พ.ศ. ๒๕๕๘ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. เป็นปีที่ ๗๐ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
ให้ไว้ ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร
"การปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากร" หมายความว่า การปฏิบัติการเกี่ยวกับการยื่นแบบแสดงรายการภาษีชำระภาษีหรือขอคืนภาษีตามหมวด ๓ หมวด ๔ ภาษีธุรกิจเฉพาะตามหมวด ๖ และอากรแสตมป์ตามหมวด ๗ แห่งประมวลรัษฎากร
ความในวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับแก่กรณีดังต่อไปนี้
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดบุคคลอยู่ระหว่างการตรวจสอบภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร โดยมีหมายเรียกก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดบุคคลอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าพนักงานประเมินตามมาตรา 88/4 แห่งประมวลรัษฎากร ที่ดำเนินการก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดบุคคลเกี่ยวข้องกับการป้องกันหรือปราบปรามการฟอกเงิน หรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดบุคคลกระทำการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร โดยมีผลกระทบอย่างเป็นนัยสำคัญต่อกรมสรรพากร
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดบุคคลอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีในชั้นพนักงานสอบสวน ชั้นพนักงานอัยการ หรือชั้นศาล "รายได้" ตามวรรคหนึ่ง หมายความว่า รายได้จากการประกอบกิจการหรือเนื่องจากการประกอบกิจการ ซึ่งตามความหลักเกณฑ์ตามบัญญัติในมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร การได้รับยกเว้นตามวรรคหนึ่ง จะต้องปรากฏด้วยว่า เจ้าพนักงานยังไม่ได้เริ่มดำเนินการประเมินหรือสั่งให้เสียภาษีอากร หรือยังไม่ได้ดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับภาษีอากรนั้น ๆ
ทำการลงทะเบียนแจ้งการใช้สิทธิภายในกำหนดระยะเวลาที่กรมสรรพากรกำหนด ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด
ยื่นรายการในการคำนวณภาษีอากรที่กรมสรรพากรกำหนดสำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดบุคคล พร้อมชำระภาษีสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่มีวันสุดท้ายก่อนกำหนดเวลาการยื่นรายการ ในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป (3) ยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีธุรกิจเฉพาะ แล้วแต่กรณี ในกรณีบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนที่ต้องยื่นตามที่ประมวลรัษฎากรกำหนดไว้ พร้อมชำระภาษี ถ้ามี ทั้งนี้ สำหรับการยื่นแบบแสดงรายการที่ต้องกระทำในเดือนมกราคม พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป (4) ยื่นแบบขอเสียอากรเป็นตัวเงิน สำหรับตราสารที่ซื้ออากรแสตมป์ตามกฎหมายว่าด้วยอากรแสตมป์ เป็นตัวเงินแทนการปิดอากร และต้องชำระเงินเพื่อพิมพ์งานเจ้าหน้าที่อากรแสตมป์ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป (5) มีการจัดทำบัญชีและงบการเงินให้สอดคล้องกับสภาพที่แท้จริงของกิจการตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป (6) ไม่กระทำการใด ๆ ที่เป็นการหลีกเลี่ยงภาษีอากร นับแต่วันที่พระราชกำหนดนี้ใช้บังคับ
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกําหนดฉบับนี้ คือ โดยที่มีความจําเป็นต้องมีกฎหมายเพื่อกํากับ และสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร เพื่อให้ระบบการจัดเก็บภาษีอากรมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเป็นการสนับสนุนให้มีการจัดทําบัญชีให้สอดคล้องกับ สภาพข้อเท็จจริงของกิจการ ซึ่งหากไม่ดําเนินการโดยเร่งด่วน จะส่งผลให้รัฐต้องสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษี อันจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบกับเป็นกฎหมายเกี่ยวด้วยการเงินที่ต้อง พิจารณาโดยด่วนแล้ว จึงจําเป็นต้องตราพระราชกําหนดนี้