로고

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๕ เป็นปีที่ ๕๗ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลย เดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ ประกาศวา โดยทเปนการสมควรปรบปรงกฎหมายวาดวย อนุญาโตตุลาการ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตรา พระราชบญญตขนไวโดยคาแนะนาและยนยอม ของรัฐสภา ดงตอไปน 푸미폰 아둔야뎃 국왕 폐하께서 재위 57 번째 해인 2002(불기 2545)년 4 월 23일 하사하셨다. 푸미폰 아둔야뎃 국왕께서는 다음과 같 이 공포하게 하셨다. 중재 관련 법률을 개정하는 것이 합당하 므로, 이에 의회의 동의와 의견을 받아 다음과 같이 법률을 제정하는 바이다.

มาตรา ๑

พระราชบญญตนเรยกวา “พระราชบัญญัติ อนุญาโตตุลาการ พ.ศ. ๒๕๔๕”

มาตรา ๒

พระราชบญญตนใหใชบงคบตงแตวนถดจากวน ประกาศในราชกจจานเบกษา เป็นต้นไป

มาตรา ๓

ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ. ๒๕๓๐

มาตรา ๔

บทบญญตแหงกฎหมายใดอางถงบทบญญต แหงประมวลกฎหมายวธพจารณาความแพงใน สวนทเกยวกบอนญาโตตลาการนอกศาลใหถอ วาบทบญญตแหงกฎหมายนนอางถึง พระราชบญญตน

มาตรา ๕

ในพระราชบญญตน “คณะอนุญาโตตุลาการ” หมายความวา อนุญาโตตุลาการคนเดียว หรืออนุญาโตตุลาการ หลายคน “ศาล” หมายความวา องค์กรหรือสถาบันใด สถาบันหนึ ่งที่มีอ านาจตุลาการตามกฎหมายของ ประเทศซงเปนทตงของศาลนน “ข้อเรียกร้อง” หมายความรวมถึง ข้อเรียกร้อง แย้งด้วย ทงน เวนแตขอเรยกรองตามมาตรา ๓๑ (๑ ) และมาตรา ๓๘ วรรคสอง (๑) “ค าคัดค้าน” หมายความรวมถึง คาคดคานแก ข้อเรียกร้องแย้งด้วย ทงน เวนแตคาคดคานแก ข้อเรียกร้องแย้งตามมาตรา ๓๑ (๒ ) และมาตรา ๓๘ วรรคสอง (๑ )

มาตรา ๖

ภายใต้บังคับมาตรา ๓๔ ในกรณีที่บทบัญญัติ แหงพระราชบญญตนใหอานาจคสญญาในการ ตัดสินใจเรื่องใด คสญญานนมอานาจมอบหมาย ใหบคคลทสามหรอหนวยงานใดหนวยงานหนง เป็นผู ้ตัดสนใจเรองนนแทนไดดวย ในกรณทบทบญญตแหงพระราชบญญตนได กาหนดใหขอเทจจรงใดเปนขอเทจจรงท คสญญาจะหรออาจจะตกลงกนได หรอกาหนด ถึงข้อตกลงของคสญญาไมวาดวยประการใด ๆ ขอตกลงเชนวานนใหรวมถงขอบงคบวาดวย อนญาโตตลาการทระบไวในขอตกลงนนดวย

มาตรา ๗

ในกรณทคสญญามไดตกลงกนไวเปนอยางอน การสงเอกสารตามพระราชบญญตน ถาไดสง ใหแกบคคลซงระบไวในเอกสารนนหรอไดสงไป ยังส านักท าการงาน ภูมิล าเนา หรอทอยทาง ไปรษณยของบคคลซงระบไวในเอกสารนน หรือ ในกรณทไมปรากฏทอยขางตนแมไดสบหาตาม สมควรแล้ว ถาไดสงไปยงสานกทาการงาน หรือ ภูมิล าเนา หรอทอยทางไปรษณยแหงสดทายท ทราบ โดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนหรือ ไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ถาเปนการสง ภายในประเทศ หรือโดยวิธีอื่นใดที่แสดงถึง ความพยายามในการจดสง ใหถอวาบคคลซง ระบไวในเอกสารนนไดรบเอกสารดงกลาวแลว บทบญญตมาตรานไมใชบงคบกบการสงเอกสาร ในการด าเนินกระบวนพิจารณาในศาล

มาตรา ๘

ในกรณทคสญญาฝายใดรวาบทบญญตใดใน พระราชบญญตนซงคสญญาอาจตกลงกนเปน อยางอนได หรอคสญญาอกฝายหนงยงมได ปฏบตตามเงอนไขทกาหนดไวในสญญา อนุญาโตตุลาการ ถาคสญญาฝายนนยงดาเนน กระบวนพจารณาในชนอนญาโตตลาการตอไป โดยไมคดคานการไมปฏบตของคสญญาอกฝาย หนึ ่งภายในเวลาอันสมควรหรือภายในเวลาที่ กาหนดไวใหถอวาคสญญาฝายนนสละสทธใน การคัดค้าน

มาตรา ๙

ใหศาลทรพยสนทางปญญาและการคาระหวาง ประเทศกลาง หรือศาลทรัพย์สินทางปัญญาและ การคาระหวางประเทศภาค หรือศาลที่มีการ พจารณาชนอนญาโตตลาการอยในเขตศาล หรอศาลทคพพาทฝายใดฝายหนงมภมลาเนา อยในเขตศาล หรือศาลที่มีเขตอ านาจพิจารณา พพากษาขอพพาทซงไดเสนอตอ อนญาโตตลาการนน เป็นศาลที่มีเขตอ านาจตาม พระราชบญญตน

มาตรา ๑๐

ใหรฐมนตรวาการกระทรวงยตธรรมรกษาการ ตามพระราชบญญตน

หมวด ๑ สญญาอนญาโตตลาการ

มาตรา ๑๑

สัญญาอนุญาโตตุลาการ หมายถึง สัญญาที่ คสญญาตกลงใหระงบขอพพาททงหมดหรอ บางสวนทเกดขนแลวหรอทอาจเกดขนใน อนาคตไมวาจะเกดจากนตสมพนธทางสญญา หรอไมโดยวธอนญาโตตลาการ ทงน สัญญา อนุญาโตตุลาการอาจเป็นข้อสัญญาหนึ ่งใน สัญญาหลัก หรือเป็นสัญญาอนุญาโตตุลาการ แยกตางหากกได สัญญาอนุญาโตตุลาการต้องมีหลักฐานเป็น หนงสอลงลายมอชอคสญญา เวนแตถาปรากฏ ข้อสัญญาในเอกสารที่คสญญาโตตอบทาง จดหมาย โทรสาร โทรเลข โทรพิมพ์ การ แลกเปลี่ยนข้อมูลโดยมีการลงลายมือชื่อ อิเล็กทรอนิกส์หรือทางอื่นซึ ่งมีการบันทึกข้อ สญญานนไว หรอมการกลาวอางขอสญญาใน ขอเรยกรองหรอขอคดคานและคสญญาฝายท มไดกลาวอางไมปฏเสธใหถอวามสญญา อนุญาโตตุลาการแล้ว สญญาทมหลกฐานเปนหนงสออนไดกลาวถง เอกสารใดที่มีข้อตกลงให้ระงับข้อพิพาทโดยวิธี อนุญาโตตุลาการ โดยมีวัตถุประสงค์ให้ข้อตกลง นนเปนสวนหนงของสญญาหลก ใหถอวาม สัญญาอนุญาโตตุลาการแล้ว

มาตรา ๑๒

ความสมบูรณ์แห่งสญั ญาอนุญาโตตุลาการและ การต้งัอนุญาโตตุลาการย่อมไม่เสียไปแม้ใน ภายหลังคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหน่ึงตายหรือ สิ้นสุดสภาพความเป็นนิติบุคคล ถูกพิทักษ์ ทรัพยเ์ด็ดขาดหรือถูกศาลสงั่ ใหเ้ป็นคนไร้ ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ

มาตรา ๑๓

เมื่อมีการโอนสิทธิเรียกร้องหรือความรับผิดใด สญั ญาอนุญาโตตุลาการที่มีอยูเ่กี่ยวกบั สิทธิ เรียกร้องหรือความรับผิดน้นัยอ่ มผูกพนัผูร้ับโอน ด้วย

มาตรา ๑๔

ในกรณีที่คู่สญั ญาฝ่ายใดฝ่ายหน่ึงฟ้องคดี เกี่ยวกบัขอ้พิพาทตามสญั ญาอนุญาโตตุลาการ โดยมิไดเ้สนอขอ้พิพาทน้นั ต่อคณะ อนุญาโตตุลาการตามสัญญา คู่สัญญาฝ่ายที่ถูก ฟ้องอาจยื่นคา ร้องต่อศาลที่มีเขตอา นาจไมช่ า้ กวา่ วนัยื่นคา ใหก้ารหรือภายในระยะเวลาที่มี สิทธิยื่นค าให้การตามกฎหมายให้มีคา สั่ง จา หน่ายคดี เพื่อให้คู่สัญญาไปดา เนินการทาง อนุญาโตตุลาการ และเมื่อศาลทา การไต่สวน แลว้เห็นวา่ ไม่มีเหตุที่ทา ใหส้ ญั ญา อนุญาโตตุลาการน้นั เป็นโมฆะ หรือใช้บังคับ ไม่ได้ หรือมีเหตุที่ทา ใหไ้ม่สามารถปฏิบตัิตาม สญั ญาน้นัได้ ก็ใหม้ีคา สงั่ จา หน่ายคดีน้นั เสีย ในระหวา่ งการพิจารณาคา ร้องของศาลตามวรรค หนึ่ง คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหน่ึงอาจเริ่มดา เนินการ ทางอนุญาโตตุลาการได้ หรือคณะ อนุญาโตตุลาการอาจด าเนินกระบวนพิจารณา ต่อไป และมีคา ช้ีขาดในขอ้พิพาทน้นัได้

มาตรา ๑๕

ในสญั ญาระหวา่ งหน่วยงานของรัฐกบั เอกชนไม่ วา่ เป็นสญั ญาทางปกครองหรือไม่กต็าม คู่สญั ญาอาจตกลงใหใ้ชว้ิธีการอนุญาโตตุลาการ ในการระงับข้อพิพาทได้ และให้สัญญา อนุญาโตตุลาการดงักล่าวมีผลผูกพนัคู่สญั ญา

มาตรา ๑๖

ู่สญั ญาที่ไดท้ า สญั ญาอนุญาโตตุลาการไวอ้าจ ยื่นคา ร้องต่อศาลที่มีเขตอา นาจใหม้ีคา สงั่ ใช้ วิธีการชวั่ คราวเพื่อคุม้ครองประโยชนข์องตน ก่อน หรือขณะด าเนินการทางอนุญาโตตุลาการ ได้ ถ้าศาลเห็นวา่ กระบวนพิจารณาน้นั หากเป็น การพิจารณาของศาลแล้วศาลท าให้ได้ก็ให้ศาล จัดการให้ตามคา ร้องน้ัน ท้งัน้ี ให้น าบทบัญญัติ แห่งกฎหมายวิธีพิจารณาความของศาล ใน ส่วนที่เกี่ยวกบัการน้นั มาใชบ้ งัคบัโดยอนุโลม ในกรณีที่ศาลมีคา สงั่ ตามคา ร้องของคู่สญั ญา ตามวรรคหนึ่ง ถ้าคู่สญั ญาฝ่ายที่ยื่นคา ร้องมิได้ ด าเนินการทางอนุญาโตตุลาการภายในสามสิบ วนั นบัแต่วนั ที่ศาลมีคา สงั่ หรือภายในระยะเวลาที่ ศาลกา หนดใหถ้ือวา่ คา สงั่ น้นั เป็นอนัยกเลิกเมื่อ ครบกา หนดดงักล่าว

หมดว ๒ คณะอนุญาโตตุลาการ

มาตรา ๑๗

ให้คณะอนุญาโตตุลาการประกอบด้วย อนุญาโตตุลาการเป็นจ านวนเลขค ในกรณีที่คู่พิพาทกา หนดจา นวน อนุญาโตตุลาการเป็นเลขคู่ ให้อนุญาโตตุลาการ ร่วมกนั ต้งัอนุญาโตตุลาการเพิ่มอีกหน่ึงคนเป็น ประธานคณะอนุญาโตตุลาการ วิธีการต้งั ประธานคณะอนุญาโตตุลาการ ให้เป็นไปตาม มาตรา ๑๘ วรรคหนึ่ง (๒ ) ในกรณีที่คู่พิพาทไม่สามารถตกลงกา หนด จ านวนอนุญาโตตุลาการได้ ให้มี อนุญาโตตุลาการเพียงคนเดียว

มาตรา ๑๘

ในกรณีที่คูพ่ ิพาทมิไดก้า หนดวิธีการต้งัคณะ อนุญาโตตุลาการไวเ้ป็นอยา่ งอื่น ให้ด าเนินการ ดงัต่อไปน้ี

(๑ ) ในกรณีที่กา หนดใหค้ ณะอนุญาโตตุลาการป ระกอบด้วยอนุญาโตตุลาการเพียงคนเดียว ถ้า คู่พิพาทไม่อาจตกลงกนัได้ ให้คู่พิพาทฝ่ายใด ฝ่ายหน่ึงยื่นคา ร้องต่อศาลที่มีเขตอา นาจใหม้ี คา สงั่ ต้งัคณะอนุญาโตตุลาการแทน

(๒ ) ในกรณีที่กา หนดใหค้ ณะอนุญาโตตุลาการป ระกอบดว้ยอนุญาโตตุลาการมากกวา่ หน่ึงคน ให้ คู่พิพาทต้งัอนุญาโตตุลาการฝ่ายละเท่ากนั และ ใหอ้ นุญาโตตุลาการดงักล่าวร่วมกนั ต้งั อนุญาโตตุลาการอีกคนหนึ่ง แต่ถา้คู่พิพาทฝ่าย ใดมิไดต้้งัอนุญาโตตุลาการภายในสามสิบวนั นบั แต่วนั ที่ไดร้ับแจง้จากคู่พพิาทอีกฝ่ายหน่ึงใหต้้งั อนุญาโตตุลาการ หรือถา้อนุญาโตตุลาการท้งั สองฝ่ายไม่อาจร่วมกนั ต้งัประธานคณะ อนุญาโตตุลาการไดภ้ายในสามสิบวนั นบัแต่ วนั ที่ผูน้้นัไดร้ับการต้งัใหเ้ป็นอนุญาโตตุลาการ ใหคู้่พพิาทฝ่ายใดฝ่ายหน่ึงยื่นคา ร้องต่อศาลที่มี เขตอา นาจใหม้ีคา สงั่ ต้งัอนุญาโตตุลาการ หรือ ประธานคณะอนุญาโตตุลาการแทน

ในกรณีที่การต้งัอนุญาโตตุลาการตามวรรคหน่ึง มิไดก้า หนดวิธีการอื่นใดที่ทา ใหส้ ามารถต้งั อนุญาโตตุลาการได้ ให้คู่พิพาทฝ่ายใดฝ่ายหน่ึง ยื่นคา ร้องต่อศาลที่มีเขตอา นาจใหด้า เนินการต้งั อนุญาโตตุลาการตามที่ศาลเห็นสมควรได้ หาก ปรากฏวา

(๑ ) คู่พิพาทฝ่ายใดฝ่ายหน่ึงมิไดด้า เนินการตาม วิธีการที่กา หนดไว้

(๒ ) คู่พิพาทหรืออนุญาโตตุลาการไม่อาจตกลง กนั ตามวิธีการที่กา หนดไวไ้ด้ หรือ

(๓ ) บุคคลที่สามหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหน่ึง มิไดด้า เนินการตามวิธีการที่กา หนดไว้

มาตรา ๑๙

อนุญาโตตุลาการต้องมีความเป็นกลางและเป็น อิสระ รวมท้งัตอ้งมีคุณสมบตัิตามที่กา หนดไวใ้น สัญญาอนุญาโตตุลาการ หรือในกรณีที่คู่สญั ญา ตกลงกนั ใหห้ น่วยงานซ่ึงจดั ต้งัข้ึนเพื่อ ด าเนินการระงับข้อพิพาทโดยวิธี อนุญาโตตุลาการเป็นผู้ด าเนินการต้องมี คุณสมบตัิตามที่หน่วยงานดงักล่าวกา หนด บุคคลซ่ึงจะถูกต้งัเป็นอนุญาโตตุลาการจะตอ้ง เปิ ดเผยข้อเท็จจริงซึ่งอาจเป็นเหตุอันควรสงสัย ถึงความเป็นกลางหรือความเป็นอิสระของตน และนบัแต่เวลาที่ไดร้ับการต้งัและตลอด ระยะเวลาที่ด าเนินการทางอนุญาโตตุลาการ บุคคลดงักล่าวจะตอ้งเปิดเผยขอ้เทจ็จริงเช่นวา่ น้นั ต่อคู่พิพาทโดยไม่ชกั ชา้เวน้แตจ่ ะไดแ้จง้ให้ คู่พิพาทรู้ล่วงหนา้แลว อนุญาโตตุลาการอาจถูกคัดค้านได้ หากปรากฏ ข้อเท็จจริงซึ่งเป็นเหตุอันควรสงสัยถึงความเป็น กลางหรือความเป็นอิสระ หรือการขาดคุณสมบัติ ตามที่คู่พพิาทตกลงกนั แต่คู่พิพาทจะคดัคา้น อนุญาโตตุลาการซ่ึงตนเป็นผูต้้งัหรือร่วมต้งัมิได้ เวน้แต่คูพ่ ิพาทฝ่ายน้นั มิไดรู้้หรือควรรู้ถึงเหตุ แห่งการคดัคา้นในขณะที่ต้งัอนุญาโตตุลาการ น้น

มาตรา ๒๐

ในกรณีที่คู่พิพาทมิไดต้กลงกนัไวเ้ป็นอยา่ งอื่น คู่พิพาทฝ่ายที่ประสงคจะคัดค้าน ์ อนุญาโตตุลาการจะต้องยื่นหนังสือแสดงเหตุ แห่งการคดัคา้นต่อคณะอนุญาโตตุลาการภายใน สิบหา้วนั นบัแต่วนั ที่ไดรู้้ถึงการต้งั อนุญาโตตุลาการ หรือรู้ถึงข้อเท็จจริงตามที่ บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๙ วรรคสาม และหาก อนุญาโตตุลาการซ่ึงถูกคดัคา้นไม่ถอนตวัจาก การเป็นอนุญาโตตุลาการหรือคู่พิพาทอีกฝ่าย หน่ึงไม่เห็นดว้ยกบัขอ้คดัคา้นน้นั ให้คณะ อนุญาโตตุลาการเป็นผูว้ินิจฉยัคา คดัคา้นน้น ้การคดัคา้นโดยวิธีตามที่คู่พิพาทตกลงกนั หรือตามวิธีที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง ไม่ บรรลุผลหรือในกรณีมีอนุญาโตตุลาการเพียงคน เดียว คู่พิพาทฝ่ายที่คดัคา้นอาจยื่นคา ร้อง คดัคา้นต่อศาลที่มีเขตอา นาจภายในสามสิบวนั นบัแต่วนที่ได้รับหนังสือแจ้งค าวินิจฉัยค า ั คดัคา้นน้นั หรือนบัแต่วนั ที่รู้ถึงการต้งั อนุญาโตตุลาการ หรือรู้ถึงข้อเท็จจริงตามที่ บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๙ วรรคสาม แล้วแต่กรณี และเมื่อศาลไต่สวนคา คดัคา้นน้นัแลว้ใหม้ีคา สงั่ ยอมรับหรือยกเสียซ่ึงคา คดัคา้นน้นั และใน ระหวา่ งการพิจารณาของศาล คณะ อนุญาโตตุลาการซึ่งรวมถึงอนุญาโตตุลาการซึ่ง ถูกคัดค้านอาจด าเนินการทางอนุญาโตตุลาการ ต่อไปจนกระทงั่ มีคา ช้ีขาดได้ ท้งัน้ี เวน้ แต่ศาล จะมีคา สงั่ เป็นอยา่ งอื่น ในกรณีที่มีเหตุจ าเป็น คณะอนุญาโตตุลาการ อาจขยายระยะเวลาการคัดค้าน อนุญาโตตุลาการตามวรรคหน่ึงออกไปไดอ้ีกไม่ เกินสิบหา้วน

มาตรา ๒๑

การเป็นอนุญาโตตุลาการสิ้นสุดลงเมื่อตา ในกรณีที่บุคคลซึ่งจะได้รับหรือไดร้ับการต้งัเป็น อนุญาโตตุลาการผูใ้ดไม่สามารถปฏิบตัิหนา้ที่ได้ ไมว่ า่ โดยไม่ยินยอมรับการต้งั ถูกพิทักษ์ทรัพย์ เด็ดขาด ถูกศาลสงั่ ใหเ้ป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ หรือไม่ปฏิบตัิหนา้ที่ ภายในระยะเวลาอันสมควรด้วยเหตุอื่น ให้การ เป็นอนุญาโตตุลาการของผูน้้นั สิ้นสุดลงเมื่อ อนุญาโตตุลาการผูน้้นัขอถอนตวั หรือคู่พิพาท ตกลงกนั ใหก้ารเป็นอนุญาโตตุลาการสิ้นสุดลง แต่ถา้ยงัมีขอ้โตแ้ยง้ในเหตุดงักล่าว คู่พิพาท ฝ่ายใดฝ่ายหน่ึงอาจยื่นคา ร้องต่อศาลที่มีเขต อา นาจใหว้ินิจฉยัถึงการสิ้นสุดของการเป็น อนุญาโตตุลาการได้ ภายใต้บังคับวรรคสองหรือมาตรา ๒๐ วรรคหนึ่ง การที่อนุญาโตตุลาการขอถอนตัวหรือการที่ คู่พิพาทตกลงกนั ใหก้ารเป็นอนุญาโตตุลาการ สิ้นสุดลง ไม่ถือวา่ เป็นการยอมรับเหตุตามวรรค สองหรือมาตรา ๑๙ วรรคสาม

มาตรา ๒๒

ถา้การเป็นอนุญาโตตุลาการสิ้นสุดลงตามมาตรา ๒๐ หรือมาตรา ๒๑ หรือเพราะเหตุการถอนตัว ของอนุญาโตตุลาการ หรือคู่พิพาทตกลงกนั ให้ การเป็นอนุญาโตตุลาการสิ้นสุดลงหรือในกรณีที่ การเป็นอนุญาโตตุลาการสิ้นสุดลงดว้ยเหตุอื่น ใหต้้งัอนุญาโตตุลาการแทนตามวิธีการที่ได้ กา หนดไวส้า หรับการต้งัอนุญาโตตุลาการ

มาตรา ๒๓

อนุญาโตตุลาการไม่ตอ้งรับผิดทางแพง่ ในการ กระท าตามหน้าที่ในฐานะอนุญาโตตุลาการ เวน้ แต่จะกระท าการโดยจงใจ หรือประมาท เลินเล่ออย่างร้ายแรงทา ให้คู่พิพาทฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งเสียหาย อนุญาโตตุลาการผู้ใด เรียก รับ หรือยอมจะรับ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดส าหรับตนเองหรือ ผูอ้ื่นโดยมิชอบเพื่อกระทา การหรือไม่กระทา การ อยา่ งใดในหนา้ที่ ต้องระวางโทษจา คุกไม่เกิน สิบปีหรือปรับไม่เกินหน่ึงแสนบาท หรือท้งัจา ท้งั ปรับ ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับวา่ จะใหท้ รัพยส์ินหรือ ประโยชนอ์ื่นใดแก่อนุญาโตตุลาการเพื่อจูงใจให้ กระท าการ ไม่กระทา การหรือประวิงการกระทา การใดอันมิชอบด้วยหน้าที่ต้องระวางโทษจ าคุก ไม่เกินสิบปีหรือปรับไม่เกินหน่ึงแสนบาท หรือ ท้งัจา ท้งัปรับ

หมวด ๒/๑ อนุญาโตตุลาการซึ่งเป็น คนต่างด้าว

มาตรา ๒๓/๑

คู่พิพาทอาจต้งัคนต่างดา้วเป็นอนุญาโตตุลาการ คนเดียวหรือหลายคนเพื่อด าเนินการทาง อนุญาโตตุลาการในราชอาณาจักรได้ ในกรณีที่มีการต้งัอนุญาโตตุลาการตามมาตรา ๑๘ หรือมีการต้งัอนุญาโตตุลาการตามความตก ลงของคู่พพิาท อาจมีการต้งัคนต่างดา้วเป็นอ นุญาโตตุลาการกไ็ด้

มาตรา ๒๓/๒

ในกรณีที่มีการต้งัคนต่างดา้วผูอ้ยูน่ อก ราชอาณาจักรท าหน้าที่อนุญาโตตุลาการใน ราชอาณาจักร อันเป็นการด าเนินการทาง อนุญาโตตุลาการโดยส่วนราชการหรือหน่วยงาน ที่มีกฎหมายจดั ต้งัข้ึนและมีภารกิจที่เกี่ยวเนื่อง ในด้านการระงับข้อพิพาทโดยวิธี อนุญาโตตุลาการ คนต่างดา้วผูน้้นัอาจขอ หนงัสือรับรองจากส่วนราชการหรือหน่วยงาน ดงักล่าวเพื่อประกอบการพิจารณาของเจา้หนา้ที่ ตามกฎหมายวา่ ดว้ยคนเขา้เมืองและกฎหมายวา่ ดว้ยการบริหารจดัการการทา งานของคนตา่ งดา้ว ได้ นต่างดา้วผูท้ า หนา้ที่อนุญาโตตุลาการซ่ึงมี สิทธิอยูใ่ นราชอาณาจกัรอยูแ่ ลว้ อาจขอหนังสือ รับรองตามวรรคหนึ่งได้

มาตรา ๒๓/๓

ใหส้ ่วนราชการหรือหน่วยงานตามมาตรา ๒๓/๒ ออกหนังสือรับรองเพื่อให้อนุญาโตตุลาการซึ่ง เป็นคนต่างดา้วทา หนา้ที่ไดต้ามกฎหรือ ข้อบังคับการด าเนินการทางอนุญาโตตุลาการที่ ตกลงกนั เพื่อดา เนินการตามมาตรา ๒๓/๔ และ มาตรา ๒๓/๕ หนังสือรับรองตามวรรคหนึ่ง ให้มีรายละเอียดอยา่ งนอ้ย ดังต่อไปน

(๑ ) ชื่อและที่อยูข่ องส่วนราชการหรือหน่วยงาน ที่ออกหนังสือรับรอง

(๒ ) หมายเลขของข้อพิพาทหรือรหัสข้อพิพาท ที่อ้างอิงได้

(๓ ) ชื่อตัว ชื่อสกุล และสัญชาติของ อนุญาโตตุลาการ

(๔ ) เลขที่หนังสือเดินทางของอนุญาโตตุลาการ

(๕ ) ระยะเวลาประมาณการในการด าเนินการท างอนุญาโตตุลาการ

ในกรณีที่การด าเนินการทางอนุญาโตตุลาการยัง ไม่แลว้เสร็จตามระยะเวลาที่ไดป้ระมาณการตาม วรรคสอง (๕ ) อนุญาโตตุลาการอาจขอหนังสือ รับรองใหม่ได้

มาตรา ๒๓/๔

ภายใต้บงัคับกฎหมายว่าด้วยคนเขา้เมือง ให้ อนุญาโตตุลาการซึ่งได้รับหนังสือรับรองตาม มาตรา ๒๓/๓ แล้ว มีสิทธิได้รับอนุญาตให้เข้า มาและอยูใ่ นราชอาณาจกัรเป็นการชวั่ คราวได้ ตามระยะเวลาที่กา หนดในหนงัสือรับรอง แต่ไม่ เกินระยะเวลาตามที่กา หนดไวใ้นกฎหมายวา่ ด้วยคนเข้าเมือง

มาตรา ๒๓/๕

ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยการบริหาร จัดการการท างานของคนต่างดา้ว ให้ อนุญาโตตุลาการซึ่งได้รับหนังสือรับรองตาม มาตรา ๒๓/๓ และไดร้ับอนุญาตใหอ้ยูใ่ น ราชอาณาจักรมีสิทธิท างานในราชอาณาจักร ตามตา แหน่งหนา้ที่ของตน ใหน้ ายทะเบียนตามกฎหมายวา่ ดว้ยการบริหาร จดัการการทา งานของคนต่างดา้วออก ใบอนุญาตทา งานใหแ้ก่อนุญาโตตุลาการตาม วรรคหนึ่ง และในระหวา่ งที่ดา เนินการออก ใบอนุญาต ให้อนุญาโตตุลาการดงักล่าวทา งาน ไปพลางก่อนได้

มาตรา ๒๓/๖

ในการด าเนินการทางอนุญาโตตุลาการใน ราชอาณาจักร คู่พิพาทอาจต้งัคนต่างดา้วเป็น ผู้รับมอบอ านาจคนเดียวหรือหลายคนเพื่อท า หน้าที่แทนตนได้ และให้น าบทบัญญัติในหมวดน้ี มาใชบ้ งัคบัแก่ผูร้ับมอบอา นาจดงักล่าวโดย อนุโลม

หมวด ๓ อ านาจของคณะ อนุญาโตตุลาการ

มาตรา ๒๔

คณะอนุญาโตตุลาการมีอ านาจวินิจฉัยขอบเขต อ านาจของตนรวมถึงความมีอยูห่ รือความสมบูรณ์ ของสัญญาอนุญาโตตุลาการ ความสมบูรณ์ของ การต้งัคณะอนุญาโตตุลาการ และประเด็นข้อ พิพาทอนัอยูภ่ ายในขอบเขตอา นาจของคณะ อนุญาโตตุลาการได้ และเพื่อวตัถุประสงคน์ ้ีให้ ถือวา่ ขอ้สญั ญาอนุญาโตตุลาการซ่ึงเป็นส่วน หน่ึงของสญั ญาหลกัเป็นขอ้สญั ญาแยกต่างหาก จากสัญญาหลัก ค าวินิจฉัยของคณะ อนุญาโตตุลาการที่วา่ สญั ญาหลกัเป็นโมฆะ หรือไม่สมบูรณ์จะไม่กระทบกระเทือนถึงขอ้ สัญญาอนุญาโตตุลาการ การคัดค้านอ านาจของคณะอนุญาโตตุลาการ ในการพิจารณาขอ้ พิพาทใดจะตอ้งถูกยกข้ึนว่า กล่าวไม่ช้ากว่าวนั ยื่นคา คดัคา้นต่อสู้ในประเด็น ข้อพิพาท และคู่พิพาทจะไม่ถูกตดั สิทธิที่จะ คัดค้านเพราะเหตุที่คู่พพิาทน้นัไดต้้งัหรือมีส่วน ร่วมในการต้งัอนุญาโตตุลาการ และในการ คดัคา้นวา่ คณะอนุญาโตตุลาการกระทา เกิน ขอบเขตอ านาจ คู่พิพาทฝ่ายใดฝ่ายหน่ึงตอ้ง ยกข้ึนวา่ กล่าวในทนั ทีที่เรื่องดงักล่าวเกิดข้ึนใน ระหวา่ งดา เนินการทางอนุญาโตตุลาการ เวน้แต่ ในกรณีที่คณะอนุญาโตตุลาการพิจารณาเห็นวา่ การที่ล่าชา้น้นั มีเหตุสมควร คณะ อนุญาโตตุลาการอาจอนุญาตใหคู้่พิพาทยกข้ึน วา่ กล่าวภายหลงัระยะเวลาที่กา หนดไวก้ไ็ด้ คณะอนุญาโตตุลาการอาจวินิจฉัยขอบเขต อา นาจของตนโดยการวินิจฉยัช้ีขาดเบ้ืองตน้ หรือในคา ช้ีขาดประเด็นขอ้พิพาทกไ็ด้ แต่ถา้ คณะอนุญาโตตุลาการไดช้้ีขาดเบ้ืองตน้วาคณะ ่ อนุญาโตตุลาการมีอ านาจพิจารณาเรื่องใด คู่พิพาทฝ่ายใดฝ่ายหน่ึงอาจยื่นคา ร้องต่อศาลที่ มีเขตอา นาจใหว้ินิจฉยัช้ีขาดปัญหาดงักล่าว ภายในสามสิบวนั นบัแต่วนัไดร้ับแจง้คา ช้ีขาด เบ้ืองตน้ น้นัและในขณะที่คา ร้องยงัอยูใ่ นระหวา่ ง การพิจารณาของศาล คณะอนุญาโตตุลาการ อาจด าเนินการทางอนุญาโตตุลาการและทา คา ช้ี ขาดต่อไปได้

หมวด ๔ วิธีพิจารณาชั้น อนุญาโตตุลาการ

มาตรา ๒๕

ในการพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการ ให้ คู่พิพาทไดร้ับการปฏิบตัิอยา่ งเท่าเทียมกนั และ ให้มีโอกาสน าสืบพยานหลักฐานและเสนอ ขอ้อา้งขอ้ ต่อสูข้องตนไดต้ามพฤติการณ์แห่งขอ้ พิพาทน้น ในกรณีที่คู่พิพาทมิไดต้กลงกนั หรือกฎหมายน้ี มิไดบ้ ญั ญตัิไวเ้ป็นอยา่ งอื่น ให้คณะ อนุญาโตตุลาการมีอ านาจด าเนินกระบวน พิจารณาใด ๆ ได้ตามที่เห็นสมควร อ านาจของ คณะอนุญาโตตุลาการน้ีใหร้วมถึงอา นาจวนิิจฉยั ในเรื่องการรับฟังพยานหลักฐานและการชงั่ น้า หนกัพยานหลกัฐานท้งัปวงดว้ย พื่อประโยชนแ์ ห่งหมวดน้ี คณะ อนุญาโตตุลาการอาจน าประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความแพง่ วา่ ดว้ยพยานหลกัฐานมาใช้ โดยอนุโลม

มาตรา ๒๖

คู่พิพาทอาจตกลงกา หนดสถานที่ในการ ดา เนินการทางอนุญาโตตุลาการไวก้ไ็ด้ ในกรณี ที่ไม่มีขอ้ ตกลงเช่นวา่ น้นั ให้คณะ อนุญาโตตุลาการกา หนดสถานที่โดยคา นึงถึง สภาพแห่งขอ้พิพาทและความสะดวกของ คู่พิพาท ในกรณีที่คู่พิพาทมิไดต้กลงกนัไวเ้ป็นอยา่ งอื่น คณะอนุญาโตตุลาการอาจกา หนดสถานที่อื่นใด นอกเหนือจากที่กา หนดไวต้ามวรรคหน่ึงเพื่อ ด าเนินการปรึกษาหารือ เพื่อสืบพยานบุคคล ผูเ้ชี่ยวชาญหรือคู่พพิาท หรือเพื่อตรวจสอบวัตถุ สถานที่หรือเอกสารใด ๆ ก็ได้

มาตรา ๒๗

ในการระงับข้อพิพาทโดยวิธีอนุญาโตตุลาการ ใหถ้ือวา่ มีการมอบขอ้พิพาทให้ อนุญาโตตุลาการพิจารณาตามมาตรา ๑๙๓/๑๔ (๔ ) แห่งประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ และ การดา เนินการทางอนุญาโตตุลาการจะเริ่มตน้ ใน กรณีใดกรณีหนึ่ง ดังต่อไปน้ี

(๑ ) เมื่อคู่พิพาทฝ่ายหน่ึงไดร้ับหนงัสือจากคู่พิพ าทอีกฝ่ายหน่ึงขอใหร้ะงบัขอ้พิพาทน้นัโดยวิธี อนุญาโตตุลาการ

(๒ ) เมื่อคู่พิพาทฝ่ายหน่ึงบอกกล่าวเป็นหนงัสือ แก่คู่พพิาทอีกฝ่ายหน่ึงใหต้้งัอนุญาโตตุลาการ หรือใหค้วามเห็นชอบในการต้งั อนุญาโตตุลาการเพื่อระงบัขอ้พิพาทน้น

(๓ ) เมื่อคู่พิพาทฝ่ายใดฝ่ายหน่ึงมีหนงัสือแจง้ข้ อพิพาทที่ประสงคจ์ะระงบั ต่อคณะ อนุญาโตตุลาการ ในกรณีที่สัญญา อนุญาโตตุลาการกา หนดคณะ อนุญาโตตุลาการไว

(๔ ) เมื่อคู่พิพาทฝ่ายใดฝ่ายหน่ึงเสนอขอ้พิพาท ต่อหน่วยงานซ่ึงจดั ต้งัข้ึนเพื่อดา เนินการระงบัขอ้ พิพาทโดยวิธีอนุญาโตตุลาการตามที่ตกลงกนั ไว้

มาตรา ๒๘

คู่พิพาทอาจตกลงกา หนดภาษาที่จะใชใ้นการ ดา เนินกระบวนพิจารณาไดใ้นกรณีที่ไม่มี ขอ้ ตกลงเช่นวา่ น้นั ให้คณะอนุญาโตตุลาการ เป็นผูก้า หนด และถา้มิไดก้า หนดไวโ้ดยเฉพาะ เป็นอยา่ งอื่น ข้อตกลงหรือขอ้กา หนดเช่นวา่ น้ีให้ ใช้บังคับถึงข้อเรียกร้อง ค าคัดค้าน ค าร้องที่ท า เป็นหนงัสือของคู่พิพาท การสืบพยาน คา ช้ีขาด ค าวินิจฉัยหรือการสื่อสารใด ๆ ที่ท าโดยหรือท า ต่อคณะอนุญาโตตุลาการดว้ย คณะอนุญาโตตุลาการอาจมีคา สงั่ ใหแ้นบคา แปลเอกสารที่คู่พิพาทอา้งเป็นพยานเป็นภาษา ตามที่คู่พพิาทตกลงกนัไวห้รือตามที่คณะ อนุญาโตตุลาการกา หนดกไ็ด้

มาตรา ๒๙

ภายในระยะเวลาที่คู่พพิาทตกลงกนั หรือที่คณะ อนุญาโตตุลาการกา หนด ถ้าคู่พิพาทมิไดต้กลง กนัไวเ้ป็นอยา่ งอื่น คู่พิพาทฝ่ายที่เรียกร้องตอ้ง แสดงข้อเท็จจริงเพื่อสนับสนุนข้อเรียกร้อง ประเด็นข้อพิพาท และค าขอบังคับของตน ส่วน คู่พิพาทฝ่ายที่ถูกเรียกร้องต้องแสดงในค า คดัคา้นถึงขอ้ ต่อสูข้องตน ท้งัน้ี คู่พิพาทอาจ แนบเอกสารที่เกี่ยวขอ้งหรือบญั ชีระบุพยานที่ ระบุถึงเอกสารหรือพยานหลักฐานอื่นที่ประสงค์ จะอา้งเป็นพยานมาดว้ยกไ็ด้ ในกรณีที่คู่พิพาทมิไดต้กลงกนัไวเ้ป็นอยา่ งอื่น คู่พิพาทฝ่ายใดฝ่ายหน่ึงอาจขอแกไ้ขเพมิ่ เติม ขอ้เรียกร้องหรือคา คดัคา้นในระหวา่ งพิจารณาก็ ได้ เวน้แต่คณะอนุญาโตตุลาการเห็นวา่ การแกไ ขเพิ่มเติมน้นัไม่สมควรเมื่อคา นึงถึงความล่าชา้ที่ จะเกิดข้ึน

มาตรา ๓๐

ในกรณีที่คู่พิพาทมิไดต้กลงกนัไวเ้ป็นอยา่ งอื่น ใหค้ ณะอนุญาโตตุลาการเป็นผูก้า หนดวา่ จะ สืบพยานหรือฟังค าแถลงการณ์ด้วยวาจาหรือ เป็นหนังสือ หรือจะด าเนินกระบวนพิจารณาโดย รับฟังเพีย งเอกสารหรือพยานหลกัฐานอื่นใดกไ็ด้ คณะอนุญาโตตุลาการมีอ านาจด าเนินการ สืบพยานตามวรรคหน่ึงในระหวา่ งดา เนิน กระบวนพิจารณาในช่วงใด ๆ ตามที่เห็นสมควร ถ้าได้รับค าร้อ งขอจากคูพ่ ิพาทฝ่ายใดฝ่ายหน่ึง เวน้แต่ในกรณี ที่คู่พิพาทไดต้กลงไม่ใหม้ีการสืบพยานดว้ย วาจาหรือเป็นหนังสือ ใหค้ ณะอนุญาโตตุลาการแจง้กา หนดนดั สืบพยานและนัดพิจารณาเพื่อตรวจสอบวัตถุ สถานที่ หรือเอกสารอยา่ งอื่นใหคู้่พิพาททราบ ล่วงหนา้เป็นเวลาพอสมควร ข้อเรียกร้อง ค าคัดค้าน ค าร้อง เอกสาร หรือ ขอ้มูลท้งัหมดที่คู่พพิาทฝ่ายใดเสนอต่อคณะ อนุญาโตตุลาการจะตอ้งส่งใหแ้ก่คู่พิพาทอีก ฝ่ายหนึ่งด้วย ท้งัน้ี ให้รวมถึงรายงานของผู้เชี่ยว ชา ญหรือเอกสารหลักฐานใด ๆ ซึ่ งคณะ อนุญาโตตุลาการจะตอ้งใชป้ระกอบการช้ีขาด ด้วย

มาตรา ๒๑

ในกรณีที่คู่พิพาทมิไดต้กลงกนัไวเ้ป็นอยา่ งอื่น ใหค้ ณะอนุญาโตตุลาการดา เนินการดงัต่อไปน้ี

(๑ ) มีคา สงั่ ยุติกระบวนพิจารณา ถ้าคู่พิพาทฝ่าย ที่เรียกร้องไม่ยื่นขอ้เรียกร้องตามที่กา หนดไวใ้น มาตรา ๒๙ วรรคหนึ่ง

(๒ ) ด าเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ถา้คู่พิพาท ฝ่ายที่ถูกเรียกร้องไม่ยื่นคา คดัคา้นตามที่กา หนด ไว้ในมาตรา ๒๙ วรรคหนึ่ง แต่ท้งัน้ี มิให้ถือวา่ การไม่ยื่นคา คดัคา้นดงักล่าวเป็นการยอมรับตาม ขอ้เรียกร้องน้น

๓ ) ด าเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ถา้คู่พิพาท ฝ่ายใดไม่มาในวนั นดั สืบพยานหรือนดัพจิารณา หรือไม่เสนอพยานหลกัฐานใด ๆ และใหม้ีคา ช้ี ขาดต่อไป

หค้ณะอนุญาโตตุลาการมีอา นาจไต่สวนตามที่ เห็นสมควรก่อนดา เนินการตามวรรคหนึ่ง ท้งัน้ี ให้ รวมถึงเหตุที่ทา ใหคู้่พพิาทฝ่ายที่ถูกเรียกร้อง ขาดนัดยื่นค าคัดค้านหรือขาดนัดพิจารณา แลว้แต่กรณี

มาตรา ๓๒

ในกรณีที่คู่พิพาทมิไดต้กลงกนัไวเ้ป็นอยา่ งอื่น คณะอนุญาโตตุลาการอาจด าเนินการ ดังต่อไปน้ี

(๑ ) แต่งต้งัผูเ้ชี่ยวชาญคนหน่ึงหรือหลายคน เพื่อให้ท าความเห็นเฉพาะในประเด็นใดประเด็น หน่ึงที่จะตอ้งช้ีขาดกไ็ด

(๒ ) เรียกใหคู้่พิพาทใหข้อ้เทจ็จริงแก่ผเู้ชี่ยว ชาญ หรือจัดท าหรือด าเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งเ อกสาร หรือวัตถุใด ๆ ที่เกี่ยวกบั ประเด็นขอ้ พิพาทเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถตรวจสอบได้ ในกรณีที่คู่พิพาทมิไดต้กลงกนัไวเ้ป็นอยา่ งอื่น เมื่อผู้เชี่ยวชาญได้ท าความเห็นเป็นหนังสือหรือ ด้วยวาจาแล้ว หากคู่พิพาทฝ่ายใดฝ่ายหน่ึงร้อง ขอหรือคณะอนุญาโตตุลาการเห็นสมควร ให้ ผูเ้ชี่ยวชาญน้นั มาใหข้อ้เทจ็จริงเพื่อใหคู้่พพิาทมี โอกาสซักถาม หรือคู่พิพาทฝ่ายน้นัอาจนา พยาน ผูเ้ชี่ยวชาญของตนมาสืบในประเด็นดงักล่าวได

มาตรา ๓๓

คณะอนุญาโตตุลาการหรืออนุญาโตตุลาการคน ใดคนหนึ่ง หรือคู่พิพาทฝ่ายใดฝ่ายหน่ึงโดย ความยินยอมของคณะอนุญาโตตุลาการเสียง ข้างมาก อาจยื่นคา ร้องต่อศาลที่มีเขตอา นาจให้ ออกหมายเรียกพยาน หรือมีคา สงั่ ใหส้ ่งเอกสาร หรือวตัถุใดกไ็ด้ ในกรณีที่ศาลเห็นวา่ การดา เนินกระบวนพิจารณา ตามค าร้องตามวรรคหนึ่ง ถ้าเป็นการพิจารณา ของศาลแล้วศาลอาจท าให้ได้ ก็ให้ศาลจดัการ ใหต้ามคา ร้องน้นั ท้งัน้ี ให้นา บทบญั ญตัิแห่ง กฎหมายวิธีพิจารณาความของศาลในส่วนที่ เกี่ยวกบัการน้นั มาใชบ้ งัคบัโดยอนุโลม

หมวด ๕ ค าชี้ขาดและการสิ้นสุด กระบวนพิจารณา

มาตรา ๓๔

ใหค้ ณะอนุญาโตตุลาการช้ีขาดขอ้พพิาทไปตาม กฎหมายที่คู่พพิาทกา หนดใหน้ า มาใชบ้ งัคบักบ ข้อพิพาท ในกรณีที่มีการกา หนดถึงกฎหมาย หรือระบบกฎหมายของประเทศใด หากข้อความ มิไดก้า หนดไวโ้ดยชดัแจง้ใหห้ มายความถึง กฎหมายสารบัญญัติ มิใช่กฎหมายวา่ ดว้ยการ ขดักนัแห่งกฎหมายของประเทศน้น ในกรณีที่คู่พิพาทมิไดก้า หนดถึงกฎหมายที่จะ นา มาใชบ้ งัคบักบัขอ้พิพาทไว้ ให้คณะ อนุญาโตตุลาการช้ีขาดขอ้พิพาทไปตาม กฎหมายไทย เวน้แต่เป็นกรณีที่มีการขดักนัแห่ง กฎหมาย ก็ใหพ้ ิจารณาจากหลกัวา่ ดว้ยการ ขดักนัแห่งกฎหมายที่คณะอนุญาโตตุลาการ เห็นสมควรน ามาปรับใช้ คู่พิพาทอาจกา หนดไวโ้ดยชดัแจง้ใหค้ณะ อนุญาโตตุลาการมีอา นาจช้ีขาดขอ้พิพาทโดย ใชห้ลกัแห่งความสุจริตและเป็นธรรม การวินิจฉยัช้ีขาดของคณะอนุญาโตตุลาการตอ้ง เป็นไปตามข้อสัญญา และหากเป็นข้อพิพาท ทางการค้าให้ค านึงถึงธรรมเนียมปฏิบัติทาง การคา้ที่ใชก้ บัธุรกรรมน้นั ดว้ย

มาตรา ๓๕

ในกรณีที่คู่พิพาทมิไดต้กลงกนัไวเ้ป็นอยา่ งอื่น คา ช้ีขาด คา สั่ง และค าวินิจฉัยในเรื่องใด ๆ ของ คณะอนุญาโตตุลาการให้เป็นไปตามเสียงข้าง มาก ถ้าไม่อาจหาเสียงขา้งมากได้ให้ประธาน คณะอนุญาโตตุลาการเป็นผูท้ า คา ช้ีขาด มีคา สงั่ หรือค าวินิจฉัยเพียงผู้เดียว ใหป้ ระธานคณะอนุญาโตตุลาการเป็นผูช้้ีขาดใน กระบวนวิธีพิจารณา ถ้าคู่พิพาทหรือ อนุญาโตตุลาการทุกคนไดใ้หอ้า นาจไวเ้ช่นน้น

มาตรา ๓๖

ในระหวา่ งดา เนินการทางอนุญาโตตุลาการ ถ้า คู่พิพาทประนีประนอมยอมความกนั ใหค้ณะ อนุญาโตตุลาการยุติกระบวนพิจารณา หาก คู่พิพาทร้องขอและคณะอนุญาโตตุลาการเห็น วา่ ขอ้ ตกลงหรือการประนีประนอมยอมความกนั น้นัไม่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ให้คณะ อนุญาโตตุลาการมีคา ช้ีขาดไปตามข้อตกลง ประนีประนอมยอมความน้น คา ช้ีขาดตามขอ้ ตกลงประนีประนอมยอมความ ใหอ้ยูภ่ ายใตบ้งัคบั มาตรา ๓๗ และให้มีสถานะ และผลเช่นเดียวกบัคา ช้ีขาดที่วินิจฉยัในประเด็น ข้อพิพาท

มาตรา ๓๗

คา ช้ีขาดตอ้งทา เป็นหนงัสือลงลายมือชื่อคณะ อนุญาโตตุลาการถ้าคณะอนุญาโตตุลาการมี จา นวนมากกวา่ หน่ึงคน การลงลายมือชื่อของ อนุญาโตตุลาการเสียงข้างมากถือวา่ เพียงพอ แลว้แตต่ อ้งจดแจง้เหตุขดัขอ้งของ อนุญาโตตุลาการผูซ้่ึงไม่ลงลายมือชื่อน้นัไวด้ว้ย ในกรณีที่คู่พิพาทมิไดต้กลงกนัไวเ้ป็นอยา่ งอื่น คา ช้ีขาดตอ้งระบุเหตุผลแห่งการวินิจฉยัท้งปวง ั ไว้โดยชัดแจ้ง แต่จะกา หนดหรือช้ีขาดการใดให้ เกินขอบเขตแห่งสญั ญาอนุญาโตตุลาการหรือคา ขอของคู่พิพาทไม่ได้ เวน้แต่จะเป็นคา ช้ีขาดตาม ข้อตกลงประนีประนอมยอมความตามมาตรา ๓๖ หรือเป็นการกา หนดค่าธรรมเนียมและ ค่าใชจ้่ายในช้นัอนุญาโตตุลาการ หรือค่าป่วย การอนุญาโตตุลาการตามมาตรา ๔๖ คา ช้ีขาดตอ้งระบุวนัและสถานที่ดา เนินการทาง อนุญาโตตุลาการตามมาตรา ๒๖ วรรคหนึ่งและ ใหถ้ือวา่ คา ช้ีขาดดงักล่าวไดท้ า ข้ึน ณ สถานที่ เช่นวา่ น้น เมื่อทา คา ช้ีขาดเสร็จแลว้ ให้คณะ อนุญาโตตุลาการส่งสา เนาคา ช้ีขาดน้นั ใหแ้ก่ คู่พิพาททุกฝ่าย

มาตรา ๓๘

การดา เนินการทางอนุญาโตตุลาการจะสิ้นสุดลง เมื่อมีคา ช้ีขาดเสร็จเด็ดขาดหรือโดยคา สงั่ ของ คณะอนุญาโตตุลาการตามวรรคสอง คณะอนุญาโตตุลาการจะมีคา สงั่ ใหยุ้ติกระบวน พิจารณา เมื่อ

๑ ) คู่พิพาทฝ่ายที่เรียกร้องขอถอนขอ้เรียกร้อง เวน้แต่คูพ่ ิพาทฝ่ายที่ถูกเรียกร้องไดค้ ดัคา้นการ ถอนขอ้เรียกร้องดงักล่าว และคณะ อนุญาโตตุลาการเห็นถึงประโยชน์อันชอบด้วย กฎหมายของคูพ่ ิพาทฝ่ายที่ถูกเรียกร้องในการที่ จะได้รับการวินิจฉยัในประเด็นขอ้พพิาทน้น

(๒ ) คู่พิพาทตกลงกนั ใหยุ้ติกระบวนพิจารณา

(๓ ) คณะอนุญาโตตุลาการเห็นวา่ ไม่มีความ จ าเป็นที่จะด าเนินกระบวนพิจารณาต่อไป หรือไม่อาจดา เนินกระบวนพิจารณาต่อไปได้

ภายใต้บังคับมาตรา ๓๙ และมาตรา ๔๐ วรรคสี่ อา นาจของคณะอนุญาโตตุลาการจะสิ้นสุดลง พร้อมกบัการยุติของกระบวนพิจารณา

มาตรา ๓๙

ในกรณีที่คู่พิพาทมิไดต้กลงกนัไวเ้ป็นอยา่ งอื่น ภายในสามสิบวันนับ แต่วนั ที่ไดร้ับคา ช้ีขาด

(๑ ) คู่พิพาทฝ่ายใดฝ่ายหน่ึง อาจยื่นค าร้อง ขอใหค้ ณะอนุญาโตตุลาการแกไขข้อผิดพลาด ้ ในการค านวณตัวเลข ข้อผิดพลาดหรือการพิมพ์ ที่ผิดพลาดหรือขอ้ผิดหลงเลก็ นอ้ยในคา ช้ีขาด ให้ถูกต้องได้ ท้งัน้ี ให้ส่งสา เนาคา ร้องให้ คู่พิพาทอีกฝ่ายหน่ึงทราบดว้ย หรือ

๒ ) ในกรณีที่ไดต้กลงกนัไวแ้ลว้ คู่พิพาทฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งอาจยื่นค าร้องขอให้คณะ อนุญาโตตุลาการตีความ อธิบายข้อความหรือ ส่วนหน่ึงส่วนใดในคา ช้ีขาดได้ ท้งัน้ี ใหส้ ่ง สา เนาคา ร้องใหคู้่พิพาทอีกฝ่ายหน่ึงทราบดว้ย

ถา้คณะอนุญาโตตุลาการเห็นวา่ คา ร้องตาม (๑ ) และ (๒ ) มีเหตุผลสมควร ให้แกไ้ขหรือตีความ ใหเ้สร็จสิ้นภายในสามสิบวนั นบัแต่วนัไดร้ับคา ร้อง ค าตีความ อธิบายความดงักล่าวใหถ้ือเป็น ส่วนหน่ึงของคา ช้ีขาดดว้ย คณะอนุญาโตตุลาการอาจแกไ้ขขอ้ผดิพลาด หรือข้อผิดหลงตาม (๑ ) ได้เองภายในสามสิบวัน นบัแต่วนั มีคา ช้ีขาด เวน้แต่คูพ่ ิพาทจะตกลงกนัไวเ้ป็นอยา่ งอื่น คู่พิพาทฝ่ายใดฝ่ายหน่ึงอาจยื่นคา ร้องภายใน สามสิบวนั นบัแต่วนัไดร้ับคา ช้ีขาดและเมื่อได้ แจง้ใหคู้่พพิาทอีกฝ่ายหน่ึงทราบแลว้ ให้คณะ อนุญาโตตุลาการทา คา ช้ีขาดเพิ่มเติมเกี่ยวกบั ขอ้เรียกร้องที่ยงัมิไดม้ีการวินิจฉยัไวใ้นคา ช้ีขาด ถ้าคณะอนุญาโตตุลาการเห็นวา่ คา ร้องดงักล่าวมี เหตุผลสมควร ให้ทา คา ช้ีขาดเพิ่มเติมใหเ้สร็จ สิ้นภายในหกสิบวนั นบัแต่วนัไดร้ับคา ร้อง ในกรณีมีเหตุจ าเป็น คณะอนุญาโตตุลาการอาจ ขยายระยะเวลาการแกไ้ข การตีความ การอธิบาย ความหรือการทา คา ช้ีขาดเพิ่มเติมตามที่บญั ญตัิ ไว้ในวรรคสองและวรรคสี่ได้ ให้น ามาตรา ๓๗ มาใชบ้ งัคบัแก่การแกไ้ข การ ตีความ การอธิบายความ หรือการทา คา ช้ีขาด เพิ่มเติมตามมาตราน้ี

หมวด ๖ การคัดค้านค าชี้ขาด

มาตรา ๔๐

การคดัคา้นคา ช้ีขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ อาจท าได้โดยการขอให้ศาลที่มีเขตอ านาจเพิก ถอนคา ช้ีขาดตามที่บญั ญตัิไวใ้นมาตราน้ี คู่พิพาทฝ่ายใดฝ่ายหน่ึงอาจขอใหเ้พิกถอนคา ช้ี ขาดได้ โดยยื่นคา ร้องต่อศาลที่มีเขตอา นาจ ภายในเกา้สิบวนั นบัแต่วนัไดร้ับสา เนาคา ช้ีขาด หรือถ้าเป็นกรณีมีการขอให้คณะ อนุญาโตตุลาการแกไ้ขหรือตีความคา ช้ีขาด หรือช้ีขาดเพิ่มเติม นับแต่วนั ที่คณะ อนุญาโตตุลาการไดแ้กไ้ขหรือตีความคา ช้ีขาด หรือทา คา ช้ีขาดเพิ่มเติมแลว ใหศ้าลเพิกถอนคา ช้ีขาดไดใ้นกรณีดงัต่อไปน้ี

๑ ) คู่พิพาทฝ่ายที่ขอใหเ้พิกถอนคา ช้ีขาดสามา รถพิสูจนไ์ ดว้า

(ก) คู่สัญญาตามสญั ญาอนุญาโตตุลาการฝ่าย ใดฝ่ายหน่ึงเป็นผูบ้กพร่องในเรื่องความสามารถตามกฎหมายที่ใช้บังคับ แก่คู่สญั ญาฝ่ายน้น (ข ) สัญญาอนุญาโตตุลาการไม่มีผลผูกพนั ตาม กฎหมายแห่งประเทศที่คู่พิพาทไดต้กลงกนัไว้ หรือตามกฎหมายไทยในกรณีที่ไมม่ ีขอ้ ตกลง ดงักล่าว (ค ) ไม่มีการแจง้ใหคู้่พพิาทฝ่ายที่ขอใหเ้พิกถอ นคา ช้ีขาดรู้ล่วงหนา้โดยชอบถึงการแต่งต้งัคณะ อนุญาโตตุลาการหรือการพิจารณาของคณะ อนุญาโตตุลาการ หรือบุคคลดงักล่าวไมส่ ามารถ เขา้ต่อสูค้ ดีในช้นัอนุญาโตตุลาการไดเ้พราะเหตุ ประการอื่น (ง ) ค าช้ีขาดวินิจฉยัขอ้พิพาทซ่ึงไม่อยูใ่ นขอ บเขตของสญั ญาอนุญาโตตุลาการหรือคา ช้ีขาด วินิจฉยัเกินขอบเขตแห่งขอ้ ตกลงในการเสนอ ขอ้พิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการ แต่ถา้คา ช้ี ขาดที่วินิจฉยัเกินขอบเขตน้นั สามารถแยกออก ไดจ้ากคา ช้ีขาดส่วนที่วินิจฉยัในขอบเขตแลว้ ศาลอาจเพิกถอนเฉพาะส่วนที่วินิจฉยัเกิน ขอบเขตแห่งสญั ญาอนุญาโตตุลาการหรือ ขอ้ ตกลงน้นักไ็ด้ หรือ จ ) องค์ประกอบของคณะอนุญาโตตุลาการหรื อกระบวนพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการ มิไดเ้ป็นไปตามที่คู่พพิาทไดต้กลงกนัไว้ หรือใน กรณีที่คู่พิพาทไมไ่ ดต้กลงกนัไวเ้ป็นอยา่ งอื่น องค์ประกอบดังกล่าวไม่ชอบดว้ยกฎหมายน้

(๒ ) มีกรณีปรากฏต่อศาลวา

(ก) ค าช้ีขาดน้นั เกี่ยวกบัขอ้พิพาทที่ไมส่ ามารถ จะระงับโดยการอนุญาโตตุลาการได้ตามกฎหมาย หรือ (ข ) การยอมรับหรือการบงัคบั ตามคา ช้ีขาดน้นัจะ เป็นการขดั ต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม อันดีของประชาชน ในการพิจารณาคา ร้องใหเ้พิกถอนคา ช้ีขาด ถ้า คู่พิพาทยื่นคา ร้องและศาลพจิารณาเห็นวา่ มี เหตุผลสมควร ศาลอาจเลื่อนการพิจารณาคดี ออกไปตามที่เห็นสมควร เพื่อให้คณะ อนุญาโตตุลาการพิจารณาอีกคร้ังหน่ึงหรือ ดา เนินการอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงที่คณะ อนุญาโตตุลาการเห็นสมควร เพื่อใหเ้หตุแห่ง การเพิกถอนน้นั หมดสิ้นไป

หมวด ๗ การยอมรับและบังคับตาม ค าชี้ขาด

มาตรา ๔๑

ภายใต้บังคับมาตรา ๔๒ มาตรา ๔๓ และมาตรา ๔๔ คา ช้ีขาดของคณะอนุญาโตตุลาการไม่วา่ จะ ไดท้ า ข้ึนในประเทศใดใหผู้กพนัคู่พพิาท และ เมื่อไดม้ีการร้องขอต่อศาลที่มีเขตอา นาจยอ่ ม บงัคบัไดต้ามคา ช้ีขาดน้น ในกรณีคา ช้ีขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ กระทา ข้ึนในต่างประเทศ ศาลที่มีเขตอ านาจจะมี คา พิพากษาบงัคบั ตามคา ช้ีขาดใหต้่อเมื่อเป็นคา ช้ีขาดที่อยูใ่ นบงัคบัแห่งสนธิสญั ญา อนุสัญญา หรือความตกลงระหวา่ งประเทศซ่ึงประเทศไทย ป็นภาคี และใหม้ีผลบงัคบัไดเ้พียงเท่าที่ ประเทศไทยยอมตนเขา้ผูกพนั เท่าน้น

มาตรา ๔๒

เมอคพพาทฝายใดประสงคจะใหมการบงคบ ตามคาชขาดของคณะอนญาโตตลาการ ให้ คพพาทฝายนนยนคารองตอศาลทมเขตอานาจ ภายในกาหนดเวลาสามปนบแตวันที่อาจบังคับ ตามค าชขาดไดเมอศาลไดรบคารองดงกลาวใหรบ ทาการไตสวน และมีค าพิพากษาโดยพลัน ผรองขอบงคบตามคาชขาดของคณะ อนญาโตตลาการจะตองมเอกสารดงตอไปน มาแสดงตอศาล

(๑ ) ตนฉบบคาชขาด หรือส าเนาที่รับรองถูกต้อง

(๒ ) ต้นฉบับสัญญาอนุญาโตตุลาการ หรือส าเนา ที่รับรองถูกต้อง

(๓ ) ค าแปลเป็นภาษาไทยของคา ช้ีขาดและสญั ญาอนุญาโตตุลาการโดยมีผู้แปลซึ่งได้สาบาน ตวัแลว้หรือปฏิญาณตนต่อหน้าศาลหรือต่อ หน้าเจ้าพนักงานหรือบุคคลที่มีอ านาจในการ รับค าสาบาน หรือปฏิญาณหรือรับรองโดย เจ้าหน้าที่ที่มีอ านาจในการรับรองค าแปล หรือ ผู้แทนทางการทูตหรือกงสุลไทยในประเทศที่มี การทา คา ช้ีขาดหรือสญั ญาอนุญาโตตุลาการน้น

มาตรา ๔๓

ศาลมีอา นาจทา คา สงั่ ปฏิเสธไม่รับบงัคบั ตามคา ช้ีขาดของคณะอนุญาโตตุลาการไม่วา่คา ช้ีขาด น้นัจะไดท้ า ข้ึนในประเทศใด ถ้าผู้ซึ่งจะถูกบังคับ ตามคา ช้ีขาดพิสูจนไ์ดว้า

๑ ) คู่สัญญาตามสญั ญาอนุญาโตตุลาการฝ่ายใ ดฝ่ายหน่ึงเป็นผูบ้กพร่องในเรื่องความสามารถ ตามกฎหมายที่ใช้บังคบัแก่คู่สญั ญาฝ่ายน้น

(๒ ) สัญญาอนุญาโตตุลาการไม่มีผลผกู พนั ตาม กฎหมายแห่งประเทศที่คู่สญั ญาไดต้กลงกนัไว้ หรือตามกฎหมายของประเทศที่ทา คา ช้ีขาดน้นั ในกรณีที่ไม่มีขอ้ ตกลงดงักล่าว

(๓ ) ไม่มีการแจง้ใหผู้ซ้่ึงจะถูกบงัคบั ตามคา ช้ีขา ดรู้ล่วงหนา้โดยชอบถึงการแต่งต้งัคณะ อนุญาโตตุลาการหรือการพิจารณาของคณะ อนุญาโตตุลาการ หรือบุคคลดงักล่าวไมส่ ามารถ เขา้ต่อสูค้ ดีในช้นัอนุญาโตตุลาการไดเ้พราะเหตุ ประการอื่น

(๔ ) ค าช้ีขาดวินิจฉยัขอ้พิพาทซ่ึงไม่อยใู่ นขอ บเขตของสั ญญาอนุญาโตตุลาการหรือคา ช้ีขาดวินิจฉยัเกิน ขอบเขตแห่งขอ้ ตกลงในการเสนอขอ้พิพาทต่อ คณะอนุญาโตตุลาการ แต่ถา้คา ช้ีขาดที่วินิจฉยั เกินขอบเขตน้นั สามารถแยกออ กไดจ้ากคา ช้ีขาดส่วนที่วินิจฉยัในขอบเขตแลว้ ศาลอาจบงัคบั ตามคา ช้ีขาดส่วนที่วินิจฉยัอยูใ่ น ขอบเขตแห่งสญั ญาอนุญาโตตุลาการหรือ ขอ้ ตกลงน้นักไ็ด

(๕ ) องค์ประกอบของคณะอนุญาโตตุลาการหรื อกระบวนพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการ มิไดเ้ป็นไปตามที่คู่พพิาทไดต้กลงกนัไว้ หรือ มิได้เป็นไปตามกฎหมายของประ เทศที่ทา คา ช้ีขาดในกรณีที่คู่พิพาทมิไดต้กลง กนัไว้ หรือ

๖ ) ค าช้ีขาดยงัไมม่ ีผลผูกพนั หรือได้ถูกเพิก ถอน หรือระงับใช้เสียโดยศาลที่มีเขตอ านาจ หรือภายใตก้ฎหมายของประเทศที่ทา คา ช้ีขาด เวน้แต่ในกรณีที่ยงัอยูใ่ นระหวา่ งการขอใหศ้าลที่ มีเขตอา นาจทา การเพิกถอนหรือระงบัใชซ้่ึงคา ช้ี ขาด ศาลอาจเลื่อนการพิจารณาคดีที่ขอบังคับ ตาม คา ช้ีขาดไปไดต้ามที่เห็นสมควร และถา้คู่พิพาท ฝ่ายที่ขอบงัคบั ตามคา ช้ีขาดร้องขอ ศาลอาจสงั่ ใหคู้่พพิาทฝ่ายที่จะถูกบงัคบัวางป ระกนั ที่เหมาะสมก่อนกไ็ด้

มาตรา ๔๔

ศาลมีอ านาจทา คา สงั่ ปฏิเสธการขอบงัคบั ตามคา ช้ีขาดตามมาตรา ๔๓ ได้ถา้ปรากฏต่อศาลวา่ คา ช้ีขาดน้นั เกี่ยวกบัขอ้พิพาทที่ไม่สามารถจะระงบั โดยการอนุญาโตตุลาการได้ตามกฎหมายหรือ ถา้การบงัคบั ตามคา ช้ีขาดน้นัจะเป็นการขดั ต่อ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของ ประชาชน

มาตรา ๔๕

หา้มมิใหอุ้ทธรณ์คา สงั่ หรือคา พพิากษาของศาล ตามพระราชบญั ญตัิน้ี เวน้แต่

๑ ) การยอมรับหรือการบงัคบั ตามคา ช้ีขาดน้นัจะ เป็นการขดั ต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม อันดีของประชาชน

(๒ ) ค าสั่งหรือคา พิพากษาน้นัฝ่าฝืนต่อบทกฎห มายอนั เกี่ยวดว้ยความสงบเรียบร้อยของ ประชาชน

(๓ ) ค าสั่งหรือคา พิพากษาน้นัไม่ตรงกบัคา ช้ีขา ดของคณะอนุญาโตตุลาการ

(๔ ) ผู้พิพากษา หรือตุลาการซ่ึงพิจารณาคดีน้นัไ ด้ท าความเห็นแย้งไว้ในค าพิพากษา หรือ

(๕ ) เป็ นคา สงั่ เกี่ยวดว้ยการใชว้ิธีการชวั่ คราวเพื่อคุม้ครองประโยชนข์องคูพ่ ิพาทตาม มาตรา ๑๖

การอุทธรณ์คา สงั่ หรือคา พิพากษาของศาลตาม พระราชบญั ญตัิน้ี ให้อุทธรณ์ต่อศาลฎีกาหรือ ศาลปกครองสูงสุด แลว้แต่กรณ

หมวด ๘ ค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่าย และค่าป่ วยการ

มาตรา ๔๖

ในกรณีที่คู่พิพาทมิไดต้กลงกนัไวเ้ป็นอยา่ งอื่น ค่าธรรมเนียมและค่าใชจ้่ายในช้นั อนุญาโตตุลาการ ตลอดจนค่าป่วยการ อนุญาโตตุลาการ แต่ไม่รวมถึงค่าทนายความ และค่าใชจ้่ายของทนายความ ให้เป็นไปตามที่ กา หนดไวใ้นคา ช้ีขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ นกรณีที่มิไดก้า หนดค่าธรรมเนียมและ ค่าใชจ้่ายในช้นัอนุญาโตตุลาการหรือค่าป่วยการ อนุญาโตตุลาการไวใ้นคา ช้ีขาด คู่พิพาทฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งหรือคณะอนุญาโตตุลาการอาจยื่นค า ร้องใหศ้าลที่มีเขตอา นาจมีคา สงั่ เรื่อง ค่าธรรมเนียมและค่าใชจ้่ายในช้นั อนุญาโตตุลาการและค่าป่วยการ อนุญาโตตุลาการได้ตามที่เห็นสมควร

มาตรา ๔๗

หน่วยงานซ่ึงไดจ้ดั ต้งัข้ึนเพื่อดา เนินการระงบัขอ้ พิพาทโดยวิธีอนุญาโตตุลาการอาจกา หนด ค่าธรรมเนียม ค่าใชจ้่าย และค่าป่วยการในการ ดา เนินกระบวนพิจารณาอนุญาโตตุลาการกไ็ด้

บทเฉพาะกาล

าตรา ๔๘

บทบญั ญตัิแห่งพระราชบญั ญตัิน้ีไม่ กระทบกระเทือนถึงความสมบูรณ์แห่งสญั ญา อนุญาโตตุลาการ และการด าเนินการทาง อนุญาโตตุลาการใดที่ไดก้ระทา ไปก่อนวนั ที่ พระราชบญั ญตัิน้ีใชบ้ งัคบ การด าเนินการทางอนุญาโตตุลาการใดที่ยังมิได้ กระทา และยงัไม่ลว่ งพน้กา หนดเวลาที่จะต้อง กระทา ตามกฎหมายที่ใชบ้ งัคบัอยูก่ ่อน พระราชบญั ญตัิน้ี ให้ด าเนินการทาง อนุญาโตตุลาการน้นัได้ภา ยในกา หนดเวลาตามพระราชบญั ญตัิน้ี

รับสนองพระบรมราชโองการ

พันต ารวจโท ทักษิณ ชินวัตร

นายกรัฐมนตรี

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๕ เป็นปีที่ ๕๗ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลย เดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ ประกาศวา โดยทเปนการสมควรปรบปรงกฎหมายวาดวย อนุญาโตตุลาการ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตรา พระราชบญญตขนไวโดยคาแนะนาและยนยอม ของรัฐสภา ดงตอไปน 푸미폰 아둔야뎃 국왕 폐하께서 재위 57 번째 해인 2002(불기 2545)년 4 월 23일 하사하셨다. 푸미폰 아둔야뎃 국왕께서는 다음과 같 이 공포하게 하셨다. 중재 관련 법률을 개정하는 것이 합당하 므로, 이에 의회의 동의와 의견을 받아 다음과 같이 법률을 제정하는 바이다.

제1조

이 법은 「2002년 중재법」이라고 한다.

제2조

이 법은 관보에 게재한 다음 날부터 시 행한다.

제3조

「1987년 중재법」은 폐지한다.

제4조

법원 이외의 중재와 관련하여 「민사소 송법전」을 참조한 조항은 이 법을 참조 한 것으로 간주한다.

제5조

이 법에서 사용하는 용어의 뜻은 다음과 같다. "중재판정부"란 단독 중재인 또는 여러 명의 중재인을 말한다. "법원"이란 법원이 위치한 국가의 법률에 따라 사법권을 가진 특정 기관 또는 기 구를 말한다. "청구"란 반대청구를 포함한다. 다만, 제 31 조제(1)항 및 제 38 조 두 번째 단락 제(1)항에 따른 청구는 제외한다. "이의"란 반대청구에 대한 이의를 포함한 다. 다만, 제31조제(2)항 및 제38조 두 번째 단락 제(1)항에 따른 반대청구에 대한 이의는 제외한다.

제6조

제 34 조에 따라 이 법에서 계약분쟁당사 자에게 어떠한 사안에 대해 결정할 권한 을 부여하는 경우, 계약분쟁당사자는 개 인 또는 특정 부서에 위임하여 해당 사 안을 대신 결정하게 할 수 있다. 이 법의 조항에서 계약분쟁당사자가 합 의하거나 합의할 수 있는 사실관계를 규 정해 두거나 계약분쟁당사자의 합의조항 에 대해 규정한 경우, 그러한 합의조항에 는 해당 합의조항에 명시된 중재규정이 포함된다.

제7조

계약분쟁당사자가 달리 합의하지 않은 경우, 이 법에 따른 서면 발송은 국내인 경우, 등기우편으로 또는 그 밖에 발송을 증명할 수 있는 방법으로 서면에 명시한 개인에게 발송했거나 해당 서면에 명시 한 개인의 영업소, 거주지, 주소(우편연 락장소)로 발송하였을 때 또는 적절한 조회를 하였음에도 위의 주소를 알 수 없는 경우에는 최후로 알려진 영업소, 거 주지, 주소(우편연락장소)로 발송하였을 때에 수신인에게 통지된 것으로 본다. 이 규정은 법원 공판절차의 서면 발송에 는 적용되지 아니한다.

제8조

분쟁당사자가 이 법의 조항 또는 중재계 약의 조건을 이행하지 아니한다는 사실 을 알고도 정해진 기간 또는 합당한 기 간 내에 상대방의 불이행에 대하여 이의를 제기하지 아니하고 중재절차를 진행 하는 경우에는 이의제기권을 포기한 것 으로 간주한다.

제9조

중앙 지식재산 및 국제무역 법원, 지방 지식재산 및 국제무역 법원, 중재지를 관 할하는 법원, 분쟁당사자 중 어느 한쪽의 거주지를 관할하는 법원 또는 중재에 회 부된 분쟁판결을 관할하는 법원이 이 법 에 따라 관할권을 갖는 법원이 된다.

제10조

법무부장관이 이 법의 시행을 주관하고 관리한다.

제1장 중재계약

제11조

중재계약이란 계약상 법률관계를 막론하 고 발생하거나 향후 발생할 수 있는 모 든 또는 일부 분쟁을 중재의 방법으로 해결하는 계약분쟁당사자 간의 합의 계 약을 말한다. 중재계약은 본계약 중 하나 또는 별도의 중재계약일 수 있다. 중재계약은 분쟁당사자들이 서명한 서면 으로 입증하여야 한다. 다만, 서면, 팩스, 전보, 텔레타이프, 전자서명을 통한 정보 교환 또는 계약 내용을 기록한 그 밖의 방법으로 계약분쟁당사자 간에 주고받은 서면에 계약내용을 명시하거나 청구나 이의에 관한 계약 조항을 인용하고 상대 방 분쟁당사자가 거부하지 아니하는 경 우에는 그러하지 아니하다. 중재를 통해 분쟁의 해결을 합의한 문서 를 증거로 한 계약은 중재계약이 성립한 것으로 간주한다.

제 12 조

중재계약과 중재인 선정의 효력은 비록 차후 계약 분쟁당사자의 사망, 법인 종 료, 파산 확정, 금치산자 또는 한정치산 자의 판결이 있더라도 무효로 되지 아니 한다.

제 13 조

청구권 또는 책임의 이전이 있는 경우, 해당 청구권 및 책임과 관련하여 이미 존재하였던 중재계약은 양수인에게 효력 이 있다.

제 14 조

계약분쟁당사자가 계약에 따라 중재판정 부에 분쟁조정을 제기하지 아니하고 중 재계약에 따른 분쟁에 관하여 소송을 제 기하는 경우, 고소를 당한 분쟁당사자는 진술서 제출일 이내 또는 법에 따라 진 술할 수 있는 기한 내에 계약분쟁당사자 가 중재절차를 이행하도록 관할법원에 소송 각하를 신청할 수 있다. 법원은 심 사하여 해당 중재계약이 무효이거나 시 행할 수 없거나 해당 계약을 이행할 수 없는 이유가 있다고 판단되면 소송각하 명령을 내린다. 첫 번째 단락에 따라 소가 법원에 계속 중인 경우에 어느 한 분쟁당사자가 중재 절차를 개시하거나 중재판정부가 심사절 차를 계속 진행하여 해당 분쟁에 대한 결정을 내릴 수 있다.

제 15 조

정부부서와 민간 사이의 계약은 행정상 계약 여부와 관계없이 분쟁 해결에 중재 를 활용하도록 합의할 수 있고 해당 중 재계약은 계약분쟁당사자를 구속한다.

제 16 조

중재계약을 체결한 분쟁당사자는 중재절 차의 개시 전 또는 진행 중에 관할법원 에 보전처분을 신청할 수 있다. 중재절차 중 법원이 심리할 사안으로 판단하는 경 우에는 법원에서 처리한다. 이 경우, 해 당 부분과 관련된 법원의 「절차법」 규 정을 준용한다. 첫 번째 단락에 따라 법원이 분쟁당사자 의 신청에 따른 명령을 하는 경우, 법원 의 명령이 있은 날부터 30 일 이내 또는 법원이 정한 기간 내에 신청한 분쟁당사 자가 중재절차를 이행하지 않으면 해당 기일이 만료되는 날 명령은 취소된다.

제 2 장 중재판정부

제 17 조

중재판정부는 홀수의 중재인으로 구성한 다. 분쟁당사자가 짝수의 중재인을 지정하는 경우, 중재인은 공동으로 중재위원장을 맡을 중재인을 추가로 1 명 더 선정하며 중재위원장 선정 방법은 제18조제 첫 번 째 단락 제(2)항에 따른다. 분쟁당사자가 중재인의 수에 합의하지 못하는 경우에는 중재인 1 명으로 진행한 다.

제 18 조

분쟁당사자가 별도로 중재판정부 선정 방식을 정하지 않은 경우, 다음에 따라 선정한다.

(1) 단독 중재인으로 중재판정부를 구성 하도록 정한 경우, 분쟁당사자 간 합의가 이루어지지 아니하면 분쟁당사자 중 일 방이 관할법원에 중재판정부 선정명령을 신청할 수 있다.

(2) 1 명 이상의 중재인으로 중재판정부 를 구성하도록 정한 경우, 분쟁당사자는 각자 중재인을 선정하고 해당 중재인들 이 공동으로 추가로 중재인 1 명을 선정 한다. 상대방 분쟁당사자로부터 중재인 선정을 하도록 통지받은 날부터 30 일 이 내에 중재인을 선정하지 않거나 중재인 선정이 완료된 날부터 30 일 이내에 양측 중재인이 공동으로 중재위원장을 선정하 지 아니하는 경우, 분쟁당사자 일방이 관 할법원에 중재인 또는 중재위원장 선정 명령을 신청한다.

첫 번째 단락에 따른 중재인 선정에 있 어 중재인을 선정할 수 있는 다른 방법 을 정하지 아니한 경우, 다음 중 어느 하 나에 해당하면 분쟁당사자 일방은 관할 법원에 적절한 방법으로 중재인 선정을 이행하도록 신청한다.

(1) 분쟁당사자 일방이 지정된 방법에 따라 이행하지 아니하는 경우

(2) 분쟁당사자 또는 중재인이 지정된 방법에 따라 합의하지 아니하는 경우

(3) 제 3 자 또는 특정 기관이 지정된 방 법에 따라 이행하지 아니하는 경우

제 19 조

중재인은 중립성과 독립성을 가져야 하 며 중재인계약에서 정한 자격을 갖추어 야 하나, 중재를 통한 분쟁 해결을 위하 여 설립된 기관이 이를 수행하도록 분쟁 당사자가 합의한 경우에는 해당 기관에 서 정하는 자격을 갖추어야 한다. 중재인으로 선정된 개인이 자신의 중립 성 또는 독립성을 의심할 만한 사유가 있는 경우에는 선정된 날부터 중재가 진 행되는 기간 중 어느 때에든 해당 사실 을 지체 없이 공개하여야 한다. 다만, 미 리 분쟁당사자에게 통지한 경우에는 그 러하지 아니하다. 중재인의 중립성 또는 독립성에 의심할 만한 사유가 있거나 분쟁당사자가 합의 한 자격에 미달되는 경우에는 중재인 기 피가 가능하다. 다만, 자신이 선정하였거 나 선정절차에 참여하여 선정한 중재인 에 대하여는 기피가 불가능 하다. 다만, 해당 분쟁당사자가 중재인 선정 시 기피 사유를 알지 못했거나 알 수 없는 경우 에는 그러하지 아니하다.

제 20 조

분쟁분쟁당사자가 달리 합의하지 않은 경우, 중재인 기피신청을 하려는 분쟁당 사자는 중재인 선정을 알게 된 날 또는 제 19 조 세 번째 단락에 따른 사실을 알 게 된 날부터 15 일 이내에 중재판정부에 기피사유서를 제출하여야 한다. 기피신청 의 대상인 중재인이 사임하지 아니하거 나 상대방 분쟁당사자가 기피신청에 동 의하지 아니하면 중재판정부에서 해당 기피신청을 심사한다. 첫 번째 분쟁분쟁당사자가 합의한 방법 또는 첫번째 단락에 따른 방법에 의한 기피신청이 성사되지 아니하거나 단독중 재인인 경우 기피신청을 한 분쟁당사자 는 해당 기피신청 심사결정서를 수령한 날이나 중재인 선정을 인지한 날 또는 제 19 조 세 번째 단락에 따른 사실을 인 지한 날부터 30 일 이내에 관할법원에 기 피신청서를 제출할 수 있다. 이 경우, 법 원은 심사하여 기피신청에 대한 수용 또 는 기각 명령을 하여야 하며 기피신청이 법원에 계류 중인 동안에는 법원의 별도 명령이 없는 한 기피신청의 대상인 중재 인을 포함한 중재판정부는 판결이 있을 때까지 중재절차를 진행할 수 있다. 필요한 경우, 중재판정부는 첫 번째 단락 에 따른 중재기피신청 기간을 15 일을 초과하지 아니하는 기간 동안 연장할 수 있다.

제 21 조

중재인의 권한은 중재인의 사망 시 종료 된다. 중재인으로 선정된 사람이 선정에 동의 하지 않아 직무를 수행할 수 없거나 파 산이 확정되거나 법원의 명령으로 금치 산자 또는 한정치산자가 되거나 그 밖의 이유로 타당한 기간 내에 직무를 수행하 지 아니하는 경우, 해당 중재인이 사임하 거나 분쟁당사자가 중재인의 권한 종료 에 동의할 때에 중재인의 권한은 종료된 다. 이의가 있는 경우, 분쟁당사자는 관 할법원에 중재인 권한 종료 심사를 신청 할 수 있다. 두 번째 단락 또는 제20조 첫 번째 단락 에 따라 중재인의 사임 또는 분쟁당사자 가 중재인 권한 종료에 합의하는 것은 두 번째 단락 또는 제19조 세 번째 단락 에 따른 사유를 인정하는 것으로 간주한 다.

제 22 조

제 20 조 및 제 21 조에 따라 또는 중재인 이 사임하거나 분쟁당사자가 중재인 권 한 종료에 합의하거나 그 밖의 사유로 중재인의 권한이 종료되는 경우, 중재인 선정에서 정한 방법에 따라 중재인을 다 시 선정한다.

제 23 조

중재인 직무 수행에 있어 중재인은 민사 책임을 지지 아니한다. 다만, 중재인의 고의 또는 중대한 과실로 분쟁당사자에 게 피해를 입힌 경우에는 그러하지 아니 하다. 위법하게 직무를 이행하거나 불이행하도 록 자신이나 다른 자를 위해 자산 또는 그 밖의 이익을 요구하거나 교부받거나 수락에 동의한 중재인은 10 년 이하의 징 역이나 10 만 밧 이하의 벌금에 처하거나 또는 징역 및 벌금이 병과 될 수 있다 직무를 위반하여 이행하거나 불이행하게 하거나 직무 이행을 지체하도록 하기 위 하여 중재인에게 자산 또는 그 밖의 이 익을 제공 또는 요청하거나 제공을 약속 한 자는 10 년 이하의 징역이나 10 만 밧 이하의 벌금에 처하거나 징역과 벌금을 병과 될 수 있다.

제 2 장의 1 외국인 중재인

제 23 조의 1

분쟁당사자는 국내 중재절차를 위하여 외국인을 단독 중재인 또는 여러 명의 중재인으로 선정할 수 있다. 제18조에 따라 또는 분쟁당사자 간 합의 에 따라 중재인을 선정하는 경우, 외국인 을 중재인으로 선정할 수 있다.

제 23 조의 2

법률에 따라 설립되고 중재를 통한 분쟁 해결을 담당하는 관서 또는 부서가 진행 하는 중재절차를 위하여 외국에 거주하 는 외국인을 국내 중재인으로 선정하는 경우, 해당 외국인은 출입국 관리 관련 법률 또는 외국인 근로 관련 법률에 따 른 담당 공무원의 심사를 위하여 해당 관서 또는 부서에 증명서 발급을 신청할 수 있다. 이미 국내에 체류할 권리가 있는 중재인 인 외국인은 첫 번째 단락에 따라 증명 서를 신청할 수 있다.

제 23 조의 3

제 23 조의 2 에 따른 관서 또는 부서는 외 국인 중재인이 제 23 조의 4 및 제 23 조의 5 에 따라 수행하도록 합의된 중재절차 진행 법령에 따라 직무를 수행할 수 있 도록 증명서를 발급한다. 첫 번째 단락에 따른 증명서는 최소한 다음 내용을 포함하여야 한다.

(1) 증명서를 발급한 관서 또는 부서의 명칭 및 주소

(2) 분쟁번호 또는 참조 가능한 분쟁코 드

(3) 중재인의 성명 및 국적

(4) 중재인의 여권번호

(5) 중재절차 진행에 소요되는 추정 기 간

중재절차 진행이 두 번째 단락 제(5)항 에 따른 추정 기간 내에 완료되지 않는 경우, 중재인은 증명서를 새로 신청할 수 있다.

제 23 조의 4

출입국 관리 관련 법률에 따라 제23조의 3 에 따른 증명서를 발급받은 중재인은 증명서에서 정한 기간에 따라 입국 및 임시 체류할 권리가 있으나, 출입국 관리 관련 법률에서 정한 기간을 초과할 수 없다

제 23 조의 5

외국인 근로 관리 관련 법률에 따라 제 23 조의 3 에 따른 증명서를 발급받고 국 내 체류허가를 받은 중재인은 자신의 직 책에 따라 국내에서 근로할 권리가 있다. 외국인 근로 관리 관련 법률에 따른 등 기관은 첫 번째 단락에 따라 중재인에게 근로허가증을 발급하고 허가증을 발급하 는 기간 동안 중재인은 우선 근로하도록 한다.

제 23 조의 6

국내 중재절차의 진행에 있어 분쟁당사 자는 자신을 대신하여 처리할 수 있도록 외국인을 단독 수임자 또는 여러 명의 수임자로 선정할 수 있고 이 절의 조항 을 통상적으로 수임자에게 적용한다.

제 3 장 중재판정부의 권한

제 24 조

중재판정부는 자신의 권한 범위 및 중재 계약의 존재 여부 또는 유효성, 중재판정 부 선정의 유효성, 중재판정부 권한 범위 내의 분쟁 본안에 대하여 결정할 권한이 있다. 이를 위해 본계약의 일부인 중재계 약 조항을 본계약과 별개의 계약 조항으 로 간주한다. 본계약이 무효 또는 불완전 하다는 중재판정부의 결정은 중재계약 조항에 영향을 미치지 아니한다. 분쟁 심사에 있어 중재판정부의 권한에 대한 이의는 늦어도 분쟁 본안에 관한 이의신청서 제출일까지 제기하여야 한다. 분쟁당사자는 중재인을 선정하였거나 선 정절차에 참여하였다는 이유로 이의를 제기할 권리를 박탈당하지 아니한다. 중 재판정부가 권한의 범위를 벗어난 경우, 이에 대한 이의는 분쟁당사자가 중재절 차에서 그 사정이 발생한 즉시 제기하여 야 한다. 다만, 분쟁당사자가 규정된 시 기보다 늦게 제기하더라도 그 지연에 정 당한 사유가 있다고 판단하는 경우, 중재 판정부는 이를 받아들일 수 있다. 중재판정부는 관할권에 대하여 예비판정 을 하거나 본안에 관한 중재판정에서 결 정할 수 있다. 예비판정으로 관할권 유무 를 결정한 경우에 분쟁당사자는 그 결정 을 통지받은 날부터 30 일 이내에 관할법 원에 중재판정부의 권한에 대한 심사를 신청할 수 있다. 신청에 대한 재판이 계 속 중인 경우에도 중재판정부는 중재절 차를 진행하거나 중재판정을 내릴 수 있 다.

제 4 장 중재절차

제 25 조

중재판정부의 심사 시 분쟁당사자는 동 등한 대우를 받아야 하고 그 분쟁의 상 황에 따라 증거를 조사하고 자신의 변론 을 제기할 기회를 갖는다. 분쟁당사자가 달리 합의하지 않거나 이 법에서 달리 규정하지 않은 경우, 중재판 정부는 심사절차를 적절하게 진행할 권 한이 있다. 이러한 중재판정부의 권한은 증거능력 및 증명력에 관하여 결정할 권 한까지 포함된다. 이 장의 목적상 중재판정부는 증거에 관 한 「민사소송법전」을 준용한다.

제 26 조

분쟁당사자 간 합의로 중재지를 정할 수 있다. 합의가 없는 경우, 중재판정부는 분쟁당사자의 편의와 분쟁의 상황을 고 려하여 중재지를 정한다. 분쟁당사자가 달리 합의하지 않은 경우, 중재판정부는 협의 진행, 증인 · 감정인 및 분쟁당사자 신문, 물건 · 장소 · 문서 의 검증을 위해 첫 번째 단락에서 정한 중재지 외에 다른 장소를 정할 수 있다.

제 27 조

중재를 통한 분쟁 해결은 「 민상법전」 제 193 조의 14 제(4)항에 따라 중재판정 부에 분쟁심사를 위임한 것으로 간주하 고 중재절차는 다음 중 어느 하나의 경 우 개시한다.

(1) 어느 한 분쟁당사자가 상대방 분쟁 당사자로부터 중재를 통한 분쟁 해결을 요청하는 서면을 받았을 때

(2) 어느 한 분쟁당사자가 분쟁 해결을 위하여 중재인 선정을 하거나 중재인 선 정에 동의하도록 상대방에게 서면으로 통지하는 경우

(3) 중재계약에서 중재판정부를 정한 경 우, 어느 한 분쟁당사자가 중재판정부에 중재요청서를 송부하는 경우

(4) 합의한 바에 따라 어느 한 분쟁당사 자가 중재를 통한 분쟁 해결을 담당하는 부서에 분쟁을 제출하는 경우

제 28 조

분쟁분쟁당사자는 심사절차의 진행에 사 용할 언어를 합의로 정한다. 그러한 합의 가 없는 경우에는 중재판정부가 언어를 지정하며, 달리 특정하지 아니하였다면 이러한 합의 또는 지정은 청구, 이의, 분 쟁분쟁당사자의 신청서, 증인신문, 판정, 결정, 중재판정부가 작성하거나 중재판정 부에 대한 기타 의사 표시에도 적용된다. 중재판정부는 분쟁당사자가 증거로서 주 장하는 문서를 분쟁당사자 간 합의한 언 어 또는 중재판정부가 지정한 언어로 번 역하여 첨부하도록 명할 수 있다.

제 29 조

분쟁당사자가 합의하거나 중재판정부가 정한 기간 내에 분쟁당사자가 달리 합의 하지 않은 경우, 신청인은 신청취지, 분 쟁 본안, 자신의 청구사항을 뒷받침하는 사실관계를 제시하여야 하며 피신청인은 이에 대하여 이의를 표명하여야 한다. 분 쟁당사자는 관련 서류 및 증거로 제출할 증거목록을 첨부할 수 있다. 분쟁당사자가 달리 합의하지 아니하는 경우, 분쟁당사자는 심사 진행 중에 청구 및 이의에 대해 변경 및 보완을 신청할 수 있다. 다만, 중재판정부가 변경 및 보완 때문에 절차가 지연될 수 있다고 인 정하는 경우에는 그러하지 아니하다.

제 30 조

분쟁당사자가 달리 합의하지 않은 경우, 중재판정부는 증인신문을 할 것인지, 구 두변론 또는 서면변론을 할 것인지 아니 면 서면 또는 증거로만 심리를 할 것인 지 결정한다. 중재판정부는 분쟁당사자의 신청이 있는 경우, 심리절차 진행 중 적절하다고 판단 되는 시점에 첫 번째 단락에 따라 증인 신문을 할 권한이 있다. 다만, 분쟁당사 자가 구두 또는 서면으로 증인신문을 하 지 않겠다고 합의한 경우에는 그러하지 아니하다. 중재판정부는 증인신문기일 및 물건, 장 소, 그 밖의 서류를 조사하기 위한 심사 기일을 충분한 시간을 두고 분쟁당사자 에게 통지한다. 중재판정부가 판정에 사용해야 하는 감 정서 또는 서증을 포함하여 분쟁당사자 가 중재판정부에 제출한 청구, 이의, 신 청, 서류 및 모든 자료는 상대방 분쟁당 사자에게 제공하여야 한다.

제 31 조

분쟁당사자가 달리 합의하지 않은 경우, 중재판정부는 다음과 같이 진행한다.

(1) 신청인이 제 29 조 첫 번째 단락에서 정한 사항을 제시하지 아니하는 경우, 중 재절차 종료를 명한다.

(2) 피신청인이 제 29 조 첫 번째 단락에 서 정한 이의제기를 하지 아니하는 경우, 중재절차를 계속 진행한다. 다만, 이의제 기가 없더라도 그 청구를 인정하는 것으 로 간주하지 아니한다.

(3) 분쟁당사자가 증인신문기일 또는 심 사기일에 출석하지 않거나 증거를 제출 하지 아니하는 경우, 중재절차를 계속 진 행하여 판정을 내린다.

중재판정부는 피신청인이 이의제기일을 어기거나 심사기일에 출석하지 아니하는 경우를 포함하여 첫 번째 단락에 따라 진행하기 전에 적절한 조사를 실시할 권 한이 있다.

제 32 조

분쟁당사자가 달리 합의하지 않은 경우, 중재판정부는 다음과 같이 진행할 수 있 다.

(1) 판정할 특정 쟁점에 대한 감정을 위 하여 단독 또는 여러 명의 감정인을 지 정한다.

(2) 분쟁당사자로 하여금 감정인에게 사 실을 제공하거나 감정인의 조사를 위하 여 분쟁 본안과 관련된 문서 또는 물건 을 제공 및 처리하도록 요구한다. 분쟁당사자가 달리 합의하지 않은 경우, 전문가가 서면 또는 구두로 의견을 제시 한 후 분쟁당사자 중 일방이 요청하거나 중재판정부에서 필요하다고 판단한다면 전문가가 출석하여 사실 관계를 제시하 여 분쟁당사자가 질의할 기회를 제공하 거나 그러한 분쟁당사자 일방이 직접 전 문가를 증인으로 대동하여 해당 쟁점에 대하여 입증할 수 있다.

제 33 조

중재판정부 또는 중재인 및 분쟁당사자 는 중재판정부의 과반수 동의를 받아 관 할법원에 증인소환장 발부 또는 문서 및 물건 제출 명령을 신청할 수 있다. 법원이 첫 번째 단락에 따른 신청에 대 하여 법원의 심사로 가능하다고 판단하 는 경우에는 법원에서 처리한다. 이 경 우, 해당 부분과 관련된 법원의 절차 관 련 법률을 준용한다.

제 5 장 중재판정 및 중재절차의 종 료

제 34 조

중재판정부는 분쟁당사자가 지정한 법률 에 따라 판정을 내린다. 특정 국가의 법률 또는 법체계를 지정한 경우 명시한 내용이 없다면 그 국가의 저촉법이 아닌 실체법을 지정한 것으로 본다. 분쟁당사자가 분쟁에 적용할 법을 지정 하지 아니하는 경우, 위원회는 태국법에 따라 판정한다. 다만, 법률이 충돌하는 경우에는 중재판정부가 적절하다고 판단 하는 법률 충돌에 관한 원칙을 응용한다. 중재판정부가 형평과 선의의 원칙을 사 용하여 분쟁을 판정하도록 분쟁당사자는 명시적으로 권한을 정할 수 있다. 중재판정부의 심사판정은 계약 조항에 따라야 한다. 거래 분쟁인 경우, 해당 거 래에 적용되는 상관습을 고려하여야 한 다.

제 35 조

분쟁당사자가 달리 합의하지 않은 경우, 중재판정부의 판정, 명령, 결정은 다수결 에 따른다. 다수결이 되지 아니하는 경 우, 중재위원장 단독으로 판정, 명령 및 결정한다. 분쟁당사자 또는 중재인 전원이 권한을 부여하는 경우, 중재위원장이 해당 절차 의 중재인이 된다.

제 36 조

중재절차의 진행 중에 분쟁당사자들이 화해한 경우, 중재판정부는 그 절차를 종 료한다. 신청 분쟁당사자와 중재판정부가 해당 합의 및 화해가 법에 위반하지 아 니하는 것으로 판단하는 경우, 중재판정 부는 그 화해 내용에 따라 판정한다. 화해에 따른 판정은 제 37 조를 적용하고 해당 사건의 본안에 관한 중재판정과 같 은 효력을 가진다.

제 37 조

판정문은 중재판정부가 서명한 서면으로 작성하여야 한다. 위원회가 1 명 이상인 경우, 과반수의 중재인이 서명한다. 서명 하지 않은 중재인의 사유를 기록하여야 한다. 분쟁당사자가 달리 합의하지 않은 경우, 판정은 모든 결정의 이유를 명시하여야 한다. 이 경우 중재계약 또는 분쟁당사자 요청의 범위를 초과하여 정하거나 판정 할 수 없다. 다만, 제 36 조에 따른 화해 에 대한 판정 또는 제 46 조에 따른 수수 료 및 중재비용 또는 중재인 보수 책정 시에는 그러하지 아니하다. 판정문에는 제26조 첫 번째 단락에 따른 중재지와 날짜를 기재한다. 이 경우, 중 재판정은 판정서에 기재된 날짜와 장소 에서 내려진 것으로 본다. 판정문 작성이 완료되면 중재판정부는 각 분쟁당사자에게 중재판정문 사본을 송부한다.

제 38 조

중재절차의 진행은 종국판정 또는 두 번 째 단락에 따른 중재판정부의 명령에 따 라 종료된다. 중재판정부는 아래의 경우, 중재절차의 종료를 명령한다.

(1) 신청 분쟁당사자가 신청을 철회하는 경우. 다만, 피신청인이 이에 동의하지 아니하고 중재판정부가 피신청인에게 분 쟁의 결정을 구할 정당한 이익이 있다고 인정하는 경우는 제외한다.

(2) 분쟁당사자가 중재절차를 종료하기 로 합의하는 경우

(3) 중재판정부가 중재절차를 계속 진행 하는 것이 불필요하거나 불가능하다고 인정하는 경우

제39조 및 제40 조제 네 번째 단락에 따 라 중재판정부의 권한은 중재절차의 종 료와 함께 종결된다.

제 39 조

분쟁당사자가 달리 합의하지 아니하는 경우, 중재판정을 받은 날부터 30 일 이 내에 다음 중 어느 하나를 구할 수 있 다.

(1) 분쟁당사자 중 일방은 판정의 오산, 오류사항, 오기, 사소한 실수에 대하여 중재판정부에 정정을 신청할 수 있다. 이 경우, 상대방 분쟁당사자에게 신청서 사 본을 송부한다.

(2) 합의한 경우, 분쟁당사자 중 일방은 중재판정부에 판정의 일부 또는 그 내용 에 대한 해석 및 설명을 신청할 수 있다. 이 경우, 상대방 분쟁당사자에게 신청서 사본을 송부한다

중재판정부에서 제(1)항 및 제(2)항에 따른 신청이 적절하다고 판단하는 경우, 신청을 받은 날부터 30 일 이내에 정정 또는 해석을 완료한다. 이 경우, 해석 및 설명은 판정의 일부로 간주한다. 중재판정부는 제(1)항에 따른 오류 및 실수를 판정일부터 30 일 이내에 정정한 다. 분쟁당사자가 달리 합의하는 경우를 제 외하고, 분쟁당사자 중 일방은 상대방 분 쟁당사자에게 통보하고 판정을 받은 날 부터 30 일 이내에 중재판정부에 중재판 정에 포함되지 아니한 청구에 관한 추가 판정을 신청할 수 있다. 중재판정부에서 해당 청구가 정당하다고 판단하는 경우, 신청을 받은 날부터 60 일 이내에 추가판 정을 완료한다. 필요한 경우, 중재판정부는 두 번째 단락 및 네 번째 단락에 따라 정정, 해석, 설 명 또는 추가판정의 기한을 연장할 수 있다. 이 조항에 따른 정정, 해석, 설명 또는 추가판정은 제 37 조를 적용한다.

제 6 장 중재판정에 대한 불복

제 40 조

중재판정부의 판정에 대한 불복은 이 조 에서 정한 바에 따라 관할법원에 중재판 정의 취소를 신청할 수 있다. 분쟁당사자는 판정문 사본을 수령한 날 이 또는 중재판정부에 정정, 판정해석, 추가판정을 청구한 경우에는 중재판정부 가 정정, 판정해석, 추가판정을 완료한 날부터 90 일 이내에 관할법원에 신청서 를 제출하여 중재판정의 취소를 청구할 수 있다. 다음의 경우 법원은 중재판정을 취소한 다.

(1) 중재판정의 취소를 구하는 분쟁당사 자가 다음 사실을 증명하는 경우

(가) 중재계약 분쟁당사자가 그 분쟁당 사자에게 적용되는 법에 따라 능력에 결 함이 있다는 사실 (나) 중재계약이 분쟁당사자가 합의한 법에 따라 구속력이 없다는 사실 또는 합의가 없는 경우 태국법에 따라 구속력 이 없다는 사실 (다) 중재판정의 취소를 구하는 분쟁당 사자가 중재판정부의 선정 또는 중재판 정부의 심사에 관한 통지를 사전에 받지 못하였거나 그 밖의 사유로 중재절차에 변론을 할 수 없었던 사실 (라) 중재판정이 중재계약의 범위에 속 하지 않거나 중재판정부에 제기된 중재 합의 대상범위를 벗어났다는 사실. 다만, 중재판정이 해당 범위에 관한 부분과 범 위가 아닌 부분으로 분리할 수 있는 경 우, 법원은 중재계약 또는 합의의 범위를 벗어난 부분만 취소할 수 있다. 마) 중재판정부의 구성 또는 중재판정 부의 중재절차가 분쟁당사자의 합의에 따르지 않았다는 사실 또는 분쟁당사자 가 달리 합의하지 않은 경우에는 중재판 정부의 구성이 위법하다는 사실

(2) 법원이 다음과 같이 판단하는 경우

(가) 중재판정이 법에 따라 중재로 해결 할 수 없는 분쟁과 관련된 경우 (나) 중재판정의 승인 또는 집행이 국민 의 건전한 도덕이나 평안에 위배되는 경 우 중재판정 취소에 대한 심사는 분쟁당사 자가 신청하고 법원에서 타당하다고 판 단하는 경우 법원은 중재판정부가 재심 을 하거나 중재판정부가 중재판정의 취 소가 되는 사유를 해결하기 위한 조치를 할 수 있도록 정당한 사유에 따라 재판 을 연기할 수 있다.

제 7 장 중재판정의 승인과 집행

제 41 조

제 42 조, 제 43 조 및 제 44 조에 따라 어 느 국가를 막론하고 결정된 중재판정부 의 판정은 분쟁당사자에게 구속력을 가 지며 관할법원에 신청하면 그 판정에 따 라 집행한다. 외국에서 중재판정이 이루어진 경우, 태 국이 당사국인 국제 협약, 조약, 협정이 체결된 중재판정에 대하여 관할법원에서 그 판정에 따라 집행결정을 하고 태국이 동의하는 범위 내에서만 구속력이 있다.

제 42 조

중재판정부의 판정에 따라 집행을 희망 하는 분쟁당사자는 판정에 따른 집행가 능일부터 3 년 이내에 관할법원에 신청한 다. 법원이 신청을 받은 경우에는 신속하 게 심리하고 즉시 판결을 내린다. 중재판정부의 판정에 따라 집행을 희망 하는 분쟁당사자는 아래의 서류를 법원 에 제출하여야 한다.

(1) 중재판정 원본 또는 정본

(2) 중재계약 원본 또는 정본

(3) 중재판정 및 중재계약의 태국어 번 역본. 이 경우, 번역가는 법원, 공무원 또 는 선서위원 앞에서 선서하여야 하며 해 당 중재판정 또는 중재계약이 이루어진 국가의 태국 영사, 외교사절 또는 번역문 공증을 담당하는 공무원에 의해 공증된 번역이어야 한다.

제 43 조

중재판정이 어느 국가에서 이루어졌는지 에 관계없이 중재판정에 따른 집행대상 자가 다음과 같이 증명하는 경우, 법원은 중재판정부의 중재판정에 따른 집행을 거부하는 명령을 할 수 있다.

(1) 중재계약에 따른 분쟁당사자가 그 분쟁당사자에게 적용되는 법에 따라 능 력에 결함이 있다는 사실

(2) 중재계약이 분쟁당사자가 합의한 법 에 따라 구속력이 없거나 합의가 없는 경우, 중재판정을 한 국가의 법에 따라 구속력이 없다는 사실

(3) 중재판정에 따른 집행대상자가 중재 판정부의 선정 또는 중재판정부의 심사 에 관한 통지를 사전에 받지 못하였거나 그 밖의 사유로 중재절차에 변론을 할 수 없었던 사실

(4) 중재판정이 중재계약의 범위에 속하 지 않거나 중재판정부에 제기된 중재합 의 대상범위를 벗어났다는 사실. 다만, 중재판정이 해당 범위에 관한 부분과 범 위가 아닌 부분으로 분리할 수 있는 경 우, 법원은 중재계약 또는 합의의 범위를 벗어난 부분만 취소할 수 있다.

(5) 중재판정부의 구성 또는 중재판정부 의 중재절차가 분쟁당사자의 합의에 따 르지 않았다는 사실 또는 분쟁당사자가 달리 합의하지 않은 경우에는 중재판정 이 이루어진 국가의 법에 따르지 않았다 는 사실

(6) 관할법원에 의해 또는 중재판정이 이루어진 국가의 법에 따라 중재판정이 아직 구속력이 없거나 취소되었거나 중 단되었다는 사실. 다만, 관할법원에 중재 판정의 취소 또는 중지에 대한 신청이 계속 중인 경우, 법원은 중재판정에 따른 집행 신청 사건의 재판을 연기할 수 있 다. 분쟁당사자가 중재판정에 따른 집행 을 요청하는 경우, 법원은 집행대상자에 게 미리 적절한 담보를 제공하도록 명령 할 수 있다.

제 44 조

중재판정이 법에 따라 중재로 해결할 수 없는 분쟁과 관련되거나 중재판정의 집 행이 국민의 건전한 도덕이나 평안에 위 배된다고 법원에서 밝혀진 경우, 관할법 원은 제43조에 따라 중재판정에 따른 집 행을 거부하는 명령을 할 수 있는 권한 이 있다.

제 45 조

다음의 경우를 제외하고는 이 법에 따른 법원의 판결 또는 명령에 불복할 수 없 다.

(1) 중재판정에 따른 승인 또는 집행이 국민의 건전한 도덕이나 평안에 위배되 는 경우

(2) 해당 명령 또는 판결이 국민의 평안 과 관련된 법령에 위배되는 경우

(3) 해당 명령 또는 판결이 중재판정부 의 판정과 일치하지 아니하는 경우

(4) 해당 사건을 재판하는 판사나 사법 부가 판결에 이의를 제기한 경우

(5) 제 16 조에 따라 분쟁당사자의 이익 을 보호하기 위하여 임시적 처분 명령인 경우

이 법에 따른 법원의 명령 또는 판결에 대한 상소는 경우에 따라 항소법원 또는 대법원에 한다.

제 8 장 수수료, 비용 및 보수

제 46 조

분쟁당사자가 달리 합의하지 않은 경우, 중재절차의 수수료, 비용 및 중재인의 보 수는 중재판정부의 판정에 따른다. 다만, 변호사비와 변호사 수수료는 포함하지 아니한다. 중재절차의 수수료와 비용 또는 중재인 의 보수를 중재판정에서 정하지 아니하 는 경우, 분쟁당사자 또는 중재판정부가 관할법원에 중재절차의 수수료, 비용 및 중재인 보수에 관한 명령을 내리도록 신 청할 수 있다.

제 47 조

중재를 통한 분쟁 해결을 담당하는 부서 는 중재절차 진행의 수수료, 비용 및 보 수를 정할 수 있다.

경과규정

제 48 조

이 법의 조항은 이 법 시행 전에 행한 중재계약의 유효성 및 중재절차의 진행 에 영향을 미치지 아니한다. 종전 법에 따라 아직 진행하지 않은 중 재절차 및 기간이 도래하지 않은 중재절 차는 이 법에서 정한 기간 내에 진행한 다.

부서

경찰중령 탁씬 친나왓

총리