พระราชบัญญัติ การแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรให้มีกฎหมายว่าด้วยการแพทย์ฉุกเฉิน พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๒ และมาตรา ๓๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
“การแพทย์ฉุกเฉิน” หมายความว่า การปฏิบัติการด้านการศึกษา การฝึกอบรม การค้นคว้า และการวิจัยเกี่ยวกับการป้องกัน การจัดการ การนำส่ง การช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน และการป้องกันการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บฉุกเฉิน “ผู้ป่วยฉุกเฉิน” หมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการเจ็บป่วยกะทันหัน ซึ่งเป็นเหตุบังคับให้กระทำการหรือจัดการอย่างใดอย่างหนึ่งอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ อาจได้รับการประเมิน การจัดการ และการนำส่งรักษาอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างเพื่อป้องกันการเสียชีวิตหรือการเสื่อมสภาพของอวัยวะหรืออาการป่วยอื่นๆ *ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๔๔ ก/หน้า ๑/ มีนาคม ๒๕๕๑* ``` “สถานพยาบาล” หมายความว่า สถานพยาบาลของรัฐ สถานพยาบาลสภากาชาดไทย สถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล และสถานพยาบาลอื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด “สถานพยาบาลของรัฐ” ให้หมายความรวมถึงสถานพยาบาลที่เป็นของรัฐหรือรัฐจัดตั้ง “ปฏิบัติการฉุกเฉิน” หมายความว่า การปฏิบัติการด้านการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่การรับผิดชอบการแจ้งเหตุฉุกเฉินและการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน ณ จุดเกิดเหตุหรือระหว่างการส่งต่อ ซึ่งรวมถึงการประเมิน การจัดการ การประสานงาน การควบคุม ดูแล การติดตามอาการ การลำเลียงหรือส่ง การตรวจวินิจฉัย และการให้บริการรักษาพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉิน ณ จุดเกิดเหตุและในสถานพยาบาล “หน่วยปฏิบัติการ” หมายความว่า หน่วยงานหรือองค์กรที่ปฏิบัติการฉุกเฉิน “ผู้ปฏิบัติการ” หมายความว่า บุคคลซึ่งปฏิบัติงานเกี่ยวกับการแพทย์ฉุกเฉินตามที่คณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินกำหนด “สถาบัน” หมายความว่า สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ “กองทุน” หมายความว่า กองทุนการแพทย์ฉุกเฉิน “กรรมการ” หมายความว่า กรรมการการแพทย์ฉุกเฉิน “เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ “กองทุนย่อย” หมายความว่า กองทุนย่อยของกองทุนการแพทย์ฉุกเฉิน “ผู้ป่วยฉุกเฉิน” หมายความว่า ผู้ป่วยที่มีอาการบ่งชี้ว่ามีภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิต หรืออาจทำให้เกิดความเสียหายต่ออวัยวะสำคัญของร่างกาย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานกรรมการ
กรรมการโดยตำแหน่งจำนวนไม่เกิน ๗ คน ได้แก่ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม และเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
กรรมการผู้แทนแพทยสภาจำนวนสองคน โดยอย่างน้อยต้องเป็นแพทย์ผู้มีความรู้ ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินจำนวนหนึ่งคน
กรรมการผู้แทนองค์กรเอกชนที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการแพทย์ฉุกเฉินจำนวนสองคน โดยเป็นผู้แทนจากสถานพยาบาลของรัฐและเอกชนอย่างละหนึ่งคน ``` (ข) กรรมการผู้แทนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งเลือกกันเองจำนวนสองคน (ค) กรรมการผู้แทนขององค์กรภาคเอกชนที่ไม่แสวงหากำไรและดำเนินงานด้านบริการการแพทย์ฉุกเฉินหรือส่งเสริมสนับสนุนการแพทย์ฉุกเฉินซึ่งเลือกกันเองจำนวนสองคน (ง) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ในด้านการเงินและบัญชี ด้านกฎหมาย ด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ด้านสังคมสงเคราะห์ ด้านการศึกษา หรือด้านอื่นใดที่เป็นประโยชน์แก่การแพทย์ฉุกเฉิน จำนวนไม่เกินห้าคน ให้เลขาธิการเป็นกรรมการและเลขานุการ และให้เลขาธิการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ไม่เกินสองคน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
มีสัญชาติไทย
อายุไม่ต่ำกว่าสามสิบปีบริบูรณ์และไม่เกินเจ็ดสิบปีบริบูรณ์
ไม่เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากราชการ หน่วยงานอื่นของรัฐหรือเอกชน เพราะกระทำผิดที่ได้กระทำโดยเจตนาหรือความผิดอาญาโดยเจตนาที่มีความผิดอุกฉกรรจ์
เมื่อครบกำหนดวาระตามวรรคหนึ่ง หากยังมิได้มีการเลือกหรือแต่งตั้งกรรมการตามมาตรา ๕ (ข) (ค) และ (ง) ขึ้นใหม่ ให้กรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระนั้นอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีกรรมการซึ่งได้รับเลือกหรือแต่งตั้งขึ้นใหม่เข้ารับหน้าที่ ในกรณีที่ตำแหน่งกรรมการว่างลงก่อนครบวาระ ให้ดำเนินการเลือกหรือแต่งตั้งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างลงภายในเก้าสิบวัน ในกรณีที่กรรมการซึ่งได้รับเลือกหรือแต่งตั้งตามวรรคสองดำรงตำแหน่งไม่ถึงสองปี ให้ถือว่าผู้ได้รับเลือกหรือแต่งตั้งให้ครบวาระในตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่างลงนั้นเป็นกรรมการซึ่งดำรงตำแหน่งครบวาระ ในกรณีที่มีกรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระและยังมิได้มีการเลือกหรือแต่งตั้งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างลงนั้นก็ได้ ในกรณีเช่นนี้ให้ กพฉ. ประกอบด้วยกรรมการเท่าที่มีอยู่
ตาย
ลาออก
ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๗
เป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ
กพฉ. ไม่อาจกำหนดในกรณีของจำนวนกรรมการทั้งหมดที่ยังอยู่ให้ออก เพราะบกพร่องต่อหน้าที่ มีความประพฤติผิดร้ายแรง หรือพ้นจากความสามารถ
ในการประชุม กพฉ. ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม ในการปฏิบัติหน้าที่ ประธานกรรมการหรือกรรมการผู้เป็นประธานในที่ประชุมตามวรรคหนึ่ง กพฉ. พิจารณา ให้ประธานกรรมการหรือกรรมการผู้นั้นแจ้งให้พิจารณา และให้ที่ประชุมพิจารณาตามวาระการประชุมที่มีและตรวจสอบอยู่ในที่ประชุมหรือมีมติในการประชุมเช่นนั้นได้ หรือไม่ ทั้งนี้ ตามระเบียบที่ กพฉ. กำหนด การวินิจฉัยชี้ขาดของประธานที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งที่ไม่ลงมติในที่ประชุมและแสดงความเห็น ให้ประธานที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
กำหนดมาตรฐานและหลักเกณฑ์เกี่ยวกับระบบการแพทย์ฉุกเฉิน
เสนอแนะเรื่องให้คณะกรรมการพิจารณาเกี่ยวกับการจัดตั้งและยุบเลิก
เสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหาหรืออุปสรรคอันเกิดจากการดำเนินงานเกี่ยวกับการแพทย์ฉุกเฉินต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา
กำหนดนโยบายการบริหารงาน ให้ความเห็นชอบแผนการดำเนินงานและอนุมัติแผนการเงินของสถานนั้น
ควบคุมดูแลการดำเนินงานและการบริหารงานทั่วไป การจัดตั้งและยกเลิกสำนักงานต่างๆ ตลอดจนกองอำนวยการ ระดับเขต หรือในกรณีที่เกี่ยวกับการบริหารงานทั่วไป การบริหารงานบุคคล การงบประมาณ การเงินและทรัพย์สิน การติดตามประเมินผลและการดำเนินการอื่นของสถานนั้น
ออกข้อบังคับเกี่ยวกับการบริหารองค์กรและหลักสูตรการศึกษา หรืออบรมผู้ปฏิบัติงาน และการให้ประกาศเกี่ยวกับระเบียบหรือแนวทางการปฏิบัติที่เกี่ยวกับการแพทย์ฉุกเฉิน เช่นเดียวกับการจัดทำข้อกำหนดว่าด้วยสิทธิผู้ป่วยที่เกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือการประกอบวิชาชีพการแพทย์ ที่เป็นไปตามกฎหมายอื่น
ออกข้อบังคับเกี่ยวกับการให้เงินสนับสนุนหรือเงินช่วยเหลือเพื่อมอบให้แก่บุคคลผู้สนับสนุนกิจการด้านการแพทย์ฉุกเฉิน
ดำเนินการให้มีระบบสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อประโยชน์ในการประสานงานและการปฏิบัติงานด้านการแพทย์ฉุกเฉิน
ดำเนินการให้มีการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการ เข้าถึงข้อมูลสารสนเทศเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติการฉุกเฉิน
ออกระเบียบเกี่ยวกับการรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงินทุน รวมทั้ง การจัดหาผลประโยชน์ตามมาตรา ๑๗
ให้ความเห็นชอบการกำหนดค่าบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินและการดำเนิน กิจการของสถาบัน
สรรหา แต่งตั้ง ประเมินผลการปฏิบัติงานและถอดถอนเลขาธิการ
ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ กฎหมายอื่น หรือ ตามที่คณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีมอบหมาย
สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
จัดให้มีระบบปฏิบัติการฉุกเฉินที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน กพฉ. กำหนด ระบบสื่อสารและสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน กพฉ. กำหนด
ศึกษา ค้นคว้า วิจัยและพัฒนา รวมทั้งจัดทำมาตรฐานการแพทย์ฉุกเฉิน
ฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ฉุกเฉิน (b) ประสานงาน ติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติการกู้คุณคืน (ค) เป็นศูนย์กลางประสานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ดำเนินงานเกี่ยวกับการกู้คุณคืน (ง) เรียกเก็บค่าบริการทางการแพทย์คุณคืนและการดำเนินกิจการของสถาบัน (จ) รับผิดชอบงานธุรการของ กพฉ. หรือปฏิบัติการอื่นตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติหรือกฎหมายอื่น หรือที่ กพฉ. มอบหมาย
เงินอุดหนุนทั่วไปที่รัฐบาลจัดสรรให้ตามความเหมาะสม
เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้
เงินหรือทรัพย์สินอื่นที่ตกเป็นของสถาบัน
รายได้จากค่าบริการทางการแพทย์คุณคืนและการดำเนินกิจการของสถาบัน
ดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินตาม (๑) (๒) (๓) และ (๔) เงินและทรัพย์สินของสถาบันให้ถือเป็นทรัพย์สินของสถาบันที่ต้องนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของสถาบันตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังและกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ
บรรดาเงิน ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ได้มาไม่ว่าโดยทางใด ๆ หรือได้มาโดยการซื้อหรือแลกเปลี่ยนกับเงินหรือทรัพย์สินของสถาบันให้ถือเป็นทรัพย์สินของสถาบัน เว้นแต่เงินหรือทรัพย์สินที่ผู้บริจาคหรือผู้ให้ระบุไว้เป็นการเฉพาะว่าให้ใช้เพื่อการอื่น ให้ถือเป็นทรัพย์สินของสถาบัน แต่สถาบันมีอำนาจนำไปในการบำรุงรักษา และใช้ประโยชน์ ให้สถาบันมีอำนาจในการบำรุงรักษา ดูแล บำรุงรักษา ใช้ และจัดหาประโยชน์จากทรัพย์สินของสถาบัน
ให้สถาบันจัดทำรายงานการเงินประจำปีซึ่งต้องผ่านการตรวจสอบและรับรองบัญชีการส่งผู้สอบบัญชีสถาบันที่รัฐมนตรีส่งวันนั้นแต่งตั้งเป็นผู้สอบบัญชีของกู้ ในกรณีที่รายได้ให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินดำเนินการออกความเห็นต่อ กพฉ. และผู้ที่เกี่ยวข้องตามระเบียบที่ กพฉ. กำหนด โดยให้เสนอรายงานการเงินประจำปีและรายงานผลการตรวจสอบบัญชีต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประธาน กพฉ. และให้คณะกรรมการพิจารณารายงานการเงินประจำปี และให้คณะกรรมการพิจารณารายงานการเงินประจำปี และให้คณะกรรมการพิจารณารายงานการเงินประจำปี รับรองว่าถูกต้องแล้ว พร้อมทั้งรายงานของผู้สอบบัญชี รวมทั้งแสดงงบลงของสถานบันในปีที่ผ่านมา ด้วย
ลาออก
ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๒๐
กพจ. ถอดถอนจากตำแหน่ง เพราะขาดความร่วมมืออย่างที่มี มีความประพฤติที่เสื่อมเสียหรือหย่อนความสามารถ มีเหตุผล ให้สมาชิกภาพพ้นจากตำแหน่งตาม (๔) ต้องประกอบด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของกรรมการที่มีอยู่โดยไม่นับรวมเลขาธิการ
บริหารกิจการของสถาบันให้เป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ มติ หรือแนวนโยบายของ กพจ.
จัดทำแผนและการดำเนินงานและแผนการเงินของสถาบันเสนอ กพจ. เพื่ออนุมัติ
ดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล การเงิน การงบประมาณและการบริหารทั่วไปของสถาบัน ตามข้อบังคับ ระเบียบ หรือประกาศ กพจ.
ปฏิบัติการอื่นใดตามที่ กพจ. มอบหมาย
กิจการที่กระทำโดยไม่มีกำหนดระเบียบที่ กพจ. กำหนดต่อไปนี้ผู้ที่มิสถาบันเว้นแต่ กพจ. จะให้ยกเว้น
การปฏิบัติการฉุกเฉิน
ตรวจคัดแยกระดับความฉุกเฉินและจัดให้ผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการปฏิบัติการฉุกเฉินตามลำดับความเร่งด่วนทางการแพทย์
ผู้ป่วยฉุกเฉินต้องได้รับการปฏิบัติการฉุกเฉินเต็มที่ตามความสามารถของหน่วยปฏิบัติการหรือสถานพยาบาลที่เกี่ยวข้อง เว้นแต่แพทย์หรือพยาบาลผู้รับผิดชอบผู้ป่วยฉุกเฉินนั้นจะเป็นผู้ประเมินว่าการปฏิบัติการฉุกเฉินหรือการขนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินนั้นจะเป็นอันตรายต่อชีวิตหรือร่างกายของผู้ป่วยฉุกเฉินนั้น
การปฏิบัติการฉุกเฉินต่อผู้ป่วยฉุกเฉินต้องเป็นไปตามความรู้ที่เป็นและข้อกำหนดทางการแพทย์ โดยให้มีการบันทึกข้อมูลการปฏิบัติการฉุกเฉินและการขนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน การรับผิดชอบต่อผู้ป่วยฉุกเฉินหรือหน่วยอื่นใด ไปจนถึงสถานพยาบาลที่รับผู้ป่วยฉุกเฉินนั้นไว้ หน่วยปฏิบัติการหรือสถานพยาบาลต้องจัดระบบและดูแลการปฏิบัติการให้ดำเนินการปฏิบัติการฉุกเฉินและขนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน
ประเภท ระดับ อำนาจหน้าที่ ขอบเขต ความรับผิดชอบ หรือข้อจำกัดของผู้ปฏิบัติการ หน่วยปฏิบัติการ และสถานพยาบาล
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ปฏิบัติการ หน่วยปฏิบัติการ และสถานพยาบาล
มาตรฐานการปฏิบัติการฉุกเฉิน
หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการประสานงานและการรายงานของหน่วยปฏิบัติการและสถานพยาบาลในการปฏิบัติการฉุกเฉิน รวมทั้งความพร้อมเกี่ยวกับอุปกรณ์ สถานที่ และบุคลากรในการปฏิบัติการฉุกเฉินตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และมาตรฐานที่ กพฉ. กำหนดตามวรรคหนึ่ง เว้นแต่จะได้รับรองมาตรฐานจากหน่วยงานที่ กพฉ. สนับสนุนด้านการเงินหรือกองทุน ในกรณีที่สถานพยาบาลใดไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และมาตรฐานที่ กพฉ. กำหนดตามวรรคหนึ่ง อาจสั่งไม่ให้สถานพยาบาลนั้นทำการปฏิบัติการฉุกเฉินหรือ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ขอแสดงความรับผิดชอบในการปฏิบัติการถูกต้องตาม (๑) หรือจะสั่งงดการสนับสนุนด้านการเงินด้วยก็ได้ ในกรณีที่สถานพยาบาลใดไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข หรือมาตรฐานที่ กพฉ. กำหนดตามวรรคหนึ่ง ให้ กพฉ. แจ้งให้หน่วยงานที่ควบคุมหรือกำกับสถานพยาบาลนั้นดำเนินการให้สถานพยาบาลดังกล่าวปฏิบัติให้ถูกต้อง โดยถือเป็นเงื่อนไขในการประกอบกิจการสถานพยาบาล
ในการสอบสวนตามวรรคหนึ่ง ให้ กพฉ. มีอำนาจเรียกบุคคลใด ๆ มาให้ถ้อยคำหรือแจ้งให้บุคคลใด ๆ ส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามมาตรานี้
ตักเตือนเป็นหนังสือให้ผู้ปฏิบัติการ หน่วยปฏิบัติการ หรือสถานพยาบาลนั้นปฏิบัติให้ถูกต้อง
แจ้งเรื่องไปยังผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่มีอำนาจควบคุมการดำเนินการของหน่วยปฏิบัติการ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
แจ้งเรื่องไปยังผู้มีอำนาจตามกฎหมายเพื่อพิจารณาดำเนินการทางวินัยแก่ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลของรัฐหรือราชการส่วนท้องถิ่น
แจ้งเรื่องไปยังผู้มีอำนาจตามกฎหมายเพื่อพิจารณาดำเนินการทางจริยธรรมกับผู้ปฏิบัติการหรือผู้ประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์และสาธารณสุข
กองทุนแพทย์ฉุกเฉิน
ฉบับนี้ ทั้งนี้ โดยดำเนินการปฏิบัติการฉุกเฉินในเขตพื้นที่หรือภูมิประเทศที่ไม่มีผู้ปฏิบัติการ หน่วยปฏิบัติการ หรือสถานพยาบาลเพียงพอประกอบด้วย เพื่อส่งเสริมการมีบทบาทความพร้อม ความเหมาะสม และความจำเป็นของประชาชนในท้องถิ่น ให้ กพฉ. สนับสนุนและประสานกับองค์กรภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ให้องค์กรดังกล่าวเป็นผู้ดำเนินงานและบริหารจัดการระบบการแพทย์ฉุกเฉินในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ โดยอาจได้รับการอุดหนุนจากกองทุน
เงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้ตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี
เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้
เงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาในกิจการของสถาบัน
เงินค่าปรับทางปกครองตามพระราชบัญญัตินี้
เงินที่ได้จากหน่วยงานของรัฐ หรือจากบุคคลอื่นที่มีวัตถุประสงค์หรือเกี่ยวข้องกับการจัดบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉิน
เงินรายได้จากการนำทุนไปหาผลประโยชน์
ดอกผลหรือผลประโยชน์ที่เกิดจากเงินหรือทรัพย์สินตาม (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) และ (๖)
การจ่ายเงินของหน่วยงานของรัฐหรือจากทุนอื่นให้กับกองทุนตามวรรคหนึ่ง ให้ถือเป็นการจ่ายเงินที่กระทำได้ตามวัตถุประสงค์ของหน่วยงานของรัฐหรือจากทุนอื่นตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
การรับเงิน การจ่ายเงิน และการเก็บรักษาเงินกองทุน รวมทั้งการนำเงินกองทุนไปจัดหาผลประโยชน์ ให้เป็นไปตามระเบียบที่ กพฉ. กำหนด ให้บังคับตามในมาตรา ๑๗ และไม่บังคับโดยอนุโลมกับการจัดทำงบประมาณ การสอบบัญชีและประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินของกองทุน
โทษทางปกครอง
บทเฉพาะกาล
เพื่อประโยชน์ในการบำเหน็จบำนาญสำหรับกรณีดังกล่าวหรือประโยชน์ในลักษณะเดียวกันของสถานัน ข้าราชการหรือลูกจ้างตามสัญญาจ้างที่ได้เปลี่ยนสถานะไปตามมาตรา 44 ประสงค์จะให้บรรจุสถานะหรือเวลาทำงานในขณะนั้นเป็นเวลาที่นับราชการหรือการจ้างต่อเนื่องกับเวลาทำงานของพนักงานหรือลูกจ้างของสถานัน แล้วแต่กรณี ก็ให้สิทธิ์กระทำได้โดยแสดงความจำนงว่าไม่ขอรับบำเหน็จบำนาญ การไม่ขอรับบำเหน็จหรือบำนาญตามวรรคสาม จะต้องกระทำภายในกำหนดหกสิบวันนับแต่วันที่เปลี่ยนสถานะ สำหรับกรณีข้าราชการก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการหรือตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ แล้วแต่กรณี สำหรับกรณีของลูกจ้างก็ให้กระทำในหนังสือ ลงลายมือชื่อเป็นหลักฐานยื่นต่อสถาบันเพื่อส่งต่อไปให้กระทรวงการคลังทราบ
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ``` หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่การปฏิบัติการด้านการแพทย์ฉุกเฉินในปัจจุบันยังขาดระบบบริหารจัดการด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องมือที่เหมาะสมต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน รวมทั้งยังขาดหน่วยงานรับผิดชอบ ประสานการปฏิบัติการ ทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินต้องสูญเสียชีวิต อวัยวะ หรือเกิดความทุพพลภาพร้องในการทำงานของหน่วยช่วยเหลือผู้ป่วย รวมทั้งทำให้การเจ็บป่วยหรืออาการบาดเจ็บรุนแรงเพิ่มโดยไม่สมควร เพื่อคนละป้องกันความสูญเสียดังกล่าว สมควรกำหนดให้มีคณะกรรมการการแพทย์ฉุกเฉินขึ้น เพื่อกำหนดนโยบายการแพทย์ฉุกเฉินและจัดระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ตลอดจนกำหนดให้มีสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติขึ้นเป็นหน่วยรับผิดชอบการบริหารจัดการ การประสานการทำงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งรัฐและเอกชน และเพื่อให้การปฏิบัติการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามบทบาทในการบริหารจัดการเพื่อให้ความร่วมมือในการปฏิบัติการด้านการแพทย์ฉุกเฉินร่วมกัน อันจะทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการดูแลรักษาในระบบการแพทย์ฉุกเฉินอย่างทั่วถึง เท่าเทียม มีคุณภาพมาตรฐาน โดยได้รับการช่วยเหลือและรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพและทันต่อเหตุการณ์มากขึ้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ วรวัจน์/เทใจ วิศิษฎ์/ตรวจ ๓ เมษายน ๒๕๕๓ รัชดาภิเษก/ปรับปรุง ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๔ ```