สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เป็นปีที่ ๒ ในรัชกาลปัจจุบัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า ซึ่งมาตรา ๒๖ ประกอบกับมาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๗ และมาตรา ๔๐ ของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เพื่อให้การกำกับดูแลระบบการชำระเงินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล อันจะเป็นประโยชน์ต่อการรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศและการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้ สอดคล้องกับเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยระบบการชำระเงิน
ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
"ระบบการชำระเงิน" หมายความว่า ระบบหรือกระบวนการจัดการอื่นใดเพื่อการโอนเงิน การหักบัญชี หรือการชำระดุล "การหักบัญชี" หมายความว่า การรับส่ง ตรวจสอบ และยืนยันข้อมูลตามคำสั่งการชำระเงินสำหรับนำไปคำนวณยอดเงินและความเป็นหนี้ในทันที หรือดุลยภาพเพื่อใช้ข้อมูลดังกล่าวในการชำระดุลระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ "การชำระดุล" หมายความว่า การชำระเงินที่มีการตกลงกันไว้ล่วงหน้าเพื่อชำระบัญชีความเป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้ ด้วยการปรับบัญชีเงินฝากโดยใช้ข้อมูลที่ได้จากการหักบัญชีเพื่อให้เป็นที่หมดหรือบางส่วนระงับไป "ระบบการชำระเงินที่มีความสำคัญ" หมายความว่า ระบบการชำระเงินที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงหรือเสถียรภาพของระบบการชำระเงิน ระบบสถาบันการเงิน หรือระบบการเงินของประเทศ "ระบบการชำระเงินภายใต้การกำกับ" หมายความว่า ระบบการชำระเงินที่ต้องได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยตามที่ระเบียบของ ธปท. แล้วแต่กรณี "บริการการชำระเงินภายใต้การกำกับ" หมายความว่า บริการการชำระเงินที่ต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีหรือได้รับการขึ้นทะเบียนจาก ธปท. แล้วแต่กรณี "บัตรอิเล็กทรอนิกส์" หมายความว่า บัตรอิเล็กทรอนิกส์ตามประมวลกฎหมายอาญา "เงินอิเล็กทรอนิกส์" หมายความว่า บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ประกอบธุรกิจออกให้แก่ผู้รับบริการซึ่งจะระบุชื่อหรือไม่ก็ตาม โดยมีการชำระเงินให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจไว้ล่วงหน้าเพื่อใช้ชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือค่าอื่นในแทนการชำระด้วยเงินสด และได้มีการรับเงินที่มีมูลค่าหรือจำนวนเงินที่ระบุไว้ล่วงหน้า "เงินรับล่วงหน้า" หมายความว่า เงินที่ผู้ประกอบธุรกิจบริการการชำระเงินภายใต้การกำกับได้รับไว้ล่วงหน้าจากผู้ใช้บริการ ซึ่งประกอบด้วย ยอดคงค้างที่ผู้ใช้บริการได้เพิ่มไว้ล่วงหน้าแก่ผู้ประกอบธุรกิจ และเงินที่ผู้ประกอบธุรกิจได้รับมาจากเงินรับล่วงหน้าของผู้ใช้บริการ "ลูกค้า" หมายความว่า ผู้ใช้บริการที่มีเจตนาหลักแตกต่างกันในการใช้บริการระบบการชำระเงินที่มีความสำคัญ "ผู้ประกอบธุรกิจ" หมายความว่า ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตหรือขึ้นทะเบียนตามพระราชบัญญัตินี้ "ธปท." หมายความว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยตามกฎหมายว่าด้วยธนาคารแห่งประเทศไทย "รัฐมนตรี" หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ระบบการชำระเงินที่มีความสำคัญ
เป็นระบบการชำระเงินที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของประเทศ ซึ่งหากเกิดปัญหาหรือการหยุดชะงัก อาจส่งผลกระทบต่อสถาบันในระบบอย่างต่อเนื่องเป็นวงกว้าง และ
เป็นระบบการชำระเงินที่รองรับการโอนเงินมูลค่าสูง หรือที่ใช้สำหรับการหักบัญชีหรือการชำระดุลระหว่างสมาชิก
กระบวนการในการปฏิบัติงานของระบบ รวมถึงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับผลสมบูรณ์ของการโอนเงิน
หลักเกณฑ์ในการรับสมาชิก
สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของผู้ให้บริการระบบการชำระเงินที่มีความสำคัญและสมาชิก
มาตรการบริหารและจัดการความเสี่ยงของระบบ
มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบ
การจัดการกรณีฉุกเฉิน
เรื่องอื่นใดตามที่ธปท. ประกาศกำหนด
ระบบการชำระเงินภายใต้การกำกับ
(1) ระบบการชำระเงินที่เป็นระบบการโอนเงินระหว่างผู้รับบริการของระบบเพื่อรองรับการโอนเงิน หรือการชำระธุรกรรม เช่น ระบบโอนเงินรายย่อยระหว่างผู้ใช้บริการของระบบ ระบบเคลียร์ริ่ง ระบบการชำระธุรกรรม หรือ (2) ระบบการชำระเงินที่เกี่ยวข้องส่งผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ ความเชื่อมั่นของสาธารณชน หรือเสถียรภาพและความมั่นคงของระบบการชำระเงิน รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของ ธปท. มีอำนาจประกาศกำหนดให้ระบบการชำระเงินภายใต้การกำกับตาม (1) ที่เป็นระบบการชำระเงินที่เป็นนวัตกรรมซึ่งนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้และอยู่ระหว่างการทดสอบการให้บริการ หรือระบบการชำระเงินที่มีผู้ใช้บริการของระบบในวงจำกัดโดยไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการชำระเงินหรือประโยชน์สาธารณะในวงกว้าง เป็นระบบการชำระเงินภายใต้การกำกับที่จะแยกต่างหากจากระบบการชำระเงินภายใต้การกำกับทั่วไป การประกาศตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของ ธปท. จะกำหนดประเภทหรือลักษณะของการประกอบธุรกิจด้วยก็ได้
การขออนุญาต การจดทะเบียน และการดำเนินงาน ตลอดจนการเพิกถอนสิทธิหรือการยกเลิกจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และอัตราที่ ธปท. ประกาศกำหนด
อยู่ในระหว่างถูกพิทักษ์ทรัพย์ หรือเป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายและยังไม่พ้นจากเหตุอันเป็นตัวห้ามที่ศาลสั่งการล้มละลายหรือปลดจากล้มละลาย
เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในความผิดเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปราม ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ กรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง โกงเจ้าหนี้ ยักยอกหรือรับของโจร ไม่ว่าจะมีการรอการลงโทษหรือไม่ก็ตาม หรือเคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ตามกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน หรือเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตตามกฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือเคยเป็นบุคคลที่ถูกคำพิพากษาถึงที่สุดให้เป็นผู้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด หรือต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดฐานสนับสนุนทางการเงินแก่การกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การกระทำความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย หรือที่มีอำนาจหน้าที่ออกคำสั่ง
เป็นกรรมการหรือผู้บริหารของสถาบันการเงินที่ถูกสั่งให้เลิกประกอบธุรกิจระบบการชำระเงินภายใต้การกำกับหรือธุรกิจบริการการชำระเงินภายใต้การกำกับหรือถูกเพิกถอนการอนุญาตหรือขึ้นทะเบียน
เคยเป็นผู้ต้องพ้นจากตำแหน่งกรรมการ หรือผู้บริหารบริษัทมหาชนจำกัดเพราะเหตุมีลักษณะอันแสดงถึงการขาดความเหมาะสมที่จะได้รับความไว้วางใจให้บริหารกิจการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดในความผิดเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจระบบการชำระเงินหรือบริการการชำระเงินโดยมิได้รับอนุญาตหรือขึ้นทะเบียน
เป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามหรือขาดคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ตามที่ ธปท. ประกาศกำหนด
ภายหลังได้รับแจ้งตามวรรคหนึ่งแล้วมีสิทธิเลิกประกอบธุรกิจ ธปท. มีอำนาจสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจตามวรรคหนึ่งต้องปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้ใช้บริการก็ได้ ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจตามวรรคหนึ่งมิใช่ผู้ประกอบธุรกิจระบบการชำระเงินที่ได้รับอนุญาต จากรัฐมนตรี ให้ ธปท. เสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุญาต ทั้งนี้ ในการอนุญาต รัฐมนตรี จะกำหนดเงื่อนไขให้ต้องปฏิบัติตามด้วยก็ได้
บริการการชำระเงินภายใต้การกำกับ
การให้บริการบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัตรเดทเอิ่ม
การให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์
การให้บริการรับชำระเงินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์แทนผู้จ่ายสินค้าหรือผู้ให้บริการ หรือเข้าหนึ่ง
การให้บริการโอนเงินด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
การให้บริการชำระเงินอื่นใดที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบการเงิน หรือประโยชน์ สาธารณะ รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของ ธปท. มีอำนาจประกาศกำหนดให้บริการการชำระเงินที่มิใช่บริการ การชำระเงินตามวรรคหนึ่งเป็นบริการการชำระเงินภายใต้การกำกับที่ต้องขออนุญาตได้ หากเห็นว่า การทดลองการให้บริการ หรือบริการการชำระเงินที่ให้บริการลูกค้าในวงจำกัดโดยไม่ส่งผลกระทบต่อ ระบบการชำระเงินหรือประโยชน์สาธารณะในวงกว้าง เป็นบริการการชำระเงินภายใต้การกำกับที่จะต้อง ขึ้นทะเบียนกับ ธปท. การประกาศตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของ ธปท. จะกำหนด ประเภทหรือลักษณะของการประกอบธุรกิจดังกล่าวก็ได้
การอนุญาตตามวรรคหนึ่งให้มีระยะเวลาตามที่รัฐมนตรีกำหนด การขึ้นทะเบียนตามวรรคหนึ่งให้มีระยะเวลาตามที่ ธปท. กำหนด
จากทรัพย์สินของตน โดยไม่นำเอาไปใช้เพื่อการอื่นใดได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่ ธปท. ประกาศกำหนด เพื่อประโยชน์ตามมาตรา ๒๐ และมาตรา ๒๑ ให้ถือว่าเงินรับล่วงหน้ายังคงเป็นทรัพย์สินของผู้ใช้บริการ แต่หากมีผลเกิดขึ้นให้ตกลงบันทึกเป็นทรัพย์สินของผู้ประกอบธุรกิจ
ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวถูกสั่งพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรการล้มละลาย หรือถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ ให้แจ้งว่าเงินรับล่วงหน้าที่อยู่ในการครอบครองของผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวได้รับการคุ้มครองโดยไม่ถือเป็นทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้การยึดหรืออายัดในคดีแพ่ง หรือเป็นทรัพย์สินที่อาจแบ่งแก่เจ้าหนี้ในคดีล้มละลาย ในกรณีผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวถูกสั่งพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรการล้มละลาย ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และ ธปท. ร่วมกันดำเนินการจัดการเงินรับล่วงหน้า โดยต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ ธปท. ประกาศกำหนด ดังต่อไปนี้
รวมรวมเงินรับล่วงหน้าทั้งหมดและจัดสรรคืนแก่แก่ผู้ใช้บริการ
โอนบัญชีและเงินรับล่วงหน้าไปให้ผู้ประกอบธุรกิจบริการการชำระเงินรายอื่น
ดำเนินการอื่นใดเพื่อให้การจัดการเงินรับล่วงหน้าสำเร็จลุล่วงไป ในการดำเนินการตามวรรคสอง เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และ ธปท. จะมอบอำนาจให้บุคคลใดดำเนินการแทนก็ได้ ในการจัดการเงินรับล่วงหน้าตามวรรคสอง ให้ผู้ใช้บริการซึ่งไม่มีประโยชน์เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวในลักษณะตามที่ ธปท. ประกาศกำหนด มีสิทธิได้รับจัดสรรคืนเท่านั้น เพื่อให้การจัดการเงินรับล่วงหน้าสำเร็จลุล่วงไป หากผู้ใช้บริการได้รับเงินคืนไม่ครบจำนวน ให้ผู้ใช้บริการดังกล่าวมีสิทธิเรียกร้องชำระหนี้สำหรับจำนวนที่ยังคงค้างอยู่โดยแสดงตนต่อผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าว ทั้งนี้ ต้องยื่นร้องขอภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการล้มละลาย
ภายหลังได้รับแจ้งตามวรรคหนึ่งจนถึงเลิกประกอบธุรกิจ ธปท. มีอำนาจสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจ ตามวรรคหนึ่งต้องปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้ใช้บริการก็ได้ ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจตามวรรคหนึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจบริการการชำระเงินที่ได้รับอนุญาต จากรัฐมนตรี ให้ ธปท. เสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุญาต ทั้งนี้ ในการอนุญาต รัฐมนตรี จะกำหนดเงื่อนไขให้ต้องปฏิบัติด้วยก็ได้
การกำกับดูแล การตรวจสอบ และการแก้ไขฐานะหรือการดำเนินงาน
กรอบและฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงาน
มาตรฐานในการประกอบธุรกิจ
การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล
การบริหารจัดการความเสี่ยง
การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการให้บริการ
การคุ้มครองข้อมูลลูกค้าและความลับ
การกำหนดหลักเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้บริการ
การตรวจสอบและรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบ
การคุ้มครองผู้ใช้บริการ
การจัดทำบัญชี การส่งแสดงฐานะทางการเงิน และผลการดำเนินงานต่อ ธปท.
การเก็บรักษาข้อมูลสำหรับบริการการชำระเงินภายใต้การกำกับ
เรื่องอื่นใดเพื่อประโยชน์ในการดูแล ความมั่นคง ความปลอดภัยของระบบการชำระเงิน การคุ้มครองผู้ใช้บริการ หรือการส่งเสริมการใช้บริการและการพัฒนาระบบการชำระเงิน
ธปท. อาจกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจจัดให้กรรมการ ผู้จัดการ ผู้บริหาร หรือพนักงานของ ผู้ประกอบธุรกิจ มาให้ถ้อยคำ แสดงข้อมูล บัญชี เอกสารและหลักฐานอื่นอย่างเพิ่มเติม ภายในระยะเวลาที่กำหนดได้ งบการเงิน รายงาน ข้อมูล บัญชี เอกสาร หรือคำชี้แจงที่มีหรือแสดงตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ผู้ประกอบธุรกิจต้องทำให้ครบถ้วนและตรงต่อความเป็นจริง ในกรณีที่ ธปท. เห็นว่า งบการเงิน รายงาน ข้อมูล บัญชี เอกสาร หรือคำชี้แจงที่ผู้ประกอบธุรกิจส่งหรือแสดงตามวรรคหนึ่ง มีข้อมูลไม่ครบถ้วนหรือมีข้อความอันคลาดเคลื่อนไปจากเดิม หรือในกรณีที่ ธปท. เห็นว่าจำเป็นหรือสมควร ให้ ธปท. มีอำนาจแต่งตั้งผู้สอบบัญชีหรือผู้เชี่ยวชาญการสอบบัญชีเพื่อดำเนินการตรวจสอบและรายงานผลให้ ธปท. ทราบ โดยให้ผู้ประกอบธุรกิจเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
(1) สั่งให้กรรมการ ผู้จัดการ พนักงาน ลูกจ้างของผู้ประกอบธุรกิจ และผู้รวบรวมหรือประมวลข้อมูลของผู้ประกอบธุรกิจ ด้วยระบบคอมพิวเตอร์หรือด้วยอุปกรณ์อื่น มาให้ถ้อยคำเกี่ยวกับกิจการ สินทรัพย์ และหนี้สินของผู้ประกอบธุรกิจ ส่งสำเนาหรือแสดงข้อมูล บัญชี เอกสาร งวดงาน หรือหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง (2) เข้าไปในสถานที่ที่เป็นประโยชน์แก่การตรวจสอบกิจการของผู้ประกอบธุรกิจหรือในสถานที่ที่ประกอบกิจการของผู้ประกอบธุรกิจ ด้วยระบบคอมพิวเตอร์หรือด้วยอุปกรณ์อื่น เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้รวบรวมข้อมูลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง และเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบหรือดำเนินคดี ทั้งนี้ การออกคำสั่งหรือขอถ่ายคำต่อด้วยเหตุผลที่แสดงความจำเป็น และสิทธิของผู้ถูกตรวจสอบต้องได้รับการคุ้มครอง การใช้อำนาจตามที่ผู้ตรวจการตาม (1) (2) (a) (b) (c) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ธปท. ประกาศกำหนด ในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตรวจการ ให้ผู้ตรวจการมีอำนาจมอบหมายให้บุคคลใดเป็นผู้ช่วยผู้ตรวจการเพื่อทำหน้าที่ช่วยเหลือคนในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตรวจการได้ ให้ผู้ตรวจการรายงานผลการตรวจสอบต่อ ธปท. ตามแนวที่ ธปท. ประกาศกำหนด
ตราประจำตัวผู้ตรวจการให้เป็นไปตามแบบที่ ธปท. ประกาศกำหนด
ธปท. ต้องกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจที่หยุดประกอบธุรกิจตามวรรคหนึ่งต้องปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้ใช้บริการด้วยก็ได้
หากผู้ประกอบธุรกิจไม่ดำเนินการแก้ไขตามคำสั่งดังกล่าวให้แล้วเสร็จ ธปท. อาจสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจระงับการดำเนินงานทั้งหมดหรือแต่บางส่วนเป็นการชั่วคราวภายในระยะเวลาที่กำหนดหรือนำมาคำนวณให้ถูกต้อง ในกรณี ธปท. จะกำหนดหลักเกณฑ์ใด ๆ ด้วยก็ได้ ทั้งนี้ หากเป็นการสั่งระงับการดำเนินงานทั้งหมดหรือแต่บางส่วนเป็นการชั่วคราวสำหรับธุรกิจที่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีให้ ธปท. รายงานให้รัฐมนตรีทราบด้วย หากผู้ประกอบธุรกิจยังคงฝ่าฝืนไม่ดำเนินการตามความในวรรคสอง หรือกระทำความผิดซ้ำอีก ธปท. อาจเสนอให้รัฐมนตรีเพิกถอนการอนุญาต หรือ ธปท. มีคำสั่งเพิกถอนการขึ้นทะเบียนแล้วแต่กรณี ในกรณี ธปท. หรือรัฐมนตรีอาจสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจนั้นต้องปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้ใช้บริการด้วยก็ได้ ในกรณีที่ ธปท. พิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ประกอบธุรกิจมีฐานะทางการเงินหรือการดำเนินงานที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือฝ่าฝืนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ ธปท. ประกาศกำหนด และมีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองผู้ใช้บริการหรือประชาชน ธปท. อาจสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจระงับการดำเนินงานทั้งหมดหรือแต่บางส่วนเป็นการชั่วคราวได้ แล้วแต่กรณี
ในประเทศไทยไม่อยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัตินี้ ให้ ธปท. มีอำนาจสั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับระบบหรือบริการดังกล่าว ซึ่งมีวัตถุ ส่งเอกสาร หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ภายในระยะเวลาที่กำหนด
การอุทธรณ์
ในกรณีที่ ธปท. เป็นผู้ออกคำสั่ง ให้อุทธรณ์ต่อรัฐมนตรี
ในกรณีที่รัฐมนตรีเป็นผู้ออกคำสั่ง ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ให้กฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองมาใช้บังคับกับการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัตินี้โดยอนุโลม
บทกำหนดโทษ
โทษทางปกครอง
เป็นกรรมการ มีอำนาจในการพิจารณาลงโทษปรับทางปกครอง โดยให้ ธปท. แต่งตั้งพนักงาน ธปท. คนหนึ่งเป็นเลขานุการ ให้ ธปท. เป็นผู้รวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำความผิดที่มีโทษทางปกครองเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาโทษปรับทางปกครองเพื่อพิจารณา การพิจารณาและการสั่งค่าปรับทางปกครอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
โทษอาญา
ผู้ใดประกอบธุรกิจระบบการชำระเงินภายใต้การกำกับโดยมิได้รับอนุญาตตามมาตรา 13 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาทต่อวันตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ใดประกอบธุรกิจบริการการชำระเงินภายใต้การกำกับโดยมิได้รับอนุญาตตามมาตรา 13 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาทต่อวันตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ หรือทั้งจำทั้งปรับ
เพื่อประโยชน์แห่งมาตรานี้ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้โฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ในราชกิจจานุเบกษาและหนังสือพิมพ์รายวันหรือผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์สาธารณะอื่นใดแล้ว บุคคลทุกคนได้ทราบคำสั่งนั้น
การเปิดเผยตามหน้าที่หรือเพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดิน
การเปิดเผยเกี่ยวกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้
การเปิดเผยแก่หน่วยงานในประเทศและต่างประเทศที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจนั้น
การเปิดเผยข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานที่ของหน่วยงานในประเทศและต่างประเทศที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจตามข้อตกลงที่มีระหว่างกัน
การเปิดเผยเพื่อประโยชน์แก่ผู้ใช้บริการที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบธุรกิจ
การเปิดเผยเพื่อประโยชน์แก่ผู้ใช้บริการที่ได้รับความเสียหายแล้ว
การเปิดเผยเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดไว้
ความรับผิดทางอาญาตามมาตรา ๔๘ และมาตรา ๔๙ วรรคสอง
ในกรณีที่มีการกระทำผิดเป็นนิติบุคคล ถ้าการกระทำผิดดังกล่าวต้องอาศัยบุคคลอื่นเกิดจากการสั่งการหรือการกระทำของกรรมการ หรือผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบใน การดำเนินงานของนิติบุคคลนั้น หรือในกรณีที่บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ต้องสั่งการหรือกระทำการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทำการจนเป็นเหตุให้บุคคลดังกล่าวกระทำความผิด ผู้นั้นต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้สำหรับความผิดนั้น ๆ ด้วย บทเฉพาะกาล
ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากในปัจจุบันการกำกับดูแลระบบ การชำระเงินของสถาบันการเงินเป็นบทบาทสำคัญประการหนึ่งของธนาคารแห่งประเทศไทย ประกอบกับได้มี การกำหนดให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้กำกับดูแลหรือรับผิดชอบระบบการชำระเงินตามกฎหมายอื่นด้วยทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลระบบการชำระเงินและบริการการชำระเงินอย่างเป็นระบบ มีความเชื่อมโยงภาพ รวมกับระบบการเงินของประเทศ รวมทั้งเพื่อรองรับและส่งเสริมเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สมควรกำหนดให้การกำกับดูแลระบบการชำระเงินและบริการการชำระเงินอยู่ในลักษณะกฎหมาย ฉบับเดียวกัน โดยกำหนดมาตรการในการกำกับดูแลระบบการชำระเงินและบริการการชำระเงินด้วยการอนุญาต หรือขึ้นทะเบียน และบทกำหนดโทษทางปกครองและโทษอาญา จึงมีความจำเป็นต้องจำกัดสิทธิและเสรีภาพ ของบุคคลในบางกรณี นอกจากนี้ ให้กำหนดหลักเกณฑ์ตามมาตรฐานสากลเกี่ยวกับการดำเนินการที่เกี่ยวข้องซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายที่สำคัญของการชำระเงิน ตลอดจนการให้ความคุ้มครองมิให้การชำระเงิน มีการยกเลิกเพิกถอนในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการหรือพิทักษ์ทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย อันจะทำให้ระบบการชำระเงินของประเทศเกิดเสถียรภาพและความมั่นคงและดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้