ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที' ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ เปป็นปีที' ๓๐ ในรัชกาลปีจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที'เปป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ.,นไว้โดยคําแนะนํา และยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติทําหน้าที'รัฐสภา ดังต่อไปนี.,
ราชกิจจานุเบกษาเปป็นต้นไป
“การปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม” หมายความว่า การปรับปรุงเกี'ยวกับ สิทธิและการถือครองในที'ดินเพื'อเกษตรกรรมรวมตลอดถึงการจัดที'อยู่อาศัยในที'ดินเพื'อ เกษตรกรรมนั.,น โดยรัฐนําที'ดินของรัฐ หรือที'ดินที'รัฐจัดซื.,อหรือเวนคืนจากเจ้าของที'ดินซึ'ง มิได้ทําประโยชน์ในที'ดินนั.,นด้วยตนเอง หรือมีที'ดินเกินสิทธิตามพระราชบัญญัตินี., เพื'อจัดให้ แก่เกษตรกรผู้ไม่มีที'ดินของตนเองหรือเกษตรกรที'มีที'ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครอง ชีพและสถาบันเกษตรกรได้เช่าซื.,อ เช่าหรือเข้าทําประโยชน์โดยรัฐให้ความช่วยเหลือในการ พัฒนาอาชีพเกษตรกรรม การปรับปรุงทรัพยากรและปีจจัยการผลิต ตลอดจนการผลิตและ การจําหน่ายให้เกิดผลดียิ'งขึ.,น “เขตปฏิรูปที'ดิน” หมายความว่า เขตที'ดินที'พระราชกฤษฎีกากําหนดเปป็น เขตปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม “ที'ดินของรัฐ” หมายความว่า บรรดาที'ดินทั.,งหลายอันเปป็นทรัพย์สินของ แผ่นดิน หรือสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และที'ดิน ในเขตป1าสงวนแห่งชาติที'รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้อนุมัติให้บุคคลเข้า อยู่อาศัยหรือทําประโยชน์ ตามกฎหมายว่าด้วยป1าสงวนแห่งชาติ “เจ้าของที'ดิน” หมายความว่า ผู้มีสิทธิในที'ดินตามประมวลกฎหมายที'ดิน “เกษตรกรรม” หมายความว่า การทํานา ทําไร่ ทําสวน เลี.,ยงสัตว์ เลี.,ยง สัตว์น엉า และกิจการอื'นตามที'รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กําหนด โดย ประกาศในราชกิจจานุเบกษา “เกษตรกร” หมายความว่า ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเปป็นหลัก และ ให้หมายความรวมถึงบุคคลผู้ยากจนหรือผู้จบการศึกษาทางเกษตรกรรม หรือผู้เปป็นบุตร ของเกษตรกร บรรดาซึ'งไม่มีที'ดินเพื'อเกษตรกรรมเปป็นของตนเองและประสงค์จะประกอบ อาชีพเกษตรกรรมเปป็นหลัก ตามหลักเกณฑ์และเงื'อนไขที'กําหนดในพระราชกฤษฎีกาด้วย “สถาบันเกษตรกร” หมายความว่า กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ “การเช่าที'ดินเพื'อเกษตรกรรม” หมายความว่า การเช่าหรือการเช่าช่วง โดยได้รับความยินยอมจากผู้ให้เช่าซึ'งที'ดินเพื'อเกษตรกรรม ไม่ว่าการเช่าหรือเช่าช่วงนั.,นจะ มีหลักฐานเปป็นหนังสือหรือไม่ก็ตาม และหมายความรวมถึงการยินยอมให้ใช้ที'ดินเพื'อ เกษตรกรรม โดยได้รับค่าเช่าที'ดิน และการทํานิติกรรมอื'นใดเพื'อเปป็นการอําพรางการเช่าดัง กล่าว “ค่าเช่าที'ดิน” หมายความว่า ผลิตผลเกษตรกรรม เงินหรือทรัพย์สินอื'นใด ซึ'งเปป็นค่าตอบแทนการเช่าที'ดิน และหมายความรวมถึงประโยชน์อื'นใดอันอาจคํานวณเปป็น เงินได้ที'ผู้ให้เช่าที'ดินหรือบุคคลอื'นได้รับเพื'อตอบแทนการให้เช่าที'ดินทั.,งโดยทางตรงหรือ ทางอ้อม “เจ้าของที'ดินผู้ประกอบเกษตรกรรมด้วนตนเอง” หมายความว่า เจ้าของ ที'ดินผู้ซึ'งดําเนินการผลิตด้านเกษตรกรรม โดยเปป็นผู้ลงทุนและได้ผลประโยชน์จากการผลิต นั.,นโดยตรง และไม่เปป็นผู้ให้เช่าที'ดินนั.,น “บุคคลในครอบครัวเดียวกัน” หมายความว่า คู่สมรส และผู้สืบสันดานที' ยังไม่บรรลุนิติภาวะ “พนักงานเจ้าหน้าที'” หมายความว่า ผู้ซึ'งรัฐมนตรีแต่งตั.,งให้ปฏิบัติการ ตามพระราชบัญญัตินี., เกษตรกรรม “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการปฏิรูปที'ดินเพื'อ “คณะกรรมการปฏิรูปที'ดินจังหวัด” (ยกเลิก) “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี.,
ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการตามพระ ราชบัญญัตินี., และให้มีอํานาจแต่งตั.,งพนักงานเจ้าหน้าที'กับออกกฎกระทรวงเพื'อปฏิบัติการ ตามพระราชบัญญัตินี., ในส่วนที'เกี'ยวกับอํานาจหน้าที'ของแต่ละกระทรวง กฎกระทรวงนั.,น เมื'อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
รายได้ที' ส.ป.ก. ได้รับจากการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมให้นําส่งเข้า บัญชีกองทุนการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม โดยไม่ต้องนําส่งคลังเปป็นรายได้แผ่นดิน การใช้จ่ายเงินของกองทุนการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมให้กระทําได้ เฉพาะการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมตามระเบียบที'รัฐมนตรีกําหนดโดยความเห็นชอบ จากกระทรวงการคลัง ให้กระทรวงการคลังเก็บรักษาเงินของกองทุนการปฏิรูปที'ดินเพื'อ เกษตรกรรม และเบิกจ่ายเงินจากกองทุนการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมเพื'อใช้จ่ายตามพ ระราชบัญญัตินี.,
เงินหรือทรัพย์สินอื'นที'ได้รับจากรัฐบาลหรือจากแหล่งต่าง ๆ ภายใน ประเทศหรือต่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศหรือบุคคลอื'น
เงินที'ได้รับจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ตามกฎหมายว่าด้วย กองทุนสงเคราะห์เกษตรกร
เงิน ดอกผลหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที' ส.ป.ก. ได้รับเกี'ยวกับการดําเนิน การปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม
ในกรณีที'ได้กําหนดเขตปฏิรูปที'ดินเขตหนึ'งเขตใดคลุมที'ดินในเขตของสอง จังหวัดขึ.,นไป คณะกรรมการจะมอบหมายให้สํานักงานการปฏิรูปที'ดินจังหวัดใดมีอํานาจ หน้าที'ดําเนินการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมตลอดเขตปฏิรูปที'ดินนั.,นก็ได้ ไม่ว่าจะมี สํานักงานการปฏิรูปที'ดินในจังหวัดที'เกี'ยวข้องนั.,นหรือไม่ ให้สํานักงานการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมตามมาตรา ๖ ทําหน้าที' สํานักงานการปฏิรูปที'ดินกรุงเทพมหานครด้วย
และคณะกรรมการปฏิรูปที'ดินจังหวัด
ให้มีคณะกรรมการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม ประกอบ ด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวง อุตสาหกรรม อธิบดีกรมชลประทาน อธิบดีกรมปศุสัตว์ อธิบดีกรมป1าไม้ อธิบดีกรมประมง อธิบดีกรมพัฒนาที'ดิน อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เลขาธิการ สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน อธิบดี กรมที'ดิน อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ* อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม อธิบดี กรมธนารักษ์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ผู้อํานวยการสํานักงบประมาณ ผู้จัดการธนาคารเพื'อ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ประธานคณะกรรมการกลางกลุ่มเกษตรกรแห่ง ประเทศไทย ประธานชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย และอธิบดีกรมทรัพยากร ทางทะเลและชายฝ~' ง* เปป็นกรรมการและกรรมการอื'นอีกไม่เกินเก้าคน ซึ'งคณะรัฐมนตรีแต่ง ตั.,งจากผู้แทนเกษตรกรหกคนและผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกินสามคน ให้เลขาธิการสํานักงานการ ปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมเปป็นกรรมการและเลขานุการ เมื'อได้มีพระราชกฤษฎีกากําหนดเขตปฏิรูปที'ดินตามมาตรา ๒๕ ใช้บังคับ ในท้องที'กรุงเทพมหานครแล้ว ให้คณะกรรมการทําหน้าที'คณะกรรมการปฏิรูปที'ดินจังหวัด สําหรับกรุงเทพมหานครด้วย
ภายใต้บังคับมาตรา ๑๒ วรรคสอง เมื'อได้มีพระราช กฤษฎีกากําหนดเขตปฏิรูปที'ดินตามมาตรา ๒๕ ใช้บังคับในเขตอําเภอหนึ'งอําเภอใดใน จังหวัดใดแล้ว ให้มีคณะกรรมการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมประจําจังหวัดขึ.,นคณะหนึ'งใน จังหวัดนั.,น เรียกว่า “คณะกรรมการปฏิรูปที'ดินจังหวัด” ประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด เปป็นประธานกรรมการเกษตรจังหวัด ปศุสัตว์จังหวัด ป1าไม้จังหวัด ประมงจังหวัด ผู้แทน กรมชลประทาน ผู้แทนกรมพัฒนาที'ดิน สหกรณ์จังหวัด พาณิชย์จังหวัด เจ้าพนักงานที'ดิน จังหวัด นายอําเภอ และปลัดอําเภอผู้เปป็นหัวหน้าประจํากิ'งอําเภอในท้องที'ที'มีการปฏิรูป ที'ดินเพื'อเกษตรกรรม พัฒนาการจังหวัด ผู้แทนกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ* ราชพัสดุ จังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด ผู้แทนธนาคารเพื'อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ผู้แทน เกษตรกรในจังหวัดนั.,นอีกสี'คนซึ'งรัฐมนตรีแต่งตั.,ง ผู้แทนกรมทรัพยากรทางทะเลและ ชายฝ~' ง* เปป็นกรรมการ และปฏิรูปที'ดินจังหวัดเปป็นกรรมการและเลขานุการ
ในกรณีที'มีการแต่งตั.,งกรรมการในระหว่างที'กรรมการซึ'งแต่งตั.,งไว้แล้วยัง มีวาระอยู่ในตําแหน่ง ให้ผู้ได้รับแต่งตั.,งซ่อมนั.,นอยู่ในตําแหน่งเท่ากับวาระที'เหลืออยู่ของ กรรมการซึ'งได้แต่งตั.,งไว้แล้วนั.,น กรรมการซึ'งพ้นจากตําแหน่งอาจได้รับแต่งตั.,งเปป็นกรรมการอีกได้ มาตรา ๑๕ กรรมการซึ'งได้รับแต่งตั.,งต้องไม่เปป็นผู้มีส่วนได้เสียในสัญญา กับ ส.ป.ก. หรือในกิจการที'กระทําให้แก่ ส.ป.ก. ทั.,งนี., ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
ตาย (๒) ลาออก
คณะรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที'มีอํานาจแต่งตั.,ง แล้วแต่กรณี ให้ออก (๔) มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๕
ถ้าประธานกรรมการไม่อยู่ในที'ประชุม หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที'ได้ ให้ กรรมการที'มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ'งเปป็นประธานในที'ประชุม
ให้ประธานในที'ประชุมออกเสียงเพิ'มขึ.,นอีกเสียงหนึ'งเปป็นเสียงชี.,ขาด
จัดหาที'ดินของรัฐเพื'อนํามาใช้ในการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม
พิจารณากําหนดเขตปฏิรูปที'ดินตามมาตรา ๒๕ การจัดซื.,อหรือเวนคืน ที'ดินตามมาตรา ๒๙ และการกําหนดเนื.,อที'ที'ดินที'จะให้เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรเช่า ระยะยาว หรือเช่าซื'อตามมาตรา ๓๐
พิจารณาการกําหนดแผนผังและการจัดแบ่งแปลงที'ดินในเขตปฏิรูป ที'ดิน
พิจารณาอนุมัติแผนงานและโครงการการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม ตลอดจนงบค่าใช้จ่ายของ ส.ป.ก. เสนอรัฐมนตรี
พิจารณากําหนดแผนการผลิตและการจําหน่ายผลิตผลเกษตรกรรม ในเขตปฏิรูปที'ดิน เพื'อยกระดับรายได้ และคุ้มครองผลประโยชน์ของเกษตรกรหรือสถาบัน เกษตรกร
พิจารณากําหนดแผนการส่งเสริม และบํารุงเกษตรกรรมในเขตปฏิรูป ที'ดิน รวมถึงการจัดรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม ปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตและคุณภาพ ผลิตผลเกษตรกรรม ตลอดจนสวัสดิการ การสาธารณูปโภค การศึกษา และการ สาธารณสุขของเกษตรกร
กําหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื'อนไขในการคัดเลือกเกษตรกรและ สถาบันเกษตรกร ซึ'งจะมีสิทธิได้รับที'ดินจากการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม ตลอดจนแบบ สัญญาเช่าและเช่าซื.,อที'จะทํากับเกษตรกร หรือสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับที'ดิน
กําหนดระเบียบการให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร ผู้ได้รับที'ดิน จากการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมปฏิบัติเกี'ยวกับการเข้าทําประโยชน์ในที'ดินและปฏิบัติ ตามแผนการผลิตและการจําหน่ายผลิตผลเกษตรกรรม
กําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการว่าด้วยการให้เกษตรกรและสถาบัน เกษตรกรในเขตปฏิรูปที'ดินกู้ยืมจาก ส.ป.ก. ตลอดจนเงื'อนไขของการกู้ยืมโดยอนุมัติ รัฐมนตรี
กําหนดระเบียบเกี'ยวกับการจัดการทรัพย์สินและหนี.,สินของ เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรผู้ได้รับที'ดินจากการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม ตลอดจน การควบคุมดูแลกิจการอื'น ๆ ภายในเขตปฏิรูปที'ดิน
ติดตามการปฏิบัติงานของ ส.ป.ก. ให้เปป็นไปตามแผนงานและ โครงการที'ได้รับอนุมัติ ตลอดจนกําหนดมาตรการแก้ไขปีญหาต่าง ๆ ที'เกิดขึ.,นจากการ ปฏิบัติงาน
กําหนดกิจการและระเบียบการอื'น ๆ ที'เกี'ยวข้องกับการปฏิบัติงาน ของ ส.ป.ก. หรือสนับสนุนหรือเกี'ยวเนื'องกับวัตถุประสงค์ของการปฏิรูปที'ดินเพื'อ เกษตรกรรม
พิจารณาให้ความเห็นชอบแผนงาน โครงการและค่าใช้จ่ายของ สํานักงานการปฏิรูปที'ดินจังหวัด เพื'อเสนอคณะกรรมการ
ติดตามการปฏิบัติงานของสํานักงานการปฏิรูปที'ดินจังหวัด ให้เปป็นไป ตามแผนงานและโครงการที'ได้รับอนุมัติ ตลอดจนดําเนินการแก้ไขปีญหาต่าง ๆ ที'เกิดขึ.,น จากการปฏิบัติงาน
พิจารณาผลการปฏิบัติงาน เพื'อปรับปรุงแผนงาน โครงการ งบค่าใช้ จ่ายและวิธีปฏิบัติงานของสํานักงานการปฏิรูปที'ดินจังหวัด
จัดทํางบประมาณค่าใช้จ่ายตามโครงการการปฏิรูปที'ดินเพื'อ เกษตรกรรมแต่ละโครงการเพื'อเสนอต่อคณะกรรมการ
ดําเนินการเกี'ยวกับเงินและกิจการอื'น ๆ ที'เกี'ยวกับการปฏิรูปที'ดินเพื'อ เกษตรกรรมตามระเบียบหรือข้อบังคับหรือมติของคณะกรรมการหรือตามที'คณะกรรมการ มอบหมาย
วางระเบียบหรือข้อบังคับเกี'ยวกับการปฏิบัติงานของสํานักงานการ ปฏิรูปที'ดินจังหวัดเท่าที'ไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบหรือข้อบังคับหรือมติของคณะกรรมการ
หมาย อนุโลม การประชุมของอนุกรรมการ ให้นําความในมาตรา ๑๗ มาใช้บังคับโดย
รัฐมนตรีประกาศรายงานรับจ่ายเงินของ ส.ป.ก. ในราชกิจจานุเบกษา รายงานการรับจ่ายเงินตามวรรคหนึ'ง เมื'อคณะกรรมการตรวจเงินแผ่น ดินได้ตรวจสอบแล้ว ให้ทํารายงานผลการตรวจสอบเสนอคณะรัฐมนตรีเพื'อเสนอรัฐสภา ทราบ
บัตรประจําตัวให้เปป็นไปตามแบบที'รัฐมนตรีกําหนดโดยประกาศในราชกิจ จานุเบกษา
ในพระราชกฤษฎีกาตามวรรคหนึ'ง ให้มีแผนที'แสดงเขตและระบุท้องที'ที' อยู่ในเขตปฏิรูปที'ดินแนบท้ายพระราชกฤษฎีกานั.,นด้วย แผนที'ดังกล่าวให้ถือเปป็นส่วนหนึ'ง แห่งพระราชกฤษฎีกา การกําหนดเขตที'ดินให้เปป็นเขตปฏิรูปที'ดินตามวรรคหนึ'ง ให้กําหนดเฉพาะ ที'ดินที'จะดําเนินการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม เว้นแต่ในกรณีที'จําเปป็นจะถือเขตของตําบล หรืออําเภอเปป็นหลักก็ได้ โดยให้ดําเนินการกําหนดเขตปฏิรูปที'ดินในเขตท้องที'อําเภอที'มี เกษตรกรผู้ไม่มีที'ดินประกอบเกษตรกรรมเปป็นของตนเอง หรือมีที'ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่ การครองชีพ หรือต้องเช่าที'ดินของผู้อื'นประกอบเกษตรกรรมอยู่เปป็นจํานวนมาก ตลอดจนที' มีผลผลิตต่อไร่ตว่าเปป็นเกณฑ์ในการจัดอันดับความสําคัญในการกําหนดเขตก่อนหลัง ใน กรณีที'ถือเขตของตําบลหรืออําเภอเปป็นเขตปฏิรูปที'ดินนั.,น ให้หมายถึงเฉพาะที'ตั.,งอยู่นอกเขต เทศบาลและสุขาภิบาล ให้ดําเนินการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมโดยมิชักช้า และให้ดําเนินการ สํารวจที'ดินเพื'อเกษตรกรรม และวางโครงการเพื'อดําเนินการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมใน ท้องที'ทุกจังหวัดทั'วราชอาณาจักร ให้เสร็จภายในสามปีนับแต่วันที'พระราชบัญญัตินี.,ใช้ บังคับ
ถ้าที'ดินที' ส.ป.ก. ได้มาเปป็นแปลงเล็กแปลงน้อยและมิได้ อยู่ในเขตปฏิรูปที'ดิน ให้ ส.ป.ก. มีอํานาจจัดที'ดินนั.,นให้กับเกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรได้ ตามมาตรา ๓๐ เสมือนว่าเปป็นที'ดินในเขตปฏิรูปที'ดิน โดยไม่ต้องดําเนินการกําหนดเขตที'ดิน ในท้องที'นั.,นให้เปป็นเขตปฏิรูปที'ดิน ตามมาตรา ๒๕
เมื'อได้มีพระราชกฤษฎีกากําหนดเขตปฏิรูปที'ดินใช้บังคับใน ท้องที'ใดแล้ว
ถ้าในเขตปฏิรูปที'ดินนั.,นมีที'ดินอันเปป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สําหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน แต่พลเมืองเลิกใช้ประโยชน์ในที'ดินนั.,น หรือได้เปลี'ยนสภาพจาก การเปป็นที'ดินสําหรับพลเมืองใช้ร่วมกันก็ดี หรือพลเมืองยังใช้ประโยชน์ในที'ดินนั.,นอยู่ หรือยัง ไม่เปลี'ยนสภาพจากการเปป็นที'ดินสําหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน เมื'อได้จัดที'ดินแปลงอื'นให้ พลเมืองใช้ร่วมกันแทน โดยคณะกรรมการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วก็ดี ให้พระราช กฤษฎีกากําหนดเขตปฏิรูปที'ดินนั.,นมีผลเปป็นการถอนสภาพการเปป็นสาธารณสมบัติของแผ่น ดินสําหรับที'ดินดังกล่าว โดยมิต้องดําเนินการถอนสภาพตามประมวลกฎหมายที'ดิน และให้ ส.ป.ก. มีอํานาจนําที'ดินนั.,นมาใช้ในการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมได้
ถ้าในเขตปฏิรูปที'ดินนั.,นมีที'ดินอันเปป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน สําหรับใช้เพื'อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ หรือที'ดินที'ได้สงวนหรือหวงห้ามไว้ตาม ความต้องการของทางราชการ เมื'อกระทรวงการคลังได้ให้ความยินยอมแล้ว ให้พระราช กฤษฎีกากําหนดเขตปฏิรูปที'ดินนั.,นมีผลเปป็นการถอนสภาพการเปป็นสาธารณสมบัติของแผ่น ดินสําหรับที'ดินดังกล่าว โดยมิต้องดําเนินการถอนสภาพตามกฎหมายว่าด้วยที'ราชพัสดุ และให้ ส.ป.ก. มีอํานาจนําที'ดินนั.,นมาใช้ในการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมได้
ถ้าในเขตปฏิรูปที'ดินนั.,นมีที'ดินอันเปป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ'ง เปป็นที'ดินรกร้างว่างเปล่า หรือที'ดินซึ'งมีผู้เวนคืนหรือทอดทิ.,ง หรือกลับมาเปป็นของแผ่นดิน โดยประการอื'นตามกฎหมายที'ดิน และที'ดินนั.,นอยู่นอกเขตป1าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ให้ ส.ป.ก. มีอํานาจนําที'ดินนั.,นมาใช้ในการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมได้
ถ้าเปป็นที'ดินในเขตป1าสงวนแห่งชาติ เมื'อคณะรัฐมนตรีมีมติให้ดําเนิน การปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมในที'ดินเขตป1าสงวนแห่งชาติส่วนใดแล้ว เมื'อ ส.ป.ก. จะนํา ที'ดินแปลงใดในส่วนนั.,นไปดําเนินการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม ให้พระราชกฤษฎีกา กําหนดเขตปฏิรูปที'ดินมีผลเปป็นการเพิกถอนป1าสงวนแห่งชาติในที'ดินแปลงนั.,น และให้ ส.ป.ก. มีอํานาจนําที'ดินนั.,นมาใช้ในการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมได้ โดยไม่ต้องดําเนิน การเพิกถอนตามกฎหมายป1าสงวนแห่งชาติ เพื'อประโยชน์ในการดําเนินการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมตาม (๔) ให้ พนักงานเจ้าหน้าที'ตามพระราชบัญญัตินี.,เปป็นพนักงานเจ้าหน้าที'ตามพระราชบัญญัติป1า สงวนแห่งชาติ และมีอํานาจในการให้เช่าที'ดินอันเปป็นป1าสงวนแห่งชาติดังกล่าวได้ และให้ค่า เช่าที'ได้มาตกเปป็นของกองทุนการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม
เข้าไปทํางานอันจําเปป็นเพื'อการสํารวจรังวัดได้ แต่ต้องแจ้งให้เจ้าของ หรือผู้ครอบครองที'ดินทราบเสียก่อน
ทําเครื'องหมายขอบเขตหรือแนวเขตโดยปีกหลักหรือขุดร่องแนว ใน กรณีที'ต้องสร้างหมุดหลักฐานการแผนที'ในที'ดินของผู้ใด ก็ให้มีอํานาจสร้างหมุดหลักฐาน ลงได้ตามความจําเปป็น เมื'อมีความจําเปป็นและโดยสมควร พนักงานเจ้าหน้าที'มีอํานาจขุดดิน ตัด รานกิ'งไม้และกระทําการอย่างอื'นแก่สิ'งที'กีดขวางการสํารวจรังวัดได้เท่าที'จําเปป็น ทั.,งนี., ให้ คํานึงถึงการที'จะให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ได้รับความเสียหายน้อยที'สุด ให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองที'ดินและผู้ที'เกี'ยวข้องอํานวยความสะดวก ตามสมควร
ในกรณีที' ส.ป.ก. จัดซื.,อหรือดําเนินการเวนคืนที'ดินนั.,น ถ้ามีการกระทําอัน เปป็นการฝ1าฝ더นความในวรรคหนึ'ง และเปป็นทรัพย์สินหรือสิ'งที'ก่อให้เกิดความเสียหายหรือ กีดขวางการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม ให้คณะกรรมการหรือผู้ซึ'งได้รับมอบหมายจาก คณะกรรมการมีอํานาจสั'งเปป็นหนังสือให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองที'ดินทําการรื.,อถอนเสีย ได้ภายในระยะเวลาที'กําหนด ถ้าเจ้าของหรือผู้ครอบครองที'ดินไม่ปฏิบัติตาม ให้คณะ กรรมการหรือผู้ซึ'งคณะกรรมการมอบหมาย มีอํานาจดําเนินการรื.,อถอนโดยเจ้าของหรือผู้ ครอบครองที'ดินดังกล่าวจะเรียกร้องค่าเสียหายมิได้ และต้องเปป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายในการรื.,อ ถอนนั.,นด้วย
ที'ดินแปลงเดียวหรือหลายแปลงมีเนื.,อที'รวมกันเกินกว่าห้าสิบไร่ ซึ'ง บุคคลในครอบครัวเดียวกันไม่ว่าคนหนึ'งหรือหลายคนเปป็นเจ้าของที'ดินผู้ประกอบ เกษตรกรรมด้วยตนเอง ให้ ส.ป.ก. มีอํานาจจัดซื.,อหรือดําเนินการเวนคืนที'ดินส่วนที'เกินกว่า ห้าสิบไร่
ถ้าที'ดินดังกล่าวใน (๑) มีเนื.,อที'รวมกันเกินกว่าหนึ'งร้อยไร่ และเจ้าของ ที'ดินผู้ประกอบเกษตรกรรมด้วยตนเองใช้เพื'อการเลี.,ยงสัตว์จําพวกสัตว์ใหญ่ตามที'รัฐมนตรี ประกาศกําหนดชนิด จํานวน และเงื'อนไขในราชกิจจานุเบกษา ให้ ส.ป.ก. มีอํานาจจัดซื.,อ หรือดําเนินการเวนคืนที'ดินส่วนที'เกินกว่าหนึ'งร้อยไร่ ถ้าเจ้าของที'ดินรายใดมีความประสงค์จะประกอบเกษตรกรรมด้วยตนเอง ในที'ดินเกินกว่าตามที'กล่าวไว้ใน (๑) หรือ (๒) และแสดงได้ว่าตนได้ประกอบเกษตรกรรมใน ที'ดินด้วยตนเองเกินกว่าที'กล่าวไว้ใน (๑) หรือ(๒) อยู่แล้วไม่ตว่ากว่าหนึ'งปีก่อนวันที'พระราช บัญญัตินี.,ใช้บังคับ และแสดงได้ว่าตนมีความสามารถและมีปีจจัยที'จะทําที'ดินนั.,นให้เปป็น ประโยชน์ทางเกษตรกรรมได้ ทั.,งตนจะเปป็นผู้ประกอบเกษตรกรรมในที'ดินนั.,นด้วยตนเอง ให้ ยื'นคําร้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที'พร้อมทั.,งแสดงหลักฐานอ้างอิงประกอบคําร้อง เมื'อ พนักงานเจ้าหน้าที'ได้สอบสวนแล้ว ให้รายงานต่อคณะกรรมการ ถ้าคณะกรรมการเห็น สมควรอนุญาต ก็ให้กําหนดเงื'อนไขในการอนุญาตเสนอรัฐมนตรีพิจารณา หากรัฐมนตรี เห็นชอบก็ให้อนุญาตให้ผู้ร้องขอนั.,นมีสิทธิในที'ดินนั.,นต่อไป แต่ต้องไม่เกินหนึ'งพันไร่ ในกรณี ที'ผู้ร้องขอได้รับสิทธิในที'ดังกล่าวไม่ปฏิบัติตามเงื'อนไขที'คณะกรรมการกําหนด ให้ส.ป.ก. มี อํานาจจัดซื.,อหรือดําเนินการเวนคืนที'ดินที'ได้รับเพิ'มขึ.,นนั.,นเพื'อใช้ในการปฏิรูปที'ดินเพื'อ เกษตรกรรมต่อไป ในกรณีที'เจ้าของที'ดินรายใดได้แสดงว่าตนได้ประกอบเกษตรกรรมใน ที'ดินด้วยตนเองเกินกว่าหนึ'งพันไร่อยู่แล้วไม่ตว่ากว่าหนึ'งปีก่อนวันที'พระราชบัญญัตินี.,ใช้ บังคับ และมีความประสงค์จะประกอบเกษตรกรรมด้วยตนเองในที'ดินนั.,นต่อไป ให้คณะ กรรมการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ต่อไปนี., ก. ได้ลงทุนในกิจกรรมการเกษตรในที'ดินนั.,นไปแล้วเปป็นจํานวนมากและ การลงทุนนั.,นได้กระทําไปด้วยการส่งเสริมของรัฐ ข. เปป็นการประกอบการเพื'อพัฒนาวิทยาการเกษตรแผนใหม่ หรือที'ยังมี ความต้องการอยู่มากภายในประเทศหรือเพื'อการส่งออก ค. ในการที'จะประกอบกิจการได้ต่อไปนั.,นจะต้องมีลักษณะที'ช่วย พัฒนาการเกษตร และช่วยเหลือเกษตรกรในด้านปีจจัยการผลิต เพื'อส่งเสริมผลผลิต การเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรได้อย่างกว้างขวางในเรื'องการสาธิต และเปป็นตลาด รับซื.,อผลิตผลเกษตรกรรมจากเกษตรกรโดยตรง ง. เมื'อพ้นสิบห้าปี หากสถาบันเกษตรกรมีความต้องการและสามารถที'จะ เปป็นผู้ถือหุ้นในกิจการนั.,น เจ้าของที'ดินต้องยินยอมให้สถาบันเกษตรกรถือหุ้นในกิจการนั.,น ไม่น้อยกว่าร้อยละหกสิบของจํานวนหุ้นทั.,งหมด ทั.,งนี., ให้เปป็นไปตามวิธีการและรายละเอียด ที'คณะกรรมการกําหนด ถ้าคณะกรรมการพิจารณาเห็นสมควรอนุญาต ก็ให้กําหนดเงื'อนไขในการ อนุญาตเสนอรัฐมนตรีพิจารณา หากรัฐมนตรีเห็นชอบก็ให้อนุญาตให้ผู้ร้องขอนั.,นมีสิทธิใน ที'ดินนั.,นต่อไป ในกรณีที'ผู้ร้องขอได้รับสิทธิในที'ดินดังกล่าวไม่ปฏิบัติตามเงื'อนไขที'คณะ กรรมการกําหนด ให้ ส.ป.ก. มีอํานาจจัดซื.,อ หรือดําเนินการเวนคืนที'ดินที'ได้รับเพิ'มขึ.,นนั.,น เพื'อใช้ในการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมต่อไป
ที'ดินแปลงใดถ้าเจ้าของไม่ได้ใช้ที'ดินประกอบเกษตรกรรมด้วยตนเอง หรือมิได้ใช้ประกอบเกษตรกรรมอย่างใดหรือประกอบเกษตรกรรมเล็กน้อย หรือประกอบ เกษตรกรรมบางส่วนเพียงเปป็นการแสดงสิทธิในที'ดิน ให้ ส.ป.ก. มีอํานาจจัดซื.,อหรือดําเนิน การเวนคืนที'ดินนั.,นได้ในส่วนที'เกินกว่ายี'สิบไร่ ถ้าเจ้าของที'ดินตาม (๓) มีความประสงค์จะประกอบเกษตรกรรมด้วย ตนเองและแสดงได้ว่าตนมีความสามารถและมีปีจจัยที'จะทําที'ดินนั.,นให้เปป็นประโยชน์ทาง เกษตรกรรมได้ ทั.,งตนจะเปป็นผู้ประกอบเกษตรกรรมในที'ดินนั.,นด้วยตนเอง ให้ยื'นคําร้องต่อ พนักงานเจ้าหน้าที'พร้อมทั.,งแสดงหลักฐานอ้างอิงประกอบคําร้อง เมื'อพนักงานเจ้าหน้าที'ได้ สอบสวนแล้ว ให้รายงานต่อคณะกรรมการหรือผู้ซึ'งคณะกรรมการมอบหมายเพื'อพิจารณา อนุญาตให้ผู้ร้องขอนั.,นมีสิทธิในที'ดินต่อไป ตามขนาดใน (๑) หรือ (๒) แล้วแต่กรณีและให้ คณะกรรมการกําหนดเงื'อนไขในการอนุญาต ในกรณีผู้ได้รับสิทธิในที'ดินดังกล่าวไม่ปฏิบัติ ตามเงื'อนไข ให้ ส.ป.ก. มีอํานาจจัดซื.,อหรือดําเนินการเวนคืนที'ดินนั.,นเพื'อใช้ในการปฏิรูป ที'ดินเพื'อเกษตรกรรมต่อไป บทบัญญัติในมาตรานี., มิให้ใช้บังคับแก่ที'ดินบรรดาที'เปป็นของทบวง การเมือง องค์การของรัฐ รัฐวิสาหกิจ สถาบันเกษตรกร หรือที'ดินตามที'กําหนดในกฎ กระทรวง ในการจัดซื.,อที'ดินตามมาตรานี., ถ้าเจ้าของที'ดินประสงค์จะขายที'ดินของ ตนให้ทั.,งหมด ก็ให้ ส.ป.ก. มีอํานาจจัดซื.,อได้
บรรดาที'ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ที' ส.ป.ก. ได้มา ให้ ส.ป.ก. มีอํานาจจัดให้เกษตรกรหรือสถาบันเกษตรกรได้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื'อนไขที'คณะ กรรมการกําหนด ทั.,งนี., ตามขนาดการถือครองในที'ดินดังกล่าวต่อไปนี.,
จํานวนที'ดินไม่เกินห้าสิบไร่ สําหรับเกษตรกรและบุคคลในครอบครัว เดียวกัน ซึ'งประกอบเกษตรกรรมอย่างอื'นนอกจากเกษตรกรรมเลี.,ยงสัตว์ใหญ่ตาม (๒)
จํานวนที'ดินไม่เกินหนึ'งร้อยไร่ สําหรับเกษตรกรและบุคคลใน ครอบครัวเดียวกัน ซึ'งใช้ประกอบเกษตรกรรมเลี.,ยงสัตว์ใหญ่ตามที'รัฐมนตรีว่าการกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ประกาศกําหนด
จํานวนที'ดินที'คณะกรรมการเห็นสมควร สําหรับสถาบันเกษตรกร ทั.,งนี., โดยคํานึงถึงประเภทและลักษณะการดําเนินงานของสถาบันเกษตรกรนั.,น ๆ ในการดําเนินการตามวรรคหนึ'ง ถ้าเปป็นการจัดให้เกษตรกร และเปป็นที'ดิน ที'คณะกรรมการกําหนดมิให้มีการโอนสิทธิในที'ดินก็ให้จัดให้เกษตรกรเช่า ในกรณีอื'นให้จัด ให้เกษตรกรเช่าหรือเช่าซื.,อตามที'เกษตรกรแสดงความจํานง ถ้าเปป็นการจัดให้สถาบัน เกษตรกร ให้จัดให้สถาบันเกษตรกรเช่า บรรดาที'ดินที' ส.ป.ก. ได้มา ถ้าเปป็นที'ดินของรัฐและมีเกษตรกรถือครองอยู่ แล้วเกินจํานวนที'กําหนดในวรรคหนึ'งก่อนเวลาที'คณะกรรมการกําหนด เมื'อเกษตรกรดัง กล่าว ยื'นคําร้องและยินยอมชําระค่าเช่า หรือค่าชดเชยที'ดินในอัตราหรือจํานวนที'เพิ'มขึ.,น ตามที'คณะกรรมการกําหนด สําหรับที'ดินส่วนที'เกินตามวรรคหนึ'งให้คณะกรรมการจัดที'ดิน ให้เกษตรกรเช่าหรือจัดให้ แล้วแต่กรณี ตามจํานวนที'เกษตรกรถือครองได้ แต่เมื'อรวมกัน แล้วต้องไม่เกินหนึ'งร้อยไร่ ในการกําหนดอัตราค่าเช่าหรือค่าชดเชยที'ดินดังกล่าว ต้องคํานึง ถึงระยะเวลาและวิธีการที'เกษตรกรได้ที'ดินนั.,นมา ความสามารถในการทําประโยชน์ ประเภทของเกษตรกรรม และการทําประโยชน์ที'ได้ทําไว้แล้วในที'ดินนั.,น ในการจัดที'ดินให้เกษตรกรตามวรรคสาม ถ้าเกษตรกรได้เข้าครอบครอง ที'ดินดังกล่าวก่อน พ.ศ. ๒๕๑๐ ให้เรียกเก็บเฉพาะค่าธรรมเนียมในการโอนและรังวัด และค่า ปรับปรุงพัฒนาที'ดินที' ส.ป.ก. ดําเนินการให้ตามจํานวนที'คณะกรรมการกําหนด เฉพาะส่วน ที'ไม่เกินห้าสิบไร่ นอกจากการจัดที'ดินให้แก่บุคคลตาม (๑) (๒) และ (๓) ให้ ส.ป.ก. มีอํานาจ จัดที'ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ให้แก่บุคคลใดเช่า เช่าซื.,อ ซื.,อ หรือเข้าทําประโยชน์ เพื'อใช้ สําหรับกิจการอื'นที'เปป็นการสนับสนุนหรือเกี'ยวเนื'องกับการปฏิรูปที'ดินตามที'รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศกําหนดในราชกิจจานุเบกษาได้ ทั.,งนี., ตามขนาดการ ถือครองในที'ดินที'คณะกรรมการเห็นสมควร ซึ'งต้องไม่เกินห้าสิบไร่ ส่วนหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื'อนไข ในการอนุญาตหรือการให้ผู้ได้รับอนุญาตถือปฏิบัติให้เปป็นไปตามที'คณะ กรรมการกําหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี การจัดที'ดินให้เช่าหรือเช่าซื.,อตามมาตรานี.,ไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่ง กฎหมาย เกี'ยวกับการควบคุมการเช่าหรือเช่าซื.,อ และสิทธิการเช่าหรือเช่าซื.,อดังกล่าวจะโอน แก่กันได้หรือตกทอดทางมรดกได้ เฉพาะตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื'อนไขที'คณะ กรรมการกําหนด
เมื'อพนักงานเจ้าหน้าที'สอบสวนแล้ว ให้เสนอคําร้องพร้อมด้วยบันทึก รายงานผลการสอบสวนต่อคณะกรรมการ คณะกรรมการมีอํานาจพิจารณาอนุญาตให้ผู้ยื'นคําร้องมีสิทธิในที'ดิน หรือได้เช่าที'ดินได้ตามที'เห็นสมควร แต่ต้องไม่เกินหนึ'งเท่าของจํานวนเนื.,อที'ที'ดินที'กําหนด ไว้ตามมาตรา ๓๐ (๑) หรือ (๒) ทั.,งนี., โดยกําหนดเงื'อนไขก็ได้ในกรณีที'ผู้รับอนุญาตไม่ปฏิบัติ ตามเงื'อนไข คณะกรรมการมีอํานาจสั'งเพิกถอนการอนุญาตเสียได้และจัดซื.,อหรือดําเนิน การเวนคืนที'ดินหรือสั'งเลิกการเช่าที'ดินดังกล่าวได้ทั.,งหมดหรือแต่บางส่วนตามแต่จะเห็น สมควร และนําที'ดินนั.,นไปใช้เพื'อการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมต่อไป
ถ้า ส.ป.ก. ได้ที'ดินแปลงใดมาโดยการจัดซื.,อหรือเวนคืน หรือได้มาตามมาตรา ๒๕ ทวิ เพื'อใช้ในการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม ให้สิทธิของผู้เช่า ที'ดินแปลงนั.,นตามสัญญาเช่าหรือตามกฎหมายว่าด้วยการเช่าที'ดินเพื'อเกษตรกรรมเปป็นอัน สิ.,นสุดลง
สําหรับที'ดินที'เวนคืนตามวรรคหนึ'ง ให้ ส.ป.ก. หรือผู้ซึ'งได้รับมอบหมาย จาก ส.ป.ก. มีอํานาจเข้าครอบครองที'ดินดังกล่าวเพื'อดําเนินการปฏิรูปที'ดินเพื'อ เกษตรกรรมได้ทันที
การชําระราคาที'ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ที'จัดซื.,อตามพระ ราชบัญญัตินี., ให้จ่ายเปป็นเงินสด หรือเงินสดและพันธบัตรของรัฐบาล ตามหลักเกณฑ์และวิธี การที'กําหนดในพระราชกฤษฎีกา การชําระค่าทดแทนที'ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ที'เวนคืนตามพระราช บัญญัตินี., ให้จ่ายเปป็นเงินสดส่วนหนึ'ง และส่วนที'เหลือให้จ่ายเปป็นพันธบัตรของรัฐบาล ตาม หลักเกณฑ์ และวิธีการที'กําหนดในพระราชกฤษฎีกา ให้กระทรวงการคลังโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี มีอํานาจออกพันธบัตรเพื'อ ชําระราคาหรือค่าทดแทนตามวรรคหนึ'งและวรรคสอง และมีอํานาจกําหนดอัตราดอกเบี.,ย ระยะเวลาไถ่ถอน เงื'อนไข และวิธีการในการออกพันธบัตร ทั.,งนี., โดยประกาศในราชกิจจานุ เบกษา พันธบัตรตามวรรคสามเมื'อครบกําหนดชําระให้ชําระจากเงินของกองทุน การปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม
ให้พนักงานเจ้าหน้าที'มีหนังสือแจ้งจํานวนเงินค่าทดแทนให้เจ้าของที'ดิน หรือผู้มีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทนทราบ ถ้าเจ้าของที'ดินหรือผู้มีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทนไม่ เห็นชอบด้วยกับจํานวนเงินค่าทดแทนดังกล่าวมีสิทธิอุทธรณ์ได้ตามมาตรา ๔๐ วรรคสาม (ยกเลิก)
บรรดาที'ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ใด ๆ ที' ส.ป.ก. ได้มา ตามพระราชบัญญัตินี., หรือได้มาโดยประการอื'นที'มีวัตถุประสงค์เพื'อประโยชน์ในการปฏิรูป ที'ดินเพื'อเกษตรกรรม ไม่ให้ถือว่าเปป็นที'ราชพัสดุ และให้ ส.ป.ก. เปป็นผู้ถือกรรมสิทธิ'เพื'อใช้ใน การปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม ให้พนักงานเจ้าหน้าที'ตามประมวลกฎหมายที'ดินมีอํานาจออกหนังสือ แสดงสิทธิในที'ดินเกี'ยวกับที'ดินของ ส.ป.ก. ตามวรรคหนึ'ง ทั.,งนี., ตามที' ส.ป.ก. ร้องขอ
ที'ดินเพื'อเกษตรกรรม ทั.,งนี., ให้เปป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื'อนไขในกฎกระทรวง
คณะกรรมการ ให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั.,งผู้ทรงคุณวุฒิเปป็นกรรมการอุทธรณ์ กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิจะเปป็นกรรมการหรืออนุกรรมการในคณะกรรมการหรือคณะกรรมการปฏิรูป ที'ดินจังหวัดมิได้
หากผู้อุทธรณ์ไม่พอใจในคําวินิจฉัยอุทธรณ์ ให้ยื'นฟ일องต่อศาลปกครองได้ ภายในกําหนดหนึ'งเดือน ในกรณีที'ยังมิได้มีการตั.,งศาลปกครองตามบทตามบทบัญญัติแห่ง รัฐธรรมนูญ มิให้นําข้อความดังกล่าวนี.,มาใช้บังคับ
ตําแหน่งคราวละสองปี กรรมการซึ'งพ้นจากตําแหน่งตามวาระอาจได้รับแต่งตั.,งเปป็น กรรมการอีกได้ ในกรณีที'มีการแต่งตั.,งกรรมการอุทธรณ์ระหว่างที'กรรมการซึ'งแต่งตั.,งไว้ แล้วยังมีวาระอยู่ในตําแหน่ง ให้ผู้ได้รับแต่งตั.,งซ่อมนั.,นอยู่ในตําแหน่งเท่ากับวาระที'เหลืออยู่ ของกรรมการอุทธรณ์ซึ'งได้แต่งตั.,งไว้แล้วนั.,น
[*มาตรา ๓๙ แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเปป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ บัญญัติให้เปลี'ยนความผิดอาญาที'มีโทษปรับสถานเดียวเปป็นความผิดทางพินัย และให้ถือว่า อัตราโทษปรับอาญาเปป็นอัตราค่าปรับเปป็นพินัย]
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สัญญา ธรรมศักดิ' นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี., คือ ประเทศไทยเปป็นประเทศ เกษตรกรรม ประชากรส่วนใหญ่มีอาชีพในการเกษตร ที'ดินจึงเปป็นปีจจัยสําคัญและเปป็น รากฐานเบื.,องต้นของการผลิตทางเกษตรกรรม แต่ปีจจุบันปรากฏว่าเกษตรกรกําลังประสบ ความเดือดร้อนเนื'องจากต้องสูญเสียสิทธิในที'ดินและกลายเปป็นผู้เช่าที'ดิน ต้องเสียค่าเช่า ที'ดินในอัตราสูงเกินสมควร ที'ดินขาดการบํารุงรักษา จึงทําให้อัตราผลิตผลเกษตรกรรมอยู่ ในระดับตว่า เกษตรกรไม่ได้รับความเปป็นธรรมและเสียเปรียบจากระบบการเช่าที'ดินและการ จําหน่ายผลิตผลตลอดมา ซึ'งส่งผลให้เกิดภาวะความยุ่งยากทั.,งในทางเศรษฐกิจ สังคม การ ปกครองและการเมืองของประเทศเปป็นอย่างมาก จึงเปป็นความจําเปป็นอย่างยิ'งที'รัฐจะต้อง ดําเนินการแก้ไขปีญหาดังกล่าวโดยด่วนที'สุด โดยวิธีการปฏิรูปที'ดิน เพื'อช่วยให้เกษตรกรมี ที'ดินทํากิน และให้การใช้ที'ดินเกิดประโยชน์มากที'สุด พร้อมกับการจัดระบบการผลิตและ จําหน่ายผลิตผลเกษตรกรรม เพื'อให้ความเปป็นธรรมแก่เกษตรกร ทั.,งนี., เพื'อเปป็นการสนอง แนวนโยบายแห่งรัฐในการลดความเหลื'อมล엉าในฐานะของบุคคลในทางเศรษฐกิจและสังคม ตามที'ได้กําหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ จึงจําเปป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี.,ขึ.,น พระราชบัญญัติการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม (ฉบับที' ๒) พ.ศ. ๒๕๑๙ มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี.,ให้ใช้บังคับตั.,งแต่วันถัดจากวันประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาเปป็นต้นไป หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี., คือ เนื'องจากพระราชบัญญัติ การปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ ยังมีบทบัญญัติไม่รัดกุมและเหมาะสม ทําให้ เปป็นอุปสรรคต่อการดําเนินการปฏิรูปที'ดินอยู่หลายประการ และมีบางประการได้แก่เรื'อง การออกพันธบัตร การชําระราคาหรือค่าทดแทนที'ดินหรืออสังหาริมทรัพย์สมควรแก้ไขเพิ'ม เติมเสียใหม่โดยรีบด่วน เพื'อให้การปฏิบัติตามกฎหมายเกิดความคล่องตัวและสนอง นโยบายการปฏิรูปที'ดินของรัฐบาลได้รวดเร็วยิ'งขึ.,น จึงจําเปป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี.,ขึ.,น พระราชบัญญัติการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม (ฉบับที' ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี.,ให้ใช้บังคับตั.,งแต่วันถัดจากวันประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาเปป็นต้นไป มาตรา ๑๔ ที'ราชพัสดุที'กระทรวงการคลังได้มาเนื'องจากการจัดซื.,อของ ส.ป.ก. หรือมีผู้ยกให้แก่ ส.ป.ก. เพื'อดําเนินการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมซึ'งมีอยู่ในวันที' พระราชบัญญัตินี.,ใช้บังคับ ให้กระทรวงการคลังดําเนินการโอนที'ราชพัสดุดังกล่าวให้เปป็น กรรมสิทธิ'ของ ส.ป.ก. เพื'อใช้ในการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมตามพระราชบัญญัตินี., การ โอนที'ราชพัสดุดังกล่าวมิให้นําความในมาตรา ๘ และมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติที'ราช พัสดุ พ.ศ. ๒๕๑๘ มาใช้บังคับ และให้ดําเนินการโอนตามประมวลกฎหมายที'ดิน บรรดานิติกรรมใด ๆ ที'ได้กระทําเกี'ยวกับที'ดินตามวรรคหนึ'ง ให้คงมีผล ใช้ได้ต่อไป มาตรา ๑๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการตามพระราชบัญญัติ นี., หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี., คือ ประเทศไทยได้จัดให้มีการ ปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมมาระยะหนึ'งแล้ว แต่การดําเนินการยังมีอุปสรรคทําให้การงาน ไม่อาจดําเนินไปโดยเหมาะสมตามควร สมควรขยายขอบเขตการจัดที'ดินในการปฏิรูปที'ดิน ให้กว้างขวางขึ.,นให้สามารถช่วยเหลือผู้ที'ประสงค์จะเปป็นเกษตรกรได้ และอาจจัดที'ดินให้แก่ ผู้ประกอบกิจการสนับสนุนและต่อเนื'องกับการปฏิรูปที'ดินได้ด้วย เพื'อให้งานดําเนินไปครบ วงจรของภาคเกษตรกรรม นอกจากนั.,น ในการจัดหาที'ดินมาดําเนินการปฏิรูปที'ดินได้มี ปีญหาว่าจะจัดซื.,อที'ดินจากผู้ที'สมัครใจขายได้หมดทั.,งแปลงหรือไม่ และการนําที'ดินของรัฐ มาใช้จัดที'ดินมีปีญหาว่า ยังไม่มีแนวทางที'แน่ชัดระหว่างหน่วยงานที'รับผิดชอบ เกิดปีญหา ว่า ส.ป.ก. สมควรจะนําที'ดินส่วนใดมาใช้จัดได้เมื'อใดและเพียงใด ทั.,งยังมีข้อจํากัดที' ส.ป.ก. จะเข้าดําเนินการในที'ดินที'มีผู้ประสงค์บริจาค เพราะที'ดินนั.,นต้องกลายเปป็นที'ราชพัสดุและ ที'ดินอาจมีขนาดไม่กว้างมาก ซึ'งไม่เหมาะสมที'จะกําหนดเปป็นเขตปฏิรูปที'ดินเล็ก ๆ โดยพระ ราชกฤษฎีกาหลายฉบับ ส่วนในขั.,นนําที'ดินมาจัดให้แก่ประชาชนนั.,น กฎหมายปีจจุบันได้ แยกข้อแตกต่างระหว่างที'ดินที'เปป็นของรัฐมาแต่เดิมกับที'ดินที'ได้มาโดยการจัดซื.,อหรือ เวนคืน ทําให้ไม่อาจจัดสิทธิในที'ดินให้แก่ประชาชนให้สอดคล้องกัน สมควรแก้ไขโดยคํานึง ถึงเป일าหมายและความต้องการของผู้ขอรับการจัดที'ดินเปป็นสําคัญ เพื'อให้สิทธิในที'ดินมีส่วน เกื.,อหนุนสภาพความเปป็นอยู่ในภาคเกษตรกรรมตามความเปป็นจริง อนึ'ง องค์ประกอบของ คณะกรรมการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรมและคณะกรรมการปฏิรูปที'ดินจังหวัด และ แนวทางในการกําหนดเขตปฏิรูปที'ดินยังไม่เหมาะสม สมควรแก้ไขเพิ'มเติมกฎหมายปีจจุบัน เสียใหม่ จึงจําเปป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี., *พระราชกฤษฎีกาแก้ไขบทบัญญัติให้สอดคล้องกับการโอนอํานาจหน้าที'ของส่วนราชการ ให้เปป็นไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี.,ให้ใช้บังคับตั.,งแต่วันถัดจากวันประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาเปป็นต้นไป มาตรา ๒๒ ในพระราชบัญญัติการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘ (๑) ให้แก้ไขคําว่า “อธิบดีกรมประชาสงเคราะห์” เปป็น “อธิบดีกรมพัฒนา สังคมและสวัสดิการ” และคําว่า “ประชาสงเคราะห์จังหวัด” เปป็น “ผู้แทนกรมพัฒนาสังคม และสวัสดิการ” (๒) ให้เพิ'ม “อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝ' ~ง” เปป็นกรรมการใน คณะกรรมการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม และเพิ'ม “ผู้แทนกรมทรัพยากรทางทะเลและ ชายฝ~' ง” เปป็นกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปที'ดินจังหวัด เพื'อให้สอดคล้องกับการโอน อํานาจหน้าที'ของกรมพัฒนาที'ดิน ในส่วนที'เกี'ยวกับการวางแผนการใช้ที'ดินชายทะเล มา เปป็นของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝ~' ง หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี., คือ โดยที'พระราชบัญญัติ ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้บัญญัติให้จัดตั.,งส่วนราชการขึ.,นใหม่โดยมี ภารกิจใหม่ ซึ'งได้มีการตราพระราชกฤษฎีกาโอนกิจการบริหารและอํานาจหน้าที'ของส่วน ราชการให้เปป็นไปตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม นั.,นแล้ว และเนื'องจาก พระราชบัญญัติดังกล่าวได้บัญญัติให้โอนอํานาจหน้าที'ของส่วนราชการ รัฐมนตรีผู้ดํารง ตําแหน่งหรือผู้ซึ'งปฏิบัติหน้าที'ในส่วนราชการเดิมมาเปป็นของส่วนราชการใหม่ โดยให้มีการ แก้ไขบทบัญญัติต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับอํานาจหน้าที'ที'โอนไปด้วย ฉะนั.,น เพื'ออนุวัติให้เปป็น ไปตามหลักการที'ปรากฏในพระราชบัญญัติและพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว จึงสมควรแก้ไข บทบัญญัติของกฎหมายให้สอดคล้องกับการโอนส่วนราชการ เพื'อให้ผู้เกี'ยวข้องมีความ ชัดเจนในการใช้กฎหมายโดยไม่ต้องไปค้นหาในกฎหมายโอนอํานาจหน้าที'ว่าตามกฎหมาย ใดได้มีการโอนภารกิจของส่วนราชการหรือผู้รับผิดชอบตามกฎหมายนั.,นไปเปป็นของหน่วย งานใดหรือผู้ใดแล้ว โดยแก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายให้มีการเปลี'ยนชื'อส่วนราชการ รัฐมนตรี ผู้ดํารงตําแหน่งหรือผู้ซึ'งปฏิบัติหน้าที'ของส่วนราชการให้ตรงกับการโอนอํานาจ หน้าที' และเพิ'มผู้แทนส่วนราชการในคณะกรรมการให้ตรงตามภารกิจที'มีการตัดโอนจาก ส่วนราชการเดิมมาเปป็นของส่วนราชการใหม่ รวมทั.,งตัดส่วนราชการเดิมที'มีการยุบเลิกแล้ว ซึ'งเปป็นการแก้ไขให้ตรงตามพระราชบัญญัติและพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว จึงจําเปป็นต้อง ตราพระราชกฤษฎีกา พระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเปป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี.,ให้ใช้บังคับเมื'อพ้นกําหนดสองร้อยสี'สิบวันนับ แต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปป็นต้นไป เว้นแต่บทบัญญัติแห่งมาตรา ๓๗ และ มาตรา ๓๘ วรรคหนึ'ง ให้ใช้บังคับตั.,งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปป็นต้น ไป มาตรา ๔ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี., และมีอํานาจ ออกกฎกระทรวงเพื'อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี., กฎกระทรวงนั.,น เมื'อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้ มาตรา ๓๙ เมื'อพ้นกําหนดสามร้อยหกสิบห้าวันนับแต่วันที'พระราช บัญญัตินี.,ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้เปลี'ยนความผิดอาญาที'มีโทษปรับสถานเดียว ตามกฎหมายในบัญชี ๑ ท้ายพระราชบัญญัตินี., เปป็นความผิดทางพินัยตามพระราชบัญญัติ นี., และให้ถือว่าอัตราโทษปรับอาญาที'บัญญัติไว้ในกฎหมายดังกล่าว เปป็นอัตราค่าปรับเปป็น พินัยตามพระราชบัญญัตินี., หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี., คือ โดยที'มาตรา ๗๗ ของ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้บัญญัติให้รัฐพึงกําหนดโทษอาญาเฉพาะความผิด ร้ายแรง ประกอบกับแผนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายได้กําหนดให้มีการปรับปรุง กฎหมายในการกําหนดโทษอาญาให้เหมาะสมกับสภาพความผิดหรือกําหนดมาตรการ ลงโทษให้เหมาะสมกับการกระทําความผิด และฐานะของผู้กระทําความผิดเพื'อมิให้บุคคล ต้องรับโทษหนักเกินสมควร หรือต้องรับภาระในการรับโทษที'แตกต่างกันอันเนื'องมาจาก ฐานะทางเศรษฐกิจที'แตกต่างกัน เนื'องจากกรณีที'กฎหมายกําหนดโทษปรับ ผู้มีฐานะทาง เศรษฐกิจดีย่อมสามารถชําระค่าปรับได้ แต่ผู้มีฐานะยากจนและไม่อยู่ในฐานะที'จะชําระค่า ปรับได้จะถูกกักขังแทนค่าปรับอันกระทบต่อศักดิ'ศรีความเปป็นมนุษย์อย่างรุนแรง ประกอบ กับเมื'อคํานึงถึงข้อห้ามหรือข้อบังคับที'กฎหมายกําหนดให้ประชาชนต้องปฏิบัติหรือไม่ ปฏิบัติแล้ว จะพบว่ามีข้อห้ามหรือข้อบังคับจํานวนมากอาจรุกล엉าเข้าไปในสิทธิพื.,นฐานหรือ สร้างภาระอันเกินสมควรแก่ประชาชน และนับวันจะมีกฎหมายตราออกมากําหนดการ กระทําให้เปป็นความผิดมากขึ.,น หลายกรณีทําให้ประชาชนกลายเปป็นผู้กระทําความผิดเพราะ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ บางกรณีกระทําไปเพราะความยากจนเหลือทนทาน และเมื'อได้กระทํา ความผิดแล้ว ก็ต้องถูกนําตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา เช่น ถูกจับกุม คุมขัง พิมพ์ลายนิ.,วมือ และลงบันทึกประวัติอาชญากรเปป็นประวัติติดตัวตลอดไป และในที'สุดไม่ว่า ผู้นั.,นจะเปป็นผู้กระทําความผิดหรือไม่ กระบวนการที'กล่าวมาย่อมสร้างรอยด่างให้เกิดแก่ ศักดิ'ศรีความเปป็นมนุษย์อย่างหลีกเลี'ยงไม่ได้ ถ้ามีทางใดที'จะป일องกันมิให้ประชาชนจะต้อง ตกเข้าสู่กระบวนการนั.,นได้ จะเปป็นประโยชน์แก่ประชาชนและขจัดความเหลื'อมล엉าในสังคม ลงได้ตามสมควร แม้ว่าการกําหนดมาตรการอันเปป็นโทษที'ผู้กระทําการอันเปป็นการฝ1าฝ더น หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเปป็นสิ'งจําเปป็นที'จะต้องมีเพื'อให้กฎหมายมีสภาพบังคับ แต่โทษ นั.,นก็ไม่จําเปป็นต้องใช้โทษอาญาเสมอไป ซึ'งนานาประเทศได้เริ'มปรับเปลี'ยนบทลงโทษจาก ความผิดอาญาเปป็นมาตรการอื'นที'มิใช่โทษอาญามากขึ.,น รวมทั.,งการใช้มาตรการอื'นแทน การลงโทษทางอาญา เช่น การคุมประพฤติ กรณีจึงสมควรที'ประเทศไทยจะพัฒนา กฎหมายไทยให้สอดคล้องกับนานาประเทศ และเกิดประโยชน์แก่ประชาชนยิ'งขึ.,น โดยปรับ เปลี'ยนโทษอาญาบางประการที'มุ่งต่อการปรับเปป็นเงินตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติ เปลี'ยนเปป็นมาตรการปรับเปป็นพินัยที'สร้างขึ.,นใหม่ไม่ให้มีสภาพเปป็นโทษอาญา โดยกําหนด หลักเกณฑ์ให้ใช้ดุลพินิจกําหนดค่าปรับที'ต้องชําระให้เหมาะสมกับสภาพความร้ายแรงแห่ง การกระทําและฐานะทางเศรษฐกิจของผู้กระทําความผิดให้สอดคล้องกัน และในกรณีที'ผู้ กระทําความผิดไม่มีเงินชําระค่าปรับ อาจขอทํางานบริการสังคมหรือทํางาน สาธารณประโยชน์แทนการชําระค่าปรับได้ โดยไม่มีการกักขังแทนค่าปรับดังเช่นที'เปป็นอยู่ ในคดีอาญา การเปลี'ยนสภาพบังคับไม่ให้เปป็นโทษอาญาโดยกําหนดวิธีการดําเนินการขึ.,น ใหม่เปป็นการเฉพาะนี., ย่อมจะช่วยทําให้ประชาชนที'ถูกกล่าวหาว่ากระทําความผิดไม่ต้องเข้า สู่กระบวนการทางอาญา และไม่มีประวัติอาชญากรรมติดตัวอีกต่อไป การเปลี'ยนแปลงเช่น นี.,จะเปป็นกลไกทางกฎหมายเพื'อสร้างความเปป็นธรรมและขจัดความเหลื'อมล엉าทางสังคมและ ส่งเสริมการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพยิ'งขึ.,น ตามเจตนารมณ์ของมาตรา ๗๗ และ มาตรา ๒๕๘ ค. ด้านกฎหมาย (๑) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและแผนการ ปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย นอกจากนั.,น สําหรับกฎหมายบางฉบับที'กําหนดให้มีโทษทาง ปกครอง แต่บัญญัติให้ฟ일องคดีต่อศาลที'มีเขตอํานาจในการพิจารณาคดีอาญาเพื'อบังคับ ชําระค่าปรับทางปกครองไว้แล้ว สมควรเปลี'ยนโทษดังกล่าวเปป็นมาตรการปรับเปป็นพินัยเช่น เดียวกัน จึงจําเปป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี., วรรณภรณ์ / Maker 10 ตุลาคม 2566 ปริญสินีย์ / Checker 11 ตุลาคม 2566 ปริญสินีย์ / Authorizer 24 ตุลาคม 2566 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๙๒/ตอนที' ๕๔/ฉบับพิเศษ หน้า ๑๐/๔ มีนาคม ๒๕๑๘ มาตรา ๔ นิยามคําว่า "เกษตรกร" แก้ไขเพิ'มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที'ดินเพื'อ เกษตรกรรม (ฉบับที' ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ มาตรา ๔ นิยามคําว่า "คณะกรรมการปฏิรูปที'ดินจังหวัด" ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติ การปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม (ฉบับที' ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ มาตรา ๕ แก้ไขเพิ'มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม (ฉบับที' ๒) พ.ศ. ๒๕๑๙ มาตรา ๑๒ แก้ไขเพิ'มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม (ฉบับที' ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ มาตรา ๑๓ แก้ไขเพิ'มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม (ฉบับที' ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ มาตรา ๒๕ วรรคสาม แก้ไขเพิ'มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม (ฉบับที' ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ มาตรา ๒๕ ทวิ เพิ'มโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม (ฉบับที' ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ มาตรา ๒๖ แก้ไขเพิ'มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม (ฉบับที' ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ มาตรา ๒๙ วรรคสาม เพิ'มโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม (ฉบับที' ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ มาตรา ๓๐ แก้ไขเพิ'มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม (ฉบับที' ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ มาตรา ๓๒ แก้ไขเพิ'มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม (ฉบับที' ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ มาตรา ๓๕ แก้ไขเพิ'มเติมโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม (ฉบับที' ๒) พ.ศ. ๒๕๑๙ มาตรา ๓๖ วรรคสาม ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม (ฉบับ ที' ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ มาตรา ๓๖ ทวิ เพิ'มโดยพระราชบัญญัติการปฏิรูปที'ดินเพื'อเกษตรกรรม (ฉบับที' ๓) พ.ศ. ๒๕๓๒ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๙๓/ตอนที' ๑๔๔/ฉบับพิเศษ หน้า ๔๗/๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๐๖/ตอนที' ๑๔๙/ฉบับพิเศษ หน้า ๑๒/๘ กันยายน ๒๕๓๒ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๙/ตอนที' ๑๐๒ ก/หน้า ๖๖/๘ ตุลาคม ๒๕๔๕ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๙/ตอนที' ๖๖ ก/หน้า ๒๒/๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๕