มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติการแสดงทางบก พ.ศ. ๒๕๖๒”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่
วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ยกเลิก
(ก) พระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ. ๒๔๗๗
(ข) พระราชบัญญัติการขนส่ง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๐๐
(ค) พระราชบัญญัติการขนส่ง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๔
พระราชกฤษฎีกาหรือกฎหมายใด และข้อบังคับอื่นในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัติ
นี้ หรือที่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้พระราชบัญญัตินี้แทน
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
๑
“การขนส่ง” หมายความว่า การขนคน สัตว์ หรือสิ่งของ โดยทางบกด้วยรถ
๒
“การขนส่งประจำทาง” หมายความว่า การขนส่งเพื่อสินจ้างตามเส้นทางที่
คณะกรรมการกำหนด
๓
“การขนส่งไม่ประจำทาง” หมายความว่า การขนส่งเพื่อสินจ้างโดยไม่จำกัด
เส้นทาง
*ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๖/ตอนที่ ๒๘/ฉบับพิเศษ หน้า ๑๐/๑๙ มีนาคม ๒๕๖๒
```
๔
“การขนส่งโดยรถยนต์เล็ก” หมายความว่า การขนส่งคนหรือสิ่งของที่รถยนต์ และสิ่งของรวมกันแล้วมีน้ำหนักรวมเส้นทางที่คณะกรรมการกำหนดด้วยรถที่มีน้ำหนักรถและน้ำหนัก บรรทุกรวมกันไม่เกินสิบตันครึ่ง
๕
“การขนส่งส่วนบุคคล” หมายความว่า การขนส่งเพื่อการดำรงชีพของ ตนเองด้วยรถยนต์ที่มิได้แสดงทะเบียนแล้วว่าเป็นรถโดยสาร
๖
“การขนส่งสาธารณะภายในจังหวัด” หมายความว่า การขนส่งประจำทาง การขนส่งไม่ ประจำทาง หรือการขนส่งส่วนบุคคลซึ่งกระทำระหว่างท้องที่ของจังหวัดกับจังหวัด
๗
“การขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ” หมายความว่า การขนส่งประจำทาง การขนส่งไม่ ประจำทาง หรือการขนส่งส่วนบุคคลซึ่งกระทำระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศ
๘
“การรับจ้างการขนส่ง” หมายความว่า การรับจ้างรวบรวมคน สิ่งของหรือสิ่งของ และจัดให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งทำการขนส่งจากที่แห่งหนึ่งไปยังที่อีก แห่งหนึ่งเป็นความรับผิดชอบของผู้รับจ้างการขนส่ง
๙
“รถ” หมายความว่า ยานพาหนะทุกชนิดที่ใช้ในการขนส่งทางบกซึ่งเดินด้วย กำลังเครื่องยนต์ กำลังไฟฟ้า หรือพลังงานอื่น และหมายความรวมถึงรถพ่วงของรถนั้นด้วย ทั้งนี้ เว้นแต่รถไฟ
๑๐
“ผู้ตรวจการ” หมายความว่า ข้าราชการสังกัดกรมการขนส่งทางบก ซึ่ง รัฐมนตรีแต่งตั้งให้มีหน้าที่ตรวจการขนส่ง
๑๑
“พนักงานตรวจการขนส่งทางบก” หมายความว่า ข้าราชการสังกัดกรมการขนส่งทางบก ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้มีหน้าที่ตรวจการขนส่ง และรวมถึง เจ้าพนักงานจราจร เจ้าพนักงาน ตำรวจและเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้มีอำนาจตรวจการขนส่ง
๑๒
“นายทะเบียน” หมายความว่า นายทะเบียนขนส่งทางบกประจำจังหวัด นายทะเบียน ขนส่งทางบกประจำจังหวัด แล้วแต่กรณี
๑๓
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง หรือคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกประจำจังหวัด แล้วแต่กรณี
๑๔
“อธิบดี” หมายความว่า อธิบดีกรมการขนส่งทางบก
๑๕
“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๕ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับแก่
(ก) การขนส่งโดยรถยนต์ทุกประเภทตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ทุกประเภท
(ข) การขนส่งโดย
(ก) รถยนต์รับจ้างข้ามจังหวัดทุกประเภทที่มิใช่รถไม่เกินสี่ตันครึ่ง รถยนต์รับจ้างข้ามจังหวัด ระหว่าง จังหวัดที่มิใช่รถไม่เกินสี่ตันครึ่ง รถยนต์รับจ้างข้ามจังหวัดทุกประเภทที่มิใช่รถไม่เกินสี่ตันครึ่ง และรถยนต์ส่วนบุคคลที่มิใช่รถไม่เกินสี่ตันครึ่งตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ และพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๐ ได้แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒
```
(ข)* รายงานตัวส่วนบุคคลในเขตคนแต่ไม่เกินสิบสองคน และรายงานตัวพาหนะ ส่วนบุคคลที่มีน้ำหนักรถไม่เกินสองพันสองร้อยกิโลกรัมตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ซึ่งมิให้ใช้ ประกอบการขนส่งเพื่อสินจ้าง
(ค) รายละเอียดล้อ รหัสรายงานตัว และทะเบียนรถ ตามกฎหมายว่าด้วย รถยนต์
(ง) การขนส่งพิเศษที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๖ ให้ถือว่าผู้ซึ่งอยู่ในข้อยกเว้นตามเป็นนายทะเบียนตามบทที่ ตามพระราชบัญญัตินี้ในส่วนที่เกี่ยวกับการขนส่งระหว่างจังหวัดและการขนส่งระหว่างประเทศ ให้หมายความเป็นนายทะเบียนประจำกรุงเทพมหานคร มีอำนาจและหน้าที่ ตามพระราชบัญญัตินี้ภายในเขตกรุงเทพมหานคร
ให้หมายถึงจังหวัดเป็นนายทะเบียนประจำจังหวัด มีอำนาจและหน้าที่ตาม พระราชบัญญัตินี้ ภายในเขตจังหวัดของตน
ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ นายทะเบียนกลางและนายทะเบียน ประจำจังหวัดต้องออมแนะนำให้ข้าราชการในสังกัดกรมการขนส่งทางบกกระทำการแทนได้ การมอบหมายตามวรรคนี้ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
มาตรา ๗ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทย รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ โดยให้มีอำนาจออกกฎกระทรวง ตรวจสอบกำหนดออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น การออกกฎกระทรวงและข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ อันเป็น
หมวด ๑ คณะกรรมการนโยบายการขนส่งทางบก
มาตรา ๘ ให้มีคณะกรรมการนโยบายการขนส่งทางบกคณะหนึ่ง ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเป็น รองประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงการคลัง เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานงบประมาณ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการแผนการแผนและเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
กรมทางหลวงเป็นกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอื่นอีกไม่เกินห้าคนซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีสัญชาติไทย และมีความรู้หรือความจัดเจนในกิจการส่งเสริม การเศรษฐกิจการค้าอุตสาหกรรม ให้ต้องมีกรรมการเฉพาะจากกรมทางหลวง เป็นกรรมการและเลขานุการของกรรมการ ให้คณะกรรมการมีนายกสมาคมส่งทางมาแต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการได้
ตามความจำเป็น
มาตรา ๙ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิดำรงอยู่ในตำแหน่งคราวละสองปี ในกรณีที่มีการแต่งตั้งกรรมการในระหว่างการคราวของกรรมการซึ่งยังไม่สิ้นคราวอยู่ในตำแหน่งใหม่ตามคราวแต่งตั้งเดิมจนถึงคราวของ ให้ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งมาอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งแต่งตั้งไว้แล้วนั้น กรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งอาจได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการอีกได้
มาตรา ๑๐ ผู้มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ ห้ามมิให้เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ก) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ (ข) ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดหรือคำสั่งถึงที่สุดของศาลให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ (ค) เป็นบุคคลล้มละลาย (ง) เป็นกรรมการหรือพนักงานในรัฐวิสาหกิจ หรือเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ
มาตรา ๑๑ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา ๑๐ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ (ก) ตาย (ข) ลาออก (ค) รัฐมนตรีให้ออก (ง) มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๐
มาตรา ๑๒ ในการประชุมของคณะกรรมการ ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุม หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานและรองประธานไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุมแทน
มาตรา ๑๓ การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งจำนวนของกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งมีเสียงหนึ่งใน การลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเสียงซึ่งขาด
มาตรา ๑๔ คณะกรรมการนโยบายการขนส่งทางบกมีอำนาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้
๑
กำหนดนโยบายการขนส่งทางบกระยะสั้นและระยะยาวเสนอคณะรัฐมนตรี
๒
กำหนดนโยบายเกี่ยวกับการพัฒนาและดำเนินการสายชานเมืองเสนอต่อคณะรัฐมนตรี
๓
กำหนดมาตรการและแผนพัฒนาในการขนส่งทางบกเสนอคณะรัฐมนตรี
๔
กำหนดมาตรการเกี่ยวกับความปลอดภัยและความสะดวกในการขนส่งทางบกเพื่อให้คณะกรรมการปฏิบัติ
๕
กำหนดการห้ามรับจดทะเบียนรถเป็นครั้งคราวตามความจำเป็นโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีเพื่อให้คณะกรรมการปฏิบัติ
๖
ประสานงานหน้าที่เกี่ยวข้องระหว่างกันในด้านการขนส่งทางบก ตลอดจนประสานงานด้านการขนส่งทางบกกับการขนส่งทางน้ำและการขนส่งทางอากาศ
๗
ให้คำปรึกษาต่อรัฐมนตรีเกี่ยวกับการขนส่งทางบก
มาตรา ๑๕ คณะกรรมการนโยบายการขนส่งทางบกมีอำนาจแต่งตั้งอนุกรรมการเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดได้
ให้บังคับมาตรา ๖ และมาตรา ๑๓ มาใช้บังคับแก่การประชุมคณะอนุกรรมการโดยอนุโลม
หมวด ๒
คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบก
มาตรา ๑๖ ให้มีคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางคณะหนึ่งประกอบด้วย ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงคมนาคม เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อธิบดีกรมการขนส่งทางบกและเลขานุการคณะกรรมการการขนส่งทางบก ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการขนส่งและจราจร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นกรรมการ และกรรมการที่รัฐมนตรีแต่งตั้งเพิ่มเติมตามที่เห็นสมควรซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแต่งตั้งจากผู้แทนของผู้ประกอบการขนส่งหรือกิจการขนส่งทางบก
ให้รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ
ให้คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางแต่งตั้งอนุกรรมการเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดได้ตามความจำเป็น
มาตรา ๑๗ ให้มีคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกประจำจังหวัดยกเว้นกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานกรรมการ อัยการจังหวัด ผู้
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
- 6 -
กำกับการตำรวจภูธรจังหวัดเป็นกรรมการ และผู้บัญชาการเรือนจำตั้งแต่ชั้นอธิบดีไม่เกินห้าคน โดยมีนายกเทศมนตรีในจังหวัดนั้นรวมอยู่ด้วยที่เสนอเป็นกรรมการ
ให้นายจังหวัดเป็นกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ
ให้คณะกรรมการควบคุมการส่งทางบกประจำจังหวัดแต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการได้ตามความจำเป็น
มาตรา 13 ให้บังคับมาตรา 9 มาตรา 10 มาตรา 11 มาตรา 12 และมาตรา 13 มาใช้บังคับกับคณะกรรมการควบคุมการส่งทางบกกลาง และคณะกรรมการควบคุมการส่งทางบกประจำจังหวัดโดยอนุโลม
มาตรา 14 ให้คณะกรรมการควบคุมการส่งทางบกกลางมีอำนาจและหน้าที่ดังต่อไปนี้
1
กำหนดลักษณะอย่างรถส่งประจำทางและรถส่งไม่ประจำทาง
2
กำหนดเส้นทาง จำนวนผู้ประกอบการส่ง และจำนวนรถสำหรับการส่งประจำทางในเขตกรุงเทพมหานคร ระหว่างจังหวัดและระหว่างประเทศ
3
กำหนดจำนวนผู้ประกอบการส่งและจำนวนรถสำหรับการส่งไม่ประจำทางในเขตกรุงเทพมหานคร ระหว่างจังหวัดและระหว่างประเทศ
4
กำหนดเส้นทาง จำนวนผู้ประกอบการส่ง และจำนวนรถสำหรับการส่งโดยสาร
โดยรายละเอียด
(ก) กำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับการรับชำระหนี้
(ข) กำหนดอัตราค่าบริการในการขนส่งรถส่งโดยสาร
(ค) กำหนดสถานที่ จัดให้มีหรือจัดตั้ง และระเบียบเกี่ยวกับสถานีขนส่ง
(ง) กำหนดชนิดหรือสภาพรถที่ใช้ในงานทะเบียน
(จ) กำหนดประเทศหรือดินแดนรถที่ต้องเข้าเขตหรือออกเขตเพื่อการรับส่งผู้โดยสารหรือขนถ่ายสินค้า ณ สถานีขนส่ง
(ฉ) กำหนดที่หยุดหรือจอดรถเพื่อรับส่งผู้โดยสาร
(ช) วางมาตรการในการกำหนด อนุญาต เพิกถอนการอนุญาตและการควบคุมกิจการส่งทางบก
(ซ) ปฏิบัติการอื่นตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ และตามมติคณะกรรมการในนโยบายการส่งทางบก
การกำหนดตาม (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7) ต้องไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมายอื่น
มาตรา 15 ให้คณะกรรมการควบคุมการส่งทางบกประจำจังหวัดมีอำนาจและหน้าที่ภายในเขตจังหวัด ดังต่อไปนี้
1
กำหนดเส้นทาง จำนวนผู้ประกอบการส่งและจำนวนรถสำหรับการส่งประจำทาง
๒
กำหนดจำนวนผู้ประกอบการขนส่งและจำนวนรถสำหรับการขนส่งไม่ประจำทาง
๓
กำหนดเส้นทาง จำนวนผู้ประกอบการขนส่งและจำนวนรถสำหรับการขนส่งโดย
ระหว่างเส้นทาง
๔
กำหนดอัตราค่าโดยสารและค่าบริการอย่างอื่นในการขนส่ง
๕
ปฏิบัติการอื่นตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้
คณะกรรมการนโยบายการขนส่งทางบกและคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกตาม
การกำหนดตาม (๑) และ (๒) เมื่อได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการควบคุมการขนส่ง
ทางบกกลางแล้วจึงจะใช้บังคับได้ และการกำหนดตาม (๑) (๒) และ (๓) ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
มาตรา ๒๑ คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางมีอำนาจแต่งตั้ง
อนุกรรมการเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดได้
ให้บังคับมาตรา ๑๓ และมาตรา ๑๔ มาใช้บังคับกับการประชุมคณะอนุกรรมการโดย
อนุโลม
มาตรา ๒๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่กำกับดูแลเกี่ยวกับกิจการขนส่งทางบก
เพื่อประโยชน์ในการบังคับให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้หรือเพื่อการพัฒนา หรือ
ยับยั้งการขนส่งทางบก ให้มีอำนาจสั่งการหรือสั่งยกเลิกหรือสั่งเปลี่ยนแปลงได้ตาม
ข้อเสนอของเจ้าพนักงานที่เกี่ยวกับการดำเนินงานได้
หมวด ๓
การประกอบการขนส่ง
มาตรา ๒๓ ห้ามมิให้ผู้ประกอบการขนส่งประจำทาง การขนส่งไม่ประจำทาง
การขนส่งโดยรถขนาดเล็ก หรือการขนส่งส่วนบุคคล เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตตามทะเบียน
การขออนุญาตและการอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดใน
กฎกระทรวง
มาตรา ๒๔ ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทาง การขนส่งไม่ประจำ
ทางและการขนส่งโดยรถขนาดเล็ก ต้องมีสัญชาติไทย
ในกรณีที่ผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคล ให้ผู้ถือหุ้นทุกคน หรือบริษัทห้างหุ้นส่วนจำกัด
ห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด ต้องมีสัญชาติไทยตามกฎหมายไทยและมี
สำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
ในกรณีที่ผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นบุคคลธรรมดา ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องมีสัญชาติ
ไทย
```
๑
ในกรณีที่เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดทั้งหมด ต้องมีสัญชาติไทย และทุนของห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้นไม่น้อยกว่าสองในสามเป็นของผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาและมีสัญชาติไทย
๒
ในกรณีที่เป็นบริษัทจำกัด กรรมการบริษัทจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งต้องมีสัญชาติไทย และทุนของบริษัทจำกัดนั้นไม่น้อยกว่าสองในสามเป็นของผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาและมีสัญชาติไทย หรือเป็นของห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด หรือเป็นของกระทรวง ทบวง กรม ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ หรือองค์การอื่นของรัฐ ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยการเงินการคลังของรัฐ หรือตามกฎหมายอื่น ๆ และบริษัทจำกัดตามข้อ (๒) นี้ต้องไม่อยู่ในระหว่างการออกหุ้นซื้อคืนออกให้แก่ผู้ถือ
๓
ในกรณีที่เป็นบริษัทมหาชนจำกัด กรรมการบริษัทจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งต้องมีสัญชาติไทย และทุนของบริษัทมหาชนจำกัดนั้นไม่น้อยกว่าสองในสามเป็นของผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาและมีสัญชาติไทย ในกรณีที่มีผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด ทุกรายชื่อหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด ผู้ถือหุ้นดังกล่าวต้องมีลักษณะตาม (๑) (๒) (๓) หรือ (๔) แล้วแต่กรณี ให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นดังกล่าวตามข้อบังคับของบริษัทจำกัด หรือเมื่อเหตุที่แสดงในกรณีพระราชบัญญัติ
มาตรา ๒๕ ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบการส่งเสริมระหว่างประเทศในประเทศไทย เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง การขออนุญาตและการอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง ให้ยกเลิกมาตรา ๒๓ มาตรา ๒๔ มาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ และมาตรา ๒๗ มาใช้บังคับแทนการประกอบการส่งเสริมระหว่างประเทศโดยอนุโลม
มาตรา ๒๖ ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการส่งเสริมในต่างประเทศในประเทศไทย เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนการส่งเสริมระหว่างประเทศและได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนการส่งเสริมระหว่างประเทศแล้ว ผู้รับจ้างตามมาตรา ๒๕ จึงประจำในกรณีพระราชบัญญัติฉบับนี้ และความของข้อกำหนดที่มีอยู่ระหว่างรัฐกับรัฐบาลต่างประเทศนั้น ๆ
มาตรา ๒๗ ใบอนุญาตประกอบการส่งเสริมในประเทศไทย คือ (๑) ใบอนุญาตประกอบการส่งเสริมระหว่าง
```
๒
ใบอนุญาตประกอบการขนส่งไม่ประจำทาง
๓
ใบอนุญาตประกอบการขนส่งโดยรถขนาดเล็ก
๔
ใบอนุญาตประกอบการขนส่งส่วนบุคคล
ใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทาง ใบอนุญาตประกอบการขนส่งไม่ประจำทาง หรือใบอนุญาตประกอบการขนส่งโดยรถขนาดเล็ก ให้ใช้เป็นใบอนุญาตประกอบการขนส่งส่วนบุคคลได้
ห้ามมิให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งใช้รถโดยสารพิเศษหรือใช้จัดทำเว็บไซต์หรือระบบงานอื่นเพื่อการขนส่งตามที่นายทะเบียนกำหนด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางกำหนด
มาตรา ๒๘ ใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางให้มีอายุเจ็ดปีนับแต่วันออกใบอนุญาต
ใบอนุญาตประกอบการขนส่งไม่ประจำทาง ใบอนุญาตประกอบการขนส่งโดยรถขนาดเล็ก และใบอนุญาตประกอบการขนส่งส่วนบุคคล ให้มีอายุห้าปีนับแต่วันออกใบอนุญาต ผู้ได้รับใบอนุญาตดังกล่าวต้องยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตดังกล่าวก่อนสิ้นอายุใบอนุญาต
ใบอนุญาตสิ้นอายุ แต่การขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทาง และใบอนุญาตประกอบการขนส่งไม่ประจำทาง ต้องยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตก่อนสิ้นอายุใบอนุญาตไม่น้อยกว่าสามสิบวัน
กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๒๙ บทบัญญัติแห่งมาตรา ๒๓ มิให้ใช้บังคับแก่การขนส่งส่วนบุคคล ซึ่งหน่วยงานของรัฐ วัด มัสยิด มิชชัน สถานกาชาดไทย และสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลนั้นผู้ประกอบการขนส่ง แต่ผู้ประกอบการขนส่งต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติอื่นแห่งพระราชบัญญัตินี้เสมือนหนึ่งมิได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งตามกฎหมายประกอบการ
มาตรา ๓๐ ให้นายทะเบียนกลางเป็นผู้ออกใบอนุญาตประกอบการขนส่งในกรุงเทพมหานคร เขตพระราชฐานต่าง ๆ และการขนส่งระหว่างประเทศ และให้นายทะเบียนประจำจังหวัดเป็นผู้ออกใบอนุญาตประกอบการขนส่งในจังหวัดของตน
ในการออกใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางจะต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ
มาตรา ๓๑ ในการออกใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทาง ให้นายทะเบียนโดยอนุมัติของคณะกรรมการกำหนดเงื่อนไขไว้ในใบอนุญาตนั้นด้วย
๑
จำนวนรถที่จะใช้ในการประกอบการขนส่งตามเส้นทางที่ใช้ในการประกอบการขนส่ง
๒
สิทธิในรถที่ใช้ประกอบการขนส่งของผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
๓
ลักษณะ ชนิด ขนาดและสีของรถและเครื่องหมายของผู้ประกอบการขนส่งที่ต้องให้ปรากฏประจำรถทุกคัน
๔
จำนวนที่นั่ง เกณฑ์น้ำหนักบรรทุกและวิธีการบรรทุก
๕
จำนวนผู้ประจำรถ
๖
เส้นทางที่ใช้ในการประกอบการขนส่ง
๗
อัตราค่าโดยสารและค่าบริการอย่างอื่นในการขนส่ง
๘
สถานที่หยุดและจอดเพื่อขนถ่ายคน สัตว์ หรือสิ่งของ
๙
ที่พักรถของหยุดในระหว่างเส้นทาง
๑๐
มาตรฐานบริการในการประกอบการขนส่ง
๑๑
เวลาและจำนวนเที่ยวของการเดินรถ
๑๒
เวลาที่กำหนดระหว่างในประกอบการขนส่ง
๑๓
สถานที่เก็บ ซ่อม และบำรุงรักษารถ
๑๔
การประกอบกิจการอื่นนอกจากการประกอบการขนส่งประจำทาง
๑๕
เงื่อนไขอื่นที่กำหนดในกฎกระทรวง
ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางต้องจัดให้มีประกาศเงื่อนไขตาม (๒) (๓) (๔) (๕) (๖) และ (๑๐) ณ ที่ซึ่งจัดไว้ภายในรถ
มาตรา ๓๑ ในการออกใบอนุญาตประกอบการขนส่งไม่ประจำทางให้เจ้าพนักงานโดยอนุมัติของคณะกรรมการกำหนดเงื่อนไขไว้ในใบอนุญาตนั้นด้วย
๑
ลักษณะ ชนิดและขนาดของรถและเครื่องหมายของผู้ประกอบการขนส่งที่ต้องให้ปรากฏประจำรถทุกคัน
๒
จำนวนที่นั่ง เกณฑ์น้ำหนักบรรทุกและวิธีการบรรทุก
๓
จำนวนผู้ประจำรถ
๔
เส้นทางที่ใช้ในการประกอบการขนส่ง
๕
อัตราค่าโดยสารและค่าบริการอย่างอื่นในการขนส่ง
๖
สถานที่หยุดและจอดเพื่อขนถ่ายคน สัตว์ หรือสิ่งของ
๗
สถานที่เก็บ ซ่อม และบำรุงรักษารถ
๘
เงื่อนไขอื่นที่กำหนดในกฎกระทรวง
ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งไม่ประจำทางต้องจัดให้มีประกาศเงื่อนไขตาม (๒) และ (๔) ณ ที่ซึ่งจัดไว้ภายในรถ
มาตรา ๓๒ ในการออกใบอนุญาตประกอบการขนส่งโดยสารไม่ประจำทาง ให้ นายทะเบียนโดยอนุมัติของคณะกรรมการกำหนดเงื่อนไขไว้ในใบอนุญาตนั้นด้วย
๑
การขนส่งที่ต่อเนื่องในการประกอบการขนส่งตามเส้นทางที่ใช้ในการประกอบการขนส่ง
๒
ลักษณะ ชนิด ขนาดและเสียงรถและเครื่องหมายของผู้ประกอบการขนส่งที่ต้องให้ปรากฏประจำรถทุกคัน
๓
จำนวนที่นั่ง เกณฑ์น้ำหนักบรรทุก และวิธีการบรรทุก
๔
เวลาและอาณาเขตที่ใช้ของการเดินรถ
๕
เส้นทางที่ใช้ในการประกอบการขนส่ง
๖
อัตราค่าโดยสารและค่าบริการอย่างอื่นในทางขนส่ง
๗
เงื่อนไขอื่นที่กำหนดในกฎกระทรวง
ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งโดยรถขนาดเล็กต้องจัดให้มีประกาศเงื่อนไขตาม (๒) และ (๖) ณ ที่ซึ่งบริษัทกำหนด
มาตรา ๓๓ ในการออกใบอนุญาตประกอบการขนส่งส่วนบุคคล ให้นายทะเบียนกำหนดเงื่อนไขตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางกำหนดไว้ในใบอนุญาตเกี่ยวกับ
๑
จำนวนรถที่ต้องใช้ในการประกอบการขนส่ง
๒
ลักษณะ ชนิด และขนาดของรถและเครื่องหมายของผู้ประกอบการขนส่งที่ต้องให้ปรากฏประจำรถทุกคัน
๓
สถานที่เก็บ ซ่อม และบำรุงรักษา
๔
เงื่อนไขอื่นที่จำเป็น
ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งต้องจัดให้มีประกาศเงื่อนไขตาม (๒) ณ ที่ซึ่งบริษัทกำหนด
มาตรา ๓๔ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งต้องจัดให้มีอุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้ และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยในการขนส่ง ทั้งนี้ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
- มาตรา ๓๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗
- มาตรา ๓๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗
- มาตรา ๓๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗
มาตรการเพิ่มความปลอดภัยในรถโดยสารสาธารณะ
- มาตรา ๓๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗
มาตรา 37 ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางจัดให้มีที่พักผู้โดยสารตามระยะทางโดยมีลักษณะ ขนาด จำนวน และจุดที่ตั้งของที่พักผู้โดยสารตามที่คณะกรรมการกำหนด
มาตรา 38 ห้ามมิให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง เพิ่ม ลด หรือแก้ไขคำขนส่งหรือคาบวิ่งการขนส่งในกรณีรถประจำทาง เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการ
มาตรา 39 ห้ามมิให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทาง ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งไม่ประจำทาง ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งโดยรถยนต์ลาก หรือผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งส่วนบุคคลให้รถยนต์ให้บุคคลอื่นใช้รถที่ได้รับอนุญาตการขนส่งนอกเส้นทาง หรือนอกท้องที่ที่ได้รับอนุญาต แล้วแต่กรณี เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากนายทะเบียน หรือผู้ซึ่งนายทะเบียนมอบหมาย ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางกำหนด
มาตรา 40 ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งระหว่างทางต้องจัดให้มีการอนุญาตให้ใช้ประกอบการขนส่งในเส้นทางหนึ่งไปใช้ทำการขนส่งอีกเส้นทางหนึ่งที่มีเงื่อนไขเดียวกันกับเส้นทางที่ได้รับใบอนุญาตให้ใช้ประกอบการขนส่งในเส้นทางนั้นตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางกำหนด
มาตรา 40/1 ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางหรือไม่ประจำทางสามารถขนส่งสิ่งอื่นที่มิใช่ผู้โดยสารในเส้นทางเดียวหรือคล้ายกันกับผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางหรือมีลักษณะเป็นการเอื้อผลประโยชน์กับผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทางในเส้นทางที่ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งระหว่างทางได้รับอนุญาต
มาตรา 40 ทวิ ห้ามมิให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งให้หรือยินยอมให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ขึ้นรถที่ใช้ในการขนส่งทางบกทำการควบคุมให้หรือยอมให้ปฏิบัติหน้าที่ขึ้นรถผู้มีใบอนุญาตหรือการจัดการขนส่งที่ผิดเงื่อนไขดังต่อไปนี้
(ก) มาตราหรือของเสียอันตรายอย่างยิ่ง
(ข) เศษอาหารที่ได้ให้การอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยเศษอาหารที่ผิด
(ค) เศษอาหารที่ออกฤทธิ์ต่อกฎหมายว่าด้วยเศษอาหารที่ผิดกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
และประกาศ
ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งต้องดูแลและป้องกันไม่ให้ผู้ซึ่งมีการหรือกระทำการตาม (ก) (ข) หรือ (ค) ของรถหรือปฏิบัติหน้าที่ขึ้นรถ
มาตรา 40/2 เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2562
มาตรา 40 ทวิ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562
มาตรา ๔๘ ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน หรือมีความจําเป็นที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์เพื่อให้การขนส่งได้รับความสะดวกหรือให้รถเพียงพอกับการขนส่ง นายทะเบียนมีอํานาจที่จะสั่งเปลี่ยนแปลงเส้นทางการเดินรถ เวลา และจํานวนเที่ยวของการเดินรถหรือให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง ผู้ได้รับสิทธิเช่าซื้อบุคคลอื่นเป็นการชั่วคราวตามความจําเป็นแล้วให้รายงานคณะกรรมการโดยเร็ว
มาตรา ๔๙ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งต้องแสดงใบอนุญาตประกอบการขนส่ง หรือใบแทนใบอนุญาตไว้ในที่ที่เปิดเผย ณ ที่ตั้งสํานักงานของผู้ได้รับใบอนุญาต
มาตรา ๕๐ ในกรณีที่ใบอนุญาตประกอบการขนส่งสูญหาย ถูกทําลายหรือชํารุดในสาระสําคัญ ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งยื่นคําขอรับใบแทนใบอนุญาตต่อนายทะเบียนภายในสิบห้าวันนับตั้งแต่ทราบถึงการสูญหาย ถูกทําลายหรือชํารุดดังกล่าว
มาตรา ๕๑ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจําทาง ซึ่งประสงค์จะเลิกประกอบการขนส่งต้องแจ้งความประสงค์ดังกล่าวเป็นหนังสือให้แก่นายทะเบียนทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าหกสิบวันก่อนวันเลิกประกอบการขนส่ง
มาตรา ๕๒ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งโดยสารประจําทางซึ่งประสงค์จะเลิกประกอบการขนส่งต้องแจ้งความประสงค์ดังกล่าวเป็นหนังสือให้แก่นายทะเบียนทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าหกสิบวันก่อนวันเลิกประกอบการขนส่ง
มาตรา ๕๓ เมื่อปรากฏว่าผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง
๑
ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๔๘
๒
ไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติไม่ถูกต้องตามเงื่อนไขในมาตรา ๔๓ มาตรา ๔๔ มาตรา ๔๕ หรือมาตรา ๔๖ หรือไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติไม่ถูกต้องตามข้อกําหนดว่าด้วยความปลอดภัยของผู้โดยสารตามมาตรา ๑๒ หรือไม่ปฏิบัติหรือปฏิบัติไม่ถูกต้องตามข้อกําหนดว่าด้วยการจัดให้มีค่าเสียหายที่เกิดจากการขนส่ง
ให้นายทะเบียนมีอํานาจเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการขนส่งของผู้ได้รับใบอนุญาตนั้นได้ หรืออาจสั่งให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งระงับการขนส่งทั้งหมดหรือบางส่วนไว้ก่อนก็ได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในกฎกระทรวง
ในกรณีที่นายทะเบียนมีคําสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการขนส่ง นายทะเบียนอาจสั่งให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งระงับการขนส่งทั้งหมดหรือบางส่วนไว้ก่อนก็ได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๕๔ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งต้องชําระค่าธรรมเนียมรายปีตามอัตราที่กําหนดในกฎกระทรวงภายในกําหนดเวลาที่นายทะเบียนกําหนด
มาตรา ๔๘ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งซึ่งถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตมีสิทธิอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ทราบคำสั่ง
คำวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด
การอุทธรณ์ตามวรรคหนึ่งไม่เป็นการระงับผลการบังคับตามคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต
มาตรา ๔๙ ให้อธิบดีหรือเจ้าพนักงานซึ่งอธิบดีมอบหมายมีอำนาจควบคุมดูแลการดำเนินการเกี่ยวกับการขนส่งให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ และเพื่อประโยชน์ดังกล่าวให้อธิบดีหรือเจ้าพนักงานมีอำนาจ
๑
เข้าไปในสถานที่ตามที่นายทะเบียนผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งเพื่อทราบข้อเท็จจริงและเพื่อตรวจสอบบัญชีและเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการประกอบการขนส่ง
๒
ยึดหรืออายัดไว้ซึ่งสิ่งของหรือเอกสารที่อยู่ในสถานที่ตาม (๑) ที่เป็นความผิดหรือที่อาจนำไปเป็นพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิด หรือได้มาจากการกระทำความผิด
๓
เรียกให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง ผู้จัดการ และพนักงานของผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง มาให้ถ้อยคำหรือให้ส่งเอกสารหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการในกรณีปฏิบัติการ (๑) และ (๒) ให้กระทำระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก หรือในเวลากลางคืนหากสถานที่นั้น และให้อธิบดีมีอำนาจมอบให้ผู้ตรวจราชการหรือพนักงานตรวจสถานที่การขนส่งแทนได้
ในการปฏิบัติการของอธิบดี นายทะเบียน ผู้ตรวจการ หรือพนักงานตรวจสถานที่การขนส่งในแต่ละกรณีต้องแสดงบัตรประจำตัวซึ่งผู้มีอำนาจออกให้ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๕๐ ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อว่ามีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้เกิดขึ้น ให้ผู้ตรวจการมีอำนาจจับกุมผู้ฝ่าฝืนและส่งไปพนักงานฝ่ายปกครองหรือเจ้าพนักงานตำรวจดำเนินคดีต่อไป
บาบัญญัติในวรรคหนึ่งไม่เป็นการล่วงล้ำอำนาจจับกุมของพนักงานฝ่ายปกครองหรือเจ้าพนักงานตำรวจ
มาตรา ๕๑ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๔๙ และมาตรา ๕๐ ให้ผู้ตรวจการและพนักงานตรวจสถานที่แสดงบัตรประจำตัวต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง
บัตรประจำตัวผู้ตรวจการและพนักงานตรวจสถานที่ให้เป็นไปตามแบบที่รัฐมนตรีกำหนด
หมวด ๔
การขนส่งให้เสียหายที่เกิดจากการขนส่ง
มาตรา ๕๒ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประจำทาง ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งไม่ประจำทาง ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งโดยรถยนต์ และผู้ได้รับ
ใบอนุญาตประกอบการขนส่งส่วนบุคคล ต้องวางหลักทรัพย์เป็นเงินสด หรือพันธบัตรรัฐบาลไทยอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างรวมกัน หรือเป็นสัญญาประกันภัยและกรมธรรม์ประกันภัยที่ทำกับบริษัทประกันภัยที่นายทะเบียนกลางให้ความเห็นชอบก่อนนายทะเบียนกลาง ในกรณีเป็นสัญญาประกันภัยและกรมธรรม์ประกันภัยผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งต้องเป็นผู้เอาประกันภัย โดยให้บุคคลภายนอกผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการขนส่งของผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งมีสิทธิเรียกร้องให้บริษัทประกันภัยชดใช้เงินตามที่ระบุในกรมธรรม์ประกันภัยได้โดยตรง ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
จำนวนหรือมูลค่าของหลักทรัพย์ตามวรรคหนึ่ง ให้กำหนดตามขนาดและประเภทของการประกอบการขนส่งแต่ละประเภทที่กำหนดในกฎกระทรวง
ในกรณีที่ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งวางหลักทรัพย์เป็นเงินสดไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนให้ตกลงหลักทรัพย์ที่เป็นเงินสดแทนเป็นของผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งที่วางหลักทรัพย์
ให้กรมการขนส่งทางบกเป็นผู้รับผิดชอบในการเก็บรักษาเงินฝาก และการเบิกจ่ายเงินจากบัญชีหลักทรัพย์กับธนาคารจะเป็นของกรมการขนส่งทางบก
มาตรา 54 ในกรณีหลักทรัพย์ที่นำมาวางประกันตามมาตรา 53 มีจำนวนหรือมูลค่าลดน้อยลง นายทะเบียนกลางมีอำนาจสั่งให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งวางหลักทรัพย์เพิ่มเติมให้ครบจำนวนหรือมูลค่าตามที่กำหนดได้ภายในกำหนดเวลาที่เห็นสมควร
มาตรา 55 ในกรณีการขนส่งที่มีเงื่อนไขการขนส่งที่มีความเสี่ยงสูง และหากมีความเสียหายเกิดขึ้นอาจมีมูลค่าความเสียหายสูงเกินกว่ามูลค่าหลักทรัพย์ที่วางไว้ นายทะเบียนกลางมีอำนาจสั่งให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งทำประกันภัยเพิ่มเติมเพื่อให้ได้หลักทรัพย์ที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของการขนส่งด้วย
มาตรา 56 หลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งนำมาวางประกันตามมาตรา 53 ไม่อยู่ในความรับผิดของเจ้าหนี้ เว้นแต่ในกรณีที่เกิดการขัดคำพิพากษาหรือคำสั่งที่ถึงที่สุด ผู้ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดแก่ชีวิตหรือร่างกายของบุคคลภายนอกอันเนื่องจากการขนส่งของตน
มาตรา 57 เมื่อรถของผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกายหรือชีวิตของบุคคลใดนอกความรับผิดตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 55 ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งหรือบริษัทประกันภัยต้องชดใช้ค่าเสียหายหรือชดใช้ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นให้แก่ผู้เสียหายหรือทายาท ในกรณีที่ผู้เสียหายถึงแก่ความตาย
ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นดังกล่าวต้องชดใช้ให้แก่ผู้เสียหาย ให้จ่ายตามความร้ายแรงของความเสียหาย ทั้งนี้ ตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา 58 วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ 7) พ.ศ. ...
เพื่อประโยชน์แห่งพระราชบัญญัตินี้ ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นหมายถึง ค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ใน การรักษาพยาบาล รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ระหว่างการรักษาพยาบาลและหรือค่าปลงศพ
มาตรา ๕๘ เมื่อผู้เสียหายหรือทายาทในกรณีที่ผู้เสียหายถึงแก่ความตาย ประสงค์ จะได้รับค่าใช้จ่ายเบื้องต้น ให้ยื่นคำขอแบบที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดเสนอมา โดย แนบพยานหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าได้รับความเสียหายหรือถึงแก่ความตายจากการใช้รถ ให้พนักงานสอบสวนที่ตรวจสถานที่เกิดเหตุลงความเห็นว่าความเสียหายได้เกิดขึ้นจากรถ ของผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง ให้พนักงานสอบสวนส่งคำขอพร้อมความเห็น ดังกล่าวไปยังกรมการขนส่งทางบกเพื่อพิจารณาอนุมัติค่าใช้จ่ายเบื้องต้นตามมาตรา ๕๙ วรรคสอง ในกรณีที่เห็นว่าไม่เข้าข่ายเงื่อนไขตามมาตรา ๕๙ วรรคหนึ่ง
ในการสั่งของพนักงานสอบสวนตามวรรคหนึ่ง พนักงานสอบสวนต้องพิจารณาสั่ง ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับคำขอ
ในการขอให้ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นตามวรรคหนึ่ง ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง ต้องชำระภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่งจากพนักงานสอบสวน
มาตรา ๕๙ ผู้เสียหายหรือทายาทของผู้เสียหายต้องใช้สิทธิในการขอรับเงินได้ ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นตามมาตรา ๕๘ ภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่เกิดความเสียหายเท่านั้น
มาตรา ๖๐ การเรียกให้ชำระค่าใช้จ่ายเบื้องต้นตามหมวดนี้ไม่เป็นการตัดสิทธิในอันที่จะ เรียกร้องค่าเสียหายอื่นตามกฎหมายเพื่อชดใช้ความเสียหายตามความเป็นจริง
มาตรา ๖๑ บุคคลซึ่งมีสิทธิได้รับชดใช้ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นตามหมวดนี้ ได้แก่ ผู้เสียหายดังต่อไปนี้
(ก) ผู้เสียหายซึ่งมีถิ่นที่อยู่ในรถคันที่ก่อให้เกิดความเสียหาย แต่ได้รับความเสียหาย จากรถคันที่ก่อให้เกิดความเสียหายนั้น
(ข) ผู้เสียหายซึ่งอยู่ในรถคันที่ก่อให้เกิดความเสียหาย แต่ไม่รวมถึงผู้ขับรถ คนงาน หรือลูกจ้างประจำรถซึ่งอยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่
(ค) ผู้เสียหายซึ่งอยู่ในรถคันที่ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหาย
มาตรา ๖๒ ในกรณีที่ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของ พนักงานสอบสวนตามมาตรา ๕๘ ให้ยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษา คดีแพ่งกลางภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่งจากพนักงานสอบสวน และให้พนักงาน สอบสวนส่งคำขอที่เห็นชอบให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งชำระค่าใช้จ่ายเบื้องต้น พร้อมความเห็นไปยังศาล
คำวินิจฉัยของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกให้เป็นที่สุด
มาตรา 26 ในกรณีที่ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งอาจารย์คลั่งของพนักงานสอบสวน ถ้าคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางมีความเห็นตามที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งไปยังผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งว่าดำเนินการเช่นนั้นจะเป็นต้นเหตุให้เกิดเสียหาย หรือภาระทางผู้เสียหายเพิ่มขึ้นจากที่เจ้าของสิ่งต้นที่พนักงานสอบสวนกำหนดไว้หรือย่อมเสีย
มาตรา 27 ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งไม่อาจต่อใบอนุญาตดังกล่าวได้ตามคำสั่งของพนักงานสอบสวนตามมาตรา 25 หรือคำวินิจฉัยของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางตามมาตรา 26 ในกรณีนี้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งต้องส่งใบอนุญาตดังกล่าวคืนให้แก่กรมการขนส่งทางบกหรือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายโดยเร็ว และห้ามมิให้ใช้ใบประกอบการขนส่งดังกล่าวต่อไป
มาตรา 28 ในกรณีที่ผู้เสียหายไม่ได้รับชดใช้ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นหรือได้รับชดใช้ไม่ครบตามจำนวนที่พนักงานสอบสวนหรือคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางกำหนดไว้ ผู้เสียหายมีสิทธิเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติมจากผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งได้ เมื่อผู้เสียหายได้ให้หลักฐานอันควรเชื่อถือแก่พนักงานสอบสวนหรือคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางแล้ว ทั้งนี้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งต้องชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวให้แก่ผู้เสียหายภายในระยะเวลาที่กำหนด และหากไม่สามารถตกลงกันได้ ให้ฟ้องคดีต่อศาลตามมาตรา 31 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
หมวด 4
การรับจัดการขนส่ง
มาตรา 29 ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบการรับจัดการขนส่ง เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนกลาง การออกใบอนุญาตและการอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา 30 ในการออกใบอนุญาตประกอบการรับจัดการขนส่ง ให้นายทะเบียนกลาง โดยอนุมัติของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางกำหนดเงื่อนไขไว้ในใบอนุญาตเกี่ยวกับ
(ก) ท้องที่ที่ประกอบการรับจัดการขนส่ง
(ข) สถานที่ตั้งสำนักงานของผู้ประกอบการรับจัดการขนส่ง
(ค) สถานที่เก็บ หีบ หรือบันทึกอื่น
(ง) วิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับสวัสดิภาพ ความสะดวกและความปลอดภัยในการรับจัดการขนส่ง
(จ) อัตราค่าบริการรับจัดการขนส่ง
(ฉ) เงื่อนไขอื่นๆ ที่เห็นสมควรในกฎกระทรวง
ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการรับจัดการขนส่งต้องจัดให้มีการประกาศเงื่อนไขตาม (๑) (๒) (๓) (๔) และ (๕) ที่รองรับคำทักท้วง
มาตรา ๒๖ ผู้ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา ๒๕ ต้องวางหลักทรัพย์อย่างน้อยเพื่อเป็นประกันการปฏิบัติตามสัญญารับจัดการขนส่ง ทั้งนี้ ตามจำนวนหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๒๗ ในกรณีที่หลักทรัพย์ที่นำมาวางประกันตามมาตรา ๒๖ มีจำนวนหรือมูลค่าลดน้อยลง นายทะเบียนมีอำนาจสั่งให้ผู้ได้รับใบอนุญาตนำหลักทรัพย์มาวางเพิ่มเติมให้ครบจำนวนหรือมูลค่าภายในกำหนดเวลาซึ่งนายทะเบียนเห็นสมควร ทั้งนี้ ให้ถือว่าคำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมาย
มาตรา ๒๘ ใบอนุญาตประกอบการรับจัดการขนส่งให้มีอายุสูงสุดเป็นเวลา ๕ ปีนับแต่วันออกใบอนุญาต การขอต่ออายุใบอนุญาตและการอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๒๙ ให้บรรดาบทบัญญัติในมาตรา ๒๕ มาตรา ๒๖ มาตรา ๒๗ และมาตรา ๒๘ มาบังคับใช้กับการประกอบการรับจัดการขนส่งโดยอนุโลม
หมวด ๑๐ รถ
มาตรา ๓๐ รถที่ใช้ในการขนส่งต้องมีสภาพมั่นคงแข็งแรง มีเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวงว่าด้วยการจดทะเบียนตามมาตรา ๓๗ และเสียภาษีตามมาตรา ๔๕ แล้ว รถที่ใช้ในการขนส่งที่เสียภาษีตามพระราชบัญญัตินี้แล้ว ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์
มาตรา ๓๑ รถที่จดทะเบียนและเสียภาษีต้องผ่านการตรวจสภาพรถจากพนักงานตรวจสภาพ หรือจากสถานตรวจสภาพรถที่ได้รับอนุญาตตามมาตรา ๓๗ เว้นแต่รถประเภทหรือชนิดใดที่สมควรได้รับการยกเว้นการตรวจสภาพรถตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ในกรณีที่ปรากฏว่ารถที่นำมาเข้ารับการตรวจสภาพมีสภาพมั่นคงแข็งแรง มีเครื่องอุปกรณ์ และส่วนควบถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ให้พนักงานตรวจสภาพรถหรือสถานตรวจสภาพรถที่ได้รับอนุญาตออกใบรับรองการตรวจสภาพรถให้ ใบรับรองการตรวจสภาพรถให้ใช้ได้ภายในกำหนดเวลาที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๓๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๕๗
มาตรา ๒๐ เมื่อนายทะเบียนเห็นว่าพนักงานตรวจสภาพหรือสถานตรวจสภาพรถที่ขออนุญาตได้ตรวจสภาพรถถูกต้องตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๙ และมาตรา ๒๐ แล้ว ให้รับจดทะเบียนและออกหนังสือแสดงการจดทะเบียนพร้อมกันแผ่นป้ายทะเบียนรถนั้น เว้นแต่ในกรณีไม่ชำระ
มาตรา ๒๗ ผู้ใดประสงค์จะจัดตั้งสถานตรวจสภาพรถเพื่อรับตรวจสภาพรถตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนกลาง
การขออนุญาตและการอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๒๗/๑ อัตราค่าบริการตรวจสภาพรถ ให้เป็นไปตามที่อธิบดีประกาศกำหนด
ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งสถานตรวจสภาพรถต้องแสดงอัตราค่าบริการตรวจสภาพรถที่จะจัดเก็บไว้ในที่เปิดเผย ณ สถานตรวจสภาพรถของตน
มาตรา ๒๗/๒ ใบอนุญาตจัดตั้งสถานตรวจสภาพรถให้มีอายุสามปีนับแต่วันออกใบอนุญาต
การต่ออายุใบอนุญาตและการอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๒๗/๓ ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งสถานตรวจสภาพรถผู้ใดไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวงตามมาตรา ๒๗ ให้เพิกถอนใบอนุญาตดังกล่าว
สถานตรวจสภาพรถนั้นให้
ให้นำมาตรา ๔๘ มาตรา ๔๙ และมาตรา ๕๐ มาใช้บังคับแก่การจัดตั้งสถานตรวจสภาพรถที่ได้รับอนุญาตในลักษณะนี้
มาตรา ๒๗/๔ หนังสือแสดงการจดทะเบียนให้ใช้ได้สิ้นสุดในวันสิ้นเดือนที่
ให้เดือนมกราคม เดือนเมษายน เดือนกรกฎาคม และเดือนตุลาคม เป็นเดือนสิ้นสุดของแต่ละงวด
การต่ออายุทะเบียน ให้ยื่นคำขอต่ออายุก่อนทะเบียนรถในงวดถัดไปจะสิ้นสุดได้
ประกาศกำหนด
ให้นำมาตรา ๒๐ มาตรา ๒๗ และมาตรา ๓๑ มาใช้บังคับกับการต่ออายุทะเบียน
โดยอนุโลม
มาตรา ๒๘ เพิ่มเติมให้เป็นไปตามที่บัญญัติในกฎกระทรวงฉบับที่ ๒๗ พ.ศ. ๒๕๕๘
มาตรา ๔๘ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๕๗
มาตรา ๓๗ ห้ามมิให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงแบบแปลนภาพเครื่องอุปกรณ์หรือส่วนควบของรถให้ผิดแผกแตกต่างไปสาระสำคัญจากที่กำหนดในกฎกระทรวง เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากนายทะเบียน
มาตรา ๓๘ ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งที่ประสงค์จะเลิกใช้รถที่จดทะเบียนแล้ว แจ้งเป็นหนังสือแก่นายทะเบียนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่เลิกใช้รถนั้น
มาตรา ๓๙ ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งซึ่งมีความจำเป็นจะต้องระงับใช้รถนั้นชั่วคราวเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าสิบห้าวัน แจ้งเป็นหนังสือให้นายทะเบียนทราบก่อนวันที่จะระงับใช้รถนั้น
มาตรา ๔๐ รถที่ยังมิได้จดทะเบียนตามความในพระราชบัญญัตินี้หรือรถที่เลิกใช้ตามมาตรา ๓๘ ถ้าจะนำมาใช้เพื่อขายหรือเพื่อซ่อม ต้องเป็นอุปกรณ์และเครื่องหมายโดยเฉพาะตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ใบอนุญาตและเครื่องหมายดังกล่าวให้ใช้เพียงรถหรือผู้ประกอบการขนส่งของผู้ได้รับใบอนุญาตโดยมิเปลี่ยนไปใช้ในรถหรือผู้ประกอบการขนส่งอื่น
มาตรา ๔๑ การโอนรถซึ่งได้จดทะเบียนตามมาตรา ๓๗ แล้วผู้โอนและผู้รับโอนจะต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่โอนและให้นายทะเบียนแจ้งการโอนให้ในหนังสือแสดงการจดทะเบียนรถนั้น
มาตรา ๔๒ เมื่อผู้ตรวจการตรวจพบว่ารถคันใดมีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรงหรือมีเครื่องอุปกรณ์หรือส่วนควบไม่ครบถ้วน หรือไม่ถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ให้ผู้ตรวจการรายงานให้นายทะเบียนทราบ แต่ถ้าปรากฏโดยชัดแจ้งว่าการใช้รถนั้นต่อไปอาจเป็นเหตุให้เกิดภยันตรายแก่การขนส่ง ให้ผู้ตรวจการมีคำสั่งระงับใช้รถนั้นเป็นการชั่วคราวได้ และให้รีบรายงานให้นายทะเบียนทราบโดยไม่ชักช้า
ให้นายทะเบียนมีอำนาจสั่งให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งเป็นผู้จัดการตามความเหมาะสม จัดการซ่อมแซมหรือแก้ไขให้รถนั้นมีสภาพมั่นคงแข็งแรงและมีเครื่องอุปกรณ์หรือส่วนควบครบถ้วนถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวงภายในระยะเวลาที่นายทะเบียนกำหนด
เมื่อรถนั้นได้รับการซ่อมแซมหรือแก้ไขแล้ว ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งแจ้งให้นายทะเบียนทราบเพื่อขออนุญาตใช้รถนั้นต่อไป
รถที่ได้รับคำสั่งระงับการใช้ตามวรรคหนึ่ง ถ้าผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งมิได้จัดการซ่อมแซมหรือแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่นายทะเบียนกำหนด ให้นายทะเบียนมีอำนาจเพิกถอนทะเบียนรถนั้นได้
ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นอย่างยิ่ง นายทะเบียนจะขยายระยะเวลาตามวรรคสามให้ก็ได้ แต่ให้นายทะเบียนแจ้งเหตุผลในการขยายระยะเวลานั้นให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งทราบ และบันทึกไว้ในทะเบียนรถ
เมื่อได้พิจารณาเห็นสมควรตามรายงานของพนักงานตรวจสภาพหรือสถานตรวจสภาพรถที่ได้รับอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้ทะเบียนของรถนั้นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งใช้รถคันนั้นต่อไปได้
มาตรา 45 เพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษีรถตามพระราชบัญญัตินี้ กรมการขนส่งทางบกอาจกำหนดการชำระภาษีประจำปีเป็นรายเดือนหรือรายงวดแทนการชำระแบบแต่ละรายก็ได้ และให้กำหนดการชำระภาษีตามข้อกำหนดในบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ ในกรณีตามวรรคหนึ่งให้กรมการขนส่งทางบกจัดให้มีการออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีตามปกติแต่ปรับรวมมาให้คงอยู่นานเช่นเดิม นำเสนอเครื่องหมายประจำภาษี เฉพาะของหนังสือกรมให้ไว้ดังนี้
เงินอากรตามพระราชบัญญัตินี้ให้จัดเก็บได้ในกรุงเทพมหานครให้จัดเก็บในกรุงเทพมหานคร ส่วนในจังหวัดอื่นให้คนที่ประสงค์จะชำระภาษีรถส่วนท้องถิ่นในจังหวัดนั้น โดยให้จังหวัดจัดวัตรตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา 46 การชำระให้ชำระตามหน้าที่ประจำปีอย่างน้อยและจะต้องชำระเป็นงวดก็ได้ แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียมผิดตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
- รถที่จดทะเบียนในกรุงเทพมหานครให้ชำระในกรุงเทพมหานคร
- รถที่จดทะเบียนในจังหวัดอื่นให้ชำระในจังหวัดนั้น
ถ้าผู้ชำระไม่สามารถไปชำระในสถานที่ตามที่กำหนดให้เสียเงินเพิ่มหรือเสียค่าธรรมเนียมที่ไม่พึงต้องเสียหรือที่ไม่ต้องเสียก็ได้
มาตรา 47 รถที่ได้เสียภาษีประจำปีสำหรับปีใด ถ้าเปลี่ยนเจ้าของรถ เจ้าของใหม่ไม่ต้องเสียภาษีประจำปีปีนั้นอีก
มาตรา 48 ในระหว่างที่เจ้าของรถค้างชำระภาษีประจำปี ให้ทะเบียนมีอำนาจที่จะไม่รับดำเนินการทางทะเบียนจนกว่าเจ้าของรถจะเสียภาษีค้างชำระให้ครบถ้วนก่อนหรือได้มีการดำเนินการตามมาตรา 46/1 วรรคสองแล้ว
มาตรา 49 รถที่ค้างชำระภาษีประจำปีไม่เกินสามปี หากเจ้าของรถจะยกเลิก จะขอเสียภาษีประจำปีเพื่อขอใบเสร็จ ให้จ่ายทะเบียนประจำปีที่ค้างชำระให้ครบถ้วน
สำหรับรถที่ค้างชำระเกินสามปี ให้จ่ายทะเบียนประจำปีที่ค้างชำระในปีแรกและปีสุดท้าย และชำระตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา 50 วรรคสาม แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562
- เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2559
- เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2555
- เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2548
ในกรณีนี้เจ้าของรถคันเดิมไม่เสียภาษีรถที่ค้างชำระตามวรรคสองให้ครบถ้วน นายทะเบียนมีอำนาจที่จะไม่รับดำเนินการทางทะเบียน จนกว่าเจ้าของรถจะเสียภาษีรถที่ค้างชำระให้ครบถ้วน
มาตรา ๖๗/๔ รถที่ค้างชำระภาษีรถประจำปีติดต่อกันครบสามปี ให้การจดทะเบียนรถเป็นอันระงับ ในกรณีที่นายทะเบียนประกาศกำหนดให้เจ้าของรถที่ค้างชำระภาษีรถประจำปี ที่ทำการจดทะเบียนและในสภาพที่ผิดปกติประกาศกำหนด แจ้งให้เจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถทราบ และให้บุคคลดังกล่าวดำเนินการเปลี่ยนแปลงทะเบียนรถหรือแจ้งการระงับทะเบียนรถภายในกำหนดเวลาที่กำหนดในประกาศดังกล่าว
ในกรณีที่เจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถไม่ได้ดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้นายทะเบียนหรือผู้ตรวจการพิเศษมีอำนาจยกเลิกหมายเลขทะเบียนรถได้
ให้กระทำการประมูลทะเบียนรถที่ค้างชำระภาษีที่สิ้นสภาพไป แต่เจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถยังคงต้องเสียภาษีรถที่ค้างชำระดังกล่าว และให้บำเพ็ญการตามมาตรา ๖๗/๒ และมาตรา ๖๗/๓ วรรคสอง และวรรคสามมาใช้บังคับโดยอนุโลม
มาตรา ๖๘ รถที่ได้จดทะเบียนแล้ว ถ้ามีการแก้ไขเพิ่มเติม หรือปรับปรุงเพิ่มเติม ให้แก้ไขหรือเพิ่มเติมขึ้นจากเดิม เจ้าของรถจะต้องเสียภาษีเพิ่มเติมตามน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น และให้มาตรา ๖๖ วรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่มาใช้บังคับโดยอนุโลม
มาตรา ๖๙ ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มหาวิทยาลัยและสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ องค์การมหาชน หน่วยงานอื่นของรัฐตามที่กำหนดในกฎกระทรวง วัด มัสยิด มิชชั่น มูลนิธิ และสภากาชาดไทย ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี
มาตรา ๖๙ ทวิ (ยกเลิก)
มาตรา ๖๙ ตรี รถที่ได้จดทะเบียนแล้ว ถ้าไม่เสียภาษีรถตามกำหนดตามมาตรา ๖๖ เจ้าของรถต้องแจ้งให้นายทะเบียนทราบพร้อมนำใบคู่มือจดทะเบียนรถไปยื่นต่อนายทะเบียนภายในสามสิบวันนับแต่วันสิ้นกำหนดเสียภาษีดังกล่าว
เจ้าของรถที่ไม่ปฏิบัติตามวรรคหนึ่งจะต้องเสียค่าปรับครั้งหนึ่งตามมาตรา ๖๖
___________________________
* มาตรา ๖๗/๔ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๗
* มาตรา ๖๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๓๕
* มาตรา ๖๙ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๓๕
* มาตรา ๖๙ ทวิ ถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๓๕
* มาตรา ๖๙ ตรี เพิ่มโดยพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๓๕
พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ประกาศ ณ วันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
เป็นปีที่ ๖๙ ในรัชกาลปัจจุบัน
มาตรา ๑๐ เจ้าของรถต้องติดแผ่นป้ายเลขทะเบียนและเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีที่นายทะเบียนออกให้ไว้กับรถตามที่อธิบดีกำหนด
มาตรา ๑๑ ในกรณีที่แผ่นป้ายเลขทะเบียนหรือเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีสูญหาย ถูกทำลาย ชำรุดหรือเสื่อมสภาพสำคัญ ให้เจ้าของรถดำเนินการ ขอรับแผ่นป้ายเลขทะเบียนหรือเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีจากนายทะเบียน ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ทราบหรือควรทราบว่า สูญหาย ถูกทำลาย ชำรุดหรือเสื่อมสภาพสำคัญ
หมวด ๗ ผู้ประกอบการ
มาตรา ๑๒ ผู้ประกอบการ ได้แก่
(ก) ผู้ขับรถ
(ข) ผู้เก็บค่าโดยสาร
(ค) นายตรวจ
(ง) ผู้บริการตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๑๓ ห้ามมิให้ผู้ใดปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประกอบการ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาต จากนายทะเบียน
การออกใบอนุญาตและการต่ออายุใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดใน กฎกระทรวง
มาตรา ๑๔ ใบอนุญาตสำหรับผู้ประกอบการ มี ๔ ประเภท คือ
(ก) ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถ
(ข) ใบอนุญาตเป็นผู้เก็บค่าโดยสาร
(ค) ใบอนุญาตเป็นนายตรวจ
(ง) ใบอนุญาตเป็นผู้บริการ
ใบอนุญาตแต่ละประเภทจะใช้แทนเปลี่ยนกันไม่ได้ เว้นแต่ใบอนุญาตประเภทที่หนึ่ง ประเภทที่สาม และประเภทที่สี่ใช้เป็นใบอนุญาตประเภทที่สองได้
มาตรา ๑๕ ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถมี ๒ ชนิด คือ
(ก) ชนิดที่หนึ่ง ใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถสำหรับรถที่รับจ้างบรรทุกคนโดยสารและรถที่บรรทุก รวมกันไม่เกินสามพันห้าร้อยกิโลกรัมซึ่งมิได้ใช้เฉพาะผู้โดยสาร หรือสำหรับรถยนต์ซึ่งมิได้บรรทุกผู้โดยสาร หรือบรรทุกผู้โดยสารไม่เกิน ยี่สิบคน
มาตรา ๑๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๕๐
๒
ชนิดที่สอง ใบอนุญาตเป็นผู้บังคับรถสำหรับรถลำเลียงน้ำหนักบรรทุก
รวมกันเกินกว่าสามพันกิโลกรัมที่มิได้ใช้ขนส่งผู้โดยสาร หรือสำหรับรถขนส่งผู้โดยสารเกินสิบคน
๓
ชนิดที่สาม ใบอนุญาตเป็นผู้บังคับรถซึ่งโดยสภาพใช้สำหรับลากจูงรถอื่นหรือ
ลักษณะอื่นที่บรรทุกสิ่งใด ๆ บนตัวเองเท่านั้น
๔
ชนิดที่สี่ ใบอนุญาตเป็นผู้บังคับรถสำหรับรถที่ใช้ขนส่งวัตถุที่ระเบิดได้หรือ
วัตถุอันตรายและลักษณะการบรรทุกตามข้อบังคับกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ใบอนุญาตแต่ละชนิดใช้สับเปลี่ยนกันไม่ได้ ในแต่ละชนิดที่สอง ชนิดที่สาม
และชนิดที่สี่เป็นใบอนุญาตชนิดพิเศษ ใบอนุญาตชนิดพิเศษแต่ละชนิดใช้เป็นใบอนุญาตชนิดที่หนึ่ง
รองได้ และใบอนุญาตชนิดที่สี่ใช้เป็นใบอนุญาตชนิดที่สามได้
ประกาศของอธิบดีตามความใน (๔) ของวรรคหนึ่ง ให้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด
หกสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
มาตรา ๒๖ ผู้ขอรับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถตามมาตรา ๒๔ ใน
ประเภทการส่งมอบหรือการขนย้าย การขนส่งไม่ประจำทาง หรือการขนส่งโดยสารในลักษณะพิเศษ
และลักษณะ ดังต่อไปนี้
๑
มีสัญชาติไทย
๒
มีความรู้และความสามารถตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
๓
ไม่เป็นผู้มีร่างกายหรือจิตใจทุพพลภาพหรือไม่สมประกอบจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ด้วยความ
ปลอดภัย
๔
ไม่เป็นผู้มีโรคติดต่ออันเป็นที่รังเกียจ
๕
ไม่เป็นผู้ติดสุราหรือยาเสพติดให้โทษ
๖
ไม่เป็นผู้มีใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถประเภทหรือชนิดเดียวกันที่
ได้รับอนุญาตอยู่แล้ว
๗
ไม่เป็นผู้มีใบอนุญาตขาดหรือพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำ
รถ เว้นแต่กรณีการพักใช้ใบอนุญาตนั้นพ้นกำหนดแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
๘
ไม่เป็นผู้มีใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถประเภทหรือชนิดที่รัฐกำหนดว่าต้องมีสิ่งอื่นซึ่งกฎหมาย
กำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตนั้นมีความผิดอันเกิดจากการกระทำโดยประมาทหรือการกระทำที่มีเจตนาในการใช้รถใน
การกระทำผิดหรือความผิดที่โกง หรือได้พ้นโทษมาแล้วเกินสามปี
๙
ไม่เป็นผู้มีคุณลักษณะต้องห้ามเพราะมีพฤติการณ์เป็นภัยต่อสังคม หรือเป็น
อันตราย เว้นแต่ได้พ้นจากการควบคุมดูแลแล้วเกินหนึ่งปี
มาตรา ๒๗ ภายใต้บังคับมาตรา ๒๖ ผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้บังคับรถต้องไม่อยู่
ภาวะที่กำหนดในกฎกระทรวง และได้ผ่านการศึกษาและอบรมหลักสูตรโรงเรียนการขนส่งของ
กรมการขนส่งทางบกหรือโรงเรียนสอนขับรถตามมาตรฐานที่กำหนด ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการและ
เงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๙๘ ภายใต้บังคับมาตรา ๙๗ ผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถโดยสาร นายตรวจ และผู้บริการต้องมีอายุไม่ต่ำกว่าที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๙๙ ผู้ขอรับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถในการขนส่งส่วนบุคคล ต้องมีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๙๖ (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) (๖) และ (๗) และต้องมีอายุไม่ต่ำกว่าที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๑๐๐ ใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถให้มีอายุสามปีนับแต่วันที่ออกใบอนุญาต
การต่ออายุใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถ ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตก่อนวันสิ้นอายุตามแบบที่นายทะเบียนกำหนด
มาตรา ๑๐๑ ในขณะปฏิบัติหน้าที่ ผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถต้องมีใบอนุญาตอยู่กับตัวและต้องแสดงต่อนายทะเบียนหรือตำรวจเมื่อมีการขอตรวจ
มาตรา ๑๐๒ ในขณะปฏิบัติหน้าที่ ผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถต้อง
๑
แต่งกายสะอาดเรียบร้อยตามแบบที่กำหนดในกฎกระทรวง
๒
ไม่เสพเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมในลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือเสพสารเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ หรือเสพวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
๓
ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยในการขนส่งตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๑๐๓ ทวิ ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถผู้ใด ในขณะปฏิบัติหน้าที่นั้นมีสารอยู่ในร่างกายอันเกิดจากการเสพสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น หรือสารเสพติดให้โทษ หรือวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ให้เจ้าพนักงานจราจรหรือนายทะเบียนหรือตำรวจสั่งให้เจ้าพนักงานตรวจหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจหรือทดสอบสารนั้น ๆ อยู่ในร่างกายหรือไม่
๑
มาตรา ๑๐๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๕๐
๒
มาตรา ๑๐๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๕๐
๓
มาตรา ๑๐๓ ทวิ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๕๐
เจ้าพนักงานผู้อำนาจ วิธีการตรวจหรือทดสอบตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
มาตรา ๑๐๓ ผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้บันทึกของกลางจะต้องปฏิบัติตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๐๑ แล้ว จะต้อง
๑
ไม่รับรองในเวลาที่การกระทำหรือจัดเตรียมเอกสารไม่เหมาะสม
๒
ไม่รับบรรทุกทุกคนที่เป็นโรคเรื้อนหรือโรคติดต่อที่ร้ายแรงไปกับผู้โดยสารอื่น
๓
ไม่รับบรรทุกทุกคน สัตว์ หรือสิ่งของที่อาจก่อเกิดอันตรายหรือสิ่งที่รังเกียจไปกับผู้โดยสาร
๔
ไม่รับบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง ระเบิด หรือวัตถุอันตรายโดยฝ่าฝืนข้อห้ามตามที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
๕
ต้องหยุดหรือจอด ณ สถานีส่งและปฏิบัติตามระเบียบเกี่ยวกับสถานีส่งตามมาตรา ๑๙ (๔) และ (๕)
มาตรา ๑๐๓ ทวิ ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานในการปฏิบัติหน้าที่ที่บรรจุในรอบเข็มสัญจร ห้ามมิให้ผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้บันทึกของกลางที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งหยุดหรือเลิกปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างรอบเข็มสัญจรนั้น ผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้บันทึกของกลางที่ติดต่อต่อเป็นเวลานานไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายให้สิทธิ์แก่ผู้บันทึกของกลางที่ติดต่อต่อกัน
มาตรา ๑๐๔ ห้ามมิให้ผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้บันทึกของกลางกระทำการใด ๆ อันเป็นการละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันสมควร
มาตรา ๑๐๕ ในเขตปฏิบัติหน้าที่ ห้ามมิให้ผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้บันทึกของกลางกระทำการใด ๆ อันเป็นการละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุอันสมควร
มาตรา ๑๐๖ ทวิ ในกรณีที่มีความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลต่างประเทศ ว่าด้วยรายละเอียดใบอนุญาตเป็นผู้บันทึกของกลาง อันเป็น คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง และใบอนุญาตขับรถที่ออกโดยพนักงานเจ้าหน้าที่หรือสมาคมยานยนต์ที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลของประเทศที่ทำความตกลงดังกล่าวว่าเป็นรูปแบบ อาจใช้ใบอนุญาตนั้นขับรถในราชอาณาจักรได้
มาตรา ๑๐๗ (๔) ให้ยกเลิกบรรพชิตผู้มีการพ้นจากบรรพชิต (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๗
มาตรา ๑๐๘ ทวิ ให้ยกเลิกบรรพชิตผู้มีการพ้นจากบรรพชิต (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๐
มาตรา ๑๐๙ ทวิ ให้ยกเลิกบรรพชิตผู้มีการพ้นจากบรรพชิต (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๕๓
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประเภทและชนิดของรถที่ระบุไว้ในใบอนุญาตขับรถนั้น แต่ต้องปฏิบัติตามอนุสัญญาและหรือความตกลงที่มีอยู่ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลของประเทศนั้น ๆ และตามบทบัญญัติทั้งหลายที่ระบุในส่วนที่เกี่ยวกับหน้าที่ของผู้ขับรถตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๑๐๙ ในการแสดงประจักษ์พยานหรือการแสดงไม่ประจักษ์พยานระหว่างจังหวัดหรือระหว่างประเทศในประเทศไทยหรือประเทศอื่น ที่มิใช่ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขับรถรับรองว่าผู้ขับรถได้กระทำเกินกว่าที่ผู้ไม่ใช่ผู้ขับรถที่กำหนดให้ไว้ในใบอนุญาต
มาตรา ๑๑๐ เมื่อปรากฏว่าผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่แทนผู้ประกอบการสุจริตคุณสมบัติหรือสิทธิและหน้าที่ตามบัญญัติไว้ในมาตรา ๘๖ มาตรา ๘๗ มาตรา ๘๙ หรือมาตรา ๙๔ หรือบทหรือในกฎหมายที่มิได้ระบุใบอนุญาตแต่ให้เจ้าพนักงานสั่งพักถอนใบอนุญาตของผู้มีนั้นเสีย
มาตรา ๑๑๑ ถ้าผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำตัวใดที่มิใช่ หรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติทั้งหลายแห่งใดที่ให้ผู้ตรวจราชการมีอำนาจสั่งพักถอนใบอนุญาตของผู้ที่เป็นผู้ประจำตัวของผู้ขับ และยังไม่แจ้งถึงผู้ที่ได้รับใบอนุญาตตามบทกฎหมายที่เป็นเงื่อนไขของผู้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่ในใบอนุญาตขับรถระหว่างประเทศในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือถอนคำสั่งพักถอนใบอนุญาตนั้นเสียก็ได้
มาตรา ๑๑๒ ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับใบอนุญาตขับรถในกรณีที่มิใช่ผู้ขับรถที่ได้รับ
ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งต้องจัดให้มีการประกาศข้อกำหนดตามวรรคหนึ่งปีละไม่น้อยกว่า 1 ครั้ง ณ ที่เปิดเผยในรถ
หมวด 9
สถานีขนส่ง
มาตรา 108 สถานีขนส่งมี 2 ประเภท คือ
1
สถานีขนส่งผู้โดยสาร
2
สถานีขนส่งสินค้าและหรือสิ่งของ
ลักษณะของสถานีขนส่งตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา 109 ให้กรมการขนส่งทางบกโดยอนุมัติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง จัดให้มีสถานีขนส่งในเขตท้องที่กรุงเทพมหานครและในเขตท้องที่จังหวัดอื่น โดยจะดำเนินการเอง หรือมอบให้รัฐวิสาหกิจหรือองค์การของรัฐอื่นผู้มีหน้าที่ดำเนินการก็ได้
ให้ถือเป็นอำนาจหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบกในการขอเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในเขตจังหวัดที่คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางเห็นสมควร
บุคคลใดประสงค์จะจัดตั้งและดำเนินการสถานีขนส่ง ต้องได้รับอนุญาตตามระเบียบและโดยอนุมัติของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง
การขออนุญาตและการอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
การจัดให้มีหรือจัดตั้งสถานีขนส่งขึ้นใหม่ เมื่อใด ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา
มาตรา 110 ให้อธิบดีมีอำนาจกำกับและควบคุมการดำเนินการที่เกี่ยวกับสถานีขนส่งให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้และเพื่อประโยชน์แห่งการขนส่งผู้โดยสารและหรือสิ่งของ
ลูกจ้างสังกัดกรมการขนส่งทางบกที่ทำหน้าที่เป็นนายสถานีและเจ้าหน้าที่ที่สถานีขนส่งในจำนวนที่เห็นสมควร มีอำนาจกำกับและควบคุมกิจการด้วยก็ได้
มาตรา 111 ในการบริหารงานที่เกี่ยวกับสถานีขนส่งของกรมการขนส่งทางบกตามมาตรา 109 วรรคหนึ่ง ให้กรมการขนส่งทางบกมีอำนาจแต่งตั้งบุคคลเป็นนายสถานีและเจ้าหน้าที่สถานีขนส่งในจำนวนที่เห็นสมควร
ให้บุคคลตามวรรคหนึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดในกฎกระทรวงและที่อธิบดีมอบหมาย
ให้มาตรา 112 และมาตรา 113 มาใช้บังคับแก่การดำเนินการของกรมการขนส่งทางบกโดยอนุโลม
```
มาตรา ๑๑๘ ผู้ขอรับใบอนุญาตจัดตั้งและดำเนินการสถานีขนส่งตามมาตรา ๑๑๕ วรรคสาม ต้องมีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๔
มาตรา ๑๑๙ ใบอนุญาตจัดตั้งและดำเนินการสถานีขนส่งให้มีอายุตามที่คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกำหนดแต่ไม่เกินสิบปีนับแต่วันที่ออกใบอนุญาต ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งและดำเนินการสถานีขนส่งที่ประสงค์จะขอต่ออายุใบอนุญาตจะต้องยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตล่วงหน้าไม่น้อยกว่าหนึ่งปี การขอต่ออายุใบอนุญาตและการอนุญาตให้มีใบไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๑๒๐ ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งและดำเนินการสถานีขนส่งต้องมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบกิจการสถานีขนส่งรวมทั้งการรักษาความเรียบร้อย ความปลอดภัยในบริเวณสถานีขนส่ง
มาตรา ๑๒๑ ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งและดำเนินการสถานีขนส่งต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ประจำสถานีขนส่งตลอดเวลา โดยให้เจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบการจราจรประจำทางซึ่งพนักงานตรวจการเดินรถแต่งตั้ง ณ สถานีขนส่งแห่งนั้น เพื่อให้เกิดความปลอดภัย กฎสมบัติและความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ที่จำเป็นไปตามที่อธิบดีกำหนด
มาตรา ๑๒๒ ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งและดำเนินการสถานีขนส่งต้องจัดให้มีห้องสุขาและบริการสาธารณะเพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ใช้สถานีขนส่ง
มาตรา ๑๒๓ ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งและดำเนินการสถานีขนส่งต้องจัดให้มีบริเวณที่จอดพักรถตามที่อธิบดีกำหนด
มาตรา ๑๒๔ ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งและดำเนินการสถานีขนส่งต้องจัดให้มีสมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเนาเอกสารเกี่ยวกับรถตามแบบที่อธิบดีกำหนด สมุดทะเบียนรถโดยเรียกเก็บสำเน
```
หมวด ๑๑
บทกำหนดโทษ
มาตรา ๑๖๒ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๓ วรรคหนึ่ง มาตรา ๒๕ วรรคหนึ่ง มาตรา ๒๖ วรรคหนึ่ง มาตรา ๒๗ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๑๔๕ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๑๖๓ ผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๖ วรรคสอง มาตรา ๑๑๑ มาตรา ๑๑๒ (๑) (๒) หรือ (๓) มาตรา ๑๑๓ มาตรา ๑๑๔ มาตรา ๑๑๕ มาตรา ๑๑๖ หรือมาตรา ๑๒๐ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
มาตรา ๑๖๔ ผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๑๑๑ (๓) ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท แต่ถ้าผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถ ซึ่งระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือนและปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๑๑๑ (๓ ทวิ) หรือ (๓ ตรี) ต้องระวางโทษจำคุกที่ศาลได้กำหนดไว้ในความผิดนั้นและให้ศาลกำหนดโทษปรับตามจำนวนที่ต้องเสียและเบี้ยปรับที่ค้างชำระ แล้วแต่กรณี แต่ถ้าผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถ ต้องระวางโทษสูงกว่าที่ศาลได้กำหนดไว้ในความผิดนั้นให้เพิ่มอีกกึ่งหนึ่งของโทษที่ศาลกำหนดหรือจำคุกไม่เกินหกเดือน แล้วแต่กรณี อีกทั้งให้ปรับสามเท่าของจำนวนที่ต้องเสียและเบี้ยปรับที่ค้างชำระ
มาตรา ๑๖๕ ผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ตรวจการ พนักงานฝ่ายปกครองหรือพนักงานสอบสวนตามมาตรา ๑๑๖ ทวิ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
มาตรา ๑๖๖ ผู้ใดกระทำการเป็นผู้รับจ้างขนส่งที่ไม่กระทำการส่งสิ่งที่ให้ขนส่งถึงผู้รับหรือความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลอื่น ซึ่งปรากฏว่าในขณะขนส่ง ผู้รับจ้างขนส่งกระทำการฝ่าฝืนมาตรา ๑๑๑ (๓ ทวิ) หรือ (๓ ตรี) ให้ถือว่าผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๘ หรือ วรรคสอง เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้มีส่วนรู้เห็นและได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้วที่จะป้องกันไม่ให้ผู้รับจ้างกระทำการดังกล่าว
_________________________
* มาตรา ๑๖๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
* มาตรา ๑๖๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
* มาตรา ๑๖๔ ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
* มาตรา ๑๖๕ ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒
มาตรา ๑๒๗ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งผู้โดยสารไม่ตามมาตรา ๒๗ วรรคสาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๑๒๘ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งระหว่างประเทศผู้ใดไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดตามมาตรา ๓๐ (๑) ต้องระวางโทษปรับตามจำนวนรถที่ขาดหรือลดทอนหรือไม่ดำเนินการเพิ่มจำนวนรถต่อหน่วยงานตามความจำเป็นให้ถูกต้อง
มาตรา ๑๒๙ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งระหว่างประเทศผู้ใดไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดตามมาตรา ๓๐ (๒) (๓) (๔) (๕) (๖) (๗) (๘) (๙) (๑๐) (๑๑) (๑๒) (๑๓) หรือ (๑๔) หรือในอนุญาตการขนส่งระหว่างประเทศที่ออกตามมาตรา ๓๓ หรือไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๓๖ หรือมาตรา ๓๗ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา ๑๓๐ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งระหว่างประเทศผู้ใดไม่ปฏิบัติตามอนุสัญญาหรือเงื่อนไขตามมาตรา ๓๘ หรือมาตรา ๓๙ หรือไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๔๐ ซึ่งไม่ได้นำมาใช้บังคับโดยอนุโลมตามมาตรา ๒๔ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา ๑๓๑ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๓๒ วรรคสอง มาตรา ๓๓ วรรคสอง มาตรา ๓๔ วรรคสอง มาตรา ๓๕ วรรคสอง มาตรา ๓๖ วรรคสอง หรือมาตรา ๓๗ วรรคสอง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
มาตรา ๑๓๒ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งระหว่างประเทศผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๓๗ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา ๑๓๓ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๘ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
มาตรา ๑๓๔ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๙ ต้องระวางโทษปรับตามจำนวนรถที่ขาดหรือลดทอนหรือไม่ดำเนินการเพิ่มจำนวนรถต่อหน่วยงานตามความจำเป็นให้ถูกต้อง
มาตรา ๑๓๔ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งไม่ประจำทางผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๐ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
มาตรา ๑๓๕ หรือ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๐ ทวี วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๐ ทวี วรรคสอง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท
มาตรา ๑๓๖ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของนายทะเบียนตามมาตรา ๑๕ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
มาตรา ๑๓๗ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการรับจ้างการขนส่งผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๕๔ หรือมาตรา ๕๕ ผู้ใดนำสินค้าใช้บังคับโดยอนุโลมตามมาตรา ๗๐ หรือมาตรา ๗๒ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา ๑๓๘ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๔๖ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา ๑๓๙ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการรับจ้างการขนส่งผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๖๖ ซึ่งนำสินค้าใช้บังคับโดยอนุโลมตามมาตรา ๗๐ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา ๑๔๐ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๔๔ มาตรา ๔๕ มาตรา ๔๗ หรือมาตรา ๔๘ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา ๑๔๑ ผู้ใดขัดขวางหรือไม่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ นายทะเบียน ผู้ตรวจการหรือพนักงานตรวจการ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๔๘ (๖) และ (๗) หรือมาตรา ๔๙ ซึ่งได้นำมาใช้บังคับโดยอนุโลมตามมาตรา ๗๐ มาตรา ๗๑ หรือมาตรา ๗๒ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
มาตรา ๑๔๒ ผู้ใดไม่แจ้งให้ทราบถึงการขึ้นลงของสินค้า หรือสิ่งของอื่น หรือยานพาหนะตามมาตรา ๔๙ (ก) หรือฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ที่สั่งการให้หยุดเพื่อทำการตรวจสอบตามมาตรา ๔๙ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
__________________________
- มาตรา ๑๓๔ ทวี เพิ่มโทษปรับกรณีผู้ฝ่าฝืนการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๙
- มาตรา ๑๓๕-๑๔๒ เพิ่มโทษปรับกรณีผู้ฝ่าฝืนการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๙
- มาตรา ๑๓๔-๑๔๒ แก้ไขโดยพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๙
มาตรา ๑๔๔ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของนายทะเบียนกลางที่สั่งตามมาตรา ๔๓ หรือมาตรา ๖๒ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินแสนบาท หรือปรับเป็นรายวันวันละห้าพันบาท นานกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
มาตรา ๑๔๕ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการรับจ้างขนส่งผู้ใดไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในใบอนุญาตประกอบการรับจ้างขนส่งในหมวดการเดินรถตามมาตรา ๒๖ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
มาตรา ๑๔๖ ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการรับจ้างขนส่งผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๖ วรรคสอง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
มาตรา ๑๔๗ ผู้ใดใช้รถโดยไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๓๗ หรือฝ่าฝืนคำสั่งของผู้ตรวจการหรือนายทะเบียนตามมาตรา ๔๓ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
มาตรา ๑๔๘ ผู้ได้รับใบอนุญาตขนส่งสินค้าภายในราชอาณาจักรผู้ใดไม่ปฏิบัติตามอัตราค่าบริการที่อธิบดีกำหนดตามมาตรา ๔๔ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
มาตรา ๑๔๙ ผู้ได้รับใบอนุญาตขนส่งสินค้าภายในราชอาณาจักรผู้ใดไม่แสดงอัตราค่าบริการตามมาตรา ๔๔ วรรคสอง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
มาตรา ๑๕๐ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๗๗ มาตรา ๘๐ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๘๒ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
มาตรา ๑๕๑ เจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๘๓ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
มาตรา ๑๕๒ เจ้าของรถผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๘๔ หรือมาตรา ๘๖ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
มาตรา ๑๕๓ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๗ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าฝ่าฝืนในลักษณะที่เป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ฝ่าฝืนมาตรา ๓๗ วรรคหนึ่ง และได้กระทำการใด ๆ อันเป็นความผิดที่กำหนดไว้สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ได้รับใบอนุญาตขนส่งตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ต้องรับโทษตามมาตรา ๑๔๔ หรือมาตรา ๑๔๕ หรือมาตรา ๑๔๖ หรือมาตรา ๑๔๗ หรือมาตรา ๑๔๘ หรือมาตรา ๑๔๙ หรือมาตรา ๑๕๐ หรือมาตรา ๑๕๑ หรือมาตรา ๑๕๒ แล้วแต่กรณี
นอกจากนี้ต้องระวางโทษตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำความผิดและต้องระวางโทษสำหรับการระทำนั้นเช่นเดียวกับผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพด้วย
มาตรา ๑๕๕ ผู้ใดรับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพโดยปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างที่ถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตตามมาตรา ๖๓ หรือปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยสภาวิชาชีพ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน และปรับไม่เกินห้าพันบาท
มาตรา ๑๕๖ ผู้ใดเสนอหรือโฆษณาระบุโดยแจ้งว่าไม่ว่าจะด้วยข้อความหรือวิธีการใดว่าค่าขนส่งไม่ครบถ้วนตามอัตราที่กำหนด หรือไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงซึ่งออกตามมาตรา ๑๓๑ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท
มาตรา ๑๕๗ ผู้ใดตั้งขึ้นและดำเนินการสถานีขนส่ง โดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา ๑๔๕ วรรคสาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๑๕๘ ผู้ใดรับใบอนุญาตตั้งขึ้นและดำเนินการสถานีขนส่งแล้วมิได้ปฏิบัติตามมาตรา ๑๒๑ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔๕ มาตรา ๑๔๖ หรือมาตรา ๑๔๗ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท
มาตรา ๑๕๙ ผู้ใดรับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถผู้ใดไม่ว่ารถในขณะหยุดหรือจอดเพื่อรอส่งผู้โดยสารหรือบรรทุกสินค้า ณ สถานีขนส่งตามที่คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางกำหนด ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงสองหมื่นบาท
มาตรา ๑๖๐ ผู้ใดรับใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถสั่งให้รถในขณะหยุดหรือจอดเพื่อรอส่งผู้โดยสารหรือบรรทุกสินค้า ณ สถานีขนส่งมิได้ให้ระยะกับรถที่เกี่ยวกับการดำเนินการของสถานีขนส่งให้แสดงในสถานีขนส่งตามมาตรา ๑๔๘ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงสองหมื่นบาท
มาตรา ๑๖๑ ผู้ใดรับใบอนุญาตขับรถต้องออกใบรับรองตรวจสภาพรถโดยไม่ตรงตามความเป็นจริง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท และในกรณีที่การกระทำดังกล่าวเกิดจากการที่ผู้ได้รับใบอนุญาตขับรถไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้
มาตรา ๑๖๒ วรรคสอง เพิ่มโดยพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒
มาตรา ๑๕๙ ผู้ใดเรียกเก็บค่าขนส่ง ค่าบริการรับจัดการขนส่ง ค่าบริการเกี่ยวกับการดำเนินการของสถานีขนส่ง หรือค่าบริการอย่างอื่นผิดไปจากอัตราที่คณะกรรมการกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา ๑๖๐ ผู้ใด
๑
ใช้ใบอนุญาตหรือเครื่องหมายอย่างหนึ่งอย่างใดที่ทางราชการออกให้แก่ผู้อื่น
๒
ใช้เครื่องหมายอย่างหนึ่งอย่างใดที่ทางราชการออกให้สำหรับรถคันหนึ่งกับรถอีกคันหนึ่ง
๓
ยินยอมให้ผู้อื่นใช้ใบอนุญาตหรือเครื่องหมายอย่างหนึ่งอย่างใดที่ทางราชการออกให้แก่ตน
๔
เปลี่ยนแปลงหรือปลอมบัตรพนักงานหรือบัตรแสดงไม่ว่าโดยวิธีใด ๆ ซึ่งแสดงเป็นเลขทะเบียนรถ หรือ
๕
ใช้รถที่ได้รับยกเว้นภาษีตามมาตรา ๕๗ ให้ใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์ให้ผู้อื่นยกเว้น ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๑๖๑ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการขับรถ การใช้รถยนต์หรือกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกในส่วนที่เกี่ยวกับการขนส่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา ๑๖๒ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการขนส่ง หรือการใช้เครื่องหมายอย่างหนึ่งอย่างใดที่ทางราชการได้กำหนดเพื่อประโยชน์ในการขนส่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา ๑๖๓ บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ที่มีโทษปรับสถานเดียว ให้เจ้าพนักงานผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายมีอำนาจเปรียบเทียบปรับผู้ต้องหา เมื่อผู้ต้องหาได้ชำระค่าปรับตามจำนวนที่อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายเปรียบเทียบภายในกำหนดวันแล้ว ให้ถือว่าคดีเลิกกันตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ในกรณีที่ผู้ต้องหามิได้ชำระค่าปรับภายในกำหนดเวลาดังกล่าวให้ดำเนินคดีเพื่อร้องต่อไป
บทเฉพาะกาล
มาตรา ๑๖๔ ในระหว่างที่ยังมิได้มีคำสั่งของรัฐมนตรี หรือกำหนด หรือระเบียบตามพระราชบัญญัตินี้ ให้กฎกระทรวง ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งที่ออกไว้ โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ. ๒๔๗๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการขนส่ง
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ และพระราชบัญญัติการขนส่ง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ ก่อนวันที่ พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ซึ่งไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับต่อไป
มาตรา ๑๕/๔ บรรดาใบอนุญาตที่ได้ออกให้ตามพระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ. ๒๔๗๙ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการขนส่ง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ และพระราชบัญญัติ การขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ให้ใช้ได้ต่อไปจนกว่าจะสิ้นอายุ และถือว่าใบอนุญาตตาม พระราชบัญญัตินี้ ให้แก่ผู้ขออนุญาตเป็นผู้อนุญาตนั้นต่อไป
บรรดาอัตราที่ได้กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยค่าธรรมเนียมในลักษณะที่ พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ถ้ามีการแก้ไขตามโครงสร้างอำนาจที่สอดคล้องตามหลักการหรือความ จำเป็นที่กำหนดในกฎกระทรวงออกตามความในมาตรา ๓๑ แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ อยู่แล้ว ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และการแก้ไขดังกล่าวให้ได้สอดคล้อง ตามกฎหมายว่าด้วยรายได้ที่ได้รับคำนับและให้ถือว่าเป็นรายที่ถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยตาม มาตรา ๓๑
มาตรา ๑๕/๕ ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่ง ผู้ได้รับใบอนุญาต ประกอบการขนส่งจักรยานยนต์ และเจ้าของรถที่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ. ๒๔๗๙ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการขนส่ง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ ให้ปฏิบัติ ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ในส่วนที่เกี่ยวข้องในเรื่องนั้น ๆ และให้ถือว่าเป็นการปฏิบัติ ตามพระราชบัญญัตินี้
ในกรณีที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติ การขนส่ง พ.ศ. ๒๔๗๙ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการขนส่ง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ ให้ถือว่าเป็นการปฏิบัติ ตามพระราชบัญญัตินี้
ให้อธิบดีมีอำนาจกำหนดให้รถตามวรรคหนึ่ง ซึ่งจะชำระอากรครั้งแรกตาม พระราชบัญญัตินี้ ต้องชำระอากรล่วงหน้าตามที่กำหนด
มาตรา ๑๕/๖ คำขออนุญาตใด ๆ ที่ยื่นไว้ตามพระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ. ๒๔๗๙ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการขนส่ง (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ และยังอยู่ในระหว่าง การพิจารณา ให้ถือว่าเป็นคำขออนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้โดยอนุโลม และถ้าคำขออนุญาต ดังกล่าวมีความแตกต่างไปจากคำขออนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ ให้คณะกรรมการมีอำนาจสั่งให้ แก้ไขเพิ่มเติมคำขออนุญาตเพื่อให้การเป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ได้
มาตรา ๑๕/๗ ในเขตพื้นที่ซึ่งมีท้องที่ในระหว่างที่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ ให้เจ้าท่าและ หน้าที่ของเจ้าหน้าที่จังหวัด เป็นเจ้าท่าและเจ้าหน้าที่ของเขตในเขตนั้น