로고

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ให้ไว้ ณ วันที' ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๑ เปป็นปัที' ๓ ในรัชกาลปีจจุบัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระ ราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที'เปป็นการสมควรมีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ'ง สมาชิกวุฒิสภา พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้มีบทบัญญัติบางประการเกี'ยวกับ การจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ'งมาตรา ๒๖ ประกอบกับมาตรา ๓๔ และมาตรา ๓๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทําได้โดยอาศัยอํานาจตาม บทบัญญัติแห่งกฎหมาย เหตุผลและความจําเปป็นในการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระ ราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้ เพื'อให้การได้มาซึ'งสมาชิกวุฒิสภาเปป็นไปโดยสุจริตและ เที'ยงธรรม และเปป็นระเบียบเรียบร้อยอันจะเปป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ซึ'งการตราพระราช บัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้สอดคล้องกับเงื'อนไขที'บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖ ของ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ขึนี้นไว้โดยคําแนะนําและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติทําหน้าที'รัฐสภา ดังต่อไปนีนี้

มาตรา ๑ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้เรียกว่า “พระราช บัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ'งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๖๑”

มาตรา ๒ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้ให้ใช้บังคับตันี้งแต่วัน

ถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปป็นต้นไป

มาตรา ๓ ให้ยกเลิก

พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตันี้งสมาชิกสภาผู้ แทนราษฎรและการได้มาซึ'งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๕๐ เฉพาะในส่วนที'เกี'ยวกับการได้มา ซึ'งสมาชิกวุฒิสภา

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที' ๕๗/๒๕๕๗ เรื'อง ให้ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญบางฉบับมีผลบังคับใช้ต่อไป ลงวันที' ๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗ เฉพาะในส่วนที'เกี'ยวกับการได้มาซึ'งสมาชิกวุฒิสภา

มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้

“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการการเลือกตันี้งตามกฎหมาย ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตันี้ง “กรรมการ” หมายความว่า กรรมการการเลือกตันี้งตามกฎหมายประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตันี้ง และให้หมายความรวมถึงประธานกรรมการ การเลือกตันี้งด้วย “สํานักงาน” หมายความว่า สํานักงานคณะกรรมการการเลือกตันี้งตาม กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตันี้ง “เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตันี้งตาม กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตันี้ง “พนักงานเจ้าหน้าที'” หมายความว่า พนักงานหรือลูกจ้างของสํานักงาน และให้หมายความรวมถึงข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ หรือผู้ซึ'ง คณะกรรมการ กรรมการ หรือผู้อํานวยการการเลือก แต่งตันี้งหรือมอบหมายให้ปฏิบัติการ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้หรือตามที'คณะกรรมการมอบหมาย “ผู้สมัคร” หมายความว่า ผู้สมัครรับเลือกเปป็นสมาชิกวุฒิสภา “วันเลือก” หมายความว่า วันที'คณะกรรมการประกาศกําหนดให้เปป็นวัน เลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับอําเภอ ระดับจังหวัด หรือระดับประเทศ แล้วแต่กรณี “ผู้อํานวยการการเลือก” หมายความว่า ผู้อํานวยการการเลือกระดับ อําเภอ ผู้อํานวยการการเลือกระดับจังหวัด หรือผู้อํานวยการการเลือกระดับประเทศ แล้ว แต่กรณี “สถานที'เลือก” หมายความว่า สถานที'ที'ผู้อํานวยการการเลือกกําหนดให้ เปป็นสถานที'เลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับอําเภอ ระดับจังหวัด หรือระดับประเทศ แล้วแต่กรณี “จังหวัด” หมายความรวมถึงกรุงเทพมหานครด้วย “อําเภอ” หมายความรวมถึงเขตด้วย “ศาลากลางจังหวัด” หมายความรวมถึงศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ด้วย “ที'ว่าการอําเภอ” หมายความรวมถึงสํานักงานเขตด้วย “ผู้สูงอายุ” หมายความว่า ผู้มีอายุตันี้งแต่หกสิบปัขึนี้นไป

มาตรา ๕ ในกรณีที'พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้มิได้กําหนดไว้

เปป็นประการอื'น การใดที'กําหนดให้แจ้ง ยื'น หรือส่งหนังสือหรือเอกสารให้บุคคลใดเปป็นการ เฉพาะ ถ้าได้แจ้ง ยื'น หรือส่งหนังสือหรือเอกสารให้บุคคลนันี้น ณ ภูมิลําเนาหรือที'อยู่ที' ปรากฏตามหลักฐานทางทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร ให้ถือว่าได้แจ้ง ยื'น หรือส่งโดยชอบด้วยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้แล้ว และในกรณีที'พระราช บัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้กําหนดให้ประกาศหรือเผยแพร่ให้ประชาชนทราบเปป็นการ ทั'วไป ให้ถือว่าการประกาศหรือเผยแพร่ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศหรือระบบหรือวิธีการ อื'นใดที'ประชาชนทั'วไปสามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก เปป็นการดําเนินการโดยชอบด้วยพระ ราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้แล้ว ในกรณีที'พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้กําหนดให้คณะกรรมการ มีอํานาจกําหนดหรือมีคําสั'งเรื'องใด ถ้ามิได้กําหนดวิธีการไว้เปป็นการเฉพาะ ให้คณะ กรรมการกําหนดโดยทําเปป็นระเบียบ ประกาศ หรือคําสั'ง แล้วแต่กรณี และถ้าระเบียบ ประกาศ หรือคําสั'งนันี้นใช้บังคับแก่บุคคลทั'วไป ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และให้ ดําเนินการประกาศตามวรรคหนึ'งด้วย ทันี้งนีนี้ ถ้าระเบียบ ประกาศ หรือคําสั'งใดมีการ กําหนดขันี้นตอนการดําเนินงานไว้ คณะกรรมการต้องกําหนดระยะเวลาการดําเนินงานใน แต่ละขันี้นตอนให้ชัดเจนด้วย

มาตรา ๖ เพื'อประโยชน์ในการดําเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญนีนี้ ให้คณะกรรมการมีอํานาจวางระเบียบเกี'ยวกับการปฏิบัติหน้าที'ของผู้ดําเนิน การเกี'ยวกับการเลือก รวมทันี้งกําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการอื'นใดที'จําเปป็นได้เท่าที'ไม่ขัดหรือ แย้งหรือที'มิได้มีบัญญัติไว้แล้วเปป็นการเฉพาะในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้

มาตรา ๗ ในการปฏิบัติหน้าที'ของคณะกรรมการตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้ ในระหว่างเวลานับแต่วันที'พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิก วุฒิสภาใช้บังคับจนถึงวันประกาศผลการเลือก หากมีความจําเปป็นเร่งด่วนต้องมีการประชุม คณะกรรมการ ให้คณะกรรมการมีอํานาจประชุมผ่านสื'ออิเล็กทรอนิกส์ โดยกรรมการแต่ละ คนอาจอยู่ ณ สถานที'แตกต่างกันได้ และให้เลขาธิการดําเนินการบันทึกเสียงและภาพเก็บ ไว้เปป็นหลักฐาน ทันี้งนีนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที'คณะกรรมการกําหนด

มาตรา ๘ การพิจารณาและมีคําวินิจฉัยของศาลฎีกาตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้ ให้เปป็นไปตามระเบียบของที'ประชุมใหญ่ศาลฎีกาโดยประกาศในราช กิจจานุเบกษา ซึ'งต้องกําหนดให้การพิจารณาเปป็นไปโดยรวดเร็วและเที'ยงธรรม ในการนีนี้ อาจกําหนดให้ศาลชันี้นต้นที'มีเขตอํานาจเปป็นผู้รับคําร้องแทนเพื'อจัดส่งให้ศาลฎีกาวินิจฉัย หรืออาจให้ศาลชันี้นต้นเปป็นผู้ไต่สวนพยานหลักฐานหรือดําเนินการอื'นที'จําเปป็นแทนศาลฎีกา ก็ได้

การปฏิบัติหน้าที'ของศาลฎีกาเกี'ยวกับการเลือกตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้ ผู้พิพากษาซึ'งร่วมประชุมใหญ่ศาลฎีกา องค์คณะผู้พิพากษา ตลอด จนบุคคลซึ'งองค์คณะผู้พิพากษามอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที'มีสิทธิได้รับเบีนี้ยประชุมหรือค่า ตอบแทน แล้วแต่กรณี ตามระเบียบที'คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมตามกฎหมายว่า ด้วยระเบียบบริหารราชการศาลยุติธรรมกําหนด

มาตรา ๙ ให้ประธานกรรมการการเลือกตันี้งรักษาการตามพระราช บัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้

หมวด ๑ ผู้สมัครและการสมัครรับเลือก

มาตรา ๑๐ ภายใต้บังคับมาตรา ๑๕ วรรคสอง การแบ่งกลุ่มตามมาตรา ๑๑ เปป็นไปเพื'อให้บุคคลซึ'งมีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๓ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา

๑๔ ทุกคนมีสิทธิสมัครเข้ารับเลือกเปป็นสมาชิกวุฒิสภาในกลุ่มใดกลุ่มหนึ'งได้

มาตรา ๑๑ วุฒิสภาประกอบด้วยสมาชิกจํานวนสองร้อยคนซึ'งมาจากการ เลือกกันเองของบุคคลซึ'งมีความรู้ ความเชี'ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะหรือ ประโยชน์ร่วมกัน หรือทํางานหรือเคยทํางานด้านต่าง ๆ ที'หลากหลายของสังคมในแต่ละ กลุ่ม ดังต่อไปนีนี้

กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั'นคง อันได้แก่ผู้เคยเปป็น ข้าราชการ เจ้าหน้าที'ของรัฐ หรืออื'น ๆ ในทํานองเดียวกัน

กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม อันได้แก่ผู้เปป็นหรือเคยเปป็นผู้ พิพากษา ตุลาการ อัยการ ตํารวจ ผู้ประกอบวิชาชีพด้านกฎหมาย หรืออื'น ๆ ในทํานอง เดียวกัน

กลุ่มการศึกษา อันได้แก่ผู้เปป็นหรือเคยเปป็นครู อาจารย์ นักวิจัย ผู้ บริหารสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษา หรืออื'น ๆ ในทํานองเดียวกัน

กลุ่มการสาธารณสุข อันได้แก่ผู้เปป็นหรือเคยเปป็นแพทย์ทุกประเภท เทคนิคการแพทย์ สาธารณสุข พยาบาล เภสัชกร หรืออื'น ๆ ในทํานองเดียวกัน

กลุ่มอาชีพทํานา ปลูกพืชล้มลุก หรืออื'น ๆ ในทํานองเดียวกัน

กลุ่มอาชีพทําสวน ป찌าไม้ ปศุสัตว์ ประมง หรืออื'น ๆ ในทํานองเดียวกัน (๗) กลุ่มพนักงานหรือลูกจ้างของบุคคลซึ'งมิใช่ส่วนราชการหรือหน่วยงาน ของรัฐ ผู้ใช้แรงงาน หรืออื'น ๆ ในทํานองเดียวกัน

กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ'งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์และ สาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน หรืออื'น ๆ ในทํานองเดียวกัน

กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อมตามกฎหมายว่าด้วย การนันี้น หรืออื'น ๆ ในทํานองเดียวกัน

๑๐

กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื'นนอกจากกิจการตาม (๙)

๑๑

กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที'ยว อันได้แก่ผู้ ประกอบธุรกิจท่องเที'ยว มัคคุเทศก์ ผู้ประกอบกิจการหรือพนักงานโรงแรม หรืออื'น ๆ ใน ทํานองเดียวกัน

๑๒

กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม หรืออื'น ๆ ในทํานองเดียวกัน

๑๓

กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื'อสาร การ พัฒนานวัตกรรม หรืออื'น ๆ ในทํานองเดียวกัน

๑๔

กลุ่มสตรี

๑๕

กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์ อื'น หรืออื'น ๆ ในทํานองเดียวกัน

๑๖

กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและบันเทิง นักกีฬา หรืออื'น ๆ ในทํานองเดียวกัน

๑๗

กลุ่มประชาสังคม กลุ่มองค์กรสาธารณประโยชน์ หรืออื'น ๆ ใน ทํานองเดียวกัน

๑๘

กลุ่มสื'อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม หรืออื'น ๆ ในทํานอง เดียวกัน

๑๙

กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรืออื'น ๆ ในทํานอง เดียวกัน

๒๐

กลุ่มอื'น ๆ การมีลักษณะอื'น ๆ ในทํานองเดียวกันตามวรรคหนึ'ง ให้เปป็นไปตามที'คณะ กรรมการประกาศกําหนด ผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๓ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๔ ย่อมมีสิทธิสมัครในกลุ่มอื'น ๆ ตาม (๒๐) ได้

มาตรา ๑๒ การเลือกสมาชิกวุฒิสภาให้ตราเปป็นพระราชกฤษฎีกา

ภายในห้าวันนับแต่วันที'พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภาใช้ บังคับ ให้คณะกรรมการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเกี'ยวกับการเลือก ดังต่อไปนีนี้

กําหนดวันเลือกระดับอําเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ

กําหนดวันรับสมัคร โดยเริ'มรับสมัครไม่เกินสิบห้าวันนับแต่วันที'พระ ราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภาใช้บังคับ และต้องกําหนดวันรับสมัครไม่น้อยกว่า ห้าวันแต่ต้องไม่เกินเจ็ดวัน วันเลือกในระดับอําเภอ ต้องไม่เกินยี'สิบวันนับแต่วันสินี้นสุดระยะเวลารับ สมัคร วันเลือกในระดับจังหวัด ต้องไม่เกินเจ็ดวันนับแต่วันเลือกในระดับอําเภอ และวัน เลือกในระดับประเทศ ต้องไม่เกินสิบวันนับแต่วันเลือกในระดับจังหวัด ทันี้งนีนี้ ในการกําหนด วันเลือกในแต่ละระดับต้องกําหนดเปป็นวันเดียวกันทั'วราชอาณาจักร

มาตรา ๑๓ ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนีนี้ (๑) มีสัญชาติไทยโดยการเกิด

มีอายุไม่ต1ากว่าสี'สิบปัในวันสมัครรับเลือก

มีความรู้ ความเชี'ยวชาญ และประสบการณ์ หรือทํางานในด้านที' สมัครไม่น้อยกว่าสิบปั

ผู้สมัครต้องมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ'งดังต่อไปนีนี้ด้วย (ก) เปป็นบุคคลซึ'งเกิดในอําเภอที'สมัครรับเลือก (ข) มีชื'ออยู่ในทะเบียนบ้านในอําเภอที'สมัครรับเลือกมาแล้วเปป็นเวลา ติดต่อกันไม่น้อยกว่าสองปันับถึงวันสมัครรับเลือก (ค) ทํางานอยู่ในอําเภอที'สมัครรับเลือกมาแล้วเปป็นเวลาติดต่อกันไม่ น้อยกว่าสองปันับถึงวันสมัครรับเลือก (ง) เคยทํางานหรือเคยมีชื'ออยู่ในทะเบียนบ้านอยู่ในอําเภอที'สมัครรับ เลือก แล้วแต่กรณี เปป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าสองปั (จ) เคยศึกษาในสถานศึกษาที'ตันี้งอยู่ในอําเภอที'สมัครรับเลือกเปป็นเวลา ติดต่อกันไม่น้อยกว่าสองปัการศึกษา ความใน (๓) ไม่ใช้บังคับแก่สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่ม ชาติพันธุ์ และกลุ่มอัตลักษณ์อื'น ซึ'งสมัครในกลุ่มตามมาตรา ๑๑ (๑๔) และ (๑๕)

มาตรา ๑๔ ผู้สมัครต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนีนี้ (๑) ติดยาเสพติดให้โทษ

เปป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเปป็นบุคคลล้มละลายทุจริต

เปป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื'อมวลชนใด ๆ ไม่

เปป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช

อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตันี้งไม่ว่าคดีนันี้นจะถึงที'สุดแล้วหรือ

วิกลจริตหรือจิตฟ' ~นเฟ더อนไม่สมประกอบ

อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตันี้งเปป็นการชั'วคราวหรือ ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตันี้ง

ต้องคําพิพากษาให้จําคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล

เคยได้รับโทษจําคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปันับถึงวันเลือกใน ระดับอําเภอ เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

๑๐

เคยถูกสั'งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะ ทุจริตต่อหน้าที'หรือถือว่ากระทําการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ

๑๑

เคยต้องคําพิพากษาหรือคําสั'งของศาลอันถึงที'สุดให้ทรัพย์สินตก เปป็นของแผ่นดินเพราะร1ารวยผิดปกติ หรือเคยต้องคําพิพากษาอันถึงที'สุดให้ลงโทษจําคุก เพราะกระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป잎องกันและปราบปรามการทุจริต

๑๒

เคยต้องคําพิพากษาอันถึงที'สุดว่ากระทําความผิดต่อตําแหน่งหน้าที' ราชการหรือต่อตําแหน่งหน้าที'ในการยุติธรรม หรือกระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วย ความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี'ยวกับทรัพย์ที' กระทําโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที' เปป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดในความผิดฐานเปป็นผู้ผลิต นําเข้า ส่ง ออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเปป็นเจ้ามือหรือเจ้าสํานัก กฎหมาย ว่าด้วยการป잎องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วยการป잎องกันและปราบ ปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน

๑๓

เคยต้องคําพิพากษาอันถึงที'สุดว่ากระทําการอันเปป็นการทุจริตใน การเลือกตันี้ง

๑๔

อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง

๑๕

เปป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจ หรือเปป็นเจ้าหน้าที'อื'นของรัฐ

๑๖

เปป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ (๑๗) เคยพ้นจากตําแหน่งเพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามีการเสนอ การแปรญัตติ หรือการกระทําด้วยประการใด ๆ ที'มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิก วุฒิสภา หรือกรรมาธิการมีส่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณราย จ่าย

๑๘

เคยพ้นจากตําแหน่งเพราะศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองมีคําพิพากษาว่าเปป็นผู้มีพฤติการณ์ร1ารวยผิดปกติ หรือ กระทําความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที' หรือจงใจปฏิบัติหน้าที'หรือใช้อํานาจขัดต่อบทบัญญัติ แห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ찌าฝ더นหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่าง ร้ายแรง

๑๙

เปป็นข้าราชการ

๒๐

เปป็นหรือเคยเปป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เว้นแต่ได้พ้นจากการเปป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปันับถึงวันสมัครรับเลือก

๒๑

เปป็นสมาชิกพรรคการเมือง

๒๒

เปป็นหรือเคยเปป็นผู้ดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมือง เว้นแต่ได้พ้น จากการดํารงตําแหน่งในพรรคการเมืองมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปันับถึงวันสมัครรับเลือก

๒๓

เปป็นหรือเคยเปป็นรัฐมนตรี เว้นแต่ได้พ้นจากการเปป็นรัฐมนตรีมาแล้ว ไม่น้อยกว่าห้าปันับถึงวันสมัครรับเลือก

๒๔

เปป็นหรือเคยเปป็นสมาชิกสภาท้องถิ'นหรือผู้บริหารท้องถิ'น เว้นแต่ได้ พ้นจากการเปป็นสมาชิกสภาท้องถิ'นหรือผู้บริหารท้องถิ'นมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปันับถึงวัน สมัครรับเลือก

๒๕

เปป็นบุพการี คู่สมรส หรือบุตรของผู้ดํารงตําแหน่งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ'นหรือผู้บริหารท้องถิ'น ผู้ สมัครรับเลือกเปป็นสมาชิกวุฒิสภาในคราวเดียวกัน หรือผู้ดํารงตําแหน่งใดในศาล รัฐธรรมนูญหรือองค์กรอิสระ

๒๖

เคยเปป็นสมาชิกวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญ

มาตรา ๑๕ ผู้ซึ'งประสงค์จะสมัครเข้ารับเลือกเปป็นสมาชิกวุฒิสภาต้องยื'น ใบสมัครด้วยตนเองพร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานประกอบการสมัคร และชําระค่า ธรรมเนียมการสมัครจํานวนสองพันห้าร้อยบาท

ให้ผู้สมัครแต่ละคนมีสิทธิสมัครเพื'อเข้ารับเลือกในกลุ่มตามมาตรา ๑๑ ได้ เพียงกลุ่มเดียวและอําเภอเดียว และเมื'อได้ยื'นใบสมัครแล้วจะถอนการสมัครมิได้ ผู้สมัครมีสิทธิสมัครในกลุ่มตามมาตรา ๑๑ (๒๐) ได้ แม้จะมีความรู้ ความ เชี'ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะหรือประโยชน์ร่วมกัน หรือทํางานหรือเคยทํางาน ด้านอื'นในกลุ่มอื'น แบบใบสมัคร แบบหนังสือแจ้งการเสนอชื'อ วิธีการสมัคร ระยะเวลาการ สมัคร สถานที'สมัคร การเรียงลําดับผู้สมัคร และวิธีการชําระค่าธรรมเนียมการสมัคร ให้เปป็น ไปตามระเบียบที'คณะกรรมการกําหนด แบบใบสมัครอย่างน้อยต้องมีข้อความที'ผู้สมัครต้องรับรองว่าตนมี คุณสมบัติตามมาตรา ๑๓ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๔ เลือก การกําหนดสถานที'สมัครต้องกําหนดให้อยู่ภายในเขตอําเภอที'จะมีการ

มาตรา ๑๖ เอกสารและหลักฐานประกอบการสมัคร ประกอบด้วย

เอกสารหรือหลักฐานอันแสดงว่าตนมีความรู้ ความเชี'ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะหรือประโยชน์ร่วมกัน หรือทํางานหรือเคยทํางานด้านใดด้าน หนึ'งตามมาตรา ๑๑ ทันี้งนีนี้ ตามที'คณะกรรมการกําหนด

ข้อความแนะนําตัวของผู้สมัครซึ'งมีความยาวไม่เกินที'คณะกรรมการ กําหนด

เอกสารหรือหลักฐานอื'นตามที'คณะกรรมการกําหนด ผู้สมัครต้องลงลายมือชื'อรับรองความถูกต้องและเปป็นจริงของเอกสารและ หลักฐานตามวรรคหนึ'งทุกฉบับและทุกหน้า ในกรณีที'ไม่อาจลงลายมือชื'อได้ ให้รับรอง ความถูกต้องและเปป็นจริงตามวิธีการที'คณะกรรมการกําหนด เอกสารหรือหลักฐานตาม (๑) ต้องมีพยานอย่างน้อยหนึ'งคนลงลายมือชื'อ ยืนยันว่าผู้นันี้นมีคุณลักษณะเช่นนันี้นจริง และต้องมีสําเนาบัตรประจําตัวประชาชนของพยาน ซึ'งลงลายมือชื'อรับรองถูกต้องแนบมาพร้อมกัน การกําหนดตาม (๒) ให้คํานึงถึงความสะดวกในการเผยแพร่ให้ผู้สมัครรับ รู้ และการกําหนดตาม (๓) ต้องไม่สร้างภาระแก่ผู้สมัครเกินสมควร

มาตรา ๑๗ ในกรณีมีเหตุจําเปป็นเฉพาะพืนี้นที'ทําให้ไม่สามารถดําเนินการ รับสมัครภายในระยะเวลาหรือในวันที'กําหนดเพราะเหตุจลาจล อุทกภัย อัคคีภัย เหตุสุดวิสัย หรือเหตุจําเปป็นอื'นใด ให้คณะกรรมการมีอํานาจประกาศกําหนดให้ดําเนินการรับสมัครโดย วิธีการอื'น หรือจะกําหนดวันรับสมัครเพิ'มเติมก็ได้

มาตรา ๑๘ ห้ามมิให้คณะกรรมการหรือพนักงานเจ้าหน้าที'เปัดเผยรายชื'อ ผู้สมัครและจํานวนผู้สมัครในแต่ละกลุ่มจนกว่าจะพ้นระยะเวลารับสมัคร

ความในวรรคหนึ'งไม่ใช้บังคับแก่กรณีที'คณะกรรมการหรือพนักงานเจ้า หน้าที'ดําเนินการตรวจสอบข้อมูลเกี'ยวกับผู้สมัคร ไม่ว่าจะเปป็นการตรวจสอบภายใน สํานักงานหรือมอบหมายให้หน่วยงานอื'นของรัฐเปป็นผู้ตรวจสอบ แต่ไม่ว่าในกรณีใด ห้ามมิ ให้เปัดเผยหรือทําด้วยประการใด ๆ ให้บุคคลอื'นซึ'งไม่มีหน้าที'ตรวจสอบดังกล่าวล่วงรู้ราย ชื'อหรือจํานวนผู้สมัครในแต่ละกลุ่มจนกว่าจะพ้นระยะเวลารับสมัคร

มาตรา ๑๙ การเลือกในระดับอําเภอให้กระทําได้ แม้จะไม่มีผู้สมัครครบ ทุกกลุ่มตามมาตรา ๑๑

มาตรา ๒๐ ในกรณีที'ความปรากฏต่อผู้อํานวยการการเลือกระดับอําเภอ ไม่ว่าด้วยเหตุใด ว่าผู้สมัครผู้ใดขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามหรือสมัครมากกว่า หนึ'งกลุ่มหรือหนึ'งอําเภอ หรือแสดงข้อมูลในใบสมัครหรือเอกสารหรือหลักฐานประกอบการ สมัครอันเปป็นเท็จ ให้ผู้อํานวยการการเลือกระดับอําเภอสั'งไม่รับสมัคร ในกรณีที'รับสมัครไว้ แล้ว ให้การสมัครของผู้นันี้นเปป็นโมฆะ และให้ผู้อํานวยการการเลือกซึ'งพบเห็นดังกล่าวสั'งลบ ชื'อผู้นันี้นออกจากบัญชีรายชื'อผู้สมัคร แล้วรายงานให้คณะกรรมการทราบ

ผู้ถูกลบชื'อออกจากบัญชีรายชื'อผู้สมัครตามวรรคหนึ'ง ไม่มีสิทธิเลือกและ ไม่มีสิทธิได้รับเลือก แต่ไม่มีผลกระทบต่อการรับสมัครหรือการเลือกที'ได้ดําเนินการไปแล้ว ในกรณีที'ความตามวรรคหนึ'งปรากฏขึนี้นในระหว่างการดําเนินการเลือกไม่ ว่าระดับใดก่อนประกาศผลการเลือก ให้ถือว่าผู้สมัครผู้นันี้นกระทําการเพื'อให้การเลือกมิได้ เปป็นไปโดยสุจริตหรือเที'ยงธรรม และให้คณะกรรมการสั'งระงับสิทธิสมัครรับเลือกตันี้งของผู้ นันี้นไว้เปป็นการชั'วคราวเปป็นเวลาไม่เกินหนึ'งปั ส่วนการดําเนินการเกี'ยวกับการเลือกให้เปป็นไป ตามที'คณะกรรมการกําหนดตามที'เห็นสมควร คําสั'งและการกําหนดของคณะกรรมการให้ เปป็นที'สุด เมื'อคณะกรรมการมีคําสั'งตามวรรคสาม ให้ยื'นคําร้องต่อศาลฎีกาเพื'อสั'ง ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตันี้งของผู้นันี้น

มาตรา ๒๑ ภายในห้าวันนับแต่วันสินี้นสุดระยะเวลารับสมัคร ให้ผู้อํานวย การการเลือกระดับอําเภอประกาศบัญชีรายชื'อผู้สมัครซึ'งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้อง ห้ามแยกเปป็นรายกลุ่มทุกกลุ่มในเขตอําเภอ โดยอย่างน้อยต้องระบุอาชีพและอายุของผู้ สมัครเพื'อให้ประชาชนทราบเปป็นการทั'วไป และให้ประกาศไว้ ณ สํานักงานคณะกรรมการ การเลือกตันี้งประจําจังหวัด ศาลากลางจังหวัด และที'ว่าการอําเภอด้วย

การประกาศบัญชีรายชื'อผู้สมัครตามวรรคหนึ'ง ให้เปป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที'คณะกรรมการกําหนด

มาตรา ๒๒ กรณีที'ผู้อํานวยการการเลือกระดับอําเภอสั'งไม่รับสมัครผู้ใด หรือสั'งลบชื'อผู้สมัครผู้ใด ผู้นันี้นมีสิทธิยื'นคําร้องคัดค้านต่อศาลฎีกาภายในสามวันนับแต่วันที' ประกาศบัญชีรายชื'อผู้สมัครหรือวันที'ผู้อํานวยการการเลือกสั'งลบชื'อ แล้วแต่กรณี

ในการพิจารณาและมีคําวินิจฉัยของศาลฎีกาตามวรรคหนึ'ง ให้ดําเนินการ ให้แล้วเสร็จก่อนวันเลือกไม่น้อยกว่าหนึ'งวัน เมื'อถึงวันเลือก ถ้าศาลฎีกายังมิได้วินิจฉัยให้ ดําเนินการเลือกต่อไป โดยให้ถือว่ามีผู้สมัครเพียงเท่าที'ปรากฏตามบัญชีรายชื'อผู้สมัครที'ผู้ อํานวยการการเลือกระดับอําเภอประกาศ ในกรณีเช่นนีนี้ คําวินิจฉัยของศาลฎีกาไม่มีผลกระ ทบต่อการเลือกที'ดําเนินการไปแล้ว

มาตรา ๒๓ ในกรณีที'ผู้สมัครซึ'งถูกลบชื'อออกจากบัญชีรายชื'อผู้สมัคร ก่อนการดําเนินการเลือกในระดับจังหวัดหรือระดับประเทศ ผู้นันี้นมีสิทธิยื'นคําร้องคัดค้านต่อ ศาลฎีกาภายในสามวันนับแต่วันที'ผู้อํานวยการการเลือกสั'งลบชื'อ และให้นําความในมาตรา

๒๒ วรรคสอง มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม

หมวด ๒ ผู้ดําเนินการเกี'ยวกับการเลือก

มาตรา ๒๔ ในการดําเนินการเพื'อเลือกสมาชิกวุฒิสภา ให้มีคณะ กรรมการเพื'อช่วยเหลือการปฏิบัติงาน แนะนํา อํานวยความสะดวก และรายงานปีญหาหรือ อุปสรรคเกี'ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภาต่อคณะกรรมการ ดังต่อไปนีนี้

คณะกรรมการระดับประเทศ โดยให้คณะกรรมการปฏิบัติหน้าที'เปป็น คณะกรรมการระดับประเทศ

คณะกรรมการระดับจังหวัด ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดสําหรับ จังหวัดอื'น และปลัดกรุงเทพมหานครสําหรับกรุงเทพมหานคร เปป็นประธาน หัวหน้าส่วน ราชการประจําจังหวัดหรือบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ จํานวนสามคน ผู้ทรง คุณวุฒิในเขตจังหวัดซึ'งมิได้เปป็นเจ้าหน้าที'ของรัฐและมิได้เปป็นสมาชิกหรือเจ้าหน้าที'ของ พรรคการเมือง หรือเปป็นผู้สมัคร หรือมีบุพการี บุตร คู่สมรส หรือญาติ เปป็นผู้สมัครรับเลือก ในเขตจังหวัดนันี้น จํานวนสองคนเปป็นกรรมการ และให้ผู้อํานวยการการเลือกตันี้งประจํา จังหวัดเปป็นกรรมการและเลขานุการ

คณะกรรมการระดับอําเภอ ประกอบด้วย นายอําเภอเปป็นประธาน หัวหน้าส่วนราชการประจําอําเภอ จํานวนสามคน ผู้ทรงคุณวุฒิในเขตอําเภอซึ'งมิได้เปป็นเจ้า หน้าที'ของรัฐและมิได้เปป็นสมาชิกหรือเจ้าหน้าที'ของพรรคการเมือง หรือเปป็นผู้สมัคร หรือมี บุพการี บุตร คู่สมรส หรือญาติ เปป็นผู้สมัครรับเลือกในเขตอําเภอนันี้น จํานวนสองคนเปป็น กรรมการ และเจ้าหน้าที'ของสํานักงานหรือข้าราชการประจําอําเภอซึ'งผู้อํานวยการการ เลือกตันี้งประจําจังหวัดแต่งตันี้ง เปป็นกรรมการและเลขานุการ ผู้มีอํานาจแต่งตันี้ง การแต่งตันี้ง และวิธีการได้มาซึ'งกรรมการตาม (๒) และ (๓) ให้เปป็นไปตามหลักเกณฑ์ที'คณะกรรมการกําหนด สําหรับกรุงเทพมหานคร คณะ กรรมการจะกําหนดให้แต่งตันี้งข้าราชการกรุงเทพมหานครตําแหน่งใดแทนหัวหน้าส่วน ราชการประจําจังหวัดตาม (๒) และหัวหน้าส่วนราชการประจําอําเภอตาม (๓) ก็ได้ ผู้เปป็นกรรมการโดยตําแหน่งหรือหัวหน้าส่วนราชการหรือบุคลากรใน สถาบันอุดมศึกษาของรัฐตาม (๒) หรือ (๓) แล้วแต่กรณี ต้องไม่เปป็นผู้มีบุพการี บุตร คู่สมรส หรือญาติ เปป็นผู้สมัครรับเลือกในเขตจังหวัดหรืออําเภอนันี้น ในกรณีที'ความปรากฏต่อคณะกรรมการว่า กรรมการตาม (๒) หรือ (๓) ผู้ ใดมีกรณีตามวรรคสามหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าจะทําให้การเลือกไม่เปป็นไปโดยสุจริตหรือ เที'ยงธรรม ให้คณะกรรมการมีอํานาจแต่งตันี้งผู้ดํารงตําแหน่งอื'นหรือบุคคลอื'นเปป็นกรรมการ แทนได้ตามที'เห็นสมควร ให้คณะกรรมการตามวรรคหนึ'ง และพนักงานเจ้าหน้าที' เปป็นเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา ๒๕ ในการจัดให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ให้เลขาธิการเปป็นผู้ อํานวยการการเลือกระดับประเทศ ให้กรรมการและเลขานุการตามมาตรา ๒๔ (๒) เปป็นผู้ อํานวยการการเลือกระดับจังหวัด และให้กรรมการและเลขานุการตามมาตรา ๒๔ (๓) เปป็น ผู้อํานวยการการเลือกระดับอําเภอ

มาตรา ๒๖ เมื'อพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภามีผลใช้ บังคับ ให้ผู้อํานวยการการเลือกเปป็นผู้ดําเนินการให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาเปป็นไปตามพระ ราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้และตามที'คณะกรรมการกําหนด ทันี้งนีนี้ ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที'คณะกรรมการกําหนด

มาตรา ๒๗ เพื'อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที'ของผู้อํานวยการการเลือก ระดับจังหวัดหรือผู้อํานวยการการเลือกระดับอําเภอ ให้คณะกรรมการมีอํานาจแต่งตันี้ง บุคคลซึ'งมีภูมิลําเนาในจังหวัดหรืออําเภอ แล้วแต่กรณี ที'มีการเลือก ให้เปป็นพนักงานเจ้า หน้าที'เพื'อช่วยเหลือการปฏิบัติงานของผู้อํานวยการการเลือกระดับจังหวัดหรือผู้อํานวยการ การเลือกระดับอําเภอได้ ในการนีนี้ คณะกรรมการจะมอบอํานาจให้คณะกรรมการตาม มาตรา ๒๔ (๒) และ (๓) เปป็นผู้แต่งตันี้งแทนคณะกรรมการก็ได้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เงื'อนไขที'คณะกรรมการกําหนด

ในการเลือกทุกระดับ คณะกรรมการมีอํานาจแต่งตันี้งหรือมอบหมายให้ผู้ อํานวยการทะเบียนกลางตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรดําเนินการหรือช่วยเหลือ เกี'ยวกับการดําเนินการเลือกได้ ในการเลือกระดับประเทศ ให้คณะกรรมการมีอํานาจแต่งตันี้งพนักงานเจ้า หน้าที'เพื'อช่วยเหลือการปฏิบัติงานของผู้อํานวยการการเลือกระดับประเทศได้ การปฏิบัติหน้าที'ของพนักงานเจ้าหน้าที'ตามวรรคหนึ'ง วรรคสอง และ วรรคสาม ให้เปป็นไปตามที'คณะกรรมการกําหนด

มาตรา ๒๘ ในการดําเนินการให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับอําเภอ ให้ผู้อํานวยการการเลือกระดับอําเภอมีหน้าที'และอํานาจ ดังต่อไปนีนี้

จัดให้มีสถานที'รับสมัครและสถานที'เลือกในเขตอําเภอ (๒) จัดให้มีการรับสมัคร

ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร (๔) จัดทําบัญชีรายชื'อผู้สมัครตามมาตรา ๒๑

จัดทําเอกสารหรือข้อมูลแนะนําตัวของผู้สมัครทุกคนเพื'อให้ผู้สมัคร ตรวจสอบและใช้ประโยชน์ในการเลือก

ควบคุมการเลือก การนับคะแนน และการรายงานผลการนับคะแนน ให้เปป็นไปโดยสุจริตและเที'ยงธรรม

ประกาศรายชื'อผู้ได้รับเลือกในระดับอําเภอ และส่งบัญชีรายชื'อของผู้ ได้รับเลือกพร้อมทันี้งเอกสารหรือข้อมูลตาม (๕) ไปยังผู้อํานวยการการเลือกระดับจังหวัด

บันทึกภาพและเสียงของกระบวนการเลือกไว้เปป็นหลักฐาน

ปฏิบัติหน้าที'อื'นอันเกี'ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภาตามที'คณะ กรรมการกําหนดหรือมอบหมาย สถานที'เลือกต้องเปป็นสถานที'ที'สามารถเดินทางไปได้โดยสะดวก พร้อมทันี้ง ให้มีป잎ายหรือเครื'องหมายอื'นใดเพื'อแสดงขอบเขตบริเวณของสถานที'เลือกไว้ด้วย ในการดําเนินการตามวรรคหนึ'ง ให้เปป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือ เงื'อนไขที'คณะกรรมการกําหนด

มาตรา ๒๙ ในการดําเนินการให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด ให้ผู้อํานวยการการเลือกระดับจังหวัดมีหน้าที'และอํานาจ ดังต่อไปนีนี้

จัดให้มีสถานที'เลือกในเขตจังหวัด

จัดทําบัญชีรายชื'อผู้ได้รับเลือกจากการเลือกระดับอําเภอแยกเปป็นราย กลุ่ม โดยอย่างน้อยต้องระบุอาชีพและอายุของผู้สมัคร และประกาศให้ประชาชนทราบ เปป็นการทั'วไปภายในสามวันนับแต่วันที'ได้รับบัญชีรายชื'อจากผู้อํานวยการการเลือกระดับ อําเภอ

จัดทําเอกสารหรือข้อมูลแนะนําตัวของผู้ได้รับเลือกจากการเลือก ระดับอําเภอเพื'อให้ผู้ได้รับเลือกได้ตรวจสอบและใช้ประโยชน์ในการเลือก ทันี้งนีนี้ ให้ใช้ เอกสารหรือข้อมูลที'ได้รับมาจากผู้อํานวยการการเลือกระดับอําเภอ

ควบคุมการเลือก การนับคะแนน และการรายงานผลการนับคะแนน ให้เปป็นไปโดยสุจริตและเที'ยงธรรม

ประกาศรายชื'อผู้ได้รับเลือกในระดับจังหวัด และส่งบัญชีรายชื'อของผู้ ได้รับเลือกพร้อมทันี้งเอกสารหรือข้อมูลตาม (๓) ไปยังผู้อํานวยการการเลือกระดับประเทศ

บันทึกภาพและเสียงของกระบวนการเลือกไว้เปป็นหลักฐาน

ปฏิบัติหน้าที'อื'นอันเกี'ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภาตามที'คณะ กรรมการกําหนดหรือมอบหมาย ให้นําความในมาตรา ๒๘ วรรคสอง และวรรคสาม มาใช้บังคับด้วยโดย อนุโลม

มาตรา ๓๐ ในการดําเนินการให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ ให้ผู้อํานวยการการเลือกระดับประเทศมีหน้าที'และอํานาจ ดังต่อไปนีนี้

จัดให้มีสถานที'เลือกในระดับประเทศ

จัดทําบัญชีรายชื'อผู้ได้รับเลือกจากการเลือกระดับจังหวัดแยกเปป็น รายกลุ่ม โดยอย่างน้อยต้องระบุอาชีพและอายุของผู้สมัคร และประกาศให้ประชาชนทราบ เปป็นการทั'วไปภายในสามวันนับแต่วันที'ได้รับบัญชีรายชื'อจากผู้อํานวยการการเลือกระดับ จังหวัด

จัดทําเอกสารหรือข้อมูลแนะนําตัวของผู้ได้รับเลือกจากการเลือก ระดับจังหวัดเพื'อให้ผู้ได้รับเลือกได้ตรวจสอบและใช้ประโยชน์ในการเลือก ทันี้งนีนี้ ให้ใช้ เอกสารหรือข้อมูลที'ได้รับมาจากผู้อํานวยการการเลือกระดับจังหวัด

ควบคุมการเลือก การนับคะแนน และการรายงานผลการนับคะแนน ให้เปป็นไปโดยสุจริตและเที'ยงธรรม

เสนอรายชื'อและคะแนนของแต่ละบุคคลในแต่ละกลุ่มต่อคณะ กรรมการเพื'อประกาศผลการเลือก

บันทึกภาพและเสียงกระบวนการเลือกไว้เปป็นหลักฐาน

ปฏิบัติหน้าที'อื'นอันเกี'ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภาตามที'คณะ กรรมการกําหนดหรือมอบหมาย อนุโลม ให้นําความในมาตรา ๒๘ วรรคสอง และวรรคสาม มาใช้บังคับด้วยโดย

มาตรา ๓๑ ให้ประธานและกรรมการในคณะกรรมการระดับจังหวัดและ

ในคณะกรรมการระดับอําเภอ ผู้อํานวยการการเลือก และพนักงานเจ้าหน้าที' มีสิทธิได้รับ เบีนี้ยเลีนี้ยง ค่าตอบแทน และค่าใช้จ่ายอื'นตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื'อนไข และอัตราที'คณะ กรรมการกําหนด

มาตรา ๓๒ ห้ามมิให้กรรมการ เลขาธิการ ผู้ตรวจการเลือกตันี้ง ประธาน และกรรมการในคณะกรรมการระดับจังหวัดหรือในคณะกรรมการระดับอําเภอ ผู้อํานวย การการเลือก หรือพนักงานเจ้าหน้าที' ซึ'งปฏิบัติหน้าที'ตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญนีนี้ หลีกเลี'ยงไม่ปฏิบัติตามหน้าที' ทุจริตต่อหน้าที' หรือกระทําการอื'นใดอัน เปป็นการขัดขวางมิให้การเปป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ หรือคําสั'งของคณะ กรรมการ คณะกรรมการระดับจังหวัด คณะกรรมการระดับอําเภอ ผู้อํานวยการการเลือก หรือคําสั'งของศาลอันเกี'ยวกับการเลือกตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้

กรรมการ เลขาธิการ ผู้ตรวจการเลือกตันี้ง ประธานและกรรมการในคณะ กรรมการระดับจังหวัด หรือในคณะกรรมการระดับอําเภอ ผู้อํานวยการการเลือก หรือ พนักงานเจ้าหน้าที' ซึ'งปฏิบัติหน้าที'ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้ หรือ กฎหมาย ระเบียบ ประกาศ หรือคําสั'งของคณะกรรมการ หรือปฏิบัติตามคําสั'งของศาลอัน เกี'ยวกับการเลือกตันี้ง หากได้กระทําโดยสุจริต ย่อมได้รับความคุ้มครอง ไม่ต้องรับผิดทันี้ง ทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางปกครอง

หมวด ๓ การเลือก

มาตรา ๓๓ การเลือกสมาชิกวุฒิสภาให้ใช้วิธีลงคะแนนลับตามวิธีการที' กําหนดในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้

มาตรา ๓๔ ในกรณีมีเหตุจําเปป็นเฉพาะพืนี้นที'ทําให้ไม่สามารถดําเนินการ เลือกได้ภายในระยะเวลาหรือในวันที'กําหนดเพราะเหตุจลาจล อุทกภัย อัคคีภัย เหตุสุดวิสัย หรือเหตุจําเปป็นอื'นใด คณะกรรมการอาจกําหนดวันเลือกใหม่ของการเลือกระดับอําเภอ การเลือกระดับจังหวัด หรือการเลือกระดับประเทศตามความจําเปป็นก็ได้

มาตรา ๓๕ กรณีที'มีเหตุจําเปป็นอันมิอาจหลีกเลี'ยงได้ เปป็นเหตุให้ไม่ สามารถจัดการเลือกระดับอําเภอ ระดับจังหวัดหรือระดับประเทศพร้อมกันทั'วราช อาณาจักรตามวันที'คณะกรรมการประกาศกําหนดตามมาตรา ๑๒ (๑) อันมิใช่เปป็นกรณี

ตามมาตรา ๓๔ และคณะกรรมการมีมติด้วยคะแนนไม่น้อยกว่าสองในสามของกรรมการ ทันี้งหมดเท่าที'มีอยู่ว่าการดําเนินการเลือกต่อไปตามกําหนดวันเดิมจะก่อให้เกิดความไม่เปป็น ธรรมหรือเรียบร้อย คณะกรรมการจะประกาศกําหนดวันเลือกใหม่ก็ได้ ในกรณีที'มีเหตุตามวรรคหนึ'งเกิดขึนี้นในระหว่างเวลาเปัดการลงคะแนน คณะกรรมการจะสั'งยกเลิกการเลือก และประกาศกําหนดวันเลือกใหม่ก็ได้

มาตรา ๓๖ ผู้สมัครอาจแนะนําตัวได้ตามวิธีการและเงื'อนไขที'คณะ กรรมการกําหนด

บุคคลอื'นซึ'งมิใช่ผู้สมัคร จะช่วยเหลือผู้สมัครในการแนะนําตัว ต้องปฏิบัติ ตามวิธีการและเงื'อนไขตามวรรคหนึ'ง

มาตรา ๓๗ ในระหว่างการดําเนินการเลือกตามมาตรา ๔๐ มาตรา ๔๑ หรือมาตรา ๔๒ ห้ามมิให้ผู้ใดซึ'งมิใช่ผู้สมัครเข้าไปในสถานที'เลือก เว้นแต่จะเปป็นผู้ซึ'งมีหน้าที' เกี'ยวกับการเลือก หรือผู้ซึ'งได้รับอนุญาตจากกรรมการ ผู้อํานวยการการเลือกระดับ ประเทศ ผู้อํานวยการการเลือกระดับจังหวัด หรือผู้อํานวยการการเลือกระดับอําเภอ แล้ว แต่กรณี

เมื'อประกาศผลการนับคะแนนแล้ว ผู้สมัครหรือผู้ได้รับเลือกขันี้นต้นซึ'งไม่มี สิทธิที'จะเลือกหรือได้รับเลือก ต้องออกจากสถานที'เลือก

มาตรา ๓๘ ในระหว่างการดําเนินการเลือกตามมาตรา ๔๐ มาตรา ๔๑ หรือมาตรา ๔๒ ห้ามมิให้ผู้สมัครผู้ใดนําเข้าไปหรือใช้เครื'องมือหรืออุปกรณ์ใด ๆ ที'อาจใช้ เพื'อติดต่อสื'อสารหรือเพื'อบันทึกภาพหรือเสียง หรืออุปกรณ์อื'นใดตามที'คณะกรรมการ กําหนดในสถานที'เลือก รวมทันี้งบริเวณโดยรอบสถานที'เลือกตามที'ผู้อํานวยการการเลือก ระดับประเทศ ผู้อํานวยการการเลือกระดับจังหวัด หรือผู้อํานวยการการเลือกระดับอําเภอ แล้วแต่กรณี กําหนด

ความในวรรคหนึ'งไม่ใช้บังคับแก่ผู้สมัครซึ'งเปป็นคนพิการหรือทุพพลภาพ และมีความจําเปป็นต้องใช้เครื'องมือหรืออุปกรณ์ตามวรรคหนึ'งเพื'อประโยชน์ในการรับรู้ ข้อมูลเกี'ยวกับการเลือกหรือการลงคะแนนโดยได้รับอนุญาตจากกรรมการ ผู้อํานวยการ การเลือกระดับประเทศ ผู้อํานวยการการเลือกระดับจังหวัด หรือผู้อํานวยการการเลือก ระดับอําเภอ แล้วแต่กรณี ทันี้งนีนี้ โดยให้คํานึงถึงการอํานวยความสะดวกตามมาตรา ๕๗ ด้วย

มาตรา ๓๙ ห้ามมิให้ผู้ใดกระทําการใดอันเปป็นการขัดขวางหรือหน่วง เหนี'ยวมิให้ผู้มีสิทธิเลือกเข้าไป ณ สถานที'เลือก หรือมิให้ไปถึง ณ สถานที'เลือกภายใน กําหนดเวลาที'จะเลือก

มาตรา ๔๐ การเลือกระดับอําเภอ ให้ดําเนินการ ดังต่อไปนีนี้

ผู้สมัครต้องมาถึงสถานที'เลือกและแสดงตนภายในเวลาที'คณะ กรรมการกําหนด ผู้ใดไม่มาหรือมาไม่ทันกําหนดให้หมดสิทธิที'จะเลือกและได้รับเลือก

เมื'อผู้สมัครมาครบหรือพ้นเวลาตาม (๑) แล้ว ให้ผู้อํานวยการการ เลือกระดับอําเภอจัดให้ผู้สมัครแต่ละกลุ่มรวมอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ณ สถานที'ที'ผู้อํานวยการ การเลือกระดับอําเภอกําหนด

ให้ผู้สมัครแต่ละกลุ่มลงคะแนนเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกันได้ไม่เกิน สองคน โดยจะลงคะแนนเลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกินหนึ'งคะแนนมิได้

เมื'อการลงคะแนนของกลุ่มใดแล้วเสร็จ ให้ผู้อํานวยการการเลือกระดับ อําเภอดําเนินการให้มีการนับคะแนนของกลุ่มนันี้นโดยเปัดเผย

ให้ผู้ซึ'งได้คะแนนสูงสุดเรียงตามลําดับห้าคนแรกเปป็นผู้ได้รับเลือกขันี้น ต้นของแต่ละกลุ่ม ในกรณีที'ในลําดับใดมีผู้ได้คะแนนเท่ากันจนเปป็นเหตุให้มีผู้ได้คะแนน สูงสุดเกินห้าคนให้ผู้ซึ'งได้คะแนนเท่ากันดังกล่าวจับสลากกันเองว่าผู้ใดจะได้รับเลือกในกลุ่ม นันี้น ในกรณีที'มีผู้ได้คะแนนไม่ถึงห้าคน ให้เฉพาะผู้ซึ'งได้คะแนนเปป็นผู้ได้รับเลือก

ในกรณีที'ผู้ซึ'งได้รับเลือกตาม (๕) ผู้ใดไม่อยู่ในสถานที'เลือกในระหว่าง ดําเนินการเลือกขันี้นต่อไป ให้ผู้นันี้นหมดสิทธิที'จะเลือกและได้รับเลือก และให้ถือว่าผู้ซึ'งได้รับ เลือกตาม (๕) มีเพียงเท่าที'มีอยู่

ในกรณีที'กลุ่มใดมีผู้สมัครไม่เกินห้าคน หรือมีผู้มารายงานตัวตาม (๑) ไม่เกินห้าคน ให้ผู้สมัครกลุ่มนันี้นไม่ต้องดําเนินการเลือกกันเอง โดยให้ถือว่าผู้สมัครทุกคนซึ'ง มารายงานตัวในกลุ่มนันี้นเปป็นผู้ได้รับเลือกขันี้นต้นสําหรับกลุ่มนันี้น

กลุ่มใดไม่มีผู้สมัคร ให้งดการดําเนินการให้มีการเลือกสําหรับกลุ่มนันี้น และไม่มีผลกระทบต่อการเลือกของกลุ่มอื'น

เมื'อได้ผู้ได้รับเลือกขันี้นต้นของแต่ละกลุ่มแล้ว ให้ผู้ได้รับเลือกขันี้นต้น ของแต่ละกลุ่มตกลงกันว่าจะให้ผู้ใดเปป็นผู้จับสลากตาม (๑๐) ถ้าตกลงกันไม่ได้ให้ใช้วิธีจับ สลาก

๑๐

ให้จัดให้มีการแบ่งสายออกเปป็นสายไม่เกินสี'สาย แต่ละสายประกอบ ด้วยจํานวนกลุ่มเท่ากัน เว้นแต่จะแบ่งให้เท่ากันไม่ได้ ให้แบ่งให้แต่ละสายมีจํานวนกลุ่มใกล้ เคียงกันมากที'สุด และในแต่ละสายต้องมีกลุ่มไม่เกินห้ากลุ่มแต่ต้องไม่น้อยกว่าสามกลุ่ม และให้บุคคลตาม (๙) ของแต่ละกลุ่มจับสลากว่ากลุ่มของตนจะอยู่ในสายใด

๑๑

ให้ผู้ได้รับเลือกขันี้นต้นของแต่ละกลุ่มเลือกผู้ได้รับเลือกขันี้นต้นในกลุ่ม อื'นที'อยู่ในสายเดียวกัน โดยแต่ละคนมีสิทธิเลือกผู้ได้รับเลือกขันี้นต้นในกลุ่มอื'นแต่ละกลุ่มใน สายเดียวกันได้กลุ่มละหนึ'งคน ในชันี้นนีนี้ ผู้ได้รับเลือกขันี้นต้นในกลุ่มเดียวกันจะเลือกกันเอง หรือเลือกตนเองมิได้

๑๒

เมื'อดําเนินการเลือกตาม (๑๑) แล้ว ให้ผู้อํานวยการการเลือกระดับ อําเภอดําเนินการให้มีการนับคะแนนโดยเปัดเผย ให้ผู้ได้รับคะแนนสูงสุดสามลําดับแรกของ แต่ละกลุ่มเปป็นผู้ได้รับเลือกระดับอําเภอสําหรับกลุ่มนันี้น เพื'อไปดําเนินการเลือกในระดับ จังหวัดต่อไป ในกรณีที'ในลําดับใดมีผู้ได้คะแนนเท่ากันจนเปป็นเหตุให้มีผู้ได้คะแนนสูงสุดเกิน สามคน ให้ผู้ซึ'งได้คะแนนเท่ากันดังกล่าวจับสลากกันเองว่าผู้ใดจะได้รับเลือกในกลุ่มนันี้น และในกรณีที'มีผู้ได้คะแนนไม่ถึงสามคนให้เฉพาะผู้ซึ'งได้คะแนนเปป็นผู้ได้รับเลือก

๑๓

ให้ผู้อํานวยการการเลือกระดับอําเภอส่งบัญชีรายชื'อผู้ได้รับเลือก ตาม (๑๒) ให้ผู้อํานวยการการเลือกระดับจังหวัดพร้อมด้วยเอกสารหรือข้อมูลตามมาตรา ๒๘ (๕) ภายในวันถัดจากวันเลือกระดับอําเภอเพื'อดําเนินการต่อไป การดําเนินการตามวรรคหนึ'ง ให้เปป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที'คณะ กรรมการกําหนด ทันี้งนีนี้ ในเขตอําเภอใดมีผู้สมัครไม่เกินห้ากลุ่ม เมื'อได้ดําเนินการเลือกตาม (๓) แล้ว ไม่ต้องจัดให้มีการแบ่งสายตาม (๑๐) และให้แต่ละกลุ่มเลือกผู้สมัครในกลุ่มอื'น แต่ละกลุ่มได้คนละหนึ'งคน โดยผู้สมัครในกลุ่มเดียวกันจะเลือกกันเองหรือเลือกตนเองมิได้

มาตรา ๔๑ การเลือกระดับจังหวัด ให้ดําเนินการ ดังต่อไปนีนี้

ผู้ได้รับเลือกระดับอําเภอต้องมาถึงสถานที'เลือกและแสดงตนภายใน เวลาที'คณะกรรมการกําหนด ผู้ใดไม่มาหรือมาไม่ทันกําหนดให้หมดสิทธิที'จะเลือกและได้ รับเลือก

เมื'อผู้ได้รับเลือกระดับอําเภอมาครบหรือพ้นเวลาตาม (๑) แล้ว ให้ผู้ อํานวยการการเลือกระดับจังหวัดจัดให้ผู้ได้รับเลือกระดับอําเภอแต่ละกลุ่มรวมอยู่ในกลุ่ม เดียวกัน ณ สถานที'ที'ผู้อํานวยการการเลือกระดับจังหวัดกําหนด

ให้ผู้ได้รับเลือกระดับอําเภอแต่ละกลุ่มลงคะแนนเลือกบุคคลในกลุ่ม เดียวกันได้ไม่เกินสองคน โดยจะลงคะแนนเลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกิน หนึ'งคะแนนมิได้

เมื'อการลงคะแนนของกลุ่มใดแล้วเสร็จ ให้ผู้อํานวยการการเลือกระดับ จังหวัดดําเนินการให้มีการนับคะแนนของกลุ่มนันี้นโดยเปัดเผย

ให้ผู้ซึ'งได้คะแนนสูงสุดเรียงตามลําดับห้าคนแรกเปป็นผู้ได้รับเลือกขันี้น ต้นของแต่ละกลุ่ม ในกรณีที'ในลําดับใดมีผู้ได้คะแนนเท่ากันจนเปป็นเหตุให้มีผู้ได้คะแนน สูงสุดเกินห้าคนให้ผู้ซึ'งได้คะแนนเท่ากันดังกล่าวจับสลากกันเองว่าผู้ใดจะได้รับเลือกในกลุ่ม นันี้น ในกรณีที'มีผู้ได้คะแนนไม่ถึงห้าคน ให้เฉพาะผู้ซึ'งได้คะแนนเปป็นผู้ได้รับเลือก

ในกรณีที'ผู้ซึ'งได้รับเลือกตาม (๕) ผู้ใดไม่อยู่ในสถานที'เลือกในระหว่าง ดําเนินการเลือกขันี้นต่อไป ให้ผู้นันี้นหมดสิทธิที'จะเลือกและได้รับเลือก และให้ถือว่าผู้ซึ'งได้รับ เลือกตาม (๕) มีเพียงเท่าที'มีอยู่

ในกรณีที'กลุ่มใดมีผู้ได้รับเลือกระดับอําเภอรวมกันแล้วไม่เกินห้าคน หรือมีผู้มารายงานตัวตาม (๑) ไม่เกินห้าคน ให้ผู้ได้รับเลือกระดับอําเภอกลุ่มนันี้นไม่ต้อง ดําเนินการเลือกกันเอง โดยให้ถือว่าผู้ได้รับเลือกระดับอําเภอทุกคนซึ'งมารายงานตัวในกลุ่ม นันี้นเปป็นผู้ได้รับเลือกขันี้นต้นสําหรับกลุ่มนันี้น

กลุ่มใดไม่มีผู้ได้รับเลือกระดับอําเภอ ให้งดการดําเนินการเลือกสําหรับ กลุ่มนันี้น และไม่มีผลกระทบต่อการเลือกของกลุ่มอื'น

เมื'อได้ผู้ได้รับเลือกขันี้นต้นของแต่ละกลุ่มแล้ว ให้ผู้ได้รับเลือกขันี้นต้น ของแต่ละกลุ่มตกลงกันว่าจะให้ผู้ใดเปป็นผู้จับสลากตาม (๑๐) ถ้าตกลงกันไม่ได้ให้ใช้วิธีจับ สลาก

๑๐

ให้จัดให้มีการแบ่งสายออกเปป็นสายไม่เกินสี'สาย แต่ละสายประกอบ ด้วยจํานวนกลุ่มเท่ากัน เว้นแต่จะแบ่งให้เท่ากันไม่ได้ ให้แบ่งให้แต่ละสายมีจํานวนกลุ่มใกล้ เคียงกันมากที'สุด และในแต่ละสายต้องมีกลุ่มไม่เกินห้ากลุ่มแต่ต้องไม่น้อยกว่าสามกลุ่ม และให้บุคคลตาม (๙) ของแต่ละกลุ่มจับสลากว่ากลุ่มของตนจะอยู่ในสายใด

๑๑

ให้ผู้ได้รับเลือกขันี้นต้นของแต่ละกลุ่มเลือกผู้สมัครในกลุ่มอื'นที'อยู่ใน สายเดียวกัน โดยแต่ละคนมีสิทธิเลือกผู้สมัครในกลุ่มอื'นแต่ละกลุ่มในสายเดียวกันได้กลุ่มละ หนึ'งคน ในชันี้นนีนี้ ผู้ได้รับเลือกขันี้นต้นในกลุ่มเดียวกันจะเลือกกันเองหรือเลือกตนเองมิได้

๑๒

เมื'อดําเนินการเลือกตาม (๑๑) แล้ว ให้ผู้อํานวยการการเลือกระดับ จังหวัดดําเนินการให้มีการนับคะแนนโดยเปัดเผย ให้ผู้ได้รับคะแนนสูงสุดสองลําดับแรก ของแต่ละกลุ่มเปป็นผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดสําหรับกลุ่มนันี้น เพื'อไปดําเนินการเลือกในระดับ ประเทศต่อไป ในกรณีที'ในลําดับใดมีผู้ได้คะแนนเท่ากันจนเปป็นเหตุให้มีผู้ได้คะแนนสูงสุด เกินสองคน ให้ผู้ซึ'งได้คะแนนเท่ากันดังกล่าวจับสลากกันเองว่าผู้ใดจะได้รับเลือกในกลุ่มนันี้น และในกรณีที'มีผู้ได้คะแนนไม่ถึงสองคน ให้เฉพาะผู้ซึ'งได้คะแนนเปป็นผู้ได้รับเลือก

๑๓

ให้ผู้อํานวยการการเลือกระดับจังหวัดส่งบัญชีรายชื'อผู้ได้รับเลือก ตาม (๑๒) ให้ผู้อํานวยการการเลือกระดับประเทศพร้อมด้วยเอกสารหรือข้อมูลตามมาตรา ๒๙ (๓) ภายในวันถัดจากวันเลือกระดับจังหวัดเพื'อดําเนินการต่อไป การดําเนินการตามวรรคหนึ'ง ให้เปป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที'คณะ กรรมการกําหนด ทันี้งนีนี้ ในจังหวัดใดมีผู้ได้รับเลือกระดับอําเภอจากทุกอําเภอมาระดับ จังหวัดไม่เกินห้ากลุ่ม เมื'อได้ดําเนินการเลือกตาม (๓) แล้ว ไม่ต้องจัดให้มีการแบ่งสายตาม (๑๐) และให้แต่ละกลุ่มเลือกผู้สมัครในกลุ่มอื'นแต่ละกลุ่มได้คนละหนึ'งคน โดยผู้สมัครใน กลุ่มเดียวกันจะเลือกกันเองหรือเลือกตนเองมิได้

มาตรา ๔๒ การเลือกระดับประเทศ ให้ดําเนินการ ดังต่อไปนีนี้

ผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดต้องมาถึงสถานที'เลือกและแสดงตนภายใน เวลาที'คณะกรรมการกําหนด ผู้ใดไม่มาหรือมาไม่ทันกําหนดให้หมดสิทธิที'จะเลือกและได้ รับเลือก

เมื'อผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดมาครบหรือพ้นเวลาตาม (๑) แล้ว ให้ผู้ อํานวยการการเลือกระดับประเทศจัดให้ผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดแต่ละกลุ่มรวมอยู่ในกลุ่ม เดียวกัน ณ สถานที'ที'ผู้อํานวยการการเลือกระดับประเทศกําหนด

ให้ผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดแต่ละกลุ่มลงคะแนนเลือกบุคคลในกลุ่ม เดียวกันได้ไม่เกินสิบคน โดยจะลงคะแนนเลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกิน หนึ'งคะแนนมิได้

เมื'อการลงคะแนนของกลุ่มใดแล้วเสร็จ ให้ผู้อํานวยการการเลือกระดับ ประเทศดําเนินการนับคะแนนของกลุ่มนันี้นโดยเปัดเผย

ให้ผู้ซึ'งได้คะแนนสูงสุดเรียงตามลําดับสี'สิบคนแรกเปป็นผู้ได้รับเลือกขันี้น ต้นของแต่ละกลุ่ม ในกรณีที'ในลําดับใดมีผู้ได้คะแนนเท่ากันจนเปป็นเหตุให้มีผู้ได้คะแนน สูงสุดเกินสี'สิบคน ให้ผู้ซึ'งได้คะแนนเท่ากันดังกล่าวจับสลากกันเองว่าผู้ใดจะได้รับเลือกใน กลุ่มนันี้น ในกรณีที'มีผู้ได้คะแนนไม่ถึงสี'สิบคน แต่มีจํานวนตันี้งแต่ยี'สิบคนขึนี้นไป ให้ผู้ได้รับ เลือกขันี้นต้นของกลุ่มนันี้นมีเท่าที'มีอยู่ แต่ถ้ามีผู้ได้คะแนนไม่ถึงยี'สิบคน ให้ผู้อํานวยการการ เลือกระดับประเทศจัดให้ผู้ซึ'งไม่ได้รับเลือกซึ'งยังอยู่ ณ สถานที'เลือก ลงคะแนนเลือกกันเอง ใหม่เพื'อให้ได้จํานวนยี'สิบคน

ในกรณีที'ผู้ซึ'งได้รับเลือกตาม (๕) ผู้ใดไม่อยู่ในสถานที'เลือกในระหว่าง การดําเนินการเลือกขันี้นต่อไป ให้ผู้นันี้นหมดสิทธิที'จะเลือกและได้รับเลือก และให้ถือว่าผู้ซึ'งได้ รับเลือกมีเพียงเท่าที'มีอยู่

เมื'อได้ผู้ได้รับเลือกขันี้นต้นของแต่ละกลุ่มแล้ว ให้ผู้ได้รับเลือกขันี้นต้น ของแต่ละกลุ่มตกลงกันว่าจะให้ผู้ใดเปป็นผู้จับสลากตาม (๘) ถ้าตกลงกันไม่ได้ให้ใช้วิธีจับ สลาก

ให้จัดให้มีการแบ่งสายออกเปป็นสายไม่เกินสี'สาย แต่ละสายประกอบ ด้วยจํานวนกลุ่มเท่ากัน เว้นแต่จะแบ่งให้เท่ากันไม่ได้ ให้แบ่งให้แต่ละสายมีจํานวนกลุ่มใกล้ เคียงกันมากที'สุด และในแต่ละสายต้องมีกลุ่มไม่เกินห้ากลุ่มแต่ต้องไม่น้อยกว่าสามกลุ่ม และให้บุคคลตาม (๗) ของแต่ละกลุ่มจับสลากว่ากลุ่มของตนจะอยู่ในสายใด

ให้ผู้ได้รับเลือกขันี้นต้นของแต่ละกลุ่มเลือกผู้สมัครในกลุ่มอื'นที'อยู่ใน สายเดียวกัน โดยแต่ละคนมีสิทธิเลือกผู้สมัครในกลุ่มอื'นแต่ละกลุ่มในสายเดียวกันได้กลุ่มละ ไม่เกินห้าคน ผู้ได้รับเลือกขันี้นต้นในกลุ่มเดียวกันจะเลือกกันเองหรือเลือกตนเองมิได้

๑๐

เมื'อดําเนินการเลือกตาม (๙) แล้ว ให้ผู้อํานวยการการเลือกระดับ ประเทศดําเนินการนับคะแนนโดยเปัดเผย แล้วแจ้งผลการนับคะแนนให้คณะกรรมการ ทราบ เมื'อคณะกรรมการได้รับรายงานตาม (๑๐) แล้ว ให้รอไว้ไม่น้อยกว่าห้าวัน เมื'อพ้นกําหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ถ้าคณะกรรมการเห็นว่าการเลือกเปป็นไปโดยถูกต้อง สุจริต และเที'ยงธรรม ให้ประกาศผลการเลือกตาม (๑๐) ในราชกิจจานุเบกษา โดยให้ผู้ได้ รับคะแนนสูงสุดในแต่ละกลุ่มตันี้งแต่ลําดับที'หนึ'งถึงลําดับที'สิบเปป็นผู้ได้รับเลือกเปป็นสมาชิก วุฒิสภาจากกลุ่มนันี้น และผู้ได้รับคะแนนลําดับที'สิบเอ็ดถึงลําดับที'สิบห้าของแต่ละกลุ่มอยู่ใน บัญชีสํารองของกลุ่มนันี้น และแจ้งให้สํานักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบ ในการจัดเรียงลําดับตามวรรคสองสําหรับผู้ที'อยู่ในลําดับที'มีคะแนนเท่า กัน ให้จัดให้มีการจับสลากเพื'อเรียงลําดับต่อไป การดําเนินการตามวรรคหนึ'ง ให้เปป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที'คณะ กรรมการกําหนด

มาตรา ๔๓ ในกรณีที'คณะกรรมการกําหนดให้มีการนับคะแนนด้วย เครื'องกลหรือเครื'องอิเล็กทรอนิกส์ ถ้าได้ดําเนินการนันี้นโดยเปัดเผย ให้ถือว่าเปป็นการนับ คะแนนโดยเปัดเผยแล้ว

มาตรา ๔๔ ในกรณีที'ผู้สมัครในระดับอําเภอ หรือผู้มีสิทธิเลือกในระดับ จังหวัด หรือระดับประเทศเห็นว่าการดําเนินการเกี'ยวกับการเลือกของคณะกรรมการ ผู้ อํานวยการการเลือก หรือพนักงานเจ้าหน้าที'เปป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ผู้นันี้นมีสิทธิ ยื'นคําร้องคัดค้านต่อศาลฎีกาภายในสามวันนับแต่วันที'มีการออกคําสั'ง และให้นําความใน มาตรา ๒๒ วรรคสอง มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม

มาตรา ๔๕ ในกรณีที'ตําแหน่งสมาชิกวุฒิสภากลุ่มใดมีไม่ครบจํานวน ไม่ ว่าเพราะเหตุตําแหน่งว่างลง หรือด้วยเหตุอื'นใดอันมิใช่เพราะเหตุถึงคราวออกตามอายุของ วุฒิสภา ให้ประธานวุฒิสภาประกาศในราชกิจจานุเบกษาเลื'อนบุคคลในบัญชีสํารองของ กลุ่มนันี้นขึนี้นดํารงตําแหน่งสมาชิกวุฒิสภาแทนตามลําดับ และให้ผู้นันี้นอยู่ในตําแหน่งได้เพียง เท่าอายุของวุฒิสภาที'เหลืออยู่ ในระหว่างที'บุคคลดังกล่าวยังมิได้เข้ารับตําแหน่ง ให้วุฒิสภา

ประกอบด้วยสมาชิกวุฒิสภาเท่าที'มีอยู่ หากมีกรณีที'ต้องเลื'อนบุคคลในบัญชีสํารองของกลุ่มใดขึนี้นดํารงตําแหน่ง สมาชิกวุฒิสภาแทนตามวรรคหนึ'ง แต่ไม่มีบุคคลในบัญชีสํารองของกลุ่มนันี้นเหลืออยู่ไม่ว่า ด้วยเหตุใด ให้ประธานวุฒิสภาจับสลากว่าจะเลื'อนบุคคลในบัญชีสํารองในกลุ่มอื'นใดที'ยังมี ผู้อยู่ในบัญชีสํารองเหลืออยู่ แล้วดําเนินการเลื'อนบุคคลนันี้นขึนี้นดํารงตําแหน่งสมาชิกวุฒิสภา ตามวรรคหนึ'ง การจับสลากดังกล่าวให้มีผลเฉพาะการเลื'อนครันี้งนันี้น ในกรณีที'ทุกกลุ่มไม่มีรายชื'อบุคคลในบัญชีสํารองเหลืออยู่สําหรับการ เลื'อนบุคคลขึนี้นดํารงตําแหน่งสมาชิกวุฒิสภาตามวรรคสอง ให้วุฒิสภาประกอบด้วยสมาชิก วุฒิสภาเท่าที'มีอยู่ แต่ในกรณีที'มีสมาชิกวุฒิสภาเหลืออยู่ไม่ถึงกึ'งหนึ'งของจํานวนสมาชิก วุฒิสภาทันี้งหมดและอายุของวุฒิสภาเหลืออยู่เกินหนึ'งปั ให้ดําเนินการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ขึนี้นแทนตําแหน่งที'ว่างภายในหกสิบวันนับแต่วันที'วุฒิสภามีสมาชิกเหลืออยู่ไม่ถึงกึ'งหนึ'ง ใน กรณีเช่นว่านีนี้ ให้ผู้ได้รับเลือกดังกล่าวอยู่ในตําแหน่งได้เพียงเท่าอายุของวุฒิสภาที'เหลืออยู่

มาตรา ๔๖ ให้คณะกรรมการสั'งลบรายชื'อของบุคคลออกจากบัญชีสํารอง

เมื'อ

ตาย (๒) ลาออก

ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๑๓ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๔

มีหลักฐานอันควรเชื'อได้ว่าบุคคลในบัญชีสํารองกลุ่มใดกระทําการใด หรือรู้เห็นเปป็นใจด้วยกับการกระทําใดของบุคคลอื'น อันทําให้การเลือกมิได้เปป็นไปโดยสุจริต หรือเที'ยงธรรม

ศาลฎีกามีคําพิพากษาตามมาตรา ๖๒ วรรคสาม คําสั'งตามวรรคหนึ'ง ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และให้ถือว่าบัญชี สํารองมีเพียงเท่าที'มีอยู่

มาตรา ๔๗ ในกรณีตามมาตรา ๔๖ (๔) และในกรณีที'มีหลักฐานอันควร เชื'อได้ว่าบุคคลในบัญชีสํารองผู้ใดลาออกโดยเจตนาเพื'อให้บุคคลในลําดับถัดลงไปได้รับ เลื'อนขึนี้นเปป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือมีหลักฐานอันควรเชื'อได้ว่าบุคคลในลําดับถัดไปหรือบุคคล อื'นใดได้ให้ หรือสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื'นใดแก่สมาชิกวุฒิสภาหรือบุคคล ในบัญชีสํารองเพื'อลาออก ให้คณะกรรมการยื'นคําร้องต่อศาลฎีกาเพื'อสั'งให้เพิกถอนสิทธิ สมัครรับเลือกตันี้งของผู้นันี้น

มาตรา ๔๘ หีบบัตรและบัตรลงคะแนน ให้มีลักษณะตามที'คณะกรรมการ กําหนด ในการกําหนดเกี'ยวกับหีบบัตรต้องกําหนดให้สามารถใช้หีบบัตรเดิมได้ด้วย

มาตรา ๔๙ วิธีการลงคะแนน ให้เปป็นไปตามที'คณะกรรมการกําหนด มาตรา ๕๐ ห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกผู้ใดใช้บัตรอื'นอันมิใช่บัตรลงคะแนน

ตามมาตรา ๔๘ ลงคะแนนเลือก

มาตรา ๕๑ ห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกผู้ใดนําบัตรลงคะแนนออกไปจากสถาน

ที'เลือก

มาตรา ๕๒ ห้ามมิให้ผู้ใดจงใจทําเครื'องหมายเพื'อเปป็นที'สังเกตโดยวิธีใดไว้

ที'บัตรลงคะแนน

มาตรา ๕๓ ห้ามมิให้ผู้ใดนําบัตรลงคะแนนใส่ลงในหีบบัตรลงคะแนนโดย ไม่มีอํานาจโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือกระทําการใดในบัญชีรายชื'อผู้มีสิทธิเลือกเพื'อแสดง ว่ามีผู้มาแสดงตน เพื'อเลือกโดยผิดไปจากความจริง หรือกระทําการใดอันเปป็นเหตุให้มีบัตร ลงคะแนนเพิ'มขึนี้นจากความจริง

มาตรา ๕๔ ห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกผู้ใดใช้เครื'องมือหรืออุปกรณ์ใดถ่าย ภาพบัตรลงคะแนนที'ตนได้ลงคะแนนแล้ว

มาตรา ๕๕ ห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกนําบัตรลงคะแนนที'เลือกแล้วแสดงต่อผู้ อื'นเพื'อให้ผู้อื'นทราบว่าตนเลือกหรือไม่เลือกผู้ใด

มาตรา ๕๖ บัตรลงคะแนนดังต่อไปนีนี้ ให้ถือเปป็นบัตรเสียและมิให้นับเปป็น

คะแนน

บัตรปลอม

บัตรที'มีการทําเครื'องหมายเพื'อเปป็นที'สังเกตหรือเขียนข้อความใด ๆ ลง ในบัตรลงคะแนน นอกจากเครื'องหมายในการลงคะแนน เว้นแต่เปป็นการกระทําโดยชอบ ด้วยกฎหมายของผู้ดําเนินการเกี'ยวกับการเลือก

บัตรที'มิได้ทําเครื'องหมายลงคะแนน

บัตรที'ไม่อาจทราบได้ว่าลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครใด (๕) บัตรที'ลงคะแนนให้ผู้ที'ไม่มีสิทธิได้รับเลือก

บัตรที'ลงคะแนนให้บุคคลเกินจํานวนที'กําหนด (๗) บัตรที'ลงคะแนนให้บุคคลใดเกินหนึ'งคะแนน

บัตรที'มีลักษณะตามที'คณะกรรมการกําหนดว่าเปป็นบัตรเสีย

มาตรา ๕๗ เพื'ออํานวยความสะดวกในการเลือกให้แก่ผู้สมัครหรือผู้มี สิทธิเลือกซึ'งเปป็นคนพิการหรือทุพพลภาพ ผู้สูงอายุ หรือผู้ประสบปีญหาในการใช้สิทธิเลือก ให้ผู้อํานวยการการเลือกจัดให้มีการอํานวยความสะดวกในการเลือกของคนพิการหรือ ทุพพลภาพ ผู้สูงอายุ หรือผู้ประสบปีญหาในการใช้สิทธิเลือกไว้ด้วย โดยอาจให้บุคคลอื'น หรือผู้ที'ผู้อํานวยการการเลือกมอบหมายเปป็นผู้กระทําการแทนโดยความยินยอมและเปป็นไป ตามเจตนารมณ์ของคนพิการหรือทุพพลภาพ ผู้สูงอายุ หรือผู้ประสบปีญหาในการใช้สิทธิ

เลือกนันี้น

หมวด ๔ การควบคุมการเลือกให้เปป็นไปโดยสุจริตและเที'ยงธรรม

มาตรา ๕๘ ห้ามมิให้เจ้าหน้าที'ของรัฐใช้ตําแหน่งหน้าที'โดยมิชอบด้วย

กฎหมายกระทําการใด ๆ เพื'อเปป็นคุณหรือเปป็นโทษแก่ผู้สมัคร การใช้ตําแหน่งหน้าที'โดยมิชอบด้วยกฎหมายตามวรรคหนึ'ง มิให้ หมายความรวมถึงการปฏิบัติหน้าที'ตามปกติที'พึงต้องปฏิบัติในตําแหน่งของเจ้าหน้าที'ของ รัฐนันี้น หรือการแนะนําหรือช่วยเหลือในการดําเนินการที'เกี'ยวข้องกับการเลือกของผู้สมัคร โดยมิได้เกี'ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที' แม้ว่าการกระทําจะเปป็นคุณหรือเปป็นโทษแก่ผู้สมัครใด ในกรณีมีหลักฐานอันควรเชื'อได้ว่ามีการฝ찌าฝ더นบทบัญญัติตามวรรคหนึ'ง ให้คณะกรรมการหรือกรรมการที'พบเห็น มีอํานาจสั'งให้เจ้าหน้าที'ของรัฐยุติหรือระงับการก ระทําใดที'เห็นว่าอาจเปป็นคุณหรือเปป็นโทษแก่ผู้สมัครใด ในกรณีตามวรรคสาม ให้คณะกรรมการแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีหน้า ที'และอํานาจกํากับดูแลเจ้าหน้าที'ของรัฐผู้นันี้น สั'งให้เจ้าหน้าที'ของรัฐที'มีพฤติการณ์อันอาจ เปป็นคุณ หรือเปป็นโทษแก่ผู้สมัครใด พ้นจากหน้าที'เปป็นการชั'วคราว หรือสั'งให้ประจํา กระทรวง ทบวง กรม ศาลากลางจังหวัด หรือที'ว่าการอําเภอในเขตหรือนอกเขตจังหวัดหรือ อําเภอ หรือห้ามเข้าเขตจังหวัดหรืออําเภอใดก็ได้

มาตรา ๕๙ ก่อนประกาศผลการเลือก หากมีเหตุอันควรสงสัยว่าการเลือก มิได้เปป็นไปโดยสุจริตหรือเที'ยงธรรม ให้คณะกรรมการมีอํานาจสั'งระงับ ยับยันี้ง แก้ไข เปลี'ยนแปลง หรือยกเลิกการเลือก และสั'งให้ดําเนินการเลือกใหม่ หรือนับคะแนนใหม่

การใช้อํานาจตามวรรคหนึ'งให้กรรมการแต่ละคนซึ'งพบเห็นการกระ ทําความผิดในเขตอําเภอหรือจังหวัดใด ให้มีอํานาจกระทําได้สําหรับการเลือกในเขตอําเภอ หรือจังหวัดนันี้น ทันี้งนีนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื'อนไขที'คณะกรรมการกําหนด ผู้ตรวจการเลือกตันี้งและผู้อํานวยการการเลือกผู้ใดพบเห็นการกระทําตาม วรรคหนึ'งมีหน้าที'รายงานให้คณะกรรมการหรือกรรมการทราบโดยพลัน

มาตรา ๖๐ ก่อนประกาศผลการเลือก ถ้ามีหลักฐานอันควรเชื'อได้ว่าผู้ สมัครผู้ใดกระทําการใดหรือรู้เห็นกับการกระทําใดของบุคคลอื'น อันทําให้การเลือกมิได้เปป็น ไปโดยสุจริตหรือเที'ยงธรรม ให้คณะกรรมการสั'งระงับสิทธิสมัครรับเลือกตันี้งของผู้นันี้นไว้ เปป็นการชั'วคราวเปป็นระยะเวลาไม่เกินหนึ'งปั คําสั'งของคณะกรรมการให้เปป็นที'สุด

เมื'อคณะกรรมการมีคําสั'งตามวรรคหนึ'ง ให้ยื'นคําร้องต่อศาลฎีกาเพื'อสั'ง ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตันี้งของผู้นันี้น

มาตรา ๖๑ ในกรณีที'มีหลักฐานอันควรเชื'อได้ว่าผู้ใดให้ เสนอให้ สัญญา ว่าจะให้หรือจัดเตรียมเพื'อจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื'นใดเพื'อจูงใจให้ผู้สมัครหรือผู้ มีสิทธิเลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด ให้คณะกรรมการมีอํานาจสั'งยึดหรือ อายัดเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื'นใดดังกล่าวไว้เปป็นการชั'วคราวจนกว่าศาลจะมีคํา พิพากษาหรือมีคําสั'ง

มาตรา ๖๒ เมื'อคณะกรรมการประกาศผลการเลือกตามมาตรา ๔๒ วรรค สอง แล้ว ถ้ามีหลักฐานอันควรเชื'อได้ว่าผู้สมัครหรือผู้ใดกระทําการอันเปป็นการทุจริตในการ เลือกหรือรู้เห็นกับการกระทําของบุคคลอื'น อันทําให้การเลือกมิได้เปป็นไปโดยสุจริตหรือ เที'ยงธรรม ให้คณะกรรมการยื'นคําร้องต่อศาลฎีกาเพื'อสั'งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตันี้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตันี้งของผู้นันี้น

เมื'อศาลฎีกามีคําสั'งรับคําร้องไว้พิจารณาแล้ว ถ้าผู้ถูกกล่าวหาเปป็นสมาชิก วุฒิสภา ให้ผู้นันี้นหยุดปฏิบัติหน้าที'จนกว่าศาลฎีกาจะพิพากษาว่าผู้นันี้นมิได้กระทําความผิด เมื'อศาลฎีกามีคําพิพากษาว่าผู้นันี้นกระทําความผิดให้สมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภาผู้นันี้น สินี้นสุดลงนับแต่วันที'หยุดปฏิบัติหน้าที' ให้นําความในวรรคหนึ'งมาใช้บังคับแก่ผู้ถูกกล่าวหาซึ'งอยู่ในบัญชีสํารอง ด้วย และเมื'อศาลฎีกามีคําพิพากษาว่าผู้นันี้นกระทําความผิด ให้คณะกรรมการสั'งลบรายชื'อ ผู้นันี้นออกจากบัญชีสํารอง และให้นําความในมาตรา ๔๖ วรรคสอง มาใช้บังคับด้วยโดย อนุโลม

มาตรา ๖๓ เมื'อคณะกรรมการประกาศผลการเลือกตามมาตรา ๔๒ วรรค สอง แล้ว หากความปรากฏต่อคณะกรรมการว่าสมาชิกวุฒิสภาผู้ใดขาดคุณสมบัติตาม มาตรา ๑๓ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๔ ให้คณะกรรมการส่งเรื'องไปยังศาล รัฐธรรมนูญเพื'อวินิจฉัยโดยไม่ชักช้า

หมวด ๕ การคัดค้าน

มาตรา ๖๔ ผู้สมัครในระดับอําเภอ หรือผู้มีสิทธิเลือกในระดับจังหวัด หรือ ระดับประเทศมีสิทธิยื'นคําร้องคัดค้านว่าการเลือกในระดับอําเภอ ระดับจังหวัด หรือระดับ ประเทศที'ตนสมัครหรือมีสิทธิเลือก แล้วแต่กรณี มิได้เปป็นไปโดยสุจริตหรือเที'ยงธรรม หรือ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต่อคณะกรรมการภายในสามวันนับแต่วันเลือกในระดับนันี้น ๆ และให้ คณะกรรมการวินิจฉัยโดยเร็ว หากเห็นว่าไม่มีเหตุอันควรสงสัยว่าการเลือกเปป็นไปโดยไม่ สุจริต ไม่เที'ยงธรรม หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้คณะกรรมการสั'งยกคําร้อง และให้การ เลือกดําเนินการต่อไป ในกรณีที'คณะกรรมการเห็นว่ามีหลักฐานอันควรเชื'อได้ว่าการเลือก เปป็นไปโดยไม่สุจริต ไม่เที'ยงธรรม หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้คณะกรรมการดําเนินการ ตามมาตรา ๕๙ วรรคหนึ'ง คําวินิจฉัยของคณะกรรมการให้เปป็นที'สุด

หมวด ๖ บทกําหนดโทษ

มาตรา ๖๕ ในการสืบสวนหรือไต่สวน หากปรากฏว่าการให้ข้อมูล การชีนี้ เบาะแสหรือคําให้การของบุคคลซึ'งมีส่วนเกี'ยวข้องหรือมีส่วนร่วมในการกระทําความผิด ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้รายใดจะเปป็นประโยชน์ในการพิสูจน์การกระ ทําความผิดของผู้กระทําความผิดคนอื'นที'เปป็นตัวการสําคัญ และสามารถที'จะใช้เปป็นพยาน หลักฐานในการวินิจฉัยการกระทําความผิดของผู้กระทําความผิดนันี้น คณะกรรมการจะกัน บุคคลนันี้นไว้เปป็นพยานโดยไม่ดําเนินคดีก็ได้

เมื'อคณะกรรมการมีมติไม่ดําเนินคดีกับบุคคลใดแล้ว ให้สิทธิในการดําเนิน คดีอาญาเปป็นอันระงับไป เว้นแต่ปรากฏในภายหลังว่าผู้ถูกกันไว้เปป็นพยานได้ให้ถ้อยคําอัน เปป็นเท็จ หรือไม่ไปเบิกความ หรือไปเบิกความแต่ไม่เปป็นไปตามที'ให้การหรือให้ถ้อยคําไว้ ให้การกันบุคคลไว้เปป็นพยานนันี้นสินี้นสุดลง และคณะกรรมการอาจดําเนินการตามกฎหมาย กับบุคคลนันี้นต่อไปได้ มาตรการในการกันบุคคลไว้เปป็นพยานตามวรรคหนึ'ง และการเพิกถอน การกันบุคคลไว้เปป็นพยานตามวรรคสอง ให้เปป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื'อนไขที' คณะกรรมการกําหนด

มาตรา ๖๖ ในกรณีที'พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้กําหนดให้ ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตันี้งโดยมีกําหนดระยะเวลาหรือสั'งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตันี้ง ให้การเพิกถอนสิทธิดังกล่าวมีผลในทันทีและเริ'มนับระยะเวลานับแต่วันที'ศาลมีคําสั'งหรือ คําพิพากษา เว้นแต่ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาจะมีคําสั'งหรือคําพิพากษาเปป็นอย่างอื'น

มาตรา ๖๗ ผู้ใดสมัครเข้ารับเลือกมากกว่าหนึ'งกลุ่มหรือมากกว่าหนึ'ง อําเภออันเปป็นการไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๕ วรรคสอง ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ'งปั หรือปรับไม่เกินสองหมื'นบาท หรือทันี้งจําทันี้งปรับ และให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตันี้งของผู้

นันี้นมีกําหนดห้าปั

มาตรา ๖๘ กรรมการหรือพนักงานเจ้าหน้าที'ผู้ใดฝ찌าฝ더นมาตรา ๑๘ ต้อง ระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปั หรือปรับไม่เกินหกหมื'นบาท หรือทันี้งจําทันี้งปรับ

มาตรา ๖๙ ผู้ใดฝ찌าฝ더นมาตรา ๓๒ วรรคหนึ'ง หรือมาตรา ๕๘ วรรคหนึ'ง ต้องระวางโทษจําคุกตันี้งแต่หนึ'งปัถึงสิบปั และปรับตันี้งแต่สองหมื'นบาทถึงสองแสนบาท และ ให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตันี้งของผู้นันี้นมีกําหนดยี'สิบปั

มาตรา ๗๐ ผู้สมัครผู้ใดไม่ปฏิบัติตามวิธีการหรือเงื'อนไขที'คณะกรรมการ กําหนดตามมาตรา ๓๖ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ'งปั หรือปรับไม่เกินสองหมื'นบาท หรือทันี้งจําทันี้งปรับ และให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตันี้งของผู้นันี้นมีกําหนดห้าปั

บุคคลใดซึ'งมิใช่ผู้สมัครช่วยเหลือผู้สมัครในการแนะนําตัวโดยไม่ปฏิบัติ ตามวิธีการหรือเงื'อนไขตามมาตรา ๓๖ ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับที'บัญญัติไว้ในวรรคหนึ'ง

มาตรา ๗๑ ผู้ใดฝ찌าฝ더นมาตรา ๓๗ หรือมาตรา ๓๘ วรรคหนึ'ง ต้องระวาง โทษจําคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ'งหมื'นบาท หรือทันี้งจําทันี้งปรับ

ถ้าการกระทําตามวรรคหนึ'งเปป็นไปเพื'อก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึนี้น ในสถานที'เลือก ต้องระวางโทษเพิ'มขึนี้นเปป็นสองเท่า และให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตันี้งของ ผู้นันี้นมีกําหนดห้าปั

มาตรา ๗๒ ผู้ใดฝ찌าฝ더นมาตรา ๓๙ มาตรา ๕๐ มาตรา ๕๑ มาตรา ๕๒ หรือมาตรา ๕๓ ต้องระวางโทษจําคุกตันี้งแต่หนึ'งปัถึงห้าปั หรือปรับตันี้งแต่สองหมื'นบาทถึง หนึ'งแสนบาท หรือทันี้งจําทันี้งปรับ และให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตันี้งของผู้นันี้นมีกําหนดสิบปั

มาตรา ๗๓ ผู้มีสิทธิเลือกผู้ใดฝ찌าฝ더นมาตรา ๕๔ หรือมาตรา ๕๕ ต้อง ระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ'งปั หรือปรับไม่เกินสองหมื'นบาท หรือทันี้งจําทันี้งปรับ

มาตรา ๗๔ ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกไม่ว่าเพราะเหตุใด ได้สมัครรับเลือก ต้องระวางโทษจําคุกตันี้งแต่หนึ'งปัถึงสิบปั และปรับตันี้งแต่สองหมื'นบาทถึง สองแสนบาท และให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตันี้งของผู้นันี้นมีกําหนดยี'สิบปั

ในกรณีที'ผู้กระทําความผิดตามวรรคหนึ'งเปป็นผู้ซึ'งได้รับเลือกเปป็นสมาชิก วุฒิสภา ให้ศาลมีคําสั'งให้ผู้นันี้นคืนเงินประจําตําแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื'นที'ได้ รับมาเนื'องจากการดํารงตําแหน่งดังกล่าวให้แก่สํานักงานเลขาธิการวุฒิสภาด้วย

มาตรา ๗๕ ผู้ใดรับรองหรือเปป็นพยานซึ'งลงลายมือชื'อรับรองเอกสารหรือ หลักฐานที'ใช้ประกอบการสมัครเปป็นเท็จ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ'งปั หรือปรับไม่เกิน

สองหมื'นบาท หรือทันี้งจําทันี้งปรับ และให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตันี้งของผู้นันี้นมีกําหนดห้าปั มาตรา ๗๖ กรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือผู้ดํารงตําแหน่งอื'นใดใน พรรคการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาท้องถิ'น ผู้บริหารท้องถิ'น ผู้ดํารง ตําแหน่งทางการเมือง ผู้ใดกระทําการโดยวิธีใด ๆ อันเปป็นการช่วยเหลือให้ผู้สมัครผู้ใดได้รับ เลือกเปป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือทําให้ผู้สมัครผู้ใดไม่ได้รับเลือก ต้องระวางโทษจําคุกตันี้งแต่ หนึ'งปัถึงสิบปั และปรับตันี้งแต่สองหมื'นบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิ สมัครรับเลือกตันี้งของผู้นันี้น ผู้สมัครใดยินยอมให้กรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือผู้ดํารงตําแหน่ง อื'นใดในพรรคการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาท้องถิ'น ผู้บริหารท้องถิ'น ผู้ ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ช่วยเหลือเพื'อให้ได้รับเลือกเปป็นสมาชิกวุฒิสภา ต้องระวาง โทษจําคุกตันี้งแต่หนึ'งปัถึงสิบปั และปรับตันี้งแต่สองหมื'นบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั'ง เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตันี้งของผู้นันี้น

มาตรา ๗๗ ผู้ใดกระทําการอย่างหนึ'งอย่างใดดังต่อไปนีนี้เพื'อจูงใจให้ผู้อื'น สมัครเข้ารับเลือกเปป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือถอนการสมัคร หรือกระทําการใด ๆ อันไม่ชอบ ด้วยกฎหมาย ให้ผู้นันี้นหมดสิทธิที'จะเลือกหรือได้รับเลือก หรือเพื'อจูงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มี สิทธิเลือกลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้ใด ต้องระวางโทษจําคุกตันี้งแต่หนึ'งปัถึงสิบปั หรือปรับตันี้งแต่สองหมื'นบาทถึงสองแสนบาท หรือทันี้งจําทันี้งปรับ และให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิ เลือกตันี้งของผู้นันี้นมีกําหนดยี'สิบปั

จัด ทํา ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื'อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื'นใดอันอาจคํานวณเปป็นเงินได้แก่ผู้ใด

ทําการแนะนําตัวด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื'นเริงต่าง ๆ (๓) เลีนี้ยงหรือรับจะจัดเลีนี้ยงผู้ใด

หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือ จูงใจให้บุคคลอื'นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื'อเสียงเกียรติคุณของผู้ สมัครใด ความผิดตาม (๑) ให้ถือเปป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการ ป잎องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และให้คณะกรรมการมีอํานาจส่งเรื'องให้สํานักงาน ป잎องกันและปราบปรามการฟอกเงินดําเนินการตามหน้าที'และอํานาจได้

มาตรา ๗๘ ผู้ใดกระทําการอันเปป็นเท็จเพื'อให้ผู้อื'นเข้าใจผิดว่าผู้สมัครผู้ใด กระทําการฝ찌าฝ더นหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้ ต้องระวาง โทษจําคุกไม่เกินสองปั หรือปรับไม่เกินสี'หมื'นบาท และให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตันี้งของผู้

นันี้นมีกําหนดห้าปั ถ้าการกระทําตามวรรคหนึ'งเปป็นการเพื'อจะกลั'นแกล้งให้ผู้สมัครนันี้นถูกเพิก ถอนสิทธิเลือกตันี้งหรือสิทธิสมัครรับเลือกตันี้ง หรือเพื'อไม่ให้มีการประกาศผลการเลือก ต้อง ระวางโทษจําคุกตันี้งแต่ห้าปัถึงสิบปั และปรับตันี้งแต่หนึ'งแสนบาทถึงสองแสนบาท และให้ ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตันี้งของผู้นันี้นมีกําหนดยี'สิบปั ถ้าการกระทําตามวรรคหนึ'งเปป็นการแจ้งหรือให้ถ้อยคําต่อคณะกรรมการ หรือพนักงานเจ้าหน้าที' ต้องระวางโทษจําคุกตันี้งแต่เจ็ดปัถึงสิบปั และปรับตันี้งแต่หนึ'งแสนสี' หมื'นบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตันี้งของผู้นันี้นมีกําหนดยี'สิบปั

มาตรา ๗๙ ผู้ใดเรียกหรือรับทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื'นใดเพื'อลง สมัครรับเลือกหรือไม่ลงสมัครรับเลือกเพื'อประโยชน์แก่ผู้สมัครผู้ใด ต้องระวางโทษจําคุก ตันี้งแต่หนึ'งปัถึงสิบปั หรือปรับตันี้งแต่สองหมื'นบาทถึงสองแสนบาท หรือทันี้งจําทันี้งปรับ และให้ ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตันี้งของผู้นันี้นมีกําหนดยี'สิบปั

มาตรา ๘๐ ผู้ใดจงใจกระทําด้วยประการใด ๆ ให้บัตรลงคะแนนชํารุด หรือเสียหาย หรือให้เปป็นบัตรเสีย หรือกระทําด้วยประการใด ๆ แก่บัตรเสียเพื'อให้เปป็นบัตรที' ใช้ได้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปั และปรับไม่เกินหนึ'งแสนบาท และให้ศาลสั'งเพิกถอน สิทธิเลือกตันี้งของผู้นันี้นมีกําหนดสิบปั

ถ้าผู้กระทําความผิดตามวรรคหนึ'งเปป็นผู้ดําเนินการเกี'ยวกับการเลือก ต้อง ระวางโทษจําคุกตันี้งแต่หนึ'งปัถึงสิบปั และปรับตันี้งแต่สองหมื'นบาทถึงสองแสนบาท และให้ ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตันี้งของผู้นันี้นมีกําหนดยี'สิบปั

มาตรา ๘๑ ผู้มีสิทธิเลือกผู้ใดเรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือ ประโยชน์อื'นใด สําหรับตนเองหรือผู้อื'น เพื'อเลือกหรืองดเว้นไม่เลือกผู้ใด ต้องระวางโทษจํา คุกตันี้งแต่หนึ'งปัถึงห้าปั หรือปรับตันี้งแต่สองหมื'นบาทถึงหนึ'งแสนบาท หรือทันี้งจําทันี้งปรับ และ ให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตันี้งของผู้นันี้นมีกําหนดสิบปั

มาตรา ๘๒ ผู้ใดกระทําการโดยไม่มีอํานาจโดยชอบด้วยกฎหมาย เปัด ทําลาย ทําให้เสียหาย ทําให้เปลี'ยนสภาพ หรือทําให้ไร้ประโยชน์ หรือนําไปซึ'งหีบบัตรลง คะแนนหรือบัตรลงคะแนน หรือเอกสารหลักฐานที'เกี'ยวข้องกับการเลือกที'ผู้ดําเนินการเกี'ยว กับการเลือกได้จัดทําตันี้งแต่เวลาที'ได้เปัดและปัดหีบบัตรลงคะแนนที'ตันี้งไว้เพื'อการเลือก หรือ ภายหลังที'ได้ปัดหีบบัตรลงคะแนนนันี้นเพื'อรักษาไว้เมื'อการเลือกได้เสร็จสินี้นแล้ว ต้องระวาง โทษจําคุกตันี้งแต่หนึ'งปัถึงสิบปั และปรับตันี้งแต่สองหมื'นบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั'ง เพิกถอนสิทธิเลือกตันี้งของผู้นันี้นมีกําหนดยี'สิบปั

มาตรา ๘๓ ผู้ใดไม่ได้เปป็นพนักงานเจ้าหน้าที'ซึ'งมีหน้าที'และอํานาจในการ เก็บรักษาบัตรลงคะแนนสําหรับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา มีหรือครอบครองไว้ซึ'งบัตรลง คะแนนโดยไม่ชอบ ไม่ว่าบัตรลงคะแนนนันี้นจะเปป็นบัตรลงคะแนนที'สํานักงานเปป็นผู้จัดให้มี ขึนี้นหรือไม่ ต้องระวางโทษจําคุกตันี้งแต่หนึ'งปัถึงห้าปั หรือปรับตันี้งแต่สองหมื'นบาทถึงหนึ'ง แสนบาท หรือทันี้งจําทันี้งปรับ และให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตันี้งของผู้นันี้นมีกําหนดสิบปั

ในกรณีที'ผู้กระทําความผิดตามวรรคหนึ'งเปป็นเจ้าหน้าที'ของรัฐ ต้องระวาง โทษเพิ'มขึนี้นอีกกึ'งหนึ'ง และให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตันี้งของผู้นันี้น

มาตรา ๘๔ พนักงานเจ้าหน้าที'ผู้ใดจงใจนับบัตรลงคะแนนหรือนับคะแนน ให้ผิดไปจากความจริง หรือรวมคะแนนให้ผิดไป หรือกระทําด้วยประการใดโดยมิได้มี อํานาจกระทําโดยชอบด้วยกฎหมาย ให้บัตรลงคะแนนชํารุดหรือเสียหายหรือให้เปป็นบัตร เสียหรือกระทําการด้วยประการใดแก่บัตรเสียเพื'อให้เปป็นบัตรที'ใช้ได้หรืออ่านบัตรลงคะแนน ให้ผิดไปจากความจริง หรือทํารายงานการเลือกไม่ตรงความเปป็นจริง ต้องระวางโทษจําคุก ตันี้งแต่หนึ'งปัถึงสิบปั หรือปรับตันี้งแต่สองหมื'นบาทถึงสองแสนบาท หรือทันี้งจําทันี้งปรับ และให้

ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตันี้งของผู้นันี้นมีกําหนดยี'สิบปั

มาตรา ๘๕ ผู้ใดเล่นหรือจัดให้มีการเล่นการพนันขันต่อใด ๆ เกี'ยวกับผล ของการเลือก ต้องระวางโทษจําคุกตันี้งแต่หนึ'งปัถึงห้าปั หรือปรับตันี้งแต่สองหมื'นบาทถึงหนึ'ง แสนบาท หรือทันี้งจําทันี้งปรับ และให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิเลือกตันี้งของผู้เล่นมีกําหนดสิบปั และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตันี้งของผู้จัดให้มีการเล่น

ถ้าการกระทําตามวรรคหนึ'งเปป็นการกระทําของผู้สมัคร ต้องระวางโทษจํา คุกตันี้งแต่หนึ'งปัถึงสิบปั หรือปรับตันี้งแต่สองหมื'นบาทถึงสองแสนบาท หรือทันี้งจําทันี้งปรับ และ ให้ศาลสั'งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตันี้งของผู้นันี้น

มาตรา ๘๖ ในกรณีที'ศาลฎีกามีคําสั'งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตันี้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตันี้งผู้สมัครหรือสมาชิกวุฒิสภาผู้ใด และเปป็นเหตุให้ต้องมีการเลือก ใหม่ไม่ว่าจะมีคําร้องขอหรือไม่ ให้ศาลฎีกาสั'งให้ผู้นันี้นรับผิดในค่าใช้จ่ายสําหรับการเลือก ครันี้งที'เปป็นเหตุให้ศาลฎีกามีคําสั'งเช่นว่านันี้น จํานวนค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้ศาลฎีกาพิจารณา จากหลักฐานการใช้จ่ายที'คณะกรรมการเสนอต่อศาล

เงินที'ได้รับมาตามวรรคหนึ'งให้นําส่งเข้ากองทุนเพื'อการพัฒนา พรรคการเมืองตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง

มาตรา ๘๗ ผู้ใดเปัดเผยหรือเผยแพร่ผลการสํารวจความคิดเห็นของ ประชาชนผู้สมัครหรือผู้เลือกเกี'ยวกับการออกเสียงเลือกในระหว่างเวลาเจ็ดวันก่อนวันเลือก จนถึงเวลาปัดการเลือก ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทันี้งจําทันี้งปรับ

มาตรา ๘๘ ในกรณีที'ปรากฏว่ามีการกระทําความผิดตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้เกิดขึนี้นในเขตพืนี้นที'ของสถานที'เลือก ให้ถือว่าผู้สมัครนันี้นเปป็นผู้เสียหาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

มาตรา ๘๙ ผู้ใดกระทําความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญนีนี้นอกราชอาณาจักรจะต้องรับโทษในราชอาณาจักร และการกระทําของผู้เปป็น ตัวการด้วยกัน ผู้สนับสนุน หรือผู้ใช้ให้กระทําความผิดนันี้น แม้จะกระทํานอกราชอาณาจักร ให้ถือว่าตัวการ ผู้สนับสนุน หรือผู้ใช้ให้กระทําความผิดนันี้นได้กระทําในราชอาณาจักร

บทเฉพาะกาล

มาตรา ๙๐ ในวาระเริ'มแรก ให้วุฒิสภาประกอบด้วยสมาชิกจํานวนสอง ร้อยห้าสิบคน ซึ'งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตันี้งตามที'คณะรักษาความสงบแห่งชาติถวายคํา แนะนํา โดยในการสรรหาและแต่งตันี้งให้ดําเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังต่อไปนีนี้

ให้มีคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภาคณะหนึ'งซึ'งคณะรักษา ความสงบแห่งชาติแต่งตันี้งจากผู้ทรงคุณวุฒิซึ'งมีความรู้และประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ และ มีความเปป็นกลางทางการเมืองจํานวนไม่น้อยกว่าเก้าคนแต่ไม่เกินสิบสองคน มีหน้าที'ดําเนิน การสรรหาบุคคล ซึ'งสมควรเปป็นสมาชิกวุฒิสภาตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังต่อไปนีนี้ (ก) ให้คณะกรรมการดําเนินการจัดให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภาตาม วิธีการที'บัญญัติไว้ในมาตรา ๙๑ มาตรา ๙๒ มาตรา ๙๓ มาตรา ๙๔ มาตรา ๙๕ และ มาตรา ๙๖ จํานวนสองร้อยคน โดยให้ดําเนินการให้แล้วเสร็จก่อนวันที'มีการเลือกตันี้งสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรครันี้งแรกตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตันี้งสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน แล้วให้จัดทําเปป็นบัญชีรายชื'อเสนอต่อคณะรักษา ความสงบแห่งชาติโดยแยกผู้ได้รับเลือกตามกลุ่มและตามวิธีการสมัคร (ข) ให้คณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา คัดเลือกบุคคลผู้มีความรู้ ความสามารถที'เหมาะสมในอันจะเปป็นประโยชน์แก่การปฏิบัติหน้าที'ของวุฒิสภาและการ ปฏิรูปประเทศมีจํานวนไม่เกินสี'ร้อยคนตามวิธีการที'คณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา กําหนด แล้วนํารายชื'อเสนอต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทันี้งนีนี้ ต้องดําเนินการให้แล้ว เสร็จไม่ช้ากว่าระยะเวลาที'กําหนดตาม (ก) (ค) ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติคัดเลือกผู้ได้รับเลือกตาม (ก) จากบัญชีรายชื'อที'ได้รับจากคณะกรรมการตามมาตรา ๙๘ และให้คัดเลือกบุคคลจากบัญชี รายชื'อที'ได้รับการสรรหาตาม (ข) ให้ได้จํานวนหนึ'งร้อยเก้าสิบสี'คนรวมกับผู้ดํารงตําแหน่ง ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหาร เรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติเปป็นสองร้อยห้าสิบคน และ คัดเลือกรายชื'อสํารองจากบัญชีรายชื'อที'ได้รับการสรรหาตาม (ข) จํานวนห้าสิบคน ทันี้งนีนี้ ให้แล้วเสร็จภายในสามวันนับแต่วันประกาศผลการเลือกตันี้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครันี้ง แรกตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตันี้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

มิให้นําความในมาตรา ๑๔ (๒๓) ในส่วนที'เกี'ยวกับการเคยดํารง ตําแหน่งรัฐมนตรีมาใช้บังคับแก่ผู้ดํารงตําแหน่งสมาชิกวุฒิสภาซึ'งได้รับสรรหาตาม (๑) (ข) และมิให้นําความในมาตรา ๑๔ (๑๙) มาใช้บังคับแก่ผู้ซึ'งได้รับแต่งตันี้งให้เปป็นสมาชิกวุฒิสภา โดยตําแหน่ง

ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาตินํารายชื'อบุคคลซึ'งได้รับการคัดเลือก ตาม (๑) (ค) จํานวนสองร้อยห้าสิบคนดังกล่าวขึนี้นกราบบังคมทูลเพื'อทรงพระกรุณาโปรด เกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตันี้งต่อไป และให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเปป็นผู้ลงนาม รับสนองพระบรมราชโองการ

อายุของวุฒิสภาตามมาตรานีนี้มีกําหนดห้าปันับแต่วันที'มีพระบรม ราชโองการแต่งตันี้ง สมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภาเริ'มตันี้งแต่วันที'มีพระบรมราชโองการ แต่งตันี้ง ถ้ามีตําแหน่งว่างลง ให้เลื'อนรายชื'อบุคคลตามลําดับในบัญชีสํารองตาม (๑) (ค) ขึนี้น เปป็นสมาชิกวุฒิสภาแทน โดยให้ประธานวุฒิสภาเปป็นผู้ดําเนินการและเปป็นผู้ลงนามรับสนอง พระบรมราชโองการ สําหรับสมาชิกวุฒิสภาโดยตําแหน่งเมื'อพ้นจากตําแหน่งที'ดํารงอยู่ใน ขณะได้รับแต่งตันี้งเปป็นสมาชิกวุฒิสภาก็ให้พ้นจากตําแหน่งสมาชิกวุฒิสภาด้วย และให้ ดําเนินการเพื'อแต่งตันี้งให้ผู้ดํารงตําแหน่งนันี้นเปป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยตําแหน่งแทน ให้สมาชิก วุฒิสภาที'ได้รับแต่งตันี้งให้ดํารงตําแหน่งแทนตําแหน่งที'ว่าง อยู่ในตําแหน่งเท่าอายุของ วุฒิสภาที'เหลืออยู่

ในระหว่างที'ยังไม่มีพระบรมราชโองการแต่งตันี้งบุคคลในบัญชีสํารอง ขึนี้นเปป็นสมาชิกวุฒิสภาแทนตําแหน่งที'ว่างตาม (๔) หรือเปป็นกรณีที'ไม่มีรายชื'อบุคคลเหลืออยู่ ในบัญชีสํารอง หรือไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งที'เปป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยตําแหน่ง ไม่ว่าด้วยเหตุใด ให้วุฒิสภาประกอบด้วยสมาชิกวุฒิสภาเท่าที'มีอยู่

เมื'ออายุของวุฒิสภาสินี้นสุดลงตาม (๔) ให้ดําเนินการเลือกสมาชิก วุฒิสภาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้

มาตรา ๙๑ ในวาระเริ'มแรก สําหรับการดําเนินการตามมาตรา ๙๐ (๑) (ก) ให้กลุ่มตามมาตรา ๑๑ วรรคหนึ'ง มีสิบกลุ่ม ประกอบด้วย

กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั'นคง อันได้แก่ผู้เคยเปป็น ข้าราชการ เจ้าหน้าที'ของรัฐ หรืออื'น ๆ ในทํานองเดียวกัน

กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม อันได้แก่ผู้เปป็นหรือเคยเปป็นผู้ พิพากษา ตุลาการ อัยการ ตํารวจ ผู้ประกอบวิชาชีพด้านกฎหมาย หรืออื'น ๆ ในทํานอง เดียวกัน

กลุ่มการศึกษาและการสาธารณสุข อันได้แก่ผู้เปป็นหรือเคยเปป็นครู อาจารย์ นักวิจัย ผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษา แพทย์ทุกประเภท เทคนิค การแพทย์ สาธารณสุข พยาบาล เภสัชกร หรืออื'น ๆ ในทํานองเดียวกัน

กลุ่มอาชีพกสิกรรม ปลูกพืชล้มลุก ทํานา ทําสวน ทําไร่ ป찌าไม้ ปศุสัตว์ ประมง หรืออื'น ๆ ในทํานองเดียวกัน

กลุ่มพนักงานหรือลูกจ้างของบุคคลซึ'งมิใช่ส่วนราชการหรือหน่วยงาน ของรัฐผู้ใช้แรงงาน ผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรืออื'น ๆ ในทํานองเดียวกัน

กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ'งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์และ สาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื'อสาร การ พัฒนานวัตกรรม หรืออื'น ๆ ในทํานองเดียวกัน

กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อมตามกฎหมายว่าด้วย การนันี้นและผู้ประกอบกิจการอื'น ๆ ผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที'ยว อันได้แก่ผู้ ประกอบธุรกิจท่องเที'ยว มัคคุเทศก์ ผู้ประกอบกิจการหรือพนักงานโรงแรม ผู้ประกอบ อุตสาหกรรม หรืออื'น ๆ ในทํานองเดียวกัน

กลุ่มสตรี ผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัต ลักษณ์อื'น ประชาสังคม องค์กรสาธารณประโยชน์ หรืออื'น ๆ ในทํานองเดียวกัน

กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและบันเทิง นักกีฬา สื'อสาร มวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม หรืออื'น ๆ ในทํานองเดียวกัน

๑๐

กลุ่มอื'น ๆ การมีลักษณะอื'น ๆ ในทํานองเดียวกันตามวรรคหนึ'ง ให้เปป็นไปตามที'คณะ กรรมการประกาศกําหนด ผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๓ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๔ ย่อมมีสิทธิสมัครในกลุ่มอื'น ๆ ตาม (๑๐) ได้

มาตรา ๙๒ ในวาระเริ'มแรก ผู้สมัครในแต่ละกลุ่มตามมาตรา ๙๑ อาจ สมัครได้โดยวิธีการ ดังต่อไปนีนี้

สมัครโดยยื'นใบสมัครด้วยตนเอง

สมัครโดยยื'นใบสมัครด้วยตนเองพร้อมแสดงหนังสือแนะนําชื'อผู้สมัคร จากองค์กรตามมาตรา ๙๓ แนบมาพร้อมกับใบสมัครด้วย ให้ผู้สมัครแต่ละคนมีสิทธิสมัครเพื'อเข้ารับเลือกในกลุ่มตามมาตรา ๙๑ ได้ เพียงกลุ่มเดียว และสมัครโดยวิธีการตามวรรคหนึ'งได้เพียงวิธีการเดียว รวมทันี้งมีสิทธิสมัคร ได้เพียงอําเภอเดียว และเมื'อได้ยื'นใบสมัครแล้วจะถอนการสมัครมิได้ ผู้ใดสมัครเข้ารับเลือกมากกว่าหนึ'งกลุ่ม มากกว่าหนึ'งวิธีการ หรือมากกว่า หนึ'งอําเภอ อันเปป็นการไม่ปฏิบัติตามวรรคสอง ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับที'บัญญัติไว้ใน มาตรา ๖๗

มาตรา ๙๓ องค์กรซึ'งเปป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า สามปัและมิได้มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากําไรมาแบ่งปีนกันหรือดําเนินกิจกรรมทางการ เมือง และได้ดําเนินการตามวัตถุประสงค์ขององค์กรมาอย่างต่อเนื'อง และองค์กรที'มี กฎหมายจัดตันี้ง มีสิทธิแนะนําชื'อผู้ซึ'งเปป็นหรือเคยเปป็นสมาชิกขององค์กร หรือผู้ซึ'งปฏิบัติ หน้าที'หรือเคยปฏิบัติหน้าที'ในองค์กรตามระยะเวลาที'คณะกรรมการกําหนด ซึ'งมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้เพื'อ สมัครรับเลือกเปป็นสมาชิกวุฒิสภาองค์กรละหนึ'งคนในแต่ละจังหวัดโดยต้องระบุอําเภอไว้ ด้วย และเมื'อได้แนะนําชื'อผู้สมัครแล้วจะถอนหรือเปลี'ยนชื'อผู้ซึ'งได้แนะนําแล้วมิได้

องค์กรตามวรรคหนึ'งต้องลงทะเบียนตามหลักเกณฑ์และวิธีการที'คณะ กรรมการกําหนด และให้เลือกกลุ่มตามมาตรา ๙๑ ได้เพียงกลุ่มเดียว การแนะนําชื'อบุคคลตามวรรคหนึ'งต้องทําโดยมติของคณะกรรมการที' มีหน้าที'และอํานาจในการบริหารงานขององค์กรดังกล่าว ในกรณีที'องค์กรดังกล่าวไม่มี คณะกรรมการ ให้ผู้ที'มีหน้าที'และอํานาจในการบริหารงานขององค์กรเปป็นผู้แนะนําชื'อแทน และให้ทําเปป็นหนังสือโดยอย่างน้อยต้องมีประวัติระบุถึงเพศ ความรู้ ความเชี'ยวชาญ ประสบการณ์ และสาขาอาชีพของผู้ได้รับการแนะนําชื'อพร้อมทันี้งหนังสือยินยอมจากผู้ได้รับ การแนะนําชื'อ ทันี้งนีนี้ ตามที'คณะกรรมการกําหนด องค์กรตามวรรคหนึ'งซึ'งแจ้งการแนะนําชื'อหรือรับรองเอกสารหรือหลัก ฐานที'ใช้ประกอบการสมัครเปป็นเท็จ ให้การแจ้งการแนะนําชื'อหรือการรับรองเอกสารหรือ หลักฐานดังกล่าวเปป็นโมฆะ และให้คณะกรรมการประกาศให้ประชาชนทราบเปป็นการทั'วไป

มาตรา ๙๔ การเลือกระดับอําเภอ ให้ดําเนินการ ดังต่อไปนีนี้

ผู้สมัครต้องมาถึงสถานที'เลือกและแสดงตนภายในเวลาที'คณะ กรรมการกําหนด ผู้ใดไม่มาหรือมาไม่ทันกําหนดให้หมดสิทธิที'จะเลือกและได้รับเลือก

เมื'อผู้สมัครมาครบหรือเมื'อพ้นเวลาตาม (๑) แล้ว ให้ผู้อํานวยการการ เลือกระดับอําเภอจัดให้ผู้สมัครแต่ละกลุ่มและแต่ละวิธีการสมัครรวมอยู่ในกลุ่มเดียวกันและ วิธีการสมัครเดียวกัน ณ สถานที'ที'ผู้อํานวยการการเลือกระดับอําเภอกําหนด

ให้ผู้สมัครแต่ละกลุ่มและแต่ละวิธีการสมัครที'ได้จัดตาม (๒) แล้ว ลง คะแนนเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกันและวิธีการสมัครเดียวกันได้ไม่เกินสองคน โดยจะลง คะแนนเลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกินหนึ'งคะแนนมิได้

เมื'อการลงคะแนนของกลุ่มใดและวิธีการสมัครใดแล้วเสร็จ ให้ผู้ อํานวยการการเลือกระดับอําเภอดําเนินการให้มีการนับคะแนนของกลุ่มนันี้นและวิธีการ สมัครนันี้นโดยเปัดเผยให้ผู้ได้รับคะแนนสูงสุดสามลําดับแรกของแต่ละกลุ่มและแต่ละวิธีการ สมัคร เปป็นผู้ได้รับเลือกระดับอําเภอสําหรับกลุ่มนันี้นและวิธีการสมัครนันี้น เพื'อไปดําเนินการ เลือกในระดับจังหวัดต่อไป ในกรณีที'ลําดับใดมีผู้ได้คะแนนเท่ากันจนเปป็นเหตุให้มีผู้ได้ คะแนนสูงสุดเกินสามคน ให้ผู้ซึ'งได้คะแนนเท่ากันดังกล่าวจับสลากกันเองว่าผู้ใดจะได้รับ เลือกในกลุ่มนันี้นและวิธีการสมัครนันี้น และในกรณีที'มีผู้ได้คะแนนไม่ถึงสามคน ให้เฉพาะผู้ซึ'ง ได้คะแนนเปป็นผู้ได้รับเลือก

ในกรณีที'กลุ่มใดและการสมัครโดยวิธีการใดมีผู้สมัครไม่เกินสามคน หรือมีผู้มารายงานตัวตาม (๑) ไม่เกินสามคน ให้ถือว่าผู้สมัครทุกคนซึ'งมารายงานตัวนันี้น เปป็นผู้ได้รับเลือกสําหรับกลุ่มนันี้นและวิธีการสมัครนันี้นโดยไม่ต้องดําเนินการเลือก

กลุ่มใดและการสมัครโดยวิธีการใดไม่มีผู้สมัคร ให้งดการดําเนินการ เลือกสําหรับกลุ่มนันี้นและการสมัครโดยวิธีการนันี้น และไม่มีผลกระทบต่อการเลือกของกลุ่ม และการสมัครโดยวิธีการอื'น ๆ

กลุ่มใดและการสมัครโดยวิธีการใดมีผู้ไม่ได้รับคะแนนเลือกเลยมี จํานวนไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของจํานวนผู้สมัครและแสดงตนในกลุ่มนันี้นและการสมัครโดย วิธีการนันี้น แต่ต้องไม่น้อยกว่าสามคน ให้สันนิษฐานว่ามีการสมยอมกันในการเลือก และ ถือว่าการเลือกไม่เปป็นไปโดยสุจริตหรือเที'ยงธรรม ให้ผู้อํานวยการการเลือกระดับอําเภอ ดําเนินการให้ผู้สมัครในกลุ่มนันี้นและโดยวิธีการสมัครนันี้นเลือกกันเองใหม่โดยให้ผู้ไม่ได้รับ คะแนนเลือกนันี้นหมดสิทธิที'จะเลือกและได้รับเลือก และต้องออกจากสถานที'เลือก

ให้ผู้อํานวยการการเลือกระดับอําเภอส่งบัญชีรายชื'อผู้ได้รับเลือกตาม (๔) และ (๕) ให้ผู้อํานวยการการเลือกระดับจังหวัดพร้อมด้วยเอกสารหรือข้อมูลตามมาตรา ๒๘ (๕) ภายในวันถัดจากวันเลือกระดับอําเภอเพื'อดําเนินการต่อไป การดําเนินการตามวรรคหนึ'ง ให้เปป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที'คณะ กรรมการกําหนด

มาตรา ๙๕ การเลือกระดับจังหวัด ให้ดําเนินการ ดังต่อไปนีนี้

ผู้ได้รับเลือกระดับอําเภอต้องมาถึงสถานที'เลือกและแสดงตนภายใน เวลาที'คณะกรรมการกําหนด ผู้ใดไม่มาหรือมาไม่ทันกําหนดให้หมดสิทธิที'จะเลือกและได้ รับเลือก

เมื'อผู้ได้รับเลือกระดับอําเภอมาครบหรือเมื'อพ้นเวลาตาม (๑) แล้ว ให้ ผู้อํานวยการการเลือกระดับจังหวัดจัดให้ผู้ได้รับเลือกระดับอําเภอในกลุ่มเดียวกันและวิธี การสมัครเดียวกันนันี้นรวมอยู่ด้วยกัน ณ สถานที'ที'ผู้อํานวยการการเลือกระดับจังหวัด กําหนด

ให้ผู้ได้รับเลือกระดับอําเภอตาม (๒) ลงคะแนนเลือกบุคคลตาม (๒) ในกลุ่มเดียวกันและวิธีการสมัครเดียวกันได้ไม่เกินสองคน โดยจะลงคะแนนเลือกตนเอง ก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกินหนึ'งคะแนนมิได้

เมื'อการลงคะแนนของกลุ่มใดและวิธีการสมัครใดแล้วเสร็จ ให้ผู้ อํานวยการการเลือกระดับจังหวัดดําเนินการนับคะแนนของกลุ่มนันี้นและวิธีการสมัครนันี้น โดยเปัดเผย ให้ผู้ได้รับคะแนนสูงสุดสี'ลําดับแรกของแต่ละกลุ่มและแต่ละวิธีการสมัคร เปป็นผู้ ได้รับเลือกระดับจังหวัดสําหรับกลุ่มนันี้นและวิธีการสมัครนันี้น เพื'อไปดําเนินการเลือกในระดับ ประเทศต่อไป ในกรณีที'ลําดับใดมีผู้ได้คะแนนเท่ากันจนเปป็นเหตุให้มีผู้ได้คะแนนสูงสุดเกินสี' คน ให้ผู้ซึ'งได้คะแนนเท่ากันดังกล่าวจับสลากกันเองว่าผู้ใดจะได้รับเลือกในกลุ่มนันี้นและวิธี การสมัครนันี้น และในกรณีที'มีผู้ได้คะแนนไม่ถึงสี'คน ให้เฉพาะผู้ซึ'งได้คะแนนเปป็นผู้ได้รับ เลือก

ในกรณีที'กลุ่มใดและการสมัครโดยวิธีการใดมีผู้ได้รับเลือกระดับ อําเภอรวมกันแล้วไม่เกินสี'คนหรือมีผู้มารายงานตัวตาม (๑) ไม่เกินสี'คน ให้ถือว่าผู้ได้รับ เลือกระดับอําเภอทุกคนซึ'งมารายงานตัวนันี้นเปป็นผู้ได้รับเลือกสําหรับกลุ่มนันี้นและวิธีการ สมัครนันี้นโดยไม่ต้องดําเนินการเลือก

กลุ่มใดและการสมัครโดยวิธีการใดไม่มีผู้ได้รับเลือกระดับอําเภอ ให้ งดการดําเนินการเลือกสําหรับกลุ่มนันี้นและการสมัครโดยวิธีการนันี้น และไม่มีผลกระทบต่อ การเลือกของกลุ่มและการสมัครโดยวิธีการอื'น ๆ

กลุ่มใดและการสมัครโดยวิธีการใดมีผู้ไม่ได้รับคะแนนเลือกเลยมี จํานวนไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของจํานวนผู้ได้รับเลือกระดับอําเภอและแสดงตนในกลุ่มนันี้น และการสมัครโดยวิธีการนันี้น แต่ต้องไม่น้อยกว่าสามคน ให้สันนิษฐานว่ามีการสมยอมกันใน การเลือก และถือว่าการเลือกไม่เปป็นไปโดยสุจริตหรือเที'ยงธรรม ให้ผู้อํานวยการการเลือก ระดับจังหวัดดําเนินการให้ผู้ได้รับเลือกระดับอําเภอในกลุ่มนันี้นและโดยวิธีการสมัครนันี้น เลือกกันเองใหม่ โดยให้ผู้ไม่ได้รับคะแนนเลือกนันี้นหมดสิทธิที'จะเลือกและได้รับเลือก และ ต้องออกจากสถานที'เลือก

ให้ผู้อํานวยการการเลือกระดับจังหวัดส่งบัญชีรายชื'อผู้ได้รับเลือกตาม (๔) และ (๕) ให้ผู้อํานวยการการเลือกระดับประเทศพร้อมด้วยเอกสารหรือข้อมูลตาม มาตรา ๒๙ (๓) ภายในวันถัดจากวันเลือกระดับจังหวัดเพื'อดําเนินการต่อไป การดําเนินการตามวรรคหนึ'ง ให้เปป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที'คณะ กรรมการกําหนด

มาตรา ๙๖ การเลือกระดับประเทศ ให้ดําเนินการ ดังต่อไปนีนี้

ผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดต้องมาถึงสถานที'เลือกและแสดงตนภายใน เวลาที'คณะกรรมการกําหนด ผู้ใดไม่มาหรือมาไม่ทันกําหนดให้หมดสิทธิที'จะเลือกและได้ รับเลือก

เมื'อผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดมาครบหรือเมื'อพ้นเวลาตาม (๑) แล้ว ให้ ผู้อํานวยการการเลือกระดับประเทศจัดให้ผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดในกลุ่มเดียวกันและวิธี การสมัครเดียวกันนันี้นรวมอยู่ด้วยกัน ณ สถานที'ที'ผู้อํานวยการการเลือกระดับประเทศ กําหนด

ให้ผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดตาม (๒) ลงคะแนนเลือกบุคคลตาม (๒) ในกลุ่มเดียวกันและวิธีการสมัครเดียวกันได้ไม่เกินสองคน โดยจะลงคะแนนเลือกตนเอง ก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกินหนึ'งคะแนนมิได้

กลุ่มใดและการสมัครโดยวิธีการใดมีผู้ไม่ได้รับคะแนนเลือกเลยมี จํานวนไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของจํานวนผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดและแสดงตนในกลุ่มนันี้น และการสมัครโดยวิธีการนันี้น ให้สันนิษฐานว่ามีการสมยอมกันในการเลือก และถือว่าการ เลือกไม่เปป็นไปโดยสุจริตหรือเที'ยงธรรม ให้ผู้อํานวยการการเลือกระดับประเทศดําเนินการ ให้ผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดในกลุ่มนันี้นและโดยวิธีการสมัครนันี้นเลือกกันเองใหม่ โดยให้ผู้ไม่ ได้รับคะแนนเลือกนันี้นหมดสิทธิที'จะเลือกและได้รับเลือก และต้องออกจากสถานที'เลือก

เมื'อการลงคะแนนของกลุ่มใดและวิธีการสมัครใดแล้วเสร็จ ให้ผู้ อํานวยการการเลือกระดับประเทศดําเนินการนับคะแนนของกลุ่มนันี้นและวิธีการสมัครนันี้น โดยเปัดเผย แล้วแจ้งผลการนับคะแนนให้คณะกรรมการทราบ เมื'อคณะกรรมการได้รับรายงานตาม (๕) แล้ว ให้รอไว้ไม่น้อยกว่าห้าวัน เมื'อพ้นกําหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ถ้าคณะกรรมการเห็นว่าการเลือกเปป็นไปโดยถูกต้อง สุจริต และเที'ยงธรรม ให้จัดเรียงลําดับรายชื'อตามผลการเลือกตาม (๕) โดยให้จัดเรียง ลําดับรายชื'อผู้ได้รับคะแนนสูงสุดในแต่ละกลุ่มและแต่ละวิธีการสมัครตันี้งแต่ลําดับที'หนึ'งถึง ลําดับที'สิบเพื'อดําเนินการตามมาตรา ๙๘ ต่อไป ในการจัดเรียงลําดับตามวรรคสองสําหรับผู้ที'อยู่ในลําดับที'มีคะแนนเท่า กันให้จัดให้มีการจับสลากเพื'อเรียงลําดับต่อไป การดําเนินการตามวรรคหนึ'ง ให้เปป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที'คณะ กรรมการกําหนด

มาตรา ๙๗ ผู้ใดขัดขืนไม่ยอมออกจากสถานที'เลือกตามมาตรา ๙๔ (๗) มาตรา ๙๕ (๗) หรือมาตรา ๙๖ (๔) ต้องระวางโทษตามที'บัญญัติไว้ในมาตรา ๗๑

มาตรา ๙๘ เมื'อได้ดําเนินการเลือกบุคคลเพื'อเสนอชื'อต่อคณะรักษาความ สงบแห่งชาติตามมาตรา ๙๐ (๑) (ก) เสร็จแล้วให้คณะกรรมการแจ้งรายชื'อผู้ได้รับคะแนน สูงสุดในแต่ละกลุ่มและแต่ละวิธีการสมัครตันี้งแต่ลําดับที'หนึ'งถึงลําดับที'สิบของแต่ละกลุ่ม และแต่ละวิธีการสมัครให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาคัดเลือกให้เปป็นสมาชิก วุฒิสภาต่อไป

ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติคัดเลือกบุคคลตามวรรคหนึ'งให้ได้ จํานวนห้าสิบคนเพื'อนําความกราบบังคมทูลเพื'อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตันี้งเปป็นสมาชิกวุฒิสภาและคัดเลือกรายชื'ออีกจํานวนห้าสิบคนเปป็นบัญชีสํารอง และให้ ประกาศรายชื'อสมาชิกวุฒิสภาและบุคคลในบัญชีสํารองในราชกิจจานุเบกษา

มาตรา ๙๙ ในการคัดเลือกบุคคลจากบัญชีสํารองเพื'อแทนตําแหน่งที'ว่าง ตามมาตรา ๙๐ (๔) และตามมาตรา ๙๘ ให้นําความในมาตรา ๔๕ วรรคสอง มาใช้บังคับ ด้วยโดยอนุโลม

ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนีนี้ คือ โดยที' รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้มีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การได้มาซึ'งสมาชิกวุฒิสภา เพื'อให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาเปป็นไปโดยสุจริตและเที'ยงธรรม ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงจําเปป็นต้องตราพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญนีนี้ ปัติวรรณ / Maker 4 เมษายน 2565 ภัทรานิษฐ์ / Checker 29 มิถุนายน 2565 ภัทรานิษฐ์ / Authorizer 29 มิถุนายน 2565 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๕/ตอนที' ๖๘ ก/หน้า ๑/๑๒ กันยายน ๒๕๖๑