로고

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เป็นปีที่ ๓ ในรัชกาลปัจจุบัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

ให้ไว้ ณ วันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑

โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ

มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑"

มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

เป็นต้นไป

มาตรา ๓ ให้ยกเลิก

(๑)

พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒

(๒)

พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๐๔

(๓)

พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๖

(๔)

ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๒๓ ลงวันที่ ๒๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๑๖

(๕)

พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๓ (b) พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๔

(ค)

พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๕๓

มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้

“งบประมาณรายจ่าย” หมายความว่า จำนวนเงินอย่างสูงที่อนุญาตให้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันได้ตามวัตถุประสงค์และภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย “งบประมาณรายจ่ายข้ามปี” หมายความว่า งบประมาณรายจ่ายที่มีระยะเวลาการใช้ได้เกินปีงบประมาณหนึ่งซึ่งระยะเวลาที่เกินจะกำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย “กฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม” หมายความว่า พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม หรือพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย “ปีงบประมาณ” หมายความว่า ระยะเวลาหนึ่งซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคมของปีหนึ่ง ถึงวันที่ ๓๐ กันยายนของปีถัดไป และให้หมายความรวมถึงปีงบประมาณนั้น “เงินงบประมาณ” หมายความว่า บรรดาเงินทั้งปวงที่หน่วยงานของรัฐจัดเก็บหรือได้รับไว้เป็นรายรับของแผ่นดิน และให้หมายความรวมถึงเงินที่ได้รับโดยวิธีการกู้เงินด้วย ทั้งนี้ ต้องนำส่งคลัง “หนี้” หมายความว่า ข้อผูกพันที่จะต้องจ่ายหรืออาจจะต้องจ่ายเป็นเงิน สิ่งของหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นข้อผูกพันอันเกิดจากการกู้ยืม การค้าประกัน การซื้อหรือการจ้างโดยใช้เครดิตหรือจากการอื่นใด “เงินจัดสรร” หมายความว่า ส่วนหนึ่งของงบประมาณรายจ่ายที่แบ่งสรรให้จ่าย หรือให้ก่อหนี้ผูกพันในระยะเวลาหนึ่ง “หน่วยรับงบประมาณ” หมายความว่า หน่วยงานของรัฐที่ขอรับหรือได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่าย และให้หมายความรวมถึงสภากาชาดไทยด้วย “หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า

(ก)

รัฐสภา

(ข)

รัฐวิสาหกิจ

(ค)

หน่วยงานของรัฐสภา ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และองค์กรอัยการ

(๔)

องค์การมหาชน

(๕)

ทุนหมุนเวียนที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล

(๖)

องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

(๗)

หน่วยงานอื่นของรัฐตามที่กฎหมายกำหนด “ส่วนราชการ” หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น และมีฐานะเป็นกรม และให้นำเอาความรวมถึงจังหวัดและกลุ่มจังหวัดตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินด้วย “รัฐวิสาหกิจ” หมายความว่า

(ก)

องค์การของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล กิจการของรัฐซึ่งมีกฎหมายจัดตั้งขึ้น หรือหน่วยงานรัฐที่รัฐถือหุ้นเกินกว่าร้อยละห้าสิบ

(ข)

บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตาม (ก) มีทุนรวมอยู่ด้วยเกินร้อยละห้าสิบ

(ค)

บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจตาม (ก) หรือ (ข) หรือทั้งสองส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจรวมกันมีทุนรวมอยู่ด้วยเกินร้อยละห้าสิบ “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่มีกฎหมายจัดตั้ง “คลัง” หมายความว่า ที่เก็บรักษาเงินแผ่นดินของกระทรวงการคลัง และให้นำหมายความรวมถึงบัญชีเงินฝากธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อการนี้ด้วย “ผู้อำนวยการ” หมายความว่า ผู้อำนวยการสำนักงานประมาณ “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

มาตรา ๕ ให้คณะรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้ออกกฎกระทรวงและระเบียบเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้

หมวด ๑

บททั่วไป

มาตรา ๖ การจัดทำงบประมาณ การบริหารงบประมาณรายจ่าย การควบคุมงบประมาณ และการประเมินผลและการรายงาน ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ และสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ

มาตรา 7 ให้หน่วยรับงบประมาณใช้จ่ายงบประมาณตามกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายอย่างเคร่งครัด โดยต้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ

การโอนงบประมาณรายจ่าย ให้กระทำได้เฉพาะกรณีมีความจำเป็นตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้เท่านั้น

มาตรา 8 ให้รัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีที่มีกฎหมายกำหนดให้มีหน้าที่กำกับหรือควบคุมกิจการของหน่วยรับงบประมาณ หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าหน่วยรับงบประมาณควบคุมการใช้งบประมาณให้เป็นไปอย่างโปร่งใสและสุจริตยิ่งขึ้น และให้มีการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินงานเพื่อให้การใช้งบประมาณเกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด

มาตรา 9 เพื่อประโยชน์เกี่ยวกับการงบประมาณ ให้หัวหน้าหน่วยรับงบประมาณมอบหมายผู้บริหารของหน่วยรับงบประมาณในดคณะหนึ่งรับผิดชอบประสานงานเกี่ยวกับงบประมาณของหน่วยรับงบประมาณนั้น โดยให้แจ้งสำนักงานงบประมาณทราบด้วย

หมวด 2

ลักษณะของงบประมาณ

มาตรา 10 งบประมาณประจำปีที่เสนอ ต่อรัฐสภา อย่างน้อยต้องมีเอกสารประกอบ ดังต่อไปนี้

(ก)

คำแถลงประกอบงบประมาณแสดงฐานะและนโยบายการคลังและการเงิน สาระสำคัญของงบประมาณ และความสัมพันธ์ระหว่างรายรับและงบประมาณรายจ่ายที่ขอจัดตั้ง

(ข)

รายรับรายจ่ายเปรียบเทียบระหว่างที่ผ่านมานั้น ปีปัจจุบัน และปีที่ขอตั้งงบประมาณรายจ่าย

(ค)

คำอธิบายเกี่ยวกับประมาณการรายรับ

(ง)

คำชี้แจงเกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายที่ขอตั้ง ซึ่งรวมถึงการแสดงผลสัมฤทธิ์และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการใช้งบประมาณ และความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ

(จ)

รายงานเกี่ยวกับการดำเนินงานของหน่วยรับงบประมาณที่ผ่านมา

(ฉ)

รายงานเกี่ยวกับการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานการใช้งบประมาณของหน่วยรับงบประมาณ

(ช)

คำอธิบายเกี่ยวกับหน้าที่ของรัฐสภาที่เกี่ยวข้องที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่เพิ่มเติม

(๔๘)

ผลการดำเนินงานและการใช้จ่ายงบประมาณของปีงบประมาณที่ล่วงมาแล้ว

(๔๙)

ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี

มาตรา ๑๑ ในการเสนอร่างงบประมาณต่อรัฐสภานั้น ถ้าประมาณการรายรับประมาทรายได้ ตามที่มีเหตุผลให้อำนาจตัดทอนอยู่แล้วเป็นจำนวนต่ำกว่าจำนวนรายจ่ายที่ตั้งขึ้นทั้งหมด ให้แสดงวิธีหาเงิน ส่วนที่ขาดทูลต่อรัฐสภาด้วย แต่ถ้าเป็นจำนวนสูงกว่าก็แสดงวิธีจัดการแสดงจำนวนที่เกินดุลด้วย

ในกรณีที่ต้องมีการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่บัญญัติ ไว้ในกฎหมายว่าด้วยวิธีการเงินการคลังของรัฐและกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ

มาตรา ๑๒ ในกรณีที่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีออกใช้ไม่ทันปีงบประมาณใหม่ ให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณที่แล้วเสมือนหนึ่งแล้วไปพลางก่อน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ ผู้อนุมัติกำหนดโดยอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี

มาตรา ๑๓ การเสนอร่างงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมต่อรัฐสภา ให้คณะรัฐมนตรีเสน่อ่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม โดยให้แสดงเหตุผลและแผนที่มิได้ดำเนินการในร่าง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณด้วย

การจัดทำร่างงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยวิธีการเงินการคลังของรัฐ

มาตรา ๑๔ งบประมาณรายจ่ายที่กำหนดในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีหรือ พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม อาจจำแนกได้ดังต่อไปนี้

(๑)

งบประมาณรายจ่ายงบกลาง

(๒)

งบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณ

(๓)

งบประมาณรายจ่ายงบสภากา

(๔)

งบประมาณรายจ่ายงบบุคลากร

(๕)

งบประมาณรายจ่ายสำหรับทุนหมุนเวียน

(๖)

งบประมาณรายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ภาครัฐ

(๗)

งบประมาณรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง

(๘)

งบประมาณรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินทุนสำรองจ่าย การจำแนกการจ่ายเงินเป็นงบประมาณรายจ่ายตามประเภทที่กำหนดในวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่ผู้อำนวยการกำหนด

มาตรา ๑๔ งบประมาณรายจ่ายงบกลาง ได้แก่ งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้เพื่อจัดสรรให้แก่หน่วยรับงบประมาณไปใช้จ่าย โดยแยกต่างหากจากงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณ และให้มีรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นด้วย

มาตรา ๑๕ งบประมาณรายจ่ายงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ได้แก่ งบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้สำหรับแผนงานบูรณาการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ โดยที่หน่วยรับงบประมาณแต่ละหน่วยที่เกี่ยวข้องกับแผนงานบูรณาการดังกล่าว ต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ

มาตรา ๑๖ งบประมาณรายจ่ายบุคลากร ได้แก่ งบประมาณรายจ่ายที่กำหนดให้จ่ายเพื่อการบริหารงานบุคคลภาครัฐ

มาตรา ๑๗ งบประมาณรายจ่ายข้ามปีได้แก่เงินที่กำหนดที่จะใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายให้เสร็จสิ้นภายในปีงบประมาณนั้นไม่ได้ โดยต้องกำหนดให้ชัดเจนไว้ด้วย

การจัดทำงบประมาณรายจ่ายข้ามปีให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ผู้อำนวยการกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี

หมวด ๓

หน้าที่และอำนาจของผู้อำนวยการ

มาตรา ๑๘ ให้ผู้อำนวยการมีหน้าที่และอำนาจจัดทำงบประมาณกับปฏิบัติการอย่างอื่นตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ และให้มีหน้าที่และอำนาจเกี่ยวกับการงบประมาณ ดังต่อไปนี้ด้วย

(ก)

กำหนดยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี เพื่อให้หน่วยรับงบประมาณใช้เป็นแนวทางในการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี

(ข)

กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่าย เพื่อให้การจัดทำงบประมาณสอดคล้องกับลักษณะการตามมาตรา ๑๘

(ค)

เรียกให้หน่วยรับงบประมาณเสนอประมาณการรายรับและรายจ่ายและสถานะเงินนอกงบประมาณตามแบบและหลักเกณฑ์ พร้อมด้วยรายละเอียดที่ผู้อำนวยการกำหนด

(๔)

วิเคราะห์งบประมาณและการจ่ายเงินของหน่วยรับงบประมาณ รวมทั้งเสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับงบประมาณของหน่วยงานของรัฐสภา ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ศาลยุติธรรมผู้ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และองค์กรอัยการด้วย

(๕)

กำหนด เพิ่ม หรือลดเงินจัดสรรตามความจำเป็นของการปฏิบัติงาน

(๖)

กำหนดระยะเวลาของเงินจัดสรร

(๗)

ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้งบประมาณของหน่วยรับงบประมาณ

(๘)

ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายอื่นบัญญัติให้เป็นหน้าที่และอำนาจของผู้อนุมัติ อนุการ หรือ ตามที่คณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีมอบหมาย

มาตรา ๒๐ ให้ผู้อำนวยการเสนอร่างงบประมาณประจำปีต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อคณะรัฐมนตรี เสนอต่อรัฐสภาในเวลาที่อำนวยก่อนวันสิ้นปีงบประมาณนั้น

มาตรา ๒๑ เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ผู้อำนวยการมีอำนาจเรียกให้หน่วยรับ งบประมาณส่งข้อมูลหรือเอกสารที่เกี่ยวข้อง และให้ผู้อำนวยการมอบหมายให้นเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบบัญชี เอกสาร และหลักฐานต่าง ๆ ของหน่วยรับ งบประมาณได้

มาตรา ๒๒ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ผู้อำนวยการมอบหมายตามมาตรา ๒๑ เป็นเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา

หมวด ๔

การจัดทำงบประมาณ

มาตรา ๒๓ การจัดทำงบประมาณต้องคำนึงถึงประมาณการรายรับและฐานะการคลังของ ประเทศ ความจำเป็นในการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ และพัฒนาความรู้คู่คุณธรรมและคุณภาพชีวิต เสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศและภายนอกประเทศ ความเป็นธรรมทางสังคม นโยบายรัฐบาล และ การกิจของหน่วยรับงบประมาณ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณและ เกิดผลสัมฤทธิ์ในการบริหารจัดการภาครัฐ

มาตรา ๒๔ ในการจัดทำงบประมาณประจำปี ให้สำนักงบประมาณเป็นหน่วยงานหลัก โดยร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อดำเนินการดังต่อไปนี้

(๑)

กำหนดนโยบายงบประมาณประจำปี ประมาณการรายได้ วงเงินงบประมาณรายจ่าย และวิธีการเพื่อดำเนินการทดรองงบประมาณ หรือการจัดการในกรณีที่มีประมาณการใช้จ่ายงบประมาณงบประมาณ

(๒)

กำหนดสัดส่วนงบประมาณรายจ่ายเพื่อการลงทุนและงบประมาณรายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ภาครัฐ ต่อกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี

(๓)

กำหนดกรอบงบประมาณการรายจ่าย ประมาณการรายรับ และฐานะการคลังของรัฐบาลเป็นการล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสามปี เมื่อได้ดำเนินการตาม (๑) แล้ว ให้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ

ส่วนที่ ๑ การขอตั้งงบประมาณรายจ่าย

มาตรา ๒๕ ภายใต้บังคับมาตรา ๒๔ ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัด หรือรัฐมนตรีที่มีกฎหมายกำหนดให้มีหน้าที่กำกับหรือควบคุมกิจการของหน่วยรับงบประมาณ หรือรัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมายที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการยื่นคำของบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณนั้นต่อผู้อำนวยการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่ผู้อำนวยการกำหนด

การยื่นคำของบประมาณรายจ่ายตามวรรคหนึ่ง อย่างน้อยต้องแสดงวัตถุประสงค์ แผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ และให้จัดส่งรายงานเกี่ยวกับเงินนอกงบประมาณตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ผู้อำนวยการกำหนดด้วย

มาตรา ๒๖ ในกรณีที่หน่วยรับงบประมาณต้องตั้งงบประมาณสำหรับชำระหนี้ที่ค้างชำระมาจากปีก่อนปีงบประมาณ ให้หน่วยรับงบประมาณนั้นจัดทำคำของบประมาณแสดงจำนวนหนี้ที่ค้างชำระและเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่ออนุมัติให้ตั้งงบประมาณสำหรับชำระหนี้ดังกล่าวในปีงบประมาณต่อไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ผู้อำนวยการกำหนด

มาตรา 27 การขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการจังหวัดที่เป็นหัวหน้ากลุ่มจังหวัด มีหน้าที่รับผิดชอบในการรวบรวมคำขอตั้งงบประมาณรายจ่าย และยื่นต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่ผู้อนุมัติกำหนด

มาตรา 28 การขอตั้งงบประมาณรายจ่ายของรัฐสภา ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และองค์กรอัยการ ให้หน่วยงานของรัฐสภา ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และองค์กรอัยการ ทำหน้าที่จัดทำคำขอตั้งงบประมาณ โดยจะต้องยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ให้เป็นความในมาตรา 25 วรรคสอง มาใช้บังคับกับการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายตามมาตรานี้ด้วย

มาตรา 29 การขอตั้งงบประมาณรายจ่ายเพื่อสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นงบอุดหนุนสำหรับการดำเนินการโดยทั่วไปหรือสำหรับการดำเนินการในเรื่องที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะ ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายและยื่นต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณา ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกำหนด

การจัดสรรงบประมาณเป็นเงินอุดหนุนสำหรับการดำเนินการโดยทั่วไปขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้สำนักงานประมาณพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

มาตรา 30 การยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีนั้น ถ้าหน่วยรับงบประมาณมิได้ยื่นภายในกำหนดระยะเวลาตามที่ผู้อนุมัติกำหนด หรือยื่นคำขอโดยไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเงินอุดหนุนงบประมาณตามมาตรา 25 และมาตรา 27 ให้ผู้อนุมัติงดการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้ได้ตามที่เห็นสมควร

ส่วนที่ 2 งบประมาณรายจ่ายบูรณาการ

มาตรา 31 เพื่อประโยชน์ในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ให้มีการจัดทำแผนงานบูรณาการซึ่งประกอบด้วย เป้าหมายร่วม วัตถุประสงค์ งบประมาณรายจ่ายที่จัดไว้สำหรับดำเนินการ

ระยะเวลาการดำเนินการที่ชัดเจน สามารถจัดสรรสัมฤทธิ์ได้ รวมทั้งการจัดของหน่วยรับงบประมาณที่เป็นเจ้าภาพหลักและหน่วยรับงบประมาณที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ประหยัด และลดความซ้ำซ้อน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ผู้อนุมัติแผนงานกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี

มาตรา 31 เมื่อคณะรัฐมนตรีอนุมัติแผนงานหรือแผนการแล้ว การจัดทำงบประมาณรายจ่ายตามแผนงานงบประมาณ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ผู้อนุมัติแผนงานกำหนด

หมวด 5

การบริหารงบประมาณรายจ่าย

มาตรา 32 เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น การบริหารงบประมาณรายจ่ายตามกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย ให้เป็นไปตามระเบียบที่ผู้อำนวยการกำหนด

มาตรา 33 เพื่อประโยชน์ในการบริหารงบประมาณรายจ่าย ให้หน่วยรับงบประมาณจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายเสนอต่อผู้อำนวยการหรือผู้ที่ผู้อำนวยการมอบหมาย

มาตรา 34 งบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณที่กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย จะโอนหรือนำไปใช้สำหรับหน่วยรับงบประมาณอื่นมิได้ เว้นแต่

(ก)

มีพระราชบัญญัติให้โอนหรือนำไปใช้ได้

(ข)

ในกรณีที่มีพระราชกฤษฎีกาการโอนส่วนราชการเข้าด้วยกันไม่ว่าจะมีผลเป็นการจัดตั้งส่วนราชการขึ้นใหม่หรือไม่ก็ตาม ให้โอนงบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการที่ถูกโอนหรือรวมเข้าด้วยกันนั้นไปเป็นของส่วนราชการที่รับโอนหรือรวมเข้าด้วยกัน หรือส่วนราชการที่ตั้งขึ้นใหม่ แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว

(ค)

การโอนงบประมาณรายจ่ายภายในกระทรวงภายใต้แผนงานงบประมาณเดียวกัน

(ง)

การโอนงบประมาณรายจ่ายตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ

(จ)

การโอนงบประมาณรายจ่ายตาม (ก) และ (ค) ให้กระทำได้เท่าที่จำเป็นและไม่ก่อให้เกิดผลเสียหายต่อการดำเนินการตามแผนงานงบประมาณและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่าย ทั้งนี้ ตามระเบียบที่ผู้อำนวยการกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี

มาตรา ๖๑ งบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณที่กำหนดไว้ในแผนงานหรือรายการใดตามกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย หรือพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังมาตรา ๔๕ (๒) จะโอนหรือนำไปใช้ในแผนงานหรือรายการอื่นได้ เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากผู้อำนวยการ แต่ผู้อำนวยการอนุมัติไม่ได้ในกรณีเป็นการโอนให้เพิ่มรายจ่ายประเภทรายจ่ายประจำ หรือเป็นแผนงานหรือโครงการใหม่ เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี

รายจ่ายรายการต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ในงบประมาณรายจ่ายกลาง ให้ผู้อำนวยการมีอำนาจจัดสรรให้หน่วยรับงบประมาณเบิกจ่ายโดยตรง หรือเบิกจ่ายในรายการต่าง ๆ ของหน่วยรับงบประมาณนั้น ๆ ได้ตามความจำเป็น ในกรณีที่มีความจำเป็นผู้อำนวยการโดยอนุมัติจากรัฐมนตรีจะโอนงบประมาณรายจ่ายกลางรายการใดรายการหนึ่งไปเพิ่มรายการอื่น ๆ ในงบกลางด้วยกันก็ได้

หมวด ๖

การควบคุมงบประมาณ

มาตรา ๖๒ ให้รัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบควบคุมการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ และกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย และเพื่อการนี้ให้รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีมีอำนาจออกระเบียบกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินดังกล่าวด้วย

เพื่อประโยชน์ในการควบคุมงบประมาณรายจ่าย ให้รัฐมนตรีมีอำนาจเรียกให้หน่วยรับงบประมาณเสนอข้อเท็จจริงตามที่เห็นสมควร และให้อำนาจมอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสมุดบัญชี เอกสาร และหลักฐานต่าง ๆ ของหน่วยรับงบประมาณได้ โดยถือว่าพนักงานเจ้าหน้าที่ที่รัฐมนตรีมอบหมายเป็นพนักงานตามกฎหมายประมวลกฎหมายอาญาด้วย

มาตรา ๖๓ ให้รัฐมนตรีมีอำนาจสั่งให้หน่วยรับงบประมาณจัดทำ หรือจัดให้มี หรือจัดควบคุมกิจกรรมหรือโครงการใด ๆ หรือรายงานผลการดำเนินงานหรือผลการใช้จ่ายงบประมาณ หรือควบคุมการใช้จ่ายเงินงบประมาณของหน่วยรับงบประมาณให้มีความคุ้มค่าในการดำเนินงาน และให้การใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายและกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐอย่างเคร่งครัด

ในการยื่นของหน่วยงานของรัฐสภา ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และองค์กรอัยการ ให้ผู้รักษาการตามกฎหมายว่าด้วยการนั้นมีหน้าที่รับผิดชอบในการกำกับหรือควบคุมการใช้งบประมาณของหน่วยรับงบประมาณให้เป็นไปตามวรรคหนึ่ง

มาตรา 39 ให้หน่วยรับงบประมาณมิสิทธิ์ทำการควบคุมการใช้งบประมาณรายจ่ายให้เป็นไปตามแผนงานหรือโครงการและแผนปฏิบัติการที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย หรือตามที่มีการโอน หรือได้รับเงินจัดสรรตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา 40 หน่วยรับงบประมาณจะจ่ายเงินหรือดำเนินการผูกพันได้เฉพาะตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายหรือพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่อยู่ตามกฎหมายอื่นที่กำหนดให้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายด้วย

การจ่ายเงินหรือก่อหนี้ผูกพันในกรณีตามวรรคหนึ่ง ต้องเป็นไปตามแผนปฏิบัติการและแผนการใช้งบประมาณที่ได้รับความเห็นชอบจากผู้อำนวยการตามมาตรา 37 โดยต้องได้รับอนุมัติในลักษณะจากผู้อำนวยการก่อนการจ่ายเงินหรือก่อหนี้ผูกพัน เว้นแต่กรณีที่เป็นรายการงบประมาณรายจ่ายบุคลากรและรายการอื่นที่จำเป็นต้องทำการเห็นชอบตามที่เห็นสมควรโดยรัฐมนตรี ให้หน่วยรับงบประมาณจ่ายเงินหรือก่อหนี้ผูกพันได้โดยไม่ต้องขออนุมัติ ในกรณีที่มีการขออนุมัติ คณะรัฐมนตรีอาจมอบหมายให้หน่วยรับงบประมาณจ่ายเงินหรือก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายก่อนให้ได้รับเงินจัดสรรตามวรรคหนึ่ง

มาตรา 41 รายการงบประมาณรายจ่ายตามกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายที่จะต้องก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ให้ผู้อำนวยการรวบรวมรายการงบประมาณรายจ่ายที่จะต้องก่อหนี้ผูกพันและงบเงินที่คาดว่าจะต้องก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายในปีต่อ ๆ ไป รวมทั้งงบเงินที่มีผลต่อเนื่องจากการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายนั้นจัดทำเป็นคำของบประมาณนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติและกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขนั้นตามที่เห็นสมควรด้วยงบประมาณรายจ่ายที่ยังไม่ได้รับเงิน และเมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบแล้ว ให้หน่วยรับงบประมาณดำเนินการตามระเบียบที่ผู้อำนวยการกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี

มาตรา 42 ในกรณีการขออนุมัติการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณที่สิ้นสุดแล้วและมิได้กำหนดไว้ตามมาตรา 41 คณะรัฐมนตรีอาจมอบหมายให้หน่วยรับงบประมาณจ่ายเงินหรือก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายก่อนให้ได้รับเงินจัดสรรตามวรรคหนึ่งได้

เมื่อคณะรัฐมนตรีอนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณแล้ว ให้หน่วยรับงบประมาณดำเนินการก่อนที่ผู้อำนวยการกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี

มาตรา ๔๓ การขอเบิกเงินจากคลังตามงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณใด ให้กระทำได้แต่เฉพาะภายในปีงบประมาณนั้น

ในกรณีที่ไม่สามารถเบิกเงินจากคลังได้ภายในปีงบประมาณ ให้ขยายเวลาขอเบิกเงินจากคลังได้เฉพาะในกรณีที่หน่วยรับงบประมาณได้ทำหนังสือขอขยายเวลาขอเบิกเงินจากคลังไว้ตามระเบียบที่เกี่ยวกับการเบิกเงินจากคลังแล้ว การขยายเวลาขอเบิกเงินจากคลังตามวรรคสอง ให้ขยายออกไปได้อีกไม่เกินหกเดือนของปีงบประมาณถัดไป เว้นแต่ความจำเป็นต้องขอเบิกเงินจากคลังภายหลังเวลาดังกล่าว ให้ขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังเพื่อขยายเวลาออกไปได้อีกไม่เกินหกเดือน

มาตรา ๔๔ ในกรณีที่มีงบประมาณรายจ่ายข้ามปี การขอเบิกเงินจากคลังให้กระทำได้แต่เฉพาะภายในเวลาที่กำหนดไว้ในกฎหมายด้วยงบประมาณรายจ่ายข้ามปี เว้นแต่เป็นงบประมาณรายจ่ายข้ามปีที่ได้กำหนดให้หน่วยรับงบประมาณตกลง และได้ทำหนังสือขอเบิกเงินจากคลังไว้ตามระเบียบที่เกี่ยวกับการเบิกเงินจากคลังแล้ว ก็ให้ขยายเวลาขอเบิกเงินจากคลังต่อไปได้อีกไม่เกินหกเดือน เว้นแต่ความจำเป็นต้องขอเบิกเงินจากคลังภายหลังเวลาที่กำหนดไว้ ให้ขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังเพื่อขยายเวลาออกไปได้อีกไม่เกินหกเดือน

ในกรณีที่มีงบประมาณรายจ่ายข้ามปีที่ได้กำหนดไว้ในกฎหมายด้วยงบประมาณรายจ่ายข้ามปีว่าเป็นจำนวนหนึ่งพันล้านบาท เงินทุนนี้ให้นำไปจ่ายได้ในกรณีที่มีความจำเป็นและเร่งด่วนเพื่อประโยชน์แก่ราชการแผ่นดิน และงบประมาณรายจ่ายข้ามกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นซึ่งไม่เพียงพอ ทั้งนี้ โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี และเมื่อได้จ่ายเงินไปแล้ว ให้ตั้งงบประมาณรายจ่ายเพื่อชดใช้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายเพื่อสมทบเงินทุนนี้ในปีงบต่อไปในโอกาสแรก

หมวด ๗

การประเมินผลและการรายงาน

ส่วนที่ ๑

การประเมินผล

มาตรา ๔๕ ให้ผู้อำนวยการจัดวางระบอบการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้งบประมาณของหน่วยรับงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ

เพื่อการจัดผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ที่จะได้รับจากการใช้งบประมาณ โดยให้ระบบการติดตามและประเมินผลการดำนั้นมาให้ประกอบด้วย การติดตามและประเมินผลก่อนการจัดสรรงบประมาณ ระหว่างการใช้งบประมาณ และภายหลังการใช้งบประมาณ

มาตรา ๔๔ ให้หน่วยรับงบประมาณจัดให้มีระบบการติดตามและประเมินผล การดำเนินงานตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณในความรับผิดชอบตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ผู้อำนวยการกำหนด และให้ถือว่าการประเมินผลในส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารงบประมาณที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเปิดเผยต่อสาธารณชนด้วย

มาตรา ๔๕ ในกรณีที่การประเมินผลสัมฤทธิ์ของการใช้งบประมาณอาจทำให้หน่วยรับงบประมาณมิได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ให้ผู้อำนวยการกำหนดหลักเกณฑ์การปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้หน่วยรับงบประมาณปรับปรุงแก้ไขได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด และรายงานรัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือรัฐมนตรีซึ่งมีความเกี่ยวข้องให้ทราบ ทั้งนี้ ถ้ากำกับหรือควบคุมกิจการของหน่วยรับงบประมาณ หรือรัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมาย เพื่อทราบ

ในกรณีที่หน่วยรับงบประมาณไม่สามารถปรับปรุงแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนดได้ ให้ผู้อำนวยการรายงานต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อสั่งการตามที่เห็นสมควร

ส่วนที่ ๒ การรายงาน

มาตรา ๔๖ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ ให้รัฐมนตรีประกาศรายงานการรับจ่ายเงินงบประมาณประจำปีที่สิ้นสุดนั้นและเงินทุนสำรองจ่ายในการกิจจานุเบกษาภายในกำหนดสิบวัน

มาตรา ๔๗ ให้หน่วยรับงบประมาณรายงานผลการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณที่สิ้นสุดรวมทั้งผลการปฏิบัติงานให้ผู้อำนวยการทราบภายในสิ้นหกสิบวันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณ เพื่อผู้อำนวยการจัดทำรายงานสรุปการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายและผลการปฏิบัติงานของหน่วยรับงบประมาณเสนอคณะรัฐมนตรีภายในกำหนดหกสิบวันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณ

มาตรา ๔๘ ให้ผู้อำนวยการรายงานการโอนงบประมาณรายจ่ายงบกลางระหว่างรายการที่กำหนดไว้ในงบประมาณรายจ่ายงบกลาง หรือการโอนงบประมาณรายจ่ายของหน่วยรับงบประมาณ

รายจ่ายบุคคลกรระหว่างหน่วยรับงบประมาณเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อรายงานต่อรัฐสภาภายในสามสิบวันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณนั้น

หมวด ๘

ความรับผิด

มาตรา ๕๕ ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยรับงบประมาณผู้ใดจ่ายเงินหรือก่อหนี้ผูกพัน หรือโดยรู้อยู่แล้วอนุมัติหรือกระทำการก่อหนี้ผูกพันโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้หรือระเบียบที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ นอกจากความรับผิดทางอาญาซึ่งอาจได้รับตามกฎหมายอื่นแล้ว ผู้กระทำหรือผู้อนุมัติให้กระทำการดังกล่าวจะต้องรับผิดในเงินงบประมาณที่หน่วยรับงบประมาณได้จ่ายไปหรือผูกพันจะต้องจ่าย ตลอดจนค่าเสียหายทั้งหมดใด ๆ ให้แก่หน่วยรับงบประมาณนั้น

บุคคลภายนอกที่ได้รับประโยชน์จากการกระทำของข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐดังกล่าว จะต้องร่วมรับผิดกับผู้กระทำการฝ่าฝืนด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้กระทำไปโดยสุจริตไม่รู้เท่าถึงการณ์และมิได้มีพระราชบัญญัติหรือระเบียบดังกล่าว ความในวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับแก่ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้าง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งได้ทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาหรือได้บันทึกข้อโต้แย้งเป็นหนังสือแล้วว่า การที่จะปฏิบัติตามคำสั่งนั้นอาจไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือระเบียบ บทเฉพาะกาล

มาตรา ๕๖ ในกรณีที่กฎหมายใดที่มีผลใช้บังคับอยู่ในวันก่อนที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับบัญญัติบัญญัติความว่า “รัฐวิสาหกิจ” ให้หมายความว่า รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ หรือกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ ให้ถือว่าบัญญัติความว่า “รัฐวิสาหกิจ” ในกฎหมายดังกล่าวนั้นให้มีความหมายตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๕๗ แผนพัฒนาภาคที่ได้รับความเห็นชอบอยู่ในวันก่อนที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับให้ถือว่าเป็นแผนพัฒนาภาคตามมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๕๘ ในกรณีที่กฎหมายใดที่มีผลใช้บังคับอยู่ในวันก่อนที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับบัญญัติบัญญัติความว่า “รัฐวิสาหกิจ” ให้หมายความว่า รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ หรือกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ

``` ภายในกำบับบังคับที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้มีการดำเนินการปรับปรุงหรือแก้ไขเพิ่มเติม บทนิยามคำว่า “รัฐวิสาหกิจ” หรือการอ้างอิงรัฐวิสาหกิจในกฎหมายตามวรรคหนึ่งหรือในกฎหมายวรรคสอง ให้แล้วเสร็จ

มาตรา ๔๔ การจัดทำและการเสนอของบประมาณรายจ่ายประจำปีให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม แต่ยังไม่แล้วเสร็จในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้อยู่ในบังคับของบทบัญญัติตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม จนกว่าจะแล้วเสร็จ

มาตรา ๔๕ นับแต่ปีงบประมาณที่ผู้บังคับใช้มาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๔ ในกรณีที่หน่วยรับงบประมาณไม่มีการดำเนินการที่เกี่ยวกับพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และได้มีการดำเนินการในระบบเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินจากคลังแล้ว ให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติมต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้ดำเนินการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒

มาตรา ๔๖ ให้งบประมาณรายจ่ายของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ประเภทงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายที่มีการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นที่ได้จัดสรรไว้สำหรับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ค่าใช้จ่ายตามโครงการราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่ยังมิได้มีการก่อหนี้ผูกพัน แต่ได้มีการกันเงินและขอขยายเวลาเบิกจ่ายเงินจากคลังไว้ตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้ดำเนินการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒

มาตรา ๔๗ ในกรณีที่มีการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายของปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ประเภทงบกลาง ให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒ และดำเนินการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒

มาตรา ๔๘ บรรดา กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือมติคณะรัฐมนตรีที่ออกไว้โดยอาศัยอำนาจแห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้ยังคงใช้บังคับต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้จนกว่าจะมีการตรากฎ ระเบียบ หรือหลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัตินี้

``` การออกระเบียบหรือหลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จเพื่อให้มีผลใช้บังคับภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

มาตรา 45 บรรดากฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือหลักเกณฑ์ที่ออกไว้เดิมอาศัยอำนาจตามมาตรา 20 และมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้ยังคงใช้บังคับต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐหรือพระราชบัญญัตินี้จนกว่าจะมีการออกกฎ ระเบียบ หรือหลักเกณฑ์ตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ

มาตรา 46 เมื่อพระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับแล้ว กรณีที่จะมีการโอนงบประมาณรายจ่ายให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้เท่านั้น

มาตรา 47 ให้กระทรวงการคลังนำเงินนอกงบประมาณตามมาตรา 24 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2521 ส่งคลังให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่กฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณได้ใช้บังคับ มาเป็นเวลานาน สมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณ การบริหารงบประมาณรายจ่าย การควบคุมงบประมาณ รวมถึงการประเมินผลและการรายงานการใช้งบประมาณ เพื่อให้ระบบการจัดสรร งบประมาณของประเทศมีลักษณะของผู้มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ของงบประมาณเป็นสำคัญ และเพื่อให้ เกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้