สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. เป็นปีที่ ๖๐ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ให้ประกาศว่า
ให้ไว้ ณ วันที่ ๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘
โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน
พ.ศ. ๒๕๔๘”
นุเบกษาเป็นต้นไป
“วิสาหกิจชุมชน” หมายความว่า กิจการของชุมชนเกี่ยวกับการผลิตสินค้า การให้บริการ หรือการอื่น ๆ ที่ดำเนินการโดยคนหรือบุคคลที่มีความผูกพัน มีส่วนร่วมและรวมตัวกันประกอบ กิจการดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นนิติบุคคลในรูปแบบใดหรือไม่เป็นนิติบุคคล เพื่อสร้างรายได้และแก้การ พึ่งพาตนเองของครอบครัว ชุมชนและประเทศชุมชน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการประกาศ กำหนด “เครือข่ายวิสาหกิจชุมชน” หมายความว่า คณะบุคคลที่รวมตัวกันโดยมี วัตถุประสงค์ในการจัดทำกิจกรรมของชุมชนอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของวิสาหกิจ ชุมชนในเครือข่ายนั้น “กิจการวิสาหกิจชุมชน” หมายความว่า กิจการของวิสาหกิจชุมชนหรือเครือข่าย วิสาหกิจชุมชน “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน “กรรมการ” หมายความว่า กรรมการในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน * ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๒/ตอนที่ ๖ ก/หน้า ๙/๖ มกราคม ๒๕๔๘ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา “คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนจังหวัด” หมายความว่า คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนจังหวัด แล้วแต่กรณี “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
วิสาหกิจชุมชนใดไม่แจ้งความประสงค์ดำเนินการภายในเวลาสามสิบวันดังกล่าว ให้กรมส่งเสริมการเกษตรมีหนังสือแจ้งเตือนให้วิสาหกิจชุมชนนั้นแจ้งความประสงค์ดำเนินการภายในเวลาสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือเตือนดังกล่าว ถ้าไม่แจ้งความประสงค์ดำเนินการดังกล่าว ให้กรมส่งเสริมการเกษตรมีชื่อออกจากทะเบียน วิสาหกิจชุมชนใดประสงค์จะเลิกดำเนินการ ให้แจ้งต่อกรมส่งเสริมการเกษตรทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่เลิกกิจการ ตามวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด
นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธานกรรมการ
กรรมการจากส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับวิสาหกิจชุมชน ได้แก่ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม อธิบดีกรมการปกครอง ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
กรรมการผู้แทนวิสาหกิจชุมชน จำนวนสิบคน ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากบุคคลที่ได้รับการสรรหาจากผู้ดำเนินกิจการวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนห้าคน ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านการบริหารธุรกิจการค้า ด้านการเงินการบัญชี และด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนเป็นกรรมการและเลขานุการ และผู้แทนสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน และผู้แทนสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
เสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับนโยบาย มาตรการและแผนการพัฒนาและส่งเสริมกิจการวิสาหกิจชุมชน
ประสานงานกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และกองทุนที่เกี่ยวข้องกับกิจการวิสาหกิจชุมชน เพื่อให้การส่งเสริมกิจการวิสาหกิจชุมชนเป็นไปอย่างมีเอกภาพและมีประสิทธิภาพ
ให้ความช่วยเหลือ การสนับสนุน หรือให้คำแนะนำแก่วิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนในการดำเนินงานให้ประสบผลสำเร็จ
ให้การส่งเสริมสนับสนุนการขอจดทะเบียนลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า หรือทรัพย์สินทางปัญญาอื่น หรือการใด ๆ เพื่อประโยชน์ของกิจการวิสาหกิจชุมชน
สนับสนุนการศึกษาวิจัยเพื่อการส่งเสริมและพัฒนาการดำเนินงานกิจการวิสาหกิจชุมชน *มาตรา 12 (2) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 *มาตรา 13 วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 *มาตรา 13 (2) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา - 5 - (8) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่พระราชบัญญัติหรือกฎหมายอื่นบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
(1) มีสัญชาติไทย (2) ไม่เป็นข้าราชการการเมืองที่มีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ (3) ไม่เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์การมหาชน
(4) ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออกหรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (5) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการ ที่ปรึกษา หรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นในกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง เว้นแต่กรณีสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ไม่ถือว่าเป็นลักษณะต้องห้ามเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา 12 (4) (6) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย (7) ไม่เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกโดยมิใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ (8) ถูกถอดถอนจากตำแหน่งตามมาตรา 14
(1) ตาย (2) ลาออก (3) คณะรัฐมนตรีให้ออก เพราะบกพร่องต่อหน้าที่ มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือหย่อนความสามารถ (4) ต้องคำพิพากษาให้จำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกโดยมิใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ เช่น แต่ในความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ (5) ถูกถอดถอนจากตำแหน่งตามมาตรา 14
ที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งขาดแทน เว้นแต่กรณีของกรรมการที่เหลืออยู่ไม่ถึงกึ่งหนึ่งกลับจะไม่ดำเนินการเพื่อให้มีการแต่งตั้งกรรมการแทนก็ได้
ให้ประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ในกรณีที่ประธานกรรมการไม่อยู่ในที่ประชุม หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการที่ที่ประชุมเลือกจากกรรมการที่มาประชุมเป็นประธานในที่ประชุมแทน การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเสียงเป็นเสียงชี้ขาด
ในกรุงเทพมหานคร ให้แต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมอบหมายเป็นประธานกรรมการ ปลัดกรุงเทพมหานครหรือรองปลัดกรุงเทพมหานครที่ได้รับมอบหมาย ผู้อำนวยการเขตที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือผู้แทน ผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในกรุงเทพมหานครตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด และผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนสมาสมาชิกผู้ประกอบการกรุงเทพมหานครแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านการบริหารธุรกิจหนึ่งคน ด้านการเงินหนึ่งคน และด้านการพัฒนาชุมชนหนึ่งคน ในกรุงเทพมหานครเป็นกรรมการ และแต่งตั้งกรุงเทพมหานคร เป็นกรรมการและเลขานุการ
ในจังหวัดอื่น ให้แต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนระดับจังหวัด ประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมายเป็นประธานกรรมการ ปลัดจังหวัดหรือรองปลัดจังหวัดที่ได้รับมอบหมาย อุตสาหกรรมจังหวัด ผู้แทนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนั้นหนึ่งคน ผู้แทนธนาคารออมสินที่มีสาขาตั้งอยู่ในจังหวัดนั้นหนึ่งคน ผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดนั้นตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด และผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนสมาสมาชิกผู้ประกอบการจังหวัดแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านการบริหารธุรกิจหนึ่งคน ด้านการเงินหนึ่งคน และด้านการพัฒนาชุมชนหนึ่งคน ในจังหวัดนั้นเป็นกรรมการ และแต่งตั้งพัฒนาการจังหวัดเป็นกรรมการและเลขานุการ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ประสบการณ์ในด้านการบริหารธุรกิจด้านหนึ่งคน ด้านการเงินด้านหนึ่งคน และด้านการค้าและอุตสาหกรรมหนึ่งคน ในจังหวัดนั้น เป็นกรรมการและเลขานุการจังหวัด เป็นกรรมการและเลขานุการ
(1) เสนอความเห็นต่อคณะกรรมการเกี่ยวกับนโยบาย มาตรการ และแผนการพัฒนาและส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนในจังหวัด (2) ประสานงานกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดเพื่อให้การส่งเสริมกิจการวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดตามแผนการหรือเป้าหมายดังกล่าวข้างต้นมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล (3) ให้การส่งเสริมและช่วยเหลือในการจดทะเบียนสิทธิชุมชน เครื่องหมายการค้า หรือทรัพย์สินทางปัญญาอื่น หรือการใด ๆ เพื่อประโยชน์ของกิจการวิสาหกิจชุมชนในกรุงเทพมหานครหรือในจังหวัด แล้วแต่กรณี (4) พิจารณาเสนอแนะต่อคณะกรรมการเกี่ยวกับการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4 (5) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่พระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนจังหวัด หรือคณะกรรมการมอบหมาย การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการตาม (1) (2) (3) (4) หรือ (5) ของคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนจังหวัดต้องไม่ขัดหรือแย้งกับนโยบาย มาตรการ หรือแผนการพัฒนาและส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนที่คณะกรรมการกำหนดหรือคณะรัฐมนตรีอนุมัติ
(1) รับผิดชอบงานธุรการ งานประชุม และกิจการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับงานของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา - 8 -
จัดทำแผนการพัฒนาและส่งเสริมกิจการวิสาหกิจชุมชนเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการ
ประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และกองทุนที่เกี่ยวข้องกับกิจการวิสาหกิจชุมชน เพื่อให้การส่งเสริมกิจการวิสาหกิจชุมชนเป็นไปอย่างมีเอกภาพและมีประสิทธิภาพ
จัดให้มีการอบรมและให้ความรู้แก่สมาชิกชุมชนเกี่ยวกับการประกอบการ การนำจัดการทรัพยากร หรือภูมิปัญญาของชุมชนมาใช้ให้เหมาะสมกับการดำเนินชุมชนอื่น ๆ รวมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการผลิตและการบริหารจัดการธุรกิจทุกด้านซึ่งในวิสาหกิจชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการงานบุคคล การบัญชี การลงทุน หรือการตลาด
ปฏิบัติการอื่นใดตามที่คณะกรรมการมอบหมาย ให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนทำหน้าที่เป็นเลขานุการของกรรมการที่เกี่ยวกับงานของคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนจังหวัด
การส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตัดสิทธิวิสาหกิจชุมชนที่ประสงค์จะดำเนินการติดต่อกับส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องด้วยตนเอง เมื่อได้รับคำขอจากวิสาหกิจชุมชนตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้ส่งคำขอไปยังส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป กรณีส่งเสริมการเกษตรของวิสาหกิจชุมชนที่มีข้อผูกพันต่อส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐรับข้อผูกพันดังกล่าวไว้เพื่อประโยชน์ของวิสาหกิจชุมชน ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ในการส่งเสริมมาตรฐานสินค้า ให้คณะกรรมการพิจารณาให้คำปรึกษาหรือให้ความช่วยเหลือแก่วิสาหกิจชุมชนในการขอจดทะเบียนเครื่องหมายรับรองจากกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานสินค้า
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เครื่องหมายการค้า หรือให้คำปรึกษาหารือให้ความช่วยเหลืออื่นใดเพื่อให้ความคุ้มครองแก่สินค้า หรือบริการของกิจการวิสาหกิจชุมชนนั้นตามที่เห็นสมควร
(1) ประสานงานกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การส่งเสริมและสนับสนุนกิจการวิสาหกิจชุมชนตามที่ได้รับมอบหมายตามมาตรา 22 และมาตรา 24 และการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนตามมาตรา 25 และมาตรา 29 (2) ให้การส่งเสริมและสนับสนุน หรือประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุนกิจการวิสาหกิจชุมชนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเงินทุนในการประกอบการ (3) จัดให้มีการฝึกอบรมหรือการถ่ายทอดความรู้ที่เป็นประโยชน์และเป็นไปตามความต้องการของกิจการวิสาหกิจชุมชน เช่น การฝึกอบรมด้านการจัดการ การบัญชี การขาย หรือการถ่ายทอดความรู้หรือเทคโนโลยีที่เหมาะสมหรือจำเป็น (4) เสนอแนะให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องพิจารณา ยกเว้น หรือชะลอภาษีใด ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานหรือการส่งเสริมกิจการวิสาหกิจชุมชน (5) ดำเนินการในเรื่องอื่นใดที่คณะกรรมการเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมกิจการวิสาหกิจชุมชน
บทเฉพาะกาล
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พันตำรวจโท พงศ์ธร จินดารัตน์ นายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา - 12 - หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เศรษฐกิจชุมชนเป็นพื้นฐานของการพัฒนาเศรษฐกิจแบบพอเพียง และโดยที่เศรษฐกิจชุมชนในปัจจุบันจำเป็นต้องยกระดับที่มีพร้อมจะเข้ามามีส่วนทำการค้ากับประเทศในประเทศและระหว่างประเทศ สมควรให้มีการส่งเสริมความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น การสร้างรายได้ การสร้างเสถียรภาพด้านเศรษฐกิจ การพัฒนาศักยภาพในการดำรงชีพ และการพัฒนารูปแบบของวิสาหกิจชุมชน อันจะยังประโยชน์แก่การพัฒนาประเทศโดยรวม สมควรปรับปรุงบทบัญญัติของพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566
“มาตรา 20 ให้มีคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนจังหวัด คณะหนึ่ง ประกอบด้วย (1) ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานกรรมการ (2) กรรมการโดยตำแหน่ง ได้แก่ เกษตรจังหวัด พัฒนาการจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด พาณิชย์จังหวัด ประมงจังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด และสหกรณ์จังหวัด (3) กรรมการผู้แทนวิสาหกิจชุมชน จำนวนไม่เกินห้าคน ซึ่งคัดเลือกจากสมาชิกวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดนั้นตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด (4) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนไม่เกินห้าคน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือประสบการณ์ด้านการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนหรือด้านอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน (5) เกษตรและสหกรณ์จังหวัด เป็นกรรมการและเลขานุการ”
“มาตรา 21 คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนจังหวัด มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ (1) เสนอแผนปฏิบัติการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนของจังหวัดต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณา (2) ส่งเสริมและสนับสนุนการจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน (3) ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน (4) ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน (5) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่คณะกรรมการมอบหมาย” ให้แก่ราษฎรทั้งชุมชนเพื่อประโยชน์ในการดำเนินกิจการของวิสาหกิจชุมชนที่ตั้งขึ้นเป็นนิติบุคคลนั้นด้วย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา วิรวรรธน์/เพิ่มเติม ๒๒ เมษายน ๒๕๖๒ วิฑูรย์/ตรวจ ๒๔ เมษายน ๒๕๖๒