มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้ เรียกว่า “พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. ๒๕๖๑”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วัน
ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป เว้นแต่บทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดตั้ง และการ
ออก ให้เป็นไปตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้เป็นต้นไป
มาตรา ๓ การจัดสรร การใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบำรุงรักษา
การฟื้นฟู การอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ และสิทธิในน้ำ ให้เป็นไปตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้.
ในกรณีที่มีกฎหมายปกติกำหนดเกี่ยวกับการจัดสรร การใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบำรุงรักษา การฟื้นฟูการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ และสิทธิในน้ำเชื่อมโยงไว้โดยเฉพาะ ก็ให้ดำเนินการไปตามกฎหมายเฉพาะนั้นเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้
"น้ำ" หมายความว่า น้ำในบริเวณภาคพื้นดิน น้ำใต้ดิน น้ำบาดาล น้ำในทะเลสาบ
"ทรัพยากรน้ำ" หมายความว่า น้ำ ทรัพยากรน้ำสาธารณะ แหล่งน้ำต้นกำเนิด แหล่งกักเก็บน้ำ คลองส่งน้ำ พื้นที่หน้าหาด ไม่ว่าจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือมนุษย์สร้างขึ้น และสิ่งอื่นที่ใช้เพื่อการบริหารจัดการน้ำ และให้หมายความรวมถึงมูลจากแหล่งน้ำระหว่างประเทศและแหล่งน้ำต่างประเทศที่ประเทศไทยอาจนำมาใช้ประโยชน์ได้
"ทรัพยากรน้ำสาธารณะ" หมายความว่า น้ำในแหล่งน้ำที่ประชาชนใช้หรือมีส่วนร่วมกัน หรือมีผลกระทบประชาชนอาจใช้ประโยชน์ร่วมกัน และให้หมายความรวมถึงแม่น้ำ ลำคลอง ทางน้ำ แหล่งน้ำใต้ดิน ทะเลสาบ ทำนบหรือฝาย แหล่งกักเก็บน้ำ พื้นที่หน้าหาด แหล่งน้ำตามธรรมชาติ และแหล่งน้ำที่มนุษย์สร้างขึ้นที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันหรือมีผลกระทบร่วมกัน และให้หมายความรวมถึงแหล่งน้ำระหว่างประเทศที่อยู่ภายในเขตประเทศไทยซึ่งประชาชนใช้ประโยชน์ได้ หางน้ำซึ่งประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน และน้ำจากแหล่งน้ำที่ประเทศไทยอาจนำมาใช้ประโยชน์ได้
"ทรัพยากรน้ำต้นกำเนิด" หมายความว่า แหล่งน้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจากฝน หิมะ น้ำแข็ง อุปโลกน์โลก การรักษาสมดุลของน้ำ อุตุวิทยา ธรณีวิทยา กรรมวิธีการเก็บกักน้ำ อุตสาหกรรมพลังงาน การพัฒนาแหล่งน้ำ การบริหารจัดการน้ำ การบำรุงรักษา การฟื้นฟูการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ และสิทธิในน้ำ
"น้ำผิวดิน" หมายความว่า น้ำในแหล่งน้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติหรือมนุษย์สร้างขึ้น
"ภาวะน้ำแล้ง" หมายความว่า สภาวะที่ปริมาณน้ำ ปริมาณการไหลของน้ำหรือระดับน้ำในลำคลองต่อเนื่องอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคน สัตว์ และพืชที่อยู่ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง
"ภาวะน้ำท่วม" หมายความว่า สภาวะที่ปริมาณน้ำ ปริมาณการไหลของน้ำหรือระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือไหลหลาก หรือมีน้ำขังจนก่อให้เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคน สัตว์ และพืชที่อยู่ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง แต่ไม่รวมถึงสภาวะน้ำขึ้นและน้ำลงซึ่งเป็นปรากฏการณ์ปกติทางธรรมชาติ
"ลุ่มน้ำ" หมายความว่า แผนที่หรือแผนผังแสดงระบบน้ำที่น้ำไหลผ่านซึ่งเชื่อมโยงกันตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงทางออกสู่พื้นที่ต้นน้ำ ทะเล หรือทางออกทางน้ำระหว่างประเทศ ซึ่งระบุนโยบายการจัดการลุ่มน้ำอย่างชัดเจน
"กรรมการ" หมายความว่า กรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
"เลขาธิการ" หมายความว่า เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
"สำนักงาน" หมายความว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
"พนักงานเจ้าหน้าที่" หมายความว่า ผู้ซึ่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
"หน่วยงานของรัฐ" หมายความว่า ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
"องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น" หมายความว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีกฎหมายจัดตั้ง
มาตรา 5 ให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ กับออกกฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และอำนาจของตน
ให้นายกรัฐมนตรีมอบอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อปฏิบัติการตามมาตรา 5 ภายในนั้นและกระทรวงที่ตนเอง ออกกฎกระทรวงกำหนดกระทรวงที่มีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ และกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เหมาะสมกับลักษณะของกิจการที่ดำเนินแต่ละประเภท คณะกรรมการและบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิที่กฎหมายกระทรวง ระเบียบ และประกาศนั้นแต่งตั้งให้มีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ให้ใช้งบลับได้
หมวด 3 ทรัพยากรน้ำ
มาตรา 6 รัฐมีอำนาจใช้ พัฒนา บริหารจัดการ บำรุงรักษา ฟื้นฟู และอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างสมดุลและยั่งยืน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้โดยอาจเปลี่ยนแปลงรูปหรือร่องแหล่งน้ำหรือขอบเขตของแหล่งน้ำก็ได้ แต่ต้องไม่กระลดพื้นที่หรือให้เกิดไม่เป็นประโยชน์สาธารณะต้องดำเนินการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนที่ดิน
เพื่อประโยชน์ในการบริหารทรัพยากรน้ำตามพระราชบัญญัตินี้ที่ได้มาจากแหล่งน้ำตามกฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า กฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ กฎหมายว่าด้วยการประมง กฎหมายว่าด้วยการขุดดินและถมดิน กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้รัฐมีอำนาจควบคุมดูแลและรู้จักทรัพยากรน้ำเหล่านั้นได้
ให้หน่วยงานของรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้โดยให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หลักเกณฑ์ดังกล่าวต้องมีใจหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจัดสรรน้ำและการใช้น้ำตามที่กำหนดไว้ในบทวล การจัดสรรน้ำและการใช้น้ำ ระเบียบหรือข้อบัญญัติท้องถิ่นตามวรรคสาม เมื่อได้รับความเห็นชอบจากผู้บังคับบัญชา และให้ใช้บังคับได้
หมวด ๒ สิทธิในน้ำ
มาตรา ๓ ทรัพยากรน้ำถือว่าเป็นของส่วนรวม บุคคลมีสิทธิใช้หรือเก็บกักน้ำให้ เท่าที่จำเป็นแก่การดำรงชีพการครองชีพหรือในที่ดินของตน โดยไม่เป็นเงินเหตุให้เกิดความเดือดร้อนหรือ เสียหายแก่บุคคลอื่นซึ่งอาจใช้น้ำนั้น ทั้งนี้ เว้นแต่พระราชบัญญัติ หรือกฎกระทรวง ระเบียบ หรือ ประกาศที่ออกตามความในพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎหมายอื่นบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น
มาตรา ๔ เจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินซึ่งมีน้ำอยู่ในที่ดินหรือมีน้ำไหลผ่านตาม ธรรมชาติไม่ว่าจะบนดินหรือตใต้ดิน ย่อมมีสิทธิใช้หรือเก็บกักน้ำที่มีน้ำอยู่ในที่ดินหรือไหลผ่านในที่ดิน ของตน และไม่เป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนหรือเสียหายแก่บุคคลอื่น
หมวด ๓ องค์กรบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
ส่วนที่ ๑ คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
มาตรา ๕ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า "คณะกรรมการทรัพยากรน้ำ แห่งชาติ" เรียกโดยย่อว่า "กนช." ประกอบด้วย (๑) นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ (๒) รองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นรองประธานกรรมการ (๓) กรรมการโดยตำแหน่ง ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เลขาธิการ คณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และผู้อำนวยการสำนักงาน งบประมาณ
๔
กรรมการผู้แทนคณะกรรมการลุ่มน้ำ จำนวนหกคน ซึ่งได้รับการคัดเลือกมาจากกรรมการลุ่มน้ำผู้แทนขององค์กรผู้ใช้น้ำ กรรมการลุ่มน้ำผู้แทนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกรรมการลุ่มน้ำผู้ทรงคุณวุฒิ
๕
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนสี่คน ซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และผลงานเป็นที่ประจักษ์ไม่ว่าจะเกี่ยวกับด้านการเกษตร ด้านทรัพยากรน้ำ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคมศาสตร์ หรือด้านกฎหมาย ให้เลขาธิการเป็นกรรมการและเลขานุการ และให้เลขาธิการแต่งตั้งข้าราชการของสำนักงานอีกไม่เกินสองคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ
มาตรา ๑๑ การคัดเลือกกรรมการตามมาตรา ๑๐ (๔) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกโดยนายกรัฐมนตรี
มาตรา ๑๒ กรรมการตามมาตรา ๑๐ (๔) และ (๕) มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสามปีและอาจได้รับการคัดเลือกหรือแต่งตั้งใหม่ได้ แต่จะดำรงตำแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันมิได้
มาตรา ๑๓ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการตามมาตรา ๑๐ (๔) และ (๕) พ้นจากตำแหน่ง เมื่อ
๑
ตาย
๒
ลาออก
๓
นายกรัฐมนตรีให้ออกเพราะบกพร่องหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ มีความประพฤติ เสื่อมเสียหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อย
๔
เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
๕
พ้นจากการเป็นกรรมการลุ่มน้ำตามมาตรา ๒๘
๖
ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
มาตรา ๑๔ ในกรณีที่กรรมการตามมาตรา ๑๐ (๔) พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระให้ดำเนินการคัดเลือกกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่กรรมการพ้นจากตำแหน่ง และให้ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ในตำแหน่งได้เท่ากับวาระที่เหลืออยู่แต่ทั้งนี้ถ้าวาระที่เหลืออยู่ไม่ถึงหกเดือนจะเลือกหรือแต่งตั้งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างหรือไม่ก็ได้และในระหว่างที่ยังไม่มีการคัดเลือกกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่าง ให้ กนช. ประกอบด้วยกรรมการเท่าที่มีอยู่
มาตรา ๑๕ ในกรณีที่กรรมการตามมาตรา ๑๐ (๕) พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระให้ นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่กรรมการพ้นจากตำแหน่ง และให้ผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ในตำแหน่งได้เท่ากับวาระที่เหลืออยู่แต่ทั้งนี้ถ้าวาระที่เหลืออยู่ไม่ถึงหกเดือนจะเลือกหรือแต่งตั้งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างหรือไม่ก็ได้ และในระหว่างที่ยังไม่มีการแต่งตั้งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่าง ให้ กนช. ประกอบด้วยกรรมการเท่าที่มีอยู่
มาตรา 15 ในกรณีที่กรรมการตามมาตรา 14 (4) หรือ (5) ตำแหน่งแห่งกรรมการว่างลงแล้วให้กรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีการคัดเลือกหรือแต่งตั้งกรรมการขึ้นใหม่
มาตรา 16 การประชุม กนช. ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม ในการประชุม กนช. ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถ้ารองประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ประธานกรรมการมอบหมายให้กรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งมีหนึ่งเสียงในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงให้ประชุมเสมอกันประธานในที่ประชุมมีเสียงชี้ขาด ในการประชุม กนช. ถ้าสำคัญกรรมการคนใดมีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในเรื่องที่พิจารณา กรรมการผู้นั้นไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนในเรื่องนั้น
มาตรา 17 กนช. มีหน้าที่และอำนาจเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรน้ำเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีหน้าที่และอำนาจดังต่อไปนี้ (1) กำหนดนโยบายและแนวทางเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรน้ำของประเทศ รวมทั้งให้คำแนะนำต่อคณะรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ (ก) จัดทำนโยบายและแนวทางเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรน้ำเพื่อให้เกิดการบริหารจัดการที่เชื่อมโยงและรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ (ข) พิจารณาและให้ความเห็นชอบแผนแม่บทการบริหารทรัพยากรน้ำและแผนงานโครงการที่เกี่ยวกับทรัพยากรน้ำในระดับประเทศ รวมทั้งแผนงานโครงการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารทรัพยากรน้ำในระดับลุ่มน้ำตาม (ก) และเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาในการจัดทำงบประมาณประจำปี (ค) พิจารณาและให้ความเห็นชอบแผนแม่บทการใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบำรุงรักษา การฟื้นฟู และการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในเขตต้นน้ำต่าง ๆ ตามที่คณะกรรมการลุ่มน้ำเสนอภายใต้มาตรา 45 (ง) กำกับ ดูแล เร่งรัด ตรวจสอบ ติดตาม และให้คำแนะนำแก่หน่วยงานของรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดำเนินการตามนโยบาย และแผนแม่บทตาม (ข) รวมทั้งแผนปฏิบัติการและแผนงบประมาณตาม (ข) และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบทุกครั้งเป็นประจำ (จ) พิจารณาและให้ความเห็นชอบบันทึกที่สำนักงานเสนอ และประกาศกำหนดครั้งในราชกิจจานุเบกษา (2) เสนอแนะหรืออนุมัตินโยบายแนวทางเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรน้ำขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรน้ำให้มีคุณภาพและจัดการทรัพยากรน้ำที่มีอยู่ในพื้นที่และลำดับขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น (3) เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการลุ่มน้ำตามมาตรา 9 ซึ่งมีปฏิบัติภายใต้กฎหมาย กฎ หรือระเบียบของแต่ละรัฐ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
หน่วยงานในส่วนนี้เกี่ยวข้องกับการใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบำรุงรักษา การฟื้นฟู และการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ เพื่อให้เกิดการบูรณาการและการมีส่วนร่วมของประชาชน ดังนี้
๑
กำหนดหน่วยงานของรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จำเป็นต้องให้ความร่วมมือต่อสำนักงานในการรวบรวมข้อมูล เสนอข้อเท็จจริง และรูปภาพเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำ
๒
กำหนดกรอบ หลักเกณฑ์ และแนวทางการปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบำรุงรักษา การฟื้นฟู และการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและควบคุมการใช้น้ำในแต่ละลุ่มน้ำ
๓
พิจารณาและให้ความเห็นชอบแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เพื่อป้องกันและแก้ไขความขัดแย้งของคณะกรรมการลุ่มน้ำต่าง ๆ เพื่อบูรณาการการป้องกันและแก้ไขการขาดแคลนน้ำและทรัพยากรน้ำ
๔
พิจารณาและให้ความเห็นชอบการอนุญาตการใช้น้ำในประเทศที่สอดคล้องตามมาตรา ๔๔ และการเกิดข้อตกลงอนุญาตการใช้น้ำในประเทศที่สอดคล้องตามมาตรา ๔๕
๕
พิจารณาและให้ความเห็นชอบการสนับสนุนระหว่างลุ่มน้ำและการสนับสนุนจากแหล่งน้ำระหว่างประเทศหรือแหล่งน้ำต่างประเทศ
๖
ไล่เลียงและเสนอข้อพิพาทระหว่างคณะกรรมการลุ่มน้ำ
๗
เสนอแนะเกี่ยวกับการจัดการ การออกกฎหรือการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ หรือกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรน้ำ
๘
เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี หน่วยงานของรัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง ให้มีการวางแผนหรือแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
๙
ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชน และชุมชนที่เกี่ยวข้องในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบำรุงรักษา การฟื้นฟู และการดำเนินการอื่นใดเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำ
๑๐
ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติ หรือที่กฎหมายอื่นกำหนดให้เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ รวมถึงการจัดทำแผนและแผนแม่บทเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรน้ำตาม (๑) ให้ครอบคลุมถึงการรักษาและแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำด้วย
กรณีระยะหลังคณะกรรมการลุ่มน้ำต้องให้ กนช. ไล่เลียงและชี้ขาดตาม (๑๑) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ กนช. กำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
มาตรา ๖๓ ในการจัดทำแผนและแผนแม่บทเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรน้ำตามมาตรา ๖๒ (๑) ให้ กนช. จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของคณะกรรมการลุ่มน้ำ หน่วยงานของรัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ลุ่มน้ำดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
แผนและแผนแม่บทเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรน้ำที่จัดทำขึ้นต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ และให้มีผลใช้บังคับได้ เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้แผนและแผนแม่บทเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรน้ำที่เกี่ยวข้องกับการใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบำรุงรักษา การฟื้นฟู และการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ ปฏิบัติตามแผนและแผนแม่บทดังกล่าว
ให้ กนช. ติดตามและประเมินผลการดำเนินการตามนโยบายและแผนแม่บทเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรน้ำ และโครงการที่สอดรับกับนโยบายและแผนแม่บทเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรน้ำในน้ำ ความในวรรคหนึ่งและวรรคสอง มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม
มาตรา ๑๙ ให้ กนช. ติดตามและประเมินผลการดำเนินการ รวมทั้งพิจารณาทบทวนหรือปรับปรุงแผนแม่บทเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริงที่มีความเปลี่ยนแปลงและรายงานคณะรัฐมนตรีทุกปี
มาตรา ๒๐ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ กนช. อาจมอบหมายให้กรรมการคนหนึ่งหรือหลายคนเป็นผู้รับผิดชอบในกิจการที่กำหนดไว้ ที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของ กนช. แล้วรายงานต่อ กนช. หรือดำเนินการตามที่ กนช. มอบหมาย รวมทั้งมอบอำนาจให้คณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาเสนอแนะ หรือปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่ กนช. มอบหมายได้ ในกรณีดังกล่าวคณะอนุกรรมการควรประกอบด้วยผู้แทนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญทางวิชาการ
ในกรณีเช่นว่านี้ ให้ กนช. มีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการให้ทรัพย์สินดังกล่าวเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะอนุกรรมการนั้น
ให้ถือความในมาตรา ๑๒ และ ๑๓ มาใช้บังคับกับคณะอนุกรรมการดังกล่าวโดยอนุโลม
มาตรา ๒๑ ในกรณีจำเป็น กนช. มีอำนาจแต่งตั้งที่ปรึกษา กนช. กรรมการ กนช. มอบหมาย หรือคณะอนุกรรมการที่ กนช. แต่งตั้งมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือเรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยคำหรือให้ส่งเอกสาร หลักฐาน หรือวัตถุใด ๆ มาเพื่อประกอบการพิจารณาได้ตามความจำเป็น
มาตรา ๒๒ ให้ประธานกรรมการ กรรมการ และอนุกรรมการได้รับเบี้ยประชุม ค่าพาหนะ ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าเช่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอย่างอื่นตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
มาตรา ๒๓ ให้สำนักงานทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขาธิการของ กนช. โดยให้มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
๑
รับผิดชอบงานธุรการของ กนช. และคณะอนุกรรมการ
๒
ดำเนินการและเสนอความเห็นต่อ กนช. เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการตามมาตรา ๑๗ (๓) (๔) และ (๕)
๓
จัดทำคำให้การของ กนช. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๑๙
๔
ประสานการดำเนินงานกับคณะกรรมการกลุ่มน้ำ หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
๕
รวบรวมและจัดทำข้อมูล สถิติ โครงการ วิจัย และรายงานกิจกรรมหรือโครงการใด ๆ เพื่อประกอบการดำเนินงานของ กนช.
8
ให้คำแนะนำและสนับสนุนหน่วยงานของรัฐและองค์กรภาคเอกชนอื่นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารทรัพยากรน้ำ รวมทั้งการดำเนินงานของคณะกรรมการลุ่มน้ำตามที่ได้รับการร้องขอ
9
อำนวยการและกำกับดูแลโครงการสำคัญระดับชาติหรือกรณีเร่งด่วนที่จำเป็นต้องมีการประสานการทำงานหลายหน่วยงานตามที่ กนช. มอบหมาย
10
ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ คณะกรรมการลุ่มน้ำหน่วยงานของรัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารทรัพยากรน้ำ และรายงานต่อ กนช.
11
กำกับดูแลและบริหารจัดการระบบสารสนเทศทรัพยากรน้ำโดยให้หน่วยงานที่ กนช. กำหนดสนับสนุนข้อมูลและเชื่อมโยงระบบสารสนเทศที่เป็นปัจจุบันเพื่อประโยชน์ในการบริหารทรัพยากรน้ำทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤติ
12
ส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคเอกชน ประชาชน และชุมชนที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในด้านการป้องกัน การพัฒนา การบริหารจัดการ การบำรุงรักษา การฟื้นฟู การอนุรักษ์ และการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวกับทรัพยากรน้ำ
13
จัดทำงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับประชุม ค่าเดินทาง ค่าตอบแทน ค่าเช่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของ กนช. คณะกรรมการลุ่มน้ำ และคณะอนุกรรมการ
14
ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติ หรือกฎหมายที่ กนช. มอบหมาย
การจัดทำงบประมาณ (15) การจัดทำงบประมาณ (16) เพื่อให้มีการดำเนินงานที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ให้คณะกรรมการลุ่มน้ำ หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสม
ส่วนที่ 2
ศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจ
มาตรา 24 ในกรณีเกิดภัยพิบัติวิกฤติด้านน้ำอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคน สัตว์ หรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชนหรือของรัฐอย่างรุนแรงให้นายกรัฐมนตรีอาจจัดตั้งศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจ โดยนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บัญชาการอำนวยการแก้ไขปัญหาวิกฤติด้านน้ำเป็นกรณีเร่งด่วน ทั้งนี้ ให้สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางประสานให้หน่วยบัญชาการเฉพาะกิจ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งและสนับสนุนการปฏิบัติงาน
ให้นายกรัฐมนตรีมอบหมายหรือกำหนดอำนาจหน้าที่ให้หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าราชการทหารและพลเรือน เจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานอื่นใด หรือบุคคลใด ๆ ร่วมกันกระทำหรือร่วมกันจัดทำ เพื่อการป้องกัน แก้ไข ควบคุม ระงับ หรือบรรเทาผลกระทบความเสียหายที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อนายกรัฐมนตรีได้ออกคำสั่งตามวรรคสองแล้ว และคำสั่งนั้นมีผลใช้บังคับตามกฎหมาย เพื่อให้เสร็จเป็นการทั่วไปต่อประชาชนที่เกี่ยวข้อง ให้ประกาศคำสั่งดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษาโดยมิชักช้า
ในการปฏิบัติการตามหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของศูนย์บัญชาการฯ และกิจกรรมหรือการปฏิบัติตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีตามวรรคสอง หากเจ้าหน้าที่ของศูนย์บัญชาการฯ และกิจกรรมหรือการปฏิบัติตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีตามวรรคสอง หากเจ้าหน้าที่ของศูนย์บัญชาการฯ ฝ่ายทหาร หน่วยงานส่วนราชการอื่น หรือบุคคลใด ได้ดำเนินการไปตามหน้าที่และอำนาจแล้ว และได้กระทำไปเพราะเหตุแห่งเหตุผลเพื่อประโยชน์ของการป้องกันและระงับ ให้ผู้นั้นพ้นจากความรับผิดทั้งปวง
เมื่อการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวยุติและสิ้นสุด ให้นายกรัฐมนตรีสรุปผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป
ส่วนที่ 3
ลุ่มน้ำและคณะกรรมการลุ่มน้ำ
มาตรา 25 เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ให้กำหนดกลุ่มน้ำ โดยคำนึงถึงพระราชกฤษฎีกากำหนดลุ่มน้ำ หลักเกณฑ์ทางภูมิศาสตร์ ระบบนิเวศ การพึ่งพา การผลิต การส่งน้ำ การรับน้ำ และเขตการปกครองประกอบด้วย
พระราชกฤษฎีกากำหนดลุ่มน้ำแต่ละแห่งให้กำหนดเขตพื้นที่ลุ่มน้ำ และให้ถือเป็นเขตพื้นที่ของทรัพยากรน้ำตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 26 การเปลี่ยนแปลงเขตทรัพยากรน้ำเกิดของลุ่มน้ำใด ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ให้กระทำได้โดยตราพระราชกฤษฎีกา และเฉพาะกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือโอนกิจการบางส่วนให้แสดงแผนที่แสดงเขตเปลี่ยนแปลงหรือโอนกิจการนั้นแนบท้ายพระราชกฤษฎีกาด้วย
มาตรา 27 เพื่อให้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดกลุ่มน้ำตามมาตรา 25 แล้ว ให้มีคณะกรรมการลุ่มน้ำประจำกลุ่มน้ำ ประกอบด้วย
คณะกรรมการลุ่มน้ำในกลุ่มน้ำหนึ่ง ได้แก่ ผู้แทนกรมน้ำในกลุ่มน้ำ ผู้แทนกรมควบคุมมลพิษ ผู้แทนกรมที่ดิน ผู้แทนกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ผู้แทนกรมส่งเสริมการเกษตร ผู้แทนกรมชลประทาน ผู้แทนกรมป่าไม้ ผู้แทนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้แทนกรมพัฒนาที่ดิน ผู้แทนกรมโยธาธิการและผังเมือง ผู้แทนกรมการปกครอง ผู้แทนกรมทางหลวง ผู้แทนกรมทางหลวงชนบท ผู้แทนกรมเจ้าท่า หรือในกรณีที่ลุ่มน้ำใดอยู่ในพื้นที่ที่มีเขตอำนาจของหน่วยงานอื่น ให้มีผู้แทนหน่วยงานนั้นเข้าร่วมเป็นกรรมการลุ่มน้ำด้วย
๒
กรรมการผู้แทนผู้ใช้น้ำขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งเป็นผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตผู้ใช้น้ำต้น จังหวัดละหนึ่งคน และในกรณีที่มีผู้แทนผู้ใช้น้ำขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษนั้นเป็นกรรมการผู้แทนด้วย
๓
กรรมการผู้แทนผู้ใช้น้ำของผู้ใช้น้ำในเขตผู้ใช้น้ำต้นน้ำที่มาจากภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และภาคพาณิชยกรรม ภาคบริการ
๔
กรรมการผู้แทนผู้ใช้น้ำทรัพยากรอุทกขนาดเล็กที่ความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับทรัพยากรน้ำ จำนวนสองคน
ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตาม (๑) เลือกกันเองเพื่อเป็นประธานกรรมการลุ่มน้ำ และให้คณะกรรมการลุ่มน้ำเลือกกรรมการลุ่มน้ำที่กระทรวงแต่งตั้งรองประธานกรรมการลุ่มน้ำ ทั้งนี้ การเลือกประธานกรรมการลุ่มน้ำและรองประธานกรรมการลุ่มน้ำให้กระทำทุกสี่ปี
ให้ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาคแต่งตั้งข้าราชการของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาคเป็นกรรมการลุ่มน้ำและเลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการอีกไม่เกินสองคน
มาตรา ๒๘ ให้มีการเลือกกรรมการลุ่มน้ำตามมาตรา ๒๗ (๓) และ (๔) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกโดยนายกรัฐมนตรี
มาตรา ๒๙ กรรมการลุ่มน้ำตามมาตรา ๒๗ (๒) พ้นจากตำแหน่งเมื่อออก เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ หรือพ้นจากการเป็นผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตผู้ใช้น้ำต้นน้ำ
มาตรา ๓๐ ในกรณีที่กรรมการลุ่มน้ำตามมาตรา ๒๗ (๒) พ้นจากตำแหน่ง ให้ดำเนินการให้ได้มาซึ่งกรรมการลุ่มน้ำแทนตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่กรรมการลุ่มน้ำดังกล่าวพ้นจากตำแหน่ง และในระหว่างที่ยังไม่ได้กรรมการลุ่มน้ำแทนตำแหน่งที่ว่าง ให้คณะกรรมการลุ่มน้ำประกอบด้วยกรรมการลุ่มน้ำเท่าที่มีอยู่
มาตรา ๓๑ กรรมการลุ่มน้ำตามมาตรา ๒๗ (๓) และ (๔) มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับแต่งตั้งใหม่ได้อีก แต่จะดำรงตำแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันมิได้
มาตรา ๓๒ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา กรรมการลุ่มน้ำตามมาตรา ๒๗ (๓) และ (๔) พ้นจากตำแหน่ง เมื่อ
(ก) ตาย
(ข) ลาออก
(ค) บกพร่องหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือขัดข้อนความสามัคคี
(ง) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(จ) พ้นจากการเป็นผู้แทนของผู้ใช้น้ำในเขตผู้ใช้น้ำต้นน้ำ
(b) ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
การพ้นจากตำแหน่งตาม (a) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกโดยนายกรัฐมนตรี
มาตรา ๓๖ ในกรณีที่กรรมการลุ่มน้ำตามมาตรา ๒๗ (๓) และ (๔) ตำรงตำแหน่งก่อนครบวาระ ให้พ้นจากตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรมการลุ่มน้ำในตำแหน่งที่ว่างให้แล้วเสร็จภายในกำหนดในตำแหน่งที่กรรม
๑๓
ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้ หรือที่กฎหมายอื่นกำหนดให้เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการลุ่มน้ำ หรือคณะทำงานลุ่มน้ำ กนช. มอบหมาย การจัดทำแผนบูรณาการ (๑) และ (๒) และการจัดทำแผนหลักเกณฑ์และระเบียบตาม (๔) ให้ครอบคลุมถึงการศึกษาและแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำด้วย การเสนอเรื่องราวทุกกรณีซึ่งอุทิศทรัพยากรระหว่างลุ่มน้ำให้คณะกรรมการลุ่มน้ำโดยลำดับและชัดเจนตาม (๔) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ กนช. กำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
มาตรา ๑๓๐ ให้นำความในมาตรา ๑๒ มาตรา ๒๐ วรรคหนึ่งและวรรคสอง มาตรา ๒๑ และมาตรา ๒๒ มาใช้บังคับแก่การประชุมและการดำเนินการของคณะกรรมการลุ่มน้ำด้วยโดยอนุโลม
มาตรา ๑๓๑ ให้จัดตั้งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาคขึ้นในสังกัดสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักงานนายกรัฐมนตรี ทำน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการลุ่มน้ำ โดยให้มีหน้าที่และอำนาจดังต่อไปนี้ (๑) รับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการลุ่มน้ำ (๒) ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย เพื่อสนับสนุนทรัพยากรน้ำที่เกี่ยวข้องประกอบการพิจารณาจัดทำแผนหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำแผน การบริหารจัดการ การบำรุงรักษา การฟื้นฟู และการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในเขตลุ่มน้ำ (๓) ประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้มีส่วนได้เสียในการบริหารจัดการน้ำที่เกี่ยวกับการใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบำรุงรักษา การฟื้นฟู และการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในเขตลุ่มน้ำให้เป็นไปตามแผนแม่บทการใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบำรุงรักษา การฟื้นฟู และการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในเขตลุ่มน้ำ (๔) ส่งเสริมและติดตามการใช้น้ำประปาประเทศที่สองในเขตลุ่มน้ำให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการลุ่มน้ำ (๕) เผยแพร่ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านแผนและแนวทางการเคลื่อนย้ายอุทิศทรัพยากรระหว่างผู้ใช้น้ำในเขตลุ่มน้ำต่อคณะกรรมการลุ่มน้ำ (๖) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่คณะกรรมการลุ่มน้ำมอบหมาย
ส่วนที่ ๔ องค์กรผู้ใช้น้ำ
มาตรา ๑๓๒ บุคคลซึ่งใช้น้ำในบริเวณใดโดยใกล้เคียงกันและอยู่ในกลุ่มน้ำเดียวกันมีสิทธิรวมตัวกันจัดตั้งองค์กรผู้ใช้น้ำเพื่อประโยชน์ร่วมกันเกี่ยวกับการใช้ การพัฒนา การบริหารจัดการ การบำรุงรักษา การฟื้นฟู และการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในเขตลุ่มน้ำขององค์กรผู้ใช้น้ำ
ส่วัตถุประสงค์ หน้าที่และอำนาจ และการดำเนินงานขององค์กรผู้ใช้น้ำ รวมทั้งหลักเกณฑ์ ขั้นตอนและวิธีการก่อตั้งองค์กรผู้ใช้น้ำให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกโดยนายกรัฐมนตรี
มาตรา ๓๙ กฎกระทรวงตามมาตรา ๓๘ ต้องกำหนดหลักเกณฑ์การจัดตั้ง การกิจ และหน้าที่และอำนาจขององค์กรผู้ใช้น้ำในแต่ละเขตพื้นที่ที่กำหนด ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงสภาพภูมิศาสตร์ ระบบนิเวศ วัฒนธรรม จารีตประเพณี วิธีชีวิตของประชาชนในเขตพื้นที่ ประเภทต่าง ๆ และความจำเป็นในการบริหารจัดการด้วย
การออกกฎกระทรวงตามวรรคหนึ่ง จะต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อน
หมวด ๔ การจัดสรรน้ำและการใช้น้ำ
มาตรา ๔๐ การจัดสรรน้ำของประเทศที่คุ้มครองสิ่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค การรักษาระบบนิเวศ วัฒนธรรม จารีตประเพณี การบริหารราชการแผ่นดิน การเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และการท่องเที่ยว ทั้งนี้ การจัดลำดับความสำคัญให้เป็นไปตามที่กำหนด
มาตรา ๔๑ การให้ทรัพยากรน้ำสามารถแบ่งเป็นสามประเภท คือ
(ก) การใช้น้ำประเภทที่หนึ่ง ได้แก่ การใช้ทรัพยากรน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคบริโภคในครัวเรือน การเกษตรหรือการเลี้ยงสัตว์เพื่อยังชีพ การอุตสาหกรรมในครัวเรือน การรักษาระบบนิเวศ จารีตประเพณี การบริหารราชการแผ่นดิน การคมนาคม และการใช้น้ำในปริมาณเล็กน้อย
(ข) การใช้น้ำประเภทที่สอง ได้แก่ การใช้ทรัพยากรน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การผลิตพลังงานไฟฟ้า การประปาและกิจการอื่น
(ค) การใช้น้ำประเภทที่สาม ได้แก่ การใช้ทรัพยากรน้ำสำหรับแผนกิจการขนาดใหญ่ที่ใช้เงินจำนวนมาก หรืออาจก่อให้เกิดผลกระทบจำนวนผู้คนที่อยู่อาศัยหรือความสมบูรณ์ของสิ่งแวดล้อมที่มีลักษณะหรือรายละเอียดการใช้น้ำแต่ละประเภทตาม (ก) (ข) และ (ค) ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกโดยนายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของ กนช.
การออกกฎกระทรวงตามวรรคสอง จะต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อน
มาตรา ๔๒ การใช้น้ำประเภทที่หนึ่งไม่ต้องขอรับใบอนุญาตการใช้น้ำและไม่ต้องชำระค่าใช้น้ำ
ให้หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำข้อมูลการใช้น้ำประเภทที่หนึ่งที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบ และจัดส่งข้อมูลดังกล่าวต่อสำนักงาน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ กนช. ประกาศกำหนด
มาตรา 44 การใช้น้ำประเภทที่สองต้องได้รับใบอนุญาตจากองค์กรอิสระด้านทรัพยากรน้ำ หรือองค์กรบริหารจัดการน้ำภาคเอกชน แล้วแต่กรณี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการลุ่มน้ำที่ทรัพยากรน้ำดังกล่าวตั้งอยู่
มาตรา 45 การใช้น้ำประเภทที่สามต้องได้รับใบอนุญาตจากองค์กรอิสระด้านทรัพยากรน้ำ หรือองค์กรบริหารจัดการน้ำภาคเอกชน แล้วแต่กรณี โดยความเห็นชอบของ กนช.
มาตรา 46 การขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การอยู่ในใบอนุญาต การขอต่ออายุใบอนุญาต การโอนใบอนุญาต และการอนุญาต รวมทั้งการขอและการออกใบแทนใบอนุญาตการใช้น้ำประเภทที่สองและประเภทที่สาม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ใบอนุญาตการใช้น้ำประเภทที่สองและประเภทที่สามต้องไม่ให้ผู้รับใบอนุญาตกระทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรน้ำ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อทรัพยากรน้ำสาธารณะหรือเพื่อรองรับภาวะวิกฤตน้ำที่อาจเกิดได้
ในกรณีที่มีเหตุผลพิเศษหรือสภาวะสำคัญที่คณะกรรมการลุ่มน้ำ หรือในเหตุจำเป็นอื่นซึ่งประโยชน์สาธารณะหรือประโยชน์ของทรัพยากรน้ำสาธารณะต้องมาก่อน องค์กรอิสระด้านทรัพยากรน้ำ หรือองค์กรบริหารจัดการน้ำภาคเอกชน แล้วแต่กรณี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการลุ่มน้ำหรือ กนช. แล้วแต่กรณี มีอำนาจแก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไขในใบอนุญาตการใช้น้ำตามวรรคสองได้
มาตรา 47 ในการพิจารณาออกใบอนุญาตการใช้น้ำประเภทที่สองและประเภทที่สาม ให้แก่ผู้ขอรับใบอนุญาต ให้คำนึงถึงผลกระทบต่อฐานน้ำ ทรัพยากรน้ำสาธารณะ รวมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อทรัพยากรรวมลดลงและดูแลอย่างยั่งยืน
มาตรา 48 ในการขอรับใบอนุญาตการใช้น้ำตามมาตรา 43 และมาตรา 45 ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องยื่นแผนการบริหารจัดการน้ำพร้อมคำขอด้วย ทั้งนี้ แบบคำขอรับใบอนุญาตการใช้น้ำและแผนการบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามที่องค์กรอิสระด้านทรัพยากรน้ำ หรือองค์กรบริหารจัดการน้ำกำหนด แล้วแต่กรณี
แผนการบริหารจัดการน้ำควรมีรายละเอียด อย่างน้อยต้องมีรายการ ดังต่อไปนี้
1
วัตถุประสงค์ของการใช้น้ำและพื้นที่ที่จะใช้
2
ประมาณการปริมาณน้ำที่จะใช้หรือจะกักเก็บไว้เพื่อใช้
3
สถานที่กักเก็บน้ำ
4
วิธีการใช้น้ำ
5
แผนจัดการพื้นที่ที่กักเก็บน้ำเมื่อเกิดภาวะน้ำแล้ง
(ข) แผนจัดการน้ำที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วม
(ค) วิธีการบริหารจัดการ ฟื้นฟู และอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำและระบบนิเวศ
แผนจัดการน้ำที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขในระยะที่เกิดภาวะน้ำแล้ว การลดปริมาณการใช้น้ำ การเพิ่มน้ำต้นทุนทดแทน และจัดการเป็นไปได้ในการเปลี่ยนที่ต้นเพื่อประโยชน์สาธารณะ
แผนจัดการน้ำที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วมตาม (ข) อย่างน้อยต้องมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการป้องกันน้ำให้ที่คำนึงถึงไม่เฉือนกิจการอน้ำท่วม
หนังสือให้ผู้รับใบอนุญาตการใช้น้ำหยุดการใช้น้ำตามใบอนุญาตไว้เป็นการชั่วคราว และให้ผู้รับใบอนุญาตการใช้น้ำดำเนินการตามความจำเป็นเพื่อแก้ไขหรือระงับเหตุแห่งการฝ่าฝืนภายในระยะเวลาที่กำหนด
มาตรา 53 เมื่อปรากฏว่าผู้รับใบอนุญาตการใช้น้ำในแหล่งน้ำสาธารณะหรือแหล่งน้ำที่ตามกฎหมายกำหนดสิทธิและหน้าที่ในการใช้น้ำหรือการจัดการน้ำไว้แก่บุคคลใด หรือกลุ่มบุคคลใด ได้ใช้น้ำเกินกว่าที่กำหนดในใบอนุญาต หรือไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามเงื่อนไขในใบอนุญาต หรือคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือเจ้าพนักงานผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการลุ่มน้ำตามที่กำหนดไว้ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือเจ้าพนักงานผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการลุ่มน้ำรายงานต่อคณะกรรมการลุ่มน้ำหรือ กนช. แล้วแต่กรณี ทราบโดยมิชักช้า
ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตการใช้น้ำต้องชำระค่าที่ต้องทำการให้แล้วเสร็จตามกำหนดที่ถูกต้องจนพ้นกำหนดให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือเจ้าพนักงานผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการลุ่มน้ำรายงานต่อคณะกรรมการลุ่มน้ำหรือ กนช. แล้วแต่กรณี และเมื่อถึงกำหนดเวลาที่แก้ไขหรือดำเนินการให้ถูกต้องแล้ว ให้แจ้งผู้รับใบอนุญาตให้ดำเนินการแก้ไขหรือดำเนินการให้ถูกต้องแล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด หากผู้รับใบอนุญาตไม่ดำเนินการแก้ไขหรือดำเนินการให้ถูกต้องแล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือเจ้าพนักงานผู้รับผิดชอบในการบริหารจัดการลุ่มน้ำรายงานต่อคณะกรรมการลุ่มน้ำหรือ กนช. แล้วแต่กรณี เพื่อพิจารณาสั่งเพิกถอนใบอนุญาตการใช้น้ำดังกล่าว
มาตรา 54 มีให้ความในมาตรา 52 วรรคหนึ่ง มาตรา 53 และมาตรา 54 มาใช้บังคับแก่การใช้น้ำทรัพยากรน้ำสาธารณะที่เป็นน้ำจากตลาดตามกฎหมายว่าด้วยน้ำบาดาล
หมวด 5 ภาวะน้ำแล้งและภาวะน้ำท่วม
ส่วนที่ 1 การใช้ประโยชน์ที่ดินในระบบทางน้ำตามลุ่มน้ำ
มาตรา 55 เมื่อมีการประกาศลุ่มน้ำในราชกิจจานุเบกษาตามมาตรา 47 (5) แล้ว การใช้ประโยชน์ที่ดินที่อยู่ในระบบทางน้ำตามลุ่มน้ำดังกล่าวต้องไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางน้ำหรือ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กระแสน้ำหรือศึกษาว่าการไหลของน้ำในระบบทางทางน้ำ อันเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติตามแผนป้องกัน และแก้ไขภาวะน้ำแล้ง และแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม
ส่วนที่ 2
การป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้ง
มาตรา 49 ในกรณีที่มีข้อมูลเพียงพอที่ให้คณะกรรมการลุ่มน้ำเห็นควรส่งมอบน้ำ ให้คณะกรรมการลุ่มน้ำออกความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรีตามความเหมาะสมในกรณีตามกฎหมาย กำหนดเขตภาวะน้ำแล้ง และกำหนดให้การส่งมอบน้ำสามารถใช้ได้ในปริมาณที่เหมาะสมได้ การกำหนดให้การไหลเวียนของน้ำสามารถใช้ได้ในปริมาณที่เหมาะสมได้ ให้ทำเป็นประกาศ ปิดไว้ในเขตเปิดเผยแผนที่น้ำจ่ายในเขตภาวะน้ำแล้งนั้น เมื่อมีภาวะน้ำแล้งอย่างรุนแรงให้ดำเนินไปแล้ว ให้คณะกรรมการลุ่มน้ำโดยความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรีประกาศยกเลิกเขตภาวะน้ำแล้ง
มาตรา 50 ในกรณีที่เกิดภาวะน้ำแล้งอย่างรุนแรงอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อผลกระทบต่อกิจกรรมหรือ การดำรงชีวิตของประชาชนในเขตภาวะน้ำแล้ง ให้คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหา ภาวะน้ำแล้งอย่างรุนแรงในพื้นที่นั้น และกำหนดวิธีการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้คำนึงถึงผลกระทบต่อกิจกรรมหรือการดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นที่นั้นด้วย ถ้าหากผลกระทบต่อกิจกรรมหรือ การดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นที่นั้นยังคงมีอยู่ ให้คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหา ภาวะน้ำแล้งอย่างรุนแรงในพื้นที่นั้นต่อไป ในระหว่างที่ยังไม่มีประกาศตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการลุ่มน้ำอาจกำหนด วิธีการใช้น้ำและการแบ่งปันน้ำในพื้นที่ที่จำเป็นในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ในกรณีที่ประกาศตามวรรคหนึ่งได้รับผลกับในพื้นที่ที่ต้องประกาศกำหนด เขตภาวะน้ำแล้งตามมาตรา 49 ให้ประกาศตามวรรคหนึ่งมีผลเป็นการยกเลิกเขตภาวะน้ำแล้ง และเมื่อภาวะน้ำแล้งอย่างรุนแรงได้รับแก้ไขไปแล้ว ให้ยกเลิกประกาศยกเลิกเขตภาวะน้ำแล้งอย่าง รุนแรง
มาตรา 51 ในกรณีมีความจำเป็นต้องสั่งน้ำจากลุ่มน้ำหนึ่งไปยังอีกลุ่มน้ำหนึ่งเพื่อ บรรเทาภาวะน้ำแล้ง นายกรัฐมนตรีออกความเห็นชอบของ กนช. มีอำนาจสั่งให้ดำเนินการดังกล่าวได้ เท่าที่จำเป็นในบริบทการบริหารภาวะน้ำแล้งนั้น
มาตรา 52 ในกรณีที่เกิดภาวะน้ำแล้งอย่างรุนแรงในพื้นที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ มีอำนาจสั่งให้บุคคลผู้ใดที่มีน้ำเก็บไว้ต้องเสียสละน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการอุปโภคบริโภคของ ประชาชนในพื้นที่ที่กำหนดและวิธีการที่นายกรัฐมนตรีประกาศกำหนด ในกรณีเช่นนี้ให้ผู้ที่ เก็บน้ำสำรองไว้มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนตามหลักการที่รัฐมนตรีกำหนดต่อไป
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การกำหนดค่าทดแทนตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวงหรือโดยนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงความเสียหายตามความเป็นจริงและความเป็นธรรม
มาตรา ๒๑ ให้คณะกรรมการลุ่มน้ำจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้งให้เป็นการล่วงหน้า โดยให้แผนดังกล่าวมีรายละเอียดการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำในกรณีที่คาดว่าจะเกิดภาวะน้ำแล้งในระยะเวลาใดระยะเวลาหนึ่งเป็นประจำ และกระบวนการดำเนินงานต้องคำนึงถึงแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้งในลุ่มน้ำดังกล่าวรวมถึงข้อกำหนดเกี่ยวกับรายการดังต่อไปนี้
๑
หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักและหน่วยงานสนับสนุน
๒
งบประมาณที่ใช้ในการดำเนินการ
๓
การจัดเตรียมข้อมูลที่จำเป็นประโยชน์ในการป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้ง
๔
การเผยแพร่ข้อมูลให้ประชาชนทราบ
๕
วิธีการควบคุมการใช้น้ำในภาวะน้ำแล้ง
๖
การจัดทำแผนจัดสรรน้ำและการขนส่งน้ำจากแหล่งน้ำที่มีน้ำเหลือไปยังพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำ
ภาวะน้ำแล้ง
๗
การประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำแล้ง
ในการจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้ง ให้มีการบูรณาการร่วมกันจัดทำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติและแผนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้มีการจัดเตรียมแหล่งน้ำชลประทานรองรับ จัดการเครื่องมือและอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้งอย่างเหมาะสม
มาตรา ๒๒ เมื่อคณะกรรมการลุ่มน้ำจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้งเสร็จแล้วให้เสนอคณะ กนช. เพื่อให้ความเห็นชอบ และจัดส่งแผนดังกล่าวไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานของรัฐและองค์กรภาคเอกชนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบและดำเนินการ ในกรณีที่ให้หน่วยงานของรัฐและองค์กรภาคเอกชนดังกล่าวที่เกี่ยวข้องจัดทำหรือเตรียมอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้ง รวมทั้งบำรุงรักษาสิ่งก่อสร้างหรืออุปกรณ์นั้น หรือดำเนินการใด ๆ เพื่อให้เป็นไปตามแผนดังกล่าว
กรณีที่หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรภาคเอกชนดังกล่าวไม่อาจดำเนินการให้เป็นไปตามแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้งได้ ให้คณะกรรมการลุ่มน้ำเสนอเรื่องต่อ กนช. เพื่อพิจารณาหาแนวทางแก้ไขต่อไป
มาตรา ๒๓ ให้คณะกรรมการลุ่มน้ำติดตามการดำเนินการให้เป็นไปตามแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้งที่ กนช. ให้ความเห็นชอบ และทบทวนแผนให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์เป็นรายปี เพื่อให้อยู่ในสภาพที่พร้อมจะดำเนินการในกรณีเกิดภาวะน้ำแล้ง
ส่วนที่ 3
การป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม
มาตรา 24 ให้คณะกรรมการลุ่มน้ำจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมในพื้นที่
เป็นการล่วงหน้า โดยให้จัดทำแผนเพื่อเตรียมการรองรับฤดูน้ำหลากที่คาดว่าจะทำความเสียหายให้
จะเกิดความท่วมในระยะเวลาใดระยะเวลาหนึ่งเป็นประจำ และกรณีฉุกเฉินที่มีน้ำท่วมเกิดขึ้นโดย
ฉับพลัน โดยในการจัดทำแผนดังกล่าวให้คำนึงถึงสภาพแวดล้อม ผังน้ำ ทางน้ำหลาก และความ
หลากหลายทางชีวภาพของพื้นที่นั้นประกอบด้วย
แผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมตามวรรคหนึ่ง อย่างน้อยต้องมีรายการ
ดังต่อไปนี้
1
หน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักและหน่วยงานสนับสนุน
2
งบประมาณที่ใช้ในการดำเนินการ
3
การจัดเตรียมข้อมูลที่จำเป็นประโยชน์ในการป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม
4
การวิเคราะห์การคาดการณ์เสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับภาวะน้ำท่วม
5
การจัดทำระบบเตือนภัยน้ำท่วม
6
การเตรียมแผนช่วยเหลือประชาชน
7
วิธีการระบายน้ำหรือบริหารจัดการน้ำตามหลักวิชาการให้มีระบายไปตาม
แนวทางที่กำหนด
8
วิธีการเก็บกักน้ำเพื่อเก็บไว้ใช้ประโยชน์ต่อไป
9
การระบายน้ำจากพื้นที่หนึ่งไปยังพื้นที่อื่นที่ต้องช่วยเหลือซึ่งอาจทำให้
ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
ในการจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม ให้มีการบูรณาการร่วมกันแผนการ
ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติและแผนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นจาก
หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในเขตดังกล่าวตามความ
เหมาะสม
การบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะน้ำท่วมและการจัดทำระบบ
เตือนภัยน้ำท่วมตามวรรคสอง (4) และ (5) ให้เป็นไปตามแนวทางที่ กนช. ประกาศกำหนด
มาตรา 25 ให้ดำเนินการในมาตรา 24 มาตรา 26 และมาตรา 23 มาใช้บังคับแก่
การดำเนินน้ำจากลุ่มน้ำหนึ่งไปยังอีกลุ่มน้ำหนึ่งเพื่อป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม การเตรียมแผนป้องกัน
และแก้ไขภาวะน้ำท่วมของ กนช. เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามแผนแม่บทการบริหารจัดการ
น้ำของรัฐ หน่วยงานของรัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการในกรอบของ
การแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติที่หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นรับผิดชอบ
ให้เป็นไปตามแผนหลักการน้ำ รวมทั้งการจัดการตามที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทการบริหารจัดการ
ภาวะน้ำท่วมและการขอแผนหลักการจัดการโดยองค์รวม
ส่วนที่ 4
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไข ภาวะน้ำแล้งและภาวะน้ำท่วม
มาตรา 26 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจไปในที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างของบุคคลใด ๆ เพื่อทำการสำรวจตรวจสอบ หรือเก็บรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นหรือจำเป็นเร่งด่วนในการป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้งและภาวะน้ำท่วม ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวต้องอยู่ภายในขอบเขตแห่งความจำเป็นและให้เป็นไปตามมาตรา 25 หรือเมื่อมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 24 หรือมีพฤติการณ์ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย ความสูญเสีย และอันตราย
ในการดำเนินการเพื่อป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจทำลายสิ่งกีดขวาง ตัดฟันต้นไม้ ขุดดิน ปิดกั้นแนวเขตที่ดิน รื้อถอนสิ่งก่อสร้างหรือสิ่งอื่นใดที่ขวางหรือกีดขวางทางน้ำอยู่หรือขวางบุคคลใด ๆ หรือดำเนินการอื่นใดที่จำเป็นแก่การป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมได้ แต่ต้องคำนึงถึงความเสียหายแก่บุคคลอื่นด้วย
การดำเนินการตามมาตรานี้ต้องกระทำโดยสุจริต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวงหรือโดยคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ทั้งนี้ ในการดำเนินการหลักเกณฑ์ดังกล่าวต้องคำนึงถึงความเหมาะสมต่อความจำเป็นเร่งด่วน และเปิดโอกาสให้ผู้ได้รับความเสียหายชี้แจงและแสดงพยานหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงหรือคำสั่งดังกล่าว
มาตรา 27 ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ หรือมีพฤติการณ์ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย ความสูญเสีย หรืออันตราย ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปในที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างของบุคคลใด ๆ เพื่อทำการสำรวจ ตรวจสอบ หรือเก็บรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นหรือจำเป็นเร่งด่วน ทั้งนี้ ต้องแสดงวัตถุประสงค์และลักษณะของการใช้ที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างนั้นและวันเวลาที่จะใช้ประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างดังกล่าว
ในกรณีเหตุอันควรเชื่อได้ในภาวะน้ำแล้งและภาวะน้ำท่วม ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าใช้ที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างเพื่อดำเนินการตามวรรคหนึ่งได้ทันทีโดยไม่ต้องได้รับการอนุมัติ แต่ต้องแจ้งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างทราบไปโดยการที่สามารถกระทำได้
ในการใช้ที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานผู้รับผิดชอบกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันความเสียหายแก่ทรัพย์สินของเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างตามวรรคหนึ่ง และในกรณีที่เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างจากการใช้ที่ดินหรือสิ่งก่อสร้าง ให้พนักงานผู้รับผิดชอบเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวงหรือคำสั่งของผู้บังคับบัญชา
มาตรา 28 การที่พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าไปในที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างของบุคคลใดเพื่อปฏิบัติหน้าที่ที่กำหนดตามมาตรา 26 และมาตรา 27 ให้กระทำในสภาพที่จะก่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดต่อที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างนั้น
ในการนี้ต้องแจ้งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างทราบล่วงหน้าเท่าที่จะสามารถทำได้ ยกเว้นในกรณีเร่งด่วนหรือกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นว่าไม่สามารถแจ้งได้
มาตรา ๒๙ ในกรณีที่ผู้มีสิทธิได้รับค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหายไม่ยอมตกลงในจำนวนเงินค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหายที่คณะกรรมการผู้รับผิดชอบกำหนดไว้ตามมาตรา ๒๐ มาตรา ๒๖ หรือมาตรา ๒๗ ให้หน่วยงานรัฐยื่นคำร้องต่อศาลในท้องที่ซึ่งทรัพย์นั้นตั้งอยู่เพื่อให้ศาลหรือสำนักงานวางทรัพย์ หรือฝากไว้กับธนาคารออมสินในนามของผู้มีสิทธิได้รับค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหาย โดยแสดงให้เห็นบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ และคำพิพากษาเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเนื่องจากการดำเนินงานนั้น ให้ศาลเป็นผู้พิจารณาและมีคำสั่งเกี่ยวกับการจ่ายเงินค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหายดังกล่าว
เมื่อหน่วยงานรัฐยื่นคำร้องต่อศาลในท้องที่ซึ่งทรัพย์นั้นตั้งอยู่เพื่อให้ศาลหรือสำนักงานวางทรัพย์ หรือฝากไว้กับธนาคารออมสิน และมีคำสั่งเกี่ยวกับการจ่ายเงินค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหายดังกล่าวแล้ว ให้ถือว่าผู้มีสิทธิได้รับค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหายครบถ้วน โดยสิ้นสุดไประยะเดียวกัน
หลักเกณฑ์และวิธีการในการนำเงินค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหายไปจ่ายต่อศาลหรือสำนักงานวางทรัพย์ หรือฝากไว้กับธนาคารออมสิน และวิธีการในการจ่ายเงินค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหายดังกล่าวให้เป็นไปตามระเบียบที่นายกรัฐมนตรีกำหนด
มาตรา ๓๐ ในกรณีที่ผู้มีสิทธิได้รับค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหายไม่พอใจในจำนวนเงินค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหายที่คณะกรรมการผู้รับผิดชอบกำหนดไว้ ไม่ว่าคณะกรรมการผู้รับผิดชอบจะได้พิจารณาและกำหนดจำนวนเงินค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหายใหม่ตามคำร้องขอของผู้มีสิทธิหรือไม่ก็ตาม ให้ผู้มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลในท้องที่ซึ่งทรัพย์นั้นตั้งอยู่เพื่อให้ศาลพิจารณาและมีคำสั่งเกี่ยวกับจำนวนเงินค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหายดังกล่าวตามความเหมาะสม
การฟ้องคดีต่อศาลตามวรรคหนึ่งไม่เป็นเหตุให้การออมทรัพย์หรือการฝากเงินตามมาตรา ๒๙ วรรคสอง ต้องสะดุดหยุดลง
ในกรณีที่ผู้มีสิทธิได้รับค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหายยินยอมตกลงและได้รับเงินค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหายไปแล้ว หรือมีคำสั่งของศาลเกี่ยวกับค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหายตามที่คณะกรรมการผู้รับผิดชอบกำหนด หรือได้แจ้งเป็นหนังสือสละสิทธิ์ไม่รับเงินค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหายดังกล่าว ผู้มีสิทธิเรียกร้องค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหายอื่นอีกไม่ได้
มาตรา ๓๑ ห้ามมิให้บุคคลใดเอาไป ย้ายย้าย ทำอันตราย หรือทำให้เสียหายแก่สิ่งก่อสร้าง สิ่งของ หรืออุปกรณ์ใด ๆ หรือเครื่องมือมาตรการใด ๆ ที่หน่วยงานรัฐนำขึ้นหรือติดตั้งเพื่อป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้งและภาวะน้ำท่วม
ในกรณีที่มีการเสียหายหรือสูญหาย ให้หน่วยงานรัฐแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินคดีแก่ผู้กระทำให้เกิดผลเสียหายดังกล่าว ถ้าผู้ใดไม่ปฏิบัติตาม ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการ โดยผู้มีหน้าที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการดังกล่าว
มาตรา ๓๒ ในการปฏิบัติการตามหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำแล้งและน้ำท่วมในช่วงเวลาพระราชบัญญัตินี้ หากได้ดำเนินการไปตามหน้าที่แล้วจะอย่างไรก็ตาม
และได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุและมีได้ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ผู้กระทำการนั้นพ้นจากความผิดและความรับผิดทั้งปวง
หมวด 6
การอนุรักษ์และการพัฒนาทรัพยากรน้ำสารธารณะ
____________________
มาตรา 43 ในกรณีที่ กนช. เห็นว่าพื้นที่ใดไม่อาจถือเอาแหล่งน้ำตามลักษณะหรือพื้นที่ซึ่งมีลักษณะควรจะเป็นประโยชน์ในการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำสารธารณะ ให้ กนช. มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดการดำเนินการให้พื้นที่นั้นเป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
มาตรา 44 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโดยความเห็นชอบของ กนช. มีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในที่ดินซึ่งอยู่ในเขตทรัพยากรน้ำสารธารณะเพื่อมิให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายต่อทรัพยากรน้ำสารธารณะ หรือเพื่อประโยชน์ในการอนุรักษ์หรือพัฒนาทรัพยากรน้ำสารธารณะให้เป็นไปโดยเหมาะสมได้
หลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในที่ดินตามวรรคหนึ่ง ให้รวมถึงการกำหนดให้ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ในที่ดินนั้นต้องเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงด้วย
ในกรณีที่มีความจำเป็น ราชการส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าของที่ดินหรือผู้ครอบครองที่ดินจะต้องจัดทำแผนหรือกฎเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้นให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ประกาศ หรือบัญชีพิกัดสิ่งของตามกฎหมายดังกล่าวจะมีขึ้นเพื่อคุ้มครองประโยชน์สารธารณะที่สำคัญยิ่งกว่า
มาตรา 45 เมื่อได้มีการประกาศตามมาตรา 44 ใช้บังคับแล้ว ห้ามมิให้ผู้ใดใช้ประโยชน์ที่ดินแตกต่างหรือขัดกับข้อกำหนดในกฎกระทรวงนั้น
ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับแก่กรณีเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินที่ได้ใช้ประโยชน์ที่ดินมาก่อนมีผลบังคับของกฎกระทรวงตามวรรคหนึ่งเว้นแต่จะเป็นการใช้ประโยชน์ในที่ดินที่มีผลกระทบต่อทรัพยากรน้ำสารธารณะ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแต่งตั้งผู้มีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือถึงเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินให้แก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือระงับการใช้ประโยชน์ที่ดินตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และค่าเสียหายที่สมควรแก่กรณีตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง หากเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินนั้นต้องการประโยชน์ในการใช้ที่ดินหรือได้รับความเสียหาย ให้ผู้มีอำนาจสั่งให้เจ้าของที่ดินหรือครอบครองที่ดินชดเชยค่าเสียหาย และค่าขนย้าย ทั้งนี้ ในกรณีที่เจ้าของหรือครอบครองที่ดินไม่ปฏิบัติตามให้เป็นภาระสิทธิ์ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจดำเนินการ โดยเจ้าของหรือครอบครองที่ดินนั้นมีสิทธิได้รับค่าความเสียหายหรือสิทธิใด ๆ ที่เกี่ยวข้องตามกรณีจากประโยชน์ในการใช้ที่ดิน
การกำหนดค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหายตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวงซึ่งออกโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในกรณีที่ผู้มีสิทธิได้รับค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหายตามวรรคสองไม่ยินยอมตกลงหรือไม่พอใจจำนวนเงินค่าทดแทนหรือค่าชดเชยความเสียหาย ให้ดำเนินการตามมาตรา 85 และมาตรา 87 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
มาตรา 87 ในกรณีที่มีการใช้ประโยชน์ในที่ดินตามคำสั่งหรือคำบังคับอื่น ๆ ตามกฎกระทรวงตามมาตรา 86 ภายหลังจากที่กฎกระทรวงดังกล่าวได้มีผลใช้บังคับแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแต่งตั้งแจ้งความออกคำสั่งเป็นหนังสือแจ้งเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินให้ไปแสดงสิทธิในที่ดิน และหรือระยะเวลาที่กำหนดไว้ โดยเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการนั้นเอง ถ้าผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินไม่ยินยอมกระทำ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการ โดยผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการดังกล่าว
มาตรา 88 เมื่อมีเหตุอันควรเชื่อว่ามีการใช้ที่ดินหรือทรัพยากรธรรมชาติหรือทรัพยากรน้ำสารธารณะอย่างรุนแรง ซึ่งจำเป็นต้องมีการยับยั้งหรือแก้ไขโดยเร่งด่วน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแต่งตั้งมีอำนาจสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างหรือทรัพย์สินภายในเขตของบุคคลนั้นย้ายหรือระงับ หรือปรับการดำเนินการนั้นได้ โดยให้นำความในมาตรา 86 มาตรา 87 มาตรา 88 มาตรา 89 มาตรา 90 มาตรา 91 และมาตรา 92 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
มาตรา 89 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยความเห็นชอบของ กนช. มีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเพื่อการอนุรักษ์และการพัฒนาทรัพยากรน้ำสารธารณะ ในเรื่องที่มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ได้
(ก) กำหนดการใช้ประโยชน์ทรัพยากรน้ำสารธารณะหรือทรัพยากรธรรมชาติที่เกี่ยวข้อง
(ข) กำหนดหลักเกณฑ์การกระทำใด ๆ ที่มีผลเสียต่อการเปลี่ยนสภาพแหล่งน้ำหรือมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงหรือทำลายระบบนิเวศน์ หรือระบบนิเวศน์น้ำ หรือทำให้มีสภาพเป็นแหล่งน้ำเน่าเสียหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน
(ค) กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเพื่อการอนุรักษ์หรือการพัฒนาทรัพยากรน้ำสารธารณะ จัดให้มีสิ่งก่อสร้าง คลองส่งน้ำหรือคลองระบายน้ำ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นใดที่จำเป็นในการดำเนินการไปตามแผนการอนุรักษ์หรือการพัฒนาทรัพยากรน้ำสารธารณะ หรือการใช้ประโยชน์ทรัพยากรน้ำสารธารณะ
๕
กำหนดมาตรการคุ้มครองอื่น ๆ ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสมแก่สภาพของพื้นที่นั้น
กฎกระทรวงตามวรรคหนึ่งจะกำหนดให้ใช้บังคับเป็นการทั่วไปหรือใช้บังคับในท้องที่ใดท้องที่หนึ่งและจะกำหนดบังคับทั้งพื้นที่หรือบางส่วนสำหรับกิจกรรมบางประเภทหรือบางพื้นที่ก็ได้
มาตรา ๔๗ ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อว่าจะเกิดความเสียหายต่อทรัพยากรน้ำ สาระสธรณให้หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรควบคุมหรือองค์กรผู้ใช้น้ำแจ้งเตือนเหตุหรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรน้ำสาระสธรณในระยะเวลาที่ทันท่วงที
ในกรณีที่มีการกระทำอันก่อให้เกิดความเสียหายหรืออาจเกิดความเสียหายต่อทรัพยากรน้ำสาระสธรณ ให้หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรควบคุมหรือองค์กรผู้ใช้น้ำแจ้งเตือนเหตุหรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายและให้ทรัพยากรน้ำสาระสธรณคืนสู่สภาพเดิมหรือสภาพที่ใกล้เคียงกับสภาพเดิมหรือเป็นการชดเชยในรูปแบบอื่นในระยะเวลาที่ทันท่วงที
หมวด ๗
หน้าที่ของเจ้าหน้าที่
มาตรา ๔๘ ในการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจดังต่อไปนี้
(ก) เข้าไปในที่ของบุคคลใดในสาระห่างพระราชทัณฑ์เพื่อ ตรวจตราแหล่งน้ำ สำรวจ หรือเก็บข้อมูลที่จำเป็นต่อการควบคุมและตรวจตราทรัพยากรน้ำ
(ข) เข้าไปในที่ดิน อาคาร สถานที่ หรือเขตทางของบุคคลใดในสาระห่างพระราชทัณฑ์เพื่อบำรุงรักษาแหล่งน้ำและบูรณะความเสียหายของทรัพยากรน้ำสาระสธรณ
(ค) เข้าไปในที่ดิน อาคาร สถานที่ หรือเขตทางของบุคคลใดในสาระห่างพระราชทัณฑ์ซึ่งมีพระราชทัณฑ์ตกในกรณีที่มีลักษณะอันเป็นการเร่งด่วนเพื่อการจัดการทรัพยากรน้ำตามพระราชบัญญัตินี้ เพื่อรวบรวม ทำ ยึดหรืออายัดสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปในที่ของบุคคลใดในสาระห่างพระราชทัณฑ์ได้ แต่ต้องไม่ใช้อำนาจเกินสมควรแก่เหตุ
เมื่อเข้าไปในที่ของบุคคลใดในสาระห่างพระราชทัณฑ์ตาม (ก) ยึดหรืออายัดสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปในที่ของบุคคลใดในสาระห่างพระราชทัณฑ์ได้ แต่ต้องไม่ใช้อำนาจเกินสมควรแก่เหตุ
มาตรา ๔๗ ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แสดงบัตรประจำตัวต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง และให้ผู้ที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกตามสมควร
บัตรประจำตัวของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามแบบที่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แล้วแต่กรณีประกาศกำหนด
มาตรา ๔๘ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
หมวด ๘
ความรับผิดทางแพ่งในการชดใช้ค่าเสียหายต่อทรัพยากรน้ำสาธารณะ
มาตรา ๔๙ ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อกระทำโดยผิดกฎหมายทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรน้ำสาธารณะหรือให้ทรัพยากรน้ำสาธารณะโดยไม่มีสิทธิตามกฎหมาย ผู้นั้นกระทำผิดต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่แผ่นดินแทนรัฐหรือราชการ
ถ้าความเสียหายต่อทรัพยากรน้ำสาธารณะเกิดจากวัตถุหรือสิ่งใดที่ก่อให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายต่อทรัพยากรน้ำสาธารณะ เจ้าของหรือผู้ครอบครองวัตถุหรือสิ่งนั้นต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเพื่อการนั้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้กระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อและได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้วก็ให้พ้นจากความรับผิดชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว
ค่าเสียหายตามบทบัญญัตินี้ให้หมายความรวมถึง
๑
ค่าดำเนินการต่าง ๆ ของรัฐในการประเมินความเสียหายและประเมินค่าใช้จ่ายในการเยียวยาหรือชดใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะ สิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ และสุขภาพของบุคคล
๒
ค่าดำเนินการหรือค่าใช้จ่ายไปในการกำจัด เคลื่อนย้าย หรืออื่นใดที่ก่อให้เกิดความเสียหายหรือกระทำให้สิ้นสุดผลกระทบต่อความเสียหายหรือความเป็นพิษ ตลอดจนการฟื้นฟูให้คืนสภาพเดิมหรือรักษาไว้
๓
ค่าเสียหายซึ่งใช้จ่ายไปในการทำให้ทรัพยากรน้ำสาธารณะกลับคืนสู่สภาพเดิม
๔
ค่าเสียหายซึ่งใช้จ่ายไปในการชดเชยความสูญหายหรือทรัพย์สินของบุคคลอื่นเนื่องในความเสียหายนั้น
๕
ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่รัฐได้จ่ายไปในการดำเนินการใด ๆ เพื่อให้ได้คืนซึ่งค่าเสียหายตามบทบัญญัตินี้ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีตามกฎหมาย เช่น ค่าใช้จ่ายซึ่งรัฐเรียกเก็บจากผู้กระทำผิดหรือผู้รับผิดในการรวมรวมพยานหลักฐานและการดำเนินคดีในศาล และค่าธรรมเนียมศาล
๖
มูลค่าของทรัพยากรน้ำสาธารณะที่ต้องเสียหายหรือสูญไปโดยไม่มีสิทธิตามกฎหมาย
๗
ค่าเสียหายที่เกิดจากการใช้ประโยชน์ของรัฐหรือความเสียหายอื่น ๆ อันเนื่องในการบำบัดฟื้นฟูและเยียวยาความเสียหายของทรัพยากรน้ำสาธารณะให้กลับคืนสู่สภาพเดิม
๘
ค่าเสียโอกาสในการนำงบประมาณหรือเงินทุนที่ได้ตาม (๗) ไปลงทุนในโครงการอื่นของรัฐเพื่อสังคมโดยรวม
๙
ค่าเสียหายต่อเนื่องอื่น ๆ อันศาลจะพิจารณาโดยอนาคต
ให้กรมทรัพยากรน้ำหรือหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรของรัฐที่ร้องขอรับสิทธิเป็นผู้รับผิดชอบควบคุมดูแลและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำสาธารณะ แล้วแต่กรณี เป็นตัวแทนของรัฐในการฟ้องคดีเพื่อเรียกค่าเสียหายดังกล่าว และให้กรมทรัพยากรน้ำหรือหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรของรัฐที่เกี่ยวข้องนำค่าเสียหายที่ได้รับมาคืนให้แก่ตลาดทรัพยากรน้ำหรือหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรของรัฐส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
มาตรา ๔๘ ในกรณีที่ผู้ถูกสั่งให้ชดใช้ความเสียหายต่อทรัพยากรน้ำสาธารณะไม่กระทำตามคำสั่งที่ออกตามมาตรา ๔๕ วรรคสอง และมีผลเสียในการบริหารจัดการหรือบรรเทาความเสียหาย และทำให้ทรัพยากรน้ำสาธารณะเสื่อมโทรมหรือสูญหายเกินกว่าที่ได้เสียหายเดิม หรือแทนจะสมควรใช้ประโยชน์ ให้เสนอเป็นการลดจำนวนค่าเสียหายที่แทนส่วนที่ได้กระทำ
หมวด ๘
บทกำหนดโทษ
มาตรา ๔๙ ผู้ใดไม่ดำเนินการไปปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่จัดตั้งขึ้นตามคำสั่งตามมาตรา ๒๖ วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๕๐ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ออกตามมาตรา ๒๗ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๕๑ ผู้ใดไม่ดำเนินการที่ต้องตามมาตรา ๒๘ ซึ่งได้กำหนดไว้ในข้อบังคับโดยอาศัยตามมาตรา ๒๖ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๕๒ ผู้ใดไม่ดำเนินการไปปฏิบัติตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีกระทำการใด ๆ ที่กำหนดไว้ในข้อบังคับตามมาตรา ๔๕ วรรคสอง หรือมาตรา ๔๖ หรือกระทำการใด ๆ ที่ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งตามมาตรา ๔๘ วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๕๓ ผู้ใดไม่ดำเนินการตามคำสั่งตามมาตรา ๔๗ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๕๔ ผู้ใดไม่ดำเนินการตามคำสั่งตามมาตรา ๔๘ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๕๗ ผู้ใดขัดขวางหรือไม่อำนวยความสะดวกตามสมควรแก่พนักงาน เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๒๖ มาตรา ๒๘ มาตรา ๔๕ มาตรา ๕๒ หรือมาตรา ๕๓ หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๔๘ วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๕๘ ผู้ใดขัดขวางหรือไม่อำนวยความสะดวกตามสมควรแก่พนักงาน เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๒๗ หรือมาตรา ๒๙ ซึ่งเป็นหน้าที่บังคับโดยอนุโลมตามมาตรา ๔๗ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๕๙ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๗ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๖๐ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๓๗ วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นหน้าที่บังคับโดยอนุโลมตามมาตรา ๔๗ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๖๑ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๔ วรรคหนึ่ง หรือวรรคสี่ หรือไม่ส่งหรือไม่ปฏิบัติตาม กฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๔๔ วรรคหนึ่ง (๑) (ก) (๓) หรือ (๔) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๖๒ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๔๔ วรรคหนึ่ง (๒) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๖๓ ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดเป็นนิติบุคคล ถ้าการกระทำความผิดของ นิติบุคคลนั้นเกิดจากการสั่งการหรือการกระทำของกรรมการ หรือผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่ง รับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลนั้น หรือโดยการละเว้นการกระทำหน้าที่ของดังกล่าว กรรมการและบุคคลดังกล่าวต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้สำหรับความผิดนั้น ๆ ด้วย
มาตรา ๖๔ ความผิดตามมาตรา ๕๔ มาตรา ๕๖ มาตรา ๕๗ มาตรา ๕๘ มาตรา ๕๙ มาตรา ๖๐ และมาตรา ๖๒ ให้คณะกรรมการเปรียบเทียบมีอำนาจเปรียบเทียบได้ ในกรณีที่ผู้ต้องหาแสดงความยินยอมที่จะให้เปรียบเทียบและชำระเงินค่าปรับในอัตราที่คณะกรรมการเปรียบเทียบกำหนดให้ครบถ้วน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการเปรียบเทียบส่งเรื่องให้คณะกรรมการเปรียบเทียบภายในวันนั้นหรือวันทำการถัดไป เมื่อผู้ต้องหาได้ชำระเงินค่าปรับครบถ้วนตามจำนวนที่คณะกรรมการเปรียบเทียบกำหนดให้แล้ว ให้ถือว่าคดีนั้นเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามจำนวนค่าปรับที่กำหนด ถ้าผู้ต้องหาไม่ยินยอมตามที่เปรียบเทียบ หรือเมื่อเปรียบเทียบแล้วไม่ชำระเงินค่าปรับ ภายในระยะเวลาที่กำหนดตามอัตราส่วน ให้ดำเนินคดีต่อไป
มาตรา ๙๔ คณะกรรมการเปรียบเทียบความมาตรา ๙๔ ให้ประกอบด้วยบุคคล ดังต่อไปนี้
๑
ในเขตกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นประธาน ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงานเป็นกรรมการ และเจ้าพนักงานท้องถิ่นซึ่ง นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นกรรมการและเลขานุการ
๒
ในเขตจังหวัดอื่น ประกอบด้วยอัยการจังหวัดเป็นประธาน ผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัด ผู้แทนสำนักงานเป็นกรรมการ และเจ้าพนักงานท้องถิ่นซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็น กรรมการและเลขานุการ
หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาของคณะกรรมการเปรียบเทียบให้เป็นไปตามที่ นายกรัฐมนตรีกำหนด
บทเฉพาะกาล
มาตรา ๑๐๐ ในระหว่างที่ยังไม่ได้มีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดอุทยานตาม มาตรา ๒๔ ให้คณะกรรมการกลุ่มน้ำเปรียบเทียบทำหน้าที่ต่อไป หรือการบริหารทรัพยากรน้ำ แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งจัดตั้งตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี เรื่อง การจัดการ ทรัพยากรน้ำแห่งชาติ มาตรา ๒๖ ใช้บังคับ ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กำหนดในกฎหมายนี้จนกว่าจะ ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดอุทยานเป็นกรรมการกลุ่มน้ำ และเลขานุการ
ให้เลขาธิการและผู้ช่วยเลขาธิการตามพระราชกฤษฎีกากำหนดอุทยานและบุคคลากร และผู้ช่วยเลขาธิการของคณะกรรมการร่วมน้ำที่อยู่เดิมตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการ บริหารทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ในกรณีที่มีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดกลุ่มน้ำตามมาตรา ๒๖ แล้ว โดยอยู่ในที่ กำหนดขึ้นไปให้คณะกรรมการกลุ่มน้ำที่อยู่ในบังคับแห่งพระราชกฤษฎีกาดำเนินการใช้บังคับ และยังไม่มี คณะกรรมการกลุ่มน้ำที่ประจำอยู่ตามมาตรา ๒๗ ให้คณะกรรมการกลุ่มน้ำตามพระราชกฤษฎีกาเป็น คณะกรรมการกลุ่มน้ำประจำอยู่ตามมาตรา ๒๗ ไปพลางก่อนจนกว่าจะมีการแต่งตั้ง คณะกรรมการกลุ่มน้ำตามมาตรา ๒๗ ที่มีในแต่ละอุทยานเป็นแห่งพระราชกฤษฎีกาใช้บังคับ
ในกรณีที่มีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดกลุ่มน้ำตามมาตรา ๒๖ แล้ว โดยอยู่ในที่ กำหนดขึ้นแทนคณะกรรมการกลุ่มน้ำที่อยู่ในบังคับแห่งพระราชกฤษฎีกากำหนดกลุ่มน้ำ และยังไม่มี คณะกรรมการกลุ่มน้ำประจำอยู่ตามมาตรา ๒๗ ให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกลุ่มน้ำประจำอยู่ ตามมาตรา ๒๗ ไปพลางก่อนจนกว่าจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการกลุ่มน้ำประจำอยู่ตามมาตรา ๒๗ ที่มีในแต่ละอุทยานเป็นแห่งพระราชกฤษฎีกาใช้บังคับ
ปฏิบัติหน้าที่ตามความในวรรคหนึ่ง สิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ได้มีการมอบหมายให้คณะกรรมการลุ่มน้ำคนใหม่และคณะได้ปฏิบัติหน้าที่
ให้ความในมาตรา ๑๒ มาตรา ๒๐ วรรคหนึ่งและวรรคสี่ มาตรา ๒๑ และมาตรา ๒๒ มาใช้บังคับแก่การประชุมและการดำเนินการของคณะกรรมการลุ่มน้ำตามวรรคสามและวรรคสี่ด้วยโดยอนุโลม
มาตรา ๑๐๙ ในระหว่างที่ยังไม่ได้มีการคัดเลือกกรรมการผู้แทนคณะกรรมการลุ่มน้ำตามมาตรา ๔๘ และยังไม่ได้มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๔๕ ให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติชุดที่สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๒/๒๕๖๒ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ลงวันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๒ ปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติตามพระราชบัญญัตินี้ไปพลางก่อนจนกว่าจะมีการคัดเลือกกรรมการผู้แทนคณะกรรมการลุ่มน้ำตามมาตรา ๔๘ และแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๔๕
มาตรา ๑๑๐ ในวาระเริ่มแรก ให้คณะอนุกรรมการจัดการบริหารทรัพยากรน้ำ (ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ - ๒๕๖๔) ที่คณะรัฐมนตรีได้แต่งตั้งตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ มาใช้ในการบริหารทรัพยากรน้ำตามพระราชบัญญัตินี้ไปพลางก่อนจนกว่าจะได้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการและแผนหลักเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรน้ำตามมาตรา ๓๙ และมาตรา ๔๐ และการพัฒนาการบริหารจัดการ การรักษา การฟื้นฟู และการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำในแต่ละพื้นที่ตามมาตรา ๔๗ หรือจนกว่าจะมีแผนใหม่ในวาระถัดไป และแผนดังกล่าวให้ถือเป็นส่วนหนึ่งตามมาตรา ๔๗ (๔) ทั้งนี้ไปพลางก่อน
มาตรา ๑๑๑ ในวาระเริ่มแรก ให้สำนักงานจัดทำงบประมาณและรายการประกอบงบประมาณเสนอกนช. เพื่อพิจารณาในสองปีงบประมาณนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา ๑๑๒ เมื่อมีกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น้ำประเภทที่ต้องการใช้น
เพิกถอนใบอนุญาต ให้ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องบังคับตาม แล้วแต่กรณี ไปพลางก่อน จนกว่าหมวด ๔ จะใช้บังคับ หรือจนกว่าจะมีกฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที่ออกตามความในหมวด ๔ ใช้บังคับ
มาตรา ๑๐๖ การดำเนินการพระราชบัญญัติและออกกฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศตามพระราชบัญญัตินี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กระทรวงหรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และภาคท้องถิ่น ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหกเดือนนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หากไม่สามารถดำเนินการได้ให้คณะรัฐมนตรี รัฐมนตรียุติธรรมกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรียุติธรรมกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แล้วแต่กรณี รายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ