด สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศที่มิใช่สัญชาติไทย ต้องได้รับอนุญาตให้ประกอบโรคศิลปะสาขาเทคโนโลยีในห้องตรวจจากประเทศที่สำเร็จการศึกษาด้วย
สาขารังสีเทคนิค ต้องมีความรู้ในวิชาชีพคือเป็นผู้ได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาสาขารังสีเทคนิคจากสถาบันการศึกษาที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขารังสีเทคนิครับรอง และต้องสอบความรู้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขารังสีเทคนิคกำหนด สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศที่มิใช่สัญชาติไทย ต้องได้รับอนุญาตให้ประกอบโรคศิลปะสาขารังสีเทคนิคจากประเทศที่สำเร็จการศึกษาด้วย
สาขาจิตวิทยาคลินิก ต้องมีความรู้ในวิชาชีพคือเป็นผู้ได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาสาขาวิชาจิตวิทยาคลินิกที่ได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาที่ศึกษาตามระยะเวลาวิชาจิตวิทยาคลินิกเป็นวิชาเอกจากสถาบันการศึกษาที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขาจิตวิทยาคลินิกรับรอง และต้องสอบผ่านความรู้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขาจิตวิทยาคลินิกกำหนด สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศที่มิใช่สัญชาติไทย ต้องได้รับอนุญาตให้ประกอบโรคศิลปะสาขาจิตวิทยาคลินิกจากประเทศที่สำเร็จการศึกษาด้วย
สาขาอุปกรณ์ ข้อมีความรู้ในวิชาชีพคือเป็นผู้ได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาสาขาอุปกรณ์จากสถาบันการศึกษาที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขาอุปกรณ์รับรอง และต้องสอบผ่านความรู้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขาอุปกรณ์กำหนด สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศที่มิใช่สัญชาติไทย ต้องได้รับอนุญาตให้ประกอบโรคศิลปะสาขาอุปกรณ์จากประเทศที่สำเร็จการศึกษาด้วย
สาขาเวชกรรมไทยผสมผสาน ต้องมีความรู้ในวิชาชีพคือเป็นผู้ได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาสาขาแพทย์แผนไทยผสมผสานจากสถาบันการศึกษาที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขาวิชาชีพการแพทย์แผนไทยรับรอง และต้องสอบผ่านความรู้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทยผสมผสานกำหนด สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศที่มิใช่สัญชาติไทย ต้องได้รับอนุญาตให้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยผสมผสานจากประเทศที่สำเร็จการศึกษาด้วย
สาขาอื่นตามพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามมาตรา ๔ (๔) ต้องมีความรู้ตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกานั้น
ผู้ประกอบโรคศิลปะต้องไม่โฆษณา ใช้ ชักจูง วาน หรือยินยอมให้ผู้อื่นโฆษณาการประกอบโรคศิลปะ ความรู้ความชำนาญในการประกอบโรคศิลปะของตน เว้นแต่เป็นการโฆษณาเพื่อการศึกษา การเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการ หรือการประชาสัมพันธ์ของทางราชการ หรือวิธีการที่กำหนดในระเบียบว่าด้วยการรักษาจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพตามวรรคหนึ่ง
กรมการแพทย์หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอาจรับคำกล่าวหาผู้ประกอบโรคศิลปะผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 13 หรือประพฤติผิดข้อกำหนดเงื่อนไขในการประกอบโรคศิลปะตามมาตรา 18 หรือประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพตามมาตรา 19 มีสิทธิดำเนินคดีทางผู้ประกอบโรคศิลปะผู้นั้น โดยทำคำกล่าวหาให้ต่อคณะกรรมการวิชาชีพ สิทธิกล่าวหาตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองมิให้กระทำนานเกินหนึ่งปีนับแต่วันที่ผู้ได้รับความเสียหายหรือผู้กล่าวหาทราบหรือควรจะทราบถึงการกระทำอันเป็นเหตุให้มีการกล่าวหาตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองนั้น แต่วันนั้นต้องมิใช่วันเกินห้าปีนับแต่วันที่มีการกระทำดังกล่าว การออกคำกล่าวหาในวรรคสามให้ถือเป็นที่สิ้นสุด ไม่มีสิทธิให้ร้องขอให้มีการดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้อีก
ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวโทษมีสิทธิชี้แจงหรือแก้ข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษต่อคณะอนุกรรมการวิชาชีพที่ทำหน้าที่สอบสวน คำชี้แจงหรือการแก้ข้อกล่าวหาให้ส่งเป็นหนังสือพร้อมทั้งพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง สอบสวนภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากประธานอนุกรรมการวิชาชีพที่ทำหน้าที่สอบสวนหรือภายในกำหนดเวลาที่คณะอนุกรรมการวิชาชีพที่ทำหน้าที่สอบสวนกำหนด
ยกคำกล่าวหาหรือคำกล่าวโทษ กรณีเห็นว่าผู้ประกอบโรคศิลปะมิได้กระทำผิดตามคำกล่าวหาหรือคำกล่าวโทษ หรือ
ลงโทษผู้ประกอบโรคศิลปะในกรณีที่พบว่าผู้ประกอบโรคศิลปะได้กระทำผิดจริงตามคำกล่าวหาหรือคำกล่าวโทษ
ภาคทัณฑ์
ภาคทัณฑ์เตือน
พักใช้ใบอนุญาตเป็นการชั่วคราวตามที่เห็นสมควร แต่ไม่เกินสองปี
เพิกถอนใบอนุญาต ชื่อกรรมการวิชาชีพที่พิจารณาวินิจฉัยต้องปรากฏในรายงานการพิจารณาวินิจฉัย โดยเหตุผลอันเป็นข้อยุติของเรื่องต้องปรากฏในรายงานการพิจารณาวินิจฉัยด้วย ข้อพิจารณาและผลการพิจารณาวินิจฉัยให้แจ้งเป็นหนังสือผู้กล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหา หรือผู้ถูกกล่าวโทษ และเจ้าหน้าที่ในกรณีที่เกี่ยวข้อง
``` - ๑๘ - สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวหาในชั้นจับกุมในเขตจังหวัดบนพื้นที่ที่มีคำวินิจฉัย และให้บันทึกข้อความตามคำวินิจฉัยนี้ในทะเบียนผู้ประกอบโรคศิลปะด้วย ในกรณีที่ในเขตจังหวัดนั้นมีผู้ถูกกล่าวหา หรือผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวหาในชั้นจับกุมในเขตจังหวัดนั้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ในเขตจังหวัดนั้นแจ้งให้คณะกรรมการวิชาชีพทราบทันที ให้คณะกรรมการวิชาชีพแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ในเขตจังหวัดนั้นทราบทันที และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ในเขตจังหวัดนั้นแจ้งให้คณะกรรมการวิชาชีพทราบทันที
ก่อนสั่งเพิกถอนใบอนุญาตของกรรมการแพทย์ ให้คณะกรรมการวิชาชีพแต่งตั้งคณะอนุกรรมการวิชาชีพดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงพร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นเสนอคณะกรรมการวิชาชีพเพื่อพิจารณา
ถ้าคณะกรรมการวิชาชีพเห็นเป็นความเหมาะสมให้เพิกถอนการสั่งพักใช้ใบอนุญาตของผู้ขอรับใบอนุญาต ผู้ขอรับใบอนุญาตจะขอรับใบอนุญาตต่อไป
พนักงานเจ้าหน้าที่ ```
เข้าไปในสถานที่ของผู้ประกอบโรคศิลปะในระหว่างเวลาทำการเพื่อตรวจสอบหรือควบคุมให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
เข้าไปในสถานที่ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่า มีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ในระหว่างเวลาทำการหรือในเวลานอกทำการตามที่จำเป็น ทั้งนี้ เพื่อรวบรวมเอกสาร หลักฐานหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ในการสอบสวนหรือดำเนินคดีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ได้แก่
เมื่อได้เข้าไปแล้วลงมือทำการตรวจสอบในเวลาทำการหรือในเวลานอกทำการก็ได้ หรือ
ในกรณีฉุกเฉินอย่างยิ่ง อาจจะทำการตรวจสอบในเวลาทำการหรือนอกเวลาทำการก็ได้
ยึดหรืออายัดเอกสาร หลักฐานหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ เพื่อประโยชน์ในการสอบสวนหรือดำเนินคดี ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง ให้บุคคลต้องอยู่ในสถานที่นั้นอำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามสมควร
กรณียุติธรรม
คำวินิจฉัยของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด
การอุทธรณ์ตามวรรคหนึ่ง ย่อมไม่เป็นการทุเลาการบังคับตามคำสั่งที่ให้สั่งหรือสั่งเพิกถอนใบอนุญาต คำวินิจฉัยของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด
ผู้ประกอบโรคศิลปะผู้ใดซึ่งอยู่ในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตกระทำด้วยการใด ๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิทำการประกอบโรคศิลปะอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๔๕ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
บทเฉพาะกาล
การเลือกตั้งผู้ประกอบวิชาชีพสาขาเป็นกรรมการวิชาชีพตามมาตรา ๑๕ (ข) มาตรา ๑๖ (ข) มาตรา ๑๗ (ข) หรือมาตรา ๑๘ (ข) ให้กระทำให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และให้กรรมการวิชาชีพซึ่งได้รับการเลือกตั้งตามมาตรานั้นนอกจากตำแหน่งพร้อมกับกรรมการวิชาชีพซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งตามมาตรา ๑๕ (ข) มาตรา ๑๖ (ข) มาตรา ๑๗ (ข) หรือมาตรา ๑๘ (ข) แล้วแต่กรณี
ผู้ใดได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนปัจจุบัน ให้ถือว่าผู้นั้นได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสาขาการแพทย์
ผู้ใดได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณทั่วไปสาขานวดกรรม ให้ถือว่าผู้นั้นได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทย ประเภทเวชกรรมไทย
ผู้ใดได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณทั่วไปสาขาเภสัชกรรม ให้ถือว่าผู้นั้นได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทย ประเภทเภสัชกรรมไทย
ผู้ใดได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะแผนโบราณทั่วไปสาขาผดุงครรภ์ ให้ถือว่าผู้นั้นได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทย ประเภทผดุงครรภ์ไทย
ผู้ใดได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาประยุกต์ ให้ถือว่าผู้นั้นได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทยประเภทประยุกต์
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ประกอบโรคศิลปะจะต้องปฏิบัติตามข้อจำกัดและเงื่อนไข ตลอดจนต้องรักษามรรยาทแห่งวิชาชีพตาม บทบัญญัติแห่งกฎหมายดังนี้ ให้คณะกรรมการมีอำนาจสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ แผนปัจจุบัน สาขาชีวเวชศาสตร์ เมื่อปรากฏว่าผู้รับใบอนุญาตกระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติในวรรคหนึ่ง
ถ้าคณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการควบคุม การประกอบโรคศิลปะ พุทธศักราช 2542 ยังมิได้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดเกี่ยวกับคำขอคำขอ ให้ถือ ว่าเป็นคำขอที่ได้ยื่นตามพระราชบัญญัตินี้ และให้ดำเนินการเกี่ยวกับคำขอคำขอตาม พระราชบัญญัตินี้ต่อไป
ถ้าคณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการควบคุม การประกอบโรคศิลปะ พุทธศักราช 2542 ได้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดเกี่ยวกับคำขอคำขอแล้ว การ ดำเนินการนั้นถือเป็นการดำเนินการต่อไปในรูปเดียวกันของบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการควบคุม การประกอบโรคศิลปะ พุทธศักราช 2542 ต่อไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ
กรณีที่คณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปะได้ส่งเรื่องให้ คณะอนุกรรมการสอบสวนแล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้ ก็ให้สอบสวนตามพระราชบัญญัติการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ พุทธศักราช 2542 ต่อไป และเมื่อได้ผลการสอบสวนแล้ว ให้ส่งรายงานและสำนวนการ สอบสวนพร้อมทั้งความเห็นต่อคณะกรรมการวิชาชีพตามมาตรา 4 หรือมาตรา 12 หรือมาตรา 13 หรือมาตรา 24 แล้วแต่กรณี พิจารณาวินิจฉัยต่อไปตามพระราชบัญญัติการควบคุมการประกอบ โรคศิลปะ พุทธศักราช 2542
ในกรณีที่ได้มีการสอบสวนหรือพิจารณาโดยถูกต้องตามพระราชบัญญัติการควบคุม การประกอบโรคศิลปะ พุทธศักราช 2542 แล้วในส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้การสอบสวนหรือพิจารณานั้นถือเป็นไปตามพระราชบัญญัติการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ พุทธศักราช 2542
กรณีที่ได้มีการเสนอเรื่องหรือรายงานผลการสอบสวนหรือพิจารณาไปยังคณะกรรมการ ควบคุมการประกอบโรคศิลปะแล้วโดยถูกต้องตามพระราชบัญญัติการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ พุทธศักราช 2542 และคณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปะได้พิจารณาแล้วเสร็จ ให้การพิจารณา นั้นถือเป็นไปตามพระราชบัญญัติการควบคุมการประกอบโรคศิลปะ พุทธศักราช 2542 จนกว่าจะเสร็จ
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี อัตราค่าธรรมเนียม
ค่าขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท
ค่าต่ออายุใบอนุญาต ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท
ค่าคำขอให้มีการเพิกถอนและเปลี่ยนแปลงใบอนุญาต ฉบับละ ๕๐๐ บาท
ค่าคำขอรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ และหนังสือรับรองอย่างอื่น ฉบับละ ๕๐๐ บาท
ค่าสอบความรู้ผู้ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ
ค่าคำขอ ฉบับละ ๒,๐๐๐ บาท
ค่าหนังสืออนุมัติให้แสดงว่าเป็นผู้มีความรู้ ความชำนาญในการประกอบโรคศิลปะ ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท
ค่าใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ ๕๐๐ บาท
ค่าแปลใบอนุญาตของผู้ประกอบโรคศิลปะ เป็นภาษาต่างประเทศ ฉบับละ ๑,๐๐๐ บาท
ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ฉบับละ ๕๐ บาท หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปะ พุทธศักราช ๒๕๔๒ ได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน แม้ว่าจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมหลายครั้ง แต่บทบัญญัติบางประการยังไม่สอดคล้องกับหลักวิชาการและสถานการณ์ในปัจจุบัน ประกอบกับได้มีการประกาศประกาศแผนแม่บทว่าด้วยการพัฒนาวิชาชีพ การประกอบโรคศิลปะและแผนปัจจุบัน สถานการณ์พัฒนาสมรรถนะการควบคุม การประกอบโรคศิลปะตามแผนปัจจุบันด้านการแพทย์ และการประกอบโรคศิลปะตามแผนปัจจุบันด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ซึ่งเป็นการปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการประกอบโรคศิลปะ และคณะกรรมการวิชาชีพเพื่อพัฒนาความสามารถประกอบโรคศิลปะสาขาต่าง ๆ ให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเพื่อส่งเสริมการประกอบโรคศิลปะสาขาต่าง ๆ ให้เกิดความอิสระและคล่องตัวในการดำเนินงาน และเพื่อความสมบูรณ์แห่งการส่งเสริมการประกอบโรคศิลปะโดยรวม อันจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน สมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการประกอบโรคศิลปะให้เหมาะสมยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ ของพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้นไว้ โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ ในบัญชีท้ายดังกล่าวมีรายการที่ขึ้นใหม่โดยมิได้มีการกำหนดให้มีการตราพระราชบัญญัติอำนาจบริหารและอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม นั้นแล้ว และเนื่องจากพระราชบัญญัติคำกล่าวได้กำหนดบัญญัติให้อำนาจหน้าที่ของส่วนราชการ รัฐบาลจึงตราพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับบัญชีท้ายดังกล่าวเพิ่มเติมเพื่อส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดิน โดยให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อันนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวหลักการที่ปรากฏในพระราชบัญญัติและพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว จึงสมควรแก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายให้สอดคล้องกับการบริหารราชการ เพื่อให้การปฏิบัติราชการของส่วนราชการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สมควรตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้นไว้ โดยให้บทบัญญัติของกฎหมายที่แก้ไขเพิ่มเติมนี้มีผลใช้บังคับแก่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องหรือผู้ปฏิบัติหน้าที่ของส่วนราชการให้สอดคล้องกับการบริหารราชการในส่วนราชการในการออกคำสั่งหรือการดำเนินการที่เกี่ยวข้องต่อไป ราชการในส่วนหนึ่งที่ต่อส่วนราชการเดิมที่มีการยุบเลิกแล้ว ซึ่งเป็นการแก้ไขให้ตรงตามพระราชบัญญัติ และพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ พระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2542 หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ได้มีการแก้ไขการแบ่งส่วนราชการในกระทรวงสาธารณสุขใหม่ และการประกอบโรคศิลปะสาขากายภาพบำบัดและกิจกรรมบำบัดให้มาอยู่ในความดูแลของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อให้เหมาะสมกับภารกิจและคุณสมบัติของคณะกรรมการการประกอบโรคศิลปะ และคณะกรรมการวิชาชีพให้สอดคล้องกันด้วย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2550 หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศไทยในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หมวดนี้ได้เลือกปฏิบัติไม่เป็นธรรมต่อบุคคล เพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องสภาพทางกาย เช่นบทบัญญัติ (8) ของมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 ที่บัญญัติว่า “ผู้ประกอบโรคศิลปะต้องมีสภาพทางกายที่สมบูรณ์” ซึ่งเป็นการเลือกปฏิบัติไม่เป็นธรรมต่อบุคคล เพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องสภาพทางกาย จึงสมควรแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในเรื่องดังกล่าวให้เหมาะสมยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2556
พระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขากิจกรรมบำบัดเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 พ.ศ. 2545
พระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขากายภาพบำบัดตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 พ.ศ. 2546
พระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอกเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 พ.ศ. 2546 <ร่างกฤษฎีกานี้ผ่านการตรวจพิจารณาแล้ว> <ร่างกฤษฎีกานี้ผ่านการตรวจพิจารณาแล้ว> <ร่างกฤษฎีกานี้ผ่านการตรวจพิจารณาแล้ว>
พระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาวิชาสีเทคนิคเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. ๒๕๔๒ พ.ศ. ๒๕๔๕
พระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาจิตวิทยาคลินิกเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. ๒๕๔๒ พ.ศ. ๒๕๔๕
พระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอกเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. ๒๕๔๒ พ.ศ. ๒๕๕๔
พระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาเวชกรรมฟื้นฟูเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. ๒๕๔๒ พ.ศ. ๒๕๕๔
พระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาการแพทย์แผนจีนเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. ๒๕๔๒ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๕
พระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาเทคโนโลยีหัวใจและทรวงอกเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. ๒๕๔๒ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๕ ให้ผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ในสาขาวิชาชีพดังกล่าวข้างต้นซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องมาเป็นเวลานานในราชการหรือในหน่วยงานของรัฐหรือในสถานพยาบาลเอกชนที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล และมีคุณสมบัติอย่างอื่นครบถ้วนตามที่กำหนดในกฎกระทรวง สามารถขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะในสาขาวิชาชีพนั้นได้โดยต้องยื่นคำขอภายในระยะเวลาที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกานี้ หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ได้มีการประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยและการประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ไว้ในกฎหมายเฉพาะ ประกอบกับมีสาขาการประกอบโรคศิลปะหลายสาขาที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา สมควรยกเลิกสาขาการประกอบโรคศิลปะที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวและกำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. ๒๕๔๒ โดยไม่เพิ่มต้นทุนภาระการประกอบโรคศิลปะ คณะกรรมการวิชาชีพสาขาต่าง ๆ และคุณสมบัติของผู้ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต รวมทั้งปรับปรุงกลไกการกำกับดูแลการประกอบโรคศิลปะและคณะกรรมการวิชาชีพให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ```
ให้เปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของสภาหรือคณะกรรมการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการโอนสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ไปเป็นส่วนราชการตามมาตรา ๑๑ วรรคสอง เพื่อให้สอดคล้องกับการโอนอำนาจหน้าที่และการเปลี่ยนแปลงราชการตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ตามที่กำหนดในบัญชี ๕ ท้ายพระราชบัญญัติ ความในวรรคหนึ่ง มิให้กระทบต่อการดำเนินการใด ๆ อันเป็นลักษณะอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายด้วยการอาชีวศึกษา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า มั่นคง และยั่งยืน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคปัจจุบันและอนาคต จึงสมควรปรับปรุงระบบการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมขึ้น เพื่อให้การบูรณาการ การเรียนการสอน การวิจัย และการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศาสตร์อื่นเข้าด้วยกัน และให้เกิดความร่วมมือในการปฏิบัติงานที่ระหว่างสถาบันอุดมศึกษาและสถาบันวิจัยในทิศทางที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผน และนโยบายในการพัฒนาประเทศ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ ``` ``` ปีพิมพ์/แก้ไข พิมพ์/ตรวจ ๔ มกราคม ๒๕๕๔ ปลดตรา/เพิ่มเติม ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ชญานิน/เพิ่มเติม ๘ พฤษภาคม ๒๕๖๒ วิพรรษ/ตรวจ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ```