พระราชบัญญัติ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๕ เป็นปีที่ ๕๗ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรให้มีกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำนองที่รัฐสภา ตราดังต่อไปนี้
“พลังงาน” หมายความว่า ความสามารถในการทำงานซึ่งอยู่ในตัวของสิ่งที่อาจให้ งานได้ ได้แก่ พลังงานกล พลังงานแสงสว่าง และให้หมายความรวมถึงสิ่งต่างๆ ดังนี้ เช่น เชื้อเพลิง ความร้อน และไฟฟ้า เป็นต้น “พลังงานหมุนเวียน” หมายความรวมถึง พลังงานที่ได้จากไม้ ฟืน แกลบ กากอ้อย ชีวมวล น้ำ และจากสิ่งต่างๆ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง เป็นต้น “พลังงานสิ้นเปลือง” หมายความรวมถึง พลังงานที่ได้จากถ่านหิน หินน้ำมัน ทรายน้ำมัน น้ำมันปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ และนิวเคลียร์ เป็นต้น "เชื้อเพลิง" หมายความรวมถึง ถ่านหิน ดินน้ำมัน ทรายน้ำมัน น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ ก๊าซเชื้อเพลิง เชื้อเพลิงสังเคราะห์ ไฟฟ้า แกลบ กากอ้อย ชานอ้อย ขยะ และสิ่งอื่นตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
เสนอแนะนโยบายและแผนการบริหารและพัฒนาพลังงานของประเทศต่อคณะรัฐมนตรี
กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการกำหนดราคาพลังงานให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนการบริหารและพัฒนาพลังงานของประเทศ
ติดตาม ดูแล ประสาน สนับสนุนและเร่งรัดการดำเนินงานของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง ทั้งหลายที่เกี่ยวกับการพัฒนาพลังงาน ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา - ๓ - กับสังคม เพื่อให้มีการดำเนินการให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนการบริหารและพัฒนาพลังงานของประเทศ
ประเมินผลการปฏิบัติตามนโยบายและแผนการบริหารและพัฒนาพลังงานของประเทศ
ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
ในการประชุมครั้งใด ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อยู่ในที่ประชุม ให้รองประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานกรรมการและรองประธานกรรมการ ไม่มาประชุมหรือไม่อยู่ในที่ประชุม ให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม
คณะกรรมการอื่นหรือคณะอนุกรรมการดังกล่าวมีอำนาจเรียกให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐส่งเอกสารหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาเพื่อประกอบการพิจารณาหรือการปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่คณะกรรมการมอบหมายได้ การประชุมของคณะกรรมการตามวรรคหนึ่ง หรือของคณะอนุกรรมการตามวรรคสอง ให้มาตรา ๙ และมาตรา ๑๐ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
ศึกษาและวิเคราะห์นโยบายและแผนการบริหารและพัฒนาพลังงานของประเทศ เพื่อเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
ติดตาม ประเมินผล และเป็นศูนย์ข้อมูลและสนับสนุนการปฏิบัติตามนโยบายและแผนการบริหารและพัฒนาพลังงานของประเทศ
เก็บรวบรวมข้อมูล ติดตามความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ด้านพลังงาน วิเคราะห์และประเมินผลกระทบของสถานการณ์ดังกล่าวต่อนโยบายและแผนการบริหาร และพัฒนาพลังงานของประเทศ และเสนอผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ
ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่นายกรัฐมนตรี หรือคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติมอบหมาย
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รายการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ หรือบุคคลใด ๆ เสนอรายละเอียดทางวิชาการ การเงิน สถิติ และเรื่องต่าง ๆ ที่จำเป็นที่เกี่ยวข้องกับนโยบายแผนการบริหารและพัฒนาพลังงานของประเทศให้ดี
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ อานันท์ ปันยารชุน นายกรัฐมนตรี “มาตรา ๑๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕” หมาเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่การกำหนดนโยบายและการบริหารพลังงานของประเทศควรดำรงอยู่ต่อไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้การบริหารและพัฒนาพลังงานไม่ขาดภาพและไม่เป็นปัญหาต่อเนื่อง สมควรให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เพื่อทำหน้าที่ในการพิจารณาเสนอแนะนโยบายและแผนการบริหารและพัฒนาพลังงานรวมทั้งกำกับดูแลประสานแผนระหว่างแผนการปฏิบัติงานด้านพลังงานของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้การปฏิบัติงานไปตามนโยบายและแผนการบริหารและพัฒนาพลังงานของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ *พระราชบัญญัตินี้เป็นบทบัญญัติที่ออกตามความในมาตรา ๑๗๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐* มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม “สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ” เป็น “สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน” คำว่า “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน” เป็น “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน” คำว่า “อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน” เป็น “อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน” คำว่า “เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ” เป็น “รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน” และคำว่า “ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ” เป็น “ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน” หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้บัญญัติให้มีการตั้งส่วนราชการขึ้นใหม่โดยมีการกำหนดหน้าที่ ซึ่งไม่มีการตราพระราชบัญญัติในอำนาจบริหารของกระทรวงหรือส่วนราชการที่จัดตั้งขึ้นใหม่ไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม นั้นแล้ว และเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินตามบัญญัติให้อำนาจหน้าที่ของส่วนราชการ รัฐมนตรีผู้รักษาราชการแผ่นดินที่มีหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ในส่วนราชการที่จัดตั้งขึ้นใหม่โดยให้การแก้ไขบทบัญญัติกฎหมาย ให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ที่กำหนดไว้ในกฎหมายโดยให้การโอนภารกิจของส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายที่เป็นไปในหน่วยงานใดหรือผู้ใดแล้ว โดยเป็นไปตามบัญญัติของกฎหมายให้มีการกำหนดหน้าที่ของส่วนราชการ รัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ผู้ดำรงตำแหน่งหรือผู้ปฏิบัติหน้าที่ของส่วนราชการให้ดำรงตำแหน่งตามหน้าที่ และเพิ่มผู้แทนส่วนราชการในคณะกรรมการให้ตรงกับภารกิจที่ได้รับมอบหมายของส่วนราชการเพิ่มเติมเป็นองค์ประกอบจากตำแหน่งรวมทั้งจัดตั้งส่วนราชการเดิมที่มีการยุบเลิกแล้ว ซึ่งในการแก้ไขให้ตรงตามพระราชบัญญัติและพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๖ หมายเหตุ: เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่องค์ประกอบของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งบัญญัติอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและส่วนราชการในแผนการกำหนดนโยบายและหลักเกณฑ์นโยบายไปปฏิบัติการตามที่ พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ และพระราชกฤษฎีกาโอนกิจการบริหารและอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ ที่กำหนดให้มีการจัดตั้งส่วนราชการและแผนการปฏิบัติการใหม่ อาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว ดังนั้นจึงสมควรปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติและแก้ไขเพิ่มเติมสาระบางประการในส่วนของผู้ปฏิบัติราชการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน และยกเลิกตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งและแผนพลังงาน ให้สอดคล้องและเหมาะสมกับภารกิจปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๖ มาตรา ๔ ให้กรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และมิได้เข้าข้อยกเว้นตามมาตรา ๔/๑ แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามมาตรา ๔/๑ ตั้งกล่าวภายในกำหนดวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หมายเหตุ: เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ มีเนื้อหาบางประการที่มิได้สอดคล้องกับภารกิจของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติในปัจจุบันซึ่งมีรัฐวิสาหกิจหรือผู้ดำรงตำแหน่งในนโยบายพลังงานดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับพลังงาน ดังนั้นจึงสมควรปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติให้เหมาะสมกับภารกิจดังกล่าว และแก้ไขเพิ่มเติมสาระบางประการในส่วนของผู้ปฏิบัติราชการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ให้สอดคล้องและเหมาะสมกับภารกิจปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ ``` วศิน/ผู้จัดทำ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๘ พิจารณาธรรม/เพิ่มเติม ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ นุสรา/ตรวจ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ```