로고

พระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เป็นปีที่ ๗๑ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้

มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙”

มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓ ให้ยกเลิก (๑) พระราชบัญญัติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๐๔ (๒) พระราชบัญญัติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๐๕

มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้ “พลังงานนิวเคลียร์” หมายความว่า พลังงานที่ปลดปล่อยออกมาจากการแยก รวม หรือแปลงนิวเคลียส “รังสี” หมายความว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรืออนุภาคใด ๆ ที่มีความเร็ว ซึ่งสามารถก่อให้เกิดการแตกตัวเป็นไอออนในสสารที่ผ่านไป “วัสดุกัมมันตรังสี” หมายความว่า ธาตุหรือสารประกอบใด ๆ ที่มีรังสีประเภทหนึ่งประเภทใดหรือหลายประเภทในตัวเองไม่ว่าจะเกิดขึ้นเองโดยปล่อยหรือเรื้อรังตามกาล หรือที่มีอยู่ในธรรมชาติ หรือเกิดจากการผลิต หรือการใช้วัสดุกัมมันตรังสี การผลิตหรือการใช้วัสดุ หรือวิธีอื่นใดที่ไม่รวมถึงวัสดุพิเศษหรือวัสดุพิเศษเฉพาะที่มีอยู่ในวัสดุอุดมสมบูรณ์

*ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๓ ตอนที่ ๗๗ ก/หน้า ๔๕/ สิงหาคม ๒๕๕๙* "เครื่องกำเนิดรังสี" หมายความว่า เครื่องหรือระบบอุปกรณ์เมื่อมีการให้พลังงาน เข้าไปแล้วจะก่อให้เกิดการแผ่รังสีออกมา และอุปกรณ์ตามที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ใช้ ประกอบเป็นเครื่องกำเนิดรังสี "วัสดุกัมมันตรังสี" หมายความว่า (ก) วัสดุกัมมันตรังสี ได้แก่ (ก) ยูเรเนียมที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ยูเรเนียมเสื่อมสภาพ หรือธอเรียม ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ทั้งนี้ รวมถึงสารประกอบของธาตุเหล่านี้หรือวัสดุอื่นตามที่ กำหนดในกฎกระทรวง (ข) แร่หรือแร่อย่างใดประกอบด้วยวัสดุตาม (ก) อย่างหนึ่งหรือหลายอย่างโดยมี อัตราความเข้มข้นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง (ข) วัสดุกัมมันตรังสีพิเศษ ได้แก่ (ก) พลูโตเนียม ยูเรเนียม 233 ยูเรเนียมที่เสริมสมรรถนะด้วยยูเรเนียม 233 หรือยูเรเนียม 235 หรือสารประกอบของธาตุเหล่านี้ (ข) วัสดุใด ๆ ที่มีวัสดุตาม (ก) อย่างหนึ่งหรือหลายอย่างผสมเข้าไป (ค) วัสดุอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง (ค) วัสดุกัมมันตรังสีตามที่กำหนดในกฎกระทรวง "เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์" หมายความว่า เครื่องหรือระบบอุปกรณ์ใด ๆ ซึ่ง ออกแบบหรือใช้เพื่อก่อให้เกิดผลของปฏิกิริยาลูกโซ่ ซึ่งได้แก่ เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ติด พลังงานและเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์วิจัย "เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์วิจัย" หมายความว่า เครื่องปฏิกรณ์ นิวเคลียร์ที่ใช้เพื่อการศึกษา การค้นคว้า การวิจัย หรือการอื่น "สถานประกอบการทางนิวเคลียร์" หมายความว่า (ก) สถานที่ใช้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่มาจากการผลิตพลังงาน แต่ไม่รวมถึง ยานพาหนะที่ใช้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อการผลิตพลังงานสำหรับการขับเคลื่อน (ข) สถานที่ที่มีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์วิจัย (ค) สถานที่แปรรูปหรือผลิตวัสดุกัมมันตรังสี (ง) สถานที่เก็บยูเรเนียมเสริมสมรรถนะหรือวัสดุกัมมันตรังสี (จ) สถานที่ประกอบหรือจัดเก็บเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ (ฉ) สถานที่จัดเก็บหรือแปรสภาพเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่ใช้แล้ว (ช) สถานที่จัดเก็บวัสดุกัมมันตรังสี หรือกากนิวเคลียร์ (ซ) สถานที่อื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง "เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่ใช้แล้ว" หมายความว่า เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่ผ่านการใช้งานใน เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แล้ว และไม่ไปผ่านกระบวนการปฏิกรณ์นิวเคลียร์อีก "กากนิวเคลียร์" หมายความว่า วัสดุกัมมันตรังสีที่ผ่านกระบวนการใช้งาน ของเครื่อง หรือทำให้ ดังต่อไปนี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

วัตถุที่มีมันหรือมีสีที่อยู่ภายใต้การควบคุมตามพระราชบัญญัตินี้ บรรดาที่ไม่อาจใช้ งานได้ตามสภาพต่อไป

วัตถุที่ประกอบหรือปนเปื้อนด้วยวัสดุอันตรายหรือวัสดุที่มีมันหรือมีสีที่อยู่ภายใต้ การควบคุมตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ วัตถุที่ประกอบหรือปนเปื้อนดังกล่าวต้องกำจัดทำลายทิ้งต่อไป ตามประกาศหรือแนวทางการอนุญาตที่นายกคณะกรรมการกำหนด ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึง เศษวัสดุที่มีมันหรือมีสีที่อยู่ภายใต้การควบคุมตามพระราชบัญญัตินี้ด้วย “นิยามศัพท์” ใน มาตรา ๔ ให้มีความหมายดังต่อไปนี้ “กำจัดหรือทำลายทิ้ง” หมายความรวมถึง ผลิต นำออก ประดิษฐ์ ปรับปรุง แปร สภาพหรือดัดแปลงเครื่องจักรกลเคมี “นำกลับ” หมายความว่า นำหรือส่งนำมาจากราชอาณาจักรไม่ว่าจะกรณีการเปลี่ยนถ่าย ยานพาหนะในราชอาณาจักรหรือไม่ก็ตาม “มีไว้ในครอบครอง” หมายความว่า มีไว้ในครอบครองเพื่อตนเองหรือมีไว้ใน ครอบครองเพื่อจำหน่ายแต่ทั้งนี้ไม่รวมถึงมีไว้ในครอบครองเพื่อการแสดง “แยก” หมายความว่า การกระทำอย่างใด ๆ เพื่อการแยก หรือแยกให้แก่ที่ ปนกันอยู่เพื่อผู้แยกต้องดำเนินไปตามกฎหมายกำหนด “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ “สำนักงาน” หมายความว่า สำนักงานพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ “เจ้าพนักงาน” หมายความว่า เจ้าพนักงานตามกฎหมายนี้ “เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจ” หมายความว่า เลขาธิการสำนักงานพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ หรือผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้เป็นผู้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุขรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของตน ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแต่งตั้งเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจ และออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้ อัตราค่าธรรมเนียม และกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขอื่นใดไว้ในกฎกระทรวง

ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีอำนาจออกกฎกระทรวงตามที่บัญญัติไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้อง ออกกฎกระทรวงตามมาตรา ๒๖ และมาตรา ๓๔ วรรคสอง การออกกฎกระทรวงตามวรรคสอง จะกำหนดให้มีการควบคุมการนำเข้า โดยกำหนดให้เฉพาะ ตน ตาม มาตรา ๒๖ หรือมาตรา ๓๔ วรรคสอง หรือกำหนดให้มีการควบคุมการนำเข้า โดยกำหนดให้เฉพาะ ตน ตาม มาตรา ๒๖ หรือมาตรา ๓๔ วรรคสอง หรือกำหนดให้มีการควบคุมการนำเข้า กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้

มาตรา ๖

มาตรา ๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวัตถุที่มีมันหรือมีสีที่อยู่ภายใต้การควบคุม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

บททั่วไป

มาตรา 6 พระราชบัญญัตินี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้บังคับแก่การดำเนินการเกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์และรังสีในทางสันติ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ความมั่นคงปลอดภัย และการพิทักษ์ความปลอดภัย อย่างเพียงพอ ที่จะป้องกันมิให้กระทบกระทั่งความมั่นคงปลอดภัยระหว่างประเทศและสิ่งแวดล้อม

มาตรา 7 พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่กองทัพทหารของต่างประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักร

มาตรา 8 เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ ให้รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ มีอำนาจ ดังต่อไปนี้

1

กำหนดอุปกรณ์หรือประเภทของเครื่องกำเนิดรังสีที่ได้รับการยกเว้น

2

กำหนดให้วัตถุอันตรายเป็นในวัสดุคุ้มครอง วัสดุในระดับต่ำ หรือวัสดุในระดับสูง

3

กำหนดหรือประกอบการจัดการของเสียรังสีที่มีอยู่ในธรรมชาติ ยูเรเนียม ทอเรียม หรือวัสดุอื่นที่ไม่ใช่วัสดุคุ้มครองทางนิวเคลียร์ เพื่อให้สามารถประกอบการจัดการของเสียเป็นวัสดุคุ้มครอง

4

กำหนดหรือจัดการของเสียรังสีที่มีอยู่ในธรรมชาติ ยูเรเนียม ทอเรียม วัสดุอื่นที่ไม่ใช่วัสดุคุ้มครองทางนิวเคลียร์ หรือประกอบการจัดการของเสียรังสีที่มีอยู่ในธรรมชาติ ยูเรเนียม ทอเรียม หรือวัสดุอื่นที่ไม่ใช่วัสดุคุ้มครองทางนิวเคลียร์ เพื่อให้แร่หรือแร่แร่เป็นวัสดุคุ้มครอง

5

กำหนดวัตถุคุ้มครองที่มีลักษณะหรือการใช้งานที่ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมตามพระราชบัญญัตินี้ตามมาตรา 14 และมาตรา 15

6

กำหนดวัตถุคุ้มครองที่มีลักษณะหรือการใช้งานที่ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมตามมาตรา 20 วรรคหนึ่ง กำหนดเครื่องกำเนิดรังสีที่ต้องแจ้งการครอบครองหรือใช้ตามมาตรา 20 วรรคหนึ่ง และมาตรา 26/2 วรรคหนึ่ง หรือกำหนดวัสดุคุ้มครองที่ต้องแจ้งการครอบครองตามมาตรา 26 วรรคหนึ่ง

7

กำหนดประเภทวัสดุคุ้มครองรังสี เครื่องกำเนิดรังสี หรือวัสดุคุ้มครองที่บุคคลธรรมดาจะรับใบอนุญาตได้ตามมาตรา 60 วรรคสอง

8

กำหนดหลักเกณฑ์ทางเทคนิคของข้อมูลหรือใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุคุ้มครองรังสี เครื่องกำเนิดรังสีหรือวัสดุคุ้มครองตามมาตรา 60 (2) (ข) มาตรา 60 (2) (ค) หรือมาตรา 60 (2) (ง) หรือหลักเกณฑ์ทางเทคนิคของข้อมูลหรือใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุคุ้มครองตามมาตรา 60 (2) (ฉ)

9

กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการจัดการหรือการสลายประกอบการทางนิวเคลียร์ตามมาตรา 44 *มาตรา (8) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562*

๑๐

กำหนดรายละเอียดของรายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถาน ประกอบการทางเคมีอันเกี่ยวข้องกับมาตรา ๓๔

๑๑

กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาต การบรรจุขนย้าย นิวเคลียร์ รังสีนิวเคลียร์ หรือเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว การหดตัวบรรจุหรือปฏิบัติต่อนิวเคลียร์ หรือการหดตัวบรรจุรังสีนิวเคลียร์หรือเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว และการขนย้ายหรือนำของเสีย กัมมันตรังสีออกนอกมาตรา ๓๕

๑๒

กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาในการดำเนินการ ตัดเก็บและรายละเอียดของแผนการตัดเก็บนิวเคลียร์และรังสีตามพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งการกำหนดค่าธรรมเนียมตามมาตรา ๓๖

๑๓

กำหนดรัดับกำกัมมันตภาพและค่ารังสีสูงของกากกัมมันตรังสีที่ปล่อย ออกสู่สิ่งแวดล้อมได้และกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอย่างอื่นที่เกี่ยวข้องตามมาตรา ๓๗

๑๔

กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดการกากกัมมันตรังสี และ กำหนดกากกัมมันตรังสีที่ต้องส่งให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการตามมาตรา ๓๘

๑๕

กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการแจ้งการสูญหายหรือเสื่อมสภาพของ วัสดุนิวเคลียร์และรังสี และกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการดำเนินการเมื่อไม่อาจควบคุมวัสดุ กัมมันตรังสีซึ่งมีความกัมมันตรังสีสูงได้โดยเสียมิชอบตามมาตรา ๔๐

๑๖

กำหนดหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการการเก็บรักษาเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว และวัสดุนิวเคลียร์ที่ได้จากการแปรสภาพเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว รวมทั้งการกำหนด รายละเอียดการแปรสภาพเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้วกลับเป็นเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใหม่หรือวัสดุ นิวเคลียร์ใหม่ตามมาตรา ๔๑

๑๗

กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขออนุญาต การต่ออายุ การพักใช้ และการเพิกถอนใบอนุญาตเกี่ยวกับการประกอบกิจการทางนิวเคลียร์และรังสีตาม มาตรา ๔๒

๑๘

กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขออนุญาต การต่ออายุ การพักใช้ และการเพิกถอนใบอนุญาตเกี่ยวกับการนำเข้า ส่งออก หรือผ่านราชอาณาจักร วัสดุนิวเคลียร์และรังสี รวมทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขออนุญาต การต่ออายุ การพักใช้ และการเพิกถอนใบอนุญาตตามมาตรา ๔๓

๑๙

กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขออนุญาต การต่ออายุ การพักใช้ และการเพิกถอนใบอนุญาตเกี่ยวกับการขนส่งวัสดุนิวเคลียร์และรังสีตามมาตรา ๔๔

๒๐

กำหนดการแบ่งระดับและการกำหนดคุณสมบัติของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ทางรังสี เจ้าหน้าที่ดำเนินการทางเทคนิคเกี่ยวกับวัสดุนิวเคลียร์ และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับ การปฏิบัติการนิวเคลียร์ รวมทั้งหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต และการต่ออายุใบอนุญาตตามมาตรา ๔๕ และมาตรา ๔๖

๒๑

กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับความปลอดภัยและความมั่นคง ปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสี ผู้ครอบครองวัสดุกัมมันตรังสี วัสดุนิวเคลียร์ กัมมันตรังสีหรือ เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว รวมทั้งการกำหนดรายละเอียดของแผนวัสดุกัมมันตรังสี และผู้รับผิดชอบส่งวัสดุ กัมมันตรังสีที่ต้องปฏิบัติตามมาตรา ๔๙

หมวด ๒

คณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ *มาตรา ๖ (๑) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ *มาตรา ๖ (๒) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

มาตรา 9 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ” ประกอบด้วย

1

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ

2

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นรองประธานกรรมการ

3

กรรมการโดยตำแหน่ง จำนวนสิบคน ได้แก่ ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปลัดกระทรวงพลังงาน ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ

4

กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนสี่คน ซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจากบุคคลผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสาขาอันเกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์ วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี หรือกฎหมาย ทั้งนี้ อย่างน้อยหนึ่งคนเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ให้เสนอชื่อโดยสภามหาวิทยาลัยของรัฐ และอย่างน้อยหนึ่งคนเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ให้เสนอชื่อโดยสภามหาวิทยาลัยเอกชน สำนักงานจำนวนไม่น้อยกว่าสองคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการก็ได้

มาตรา 10 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้

1

มีสัญชาติไทย

2

มีอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปีบริบูรณ์ และต้องไม่เกินเจ็ดสิบปีบริบูรณ์

3

ไม่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่นผู้บริหารท้องถิ่น หรือผู้ดำรงตำแหน่งใด ๆ ในพรรคการเมือง

4

ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือพ้นจากไม่เสมอประกอบ

5

ไม่เคยถูกตัดสินให้ (ก) เป็นบุคคลล้มละลายหรือไม่เคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต (ข) ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานของเอกชน เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง หรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงในมาตรา 10 ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ หรือในกรณีที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มขึ้นในระหว่างที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมยังไม่ครบจำนวนตามที่กำหนดในหมวดนี้ ให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทนหรือเพิ่มขึ้นดำรงตำแหน่งได้เท่ากับวาระที่เหลืออยู่ในตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นไปหรือได้เพิ่มขึ้นนั้น ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ ให้คณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการที่เหลืออยู่ได้จนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิครบจำนวน เมื่อครบกำหนดตามวาระในวรรคหนึ่ง หากยังไม่มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นใหม่ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระนั้นอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระ อาจได้รับแต่งตั้งใหม่แต่ต้องดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระไม่ได้

มาตรา 12 นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ

(ก) ตาย (ข) ลาออก (ค) คณะรัฐมนตรีให้ออกเพราะกระทำการหรือมีพฤติการณ์ที่ มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือหย่อนความสามารถ (ง) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา 10

มาตรา 13 คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(ก) เสนอแนะนโยบายและมาตรการต่อคณะรัฐมนตรีในเรื่องดังต่อไปนี้

1

การใช้ประโยชน์จากพลังงานนิวเคลียร์

2

การกำกับดูแลทางนิวเคลียร์และรังสี เพื่อความปลอดภัยและเพื่อประโยชน์แก่การป้องกันหรือระงับเหตุอันตรายวิกฤติ ความเสียหาย หรืออันตราย ต่อสิ่งมีชีวิตระบบนิเวศ สัตว์ พืช หรือทรัพย์สินของสังคม หรือการกำหนดแนวทางหรือหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการควบคุมสิ่งที่อาจก่อให้เกิดคล้องกับความเศรษฐกิจและสังคม (ข) ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการของหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัตินี้ (ค) วางระเบียบควบคุมและติดตามการดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือเงื่อนไขในใบอนุญาตที่ออกให้ตามพระราชบัญญัตินี้ (ง) กำหนดมาตรฐานต่าง ๆ อันพึงใช้โดยเฉพาะเกี่ยวกับ

1

สถานเสริมและอุปกรณ์ที่ใช้ในกิจการนิวเคลียร์และรังสี

2

กำหนดแผนเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีที่มีประสิทธิภาพและอยู่ภายใต้แผนการป้องกันและระงับเหตุอันตรายวิกฤติที่มีความปลอดภัยและเหมาะสม (จ) พิจารณาและวินิจฉัยข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นจากการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ “มาตรา 13 (จ) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562”

ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ หรือคณะที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย

มาตรา ๑๔ การประชุมคณะกรรมการ ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดที่มีอยู่ จึงจะเป็นองค์ประชุม ในการประชุมคณะกรรมการ ถ้าประธานกรรมการไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้หรือประธานกรรมการไม่อยู่ในที่ประชุม ให้ประธานกรรมการรองประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม ในการปฏิบัติหน้าที่ ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ หรือกรรมการผู้ใดมีส่วนได้เสียโดยตรงหรือโดยอ้อมในเรื่องที่คณะกรรมการพิจารณา ให้ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการหรือกรรมการผู้นั้น แจ้งให้ที่ประชุมทราบ และให้ที่ประชุมพิจารณาการปฏิบัติหน้าที่อยู่ในที่ประชุมหรือมีส่วนร่วมในการประชุมต่อไปหรือไม่ กรรมการซึ่งมีส่วนได้เสียในเรื่องใด ๆ ต้องไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนในเรื่องนั้น การลงคะแนนเสียงให้ถือเสียงข้างมาก ในกรณีที่คะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเสียงเป็นเสียงชี้ขาด

มาตรา ๑๕ คณะกรรมการอาจแต่งตั้งอนุกรรมการเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่คณะกรรมการมอบหมาย การประชุมและการปฏิบัติหน้าที่ของอนุกรรมการให้บังคับตามมาตรา ๑๔ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา ๑๖ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้คณะกรรมการมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือเรียกส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ส่งข้อมูลหรือเอกสารใด ๆ ที่เกี่ยวข้องมาเพื่อประกอบการพิจารณาได้ ในกรณีของเรียกบุคคลใด ๆ มาให้ถ้อยคำด้วยก็ได้

มาตรา ๑๗ ให้สำนักงานมุ่งเน้นเกี่ยวกับการกำกับดูแลทางด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรในแผนธุรกิจที่เสนอคณะกรรมการ รวมทั้งประสานงานและให้ความช่วยเหลือแก่หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรในขอบเขตที่คณะกรรมการมอบหมาย

หมวด ๓ วัตถุอันตรายหรือสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตราย

มาตรา ๑๘ วัตถุอันตรายหรือสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตรายต้องอยู่ภายใต้การควบคุมตามพระราชบัญญัตินี้ ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งมิให้เกิดสิ่งแวดล้อมที่เป็นอันตราย หรือก่อผลกระทบครอบครองหรือการใช้สิ่งอันตรายนั้น

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กฎกระทรวงตามวรรคหนึ่งอย่างน้อยให้กำหนดรายละเอียดของชื่อวัสดุคุ้มครองหรือสิ่ง และระดับกัมมันตภาพหรือกิจกรรมและการใช้งานวัสดุกัมมันตรังสี

มาตรา ๑๓ ผู้ใดจะดำเนินการดังต่อไปนี้ ต้องได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน

ผลิต นำไปในครอบครอง หรือใช้วัสดุกัมมันตรังสี

นำเข้า ส่งออก หรือขนส่งวัสดุกัมมันตรังสี การขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาตสำหรับวัสดุกัมมันตรังสีแต่ละประเภท ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๑๔ วัสดุกัมมันตรังสีที่ผู้ดำเนินการไม่ได้ขอรับใบอนุญาตตามมาตรา ๑๓ ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ทั้งนี้ให้คำนึงถึงระดับกัมมันตภาพหรือกิจกรรมและการใช้งานวัสดุกัมมันตรังสี

ผู้ใดมีไว้ในครอบครอง หรือใช้วัสดุกัมมันตรังสีที่ไม่ต้องขอรับใบอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ต้องแจ้งการครอบครองหรือการใช้วัสดุกัมมันตรังสีต่อนายทะเบียน การแจ้งการครอบครองหรือการใช้วัสดุกัมมันตรังสี ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๑๕ ใบอนุญาตตามมาตรา ๑๓ ให้มีอายุ ดังต่อไปนี้

ใบอนุญาตผลิตวัสดุกัมมันตรังสีให้มีอายุห้าปี

ใบอนุญาตนำไปในครอบครองหรือใช้วัสดุกัมมันตรังสีให้มีอายุห้าปี

ใบอนุญาตนำเข้า ส่งออก หรือขนส่งวัสดุกัมมันตรังสีให้มีอายุไม่เกินหกเดือน

ใบอนุญาตส่งออกวัสดุกัมมันตรังสีให้อยู่ตามที่กำหนดในใบอนุญาตแต่ต้องไม่เกินหกเดือน

ใบอนุญาตนำผ่านวัสดุกัมมันตรังสีให้อยู่ตามที่กำหนดในใบอนุญาตแต่ต้องไม่เกินหกเดือน

มาตรา ๑๖ ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตนำผ่านวัสดุกัมมันตรังสีตามมาตรา ๑๓ ขอรับใบอนุญาตที่ไม่ครอบครองวัสดุกัมมันตรังสีนั้นด้วย

มาตรา ๑๗ ผู้รับใบอนุญาตตามนำผ่านวัสดุกัมมันตรังสี ให้ได้รับยกเว้นวันการขอรับใบอนุญาตที่ไม่ครอบครองวัสดุกัมมันตรังสีหรือการแจ้งการมีไว้ในครอบครองวัสดุกัมมันตรังสีนั้นแล้วแต่กรณี

มาตรา ๑๘ ผู้รับใบอนุญาตนำเข้า ส่งออก หรือขนส่งวัสดุกัมมันตรังสีตามมาตรา ๑๓ (๒) ต้องดำเนินการในระหว่างการขนส่งตามมาตรการที่กำหนดในกฎกระทรวง หรือการนำผ่านวัสดุกัมมันตรังสีทางต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับระยะทางกำหนด

มาตรา ๒๕ ให้บรรดาบัญญัติในมาตรา ๑๘ มาใช้บังคับกับการกำหนดเครื่องกำเนิดรังสีที่ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมตามพระราชบัญญัตินี้โดยอนุโลม

มาตรา ๒๖ ผู้ใดจะดำเนินการดังต่อไปนี้ ต้องได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน

ทำเครื่องกำเนิดรังสี

มีไว้ในครอบครองหรือใช้เครื่องกำเนิดรังสี

นำเข้า หรือส่งออกเครื่องกำเนิดรังสี การขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต และการต่อใบอนุญาตสำหรับเครื่องกำเนิดรังสีแต่ละประเภท ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๖/๑ ให้เครื่องกำเนิดรังสีที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับใช้ในกิจการวิจัยทางการแพทย์ที่ไม่มีสารกัมมันตรังสีเป็นส่วนประกอบและเพื่อใช้งานในสถานพยาบาล ตามที่กำหนดในกฎกระทรวงเป็นเครื่องกำเนิดรังสีที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอรับใบอนุญาต

ผู้ใดมีไว้ในครอบครองหรือใช้เครื่องกำเนิดรังสีที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอรับใบอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ต้องแจ้งการครอบครองหรือใช้เครื่องกำเนิดรังสีดังกล่าวต่อนายทะเบียนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่กำหนดในกฎกระทรวง การแจ้งการครอบครองหรือใช้เครื่องกำเนิดรังสีตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๖/๒ นอกจากเครื่องกำเนิดรังสีตามมาตรา ๒๖/๑ ให้เครื่องกำเนิดรังสีอื่นๆ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง เป็นเครื่องกำเนิดรังสีที่ผู้ดำเนินการไม่ต้องขอรับใบอนุญาตตามมาตรา ๒๖ ทั้งนี้ ให้กำหนดเงื่อนไขการแจ้งการครอบครองหรือการใช้งานเครื่องกำเนิดรังสี

ผู้ใดมีไว้ในครอบครองหรือใช้เครื่องกำเนิดรังสีที่ไม่ต้องขอรับใบอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ต้องแจ้งการครอบครองหรือใช้เครื่องกำเนิดรังสีดังกล่าวต่อนายทะเบียนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่กำหนดในกฎกระทรวง การแจ้งการครอบครองหรือใช้เครื่องกำเนิดรังสีตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๗ ใบอนุญาตตามมาตรา ๒๖ ให้แบ่งได้ ดังต่อไปนี้

ใบอนุญาตทำเครื่องกำเนิดรังสีให้ผู้อื่นขาย

ใบอนุญาตมีไว้ในครอบครองหรือใช้เครื่องกำเนิดรังสี

ใบอนุญาตนำเข้าเครื่องกำเนิดรังสีเพื่อขายหรือนำไปอนุญาตแต่ต้องไม่เกินกำหนด *มาตรา ๒๖/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ *มาตรา ๒๖/๒ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

ใบอนุญาตส่งออกเครื่องกำเนิดรังสีให้มีอายุตามที่กำหนดในใบอนุญาตแต่ต้องไม่เกินหกเดือน

มาตรา ๒๔ ผู้ขอรับใบอนุญาตตามมาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๒ ซึ่งเป็นนิติบุคคลเป็นเจ้าของเครื่องกำเนิดรังสีหรือเครื่องกำเนิดรังสีบางประเภทที่ผู้ขอรับใบอนุญาตมิใช่นิติบุคคลธรรมดาให้พ้นชี้ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๕ ผู้ขอรับใบอนุญาตตามมาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๒ ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

(ก) คุณสมบัติ

มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์

มีศักยภาพทางเทคนิคเพียงพอในการดูแลความปลอดภัยและความมั่นคงปลอดภัยของรังสีตามประเภทของอนุญาต การดำเนินการเกี่ยวข้อง และการจัดการทางกัมมันตรังสี หรือมีศักยภาพทางเทคนิคเพียงพอในการดูแลความปลอดภัยของเครื่องกำเนิดรังสีของอนุญาต และเครื่องกำเนิดรังสีที่มีศักยภาพทางเทคนิคเป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง โดยอย่างน้อยต้องมีเรื่องดังต่อไปนี้

สถานที่สำหรับการดำเนินการ

เครื่องมือ อุปกรณ์ และเครื่องใช้

แผนการป้องกันอันตรายจากรังสี

แผนรับมือเหตุฉุกเฉิน

การตรวจสอบรังสี

เป็นคนวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

มิได้มีอยู่ในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้

เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ โดยยังไม่พ้นห้าปีนับแต่วันที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต

เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในความผิดตามพระราชบัญญัตินี้โดยให้พ้นโทษมาไม่เกินห้าปีในวันที่ยื่นคำขอรับใบอนุญาต

มาตรา ๒๖ ผู้ขอรับใบอนุญาตตามมาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๒ ซึ่งเป็นนิติบุคคลต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

(ก) ผู้จัดการหรือผู้แทนนิติบุคคลต้องมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับมาตรา ๒๕ (ก) (๑) และ (๒) (ข) มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๒๕ (ก) (๖) (๗) (๘) และ (๙) (ค) ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้กระทำผิดทางอาญาเกี่ยวกับการกระทำอันเป็นการทุจริต เว้นแต่ได้พ้นโทษมาแล้วห้าปีในวันที่ยื่นคำขอรับใบอนุญาต

มาตรา ๒๗ ผู้ขอรับใบอนุญาตตามมาตรา ๑๔ และมาตรา ๒๒ มีหน้าที่วางหลักประกันตั้งแต่วันที่รับใบอนุญาตเพื่อเป็นหลักประกันในการจัดการกัมมันตรังสี และในการนำเข้า

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๑๐๘ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และ ระยะเวลาที่กำหนดในกฎกระทรวง หลักประกันตามวรรคหนึ่งจะเป็นเงินสด พันธบัตรของรัฐบาลไทย สัญญาค้ำประกัน ของธนาคารหรือหลักประกันอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ถ้าผู้รับใบอนุญาตไม่ชำระค่าธรรมเนียมหรือค่าปรับภายในจำนวนและระยะเวลาที่ กำหนดตามพระราชบัญญัตินี้หรือชำระแล้วแต่ยังไม่ครบถ้วน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจ เรียก หลักประกันตามวรรคหนึ่งที่ครอบคลุมค่าธรรมเนียมหรือค่าปรับดังกล่าว และให้ถือการดำเนินการดังกล่าว เป็นการชำระค่าธรรมเนียมหรือค่าปรับนั้นจนได้รับเงินเรียบร้อยแล้ว และถ้ายังมีเงินเหลือจากการชำระ ค่าธรรมเนียมหรือค่าปรับดังกล่าว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่คืนเงินส่วนที่เหลือให้แก่ผู้รับใบอนุญาตได้ ในกรณีที่มีข้อขัดข้องในการชำระค่าธรรมเนียมหรือค่าปรับในการดำเนินการดังกล่าว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเรื่องการขออนุมัติจากรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป ผู้รับใบอนุญาตต้องให้เจ้าของหลักประกันตามวรรคหนึ่ง ในกรณีที่หลักประกันนั้นไม่ใช่ของ ผู้รับ ใบอนุญาตต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนที่ขาดอยู่ และหากหลักประกันนั้นหรือหลักประกันอื่นที่ผู้รับใบอนุญาต จัดหามาไม่เพียงพอ ให้ผู้รับใบอนุญาตรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนที่ขาดอยู่ หลักประกันตามวรรคหนึ่ง ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี แต่ให้นำมาคำนวณ รับผิดตามพระราชบัญญัตินี้ การเก็บรักษาและการจ่ายหลักประกัน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๑๒ ให้หน่วยงานของรัฐตามที่กำหนดในกฎกระทรวงที่เป็นผู้รับใบอนุญาต ตามมาตรา ๖๒ และมาตรา ๖๓ ไม่ต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติในหมวดนี้

มาตรา ๑๓ การโอนใบอนุญาตตามมาตรา ๖๒ และมาตรา ๖๓ ให้กระทำได้เมื่อ เป็นการโอนใบอนุญาตให้แก่บุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๖๒ มาตรา ๖๓ และมาตรา ๓๐ และได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน

การขอโอนใบอนุญาตและการโอนใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๑๔ ในกรณีผู้รับใบอนุญาตตามมาตรา ๖๒ และมาตรา ๖๓ ตายหรือ สิ้นสภาพนิติบุคคลหรือถูกฟ้องล้มละลาย ให้ทายาทหรือผู้จัดการมรดกหรือผู้ชำระบัญชีทรัพย์สิน ของผู้รับใบอนุญาตดังกล่าวแจ้งการโอนใบอนุญาตในกรณีที่เป็นมรดกหรือการโอนทรัพย์สินหรือ สิ้นสภาพนิติบุคคลหรือการโอนบุคคลล้มละลาย แล้วแต่กรณี หรือกรณีในระยะเวลาที่ผู้อนุญาตขาย ทายาทหรือผู้จัดการมรดกนั้น มิได้ยื่นคำขอภายในระยะเวลาที่กำหนดให้ดำเนินการดังกล่าว ทุกกรณี ประกอบกิจการตามใบอนุญาตนั้นต่อไปจนกว่าจะมีการโอนใบอนุญาตดังกล่าว

ในระหว่างระยะเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าทายาทหรือผู้จัดการมรดกหรือผู้ชำระบัญชีทรัพย์สิน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ซึ่งมีประกอบกิจการตามใบอนุญาตนั้นเป็นผู้รับใบอนุญาต ในกรณีที่มีการขอโอนใบอนุญาตดังกล่าวให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และวรรคแรกของการได้รับอนุญาตตามที่กำหนดโดยกฎหมาย

มาตรา ๒๕ ถ้าผู้รับใบอนุญาตตามมาตรา ๑๙ และมาตรา ๒๖ ประสงค์จะขอต่อ อายุใบอนุญาต ขอใบอนุญาตซ้ำฉบับเดิม หรือเปลี่ยนคำขอตามข้อดังกล่าวแล้วให้ประกอบกิจการ ต่อไปก่อนจนกว่าจะมีคำสั่งไม่ต่ออายุใบอนุญาตนั้น

การขอต่ออายุใบอนุญาตและการต่ออายุใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

หมวด ๔

วัตถุอันตราย

มาตรา ๒๖ ผู้ใดจะดำเนินการดังต่อไปนี้ ต้องได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน

มีไว้ในครอบครองหรือใช้ซึ่งวัตถุอันตราย

นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านซึ่งวัตถุอันตราย การขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาตสำหรับวัตถุ อันตรายให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๗ ใบอนุญาตตามมาตรา ๒๖ ให้มีอายุหนึ่งปีนับแต่วันที่ออกใบอนุญาต

ใบอนุญาตที่ให้มีไว้ในครอบครองหรือใช้ซึ่งวัตถุอันตรายให้ต่อใบอนุญาตทุกปี

ใบอนุญาตนำเข้าซึ่งวัตถุอันตรายให้ต่อใบอนุญาตทุกเท่าที่กำหนดในใบอนุญาตแต่ต้องไม่ เกินหกเดือน

ใบอนุญาตส่งออกซึ่งวัตถุอันตรายให้ต่อใบอนุญาตทุกเท่าที่กำหนดในใบอนุญาตแต่ต้องไม่ เกินหกเดือน

ใบอนุญาตนำผ่านซึ่งวัตถุอันตรายให้ต่อใบอนุญาตทุกเท่าที่กำหนดในใบอนุญาตแต่ต้องไม่ เกินหกเดือน

มาตรา ๒๘ วัตถุอันตรายที่ได้ดำเนินการไม่ต้องขอรับใบอนุญาตตามมาตรา ๒๖ ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงปริมาณ ความเข้มข้น และองค์ประกอบของ วัตถุอันตรายหรือลักษณะการใช้งานวัตถุอันตราย

ผู้ใดที่มีไว้ในครอบครองวัตถุอันตรายที่ไม่ต้องขอรับใบอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ต้องแจ้ง ปริมาณการครอบครองวัตถุอันตรายดังกล่าวต่อเจ้าหน้าที่ การแจ้งการครอบครองวัตถุอันตรายให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และ ระยะเวลาที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๙ ผู้รับใบอนุญาตนำเข้า ส่งออก หรือผ่านซึ่งวัตถุอันตรายตามมาตรา ๒๖ (๒) ต้องนำผ่านในราชอาณาจักร ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร หรือผ่านนำเข้าสู่วัตถุอันตราย ทางท่าอากาศยานหรือท่าเรือระหว่างประเทศที่กำหนด

มาตรา ๑๔ ผู้ขอรับใบอนุญาตตามมาตรา ๑๓ ต้องเป็นบุคคล เช่นเดียวกับในกรณีรับจ้างประเภทที่ผู้ขอรับใบอนุญาตจะเป็นบุคคลธรรมดาก็ได้ ทั้งนี้ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๑๕ ผู้ขอรับใบอนุญาตตามหมวด ๓ ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

คุณสมบัติ (ก) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ (ข) มีสภาพทางเทคนิคเพียงพอในการดูแลความปลอดภัย ความสมบูรณ์ ปลอดภัยและการพิทักษ์ความปลอดภัยของวัสดุในลักษณะที่ขออนุญาต การดำเนินการเมื่อเกิดเหตุการณ์วิกฤตการณ์ฉับพลันร้ายแรง และการจัดการเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้ ศักยภาพทางเทคนิคให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง โดยอย่างน้อยต้องมีเรื่องดังต่อไปนี้

สถานที่ซึ่งกันหรือสถานที่ประกอบกิจการ

เครื่องมือ อุปกรณ์ และเครื่องใช้

ระบบการควบคุมความปลอดภัย

ระบบการควบคุมการบำรุงรักษา

ระบบการควบคุมการจัดการทรัพยากร

ลักษณะต้องห้าม (ก) เคยถูกลงโทษจำคุกในคดีอาญา หรือคดีเกี่ยวกับความมั่นคง (ข) เป็นผู้ถูกสั่งให้ล้มละลายหรือยังไม่พ้นจากการล้มละลาย (ค) เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาต (ง) เคยต้องคำพิพากษาสูงสุดให้จำคุกเนื่องจากการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ โดยให้พ้นโทษมาไม่ต่ำกว่าห้าปีก่อนวันที่ยื่นคำขอรับใบอนุญาต

มาตรา ๑๖ ผู้ขอรับใบอนุญาตตามมาตรา ๑๓ ซึ่งเป็นนิติบุคคล ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

ผู้จัดการหรือผู้แทนนิติบุคคลต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๕ (๑) (ก) และ (ข)

มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๕ (๑) และ (๒) (ข) และ (ค)

ไม่เคยต้องคำพิพากษาสูงสุดให้จำคุกเนื่องจากการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ โดยให้พ้นโทษมาไม่ต่ำกว่าห้าปีก่อนวันที่ยื่นคำขอรับใบอนุญาต

มาตรา ๑๗ การโอนใบอนุญาตตามมาตรา ๑๓ ให้กระทำได้เมื่อเป็นการโอนใบอนุญาตให้แก่บุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๕ มาตรา ๑๖ และมาตรา ๑๔ และได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการ

การขอใบอนุญาตและการโอนใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๔๔ ให้บังคับบัญญัติในมาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ มาตรา ๓๕ และมาตรา ๓๖ มาใช้บังคับกับการดำเนินการเกี่ยวกับวัตถุอันตรายโดยอนุโลม

หมวด ๕

สถานประกอบการทางนิวเคลียร์

ส่วนที่ ๑

บททั่วไป

มาตรา ๔๕ ผู้ใดจะตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ต้องได้รับใบอนุญาตให้ใช้พื้นที่เพื่อจัดตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ ใบอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ และใบอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ หากเสนอคำขอโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ตามลำดับ

มาตรา ๔๖ ผู้ขอจัดตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ตามมาตรา ๔๕ ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

(ก) เป็นบริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด หรือบุคคลอื่นที่กฎหมายกำหนดว่าต้องมีลักษณะดังกล่าว (ข) ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรืออยู่ในระหว่างถูกฟื้นฟูกิจการ (ค) ไม่เป็นผู้ถูกสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ (ง) ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่ได้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตมาแล้วก่อนวันที่ยื่นคำขอรับใบอนุญาต (จ) ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่ได้พ้นโทษมาแล้วก่อนวันที่ยื่นคำขอรับใบอนุญาต

มาตรา ๔๗ กรรมการและผู้ถือหุ้นของกิจการตามมาตรา ๔๖ (ก) ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

(ก) มีสัญชาติไทยหรือมีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร (ข) ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในความผิดตามพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งทางนิวเคลียร์ เว้นแต่ได้พ้นโทษมาแล้วก่อนวันที่ยื่นคำขอรับใบอนุญาต (ค) ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๔๖ (ข) (ค) (ง) และ (จ)

มาตรา ๔๘ การจัดตั้งหรือการดำเนินการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ให้เป็นไปตามข้อกำหนดกฎหมายว่าด้วยโรงงานและกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร แต่ทั้งนี้เฉพาะที่เกี่ยวข้อง

สถานประกอบการทางนิวเคลียร์ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งต้องมีมาตรฐานเกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรงและความปลอดภัยให้สอดคล้องกับที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยโรงงานและกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร

มาตรา ๔๓ ในการประกอบกิจการของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ที่ได้รับอนุญาตให้มีการดำเนินการหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับพลังงานนิวเคลียร์ ให้ผู้รับใบอนุญาตจัดให้มีการดำเนินการหรือกิจกรรมดังกล่าวให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการควบคุมดูแลการประกอบกิจการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ดังกล่าวร่วมกัน

การดำเนินการตามวรรคหนึ่งอาจกำหนดให้มีการกระทำอย่างใดร่วมกัน การกำหนดหลักเกณฑ์หรือวิธีการให้ต้องปฏิบัติเพิ่มเติม การกำหนดให้ผลเป็นการยกเว้นหลักเกณฑ์หรือวิธีการในการควบคุมดูแลการประกอบกิจการของผู้รับใบอนุญาตรายอื่น หรือการกำหนดให้มีการพัฒนาปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไขในการควบคุมดูแลการประกอบกิจการของผู้รับใบอนุญาตรายอื่นให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนและความปลอดภัยในการประกอบกิจการเป็นสำคัญ ข้อกำหนดในวรรคหนึ่ง เมื่อมีการกำหนดขึ้นตามความในวรรคหนึ่ง ให้ถือเสมือนเป็นเงื่อนไขในใบอนุญาต บังคับได้

มาตรา ๔๔ การโอนใบอนุญาตให้ดำเนินการในพื้นที่ที่ตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ในอนุญาตผู้กระทำการตามมาตรา ๔๓ วรรคหนึ่ง ให้ผู้รับใบอนุญาตรายเดิมยื่นคำขออนุญาตโอนใบอนุญาตให้กระทำได้เมื่อมีการขอโอนใบอนุญาตให้แก่บุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๔๒ และมาตรา ๔๔ และได้รับอนุญาตจากนายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

การขอโอนใบอนุญาตและการโอนใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

ส่วนที่ ๒

พื้นที่ตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์

มาตรา ๔๕ ในการตั้งพื้นที่สถานประกอบการทางนิวเคลียร์ ผู้ประกอบการทางนิวเคลียร์ต้องได้รับใบอนุญาตให้ตั้งพื้นที่ที่ตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์จากนายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

ในการยื่นคำขอรับใบอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตยื่นคำขอรับใบอนุญาตพร้อมด้วยรายงานวิเคราะห์ความเหมาะสมของพื้นที่ตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ การจัดทำรายงานวิเคราะห์ความเหมาะสมของพื้นที่ตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนดซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วยรายละเอียดของเรื่องดังต่อไปนี้ (ก) ผลกระทบจากเหตุการณ์ร้ายแรงอาจเกิดขึ้นที่มีผลกระทบต่อการทางานนิวเคลียร์ ทั้งในส่วนที่เกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติและการกระทำของมนุษย์ (ข) ลักษณะของพื้นที่ที่ตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ (ค) รายงานด้านสิ่งแวดล้อม (ง) การกระจายตัวของประชากรบริเวณโดยรอบพื้นที่ตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ (จ) เส้นทางการอพยพประชาชนกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี (ฉ) การป้องกันและระงับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นแก่ประชาชนและสิ่งแวดล้อม การขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาตให้เป็นไปเพื่อตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 25 ในการพิจารณาออกใบอนุญาตให้พื้นที่ที่ตั้งเพื่อที่จะตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ต้องมีการกำหนดพื้นที่กันชนที่เหมาะสมโดยรอบพื้นที่ที่ตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการประกอบการในอนาคต ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 26 ในกรณีผู้รับใบอนุญาตมีความประสงค์จะต่ออายุใบอนุญาต ให้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตต่อสำนักงานก่อนวันที่ใบอนุญาตเดิมสิ้นอายุไม่น้อยกว่าสามสิบวัน แต่ไม่เกินเก้าสิบวัน และการขอต่ออายุใบอนุญาตให้ได้ครั้งละไม่เกินสิบปี

ในกรณีผู้รับใบอนุญาตให้พื้นที่ที่ตั้งเพื่อที่จะตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ประสงค์จะขอต่ออายุใบอนุญาต ให้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตพร้อมทั้งแสดงว่าพื้นที่นั้นยังคงเป็นไปตามเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง การขอต่ออายุใบอนุญาตและการต่ออายุใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 27 เมื่อมีข้อสังเกตโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการออกใบอนุญาตให้แจ้งเป็นหนังสือถึงผู้รับใบอนุญาตให้ทราบ หากการแจ้งดังกล่าวมีสาระสำคัญซึ่งอาจมีผลต่อไปในอนาคต ให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการแก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้องตามที่กำหนด

ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตไม่ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงตามที่กำหนด ให้สำนักงานมีอำนาจสั่งให้ผู้รับใบอนุญาตหยุดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อสังเกตดังกล่าวจนกว่าจะดำเนินการแก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้อง การแก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้องตามข้อสังเกตดังกล่าว ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หากผู้รับใบอนุญาตให้ใช้พื้นที่เพื่อตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ไม่ชำระรายงานวิเคราะห์ความเหมาะสมของพื้นที่ดังกล่าวในระยะเวลาที่คณะกรรมการพิจารณาใบอนุญาตกำหนด ให้เสนอรายงานดังกล่าวออกไป ให้เลขาธิการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้พื้นที่เพื่อตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ ในกรณีที่เลขาธิการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการให้ความเห็นว่ารายงานวิเคราะห์ความเหมาะสมของพื้นที่ดังกล่าวไม่เหมาะสม ให้เลขาธิการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้พื้นที่เพื่อตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ดังกล่าวต่อไป ให้เลขาธิการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้พื้นที่เพื่อตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์

ส่วนที่ 3

การก่อสร้าง และการติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์

มาตรา 45 ผู้รับใบอนุญาตให้ใช้พื้นที่เพื่อตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ที่ประสงค์จะก่อสร้างสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ต้องได้รับใบอนุญาตก่อสร้างสถานประกอบการทางนิวเคลียร์จากเลขาธิการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการก่อนจึงจะดำเนินการก่อสร้างได้

ในการยื่นขอใบอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตยื่นคำขอพร้อมด้วยใบอนุญาตให้ใช้พื้นที่เพื่อตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ รายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ฉบับสมบูรณ์ และเอกสารหรือหลักฐานอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง โดยจะกำหนดให้แตกต่างกันตามประเภทของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ก็ได้ การขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาตก่อสร้างสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 46 รายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ฉบับสมบูรณ์ต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับแบบก่อสร้าง การรักษาความปลอดภัย และการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสี และข้อมูลอื่น ๆ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

กฎกระทรวงตามวรรคสองต้องกำหนดให้แตกต่างกันตามประเภทของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ก็ได้

มาตรา 47 เมื่อเลขาธิการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการออกใบอนุญาตก่อสร้างสถานประกอบการทางนิวเคลียร์แล้ว หากปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกี่ยวกับข้อมูลหรือรายละเอียดในรายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ฉบับสมบูรณ์ ให้เลขาธิการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสั่งให้ผู้รับใบอนุญาตก่อสร้างสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ยื่นรายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ฉบับใหม่

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สถานประกอบการทางเงินคลังรับใบอนุญาตเบื้องต้นในส่วนที่เกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เปลี่ยนแปลงไปใหม่ ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยต้องมีการวิเคราะห์ความปลอดภัยให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นด้วย ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตไม่อาจยื่นรายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางเงินคลังรับใบอนุญาตเบื้องต้นได้ภายในระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง ให้ยื่นคำขอขยายระยะเวลาดังกล่าวต่อคณะกรรมการพร้อมเหตุผลประกอบการขอขยายระยะเวลา ทั้งนี้ระยะเวลาที่ขยายรวมแล้วต้องไม่เกินหนึ่งร้อยแปดสิบวัน และหากผู้รับใบอนุญาตมิได้ยื่นรายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางเงินคลังรับใบอนุญาตเบื้องต้นภายในระยะเวลาที่กำหนดตามวรรคหนึ่งหรือภายในระยะเวลาที่ขยายออกไป ให้ถือว่าใบอนุญาตดังกล่าวสิ้นผลไปโดยผลของกฎหมาย ในกรณีที่คณะกรรมการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการให้จัดทำรายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางเงินคลังรับใบอนุญาตเบื้องต้นตามความเห็นของคณะกรรมการที่แต่งตั้งคณะอนุกรรมการวิเคราะห์สถานประกอบการทางเงินคลังรับใบอนุญาตเบื้องต้น

มาตรา 54 ใบอนุญาตต่อสร้างสถานประกอบการทางเงินคลังที่มีอายุตามที่กำหนดในกฎหมาย แต่ต้องไม่เกินสิบปี และอาจต่ออายุใบอนุญาตให้มีผลใช้บังคับระยะเวลาไม่เกินสิบปี

ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตต่อสร้างสถานประกอบการทางเงินคลังต้องการต่ออายุใบอนุญาต ให้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตก่อนที่ใบอนุญาตเดิมจะสิ้นผลไปไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบวัน พร้อมด้วยรายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางเงินคลังรับใบอนุญาตเบื้องต้นที่ได้แก้ไขข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน การต่ออายุใบอนุญาตและการต่ออายุใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 55 ผู้รับใบอนุญาตต่อสร้างสถานประกอบการทางเงินคลังต้องรายงานความคืบหน้าในการต่อสร้างต่อเจ้าหน้าที่ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในรายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางเงินคลังรับใบอนุญาตเบื้องต้น

มาตรา 56 ห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตต่อสร้างสถานประกอบการทางเงินคลังดำเนินการต่อสร้างสถานประกอบการทางเงินคลังรับใบอนุญาตที่ได้รับใบอนุญาตนั้นให้มีความผิดไปจากแผนและแบบต่อสร้างที่ได้รับอนุญาต เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ และหากการต่อสร้างดังกล่าวมีผลให้ต้องแก้ไขรายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางเงินคลังรับใบอนุญาตเบื้องต้น ให้ผู้รับใบอนุญาตแก้ไขแผนและแบบต่อสร้างตามที่แก้ไข

หากการก่อสร้างที่ผิดไปจากที่ได้รับใบอนุญาตนั้นอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนและสิ่งแวดล้อมให้เจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบหรือพิจารณากระทำดังกล่าว และให้ผู้รับใบอนุญาตหรือเจ้าของอาคารที่พบเหตุร้ายส่วนหนึ่งในระยะเวลาที่กำหนด

มาตรา ๒๐ ในกรณีที่มีการติดตั้งเครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์ แต่ตกไปจากในรายการที่แสดงความปลอดภัยของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ต้องแจ้งให้ทราบบัญชีตามในมาตรา ๒๐ ให้เจ้าหน้าที่โดยมิช้า

ส่วนที่ ๔

การทดสอบเครื่องและการดำเนินการ

มาตรา ๒๑ ในกรณีที่การก่อสร้างสถานประกอบการทางนิวเคลียร์เสร็จ ก่อนที่จะขอรับใบอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ ให้ผู้รับใบอนุญาตก่อสร้างสถานประกอบการทางนิวเคลียร์หรือเจ้าของอาคารแจ้งการแล้วเสร็จ โดยมิช้า และระยะเวลาการทดสอบระบบเครื่องจักรและอุปกรณ์ในสถานประกอบการทางนิวเคลียร์นั้นไม่อาจเกินกำหนด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความพร้อมก่อนการดำเนินการ

เมื่อการทดสอบระบบเครื่องจักรและอุปกรณ์เสร็จสิ้นแล้ว ผู้รับใบอนุญาตก่อสร้างสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ต้องจัดทำรายงานผลการทดสอบระบบเครื่องจักรและอุปกรณ์และการเลิกการทดสอบเพื่อจัดการให้ความเหมือนตาม

มาตรา ๒๒ ในกรณีที่มีดังต่อไปนี้ ผู้รับใบอนุญาตก่อสร้างสถานประกอบการทางนิวเคลียร์หรือได้รับอนุญาตจากเลขาธิการ

การบรรจุเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์และดำเนินการเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์

การบรรจุวัสดุนิวเคลียร์ในกระบวนการผลิตหรือการแปรสภาพวัสดุนิวเคลียร์หรือการบรรจุผลิตภัณฑ์นิวเคลียร์ในกระบวนการแปรสภาพเพื่อพลังงานนิวเคลียร์นั้น การดำเนินการดังกล่าวต้องอยู่ภายใต้ความควบคุมของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๔ ผู้ดำเนินการจัดตั้งสถานประกอบการทางจิตเวชที่ประสงค์ดำเนินการสถานประกอบการทางจิตเวชสีขาว ต้องได้รับใบอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางจิตเวชจากเจ้าหน้าที่โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

ในการยื่นขอรับใบอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตยื่นคำขอพร้อมด้วยเอกสารหลักฐานที่กรมการแพทย์กำหนด โดยปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวงและการตรวจสอบความพร้อมของสถานประกอบการทางจิตเวชสีขาวตามที่กรมการแพทย์กำหนด รายงานการตรวจสอบความปลอดภัยของสถานประกอบการทางจิตเวชสีขาวตามวรรคสองต้องประกอบด้วยข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลปัจจุบันของรายงานการวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางจิตเวชสีขาวฉบับดังกล่าว และรายงานการตรวจสอบตามมาตรา ๒๓ และในกรณีที่มีการดำเนินการตามมาตรา ๒๓ ทวิ ต้องมีรายงานการตรวจสอบตามมาตรา ๒๓ ทวิ ด้วย เอกสารที่ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องยื่นตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวงโดยคำนึงถึงมาตรการและหลักเกณฑ์การดำเนินการตรวจสอบที่เหมาะสมกับประเภทของสถานประกอบการทางจิตเวชสีขาว การขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางจิตเวชสีขาว ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๕ ใบอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางจิตเวชสีขาวให้มีอายุที่กำหนดในใบอนุญาต แต่ต้องไม่เกินห้าปีนับ และอาจขอต่ออายุใบอนุญาตได้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๒๖ ในการออกใบอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางจิตเวชสีขาวที่ใช้เครื่องมือปฏิบัติทางจิตเวช ต้องการความเห็นชอบของคณะกรรมการจึงจะดำเนินการตามเงื่อนไขของเครื่องมือที่ปรากฏในรายงานการตรวจสอบความปลอดภัยของสถานประกอบการทางจิตเวชสีขาวที่กรมการแพทย์ออกใบอนุญาตให้

มาตรา ๒๗ ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางจิตเวชสีขาวที่มีหน้าที่ทบทวนและปรับปรุงรายงานการวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางจิตเวชสีขาวตามระยะเวลาและกรณีที่กำหนดในกฎกระทรวง หรือเมื่อมีเหตุการณ์ที่มีเหตุให้รายงานดังกล่าวทำความปลอดภัยไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน

ในการนี้ผู้รับใบอนุญาตต้องจัดให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยของสถานประกอบการทางจิตเวชสีขาวที่ได้ปรับปรุงรายงานการวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางจิตเวชสีขาวฉบับดังกล่าว และให้เสนอวิธีการยื่นขออนุญาตต่อเจ้าหน้าที่เพื่อพิจารณาอนุญาตให้ดำเนินการตามที่ระบุไว้ในรายงานดังกล่าว โดยให้เจ้าหน้าที่พิจารณาอนุญาตให้ดำเนินการตามที่ระบุไว้ในรายงานดังกล่าว โดยให้เจ้าหน้าที่พิจารณาอนุญาตให้ดำเนินการตามที่ระบุไว้ในรายงานดังกล่าว ในกรณีที่เสนอกิจการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการให้พิจารณารายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ที่เสนอให้ดำเนินการดำเนินการในสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ดังต่อไปนี้ จำเป็นต้องมีการวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์โดยให้เสนอกิจการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการที่ให้ผู้รับใบอนุญาตแก้ไขรายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์นั้น หากผลของการวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ที่เสนอไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายนิวเคลียร์หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้เสนอรายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์นั้นต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาอนุญาตตามแนวทางการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์จากผู้รับใบอนุญาตแก้ไขรายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยและได้รับความเห็นชอบจากรายงานวิเคราะห์ความปลอดภัยนั้นก็เป็นอันสำเร็จ

มาตรา 28 ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ที่มีประสบการณ์นั้นให้ถือว่าอยู่ภายใต้บังคับของการสั่งงานไม่ว่าจะดำเนินการอย่างใดให้เลขาธิการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการอาจขอให้หน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ ร่วมกันตรวจสอบผู้รับใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์นั้นตามมาตรฐานความปลอดภัยของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ที่กำหนดไว้ หรืออาจจัดให้มีการดำเนินการตรวจสอบสถานประกอบการทางนิวเคลียร์นั้นได้

สิทธิและหน้าที่ของผู้รับใบอนุญาต ให้หน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ ร่วมกันตรวจสอบผู้รับใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์นั้นตามมาตรฐานความปลอดภัยของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ที่กำหนดไว้ โดยหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนนั้นจะต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อสงวนรักษาทรัพย์ของผู้รับใบอนุญาตเหมือนเช่นผู้ดำเนินการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์หรือผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องในนิวเคลียร์ และหากเกิดความเสียหายแก่ผู้รับใบอนุญาต ให้ผู้รับใบอนุญาตมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ตามกฎหมายหรือข้อบังคับของคณะกรรมการกำหนด การเบิกจ่ายให้และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาของการดำเนินการแทนระหว่างผู้เข้าดำเนินการแทนและผู้รับใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา 29 ให้นำบทบัญญัติในมาตรา 27 และมาตรา 28 มาใช้บังคับกับการดำเนินการหลักประกันของผู้รับใบอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ เพื่อเป็นหลักประกันในการจัดการดำเนินการกลับคืนสู่สภาพจัดการเพื่อสิ้นสุดกิจการนิวเคลียร์ในพื้นที่ดำเนินการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์โดยปฏิบัติ

ส่วนที่ 5 การเลิกดำเนินการ

มาตรา ๗๐ ให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์ที่ประสงค์จะเลิกดำเนินการสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์ ยื่นคำขอเลิกดำเนินการสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์พร้อมด้วยแผนการเลิกดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในระเบียบว่าด้วยความปลอดภัยของสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์รวมถึงแผนชดเชยค่าใช้จ่าย ที่ตั้ง แผนการเลิกดำเนินการดังกล่าวต้องมีการปรับปรุงให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ

การยื่นคำขอเลิกดำเนินการและรายละเอียดของแผนการเลิกดำเนินการสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์ในแต่ละประเภทตามพระราชกฤษฎีกา ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๗๑ ในกรณีที่เลขาธิการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการเห็นชอบให้เลิกดำเนินการสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์ ให้เสนอคำขอออกใบอนุญาตเลิกดำเนินการสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์ให้กับผู้ยื่นคำขอตามมาตรา ๗๐ โดยระบุให้ยกเลิกใบอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์ในประเภทดังกล่าวนั้นและการเลิกดำเนินการสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์ต้องไม่เกินระยะเวลาที่ระบุในแผนการเลิกดำเนินการสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์

มาตรา ๗๒ ผู้รับใบอนุญาตเลิกดำเนินการสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์ซึ่งประสงค์จะดำเนินการสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์ที่มีแผนการเลิกดำเนินการสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์ ให้ยื่นคำขอเลิกแผนการเลิกดำเนินการสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์ต่อเลขาธิการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาที่กำหนดในกฎกระทรวง

ในกรณีที่เทคโนโลยีที่ใช้ในการเลิกดำเนินการสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์มีการเปลี่ยนแปลงไปหรือมีประโยชน์แห่งความปลอดภัย ให้เลขาธิการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการอาจสั่งให้ผู้รับใบอนุญาตเลิกดำเนินการสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์แก้ไขแผนการเลิกดำเนินการสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์ได้

มาตรา ๗๓ ผู้รับใบอนุญาตเลิกดำเนินการสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์ที่ประสงค์ให้สถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์ที่พ้นหรือล่วงส่วนพ้นจากการควบคุมตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ

เมื่อเลขาธิการเห็นชอบ การเลิกดำเนินการสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์ในส่วนที่ผู้รับใบอนุญาตเลิกดำเนินการสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์ร้องขอแล้ว ให้สถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์ดังกล่าวพ้นหรือล่วงส่วนพ้นจากการควบคุมตามพระราชบัญญัตินี้ และให้คณะกรรมการอาจสั่งให้สถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์นั้นบังคับจากการควบคุมตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๗๔ ผู้รับใบอนุญาตเลิกดำเนินการสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผนการเลิกดำเนินการสถานประกอบการทางน้ำเฉลีย์ หากเลขาธิการ

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่า การดำเนินการจะไม่แล้วเสร็จภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว เลขาธิการอาจมีคำสั่งอนุญาตให้บุคคลดังกล่าวดำเนินการหรือขนย้ายหรือร่วมดำเนินการขนย้ายอุปกรณ์ตกค้างในราชอาณาจักรตามประกาศของทางการจนแล้วเสร็จ โดยใช้งบประมาณจากกองทุนหรือเงินงบประมาณ ในกรณีที่หลักทรัพย์ค้ำประกันไม่เพียงพอ ผู้รับใบอนุญาตต้องจัดทำแผนหรือรายการประกอบการทางการเงินเสนอต่อเจ้าหน้าที่ผู้อนุมัติ และหากมีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพียงพอให้คืนแก่ผู้รับใบอนุญาตโดยคืนเป็นการทยอยตามรายการประกอบการทางการเงินเสร็จ

หมวด 6

การกำกับดูแลทรัพย์

มาตรา 54 ห้ามผู้ใดนำกากกัมมันตรังสีเข้ามาในราชอาณาจักร เว้นแต่เป็นการนำเข้ากากกัมมันตรังสีที่เกิดจากการสั่งกากกัมมันตรังสีในราชอาณาจักรไปจัดการนอกราชอาณาจักร หรือที่เกิดจากการส่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้วไปแปรสภาพนอกราชอาณาจักร โดยได้รับใบอนุญาตจากเลขาธิการ การขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 55 ผู้ใดจะส่งกากกัมมันตรังสีออกไปนอกราชอาณาจักร ต้องได้รับใบอนุญาตจากเลขาธิการ การขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 56 ผู้รับใบอนุญาตนำเข้ากากกัมมันตรังสีตามมาตรา 54 หรือใบอนุญาตส่งออกกากกัมมันตรังสีตามมาตรา 55 ต้องนำเข้าในราชอาณาจักรหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งกากกัมมันตรังสีตามที่บุคคลที่ได้รับการประกาศกำหนด

มาตรา 57 ห้ามมิให้ผู้ใดปล่อยกากกัมมันตรังสีหรือกากกัมมันตรังสีออกสู่สิ่งแวดล้อม เว้นแต่เป็นการกากกัมมันตรังสีซึ่งระดับกากกัมมันตรังสีตามและค่ารังสีตกตามที่กำหนดในกฎกระทรวงและได้ดำเนินการปล่อยกากกัมมันตรังสีดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในกฎกระทรวง

มาตรา 58 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 54 หรือมาตรา 55 ต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง กากกัมมันตรังสีใดที่ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามต้องส่งให้พนักงานของรัฐจัดการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวง

ผู้รับผิดชอบ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา 40 ผู้ให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี ต้องได้รับใบอนุญาตให้ใช้พื้นที่เพื่อตั้งสถานที่ในการจัดการกากกัมมันตรังสี ใบอนุญาตจัดการกากกัมมันตรังสี และใบอนุญาตดำเนินการให้บริการจัดการกากกัมมันตรังสี จากนายทะเบียนตามความเห็นชอบของคณะกรรมการ ตามลำดับ

ให้ใบอนุญาตมีอายุไม่เกินห้าปี สถานประกอบการทางการเงิน และขนาด ความกว้างของกิจการตามความมั่นคงปลอดภัย รวมทั้งเหตุผลที่จำเป็นอย่างอื่นบังคับโดยอนุโลม

มาตรา 41 ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางการเงินต้องจัดการกากกัมมันตรังสีที่เป็นไปตามประมวลระเบียบการความปลอดภัยของสถานประกอบการทางนิวเคลียร์และตามบทบัญญัติในหมวดนี้

มาตรา 42 ผู้รับใบอนุญาตผลิต มีไว้ครอบครอง หรือใช้วัสดุกัมมันตรังสีต้องนำวัสดุกัมมันตรังสีที่ไม่ใช้แล้วหรือวัสดุกัมมันตรังสีที่เลือกเพื่อประโยชน์ในการจัดการความปลอดภัยมาให้ข้อกำหนดในใบอนุญาต ไม่ให้ประโยชน์ในระยะเวลาที่กำหนดเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสีที่ผู้รับใบอนุญาตผลิต มีไว้ครอบครอง หรือใช้วัสดุกัมมันตรังสีที่เลือกเพื่อประโยชน์ในการจัดการความปลอดภัยในหมวดนี้ต่อไป

มาตรา 43 ในกรณีที่ใบอนุญาตตามมาตรา 40 (4) ใช้สำหรับการตรวจประเมินการตรวจโรงงานโดยผู้ตรวจสอบ และต้องมีการแสดงตำแหน่งหรือวิธีการปิดหลุมสำรวจปิโตรเลียมในใบอนุญาตดังกล่าวต้องดำเนินการเพื่อทำวัสดุกัมมันตรังสีขึ้นมาจากหลุมสำรวจปิโตรเลียม และแจ้งให้เลขาธิการทราบตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง

ในกรณีที่ไม่สามารถนำวัสดุกัมมันตรังสีขึ้นมาจากหลุมสำรวจปิโตรเลียมได้ ให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งอย่างน้อยต้องมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ (ก) การแสดงตำแหน่งหรือวิธีการของหลุมสำรวจปิโตรเลียมที่วัสดุกัมมันตรังสีตกค้างอยู่ (ข) วิธีการปิดหลุมสำรวจปิโตรเลียม

หมวด 7

เรื่องพลังงานนิวเคลียร์ในตัว

มาตรา 44 ห้ามผู้ใดนำพลังงานนิวเคลียร์ในตัวไปใช้งานในราชอาณาจักร เว้นแต่เป็นการปกป้องในระบบการตรวจสอบ การวิจัย หรือการเรียนรู้เกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์และส่งออกไปนอกประเทศ โดยได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการ

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา การขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 45 ห้ามมิให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักรหรือผ่านราชอาณาจักรซึ่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในลำดับ เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตตามหลักเกณฑ์และวิธีการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ ในการขอรับใบอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตแสดงหลักฐานตามหลักฐานที่รัฐผู้รับ ประเทศปลายทาง หรือผู้มีสิทธิครอบครองตามกฎหมายของประเทศปลายทางกำหนดว่าครอบครองเชื้อเพลิงนิวเคลียร์นั้นชอบด้วยกฎหมาย

การขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 46 ผู้รับใบอนุญาตนำเข้าเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในลำดับตามมาตรา 44 หรือผู้รับใบอนุญาตส่งออกหรือผ่านเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในลำดับตามมาตรา 45 วรรคหนึ่ง จะนำเข้าในราชอาณาจักรหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในลำดับตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่บริการประจำท่าเท่านั้น

มาตรา 47 ผู้รับใบอนุญาตเก็บรักษาเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในลำดับต้องจัดให้มีห้องเก็บเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในลำดับ ต้องมีระบบจัดเก็บเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในลำดับที่ได้รับการอนุญาตตามข้อกำหนดของคณะกรรมการ และต้องจัดให้มีระบบการรักษาความปลอดภัยและการป้องกันอันตรายจากเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในลำดับที่ได้รับการอนุญาตตามข้อกำหนดของคณะกรรมการ

การเก็บรักษาเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในลำดับ การส่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในลำดับแก่หน่วยงานของรัฐหรือการส่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในลำดับไปจัดการตามระยะเวลาที่กำหนด และการส่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในลำดับกลับคืนแก่เจ้าของหรือผู้ครอบครองเดิม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง

หมวด 8 ความปลอดภัย ความมั่นคงปลอดภัย และการพิทักษ์ความปลอดภัย

มาตรา 48 ให้ผู้รับใบอนุญาตตามมาตรา 43 ซึ่งครอบครองวัสดุนิวเคลียร์พิเศษและผู้รับใบอนุญาตตามมาตรา 46 ซึ่งครอบครองวัสดุนิวเคลียร์ ยื่นรายงานแสดงปริมาณของวัสดุที่มีในครอบครองหรือวัสดุที่มีในครอบครองต่อเลขาธิการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาที่เลขาธิการกำหนด

มาตรา 49 ผู้ใดจัดตั้งและพัฒนาปฏิกรณ์เพื่อผลิตเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในวัสดุนิวเคลียร์ต้องแจ้งให้เลขาธิการทราบตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่เลขาธิการกำหนด

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๔๐ ผู้ดำเนินกิจการทางนิวเคลียร์ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ต้องแจ้งให้เลขาธิการทราบตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่เลขาธิการกำหนด

มาตรา ๔๑ ผู้รับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับความปลอดภัยและความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสี และการพิทักษ์ทางนิวเคลียร์ แล้วแต่กรณี ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๔๒/๑ ผู้ได้รับใบครอบครองหรือใช้วัสดุนิวเคลียร์ตามมาตรา ๒๖ หรือเครื่องกำเนิดรังสีตามมาตรา ๒๖/๒ หรือผู้ได้รับใบครอบครองวัสดุต้นกำลังตามมาตรา ๒๗ ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับความปลอดภัยและความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสี และการพิทักษ์ทางนิวเคลียร์ แล้วแต่กรณี ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

ผู้ได้รับใบครอบครองหรือใช้เครื่องกำเนิดรังสีตามมาตรา ๒๖/๒ ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๔๓ ผู้รับใบอนุญาตผลิต มีไว้ในครอบครอง หรือใช้วัสดุพลอยนิวเคลียร์ซึ่งปราศจากรังสี ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับความปลอดภัยและความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสี ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๔๔ ผู้รับใบอนุญาตตามมาตรา ๒๖ (๑) และ (๒) ต้องจัดให้มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับวัสดุนิวเคลียร์หรือเครื่องกำเนิดรังสีปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่ทำการของผู้รับใบอนุญาตตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๔๕ ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ที่มีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ต้องให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่ทำการของผู้รับใบอนุญาตตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๔๖ เจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๔๔ เจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๔๕ เจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการทางเทคนิคเกี่ยวกับวัสดุนิวเคลียร์ และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ต้องได้รับใบอนุญาตจากเลขาธิการ

เจ้าหน้าที่ตามวรรคหนึ่งต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

มีสัญชาติไทย เว้นแต่ในกรณีที่มีความจำเป็นและสมควรตามเห็นชอบของคณะกรรมการเห็นว่ามีความจำเป็นที่ต้องให้เจ้าหน้าที่สัญชาติอื่นเป็นเจ้าหน้าที่ที่กล่าวถึง หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๔

แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๖๕ (ข) เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ (ค) ไม่เป็นคนวิกลจริต คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ (ง) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย (จ) ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างล้มละลายหรือในระหว่างถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ (ฉ) ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ โดยยังไม่พ้นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต (ช) ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุด เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ การแบ่งระดับและการกำหนดคุณสมบัติของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางรังสี เจ้าหน้าที่ดำเนินการทางเทคนิคเกี่ยวกับวัสดุนิวเคลียร์ และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเครื่องกำเนิดรังสี รวมทั้งการขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา 56 ใบอนุญาตตามมาตรา 54 ให้มีอายุไม่เกินหนึ่งปี

ใบอนุญาตให้เป็นเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้านเครื่องกำเนิดรังสีให้มีอายุไม่เกินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์หรือเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่กำหนดในใบอนุญาตนั้น

มาตรา 57 เจ้าหน้าที่ที่ความปลอดภัยทางรังสี เจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการทางเทคนิคเกี่ยวกับวัสดุนิวเคลียร์ และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเครื่องกำเนิดรังสีต้องอยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ตามข้อกำหนดในกฎกระทรวง

การขอต่ออายุใบอนุญาตและการต่ออายุใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

หมวด 8

การขนส่ง

มาตรา 58 ผู้ครอบครองวัสดุพลัมโบลัมหรือวัสดุนิวเคลียร์ กากกัมมันตรังสี เชื้อเพลิงนิวเคลียร์หรือเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว ซึ่งประสงค์จะจัดให้มีการขนส่งดังกล่าว ต้องแจ้งต่อเลขาธิการ

การแจ้งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่เลขาธิการประกาศกำหนด

มาตรา 59 ผู้ครอบครองวัสดุพลัมโบลัมหรือวัสดุนิวเคลียร์ กากกัมมันตรังสี เชื้อเพลิงนิวเคลียร์หรือเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว ซึ่งประสงค์จะจัดให้มีการขนส่งดังกล่าวตามมาตรา 58 และรับ

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา - ๒๔ - ขนส่งวัตถุอันตรายที่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับความปลอดภัยและความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์หรือรังสีที่กำหนดในกฎกระทรวง กฎกระทรวงตามวรรคหนึ่ง อย่างน้อยต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องดังต่อไปนี้ (๑) ชื่อยี่ห้อหรือชื่อวิทยาศาสตร์และไม่ใช่ตามพจนานุกรม ท่าน้ำ หรือทางอากาศ (๒) ประเภท ชื่อยี่ห้อ และการบรรจุของวัตถุที่ขนส่งที่ใช้ในการขนส่ง (๓) การจัดเก็บและลักษณะอื่นที่จำเป็น (๔) การตรวจสอบและการควบคุมการขนส่ง

หมวด ๑๑ เหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี

มาตรา ๑๐๙ ในกรณีที่เกิดอันตรายหรือความเสียหายอันเกิดจากการประกอบกิจการตามใบอนุญาต ผู้รับใบอนุญาตต้องแจ้งหน่วยงานในพื้นที่ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเหตุฉุกเฉิน และต้องแจ้งเหตุฉุกเฉินให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบทันที รวมทั้งต้องให้ข้อมูลและให้ความร่วมมือแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง บรรเทาหรือระงับอันตรายหรือความเสียหายนั้น

มาตรา ๑๑๐ ในกรณีที่มีอันตรายหรือความเสียหายตามมาตรา ๑๐๙ มีลักษณะหรือขยายขอบเขตเป็นอันตรายร้ายแรงต่อสาธารณชน ผู้รับใบอนุญาตต้องแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการตามใบอนุญาตดังกล่าวให้ดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดไว้ในแผนฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี รวมทั้งต้องประกาศมาตรการเพื่อประโยชน์ในการระงับเหตุฉุกเฉิน ในการระงับเหตุแห่งความเสียหายสาธารณะตามวรรคหนึ่ง ให้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยมีเหตุฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสีเป็นแผนสนับสนุน และอยู่ภายใต้แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ และให้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะและจัดให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีบทบาทในการดำเนินการดังกล่าว ในกรณีที่มีอันตรายหรือความเสียหายอันเกิดจากกิจการนิวเคลียร์หรือรังสีที่เกิดขึ้นในต่างประเทศซึ่งส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในราชการแผ่นดินและราชการส่วนท้องถิ่นรับผิดชอบโดยอุปโภค

หมวด ๑๒ การพักใช้และเพิกถอนใบอนุญาต

มาตรา ๑๑๑ ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ หรือเงื่อนไขที่กำหนดในใบอนุญาต ให้เลขาธิการมีอำนาจสั่งระงับการกระทำที่ฝ่าฝืน แก้ไขปรับปรุง หรือปรับให้ถูกต้องและเหมาะสมภายในระยะเวลาที่กำหนด

ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งภายในกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่ง เลขาธิการอาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตที่ทรัพย์หรือแต่บางส่วนได้ โดยกำหนดครั้งละไม่เกินหกเดือนหรือสั่งเพิกถอนใบอนุญาตนั้น ในกรณีที่การออกใบอนุญาตต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ การสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการด้วย ในการสั่งพักใช้ใบอนุญาต เลขาธิการอาจกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตปฏิบัติเพื่อแก้ไขปรับปรุงการดำรงชีพ หรือการประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพ หรือเพื่อการพักฟื้นความปลอดภัยทางกายและจิต หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะอื่นที่จำเป็นก็ได้

มาตรา ๑๑๑ ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตซึ่งถูกพักใช้ใบอนุญาตไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง เลขาธิการภายในระยะเวลาที่กำหนดตามมาตรา ๑๑๐ วรรคสอง เลขาธิการอาจสั่งเพิกถอนใบอนุญาตได้

ในกรณีที่การสั่งพักใช้ใบอนุญาตต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ การสั่งเพิกถอนใบอนุญาตต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการด้วย

มาตรา ๑๑๒ ในกรณีที่คำสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาต เลขาธิการอาจสั่งให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นเครื่องมือเครื่องใช้หรือวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพหรือการดำรงชีพ เพื่อป้องกันอันตรายหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น หรือเพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตนั้น ให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจตรวจค้นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพหรือการดำรงชีพนั้นได้ และให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจยึดหรืออายัดเครื่องมือเครื่องใช้หรือวัสดุอุปกรณ์ดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราวเพื่อป้องกันอันตรายหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ ให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่จัดทำบัญชีทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัดไว้และมอบสำเนาบัญชีดังกล่าวให้แก่เจ้าของหรือผู้ครอบครองทรัพย์สินนั้นด้วย

หมวด ๑๒ การอุทธรณ์

มาตรา ๑๑๓ ผู้รับคำสั่งของเลขาธิการหรือคำสั่งของผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขตามพระราชบัญญัตินี้ที่ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว ให้มีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการได้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด

คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด

มาตรา ๑๑๔ ผู้รับคำสั่งของเลขาธิการโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการตามพระราชบัญญัตินี้ที่ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว ให้มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองได้ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง

มาตรา ๑๑๕* วรรคแรก แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

สำนักงานเจ้าหน้าที่

มาตรา ๑๐๔ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจดังต่อไปนี้

เข้าไปในสถานที่ที่มีการประกอบกิจการหรือที่ใช้ หรือที่มีไว้ซึ่งเครื่องมือหรืออุปกรณ์ในการประกอบกิจการหรือที่ใช้หรือที่มีไว้ซึ่งวัตถุอันตราย วัตถุอันตรายร้ายแรง กากกัมมันตรังสี และเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในเตาหรือสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ ในระหว่างเวลาทำการหรือในกรณีจำเป็นอาจเข้าไปนอกเวลาทำการของสถานที่นั้น หรือเข้าไปในยานพาหนะขนส่งบรรทุกหรือเหตุฉุกเฉินรวมทั้งตรวจสอบการปฏิบัติงานหรือการจัดการระบบความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสี

เข้าไปในสถานที่หรือสถานประกอบการทางนิวเคลียร์หรือสถานที่ประกอบกิจการหรือสถานที่ที่มีการใช้หรือที่มีไว้ซึ่งเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์หรือรังสี เพื่อการตรวจสอบ

มีหนังสือเรียกให้บุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อกล่าวหรือส่งเอกสารและหลักฐานที่จำเป็นเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบการปฏิบัติงาน เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปในสถานที่ตามที่มาตรา ๑๓ (๑) หรือ (๒) และได้กระทำการตามวรรคหนึ่ง (๑) (๒) หรือ (๓) แล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งคำบอกกล่าวการดำเนินการต่อไปในเวลาที่จะมาดำเนินการหรือเอกสารที่ทำการของสถานที่นั้นให้ผูครอบครองหรือผู้ครอบครองในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อว่าความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยหรือความสงบของ ปลอดภัยของทรัพย์สินและสิ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปในสถานที่ตามที่มาตรา ๑๓ (๑) หรือ (๒) ในวรรค (๒) ได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น และต้องจัดทำรายงานการกระทำการเกี่ยวข้องการกระทำการดังกล่าวในกระทำการเพื่อความปลอดภัยหรือความสงบปลอดภัยของทรัพย์สินและสิ่ง ที่นั้น ให้แจ้งผู้ครอบครองสถานที่ดังกล่าวถึงการเข้าไปในสถานที่นั้นในทันทีที่สามารถกระทำได้

มาตรา ๑๐๔ เมื่อปรากฏต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าผู้ใดไม่ปฏิบัติตามหรือไม่ปฏิบัติตาม พระราชบัญญัตินี้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้ผู้รับมอบอำนาจกระทำที่ศาลสั่ง หรือแก้ไข หรือปรับปรุง หรือปฏิบัติให้ถูกต้องได้ ในกรณีที่มีเหตุอันสมควร พนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งให้ผู้ครอบครองส่งออกไปยังวัสดุคุ้มครองสิ่งแวดล้อม หรือวัสดุคุ้มครองสิ่งแวดล้อม หรือทำลายวัสดุ หรือเพื่อพ้นสิ่งแวดล้อมแล้ว ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย เพื่อดำเนินการให้ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ โดยปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนด

เมื่อมีกรณีตามวรรคหนึ่ง ถ้าปรากฏว่าผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ เจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้พนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสถานที่นั้นดำเนินการตามที่กำหนด เพื่อรักษาชีวิตทรัพย์สินของประชาชนโดยค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องให้ผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้เป็นผู้รับผิดชอบ ในกรณีที่ส่งของหรือจัดการตามวรรคแรกนี้ หากค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น ให้เจ้าของ หรือผู้มีหน้าที่ส่งของนั้นชำระค่าใช้จ่ายหรือค่าใช้จ่ายนั้นแก่ทางราชการ

มาตรา ๑๐๕ วัสดุคุ้มครองสิ่งแวดล้อม เครื่องคุ้มครองสิ่งแวดล้อม สถานประกอบการ ทางบังคับสิ่งแวดล้อม กากสิ่งแวดล้อม เชื้อเพลิงสิ่งแวดล้อม และเอกสารหรือสิ่งใด ๆ ที่เกี่ยวข้องอันไว้ตามมาตรา ๑๐๔ ถ้าการเก็บสิ่งของหรือคำสั่งหรือดำเนินการเป็นการเสียหายความเสียหายหรือเสียหายแก่บุคคลอื่นตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองหรือผู้มีหน้าที่ส่งของนั้นชำระค่าใช้จ่ายหรือค่าใช้จ่ายนั้นแก่ทางราชการ

หรือผู้จัดแทนได้รับปิดประกาศในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับที่ได้แพร่หลายไปท้องที่ที่ได้เกิดหรือตกค้างสิ่งของนั้น หรือการปิดประกาศในหนังสือพิมพ์จะไม่คุ้มกับมูลค่าของสิ่งของนั้น ถ้าได้ประกาศไว้ ณ ที่ทำการของนายอำเภอที่พนักงานนั้นปฏิบัติหน้าที่อยู่ ให้ถือว่าได้ประกาศแจ้งให้ทราบแล้วนับแต่วันได้ปิดประกาศในหนังสือพิมพ์ หรือวันที่ได้ประกาศในที่ทำการตามความ ณ ที่ทำการดังกล่าว แล้วแต่กรณี ผู้ครอบครองพัสดุหรือสิ่งของตกค้างกระทำการ “ป” ของรัฐที่พัสดุหรือสิ่งของตกค้างนั้น หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับที่ได้แพร่หลายไปท้องที่ที่ได้เกิดหรือตกค้างสิ่งของนั้น ในกรณีที่ไม่สามารถส่งคืนได้เพราะหาตัวผู้ครอบครองไม่ได้ หรือเจ้าของหรือผู้ครอบครองพัสดุหรือสิ่งของตกค้างนั้นแล้วแต่กรณี หากภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้แจ้งให้ทราบแล้วไม่มีผู้ใดมารับคืนมาเองหรือรับ ก็ให้ตกเป็นของรัฐ

มาตรา ๑๑๑ วัสดุคุ้มครองวัสดุ เครื่องกำเนิดวัสดุ วัสดุเคมีอันตราย สถานประกอบการทางนิวเคลียร์ กากนิวเคลียร์ เชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใช้แล้ว และเอกสารหรือสิ่งใด ๆ ตามมาตรา ๑๑๑ หรือทรัพย์สินใดที่เกี่ยวข้องที่ศาลสั่งให้พนักงานให้ริบ ให้ส่งมอบแก่สำนักงานเพื่อทำลายหรือจัดการตามที่เห็นสมควรต่อไป

ในกรณีที่ต้องทำลายหรือจัดการตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานที่เกี่ยวข้องกับพัสดุหรือสิ่งของตกค้างนั้นแจ้งให้เจ้าของหรือเจ้าของที่เกี่ยวข้องทราบเพื่อดำเนินการตามมาตรการหรือ

มาตรา ๑๑๒ ในกรณีที่มีข้อโต้แย้งการดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามมาตรา ๑๑๑ วรรคหนึ่ง ให้ดำเนินการในทันทีนั้นเป็นไปตามสิทธิในทรัพย์สินหรือพัสดุที่ตกค้างที่เกี่ยวข้องที่ได้ดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ

มาตรา ๑๑๓ ในการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องและให้บุคคลที่เกี่ยวข้องด้วยความสะดวกตามสมควร

บัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามแบบที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีประกาศหรือการกระทรวงการคลังรายงานรายชื่อการกำหนด แล้วแต่กรณี

มาตรา ๑๑๔ ให้รัฐเป็นบุคคลผู้ใดในครอบครองวัสดุตามมาตรา ๑๑๑ (๓) ผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ และผู้รับในบุคคลผู้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙

ติดตั้งอุปกรณ์หรือเครื่องมือเพื่อประโยชน์แก่การตรวจสอบและติดตามวัสดุ นิวเคลียร์และเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่เสื่อมสภาพ

ตรวจสอบการทดสอบการบรรจุวัสดุนิวเคลียร์หรือการเดินเครื่องปฏิกรณ์ นิวเคลียร์ตามมาตรา ๑๔

มาตรา ๑๕ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็น เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา

หมวด ๔ บทกำหนดโทษ

มาตรา ๑๖ ผู้ใดไม่ให้ข้อเท็จจริง หรือไม่ส่งเอกสาร หลักฐาน หรือวัตถุใด ๆ ตามที่ คณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการสั่งตามมาตรา ๑๐ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ขอให้ส่งตาม มาตรา ๑๑ วรรคหนึ่ง (๒) ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท

มาตรา ๑๗ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๓ วรรคแรก มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง มาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา ๑๒๑ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๘ หรือมาตรา ๕๐ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

มาตรา ๑๒๒ ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๕๓ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๒๒/๑ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๕๔ มาตรา ๕๕ หรือมาตรา ๕๖ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๒๓ ผู้รับใบอนุญาตผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๕๗ มาตรา ๕๘ หรือมาตรา ๕๙ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๒๔ ผู้ใดปฏิบัติงานที่ไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา ๔๕ หรือผู้รับใบอนุญาตซึ่งฝ่าฝืนมาตรา ๖๘ วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๒๕ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๔๘ หรือมาตรา ๕๐ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๒๖ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๔๙ หรือมาตรา ๕๑ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๒๗ ผู้ใดขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๑๐๗ วรรคหนึ่ง (๑) (๒) (๓) หรือ (๔) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๒๘ ผู้ใดไม่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๑๑๒ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๒๙ ผู้ใดใช้หรือครอบครองหรือใช้วัสดุกัมมันตรังสี เครื่องกำเนิดรังสี หรือวัสดุกัมมันตรังสีโดยไม่ขออนุญาต หรือในกรณีที่ขออนุญาตแล้วให้ผิดเงื่อนไขหรือข้อกำหนด อนุมัติ หรือทรัพย์สินของบุคคลใด หรือของส่วนราชการ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

**หมายเหตุ** มาตรา ๑๒๒/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ **หมายเหตุ** มาตรา ๑๒๙ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา - 23 - ถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวในวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจหรือทรัพย์สินของบุคคลใด หรือซึ่งส่งผลต่อสิ่ง ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 131 ผู้ใดกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์ที่เป็นวัตถุมีมูลค่าสิทธิหรือทรัพย์ที่ทำให้เกิดผลเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 132 ผู้ใดกระทำความผิดฐานฉ้อโกงหรือยักยอกทรัพย์ที่เป็นวัตถุมีมูลค่าสิทธิ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินห้าสิบล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 133 ผู้ใดกระทำความผิดต่อละเมิดตามมาตรา 130 วรรคหนึ่ง แห่งประมวลกฎหมายอาญา โดยใช้วัตถุมีมูลค่าสิทธิหรือวัตถุมีคุณลักษณะ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ถ้าความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นการกระทำตามมาตรา 130 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายอาญา ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ บทบัญญัติในวรรคหนึ่งและวรรคสองของมาตรา 130 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายอาญา ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทต่อสองแสนบาทในแต่ละบท

มาตรา 134 ผู้ใดกระทำความผิดตามมาตรา 130 วรรคสอง อันเป็นการกระทำการใดหรือไม่กระทำการใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ในกรณีที่การรู้เท่าทันตามวรรคหนึ่ง เป็นการรู้เท่าทันว่าการกระทำความผิดตามมาตรา 134 เพื่อบังคับผู้ให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 135 ผู้ใดกระทำการต่อวัตถุมีมูลค่าสิทธิ วัตถุมีคุณลักษณะ หรือสถานประกอบการทางอุตสาหกรรมอันเป็นกิจการแห่งกระทรวงหรือหน่วยงานแห่งกระทรวงอันเป็นวัตถุมีมูลค่าสิทธิหรือวัตถุมีคุณลักษณะ โดยเจตนาทำลายหรือทำให้เสียหาย ร่างกาย จิตใจ หรือทรัพย์สินของบุคคลใดหรือสิ่งของ ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกไม่เกินสิบปีและปรับไม่เกินแสนบาทต่อสิ่งเสียหาย

มาตรา 136 ผู้ใดกระทำความผิดตามมาตรา 130 มาตรา 132 มาตรา 133 มาตรา 134 หรือมาตรา 135 นอกจากการจำคุก ผู้ที่มีข้อร้องเรียนให้ไปรายงานต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพระราชบัญญัตินี้ ย่อมกระทำได้

ผู้กระทำความผิดหรือผู้ร่วมกระทำความผิดคนใดคนหนึ่งเป็นคนไทย หรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย

ผู้กระทำความผิดเป็นคนต่างด้าว และได้กระทำโดยประสงค์ให้ความผิดเกิดขึ้นในราชอาณาจักรหรือรู้ว่าผลที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักรไทยเป็นผู้เสียหาย

ผู้กระทำความผิดเป็นคนต่างด้าว และการกระทำนั้นเป็นความผิดตามกฎหมายของรัฐที่การกระทำเกิดขึ้นและในขณะเดียวกันเป็นความผิดตามกฎหมายไทย หรือผู้กระทำความผิดไม่มีสัญชาติหรือมีสัญชาติของประเทศที่ไม่ถือการกระทำดังกล่าวว่าเป็นความผิด ทั้งนี้ ให้บันทึกบัญชีเป็นมาตรา ๑๐ แห่งประมวลกฎหมายอาญา มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา ๑๓๑ ความผิดตามมาตรา ๑๓๐ หากผู้ใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับตัวการในการความผิดนั้น

สนับสนุนการกระทำความผิดหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด

จัดหา หรือให้เงิน ทรัพย์สิน อำนาจหน่วย สถานที่ หรือวัตถุใด ๆ หรือกระทำการใด ๆ เพื่อช่วยให้ผู้กระทำความผิดหลบหนีหรือเพื่อให้ผู้กระทำความผิดลุจากโทษ หรือเพื่อให้ได้รับประโยชน์ในการกระทำความผิด

มาตรา ๑๓๒ ผู้ใดถูกจับกุมโดยการกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามมาตรา ๑๓๐ ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับตัวการในการความผิดนั้น

ในกรณีที่ความผิดได้กระทำสำเร็จขึ้นแล้วมิอาจระทำความผิด แต่เนื่องจากการเข้าช่วยของผู้สมคบทำให้การกระทำบรรลุหรือทำไปตลอดหรือทำไปจนถึงการกระทำบรรลุผล ผู้สมคบที่กระทำการเช่นว่านั้น คงรับโทษตามที่กำหนดไว้ในวรรคหนึ่งเท่านั้น ถ้าผู้กระทำความผิดมอบตัวหรือแสดงเจตนาสำนึกผิดว่าตนจริงแท้สมควรต่อเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่ก่อนที่ผู้สมคบกระทำความผิดตามที่ได้สมคบกัน ศาลจะไม่ลงโทษผู้ที่รับหรือโทษนั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เพียงใดก็ได้

มาตรา ๑๓๓ ผู้ใดกระทำความผิดเพื่อกระทำความผิดตามมาตรา ๑๓๐ ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดนั้น

มาตรา ๑๓๔ ผู้ใดพยายามกระทำความผิดตามมาตรา ๑๓๐ ต้องระวางโทษตามที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดสำเร็จ

มาตรา ๑๔๘/๑ ความผิดตามหมวดนี้ ให้ศาลลงโทษผู้กระทำความผิดโดยคำนึงถึงปริมาณหรือระดับที่มันมาจากหรือสาระสำคัญมันมาจากวัสดุคุ้มครองสิทธิ์ วัสดุคุ้มครองสิทธิ์ การล้มล้างสิทธิ์ หรือเนื้อหาสาระนิยามสิทธิ์ และการมีเสพสิ่งที่สูงสุดหรือสาระสำคัญนั้น ปริมาณหรือสิทธิ์นั้น หรือการเกี่ยวข้องในทางใดๆ สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้

มาตรา ๑๔๘/๒ ผู้ใดเผยแพร่ ขาย ครอบครอง หรือไม่ได้นำไปจำหน่ายใด ๆ ซึ่งรู้หรือแจ้งที่มีสาระสำคัญมันมาจากหรือวัสดุคุ้มครองสิทธิ์นั้นส่วนประกอบในรายการอ้างสิทธิ์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปีและปรับตั้งแต่แสนบาทถึงสองล้านบาท

ผู้ใดกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเพื่อให้เกิดการแพร่กระจายของวัสดุคุ้มครองสิทธิ์หรือวัสดุในลักษณะดังกล่าวไปยัง ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต (ก) ทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย อนามัย หรือทรัพย์สินของบุคคลใด หรือต่อสิ่งแวดล้อม หรือ (ข) บังคับผู้อื่น รัฐบาลไทย รัฐบาลต่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศ ให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใด

มาตรา ๑๔๘/๓ ผู้ใดเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ การเก็บรักษา และการกระทำวัสดุคุ้มครองสิทธิ์ในลักษณะและแนวทางที่อาจทำให้เกิดการกระทำความผิดตามมาตรา ๑๔๘/๒ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปีและปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสองล้านบาท เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อประชาชนทั่วไปหรือเพื่อประโยชน์ในการรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๔๘/๔ ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดเป็นนิติบุคคล ถ้าการกระทำความผิดของนิติบุคคลนั้นเกิดจากการสั่งการหรือการกระทำของบุคคลใด หรือไม่สั่งการ หรือไม่กระทำการอันเป็นหน้าที่ที่ต้องกระทำของกรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลนั้น ผู้นั้นต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้สำหรับความผิดนั้น ๆ ด้วย

มาตรา ๑๔๘/๕ บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ที่มีโทษปรับสถานเดียว หรือที่มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ให้คณะกรรมการเปรียบเทียบคดีมีอำนาจเปรียบเทียบคดีได้ เมื่อผู้ต้องหายินยอม และเมื่อได้ชำระค่าปรับตามที่เปรียบเทียบแล้ว ให้ถือว่าคดีเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา แต่ในกรณีที่ผู้ต้องหาไม่ยินยอม หรือไม่ชำระค่าปรับตามที่เปรียบเทียบ ให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป การเปรียบเทียบคดีตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการมอบหมายให้คณะอนุกรรมการ หรือเจ้าหน้าที่ในสังกัดเป็นผู้ดำเนินการแทนก็ได้

มาตรา ๑๔๘/๖ ให้ยกเลิกข้อความในวงเล็บท้ายมาตรา ๑๔๘ แห่งพระราชบัญญัตินี้ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒

มาตรา ๑๔๘/๗ วรรคหนึ่งให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ฉบับที่ ๒)

ในกรณีที่พนักงานสอบสวนพบว่าผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้และผู้นั้นยินยอมให้เปรียบเทียบให้พนักงานสอบสวนส่งเรื่องให้คณะกรรมการเปรียบเทียบดำเนินการเปรียบเทียบคดีนั้น เว้นแต่ผู้นั้นยินยอมเปรียบเทียบ ถ้าคณะกรรมการเปรียบเทียบคดีเห็นว่าผู้ต้องหาไม่ควรถูกฟ้องร้องหรือได้รับโทษถึงจำคุกให้ทำทัณฑ์บนว่าผู้นั้นจะต้องไม่กระทำซ้ำอีก ถ้าผู้ต้องหาผิดนอกเหนือ เมื่อผู้ต้องหาได้กระทำเงินค่าปรับตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือที่คณะกรรมการเปรียบเทียบกำหนด ให้ถือว่าคดีเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ถ้าผู้ต้องหาไม่ยินยอมเปรียบเทียบ หรือยินยอมแล้วแต่ไม่ชำระเงินค่าปรับภายในเวลาตามวรรคสามให้ดำเนินคดีต่อไป ในระหว่างการเปรียบเทียบ หรือการกระทำระงับค่าปรับ หากผู้ต้องหาได้รับการอนุญาตให้อยู่ชั่วคราว คณะกรรมการเปรียบเทียบคดีจะขอให้ประกันหรือหลักประกันก็ได้ ทั้งนี้ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาใช้บังคับโดยอนุโลม บทเฉพาะกาล

มาตรา ๔๔ ในกรณีที่การแต่งตั้งกรรมการประจำนั้นกระทำด้วยการแต่งตั้งกรรมการ รองประธาน กรรมการ และกรรมการโดยตำแหน่งตามมาตรา ๔๕ (๑) (๒) และ (๓) ปฏิบัติหน้าที่ไปพลางก่อนจนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการตามมาตรา ๔๕ (๔) และ (๕) และให้กรรมการที่แต่งตั้งตามมาตรา ๔๕ (๑) (๒) และ (๓) ปฏิบัติหน้าที่ไปพลางก่อนจนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการตามมาตรา ๔๕ (๔) และ (๕)

มาตรา ๔๕ บรรดาใบอนุญาต ในเรื่องรอ หรือการอนุญาตใด ๆ ที่ได้ให้ตามพระราชบัญญัติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๐๔ ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับและยังมีผลใช้บังคับอยู่ให้คงใช้ได้ต่อไปจนกว่าจะสิ้นอายุ

มาตรา ๔๖ ให้ผู้รับใบอนุญาตผลิต มีในครอบครอง หรือใช้เครื่องกำเนิดรังสีจากเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูที่มีในการกำหนดของใบอนุญาต อยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ขอรับใบอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์พระราชบัญญัตินี้ในกรณีที่แสดงแผนปฏิบัติและแนวทางการดำเนินการให้เป็นไปตามที่กำหนด และในระหว่างนั้น ให้ประกอบกิจการนั้นได้ต่อไปจนกว่าจะคำสั่งไม่อนุญาต

หรือคำสั่งใด ๆ ที่ได้ให้ไว้ตามพระราชบัญญัติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๐๔ ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการเมื่อพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณาอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ถือว่าอยู่ต่อไปตามพระราชบัญญัติพลังงานปรมาณู เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๐๔ จนกว่าจะแล้วเสร็จ

มาตรา ๕๔ บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๐๔ ที่มีโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียว และยังอยู่ระหว่างการดำเนินคดี ให้ถือว่าการดำเนินคดีนั้นให้เริ่มต้นใหม่ตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๕๕ ผู้ใดประกอบกิจการที่ไม่ต่อใบอนุญาตหรือไม่แจ้งก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ลงโทษปรับใบอนุญาตหรือแจ้งภายในสามสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับ และในระหว่างนั้น ให้ประกอบกิจการนั้นได้ต่อไปจนกว่าจะมีคำสั่งไม่อนุญาตหรือไม่รับแจ้ง

มาตรา ๕๖ บรรดากฎกระทรวง ประกาศ หรือระเบียบที่ออกตามพระราชบัญญัติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๐๔ ที่ใช้บังคับในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ถือว่าใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้ จนกว่าจะมีกฎกระทรวง ประกาศ หรือระเบียบตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ต้องไม่เกินสองร้อยเจ็ดสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อัตราค่าธรรมเนียม วัตถุอันตรายร้ายแรง (1) ใบอนุญาตผลิต ฉบับละ 100,000 บาท (2) ใบอนุญาตที่ให้ครอบครองหรือใช้ ฉบับละ 100,000 บาท (3) ใบอนุญาตนำเข้า ฉบับละ 100,000 บาท (4) ใบอนุญาตส่งออก ฉบับละ 50,000 บาท (5) ใบอนุญาตผ่าน ฉบับละ 50,000 บาท (6) ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ 1,000 บาท (7) การต่ออายุใบอนุญาต ครั้งละเท่ากับค่าธรรมเนียมสำหรับใบอนุญาตแต่ละประเภท (8) การโอนใบอนุญาต ฉบับละ 2,000 บาท (9) การแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการในใบอนุญาต ฉบับละ 1,000 บาท เครื่องจักรอันตราย (10) ใบอนุญาตผลิต ฉบับละ 100,000 บาท (11) ใบอนุญาตที่ให้ครอบครองหรือใช้ ฉบับละ 50,000 บาท (12) ใบอนุญาตนำเข้า ฉบับละ 100,000 บาท (13) ใบอนุญาตส่งออก ฉบับละ 20,000 บาท (14) ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ 1,000 บาท (15) การต่ออายุใบอนุญาต ครั้งละเท่ากับค่าธรรมเนียมสำหรับใบอนุญาตแต่ละประเภท (16) การโอนใบอนุญาต ฉบับละ 2,000 บาท (17) การแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการในใบอนุญาต ฉบับละ 1,000 บาท วัตถุมีนิวเคลียร์ (18) ใบอนุญาตที่ให้ครอบครองหรือใช้ ฉบับละ 50,000 บาท (19) ใบอนุญาตนำเข้า ฉบับละ 100,000 บาท (20) ใบอนุญาตส่งออก ฉบับละ 50,000 บาท (21) ใบอนุญาตผ่าน ฉบับละ 40,000 บาท (22) ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ 1,000 บาท (23) การต่ออายุใบอนุญาต ครั้งละเท่ากับค่าธรรมเนียมสำหรับใบอนุญาตแต่ละประเภท (24) การโอนใบอนุญาต ฉบับละ 2,000 บาท (25) การแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการในใบอนุญาต ฉบับละ 1,000 บาท สถานประกอบการทางนิวเคลียร์ (26) ใบอนุญาตให้เพิ่มพื้นที่ตั้งสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ ฉบับละ 5,000,000 บาท (๒๓) ใบอนุญาตต่อสร้างสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ - กรณีที่สถานประกอบการนั้นไม่มีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ฉบับละ ๔๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท - กรณีที่สถานประกอบการนั้นมีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ขนาดกำลังไม่เกิน ๓,๐๐๐ เมกะวัตต์ (ความร้อน) ฉบับละ ๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท - กรณีที่สถานประกอบการนั้นมีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ขนาดกำลังเกินกว่า ๓,๐๐๐ เมกะวัตต์ (ความร้อน) ฉบับละ ๖๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท และค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท สำหรับ แต่ละ ๓,๐๐๐ กิโลวัตต์ (ความร้อน) ที่เพิ่มขึ้นมา (๒๔) ใบอนุญาตดำเนินการสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ - กรณีที่สถานประกอบการนั้นไม่มีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ฉบับละ ๔๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท - กรณีที่สถานประกอบการนั้นมีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ขนาดกำลังไม่เกิน ๓,๐๐๐ เมกะวัตต์ (ความร้อน) ฉบับละ ๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท - กรณีที่สถานประกอบการนั้นมีเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ขนาดกำลังเกินกว่า ๓,๐๐๐ เมกะวัตต์ (ความร้อน) ฉบับละ ๖๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท และค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท สำหรับ แต่ละ ๓,๐๐๐ กิโลวัตต์ (ความร้อน) ที่เพิ่มขึ้นมา (๒๕) ใบอนุญาตนำเข้าครอบครองและใช้เครื่องกำเนิดรังสี ฉบับละ ๕๐๐ บาท (๒๖) ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ ๕๐๐ บาท (๒๗) การต่ออายุใบอนุญาต ครั้งละเท่ากับค่าธรรมเนียม สำหรับใบอนุญาตแต่ละประเภท (๒๘) (ก) การโอนใบอนุญาต ฉบับละ ๕๐๐ บาท (ข) การแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการในใบอนุญาต ฉบับละ ๒,๐๐๐ บาท เจ้าหน้าที่ทางนิวเคลียร์และรังสี (๒๙) ใบอนุญาตเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางรังสี ฉบับละ ๕,๐๐๐ บาท (๓๐) ใบอนุญาตเจ้าหน้าที่ดำเนินการทางเทคนิค ___________________________________________ พ.ศ. ๒๕๖๒ อัตราค่าธรรมเนียม (๑๑)-(๑๔) เพิ่มโดยพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ อัตราค่าธรรมเนียม (๑๕)-(๑๖) เพิ่มโดยพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ อัตราค่าธรรมเนียม (๒๓) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ อัตราค่าธรรมเนียม (๒๔) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ ๒) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เกี่ยวกับวัสดุเคมีภัณฑ์ (๔๓) ใบอนุญาตดูแลหน้าที่ปฏิบัติงานเดินเครื่อง ปฏิบัติงานเคมีภัณฑ์ (๔๔) ใบแทนใบอนุญาต (๔๕) การต่ออายุใบอนุญาต (๔๖) การแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการในใบอนุญาต กากของเสีย (๔๗) ใบอนุญาตให้ใช้พื้นที่เพื่อจัดสถานที่ให้บริการจัดการ กากของเสีย (๔๘) ใบอนุญาตต่อสร้างสถานที่ให้บริการจัดการ กากของเสีย (๔๙) ใบอนุญาตดำเนินการให้บริการจัดการกากของเสีย (๕๐) ใบอนุญาตผลิตภัณฑ์ในการให้บริการจัดการกากของเสีย (๕๑) ใบแทนใบอนุญาต (๕๒) การต่ออายุใบอนุญาต (๕๓) การโอนใบอนุญาต (๕๔) การแก้ไขเปลี่ยนแปลงรายการในใบอนุญาต อัตราค่าธรรมเนียม (๔๓) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ อัตราค่าธรรมเนียม (๔๔) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ อัตราค่าธรรมเนียม (๔๕) แก้ไขโดยพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ อัตราค่าธรรมเนียม (๔๖) แก้ไขโดยพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติพลังงาน ปรมาณูเพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๔๔ ได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานานแล้ว บทบัญญัติบางประการไม่สอดคล้องกับ สถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ และนิวตรอน จึงจำเป็นที่ต้องมีการกำหนดกฎเกณฑ์เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและความมั่นคง ปลอดภัยทางด้านรังสีและวัสดุและทรัพย์สินจากปลอดภัยทางด้านนิวเคลียร์ เพื่อคุ้มครองประชาชน และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเพื่อให้การดำเนินงานด้านพลังงานปรมาณูของประเทศมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับมาตรฐานสากลที่เกี่ยวกับทางสาขาดังกล่าว สมควรปรับปรุง พระราชบัญญัติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๔๔ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหกสิบวันนับแต่วันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๒๖ ให้ใบอนุญาตผลิต มีไว้ในครอบครองหรือใช้ซึ่งพลังงานปรมาณูจาก เครื่องกำเนิดรังสีที่ได้ให้ไว้ตามพระราชบัญญัติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๔๔ และ ใบอนุญาตที่ได้ในครอบครองหรือใช้เครื่องกำเนิดรังสีที่ได้ให้ไว้ตามพระราชบัญญัติพลังงานปรมาณู เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งยังมีผลใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ถือว่า เป็นใบอนุญาตผลิต มีไว้ในครอบครองหรือใช้ซึ่งพลังงานปรมาณูจากเครื่องกำเนิดรังสีที่ได้ให้ไว้ตาม พระราชบัญญัติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ และให้ผู้ได้รับใบอนุญาตดังกล่าว ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตนั้นต่อไปจนกว่าใบอนุญาตดังกล่าวจะสิ้นอายุ หรือจนกว่า คณะกรรมการพลังงานปรมาณูเพื่อสันติจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตดังกล่าวยังมิได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต ให้ผู้รับ ใบอนุญาตดังกล่าวดำเนินการให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตนั้นให้แล้วเสร็จภายใน ระยะเวลาที่คณะกรรมการพลังงานปรมาณูเพื่อสันติจะกำหนด มาตรา ๒๗ ให้ดำเนินการออกกฎกระทรวงตามมาตรา ๒๒/๑ มาตรา ๒๒/๒ มาตรา ๒๒/๓ มาตรา ๒๒/๔ มาตรา ๒๓ และมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ให้แล้วเสร็จภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่ พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หากไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าวให้แจ้ง ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ เมื่อกฎกระทรวงตามที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ยังมิได้มีผลใช้บังคับ ให้ใช้กฎกระทรวง ตามพระราชบัญญัติพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ต่อไปในกรณีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น จนกว่ากฎกระทรวงตามที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้จะมี ผลใช้บังคับ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และให้การครอบครองหรือ ใช้ในลักษณะดังกล่าวที่ได้มีใบอนุญาตไว้ก่อนแล้ว ให้ถือว่าเป็นใบอนุญาตที่ได้ให้ไว้ตามพระราชบัญญัติ นี้ต่อไป จนกว่าจะได้รับคำสั่งไม่รับแจ้งจากผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หรือเลขาธิการ แล้วแต่กรณี เมื่อกฎหมายพระราชบัญญัติที่มีข้อความมาตรา ๓๔ มาตรา ๓๕ หรือมาตรา ๔๔ แห่งพระราชบัญญัติพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ใช้บังคับแล้วผู้รับใบอนุญาตให้ดำเนินกิจการตามข้อกำหนดของกฎหมายดังกล่าว หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการดังกล่าว ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่กฎหมายดังกล่าวใช้บังคับ ให้ผู้รับใบอนุญาตนั้นไม่ต้องแจ้ง มาตรา ๒๙ คำขอรับใบอนุญาตและคำขอต่ออายุใบอนุญาตที่เป็นครอบครองหรือใช้เครื่องกำเนิดรังสีตามมาตรา ๒๖/๒ หรือมาตรา ๒๖/๓ แห่งพระราชบัญญัติพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ที่ได้ยื่นไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ถือเป็นการแจ้งการครอบครองหรือใช้เครื่องกำเนิดรังสีตามข้อกำหนดของกฎหมายดังกล่าวหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการดังกล่าวแล้ว และให้เลขาธิการแจ้งให้ผู้ยื่นคำขอทราบเพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ต่อไป มาตรา ๓๐ ในอนุญาตที่ออกให้แล้วแต่พระราชบัญญัติพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๔๕ ที่ได้ใช้ไปก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และใบอนุญาตนั้นไม่สิ้นอายุ ให้ถือว่าใบอนุญาตนั้นเป็นใบอนุญาตนั้น มาตรา ๓๑ บรรดากฎกระทรวง ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งที่ออกตามพระราชบัญญัติพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. ๒๕๔๕ ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้ มาตรา ๓๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของตน หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่การกำกับดูแลเครื่องกำเนิดรังสีในปัจจุบันยังไม่มีระบบอนุญาต ซึ่งมีผลทำให้การกำกับดูแลเครื่องกำเนิดรังสีและไม่เหมาะสมกับการกำกับดูแลเครื่องกำเนิดรังสีบางประเภทที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบทางนิวเคลียร์และไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการทางนิวเคลียร์ และสารกัมมันตรังสีตามพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ เช่น เครื่องกำเนิดรังสีเอกซ์ที่ใช้ในทางการแพทย์ เครื่องกำเนิดรังสีเอกซ์ที่ใช้ในทางอุตสาหกรรม หรือเครื่องกำเนิดรังสีเอกซ์ที่ใช้ในทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น นอกจากนี้ การกำกับดูแลเครื่องกำเนิดรังสีที่ออกตามพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. ๒๕๕๙ ยังไม่สอดคล้องกับความมุ่งหมายของการกำกับดูแลเครื่องกำเนิดรังสีบางประเภทที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบทางนิวเคลียร์และไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการทางนิวเคลียร์ดังกล่าว จึงสมควรกำหนดให้มีระบบอนุญาตสำหรับการครอบครองหรือใช้เครื่องกำเนิดรังสีดังกล่าวที่เหมาะสมในลักษณะเดียวกับที่ใช้ในปัจจุบัน ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตครอบครองหรือใช้เครื่องกำเนิดรังสีจะต้องขึ้น เอกสารรายงานผลการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยของเครื่องกำเนิดรังสีที่ออกโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข มาใช้ประกอบการพิจารณาอนุญาตฯ ดังนั้น เพื่อเป็นการลดภาระแก่ผู้ที่ดำเนินการเกี่ยวกับเครื่องกำเนิดรังสีประเภทดังกล่าว สมควรกำหนดให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นส่วนร่วมในการกำกับดูแลเครื่องกำเนิดรังสีเพิ่มเติมโดยระบบการแจ้งการครอบครองหรือไม่ต้องกำกับดูแลและกำหนดหลักเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยสำหรับเรื่องกำเนิดรังสีในไทยให้เหมาะสม รวมทั้งมีความจำเป็นให้การดำเนินการเกี่ยวกับเครื่องกำเนิดรังสีที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการทางเทคนิคเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านนิรภัยรังสี เป็นไปโดยสอดคล้องกับภาระและลักษณะของงานที่ทำการผลิตในไทย ตลอดจนสมควรแก้ไขอัตราโทษและค่าปรับในการกำหนดโทษให้เหมาะสมกับความร้ายแรงของการกระทำความผิดมากยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ ``` - 47 - สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณา/จัดทำ 9 เมษายน 2562 ทัศนับ/บพิธิภัณ์/ตรวจ 10 เมษายน 2562 ```