로고

「1992년 공장법」

 국가 · 지역 : 태국  제정일 : 1992년 4월 2일  최종개정일 2019년 4월 26일 일부개정 「2019년 공장법 (제3권)」

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นปีที่ ๔๗ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยโรงงาน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคาแนะนาและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทาหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้ 푸미폰아둔야뎃 국왕 폐하께서 현 왕조의 47번째 해인 1992년 (불기2535년) 4월 2일에 하사하셨다. 푸미폰아둔야뎃 국왕 폐하께서는 다음과 같이 공포하도록 하셨다. 공장 관련 법률을 개정하는 것이 마땅하다. 그러므로 국왕 폐하께서는 입법부의 조언과 승인을 통하여 다음과 같이 이 법을 제정하도록 하셨다.

มาตรา ๑

พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕”

มาตรา ๒

พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกาหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓

ให้ยกเลิก (๑) พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๑๒ (๒) พระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๑๘ (๓) พระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๒

มาตรา ๔

พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่โรงงานของทางราชการที่ดาเนินการโดยทางราชการ เพื่อประโยชน์แห่งความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศ แต่ในการประกอบกิจการโรงงานดังกล่าวให้นาหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการประกอบกิจการโรงงานตามพระราชบัญญัตินี้ไปเป็นแนวทางในการดาเนินงาน

มาตรา ๔/๑

ให้รัฐมนตรีโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีมีอานาจประกาศกาหนดให้โรงงานดังต่อไปนี้ได้รับยกเว้นจากการปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้บางส่วนก็ได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กาหนด (๑) โรงงานของทางราชการ นอกจากโรงงานที่ได้รับยกเว้นตามมาตรา ๔ (๒) โรงงานที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาวิจัย (๓) โรงงานของสถาบันการศึกษาในส่วนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการฝึกอบรม (๔) โรงงานที่ดาเนินงานอันมีลักษณะเป็นอุตสาหกรรมในครอบครัว (๕) โรงงานที่ดาเนินงานอันมีลักษณะที่จาเป็นและเกี่ยวเนื่องกับกิจการที่มิใช่โรงงานตามพระราชบัญญัตินี้และตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน

มาตรา ๕

ในพระราชบัญญัตินี้ “โรงงาน” หมายความว่า อาคาร สถานที่ หรือ ยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรมีก าลังรวมตั้งแต่ห้า สิบแรงม้าหรือก าลังเทียบเท่าตั้งแต่ห้าสิบแรงม้า ขึ้นไป หรือใช้คนงานตั้งแต่ห้าสิบคนขึ้นไปโดยใช้ เครื่องจักรหรือไม่ก็ตามเพื่อประกอบกิจการ โรงงาน ทั้งนี้ ตามประเภทหรือชนิดของโรงงานที่ ก าหนดในกฎกระทรวง “ตั้งโรงงาน” หมายความว่า การน าเครื่องจักร ส าหรับประกอบกิจการโรงงานมาติดตั้งใน อาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะที่จะประกอบ กิจการโรงงาน หรือน าคนงานมาประกอบกิจการ โรงงานในกรณีที่ไม่มีการใช้เครื่องจักร “ประกอบกิจการโรงงาน” หมายความว่า การท า ผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อม ซ่อมบ ารุง ทดสอบ ปรับปรุง แปรสภาพ ล าเลียง เก็บรักษา หรือ ท าลายสิ่งใด ๆ ตามลักษณะกิจการของโรงงาน แต่ไม่รวมถึงการทดลองเดินเครื่องจักร “เครื่องจักร” หมายความว่า สิ่งที่ประกอบด้วย ชิ้นส่วนหลายชิ้นส าหรับใช้ก่อก าเนิดพลังงาน เปลี่ยนหรือแปลงสภาพพลังงาน หรือส่ง พลังงาน ทั้งนี้ ด้วยก าลังน ้า ไอน ้า ลม ก๊าซ ไฟฟ้า หรือพลังงานอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือ หลายอย่างรวมกัน และหมายความรวมถึงเครื่อง อุปกรณ์ ไฟลวีล ปุลเล สายพาน เพลา เกียร์ หรือ สิ่งอื่นที่ท างานสนองกัน “คนงาน” หมายความว่า ผู้ซึ่งท างานใน โรงงาน ทั้งนี้ ไม่รวมถึงผู้ซึ่งท างานฝ่ายธุรการ “ผู้อนุญาต” หมายความว่า ปลัดกระทรวงหรือผู้ ซึ่งปลัดกระทรวงมอบหมายตามความเหมาะสม “ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตประกอบ กิจการโรงงาน “ผู้ตรวจสอบเอกชน” หมายความว่า ผู้ได้รับ ใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองตาม พระราชบัญญัตินี้ “พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่ง รัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตาม พระราชบัญญัตินี้ “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า เทศบาล องค์การบริหารส่วนต าบล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่มีกฎหมายจัดตั้ง แต่ไม่ หมายความรวมถึงองค์การบริหารส่วนจังหวัด “ข้าราชการส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า พนักงานเทศบาล พนักงานส่วนต าบล ข้าราชการกรุงเทพมหานคร พนักงานเมืองพัทยา และข้าราชการหรือพนักงานขององค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นอื่นที่มีกฎหมายจัดตั้ง แต่ไม่ หมายความรวมถึงข้าราชการองค์การบริหาร ส่วนจังหวัด “ปลัดกระทรวง” หมายความว่า ปลัดกระทรวง อุตสาหกรรม “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการ ตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๖

ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอานาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่กับออกกฎกระทรวงกาหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัตินี้ ลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียม และกาหนดกิจการอื่น กับออกประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ การออกกฎกระทรวงกาหนดค่าธรรมเนียมตามวรรคหนึ่ง จะกาหนดอัตราค่าธรรมเนียมให้แตกต่างกันโดยคานึงถึงประเภท ชนิด หรือขนาดของโรงงานก็ได้ กฎกระทรวงและประกาศนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้

หมวด ๑ การประกอบกิจการโรงงาน

มาตรา ๗

ให้รัฐมนตรีมีอานาจออกกฎกระทรวงกาหนดให้โรงงานตามประเภทชนิดหรือขนาดใดเป็นโรงงานจาพวกที่ ๑ โรงงานจาพวกที่ ๒ หรือโรงงานจาพวกที่ ๓ แล้วแต่กรณี โดยคานึงถึงความจาเป็นในการควบคุมดูแล การป้องกันเหตุเดือดร้อนราคาญ การป้องกันความเสียหาย และการป้องกันอันตรายตามระดับความรุนแรงของผลกระทบที่จะมีต่อประชาชนหรือสิ่งแวดล้อม โดยแบ่งออกเป็นดังนี้ (๑) โรงงานจาพวกที่ ๑ ได้แก่โรงงานประเภท ชนิด และขนาดที่สามารถประกอบกิจการโรงงานได้ทันทีตามความประสงค์ของผู้ประกอบกิจการโรงงาน (๒) โรงงานจาพวกที่ ๒ ได้แก่ โรงงานประเภท ชนิด และขนาดที่เมื่อจะประกอบกิจการโรงงานต้องแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบก่อน (๓) โรงงานจาพวกที่ ๓ ได้แก่โรงงานประเภท ชนิด และขนาดที่การตั้งโรงงานจะต้องได้รับใบอนุญาตก่อนจึงจะดาเนินการได้ เมื่อมีประกาศของรัฐมนตรีตามมาตรา ๓๒ (๑) ให้โรงงานที่กาหนดในประกาศดังกล่าวเป็นโรงงานจาพวกที่ ๓ ด้วย

มาตรา ๘

เพื่อประโยชน์ในการควบคุมการประกอบกิจการโรงงานให้รัฐมนตรีมีอานาจออกกฎกระทรวงเพื่อให้โรงงานจาพวกใดจาพวกหนึ่งหรือทุกจาพวกตามมาตรา ๗ ต้องปฏิบัติตามในเรื่องดังต่อไปนี้ (๑) กาหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับที่ตั้งของโรงงาน สภาพแวดล้อมของโรงงาน ลักษณะอาคารของโรงงานหรือลักษณะภายในของโรงงาน (๒) กาหนดลักษณะ ประเภทหรือชนิดของเครื่องจักร เครื่องอุปกรณ์หรือสิ่งที่ต้องนามาใช้ในการประกอบกิจการโรงงาน (๓) กาหนดให้มีคนงานซึ่งมีความรู้เฉพาะตามประเภท ชนิดหรือขนาดของโรงงานเพื่อปฏิบัติหน้าที่หนึ่งหน้าที่ใดประจาโรงงาน (๔) กาหนดหลักเกณฑ์ที่ต้องปฏิบัติ กรรมวิธีการผลิตและการจัดให้มีอุปกรณ์หรือเครื่องมืออื่นใด เพื่อป้องกันหรือระงับหรือบรรเทาอันตราย ความเสียหายหรือความเดือดร้อนที่อาจเกิดแก่บุคคลหรือทรัพย์สินที่อยู่ในโรงงานหรือที่อยู่ใกล้เคียงกับโรงงาน (๕) กาหนดมาตรฐานและวิธีการควบคุมการปล่อยของเสีย มลพิษหรือสิ่งใด ๆ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งเกิดขึ้นจากการประกอบกิจการโรงงาน (๖) กาหนดการจัดให้มีเอกสารที่จาเป็นประจาโรงงานเพื่อประโยชน์ในการควบคุมหรือตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย (๗) กาหนดข้อมูลที่จาเป็นเกี่ยวกับการประกอบกิจการโรงงานที่ผู้ประกอบกิจการโรงงานต้องแจ้งให้ทราบเป็นครั้งคราวหรือตามระยะเวลาที่กาหนดไว้ (๘) กาหนดการอื่นใดเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยในการดาเนินงาน เพื่อป้องกันหรือระงับหรือบรรเทาอันตรายหรือความเสียหายที่อาจเกิดจากการประกอบกิจการโรงงาน กฎกระทรวงตามวรรคหนึ่งจะกาหนดให้ยกเว้นโรงงานประเภท ชนิด หรือขนาดใดจากการต้องปฏิบัติในเรื่องหนึ่งเรื่องใดก็ได้ และกฎกระทรวงดังกล่าวจะสมควรกาหนดให้เรื่องที่เป็นรายละเอียดทางด้านเทคนิคหรือเป็นเรื่องที่ต้องเปลี่ยนแปลงรวดเร็วตามสภาพสังคม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีกาหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาก็ได้

มาตรา ๙

ในกรณีที่บทบัญญัติใดแห่งพระราชบัญญัตินี้กาหนดให้ต้องมีการตรวจสอบโรงงานหรือเครื่องจักร หรือดาเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง อาจกาหนดให้ผู้ตรวจสอบเอกชนดาเนินการและจัดทารายงานผลการตรวจสอบแทนการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ได้ ทั้งนี้ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีกาหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในกรณีที่บทบัญญัติใดแห่งพระราชบัญญัตินี้กาหนดให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานมีหน้าที่ต้องปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใด ผู้ประกอบกิจการโรงงานมีหน้าที่ต้องเสนอรายงานผลการปฏิบัติการที่ได้ดาเนินการและได้รับการรับรองจากผู้ตรวจสอบเอกชนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้ตรวจสอบเอกชนตามวรรคหนึ่งและวรรคสองต้องได้รับใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองจากผู้อนุญาต การขอรับและการออกใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง วิธีการตรวจสอบ กาหนดเวลาในการตรวจสอบ การจัดทารายงานผลการตรวจสอบ การรายงานและกาหนดระยะเวลาการเสนอรายงานผลการปฏิบัติการของผู้ประกอบกิจการโรงงาน และการให้คารับรอง รวมทั้งการกาหนดอัตราค่าบริการตรวจสอบหรือรับรอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กาหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๙/๑

ผู้ขอรับใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้ ก. คุณสมบัติ (๑) มีสัญชาติไทย (๒) มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยวิศวกรหรือใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และมีประสบการณ์การทางานไม่น้อยกว่าห้าปีในงานที่เกี่ยวข้องกับงานทางด้านสิ่งแวดล้อม ด้านความปลอดภัย ด้านสารเคมี ด้านไฟฟ้า ด้านพลังงาน ด้านเครื่องกล ด้านโยธา หรือด้านอื่นที่เกี่ยวข้องกับโรงงานอุตสาหกรรมด้านหนึ่งด้านใดก็ได้ ทั้งนี้ การนับระยะเวลาของประสบการณ์การทางานในแต่ละด้านนั้น ให้สามารถนามารวมกันได้ (๓) ผ่านการฝึกอบรมและทดสอบความรู้ด้านการตรวจสอบหรือรับรองโรงงานหรือเครื่องจักรตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีกาหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ข. ลักษณะต้องห้าม (๑) เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริตหรืออยู่ในระหว่างถูกพิทักษ์ทรัพย์ (๒) เป็นบุคคลวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ (๓) เป็นผู้เคยต้องคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุกเนื่องจากเป็นผู้กระทาความผิดตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน เว้นแต่ได้พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปีก่อนวันยื่นคาขอรับใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง (๔) ต้องคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล (๕) เป็นผู้อยู่ระหว่างถูกสั่งพักใช้หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยวิศวกร หรือใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (๖) เป็นผู้เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะกระทาผิดวินัยอย่างร้ายแรง

มาตรา ๙/๒

ผู้ขอรับใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองซึ่งเป็นนิติบุคคลต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้ ก. คุณสมบัติ (๑) เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจหรือให้บริการเกี่ยวกับการตรวจสอบหรือรับรองโรงงานหรือเครื่องจักร และต้องมีทุนจดทะเบียนหรือหุ้นที่ชาระแล้วที่มีมูลค่าไม่น้อยกว่าหนึ่งล้านบาท (๒) หุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการ หรือสมาชิกในคณะผู้บริหารของนิติบุคคลอย่างน้อยหนึ่งคนต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๙/๑ (๓) มีผู้ตรวจสอบเอกชนซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๙/๑ ตามจานวนที่รัฐมนตรีประกาศกาหนดปฏิบัติงานประจาอยู่ในนิติบุคคลนั้น (๔) ต้องได้รับการรับรองมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการเป็นหน่วยตรวจสอบหรือหน่วยรับรองในขอบข่ายทางด้านสิ่งแวดล้อม ด้านความปลอดภัย ด้านสารเคมี ด้านไฟฟ้า ด้านพลังงาน ด้านเครื่องกล ด้านโยธา หรือด้านอื่นที่เกี่ยวข้องกับโรงงานอุตสาหกรรม ข. ลักษณะต้องห้าม (๑) เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริตหรืออยู่ในระหว่างถูกพิทักษ์ทรัพย์หรือฟื้นฟูกิจการ (๒) เป็นผู้เคยต้องคาพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นผู้กระทาความผิดตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน เว้นแต่เป็นความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียว (๓) มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๙/๑ ข. (๕)

มาตรา ๙/๓

ใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองตามมาตรา ๙ ให้ใช้ได้จนถึงวันสิ้นปีปฏิทินแห่งปีที่สามนับแต่วันที่ออกใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง ผู้ตรวจสอบเอกชนซึ่งประสงค์จะขอต่ออายุใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง ให้ยื่นคาขอต่ออายุใบอนุญาตก่อนวันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุไม่น้อยกว่าสี่สิบห้าวัน และให้ผู้อนุญาตพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตให้แล้วเสร็จภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับคาขอต่ออายุใบอนุญาต การขอต่ออายุและการอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กาหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๙/๔

ในกรณีที่ใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองสูญหาย ชารุดในสาระสาคัญ หรือถูกทาลาย ให้ผู้ตรวจสอบเอกชนยื่นคาขอรับใบแทนใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองต่อผู้อนุญาตภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ทราบถึงการสูญหาย ชารุด หรือถูกทาลาย การขอรับและการออกใบแทนใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กาหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๙/๕

ผู้อนุญาตมีอานาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง เมื่อปรากฏว่าผู้ตรวจสอบเอกชนผู้ใดมีพฤติการณ์อย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ (๑) ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ โดยผู้อนุญาตแจ้งเตือนเป็นหนังสือให้ปฏิบัติให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กาหนดแล้ว แต่ไม่มีการปฏิบัติให้ถูกต้องภายในระยะเวลาดังกล่าว (๒) รายงานผลการตรวจสอบหรือรับรองผิดพลาดจนเป็นเหตุให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีการออกคาสั่งตามมาตรา ๓๗ และมาตรา ๓๙ การสั่งพักใช้ใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองตามวรรคหนึ่ง ให้มีกาหนดครั้งละไม่เกินเก้าสิบวันและในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตจะขอรับใบอนุญาตอีกไม่ได้ การออกหนังสือเตือนและการสั่งพักใช้ใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กาหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๙/๖

ผู้อนุญาตมีอานาจสั่งเพิกถอนใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง เมื่อปรากฏว่าผู้ตรวจสอบเอกชนนั้น (๑) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๙/๑ หรือมาตรา ๙/๒ (๒) เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองมาแล้วรวมสามครั้งภายในกาหนดระยะเวลาสองปี (๓) จัดทารายงานผลการตรวจสอบหรือรับรองตามมาตรา ๙ อันเป็นเท็จ ผู้ตรวจสอบเอกชนซึ่งถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตตามวรรคหนึ่งจะขอรับใบอนุญาตอีกไม่ได้จนกว่าจะพ้นสองปีนับแต่วันที่ทราบคาสั่ง การเพิกถอนใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กาหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๑๐

ผู้ประกอบกิจการโรงงานจาพวกที่ ๑ ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กาหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๘ และประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามกฎกระทรวงดังกล่าว

มาตรา ๑๑

ผู้ประกอบกิจการโรงงานจาพวกที่ ๒ ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กาหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๘ และประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามกฎกระทรวงดังกล่าว และเมื่อจะเริ่มประกอบกิจการโรงงานให้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ทราบก่อน แบบและรายละเอียดที่ต้องแจ้งและแบบใบรับแจ้ง ให้เป็นไปตามที่กาหนดในกฎกระทรวง เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกใบรับแจ้งเพื่อเป็นหลักฐานการแจ้งให้แก่ผู้แจ้งในวันที่ได้รับแจ้ง และให้ผู้แจ้งประกอบกิจการโรงงานได้ตั้งแต่วันที่ได้รับใบรับแจ้ง ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจพบในภายหลังว่าการแจ้งตามวรรคหนึ่งไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจสั่งให้ผู้แจ้งแก้ไขให้ถูกต้องหรือครบถ้วนภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับคาสั่งดังกล่าว การเลิกประกอบกิจการ การโอน การให้เช่าหรือการให้เช่าซื้อโรงงานจาพวกที่ ๒ ผู้ประกอบกิจการโรงงานต้องแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้ดาเนินการดังกล่าว

มาตรา ๑๑/๑

เมื่อรัฐมนตรีแต่งตั้งผู้บริหารท้องถิ่นหรือข้าราชการส่วนท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดังกล่าวมีอานาจหน้าที่และความรับผิดตามที่กาหนดไว้สาหรับพนักงานเจ้าหน้าที่เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับโรงงานจาพวกที่ ๑ และโรงงานจาพวกที่ ๒ ที่ตั้งอยู่ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น การแต่งตั้งผู้บริหารท้องถิ่นหรือข้าราชการส่วนท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตาบลเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง ให้กระทาเฉพาะกับองค์การบริหารส่วนตาบลที่มีความพร้อม ให้ปลัดกระทรวงและพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งแต่งตั้งจากข้าราชการในกระทรวงอุตสาหกรรม มีอานาจหน้าที่ในการกากับดูแลพนักงานเจ้าหน้าที่ตามวรรคหนึ่งให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัตินี้ และเพื่อประโยชน์แห่งการนี้ให้มีอานาจหน้าที่ในการแนะนาหรือสั่งระงับการดาเนินการใดอันเป็นการไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัตินี้และรายงานให้นายอาเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยซึ่งกากับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น แล้วแต่กรณี ตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นเพื่อดาเนินการตามอานาจหน้าที่ต่อไป

มาตรา ๑๒

ผู้ประกอบกิจการโรงงานจาพวกที่ ๓ ต้องได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กาหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๘ ประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามกฎกระทรวงดังกล่าวและประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามมาตรา ๓๒ ห้ามมิให้ผู้ใดตั้งโรงงานก่อนได้รับใบอนุญาต การยื่นคาขอรับใบอนุญาตและขั้นตอนการพิจารณาและระยะเวลาในการพิจารณาออกใบอนุญาต ให้เป็นไปตามที่กาหนดในกฎกระทรวง ในกรณีที่ผู้ขอรับใบอนุญาตร้องขอหนังสือรับรองก่อนออกใบอนุญาต ถ้าการพิจารณาเบื้องต้นเพียงพอที่จะอนุมัติในหลักการได้ ให้ผู้อนุญาตออกหนังสือรับรองให้โดยสงวนส่วนที่พิจารณาไม่แล้วเสร็จได้ตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีกาหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา ในการออกใบอนุญาตให้ผู้มีอานาจอนุญาตพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่กาหนดไว้ในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๘ ประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามกฎกระทรวงดังกล่าวและประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามมาตรา ๓๒ ถ้ากรณีใดยังมิได้มีหลักเกณฑ์กาหนดไว้ให้พิจารณาโดยคานึงถึงความปลอดภัยของบุคคลหรือทรัพย์สินที่อยู่ในโรงงานหรือที่อยู่ใกล้เคียงกับโรงงานหรือเป็นกรณีที่ต้องปฏิบัติตามประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามมาตรา ๓๒ ในการนี้จะกาหนดเงื่อนไขที่ผู้ประกอบกิจการโรงงานจะต้องปฏิบัติเป็นพิเศษไว้ในใบอนุญาตก็ได้

มาตรา ๑๓

ผู้รับใบอนุญาตตามมาตรา ๑๒ ถ้าประสงค์จะเริ่มประกอบกิจการโรงงานในส่วนหนึ่งส่วนใด ต้องแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบไม่น้อยกว่าสิบห้าวันก่อนวันเริ่มประกอบกิจการโรงงาน ถ้าจะมีการทดลองเดินเครื่องจักรก่อนการเริ่มประกอบกิจการโรงงานตามวรรคหนึ่ง ผู้รับใบอนุญาตต้องแจ้งวัน เวลา และระยะเวลาการทดลองเดินเครื่องจักรให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบไม่น้อยกว่าสิบห้าวันด้วย หลักเกณฑ์และระยะเวลาที่อาจใช้เพื่อการทดลองเดินเครื่องจักร ให้เป็นไปตามที่กาหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๑๔

(ยกเลิก)

มาตรา ๑๕

(ยกเลิก)

มาตรา ๑๖

คาสั่งไม่ออกใบอนุญาต คาสั่งไม่อนุญาตให้ขยายโรงงาน คาสั่งไม่ออกหรือไม่ต่ออายุใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง หรือคาสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองให้อุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีได้ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบคาสั่ง คาวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด

มาตรา ๑๗

โรงงานใดที่ผู้ประกอบกิจการโรงงานได้รับใบอนุญาตอยู่แล้ว หากภายหลังปรากฏว่าใช้เครื่องจักรมีกาลังรวมลดลงต่ากว่าห้าสิบแรงม้าหรือจานวนคนงานลดลงต่ากว่าห้าสิบคนให้ถือว่าโรงงานนั้นยังเป็นโรงงานตามพระราชบัญญัตินี้จนกว่าจะได้แจ้งเลิกประกอบกิจการโรงงาน

มาตรา ๑๘

ห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตขยายโรงงาน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต การขยายโรงงานตามวรรคหนึ่ง ให้หมายความถึงกรณีดังต่อไปนี้ (๑) การเพิ่มจานวน เปลี่ยน หรือเปลี่ยนแปลงเครื่องจักรเพื่อประกอบกิจการโรงงานเดิมหรือประกอบกิจการในประเภทหรือชนิดที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการโรงงานเดิม ทาให้กาลังรวมเพิ่มขึ้นในลักษณะ ดังต่อไปนี้ (ก) เพิ่มขึ้นตั้งแต่ห้าสิบแรงม้าขึ้นไป ในกรณีเครื่องจักรเดิมมีกาลังรวมไม่เกินหนึ่งร้อยแรงม้า (ข) เพิ่มขึ้นตั้งแต่หนึ่งร้อยแรงม้าขึ้นไป ในกรณี24 เครื่องจักรเดิมมีกาลังรวมเกินหนึ่งร้อยแรงม้าแต่ไม่เกินห้าร้อยแรงม้า (ค) เพิ่มขึ้นตั้งแต่สองร้อยแรงม้าขึ้นไป ในกรณีเครื่องจักรเดิมมีกาลังรวมเกินห้าร้อยแรงม้าแต่ไม่เกินหนึ่งพันแรงม้า (ง) เพิ่มขึ้นตั้งแต่สามร้อยแรงม้าขึ้นไป ในกรณีเครื่องจักรเดิมมีกาลังรวมเกินหนึ่งพันแรงม้าแต่ไม่เกินสองพันแรงม้า (จ) เพิ่มขึ้นตั้งแต่สี่ร้อยแรงม้าขึ้นไป ในกรณีเครื่องจักรเดิมมีกาลังรวมเกินสองพันแรงม้าแต่ไม่เกินสามพันแรงม้า (ฉ) เพิ่มขึ้นตั้งแต่ห้าร้อยแรงม้าขึ้นไป ในกรณีเครื่องจักรเดิมมีกาลังรวมเกินสามพันแรงม้าขึ้นไป (๒) การดาเนินการตาม (๑) ซึ่งกระทาบนที่ดินแปลงใหม่ที่ติดกับที่ดินที่ตั้งโรงงานเดิมหรือที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ขยายโรงงานไว้เดิม การอนุญาตให้ขยายโรงงานให้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของใบอนุญาต การขอขยายโรงงานและการอนุญาตให้ขยายโรงงาน ให้นามาตรา ๑๒ และมาตรา ๑๓ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา ๑๘/๑

การขยายโรงงานตามมาตรา ๑๘ เฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องขออนุญาต (๑) เพื่อให้มีการบาบัดมลพิษหรือเพื่อให้การบาบัดมลพิษเดิมมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น (๒) เพื่อให้มีมาตรการป้องกันหรือลดเหตุเดือดร้อนราคาญ (๓) เพื่อการเปลี่ยนแปลงเครื่องจักรเดิมที่เป็นเครื่องต้นกาลังให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น หรือเพื่อให้ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลดลง (๔) เพื่อการเปลี่ยนแปลงพลังงานของเครื่องจักรเดิมให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ก่อนการดาเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้รับใบอนุญาตแจ้งผู้อนุญาตทราบเป็นการล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสามสิบวัน และต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๘ และประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามมาตรา ๓๒ การแจ้งตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขที่กาหนดในกฎกระทรวง เครื่องจักรที่เกิดจากการดาเนินการตามมาตรานี้ให้ถือเป็นเครื่องจักรที่ใช้ในการประกอบกิจการโรงงาน

มาตรา ๑๙

เมื่อผู้รับใบอนุญาตเพิ่มจานวน เปลี่ยน หรือเปลี่ยนแปลงเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต เครื่องจักรที่ใช้เป็นเครื่องต้นกาลัง เครื่องจักรที่เกี่ยวข้องกับการบาบัดมลพิษ หรือมาตรการป้องกันหรือลดเหตุเดือดร้อนราคาญ หรือพลังงานของเครื่องจักรเป็นอย่างอื่นอันทาให้เครื่องจักรมีกาลังแรงม้ารวมลดลง หรือเพิ่มขึ้นแต่ไม่ถึงขั้นขยายโรงงาน หรือเพิ่มเนื้อที่อาคารโรงงานออกไป หรือก่อสร้างอาคารโรงงานเพิ่มขึ้นใหม่เพื่อประโยชน์แก่กิจการของโรงงานนั้นโดยตรงอันทาให้เนื้อที่ของอาคารโรงงานเพิ่มขึ้นตั้งแต่ห้าร้อยตารางเมตรขึ้นไปในกรณีเนื้อที่ของโรงงานมีไม่เกินสองพันตารางเมตร หรือเพิ่มขึ้นตั้งแต่หนึ่งพันตารางเมตรขึ้นไปในกรณีเนื้อที่ของโรงงานมีเกินกว่าสองพันตารางเมตร ให้ผู้รับใบอนุญาตนั้นแจ้งเป็นหนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีการดาเนินการดังกล่าว การดาเนินการตามวรรคหนึ่งที่เป็นการเพิ่มจานวน เปลี่ยน หรือเปลี่ยนแปลงเครื่องจักรต้องดาเนินการในโรงงานหรือที่ดินเดิมที่ได้รับอนุญาตหรือได้รับอนุญาตให้ขยายโรงงานแล้ว และต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกาหนด การแจ้งการดาเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กาหนดในกฎกระทรวง เครื่องจักรที่เกิดจากการดาเนินการตามมาตรานี้ ให้ถือเป็นเครื่องจักรที่ใช้ในการประกอบกิจการโรงงาน

มาตรา ๑๙/๑

เมื่อผู้รับใบอนุญาตประสงค์จะเพิ่มประเภทหรือชนิดของการประกอบกิจการโรงงานที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการโรงงานเดิม ให้แจ้งเป็นหนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่น้อยกว่าสิบห้าวันก่อนการดาเนินการ การดาเนินการตามวรรคหนึ่งต้องดาเนินการในโรงงานหรือที่ดินเดิมที่ได้รับอนุญาตหรือได้รับอนุญาตให้ขยายโรงงานแล้ว และต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกาหนด การแจ้งการดาเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กาหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๐

เงื่อนไขที่กาหนดในใบอนุญาตตามมาตรา ๑๒ วรรคห้า หากผู้อนุญาตเห็นสมควรยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเงื่อนไขให้เหมาะสม เพื่อให้ผู้รับใบอนุญาตปฏิบัติในการประกอบกิจการโรงงาน ก็ให้มีหนังสือสั่งการให้ปฏิบัติได้ ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดต้องการยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติในการประกอบกิจการโรงงาน ให้ยื่นคาขอและชี้แจงเหตุผลต่อผู้อนุญาต ให้ผู้อนุญาตพิจารณาและมีหนังสือสั่งการโดยมิชักช้า หากผู้รับใบอนุญาตไม่เห็นด้วยกับความเห็นของผู้อนุญาต ให้อุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีภายในกาหนดสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือสั่งการ คาวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด

มาตรา ๒๑

ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตไม่อาจตั้งโรงงานหรือตั้งโรงงานแล้วแต่ไม่อาจเริ่มประกอบกิจการโรงงานได้ภายหลังจากที่ได้รับใบอนุญาตแล้ว ให้ผู้รับใบอนุญาตนั้นสามารถโอนใบอนุญาตได้โดยให้ผู้ซึ่งประสงค์จะรับโอนใบอนุญาตยื่นคาขอรับโอนใบอนุญาตต่อผู้อนุญาตภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีการโอนใบอนุญาต ให้เช่าหรือให้เช่าซื้อโรงงาน หรือขายโรงงาน เมื่อได้ยื่นคาขอแล้ว ในระหว่างที่รอการพิจารณาอนุญาตจากผู้อนุญาต ให้ถือเสมือนว่าผู้ยื่นคาขอนั้นเป็นผู้รับใบอนุญาต และให้ถือว่าผู้รับใบอนุญาตเดิมมิได้เป็นผู้รับใบอนุญาตตั้งแต่วันที่มีการโอนใบอนุญาต ให้เช่าหรือให้เช่าซื้อโรงงานหรือขายโรงงาน อีกต่อไป ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตโอนการประกอบกิจการโรงงาน ให้เช่าหรือให้เช่าซื้อโรงงาน หรือขายโรงงาน ให้ถือว่าผู้นั้นได้เลิกประกอบกิจการโรงงานตั้งแต่วันที่มีการโอนการประกอบกิจการโรงงานให้เช่าหรือให้เช่าซื้อโรงงาน หรือขายโรงงาน ให้ผู้รับโอนการประกอบกิจการโรงงาน ผู้เช่าหรือผู้เช่าซื้อโรงงาน หรือผู้ซื้อโรงงานตามวรรคสองยื่นคาขอรับโอนใบอนุญาตต่อผู้อนุญาตภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ถือว่ามีการเลิกประกอบกิจการโรงงานตามวรรคสอง และเมื่อได้ยื่นคาขอแล้ว ในระหว่างที่รอการพิจารณาอนุญาตจากผู้อนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานต่อไปได้โดยให้ถือเสมือนว่าผู้ยื่นคาขอนั้นเป็นผู้รับใบอนุญาต การขอรับโอนใบอนุญาต และการอนุญาตให้โอนใบอนุญาตตามวรรคหนึ่งและวรรคสามให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กาหนดในกฎกระทรวง ทั้งนี้ กฎกระทรวงดังกล่าวต้องระบุระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาตไว้ด้วย

มาตรา ๒๒

ในกรณีผู้รับใบอนุญาตตาย ให้ทายาทหรือผู้จัดการมรดกยื่นคาขอรับโอนใบอนุญาตต่อผู้อนุญาตภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ผู้รับใบอนุญาตตาย หรือภายในระยะเวลาที่ผู้อนุญาตพิจารณากาหนดเพิ่มเติมให้ตามความจาเป็น หากไม่ได้ยื่นคาขอภายในระยะเวลาที่กาหนด และผู้นั้นประสงค์จะประกอบกิจการโรงงานต่อไป ให้ดาเนินการขอรับใบอนุญาตใหม่ ในระหว่างระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง ให้ถือเสมือนว่าทายาทหรือผู้จัดการมรดกซึ่งเข้าประกอบกิจการโรงงานเป็นผู้รับใบอนุญาต ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ ให้นาความในสองวรรคก่อนมาใช้บังคับแก่ผู้อนุบาลโดยอนุโลม หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขในการขอรับโอนใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตให้เป็นไปตามที่กาหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๓

ผู้รับใบอนุญาตต้องแสดงใบอนุญาตไว้ ณ ที่เปิดเผยและเห็นได้ง่ายในโรงงานของตน

มาตรา ๒๔

เมื่อมีการเปลี่ยนชื่อโรงงานหรือชื่อผู้รับใบอนุญาต ให้ผู้รับใบอนุญาตแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยน

มาตรา ๒๕

ในกรณีใบอนุญาตสูญหายหรือถูกทาลาย ให้ผู้รับใบอนุญาตยื่นคาขอรับใบแทนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ทราบถึงการสูญหายหรือถูกทาลาย

มาตรา ๒๖

ผู้รับใบอนุญาตซึ่งประสงค์จะย้ายเครื่องจักรบางส่วนที่ติดตั้งในโรงงานไปยังสถานที่อื่นเพื่อประกอบกิจการโรงงานเป็นการชั่วคราว ให้ยื่นคาขออนุญาตต่อผู้อนุญาต พร้อมทั้งแผนผังและรายละเอียดอื่นแสดงเหตุผลประกอบการพิจารณาด้วย ถ้าผู้อนุญาตเห็นสมควร ก็ให้สั่งอนุญาตให้ย้าย33 เครื่องจักรไปประกอบกิจการตามคาขอได้ภายในระยะเวลาที่กาหนด แต่ต้องไม่เกินหนึ่งปีนับแต่วันที่มีคาสั่ง ในการนี้จะกาหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับวิธีการเพื่อความปลอดภัยให้ปฏิบัติด้วยก็ได้ ถ้าผู้รับใบอนุญาตมีความจาเป็นจะต้องประกอบกิจการนั้นเกินกว่าระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตตามวรรคสอง ก็ให้ขอขยายระยะเวลาต่อผู้อนุญาตก่อนระยะเวลานั้นสิ้นสุดลง ถ้าผู้อนุญาตเห็นสมควรก็ให้สั่งอนุญาตขยายระยะเวลาต่อไปได้ไม่เกินหนึ่งปี

มาตรา ๒๗

ผู้รับใบอนุญาตซึ่งประสงค์จะย้ายโรงงานไปยังที่อื่น ให้ดาเนินการเสมือนการตั้งโรงงานใหม่

มาตรา ๒๘

ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดประสงค์จะเลิกประกอบกิจการโรงงาน ให้แจ้งเป็นหนังสือต่อผู้อนุญาตไม่น้อยกว่าสามสิบวันก่อนวันเลิกประกอบกิจการ ในกรณีที่ผู้อนุญาตเห็นว่า โรงงานตามวรรคหนึ่งมีสภาพที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือความเดือดร้อนแก่บุคคล ทรัพย์สิน หรือสิ่งแวดล้อมที่อยู่ใกล้เคียงกับโรงงาน ให้แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่สั่งให้ผู้รับใบอนุญาตนั้นแก้ไขปรับปรุงโรงงานภายในระยะเวลาที่กาหนดได้ และให้ถือว่าผู้นั้นมีฐานะเสมือนเป็นผู้ประกอบกิจการโรงงานจนกว่าจะดาเนินการตามคาสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ หากผู้รับใบอนุญาตไม่ปฏิบัติตามคาสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามวรรคสอง ให้นามาตรา ๔๒ มาใช้บังคับโดยอนุโลม การแจ้งเลิกประกอบกิจการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กาหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๘/๑

ผู้รับใบอนุญาตซึ่งประสงค์จะเปลี่ยนแปลงโรงงานจาพวกที่ ๓ เป็นโรงงานจาพวกที่ ๑ หรือโรงงานจาพวกที่ ๒ แล้วแต่กรณี ให้แจ้งการเลิกประกอบกิจการโรงงานตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กาหนดในกฎกระทรวง และเมื่อจะประกอบกิจการโรงงานต่อไป ให้ดาเนินการตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้ สาหรับการประกอบกิจการโรงงานจาพวกดังกล่าว

มาตรา ๒๙

ในกรณีที่มีกฎกระทรวงตามมาตรา ๗ หรือประกาศของรัฐมนตรีตามมาตรา ๓๒ (๑) ทาให้โรงงานจาพวกที่ ๑ หรือโรงงานจาพวกที่ ๒ เปลี่ยนเป็นโรงงานจาพวกที่ ๓ ถ้าผู้ประกอบกิจการโรงงานยื่นคาขอใบอนุญาตตามมาตรา ๑๒ ภายในกาหนดสามสิบวันนับแต่วันที่กฎกระทรวงนั้นมีผลบังคับ ให้ผู้นั้นประกอบกิจการโรงงานต่อไปได้โดยมีฐานะเสมือนเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตและให้ผู้อนุญาตออกใบอนุญาตโดยไม่ชักช้า

มาตรา ๓๐

ให้รัฐมนตรีมีอานาจกาหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้ท้องที่ใดท้องที่หนึ่งเป็นเขตประกอบการอุตสาหกรรมได้ การประกอบกิจการโรงงานจาพวกที่ ๒ หรือโรงงานจาพวกที่ ๓ ภายในเขตประกอบการอุตสาหกรรมตามวรรคหนึ่ง หรือเขตนิคมอุตสาหกรรมซึ่งจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรม ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบตามมาตรา ๑๑ หรือได้รับอนุญาตตามมาตรา ๑๒ แล้วแต่กรณี แต่การประกอบกิจการโรงงานดังกล่าวจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กาหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๘ ประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามกฎกระทรวงดังกล่าว ประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามมาตรา ๓๒ (๑) และบทบัญญัติอื่นที่เกี่ยวกับการควบคุมการประกอบกิจการโรงงานตามพระราชบัญญัตินี้ โดยให้ถือเสมือนเป็นผู้แจ้งหรือผู้รับใบอนุญาต แล้วแต่กรณี เมื่อได้กาหนดให้ท้องที่ใดเป็นเขตประกอบการอุตสาหกรรมหรือจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแล้ว รัฐมนตรีอาจออกกฎกระทรวงกาหนดให้บริเวณโดยรอบเขตประกอบการอุตสาหกรรมหรือนิคมอุตสาหกรรมภายในระยะที่กาหนดเป็นเขตห้ามประกอบกิจการโรงงานโดยเด็ดขาดหรือจะอนุญาตให้ประกอบกิจการได้เฉพาะโรงงานบางประเภท ชนิดหรือขนาดใดก็ได้

มาตรา ๓๑

เพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการให้มีประสิทธิภาพและการอานวยความสะดวกแก่ประชาชน ถ้าการประกอบกิจการโรงงานใดมีกรณีที่เกี่ยวข้องอันจะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายอื่นอยู่ด้วย พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอานาจดาเนินการตามพระราชบัญญัตินี้และพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอานาจดาเนินการตามกฎหมายในเรื่องนั้น ๆ อาจกาหนดวิธีการในการดาเนินการเพื่อพิจารณาอนุญาตร่วมกันก็ได้ การดาเนินการตามวรรคหนึ่งจะกาหนดให้กระทาโดยมีการยื่นคาขอร่วมกัน หรือจะให้มีผลเป็นการยกเว้นแบบเอกสารที่ต้องใช้ รายการและข้อมูลที่ต้องแสดง สถานที่ต้องยื่นคาขอหรือเอกสาร และขั้นตอนในการพิจารณาอนุญาตที่ซ้าซ้อนหรือคล้ายคลึงกัน หรืออาจก่อให้เกิดอุปสรรคแก่การพิจารณาอนุญาตร่วมกันโดยไม่จาเป็นเสียก็ได้ และในกรณีที่สมควรจะกาหนดหลักเกณฑ์หรือวิธีการใดให้ต้องปฏิบัติเพิ่มเติมแทนก็ได้ แต่การอนุญาตจะต้องเป็นไปตามรูปแบบที่กาหนดในกฎหมายว่าด้วยการนั้น ในการพิจารณาอนุญาตร่วมกัน พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอานาจตรวจสอบ ผู้มีอานาจพิจารณาส่วนหนึ่งส่วนใดในการอนุญาตหรือผู้มีอานาจอนุญาตอาจมอบอานาจของตนให้พนักงานเจ้าหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาอนุญาตเป็นผู้ดาเนินการแทนได้ตามความเหมาะสม การกาหนดและการมอบอานาจตามวรรคสองและวรรคสาม เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้มีผลใช้บังคับได้

หมวด ๒ การกากับและดูแลโรงงาน

มาตรา ๓๒

เพื่อประโยชน์ในทางเศรษฐกิจ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ความมั่นคง ความปลอดภัยของประเทศหรือของสาธารณชน ให้รัฐมนตรีโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีมีอานาจกาหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาในเรื่องดังต่อไปนี้ (๑) กาหนดจานวนและขนาดของโรงงานแต่ละประเภทหรือชนิดที่จะให้ตั้งหรือขยาย หรือที่จะไม่ให้ตั้งหรือขยายในท้องที่ใดท้องที่หนึ่ง (๒) กาหนดชนิด คุณภาพ อัตราส่วนของวัตถุดิบ แหล่งกาเนิดของวัตถุดิบและหรือปัจจัยหรือชนิดของพลังงานที่จะนามาใช้หรือผลิตในโรงงาน (๓) กาหนดชนิดหรือคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในโรงงานที่จะให้ตั้งหรือขยาย (๔) กาหนดให้นาผลผลิตของโรงงานที่จะให้ตั้งหรือขยายไปใช้ในอุตสาหกรรมบางประเภท หรือให้ส่งผลผลิตออกนอกราชอาณาจักรทั้งหมดหรือบางส่วน

มาตรา ๓๓

เมื่อโรงงานจาพวกที่ ๒ หรือโรงงานจาพวกที่ ๓ หยุดดาเนินงานติดต่อกันเกินกว่าหนึ่งปี ผู้ประกอบกิจการโรงงานจาพวกที่ ๒ หรือผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานจาพวกที่ ๓ แล้วแต่กรณี ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันพ้นกาหนดหนึ่งปี ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการโรงงานตามวรรคหนึ่งประสงค์จะประกอบกิจการโรงงานต่อไป ให้ดาเนินการตามแต่กรณีดังนี้ (๑) ผู้ประกอบกิจการโรงงานจาพวกที่ ๒ ให้แจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบก่อนเริ่มประกอบกิจการ (๒) ผู้ประกอบกิจการโรงงานจาพวกที่ ๓ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาตก่อนจึงจะประกอบกิจการโรงงานต่อไปได้ ในการอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานจาพวกที่ ๓ ต่อไปนั้น ถ้าผลการตรวจสอบของพนักงานเจ้าหน้าที่ปรากฏว่าโรงงานและเครื่องจักรมีลักษณะถูกต้องตามมาตรา ๘ ประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๘ และประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามมาตรา ๓๒ และเงื่อนไขที่กาหนดไว้ในใบอนุญาต ให้ผู้อนุญาตมีคาสั่งอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานต่อไปได้ หากมีกรณีที่ไม่ถูกต้อง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่สั่งให้แก้ไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กาหนด เมื่อได้แก้ไขแล้วให้ผู้อนุญาตมีคาสั่งอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงงานต่อไปได้ การอุทธรณ์คาสั่งของผู้อนุญาตตามวรรคสาม ให้นามาตรา ๑๖ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา ๓๔

ในกรณีมีอุบัติเหตุในโรงงานเนื่องจากโรงงานหรือเครื่องจักรของโรงงานไม่ว่าจะเป็นกรณีของโรงงานจาพวกใด ถ้าอุบัติเหตุนั้น (๑) เป็นเหตุให้บุคคลถึงแก่ความตาย เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ ซึ่งภายหลังเจ็ดสิบสองชั่วโมงแล้วยังไม่สามารถทางานในหน้าที่เดิมได้ ให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบภายในสามวันนับแต่วันตาย หรือวันครบกาหนดเจ็ดสิบสองชั่วโมง แล้วแต่กรณี (๒) เป็นเหตุให้โรงงานต้องหยุดดาเนินงานเกินกว่าเจ็ดวัน ให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบภายในสิบวันนับแต่วันเกิดอุบัติเหตุ เมื่อเกิดอุบัติเหตุในโรงงานใดตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจโรงงานและเครื่องจักรและพิจารณาดาเนินการตามมาตรา ๓๗ หรือมาตรา ๓๙ แล้วแต่กรณี

มาตรา ๓๕

เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจ ดังต่อไปนี้ (๑) เข้าไปในโรงงานหรืออาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะที่มีเหตุควรสงสัยว่าจะประกอบกิจการโรงงาน ในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตกหรือในเวลาทาการของสถานที่ดังกล่าว เพื่อตรวจสภาพโรงงาน อาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะ สภาพเครื่องจักร หรือการกระทาใดที่อาจเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ (๒) นาตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่สงสัยเกี่ยวกับคุณภาพในปริมาณพอสมควรเพื่อตรวจสอบคุณภาพพร้อมกับเอกสารที่เกี่ยวข้อง (๓) ตรวจ ค้น กัก ยึดหรืออายัดผลิตภัณฑ์ ภาชนะบรรจุ สมุดบัญชี เอกสารหรือสิ่งใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่มีเหตุสงสัยว่าการประกอบกิจการของโรงงานอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินที่อยู่ในโรงงานหรือที่อยู่ใกล้เคียงกับโรงงาน หรือมีการกระทาผิดต่อพระราชบัญญัตินี้ (๔) มีหนังสือเรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยคาหรือให้ส่งเอกสารหรือวัตถุใดมาเพื่อประกอบการพิจารณาได้

มาตรา ๓๖

เมื่อปรากฏว่าบุคคลใดกระทาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ากระทาการเช่นว่านั้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งแต่งตั้งจากข้าราชการไม่ต่ากว่าระดับ ๔ มีอานาจจับกุมผู้นั้นเพื่อส่งพนักงานสอบสวนดาเนินการต่อไปตามกฎหมาย

มาตรา ๓๗

ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่พบว่า ผู้ประกอบกิจการโรงงานผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ หรือการประกอบกิจการโรงงานมีสภาพที่อาจก่อให้เกิดอันตราย ความเสียหายหรือความเดือดร้อนแก่บุคคลหรือทรัพย์สินที่อยู่ในโรงงานหรือที่อยู่ใกล้เคียงกับโรงงาน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจสั่งให้ผู้นั้นระงับการกระทาที่ฝ่าฝืนหรือแก้ไขหรือปรับปรุงหรือปฏิบัติให้ถูกต้องหรือเหมาะสมภายในระยะเวลาที่กาหนดได้ ในกรณีที่เห็นสมควร เมื่อได้รับอนุมัติจากปลัดกระทรวงหรือผู้ซึ่งปลัดกระทรวงมอบหมาย ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจผูกมัดประทับตราเครื่องจักร เพื่อมิให้เครื่องจักรทางานได้ในระหว่างการปฏิบัติตามคาสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง

มาตรา ๓๘

การส่งคาสั่งตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่นาส่ง ณ ภูมิลาเนาหรือโรงงานของบุคคลซึ่งระบุไว้ในคาสั่ง ในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตกหรือในเวลาทาการของบุคคลนั้น หรือจะส่งโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับก็ได้ ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่นาส่งแล้วแต่บุคคลซึ่งระบุไว้ในคาสั่งปฏิเสธไม่ยอมรับคาสั่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ขอให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตารวจไปเป็นพยานเพื่อวางคาสั่งไว้ ณ ที่นั้น แต่ถ้าไม่พบบุคคลซึ่งระบุไว้ในคาสั่ง ณ ภูมิลาเนาหรือสถานที่ทาการของบุคคลนั้นจะส่งให้กับบุคคลใดซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้วซึ่งอยู่หรือทางาน ณ ที่นั้นก็ได้ และถ้าไม่พบบุคคลใดหรือพบแต่ไม่มีบุคคลใดยอมรับไว้แทน ให้ปิดคาสั่งนั้นไว้ในที่ที่เห็นได้ง่าย ณ ภูมิลาเนาหรือโรงงานนั้นต่อหน้าพนักงานฝ่ายปกครองหรือตารวจที่ไปเป็นพยาน เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดาเนินการตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองแล้วให้ถือว่าบุคคลซึ่งระบุไว้ในคาสั่งได้รับคาสั่งนั้นแล้ว แต่ถ้าเป็นการส่งโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับหรือโดยการปิดคาสั่ง ให้ถือว่าได้รับคาสั่งนั้นเมื่อครบกาหนดห้าวันทาการนับแต่วันที่พนักงานไปรษณีย์ได้ส่งหรือวันที่ได้ปิดคาสั่งนั้นไว้ แล้วแต่กรณี

มาตรา ๓๙

ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการโรงงานใดจงใจไม่ปฏิบัติตามคาสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๓๗ โดยไม่มีเหตุอันควรหรือในกรณีที่ปรากฏว่าการประกอบกิจการของโรงงานใดอาจจะก่อให้เกิดอันตราย ความเสียหายหรือความเดือดร้อนอย่างร้ายแรงแก่บุคคลหรือทรัพย์สินที่อยู่ในโรงงานหรือที่อยู่ใกล้เคียงกับโรงงานให้ปลัดกระทรวงหรือผู้ซึ่งปลัดกระทรวงมอบหมายมีอานาจสั่งให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานนั้นหยุดประกอบกิจการโรงงานทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นการชั่วคราว และปรับปรุงแก้ไขโรงงานนั้นเสียใหม่หรือปฏิบัติให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กาหนด ถ้าผู้ประกอบกิจการโรงงานได้ปรับปรุงแก้ไขโรงงานหรือปฏิบัติให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กาหนดแล้ว ให้ปลัดกระทรวงหรือผู้ซึ่งปลัดกระทรวงมอบหมายสั่งให้ประกอบกิจการโรงงานต่อไปได้ ถ้าผู้ประกอบกิจการโรงงานไม่ปรับปรุงแก้ไขโรงงานหรือไม่ปฏิบัติให้ถูกต้อง ภายในเวลาที่กาหนด ให้ปลัดกระทรวงหรือผู้ซึ่งปลัดกระทรวงมอบหมายมีอานาจสั่งปิดโรงงานได้ และในกรณีที่เป็นโรงงานจาพวกที่ ๓ ให้คาสั่งปิดโรงงานดังกล่าวมีผลเป็นการเพิกถอนใบอนุญาตด้วย

มาตรา ๔๐

คาสั่งให้หยุดประกอบกิจการหรือคาสั่งปิดโรงงาน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปิดประกาศไว้ในที่ที่เห็นได้ง่าย ณ โรงงานนั้นอย่างน้อยสามแห่งทั้งนี้ ให้มีข้อความแจ้งให้ทราบด้วยว่าห้ามมิให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในโรงงาน คนงาน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนทางานในโรงงานเพื่อให้โรงงานประกอบกิจการต่อไปได้อีกภายหลังมีคาสั่งให้หยุดประกอบกิจการหรือคาสั่งปิดโรงงาน

มาตรา ๔๑

คาสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๓๗ หรือคาสั่งของปลัดกระทรวงหรือผู้ซึ่งปลัดกระทรวงมอบหมายให้หยุดประกอบกิจการโรงงานตามมาตรา ๓๙ วรรคหนึ่ง หรือคาสั่งปิดโรงงานตามมาตรา ๓๙ วรรคสาม ให้อุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีได้ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบคาสั่ง คาวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด การอุทธรณ์ตามวรรคหนึ่ง ย่อมไม่เป็นการทุเลาการปฏิบัติตามคาสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือคาสั่งให้หยุดประกอบกิจการโรงงานหรือคาสั่งให้ปิดโรงงาน เว้นแต่รัฐมนตรีจะมีคาสั่งเป็นอย่างอื่น

มาตรา ๔๒

ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการโรงงานไม่ปฏิบัติตามคาสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๓๗ ถ้ามีเหตุที่ทางราชการสมควรเข้าไปดาเนินการแทน ให้ปลัดกระทรวงหรือผู้ซึ่งปลัดกระทรวงมอบหมายมีอานาจสั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่หรือมอบหมายให้บุคคลใด ๆ เข้าจัดการแก้ไขเพื่อให้เป็นไปตามคาสั่งนั้นได้ ในกรณีเช่นนี้ ผู้ประกอบกิจการโรงงานต้องเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าจัดการนั้นตามจานวนที่จ่ายจริงรวมกับเบี้ยปรับในอัตราร้อยละสามสิบต่อปีของเงินจานวนดังกล่าว ถ้าทางราชการได้เข้าไปจัดการแก้ไขปัญหามลพิษหรือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากโรงงาน ให้ขอรับเงินช่วยเหลือจากกองทุนสิ่งแวดล้อมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเพื่อใช้จ่ายในการดาเนินการได้ และเมื่อได้รับเงินตามวรรคหนึ่งจากผู้ประกอบกิจการโรงงานแล้วให้ชดใช้เงินช่วยเหลือที่ได้รับมาคืนแก่กองทุนสิ่งแวดล้อมดังกล่าวต่อไป

มาตรา ๔๓

ผู้ประกอบกิจการโรงงานจาพวกที่ ๒ และโรงงานจาพวกที่ ๓ ต้องชาระค่าธรรมเนียมรายปีตามหลักเกณฑ์ วิธีการและอัตราที่กาหนดในกฎกระทรวงตลอดเวลาที่ยังประกอบกิจการ ถ้ามิได้เสียค่าธรรมเนียมภายในเวลาที่กาหนดให้เสียเงินเพิ่มอีกร้อยละห้าต่อเดือน และถ้ายังไม่ยินยอมเสียค่าธรรมเนียมโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจสั่งให้ผู้นั้นหยุดการประกอบกิจการไว้จนกว่าจะได้เสียค่าธรรมเนียมและเงินเพิ่มครบจานวน และให้นามาตรา ๓๙ มาตรา ๔๐ และมาตรา ๔๑ มาใช้บังคับโดยอนุโลม ค่าธรรมเนียมรายปีสาหรับโรงงานจาพวกที่ ๒ ตามวรรคหนึ่ง ที่อยู่ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่รัฐมนตรีแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๑๑/๑ แล้ว รัฐมนตรีจะออกกฎกระทรวงลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมดังกล่าวมิได้ เว้นแต่มีเหตุอันสมควรอันเกิดจากภัยธรรมชาติหรือภาวะทางเศรษฐกิจ หรือเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมกิจการให้เกิดขึ้นในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะออกกฎกระทรวงลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมสาหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีเหตุดังกล่าวก็ได้

มาตรา ๔๓/๑

ค่าธรรมเนียมรายปีและเงินเพิ่มตามมาตรา ๔๓ สาหรับโรงงานจาพวกที่ ๒ ที่ตั้งอยู่ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด ให้ตกเป็นรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นเฉพาะที่ได้มีการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๑๑/๑ แล้ว

มาตรา ๔๔

ในการปฏิบัติการตามหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจาตัวเมื่อผู้ซึ่งเกี่ยวข้องร้องขอ บัตรประจาตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามแบบที่รัฐมนตรีกาหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา

หมวด ๓ บทกาหนดโทษ

มาตรา ๔๕

ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๘ (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) หรือ (๘)หรือประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามกฎกระทรวงดังกล่าว ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท

มาตรา ๔๖

ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๘ (๖) หรือ (๗) หรือประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามกฎกระทรวงดังกล่าว ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

มาตรา ๔๗

ผู้ใดทาการตรวจสอบหรือรับรอง หรือจัดทารายงานผลการตรวจสอบหรือรับรองโดยไม่มีใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองตามมาตรา ๙ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ ผู้ตรวจสอบเอกชนผู้ใดจัดทารายงานผลการตรวจสอบหรือรับรองอันเป็นเท็จหรือจัดทารายงานผลการตรวจสอบหรือรับรองในระหว่างที่ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้ทาการตรวจสอบหรือรับรอง หรือจัดทารายงานผลการตรวจสอบหรือรับรองโดยไม่มีใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง

มาตรา ๔๗/๑

ผู้ประกอบกิจการโรงงานผู้ใดไม่ดาเนินการตามมาตรา ๙ วรรคสอง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท

มาตรา ๔๗/๒

ผู้ตรวจสอบเอกชนผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๙/๔ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท

มาตรา ๔๘

ผู้ใดประกอบกิจการโรงงานจาพวกที่ ๒ โดยไม่ได้แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบตามมาตรา ๑๑ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ

มาตรา ๔๙

ผู้ประกอบกิจการโรงงานจาพวกที่ ๒ ผู้ใดแจ้งการประกอบกิจการไม่ถูกต้องครบถ้วนตามที่กาหนดในกฎกระทรวงตามมาตรา ๑๑ วรรคสองหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๑ วรรคห้า หรือมาตรา ๓๓ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

มาตรา ๕๐

ผู้ใดประกอบกิจการโรงงานจาพวกที่ ๓ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา ๑๒ วรรคหนึ่ง หรือตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา ๑๒ วรรคสอง ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ ในกรณีที่โรงงานตามวรรคหนึ่ง เป็นโรงงานประเภทหรือชนิดที่กาหนดจานวนหรือขนาดที่จะให้ตั้งหรือไม่ให้ตั้งในท้องที่ใดตามประกาศที่ออกตามมาตรา ๓๒ (๑) ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสี่ปี หรือปรับไม่เกินสี่แสนบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ

มาตรา ๕๑

ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง มาตรา ๑๘/๑ วรรคสอง มาตรา ๑๙ วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง มาตรา ๑๙/๑ วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง มาตรา ๒๘ วรรคหนึ่ง มาตรา ๒๘/๑ หรือมาตรา ๓๓ วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

มาตรา ๕๒

ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดขยายโรงงานโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขยายโรงงานตามมาตรา ๑๘ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ ในกรณีที่โรงงานตามวรรคหนึ่งเป็นโรงงานประเภทหรือชนิดที่กาหนดจานวนหรือขนาดที่จะให้ขยายหรือไม่ให้ขยายในท้องที่ใดตามประกาศที่ออกตามมาตรา ๓๒ (๑) ผู้กระทาต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสี่ปี หรือปรับไม่เกินสี่แสนบาทหรือทั้งจาทั้งปรับ

มาตรา ๕๓

ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๓ มาตรา ๒๔ หรือมาตรา ๒๕ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท

มาตรา ๕๔

ผู้ประกอบกิจการโรงงานผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๓๔ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

มาตรา ๕๕

ผู้ใดประกอบกิจการโรงงานในระหว่างที่ได้มีคาสั่งให้หยุดประกอบกิจการโรงงานหรือภายหลังที่มีคาสั่งให้ปิดโรงงาน ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละห้าพันบาทจนกว่าจะหยุดประกอบกิจการ สถาปนิกหรือวิศวกรผู้ใดยังฝ่าฝืนทางานในโรงงานเฉพาะส่วนที่มีคาสั่งให้หยุดประกอบกิจการหรือยังฝ่าฝืนทางานในโรงงานที่มีคาสั่งปิดโรงงานแล้วเพื่อให้โรงงานประกอบกิจการต่อไป ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้ประกอบกิจการโรงงานตามวรรคหนึ่ง ผู้ที่ทางานในโรงงานหรือคนงานผู้ใดยังฝ่าฝืนทางานในโรงงานเฉพาะส่วนที่มีคาสั่งให้หยุดประกอบกิจการหรือยังฝ่าฝืนทางานในโรงงานที่มีคาสั่งปิดโรงงานแล้วให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้ร่วมกระทาหรือสนับสนุนการกระทาความผิดตามวรรคหนึ่ง แล้วแต่กรณี แต่ศาลจะลงโทษน้อยเพียงใดก็ได้โดยคานึงถึงฐานะ ความรับผิดชอบต่อครอบครัว ความจงใจฝ่าฝืนกฎหมาย และความมีส่วนสาคัญในการกระทา

มาตรา ๕๖

ผู้ใดขัดขวางหรือไม่ให้ความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๓๕ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ

มาตรา ๕๗

ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคาสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งสั่งตามมาตรา ๒๘ วรรคสอง หรือมาตรา ๓๗วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ และให้ปรับอีกวันละไม่เกินห้าพันบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องกต้อง

มาตรา ๕๘

ผู้ใดกระทาการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้เครื่องจักรที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ผูกมัดประทับตราไว้ตามมาตรา ๓๗ วรรคสอง กลับทางานได้อีก ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ

มาตรา ๕๙

ผู้ใดขัดขวางหรือไม่ให้ความสะดวกแก่บุคคลซึ่งปลัดกระทรวงหรือผู้ซึ่งปลัดกระทรวงมอบหมายให้เข้าจัดทาเพื่อให้การเป็นไปตามคาสั่งตามมาตรา ๔๒ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ

มาตรา ๖๐

ผู้ใดกระทาการใด ๆ ให้คาสั่งหยุดประกอบกิจการโรงงานหรือคาสั่งปิดโรงงานชารุดหรือเสียหาย ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ

มาตรา ๖๑

ในกรณีที่ผู้ประกอบกิจการโรงงานกระทาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ให้ถือว่าสถาปนิกหรือวิศวกรที่ทางานในโรงงานและมีหน้าที่รับผิดชอบในการงานส่วนที่มีกรณีการกระทาความผิดนั้นเกิดขึ้น มีส่วนร่วมหรือรู้เห็นในการกระทาความผิดกับผู้ประกอบกิจการโรงงานและต้องรับโทษเช่นเดียวกับผู้ประกอบกิจการโรงงาน เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้รู้เห็นหรือยินยอมด้วยกับการกระทาความผิดนั้น นอกจากต้องรับโทษตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้ปลัดกระทรวงแจ้งชื่อและการกระทาของบุคคลเช่นว่านั้นให้คณะกรรมการควบคุมการประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมหรือคณะกรรมการควบคุมการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมทราบเพื่อพิจารณาดาเนินการตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพสถาปัตยกรรมหรือกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพ59 วิศวกรรมตามควรแก่กรณีต่อไป

มาตรา ๖๒

ผู้ใดเคยถูกลงโทษเพราะเหตุกระทาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้แล้วครั้งหนึ่ง ถ้าได้กระทาความผิดในบทบัญญัติเดียวกันกับที่เคยถูกลงโทษแล้วนั้นซ้าอีก ให้ศาลพิจารณาเพิ่มโทษที่จะลงแก่ผู้นั้นอย่างน้อยอีกหนึ่งในสามของอัตราโทษจาคุกหรือเพิ่มโทษอีกกึ่งหนึ่งของอัตราโทษปรับสาหรับความผิดนั้น

มาตรา ๖๓

ในกรณีที่ผู้กระทาความผิดเป็นนิติบุคคล ถ้าการกระทาความผิดของนิติบุคคลนั้นเกิดจากการสั่งการหรือการกระทาของกรรมการ หรือผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดาเนินงานของนิติบุคคลนั้น หรือในกรณีที่บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ต้องสั่งการหรือกระทาการและละเว้นไม่สั่งการหรือไม่กระทาการจนเป็นเหตุให้นิติบุคคลนั้นกระทาความผิด ผู้นั้นต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้สาหรับความผิดนั้น ๆ ด้วย

มาตรา ๖๔

ในกรณีที่มีการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ถือว่าบุคคลผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้ชิดหรือติดต่อกับโรงงานที่มีการกระทาความผิดเกิดขึ้น หรือบุคคลซึ่งความเป็นอยู่ถูกกระทบกระเทือนเนื่องจากการกระทาความผิดเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาความอาญา

มาตรา ๖๕

ให้มีคณะกรรมการเปรียบเทียบคดีในเขตกรุงเทพมหานครและในส่วนภูมิภาคได้ตามความเหมาะสม คณะกรรมการเปรียบเทียบคดีแต่ละคณะให้รัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิในด้านกฎหมายจานวนสามคน โดยมีวาระการดารงตาแหน่งคราวละสองปี แต่เมื่อพ้นจากตาแหน่งแล้วอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ การพ้นจากตาแหน่งก่อนวาระ การประชุม และวิธีพิจารณาของคณะกรรมการเปรียบเทียบคดี ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกาหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่ความผิดตามมาตรา ๕๐ วรรคสอง หรือมาตรา ๕๒ วรรคสอง ให้คณะกรรมการเปรียบเทียบคดีมีอานาจเปรียบเทียบปรับได้ ถ้าเห็นว่าผู้ต้องหาไม่ควรถูกฟ้องร้องหรือได้รับโทษถึงจาคุก และเมื่อผู้ต้องหาได้เสียค่าปรับตามที่เปรียบเทียบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีการเปรียบเทียบปรับ ให้ถือว่าคดีเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ในกรณีที่พนักงานสอบสวนพบว่าผู้ใดกระทาความผิดตามวรรคสี่และผู้นั้นยินยอมให้เปรียบเทียบปรับ ให้พนักงานสอบสวนส่งเรื่องให้แก่คณะกรรมการเปรียบเทียบคดีภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ผู้นั้นแสดงความยินยอมให้เปรียบเทียบปรับ

บทเฉพาะกาล

มาตรา ๖๖

คาขออนุญาตใด ๆ ที่ได้ยื่นไว้ และการอนุญาตใด ๆ ที่ได้ให้ไว้และยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของผู้อนุญาต หรือการปฏิบัติของผู้ขออนุญาตตามที่ได้รับอนุญาต แล้วแต่กรณี ให้ถือว่าเป็นคาขออนุญาตหรือการอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้โดยอนุโลม ในกรณีที่คาขออนุญาตหรือการอนุญาตดังกล่าวมีข้อแตกต่างไปจากคาขออนุญาต หรือการอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ผู้มีอานาจอนุญาตมีอานาจสั่งให้แก้ไขเพิ่มเติมได้ตามความจาเป็น เพื่อให้การเป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๖๗

ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานที่ออกให้แก่บุคคลใด ๆ ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้คงใช้ได้ต่อไปจนสิ้นอายุที่กาหนดไว้ ให้ถือว่าใบอนุญาตตั้งโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับเป็นใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานตามพระราชบัญญัตินี้ และให้ผู้ได้รับใบอนุญาตตั้งโรงงานดังกล่าวมีหน้าที่ดาเนินการต่อไปตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๖๘

บรรดากฎกระทรวงและประกาศที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานให้คงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อานันท์ ปันยารชุน นายกรัฐมนตรี

อัตราค่าธรรมเนียม

(๑) ค าขอ ฉบับละ ๑๐๐ บาท (๒) ใบอนุญาต ฉบับละ ๓๐๐,๐๐๐ บาท (๓) การอนุญาตให้ขยายโรงงานให้เป็นไปตาม อัตราใน (๒) (๔) การโอนใบอนุญาต ฉบับละ ๕,๐๐๐ บาท (๕) ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ ๕,๐๐๐ บาท (๖) การแจ้งกรณีได้รับยกเว้นการขยายโรงงาน หรือกรณีลดหรือกรณีเพิ่มเครื่องจักรแต่ไม่เข้า ข่ายขยายโรงงาน หรือการเพิ่มเนื้อที่อาคาร โรงงาน หรือการก่อสร้างอาคารโรงงานเพิ่มขึ้น ครั้งละ ๑๕,๐๐๐ บาท (๗) ใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง ฉบับละ ๕,๐๐๐ บาท (๘) การต่ออายุใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง ให้เป็นไปตามอัตราใน (๗) (๙) ใบแทนใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรอง ฉบับละ ๕๐๐ บาท (๑๐) ค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการโรงงาน ปีละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท

มาตรา ๘๑

ประธานกรรมการเป็นผู้เรียกประชุมคณะกรรมการ ถ้ากรรมการตั้งแต่สองคนขึ้นไปร้องขอให้เรียกประชุมคณะกรรมการให้ประธานกรรมการกาหนดวันประชุมภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ได้รับการร้องขอ

มาตรา ๘๒

ในการเรียกประชุมคณะกรรมการ ให้ประธานกรรมการหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายส่งหนังสือนัดประชุมไปยังกรรมการไม่น้อยกว่าเจ็ดวันก่อนวันประชุม เว้นแต่ในกรณีจาเป็นรีบด่วนเพื่อรักษาสิทธิหรือประโยชน์ของบริษัท จะแจ้งการนัดประชุมโดยวิธีอื่นและกาหนดวันประชุมให้เร็วกว่านั้นก็ได้

มาตรา ๘๓

ในกรณีที่ตาแหน่งกรรมการว่างลงจนเหลือน้อยกว่าจานวนที่จะเป็นองค์ประชุม ให้กรรมการที่เหลืออยู่กระทาการในนามของคณะกรรมการได้แต่เฉพาะการจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเลือกตั้งกรรมการแทนตาแหน่งที่ว่างทั้งหมดเท่านั้น การประชุมตามวรรคหนึ่ง ให้กระทาภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่จานวนกรรมการว่างลงเหลือน้อยกว่าจานวนที่จะเป็นองค์ประชุม บุคคลซึ่งเข้าเป็นกรรมการแทนตามวรรคหนึ่งอยู่ในตาแหน่งได้เพียงเท่าวาระที่ยังเหลืออยู่ของกรรมการซึ่งตนแทน

มาตรา ๘๔

บรรดากิจการของบริษัทที่คณะกรรมการ หรือกรรมการ หรือบุคคลซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการได้กระทาไปในนามของบริษัท ย่อมมีผลสมบูรณ์และผูกพันบริษัทแม้จะปรากฏในภายหลังว่ามีข้อบกพร่องเกี่ยวกับการเลือกตั้ง แต่งตั้ง หรือคุณสมบัติของกรรมการ

มาตรา ๘๕

ในการดาเนินกิจการของบริษัท กรรมการต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ และข้อบังคับของบริษัท ตลอดจนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของบริษัท ในกรณีที่กรรมการคนใดกระทาการหรือละเว้นกระทาการใดอันเป็นการไม่ปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง บริษัทหรือผู้ถือหุ้น แล้วแต่กรณี อาจดาเนินการได้ดังต่อไปนี้ (๑) ถ้าการกระทาหรือละเว้นการกระทานั้นเป็นเหตุให้บริษัทได้รับความเสียหาย ให้บริษัทเรียกค่าสินไหมทดแทนจากกรรมการคนนั้นได้ ในกรณีที่บริษัทไม่เรียกร้อง ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งหรือหลายคนซึ่งถือหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละห้าของหุ้นที่จาหน่ายได้ทั้งหมดจะแจ้งเป็นหนังสือให้บริษัทดาเนินการเรียกร้องก็ได้ หากบริษัทไม่ดาเนินการตามที่ผู้ถือหุ้นนั้นแจ้ง ผู้ถือหุ้นนั้น ๆ จะนาคดีขึ้นฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมทดแทนแทนบริษัทก็ได้ (๒) ถ้าการกระทาหรือละเว้นการกระทานั้นอาจทาให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งหรือหลายคนซึ่งถือหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละห้าของหุ้นที่จาหน่ายได้ทั้งหมด จะขอให้ศาลสั่งระงับการกระทาดังกล่าวก็ได้ ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นเป็นผู้ดาเนินการตามวรรคสอง ผู้ถือหุ้นจะขอให้ศาลสั่งให้กรรมการคนนั้นออกจากตาแหน่งก็ได้ ผู้ถือหุ้นซึ่งดาเนินการตามวรรคสองและวรรคสาม ต้องถือหุ้นของบริษัทอยู่ในขณะที่กรรมการคนนั้นกระทาการหรือละเว้นกระทาการอันเป็นเหตุให้บริษัทเสียหายหรืออาจทาให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท แล้วแต่กรณี

มาตรา ๘๖

ห้ามมิให้กรรมการประกอบกิจการอันมีสภาพอย่างเดียวกันและเป็นการแข่งขันกับกิจการของบริษัท หรือเข้าเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือเป็นหุ้นส่วนไม่จากัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนจากัด หรือเป็นกรรมการของบริษัทเอกชนหรือบริษัทอื่นที่ประกอบกิจการอันมีสภาพอย่างเดียวกัน และเป็นการแข่งขันกับกิจการของบริษัทไม่ว่าจะทาเพื่อประโยชน์ตน หรือประโยชน์ผู้อื่น เว้นแต่จะได้แจ้งให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นทราบก่อนที่จะมีมติแต่งตั้ง ในกรณีที่กรรมการคนใดฝ่าฝืนบทบัญญัติวรรคหนึ่ง บริษัทจะเรียกค่าสินไหมทดแทนในการที่บริษัทได้รับความเสียหายจากกรรมการคนนั้นก็ได้ ทั้งนี้ ต้องฟ้องภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่บริษัททราบถึงการฝ่าฝืนและไม่เกินสองปีนับแต่วันฝ่าฝืน ในกรณีที่บริษัทไม่ใช้สิทธิเรียกร้องตามวรรคสอง ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งหรือหลายคนซึ่งถือหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละห้าของหุ้นที่จาหน่ายได้ทั้งหมดจะแจ้งเป็นหนังสือให้บริษัทดาเนินการเรียกร้องก็ได้ ถ้าบริษัทไม่ดาเนินการตามที่ผู้ถือหุ้นแจ้งภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่แจ้ง หรืออายุความตามวรรคสองเหลือน้อยกว่าหนึ่งเดือน ผู้ถือหุ้นดังกล่าวจะใช้สิทธิเรียกร้องนั้นเพื่อบริษัทก็ได้ และให้นามาตรา ๘๕ วรรคสอง (๒) และวรรคสาม มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา ๘๗

กรรมการคนใดซื้อทรัพย์สินของบริษัท หรือขายทรัพย์สินให้แก่บริษัทหรือกระทาธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่งกับบริษัท ไม่ว่าจะกระทาในนามของตนหรือของบุคคลอื่น ถ้ามิได้รับความยินยอมจากคณะกรรมการแล้ว การซื้อขายหรือกระทาธุรกิจนั้นไม่มีผลผูกพันบริษัท

มาตรา ๘๘

ให้กรรมการแจ้งให้บริษัททราบโดยมิชักช้าเมื่อมีกรณีดังต่อไปนี้ (๑) มีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมในสัญญาใด ๆ ที่บริษัททาขึ้นระหว่างรอบปีบัญชี โดยระบุข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลักษณะของสัญญา ชื่อของคู่สัญญาและส่วนได้เสียของกรรมการในสัญญานั้น (ถ้ามี) (๒) ถือหุ้นหรือหุ้นกู้ในบริษัทและบริษัทในเครือ โดยระบุจานวนทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงในระหว่างรอบปีบัญชี (ถ้ามี)

มาตรา ๘๙

ห้ามมิให้บริษัทให้กู้ยืมเงินแก่กรรมการ พนักงาน หรือลูกจ้างของบริษัทเว้นแต่ (๑) เป็นการให้กู้ยืมเงินตามระเบียบการสงเคราะห์พนักงานและลูกจ้าง หรือ (๒) เป็นการให้กู้ยืมเงินตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ กฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต หรือกฎหมายอื่นการให้กู้ยืมเงินดังต่อไปนี้ ให้ถือว่าเป็นการให้กู้ยืมแก่กรรมการ พนักงาน หรือลูกจ้างของบริษัทตามวรรคหนึ่ง (ก) การให้กู้ยืมเงินแก่คู่สมรส หรือบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของกรรมการ พนักงาน หรือลูกจ้าง (ข) การให้กู้ยืมเงินแก่ห้างหุ้นส่วนสามัญที่กรรมการ พนักงาน หรือลูกจ้าง คู่สมรส หรือบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของกรรมการ พนักงาน หรือลูกจ้างนั้นเป็นหุ้นส่วน (ค) การให้กู้ยืมเงินแก่ห้างหุ้นส่วนจากัดที่กรรมการ พนักงาน หรือลูกจ้าง คู่สมรส หรือบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของกรรมการ พนักงาน หรือลูกจ้างนั้น เป็นหุ้นส่วนจาพวกไม่จากัดความรับผิด (ง) การให้กู้ยืมเงินแก่บริษัทอื่นหรือบริษัทเอกชนที่กรรมการ พนักงาน หรือลูกจ้าง คู่สมรส หรือบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของกรรมการ พนักงาน หรือลูกจ้างนั้น ถือหุ้นรวมกันเกินกึ่งหนึ่งของจานวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทอื่นหรือบริษัทเอกชนนั้นการให้กู้ยืมเงินตามวรรคหนึ่ง หมายความรวมถึงการค้าประกันการรับซื้อหรือซื้อลดตั๋วเงิน และการให้หลักประกันเกี่ยวกับเงินที่กู้ยืมด้วย

มาตรา ๙๐

ห้ามมิให้บริษัทจ่ายเงินหรือทรัพย์สินอื่นใดให้แก่กรรมการเว้นแต่จ่ายเป็นค่าตอบแทนตามข้อบังคับของบริษัท ในกรณีที่ข้อบังคับของบริษัทมิได้กาหนดไว้ การจ่ายค่าตอบแทนตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งประกอบด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจานวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุม

มาตรา ๙๑

กรรมการต้องรับผิดร่วมกันเพื่อความเสียหายใด ๆ อันเกิดขึ้นแก่บริษัทในกรณีดังต่อไปนี้ (๑) การเรียกให้ผู้จองหุ้นชาระเงินค่าหุ้น หรือโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินให้แก่บริษัทโดยไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๓๗ หรือมาตรา ๓๘ (๒) การนาเงินค่าหุ้นไปใช้จ่ายหรือจาหน่ายทรัพย์สินที่ได้รับชาระเป็นค่าหุ้นของบริษัทโดยฝ่าฝืนมาตรา ๔๓ (๓) การดาเนินการใด ๆ โดยฝ่าฝืนมาตรา ๘๕ (๔) การให้กู้ยืมเงินโดยฝ่าฝืนมาตรา ๘๙ (๕) การจ่ายเงินหรือทรัพย์สินอื่นใดให้แก่กรรมการโดยไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๙๐ (๖) การจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นโดยฝ่าฝืนมาตรา ๑๑๕ หรือการรับผิดตามมาตรา ๑๑๘ เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าได้กระทาการโดยสุจริตและอาศัยหลักฐาน หรือรายงานทางการเงินที่ประธานกรรมการ หรือเจ้าหน้าที่การเงินของบริษัท หรือผู้สอบบัญชีรับรองว่าถูกต้องแล้ว (๗) การไม่จัดทาหรือเก็บรักษาบัญชี ทะเบียน หรือเอกสารของบริษัทตามพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนได้กระทาการอันสมควรเพื่อมิให้มีการฝ่าฝืนแล้ว

มาตรา ๙๒

กรรมการไม่ต้องรับผิดตามมาตรา ๙๑ ในกรณีดังต่อไปนี้ (๑) พิสูจน์ได้ว่าตนมิได้ร่วมกระทากิจการนั้น ๆ หรือกิจการดังกล่าวได้กระทาไปโดยมิได้อาศัยมติของที่ประชุมคณะกรรมการ (๒) ได้คัดค้านในที่ประชุมคณะกรรมการโดยปรากฏในรายงานการประชุมหรือได้ทาเป็นหนังสือยื่นต่อประธานที่ประชุมภายในสามวันนับแต่สิ้นสุดการประชุม

มาตรา ๙๓

ในกรณีที่กรรมการต้องรับผิดเพื่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นแก่บริษัทตามมาตรา ๙๑ (๖) ให้กรรมการดังกล่าวมีสิทธิเรียกเงินปันผลส่วนที่เกินคืนจากผู้ถือหุ้นซึ่งได้รับไปโดยทราบว่าเป็นการจ่ายโดยฝ่าฝืนมาตรา ๑๑๕ หรือการต้องรับผิดตามมาตรา ๑๑๘ ด้วย

มาตรา ๙๔

กรรมการต้องรับผิดร่วมกันเพื่อความเสียหายใด ๆ อันเกิดขึ้นแก่ผู้ถือหุ้นและบุคคลซึ่งเกี่ยวข้องกับบริษัทในกรณีดังต่อไปนี้ เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้มีส่วนในการกระทาความผิดนั้นด้วย (๑) การแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความอันควรต้องแจ้งเกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดาเนินงานของบริษัทในการเสนอขายหุ้น หุ้นกู้หรือตราสารการเงินของบริษัท (๒) การแสดงข้อความหรือลงรายการในเอกสารที่ยื่นต่อนายทะเบียน โดยข้อความหรือรายการนั้นเป็นเท็จ หรือไม่ตรงกับบัญชี ทะเบียน หรือเอกสารของบริษัท (๓) การจัดทางบดุลและบัญชีกาไรขาดทุน รายงานการประชุมผู้ถือหุ้นหรือรายงานการประชุมคณะกรรมการอันเป็นเท็จ

มาตรา ๙๕

กรรมการคนใดกระทาการใดที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติให้อานาจอนุมัติหรือให้สัตยาบันแล้ว แม้ต่อมาจะมีการเพิกถอนมตินั้น กรรมการคนนั้นไม่ต้องรับผิดในการกระทานั้นต่อบริษัท ผู้ถือหุ้นหรือเจ้าหนี้ของบริษัท

มาตรา ๙๖

บริษัทต้องจัดให้มีทะเบียนกรรมการ รายงานการประชุมคณะกรรมการและรายงานการประชุมผู้ถือหุ้น และเก็บรักษาไว้ ณ สานักงานใหญ่ของบริษัท แต่บริษัทจะมอบหมายให้บุคคลใดทาหน้าที่เก็บรักษาเอกสารและทะเบียนดังกล่าวแทนบริษัทไว้ ณ ที่ใดก็ได้ แต่ต้องแจ้งให้นายทะเบียนทราบก่อนและต้องเก็บรักษาไว้ในท้องที่อันเป็นที่ตั้งสานักงานใหญ่หรือจังหวัดใกล้เคียง ทะเบียนกรรมการนั้นอย่างน้อยต้องมีรายการดังต่อไปนี้ (๑) ชื่อ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ และที่อยู่ของกรรมการ (๒) ชนิด มูลค่า เลขที่ใบหุ้น และจานวนหุ้นที่กรรมการแต่ละคนถือ (๓) วันเดือนปี ที่เป็นหรือขาดจากการเป็นกรรมการรายงานการประชุมคณะกรรมการและรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นนั้น คณะกรรมการต้องจัดทาให้เสร็จภายในสิบสี่วันนับแต่วันประชุม

มาตรา ๙๗

เว้นแต่จะมีบัญญัติไว้ในหมวดนี้เป็นอย่างอื่น ความเกี่ยวพันระหว่างกรรมการกับบริษัทและบริษัทกับบุคคลภายนอก ให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยตัวแทน

หมวด ๗ การประชุมผู้ถือหุ้น

มาตรา ๙๘

คณะกรรมการต้องจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเป็นการประชุมสามัญประจาปีภายในสี่เดือนนับแต่วันสิ้นสุดของรอบปีบัญชีของบริษัท การประชุมผู้ถือหุ้นคราวอื่นนอกจากวรรคหนึ่ง ให้เรียกว่าการประชุมวิสามัญ

มาตรา ๙๙

คณะกรรมการจะเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเป็นการประชุมวิสามัญเมื่อใดก็ได้สุดแต่จะเห็นสมควร

มาตรา ๑๐๐

ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งหรือหลายคนซึ่งมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของจานวนหุ้นที่จาหน่ายได้ทั้งหมด จะเข้าชื่อกันทาหนังสือขอให้คณะกรรมการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเป็นการประชุมวิสามัญเมื่อใดก็ได้ แต่ต้องระบุเรื่องและเหตุผลในการที่ขอให้เรียกประชุมไว้ให้ชัดเจนในหนังสือดังกล่าวด้วย ในกรณีเช่นนี้ คณะกรรมการต้องจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือจากผู้ถือหุ้น ในกรณีที่คณะกรรมการไม่จัดให้มีการประชุมภายในกาหนดระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง ผู้ถือหุ้นทั้งหลายซึ่งเข้าชื่อกันหรือผู้ถือหุ้นคนอื่น ๆ รวมกันได้จานวนหุ้นตามที่บังคับไว้นั้นจะเรียกประชุมเองก็ได้ภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันครบกาหนดระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง ในกรณีเช่นนี้ ให้ถือว่าเป็นการประชุมผู้ถือหุ้นที่คณะกรรมการเรียกประชุม โดยบริษัทต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอันจาเป็นที่เกิดจากการจัดให้มีการประชุมและอานวยความสะดวกตามสมควร ในกรณีที่ปรากฏว่าการประชุมผู้ถือหุ้นที่เป็นการเรียกประชุมเพราะผู้ถือหุ้นตามวรรคสองครั้งใดจานวนผู้ถือหุ้นซึ่งมาร่วมประชุมไม่ครบเป็นองค์ประชุมตามที่กาหนดไว้ในมาตรา ๑๐๓ ผู้ถือหุ้นตามวรรคสองต้องร่วมกันรับผิดชอบชดใช้ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการจัดให้มีการประชุมในครั้งนั้นให้แก่บริษัท

มาตรา ๑๐๑

ในการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นนั้น ให้คณะกรรมการจัดทาเป็นหนังสือนัดประชุม ระบุสถานที่ วัน เวลา ระเบียบวาระการประชุม และเรื่องที่จะเสนอต่อที่ประชุมพร้อมด้วยรายละเอียดตามสมควร โดยระบุให้ชัดเจนว่าเป็นเรื่องที่จะเสนอเพื่อทราบ เพื่ออนุมัติ หรือเพื่อพิจารณา แล้วแต่กรณี รวมทั้งความเห็นของคณะกรรมการในเรื่องดังกล่าวและจัดส่งให้ผู้ถือหุ้นและนายทะเบียนทราบไม่น้อยกว่าเจ็ดวันก่อนวันประชุม ทั้งนี้ ให้โฆษณาคาบอกกล่าวนัดประชุมในหนังสือพิมพ์ไม่น้อยกว่าสามวันก่อนวันประชุมด้วยสถานที่ที่จะใช้เป็นที่ประชุมตามวรรคหนึ่ง ต้องอยู่ในท้องที่อันเป็นที่ตั้งสานักงานใหญ่ของบริษัทหรือจังหวัดใกล้เคียง เว้นแต่ข้อบังคับจะกาหนดไว้เป็นอย่างอื่น

มาตรา ๑๐๒

ผู้ถือหุ้นมีสิทธิเข้าประชุมและออกเสียงลงคะแนนในการประชุมผู้ถือหุ้นแต่จะมอบฉันทะให้บุคคลอื่นเข้าประชุมและออกเสียงลงคะแนนแทนก็ได้ ในการนี้ให้นามาตรา ๓๓ วรรคสอง วรรคสี่ และวรรคห้า และมาตรา ๓๔ มาใช้บังคับโดยอนุโลมโดยในกรณีการมอบฉันทะให้ยื่นหนังสือมอบฉันทะต่อประธานกรรมการหรือผู้ที่ประธานกรรมการกาหนด การออกเสียงลงคะแนนในวรรคหนึ่งในส่วนที่ถือว่าหุ้นหนึ่งมีเสียงหนึ่งนั้นมิให้ใช้บังคับกับกรณีที่บริษัทได้ออกหุ้นบุริมสิทธิและกาหนดให้มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนน้อยกว่าหุ้นสามัญ

มาตรา ๑๐๓

เว้นแต่พระราชบัญญัตินี้จะบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น ในการประชุมผู้ถือหุ้น ต้องมีผู้ถือหุ้นและผู้รับมอบฉันทะจากผู้ถือหุ้น (ถ้ามี) มาประชุมไม่น้อยกว่ายี่สิบห้าคนหรือไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจานวนผู้ถือหุ้นทั้งหมดและต้องมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจานวนหุ้นที่จาหน่ายได้ทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม ในกรณีที่ปรากฏว่าการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งใด เมื่อล่วงเวลานัดไปแล้วถึงหนึ่งชั่วโมงจานวนผู้ถือหุ้นซึ่งมาเข้าร่วมประชุมไม่ครบเป็นองค์ประชุมตามที่กาหนดไว้ในวรรคหนึ่ง หากว่าการประชุมผู้ถือหุ้นนั้นได้เรียกนัดเพราะผู้ถือหุ้นร้องขอตามมาตรา ๑๐๐ การประชุมเป็นอันระงับไป ถ้าการประชุมผู้ถือหุ้นนั้นมิใช่เป็นการเรียกประชุมเพราะผู้ถือหุ้นร้องขอตามมาตรา ๑๐๐ ให้นัดประชุมใหม่ และให้ส่งหนังสือนัดประชุมไปยังผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าเจ็ดวันก่อนวันประชุม ในการประชุมครั้งหลังนี้ไม่บังคับว่าจะต้องครบองค์ประชุม

มาตรา ๑๐๔

ประธานกรรมการเป็นประธานของที่ประชุมผู้ถือหุ้น ในกรณีที่ประธานกรรมการไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ถ้ามีรองประธานกรรมการให้รองประธานกรรมการเป็นประธาน ถ้าไม่มีรองประธานกรรมการ หรือมีแต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมเลือกผู้ถือหุ้นคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม

มาตรา ๑๐๕

ประธานในที่ประชุมผู้ถือหุ้น มีหน้าที่ควบคุมการประชุมให้เป็นไปตามข้อบังคับของบริษัทว่าด้วยการประชุม ในการนี้ต้องดาเนินการประชุมให้เป็นไปตามลาดับระเบียบวาระที่กาหนดไว้ในหนังสือนัดประชุม เว้นแต่ที่ประชุมจะมีมติให้เปลี่ยนลาดับระเบียบวาระด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจานวนผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุม เมื่อที่ประชุมพิจารณาเสร็จตามวรรคหนึ่งแล้ว ผู้ถือหุ้นซึ่งมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจานวนหุ้นที่จาหน่ายได้ทั้งหมด จะขอให้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องอื่นนอกจากที่กาหนดไว้ในหนังสือนัดประชุมอีกก็ได้ในกรณีที่ที่ประชุมพิจารณาเรื่องตามลาดับระเบียบวาระไม่เสร็จตามวรรคหนึ่งหรือพิจารณาเรื่องที่ผู้ถือหุ้นเสนอไม่เสร็จตามวรรคสอง แล้วแต่กรณี และจาเป็นต้องเลื่อนการพิจารณา ให้ที่ประชุมกาหนดสถานที่ วัน และเวลาที่จะประชุมครั้งต่อไป และให้คณะกรรมการส่งหนังสือนัดประชุมระบุสถานที่ วัน เวลา และระเบียบวาระการประชุมไปยังผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าเจ็ดวันก่อนวันประชุม ทั้งนี้ ให้โฆษณาคาบอกกล่าวนัดประชุมในหนังสือพิมพ์ไม่น้อยกว่าสามวันก่อนวันประชุมด้วย

มาตรา ๑๐๖

การส่งหนังสือนัดประชุมตามที่กาหนดไว้ในหมวดนี้ ให้นามาตรา ๒๙ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา ๑๐๗

เว้นแต่พระราชบัญญัตินี้จะบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น มติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นนั้นให้ประกอบด้วยคะแนนเสียงดังต่อไปนี้ (๑) ในกรณีปกติ ให้ถือคะแนนเสียงข้างมากของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและออกเสียงลงคะแนน ถ้ามีคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด (๒) ในกรณีดังต่อไปนี้ ให้ถือคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจานวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน (ก) การขายหรือโอนกิจการของบริษัททั้งหมดหรือบางส่วนที่สาคัญให้แก่บุคคลอื่น (ข) การซื้อหรือรับโอนกิจการของบริษัทอื่นหรือบริษัทเอกชนมาเป็นของบริษัท (ค) การทา แก้ไข หรือเลิกสัญญาเกี่ยวกับการให้เช่ากิจการของบริษัททั้งหมดหรือบางส่วนที่สาคัญ การมอบหมายให้บุคคลอื่นเข้าจัดการธุรกิจของบริษัท หรือการรวมกิจการกับบุคคลอื่นโดยมีวัตถุประสงค์จะแบ่งกาไรขาดทุนกัน (๓) ในกรณีที่บริษัทมีข้อบังคับกาหนดไว้ว่า มติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเรื่องใดต้องประกอบด้วยคะแนนเสียงเกินจานวนที่กาหนดไว้ใน (๑) หรือ (๒) ก็ให้เป็นไปตามนั้น

มาตรา ๑๐๘

ในการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งใด ถ้าได้มีการนัดประชุม หรือลงมติโดยไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนข้อบังคับของบริษัท หรือบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าห้าคนหรือผู้ถือหุ้นซึ่งมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจานวนหุ้นที่จาหน่ายได้ทั้งหมดจะร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนมติในการประชุมครั้งนั้นก็ได้ แต่ต้องร้องขอต่อศาลภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ที่ประชุมลงมติ ในกรณีที่ศาลมีคาพิพากษาให้เพิกถอนมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นตามวรรคหนึ่งให้บริษัทแจ้งไปยังผู้ถือหุ้นภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ศาลมีคาพิพากษาถึงที่สุด

หมวด ๘ บัญชีและรายงาน

มาตรา ๑๐๙

บริษัทต้องจัดให้มีการทาและเก็บรักษาบัญชี ตลอดจนการสอบบัญชีตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น

มาตรา ๑๑๐

นอกจากการจัดทาบัญชีตามมาตรา ๑๐๙ บริษัทต้องจัดทางบดุลและบัญชีกาไรขาดทุนอย่างน้อยครั้งหนึ่งในรอบสิบสองเดือนอันเป็นรอบปีบัญชีของบริษัทนั้น งบดุลและบัญชีกาไรขาดทุนต้องมีรายการและความหมายของรายการตามที่กาหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๑๑๑

ในกรณีที่บริษัทยังมิได้รับชาระเงินค่าหุ้นเต็มจานวนทุนที่จดทะเบียนไว้ บริษัทต้องแสดงให้ชัดเจนว่ามีทุนและจานวนหุ้นจดทะเบียนเท่าใด หุ้นที่ออกจาหน่ายและได้รับชาระแล้วคิดเป็นเงินเท่าใดในเอกสารของบริษัทดังต่อไปนี้ (๑) งบดุล (๒) เอกสารอื่นที่มีการแสดงฐานะการเงิน

มาตรา ๑๑๒

คณะกรรมการต้องจัดให้มีการทางบดุล และบัญชีกาไรขาดทุน ณ วันสิ้นสุดของรอบปีบัญชีของบริษัทเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญประจาปี เพื่อพิจารณาอนุมัติ งบดุลและบัญชีกาไรขาดทุนที่จัดทาตามวรรคหนึ่ง หรือจัดทาขึ้นในระหว่างรอบปีบัญชีเพื่อนาเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติ คณะกรรมการต้องจัดให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบงบดุลและบัญชีกาไรขาดทุนนั้นให้เสร็จก่อนนาเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น

มาตรา ๑๑๓

คณะกรรมการต้องจัดส่งเอกสารดังต่อไปนี้ให้ผู้ถือหุ้นพร้อมกับหนังสือนัดประชุมสามัญประจาปี (๑) สาเนางบดุลและบัญชีกาไรขาดทุนที่ผู้สอบบัญชีตรวจสอบแล้ว ตามมาตรา ๑๑๒ พร้อมทั้งรายงานการตรวจสอบบัญชีของผู้สอบบัญชี (๒) เอกสารแสดงรายการตามมาตรา ๑๑๔ (๑) และ (๒) (ถ้ามี) (๓) รายงานประจาปีของคณะกรรมการ

มาตรา ๑๑๔

ในรายงานประจาปีของคณะกรรมการนั้น อย่างน้อยต้องปรากฏรายงานเกี่ยวกับ (๑) ชื่อ สถานที่ตั้งสานักงานใหญ่ ประเภทธุรกิจ จานวนและชนิดหุ้นทั้งหมดที่ออกจาหน่ายแล้วของบริษัท จานวนและชนิดหุ้นที่บริษัทถืออยู่ในบริษัทในเครือ (ถ้ามี) ลักษณะของบริษัทที่จะเป็นบริษัทในเครือให้เป็นไปตามที่กาหนดในกฎกระทรวง (๒) ชื่อ สถานที่ตั้งสานักงานใหญ่ ประเภทธุรกิจ จานวนและชนิดหุ้นทั้งหมดที่ออกจาหน่ายแล้ว จานวนและชนิดหุ้นของบริษัทอื่นหรือบริษัทเอกชนที่บริษัทถือหุ้นอยู่เป็นจานวนตั้งแต่ร้อยละสิบขึ้นไปของจานวนหุ้นที่ออกจาหน่ายแล้วของบริษัทอื่นหรือบริษัทเอกชนนั้น (ถ้ามี) (๓) รายละเอียดที่กรรมการแจ้งต่อบริษัทตามมาตรา ๘๘ (๔) ผลประโยชน์ตอบแทน หุ้น หุ้นกู้ หรือสิทธิประโยชน์อย่างอื่นที่กรรมการได้รับจากบริษัทพร้อมกับระบุชื่อกรรมการซึ่งเป็นผู้ได้รับนั้น (๕) รายการอย่างอื่นตามที่กาหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๑๑๕

การจ่ายเงินปันผลจากเงินประเภทอื่นนอกจากเงินกาไรจะกระทามิได้ ในกรณีที่บริษัทยังมียอดขาดทุนสะสมอยู่ ห้ามมิให้จ่ายเงินปันผล เงินปันผลนั้นให้แบ่งตามจานวนหุ้น หุ้นละเท่า ๆ กัน เว้นแต่จะมีข้อบังคับกาหนดไว้เป็นอย่างอื่นในเรื่องหุ้นบุริมสิทธิ โดยการจ่ายเงินปันผลต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น เมื่อข้อบังคับของบริษัทกาหนดให้ทาได้ คณะกรรมการอาจจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นได้เป็นครั้งคราว เมื่อเห็นว่าบริษัทมีกาไรสมควรพอที่จะทาเช่นนั้นและเมื่อได้จ่ายเงินปันผลแล้ว ให้รายงานให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นทราบในการประชุมคราวต่อไป การจ่ายเงินปันผลนั้นให้กระทาภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้น หรือคณะกรรมการลงมติ แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ ให้แจ้งเป็นหนังสือไปยังผู้ถือหุ้นกับให้โฆษณาคาบอกกล่าวการจ่ายเงินปันผลนั้นในหนังสือพิมพ์ด้วย

มาตรา ๑๑๖

บริษัทต้องจัดสรรกาไรสุทธิประจาปีส่วนหนึ่งไว้เป็นทุนสารองไม่น้อยกว่าร้อยละห้าของกาไรสุทธิประจาปีหักด้วยยอดเงินขาดทุนสะสมยกมา (ถ้ามี) จนกว่าทุนสารองนี้จะมีจานวนไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของทุนจดทะเบียน เว้นแต่บริษัทจะมีข้อบังคับหรือกฎหมายอื่นกาหนดให้ต้องมีทุนสารองมากกว่านั้น

มาตรา ๑๑๗

ในกรณีที่บริษัทยังจาหน่ายหุ้นไม่ครบตามจานวนที่จดทะเบียนไว้ หรือบริษัทได้จดทะเบียนเพิ่มทุนแล้ว บริษัทจะจ่ายเงินปันผลทั้งหมดหรือบางส่วน โดยออกเป็นหุ้นสามัญใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นโดยได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นก็ได้

มาตรา ๑๑๘

ในกรณีที่บริษัทจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นโดยฝ่าฝืนมาตรา ๑๑๕ มาตรา ๑๑๖ หรือมาตรา ๑๑๗ เป็นเหตุให้เจ้าหนี้ของบริษัทเสียเปรียบเจ้าหนี้จะฟ้องผู้ถือหุ้นให้คืนเงินปันผลที่ได้รับไปแล้วก็ได้โดยต้องฟ้องภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นลงมติ แต่ผู้ถือหุ้นคนใดได้รับเงินปันผลไปแล้วโดยสุจริตจะบังคับให้คืนเงินมิได้

มาตรา ๑๑๙

เมื่อได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นแล้ว บริษัทอาจโอนทุนสารองตามมาตรา ๕๑ ทุนสารองตามมาตรา ๑๑๖ หรือเงินสารองอื่น เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมของบริษัทก็ได้ การชดเชยผลขาดทุนสะสมตามวรรคหนึ่ง ให้หักชดเชยจากเงินสารองอื่นก่อน แล้วจึงหักจากทุนสารองตามมาตรา ๑๑๖ และทุนสารองตามมาตรา ๕๑ ตามลาดับ

มาตรา ๑๒๐

ให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจาปีแต่งตั้งผู้สอบบัญชี และกาหนดจานวนเงินค่าสอบบัญชีของบริษัททุกปี ในการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีจะแต่งตั้งผู้สอบบัญชีคนเดิมอีกก็ได้

มาตรา ๑๒๑

ผู้สอบบัญชีต้องไม่เป็นกรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง หรือผู้ดารงตาแหน่งหน้าที่ใด ๆ ของบริษัท

มาตรา ๑๒๒

ผู้สอบบัญชีมีอานาจตรวจสอบบัญชี เอกสารและหลักฐานอื่นใดที่เกี่ยวกับรายได้รายจ่าย ตลอดจนทรัพย์สินและหนี้สินของบริษัทได้ในระหว่างเวลาทาการของบริษัท ในการนี้ให้มีอานาจสอบถามกรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ผู้ดารงตาแหน่งหน้าที่ใด ๆ ของบริษัท และตัวแทนของบริษัท รวมทั้งให้ชี้แจงข้อเท็จจริงหรือส่งเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการดาเนินกิจการของบริษัทได้

มาตรา ๑๒๓

ผู้สอบบัญชีต้องทารายงานเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจาปีตามกฎหมายว่าด้วยการสอบบัญชี

มาตรา ๑๒๔

งบดุล บัญชีกาไรขาดทุน และรายงานของผู้สอบบัญชีของบริษัทต้องทาเป็นภาษาไทยโดยจัดพิมพ์ให้เรียบร้อย

มาตรา ๑๒๕

ผู้สอบบัญชีมีสิทธิทาคาชี้แจงเป็นหนังสือเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นและมีหน้าที่เข้าร่วมประชุมในการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัททุกครั้งที่มีการพิจารณางบดุลบัญชีกาไรขาดทุน และปัญหาเกี่ยวกับบัญชีของบริษัทเพื่อชี้แจงการตรวจสอบบัญชีต่อผู้ถือหุ้นและให้บริษัทจัดส่งรายงานและเอกสารของบริษัทที่ผู้ถือหุ้นจะพึงได้รับในการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งนั้นแก่ผู้สอบบัญชีด้วย

มาตรา ๑๒๖

ผู้ถือหุ้นมีสิทธิขอตรวจงบดุล บัญชีกาไรขาดทุน และรายงานของผู้สอบบัญชีของบริษัทได้ทุกเวลาในระหว่างเวลาทาการของบริษัท และจะขอให้บริษัทส่งสาเนาเอกสารดังกล่าวพร้อมด้วยคารับรองว่าถูกต้องก็ได้ ในการนี้ บริษัทอาจเรียกค่าใช้จ่ายได้ตามที่กาหนดไว้ในข้อบังคับของบริษัท

มาตรา ๑๒๗

บริษัทต้องจัดส่งรายงานประจาปี พร้อมกับสาเนางบดุลและบัญชีกาไรขาดทุนที่ผู้สอบบัญชีได้ตรวจสอบและที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติแล้ว และสาเนารายงานการประชุมผู้ถือหุ้นเฉพาะที่เกี่ยวกับการอนุมัติงบดุล การจัดสรรกาไร และการแบ่งเงินปันผล โดยมีผู้มีอานาจลงนามแทนบริษัทลงลายมือชื่อรับรองว่าถูกต้องไปยังนายทะเบียน สาหรับงบดุลนั้นบริษัทต้องโฆษณาให้ประชาชนทราบทางหนังสือพิมพ์มีกาหนดเวลาอย่างน้อยหนึ่งวันด้วย ทั้งนี้ ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติ

หมวด ๙ การตรวจสอบ

มาตรา ๑๒๘

ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งหรือหลายคนซึ่งมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่าร้อยละห้าของจานวนหุ้นที่จาหน่ายได้ทั้งหมด จะเข้าชื่อกันทาคาขอเป็นหนังสือให้นายทะเบียนแต่งตั้งผู้ตรวจสอบเพื่อดาเนินการตรวจสอบกิจการและฐานะการเงินของบริษัท ตลอดจนตรวจสอบการดาเนินงานของคณะกรรมการด้วยก็ได้ ในคาขอตามวรรคหนึ่ง ผู้ขอต้องระบุเหตุและประเด็นที่จะให้ตรวจสอบโดยแจ้งชัด พร้อมกับแจ้งชื่อและสถานที่อยู่ของผู้ถือหุ้นคนหนึ่งเป็นตัวแทนด้วย ถ้านายทะเบียนเห็นว่ามีเหตุอันสมควร ให้นายทะเบียนมีคาสั่งแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่คนหนึ่งหรือหลายคนเป็นผู้ตรวจสอบ และในคาสั่งแต่งตั้งผู้ตรวจสอบ นายทะเบียนต้องระบุประเด็นที่จะให้ตรวจสอบโดยแจ้งชัด

มาตรา ๑๒๙

นายทะเบียนจะแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่คนหนึ่งหรือหลายคนเป็นผู้ตรวจสอบเพื่อดาเนินการตรวจสอบบริษัทก็ได้เมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่า (๑) บริษัทได้กระทาการเพื่อโกงเจ้าหนี้ของบริษัท หรือก่อหนี้โดยที่รู้อยู่ว่าไม่สามารถจะชาระคืนได้ (๒) บริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ หรือแจ้งข้อความที่เป็นเท็จในการขอจดทะเบียนในงบดุลหรือบัญชีกาไรขาดทุน หรือในรายงานที่ยื่นต่อนายทะเบียนหรือที่เปิดเผยแก่ประชาชนทั่วไป (๓) กรรมการหรือพนักงานชั้นบริหารของบริษัทดาเนินการผิดวัตถุประสงค์ของบริษัทหรือกระทาการทุจริตต่อบริษัทหรือผู้ถือหุ้นของบริษัท (๔) มีการกระทาอันเป็นการทาให้ผู้ถือหุ้นฝ่ายข้างน้อยเสียเปรียบโดยไม่เป็นธรรม (๕) การบริหารกิจการของบริษัทอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ถือหุ้น ในคาสั่งแต่งตั้งผู้ตรวจสอบ นายทะเบียนต้องระบุประเด็นที่จะให้ตรวจสอบโดยแจ้งชัดและมีหนังสือแจ้งให้บริษัททราบ

มาตรา ๑๓๐

ในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๑๒๘ และมาตรา ๑๒๙ ผู้ตรวจสอบมีอานาจดังนี้ (๑) เข้าไปในสานักงานและสถานที่ใด ๆ ของบริษัทระหว่างเวลาทาการของบริษัท (๒) สั่งกรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ผู้ดารงตาแหน่งหน้าที่ใด ๆ ของบริษัทและตัวแทนของบริษัทและผู้สอบบัญชี รวมทั้งบุคคลซึ่งเคยดารงตาแหน่งหรือมีหน้าที่ดังกล่าวและพ้นจากตาแหน่งหรือหน้าที่นั้นไม่เกินหนึ่งปีมาให้ถ้อยคา (๓) สั่งให้บุคคลตาม (๒) แสดงหรือส่งบัญชีและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการดาเนินกิจการของบริษัทที่อยู่ในความรับผิดชอบของตนเพื่อตรวจสอบ ในกรณีที่ผู้ตรวจสอบพิจารณาเห็นว่า ในการตรวจสอบตามที่ได้รับแต่งตั้งนั้นมีความจาเป็นต้องตรวจสอบบริษัทอื่น หรือบริษัทเอกชนตามมาตรา ๑๑๔ (๑) และ (๒) ด้วยเพราะมีกรณีเกี่ยวเนื่องกัน ผู้ตรวจสอบต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนก่อนจึงจะมีอานาจตรวจสอบบริษัทนั้นเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องนั้นได้ด้วย ในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตรวจสอบตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ให้ผู้ตรวจสอบเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และให้บุคคลซึ่งเกี่ยวข้องช่วยเหลือและอานวยความสะดวกให้ตามสมควร

มาตรา ๑๓๑

ผู้ตรวจสอบต้องทารายงานผลการตรวจสอบพร้อมด้วยความเห็นเสนอนายทะเบียนภายในสองเดือนนับแต่วันได้รับแต่งตั้ง ถ้าไม่สามารถกระทาการให้เสร็จภายในกาหนดเวลาดังกล่าว ผู้ตรวจสอบต้องรายงานการตรวจสอบต่อนายทะเบียนทุกสองเดือน

มาตรา ๑๓๒

เมื่อนายทะเบียนได้รับรายงานผลการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบแล้วให้ดาเนินการดังต่อไปนี้ (๑) ส่งสาเนารายงานนั้นไปยังบริษัทภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับรายงาน (๒) แจ้งต่อเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดาเนินคดีแก่ผู้ซึ่งกระทาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ (๓) สั่งให้บริษัทดาเนินการให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัตินี้ (๔) แจ้งเป็นหนังสือต่อเจ้าหนี้หรือบุคคลซึ่งอาจได้รับความเสียหายตามที่ปรากฏจากรายงานการตรวจสอบ

มาตรา ๑๓๓

ให้บริษัทที่ได้รับรายงานตามมาตรา ๑๓๒ (๑) สรุปรายงานและส่งให้ผู้ถือหุ้นทราบภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ได้รับรายงาน ในการนี้ บริษัทต้องจัดให้มีสาเนารายงานครบชุดไว้ที่บริษัทเพื่อให้ผู้ถือหุ้นตรวจสอบได้

มาตรา ๑๓๔

ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบบริษัทนั้น ให้บุคคลดังต่อไปนี้ทดรองจ่ายไปก่อน คือ (๑) ผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นผู้ขอให้นายทะเบียนแต่งตั้งผู้ตรวจสอบ (๒) นายทะเบียน ในกรณีที่มีการตรวจสอบตามมาตรา ๑๒๙

มาตรา ๑๓๕

ในกรณีที่ผลการตรวจสอบเป็นไปดังที่ประสงค์จะตรวจสอบทั้งหมดหรือบางส่วน ให้บริษัทรับผิดชดใช้ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบที่บุคคลตามมาตรา ๑๓๔ ได้ออกทดรองจ่ายไป

หมวด ๑๐ การเพิ่มทุนและการลดทุน

มาตรา ๑๓๖

บริษัทจะเพิ่มทุนจากจานวนที่จดทะเบียนไว้แล้วได้โดยการออกหุ้นใหม่เพิ่มขึ้น การออกหุ้นเพิ่มตามวรรคหนึ่งจะกระทาได้เมื่อ (๑) หุ้นทั้งหมดได้ออกจาหน่ายและได้รับชาระเงินค่าหุ้นครบถ้วนแล้ว หรือในกรณีหุ้นยังจาหน่ายไม่ครบ หุ้นที่เหลือต้องเป็นหุ้นที่ออกเพื่อรองรับหุ้นกู้แปลงสภาพหรือใบสาคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น (๒) ที่ประชุมผู้ถือหุ้นลงมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจานวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน และ (๓) นามตินั้นไปจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียนต่อนายทะเบียนภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ที่ประชุมลงมติดังกล่าว ทั้งนี้ ให้นาหมวด ๓ และหมวด ๕ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา ๑๓๗

หุ้นที่เพิ่มขึ้นตามมาตรา ๑๓๖ จะเสนอขายทั้งหมดหรือบางส่วนก็ได้และจะเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นตามส่วนจานวนที่ผู้ถือหุ้นแต่ละคนมีอยู่แล้วก่อน หรือจะเสนอขายต่อประชาชนหรือบุคคลอื่นไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วนก็ได้ ทั้งนี้ ตามมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้นและให้นามาตรา ๓๘ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา ๑๓๘

เมื่อบริษัทจาหน่ายหุ้นที่เพิ่มได้บางส่วนแล้ว บริษัทจะขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชาระแล้วต่อนายทะเบียน โดยแบ่งออกเป็นงวด งวดละไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบห้าของจานวนหุ้นที่เสนอขายก็ได้ แต่ต้องกาหนดไว้ในหนังสือชี้ชวนหรือในเอกสารเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนด้วย นอกจากกรณีที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่งแล้ว ให้บริษัทขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชาระแล้วภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ได้รับชาระค่าหุ้นครบตามจานวนที่เสนอขายและกาหนดไว้ในหนังสือชี้ชวน หรือในเอกสารเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นต่อประชาชน ในการขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชาระแล้วตามมาตรานี้ บริษัทต้องส่งบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทเฉพาะผู้ถือหุ้นที่เพิ่ม โดยระบุชื่อ สัญชาติ ที่อยู่ จานวนหุ้นที่ถือและเลขที่ใบหุ้นไปด้วย

มาตรา ๑๓๙

บริษัทจะลดทุนจากจานวนที่จดทะเบียนไว้แล้วได้โดยการลดมูลค่าหุ้นแต่ละหุ้นให้ต่าลงหรือลดจานวนหุ้นให้น้อยลงก็ได้ แต่จะลดทุนลงไปให้ถึงต่ากว่าจานวนหนึ่งในสี่ของทุนทั้งหมดหาได้ไม่ ในกรณีที่บริษัทขาดทุนสะสม และได้มีการชดเชยผลขาดทุนสะสมตามมาตรา ๑๑๙ แล้ว ยังคงมีผลขาดทุนสะสมเหลืออยู่ บริษัทอาจลดทุนให้เหลือต่ากว่าจานวนหนึ่งในสี่ของทุนทั้งหมดก็ได้ การลดมูลค่าหุ้นหรือลดจานวนหุ้นตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองเป็นจานวนเท่าใด และด้วยวิธีการอย่างใด จะกระทาได้ต่อเมื่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นลงมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจานวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน ทั้งนี้ บริษัทต้องนามตินั้นไปขอจดทะเบียนภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ที่ประชุมลงมติ

มาตรา ๑๔๐

ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอาจลงมติให้ลดทุนโดยวิธีตัดหุ้นจดทะเบียนที่จาหน่ายไม่ได้หรือที่ยังมิได้นาออกจาหน่ายได้ เมื่อที่ประชุมมีมติแล้ว ให้บริษัทขอจดทะเบียนลดทุนภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ที่ประชุมลงมติ

มาตรา ๑๔๑

ในการลดทุนที่มิใช่กรณีตามมาตรา ๑๔๐ บริษัทต้องมีหนังสือแจ้งมติการลดทุนไปยังเจ้าหนี้ของบริษัทที่บริษัททราบภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นลงมติ โดยกาหนดเวลาให้ส่งคาคัดค้านภายในสองเดือนนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งมตินั้น และให้บริษัทโฆษณามตินั้นทางหนังสือพิมพ์ภายในกาหนดเวลาสิบสี่วันนั้นด้วย ถ้ามีการคัดค้าน บริษัทจะลดทุนมิได้จนกว่าจะได้ชาระหนี้หรือให้ประกันเพื่อหนี้นั้นแล้ว

มาตรา ๑๔๒

เมื่อได้ดาเนินการตามมาตรา ๑๓๙ และมาตรา ๑๔๑ แล้ว ให้บริษัทขอจดทะเบียนลดทุนต่อนายทะเบียนภายในกาหนดเวลาดังต่อไปนี้ (๑) สิบสี่วันนับแต่วันที่พ้นกาหนดตามมาตรา ๑๔๑ ในกรณีที่ไม่มีเจ้าหนี้คัดค้าน หรือ (๒) สิบสี่วันนับแต่วันที่ได้ชาระหนี้หรือให้ประกันเพื่อหนี้ ในกรณีที่มีเจ้าหนี้คัดค้าน ทั้งนี้ ให้นามาตรา ๑๓๘ วรรคสาม มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา ๑๔๓

เมื่อบริษัทได้ดาเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชาระแล้วตามมาตรา ๑๓๘ หรือจดทะเบียนลดทุนตามมาตรา ๑๔๐ หรือมาตรา ๑๔๒ แล้ว ให้บริษัทแจ้งแก่ผู้ถือหุ้นเป็นหนังสือและประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์อย่างน้อยหนึ่งฉบับภายในสิบสี่วัน นับแต่วันที่ได้จดทะเบียนเพิ่มทุนหรือลดทุน แล้วแต่กรณี

มาตรา ๑๔๔

ในกรณีที่เจ้าหนี้คนใดมิได้คัดค้านการลดทุนของบริษัทภายในกาหนดเวลาตามมาตรา ๑๔๑ เพราะไม่ทราบมติการลดทุน และเหตุที่ไม่ทราบนั้นมิได้เป็นความผิดของเจ้าหนี้คนนั้น ถ้าเจ้าหนี้คนนั้นประสงค์จะให้ผู้ถือหุ้นซึ่งได้รับเงินค่าหุ้นคืนแล้วต้องรับผิดต่อตนในจานวนเงินที่ได้รับคืนไปด้วย ต้องฟ้องคดีภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้จดทะเบียนลดทุน

หมวด ๑๑ หุ้นกู้

มาตรา ๑๔๕

การกู้เงินของบริษัทโดยการออกหุ้นกู้เพื่อเสนอขายต่อประชาชน ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และให้นามาตรา ๒๕ มาใช้บังคับโดยอนุโลม มติที่ให้ออกหุ้นกู้ตามวรรคหนึ่งต้องใช้มติของที่ประชุมผู้ถือหุ้น ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจานวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน

หมวด ๑๒ การควบบริษัท

มาตรา ๑๔๖

บริษัทตั้งแต่สองบริษัทขึ้นไป หรือบริษัทกับบริษัทเอกชนจะควบกันเป็นบริษัทก็ได้ โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นของแต่ละบริษัทที่จะควบกันลงมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจานวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน และในกรณีที่เป็นการควบกับบริษัทเอกชน ต้องมีมติพิเศษตามที่กาหนดไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในกรณีที่มีมติให้ควบบริษัทตามวรรคหนึ่งแล้ว แต่มีผู้ถือหุ้นคัดค้านการควบบริษัท บริษัทต้องจัดให้มีผู้ซื้อหุ้นของผู้ถือหุ้นดังกล่าวในราคาที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ครั้งสุดท้ายก่อนวันที่มีมติให้ควบบริษัท และในกรณีไม่มีราคาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ให้ใช้ราคาตามที่ผู้ประเมินราคาอิสระที่ทั้งสองฝ่ายแต่งตั้งขึ้นเป็นผู้กาหนด ถ้าผู้ถือหุ้นนั้นไม่ยอมขายภายในสิบสี่วันนับแต่วันได้รับคาเสนอขอซื้อให้บริษัทดาเนินการควบบริษัทต่อไปได้ และให้ถือว่าผู้ถือหุ้นดังกล่าวนั้นเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทที่ควบกันแล้ว

มาตรา ๑๔๗

บริษัทต้องมีหนังสือแจ้งมติการที่จะควบกันกับบริษัทอื่นไปยังเจ้าหนี้ของบริษัท และให้นามาตรา ๑๔๑ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา ๑๔๘

เมื่อได้ดาเนินการตามมาตรา ๑๔๗ แล้ว ให้ประธานกรรมการของบริษัทที่จะควบกันเรียกประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทนั้น ๆ ให้มาประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาในเรื่องดังต่อไปนี้ (๑) จัดสรรหุ้นของบริษัทที่ควบกันให้แก่ผู้ถือหุ้น (๒) ชื่อของบริษัทที่ควบกัน โดยจะใช้ชื่อใหม่หรือจะใช้ชื่อเดิมของบริษัทใดบริษัทหนึ่งที่จะควบกันก็ได้ (๓) วัตถุประสงค์ของบริษัทที่ควบกัน (๔) ทุนของบริษัทที่ควบกัน โดยจะต้องมีทุนไม่น้อยกว่าทุนชาระแล้วของบริษัทที่จะควบกันทั้งหมดรวมกัน และถ้าบริษัทที่จะควบกันได้นาหุ้นออกจาหน่ายครบตามจานวนที่จดทะเบียนไว้แล้วจะเพิ่มทุนในคราวเดียวกันนี้ก็ได้ (๕) หนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทที่ควบกัน (๖) ข้อบังคับของบริษัทที่ควบกัน (๗) เลือกตั้งกรรมการบริษัทที่ควบกัน (๘) เลือกตั้งผู้สอบบัญชีบริษัทที่ควบกัน (๙) เรื่องอื่น ๆ ที่จาเป็นในการควบบริษัท (ถ้ามี) ทั้งนี้ ต้องดาเนินการประชุมให้เสร็จสิ้นภายในหกเดือนนับแต่วันที่บริษัทใดบริษัทหนึ่งได้ลงมติให้ควบกันเป็นรายหลังสุด เว้นแต่ที่ประชุมตามมาตรานี้ลงมติให้ขยายเวลาออกไป แต่เมื่อรวมเวลาทั้งหมดแล้วต้องไม่เกินหนึ่งปี

มาตรา ๑๔๙

ในการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ร่วมกันตามมาตรา ๑๔๘ ให้นาบทบัญญัติว่าด้วยการนั้น ๆ มาใช้บังคับโดยอนุโลม เว้นแต่ที่บัญญัติไว้ดังต่อไปนี้ (๑) สถานที่ที่จะใช้เป็นที่ประชุมต้องอยู่ในท้องที่อันเป็นที่ตั้งสานักงานใหญ่ หรือจังหวัดใกล้เคียงของบริษัทใดบริษัทหนึ่งที่จะควบกัน (๒) ต้องมีผู้ถือหุ้นซึ่งมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจานวนหุ้นที่จาหน่ายได้ทั้งหมดของบริษัทที่จะควบกันมาประชุม จึงจะเป็นองค์ประชุม (๓) ให้ผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมเลือกผู้ถือหุ้นคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม (๔) การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุม ให้ถือเสียงข้างมากของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมตาม (๒)

มาตรา ๑๕๐

คณะกรรมการบริษัทเดิมต้องส่งมอบกิจการ ทรัพย์สิน บัญชี เอกสาร และหลักฐานต่าง ๆ ของบริษัทให้แก่คณะกรรมการบริษัทที่ควบกันแล้วภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่เสร็จสิ้นการประชุมตามมาตรา ๑๔๘

มาตรา ๑๕๑

คณะกรรมการบริษัทที่ควบกันแล้วต้องขอจดทะเบียนการควบบริษัทพร้อมกับยื่นหนังสือบริคณห์สนธิ และข้อบังคับที่ที่ประชุมตามมาตรา ๑๔๘ ได้อนุมัติแล้วต่อนายทะเบียนภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่เสร็จสิ้นการประชุมตามมาตรา ๑๔๘ และให้นามาตรา ๓๙ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา ๑๕๒

เมื่อนายทะเบียนรับจดทะเบียนการควบบริษัทแล้ว ให้บริษัทเดิมหมดสภาพจากการเป็นนิติบุคคล และให้นายทะเบียนหมายเหตุไว้ในทะเบียน

มาตรา ๑๕๓

บริษัทที่ควบกันและจดทะเบียนแล้วย่อมได้ไปทั้งทรัพย์สิน หนี้ สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของบริษัทเหล่านั้นทั้งหมด

หมวด ๑๓ การเลิกบริษัท

มาตรา ๑๕๔

เมื่อมีเหตุใดเหตุหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ดาเนินการเลิกบริษัท (๑) เมื่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นลงมติให้เลิกด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจานวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นซึ่งมาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน (๒) เมื่อบริษัทล้มละลาย (๓) เมื่อศาลมีคาสั่งให้เลิกบริษัทตามมาตรา ๑๕๕ และคาสั่งนั้นถึงที่สุดแล้ว

มาตรา ๑๕๕

ผู้ถือหุ้นซึ่งมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจานวนหุ้นที่จาหน่ายได้ทั้งหมดจะร้องขอให้ศาลสั่งเลิกบริษัทก็ได้ เมื่อมีเหตุใดเหตุหนึ่งดังต่อไปนี้ (๑) ผู้เริ่มจัดตั้งบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติเกี่ยวกับการประชุมจัดตั้งบริษัทหรือการจัดทารายงานการจัดตั้งบริษัท หรือคณะกรรมการบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติเกี่ยวกับการชาระเงินค่าหุ้น การโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินหรือทาเอกสารหลักฐานการใช้สิทธิต่าง ๆ ให้แก่บริษัทเพื่อชาระค่าหุ้น การจัดทาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หรือการจดทะเบียนบริษัท (๒) ถ้าจานวนผู้ถือหุ้นลดน้อยลงจนเหลือไม่ถึงสิบห้าคน (๓) กิจการของบริษัท หากทาไปจะมีแต่ขาดทุนและไม่มีหวังจะกลับฟื้นตัวได้อีก เมื่อมีการร้องขอให้ศาลสั่งในกรณีตาม (๑) หรือ (๒) ศาลจะสั่งให้บริษัทแก้ไขหรือปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายภายในเวลาที่กาหนด แต่ไม่เกินหกเดือนแทนการสั่งเลิกบริษัทก็ได้

มาตรา ๑๕๖

ในการเลิกหรือสั่งเลิกบริษัท ที่ประชุมผู้ถือหุ้น หรือศาล แล้วแต่กรณี ต้องแต่งตั้งและกาหนดค่าตอบแทนผู้ชาระบัญชีและผู้สอบบัญชีในคราวเดียวกันด้วย

มาตรา ๑๕๗

เมื่อมีการเลิกบริษัท ให้คณะกรรมการส่งมอบทรัพย์สิน บัญชี และเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ทั้งหมดของบริษัทให้แก่ผู้ชาระบัญชีภายในเจ็ดวันนับแต่วันเลิก

มาตรา ๑๕๘

การเลิกบริษัทให้มีผลนับแต่วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนเลิกบริษัท แต่ถ้าการชาระบัญชียังไม่เสร็จ ให้ถือว่าบริษัทยังดารงอยู่เท่าเวลาที่จาเป็นเพื่อการชาระบัญชี

หมวด ๑๔ การชาระบัญชี

มาตรา ๑๕๙

ในกรณีที่บริษัทเลิกโดยเหตุอื่นนอกจากเหตุล้มละลายให้จัดการชาระบัญชีตามบทบัญญัติแห่งหมวดนี้

มาตรา ๑๖๐

ผู้ชาระบัญชีมีอานาจและหน้าที่ดังต่อไปนี้ (๑) ดาเนินการงานของบริษัทเฉพาะที่จาเป็นเพื่อชาระสะสางกิจการงานที่ค้างอยู่ให้เสร็จสิ้นไป แต่ห้ามมิให้ดาเนินกิจการขึ้นใหม่ (๒) เก็บรวบรวมและรับเงินหรือทรัพย์สินที่บริษัทมีสิทธิจะได้รับจากบุคคลอื่นหรือขายทรัพย์สินของบริษัท (๓) ดาเนินการทั้งปวงเกี่ยวกับคดีแพ่งหรือคดีอาญา หรือประนีประนอมยอมความในเรื่องใด ๆ ในนามของบริษัท (๔) ชาระหนี้ในนามของบริษัท (๕) เรียกประชุมผู้ถือหุ้น (๖) แบ่งเงินหรือทรัพย์สินที่เหลืออยู่ภายหลังการชาระหนี้ให้แก่ผู้ถือหุ้น (๗) ดาเนินการตามมาตรา ๑๑ วรรคสาม (๘) ดาเนินการอย่างอื่นที่จาเป็นเพื่อให้การชาระบัญชีเสร็จสิ้น ในกรณีที่ผู้ชาระบัญชีดาเนินกิจการตาม (๑) เกินความจาเป็น จนเป็นเหตุให้เกิดการขาดทุนขึ้น ผู้ชาระบัญชีต้องรับผิดต่อบริษัทในส่วนที่ขาดทุนนั้น

มาตรา ๑๖๑

ภายในเจ็ดวันนับแต่วันได้รับการแต่งตั้ง ผู้ชาระบัญชีต้อง (๑) ขอจดทะเบียนเป็นผู้ชาระบัญชี (๒) ขอจดทะเบียนเลิกบริษัท (๓) ประกาศโฆษณาการเลิกบริษัทให้ประชาชนทราบโดยทางหนังสือพิมพ์

มาตรา ๑๖๒

ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันได้รับการแต่งตั้ง ผู้ชาระบัญชีต้อง (๑) แจ้งเป็นหนังสือให้เจ้าหนี้ที่ซึ่งมีชื่อปรากฏอยู่ในบัญชีและเอกสารของบริษัทยื่นคาทวงหนี้แก่ผู้ชาระบัญชีภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง (๒) แจ้งเป็นหนังสือให้ลูกหนี้ซึ่งมีชื่อปรากฏอยู่ในบัญชีและเอกสารของบริษัทชาระหนี้แก่ผู้ชาระบัญชี

มาตรา ๑๖๓

ก่อนชาระบัญชีเสร็จ ผู้ชาระบัญชีและผู้สอบบัญชีพ้นจากตาแหน่งเมื่อ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) ที่ประชุมผู้ถือหุ้นลงมติให้ถอดถอน (๔) ศาลสั่งถอดถอน เมื่อผู้ชาระบัญชีหรือผู้สอบบัญชีซึ่งที่ประชุมผู้ถือหุ้น หรือศาลแต่งตั้ง ตาย หรือลาออก ให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น หรือศาล แล้วแต่กรณี แต่งตั้งผู้อื่นเป็นผู้ชาระบัญชีหรือผู้สอบบัญชีแทน และให้นามาตรา ๑๖๑ (๑) มาใช้บังคับแก่ผู้ชาระบัญชีซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่ด้วย

มาตรา ๑๖๔

เมื่อมีเหตุอันสมควร ผู้ถือหุ้นซึ่งมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจานวนหุ้นที่จาหน่ายได้ทั้งหมด จะเรียกประชุมผู้ถือหุ้น และขอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นถอดถอนผู้ชาระบัญชีหรือผู้สอบบัญชีที่ผู้ถือหุ้นแต่งตั้งไว้แล้วและแต่งตั้งผู้อื่นแทนเมื่อใดก็ได้ แต่ถ้าผู้ชาระบัญชีหรือผู้สอบบัญชีนั้นเป็นผู้ซึ่งศาลเป็นผู้แต่งตั้ง ผู้ถือหุ้นคนใดคนหนึ่งจะร้องขอให้ศาลถอดถอนก็ได้ เมื่อผู้ถือหุ้นคนใดคนหนึ่งร้องขอและนายทะเบียนเห็นว่าผู้ชาระบัญชีหรือผู้สอบบัญชีไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัตินี้ นายทะเบียนจะร้องขอให้ศาลถอดถอนผู้ชาระบัญชีหรือผู้สอบบัญชี และแต่งตั้งผู้อื่นแทนเมื่อใดก็ได้

มาตรา ๑๖๕

ผู้ชาระบัญชีต้องจัดให้มีการทางบดุลและบัญชีกาไรขาดทุนของบริษัท ตั้งแต่วันเริ่มต้นรอบปีบัญชีจนถึงวันที่จดทะเบียนเลิกบริษัท และส่งให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบภายในสี่เดือนนับแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้งและเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้รับจากผู้สอบบัญชี

มาตรา ๑๖๖

ผู้ชาระบัญชีต้องส่งสาเนางบดุลและบัญชีกาไรขาดทุนที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติแล้ว พร้อมด้วยสาเนารายงานการประชุมผู้ถือหุ้นที่อนุมัติงบดุลและบัญชีกาไรขาดทุนนั้นให้นายทะเบียนภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติ

มาตรา ๑๖๗

ข้อจากัดอานาจใด ๆ ของผู้ชาระบัญชีนั้น จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้บุคคลภายนอกผู้กระทาการโดยสุจริตมิได้

มาตรา ๑๖๘

ในกรณีที่มีการแต่งตั้งผู้ชาระบัญชีหลายคน ผู้ชาระบัญชีแต่ละคนจะกระทาการใด ๆ โดยลาพังมิได้ เว้นแต่ที่ประชุมผู้ถือหุ้น หรือศาลจะได้กาหนดไว้เป็นอย่างอื่นในเวลาแต่งตั้งผู้ชาระบัญชี และผู้ชาระบัญชีได้ขอจดทะเบียนไว้แล้วพร้อมกับการขอจดทะเบียนเลิกบริษัท

มาตรา ๑๖๙

ผู้ชาระบัญชีต้องจัดการชาระค่าธรรมเนียม ค่าภาระติดพันและค่าใช้จ่ายซึ่งต้องเสียในการชาระบัญชีตามลาดับก่อนหนี้สินรายอื่น

มาตรา ๑๗๐

ถ้าเจ้าหนี้ของบริษัทมิได้ยื่นคาทวงหนี้แก่ผู้ชาระบัญชี ให้ผู้ชาระบัญชีวางเงินเท่าจานวนหนี้ตามที่ปรากฏในบัญชีและเอกสารหลักฐานของบริษัทไว้ ณ สานักงานวางทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยการวางทรัพย์สิน และให้ผู้ชาระบัญชีประกาศโฆษณาให้เจ้าหนี้ทราบโดยทางหนังสือพิมพ์ บรรดาเงินที่วางไว้ ณ สานักงานวางทรัพย์นั้น ถ้าเจ้าหนี้มิได้เรียกเอาภายในห้าปี ให้ตกเป็นของแผ่นดิน

มาตรา ๑๗๑

ในกรณีที่ผู้ชาระบัญชีเห็นว่าจาเป็นแก่การชาระบัญชี หรือเมื่อเจ้าหนี้ของบริษัทร้องขอ ผู้ชาระบัญชีจะเรียกเจ้าหนี้ของบริษัทมาประชุมร่วมกันกับผู้ชาระบัญชีเพื่อพิจารณากิจการและฐานะการเงินของบริษัท และทาความตกลงในเรื่องที่จะชาระหนี้ก็ได้ความตกลงในเรื่องการชาระหนี้แต่เพียงบางส่วนหรือโดยวิธีอื่นใดย่อมมีผลผูกพันเฉพาะเจ้าหนี้ที่ตกลงยินยอมด้วย

มาตรา ๑๗๒

เมื่อได้ชาระหนี้หรือกันเงินเพื่อการชาระหนี้ทั้งหมดของบริษัทแล้ว ถ้ายังมีทรัพย์สินเหลืออยู่อีก ให้ผู้ชาระบัญชีแบ่งทรัพย์สินนั้นระหว่างผู้ถือหุ้นตามส่วนของหุ้นที่แต่ละคนถือ เว้นแต่จะมีข้อตกลงไว้เป็นอย่างอื่นในข้อบังคับของบริษัทในเรื่องหุ้นบุริมสิทธิ

มาตรา ๑๗๓

ถ้าผู้ชาระบัญชีได้ดาเนินการตามที่บัญญัติไว้ในหมวดนี้แล้ว เห็นว่าทรัพย์สินของบริษัทยังไม่พอชาระหนี้ และไม่สามารถทาความตกลงประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ทั้งหมดได้ ให้ผู้ชาระบัญชีร้องขอต่อศาลเพื่อสั่งให้บริษัทนั้นล้มละลาย

มาตรา ๑๗๔

ผู้ชาระบัญชีต้องจัดทารายงานการชาระบัญชีพร้อมกับบัญชีรับจ่ายในการชาระบัญชีเสนอต่อนายทะเบียนทุกระยะสามเดือนนับแต่วันได้รับการแต่งตั้งจนกว่าจะเสร็จการชาระบัญชี รายงานการชาระบัญชีและบัญชีรับจ่ายในการชาระบัญชีต้องทาตามแบบและมีรายการตามที่กาหนดในกฎกระทรวง ถ้าปรากฏว่ามีข้อบกพร่องในการชาระบัญชี นายทะเบียนมีอานาจสั่งให้ผู้ชาระบัญชีแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวได้ ในการนี้ผู้ชาระบัญชีต้องดาเนินการแก้ไขและรายงานให้นายทะเบียนทราบภายในเวลาที่นายทะเบียนกาหนด

มาตรา ๑๗๕

ถ้าการชาระบัญชีไม่อาจทาให้เสร็จได้ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนเลิกบริษัท ผู้ชาระบัญชีต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้นทุกรอบปีภายในสี่เดือนนับแต่วันครบรอบปี เพื่อเสนอรายงานการชาระบัญชีที่ได้กระทาไปแล้วและที่จะกระทาต่อไปอีก พร้อมด้วยงบดุลและบัญชีกาไรขาดทุนให้ผู้ถือหุ้นทราบ

มาตรา ๑๗๖

เมื่อเสร็จการชาระบัญชีแล้ว ให้ผู้ชาระบัญชีจัดทารายงานผลการชาระบัญชีพร้อมด้วยบัญชีรับจ่าย และแถลงความเป็นไปในการชาระบัญชีให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติภายในสี่เดือนนับแต่วันเสร็จการชาระบัญชี เมื่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติรายงานและบัญชีตามวรรคหนึ่งแล้ว ผู้ชาระบัญชีต้องขอจดทะเบียนเสร็จการชาระบัญชีต่อนายทะเบียนภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติพร้อมกับส่งมอบบัญชีและเอกสารประกอบการลงบัญชีของบริษัททั้งหมดต่อนายทะเบียน เมื่อรับจดทะเบียนแล้ว ให้นายทะเบียนหมายเหตุไว้ในทะเบียนและเก็บรักษาบัญชีและเอกสารประกอบการลงบัญชีของบริษัทที่ได้ส่งมอบไว้ต่อนายทะเบียนเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าสามปีนับแต่วันจดทะเบียนเสร็จการชาระบัญชี

มาตรา ๑๗๗

ภายใต้บังคับมาตรา ๑๗๕ ผู้ชาระบัญชีต้องดาเนินการชาระบัญชีให้แล้วเสร็จภายในห้าปีนับแต่วันจดทะเบียนเลิกบริษัท ถ้าครบกาหนดห้าปีแล้วยังชาระบัญชีไม่แล้วเสร็จ ผู้ชาระบัญชีต้องทารายงานชี้แจงเหตุผลต่อนายทะเบียนทุกสามเดือน และให้นายทะเบียนมีอานาจสั่งให้ผู้ชาระบัญชีปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อเร่งรัดการชาระบัญชีได้ตามที่เห็นสมควร

มาตรา ๑๗๘

ในการฟ้องเรียกหนี้ซึ่งบริษัท ผู้ถือหุ้น หรือผู้ชาระบัญชีเป็นลูกหนี้ ห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นสองปีนับแต่วันจดทะเบียนเสร็จการชาระบัญชี

มาตรา ๑๗๙

การใดที่ต้องขออนุมัติ หรือขอความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นตามบทบัญญัติแห่งหมวดนี้ ถ้าไม่อาจจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นได้ ให้ผู้ชาระบัญชีขออนุมัติหรือขอความเห็นชอบต่อนายทะเบียน

หมวด ๑๕ การแปรสภาพบริษัทเอกชนเป็นบริษัท

มาตรา ๑๘๐

บริษัทเอกชนอาจแปรสภาพเป็นบริษัทได้เมื่อมีมติพิเศษตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ให้กระทาได้

มาตรา ๑๘๑

ในการประชุมผู้ถือหุ้นตามมาตรา ๑๘๐ หากที่ประชุมผู้ถือหุ้นลงมติให้แปรสภาพเป็นบริษัทตามพระราชบัญญัตินี้ คณะกรรมการต้องจัดให้มีการพิจารณาเรื่องดังต่อไปนี้ด้วย (๑) หนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทเอกชนที่จาเป็นต้องแก้ไข ทั้งนี้ จะมีการแก้ไขเพิ่มทุนของบริษัทเอกชนภายหลังการแปรสภาพแล้วด้วยก็ได้ (๒) ข้อบังคับของบริษัท (๓) เลือกตั้งกรรมการ (๔) เลือกตั้งผู้สอบบัญชีบริษัท (๕) เรื่องอื่น ๆ ที่จาเป็นในการแปรสภาพ ในการพิจารณาเรื่องตามวรรคหนึ่ง ให้นาบทบัญญัติเกี่ยวกับบริษัทว่าด้วยการนั้น ๆ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา ๑๘๒

คณะกรรมการบริษัทเอกชนต้องส่งมอบกิจการ ทรัพย์สิน บัญชี เอกสารและหลักฐานต่าง ๆ ของบริษัทเอกชนให้แก่คณะกรรมการที่ได้รับเลือกตั้งใหม่ภายในเจ็ดวันนับแต่วันเสร็จสิ้นการประชุมตามมาตรา ๑๘๑

มาตรา ๑๘๓

คณะกรรมการที่ได้รับเลือกตั้งใหม่ต้องขอจดทะเบียนการแปรสภาพบริษัทเอกชนพร้อมกับยื่นรายงานการประชุม หนังสือบริคณห์สนธิ และข้อบังคับที่ที่ประชุมตามมาตรา ๑๘๑ ได้อนุมัติแล้วต่อนายทะเบียนภายในสิบสี่วันนับแต่วันที่เสร็จสิ้นการประชุมตามมาตรา ๑๗๙ และให้นามาตรา ๓๙ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา ๑๘๔

เมื่อนายทะเบียนรับจดทะเบียนการแปรสภาพเป็นบริษัทตามพระราชบัญญัตินี้แล้ว ให้บริษัทเอกชนเดิมหมดสภาพจากการเป็นบริษัทจากัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์และให้นายทะเบียนหมายเหตุไว้ในทะเบียน

มาตรา ๑๘๕

บริษัทเอกชนที่จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทแล้วย่อมได้ไปทั้งทรัพย์สิน หนี้ สิทธิ และความรับผิดของบริษัทเอกชนเดิมทั้งหมด

หมวด ๑๖ นายทะเบียนและพนักงานเจ้าหน้าที่

มาตรา ๑๘๖

ในการดาเนินการรับจดทะเบียนตามพระราชบัญญัตินี้ ให้นายทะเบียนและพนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจสอบถามข้อเท็จจริง และให้ผู้ขอจดทะเบียนส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หรือนาบุคคลซึ่งเกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคาได้ตามความจาเป็น

มาตรา ๑๘๗

ในกรณีที่คาขอจดทะเบียนถูกต้องและครบถ้วนแล้ว ให้นายทะเบียนรับจดทะเบียน แต่ถ้าปรากฏว่าคาขอจดทะเบียนมีรายการไม่ถูกต้อง หรือแนบเอกสารไม่ครบถ้วน หรือรายการใดในคาขอจดทะเบียนหรือเอกสารมีข้อความขัดต่อกฎหมาย ให้นายทะเบียนแจ้งให้ผู้ขอจดทะเบียนจัดการแก้ไขให้ถูกต้อง หรือจัดให้มีครบถ้วน หรือทาให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อน เมื่อผู้ขอจดทะเบียนจัดการตามที่ได้รับแจ้งแล้ว ให้นายทะเบียนรับจดทะเบียน เมื่อรับจดทะเบียนแล้ว ให้นายทะเบียนประกาศรายการย่อแสดงข้อความที่รับจดทะเบียนไว้ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อมีการประกาศข้อความตามวรรคสองแล้ว ให้ถือว่าบุคคลทั่วไปได้ทราบข้อความที่ประกาศนับแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป ในกรณีที่นายทะเบียนมีคาสั่งไม่รับจดทะเบียน ให้แจ้งคาสั่งพร้อมด้วยเหตุผลที่ไม่รับจดทะเบียนเป็นหนังสือให้ผู้ขอจดทะเบียนทราบโดยเร็ว ในการนี้ผู้ขอจดทะเบียนจะอุทธรณ์คาสั่งของนายทะเบียนต่อรัฐมนตรีภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันได้รับแจ้งคาสั่งก็ได้คาวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด

มาตรา ๑๘๘

ในกรณีที่นายทะเบียนตรวจพบว่าบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นซึ่งบริษัทยื่นตามมาตรา ๖๔ ไม่ถูกต้อง ให้มีอานาจสั่งเป็นหนังสือให้บริษัทแก้ไขให้ถูกต้องภายในเวลาอันสมควรตามที่นายทะเบียนกาหนด

มาตรา ๑๘๙

เมื่อความปรากฏต่อนายทะเบียนว่ามีกรณีตามมาตรา ๑๕๕ (๑) หรือ (๒) เกิดขึ้นกับบริษัทใด ให้นายทะเบียนมีอานาจสั่งให้บริษัทแก้ไขหรือปฏิบัติให้ถูกต้องภายในเวลาที่นายทะเบียนกาหนด

มาตรา ๑๙๐

เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ ให้นายทะเบียนและพนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจเข้าไปในสานักงานและสถานที่ใด ๆ ของบริษัทในระหว่างเวลาทาการของบริษัทเพื่อตรวจสอบเอกสารและหลักฐานต่าง ๆ ที่บริษัทต้องจัดทาขึ้นตามพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งมีอานาจเรียกบุคคลซึ่งเกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคาด้วย ในการนี้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แสดงบัตรประจาตัวต่อบุคคลดังกล่าว และให้บุคคลเหล่านั้นช่วยเหลือและอานวยความสะดวกให้ตามสมควร บัตรประจาตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามแบบที่รัฐมนตรีกาหนด

หมวด ๑๗ บทกาหนดโทษ

มาตรา ๑๙๑

บริษัทใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๑ มาตรา ๒๕ มาตรา ๓๑ วรรคสอง มาตรา ๔๐ มาตรา ๔๘ มาตรา ๕๑ มาตรา ๕๕ วรรคหนึ่ง มาตรา ๕๘ มาตรา ๕๙ มาตรา ๖๒ วรรคสอง มาตรา ๖๓ วรรคสอง มาตรา ๖๔ มาตรา ๖๕ วรรคสาม มาตรา ๑๐๘ วรรคสอง มาตรา ๑๒๗ มาตรา ๑๓๓ มาตรา ๑๓๘ วรรคสอง มาตรา ๑๔๒ มาตรา ๑๔๓ มาตรา ๑๔๕ วรรคสอง มาตรา ๑๘๘ หรือมาตรา ๑๘๙ ต้องระวางโทษปรับไม่กินสองหมื่นบาท

มาตรา ๑๙๒

ผู้เริ่มจัดตั้งบริษัทคนใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๐ วรรคสาม มาตรา ๒๘ หรือมาตรา ๓๗ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

มาตรา ๑๙๓

ผู้เริ่มจัดตั้งบริษัทคนใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๖ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกแสนบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ

มาตรา ๑๙๔

ผู้เริ่มจัดตั้งบริษัทคนใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๗ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

มาตรา ๑๙๕

คณะกรรมการบริษัทใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๓๗ วรรคสอง มาตรา ๗๔ มาตรา ๗๙ มาตรา ๘๓ วรรคสอง มาตรา ๙๖ วรรคสาม มาตรา ๙๘วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๐๐ มาตรา ๑๐๑ มาตรา ๑๐๕ วรรคสาม มาตรา ๑๑๒ มาตรา ๑๑๓ มาตรา ๑๑๕ วรรคสี่ มาตรา ๑๕๑ หรือมาตรา ๑๘๓ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

มาตรา ๑๙๖

คณะกรรมการบริษัทใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๓๙ มาตรา ๔๐ มาตรา ๑๕๐ มาตรา ๑๕๗ หรือมาตรา ๑๘๒ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท

มาตรา ๑๙๗

คณะกรรมการบริษัทใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๓ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกแสนบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ

มาตรา ๑๙๘

ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๕๕ วรรคสอง ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท

มาตรา ๑๙๙

ผู้เริ่มจัดตั้งบริษัทคนใดฝ่าฝืนมาตรา ๕๗ วรรคสอง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือสองเท่าของมูลค่าหุ้นที่โอน สุดแต่จานวนใดจะมากกว่า

มาตรา ๒๐๐

บริษัทใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๖๑ มาตรา ๖๒ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๙๖ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท

มาตรา ๒๐๑

บริษัทใดฝ่าฝืนมาตรา ๖๖ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือสองเท่าของมูลค่าหุ้นที่ถือหรือรับจานาไว้ สุดแต่จานวนใดจะมากกว่า

มาตรา ๒๐๒

ประธานคณะกรรมการบริษัทหรือผู้ได้รับมอบหมายผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๘๑ วรรคสอง หรือมาตรา ๘๒ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท

มาตรา ๒๐๓

กรรมการบริษัทคนใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๘๘ หรือปฏิบัติตามแต่ไม่ครบถ้วนหรือไม่ตรงกับความจริง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

มาตรา ๒๐๔

กรรมการ กรรมการผู้จัดการ หรือบุคคลซึ่งมีอานาจกระทาการแทนบริษัทผู้ใดกระทาการใด ๆ อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๘๙ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือสองเท่าของจานวนเงินที่ให้กู้ยืม สุดแต่จานวนใดจะมากกว่า

มาตรา ๒๐๕

บริษัทใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๐๙ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท และปรับเป็นรายวันอีกวันละสองพันบาทจนกว่าจะปฏิบัติถูกต้อง

มาตรา ๒๐๖

บริษัทใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๑๐ มาตรา๑๑๑ หรือมาตรา ๑๓๗ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

มาตรา ๒๐๗

คณะกรรมการบริษัทใดแสดงรายการตามมาตรา ๑๑๔ (๓) (๔) หรือ (๕) ไม่ครบถ้วนหรือไม่ตรงกับความจริง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

มาตรา ๒๐๘

บริษัทใดไม่ดาเนินการให้ถูกต้องตามคาสั่งของนายทะเบียนซึ่งสั่งตามมาตรา ๑๓๒ (๓) ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท

มาตรา ๒๐๙

ผู้ชาระบัญชีผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๖๐ (๗) หรือมาตรา ๑๖๑ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท

มาตรา ๒๑๐

ผู้ชาระบัญชีผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๖๕ มาตรา ๑๖๖ มาตรา ๑๗๐ วรรคหนึ่ง มาตรา๑๗๔ วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง มาตรา ๑๗๕ มาตรา ๑๗๖ วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง หรือไม่ปฏิบัติตามคาสั่งของนายทะเบียนตามมาตรา ๑๗๔ วรรคสาม ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท

มาตรา ๒๑๑

ผู้ชาระบัญชีผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๗๗ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท

มาตรา ๒๑๒

ผู้ใดขัดขวาง หรือไม่อานวยความสะดวกให้แก่ผู้ตรวจสอบซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๑๓๐ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๑๙๐ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ

มาตรา ๒๑๓

ผู้ใดใช้ชื่อหรือยี่ห้อซึ่งมีอักษรไทยว่า “บริษัทมหาชน จากัด” “บริษัท” หรือ “จากัด (มหาชน)” หรือ “บมจ.” หรืออักษรต่างประเทศซึ่งมีความหมายดังกล่าวประกอบในจดหมาย ประกาศ ใบแจ้งความ ใบส่งของ ใบเสร็จรับเงินหรือเอกสารอย่างอื่นเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัท โดยมิได้เป็นบริษัท เว้นแต่เป็นการใช้ในการขอจดทะเบียนเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัท หรือในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนหรือในหนังสือชี้ชวนให้ซื้อหุ้น ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท และปรับอีกวันละหนึ่งพันบาท จนกว่าจะเลิกใช้

มาตรา ๒๑๔

กรรมการหรือผู้ชาระบัญชีของบริษัทใด โดยทุจริต แสดงออกซึ่งความเท็จหรือปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเรื่องฐานะการเงินของบริษัทนั้น ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท

มาตรา ๒๑๕

บุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดาเนินงานของบริษัทใดกระทาการหรือไม่กระทาการเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อตนเองหรือผู้อื่นอันเป็นการเสียหายแก่บริษัทนั้น ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท

มาตรา ๒๑๖

บุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดาเนินงานของบริษัทใดกระทาหรือยินยอมให้กระทาการดังต่อไปนี้ (๑) ทาให้เสียหาย ทาลาย เปลี่ยนแปลง ตัดทอน หรือปลอมบัญชี เอกสาร หรือหลักประกันของบริษัท หรือที่เกี่ยวกับบริษัท หรือ (๒) ลงข้อความเท็จ หรือไม่ลงข้อความสาคัญในบัญชีหรือเอกสารของบริษัท หรือที่เกี่ยวกับบริษัท ถ้ากระทาหรือยินยอมให้กระทาเพื่อลวงให้บริษัทหรือผู้ถือหุ้นขาดประโยชน์อันควรได้ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ

มาตรา ๒๑๗

ผู้ใดโฆษณาโดยอ้างถึงบุคคล ตาแหน่งหน้าที่บัญชี รายงาน หรือกิจการอันเกี่ยวกับบริษัทอันเป็นเท็จในสาระสาคัญ หรือปกปิดข้อความอันเป็นสาระสาคัญ เพื่อ (๑) ลวงผู้มีส่วนได้เสียในบริษัทนั้นให้ขาดประโยชน์อันควรได้จากบริษัทนั้น หรือ (๒) จูงใจบุคคลให้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นหรือหุ้นกู้ ให้มอบหมายหรือให้ส่งทรัพย์สินให้แก่บริษัทนั้น หรือให้เข้าเป็นผู้ค้าประกันหรือให้ทรัพย์สินเป็นประกันบริษัทนั้น ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกแสนบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ

มาตรา ๒๑๘

ผู้ใดเข้าร่วมในที่ประชุมจัดตั้งบริษัทหรือในที่ประชุมผู้ถือหุ้น และลงคะแนนออกเสียงหรืองดลงคะแนนเสียงโดยลวงว่าตนเป็นผู้จองหุ้น ผู้ถือหุ้น หรือผู้มีสิทธิออกเสียงแทนผู้จองหุ้น หรือผู้ถือหุ้น ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาทผู้ใดให้อุปการะแก่การกระทาความผิดในวรรคหนึ่ง โดยส่งมอบเอกสารแสดงการจองหุ้นหรือใบหุ้นซึ่งได้ใช้เพื่อการดังกล่าวแล้ว ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน

มาตรา ๒๑๙

ผู้ใดโดยทุจริตกาหนดค่าทรัพย์สินหรือสิ่งที่นามาชาระเป็นค่าหุ้นสูงกว่ามูลค่าที่แท้จริง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองเท่าของจานวนที่สูงกว่ามูลค่าที่แท้จริงนั้น

มาตรา ๒๒๐

ผู้ใดได้ล่วงรู้กิจการของบริษัทใดเนื่องจากการปฏิบัติตามอานาจหน้าที่ที่กาหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ อันเป็นกิจการที่ตามปกติวิสัยของบริษัทจะพึงสงวนไว้ไม่เปิดเผย ถ้าผู้นั้นนาไปเปิดเผยนอกจากตามอานาจหน้าที่หรือเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนหรือการพิจารณาคดี ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจาทั้งปรับ

มาตรา ๒๒๑

ในกรณีที่นิติบุคคลเป็นผู้กระทาความผิดและถูกลงโทษตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้แทนนิติบุคคลซึ่งรู้เห็นเป็นใจกับการกระทาความผิดนั้นหรือซึ่งมิได้จัดการตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดนั้น ต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้สาหรับความผิดนั้น ๆ ด้วย

มาตรา ๒๒๒

ในกรณีที่บริษัทเป็นผู้กระทาความผิดและถูกลงโทษตามพระราชบัญญัตินี้กรรมการซึ่งรู้เห็นเป็นใจกับการกระทาความผิดนั้น หรือซึ่งมิได้จัดการตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดนั้น ต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้สาหรับความผิดนั้น ๆ ด้วย

มาตรา ๒๒๒/๑

บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ที่มีโทษปรับสถานเดียว ให้อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าหรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามอบหมายมีอานาจเปรียบเทียบได้ เมื่อผู้กระทาความผิดได้ชาระเงินค่าปรับตามจานวนที่เปรียบเทียบภายในระยะเวลาที่กาหนดแล้ว ให้ถือว่าคดีเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ถ้าผู้กระทาความผิดไม่ยินยอมตามที่เปรียบเทียบหรือเมื่อยินยอมแล้วไม่ชาระเงินค่าปรับภายในเวลาที่กาหนดให้ดาเนินคดีต่อไป

บทเฉพาะกาล

มาตรา ๒๒๓

ให้บรรดาบริษัทที่ได้จัดตั้งตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจากัด พ.ศ. ๒๕๒๑ ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับเป็นบริษัทตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๒๒๔

การเสนอขายหุ้นและหุ้นกู้ต่อประชาชนที่ได้รับการจดทะเบียนหนังสือชี้ชวนให้ซื้อหุ้นหรือหุ้นกู้โดยถูกต้องตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจากัด พ.ศ. ๒๕๒๑ ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ดาเนินการตามพระราชบัญญัติดังกล่าวต่อไปได้

มาตรา ๒๒๕

บรรดากฎกระทรวง ประกาศและคาสั่งที่ออกตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจากัด พ.ศ. ๒๕๒๑ ซึ่งใช้บังคับอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้ได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ จนกว่าจะมีกฎกระทรวง ประกาศ และคาสั่งที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อานันท์ ปันยารชุน นายกรัฐมนตรี

อัตราค่าธรรมเนียม

(๑) การจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิบริษัท ทุกจานวนเงินไม่เกิน ๑ ๐๐๐ ๐๐๐ บาท แห่งจานวนทุนที่กาหนดไว้ ๑ ๐๐๐ บาท เศษของ ๑ ๐๐๐ ๐๐๐ บาท ให้คิดเป็น ๑ ๐๐๐ ๐๐๐ บาท แต่เมื่อรวมกันแล้วไม่เกิน ๕๐ ๐๐๐ บาท (๒) การจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ เพื่อเพิ่มทุนก่อนจดทะเบียนเป็นบริษัท ทุกจานวนเงินไม่เกิน ๑ ๐๐๐ ๐๐๐ บาท แห่งจานวนทุนที่กาหนดเพิ่มขึ้น ๑ ๐๐๐ บาท เศษของ ๑ ๐๐๐ ๐๐๐ บาท ให้คิดเป็น ๑ ๐๐๐ ๐๐๐ บาท แต่เมื่อรวมกันแล้วไม่เกิน ๕๐ ๐๐๐ บาท (๓) การจดทะเบียนบริษัท ทุกจานวนเงินไม่เกิน ๑ ๐๐๐ ๐๐๐ บาท แห่งจานวนทุนที่กาหนดไว้ ๑ ๐๐๐ บาท เศษของ ๑ ๐๐๐ ๐๐๐ บาท ให้คิดเป็น ๑ ๐๐๐ ๐๐๐ บาท แต่เมื่อรวมกันแล้วไม่เกิน ๒๕๐ ๐๐๐ บาท (๔) การจดทะเบียนแปรสภาพบริษัทเอกชน ทุกจานวนเงินไม่เกิน ๑ ๐๐๐ ๐๐๐ บาท แห่งจานวนทุนที่กาหนดไว้ ๑ ๐๐๐ บาท เศษของ ๑ ๐๐๐ ๐๐๐ บาท ให้คิดเป็น ๑ ๐๐๐ ๐๐๐ บาทแต่เมื่อรวมกันแล้วไม่เกิน ๕๐ ๐๐๐ บาท (๕) การจดทะเบียนเพิ่มทุนบริษัท ทุกจานวนเงินไม่เกิน ๑ ๐๐๐ ๐๐๐ บาท แห่งจานวนทุนที่กาหนดเพิ่มขึ้น ๑ ๐๐๐ บาท เศษของ ๑ ๐๐๐ ๐๐๐ บาท ให้คิดเป็น ๑ ๐๐๐ ๐๐๐ บาท แต่เมื่อรวมกันแล้วไม่เกิน ๒๕๐ ๐๐๐ บาท (๖) การจดทะเบียนลดทุนบริษัท ๕๐๐ บาท (๗) การจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิบริษัทนอกจากกรณีเพิ่มทุนตาม (๒)๕๐๐ บาท (๘) การจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของบริษัท ๕๐๐ บาท (๙) การจดทะเบียนตั้งกรรมการใหม่ คนละ ๕๐๐ บาท (๑๐) การจดทะเบียนควบบริษัท ๑๐ ๐๐๐ บาท (๑๑) การจดทะเบียนเลิกบริษัท ๕๐๐ บาท (๑๒) การจดทะเบียนเรื่องอื่น ๆ เรื่องละ ๕๐๐ บาท (๑๓) การออกใบสาคัญหรือใบแทนใบสาคัญแสดงการจดทะเบียน ฉบับละ ๒๐๐บาท (๑๔) การตรวจเอกสารของแต่ละบริษัทครั้งละ ๕๐ บาท (๑๕) การขอสาเนาหรือขอให้ถ่ายเอกสารพร้อมทั้งคารับรอง หน้าละ ๕๐ บาท ถ้าเป็นการขอสาเนาหรือขอถ่ายเอกสารพร้อมทั้งคารับรองของบริษัทนอกเขตจังหวัดอันเป็นที่ตั้งสานักงานใหญ่ของบริษัทนั้น ให้เรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้เท่าที่จาเป็นและใช้จ่ายไปจริง (๑๖) การรับรองข้อความในทะเบียน เรื่องละ ๕๐ บาท ถ้าเป็นการรับรองข้อความในทะเบียนของบริษัทนอกเขตจังหวัดอันเป็นที่ตั้งสานักงานใหญ่ของบริษัทนั้นให้เรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้เท่าที่จาเป็นและใช้จ่ายไปจริง (๑๗) ค่าธรรมเนียมในการออกเอกสารต่าง ๆ ตามข้อบังคับ ของบริษัท/ครั้ง/ฉบับ/หน้า ๑๐ บาท

「1992년 공장법」

 국가 · 지역 : 태국  제정일 : 1992년 4월 2일  최종개정일 2019년 4월 26일 일부개정 「2019년 공장법 (제3권)」

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นปีที่ ๔๗ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยโรงงาน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคาแนะนาและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทาหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้ 푸미폰아둔야뎃 국왕 폐하께서 현 왕조의 47번째 해인 1992년 (불기2535년) 4월 2일에 하사하셨다. 푸미폰아둔야뎃 국왕 폐하께서는 다음과 같이 공포하도록 하셨다. 공장 관련 법률을 개정하는 것이 마땅하다. 그러므로 국왕 폐하께서는 입법부의 조언과 승인을 통하여 다음과 같이 이 법을 제정하도록 하셨다.

제1조

이 법은 “1992년 공장법이라고 한다.

제2조

이 법은 관보에 게재한 날부터 90일이 경과한 날에 시행하도록 한다.

제3조

다음 각 항의 법률은 폐지하도록 한다. (1) 1969년 공장법 (2) 1975년 공장법(제2권) (3) 1979년 공장법(제3권)

제4조

국가 안정과 안전을 위하여 국가에 의하여 운영되는 국영공장에 대해서는 이 법을 적용하지 아니하나, 그러한 공장 운영에는 이 법에 따른 공장 운영과 관련한 원칙과 절차를 업무 수행의 지침으로 하도록 한다.

제4조의1

내각의 승인을 통하여 장관은 다음 각 항의 어느 하나에 해당하는 공장에 대하여 이 법률의 규정에 따른 집행에 대한 일부 면제를 고시할 권한을 갖도록 한다. 이와 관련하여, 정한 원칙과 절차 및 조건을 따른다. (1) 제4항에 따라 면제된 공장 이외의 국영 공장 (2) 연구 목적의 공장 (3) 훈련을 위한 목적이 있는 부분에서의 교육기관의 공장 (4) 가내수공업 형태로 운영되는 공장 (5) 이 법에 따른 공장이 아니며, 같은 지역에 위치하는 사업에 대하여 필요성과 관련성이 있는 운영을 하는 공장

제5조

이 법에서 사용하는 용어의 뜻은 다음과 같다. “공장”이란 총 동력 50마력 또는 이에 상당하는 동력 50마력 이상의 기계를 사용하거나, 공장 운영을 위하여 기계 사용 여부에 관계없이 50인 이상의 공원을 사용하는 건물이나 장소 또는 차량을 말한다. 이와 관련하여 부령에서 정하는 공장의 유형 또는 종류를 따른다. “공장 설치”란 공장 운영을 위한 기계를 공장을 운영하는 건물이나 장소 또는 차량에 설치하거나, 기계를 사용하지 아니하는 경우에는 공원을 공장 운영에 투입하는 것을 말한다. “공장 운영”이란 공장의 속성에 따라 어떠한 것을 제조하거나 생산, 조립, 포장, 수리, 정비, 실험, 개선, 가공, 운송, 보관 또는 파괴하는 것을 말하나, 기계를 시운전하는 것은 포함하지 아니한다. “기계”란 물이나 증기, 바람, 가스, 전기 에너지 또는 어떠한 한가지 또는 여러가지가 합쳐진 기타 에너지로 에너지를 생산하거나, 변환, 변성 또는 전송하는 용도의 하나 또는 여러 개의 부품으로 구성되는 물품을 말하여, 상호 작동하는 관성바퀴, 도르래, 벨트, 샤프트, 또는 기타를 합하여 말한다. “공원”이란 공장에서 근로하는 사람을 말한다. 이와 관련하여 사무직에서 근로하는 사람은 포함하지 아니한다. “허가권자”란 사무 차관 또는 적합한 바에 따라 사무 차관이 위임한 사람을 말한다. “허가증”란 공장 운영 허가증을 말한다. “민간조사관”이란 이 법에 따른 조사 또는 인증 허가를 받은 사람을 말한다. “담당관”이란 이 법에 따라 집행하도록 장관이 임명하는 사람을 말한다. “지방행정기관”이란 시, 구 행정기관, 방콕시, 팟타야시 및 법률에 의하여 설치되는 기타 지방 행정 기관을 말하나, 도 행정 기관은 포함하여 말하지 아니한다. “지방공무원”이란 시 직원과 구 직원, 방콕시 공무원, 팟타야시 직원 및 법률에 의하여 설치되는 기타 지방 행정 기관의 공무원 또는 직원을 말하나, 도 행정 기관 공무원은 포함하여 말하지 아니한다. “사무차관”이란 산업부 사무 차관을 말한다. “장관”이란 이 법에 따른 주무 장관을 말한다.

제6조

산업부 장관이 이 법에 따른 주무 장관이 되도록 하며, 이 법에 따른 집행을 위하여 담당관을 임명하고 부령을 제정하며 이 법의 별표에 따른 요율을 초과하지 아니하는 수수료를 규정 및 감면하고 기타 사업을 규정 및 고시하는 권한을 갖도록 한다. 첫번째 단락에 따른 수수료 규정에 관한 부령 제정은 공장의 유형이나 종류 또는 규모를 고려하여 수수료를 다르게 정할 수도 있다. 해당 부령 및 고시는 관보에 게재한 때에 시행할 수 있도록 한다.

제1장 공장 운영

제7조

장관은 국민 또는 환경에 미치는 영향의 심각성에 따른 감독과 안온방해 방지, 피해 방지 및 위험 방지를 고려하여, 공장을 어떤 유형이나 종류 또는 규모에 따라 경우에 상응하도록 제1종 공장이나 제2종 공장 또는 제3종 공장으로 다음 각 항과 같이 구분하여 규정하는 부령 제정권을 갖도록 한다. (1) 제1종 공장은 공장 경영자의 목적에 따라 즉시 공장을 운영할 수 있는 유형과 종류 및 규모의 공장이다. (2) 제2종 공장은 공장을 운영하기 전에 담당관에게 신고하여야 하는 유형과 종류 및 규모의 공장이다. (3) 제3종 공장은 공장 설립 전에 허가증을 취득하여야 진행 가능한 유형과 종류 및 규모의 공장이다. 제32조제(1)항에 따른 장관의 고시가 있는 때에는 해당 고시에서 정하는 공장은 제3종 공장이 되도록 한다.

제8조

공장 운영 감독의 편의를 위하여 장관에게 제7조에 따른 어떤 한 종류 또는 여러 종류의 공장들이 다음 각 항의 어느 하나에 해당하는 사안을 준수하도록 하기 위한 부령 제정권을 갖도록 한다. (1) 공장의 위치나 공장의 환경 및 공장의 건물 형태 또는 공장의 내부 형태 관련 원칙 규정 (2) 공장 운영에 사용되어야 하는 기계나 기구 또는 물품의 형태나 유형 또는 종류 규정 (3) 공장에서의 어떤 직무 수행을 위한 공장의 유형이나 종류 또는 규모에 따른 특정 지식을 갖춘 공원을 두도록 규정 (4) 공장 내에 있거나 인접해 있는 사람 또는 재산에 발생할 수 있는 위험이나 피해 또는 고통을 예방하거나 중지 또는 완화하기 위한 수행 원칙과 생산 공정 및 기타 장비 또는 기구 마련 규정 (5) 환경에 영향을 미치는 공장 운영에서 발생하는 폐기물이나 공해 또는 기타의 배출 통제 기준 및 방법 규정 (6) 법률 준수에 대한 감독 또는 조사의 편의를 위하여 공장에 필수적인 서류를 갖추도록 하는 규정 (7) 공장 운영자가 그때그때 또는 규정된 기간에 따라 신고하여야 하는 공장 운영 관련 필수 자료 규정 (8) 공장 운영으로 인하여 발생할 수 있는 위험 또는 피해를 예방하거나 중지 또는 완화하기 위하여 수행하는 업무 안전 관리를 위한 기타 규정 첫번째 단락에 따른 부령은 어떤 유형이나 종류 또는 규모의 공장에 대하여 어떤 하나의 사안에서 이행을 면제할 수도 있다. 또한 해당 부령은 기술 측면의 상세 사항이 되거나 사회상에 따라 신속한 변경이 필요한 사안에 대하여 관보에 게재하여 장관이 정하는 원칙에 따르도록 규정한다.

제9조

이 법률의 규정이 공장 또는 기계에 대한 조사를 실시하도록 하거나 관련한 기타 조치를 하도록 규정하는 경우, 담당관의 직무 수행을 민간조사관이 대행하고 조사결과보고서를 작성하도록 규정할 수도 있다. 이와 관련하여 장관이 관보에 게재하여 정하는 규칙을 따른다. 이 법률의 어떤 규정이 공장 운영자가 이행하여야 하는 어떤 한가지 임무를 규정하는 경우, 공장 운영자는 이행 및 민간조사관의 인증이 완료된 임무이행결과보고서를 담당관에게 제출하여야 한다. 첫번째 단락 및 두번째 단락에 따른 민간조사관은 허가권자로부터 조사 또는 인증 허가증을 취득하여야 한다. 조사 또는 인증 허가증 신청 및 발급과 조사 방법, 조사 기한, 조사결과보고서 작성과 공장 운영자의 임무이행결과보고서 제출 기한 및 인증과 아울러 조사 또는 서비스 요율은 부령에서 정하는 원칙과 절차 및 조건을 따르도록 한다.

제9조의1

자연인인 조사 또는 인증 허가증 신청자는 다음 각 항에 해당하는 자격을 갖추어야 하며, 금지 사항에는 해당하지 아니하여야 한다. ㄱ. 자격 (1) 태국 국적자 (3) 엔지니어 관련 법률에 따른 엔지니어전문직 자격증 또는 과학 및 기술 전문직 진흥 관련 법률에 따른 과학 및 기술 전문직 자격증 소지 및 환경 분야나 안전 분야, 화학물질 분야, 전기 분야, 에너지 분야, 기기 분야, 토목 분야 또는 기타 산업용 공장 관련 분야의 경력을 갖춘 사람으로서, 관련하여 각 분야의 업무 경력 기간은 합산 가능 (3) 장관이 관보에 게재하여 정하는 원칙과 절차에 따른 공장 또는 기계 조사나 인증 분야 훈련 및 시험 통과자 ㄴ. 금지 사항 (1) 파산자나 부정 파산 이력자 또는 재산 관리 상태 중에 있는 사람 (2) 정신이상자나 금치산자 또는 한정치산자 (3) 형을 선고받고 그 집행이 끝나거나 그 집행을 받지 아니하기로 확정된 날부터 조사 또는 인증 허가증 신청서 제출일까지 5년 이상 경과한 것을 제외하고, 공장 관련 법률에 따른 위법 행위자로 최종 판결에서 금고형을 선고받은 적이 있는 사람 (4) 최종 판결에서 금고형을 선고받거나 법원의 영장에 의하여 구금 중에 있는 사람 (5) 엔지니어 관련 법률에 따른 엔지니어전문직 자격증 또는 과학 및 기술 진흥 관련 법률에 따른 과학 및 기술 전문직 자격증이 사용 중지 중이거나 취소된 사람 (6) 중대한 규율 위반으로 인하여 공직이나 국가기관 또는 국영기업에서 파면이나 해임 또는 면직된 이력이 있는 사람

제9조의2

법인인 조사 또는 인증 허가증 신청자는 다음 각 항의 자격을 갖추어야 하며, 금지 사항에는 해당하지 아니하여야 한다. ㄱ. 자격 (1) 공장이나 기계 조사 또는 인증 관련 사업 운영이나 서비스 제공을 위한 목적을 가진 태국 법률에 따른 법인이며, 100만바트 이상의 가치가 있는 등기 자본 또는 납입 자본을 보유한 법인이어야 한다. (2) 업무집행사원이나 이사 또는 법인 경영진의 구성원 중 1인 이상이 제9조의1의 자격을 갖추고 금지 사항에는 해당하지 아니하여야 한다. (3) 제9조의1의 자격을 갖추었으며, 금지 사항에는 해당하지 아니하는 장관이 고시하는 바에 따른 인원수의 민간조사관이 해당 법인에 상근하여야 한다. (4) 환경 분야나 안전 분야, 화학물질 분야, 전기 분야, 에너지 분야, 기기 분야, 토목 분야 또는 기타 산업용 공장과 관련 분야의 범위에서 조사기관 또는 인증기관 관련 기준 인증을 받아야 한다. ㄴ. 금지 사항 (1) 파산자나 부정 파산 이력자 또는 재산 관리 상태 또는 회사가 회생 상태 중에 있는 사람 (2) 벌금형만 존재하는 위법 행위를 제외하고 최종 판결에서 공장 관련 법률에 따른 위법 행위자로 선고된 이력이 있는 사람 (3) 제9조의1ㄴ.제(5)항에 따른 금지 사항에 해당하는 사람

제9조의3

제9조에 따른 조사 또는 인증 허가증은 조사 또는 인증 허가증 발행일부터 3년째 되는 역년 말일까지 사용하도록 한다. 조사 또는 인증 허가증 유효 기간을 연장하고자 하는 민간조사관은 허가증의 유효 기간이 만료하기 전 적어도 15일 전에 허가증 연장 신청서를 제출하도록 하며, 허가권자는 허가증 연장 신청서를 접수한 날부터 15일 이내에 허가증 유효 기간 연장 검토를 완료하도록 한다. 유효 기간 연장 신청 및 조사 또는 신청 허가증 유효 기간 허가는 부령에서 정하는 원칙과 절차 및 조건을 따르도록 한다.

제9조의4

조사 또는 인증 허가증이 소실 또는 주요 내용이 훼손되거나, 파손되는 경우, 민간조사관은 소실이나 훼손 또는 파손 사실을 인지한 날부터 15일 이내에 허가권자에게 조사 또는 인증 허가증 대체 증서 신청서를 제출하도록 한다. 조사 또는 인증 허가증 대체 증서 신청 및 발급은 부령에서 정하는 원칙과 절차 및 조건을 따르도록 한다.

제9조의5

어떤 민간조사관이 다음 각 항의 어느 하나에 해당하는 행위를 하였다는 것을 적발한 때에는 허가권자가 조사 또는 인증 허가증 사용 중지 명령권을 갖는다. (1) 이 법률을 위반하거나 준수하지 아니한 경우, 허가권자가 서면으로 정한 기한 내에 올바르게 이행하도록 경고하였으나, 해당 기한 내에 올바른 이행이 없는 때 (2) 잘못된 조사 또는 인증 결과를 보고하여 담당관이 제37조 및 제39조에 따른 명령을 하도록 하는 원인이 된 때 첫번째 단락에 따른 조사 또는 인증 허가증 사용 중지 명령은 1회당 90일을 초과하지 아니하도록 하며, 허가증 사용 중지 기간 동안에는 허가증 재신청이 불가하다. 경고장 발부 및 조사 또는 인증 허가증 사용 중지 명령은 부령에서 정하는 원칙과 절차 및 조건을 따르도록 한다.

제9조의6

민간조사관이 다음 각 항의 어느 하나에 해당한다는 것을 적발한 때에는 허가권자가 조사 또는 인증 허가증 취소 명령을 한다. (1) 제9조의1 또는 제9조의2에 따른 자격을 결여하거나 금지 사항에 해당하는 때 (2) 2년의 정한 기간 동안 조사 또는 인증 허가증 사용이 3회 중지된 때 (3) 제9조에 따른 조사 또는 인증 결과 보고서를 허위로 작성한 때 첫번째 단락에 따라 허가증이 취소된 민간조사관은 명령을 인지한 날부터 2년이 경과할 때까지 허가증을 신청할 수 없다. 조사 또는 인증 허가증 취소는 부령에서 정하는 원칙과 절차 및 조건을 따르도록 한다.

제10조

제1종 공장 운영자는 제8조에 따라 제정되는 부령 및 해당 부령에 따른 장관의 고시에서 정하는 원칙에 따라 실행하여야 한다.

제11조

제2종 공장 운영자는 제8조에 따라 제정되는 부령 및 해당 부령에 따른 장관의 고시에서 정하는 원칙을 준수하여야 하며, 공장 운영을 개시하는 때에는 사전에 담당관에게 신고하도록 한다. 신고하여야 하는 양식과 상세 사항 및 신고 접수 양식은 부령에서 정하는 바를 따르도록 한다. 담당관이 첫번째 단락에 따른 신고를 접수한 때에는 신고를 증명하기 위하여 담당관이 신고 접수일에 신고자에게 신고 접수증을 발급하도록 하며, 신고자가 신고 접수증을 수령한 날부터 공장을 운영할 수 있도록 한다. 이후 담당관이 첫번째 단락에 따른 신고가 부정확하거나 불완전하다는 것을 적발하는 경우, 담당관은 신고자에게 명령을 받은 날부터 7일 이내에 정확하거나 완전하게 수정하도록 하는 명령권을 갖도록 한다. 제2종 공장의 폐업이나 양도, 임차 또는 임차매도는 그러한 실행을 한 날부터 30일 이내에 서면으로 담당관에게 알리도록 한다.

제11조의1

장관이 어떤 지방행정관 또는 지방행정기관의 지방공무원을 이 법에 따른 담당관으로 임명하는 때에는 해당 담당관이 해당 지방행정기관의 관할 구역 내에 위치하는 제1종 공장 및 제2종 공장 관련 부분에 한하여 정한 바에 따른 담당관의 권한과 직무 및 책임을 담당하도록 한다. 구행정기관의 지방행정관 또는 지방공무원에 대한 첫번째 단락에 따른 담당관 임명은 준비된 도행정기관에 한하여 실시하도록 한다. 산업부 사무차관 및 공무원 중에서 임명되는 담당관은 첫번째 단락에 따른 담당관이 이 법률을 올바르게 집행하도록 감독하는 권한을 갖도록 하며, 이를 위하여 이 법에 대한 위법이 되는 운영에 대한 안내 및 중지 명령 권한을 갖도록 하고, 경우에 따라 해당 지방을 관리 감독하는 군수나 도지사 또는 내무부 장관에게 해당 지방행정기관 설립 관련 법률에서 규정하는 바에 따라 권한과 직무에 따른 수행을 위한 보고를 계속하도록 한다.

제12조

제3종 공장 운영자는 허가권자로부터 허가증을 취득하여야 하며, 제8조에 따라 제정되는 부령과 해당 부령에 따라 제정되는 장관의 고시 및 제32조에 따라 제정되는 장관의 고시를 준수하여야 한다. 허가를 받기 전에 공장을 설치하는 것을 금지한다. 허가증 신청서 제출과 검토 절차 및 허가증 발급 검토 기간은 부령에서 정하는 바를 따르도록 한다. 허가증 신청자가 허가증 발급 전에 확인서를 요청하는 경우, 만약 기본적인 검토가 원칙적으로 승인에 충분하다면, 허가권자는 장관이 관보에 게재하여 정하는 원칙에 따라 검토가 완료되지 아니한 부분은 유보하여 확인서를 발급하도록 한다. 허가권자는 허가증 발급에 대하여 제8조에 따라 제정되는 부령과 해당 부령에 따라 제정되는 장관의 고시 및 제32조에 따라 제정되는 장관의 고시에서 규정하는 원칙에 따라 검토하도록 한다. 만약 아직 정한 원칙이 없는 경우라면 공장 내 또는 공장과 인접하여 있는 사람이나 재산의 안전을 고려하여 검토하거나, 제32조에 따라 제정되는 장관의 고시를 준수하여야 하는 경우라면, 허가증에 공장 운영자가 특별히 준수하여야 하는 조건을 정할 수도 있다.

제13조

제12조에 따른 허가증 취득자가 만약 어떤 한 부분에서 공장 운영을 개시하고자 한다면 공장 운영을 개시 최소한 15일 전에 담당관에게 알려야 한다. 만약 첫번째 단락에 따른 공장 운영 개시 전에 기계를 시험 가동한다면, 허가증 취득자는 기계를 시험 가동할 날짜와 시간 및 기간을 최소한 15일 전에 담당관에게 알려야 한다. 기계를 시험 가동하기 위하여 사용하는 원칙과 기간은 부령에서 정하는 바를 따르도록 한다.

제14조

(삭제)

제15조

(삭제)

제16조

허가증 발급 불가 명령이나 공장 확장 불허 명령, 조사 또는 인증 허가증 발급이나 연장 불가 명령, 조사 또는 인증 허가증 사용 중지 또는 취소 명령은 명령을 인지한 날부터 30일 이내에 장관에게 진정을 제기하도록 한다. 장관의 결정은 최종 결정이 되도록 한다.

제17조

허가증을 취득한 공장 운영자가 만약 이후 총동력 50마력 미만의 기계 또는 50인 미만의 공원을 사용한다고 드러난다면 공장 폐업 신고를 할 때까지는 해당 공장을 이 법에 따른 공장으로 보도록 한다.

제18조

허가권자로부터 허가를 받은 것을 제외하고 허가증 취득자가 공장을 확장하는 것을 금지한다. 첫번째 단락에 따른 공장 확장은 다음 각 항의 경우를 뜻하도록 한다. (1) 기존 공장 운영 또는 기존 공장 운영과 관련한 유형 또는 종류의 사업 운영을 위한 기계 추가나 교체 또는 개조는 다음 각 호의 어느 하나에 해당하는 형태에서 총동력을 증력하도록 하는 경우 (ㄱ) 기존 기계가 총동력 100마력 이하인 경우, 50마력 이상 증력 (ㄴ) 기존 기계가 총동력 100마력 초과 500마력 이하인 경우, 100마력 이상 증력 (ㄷ) 기존 기계가 총동력 500마력 초과 1,000마력 이하인 경우, 200마력 이상 증력 (ㄹ) 기존 기계가 총동력 1,000마력 초과 2,000마력 이하인 경우, 300마력 이상 증력 (ㅁ) 기존 기계가 총동력 2,000마력 초과 3,000마력 이하인 경우, 400마력 이상 증력 (ㅂ) 기존 기계가 총동력 3,000마력을 초과하는 경우, 500마력 이상 증력 (2) 기존 공장을 건설한 토지 또는 공장을 확장하도록 허가를 취득한 토지와 인접한 새로운 토지 전환에 영향을 미치는 제(1)항에 따른 실행인 경우 공장 확장 허가는 허가증의 일부분으로 보도록 한다. 공장 확장 신청 및 공장 확장 허가는 제12조 및 제13조를 준용하도록 한다.

제18조의1

제18조에 따른 공장 확장은 다음 각 항의 어느 하나에 해당하는 목적에 한하여 허가 신청을 면제하도록 한다. (1) 공해 처리 또는 기존 공해 처리를 보다 효율적으로 하기 위한 목적 (2) 안온방해 방지 또는 경감 수단 마련을 위한 목적 (3) 발동기인 기존 기계의 효율성을 보다 효율적으로 변경하기 위한 목적이나 환경에 대한 영향을 경감하기 위한 목적 (4) 기존 기계의 에너지를 보다 효율적으로 변경하기 위한 목적 첫번째 단락에 따른 실행 전, 허가증 취득자는 적어도 3일 이상 사전에 허가권자에게 신고하도록 하며, 제8조에 따라 제정되는 부령 및 제32조에 따라 제정되는 장관의 고시를 준수하여야 한다. 두번째 단락에 따른 신고는 부령에서 정하는 원칙과 절차 및 조건을 따르도록 한다. 이 조에 따른 실행으로 인하여 발생하는 기계는 공장 운영에 사용하는 기계로 보도록 한다.

제19조

허가증 취득자가 생산에 사용하는 기계 또는 발동기로 사용되거나 공해 처리 관련 또는 안온방해 방지 관련 기계를 추가, 교체 또는 개조하거나 기계의 에너지가 기계 총마력을 감소 또는 증가시키는 다른 것이 되었으나 공장 확장 또는 공장 건물 부지 확장 단계에는 미치지 아니하거나, 공장의 면적이 2천 평방미터 이하인 경우 공장 건물의 면적을 500평방미터 이상 새로 확장하거나 공장의 면적이 2,000평방미터를 초과하는 경우에는 1,000평방미터 이상 확장하는 공장의 사업에 대한 직접적인 이익을 위하여 공장 건물을 추가 건설하는 때에는 그러한 실행일부터 30일 이내에 해당 허가증 취득자가 담당관에게 서면으로 신고하도록 한다. 기계 추가나 교체 또는 개조인 첫번째 단락에 따른 실행은 허가를 취득하거나 공장 확장 허가를 취득한 기존 공장 또는 토지 내에서 실시하여야 하며, 장관이 고시하는 원칙과 절차에 따라야 한다. 첫번째 단락에 따른 실행 신고는 부령에서 정하는 원칙과 절차를 따르도록 한다. 이 조에 따른 실행에서 발생하는 기계는 공장 운영에 사용하는 기계로 보도록 한다.

제19조의1

허가증 취득자가 기존 공장 운영과 관련한 공장 운영 유형 또는 종류를 추가하고자 하는 때에는 최소한 실행 15일 전에 담당관에게 서면으로 신고하도록 한다. 첫번째 단락에 따른 실행은 허가를 취득하거나 공장 확장 허가를 취득한 기존 공장 또는 토지 내에서 실시하여야 하며, 장관이 고시하는 원칙과 절차에 따라야 한다. 첫번째 단락에 따른 실행 신고는 부령에서 정하는 원칙과 절차를 따르도록 한다.

제20조

제12조 다섯번째 단락에 따른 허가증에서 정하는 조건은, 만약 허가증 취득자가 공장운영에서 이행하도록 하기 위하여 조건을 취소 또는 변경하거나 적합한 조건을 추가하는 것이 타당하다고 허가권자가 판단한다면 서면으로 이행 명령을 할 수 있도록 한다. 공장 운영에서 이행하여야 하는 조건을 취소 또는 변경하고자 하는 허가증 취득자는 허가권자에게 신청서 및 소명서를 제출하도록 하며, 허가권자는 지체없이 검토하여 서면으로 명령하도록 한다. 만약 허가증 취득자가 허가권자의 의견에 동의하지 아니한다면, 명령서를 수령한 날부터 30일의 기한 내에 장관에게 이의를 제기하도록 한다. 장관의 결정은 최종 결정이 되도록 한다.

제21조

허가증 취득자가 허가 취득 후 공장을 설립할 수 없거나, 공장 설립을 완료하였으나 공장을 운영할 수 없는 경우에는 해당 허가증 취득자가 허가증을 양수하고자 하는 사람에게 양수일부터 30일 이내에 허가권자에게 허가증 양도 신청서를 제출하도록 하여 공장을 임차 또는 임차 매각하거나 공장을 매각하는 허가증 양도를 할 수 있다. 신청서 제출을 완료하고 허가권자의 승인 검토를 기다리는 동안에는 해당 신청자를 허가증 취득자와 마찬가지로 보도록 하며, 원 허가증 취득자는 공장 임차 또는 임차 매각하거나 공장을 매각하는 허가증 양도일부터는 더 이상 허가증 취득자로 보지 아니하도록 한다. 허가증 취득자가 공장을 임차 또는 임차 매각하여 공장 운영을 양도하거나 공장을 매각하는 경우, 해당자는 공장을 임차 또는 임차 매각하여 공장 운영을 양도하거나 공장을 매각한 날부터 공장 운영을 중단한 것으로 보도록 한다. 두번째 단락에 따른 공장 운영 허가증 양수자나 공장 임차인, 임차 매수자 또는 공장 매수자는 두번째 단락에 따라 공장을 중단하였다고 보는 날부터 30일 이내에 허가권자에게 허가증 양수 신청서를 제출하도록 하며, 신청서 제출을 완료하고 허가권자의 승인 검토를 기다리는 동안에는 해당 신청자를 허가권 취득자와 마찬가지로 간주하여 계속 공장을 운영하도록 한다. 첫번째 단락 및 세번째 단락에 따른 허가증 양수 신청과 허가증 양도 허가는 부령에서 정하는 원칙과 조건을 따르도록 한다. 이와 관련하여 해당 부령은 허가 검토 기간을 명시하여야 한다.

제22조

허가증 취득자가 사망한 경우, 상속인 또는 유산 관리인이 허가증 취득자가 사망한 날부터 90일 이내 또는 허가권자가 필요에 따라 검토하여 정하는 기간 내에 허가권자에게 허가증 양수 신청서를 제출하도록 한다. 만약 정한 기한 내에 신청서를 제출하지 아니하였으며, 해당자가 이어서 공장을 운영하고자 한다면, 새로운 허가증 신청을 진행하도록 한다. 첫번째 단락에 따른 기간 동안에는 공장을 운영하는 상속인 또는 유산 관리인을 허가증 취득자와 마찬가지로 보도록 한다. 허가증 취득자가 법원의 명령에 의하여 금치산자가 되는 경우에는 두번째 단락의 내용을 후견인에게 우선 준용하도록 한다. 허가증 양수 신청 및 허가증 발급의 원칙과 절차 및 조건은 부령에서 정하는 바를 따르도록 한다.

제23조

허가증 취득자는 본인 공장의 공개적이고 보기 쉬운 곳에 허가증을 게시하여야 한다.

제24조

공장명 또는 허가증 취득자의 성명 변경이 있는 때에는 허가증 취득자가 변경이 있는 날부터 15일 이내에 담당관에게 서면으로 신고하도록 한다.

제25조

허가증이 소실 또는 파손되는 경우, 허가증 취득자는 소실 또는 파손을 인지한 날부터 15일 이내에 담당관에게 대체 증서 신청서를 제출하도록 한다.

제26조

공장 운영을 위하여 임시로 공장에 설치된 기계 일부를 다른 장소로 이동하고자 하는 허가증 취득자는 검토에 참고할 도면 및 이유를 나타내는 기타 상세 사항과 함께 허가권자에게 허가 신청서를 제출하도록 한다. 만약 허가권자가 적절하다고 판단한다면, 정한 기한 내에 신청서에 따라 기계를 이동하여 사업을 운영하도록 하는 허가 명령을 하도록 하나, 명령이 있는 날부터 1년을 초과하지 아니하여야 한다. 이와 관련하여 안전을 위하여 방법 관련 조건을 정하여 준수하도록 할 수도 있다. 만약 허가증 취득자가 두번째 단락에 따라 허가 받은 기간을 초과하여 해당 사업을 운영하여야 하는 필요성이 있다면, 해당 기간 종료 전에 허가권자에게 기간 연장 신청을 하도록 한다. 만약 허가권자가 타당하다고 판단한다면, 1년을 초과하지 아니하는 기간에 대한 연장 명령을 할 수 있도록 한다.

제27조

공장을 다른 곳으로 이전하고자 하는 허가증 취득자는 새로운 공장 설립과 마찬가지로 진행하도록 한다.

제28조

공장 운영을 중단하고자 하는 허가증 취득자는 공장 운영을 중단하기 최소 30일 전에 허가권자에게 서면으로 신고하도록 한다. 허가권자가 첫번째 단락에 따른 공장이 공장과 인접한 사람이나 재산 또는 환경에 피해 또는 안온방해를 초래할 수 있는 상황을 포함하고 있다고 판단하는 경우, 담당관에게 해당 허가증 취득자에 대하여 기한 내에 공장 개선 명령을 하도록 통지할 수 있도록 하며, 해당자에 대해서는 담당관의 명령을 이행할 때까지 공장 운영자와 마찬가지의 신분에 있다고 보도록 한다. 만약 허가증 취득자가 두번째 단락에 따른 담당관의 명령을 준수하지 아니한다면, 제42조를 준용하도록 한다. 첫번째 단락에 따른 공장 영업 중단 신고는 부령에서 정하는 원칙과 절차를 따르도록 한다.

제28조의1

제3종 공장을 경우에 따라 제1종 공장이나 제2종 공장으로 변경하고자 하는 허가증 취득자는 부령에서 정하는 원칙과 절차에 따라 공장 운용 중단 신고를 하도록 하며, 계속하여 공장을 운영하는 때에는 해당 유형 공장 운영에 대하여 이 법에서 정하는 규정에 따라 이행하도록 한다.

제29조

제7조에 따른 부령 또는 제32조제(1)항에 따른 장관의 고시가 있는 경우에는 제1종 또는 제2종 공장을 제3종 공장으로 변경하도록 한다. 만약 공장 운영자가 해당 부령 발효일부터 30일의 기한 내에 제12조에 따라 허가증 신청서를 제출한다면 해당자를 허가증 취득자와 마찬가지 신분으로 계속 공장 운영을 하도록 하고 허가권자는 지체없이 허가증을 발급하도록 한다.

제30조

장관은 관보에 게재하여 어떤 한 지역을 공업지역으로 정할 권한을 갖도록 한다. 첫번째 단락에 따른 공업지역 또는 공업단지 관련 법률에 따라 조성된 공업단지 내에서의 제2종 공장 또는 제3종 공장 운영은 경우에 따라 제11조에 따른 담당관 신고 또는 제12조에 따른 허가 취득 면제를 받도록 하나, 그러한 공장 운영은 경우에 따라 신고자 또는 허가증 취득자와 마찬가지로 보도록 하여 제8조에 따라 제정되는 부령과 해당 부령에 따라 제정되는 장관의 고시, 제32조의(1)에 따라 제정되는 장관의 고시 및 이 법에 따른 공장 운영 감독 관련 기타 규정에서 정하는 원칙을 준수하여야 한다. 어떤 지역을 공업지역으로 지정하거나 공업단지 관련 법률에 따라 공업단지로 조성한 때에는 장관이 공업지역 또는 공업단지 주변 지역을 일정 기간 동안 공장 운영 엄금 지역으로 정하거나, 일부 유형이나 종류 또는 규모의 공장에 한하여 운영을 허가하는 부령을 제정할 수도 있다.

제31조

행정의 효율성 및 대국민 편의 제공을 위하여, 만약 어떤 공장 운영이 다른 법률에 따라 담당관의 허가를 받아야 하는 것과 관련이 있는 경우, 이 법률에 따른 조치 권한이 있는 담당관 및 각 해당 사안의 법률에 따른 조치 권한이 있는 담당관은 공동 허가 검토를 위한 조치 절차를 규정할 수도 있다. 첫번째 단락에 따른 조치는 공동 신청서 제출을 통하여 행하거나 필수 사용 서류와 필수 제시 사항 및 자료, 신청서 또는 서류 제출 장소 및 중복 또는 유사하거나 공동 허가 절차에 불필요하게 장애를 초래할 수 있는 허가 검토 절차를 면제할 수 있도록 규정할 수도 있으며, 적절한 경우에는 준수하여야 하는 추가 원칙 또는 절차를 대신 규정할 수 있으나, 허가는 그러한 부령에서 정하는 양식을 따라야 한다. 공동 허가 검토는 조사권이 있는 담당관이나 허가의 일부분에 대한 검토권자 또는 허가권자가 본인의 권한을 허가 검토와 관련이 있는 다른 담당관에게 적합한 바에 따라 대신 조치하도록 할 수도 있다. 두번째 단락 및 세번째 단락에 따른 규정 및 권한 위임은 관보에 게재를 완료한 때에 시행할 수 있도록 한다.

제2장 공장 관리 및 감독

제32조

경제, 환경 보전, 국가 또는 대중의 안정과 안전을 위하여 내각의 승인을 통하여 장관이 다음 각 항의 사안에 대하여 관보에 게재하여 정할 권한을 갖도록 한다. (1) 어떤 한 지역에서 설립 또는 확장하도록 하거나, 설립 또는 확장하지 아니하도록 하는 각 유형 공장의 숫자 및 규모 규정 (2) 공장에서 사용하거나 생산할 원료의 종류와 품질 및 비율과 원료의 원산지 및/또는 에너지의 요소 또는 종류 규정 (3) 설립 또는 확장하도록 할 공장에서 생산하는 제품의 종류 또는 품질 규정 (4) 일부 유형의 산업에서 설립 또는 확장하거나 생산물을 국외로 전부 또는 일부 수출하도록 하는 공장의 생산물 사용 규정

제33조

제2종 또는 제3종 공장이 연속 1년 이상 휴업하는 때에는 1년이 경과한 날부터 7일 이내에 경우에 따라 제2종 공장 운영자 또는 제3종 공장 운영 허가증 취득자가 담당관에게 서면으로 신고하여야 한다. 첫번째 단락에 따른 공장 운영자가 공장 운영을 계속하고자 하는 경우, 다음 각 항에 따라 이행하도록 한다. (1) 제2종 공장 운영자는 사업 운영 개시 전에 담당관에게 서면으로 신고하도록 한다. (2) 제3종 공장 운영자는 먼저 허가권자로부터 허가를 취득하여야 공장 운영을 계속할 수 있다. 제3종 공장을 계속 운영하도록 하는 허가는, 만약 공장 및 기계가 제8조와 제8조에 따라 제정되는 부령에 따른 장관의 고시 및 제32조에 따라 제정되는 장관의 고시와 허가증에 규정한 조건에 부합한다고 담당관의 조사 결과를 통하여 밝혀진다면 허가권자가 공장 계속 운영 허가 명령을 할 수 있도록 한다. 만약 부합하지 아니하는 경우에는 기한 내에 담당관이 수정 명령을 하도록 한다. 수정이 완료된 때에는 허가권자가 공장 계속 운영 허가 명령을 하도록 한다. 세번째 단락에 따른 허가권자의 명령에 대한 이의 제기는 제16조를 준용하도록 한다.

제34조

공장의 부류를 불문하고 공장 또는 공장의 기계로 인하여 공장에서 사고가 있는 경우, 만약 해당 사고 원인이 다음 각 항의 어느 하나에 해당한다면, 첫번째 단락에 따른 공장에서 사고가 발생한 때에는 담당관이 공장 및 기계를 조사하고 경우에 따라 제37조 또는 제39조에 따른 조치를 고려하도록 한다. (1) 사람을 사망에 이르게 하거나 질병 또는 부상을 입어 72시간이 경과한 후에도 기존 직무에서 근로하는 것을 불가능하게 하는 원인이 되는 경우, 공장 운영자는 경우에 따라 사망일 또는 72시간이 만료된 날부터 3일 이내에 서면으로 담당관에게 신고하도록 한다. (2) 7일 이상 공장 운영을 중지하여야 하도록 하는 원인이 되는 경우, 공장 운영자는 사고 발생일부터 10일 이내에 담당관에게 서면으로 신고하도록 한다.

제35조

이 법률에 따른 집행을 위하여 담당관은 다음 각 항의 권한을 갖도록 한다. (1) 공장을 운영할 것이라고 의심할 정당한 사유가 있는 공장 또는 건물이나 장소 또는 차량에 일출시부터 일몰시까지 또는 해당 장소의 업무 시간에 진입하여 공장이나 건물, 장소 또는 차량이나 기계 또는 이 법의 규정에 대한 위반의 소지가 있는 행위 조사 (2) 품질 조사를 위하여 관련 서류와 함께 품질과 관련하여 의심되는 상품 샘플을 적정량 채취 (3) 공장의 운영이 공장 내 또는 공장 인근에 있는 사람이나 재산에 위험을 초래할 수 있다고 의심되는 정황이 있거나, 이 법에 대한 위법 행위가 있는 경우에는 관련 제품이나 용기, 장부, 서류 또는 기타 물품을 조사하거나 수색, 구금, 압수 또는 압류 (4) 어떤 사람에게 소환장을 발부하여 진술하게 하거나 문서 또는 어떤 물품을 제출하게 하여 참고 검토

제36조

어떤 사람이 이 법에 따른 범죄 행위를 하였다는 것을 적발하거나 해당 행위를 의심할 정당한 사유가 있는 때에는 조사관에게 인계하여 법률에 따른 후속 조치를 하도록 하기 위하여 4급 이상의 공무원 중에서 임명된 담당관이 해당자를 체포할 권한을 갖도록 한다.

제37조

담당관이 공장 운영자의 이 법에 따른 위반이나 불이행 또는 공장 내 또는 공장 인근에 있는 사람 또는 재산에 위험이나 손해 또는 안온방해를 유발하는 공장 운영을 적발하는 경우, 담당관은 정한 기한 내에 해당자가 위반 행위를 중지하거나 개선 또는 조정하거나 올바르거나 적절하게 이행하도록 명령할 권한을 갖도록 한다. 합당하다고 판단하는 경우, 사무차관 또는 사무차관이 위임한 사람의 승인을 받은 때에는 첫번째 단락에 따라 담당관의 명령을 이행하는 기간 동안에는 기계를 작동시키지 아니하도록 하기 위하여 담당관에게 기계를 봉인할 권한을 갖도록 한다.

제38조

이 법에 따른 명령서 송달은 담당관이 명령서에 기재된 사람의 주소지 또는 공장에 일출시부터 일몰시까지 또는 해당자의 업무 시간에 송달하거나 등기우편으로 송부하도록 한다. 담당관이 명령서를 송달하였으나 명령서에 기재된 사람이 수령을 거부하는 경우, 담당관은 명령서를 해당 장소에 두기 위하여 행정담당관 또는 경찰관을 증인으로 동행을 요청하도록 하나, 만약 명령서에 기재된 사람을 해당자의 주소지 또는 근무지에서 만날 수 없는 경우에는 해당 장소에서 거주 또는 근무하는 성인에게 전달할 수도 있다. 또한 만약 아무도 만날 수 없거나 아무도 대신 수령하는 것을 승낙하지 아니한다면, 증인으로 동행한 행정담당관 또는 경찰관 앞에서 해당 주소지 또는 공장의 잘 보이는 곳에 명령서를 부착하도록 한다. 담당관이 첫번째 단락 또는 두번째 단락에 따라 이행을 완료한 때에는 명령서에 기재된 사람이 해당 명령서를 수령한 것으로 보도록 하나, 만약 등기우편 또는 명령 부착을 통하여 송부하였다면, 경우에 따라 담당관이 해당 명령을 우편으로 송부한 날 또는 부착한 날부터 5일의 업무일이 경과된 때에 해당 명령서를 수령하였다고 보도록 한다.

제39조

공장 운영자가 정당한 이유 없이 제37조에 따른 담당자의 명령을 의도적으로 이행하지 아니하는 경우 또는 공장의 운영이 공장 내 또는 공장 인근에 있는 사람이나 재산에 심각한 위험이나 피해 또는 안온방해를 유발할 수 있다고 드러나는 경우에는 사무차관 또는 사무차관이 위임하는 사람이 해당 공장 운영자에게 임시로 공장 운영 전부 또는 일부를 중지하고 정해진 기간 내에 해당 공장을 새롭게 개선하거나 올바르게 이행하도록 명령할 권한을 갖도록 한다. 만약 공장운영자가 정해진 기간 내에 공장을 개선하거나 올바르게 이행하였다면, 사무차관 또는 사무차관이 위임한 사람은 공장 계속 운영 명령을 하도록 한다. 만약 공장 운영자가 정해진 기간 내에 공장을 개선하지 아니하거나 올바르게 이행하지 아니하였다면, 사무차관 또는 사무차관이 위임한 사람은 공장 폐쇄 명령을 할 수 있으며, 제3종 공장인 경우 그러한 공장 폐쇄 명령은 허가증 취소의 효력을 갖도록 한다.

제40조

공장 운영 중지 명령 또는 공장 폐쇄 명령은 담당관이 해당 공장의 잘 보이는 3곳의 장소에 게시하도록 한다. 이와 관련하여 공장 운영 중지 명령 또는 공장 폐쇄 명령 이후에는 공장에서 업무를 수행하는 사람이나 노동자 또는 공장에서 근무하는 모든 해당자에게 계속 공장을 가동하기 위한 공장 내에서의 근로 금지를 알리는 내용을 포함하여야 한다.

제41조

제37조에 따른 담당관의 명령 또는 사무차관이나 사무차관이 위임한 사람의 제39조 첫번째 단락에 따른 공장 운영 중지 명령 또는 제39조 세번째 단락에 따른 공장 폐쇄 명령은 명령에 대하여 인지한 날부터 30일 이내에 장관에게 이의를 제기할 수 있도록 한다. 장관의 결정은 최종 결정이 되도록 한다. 첫번째 단락에 따른 이의 제기는 담당관의 명령이나 공장 운영 중지 명령 또는 공장 폐쇄 명령에 따른 이행을 유예하지 아니한다. 다만 장관이 다르게 명령하는 것은 제외한다.

제42조

공장 운영자가 제37조에 따른 담당관의 명령을 이행하지 아니하는 경우, 만약 당국이 대행하여야 하는 사유가 있다면 사무차관 또는 사무차관이 위임한 사람이 그러한 명령에 따라 진행되도록 하기 위하여 담당관 또는 어떤 사람에게 위임하여 시정 조치를 하도록 명령할 수 있는 권한이 있다. 이와 같은 경우 공장 운영자는 그러한 조치에 대하여 실제 지불한 액수에 따른 비용을 해당 금액의 연간 30% 비율의 이자와 함께 지불하여야 한다. 만약 당국이 공장에서 발생한 공해 문제 또는 환경에 대한 영향에 대한 개선 조치를 하였다면, 조치 비용으로 사용하기 위하여 국가 환경질 증진 및 보호 관련 법률에 따른 환경기금에 보조금을 신청하도록 하며, 공장 운영자로부터 첫번째 단락에 따른 금액을 수령한 때에는 이어서 환경 기금에서 수령한 해당 보조금을 상환하도록 한다.

제43조

제2종 공장 및 제3종 공장 운영자는 공장을 운영하는 기간 동안 부령에서 정하는 원칙과 절차 및 방법에 따라 수수료를 납부하여야 한다. 만약 기한 내에 수수료를 납부하지 아니한다면 월 5%의 가산금을 추가로 납부하도록 한다. 또한 정당한 이유 없이 수수료 납부를 거부한다면 담당관이 해당자에게 수수료 및 가산금을 완납할 때까지 공장 운영 중지를 명령할 권한을 갖도록 하며, 제39조와 제40조 및 제41조의 내용을 준용하도록 한다. 제11조의1에 따라 장관이 담당관을 임명한 지방 행정 구역에 있는 첫번째 단락에 따른 제2종 공장의 연간 수수료에 대해서는 장관이 해당 수수료를 감면하는 부령을 제정하는 것은 불가하다. 다만 천재지변이나 경제적 상황 또는 지방 행정 구역에서의 사업 지원에 대한 이익을 위한 정당한 이유가 있는 것은 제외하여 그러한 이유가 있는 지방 행정 구역에 대한 수수료 감면 부령을 제정할 수도 있다.

제43조의1

어떠한 지방 행정 구역 내에 위치한 제2종 공장에 대한 제43조에 따른 연간 수수료 및 가산금은 제11조의1에 따라 담당관이 임명된 경우에 한하여 해당 지방 행정 지역의 수입으로 귀속되도록 한다.

제44조

이 법에 따라 집행하는 경우, 담당관은 관련자의 요구가 있는 때에는 신분증을 제시하여야 한다. 담당관의 신분증은 관보에 게재하여 장관이 정하는 양식을 따르도록 한다.

제3장 벌칙

제45조

제8조제(1)항이나 제(2)항, 제(3)항, 제(4)항, 제(5)항 또는 제(8)항에 따라 제정되는 부령이나 해당 부령에 따라 제정되는 장관의 고시를 위반하거나 준수하지 아니하는 사람은 20만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제46조

제8조제(6)항 또는 제(7)항에 따라 제정되는 부령이나 해당 부령에 따라 제정되는 장관의 고시를 위반하거나 준수하지 아니하는 사람은 2만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제47조

제9조에 따른 조사 또는 인증 허가증 없이 조사 또는 인증을 하거나 조사 또는 인증 결과보고서를 작성하는 사람은 2년 이하의 금고형 또는 2십만바트 이하의 벌금형에 처하거나 금고형과 벌금형을 병과한다. 조사 또는 인증 결과보고서를 허위로 작성하거나 조사 또는 인증 허가서 사용 중지 명령 기간 동안 조사 또는 인증 결과보고서를 작성하는 민간조사관은 조사 또는 인증 허가증 없이 조사 또는 인증하거나 조사 또는 인증 결과보고서를 작성한 사람과 마찬가지로 처벌된다.

제47조의1

제9조 두번째 단락을 불이행하는 공장 운영자는 5만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제47조의2

제9조의6 첫번째 단락을 준수하지 아니하는 민간조사관은 5천바트 이하의 벌금형에 처한다.

제48조

담당관에게 제11조 첫번째 단락에 따라 신고하지 아니하고 제1종 공장을 운영하는 사람은 6개월 이하의 금고형 또는 5만바트 이하의 벌금형에 처하거나 금고형과 벌금형을 병과한다.

제49조

제11조 두번째 단락에 따라 부령에서 정하는 바에 따라 사업 운영을 부정확하고 불완전하게 신고하거나 제11조 다섯번째 단락 또는 제33조를 준수하지 아니하는 제2종 공장 운영자는 2만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제50조

제12조 첫번째 단락에 따른 허가증을 취득하지 아니하고 제2종 공장을 운영하거나 제12조 두번째 단락에 따른 허가증을 취득하지 아니하고 공장을 설립하는 사람은 2년 이하의 금고형 또는 20만바트 이하의 벌금형에 처하거나, 금고형과 벌금형을 병과한다. 첫번째 단락에 따른 공장이 제32조제(1)항에 따라 제정되는 고시에 의거하여 어떤 지역 내에 설립하게 하거나 설립하지 아니하게 할 규모를 정하는 유형이나 종류의 공장인 경우, 행위자는 4년 이하의 금고형 또는 40만바트 이하의 벌금형에 처하거나, 금고형과 벌금형을 병과한다.

제51조

제13조 첫번째 단락 또는 두번째 단락이나 제18조의1 두번째 단락, 제19조 첫번째 단락 또는 두번째 단락, 제19조의1 첫번째 단락 또는 두번째 단락, 제28조의 첫번째 단락, 제28조의1, 제33조의 첫번째 단락 또는 두번째 단락을 준수하지 아니하는 사람은 2만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제52조

제18조에 따라 공장 확장 허가증을 취득하지 아니하고 공장을 확장하는 허가증 취득자는 2년 이하의 금고형 또는 20만바트 이하의 벌금형에 처하거나, 금고형과 벌금형을 병과한다. 첫번째 단락에 따른 공장이 제32조제(1)항에 따라 제정되는 고시에 의거하여 어떤 지역 내에서 확장하게 하거나 확장하지 아니하게 할 규모를 정하는 유형이나 종류의 공장인 경우, 행위자는 4년 이하의 금고형 또는 40만바트 이하의 벌금형에 처하거나, 금고형과 벌금형을 병과 한다.

제53조

제23조나 제24조 또는 제25조를 준수하지 아니하는 허가증 취득자는 5천바트 이하의 벌금형에 처한다.

제54조

제34조 첫번째 단락을 준수하지 아니하는 공장 운영자는 2만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제55조

공장 운영 중지 명령 기간 또는 공장 폐쇄 명령 이후 공장을 운영하는 사람은 2년 이하의 금고형 또는 20만바트 이하의 벌금형에 처하거나, 금고형과 벌금형을 병과하며, 공장 운영을 중단할 때까지 하루에 5천바트의 벌금을 추가로 부과한다. 계속하여 공장을 가동하기 위하여 공장 운영 중지 명령이 있는 공장의 특정 부분에서 계속하여 위반 근무하거나 공장 폐쇄 명령이 있는 공장에서 계속 위반 근무하는 건축가 또는 기술자는 첫번째 단락에 따른 공장 운영자와 마찬가지로 처벌된다. 공장 운영 중지 명령이 있는 공장의 특정 부분에서 계속하여 위반 근무하거나 공장 폐쇄 명령이 있는 공장에서 계속 위반 근무하는 공장 근무자 또는 노동자는 우선 경우에 따라 첫번째 단락에 따른 범죄 가담자 또는 방조자로 추정하도록 하나, 법원은 지위와 가족에 대한 책임, 법률 위반 고의성 및 행위에서의 중요도를 고려하여 어느 정도 감형할 수도 있다.

제56조

제35조에 따라 직무를 수행하는 담당관을 방해하거나 편의를 제공하지 아니하는 사람은 1개월 이하의 금고형 또는 2만바트 이하의 벌금형에 처하거나, 금고형과 벌금형을 병과한다.

제57조

제28조 두번째 단락 또는 제37조 첫번째 단락에 따라 명령한 담당관의 명령을 준수하지 아니하는 사람은 1년 이하의 금고형 또는 10만바트 이하의 벌금형에 처하거나, 금고형과 벌금형을 병과한다.

제58조

제37조 두번째 단락에 따라 담당관이 봉인한 기계를 재가동하기 위하여 어떤 행위를 하는 사람은 1년 이하의 금고형 또는 10만바트 이하의 벌금형에 처하거나, 금고형과 벌금형을 병과한다.

제59조

제42조에 따른 명령에 따르도록 하기 위하여 사무차관 또는 사무차관이 위임한 사람의 조치를 방해하거나 편의를 제공하지 아니하는 사람은 1년 이하의 금고형 또는 10만바트 이하의 벌금형에 처하거나, 금고형과 벌금형을 병과한다.

제60조

공장 운영 중지 명령 또는 공장 폐쇄 명령을 훼손 또는 손상시키는 행위를 하는 사람은 6개월 이하의 금고형 또는 5만바트 이하의 벌금형에 처하거나, 금고형과 벌금형을 병과한다.

제61조

공장 운영자가 이 법에 대한 위법 행위를 하는 경우, 공장에서 근무하며, 그러한 행위가 발생한 경우의 일부 작업에 대한 책임이 있는 건축가 또는 기술자는 위법 행위에서 공장 운영자와 공모하거나 목격한 것으로 보도록 하며, 공장 운영자와 마찬가지로 처벌된다. 다만, 본인이 그러한 위법 행위를 목격 또는 승낙하지 아니하였다고 증명할 수 있는 경우는 제외한다. 첫번째 단락에 따른 처벌 이외에 사무차관은 합당한 경우에 따라 건축전문직 관련 법률 또는 기술전문직 관련 법률에 따른 후속 조치를 검토하기 위하여 그와 같은 사람의 성명 및 행위를 건축전문직감독원회 또는 기술전문직감독위원회에 통보하도록 한다.

제62조

이 법률에 따른 위법 행위로 인하여 한차례 처벌된 전력이 있는 사람이 만약 처벌되었던 전력과 같은 규정에 대하여 다시 위법 행위를 한다면, 법원은 해당자에게 그러한 위법 행위에 대하여 형량의 1/3 또는 벌금액의 반을 가중하여 처벌하는 것을 고려하도록 한다.

제63조

위법 행위자가 법인인 경우, 만약 그러한 법인의 위법 행위가 임원 또는 경영자나 그 법인의 업무 집행 책임자의 명령으로 인하여 발생하였거나, 해당자가 명령 또는 행위를 하여야 하거나, 명령 또는 행위를 하여야 할 책임이 있으며, 명령 또는 행위를 하지 아니하여 그 법인이 위법 행위를 하게 한 원인이 되었다면, 해당자는 그러한 위법 행위들에 대하여 규정한 바에 따라 처벌을 받아야 한다.

제64조

이 법에 따른 위법 행위가 있는 경우, 위법 행위가 발생한 공장 인근이나 인접하여 거주하는 사람 또는 위법 행위로 인하여 생활이 영향을 받은 사람은 「형사소송법전」에 따른 피해자로 보도록 한다.

제65조

타당성에 따라 방콕시 구역 및 지방 내에 사건조정위원회를 둘 수 있도록 한다. 각 사건조정위원회는 장관이 법률 분야의 권위자 3인을 임명하도록 하며, 임기는 2년으로 하나, 이임하는 때에는 재임명이 가능할 수도 있다. 사건조정위원회의 임기 만료 전 이임과 회의 및 심의 절차는 장관이 관보에 게재하여 정하는 규칙을 따르도록 한다. 제50조 두번째 단락 또는 제52조 두번째 단락의 위법 행위를 제외한 이 법에 따른 모든 위법 행위는 사건조정위원회가 벌금부과 처분을 할 수 있도록 한다. 만약 피고인이 기소되거나 금고형으로 처벌될 필요가 없다고 판단하였으며, 피고인이 벌금 부과 처분이 있는 날부터 30일 이내에 처분에 따른 벌금을 납부한 때에는 「형사소송법전」에 따라 사건이 종결된 것으로 보도록 한다. 수사관이 네번째 단락에 따른 위법 행위자를 적발하고 해당자가 벌금 부과 처분에 동의하는 경우, 수사관은 해당자가 벌금 부과 처분에 동의한 날부터 7일 이내에 사건을 사건조정위원회에 회부하도록 한다.

경과 규정

제66조

경우에 따라, 제출된 신청서와 허가권자의 검토 완료 및 검토 도중에 있는 허가 또는 허가된 바에 따른 허가권자의 집행은 통상적으로 이 법에 따른 허가 신청 또는 허가로 보도록 한다. 해당 허가 신청 또는 허가가 이 법에 따른 허가 신청 또는 허가와 차이가 있는 경우, 허가권자는 이 법률에 따라 진행하도록 하기 위하여 필요성에 따라 수정, 보완하도록 명령할 권한을 갖도록 한다.

제67조

이 법률의 시행일 이전의 공장 관련 법률에 따라 어떤 사람에게 발급된 공장 운영 허가증은 정한 유효 기간이 만료될 때까지는 계속 사용할 수 있도록 한다. 이 법의 시행일 이전의 공장 관련 법률에 따른 공장 설립 허가증은 이 법률에 따른 공장 운영 허가증으로 적용하도록 하며, 그러한 공장 설립 허가증 취득자는 이 법률에 따라 후속 조치를 할 책임을 지도록 한다.

제68조

공장 관련 법률에 따라 제정된 모든 부령 및 고시는 이 법률의 규정을 위배하거나 모순되지 아니하는 한 계속 적용할 수 있도록 한다. 부서 아난 빤야라춘 총리

수수료율

(1) 신청서 1부당 100바트 (2) 허가증 1부당 300,000바트 (3) 공장 확장 허가는 (2)의 요율을 따르도록 한다. (4) 허가증 양도 1부당 5,000바트 (5) 허가증 대체 증서 1부당 5,000바트 (6) 공장 확장이나 기계 증감 면제를 받았으나 공장 확장이나 공장 건물 면적 추가 또는 공장 건물 추가 건설을 실시하지 아니한 경우에 대한 신고 1회당 15,000 바트 (7) 조사 또는 인증 허가증 1부당 5,000바트 (8) 조사 또는 인증 허가증 갱신은 제(7)의 요율을 따르도록 한다. (7) 조사 또는 인증 허가증 대체 증서 1부당 500바트 (10) 공장 운영 수수료 연간 100,000바트

제81조

의장이 이사회 회의를 소집한다. 만약 두 사람 이상의 이사가 이사회 회의 소집을 요구한다면, 이사장은 요구를 접수한 날부터 14일 이내에 회의일을 정하도록 한다.

제82조

이사회 회의를 소집하는 경우, 이사장 또는 위임을 받은 사람이 회의일 최소 7일 전에 이사에게 회의 소집 통지서를 송부하도록 한다. 다만 회사의 권리 또는 이익 보호를 위하여 서둘러야 할 필요가 있는 경우는 제외하여 다른 방법으로 회의 소집을 통지하고 그 보다 빨리 회의일을 정할 수도 있다.

제83조

이사직이 공석이 되어 정족수 미만의 인원이 남은 경우, 전체 공석을 대신할 이사 선출을 위한 주주총회 개최에 한하여, 남은 이사진이 이사회의 명의로 수행할 수 있다. 첫번째 단락에 따른 회의는 이사 수가 정족수 미만으로 남은 날부터 1개월 이내에 이행하도록 한다. 첫번째 단락에 따라 대신 이사로 취임하는 사람은 본인이 대신하는 이사의 잔여 임기 동안만 재임한다.

제84조

이사회나 이사 또는 이사회로부터 위임을 받은 사람이 회사 명의로 이행한 회사의 모든 사업은 이후 이사의 선출이나 임명 또는 자격 관련 결함이 드러난다고 하더라도 회사에 대한 완전한 효력 및 구속력을 갖는다.

제85조

회사의 사업 수행에서 이사는 법률과 목적, 회사의 정관 및 주주총회 의결에 따라 성실하게 직무를 수행하여야 하며, 회사의 이익 보호에 주의를 기울여야 한다. 어떠한 이사가 첫번째 단락을 준수하지 아니하는 것이 되는 행위를 하거나 하지 아니하는 경우, 경우에 따라 회사 또는 주주는 다음 각 항에 따른 조치가 가능할 수 있다. (1) 만약 그러한 행위를 하거나 하지 아니한 것이 회사에 피해를 초래하는 이유가 된다면, 회사가 해당 이사에게 배상금을 청구할 수 있도록 한다. 회사가 청구하지 아니하는 경우, 합하여 매도한 총 주식의 5% 이상의 주식을 보유한 주주 한 사람 또는 여러 사람이 청구 조치를 하도록 회사에 서면 통지를 할 수도 있다. 만약 회사가 해당 주주가 통지한 바에 따라 조치하지 아니한다면, 해당 주주는 회사를 대신하여 배상금 청구 소송을 제기할 수도 있다. (2) 만약 그러한 행위를 하거나 하지 아니한 것이 회사에 피해를 초래할 수 있다면, 합하여 매도한 총 주식의 5% 이상의 주식을 보유한 주주 한 사람 또는 여러 사람이 법원에 해당 행위 중지 명령을 요청할 수도 있다. 주주가 두번째 단락에 따라 조치하는 경우, 주주는 법원에 해당 이사의 퇴임 명령을 요청할 수도 있다. 두번째 단락 및 세번째 단락에 따라 조치한 주주는, 해당 이사가 경우에 따라 회사에 피해를 초래할 수 있는 원인이 되거나 회사에 피해를 초래할 수도 있는 행위를 하거나 하지 아니한 때에 회사의 주식을 보유하고 있어야 한다.

제86조

본인의 이익 또는 타인의 이익을 위한 행위인 것에 관계없이, 이사가 회사의 사업과 동일한 상황이 있으며 경쟁이 되는 사업을 운영하거나, 합명회사의 동업자로 합류하거나, 합자회사의 무한 책임 동업자가 되거나, 회사의 사업과 동일한 상황이 있으며 경쟁이 되는 사업을 운영하는 유한회사 또는 기타 회사의 이사가 되지 아니하도록 금지한다. 다만 임명 결정 전에 주주총회에서 알린 것은 제외한다. 어떠한 이사가 첫번째 단락의 규정을 위반한 경우, 회사는 회사가 해당 이사로부터 피해를 입은 것에 대한 배상금을 청구할 수도 있다. 이와 관련하여 회사가 위반에 대하여 인지한 날부터 1년 이내, 위반일로부터 2년을 초과하지 아니하는 기간내에 고소하여야 한다. 회사가 두번째 단락에 따른 청구권을 행사하지 아니한 경우, 합하여 매도한 총 주식의 5% 이상의 주식을 보유한 주주 한 사람 또는 여러 사람이 청구 조치를 하도록 회사에 서면 통지를 할 수도 있다. 만약 회사가 통지일부터 1개월 이내에 주주가 통지한 바에 따라 조치하지 아니하거나, 두번째 단락에 따른 시효가 1개월 미만이라면, 해당 주주가 회사를 위하여 해당 청구권을 행사할 수도 있으며, 제85조 두번째 단락 제(2)항 및 세번째 단락을 준용하도록 한다.

제87조

본인 또는 타인 명의의 행위인 것에 관계없이 회사의 자산을 매수하거나, 회사에 자산을 매도하거나, 회사와 특정한 사업을 수행하는 이사가 만약 이사회의 승인을 취득하지 아니하였다면, 그러한 매매 또는 사업 행위는 회사에 대한 구속력을 갖지 아니한다.

제88조

이사는 다음 각 항의 어느 하나에 해당하는 경우가 있는 때에 지체없이 회사에 통보하도록 한다. (1) 회계 연도 동안 회사가 체결한 어떠한 계약에서 직간접적으로 이해관계가 있는 경우, 계약의 형태와 계약 당사자의 성명 및 해당 계약에서 이사의 이해관계(만약 있다면)와 관련한 실정을 명시한다. (2) 회사 또는 계열사의 주식 또는 사채를 보유한 경우, 회계연도 동안 증감된 모든 수량(있다면)을 명시한다.

제89조

다음 각 항의 어느 하나에 해당하는 경우를 제외하고, 회사가 회사의 이사 또는 피고용자에게 금전 대출을 제공하지 아니하도록 금지한다. (1) 직원 및 피고용자 지원 규약에 따른 금전 대출 제공인 경우 (2) 상업 은행 관련 법률이나 생명 보험 관련 법률 또는 기타 법률에 따른 금전 대출 제공인 경우 다음 각 목과 같은 금전 대출 제공은 첫번째 단락에 따른 회사의 이사나 직원 또는 피고용인에 대한 금전 대출 제공으로 보도록 한다. (ㄱ) 이사나 직원 또는 피고용인의 배우자 또는 미성년 자녀에 대한 금전 대출 제공 (ㄴ) 이사나 직원 또는 피고용인, 해당 이사나 직원 또는 피고용인의 배우자 또는 미성년 자녀가 동업자인 합명회사에 대한 금전 대출 제공 (ㄷ) 이사나 직원 또는 피고용인이나 이사나 직원 또는 피고용인의 배우자 또는 미성년 자녀가 무한 책임 범주의 동업자인 합자회사에 대한 금전 대출 제공 (ㄹ) 이사나 직원 또는 피고용인, 해당 이사나 직원 또는 피고용인의 배우자 또는 미성년 자녀가 합하여 다른 회사 또는 유한회사의 전체 주식 수의 과반의 주식을 보유한 다른 회사 또는 유한회사에 대한 금전 대출의 제공 첫번째 단락에 따른 금전 대출 제공은 어음 매입 또는 할인 보증 및 대출금 관련 보증 제공을 포함하여 뜻한다.

제90조

회사의 정관에 따라 보수로 지급하는 것을 제외하고, 회사가 이사에게 금전 또는 기타 재산을 지급하지 아니하도록 금지한다. 회사의 정관에서 규정하지 아니한 경우, 첫번째 단락에 따른 보수 지급은 회의에 참석한 주주 전체 투표수의 2/3 이상의 득표로 이루어지는 주주총회의 결정에 따르도록 한다.

제91조

다음 각 항의 어느 하나에 해당하는 경우, 이사는 회사에 발생한 손실에 대해 연대 책임을 져야 한다. (1) 제37조 또는 제38조를 이행하지 아니하고 주식 청약인에게 회사에 주가를 지불하거나 재산 소유권을 인도하도록 청구하는 경우 (2) 제43조를 위반하여 금전으로 주가를 지출하거나, 회사의 주가로 지불된 재산을 매각하는 경우 (3) 제85조를 위반하여 어떠한 이행을 하는 경우 (4) 제90조를 준수하지 아니하고 이사에게 금전 또는 기타 재산을 지급하는 경우 (6) 정당하게 이행하였으며, 회사의 이사장이나 재무 담당자 또는 회계감사인이 정확하다고 인증한 원칙 또는 재무보고서에 의거하여 이행하였다는 것을 증명할 수 있는 것을 제외하고 제115조를 위반하여 주주에게 배당금을 지급하거나 제118조에 따른 죄를 인정하는 경우 (7) 위반이 발생하지 아니하도록 하기 위하여 본인이 합당한 행위를 하였다고 증명할 수 있는 것을 제외하고, 이 법에 따른 회사의 회계장부나 등록증 또는 서류를 작성 또는 보관하지 아니한 경우

제92조

다음 각 항의 어느 하나에 해당하는 경우, 이사는 제91조에 따른 책임을 질 필요가 없다. (1) 본인이 그러한 업무에 참여하지 아니하였거나, 해당 업무가 이사회의 의결에 의거하지 아니하고 실행되었다는 것을 증명할 수 있는 경우 (2) 의사록에 표시하여 이사회 회의에서 반대하였거나 회의가 종료된 날부터 3일 이내에 서면으로 작성하여 의장에게 제출하는 경우

제93조

이사가 제91조제(6)항에 따라 회사에 발생한 피해에 대하여 인책하여야 하는 경우, 해당 이사는 제115조를 위반하거나 제118조에 따른 잘못을 시인하여야 하는 지급이라는 것을 인지하여 수령한 주주에 대한 초과분 배당금 청구권을 갖도록 한다.

제94조

다음 각 항의 어느 하나에 해당하는 경우, 이사는 본인이 그러한 잘못에 관련이 없다는 것을 증명할 수 있는 것을 제외하고, 주주 및 회사 관련자에 대한 연대 책임을 져야 한다. (1) 회사의 주식이나 사채 또는 금융 수단의 매도와 관련하여 회사의 재정 상태 및 사업 수행에 관한 허위 내용을 알리거나 마땅히 알려야 하는 내용을 은폐하는 경우 (2) 허위 또는 회사의 회계장부나 등록증 또는 서류와 일치하지 아니하는 내용이나 사항을 서류에 표시하거나 기입하여 등기 담당관에게 제출하는 경우 (3) 허위 대차 대조표 및 손익 계산서나 주주총회 의사록 또는 이사회 의사록을 작성하는 경우

제95조

이사가 주주총회에서 승인 권한을 부여하거나 비준하도록 의결한 어떠한 행위를 한 경우에는 이후 그러한 의결이 취소되더라도 해당 이사는 그러한 행위에 대하여 회사나 주주 또는 회사의 담당자에 대한 책임을 질 필요가 없다.

제96조

회사는 이사 등기부와 이사회 의사록 및 주주총회 의사록을 작성하고 회사의 본사에 보관하여야 하며, 다른 사람이 대신하여 해당 서류 및 등록부를 보관하도록 위임할 수도 있으나, 사전에 등기 담당관에게 통보하여야 하며, 본사 소재지 또는 인접 지방에 보관하여야 한다. 해당 이사 등기부는 최소한 다음 각 항의 사항을 갖추어야 한다. (1) 이사의 성명과 생년월일, 국적 주소지 (2) 이사 각 개인이 보유한 주식의 종류와 가치, 주권 번호 및 수량 (3) 이사가 되거나 자격을 상실한 연월일 해당 이사회 의사록 및 주주총회 이사록은 이사회가 회의일부터 14일 이내에 작성을 완료하도록 한다.

제97조

이 장에서 다르게 규정한 것을 제외하고, 이사 및 회사와 제삼자 간의 관계는 대리인 관련 「민상법전」을 따르도록 한다.

제6장 주주총회

제98조

이사회는 회사의 회계연도가 종료되는 날부터 4개월 이내에 정기 주주총회가 있도록 조치하도록 한다. 첫번째 단락 이외 다른 회차의 주주총회는 임시 주주총회라고 칭하도록 한다.

제99조

이사회는 합당한 바에 따라 언제든 임시 회의로 주주총회를 소집할 수도 있다.

제100조

합하여 매도한 전체 주식 수의 20% 이상을 보유한 주주 한 사람 또는 여러 사람은 언제든 연서하여 이사회에 임시 주주 총회 소집 요구서를 작성할 수 있으나, 해당 요구서에 회의 소집을 요구하는 안건 및 이유를 명확하게 밝혀야 한다. 이와 같은 경우, 이사회는 주주로부터 요구서를 접수한 날부터 45일 이내에 주주총회가 있도록 조치하여야 한다. 이사회가 첫번째 단락에 따른 기한 내에 회의가 있도록 조치하지 아니하는 경우, 연서한 주주 전체 또는 다른 주주가 함께 적용하는 바에 따른 주식수를 획득하여 첫번째 단락에 따른 기한 만료일부터 45일 이내에 직접 이사회를 소집할 수도 있다. 이와 같은 경우 이사회가 회의를 소집한 주주총회라고 보도록 하고, 회사는 회의가 있도록 조치하는 데에서 발생하는 필수 비용을 책임져야 하며, 합당한 편의를 제공하여야 한다. 두번째 단락에 따른 주주로 인한 회의 소집이 되는 어떠한 주주총회가 회의에 참여한 주주의 수가 제103조에서 규정한 바에 따른 회의 정족수가 되지 아니한다고 드러나는 경우, 두번째 단락에 따른 주주는 해당 회의가 있도록 조치하는 데에서 발생한 비용에 대하여 회사에 연대 책임을 져야 한다.

제101조

주주총회 소집은, 이사회가 장소와 일시, 의제 및 회의에 상정할 안건을 적절한 상세 사항과 함께 기재하고, 상정할 안건이 경우에 따라 고지나 인가 또는 검토를 위한 것인지의 여부와 함께, 해당 안건에 대한 이사회의 의견을 명시하여 회의 소집통지서를 작성하고 최소한 회의 7일 전에 주주와 등기 담당관에게 송부하여 알리도록 한다. 이와 관련하여 최소한 회의 3일 전에 신문에 회의 소집 내용을 광고하도록 한다. 첫번째 단락에 따라 회의장으로 사용할 장소는, 정관이 다르게 규정하는 것을 제외하고, 본사 소재지 또는 인접 지방에 있어야 한다.

제102조

주주는 회의에 참석하고, 주주총회에서 투표할 권리가 있으나, 다른 사람이 대신하여 회의에 참석하고 투표하도록 위임할 수도 있다. 이와 관련하여 위임하는 경우에는 이사장 또는 이사장이 정하는 사람에게 위임장을 제출하여, 제33조 두번째 단락과 네번째 단락 및 다섯번째 단락과 제34조를 준용하도록 한다. 첫번째 단락의 투표에서, 회사가 우선주를 발행하고 보통주보다 투표권이 적다고 규정한 경우, 1주가 1표를 보유한다고 간주하는 부분에 대해서는 적용하지 아니하도록 한다.

제103조

이 법이 다르게 규정하는 것을 제외하고, 주주총회에는 주주 및 주주로부터 위임을 받은 사람(만약 있다면)이 25인 이상 또는 전체 주주의 과반 이상 있어야 하며, 합하여 매도한 총 주식 수의 2/3 이상이 있어야 정족수가 된다. 어떠한 회차의 주주총회가 회의 예정 시간에서 1시간 경과한 때에 회의에 참석한 주주 수가 첫번째 단락에 따른 정족수에 미치지 아니하였다고 드러나는 경우, 만약 해당 주주총회가 제100조에 따른 주주의 요구로 인하여 소집되었다면, 회의는 중지된다. 만약 해당 주주총회가 제100조에 따른 주주의 요구로 인하여 소집된 것이 아니라면, 새로운 회의를 정하도록 하고, 회의일 최소 7일 전에 주주에게 회의 소집 통지서를 송부하도록 한다. 이후 회의에서는 정족수 충족 여부를 적용하지 아니한다.

제104조

이사장이 주주총회의 의장이 되도록 한다. 이사장이 회의에 부재하거나 직무 수행이 불가능한 경우, 만약 부이사장이 있다면 부이사장이 의장이 되도록 하며, 만약 부이사장이 없거나, 있으나 직무 수행이 불가능하다면, 회의에 참석한 주주들이 회의에서 주주 한 사람을 직접 의장으로 선발하도록 한다.

제105조

주주총회에서의 의장은 회의가 회의 관련 회사 정관을 따르도록 감독할 책임이 있다. 이와 관련하여 회의 소집 통지서에서 정한 의제 순서에 따라 회의를 진행하여야 한다. 다만, 회의에서 회의에 참석한 주주 수의 2/3 이상의 득표수로 의제 순서를 변경하도록 하는 의결이 있는 것은 제외하도록 한다. 회의에서 첫번째 단락에 따라 검토를 완료한 때에는 합하여 매도한 전체 주식 수의 1/3 이상을 보유한 주주가 회의 소집 통지서에서 규정한 안건 이외의 다른 안건을 검토하도록 요청할 수도 있다. 경우에 따라 회의에서 의제 순서에 따른 안건 검토가 완료되지 아니하였거나, 두번째 단락에 따라 주주가 상정한 안건 검토가 완료되지 아니하였으며, 검토를 연기하여야 할 필요가 있는 경우, 회의에서 다음 회의를 진행할 장소와 일시를 정하도록 하고, 이사회는 회의일 최소 7일 전에 장소와 일시 및 의제를 기재한 회의 소집 통지서를 주주에게 송부하도록 한다. 이와 관련하여 최소한 회의 3일 전에 신문에 회의 소집 내용을 광고하도록 한다.

제106조

이 장에서 규정한 바에 따른 회의 소집 통지서 송부는 제29조를 준용하도록 한다.

제107조

이 법이 다르게 규정하는 것을 제외하고, 해당 주주총회에서의 의결은 다음 각 항의 득표수로 이루어지도록 한다. (1) 일반적인 경우, 회의에 참석하고 투표한 주주의 다수표를 따르도록 한다. 만약 득표수가 같다면, 의장이 결정표로 추가 1표를 행사하도록 한다. (2) 다음 각 목과 같은 경우, 회의에 참석하였으며, 투표권이 있는 주주의 총 투표수의 2/3 이상의 득표수를 따르도록 한다. (ㄱ) 회사의 주요 사업 전부 또는 일부를 타인에게 매각 또는 양도하는 경우 (ㄴ) 회사 또는 유한회사의 사업을 회사 소유로 매입 또는 양수하는 경우 (ㄷ) 회사의 주요 계약 전부 또는 일부를 체결하거나 수정 또는 해지하는 경우나 다른 사람에게 회사의 사업 운영을 위탁하는 경우 또는 손익 배분을 목적으로 다른 사람과 사업을 합병하는 경우 (3) 회사가 어떠한 안건에서의 주주총회의 의결이 제(1)항 또는 제(2)항에서 규정한 수를 초과하는 득표수로 구성되어야 한다고 정한 정관을 갖춘 경우에는 그에 따르도록 한다.

제108조

어떠한 주주총회가, 만약 회사의 정관 또는 이 법의 규정을 준수하지 아니하거나 위반하여 회의를 소집하거나 의결한 경우, 5인 이상의 주주 또는 합하여 매도한 전체 주식 수의 1/5 이상을 보유한 주주가 해당 회의에서의 의결 취소 명령을 하도록 법원에 신청할 수도 있으나, 회의에서 의결한 날부터 1개월 이내에 법원에 신청하여야 한다. 법원이 첫번째 단락에 따라 주주총회에서의 의결을 취소하도록 판결하는 경우, 회사는 법원이 최종 판결을 한 날부터 1개월 이내에 주주에게 통지하도록 한다.

제8장 회계 장부 및 보고서

제109조

회사는 관련 법률에 따라 회계 장부 작성 및 보관과 회계 감사가 있도록 조치하여야 한다.

제110조

제109조에 따른 회계 장부 작성 이외에도 회사는 해당 회사의 회계연도인 12개월 내에 1회 이상 대차 대조표 및 손익 계산서를 작성하여야 한다. 대차 대조표 및 손익 계산서는 부령에서 정하는 바에 따른 항목 및 항목의 정의를 포함하여야 한다.

제111조

회사가 아직 등기한 자본액을 충족하는 주가를 지급받지 못 한 경우, 회사는 자본금 및 매도한 주식의 수와 지급받았을 때의 액수에 대하여 다음 각 항과 같은 회사 서류에 표기하여야 한다. (1) 손익 계산서 (2) 기타 재정 상태를 나타내는 서류

제112조

회사는 회사의 회계연도 종료일에 대차 대조표 및 손익 계산서를 작성하여 검토 및 승인을 위하여 연례 정기 주주총회에 제출하여야 한다. 첫번째 단락에 따라 작성하거나 검토 및 승인을 위하여 주주 총회에 제출하기 위하여 회계연도 동안 작성하는 대차 대조표 및 손익 계산서는 주주총회에 제출하기 전, 이사회가 감사에게 해당 대차 대조표 및 손익 계산서에 대한 감사를 하도록 조치하여야 한다.

제113조

이사회는 연례 정기 회의 소집 통지서와 함께 다음 각 항의 서류를 주주에게 발송하여야 한다. (1) 제112조에 따라 회계 감사가 감사를 완료한 대차 대조표 및 손익 계산서와 함께 회계 감사의 감사 보고서 (2) 제114조제(1)항 및 제(2)항 (만약 있다면)에 따른 보고서를 표시하는 서류

제114조

해당 이사회의 연례 보고서에는 최소한 다음 각 항과 관련한 보고가 나타나야 한다. (1) 회사의 사명과 본사 소재지, 업종, 매도한 전체 주식 수 및 종류, 계열사 (만약 있다면)에서 보유하고 있는 주식 수 및 종류. 계열사가 될 회사의 형태는 부령에서 정하는 바를 따르도록 한다. (2) 회사가 다른 회사 또는 유한회사가 매도한 주식 수의 10% 이상을 보유하고 있는 경우, 해당 회사 또는 유한회사의 사명, 본사 소재지, 업종, 매도한 전체 주식 수 및 종류, 회사가 보유한 주식 수 및 종류 (만약 있다면) (3) 제88조에 따라 이사가 통보하는 상세 사항 (4) 이사가 회사에서 수령한 보수나 주식, 사채 또는 기타 이권과 함께 해당 수령자인 이사의 성명 (5) 부령에서 정하는 기타 사항

제115조

이익금을 제외한 다른 유형의 금전에서의 배당금 지급은 불가하다. 회사가 누적 적자액을 보유하고 있는 경우, 배당금을 지급하지 아니하도록 금지한다. 배당금은, 우선주에 대하여 정관에서 다르게 정한 것을 제외하고 배당하도록 하며, 배당금 지급은 주주총회에서 승인을 받아야 한다. 이사회는 회사가 그와 같이 이행할 충분한 이익이 있다고 판단하는 때에 수시로 주주에게 중간 배당금을 지불할 수도 있으며, 배당금 지급을 완료한 때에는 다음 차례의 회의의 주주총회에서 보고하도록 한다. 해당 배당금의 지급은 경우에 따라 주주총회일 또는 이사회가 승인한 날부터 1개월 이내에 이행하도록 한다. 이와 관련하여 서면으로 주주에게 통지하도록 하고, 해당 배당금 지급 내용을 신문에 광고하도록 한다.

제116조

회사는 연간 순익의 5% 이상인 연간 순익의 일부를 예비비로 할당하여야 하며, 이러한 예비비가 등기 자본의 10% 이상의 액수에 이를 때까지 이월 누적 적자액(만약 있다면)으로 공제하여야 한다. 다만 회사가 그 이상의 예비비를 보유하도록 정한 정관 또는 기타 법률이 있는 것은 제외한다.

제117조

회사가 등기 자본을 충족하지 못하는 주식을 매도하거나 회사가 증자 등기를 완료한 경우, 회사는 주주총회에서 승인을 받아 새로운 우선주를 발행하여 배당금 전부 또는 일부를 지급할 수도 있다.

제118조

회사가 제115조나 제116조 또는 117조를 위반하여 회사의 채권자가 불리하도록 하는 원인이 되는 배당금을 주주에게 지급하는 경우, 채권자는 주주총회가 의결한 날부터 1년 이내에 수령한 배당금을 반환하도록 주주를 고소할 수도 있으나, 정당하게 배당금을 수령한 주주에 대해서는 금전 반환을 강제할 수 없다.

제119조

주주총회에서 승인을 받은 때에는 회사는 회사의 누적 적자를 보전하기 위하여 제51조에 따른 예비비나 제116조에 따른 예비비 또는 기타 예비비를 이체할 수도 있다. 첫번째 단락에 따른 누적 적자 보전은 우선 다른 예비비에서 차감 보전한 후 제116조에 따른 예비비와 제51조에 따른 예비비에서 차례대로 차감하도록 한다.

제120조

연례 정기 주주총회에서 회계 감사를 임명하고, 매년 회사의 감사 금액을 정하도록 한다. 회계 감사를 임명하는 경우, 기존의 회계 감사를 재임명할 수도 있다.

제121조

회계 감사는 이사나 직원, 피고용인 또는 회사의 어떠한 직에 재임하고 있는 사람이 아니어야 한다.

제122조

회계 감사는 회사의 업무 시간 동안 회계 장부와 서류 및 수지와 관련하 기타 근거와 더불어 회사의 자산 및 부채를 감사할 권한이 있다. 이와 관련하여, 이사나 직원, 피고용인, 회사의 어떠한 직에 재임하고 있는 사람 및 회사의 대리인을 심문하고, 아울러 사실관계를 진술하도록 하거나, 회사의 사업 운영과 관련한 근거 서류를 송부하도록 하는 권한을 갖도록 한다.

제123조

회계 감사는 회계 감사 관련 법률에 따라 보고서를 작성하여 연례 정기 주주총회에 제출하여야 한다.

제124조

대차 대조표와 손익 계산서 및 회사 회계 감사의 보고서는 단정하게 인쇄한 태국어로 작성하여야 한다.

제125조

회계 감사는 서면으로 답변서를 작성하여 주주총회에 제출할 권리가 있으며, 대차 대조표와 손익 계산서 및 회사의 회계 장부와 관련한 문제에 대한 검토를 하는 회사의 회의에 매회 참석할 의무가 있다. 또한 회사는 주주가 해당 주주총회에서 수령하여야 할 회사의 보고서 및 서류를 회계 감사에게도 송부하도록 한다.

제126조

주주는 회사의 업무 시간 중 어느 때라도 회사의 대차 대조표와 손익 계산서 및 회계 감사의 보고서 조사를 요구하고, 회사에 해당 서류의 사본과 함께 인증을 요구할 권리가 있다. 이와 관련하여 회사는 회사의 정관에 규정한 바에 따른 비용을 청구할 수도 있다.

제127조

회사는 회계 감사가 조사하고 주주총회에서 승인한 대차 대조표 및 손익 계산서와 아울러 연례 보고서 및 대차 대조표 승인과 이익 배분 및 배당금 배당과 관련한 부분에 한하여 주주총회 보고서 사본을 회사를 대신하는 서명권자가 인증 서명하여 등기 담당관에게 송부하여야 한다. 그러한 대차 대조표에 대해서는 주주총회에서 승인한 날부터 1개월 이내에 최소한 1일을 정하여 신문에 광고하여 국민에게 알려야 한다.

제9장 감사

제128조

합하여 매도한 전체 주식 수의 5% 이상을 보유한 주주 한 사람 또는 여러 사람이 연서하여 서면으로 등기 담당관에게 회사의 사업 운영 및 재정 상태 감사와 더불어 이사회의 업무 이행 감사를 위한 감사 임명을 요청할 수도 있다. 첫번째 단락에 따라 요청하는 경우, 요청인은 감사를 요청하는 이유 및 요점을 명확하게 기재하여야 하며, 아울러 대표로 주주 한 사람의 성명과 거주지를 밝혀야 한다. 만약 등기 담당관이 타당한 이유가 있다고 판단한다면, 등기 담당관은 직원 한 사람 또는 여러 사람을 감사로 임명하는 명령을 하도록 하며, 감사 임명 명령을 하는 때에는 등기 담당관은 감사하도록 할 요점을 명확하게 기재하여야 한다.

제129조

다음 각 항의 어느 하나에 해당한다는 의심할 만한 이유가 있는 때에는, 등기 담당관은 담당관 한 사람 또는 여러 사람을 감사로 임명할 수도 있다. (1) 회사가 회사의 채권자를 기망하거나 변제가 불가능하다는 것을 인지하고 있는 채무를 성립시키기 위한 행위를 하는 때 (2) 회사가 이 법을 위반 또는 준수하지 아니하거나, 대차 대조표 또는 손익 계산서 등기 신청이나 등기 담당관에게 제출 또는 국민 전체에게 공개하는 보고에서 허위 내용을 신고하는 때 (3) 회사의 이사 또는 경영진이 회사의 목적에 어긋나는 조치를 하거나, 회사 또는 회사의 주주에 대하여 부정 행위를 하는 때 (4) 소수파 주주가 불리하도록 하는 불공평한 행위가 있는 때 (5) 회사의 사업 운영이 주주에게 손해를 야기할 수 있는 때 감사 임명 명령에는 등기 담당관이 감사를 하도록 하는 요점을 명확하게 기재하여야 하며, 회사에 통지서를 송부하여야 한다.

제130조

제128조 및 제129조에 따른 직무를 수행하는 경우, 감사는 다음 각 항에 해당하는 권한이 있다. (1) 회사의 업무 시간 중에 회사의 사무실 또는 특정한 장소에 진입 (2) 이사와 직원, 피고용인, 회사의 어떠한 직에 재임하는 사람 및 회사의 대표 및 회계 감사와 아울러 회사에 재임하였거나 해당 책임을 담당한 경력이 있으며 그러한 직 또는 책임에서 물러난 지 1년 미만인 사람에게 진술을 하도록 명령 (3) 감사를 위하여 제(2)항에 따른 사람에게 본인의 책임 하에 있는 회사의 사업 수행과 관련한 장부 및 서류를 제시하거나 송부하도록 명령 감사가 검토하여, 해당 임명에 따른 감사에서 관련되는 경우가 있는 이유로 제114조제(1)항 및 제(2)항에 따른 다른 회사 또는 유한회사를 감사할 필요성이 있다고 판단하는 경우, 감사가 등기 담당관으로부터 사전 승인을 받은 때에는 그러한 관련 사안에 한하여 해당 회사에 대한 감사권을 행사할 수 있다. 첫번째 단락에 따른 감사의 직무 수행의 경우, 감사는 형법전에 따른 담당관이 되도록 하며, 관계자는 합당한 지원과 편의를 제공하도록 한다.

제131조

감사는 임명을 받은 날부터 2개월 이내에 감사 결과 보고서를 작성하여 의견과 함께 등기 담당관에게 제출하여야 한다. 만약 해당 기한 내에 완료할 수 없다면, 감사는 2개월마다 등기 담당관에게 감사 보고를 하여야 한다.

제132조

등기 담당관이 감사로부터 감사 결과 보고서를 받은 때에는 다음 각 항과 같이 조치하도록 한다. (1) 감사 결과서를 받은 날부터 7일 이내에 해당 보고서 사본을 회사로 송부한다. (2) 이 법에 따른 위반 행위를 한 사람에 대한 법적 절차를 집행하기 위하여 관련 담당관에게 통보한다. (3) 회사가 이 법에 따라 올바르게 조치하도록 명령한다. (4) 감사 결과 보고서에서 드러나는 채권자나 손해를 입은 사람에게 서면으로 통지한다.

제133조

제132조제(1)항에 따른 보고서를 수령한 회사는 보고서를 수령한 날부터 14일 이내에 보고서를 요약하고 주주에게 송부하여 알리도록 한다. 이와 관련하여 회사는 주주가 확인할 수 있도록 하기 위하여 보고서 전체의 사본을 회사에 갖추어 두도록 하여야 한다.

제134조

회사의 감사 비용은 우선 다음 각 항의 어느 하나에 해당하는 사람이 대신 지급하도록 한다. (1) 등기 담당관에게 감사 임명을 요청한 주주 (2) 제129조에 따른 감사가 있는 경우 등기 담당관

제135조

감사 결과가 감사 목적 전부 또는 일부에 부합하는 경우, 회사가 제134조에 따른 사람이 대신 지급한 감사 경비에 대하여 책임을 지도록 한다.

제6장 증자와 감자

제136조

회사는 신주 추가 발행을 통하여 등기 자본에 증자할 수 있다. 첫번째 단락에 따른 신주 추가 발행은 다음 각 항에 해당하는 때에 이행 가능하다. (1) 주식을 전부 매각하였으며 주가가 완납된 때, 또는 주식 전부를 매각하지 못한 경우, 잔여 주식은 전환 사채 또는 주식 구매 권리증 보증을 위하여 발행한 주식이어야 한다. (2) 회의에 참석하였으며, 투표권을 가진 주주 전체 투표수의 3/4 이상의 득투표수로 주주총회에서 의결한 때 (3) 회의에서 해당 의결을 한 날부터 14일 이내에 그러한 의결에 따라 등기 담당관에게 자본 변경 등기를 한다. 이와 관련하여 제3장 및 제5장을 준용하도록 한다.

제137조

제136조에 따라 증자한 주식은 전부 또는 일부를 공모할 수도 있으며, 각 주주가 보유한 주식 수에 따라 주주에게 우선 공모하거나, 전부 또는 일부에 관계없이, 국민 또는 다른 사람에게 공모할 수도 있다. 이와 관련하여 주주총회에서의 의결을 따르도록 하며, 제38조를 준용하도록 한다.

제138조

회사가 추가로 발행한 주식의 일부를 매도한 때에, 회사는 회당 공모한 주식 수의 25% 이상으로 분할하여 등기 담당관에게 납입 자본 변경 등기 신청을 할 수도 있으나, (투자)설명서 또는 국민 대상 주식 공모 관련 서류에 규정해 두어야 한다. 첫번째 단락에서 규정해 둔 경우를 제외하고, 회사는 공모 및 (투자)설명서 또는 국민 대상 주식 공모 관련 서류에 정한 수량에 따라 주가가 완납된 날부터 14일 이내에 납입 자본 변경 등기 신청을 하도록 한다. 이 조에 따라 납입 자본 변경 등기를 하는 경우, 회사는 추가된 주주에 한하여, 성명과 국적, 주소, 보유한 주식 수 및 주권번호를 명시하여 회사의 주주 명단을 송부하여야 한다.

제139조

회사는 각 주식의 가치 하락 또는 주식 수 감소를 통하여 등기 완료한 액수를 감자할 수도 있으나, 전체 자본의 1/4 미만의 액수에 이르기까지 감자하는 것은 불가하다. 회사에 누적 적자가 발생하였으며, 제119조에 따른 누적 적자 보전이 완료된 후에도 누적 적자가 남아 있는 경우, 회사는 자본 전체의 1/4 미만의 액수로 감자할 수도 있다. 첫번째 단락 또는 두번째 단락에 따른 주식 가치 하락 또는 주식 수 축소의 액수 및 방법은 주주총회에서 회의에 참석하였으며, 투표권이 있는 주주의 전체 투표수의 3/4 이상이 의결하였을 때 실행 가능하다. 이와 관련하여 회사는 회의에서 의결한 날부터 14일 이내에 해당 의결을 등기 신청하여야 한다.

제140조

매도하지 못하였거나 아직 매도하지 아니한 등기 자본을 삭감하는 방법으로 감자하도록 주주총회에서 의결할 수 있다. 회의에서 의결을 완료한 때에 회사는 회의에서 의결한 날부터 14일 이내에 감자 등기 신청을 하도록 한다.

제141조

제140조의 경우가 아닌 감자에 대해서는, 회사는 주주총회에서의결한 날부터 14일 이내에, 의결 통지서 수령일부터 2개월 이내에 이의 제기서를 송부하도록 기한을 정하여, 회사가 인지한 회사의 채권자에게 감자 의결 통지서를 송부하여야 한다. 또한, 회사는 14일의 기한 내에 신문에 광고하도록 한다. 만약 이의 제기가 있다면, 채무 청산 또는 그러한 채무에 대한 담보를 제공할 때까지 회사가 감자하는 것은 불가하다.

제142조

제139조 및 제141조에 따라 이행 완료한 때에는, 회사는 다음 각 항의 어느 하나에 해당하는 기한 내에 등기 담당관에게 등기 신청을 하도록 한다. (1) 채권자의 이의 제기가 없는 경우, 제141조에 따른 기한 만료일부터 14일 이내 (2) 채권자의 이의 제기가 있는 경우, 채무 청산일 또는 채무를 위한 담보 제공일부터 14일 이내 이와 관련하여 제138조 세번째 단락을 준용하도록 한다.

제143조

회사가 제138조에 따른 납입자본 변경 등기나 제140조 또는 제142조에 따른 감자 등기 조치를 완료한 때에는, 회사는 경우에 따라 증자 또는 감자 등기일부터 14일 이내에 서면으로 주주에게 통지하고, 최소한 1부 이상의 신문에 광고하도록 한다.

제144조

어떠한 채권자가 의결에 대하여 인지하지 못하여 제141조에 따른 기한 내에 회사의 감자에 대한 이의를 제기하지 못하였으며, 인지하지 못한 이유가 해당 채권자의 과실이 아닌 경우, 만약 해당 채권자가, 수령한 주가를 반환한 주주에게 본인이 수령하고 반환한 금액에 대한 책임을 지도록 하고자 한다면, 감자 등기를 한 날부터 1년 이내에 제소하여야 한다.

제11장 사채

제145조

국민 대상 공모를 위한 사채 발행을 통한 회사의 자금 대출은 증권 및 증권거래소 관련 법률을 따르도록 하며, 제25조를 준용하도록 한다. 첫번째 단락에 따른 사채 발행 의결은 회의에 참석하였으며, 투표권이 있는 주주 전체 투표수의 3/4 이상의 득표를 통한 주주총회에서의 의결을 적용하여야 한다.

제12장 회사 합병

제146조

2곳 이상의 회사 또는 회사와 유한회사는, 합병할 각 회사의 주주총회에서 회의에 참석하였으며, 투표권이 있는 주주 전체 투표수의 3/4 이상의 득표로 의결하여 회사로 합병할 수도 있으며, 유한회사와의 합병인 경우에는 「민상법전」에서 규정한 바에 따른 특별 의결이 필요하다. 첫번째 단락에 따라 회사를 합병하도록 의결하였으나 회사 합병을 반대하는 주주가 있는 경우, 회사는 회사 합병의결이 있기 전의 증권거래소 최종 거래가로 해당 주주의 주식을 구매할 사람을 구하는 조치를 하여야 하며, 증권거래소의 거래가가 없는 경우에는 양측이 정산인으로 임명하는 독립 가격 평가인에 따라 가격을 적용하도록 한다. 만약 해당 주주가 구매 제안서를 수령한 날부터 14일 이내에 매각을 승낙하지 아니한다면, 회사는 회사 합병 조치를 이어서 단행하도록 하며, 해당 주주는 합병한 회사의 주주로 보도록 한다.

제147조

회사는 회사의 채권자에게 다른 회사와의 합병 의결을 통지하여야 하며, 제141조를 준용하도록 한다.

제148조

제147조에 따른 조치를 완료한 때에는, 합병할 회사의 이사장이 다음 각 항의 사안에 대한 검토를 위한 합동 회의에 참석하도록 각 회사의 주주총회를 소집하도록 한다. (1) 주주에 대한 합병 회사의 주식 배당 (2) 새로운 사명 또는 어느 한 회사의 기존 사명을 사용할 수도 있는 합병 회사의 사명 (3) 합병 회사의 목적 (4) 합병할 회사의 전체 납입자본 이상의 자본금을 필요로 하는 합병 회사의 자본금, 만약 상호 합병할 회사가 등기를 완료한 액수에 따른 주식을 모두 매각하였다면, 동시에 증자를 할 수도 있다. (5) 합병 회사의 설립 계약서 (6) 합병 회사의 정관 (7) 합병 회사의 이사 선출 (8) 합병 회사의 회계 감사 선출 (9) 회사 합병에 필요한 기타 안건(만약 있다면) 이와 관련하여, 어떠한 한 회사가 마지막으로 합병을 의결한 날부터 6개월 이내에 회의를 종료하도록 조치하여야 한다. 다만 이 조에 따른 회의에서 기간을 연장한 것은 제외하나, 총기간이 1년을 초과하지 아니하여야 한다.

제149조

제148조에 따라 공동으로 각종 안건을 검토하기 위한 회의는 각각에 관한 규정을 준용하도록 한다. 다만, 다음 각 항에서 규정하는 것은 제외한다. (1) 회의장으로 사용할 장소는 본사 소재지 또는 합병할 어느 한 회사의 인접 도에 위치하여야 한다. (2) 합산하여, 합병할 회사가 매각한 총주식수의 과반을 보유한 주주가 회의에 참석하여야 정족수가 된다. (3) 회의에 참석한 주주들이 직접 주주 한 사람을 회의의 의장으로 선출하도록 한다. (4) 회의의 결정은 제(2)항에 따라 회의에 참석한 주주의 다수결을 따르도록 한다.

제150조

기존 회사의 이사회는 제148조에 따른 회의 종료일부터 7일 이내에 회사의 사업과 자산, 장부, 서류 및 각종 근거 자료를 합병한 회사의 이사회에 인계하여야 한다.

제151조

합병을 완료한 회사의 이사회는 제148조에 따른 회의를 종료한 날부터 14일 이내에 등기 담당관에게 회사 합병 등기를 신청하고 제148조에 따른 회의에서 승인한 설립 계약서 및 정관을 제출하여야 하며, 제39조를 준용하도록 한다.

제152조

등기 담당관이 회사 합병 등기를 접수를 완료한 때에는, 기존 회사는 법인 지위를 다하도록 하며, 등기 담당관은 등기에 기록하도록 한다.

제157조

상호 합병 및 등기를 완료한 회사는 해당 회사의 모든 자산과 부채, 권리, 의무 및 책임을 인수한다.

제13조 회사 해산

제154조

다음 각 항의 어느 하나에 해당하는 이유가 있는 때에는, 회사 해산 조치를 하도록 한다. (1) 주주총회에서 회의에 참석하였으며, 투표권이 있는 주주 전체 투표수의 3/4 이상의 득표로 해산하도록 의결한 때 (2) 회사가 파산한 때 (3) 법원이 제155조에 따라 회사 해산 명령을 하였으며, 그 명령이 최종적인 것일 때

제155조

다음 각 항의 어느 하나에 해당하는 이유가 있는 경우에는 합산하여, 매각한 전체 주식 수의 1/10 이상을 보유한 주주들이 공동으로 법원에 회사 청산 명령을 요청할 수도 있다. (1) 회사 창립 발기인이 회사 창립 총회 또는 회사 창립 보고서 작성과 관련한 규정을 위반 또는 준수하지 아니하였거나, 이사회가 주가 지불이나 재산 양도 또는 주가 지불이나 주주 명부 작성 또는 회사 등기를 위한 각종 권리 행사 근거 서류를 작성하여 회사에 제공하는 것과 관련한 규정을 위반하거나 준수하지 아니하는 경우 (2) 만약 주주 수가 감소하여 15인이 되지 아니하는 경우 (3) 만약 회사의 사업을 수행한다면 적자가 날 수밖에 없으며, 다시 회복할 희망이 없는 경우 법원에 제(1)항 또는 제(2)항에 따른 경우에 대한 요청이 있는 때에는 법원은 회사 해산 명령을 대신하여 6개월을 초과하지 아니하는 기한 내에 법률에 따라 올바르게 개선하거나 이행하도록 하는 명령을 할 수도 있다.

제156조

회사를 해산하거나 해산을 명령하는 경우, 경우에 따라 주주총회 또는 법원은 이와 동시에 청산인 및 회계 감사를 임명하고 보수를 정하여야 한다.

제157조

회사 해산이 있는 때에는, 해산일부터 7일 이내에 이사회가 회사의 모든 재산과 장부 및 각종 근거 자료를 청산인에게 인도하도록 한다.

제158조

회사 청산은 등기 담당관이 회사 해산 등기를 접수한 날부터 효력을 발생하도록 하나, 만약 청산이 완료되지 아니하였다면 청산을 위하여 필요한 기간 동안에 한하여 회사가 유지되고 있다고 보도록 한다.

제14장 청산

제159조

파산 이외의 다른 이유로 회사가 해산하는 경우, 이 장의 규정에 따라 청산 처리를 하도록 한다.

제160조

청산인은 다음 각 항의 권한과 직무를 담당한다. (1) 미완료 업무를 완료하도록 청산하기 위하여 필요한 부분에 한하여 회사의 업무를 수행하나, 새로운 사업에는 착수하지 아니하도록 금지한다. (2) 회사가 다른 사람에게서 취득할 권리를 가진 금전 또는 재산을 수취한다. (3) 회사 명의로 민사 또는 형사 사건 관련 모든 이행 또는 어떠한 사안에 대한 합의 (4) 회사 명의로 부채 청산 (5) 주주총회 소집 (6) 부채 청산 후 남은 금전 또는 재산을 주주에게 배분 (7) 제11조 세번째 단락에 따른 이행 (8) 청산을 완료하도록 하기 위하여 필요한 기타 이행 청산인이 적자가 발생하도록 하는 원인이 될 정도로 필요 이상으로 제(1)항에 따른 업무를 수행하는 경우, 청산인은 해당 적자 부분에서 회사에 대한 책임을 부담하여야 한다.

제161조

청산인은 임명된 날부터 7일 이내에 다음 각 항을 수행하여야 한다. (1) 청산인으로 등록 신청 (2) 회사 해산 등기 신청 (3) 신문을 통하여 국민에게 회사 해산을 알리는 광고 게재

제162조

청산인은 임명된 날부터 1개월 이내에 다음 각 항을 수행하여야 한다 (1) 회사의 장부 및 서류에 성명이 나타나 있는 채권자에게, 통보일부터 1개월 이내에 청산인에게 채무 청구서를 제출하도록 서면 통보 (2) 회사의 장부 및 서류에 성명이 나타나 있는 채권자가 청산인에게 채무를 청산하도록 서면으로 통지

제163조

청산인 및 회계 감사가 다음 각항에 해당하는 때에는 청산을 끝내기 전에 이임한다. (1) 사망한 때 (2) 사임한 때 (3) 주주총회에서 면직을 의결한 때 (4) 법원이 면직 명령을 한 때 주주총회 또는 법원이 임명한 청산인 또는 회계 감사가 사망하거나 사임한 때는 경우에 따라 주주총회 또는 법원이 다른 사람을 대신 청산인 또는 회계 감사로 임명하도록 하며, 제161조제(1)항을 새로 임명된 청산인에게 적용하도록 한다.

제164조

정당한 이유가 있는 때에는 매각한 전체 주식 수의 1/10 이상을 보유한 주주들이 주주총회를 소집할 수 있으며, 주주총회에서 주주가 임명한 청산인 또는 회계 감사를 면직하도록 하고 언제든 다른 사람을 대신 임명할 수도 있으나, 만약 해당 청산인 또는 회계 감사가 법원이 임명한 사람이라면, 주주 한 사람이 법원에 면직을 청원할 수도 있다. 주주 한 사람이 요청하고, 등기 담당관이 청산인 또는 회계 담당관이 이 법에 따른 직무를 수행하지 아니하였다고 판단한다면, 등기 담당관은 법원에 청산인 또는 회계 담당관의 면직을 청원하도록 하며, 언제든 다른 사람을 대신 임명할 수도 있다.

제165조

청산인은 회계연도 개시일부터 회사 해산 등기일까지 회사의 대차 대조표 및 손익 계산서를 작성하고, 임명일부터 4개월 이내에 회계 감사가 조사하도록 송부하여야 한다. 또한, 회계 감사로부터 수령한 날부터 1개월 이내에 주주총회에서 승인하도록 제출하여야 한다.

제166조

청산인은 주주총회에서 승인한날부터 14일 이내에 주주총회에서 승인한 대차 대조표 및 손익 계산서 사본을 해당 대차 대조표 및 손익 계산서를 승인한 주주총회 의사록 사본과 함께 등기 담당관에게 송부하여야 한다.

제167조

해당 청산인의 어떠한 권한 제한도 성실하게 이행한 제삼자에 대한 대항으로 제기될 수 없다.

제168조

다수의 청산인을 임명하는 경우, 각 청산인은 단독으로 어떠한 행위를 하는 것은 불가하다. 다만, 주주총회 또는 법원이 청산인 임명 시에 다르게 규정하였으며, 청산인이 회사 해산과 함께 등기 신청을 완료한 경우는 제외한다.

제169조

청산인은 다른 부채보다 우선 순위로 청산에 소요되는 수수료와 부대비용 및 비용을 납부하여야 한다.

제170조

만약 채권자가 청산인에게 채무 청구서를 제출하지 아니한다면, 청산인은 회사의 장부 및 근거 서류에 드러난 채무액만큼 공탁 관련 법률에 따른 공탁소에 공탁하도록 한다. 또한 청산인은 신문을 통하여 광고를 게재하여 채권자에게 알리도록 한다. 해당 공탁소에 공탁한 모든 금전은, 만약 채권자가 5년 이내에 청구하지 아니한다면 국가의 소유로 귀속되도록 한다.

제171조

청산인이 청산에 필요하다고 판단하는 경우, 또는 회사의 채권자가 요구하는 때에는, 청산인은 회사의 사업 및 재무 상태를 검토하고 채무 청산 사안에 대한 합의를 위하여 회사의 채권자가 청산인과 함께 회의에 참여하도록 소집할 수도 있다. 일부분에 한하거나 다른 방법을 통한 채무 청산 사안에 대한 합의는 합의한 채권자에 한하여 구속력을 가진다.

제172조

회사의 채무를 모두 청산하였거나 채무 청산을 위한 금전 비축을 완료한 때에도 만약 남은 재산이 있다면, 청산인은 각자가 보유하고 있는 비율에 따라 주주 간에 해당 재산을 배분하도록 한다. 다만, 우선주 건에 대하여 회사 정관에서 다르게 결정한 것은 제외한다.

제177조

만약 청산인이 이 장에서 규정한대로 이행을 완료하고 회사의 재산이 채무 청산에 부족하다고 판단하였으며, 채권자 전체와 합의할 수 없다면, 청산인은 해당 회사에 대한 파산 명령을 법원에 청원하도록 한다.

제174조

청산인은 임명일부터 청산이 완료될 때까지 3개월마다 청산 보고서를 청산에 지급받은 계정과 함께 작성하여 등기 담당관에게 제출하여야 한다. 청산 보고서 및 청산에 지급받은 계정은 부령에서 정하는 서식과 항목을 따라야 한다. 만약 청산에서 결함이 드러난다면, 등기 담당관은 청산인에게 해당 결함을 수정하도록 지시할 권한이 있다. 이와 관련하여 청산인은 등기 담당관이 정하는 기한 내에 수정 조치를 하고 등기 담당관에게 보고하여 알려야 한다.

제175조

만약 등기 담당관이 회사 해산 등기일부터 1년 이내에 청산을 완료할 수 없다면, 청산인은 대차 대조표 및 손익 계산서와 함께 이행을 완료한 것과 계속 진행할 청산 보고서를 제출하여 주주에게 알리기 위하여, 만1년이 된 날부터 4개월 내에 매년 주주총회를 소집하여야 한다.

제176조

청산이 완료된 때에는, 청산인은 청산이 완료된 날부터 4개월 이내에 승인을 위하여 지급받은 계정과 함께 청산 결과 보고서를 작성하고 청산 경과를 주주총회에서 진술하도록 한다. 주주총회에서 첫번째 단락에 따른 보고서 및 계정을 승인한 때에는, 청산인은 주주총회에서 승인한 날부터 14일 이내에 등기 담당관에게 청산 완료 등기 신청을 하여야 하며, 아울러 회사의 장부 및 장부 기입 서류 전체를 등기 담당관에게 송부하여야 한다. 등기를 완료한 때에 등기 담당관은 등기에 기록하고, 등기 담당관에게 송부한 회사의 장부 및 장부 기입 서류를 청산 등기 완료일부터 최소한 3년의 기간 동안 보관하도록 한다.

제177조

제175조의 적용 하에서 청산인은 회사 해산 등기를 한 날부터 5년 이내에 청산 조치를 완료하여야 한다. 만약 5년의 기한이 만료한 후에도 청산을 완료하지 못하였다면, 청산인은 3개월마다 등기 담당관에게 이유를 설명하여야 하며, 등기 담당관은 합당한 바에 따라 청산을 재촉하기 위하여 청산인에게 어떠한 한 가지 직무를 수행하도록 지시할 권한을 갖도록 한다.

제178조

회사나 주주 또는 청산인이 채무자인 채무 반환 소송에 대해서는, 청산 등기 완료일부터 2년이 지난 때에는 소송을 하지 아니하도록 금지한다.

제179조

이 장의 규정에 따라 주주총회에서 승인 요청 또는 허가 요청을 하여야 하는 사안에 대해서는, 만약 주주총회 개최가 불가능하다면, 청산인이 등기 담당관에게 승인 또는 허가를 요청을 하도록 한다.

제15장 유한회사에서 회사로의 전환

제180조

민상법전에 따라 행할 수 있도록 하는 특별 의결이 있는 때에는 유한회사가 회사로 전환될 수 있다.

제181조

제180조에 따른 주주총회를 실시하는 때에, 만약 주주총회에서 이 법에 따른 회사로 전환하도록 하는 의결을 한다면, 이사회는 다음 각 항의 사안에 대한 검토가 있도록 조치하여야 한다. (1) 수정이 필요한 유한회사의 회사 설립 계약서, 이와 관련하여 전환 이후 유한회사의 증자 수정이 있을 수도 있다. (2) 회사의 정관 (3) 이사 선출 (4) 회사 회계 감사 선출 (5) 전화에 필요한 기타 사안 첫번째 단락에 따른 사안을 검토하는 경우, 그에 관한 회사 관련 규정을 준용하도록 한다.

제182조

유한회사 이사회는 유한회사의 사업과 재산, 장부, 서류 및 각종 근거 자료를 제181조에 따른 회의 해산일부터 7일 이내에 새로 선출된 이사회에 인도하여야 한다.

제183조

새로 선출된 이사회는 제179조에 따른 회의가 종료된 날부터 14일 이내에 유한회사 전환 등기 신청과 함께 제181조에 따른 회의에서 승인을 받은 의사록과 회사 설립 계약서 및 정관을 등기 담당관에게 제출하여야 하며, 제39조를 준용하도록 한다.

제184조

등기 담당관이 이 법에 따른 회사로의 전환 등기 접수를 완료한 때에, 유한회사는 「민상법전」에 따른 유한회사로서의 지위를 다하도록 하며, 등기 담당관이 등기에 기록해 두도록 한다.

제185조

회사로의 전환 등기를 완료한 유한회사는 기존 유한회사의 모든 재산과 부채, 권리 및 책임을 인수한다.

제16장 등기 담당관 및 담당관

제186조

이 법에 따라 등기 접수를 진행하는 때에, 등기 담당관 및 유권 담당관은 필요에 따라 사실관계 조회 및 등기 신청인에게 관련 근거 서류를 송부하도록 하거나, 관련인을 소환하여 진술하도록 하는 권한을 갖도록 한다.

제187조

등기 신청서가 정확하고 완벽한 경우, 등기 담당관은 등기를 접수하나, 만약 등기 신청서에 옳지 아니한 사항이 있거나, 구비 서류가 완벽하지 아니하거나, 등기 신청서 또는 서류의 사항이 법률을 위반하는 내용이 있다면, 등기 담당관은 등기 신청인에게 통보하여 올바르게 수정 조치하거나 완벽하게 준비하도록 한다. 등기 신청인이 통보를 받은 바에 따른 조치를 완료한 때에 등기 등록관은 등기를 접수하도록 한다. 등기 접수를 완료한 때에는 등기 담당관은 등기를 접수한 내용을 표시하는 요약 사항을 관보에 게재하도록 한다. 두번째 단락에 따른 내용에 대한 게재를 완료한 때에는 게재일 이튿날부터 일반인들이 게재한 내용을 인지하였다고 보도록 한다. 등기 담당관이 등기 접수 거부 명령을 한 경우, 명령 등기 접수를 거부한 이유와 함께 서면으로 등기 신청인에게 신속히 알리도록 한다. 이와 같은 경우, 등기 신청인은 등기 담당관의 명령을 통보받은 날부터 1개월 이내에 장관에게 명령에 대한 이의 신청을 제기할 수도 있다. 장관의 결정은 최종적인 것이 되도록 한다.

제188조

등기 담당관이 제64조에 따라 회사가 제출한 주주 명단이 올바르지 아니하다는 사실을 발견한 경우에는 등기 담당관이 정하는 바에 따른 적당한 기한 내에 올바르게 수정하도록 서면으로 명할 권한을 갖도록 한다.

제189조

등기 담당관이 제155조제(1)항 또는 제(2)항에 따른 사건이 어떠한 회사에 발생하였다고 발견한 때에는, 등기 담당관은 회사에 등기 담당관이 정하는 기한 내에 개선 또는 올바르게 수행하도록 명령할 권한을 갖도록 한다.

제190조

이 법에 따라 이행하도록 집행하기 위하여, 등기 담당관 및 담당관은 이 법에 따라 회사가 작성하여야 하는 각종 서류 및 근거를 조사하기 위하여 회사의 업무 시간 동안 회사의 사무실 또는 특정한 장소에 진입할 권한을 갖도록 하며, 아울러 관련자를 소환하여 진술하도록 하는 권한을 갖도록 한다. 이와 같은 경우, 담당관은 해당자에게 신분증을 제시하도록 하며, 해당자는 합당한 지원 또는 편의를 제공하도록 한다. 담당관의 신분증은 장관이 정하는 양식을 따르도록 한다.

제17장 처벌 규정

제191조

제11조나 제25조, 제31조 두번째 단락, 제40조, 제48조, 제51조, 제55조 첫번째 단락, 제58조, 제59조, 제62조 두번째 단락, 제63조 두번째 단락, 제64조, 제65조 세번째 단락, 제108조 두번째 단락, 제127조, 제133조, 제138조 두번째 단락, 제142조, 제143조, 제145조 두번째 단락, 제188조 또는 제98조를 준수하지 아니하는 회사는 2만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제192조

제20조 세번째 단락이나 제28조 또는 제37조 첫번째 단락을 준수하지 아니하는 회사 창립 발기인은 2만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제193조

제26조를 위반하는 회사 창립 발기인은 3년 이하의 금고형 또는 60만바트 이하의 벌금형에 처하거나, 금고형과 벌금형을 병과한다.

제194조

제27조를 준수하지 아니하는 회사 창립 발기인은 10만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제195조

제37조 두번째 단락이나, 제74조, 제79조, 제83조 두번째 단락, 제96조 세번째 단락, 제98조 첫번째 단락, 제100조, 제101조, 제105조 세번째 단락, 제112조, 제113조, 제115조 네번째 단락, 제151조 또는 제183조를 준수하지 아니하는 회사 이사회는 2만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제196조

제39조 또는 제40조, 제150조, 제157조 또는 제182조를 준수하지 아니하는 회사 이사회는 4만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제197조

제43조를 위반하는 회사 이사회는 3년 이하의 금고형 또는 60만바트 이하의 벌금형에 처하거나, 금고형과 벌금형을 병과한다.

제198조

제55조 두번째 단락을 위반하는 사람은 1년 이하의 금고형 및 20만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제199조

제57조 두번째 단락을 위반하는 회사 창립 발기인은 어떠한 금액이 더 높은지에 따라 2만바트 이하의 벌금형 또는 양도한 주식 가치의 두배에 해당하는 벌금형에 처한다.

제200조

제61조나 제62조 첫번째 단락 또는 제96조 첫번째 단락을 준수하지 아니하는 회사는 5만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제201조

제66조를 위반하는 회사는 어떠한 금액이 더 높은지에 따라 5만바트 이하의 벌금형 또는 보유하거나 담보로 받은 주식 가치의 두배에 해당하는 벌금형에 처한다.

제202조

제81조 두번째 단락 또는 제82조를 준수하지 아니하는 회사 이사장 또는 위임을 받은 사람은 1만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제203조

제88조를 준수하지 아니하거나, 준수하였으나 완벽하지 아니하거나 사실과 어긋나게 이행한 이사는 2만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제204조

제89조에 대한 위반이 되는 행위를 하는 이사나 상무 이사 또는 회사를 대신하여 행위를 할 권한이 있는 사람은 어떠한 금액이 더 높은지에 따라 2만바트 이하의 벌금형 또는 대출 제공한 금액의 두배에 해당하는 벌금형에 처한다.

제205조

제109조를 준수하지 아니하는 회사는 10만바트 이하의 벌금형에 처하며, 올바르게 준수할 때까지 1일에 2천바트를 추가로 부과한다.

제206조

제110조나 제111조 또는 제137조를 준수하지 아니하는 회사는 2만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제207조

제114조제(3)항이나 제(4)항 또는 제(5)항에 따른 보고서를 불완전하거나 사실에 어긋나게 제시하는 회사 이사회는 2만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제208조

제132조제(3)항에 따른 등기 담당관의 명령을 올바르게 이행하지 아니하는 회사는 5만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제209조

제160조제(7)항 또는 제161조를 준수하지 아니하는 청산인은 1만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제210조

제165조나 제166조, 제170조 첫번째 단락, 제174조 첫번째 단락 또는 두번째 단락, 제175조, 제176조 첫번째 단락 또는 두번째 단락을 준수하지 아니하거나, 제174조 세번째 단락에 따른 등기 담당관의 명령을 이행하지 아니하는 사람은 2만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제211조

제177조를 준수하지 아니하는 청산인은 5만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제212조

제130조에 따른 직무를 수행하는 조사 담당관 또는 제190조에 따른 직무를 수행하는 담당관을 방해하거나 편의를 제공하지 아니하는 사람은 1개월 이하의 금고형 또는 1만바트 이하의 벌금형에 처하거나, 금고형과 벌금형을 병과한다.

제213조

회사 설립 관련 등기 신청 또는 국민 대상 주식 공모 표시나 주식을 구매하도록 하는 (투자)설명서 양식에 사용하는 것을 제외하고, 서신이나 공고, 신고서, 송장, 영수증 또는 회사의 사업과 관련한 기타 서류에 “공개유한회사”나 “회사” 또는 “유한(공개)”나 “공유사(버머쩌.)”라는 태국어 문자를 포함하는 명칭이나 상호 또는 해당 뜻을 가진 외국어 문자를 회사가 되지 아니한 상태에서 사용하는 사람은 2만바트 이하의 벌금형에 처하며, 사용을 중지할 때까지 1일당 1천바트의 벌금을 추가로 부과한다.

제214조

해당 회사의 재정 상태 사안에 대한 주주총회에서 부당하게 거짓을 제시하거나, 진실을 은폐하는 회사의 이사 또는 청산인은 5만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제215조

회사에 피해가 되는, 합법적 취득이 불가능한 본인 또는 타인의 이익을 추구하기 위한 행위를 하거나 하지 아니하는 회사의 업무 수행 책임자는 5만바트 이하의 벌금형에 처한다.

제216조

다음 각 항의 어느 하나에 해당하는 행위를 하거나, 행위를 하도록 승인한 회사의 업무 수행책임자가, 만약 회사 또는 주주가 마땅히 취득하여야 할 이익을 훼손하도록 기망하기 위한 행위를 하거나, 행위를 하도록 승인하였다면, 5년 이하의 금고형 또는 1백만바트 이하의 벌금형에 처하거나, 금고형과 벌금형을 병과한다. (1) 회사 소유 또는 회사와 관련한 장부나 서류 또는 보증 훼손이나 파기, 변경, 삭제 또는 위조 (2) 회사 소유 또는 회사와 관련한 장부 또는 서류에 허위 사실 기재 또는 주요 내용 미기재

제217조

다음 각 항의 어느 하나에 해당하는 목적을 위하여 회사와 관련한 개인이나 직위, 장부, 보고서 또는 업무를 언급하여 주요 내용에서 거짓을 광고하는 사람은 3년 이하의 금고형 또는 60만바트 이하의 벌금형에 처하거나, 금고형과 벌금형을 병과한다. (1) 해당 회사에 대한 이해관계인이 회사로부터 마땅히 취득하여야 할 이익을 훼손되도록 기망하기 위한 목적 (2) 어떠한 사람이 주주 또는 사채 소유자가 되거나, 해당 회사에 재산을 위탁 또는 송부하도록 하거나, 보증인이 되도록 하거나, 재산을 회사의 담보로 제공하도록 유도하기 위한 목적

제218조

본인이 주식 예약자나 주주 또는 주식 예약자나 주주를 대리하는 투표권자라고 사칭하여 회사 창립 회의 또는 주주총회에 참석하여 투표권을 행사하거나 투표권을 기권하는 사람은 2만바트 이하의 벌금형에 처한다. 주식 예약 증명 서류 또는 주권을 인계하여 첫번째 단락에 따른 행위를 지원하는 사람은 동일한 형에 처한다.

제219조

주가로 지불하는 재산 또는 물품 가치를 부당하게 실제 가치보다 높게 책정하는 사람은 실제 가치보다 높은 액수의 2배 이하의 벌금형에 처한다.

제220조

공개하지 아니하고 보호하여야 하는 회사의 통상적인 사정에 따른 사업인 특정 회사의 사업을 이 법에서 규정한 권한과 직무에 따른 이행을 통하여 사전 인지한 사람이, 만약 권한과 직무에 따른 이유나 조사 또는 재판의 이익을 위한 이유를 제외하고 이를 공개한다면 1년 이하의 금고형 또는 20만바트 이하의 벌금형에 처하거나, 금고형과 벌금형을 병과한다.

제221조

법인이 이 법에 따른 범법자이며, 처벌을 받은 경우에는 그러한 범법 행위를 공모하거나, 그러한 범법 행위가 발생하지 아니하도록 방지하기 위하여 합당한 조치를 하지 아니한 법인 대표는 그러한 각각의 범법 행위에 대하여 규정한 바에 따라 처벌된다.

제222조

회사가 이 법에 따른 범죄 행위자이며 처벌을 받은 경우에는 그러한 범법 행위를 공모하거나, 그러한 범법 행위가 발생하지 아니하도록 방지하기 위하여 합당한 조치를 하지 아니한 이사는 그러한 각각의 범법 행위에 대하여 규정한 바에 따라 처벌된다.

제222조의1

벌금형만 있는 이 법에 따른 모든 범법에 대해서는 사업개발국장 또는 사업개발국장이 위임한 사람이 벌금을 부과하는 권한을 갖도록 한다. 행위자가 기한 내에 부과된 액수에 따라 벌금 납부를 완료한 때에는 「형사소송법전」에 따라 사건이 종료된 것으로 보도록 한다. 만약 행위자가 부과된 바에 동의하지 아니하거나, 동의하였으나 기한 내에 벌금을 납부하지 아니하였다면, 계속하여 법적조치를 집행하도록 한다.

경과 규정

제223조

이 법의 시행일 이전에 「1978년 유한공개회사법」 따라 설립된 모든 회사는 이 법의 규정에 따른 회사로 한다.

제224조

이 법의 시행일 이전에 「1978년 유한공개회사법」에 따라 주식을 구입하도록 하는 (투자)설명서를 정확하게 등기한 국민 대상 주식 또는 사채 공모는 해당 법률에 따라 후속 조치를 하도록 한다.

제225조

이 법의 시행일 이전에 적용하고 있는 「1978년 유한공개회사법」에 따라 제정된 모든 부령과 고시 및 명령은 이 법의 규정에 위배되거나 모순되지 아니하는 한 이 법에 따라 제정되는 부령과 고시 및 명령이 있을 때까지 계속하여 적용할 수 있도록 한다. 부서 아난 빤야라춘 총리

수수료

(1) 회사 설립 계약서 등기 규정한 금액의 1,000,000바트를 초과하지 아니하는 모든 금액 1,000바트 1,000,000바트의 끝수(우수리)는 1,000,000바트로 계산하도록 하나, 합산하였을 때 50,000바트를 초과하지 아니한다. (2) 회사로 등기 전 증자를 위한 회사 설립 계약서 수정 보완 등기 증자 규정한 금액의 1,000,000바트를 초과하지 아니하는 모든 금액 1,000바트 1,000,000바트의 끝수(우수리)는 1,000,000바트로 계산하도록 하나, 합산하였을 때 50,000바트를 초과하지 아니한다. (3) 회사 등기 규정한 금액의 1,000,000바트를 초과하지 아니하는 모든 금액 1,000바트 1,000,000바트의 끝수(우수리)는 1,000,000바트로 계산하도록 하나, 합산하였을 때 50,000바트를 초과하지 아니한다. (4) 유한회사 전환 등기 규정한 금액의 1,000,000바트를 초과하지 아니하는 모든 금액 1,000바트 1,000,000바트의 끝수(우수리)는 1,000,000바트로 계산하도록 하나, 합산하였을 때 50,000바트를 초과하지 아니한다. (5) 회사 증자 등기 증자 규정한 금액의 1,000,000바트를 초과하지 아니하는 모든 금액 1,000바트 1,000,000바트의 끝수(우수리)는 1,000,000바트로 계산하도록 하나, 합산하였을 때 50,000바트를 초과하지 아니한다. (6) 감자 등기 500바트 (7) 제(2)항에 따른 증자 경우를 제외한 회사 설립 계약서 수정, 보완 등기 500바트 (8) 회사 정관 수정, 보완 등기 500바트 (9) 이사 임명 등기 1인당 500바트 (10) 회사 합병 등기 10,000바트 (11) 회사 해산 등기 500바트 (12) 기타 등기 1건당 500바트 (13) 등기를 표시하는 증명서 또는 증명서 대체 증서 발급 1건당 50바트 (14) 각 회사의 서류 조사1회당 50바트 (15) 인증 포함 서류 사본 또는 복사 신청 1장당 50바트 만약 회사의 본사 소재지인 짱왓(도) 지역 외에서의 회사의 인증 포함 서류 사본 또는 복사 신청이라면, 필요한 실제 비용만큼 추가 비용을 청구할 수 있다. (16) 등기 내용 인증 1건당 50바트 만약 회사의 본사 소재지인 짱왓(도) 지역 외에서의 회사의 등기 내용 인증이라면, 필요한 실제 비용만큼 추가 비용을 청구할 수 있다. (17) 회사의 정관에 따른 각종 서류 발급 수수료 1회/1부/1장당 10바트