องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๖ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
“รายการ” หมายความว่า เนื้อหาที่ผลิตขึ้นเพื่อเผยแพร่ทางวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ที่ไม่ใช่โฆษณา “สื่อสาธารณะ” หมายความว่า ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับรายการทั้งหมดที่จะเผยแพร่ ช่วงเวลาเผยแพร่ของแต่ละรายการ และประชาชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของแต่ละรายการ “ผู้ผลิตรายการ” หมายความว่า ผู้ผลิตรายการเพื่อการเผยแพร่ทางวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ *ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๖ ก/หน้า ๙/๔ มกราคม ๒๕๕๑* “ผู้ผลิตรายการอิสระ” หมายความว่า ผู้ผลิตรายการที่มิได้สังกัดหรือเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของสถานีวิทยุหรือโทรทัศน์หรือบริษัทในเครือของสถานีวิทยุหรือโทรทัศน์แห่งใดหรือองค์กรสื่อสารมวลชนใด และให้หมายความรวมถึงผู้ผลิตรายการวิทยุหรือโทรทัศน์ในลักษณะธุรกิจแบบต่อยอดและผู้ผลิตรายการกระจายเสียงอื่นด้วย “ผู้สนับสนุนองค์กร” หมายความว่า ผู้ให้การสนับสนุนการเงิน ทรัพย์สิน หรือสิ่งอื่นแก่องค์กรเพื่อประโยชน์ขององค์กร “เงินนำส่งขององค์กร” หมายความว่า เงินที่เรียกเก็บจากผู้ที่นำเข้าเครื่องรับวิทยุ กฎหมายว่าด้วยสุราษฎร์และกฎหมายว่าด้วยสุราอากรซึ่งผู้ที่เป็นเจ้าของหรือผู้ที่ใช้ในประเทศไทย “องค์กร” หมายความว่า องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย “คณะกรรมการนโยบาย” หมายความว่า คณะกรรมการนโยบายองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย “กรรมการนโยบาย” หมายความว่า กรรมการนโยบายองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย “คณะกรรมการบริหาร” หมายความว่า คณะกรรมการบริหารองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย “กรรมการบริหาร” หมายความว่า กรรมการบริหารองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย “ผู้อำนวยการ” หมายความว่า ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย
การจัดตั้งและเงินทุน
ดำเนินกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ที่มุ่งสนับสนุนการพัฒนาสังคมที่มีคุณภาพและคุณธรรม บนพื้นฐานของความเป็นไทย โดยผ่านทางบริการวิชาการที่เกี่ยวข้อง รอบด้าน สมดุล และยึดมั่นจรรยาบรรณ
ผลิตรายการทางด้านวิชาการ สารประโยชน์ทางด้านวิชาการศึกษา และสาระบันเทิงที่มีเนื้อหาสอดคล้องเหมาะสมและมีคุณภาพสูง เน้นความหลากหลายเป็นสำคัญ โดยมุ่งเน้นเป็นการอย่างปราศจากอคติทางการเมืองและผลประโยชน์ส่วนตนหรือพวกพ้อง เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลาย อันจะเป็นประโยชน์ทั้งระดับปัจเจกและระดับองค์รวมผ่านทางการให้บริการสาระความรู้และสาระบันเทิงที่ได้รับข่าวสารอย่างเท่าเทียมกัน
ส่งเสริมเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสารเพื่อสู่การสังคมประชาธิปไตยที่ประชาชนได้รับข่าวสารอย่างเท่าเทียมกัน
สนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อมในการกำหนดทิศทางการให้บริการขององค์กรเพื่อประโยชน์สาธารณะ
สนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์อื่น การดำเนินการตาม (๑) (๒) (๓) และ (๔) ให้คำนึงถึงการบังคับและการใช้ประโยชน์ได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรมของประชาชน
ระบบบริการสื่อสารมวลชนที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพที่เหมาะสมกับความต้องการของสังคมและประชาชน โดยให้มีการจัดทำแผนแม่บทการบริหารงานขององค์กรที่กำหนดทิศทางและเป้าหมายการดำเนินงานขององค์กรให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ขององค์กร และให้มีการทบทวนแผนแม่บทดังกล่าวอย่างน้อยทุก ๕ ปี นับแต่มีการสนับสนุนจากผู้สนับสนุนองค์กร
ให้บริการคลื่นสื่อโสตทัศน์ หรือบริการระบบเครือข่ายสารสนเทศอื่น หรือบริการอื่นใดที่เกี่ยวข้องหรือเป็นประโยชน์ต่อการเผยแพร่รายการ
ให้การสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพและการสร้างสรรค์สารคดีรายการของผู้ผลิตรายการอิสระ
ร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ องค์กรภาคเอกชน ชุมชน หรือหน่วยงานต่างประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศ หรือสถานีวิทยุหรือโทรทัศน์ขององค์กรสื่อสารมวลชนของต่างประเทศ ในการผลิตรายการหรือสื่อความรู้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ หรือสร้างความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างกัน
กระทำการอื่นอันจำเป็นเกี่ยวกับหรือเนื่องไปในการจัดการให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ขององค์กร
(ก) ถือกรรมสิทธิ์ มีสิทธิเก็บผลประโยชน์ และมีทรัพย์สินต่าง ๆ (ข) ต้องสิทธิ หรือกระทำสิทธิกรรมใด ๆ ที่ไม่ขัดต่อกฎหมายเพื่อประโยชน์ในการดำเนินกิจการขององค์กร (ก) เข้าร่วมทุนกับบุคคลหรือคณะบุคคลอื่นทั้งในประเทศและต่างประเทศในกิจการที่เกี่ยวกับวัตถุประสงค์ขององค์กร (ข) เรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าบริการ หรือค่าตอบแทนอื่นใดในการให้บริการ (ค) ดำเนินการอื่นใดที่จำเป็นหรือสมควรเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร
(ก) เงินบำรุงองค์กรที่จัดเก็บตามมาตรา ๑๖ (ข) เงินและทรัพย์สินที่ได้รับโอนตามมาตรา ๔๕ หรือกฎหมายอื่น (ค) ทุนประเดิมที่รัฐจัดให้แก่ในการจดทะเบียนตามมาตรา ๖๐ (ง) เงินหรือทรัพย์สิน อื่นๆ เช่น ค่าบำรุง ค่าบริการ หรือค่าตอบแทนอื่นใดในการให้บริการ (จ) เงินหรือทรัพย์สินอื่นที่ได้รับจากผู้สนับสนุนองค์กร (ฉ) รายได้ที่อาจทราบประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาขององค์กร (ช) ดอกผลที่เกิดจากเงินหรือทรัพย์สินขององค์กร การรับเงินและทรัพย์สิน (๑) ต้องไม่เป็นการกระทำที่ทำให้องค์กรตกอยู่ในอิทธิพลการดำเนินงาน หรือให้กระทบต่อการยึดมั่นต่อวัตถุประสงค์ขององค์กร รายได้ในการดำเนินกิจการขององค์กรนอกจาก (ฉ) และ (ช) ต้องนำไปใช้ในการสนับสนุนพัฒนา ศึกษา และให้โอกาสสร้างสรรค์แก่ผู้ด้อยโอกาส อิสระในชีวิตที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด แต่ต้องไม่เกินร้อยละสิบของรายได้ขององค์กร รายได้ขององค์กรตามวรรคหนึ่งที่ไม่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังและกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ
รายได้ขององค์กรตามวรรคหนึ่งจะต้องไม่เกินการคาดการณ์รายได้สูงสุดที่กำหนดไว้ ให้องค์กรนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา การคำนวณเงินบำรุงองค์กรตามอัตราที่กำหนดในวรรคหนึ่ง จากมูลค่าของสงฆ์ทรัพย์ให้ดังนี้
ให้กรมสรรพสามิตและกรมศุลกากรเป็นผู้เรียกเก็บเงินบำรุงองค์กรที่ต้องส่งเป็นรายได้ขององค์กร โดยส่วนที่ไม่เกินกว่าร้อยละที่รัฐมนตรีกำหนดในราชกิจจานุเบกษา แต่ต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน ทั้งนี้ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนด
เงินบำรุงองค์กร ให้ถือเป็นรายจ่าย แต่ไม่ให้นำไปรวมคำนวณเป็นมูลค่าสินค้าในการคำนวณเงินบำรุงองค์กร ให้กรมสรรพสามิตและกรมศุลกากรหักค่าใช้จ่ายในอัตราตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนด แต่ไม่เกินร้อยละหนึ่งจุดห้าของเงินบำรุงองค์กรที่เก็บได้
ในการคำนวณระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง เศษของเดือนให้นับเป็นหนึ่งเดือน
การบริหารและการดำเนินกิจการ
คณะกรรมการนโยบาย
อีกแง่คนที่สรรหาและแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นบุคคลผู้มีความรู้ ประสบการณ์ และเป็นผู้ที่มีผลงานหรือเคยปฏิบัติงานที่แสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้มีความรู้หรือความเชี่ยวชาญ ดังต่อไปนี้
ด้านการสื่อสารมวลชน จำนวนสองคน
ด้านการบริหารจัดการองค์กร จำนวนสองคน
ด้านการส่งเสริมประชาธิปไตย การพัฒนาชุมชนหรือท้องถิ่น การเรียนรู้และศึกษา การส่งเสริมและพัฒนาเด็ก เยาวชนหรือครอบครัว หรือการส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของสังคมจำนวนสองคน ให้ผู้อำนวยการเป็นเลขานุการของคณะกรรมการนโยบาย
ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ
นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
นายกสมาคมสื่อมวลชนด้านวิทยุและโทรทัศน์และวิทยุโทรทัศน์
ประธานสภาสถาบันนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย
ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน
ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ประธานสภาทนายความ
ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
นายกสภามหาวิทยาลัยของรัฐ
นายกสภามหาวิทยาลัยเอกชน
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ปลัดกระทรวงการคลัง
ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในกรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งตาม (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) (๖) (๗) (๘) (๙) หรือ (๑๐) ไม่สามารถเข้าประชุมได้ ผู้ที่ได้รับมอบหมายโดยเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายจากที่ประชุมของสภาคณะกรรมการ หรือสภานั้นขององค์กรนั้นเป็นผู้เข้าประชุมแทน ในกรณีที่ไม่มีสภาหรือกรรมการตามตำแหน่งตามวรรคหนึ่ง หรือมีแต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ภายในเวลาสามสิบวันนับแต่มีหนังสือแจ้งให้คณะกรรมการสรรหา ให้คณะกรรมการสรรหาประกอบด้วยกรรมการสรรหาที่เหลืออยู่ แต่ต้องไม่เกินจำนวนที่กำหนดไว้ กรรมการสรรหาไม่สามารถใช้สิทธิในการเสนอชื่อเป็นกรรมการนโยบาย ให้คณะกรรมการสรรหาเลือกกรรมการสรรหาคนหนึ่งเป็นประธานกรรมการสรรหา และเลือกกรรมการสรรหาอีกคนหนึ่งเป็นเลขานุการของคณะกรรมการสรรหา หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหา ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการสรรหากำหนด ทั้งนี้ต้องดำเนินการอย่างโปร่งใสและความเป็นธรรมในกระบวนการสรรหา ให้คณะกรรมการทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนการรับการเสนอชื่อในการดำเนินการสรรหา
มีสัญชาติไทย
มีอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบปีบริบูรณ์
สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ด้วยความเป็นอิสระ เป็นกลาง และสุจริต
ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
ไม่เป็นบุคคลที่เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกและต้องเข้ารับโทษโดยพ้นโทษมายังไม่ถึงห้าปีในวันที่ได้รับการเสนอชื่อ เว้นแต่ความผิดอันได้กระทำโดยประมาท
ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงหรือกระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ
ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากงาน เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในการปฏิบัติงาน
ไม่เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
ในกรณีที่คณะกรรมการสรรหาไม่สามารถคัดกรองและเลือกบุคคลผู้สมควรได้รับการเสนอชื่อได้ ให้คณะกรรมการสรรหาแจ้งรายชื่อประธานกรรมการนโยบายและกรรมการนโยบายพร้อมเหตุผลที่สมควรสนับสนุนการไม่คัดกรองและเลือกตามความเห็นชอบของบุคคลดังกล่าวอย่างชัดเจน เพื่อแจ้งไปยังคณะกรรมการนโยบาย ให้นายกรัฐมนตรีประกาศรายชื่อคณะกรรมการนโยบายในราชกิจจานุเบกษา
ไม่เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ พนักงานหรือลูกจ้างของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐ ในหน่วยงานผู้มีอำนาจอนุมัติอนุญาต
ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งในทางการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
ไม่เป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
ไม่เป็นผู้ถือหุ้น กรรมการ พนักงานในหน่วยงานอื่นของรัฐที่ประกอบกิจการวิทยุโทรทัศน์ หรือกิจการโทรคมนาคม เว้นแต่ในหน่วยงานอื่นของรัฐที่ประกอบกิจการเป็นผู้ผลิตรายการให้ผู้อื่น ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรีเป็นกรรมการนโยบายผู้ใดมีลักษณะต้องห้าม ตามวรรคหนึ่งหรือพ้นจากการเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามดังกล่าวในระหว่างที่ ผู้นั้นได้ออกจากตำแหน่งตามที่กำหนด ให้ถือว่าผู้นั้นพ้นแต่เฉพาะจากตำแหน่งกรรมการนโยบาย และให้ดำเนินการสรรหากรรมการนโยบายใหม่แทน
เมื่อครบกำหนดตามวาระดังกล่าวในวรรคหนึ่ง หากยังไม่มีแต่งตั้งกรรมการนโยบาย ขึ้นใหม่ให้กรรมการนโยบายซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระนั้น อยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่ากรรมการนโยบายซึ่งแต่งตั้งใหม่จะเข้ารับหน้าที่ กรรมการนโยบายซึ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งตามวาระจะอยู่ได้จนสิ้นวาระที่เหลือ วาระติดกันอัน
ตาย (๒) ลาออก (๓) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๙ (๔) กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๒๑ หรือมาตรา ๒๒ (๕) ต้องคำพิพากษาให้จำคุก แม้คดีนั้นจะยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดหรือมีการรอการลงโทษ เว้น แต่เป็นกรณีที่ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้รอการลงโทษโดยความผิดนั้นเกิดจากการกระทำโดยประมาท ความผิด ลหุโทษหรือความผิดฐานในระมาด เมื่อมีกรณีตามวรรคหนึ่ง ให้ดำเนินการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งแทน เว้นแต่ผู้ดำรง ตำแหน่งอยู่ไม่สามารถกลับมา และให้ปฏิบัติตามมาตรา ๑๙ มาตรา ๒๐ มาตรา ๒๑ และมาตรา ๒๒ มาใช้บังคับโดยอนุโลม และให้ถือว่าผู้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่ เหลืออยู่ของกรรมการนโยบายซึ่งตนแทน ในระหว่างดำเนินการสรรหากรรมการกรรมการนโยบายตามวรรคสอง ให้กรรมการนโยบาย เท่าที่เหลืออยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ โดยให้ถือว่าคณะกรรมการนโยบายประกอบด้วย กรรมการนโยบายเท่าที่เหลืออยู่ เว้นแต่กรรมการนโยบายจะมีเหลืออยู่ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง
กำหนดนโยบายให้แก่ฝ่ายขององค์กร
กำหนดแนวทางและให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับระเบียบของกรรมการบริหาร ผู้อำนวยการ และพนักงานให้สอดคล้องตามกรอบพระราชบัญญัติ
ให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะในการบริหารกิจการขององค์กรให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายขององค์กร
ความคุมการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารให้เป็นไปตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบาย
กำหนดให้มีการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพของรายการ
กำหนดนโยบายรับค่านิยมจริยธรรมของกรรมการบริหาร ผู้อำนวยการ ผู้บริหารขององค์กร พนักงานและลูกจ้างขององค์กร และการแก้ไข
กำกับดูแลเพื่อให้ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะและคำติชม ตลอดจนข้อร้องเรียนของประชาชนต่อองค์กร ให้สามารถตรวจสอบการดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว
กำหนดหรือเสนอแนะเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล การเงิน การงบประมาณ และทรัพย์สิน การมอบอำนาจให้คณะกรรมการบริหารดำเนินการต่าง ๆ และการดำเนินกิจการโดยทั่วไป
แต่งตั้งและถอดถอนกรรมการบริหารตามมาตรา ๓๐
แต่งตั้งและถอดถอนผู้อำนวยการตามมาตรา ๓๓
กำหนดค่าตอบแทนและประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้อำนวยการ และของผู้ทำหน้าที่ตามมาตรา ๓๖
กำหนดนโยบายค่านิยมจริยธรรมของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการผลิต และการเผยแพร่รายการขององค์กรตามมาตรา ๓๖
แต่งตั้งคณะอนุกรรมการรับและพิจารณาเรื่องร้องเรียนจากประชาชนตาม มาตรา ๕๘
จัดทำรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา และเผยแพร่ต่อสาธารณชนตามมาตรา ๕๕
ปฏิบัติการอื่นตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่น
คณะกรรมการบริหาร
ให้คณะกรรมการบริหารปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกรอบนโยบายที่ คณะกรรมการนโยบายกำหนด และมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
ควบคุมดูแลการผลิตรายการหรือการสร้างสรรค์รายการขององค์การให้เป็นไป ตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบาย
กำกับดูแลการบริหารปฏิบัติงานขององค์การให้เป็นไปตามกฎหมายหรือระเบียบ ข้อบังคับขององค์การในการที่มิให้กระทบต่อเรื่องร้องเรียนของประชาชน
จัดทำแผนการบริหารกิจการและแผนการจัดทำรายการขององค์การเสนอต่อ คณะกรรมการนโยบายเพื่อให้ความเห็นชอบ
จัดทำแผนแม่บทขององค์การ แผนพัฒนารายการ และแผนงบประมาณเสนอต่อ คณะกรรมการนโยบาย
จัดทำแผนแม่บทพัฒนาบุคลากร
ประสานกับคณะกรรมการนโยบายเพื่อการเผยแพร่
ดำเนินการอื่นใดตามที่คณะกรรมการนโยบายมอบหมาย
ผู้อำนวยการ
คณะกรรมการนโยบายเป็นผู้แต่งตั้งและถอดถอนผู้อำนวยการ หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาผู้อำนวยการให้เป็นไปตามข้อบังคับของคณะกรรมการนโยบาย ในกรณีที่ไม่มีผู้อำนวยการหรือผู้อำนวยการไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองผู้อำนวยการที่มีอาวุโสตามลำดับปฏิบัติหน้าที่แทน ถ้าไม่มีรองผู้อำนวยการ ให้คณะกรรมการนโยบายแต่งตั้งกรรมการบริหารคนหนึ่งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน
มีสัญชาติไทย
มิใช่ผู้มีไม่สามารถหรือวิกลจริต
มิใช่บุคคลล้มละลาย
มิใช่ผู้เคยถูกจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในคดีอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
มิใช่ผู้เคยถูกคำพิพากษาถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินในคดีทุจริตหรือคดีอาญาเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ราชการ
มิใช่ผู้เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรเอกชน เพราะทุจริตต่อหน้าที่
มิใช่ผู้ดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น
มิใช่ผู้ดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารหรือเจ้าหน้าที่บริหารของพรรคการเมือง
มิใช่ผู้มีส่วนได้เสียในกิจการหรือผลประโยชน์ขององค์กร หรือในกิจการที่เกี่ยวข้องแข่งขันกับกิจการขององค์กร ทั้งนี้ ไม่ให้ถือว่าการพ้นจากองค์กรเป็นการกระทำที่ขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลกับผลประโยชน์ขององค์กร หรือเป็นการกระทำที่เป็นการบริหารงานภายใน ในการบริหารกิจการขององค์กร ผู้อำนวยการต้องรับผิดชอบต่อคณะกรรมการนโยบาย
สัญญาจ้างตามวรรคหนึ่งอย่างน้อยต้องมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่ง เพื่อเน้นการทำงาน การประเมินผลการงาน การพัฒนาตำแหน่ง การเลิกจ้าง ค่าจ้าง และผลประโยชน์อื่นของผู้อำนวยการ
ตาย
ลาออก
ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๒ หรือมาตรา ๑๓ แล้วแต่กรณี
ไม่ผ่านการประเมินผลการปฏิบัติงาน
คณะกรรมการนโยบายมีมติให้ออกตามด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนคณะกรรมการนโยบายทั้งหมดในขณะนั้น มีมติให้ออกเนื่องด้วยเหตุผลซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วยหนึ่งข้อจึงเป็นสาระสำคัญ ข้อจรรยาบรรณ และข้อสนับสนุนการใช้ดุลพินิจ ทั้งนี้ในกรณีรองผู้อำนวยการ ให้ผู้อำนวยการเป็นผู้ลงนามในหนังสือออก โดยเสนอเรื่องจริงและให้เหตุผลของการถอดถอนด้วย
ถูกเลิกจ้างตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้าง
ออกระเบียบไปการบริหารกิจการขององค์กร รวมทั้งระเบียบและวิธีปฏิบัติในการบริหารกิจการขององค์กร ทั้งนี้โดยไม่ขัดหรือแย้งกับนโยบายที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด
ทำสัญญาจ้าง เลิกจ้าง เลื่อน ลด หรือตัดเงินเดือนหรือค่าจ้าง ตลอดจนลงโทษทางวินัยแก่พนักงานและลูกจ้างขององค์กรตามระเบียบที่คณะกรรมการบริหารกำหนด
แต่งตั้งพนักงานและคณะกรรมการบริหารสถานี
เพื่อการนี้ ผู้อำนวยการจะมอบอำนาจให้บุคคลใดกระทำการแทนได้ตามระเบียบที่คณะกรรมการบริหารกำหนด นิติกรรมที่ผู้อำนวยการกระทำโดยฝ่าฝืนระเบียบที่ออกตามมาตรา ๒๘ (๔) หรือมาตรา ๓๗ (๑) และ (๖) ย่อมไม่ผูกพันองค์กร เว้นแต่คณะกรรมการนโยบายหรือคณะกรรมการบริหาร แล้วแต่กรณี จะให้สัตยาบัน
ให้ผู้รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับผู้อำนวยการ
ให้ประธานกรรมการนโยบาย กรรมการนโยบาย กรรมการบริหาร ผู้อำนวยการ และรองผู้อำนวยการ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ
ข้อบังคับด้านจริยธรรมของวิชาชีพ
ข้อบังคับด้านจริยธรรมของวิชาชีพตามวรรคหนึ่ง อย่างน้อยต้องครอบคลุมเนื้อหาสาระในเรื่องดังต่อไปนี้
ความเที่ยงตรง ความเป็นกลาง และความเป็นธรรม
ความเป็นอิสระของวิชาชีพ และความรับผิดชอบต่อจรรยาบรรณ
การเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเป็นส่วนตัว และการคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคล
การคุ้มครองเด็กและเยาวชนจากรายการที่แสดงออกถึงความรุนแรง การกระทำอันผิดกฎหมายหรือศีลธรรม อนาจาร และภาษาที่หยาบคาย
การปฏิบัติต่อหญิงผู้กระทำหรือถูกกระทำซึ่งอยู่ในภาวะเศร้าหรือโศก
การรายงานแนะแนวเกี่ยวกับ การรับรางวัลหรือผลประโยชน์อื่นใดเพื่อให้เสนอข่าว หรือมีส่วนร่วมในการกระทำใดอันกระทบให้ขาดความเป็นธรรมและความเป็นอิสระของวิชาชีพ
การป้องกันและปรับปรุงแก้ไขการกระทำอันไม่เหมาะสมดังกล่าว ให้คณะกรรมการปฏิบัติและเผยแพร่ข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมที่ดีทางวิชาชีพสวรรค์นี้ต่อสาธารณชน
การเผยแพร่รายการ
ข่าวสารที่มีผลกระทบต่อสาธารณะซึ่งเสนออย่างเที่ยงตรง รอบคอบ ทันต่อเหตุการณ์รอบด้าน และเป็นธรรม ไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลหรือผู้มีส่วนและเกี่ยวข้อง
รายการที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอภิปรายหรือแสดงความคิดเห็นซึ่งจะเป็นที่เกี่ยวข้องต่อสาธารณะหรือแสดงความคิดเห็นแตกต่างกันในสังคม บนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้อง มีสมดุลของความคิดเห็นแตกต่าง ๆ และการเคารพต่อข้อคิดเห็น
รายการที่ส่งเสริมการศึกษาในวิทยาการสาขาต่าง ๆ และการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนอย่างเพียงพอ โดยคำนึงถึงเวลาที่สะดวกต่อการรับชมและรับฟัง
รายการกีฬา นันทนาการ และรายการที่ส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชน
รายการที่ส่งเสริมเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และความสมานฉันท์ในสังคม ตลอดจนสนับสนุนให้ผู้ด้อยโอกาสในสังคมมีโอกาสแสดงความคิดเห็นหรือเข้าเสนอข้อมูลของตน
รายการบันเทิงที่สร้างสรรค์ ส่งเสริมคุณค่าที่ดีงามของสังคม หรือยกระดับสุนทรียภาพของประชาชน
รายการที่เป็นการสนับสนุนผู้ผลิตรายการอิสระ ซึ่งต้องจัดสรรเวลาให้อย่างเพียงพอ การจัดทำผังรายการเป็นอำนาจขององค์กร และต้องไม่ลักลอบเพื่อเอื้อประโยชน์หรือตอบแทนในเชิงพาณิชย์ ผู้อำนวยการต้องจัดทำผังรายการเสนอคณะกรรมการวิทยุเพื่ออนุมัติทุกสามเดือน ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงผังรายการอย่างมีนัยสำคัญ ให้ผู้อำนวยการจัดทำผังรายการที่มีการเปลี่ยนแปลงต่อคณะกรรมการวิทยุเพื่ออนุมัติ ในการจัดทำรายการตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการนโยบายกำหนดมาตรการโดยรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บริการที่เหมาะสมในการส่งเสริมให้คนพิการสามารถเข้าถึงหรือใช้ประโยชน์จากการตรวจสอบสิทธิและกิจการโทรทัศน์ขององค์กรได้
สถาบันชุมชนและผู้ทรงการ และการรับเรื่องร้องเรียน
กระบวนการพิจารณาเรื่องร้องเรียนของคณะกรรมการตามวรรคหนึ่งต้องครอบคลุมถึงวิธีการแก้ไขข้อบกพร่องในการผลิตหรือการจัดรายการที่ขัดต่อข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมของวิชาชีพ รวมทั้งมีมาตรการแก้ไขข้อขัดแย้ง สิทธิการโต้แย้ง และการอุทธรณ์ในกรณีที่เกิดความผิดพลาดในการพิจารณาเรื่องร้องเรียนดังกล่าว การร้องเรียนตามมาตรานี้ไม่กระทบต่อสิทธิของผู้ร้องเรียนหรือผู้ถูกร้องเรียนในการที่จะใช้ช่องทางอื่นตามกฎหมายเพื่อแก้ไขหรือเยียวยาความเสียหายที่เกิดจากเรื่องร้องเรียนนั้น
เมื่อรายการใดที่เป็นเหตุให้เกิดการณีพิพาทหรือข้อร้องเรียน ให้องค์กรเก็บบันทึกต้นฉบับของรายการนั้นไว้นานกว่าระยะเวลาดังกล่าวจนเสร็จสิ้น
การบัญชี การตรวจสอบ และการประเมินผล
ในการตรวจสอบรายปี ให้องค์กรแต่งตั้งพนักงานเพื่อทำหน้าที่ผู้ตรวจสอบภายในโดยเฉพาะ และให้ประสานงานกับคณะกรรมการการเงินตามระเบียบที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด
ให้องค์กรจัดทำรายงานผลการดำเนินงานประจำปีซึ่งต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับงบการเงิน รายการจ่ายเงินและทรัพย์สินขององค์กร ในรายงานผลการสอบบัญชีให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอาคาระว่าการใช้งบดังกล่าวเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ประหยัด คุ้มค่าและได้ผลตามเป้าหมายเพียงใด แล้วทำบันทึกรายงานผลการสอบบัญชีต่อคณะกรรมการนโยบาย ให้คณะกรรมการนโยบายประสานงานกับสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินอย่างสม่ำเสมอเกี่ยวกับแนวทางการตรวจสอบและการปรับปรุงกิจกรรมเพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์มาตรฐานที่เกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดิน
การประเมินผลการดำเนินงานจะต้องเปิดเผยจริงใจว่า ผู้ที่ไม่ผ่านประสิทธิผลในด้านประสิทธิภาพ ในด้านการพัฒนาขององค์กร ในด้านการสนับสนุนการระดมทุน และความมีส่วนร่วมของสาธารณชนในกิจกรรม และในรายละเอียดย่อที่ตามที่คณะกรรมการนโยบายจะได้กำหนดเพิ่มเติมขึ้น
การตรวจสอบและควบคุม
รายงานตามวรรคหนึ่งอย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการดำเนินการตามมาตรา ๕๔ และผลการดำเนินการในปีที่ผ่านมา ดังต่อไปนี้
โครงการ แผนงาน และงบประมาณรายจ่ายที่ได้รับการอนุมัติ
ผลรายงานการประเมินผลส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน
ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่องค์กรเป็นผู้จ้างหรือที่อยู่ในความควบคุมโดยตรงหรือโดยอ้อมและข้อมูลของบุคคลที่องค์กรเข้าร่วมกิจกรรมหรือร่วมลงทุน
รายการเกี่ยวกับการให้หรือสนับสนุนการตัดแต่งผลิตรายการวิทยุ วิธีนำเสนอผลิตรายการ พร้อมข้อมูลผู้ผลิตรายการเหล่านั้น และรายละเอียดในการเผยแพร่รายการที่สนับสนุน
ความคิดเห็นที่ได้รับจากสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการตามมาตรา ๕๔ และจากประชาชนทั่วไปและการปรับปรุงที่ดำเนินการตามความคิดเห็นที่ได้รับ
ข้อมูลหรือเรื่องร้องเรียนจากผู้ชมและผู้ฟังรายการ และผลและวิธีการแก้ไข
บทกำหนดโทษ
บทเฉพาะกาล
ให้คณะกรรมการที่ปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการนโยบายตามพระราชบัญญัตินี้ และให้ผู้ซึ่งทำหน้าที่ผู้อำนวยการในเวลาที่ก่อนกฎหมายนี้มีผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้หน้ามาตรา ๒๐ มาใช้บังคับ ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการตามพระราชบัญญัตินี้ และปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ประธานกรรมการมอบหมายไปจนกว่าคณะกรรมการตามพระราชบัญญัตินี้จะจัดตั้งสำนักงานของตนเองเพื่อปฏิบัติหน้าที่ดังนี้
การสรรหาผู้อำนวยการตามมาตรา ๔๔ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่คณะกรรมการนโยบายได้รับการแต่งตั้ง
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ในปัจจุบันองค์กรควรให้มีองค์การสื่อสารสารสนเทศที่เป็นผู้นำในการผลิตและสร้างสรรค์สาระการข่าวสารสาธารณะเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะและส่วนรวม โดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อส่งเสริมให้การให้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำและมีคุณสมบัติของการเรียนรู้ของประชาชนทุกกลุ่มให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมทั้งพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในประเทศ และสร้างความสัมพันธ์ให้แก่คนในสังคมเป็นแบบแผนส่งเสริมความร่วมมือของบริการข่าวสารสาธารณะและองค์กรในรูปแบบของการบริหารงานในทางวิทยาการต่างๆ ตามธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของชาติที่ส่งเสริมให้คนในชาติมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและเคารพในความแตกต่างของวัฒนธรรม และท้องถิ่นของตนเอง และกระตุ้นและส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ การผลิตรายการของผู้ผลิตรายการอิสระ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัตินี้ให้แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวกับความรับผิดในทางอาญาของผู้แทนนิติบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ศาสนาธรรมบัญญัติได้กำหนดไว้ว่าพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติมเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติอันเกี่ยวกับการกระทำความผิดของนิติบุคคลนั้น ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๖ วรรคสอง เป็นอันใช้บังคับไม่ได้ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒ และต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยโดยไม่กล่าวถึงกฎหมายดังกล่าวว่าไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๖ วรรคสอง ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งและปัญหาทางกฎหมายที่มีบทบัญญัติในลักษณะเดียวกันให้ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๔/ตอนที่ ๑๓ ก/หน้า ๑๐/๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ปิฎกุลนิษฐ์/แก้ไข ศศิ/ตรวจ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๘ พรวิภา/เพิ่มเติม ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ พจนา/ตรวจ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐