มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและ
เอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒"
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๕๖
มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้
"โครงการ" หมายความว่า โครงการลงทุนของรัฐในกิจการที่หน่วยงานของรัฐหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งหรือหลายหน่วยงานร่วมกันดำเนินการซึ่งกำหนดตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ หรือที่มีหน่วยงานอย่างน้อยหนึ่งหน่วยงานจัดตั้งในรูปแบบที่มีกฎหมายจัดตั้ง
"ร่วมลงทุน" หมายความว่า ร่วมลงทุนกันโดยลำพังหรือไม่โดยลำพัง หรือมอบให้เอกชนลงทุนแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน
"โครงการร่วมลงทุน" หมายความว่า โครงการที่มีการร่วมลงทุน
"หน่วยงานของรัฐ" หมายความว่า ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
"รัฐวิสาหกิจ" หมายความว่า
(ก)
องค์การของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล หรือกิจการของรัฐตามกฎหมายที่จัดตั้งกิจการนั้น หรือหน่วยงานธุรกิจที่รัฐเป็นเจ้าของ
(ข)
บริษัทหรือหน่วยงานอื่นที่มีกฎหมายจัดตั้งเฉพาะ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจตาม (ก) หรือ (ข) ถือหุ้นเกินกว่าร้อยละห้าสิบ
(ค)
องค์การบริหารส่วนตำบล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่มีกฎหมายจัดตั้ง
"หน่วยงานเจ้าของโครงการ" หมายความว่า หน่วยงานของรัฐซึ่งจะร่วมลงทุนหรือร่วมลงทุนในนามของโครงการร่วมลงทุน
"กระทรวงเจ้าสังกัด" หมายความว่า
(ก)
กรณีส่วนราชการ ได้แก่ กระทรวงหรือทบวงซึ่งมีราชการที่เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการอยู่ในสังกัดตามกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม
(ข)
กรณีรัฐวิสาหกิจ ได้แก่
(ก)
ถ้ารัฐวิสาหกิจนั้นออกจากบริษัทจำกัด ได้แก่ กระทรวงหรือทบวง ซึ่งรัฐมนตรีว่าการเป็นผู้รักษาการตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งรัฐวิสาหกิจนั้น หรือรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบในนามของรัฐวิสาหกิจนั้น
(ข)
ในกรณีที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้น ได้แก่ กระทรวงการคลัง หรือกระทรวงหรือทบวงที่กระทรวงการคลังได้มอบอำนาจให้เป็นผู้แทนกระทรวงการคลังตามพระราชบัญญัติ
(ค)
ในกรณีที่กระทรวงการคลังมิได้เป็นผู้ถือหุ้น ได้แก่ รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบในนามของรัฐวิสาหกิจนั้น
(ค)
กรณีหน่วยงานอื่นของรัฐ ได้แก่ กระทรวงหรือทบวงซึ่งรัฐมนตรีว่าการเป็นผู้รักษาการตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งหน่วยงานนั้น หรือรัฐมนตรีว่าการผู้รับผิดชอบในนามของ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- ๓ -
หน่วยงานนั้น หรือบอกชี้บ่งบริคณห์ที่หน่วยงานอื่นของรัฐได้ไม่มีฐานะหรือการเป็นเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ต่อไปในนามของหน่วยงานนั้น
(๔)
กรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้แก่ กระทรวงมหาดไทย
“เอกชน” หมายความว่า นิติบุคคลที่ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาด้วย
“กองทุน” หมายความว่า กองทุนส่งเสริมการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
“คณะกรรมการกองทุน” หมายความว่า คณะกรรมการกองทุนส่งเสริมการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
“สำนักงาน” หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
หมวด ๑
บททั่วไป
มาตรา ๖ การดำเนินการภายใต้พระราชบัญญัตินี้ต้องเป็นไปเพื่อบรรลุเป้าประสงค์ของการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ดังต่อไปนี้
(๑)
ความสอดคล้องกับแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุน
(๒)
ความเป็นหุ้นส่วนระหว่างรัฐและเอกชน ซึ่งมีการจัดสรรความเสี่ยงและผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งโดยธรรม โดยคำนึงถึงความสำเร็จของโครงการร่วมลงทุนและความคุ้มค่าในการดำเนินโครงการร่วมลงทุน
(๓)
การรักษาผลประโยชน์ของรัฐ
(๔)
การสร้างความรู้ ความสามารถของรัฐ และจัดการของเอกชนในการให้บริการสาธารณะของโครงการร่วมลงทุน และการถ่ายทอดความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญไปยังหน่วยงานของรัฐหรือบุคลากรของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการร่วมลงทุน รวมถึงการพัฒนาบุคลากรของรัฐ
(๕)
สิทธิและประโยชน์ของผู้รับบริการสาธารณะจากโครงการร่วมลงทุน
มาตรา ๗ หน่วยงานของรัฐต้องจัดทำโครงการร่วมลงทุนในกิจการที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะดังต่อไปนี้ ต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
(๑)
ถนน ทางหลวง ทางพิเศษ ทางรถไฟ ทางรถไฟฟ้า
(8) รถไฟฟ้า รถไฟฟ้า การขนส่งทางราง
(9) ท่าอากาศยาน การขนส่งทางอากาศ
(10) ท่าเรือ การขนส่งทางน้ำ
(11) การจัดการน้ำ การชลประทาน การประปา การบำบัดน้ำเสีย
(12) การพลังงาน
(13) การโทรคมนาคม การสื่อสาร
(14) โรงพยาบาล การสาธารณสุข
(15) โรงเรียน การศึกษา
(16) ที่อยู่อาศัยหรือสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้มีรายได้น้อยหรือปานกลาง ผู้สูงวัย ผู้ด้อยโอกาส หรือผู้พิการ
(17) ศูนย์บริการการและศูนย์การประชุม
(18) กิจการอื่นตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา
กิจการตามวรรคหนึ่ง ให้รวมถึงการเกี่ยวเนื่องทั้งที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจการดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ ตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
มาตรา 8 โครงการร่วมลงทุนที่มีมูลค่าต่ำกว่าที่พันล้านบาทหรือดำกว่ามูลค่าที่กำหนดเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
หลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดมูลค่าโครงการร่วมลงทุนตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
มาตรา 9 โครงการร่วมลงทุนที่มีมูลค่าสูงกว่าที่พันล้านบาทหรือสูงกว่ามูลค่าที่กำหนดเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
หากคณะกรรมการเห็นว่าโครงการร่วมลงทุนตามวรรคหนึ่ง เป็นโครงการร่วมทุนที่มีความสำคัญหรือสอดคล้องกับแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุนขนาดใหญ่ คณะกรรมการจะกำหนดให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ก็ได้
มาตรา 10 เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ ในกรณีที่โครงการร่วมลงทุนใดมีความซับซ้อนหรือจำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการให้คำแนะนำเสนอแนะต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาแต่งตั้งที่ปรึกษาเพื่อช่วยดำเนินการในโครงการร่วมลงทุนนั้น หรือที่ปรึกษาเพื่อช่วยดำเนินการในโครงการร่วมลงทุนอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของที่ปรึกษาในโครงการร่วมลงทุนนั้นเอง
มาตรา ๑๑ ในกรณีที่เกิดปัญหาหรืออุปสรรค หรือเกิดความล่าช้าในการจัดทำหรือดำเนินโครงการร่วมลงทุน ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหา อุปสรรค หรือความล่าช้าในการจัดทำหรือดำเนินโครงการร่วมลงทุน และดำเนินการดังต่อไปนี้
(๑)
เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา อุปสรรค หรือความล่าช้าให้คณะกรรมการพิจารณาและนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาสั่งการ และให้หน่วยงานเกี่ยวข้องกับปัญหา อุปสรรค หรือความล่าช้าดำเนินการตามคำสั่งการของคณะรัฐมนตรี
(๒)
เสนอกรอบระยะเวลาการจัดการดำเนินการโดย (๑) เพื่อเสนอให้รองโครงการร่วมลงทุนต่อคณะกรรมการพิจารณาและนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหา อุปสรรค หรือความล่าช้าดำเนินการตามคำสั่งการของคณะรัฐมนตรี
ในกรณีที่การดำเนินการตาม (๑) มีความจำเป็นต้องปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือคำสั่ง หรือจัดให้มีกฎหมายขึ้นใหม่ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหา อุปสรรค หรือความล่าช้าดำเนินการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือคำสั่งดังกล่าว หรือจัดให้มีกฎหมายขึ้นใหม่
หมวด ๒ แผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุน
มาตรา ๑๒ ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจัดทำแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุนสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่จัดทำขึ้น และนำเสนอคณะกรรมการเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ
แผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุนตามวรรคหนึ่ง อย่างน้อยต้องประกอบด้วยรายการโครงการที่รัฐประสงค์จะร่วมลงทุนกับเอกชนในปีงบประมาณนั้น นโยบาย และหลักการที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทการพัฒนาประเทศและแผนพัฒนาภาคหรือเขตพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในแต่ละช่วงระยะเวลา ตลอดจนหลักเกณฑ์และวิธีการที่เกี่ยวข้องกับการทำโครงการร่วมลงทุนที่ครอบคลุมข้อมูลของโครงการ ข้อมูลเชิงเศรษฐกิจและการเงินของโครงการโดยสังเขป หน่วยงานเจ้าของโครงการ วงเงินลงทุนที่หน่วยงานของรัฐรับผิดชอบ และกรอบระยะเวลาการดำเนินโครงการแต่ละขั้นตอน
คณะกรรมการต้องจัดทำแนวทางการจัดทำแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุน และให้ประกาศเผยแพร่ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของสำนักงาน และให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุน
ให้คณะกรรมการกำหนดระยะเวลาการจัดทำแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุน แนวทางการจัดทำ ปรับปรุง และพิจารณาแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุนดังกล่าวให้แล้วเสร็จ โดยอย่างน้อยให้มีการปรับปรุงแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุนทุกครั้งที่มีการปรับปรุงแผนแม่บทการพัฒนาประเทศหรือแผนพัฒนาภาคหรือเขตพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในแต่ละช่วงระยะเวลา และให้คณะกรรมการพิจารณาให้ความเห็นชอบแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุนและเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ในการจัดทำแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุน สำนักงานอาจว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อร่วมดำเนินการก็ได้
คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของที่ปรึกษาให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
หมวด 3
คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
มาตรา 13 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า "คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน" ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นรองประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงการคลัง ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคม เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน อัยการสูงสุด อธิบดีกรมบัญชีกลาง ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจำนวนไม่เกินห้าคน เป็นกรรมการ
ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเป็นกรรมการและเลขานุการ และอาจมีข้าราชการในสำนักงานซึ่งผู้อำนวยการสำนักงานแต่งตั้งไม่เกินสองคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ
มาตรา 14 ผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา 13 วรรคหนึ่ง ต้องเป็นผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ในด้านการเงิน การคลัง การลงทุน เศรษฐศาสตร์ กฎหมาย หรือวิศวกรรม และเป็นบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อโดยวิธีการสรรหา ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
มาตรา 15 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ต้องมีสัญชาติไทยและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
(ก)
เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(ข)
เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
(ค)
เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(ง)
เคยถูกคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งของคณะให้พ้นหรือถูกปลดออกจากแผนแม่บทเพราะผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือมีพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสม
(จ)
เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานเอกชนเพราะทุจริตต่อหน้าที่
(ฉ)
เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นหรือดำรงตำแหน่งทางการเมืองในระยะเวลาหนึ่งปี
(ซ)
เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง เว้นแต่จะได้พ้นจากตำแหน่ง มาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
(ฌ)
เป็นบุคคลที่อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือเคยถูก วุฒิสภามีมติให้ถอดถอนหรือให้พ้นจากตำแหน่ง
มาตรา ๑๖ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี และเมื่อพ้นวาระ ให้ผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะมีผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้ง แต่จะดำรงตำแหน่งติดต่อกัน เกินสองวาระไม่ได้
ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งตามวาระ แต่ยังมิได้แต่งตั้ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใหม่ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะได้แต่งตั้ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใหม่ แต่ทั้งนี้ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ไม่เกินหนึ่งร้อยแปดสิบวัน
มาตรา ๑๗ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจาก ตำแหน่งเมื่อ
(ก)
ตาย
(ข)
ลาออก
(ค)
อายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์
(ง)
ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา ๔
(จ)
ไม่สามารถประชุมของคณะกรรมการเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนครั้งที่มีการประชุม ทั้งหมดในรอบหนึ่งปี
(ฉ)
คณะรัฐมนตรีให้ออก เพราะเหตุชราหรือเหตุอื่นที่ทำให้ มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือ บกพร่องในหน้าที่อย่างร้ายแรง
มาตรา ๑๘ เมื่อดำเนินการกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิว่าลงก่อนวาระ ให้ดำเนินการเพื่อให้ มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีกในตำแหน่งนั้นจนกว่าจะครบวาระของกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิที่ล่วงพ้นไปและในกรณีที่ตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ว่างลง เป็นตำแหน่งของกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิที่ล่วงพ้นไปและในกรณีที่ตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ว่างลง เป็นตำแหน่งของกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้งแทนกรรม
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กรรมการที่มีส่วนได้เสียในเรื่องที่มีการพิจารณาจะเข้าร่วมประชุมหรือออกเสียงลงคะแนนในเรื่องดังกล่าวมิได้
มาตรา 20 ให้คณะกรรมการมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(ก)
ให้ความเห็นต่อรัฐมนตรีก่อนเสนอต่อคณะรัฐมนตรีหรือออกกฎกระทรวงตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้
(ข)
ให้ความเห็นชอบแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุน และกำหนดแนวทางการจัดทำ ปรับปรุง และติดตามผลการดำเนินการตามแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุน
(ค)
พิจารณากำหนดหน่วยงานของรัฐเป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการตามมาตรา 10
(ง)
พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดทำโครงการร่วมลงทุนที่มีมูลค่าต่ำกว่าที่กำหนดในบทหรือคำสั่งที่กำหนดเพิ่มเติมขึ้นโดยกฎกระทรวง
(จ)
พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อการขออนุมัติโครงการร่วมลงทุน
(ฉ)
เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาหรืออุปสรรคในการดำเนินโครงการร่วมลงทุนและรายละเอียดของโครงการร่วมลงทุนต่อคณะรัฐมนตรี
(ช)
พิจารณาให้ความเห็นชอบการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนตามมาตรา 47
(ซ)
ออกประกาศตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้
(ฌ)
เรียกให้หน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่เกี่ยวข้องกับโครงการร่วมลงทุนเข้าชี้แจงให้ความเห็นหรือส่งข้อมูลหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการร่วมลงทุน
(ญ)
แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อพิจารณา หรือปฏิบัติหน้าที่ หรือทำการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่คณะกรรมการมอบหมาย ทั้งนี้ ให้คณะอนุกรรมการ มาใช้บังคับแก่คณะอนุกรรมการโดยอนุโลม
(ฎ)
ปฏิบัติการอื่นตามที่พระราชบัญญัติหรือกฎหมายอื่นกำหนดให้เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
มาตรา 21 ให้สำนักงานรับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการ และให้มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(ก)
จัดทำและเสนอแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุนต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ
(ข)
เสนอให้คณะกรรมการพิจารณากำหนดหน่วยงานของรัฐเป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการ
(ค)
พัฒนารูปแบบข้อมูลขององค์กรภาครัฐ เอกชน และหน่วยงานอื่น ๆ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการร่วมลงทุนให้รัฐและเอกชน
(ง)
ให้ความเห็น คำแนะนำ หรือความเห็นทางปฏิบัติแก่หน่วยงานต่าง ๆ เกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้
(จ)
รายงานสรุปและอุปสรรคในการดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ต่อคณะกรรมการ
หมวด 4
การจัดทำและดำเนินโครงการ
ส่วนที่ 1
การเสนอโครงการ
มาตรา 26 ในการเสนอโครงการที่จะให้มีการร่วมลงทุน หน่วยงานเจ้าของโครงการต้องจัดทำรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการตามรายละเอียดที่คณะกรรมการประกาศกำหนด ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วย
(1) ความเป็นมาของโครงการ หลักการและเหตุผลในการจัดทำโครงการ รวมถึงความสอดคล้องกับแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุน
(2) สาระสำคัญของโครงการ เช่น วัตถุประสงค์ เป้าหมาย ขอบเขตและระยะเวลาของโครงการ และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการดำเนินโครงการ
(3) ความจำเป็นในการจัดทำโครงการ รวมถึงการวิเคราะห์ให้เห็นถึงผลกระทบต่อการดำเนินงานหรือการให้บริการในปัจจุบันของหน่วยงานเจ้าของโครงการ หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง และการวิเคราะห์ให้เห็นถึงผลกระทบต่อความเสี่ยงของโครงการ
(4) ความเป็นไปได้ของโครงการในด้านเทคนิค ด้านเทคโนโลยี ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านกฎหมาย ด้านการเงิน หรือด้านเศรษฐศาสตร์ โดยต้องระบุสมมติฐานที่ใช้ในการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการด้วย
(5) ความเสี่ยงของโครงการ รวมถึงการระบุความเสี่ยง การพิจารณาถึงโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยง ผลกระทบในกรณีที่เกิดความเสี่ยงขึ้น และวิธีบริหารจัดการความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ
(6) ทางเลือกและรูปแบบในการร่วมลงทุนพร้อมเหตุผลประกอบ การจัดสรรทรัพยากรและความรับผิดชอบ รวมถึงวิเคราะห์ผลประโยชน์ตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการ โดยคำนึงถึงการให้เอกชนมีส่วนร่วม ความสมดุลระหว่างผลตอบแทน และความเสี่ยงในโครงการร่วมลงทุน
(7) ความพร้อมของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการร่วมลงทุน รวมถึงความพร้อมในด้านบุคลากร งบประมาณ และทรัพยากรอื่นที่จำเป็น
(8) ผลการรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนและประชาชนที่เกี่ยวข้อง ในการจัดทำรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการ ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการนำความเห็นของภาคเอกชนและประชาชนมาประกอบการพิจารณาในการศึกษาและวิเคราะห์โครงการด้วย ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
มาตรา ๒๓ ในกรณีที่หน่วยงานเจ้าของโครงการเห็นว่ามีความจำเป็นต้องกำหนดมาตรการสนับสนุนเพื่อให้โครงการร่วมลงทุนบรรลุวัตถุประสงค์ ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการระบุรายละเอียดของมาตรการสนับสนุน พร้อมทั้งเหตุผลและความจำเป็นในการให้มาตรการสนับสนุนดังกล่าว และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับมาตรการสนับสนุนในรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการตามมาตรา ๒๒ ด้วย
มาตรการสนับสนุนตามวรรคหนึ่ง ได้แก่
(๑)
สิทธิและประโยชน์ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน
(๒)
สิทธิการเช่าที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ในโครงการร่วมลงทุนเป็นระยะเวลาไม่เกิน ๕๐ ปี โดยไม่ให้อยู่ในความไม่มาตรา ๔๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เกี่ยวกับการเช่าทรัพย์
(๓)
มาตรการสนับสนุนทางการเงินและไม่ใช่ทางการเงินอื่นตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุน
ในกรณีที่มาตรการสนับสนุนใดต้องมีการใช้งบประมาณรายจ่ายของแผ่นดิน ระบบรายจ่ายของหน่วยงานเจ้าของโครงการ หรือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงการคลังต้องให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับมาตรการสนับสนุนดังกล่าว ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ กฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ และกฎหมายว่าด้วยการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีของรัฐวิสาหกิจ
มาตรา ๒๔ ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการได้รับมาตรการสนับสนุนตามมาตรา ๒๓ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสนับสนุนตามมาตรการดังกล่าวต่อไป
มาตรา ๒๕ ในกรณีที่คณะกรรมการเห็นสมควรให้ดำเนินโครงการร่วมลงทุนโดยวิธีการคัดเลือกเอกชนโดยวิธีประมูล ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการระบุเหตุผลและความจำเป็น ข้อดี และข้อเสีย และประโยชน์ที่ภาครัฐและประชาชนจะได้รับไว้ในรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการตามมาตรา ๒๒ ด้วย
หลักเกณฑ์ในการพิจารณาใช้การคัดเลือกเอกชนโดยไม่ใช้วิธีประมูล ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
มาตรา ๒๖ เพื่อประโยชน์และความรวดเร็วในการเสนอโครงการ คณะกรรมการอาจกำหนดให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจัดตั้งคณะทำงานประกอบด้วยผู้แทนของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการร่วมลงทุน เพื่อพิจารณาให้ความเห็นในการจัดทำรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการ หรือดำเนินการรวบรวมรายละเอียดโครงการสำหรับโครงการใดเป็นการเฉพาะก็ได้
มาตรา ๒๗ หน่วยงานเจ้าของโครงการต้องจัดทำรายงานเกี่ยวกับการดำเนินการศึกษาและวิเคราะห์โครงการร่วมลงทุนตามมาตรา ๒๒ คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของที่ปรึกษาให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
กำหนด
มาตรา ๒๔ ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจัดทำหลักการของโครงการร่วมลงทุน เสนอคณะรัฐมนตรีผ่านกระทรวงเจ้าสังกัดเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ พร้อมกับรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการ
หลักการของโครงการร่วมลงทุนตามวรรคหนึ่ง ให้มีรายละเอียดต่อไปนี้
(๑)
วัตถุประสงค์ของโครงการ
(๒)
ขอบเขตของโครงการ
(๓)
รูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ซึ่งต้องมีข้อเปรียบเทียบ
หน้าที่และความรับผิดชอบของหน่วยงานของรัฐและเอกชนในแต่ละรูปแบบการร่วมลงทุนของโครงการ กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของโครงการ และการแบ่งผลประโยชน์ตอบแทนระหว่างหน่วยงานของรัฐและเอกชน
(๔)
มาตรการสนับสนุนโครงการร่วมลงทุนตามมาตรา ๒๓
(๕)
เหตุผลและความจำเป็นของการคัดเลือกเอกชนโดยไม่ใช้วิธีประมูลตามมาตรา ๒๕
(๖)
แนวทางการแก้ไขปัญหาและอุปสรรค ในกรณีที่มีปัญหาและอุปสรรคที่เกิดจากความพร้อมของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง หรือปัญหาอุปสรรคที่อาจกระทบต่อการดำเนินโครงการ
(๗)
เรื่องอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
เมื่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเห็นชอบหลักการของโครงการร่วมลงทุนแล้ว ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจัดส่งหลักการของโครงการร่วมลงทุนพร้อมรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการที่ได้รับความเห็นชอบแล้วให้สำนักงานเพื่อดำเนินการต่อไป
ในกรณีที่มีเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมหลักการของโครงการร่วมลงทุน ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจัดส่งหลักการของโครงการร่วมลงทุนที่แก้ไขเพิ่มเติมพร้อมรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการร่วมลงทุนที่แก้ไขเพิ่มเติมให้สำนักงานเพื่อดำเนินการต่อไป
ในกรณีที่มีเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติมหลักการของโครงการร่วมลงทุน ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจัดส่งหลักการของโครงการร่วมลงทุนที่แก้ไขเพิ่มเติมพร้อมรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการร่วมลงทุนที่แก้ไขเพิ่มเติมให้สำนักงานเพื่อดำเนินการต่อไป
มาตรา ๒๕ เมื่อสำนักงานเห็นชอบหลักการของโครงการร่วมลงทุนและรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการร่วมลงทุนครบถ้วน ให้สำนักงานเสนอคณะกรรมการเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบหลักการของโครงการร่วมลงทุน
ในกรณีเอกชนมีข้อเสนอที่แตกต่างไปจากหลักการของโครงการร่วมลงทุนที่คณะกรรมการเห็นชอบแล้ว ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจัดทำรายงานเปรียบเทียบข้อเสนอของเอกชนกับหลักการของโครงการร่วมลงทุนที่คณะกรรมการเห็นชอบแล้ว ให้เสนอคณะกรรมการพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการต่อไป
ในกรณีที่คณะกรรมการเห็นชอบข้อเสนอของเอกชน ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการแจ้งผลการพิจารณาให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดและสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจทราบ และรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบหลักการของโครงการร่วมลงทุนต่อไป
ในกรณีที่คณะกรรมการไม่เห็นชอบข้อเสนอของเอกชน ให้แจ้งผลการพิจารณาให้เอกชนทราบพร้อมเหตุผลประกอบการพิจารณา
ขออภัย, 이미지를 처리할 수 없습니다.
เมื่อคณะกรรมการเห็นพ้องด้วยว่าไม่ควรใช้วิธีการคัดเลือกโดยวิธีประมูล ให้คณะกรรมการแจ้งผลการพิจารณาให้กระทรวงเจ้าสังกัดนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
มาตรา ๑๓ ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจัดทำร่างประกาศเชิญชวน ร่างเอกสารการคัดเลือก และร่างสัญญาจ้าง พร้อมด้วยเหตุผลความจำเป็นและความเห็นชอบ ในการดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจัดทำร่างประกาศเชิญชวน ร่างเอกสารการคัดเลือก และร่างสัญญาจ้าง พร้อมด้วยเหตุผลความจำเป็นและความเห็นชอบของคณะกรรมการประกาศกำหนด หน่วยงานเจ้าของโครงการอาจจ้างที่ปรึกษาเพื่อร่วมดำเนินการตามวรรคหนึ่ง และเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานเจ้าของโครงการและคณะกรรมการคัดเลือก คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของที่ปรึกษาให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
รายละเอียดของร่างประกาศเชิญชวน ร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน และสาระสำคัญของร่างสัญญาจ้างตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด
มาตรา ๑๔ เมื่อคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ดำเนินโครงการตามมาตรา ๑๒ ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือก ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานเจ้าของโครงการเป็นประธานกรรมการ ผู้แทนหน่วยงานเจ้าของโครงการ ผู้แทนกระทรวงการคลัง และผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับโครงการร่วมลงทุนจำนวนสองคน เป็นกรรมการ และให้มีบุคคลที่หน่วยงานเจ้าของโครงการเห็นสมควรแต่งตั้งเป็นกรรมการและเลขานุการ ในกรณีที่การดำเนินโครงการร่วมลงทุนมีลักษณะต้องมีการใช้งบประมาณ รายจ่ายของแผ่นดิน ให้มีผู้แทนสำนักงบประมาณร่วมเป็นกรรมการด้วย ทั้งนี้ หรือในกรณีที่การร่วมลงทุนมีลักษณะเกี่ยวข้องกับการให้บริการสาธารณะเป็นการร่วมลงทุนที่มีผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง คณะกรรมการคัดเลือกต้องมีผู้แทนสภาองค์กรของผู้บริโภคด้วย
มาตรา ๑๕ ให้บทความในมาตรา ๑๗ และมาตรา ๑๙ มาใช้บังคับแก่คณะกรรมการคัดเลือกโดยอนุโลม
มาตรา ๑๖ ในระหว่างการคัดเลือกดำเนินและลักษณะใด ๆ อันอาจก่อให้เกิดความล่าช้าเป็นต้น ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการลงนามในสัญญาร่วมลงทุนในลักษณะที่ได้รับการคัดเลือกตามมาตรา ๒๒ ห้ามมิให้กรรมการในคณะกรรมการคัดเลือก กระทำการดังต่อไปนี้ (๑) เป็นที่ปรึกษา หรือรับจ้าง หรือรับทำงานในลักษณะใด ๆ ที่ปรึกษาในเอกชนที่ได้รับคัดเลือกให้ร่วมลงทุนในโครงการร่วมลงทุนที่ตนเป็นกรรมการคัดเลือก
```
(ข)
ถือหุ้นในเอกชนที่ได้รับคัดเลือก เป็นจำนวนเกินร้อยละห้าสิบของทุนที่ชำระแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการถือหุ้นร่วมตนเอง หรือโดยคู่สมรสหรือบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
การกระทำตามวรรคหนึ่ง ให้หมายความรวมถึงการกระทำโดยการเป็นกรรมการผู้มีอำนาจในการจัดการหรือบริหารหรืออื่นในลักษณะอยู่ในอำนาจผู้ขายทุนที่ชำระแล้ว ไม่เป็นคุณสมบัติของผู้ได้รับคัดเลือกถือหุ้นเกินร้อยละสิบห้า หรือในนิติบุคคลที่ถือหุ้นในเอกชนที่ได้รับคัดเลือกเกินร้อยละสิบห้า
มาตรา ๔๙ ให้คณะกรรมการคัดเลือกมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(ก)
พิจารณาให้ความเห็นชอบร่างประกาศเชิญชวน ร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนและร่างสัญญาร่วมลงทุน
(ข)
กำหนดค่าธรรมเนียมการขายเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน ค่าธรรมเนียมการประเมินข้อเสนอ และค่าธรรมเนียมการลงนามในสัญญาร่วมลงทุน
(ค)
กำหนดหลักประกันข้อเสนอและหลักประกันสัญญาร่วมลงทุน
(ง)
เจรจาและพิจารณาผลคัดเลือกเอกชนให้ร่วมโครงการร่วมลงทุน
(จ)
เสนอความเห็นต่อคณะกรรมการ
(ฉ)
ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่คณะกรรมการมอบหมาย
(ข)
เพื่อให้หน่วยงานเจ้าของโครงการ เอกชนหรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับโครงการ ชี้แจง และให้ข้อมูลเพิ่มเติมตามที่คณะกรรมการคัดเลือกเห็นสมควร
(ค)
พิจารณาดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคัดเลือกเอกชนในโครงการร่วมลงทุนตามที่เห็นสมควร
มาตรา ๕๐ ในกรณีที่มีเอกชนเพียงรายเดียวหรือมีเอกชนเพียงรายเดียวที่เสนอข้อเสนออยู่ในลักษณะถูกต้องตามรายการในเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนเพียงรายเดียว หากคณะกรรมการคัดเลือกเห็นว่าเอกชนนั้นให้ประโยชน์แก่เห็นสมควรกับข้อเสนอที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้ต่อไป
มาตรา ๕๑ เมื่อคณะกรรมการคัดเลือกคัดเลือกเอกชนแล้วให้หน่วยงานเจ้าของโครงการตรวจร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน และร่างสัญญาร่วมลงทุน แล้ว ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการและคณะกรรมการคัดเลือก ดำเนินการคัดเลือกเอกชนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนดในมาตรา ๑๒
มาตรา ๕๒ ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเสนอผลคณะกรรมการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุนที่ผ่านการตรวจร่างจากสำนักงานอัยการสูงสุด และข้อเสนอสำคัญต่อคณะกรรมการ
```
ต่อรัฐมนตรีกระทรวงเจ้าสังกัดพิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาผลการคัดเลือกเอกชนและเงื่อนไขสำคัญของสัญญาร่วมลงทุนตามที่คณะกรรมการกำหนด ให้รัฐมนตรีกระทรวงเจ้าสังกัดพิจารณาผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน และเงื่อนไขสำคัญของสัญญาร่วมลงทุนตามมาตราฐาน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน และเงื่อนไขสำคัญของสัญญาร่วมลงทุน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน ร่างสัญญาร่วมลงทุน ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการคัดเลือกเอกชน
ส่วนที่ 3
การกำกับดูแลโครงการร่วมลงทุน
มาตรา 43 ให้แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลขึ้นคณะหนึ่ง ประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวงเจ้าสังกัดซึ่งเป็นข้าราชการในกระทรวงเจ้าสังกัดที่มีตำแหน่งงานในข้าของโครงการและผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด
หน่วยงานเจ้าของโครงการอาจว่าจ้างที่ปรึกษา หรือคณะกรรมการกำกับดูแลอาจกำหนดให้หน่วยงานเจ้าของโครงการว่าจ้างที่ปรึกษา เพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาในการดำเนินโครงการร่วมลงทุน ให้ความเห็นต่อการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุน หรือขอรับสนับสนุนการปฏิบัติงานที่ของคณะกรรมการกำกับดูแลได้
คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของที่ปรึกษาให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
ให้คณะกรรมการกำกับดูแลกำหนดในมาตรา 19 มาใช้บังคับแก่คณะกรรมการกำกับดูแลโดยอนุโลม
มาตรา 54 ในกรณีปรากฏว่าหน่วยงานเจ้าของโครงการละเลยหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญาร่วมลงทุนโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้คณะกรรมการกำกับดูแลทราบ หรือข้อความเห็นเสนอคณะรัฐมนตรีกระทรวงเจ้าสังกัดให้สั่งการให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการตามสัญญาร่วมลงทุน
ในกรณีที่รัฐมนตรีกระทรวงเจ้าสังกัดไม่ดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการกำกับดูแลรายงานต่อสำนักงานเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาต่อไป และหากเห็นว่ามีเหตุร้ายแรง ให้คณะกรรมการเสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา
ส่วนที่ 5
การแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนและการทำสัญญาใหม่
มาตรา 55 ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเสนอเหตุผลและความจำเป็น ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเสนอเหตุผลและความจำเป็น ประเด็นที่ขอแก้ไข ผลกระทบจากการแก้ไข และข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็น ต่อคณะกรรมการกำกับดูแลเพื่อพิจารณาให้ความเห็น ก่อนนำส่งร่างสัญญาร่วมลงทุนฉบับแก้ไขให้เจ้ากรมบัญชีกลางส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณา ทั้งนี้ ให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณาร่างสัญญาร่วมลงทุนฉบับแก้ไขแล้วเสร็จและส่งสำเนาให้หน่วยงานเจ้าของโครงการภายในสิ้นกำหนดระยะเวลาที่กำหนดในสัญญาร่วมลงทุนฉบับแก้ไข
มาตรา 56 ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเสนอเหตุผลและความจำเป็น ประเด็นที่ขอแก้ไข ผลกระทบจากการแก้ไข ความเห็นของคณะกรรมการกำกับดูแล ร่างสัญญาร่วมลงทุนฉบับแก้ไขที่ผ่านการตรวจพิจารณาของสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว และข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็น ต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยเมื่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัดให้ความเห็นชอบแล้ว ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนต่อไป
ในกรณีที่รัฐมนตรีกระทรวงเจ้าสังกัดให้ความเห็นชอบกับการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุน ให้แจ้งเหตุผลที่ไม่เห็นชอบ พร้อมคำกำหนดแนวทางการพิจารณาแก้ไขสัญญาร่วมลงทุน
มาตรา 57 ในกรณีที่คณะกรรมการกำกับดูแลเห็นชอบการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนที่หน่วยงานเจ้าของโครงการเสนอมาแล้ว มาตรา 55 ที่มีผลกระทบต่อมูลค่าการลงทุนของโครงการ
ลงทุนนอกจากนี้เนื้อหาในสัญญาร่วมลงทุนแตกต่างจากเงื่อนไขสำคัญของสัญญาร่วมลงทุนที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้ ต้องมีมติคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนตามมาตรา 47 แล้ว ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเจ้าสังกัดเสนอคณะกรรมการพิจารณาให้ความเห็นชอบการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนในส่วนที่แตกต่างจากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้
เมื่อคณะกรรมการให้ความเห็นชอบการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนตามวรรคหนึ่ง ให้เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนดังกล่าว โดยเมื่อคณะรัฐมนตรีอนุมัติการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนในส่วนที่แตกต่างจากที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้ ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการลงนามในสัญญาร่วมลงทุนฉบับแก้ไขต่อไป
ในกรณีที่คณะกรรมการไม่เห็นชอบกับการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนตามวรรคหนึ่ง ให้แจ้งเหตุผลที่ไม่เห็นชอบ พร้อมกำหนดแนวทางการทบทวนการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนเพื่อนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเจ้าสังกัดอีกครั้งตามมาตรา 47
มาตรา 48 ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการจัดทำแนวทางการดำเนินโครงการต่อเนื่องจากโครงการร่วมลงทุนตามสัญญาร่วมลงทุนฉบับสุดท้าย โดยเปรียบเทียบระหว่างการที่ภาครัฐดำเนินการเองและกรณีที่ดำเนินการร่วมลงทุน เสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเจ้าสังกัดก่อนที่สัญญาร่วมลงทุนจะสิ้นสุด โดยให้คำนึงถึงประโยชน์สาธารณะ ความคุ้มค่าในการใช้ทรัพยากร และผลกระทบต่อประชาชน
ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเจ้าสังกัดเห็นควรให้ดำเนินโครงการต่อเนื่องจากโครงการร่วมลงทุนตามสัญญาร่วมลงทุนฉบับสุดท้าย ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการตามแนวทางที่กำหนดไว้เป็นโครงการร่วมลงทุนใหม่
หมวด 5 การใช้อำนาจเพื่อประโยชน์สาธารณะ
มาตรา 50 เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การป้องกันภัยสาธารณะ ความมั่นคงของประเทศ หรือเหตุที่ทำให้การดำเนินโครงการหยุดชะงักจนทำให้ผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อประเทศชาติและสังคมของประเทศ หน่วยงานเจ้าของโครงการโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีอาจดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างดังต่อไปนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
(1) เข้าดำเนินโครงการร่วมลงทุนแทนเอกชนในโครงการร่วมลงทุนเป็นระยะเวลาชั่วคราว
(2) แก้ไขสัญญาร่วมลงทุน
(3) ยกเลิกสัญญาร่วมลงทุน
ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัยการดำเนินการตามวรรคหนึ่งไม่ใช่ความรับผิดของเอกชนคู่สัญญา ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่เอกชน
หมวด 6
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กองทุนส่งเสริมการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
มาตรา ๔๓ ให้จัดตั้งกองทุนขึ้นกองทุนหนึ่งในกระทรวงการคลัง เรียกว่า “กองทุนส่งเสริมการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๔๔ กองทุนประกอบด้วยเงินและทรัพย์สิน ดังต่อไปนี้
(๑)
เงินและทรัพย์สินที่ได้รับโอนมาตามมาตรา ๖๖
(๒)
เงินอุดหนุนจากรัฐบาล
(๓)
ค่าธรรมเนียมการขายเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน และค่าธรรมเนียมการประเมินข้อเสนอ
(๔)
เงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับจากการดำเนินงานของกองทุน
(๕)
เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคหรือมอบให้กองทุน
(๖)
ดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินของกองทุน
เงินและทรัพย์สินตามวรรคหนึ่ง ให้ส่งเป็นรายได้ของกองทุนโดยไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
มาตรา ๔๕ เงินของกองทุนให้ใช้จ่ายเพื่อการดำเนินการเกี่ยวกับกิจการของกองทุน ดังต่อไปนี้
(๑)
การดำเนินการเพื่อสนับสนุนการลงทุนในโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
(๒)
การดำเนินการเพื่อสนับสนุนการลงทุนในโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนที่มีลักษณะเฉพาะ เช่น โครงการที่มีความเสี่ยงสูง โครงการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือสังคม ให้ความรู้ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน
(๓)
ค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทุน
มาตรา ๔๖ การจ้างที่ปรึกษาตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ หากหน่วยงานเจ้าของโครงการไม่สามารถใช้เงินของหน่วยงานได้ หน่วยงานเจ้าของโครงการอาจขอรับจัดสรรเงินจากกองทุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาได้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่คณะกรรมการกองทุนกำหนด
ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการที่ได้รับการจัดสรรเงินจากกองทุนส่งเงินค่าธรรมเนียมการขายเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน และค่าธรรมเนียมการประเมินการประเมินข้อเสนอ เข้ากองทุนตามที่คณะกรรมการกองทุนกำหนด
มาตรา ๔๗ เงินของกองทุนจะต้องนำฝากกระทรวงการคลังหรือธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจตามที่คณะกรรมการกองทุนกำหนด
มาตรา ๔๘ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการกองทุนส่งเสริมการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน” ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานกรรมการ
เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และอธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นกรรมการ
ให้ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เป็นกรรมการและเลขานุการและหัวหน้ากลุ่มเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ แต่งตั้งหนึ่งคน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ และให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะของกรมการกงทุน เป็นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการกองทุน
มาตรา ๕๔ คณะกรรมการกองทุนมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(๑)
กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการของการรับจ่ายเงินจากกองทุน
(๒)
พิจารณอนุมัติการใช้เงินกองทุนสำหรับค่าใช้จ่ายตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้
(๓)
ออกระเบียบหรือคำสั่งเกี่ยวกับการบริหารกิจการของกองทุน หลักเกณฑ์และวิธีการในการเก็บรักษา รับและจ่ายเงินของกองทุน และค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทุน
(๔)
รายงานผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของกองทุนต่อคณะกรรมการอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
(๕)
จัดทำรายงานการเงินประจำปี เพื่อเสนอสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบภายในกำหนดหกเดือนนับแต่สิ้นปีบัญชี และส่งรายงานการเงินที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบแล้วพร้อมกับรายงานการตรวจสอบต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป
มาตรา ๕๕ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๙ แห่งบัญญัติสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยอนุโลม
มาตรา ๕๖ บัญชีของกองทุนให้ถือความเป็นงบประมาณ และการบัญชีของกองทุนให้จัดทำตามมาตรฐานการบัญชีสำหรับหน่วยงานภาครัฐตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
หมวด ๗
บทเบ็ดเสร็จ
มาตรา ๕๗ ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ส่วนงานในสัญญาร่วมลงทุนมาตรา ๔๒ หรือสัญญาร่วมลงทุนอื่นที่ได้ตามมาตรา ๔๘ แล้ว ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการดังต่อไปนี้
(๑)
จัดส่งสำเนาสัญญาร่วมลงทุนให้สำนักงาน พร้อมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณี ให้กระทรวงการคลังทราบ
(๒)
จัดทำข้อมูลของโครงการร่วมลงทุน กระบวนการคัดเลือกเอกชน ผลการคัดเลือกเอกชน และสัญญาร่วมลงทุน รวมทั้งการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุน เพื่อให้หน่วยงานที่มีหน้าที่และอำนาจตรวจสอบสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา
```
(ล)
เปิดเผยสรุปข้อมูลโครงการร่วมลงทุนในรูปแบบที่เข้าใจง่ายต่อสาธารณชนให้ทราบเป็นการทั่วไปโดยกระจายเผยแพร่ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของหน่วยงานเจ้าของโครงการ ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลให้ดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของทางราชการกำหนด
มาตรา ๒๖ ให้คณะกรรมการ คณะกรรมการคัดเลือก คณะกรรมการกำกับดูแลคณะกรรมการกฤษฎีกา และคณะอนุกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัตินี้ได้รับประโยชน์ตอบแทนการเข้าร่วมประชุมหรือการปฏิบัติหน้าที่ตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
มาตรา ๒๗ ให้สำนักงานจัดทำแผนงานพัฒนาฐานข้อมูลและองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน และแผนงานดำเนินการเผยแพร่ อบรม ให้ความรู้ และให้คำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เพื่อให้การร่วมลงทุนเกิดขึ้นและเป็นไปตามแนวทางการจัดทำโครงการร่วมลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำนักงานอาจจัดทำหรือว่าจ้างที่ปรึกษาหรือร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐและเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อดำเนินการตามแผนงานดังกล่าวให้บรรลุผลสำเร็จ โดยอาจจัดตั้งคณะกรรมการเงินในการดำเนินการดังกล่าวจากงบประมาณของหน่วยงานเจ้าของโครงการ หรือเงินที่ได้รับจากกองทุนที่หน่วยงานเจ้าของโครงการจัดตั้งขึ้นตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด
คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของที่ปรึกษาให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
หมวด ๔ บทกำหนดโทษ
มาตรา ๒๘ กรรมการในคณะกรรมการคัดเลือกผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๑๗ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
บทเฉพาะกาล
มาตรา ๒๙ บรรดากฎกระทรวง ประกาศ หรือระเบียบที่ออกตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ ที่ยังใช้บังคับในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้
ประกาศ และระเบียบตามพระราชบัญญัติฉบับเดิมดังกล่าว ทั้งนี้ ให้ดำเนินการออกกฎกระทรวง ประกาศ และระเบียบต่าง ๆ ตามพระราชบัญญัตินี้ให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา ๓๐ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการตามที่แต่งตั้งไว้ก่อนการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐตามพระราชบัญญัติฉบับเดิมให้ดำรงตำแหน่งจนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใหม่ตามพระราชบัญญัตินี้
```
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ คงอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๒๖ ให้โอนบรรดาเงิน ทรัพย์สิน สิทธิ และหนี้สิน ที่เกี่ยวข้องกับกองทุนส่งเสริมการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐในกระทรวงการคลังตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ ไปเป็นของกองทุนส่งเสริมการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๒๗ ในกรณีที่กฎหมายเดิมมีผลใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับมีการอ้างถึงกฎหมายในส่วนการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ให้ถือว่าการอ้างถึงดังกล่าวในกฎหมายนั้นเป็นการอ้างถึงพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๒๘ โครงการใดที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และโครงการนั้นเป็นโครงการภายใต้พระราชบัญญัตินี้ ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
(๑)
โครงการที่อยู่ในระหว่างขั้นตอนตามหมวด ๒ การเสนอโครงการ หรือหมวด ๓ การดำเนินโครงการ ให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ ไปจนแล้วเสร็จในขั้นตอนนั้น และให้ดำเนินการในขั้นตอนต่อไปตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้
(๒)
โครงการที่อยู่ในระหว่างขั้นตอนตามหมวด ๔ การกำกับดูแลและติดตามผล ให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ ไปจนแล้วเสร็จในขั้นตอนนั้น และให้ดำเนินการในขั้นตอนต่อไปตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่ในกรณีที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาร่วมลงทุน ให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้
(๓)
โครงการที่อยู่ในระหว่างขั้นตอนตามหมวด ๕ การแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาร่วมลงทุน ให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ ไปจนแล้วเสร็จในขั้นตอนนั้น และให้ดำเนินการในขั้นตอนต่อไปตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้
(๔)
โครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการที่มีมูลค่าลงทุนที่กำหนดในมาตรา ๒๓ แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการนั้นต่อไปจนแล้วเสร็จ และให้ดำเนินการในขั้นตอนต่อไปตามที่คณะกรรมการได้ประกาศกำหนดหลักเกณฑ์และขั้นตอนสำหรับโครงการตามมาตรา ๒๓
การดำเนินการใดตามวรรคหนึ่งที่กำหนดให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๖๙ โครงการใดที่อยู่ระหว่างการดำเนินการในขั้นตอนตามมาตรา ๔ การดำเนินโครงการ แห่งพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ แต่โครงการนั้น ไม่เป็นโครงการภายใต้บังคับพระราชบัญญัตินี้ ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการตาม บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติฉบับก่อนต่อไปจนแล้วเสร็จ และให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการ ขึ้นตอนต่อไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการนั้นต่อไปจนแล้วเสร็จ
การดำเนินการใดตามพระราชบัญญัติที่กำหนดให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการนโยบาย การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ ให้เป็นอำนาจของรัฐมนตรีกระทรวงเจ้าสังกัด
มาตรา ๗๐ ให้คณะกรรมการซึ่งแต่งตั้งขึ้นตามมาตรา ๗๒ แห่งพระราชบัญญัติการ ให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ และปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติ นี้มีผลใช้บังคับ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้จนกว่าคณะรัฐมนตรีจะมีคำสั่งการแต่งตั้งคณะกรรมการ ดังกล่าว
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ขออภัย, 이미지를 처리할 수 없습니다.
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
พัชราภรณ์/ธนบดี/จัดทำ
๑๖ มีนาคม ๒๕๖๒
นุสรา/ตรวจ
๑๘ มีนาคม ๒๕๖๒