ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. เป็นปีที่ ๗๐ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๘
โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ
บทบัญญัติของกฎหมายหรือกฎใดที่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้แทน
"เจ้าหน้าที่" หมายความว่า เจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง "อนุญาต" หมายความว่า การที่เจ้าหน้าที่ซึ่งมอบให้บุคคลใดกระทำการอย่างใดที่กฎหมายกำหนดให้ต้องได้รับความยินยอมก่อนกระทำการนั้น และให้หมายความรวมถึงการออกใบอนุญาต การอนุมัติ การจดทะเบียน การขึ้นทะเบียน การรับแจ้ง การให้ประกาศนียบัตรและการให้อาชญาบัตรด้วย "ผู้อนุญาต" หมายความว่า ผู้ซึ่งกฎหมายกำหนดให้มีอำนาจในการอนุญาต "พนักงานเจ้าหน้าที่" หมายความว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการอนุญาต "กฎหมายว่าด้วยการอนุญาต" หมายความว่า บรรดากฎหมายที่มีบทบัญญัติกำหนดให้การดำเนินการใดหรือการประกอบกิจการใดจะต้องได้รับอนุญาตก่อนจึงจะดำเนินการได้ "คำขอ" หมายความว่า คำขออนุญาต
รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี
การพิจารณาพิพากษาคดีของศาลและการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ในกระบวนการพิจารณาคดี การจับกุม การค้น หรือการยึดทรัพย์
การอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาคดีและการสอบสวน
การอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
การอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการทางทหารทางยุทธการ รวมทั้งตามกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมยุทธภัณฑ์ และกฎหมายว่าด้วยโรงงานผลิตอาวุธของกองทัพ การยกเว้นไม่ให้นำบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้มาใช้บังคับในการดำเนินกิจการใดหรือกับหน่วยงานใดนอกจากที่กำหนดไว้ในวรรคหนึ่ง ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
ให้ผู้อนุญาตเสนอผลการพิจารณาต่อรัฐมนตรีที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรีหรือจัดให้มีมาตรการอื่นแทนกฎหมาย ในกรณีที่เห็นว่าควรปรับปรุงกฎหมายหรือจัดให้มีมาตรการอื่นแทนกฎหมายดังกล่าว โดยให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเสนอผลการพิจารณาต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับผลการพิจารณา
ขั้นตอนและระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาตและรายการเอกสารหรือหลักฐานที่ผู้ขออนุญาตจะต้องยื่นมาพร้อมคำขอ และจะกำหนดให้ส่งคำขอผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์แทนการยื่นคำขอด้วยตนเองก็ได้ คู่มือสำหรับประชาชนตามมาตรฐานที่ให้ไว้ในประเทศใด ณ สถานที่ที่กำหนดให้ยื่นคำขอ และเผยแพร่ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และเมื่อมีประชาชนประสงค์จะได้สำเนาคู่มือดังกล่าว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำให้ โดยจะคิดค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นก็ได้ ในกรณีเช่นนั้นให้ระบุค่าใช้จ่ายดังกล่าวไว้ในคู่มือสำหรับประชาชนด้วย ให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการตรวจสอบขั้นตอนและระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาตที่กำหนดตามวรรคหนึ่งว่าเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมตามหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีหรือไม่ ในกรณีที่เห็นว่าขั้นตอนและระยะเวลาที่กำหนดดังกล่าวข้างต้นไม่เหมาะสมควรให้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและสั่งการให้ผู้ออกกฎหมายดำเนินการแก้ไขให้เหมาะสมโดยเร็ว เพื่อประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ให้ส่วนราชการจัดให้มีศูนย์บริการร่วมเพื่อรับคำขอและแจ้งเรื่องราวร้องทุกข์ การอุทธรณ์คำสั่ง หรือให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการอนุญาตได้ ณ ที่เดียวกันกับแนวทางที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการกำหนด
ผู้ยื่นคำขออาจอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อคณะกรรมการฯ ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองหรือยื่นคำขอใหม่ได้ แต่ในกรณีที่ผู้ยื่นคำขอไม่ยื่นคำขอใหม่ภายในระยะเวลาที่กำหนด ผู้ยื่นคำขอจะต้องดำเนินการใหม่ในระยะเวลาที่กำหนดไว้สำหรับประชาชนตามมาตรา 6
เมื่อครบกำหนดเวลาตามที่ระบุไว้ในคู่มือสำหรับประชาชนตามมาตรา 6 แล้ว หากผู้อนุญาตยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ ให้แจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ยื่นคำขอทราบถึงเหตุแห่งความล่าช้าภายในเจ็ดวันนับจากวันที่ครบกำหนดแล้วเสร็จ พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาที่จะพิจารณาให้แล้วเสร็จต่อไป ในกรณีที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นกรณีที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง การขาดประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการของหน่วยงานของผู้อนุญาต ให้คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการรายงานต่อคณะรัฐมนตรีพร้อมให้เสนอแนะเพื่อให้การพัฒนาหรือปรับปรุงหน่วยงานหรือระบบการปฏิบัติราชการของหน่วยงานนั้น
ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตที่ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตนั้นไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง ให้ถือว่าผู้รับใบอนุญาตนั้นไม่มีสิทธิประกอบกิจการหรือดำเนินการตามใบอนุญาตนั้นตั้งแต่วันที่ครบกำหนดอายุใบอนุญาตโดยเร็ว และให้เพิกถอนใบอนุญาตดังกล่าวในกรณีที่ใบอนุญาตตามกฎหมายอื่น ๆ แล้ว การกำหนดให้รับใบอนุญาตซึ่งระยะกรรมเนียมต่ออายุใบอนุญาตแทนการอื่นๆ ต่ออายุใบอนุญาตตามวรรคหนึ่งให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวให้ระบุชื่อพระราชบัญญัติและประเภทของใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติดังกล่าวที่ผู้ขอใบอนุญาตตามดำเนินการตามวรรคหนึ่งได้ ก่อนตราพระราชกฤษฎีกาตามวรรคสอง ให้คณะรัฐมนตรีส่งร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวให้สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสามสิบวัน เมื่อพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวแล้วหากสภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภาไม่มีมติทักท้วง ให้ถือว่าการรับฟังความคิดเห็นของสภาผู้แทนราษฎรดังกล่าวต่อไป ให้เป็นหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการที่จะทำหรือดำเนินการเกี่ยวข้องกับการออกใบอนุญาต เพื่อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในการดำเนินการตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง
เมื่อมีมติให้มีความผิดหรือร้องทุกข์ หรือมีผลยกเลิกการประกอบกิจการหรือการดำเนินการของผู้ได้รับอนุญาต ไม่ว่าความสะดวกของพนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้อนุญาตจะมีหรือไม่ ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่และผู้อนุญาตที่จะต้องตรวจสอบตามหลักเกณฑ์และแนวทางดังกล่าว ให้ศูนย์รับคำขออนุญาตตามวรรคหนึ่งมีฐานะเป็นส่วนราชการตามมาตรา 4 วรรคสี่แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 โดยอยู่ในสังกัดสำนักงานคณะรัฐมนตรี และจะไม่มีสาขาของศูนย์ประจำกระทรวงหรือประจำจังหวัดด้วยก็ได้ การจัดตั้งศูนย์รับคำขออนุญาตตามวรรคหนึ่งให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา ในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวให้กำหนดรายชื่อกฎหมายว่าด้วยการอนุญาตที่จะให้อยู่ภายใต้การดำเนินการของศูนย์รับคำขออนุญาตนั้น ในการดำเนินการเกี่ยวกับการรับคำขอ จะกำหนดในพระราชกฤษฎีกาที่ให้อยู่กับคำขอผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ก็ได้
(1) ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการอนุญาตหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนดให้ต้องยื่นคำขอ หรือส่งเอกสารหรือหลักฐาน หรือคำร้องเรียนใน ณ สถานที่ใด ให้ถือว่าการยื่นคำขอ หรือส่ง เอกสารหรือหลักฐาน หรือค่าธรรมเนียม ณ ศูนย์รับคำขออนุญาตแล้ว ให้ถือว่าได้มีการยื่นคำขอ หรือส่งเอกสารหรือหลักฐาน หรือค่าธรรมเนียมโดยชอบตามกฎหมายว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในเรื่องการอนุญาตนั้นแล้ว (6) บรรจุเงินค่าธรรมเนียมหรือเงินอื่นใดที่ศูนย์รับคำขออนุญาตได้รับไว้ตาม (5) ให้ศูนย์รับคำขออนุญาตส่งต่อเป็นลำดับไปตามลำดับในหน่วยงานของผู้อนุญาต หรือส่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แล้วแต่กรณี และแจ้งให้หน่วยงานของผู้อนุญาต ในกรณีที่หน่วยงานของผู้อนุญาตมีสิทธิหักค่าใช้จ่ายจากเงินที่ต้องนำส่งคลัง ให้ศูนย์รับคำขออนุญาตหักเงินดังกล่าวแทนและส่งมอบเงินที่เหลือในวันที่นำส่งเงินมายังผู้อนุญาต โดยให้ศูนย์รับคำขออนุญาตทำหลักฐานการส่งมอบเงินให้ศูนย์รับคำขออนุญาตตามต้องที่จัดทำหลักฐานของผู้อนุญาต (7) ระยะเวลาตามมาตรา 10 ให้นับแต่วันที่ศูนย์รับคำขออนุญาตส่งเรื่องให้ผู้อนุญาต โดยศูนย์รับคำขออนุญาตจะต้องส่งเรื่องให้ผู้อนุญาตไม่ช้ากว่าสามวันทำการและให้นำมาตรา 10 วรรคสี่มาใช้บังคับโดยอนุโลม (8) ให้เป็นหน้าที่ของผู้อนุญาตที่จะต้องส่งข้อมูลหรือประชาสัมพันธ์ตามมาตรา 7 ที่ศูนย์รับคำขออนุญาต และเป็นปัจจุบันให้ศูนย์รับคำขออนุญาตตามจำนวนที่จำเป็น และดำเนินการให้มีการกำกับควบคุมแก้ไขหน้าที่ของศูนย์รับคำขออนุญาต เพื่อให้ศูนย์รับคำขออนุญาตปฏิบัติหน้าที่ต่อ (9) ให้เป็นหน้าที่ของผู้อนุญาตที่จะต้องจัดให้มีการตรวจสอบและจัดให้มีการทดสอบมาตรา 8 และจัดให้มีการตรวจสอบในกรณีที่มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของศูนย์รับคำขออนุญาต
(1) รับคำขอและจัดการรมเนียม รวมตลอดทั้งค่าอากรแสตมป์ ตามกฎหมายว่าด้วยการอนุญาต (2) ให้ข้อมูล ชี้แจง และแนะนำผู้ยื่นคำขอหรือประชาชนในเรื่องการขอรับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต รวมตลอดทั้งความจำเป็นในการยื่นคำขออื่นใดที่จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการอนุญาตทั้งปวง ในการประกอบกิจการหรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด (3) ส่งคำขอ หรือคำคู่กรณี ที่ได้รับจากผู้ยื่นคำขอหรือผู้มีส่วนได้เสียคำคู่กรณีพร้อมทั้งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และตอบติดตามเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด และผู้มีส่วนได้เสียปรับปรุงแก้ไขตามความเหมาะสมหรือกฎหมายที่ให้สิทธิในการอุทธรณ์ (4) ในกรณีที่มีหลักเกณฑ์หรือวิธีการในการยื่นคำขอ มีรายละเอียดหรือกำหนดให้ต้องส่งเอกสารที่เป็นปัจจุบัน หรือเป็นการสมควรแก่ประชาชน ให้เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องตามที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีการปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมต่อไป (b) เสนอแนะในการพัฒนาหรือปรับปรุงกระบวนการ ขั้นตอน ระยะเวลา เกี่ยวกับการอนุญาตต่าง ๆ รวมถึงข้อเสนอในการออกกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่งทางหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับการอนุญาตเพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกมากขึ้น
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ปัจจุบันมีกฎหมายว่าด้วยการอนุญาต จำนวนมาก การประกอบกิจการของประชาชนจะต้องขออนุญาตจากส่วนราชการหลายแห่ง อีกทั้งกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตบางฉบับไม่ได้กำหนดระยะเวลา เอกสารและหลักฐานที่จำเป็น รวมถึงขั้นตอน ในการพิจารณาไว้ทำให้เป็นอุปสรรคต่อประชาชนในการยื่นคำขออนุญาตดำเนินการต่าง ๆ ดังนั้น เพื่อให้มีกฎหมายกลางกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการอนุญาต และมีการจัดตั้งศูนย์บริการรวม เพื่อรับคำร้องและรับเรื่องคำขออนุญาต ณ จุดเดียว เพื่อให้ประชาชนที่ต้องเกี่ยวข้องกับการอนุญาตซึ่งจะเป็น การอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้