로고

การรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๔๘๔ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๔ เป็นปีที่ ๕๖ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้กฎหมายว่าด้วยการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอม ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้

มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่าง

ประเทศ พ.ศ. ๒๔๘๔”

มาตรา ๒* พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศ

ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้

“การรับขนทางอากาศ” หมายความว่า การรับขนคนโดยสาร สัมภาระ หรือของ ทางอากาศโดยอากาศยาน “การรับขนทางอากาศระหว่างประเทศที่อยู่ภายใต้อนุสัญญา” หมายความว่า การ รับขนทางอากาศระหว่างประเทศตามอนุสัญญา ๔ วรรคสุดท้าย ซึ่งดำเนินทางและสิ้นสุดภายในเขต ภายในอาณาเขตของรัฐภาคี “การรับขนทางอากาศภายในประเทศ” หมายความว่า การรับขนคนโดยสาร สัมภาระ หรือของทางอากาศโดยอากาศยาน ซึ่งสัญญาตกลงให้เดินทางและถึงเป้าหมายทั้งอยู่ใน อาณาเขตของประเทศเดียวกัน และไม่มีเส้นทางที่พักกลางทางล้ำออกนอกประเทศ * อ้างถึงราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๘/ตอนที่ ๑๐ ก/หน้า ๑๐/๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๔ ** พระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ พระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔

มาตรา ๑ ยกเลิกคำว่า “การรับขนทางอากาศภายในประเทศ” แต่ให้แก้ไขเพิ่มเติม

พระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ "คนโดยสาร" หมายความว่า บุคคลซึ่งผู้ขนส่งยอมรับให้เดินทางไปกับอากาศยานที่มีใบสำคัญที่นั่งประจำอากาศยาน "สัมภาระ" หมายความว่า สัมภาระลงทะเบียนและสัมภาระไม่ลงทะเบียน "สัมภาระลงทะเบียน" หมายความว่า สัมภาระที่อยู่ในความดูแลของผู้ขนส่งและผู้ขนส่งได้ออกใบกำกับสัมภาระ "สัมภาระไม่ลงทะเบียน" หมายความว่า สัมภาระที่อยู่ในความดูแลของคนโดยสารนอกจากสัมภาระลงทะเบียน "ของ" หมายความว่า สิ่งรวมถึงทรัพย์ที่ผู้ส่งส่งมอบให้ผู้อื่นในความดูแลของผู้ขนส่งเพื่อทำการขนทางอากาศ "อากาศยาน" หมายความว่า อากาศยานตามกฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ "ผู้ขนส่ง" หมายความว่า บุคคลซึ่งประกอบการรับขนทางอากาศเพื่อบำเหน็จเป็นทางค้าปกติไม่ว่าจะเป็นผู้ส่งเสริมสัญญาหรือผู้อยู่ในสัญญาความเป็นจริง และให้หมายความรวมถึงบุคคลซึ่งรับช่วงคนโดยสาร สัมภาระ หรือของทางอากาศโดยคำยินยอม "ผู้ส่งมอบสัมภาระ" หมายความว่า ผู้ส่งมอบสัมภาระซึ่งเป็นผู้เดินทางทางอากาศกับคนโดยสารผู้ตราส่ง หรือบุคคลซึ่งกระทำการในนามของคนโดยสารหรือผู้ตราส่ง "ผู้ส่งมอบตามใบตราส่ง" หมายความว่า ผู้ส่งมอบซึ่งส่งมอบของให้แก่ผู้รับขนทางอากาศตลอดเส้นทางหรือบางส่วนของเส้นทางขนส่งทางอากาศ "ผู้ตราส่ง" หมายความว่า บุคคลซึ่งเป็นผู้ส่งมอบของให้แก่ผู้รับขนส่งตามสัญญาขนส่งทางอากาศ "ผู้รับตราส่ง" หมายความว่า บุคคลซึ่งมีชื่อปรากฏเป็นผู้รับตราส่งในใบตราส่งสินค้าทางอากาศ หรือผู้ซึ่งได้รับของในฐานะผู้รับตราส่งโดยได้รับมอบอำนาจจากผู้ตราส่งหรือใบรับของ แล้วแต่กรณี "ลูกจ้าง" หมายความว่า บุคคลซึ่งทำงานให้แก่ผู้ขนส่ง ไม่ว่าจะมีการรับสินจ้างหรือไม่ก็ตาม "หน่วยสิทธิพิเศษถอนเงิน" หมายความว่า หน่วยสิทธิพิเศษถอนเงินตามกฎหมายว่าด้วยการให้ยืมและการปฏิบัติบางประการเกี่ยวกับสิทธิพิเศษถอนเงินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ "อนุสัญญา" หมายความว่า อนุสัญญาว่าด้วยการรวบรวมกฎเกณฑ์บางประการเกี่ยวกับการรับขนระหว่างประเทศทางอากาศ ซึ่งทำขึ้น ณ เมืองมอนทรีออล เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2542 "รัฐภาคี" หมายความว่า รัฐภาคีของอนุสัญญา

มาตรา 4 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับกับการรับขนทางอากาศเพื่อบำเหน็จรางวัลรวมถึงการรับขนทางอากาศแบบไม่ให้บำเหน็จที่ทำการโดยบุคคลซึ่งประกอบการรับขนทางอากาศ

*มาตรา 4 เดิมในคำว่า "อนุสัญญา" เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 *มาตรา 4 เดิมในคำว่า "รัฐภาคี" เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 เพื่อบำเพ็ญเป็นทางหลักปัดต้วย ไม่ว่าการรับจำนั้นจะเป็นการรับจากการระหว่างประเทศหรือ การรับเข้ามาจากการระหว่างประเทศที่อยู่ภายในเขตอธิปไตย การรับเข้ามาจากการระหว่างประเทศตามวรรคหนึ่ง หมายความว่า การรับเข้ามาจาก อากาศซึ่งมาจากนอกเขตพระราชอาณาจักรสู่ภูมิอากาศให้เดินผ่านและกลับมายังเขต ด้วยอยู่ภายในเขต ของสองประเทศ หรือยังอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศใดประเทศหนึ่งที่มีเขตติดต่อกันในอาณา อากาศของสองประเทศนั้น ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีการหยุดพักในระหว่างเส้นทางหรือมิได้หยุดพัก การรับเข้ามาดังกล่าวในกรณีที่มีหลายคนหลายตอนต่อเนื่องกัน ให้ถือว่าเป็นการ รับคนเดียวโดยไม่แบ่งแยก ถ้าการรับเข้ามาดังกล่าวได้กระทำในลักษณะดังกล่าว ให้ถือว่าได้ตกลงกัน ในรูปของสัญญาอนุมัติหรือสัญญาใบอนุญาต และอยู่ในลักษณะของการรับเข้ามาจากการระหว่าง ประเทศเพียงพระราชอาณาจักรต้องดำเนินการทั้งหมดภายในอาณาเขตของประเทศเดียวกันตาม สัญญาอนุมัติหรือสัญญาใบอนุญาต พระราชบัญญัตินี้ไม่ใช้บังคับแก่การรับเข้ามาจากการที่ดำเนินการโดยบุคคลอื่น ที่มิใช่ผู้มีอำนาจสัญญาอนุมัติหรือใบอนุญาตที่กำหนดในหมวด ๔ ตราบใด พระราชบัญญัตินี้ไม่ใช้บังคับแก่การรับเข้ามาดังกล่าวโดยเรือหรือพาหนะของรัฐ ที่มิใช่เพื่อคงกฎหมาย การรับเข้ามานั้นเป็นการรับเข้ามาจากการระหว่างประเทศที่อยู่ภายในเขตอธิปไตย

มาตรา ๔ พระราชบัญญัตินี้ไม่ใช้บังคับ

(ก) การรับเข้ามาจากอากาศที่มิใช่การระหว่างประเทศ ซึ่งผู้รับต้องดำเนินการเพื่อการต่อหน่วยงานการ ไปประเทศอื่นตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการเดินทางอากาศหรือการขนส่งทางอากาศไปประเทศอื่น (ข) การรับเข้ามาจากอากาศที่มิใช่การระหว่างประเทศ โดยผ่านเขตอากาศของรัฐ ภาระหน้าที่ซึ่งไม่ใช่เรื่องของการขนส่งทางอากาศ (ค) การรับเข้ามาจากอากาศในราชการทหาร โดยอากาศยานที่จดทะเบียนตาม กฎหมายว่าด้วยการเดินทางอากาศ หรืออากาศยานที่เข้ามาเพื่อใช้ในราชการทหาร ซึ่งราชการทั้งหมดของ อากาศยานนั้นได้ลงนามไว้โดยหรือในนามของราชการทหารดังกล่าว หากกรณีตาม (๒) และ (๓) เป็นการรับเข้ามาจากการระหว่างประเทศที่อยู่ภายใต้ อนุสัญญา พระราชบัญญัตินี้ไม่ใช้บังคับจนกว่าจะได้รับการยืนยันโดยทำเป็นเสมือนแจ้งและเก็บ รักษาอนุสัญญานั้นที่กำหนดในอนุสัญญาแล้ว

มาตรา ๕ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับเข้ามาจากอากาศคนใด เข้าใน หรือออกไปนอก

ราชอาณาจักรต้องดำเนินการประกันสำหรับความรับผิดของผู้ต้องหาตามพระราชบัญญัติ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการประกันดังกล่าวให้เป็นไปตามที่ กำหนดในกฎกระทรวง การประกันความรับผิดดังกล่าวให้ผู้มีอำนาจสั่งการดำเนินการหรือแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำนวยให้ผู้เกี่ยวข้องส่งแผนหลักฐานการประกัน * มาตรา ๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการรับเข้ามาจากการระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ * มาตรา ๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการรับเข้ามาจากการระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ ในกรณีที่มีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในการอนุญาตให้เดินทางออกจากด่านพรมแดนระหว่างประเทศระงับการเดินทางรับบุคคลที่มีอาการภายใน เข้าภายใน หรือออกไปนอกราชอาณาจักร จนกว่าผู้นั้นจะได้ดำเนินการตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง แล้วแต่กรณี

มาตรา ๗ เกณฑ์จำกัดความรับผิดของผู้แจ้งตามพระราชบัญญัตินี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา

มาตรา ๗/๑ บัญญัติตามมาตรา ๙ มาตรา ๒๔ มาตรา ๒๕ มาตรา ๒๗ และมาตรา ๒๘ ที่เกี่ยวกับเอกสารการรับแจ้ง ไม่ใช้บังคับกับการรับแจ้งที่กระทำโดยการรับแจ้งทางอิเล็กทรอนิกส์ของธุรกิจของผู้แจ้งส่งรายนั้น

มาตรา ๗/๒ ผู้แจ้งส่งอาจกำหนดให้ลายมือชื่อรับรองในเอกสารที่จัดความรับผิดสูงกว่า ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ หรือไม่แสดงลายมือชื่อดังกล่าวรับผิดได้

มาตรา ๗/๓ ในการรับเอกสารจากผู้แจ้งส่งอาจปฏิเสธไม่ทำลายลายมือชื่อรับรองฉบับใด ๆ หรือรายละเอียดอื่น ๆ หรือจะกำหนดเงื่อนไขอื่นไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้ก็ได้

มาตรา ๗/๔ ข้อกำหนดใด ๆ ที่มีอยู่ในลายมือชื่อรับรองและความตกลงที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีผลใช้บังคับต่อความเสียหายใด ๆ โดยผู้แจ้งส่งอาจไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ ที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดกฎหมายเกี่ยวข้องใช้บังคับหรือการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับข้อตกลงก็ตาม ย่อมเป็นโมฆะ

มาตรา ๗/๕ วันตามพระราชบัญญัตินี้หมายถึงวันติดต่อตามปฏิทิน

มาตรา ๒ วรรคสาม แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการรับแจ้งทางพาณิชย์ระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐

- มาตรา ๙ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการรับแจ้งทางพาณิชย์ระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ - มาตรา ๒๔ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการรับแจ้งทางพาณิชย์ระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ - มาตรา ๒๕ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการรับแจ้งทางพาณิชย์ระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ - มาตรา ๒๗ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการรับแจ้งทางพาณิชย์ระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ - มาตรา ๒๘ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการรับแจ้งทางพาณิชย์ระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐

มาตรา 8 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้และให้อำนาจออกกฎกระทรวงเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้

กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้

หมวด 3

การรับคนโดยสารและสัมภาระ

มาตรา 9 ในการรับคนโดยสาร ให้มีการสมบูรณ์เอกสารการรับคนซึ่งอย่างน้อยต้องมีรายการ ดังต่อไปนี้

1

ข้อความแสดงสิทธิเดินทางและถึงปลายทาง

2

ข้อความแสดงสิทธิถึงเหตุที่พนักงานไม่อยู่ในรถนั้นแต่ในกรณีที่มีสิทธิเดินทางและถึงปลายทางอยู่ในอาณาเขตของประเทศเดียวกัน แต่มีสิทธิถึงเหตุที่พนักงานอยู่ในอาณาเขตของอีกประเทศหนึ่ง วิธีการใช้ข้อมูลตามรายการที่ในวรรคหนึ่งอาจให้แทนการสมบูรณ์เอกสารการรับคนได้ ถ้าการใช้วิธีนี้จะไม่ทำให้ผู้สมบูรณ์เอกสารมีเอกสารที่แสดงข้อมูลที่จำเป็นให้แก่คนโดยสาร ให้ผู้สมบูรณ์เอกสารปฏิบัติตามที่กำหนดในกฎกระทรวง โดยสาร ให้มีการแสดงข้อความที่คนโดยสารทราบว่าข้อความดังกล่าวคือข้อความซึ่งส่งในกรณีคนโดยสารที่เดินทางภายใต้สิทธิได้รับบาดเจ็บ กรณีสมบูรณ์กาย สุขภาพ หรือเสียหาย และกรณีสมบูรณ์ทรัพย์สิน การไม่ปฏิบัติตามมาตรานี้ไม่กระทบต่อความมีอยู่หรือความสมบูรณ์ของสัญญารับขนทางอากาศและสัญญานั้นยังอยู่ภายใต้บังคับแห่งพระราชบัญญัตินี้

มาตรา 10 ผู้ส่งมอบซึ่งรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่คนโดยสารถึงแก่ความตายหรือได้รับบาดเจ็บจากการขนส่ง โดยสิ่งใดในอำนาจผู้ขนส่งให้เกิดความตายหรือบาดเจ็บเกิดขึ้นในทางอากาศหรือในระหว่างการดำเนินการให้คนโดยสารขึ้นหรือจากทางอากาศ

มาตรา 11 ผู้ส่งมอบซึ่งรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่สัมภาระลงทะเบียนถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหาย โดยมีเงื่อนไขในเหตุการณ์ที่เกิดจากการสูญหาย สูญหาย หรือเสียหายที่เป็นอากาศยาน หรือในช่วงเวลาที่สัมภาระทะยานขึ้นในพื้นที่ที่ผู้ส่งมอบมีอำนาจควบคุม เว้นแต่ความเสียหายนั้นเป็นผลมาจากธรรมชาติของสัมภาระ หรือการละเลยจากเพ่งสัมภาระลงทะเบียนนั้น

ผู้ส่งมอบซึ่งรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสัมภาระที่มิได้ลงทะเบียน รวมถึงสิ่งของส่วนตัวที่คนโดยสารนำติดตัวไปอนาคตข้างหน้า หากความเสียหายเป็นผลมาจากความผิดของผู้ขนส่ง หรือลูกจ้างหรือคนของผู้ขนส่ง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ถ้าผู้ขนส่งยอมรับการสูญหายของสัมภาระลงทะเบียน หรือถ้าสัมภาระลงทะเบียนยังมาไม่ถึงมือเจ้าพนักงานที่ส่งคืนยังจุดหมายที่สัมภาระลงทะเบียนนั้นควรจะมาถึง คนโดยสารอาจขอรับชดเชยจากผู้ขนส่งซึ่งสิทธิหรือหลายอย่างในตั๋วผู้โดยสารขนจากจุดหมายจากคนนั้นได้

มาตรา ๑๒ ผู้ขนส่งต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการล่าช้าในการรับขนทางอากาศไม่ว่าคนโดยสารหรือสัมภาระลงทะเบียน เว้นแต่ผู้ขนส่งพิสูจน์ได้ว่าตนเองและลูกจ้างได้ดำเนินมาตรการทั้งปวงที่ควรจะทำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายนั้นได้ หรือเป็นการหลีกเลี่ยงที่ไม่อาจทำได้ และลูกจ้างและตัวแทนของผู้ขนส่งจะดำเนินมาตรการทั้งปวงที่ควรจะทำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายนั้น

มาตรา ๑๓ ถ้าผู้ขนส่งพิสูจน์ได้ว่าผู้เรียกร้องค่าเสียหาย หรือบุคคลซึ่งผู้เรียกร้องค่าเสียหายแทนได้กระทำผิดเป็นเหตุให้เกิดหรือมีส่วนในความเสียหายจากความประมาทเลินเล่อหรือการกระทำหรือละเว้นการกระทำโดยจงใจ ผู้ขนส่งอาจพ้นจากความรับผิดทั้งหมดหรือบางส่วนเพียงเท่าที่เกิดจากความประมาทเลินเล่อ หรือการกระทำหรือการละเว้นการกระทำดังกล่าวของผู้เรียกร้องค่าเสียหายหรือบุคคลซึ่งผู้เรียกร้องค่าเสียหายแทนได้

ในกรณีที่บุคคลซึ่งผู้เรียกร้องค่าเสียหายแทนได้กระทำผิดในทางประมาทเลินเล่อหรือการกระทำหรือการละเว้นการกระทำโดยจงใจ ผู้ขนส่งพ้นจากความรับผิดทั้งหมดหรือบางส่วนเพียงเท่าที่เกิดจากความประมาทเลินเล่อ หรือการกระทำหรือการละเว้นการกระทำดังกล่าวของบุคคลนั้น ในพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๑๔ ในกรณีที่ค่าเสียหายตามมาตรา ๑๑ มีมูลค่าไม่เกินหนึ่งแสนแปดหมื่นสามพันหนึ่งร้อยบาทจะมีสิทธิพิเศษชอบในเงินต่อคนโดยสารแต่ละคน ผู้ขนส่งจะบอกปัดหรือจำกัดความรับผิดของตนไม่ได้ เว้นแต่ผู้ขนส่งได้ตามมาตรา ๑๓

ผู้ขนส่งไม่ต้องรับผิดในค่าเสียหายตามมาตรา ๑๑ ในมูลค่าส่วนที่เกินหนึ่งแสนแปดหมื่นสามพันหนึ่งร้อยบาทเว้นแต่สิทธิพิเศษชอบในเงินต่อคนโดยสารแต่ละคน หากผู้ขนส่งพิสูจน์ว่า (ก) ความเสียหายนั้นไม่ได้เกิดจากความประมาทเลินเล่อ หรือการกระทำหรือละเว้นการกระทำโดยจงใจของผู้ขนส่ง หรือผู้แทนของผู้ขนส่ง หรือ (ข) ความเสียหายนั้นเกิดขึ้นแต่เพียงเพราะเกิดจากความประมาทเลินเล่อ หรือการกระทำหรือการละเว้นการกระทำโดยจงใจของบุคคลภายนอก

มาตรา ๑๕ ให้การรับขนทางอากาศในกรณีโดยสารที่มีสัมภาระ ความรับผิดของผู้ขนส่งในกรณีที่สัมภาระถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหาย หรือในกรณีที่มีการล่าช้า ให้จำกัดไว้เพียงหนึ่งแสนแปดหมื่นสามพันหนึ่งร้อยบาท เว้นแต่ผู้โดยสารได้ทำการสำแดงมูลค่าที่สูงกว่านั้น

ลงทะเบียนให้แก่ผู้บังคับ ผู้โดยสารได้บอกกล่าวไว้เป็นพิเศษล่วงหน้าได้เสียหายที่จะได้รับในการส่งมอบ สัมภาระลงทะเบียนนั้น ณ สำนักงานทางและได้ชำระเงินเพิ่มในกรณีที่ต้องชำระแล้ว ในกรณีที่คนโดยสารได้บอกกล่าวและได้ชำระเงินเพิ่มในกรณีที่ต้องชำระตาม วรรคหนึ่งแล้วผู้ขนส่งยังต้องรับผิดชอบเงินจำนวนไม่เกินกับตามวรรคหนึ่งเว้นแต่ผู้ขนส่งได้พิสูจน์ว่าจำนวนเงิน ที่บอกกล่าวไว้ในสูงกว่านั้นเกิดแต่ให้เสียที่แท้จริง ทั้งนี้หากคนโดยสารจะได้รับเมื่อมีการส่งมอบสัมภาระลงทะเบียน ณ สำนักงานทาง

มาตรา ๑๗ บทบัญญัติมาตรา ๔ และมาตรา ๑๖ มิให้ใช้บังคับ หากพิสูจน์ได้ว่า ความเสียหายนั้นเป็นผลมาจากการกระทำหรือละเว้นการกระทำของผู้ขนส่ง หรือลูกจ้างหรือคนงาน ของผู้ส่ง โดยจงใจให้เกิดความเสียหาย หรือโดยละเลยไม่เอาใจใส่ให้รู้ว่าความเสียหายนั้นอาจ เกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ หากเป็นกรณีการกระทำหรือละเว้นการกระทำของลูกจ้างหรือคนงานของผู้ขนส่ง ต้องพิสูจน์ได้ว่าลูกจ้างหรือคนงานของผู้ขนส่งนั้นได้กระทำภายในขอบเขตหน้าที่การงานของตน

มาตรา ๑๘ เงื่อนไขหรือข้อกำหนดใด ๆ ในบัตรรับคนโดยสารและสัมภาระที่ผู้ขนส่งปลดเปลื้อง ผู้ขนส่งให้พ้นจากความรับผิด หรือที่มีวัตถุประสงค์จำกัดความรับผิดให้ต่ำกว่าที่บัญญัติไว้ใน พระราชบัญญูตินี้ให้ถือว่าเงื่อนไขนั้นเป็นโมฆะ แต่ความเป็นโมฆะของเงื่อนไขตามวรรคหนึ่งไม่ทำให้ สัญญาหรือข้อตกลงเป็นโมฆะและผู้ขนส่งยังคงมีหน้าที่ต้องรับผิดตามพระราชบัญญูตินี้

มาตรา ๑๙ ในกรณีที่เกิดเหตุบกพร่องในสัญญารับขนโดยสารที่แผ่ขยายจากไทย หรือได้รับบาดเจ็บ ให้ผู้ส่งมอบบัตรรับคนงานนั้นจะไม่มีสิทธิเรียกร้องจะดำเนินในเขตแดนแต่ได้ตาม ความจำเป็นเฉพาะหน้าของบุคคลนั้นต่อไปเท่านั้น การขยายลักษณะหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง ไม่ถือเป็นการยอมรับหรือการรับผิดของผู้ส่งและ ความจำกัดจากความจำเป็นผู้ขนส่งจะต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นตามพระราชบัญญูตินี้

มาตรา ๒๐ ในกรณีที่มีการฟ้องลูกจ้างหรือคนงานของผู้ขนส่งตามพระราชบัญญูตินี้ ผู้ขนส่งมีสิทธิที่จะใช้เงื่อนไขหรือข้อกำหนดในบัตรรับคนโดยสารและสัมภาระที่จำกัดความรับผิด ของผู้ขนส่งในลักษณะเดียวกันกับการฟ้องผู้ขนส่งเอง ทั้งนี้การฟ้องลูกจ้างหรือคนงานของผู้ขนส่ง จะไม่มีสิทธิหรือใช้เงื่อนไขหรือข้อกำหนดในบัตรรับคนโดยสารและสัมภาระที่จำกัดความรับผิดของ ผู้ขนส่งในลักษณะเดียวกันกับการฟ้องผู้ขนส่งเอง

ยอมรวมของจำนวนที่ขอได้รับจากผู้ขนส่ง และลูกจ้างและตัวแทนของผู้ขนส่งต้องไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนดตามวรรคหนึ่ง ความในวรรคหนึ่งและวรรคสองมิให้ใช้บังคับ หากพิสูจน์ได้ว่าความเสียหายนั้นเป็นผลมาจากการระทำหรือจะไม่การกระทำของลูกจ้างหรือตัวแทนของผู้ขนส่ง โดยจงใจให้เกิดความเสียหายหรือโดยเลินเล่อในลักษณะที่รู้ว่าความเสียหายนั้นอาจเกิดขึ้น

มาตรา ๒๑ การที่ผู้มีสิทธิรับสินค้าจะได้รับของสินค้าตามระเบียบโดยไม่มีการทักท้วง ย่อมเป็นพยานหลักฐานเบื้องต้นได้ว่าได้การส่งมอบสินค้าตามระเบียบที่อยู่ในสภาพที่ดีและตรงตามป้ายกำกับสินค้าครบ หรือตามเอกสารแสดงข้อมูลตามมาตรา ๙ วรรคสอง

ในกรณีที่มีความเสียหายเกิดขึ้นในสินค้ากระจายเป็นผู้มีสิทธิรับสินค้าจะต้องทักท้วงต่อผู้ขนส่งหลังจากที่พบความเสียหายนั้นโดยพลันและอย่างช้าที่สุดภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับของสินค้าดังกล่าว ในกรณีอื่นใดที่ไม่การขน ผู้มีสิทธิรับสินค้าจะต้องทักท้วงต่อผู้ขนส่งภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ผู้มีสิทธิรับสินค้าทราบหรือควรทราบถึงความเสียหายนั้น การทักท้วงตามวรรคหนึ่ง ต้องทำเป็นหนังสือและส่งมอบหรือส่งไปให้ผู้ขนส่งภายในระยะเวลาตามวรรคสองหรือวรรคสาม แล้วแต่กรณี วรรคสาม จะต้องส่งมอบหรือส่งไปให้ผู้ขนส่งภายในระยะเวลาตามวรรคสองหรือวรรคสาม แล้วแต่กรณี

มาตรา ๒๒ ในกรณีที่มีการขนส่งสินค้าหลายเที่ยวตามสัญญาฉบับเดียวกัน และมีการส่งมอบสินค้าบางเที่ยวโดยผู้ขนส่งย่อมอยู่ภายใต้บังคับแห่งพระราชบัญญัตินี้ และให้ถือว่าเป็นสัญญาฉบับหนึ่งของสัญญารับขนทางอากาศเท่าที่เกี่ยวกับส่วนของการรับขนซึ่งดำเนินการภายใต้การควบคุมดูแลของผู้ส่งทดนั้น

ในกรณีที่มีการรับขนตามวรรคหนึ่ง คนโดยสารหรือผู้มีสิทธิในสินค้าไม่ทดเท่านั้นเกี่ยวกับคนโดยสารนั้น จะฟ้องได้เฉพาะผู้ส่งทดที่ได้ดำเนินการรับขนในระหว่างที่เกิดเหตุหรือกระสินค้านั้น ถ้าผู้ส่งทดที่ผู้ส่งทดตอนแรกได้ตกลงรับผิดตลอดเส้นทางเดินทางหรือเส้นทางขนส่งแล้ว ในส่วนที่เกี่ยวกับสัมภาระ คนโดยสารย่อมมีสิทธิฟ้องผู้ส่งทดคนแรกและผู้ส่งทดตอนสุดท้าย รวมทั้งพนักงานส่งทดที่ดำเนินการรับขนในระหว่างที่สัมภาระถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายหรือถึงล่าช้าตามระยะทางที่กำหนดไว้แล้ว ทั้งนี้ ผู้ส่งทดทุกตอนที่กล่าวมาข้างต้นจะร่วมรับผิดร่วมกันและแทนกันต่อคดีสาร

หมวด ๒

การขนของ

มาตรา ๒๓ ในการรับขนของ ให้การส่งมอบใบตราส่งทางอากาศ

__________________________ * มาตรา ๒๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๖ วิธีอื่นซึ่งมีขั้นตอนการรับของซึ่งพัสดุถึงปลายทาง อาจใช้แทนการส่งมอบใบตราส่งทางอากาศได้และสิทธิการได้รับและผู้จัดจำหน่ายรายอื่น ให้ผู้ส่งมอบส่งมอบใบรับของซึ่งบ่งบอกข้อมูลของพัสดุ และการนำส่งข้อมูลที่มีอยู่ในใบตราส่งนั้นให้แก่ผู้รับสารส่ง

มาตรา ๒๕ ในกรณีหายจากการหรือใบรับของ ต้องมีรายการอย่างน้อยตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง รวมถึงข้อความและรายการที่กำหนดแห่งพระราชกฤษฎีกา

มาตรา ๒๖ ในกรณีที่ต้องปฏิบัติตามพิธีการทางศุลกากร ทางการศุลกากรของท่าอากาศยานอื่นที่มิใช่ท่าอากาศยานปลายทาง ผู้จัดจำหน่ายอาจเรียกให้ส่งมอบเอกสารแสดงสถานภาพของผู้ส่ง ความในวรรคหนึ่งไม่กระทบต่อการให้เกิดหน้าที่ ระยะความรับ หรือความรับผิดแก่ผู้ขนส่ง

มาตรา ๒๗ ให้ผู้จัดจำหน่ายจัดทำใบตราส่งทางอากาศเป็นต้นฉบับจำนวนสามฉบับ ดังต่อไปนี้

(ก) ฉบับที่หนึ่ง ให้ระบุไว้ว่า “สำหรับผู้ส่ง” โดยให้ผู้จัดจำหน่ายลงลายมือชื่อไว้ (ข) ฉบับที่สอง ให้ระบุไว้ว่า “สำหรับผู้รับจุดหมาย” โดยให้ผู้จัดจำหน่ายและผู้ส่งลงลายมือชื่อไว้ (ค) ฉบับที่สาม ให้ผู้จัดจำหน่ายลงลายมือชื่อและส่งมอบให้แก่ผู้จัดจำหน่ายที่จุดหมายปลายทางที่ได้รับของแล้ว การลงลายมือชื่อของผู้จัดจำหน่ายและผู้ส่งอาจใช้วิธีการพิมพ์หรือประทับตราแทนได้ ในกรณีที่ผู้จัดจำหน่ายจัดทำใบตราส่งทางอากาศในนามของผู้ส่งสาร ให้แสดงชื่อผู้ส่งไว้ในช่องที่กำหนดไว้ในใบตราส่งทางอากาศนั้น

มาตรา ๒๘ ในกรณีที่มีการรับของของใบตราส่งทางอากาศหนึ่งใบ

(ก) ผู้ส่งส่งมอบสิทธิเรียกร้องให้ผู้จัดจำหน่ายจัดทำใบตราส่งทางอากาศแยกต่างหากจากกัน (ข) เมื่อมีการใช้สิทธิเรียกร้องให้จัดทำการส่งมอบใบรับของแยกต่างหากจากกัน

มาตรา ๒๙ การไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๔ มาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ มาตรา ๒๗ หรือมาตรา ๒๘ ไม่กระทบต่อการมีอยู่หรือความสมบูรณ์ของสัญญาใบตราส่งทางอากาศ และสัญญานั้นยังอยู่ภายใต้บังคับแห่งพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๓๐ ผู้จัดจำหน่ายต้องรับผิดชอบในความถูกต้องของรายการและข้อความเกี่ยวกับของที่บรรจุในบุคคลซึ่งกระทำการในนามของตนระบุไว้ในใบตราส่งทางอากาศ หรือที่มีไว้แก่ผู้ส่งและที่ระบุไว้ในใบรับของหรือในใบตราส่งตามมาตรา ๒๔ วรรคสอง ความในวรรคหนึ่งไม่กระทบต่อสิทธิผู้จัดจำหน่ายที่จะเรียกร้องค่าชดเชยจากผู้ส่งสารเป็นต้นเหตุของข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

ผู้ตราส่งต้องชดใช้แก่ผู้ขนส่ง สำหรับความเสียหายทั้งปวงที่เกิดขึ้นแก่ผู้ส่งมอบหรือแก่บุคคลอื่นซึ่งผู้ขนส่งต้องรับผิด เพราะเหตุแห่งความผิดแบบแผน ความไม่ถูกต้อง หรือข้อความไม่ครบถ้วนของรายการและข้อความที่ผู้ตราส่งหรือผู้ส่งมอบระบุไว้ในการนำของเข้าส่งตามที่ได้ให้ไว้ภายใต้บังคับบัญญัติผู้ขนส่งการนี้ ผู้ขนส่งต้องใช้แก่ผู้ตราส่งสำหรับความเสียหายทั้งปวงที่เกิดขึ้นแก่ผู้ตราส่งหรือแก่บุคคลอื่นซึ่งผู้ตราส่งต้องรับผิด เพราะเหตุแห่งความผิดแบบแผน ความไม่ถูกต้องหรือข้อความไม่ครบถ้วนของรายการและข้อความที่ผู้ขนส่งระบุไว้ในใบตราส่งทางอากาศเว้นแต่ข้อความนั้นจะอยู่ในรูปของข้อสังเกตหรือในรูปข้อสังเกตที่ได้ระบุไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส่งไว้ในใบตราส

มาตรา ๑๓๓ เว้นแต่ผู้ตราส่งได้ใช้สิทธิตามมาตรา ๑๓๒ ไปแล้ว เมื่อของมาถึงปลายทางและผู้รับตราส่งได้ตรวจสอบที่พิพาทด้วยตระกร รวมทั้งได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของการรับขนแล้ว ผู้รับตราส่งมีสิทธิเฉพาะที่จะส่งมอบของแก่ผู้รับเท่านั้น ผู้ขนส่งนั้นจำเป็นให้ผู้รับตราส่งทราบการส่งมอบแก่ผู้รับปลายทาง เว้นแต่จะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น ผู้ขนส่งต้องยอมรับการชำระเงิน หรือการออกของส่งมาให้แก่ผู้รับตราส่งนั้นแต่ห้ามยินยอมให้การตรวจสอบสิ่งของที่ขนส่งสิ้นสุดลงก่อนแต่สัญญารับขนทางอากาศนั้นได้

มาตรา ๑๓๔ ผู้ตราส่งและผู้รับตราส่งต่างสามารถเรียกรับคืนใช้สิทธิทั้งปวงที่มีตามมาตรา ๑๓๑ และมาตรา ๑๓๒ ในเวลาของตนเอง ไม่ว่าจะกระทำเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น ทั้งนี้ ผู้ตราส่งหรือผู้รับตราส่งจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้งปวงที่กำหนดไว้ในสัญญารับขนทางอากาศด้วย

มาตรา ๑๓๕ บทบัญญัติแห่งมาตรา ๑๓๑ มาตรา ๑๓๒ และมาตรา ๑๓๓ ไม่กระทบต่อความเกี่ยวพันระหว่างผู้ตราส่งและผู้รับตราส่ง หรือความเกี่ยวพันระหว่างผู้ขนส่งกับผู้รับตราส่งที่ได้สิทธิทั้งหลายจากผู้ตราส่งหรือผู้รับตราส่งนั้น หรือความเกี่ยวพันระหว่างบุคคลที่ได้สิทธิเหล่านั้นต่อกัน

ความในมาตรา ๑๓๑ มาตรา ๑๓๒ และมาตรา ๑๓๔ จะไม่ถูกยกขึ้นให้เหตุอ้างต่อไปได้ต่อเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งได้ใช้สิทธิในกรณีการขนส่งเพื่อประโยชน์

มาตรา ๑๓๖ ในกรณีที่มีการตรวจสอบความเสียหายหรือการสูญหายของสิ่งของที่ขนส่ง ผู้ตราส่งและผู้รับตราส่งจะต้องจัดส่งข้อมูลหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องให้แก่ผู้ขนส่งตามที่ขอมาโดยทันที

มาตรา ๑๓๗ ผู้ขนส่งต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่ของสูญหายหรือเสียหาย โดยมีเงื่อนไขว่าทุกกรณีที่ก่อให้เกิดความเสียหายนั้นเกิดขึ้นในระหว่างการขนทางอากาศ

การกระทำของเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อื่นเกี่ยวกับการนำของเข้า การนำของออกหรือการนำของผ่านแดน การรับบททางอากาศตามมาตรา ๓๗ ให้หมายความรวมถึงช่วงเวลาที่ของอยู่ในหน้าที่ดูแลรักษาของผู้ขนส่งด้วย ช่วงเวลาของการรับบททางอากาศ ไม่รวมถึงการรับบททางบก ทางทะเล หรือทางน้ำภายในประเทศที่ดำเนินการภายใต้กฎหมายอื่น เช่นนั้น

การรับบททางบก ทางทะเล หรือทางน้ำ เกิดขึ้นได้ในกรณีปฏิบัติการตามสัญญา สำหรับการรับบททางอากาศเพื่อวัสดุประสงค์ในการค้นคืน การขนส่ง การส่งมอบ หรือการดำเนินในกรณีเช่นนี้ให้เห็นชอบว่าในอากาศอาจเสี่ยงภัยที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระหว่างการรับบททางอากาศแต่ละพัสดุถูกเปิดในอากาศนั้น

ผู้ขนส่งได้ทราบส่งมอบในรูปแบบอื่นโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้คร่าส่งตลอดเส้นทางหรือบางส่วนของเส้นทางแทนการรับขนส่งผู้ส่งสัญญาได้ทำความตกลงให้การรับบททางอากาศไว้ ให้ถือว่าการส่งมอบอื่นนั้นอยู่ในช่วงเวลาของการรับบททางอากาศด้วย

มาตรา ๓๗ ให้ถือความในมาตรา ๓๖ มาใช้บังคับกับกรณีความรับผิดของผู้ส่งเสียในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการล่าช้าในการรับขนของโดยอากาศ

มาตรา ๓๘ ความรับผิดของผู้ส่งเสียในกรณีที่ของถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหาย หรือในกรณีที่ของล่าช้า ให้จำกัดไว้เพียงเท่ากับจำนวนเงินที่กำหนดไว้ในอนุสัญญา

และที่ศาลของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ผู้คร่าส่งไม่อาจเรียกร้องค่าชดเชยเกินกว่าจำนวนเงินที่กำหนดไว้ในอนุสัญญา มอบรับนั้น ณ ถิ่นปลายทาง ในกรณีที่ผู้คร่าส่งได้บอกกล่าวและได้ชำระเงินเพิ่มเติมในกรณีที่ต้องชำระตามระวางหนึ่งแล้ว ผู้ขนส่งต้องชำระเงินดังจำนวนไม่เกินที่บอกกล่าวไว้ เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าจำนวนเงินที่บอกกล่าวไว้นั้นสูงกว่าความได้เสียที่ผู้คร่าส่งจะได้รับเมื่อมีการส่งมอบ ณ ถิ่นปลายทาง

มาตรา ๓๙ ในกรณีที่ของบางส่วนหรือสิ่งใด ๆ ที่อยู่ในของนั้น ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายหรือในกรณีที่ของล่าช้า ให้หนักที่อยู่เป็นที่พิจารณาในการกำหนดเงินสำหรับการจำกัดความรับผิดของผู้ส่งเสีย ให้คิดหนักในทั้งหมดของที่เกี่ยวกับการถูกทำลาย สูญหาย เสียหาย หรือล่าช้า แล้วแต่กรณี

ถ้าการถูกทำลาย สูญหาย เสียหาย หรือการล่าช้านั้นบางส่วนแห่งของหรือสิ่งใด ๆ ที่อยู่ในของนั้นมีผลกระทบต่อมูลค่าของที่เหลือที่มิได้เกิดในกรณีการล่าช้าด้วยกัน หรือเป็นการเสียหายต่อที่เหลือนั้นรวมกันทั้งหมดนั้น ให้ถือหนักในทั้งหมดของที่เกี่ยวกับการถูกทำลาย สูญหาย เสียหาย หรือล่าช้าในกรณีนั้นในการจำกัดความรับผิดของผู้ส่งเสียด้วย

มาตรา ๔๐ เกณฑ์ที่จำกัดความรับผิดที่กำหนดในมาตรา ๓๘ ไม่กระทบถึงการพิพากษาของศาลที่จะให้มีการชำระค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีหรือขั้นตอนเบื้องต้นในโอกาส

ความในวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับในกรณีที่จำนวนค่าเสียหายที่ศาลพิพากษาให้แก่โจทก์ไม่เกินจำนวนเงินที่ผู้ชนะคดีได้รับแล้วหรือจะได้รับในโอกาสที่เป็นเงินออมในระยะเวลาหนึ่งตามเงื่อนไขที่เกิดเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหาย หรือก่อนวันยื่นฟ้องคดีทำให้พอคาดคะเนได้ว่าผู้ชนะคดีจะได้รับเงินโดยเมื่อคำนวณแล้วโจทก์จะได้รับไม่เกินแก่ค่าเสียหายรวมทั้งดอกเบี้ยที่คำนวณให้ไม่เกินตามมาตรา ๓๓

มาตรา ๔๓ ข้อกำหนดในวรรคหนึ่ง ในกรณีการบังคับตามคำพิพากษาเพื่อเปลี่ยนแปลงเหตุผลหนึ่งจากความรับผิดหรือผู้ที่กำหนดเงื่อนไขความรับผิดให้ต่างจากที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ให้ข้อกำหนดนั้นเป็นโมฆะและเหตุผลเป็นโมฆะของกำหนดเงื่อนไขนั้นไม่ทำให้ผู้ชนะคดีเป็นโมฆะและสัญญานั้นยังคงอยู่ภายใต้บังคับแห่งพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๔๔ ในกรณีที่มีการฟ้องลูกจ้างหรือคนงานของผู้จ้างเล่นในมูลความเสียหายที่เกิดขึ้นตามพระราชบัญญัตินี้เกี่ยวกับการรับขนของ ถ้าลูกจ้างหรือคนงานของผู้จ้างเล่นพิสูจน์ได้ว่าตนได้กระทำภายในขอบเขตหน้าที่การงานของตน ลูกจ้างหรือคนงานของผู้จ้างเล่นนั้นมีสิทธิจะใช้เงื่อนไขและเกณฑ์ค่าความรับผิดชอบที่จำกัดความเสียหายตามพระราชบัญญัตินี้ได้ ในกรณีตามวรรคหนึ่ง ยอมความของจำเลยจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้จ้างเล่น และลูกจ้างและตัวแทนของผู้จ้างเล่นซึ่งไม่เกินเกณฑ์ค่าความรับผิดตามเงื่อนไข

มาตรา ๔๕ การที่ผู้มีสิทธิรับของได้รับของเองโดยไม่มีการทักท้วง ย่อมเป็นพยานหลักฐานแสดงว่าของนั้นได้รับโดยสภาพดีและไม่มีความเสียหายตามที่ปรากฏภายนอก หรือในบรรจุภัณฑ์ที่มองเห็นได้เว้นแต่จะได้มีการโต้แย้งไว้ภายในสามวันนับแต่วันที่ได้รับของดังกล่าว ในกรณีที่ตัวแทนการรับของ ผู้มีสิทธิรับของต้องทำการทักท้วงต่อผู้ขนส่งภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ผู้มีสิทธิรับของได้รับของนั้น การทักท้วงตามมาตรานี้ ต้องทำเป็นหนังสือและมอบหรือส่งให้ผู้ขนส่งภายในระยะเวลาตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง แล้วแต่กรณี ในกรณีที่ผู้มีสิทธิรับของนำของไปตรวจสอบในระยะเวลาที่กำหนดตามวรรคสองหรือวรรคสาม จะฟ้องผู้ขนส่งมิได้ เว้นแต่เป็นกรณีการผิดสัญญาของฝ่ายผู้ขนส่ง

มาตรา ๔๖ ในกรณีที่การรับขนของดำเนินการโดยผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดซึ่งเป็นการรับขนระหว่างประเทศและตามมาตรา ๔๗ วรรคสาม ผู้ขนส่งแต่ละทอดอยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัตินี้ และให้ถือว่าผู้ขนส่งคนแรกเป็นคู่สัญญารับขนตามกฎหมายเท่าที่เกี่ยวกับการรับขนระหว่างประเทศโดยการควบคุมดูแลของผู้ส่งเสียดังกล่าว ในกรณีที่การรับขนของระหว่างประเทศ ผู้ส่งของส่งสิทธิให้ผู้ขนส่งทอดแรก และผู้รับของที่มีสิทธิรับของย่อมมีสิทธิฟ้องผู้ขนส่งทอดสุดท้าย ของการรับขนระหว่างประเทศนั้น

มาตรา ๔๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐

ยังอาจฟ้องผู้ขนส่งทอดที่ดำเนินการรับจ้างในระหว่างที่ของถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหาย หรือกรณีที่ของส่งถึงที่เกินกว่าที่ได้ตกลง ทั้งนี้ ผู้ขนส่งทุกทอดที่กล่าวมานั้นจะต้องรับผิดร่วมกันและแทนกันต่อผู้ตราส่งหรือผู้รับตราส่ง

หมวด ๓

การรับขนร่วมกัน

มาตรา ๔๘ ภายใต้บังคับมาตรา ๓๗ วรรคสอง ในกรณีมีการรับขนร่วมกันและได้ดำเนินการส่วนหนึ่งโดยทางอากาศและส่วนอื่นโดยการรับขนโดยรูปแบบอื่น ให้ใช้บังคับบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้บังคับเฉพาะกับส่วนที่ดำเนินการรับขนทางอากาศ

การรับขนร่วมกันตามวรรคหนึ่ง คู่สัญญาจะระบุข้อจำกัดเกี่ยวกับการรับขนโดยรูปแบบอื่นไว้ในเอกสารการรับขนทางอากาศด้วยก็ได้

หมวด ๔

การรับขนทางอากาศที่ดำเนินการโดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ส่งตามสัญญา

มาตรา ๔๙ บทบัญญัติในหมวดนี้ให้ใช้บังคับในกรณีที่ผู้ส่งตามสัญญาในฐานะตัวการทำสัญญารับขนทางอากาศซึ่งอยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัตินี้กับผู้ส่งของ และการรับขนทางอากาศทั้งหมดหรือบางส่วนได้ดำเนินการโดยอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งต่อไปในหมวดนี้เรียกว่า "ผู้ขนส่งโดยอาศัย" ตามข้อตกลงส่งมอบสัญญา การทำความตกลงในพระราชบัญญัตินี้ ให้ถือว่าผู้ส่งตามสัญญาและผู้ขนส่งโดยอาศัยเป็นตัวแทนของกันและกันในพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ให้เส้นทางของการขนส่งแต่ละที่ได้เป็นผู้ส่งมอบหลายทอดตามความตกลงในพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๕๐ ถ้าผู้ส่งตามสัญญาเป็นผู้แจ้งดำเนินการรับขนทอดเส้นทางหรือบางส่วนของเส้นทางการรับขนตามมาตรา ๔๙ ให้ผู้ส่งตามสัญญาและผู้ส่งมอบเส้นทางเป็นผู้แจ้งภายในบังคับแห่งพระราชบัญญัตินี้ โดยให้ผู้ส่งมอบเส้นทางรับผิดสำหรับการรับขนทอดเส้นทางที่มุ่งหมายไปยังผู้รับ ส่วนผู้ส่งตามสัญญาให้รับผิดชอบการรับขนในส่วนที่เป็นส่วนที่ผู้จัดนำการเท่านั้น เว้นแต่จะได้บัญญัติไว้ในเอกสารอื่นในหมวดนี้

มาตรา ๕๑ การกระทำและละเว้นการกระทำของผู้ส่งมอบเส้นทางหรือของลูกจ้างและตัวแทนของผู้ส่งมอบเส้นทางความในเรื่องซึ่งกระทำภายในขอบเขตแห่งการทำหน้าที่การขนส่งเกี่ยวกับการรับขนในส่วนที่ดำเนินการโดยผู้ส่งมอบเส้นทางเป็นผู้รับผิดชอบ ให้ถือว่าเป็นการกระทำและละเว้นการกระทำของผู้ส่งตามสัญญาด้วย

ในกรณีที่การรับข้อตกลงดำเนินการโดยผู้จ้างส่งตามความเป็นจริง ให้ถือว่าการระงับและละเว้นการกระทำของผู้ส่งตามสัญญา และของลูกจ้างและตัวแทนของผู้ส่งตามสัญญาที่กระทำภายในขอบเขตหน้าที่การงานของตน เป็นการกระทำของผู้ส่งตามสัญญาและตัวแทนของผู้ส่งตามสัญญาเป็นจริงด้วย แต่การกระทำละเว้นการกระทำเช่นนั้นไม่ทำให้ผู้จ้างส่งตามความเป็นจริงต้องรับผิดเกินกว่าจำนวนที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติ กรณีความผิดที่ผู้ส่งตามสัญญา ผู้จ้างส่งตามความเป็นจริง หรือบุคคลใดตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัตินี้ การละเว้นหรือข้อยกเว้นที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ หรือการบอกกล่าวไว้เป็นพิเศษส่งให้เสียหายหรือได้รับเป็นการสมบูรณ์ ณ สิ้นปลายทางตามมาตรา ๓๙ ย่อมไม่ผลกระทบต่อผู้จ้างส่งตามความเป็นจริง เว้นแต่ผู้จ้างส่งตามความเป็นจริงจะได้ตกลงด้วย

มาตรา ๔๕ การทำท่วงที่จะทำต่อผู้จ้างส่งหรือคำสั่งที่จะส่งแจ้งแก่ผู้จ้างส่งตามพระราชบัญญัตินี้ไม่ผลเด่นเดียวกัน ไม่ว่าจะส่งแจ้งแก่ผู้ส่งตามสัญญาและผู้จ้างส่งตามความเป็นจริง แต่คำสั่งตามมาตรา ๔๒ จะมีผลต่อเนื่องไปถึงเจ้าสินค้านั้นเช่นเดียวกับผู้ส่งตามสัญญาและเจ้าสินค้า

มาตรา ๔๖ ในกรณีระงับปฏิบัติการโดยผู้ส่งตามความเป็นจริง หากลูกจ้างหรือตัวแทนของผู้ส่งตามสัญญาหรือของผู้ส่งตามความเป็นจริงพิสูจน์ได้ว่าได้กระทำภายในขอบเขตหน้าที่การงานของตน การกระทำละเว้นการกระทำเช่นนั้นไม่ทำให้ผู้จ้างส่งตามความเป็นจริงต้องรับผิดเกินกว่าจำนวนที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติ และหากมีคำพิพากษาให้ผู้จ้างส่งตามความเป็นจริงต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ให้ผู้จ้างส่งตามความเป็นจริงมีสิทธิไล่เบี้ยเอากับผู้ส่งตามสัญญาและตัวแทนของผู้ส่งตามสัญญาได้

มาตรา ๔๗ ในการรับขนสิ่งดำเนินการโดยผู้ส่งตามความเป็นจริง ยอดรวมของค่าเสียหายที่จะได้รับการชดใช้จากผู้จ้างส่งตามสัญญาและผู้จ้างส่งตามความเป็นจริง และจากลูกจ้างและตัวแทนของผู้จ้างส่งตามสัญญาหรือการทำภายในขอบเขตหน้าที่การงานของตน ต้องไม่เกินจำนวนสูงสุดที่ได้รับจากผู้จ้างส่งตามสัญญาและผู้จ้างส่งตามความเป็นจริงตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัตินี้ บุคคลที่กล่าวในมาตรานี้ต้องรับผิดในส่วนที่เกินเกณฑ์ตามที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือคำพิพากษาของศาล

มาตรา ๔๘ อักขภาคใด ที่ผู้จ้างส่งหรือผู้ส่งตามสัญญาหรือผู้ส่งตามความเป็นจริงให้เหตุผลว่าความชอบธรรมของการรับขน หรือคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับการรับขนตามที่กำหนดไว้ในบทบัญญัตินี้ ให้ถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ชอบธรรม แต่ความชอบธรรมดังกล่าวไม่ทำให้ผู้จ้างส่งตามความเป็นจริงไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำดังกล่าว

มาตรา ๔๙ บทบัญญัติแห่งหมวดนี้ ไม่กระทบต่อสิทธิและการผูกพันระหว่างกันกับขอบรรจุภัณฑ์สินค้า รวมถึงสิทธิไล่เบี้ยหรือการชดใช้ความเสียหายใด ๆ ในส่วนที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๕๒/๒

มาตรา ๕๐ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๖

หมวด ๕

การฟ้องเรียกค่าเสียหาย

มาตรา ๔๔ การฟ้องเรียกค่าเสียหายในกรณีการรับคนโดยสาร สัมภาระ และของ ไม่ว่า จะฟ้องในนามตัวการหรือตัวแทนก็ตาม ผู้แทนในคดีตามกฎหมายจะต้องแสดงหลักฐานว่า การกระทำให้เกิดหรือตกในอำนาจหรือในเขตอำนาจศาลรับคดีที่ผู้ฟ้องนั้นได้รับพระราชบัญญัตินี้ ผู้เสียหายไม่อาจได้รับค่าเสียหายเงินลงโทษ หรือค่าเสียหายอื่นที่มิใช่ค่าเสียหาย ทดแทนจากการฟ้องคดีตามวรรคหนึ่ง

มาตรา ๔๕ ในกรณีที่บุคคลผู้ต้องรับผิดถึงแก่ความตาย การฟ้องคดีเพื่อ เรียกร้องค่าเสียหายตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ ให้ฟ้องผู้แทนตามกฎหมายของกอง ทรัพย์สินของผู้ตาย

มาตรา ๔๖ สิทธิในการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการรับคนทางอากาศเป็นอันระงับ สิ้นไปหากไม่มีการฟ้องคดีภายในระยะเวลาซึ่งนับแต่วันเกิดเหตุและสิ้นสุดภายในสองปี หรือหากในกรณีที่ อากาศยานนั้นมาถึงหรือได้ส่งมอบสัมภาระหรือของไปยังผู้รับปลายทางแล้ว ให้ถือว่าการฟ้องคดีนั้นเป็น อันระงับสิ้นไป

วิธีการคำนวณระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามกฎหมายหรือพระราชศาส ที่ว่าด้วยการพิพากษาคดีผู้ต้อง

มาตรา ๔๗ ในกรณีที่ศาลพิพากษาให้ชำระค่าเสียหาย ศาลอาจกำหนดให้ผู้ต้องรับผิด ชำระเงินให้เป็นสกุลเงินบาท ให้คำนวณ ณ วันที่ศาลสั่งคำพิพากษา โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนตาม ประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย

มาตรา ๔๘ การฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายในกรณีรับขนทางอากาศระหว่าง ประเทศที่อยู่ภายใต้อนุสัญญา โจทก์มีสิทธิเลือกที่จะเสนอคำฟ้องไปยกเว้นต่อรัฐที่กำหนดไว้ต่อศาล ซึ่งมีเขตอำนาจ ดังต่อไปนี้

(ก) ศาลที่ผู้รับมีภูมิลำเนา (ข) ศาลที่ผู้รับมีสถานที่ประกอบธุรกิจหลักตั้งอยู่ (ค) ศาลที่ผู้รับมีสถานที่ประกอบธุรกิจซึ่งได้มีการทำสัญญารับขน (ง) ศาลในถิ่นปลายทาง

มาตรา ๔๙ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐

มาตรา ๕๐ วรรคสอง เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐

มาตรา ๕๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐

ในกรณีความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่คนโดยสารถึงแก่ความตายหรือได้รับ บาดเจ็บ นอกจากสิทธิการชดใช้แล้ว ให้คนซึ่งมีสิทธิเลือกที่จะยื่นคำฟ้องต่อศาลของ รัฐภาคีหนึ่งต่อศาลที่คนโดยสารนั้นอาศัยอยู่หลักแหล่งและอาจรวมถึงศาลที่คนซึ่งมีสิทธิยื่นคำฟ้อง ให้บริการรับขนคนโดยสารไปหรือออกจากรัฐภาคีนั้น ไม่ว่าจะโดยหน่วยงานของตนเองหรือ อาศัยนายจ้างผู้รับมอบอำนาจซึ่งตามข้อสัญญาพาหนะที่มี และผู้ซึ่งดำเนินประกอบธุรกิจรับขนคนโดยสาร จากสถานที่ที่ผู้มีสิทธิอยู่หลักแหล่งหรืออาศัยอยู่หลักแหล่ง ได้ดำเนินการอยู่ในสถานที่นั้น โดย กระบวนพิจารณาคดีให้เป็นไปตามกฎหมายแห่งประเทศที่ศาลที่พิจารณาพิพากษา คดีตั้งอยู่ เพียงประโยชน์แห่งมาตรา “ข้อกลางทางพาหนะ” หมายความว่า ข้อกลางสิ่งที่ขนระหว่างผู้ส่งและ เกี่ยวกับข้อกำหนดในการให้บริการรับขนคนโดยสารทางอากาศ แต่ไม่รวมถึงข้อกลาง เกี่ยวกับสัมภาระ “ถิ่นที่อยู่หลักแหล่ง” หมายความว่า ที่อยู่ปกติเป็นหลักแหล่งของคนโดยสาร ขณะเกิดเหตุ โดยคำนึงถึงสัญชาติของคนโดยสารตามกฎหมายว่าด้วยการปกครอง ถิ่นฐานในกรณีนี้ มาตรา ๒๕ ทวิ การฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายเกี่ยวกับการรับขนคนโดยสารทางอากาศระหว่างประเทศ ให้ยื่นฟ้องต่อศาลของรัฐภาคีหนึ่งตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๕ นอกจากสิทธิเลือกที่จะยื่นคำฟ้องในศาลของรัฐภาคีหนึ่ง ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๕ แล้ว ให้คนซึ่งมีสิทธิเลือกที่จะยื่นคำฟ้องในศาลของเขตของรัฐภาคีหนึ่ง ต่อศาลที่ผู้มีสิทธิอยู่หลักแหล่งตามข้อสัญญาพาหนะหรือสถานที่ประกอบธุรกิจหลักของผู้ คดีที่เกี่ยวกับการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ ถ้าไม่สามารถยื่นคำฟ้องในราชอาณาจักร ให้ยื่นในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและ การค้าระหว่างประเทศ มาตรา ๒๕ ตรี เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๖ มาตรา ๒๕ จัตวา เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๖ มาตรา ๒๕ เบญจ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๖

มาตรา ๕๒/๔๕ ผู้ที่สูญในสัญญารับขนของสำหรับการรับขนทางอากาศตามสัญญา เป็นหนังสือให้กระทำระหว่างบุคคลใด ๆ เกี่ยวกับความรับผิดของผู้ขนส่งตามพระราชบัญญัตินี้โดยการอนุญาโตตุลาการ

ผู้เรียกร้องค่าเสียหายเกี่ยวกับการรับขนของสำหรับการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศที่อาศัยอยู่ในสัญญา มีสิทธิเลือกให้มีการพิจารณาโดยการอนุญาโตตุลาการในประเทศที่อยู่ อำนาจศาลใดศาลหนึ่งที่เป็นรัฐภาคีตามมาตรา ๕๒/๑ และถ้าเลือกให้มีการพิจารณาในราชอาณาจักร ให้อนุญาโตตุลาการหรือคณะอนุญาโตตุลาการเป็นผู้พิจารณาและชี้ขาดข้อพิพาท ให้ถือความในอนุญาโตตุลาการหรือคณะอนุญาโตตุลาการเป็นที่สุดของความหรือข้อแตกต่างเกี่ยวกับการอนุญาโตตุลาการ และในกรณีที่ข้อกำหนดใด ๆ ของข้อพิพาทหรือข้อแตกต่างเกี่ยวกับการอนุญาโตตุลาการหรือเกี่ยวกับบทบัญญัตินี้ขัดกัน ย่อมเป็นโมฆะ

มาตรา ๕๒/๔๖ คำพิพากษาต้องรับผิดในความเสียหายตามพระราชบัญญัตินี้ ย่อมมีสิทธิไล่เบี้ยต่อบุคคลอื่นที่ต้องร่วมรับผิดด้วย

หมวด ๖ การรับขนทางอากาศภายในประเทศ

มาตรา ๕๓ ให้กำหนดในพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับแก่การรับขนทางอากาศภายในประเทศโดยอนุโลม

มาตรา ๕๔ คดีที่เกี่ยวกับการรับขนทางอากาศภายในประเทศ ให้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ

บทเฉพาะกาล

มาตรา ๕๕ คดีเกี่ยวกับการรับขนทางอากาศภายในประเทศที่ค้างการพิจารณาอยู่ในศาลก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ศาลนั้นพิจารณาต่อไปจนแล้วเสร็จโดยถือว่าคดีนั้นมิใช่คดีเกี่ยวกับการรับขนทางอากาศตามพระราชบัญญัตินี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ (ลงชื่อ) พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ ได้แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติว่าด้วยการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หมาเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ปัจจุบันการรับขนทางอากาศ ระหว่างประเทศต้องอยู่ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งพระราชกฤษฎีกาและกฎหมายอื่น ซึ่งไม่สามารถ รองรับลักษณะพิเศษของการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศได้อย่างเหมาะสม สมควรให้มีกฎหมาย กำหนดหลักเกณฑ์บางประการเกี่ยวกับการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับวิธี ปฏิบัติระหว่างประเทศ รวมทั้งกำหนดให้ใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวไปใช้บังคับกับการรับขนทางอากาศ ภายในประเทศด้วย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๖ มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป หมาเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากประเทศไทยจะเข้าเป็นภาคี อนุสัญญาเพื่อการรวบรวมกฎหมายเกี่ยวกับการรับขนระหว่างประเทศทางอากาศ ค.ศ. ๑๙๙๙ (Convention for the Unification of Certain Rules for International Carriage by Air, 1999) แต่โดยที่พระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๕ ที่ใช้บังคับ อยู่ในปัจจุบันมีบทบัญญัติที่กำหนดหลักเกณฑ์การรับขนทางอากาศระหว่างประเทศที่ยังไม่ ครอบคลุมครบถ้วน สมควรแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวให้มีความ ทันสมัยยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ปริญญา/ผู้จัดทำ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ นุสรา/ผู้ตรวจ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ ชวลิต/เพิ่มเติม ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๐