สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เป็นปีที่ ๔ ในรัชกาลปัจจุบัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า ของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๖ ประกอบกับมาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ และมาตรา ๓๗ ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เพื่อเพิ่มศักยภาพของระบบสุขภาพปฐมภูมิให้สามารถให้บริการสุขภาพแก่ประชาชนได้อย่าง ทั่วถึง มีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดี แห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้ ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒
โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยระบบสุขภาพปฐมภูมิ โดยการจำกัดสิทธิและเสรีภาพดังกล่าวเป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญ
พ.ศ. ๒๕๖๒”
ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
“บริการสุขภาพปฐมภูมิ” หมายความว่า บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่มุ่งหมาย ดูแลสุขภาพของบุคคลในพื้นที่รับผิดชอบในลักษณะองค์รวม ตั้งแต่เกิด และตลอด ครอบคลุมทั้งการส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การวินิจฉัยโรค การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสุขภาพ โดยหน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิที่จัดตั้งขึ้น * ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๖ ตอนที่ ๕๔ ก หน้า ๔๕/๑๐ เมษายน ๒๕๖๒ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวและคณะผู้ให้บริการสุขภาพปฐมภูมิ รวมทั้งเชื่อมโยงกับครอบครัว ชุมชน และบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขระดับทุติยภูมิและตติยภูมิ “ระบบสุขภาพปฐมภูมิ” หมายความว่า กลไกและกระบวนการในการประสานความร่วมมือเพื่อจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิ โดยการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาคประชาชน รวมทั้งการส่งต่อบริการและการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยบริการพระราชบัญญัตินี้ ดูแลสุขภาพ และชุมชน “หน่วยบริการ” หมายความว่า
สถานพยาบาลที่ดำเนินการโดยกระทรวง ทบวง กรม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษาของรัฐ หน่วยงานอื่นของรัฐ และสภากาชาดไทย
สถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล
หน่วยบริการตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
หน่วยบริการอื่นตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด “หน่วยบริการปฐมภูมิ” หมายความว่า หน่วยบริการที่ได้ขึ้นทะเบียนเพื่อให้บริการสุขภาพปฐมภูมิตามพระราชบัญญัตินี้ “เครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ” หมายความว่า หน่วยบริการปฐมภูมิหรือหน่วยบริการที่รวมตัวกันและขึ้นทะเบียนในเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิเพื่อให้บริการสุขภาพปฐมภูมิตามพระราชบัญญัตินี้ “แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว” หมายความว่า แพทย์ที่ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเวชกรรม และผ่านการอบรมหรือฝึกอบรมเฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ครอบครัว “ผู้ประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์และสาธารณสุข” หมายความว่า ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ ผู้ประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัด ผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน หรือผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุขอื่นตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น และได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตจากสภาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องตามพระราชบัญญัติวิชาชีพนั้น หรือผู้ประกอบวิชาชีพตามมาตรา ๓๘ แห่งพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. ๒๕๔๒ “คณะผู้ให้บริการสุขภาพปฐมภูมิ” หมายความว่า ผู้ประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์และสาธารณสุขซึ่งปฏิบัติงานร่วมกันในหน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ และให้ความร่วมมือรวมถึงเชื่อมโยงกับแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวเพื่อให้บริการสุขภาพปฐมภูมิในหน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ ทั้งนี้ ตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการสุขภาพปฐมภูมิแห่งชาติ “สำนักงาน” หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพปฐมภูมิแห่งชาติ “ผู้อำนวยการสำนักงาน” หมายความว่า ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพปฐมภูมิแห่งชาติ “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ ``` - ๓ -
คณะกรรมการระบบสุขภาพปฐมภูมิ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานกรรมการ
กรรมการโดยตำแหน่ง ได้แก่ ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม และเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวนหนึ่งคน ผู้บริหารเขตสุขภาพ จำนวนหนึ่งคน ผู้บริหารโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จำนวนหนึ่งคน และผู้บริหารองค์กรภาคประชาสังคมซึ่งเกี่ยวข้องกับกฎหมายฉบับนี้ จำนวนหนึ่งคน โดยให้รัฐมนตรีแต่งตั้ง จำนวนหนึ่งคน โดยให้รัฐมนตรีแต่งตั้งจากองค์กรภาคประชาสังคมที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในกฎหมายฉบับนี้
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้บริหารโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จำนวนหนึ่งคน และผู้บริหารองค์กรภาคประชาสังคมซึ่งเกี่ยวข้องกับกฎหมายฉบับนี้ จำนวนหนึ่งคน โดยให้รัฐมนตรีแต่งตั้งจากองค์กรภาคประชาสังคมที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในกฎหมายฉบับนี้
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด จำนวนหนึ่งคน และสาธารณสุขอำเภอ จำนวนหนึ่งคน โดยให้แพทย์สาธารณสุขจังหวัดและสาธารณสุขอำเภอ แล้วแต่กรณี คัดเลือกกันเอง
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้บริหารสถานพยาบาลที่เป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ จำนวนหนึ่งคน และผู้บริหารสถานพยาบาลที่เป็นหน่วยบริการปฐมภูมิของกรุงเทพมหานคร จำนวนหนึ่งคน โดยให้ผู้บริหารของสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านและองค์กรภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายฉบับนี้
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนหนึ่งคน ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในด้านการบริหารจัดการระบบสุขภาพปฐมภูมิ การแพทย์ การสาธารณสุข หรือการจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิ และยังมีผู้ทรงคุณวุฒิจากองค์กรภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายฉบับนี้ จำนวนหนึ่งคน โดยให้รัฐมนตรีแต่งตั้งจากองค์กรภาคประชาสังคมที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในกฎหมายฉบับนี้ ให้รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขมอบหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ช่วยเลขานุการจำนวนสองคน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ การคัดเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตาม (๓) (๔) (๕) และ (๖) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ```
มีสัญชาติไทย
ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
ไม่เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
ไม่เคยถูกคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง หรือถือว่ากระทำการทุจริตและประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงในวงราชการ
ไม่เป็นกรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งซึ่งรับผิดชอบการบริหารพรรคการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมือง ในการนี้เป็นกรรมการตามมาตรา 5 วรรคหนึ่ง (6) ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากบุคคลผู้มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในเรื่องที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำหรือการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ รวมครอบครัว ต้องไม่มีพฤติการณ์ว่าถูกผูกพันโดยอาณัติของบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
เมื่อครบกำหนดตามวาระในวรรคหนึ่ง หากยังมิได้แต่งตั้งกรรมการขึ้นใหม่ ให้กรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระนั้นยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่ ในกรณีที่กรรมการตามมาตรา 5 วรรคหนึ่ง (6) พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ ให้มีการแต่งตั้งกรรมการแทน และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งได้เท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้พ้นตำแหน่ง เว้นแต่กรณีของกรรมการตามมาตรา 5 วรรคหนึ่ง (6) ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ และในการนี้ให้คณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการตามมาตรา 5 วรรคหนึ่ง (6)
(1) ตาย (2) ลาออก (3) คณะกรรมการมีมติไม่ไว้วางใจการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการที่พ้นตำแหน่งให้ออก เพราะทุจริตหรือไม่สุจริตต่อหน้าที่ มีความประพฤติผิดเสื่อมเสีย หรือขาดความสามารถ
พ้นจากการเป็นผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้อำนวยการหรือผู้บริหารหน่วยบริการปฐมภูมิ ผู้อำนวยการหรือผู้บริหารหน่วยบริการสุขภาพปฐมภูมิ หรือสารธารณสุขจังหวัด หรือสารธารณสุขอำเภอ ในกรณีที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการในฐานะนั้น
เสนอแนะนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนเกี่ยวกับบริการสุขภาพปฐมภูมิและระบบสุขภาพปฐมภูมิต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติ
กำกับ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ และนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนตาม (๑) รวมทั้งกำหนดมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการดังกล่าว
เสนอแนวทางแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับบริการสุขภาพปฐมภูมิหรือระบบสุขภาพปฐมภูมิ และให้คำแนะนำต่อรัฐมนตรีในการออกประกาศและการแต่งตั้งเพิ่มเติมจากที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
ให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี หน่วยงานของรัฐ และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวกับการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้มีการผลิตและพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขให้มีจำนวนเพียงพอกับการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งการวางแผนกำลังคน และการพัฒนาระบบสารสนเทศสำหรับเชื่อมโยงข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบสุขภาพปฐมภูมิ
เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้มีการกำหนดค่าตอบแทนสำหรับแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวและคณะผู้ให้บริการสุขภาพปฐมภูมิให้เหมาะสมกับการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัตินี้
เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้มีการกำหนดมาตรการที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดระบบสุขภาพปฐมภูมิให้มีมาตรฐานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดการสุขภาพของตนเองและครอบครัว
ออกประกาศหรือคำสั่งเกี่ยวกับการดำเนินการในเรื่องระบบสุขภาพปฐมภูมิที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ หรือตามที่คณะรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีมอบหมาย
ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ ประกาศหรือคำสั่งตาม (๘) เมื่อได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีแล้วให้มีผลบังคับใช้ได้
ในการประชุมคณะกรรมการ ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้ามีคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเสียงซึ่งเท่ากับให้การประชุมคณะกรรมการอาจเชิญบุคคลอื่นเข้าร่วมประชุมด้วยก็ได้
การประชุมคณะอนุกรรมการ ให้อนุโลมตามในมาตรา 11 มาใช้บังคับ
(1) จัดทำนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนเกี่ยวกับบริการสุขภาพปฐมภูมิและระบบสุขภาพปฐมภูมิเสนอคณะกรรมการ รวมทั้งดำเนินการตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนดังกล่าว (2) ต้องกำหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรงบประมาณเกี่ยวกับบริการสุขภาพปฐมภูมิและระบบสุขภาพปฐมภูมิ หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยบริการอื่นที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งเสนอคณะกรรมการเพื่อพิจารณาอนุมัติ (3) เป็นศูนย์กลางฐานข้อมูลเกี่ยวกับบริการสุขภาพปฐมภูมิและระบบสุขภาพปฐมภูมิ และดำเนินการหรือสนับสนุนให้มีการศึกษาวิจัยในเรื่องดังกล่าว (4) จัดให้หน่วยทะเบียนรับรองบริการ หน่วยบริการปฐมภูมิ และเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ (5) พัฒนาระบบสารสนเทศศาสตร์ที่เชื่อมโยงข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบสุขภาพปฐมภูมิให้มีประสิทธิภาพ (6) ส่งเสริมให้ประชาชนมีศักยภาพและมีความรู้ในการจัดการสุขภาพของตนเองและครอบครัว (7) ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการผลิตและพัฒนาบุคลากรหรือเครือข่ายบริการสุขภาพปฐมภูมิให้เพียงพอกับการให้บริการสุขภาพปฐมภูมิ และให้มีการพัฒนาหลักสูตรศึกษาอบรมและมาตรฐานวิชาชีพเกี่ยวกับบริการสุขภาพปฐมภูมิ รวมทั้งส่งเสริมให้บุคลากรดังกล่าวมีศักยภาพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งดำเนินการหรือสนับสนุนการศึกษาวิจัยในเรื่องดังกล่าว (8) จัดทำงบการดำเนินงานที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดระบบสุขภาพปฐมภูมิเสนอคณะกรรมการ (9) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่คณะรัฐมนตรี คณะกรรมการ หรือคณะอนุกรรมการมอบหมาย หรือกฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่และอำนาจของสำนักงาน
การจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิ
บริการสุขภาพปฐมภูมิตามวรรคหนึ่ง ต้องจัดให้มีการบันทึกข้อมูลด้านสุขภาพตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนดตามมาตรา 20
ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลหรือค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขในการรับบริการสุขภาพปฐมภูมิตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด สำหรับองค์กรหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบการจัดบริการสาธารณสุขดังกล่าว ทั้งนี้ หากหน่วยบริการสุขภาพปฐมภูมิที่ให้บริการดังกล่าวมีรายจ่ายที่ต้องดำเนินการเพื่อให้ได้รับค่าใช้จ่ายดังกล่าว ประเด็นปัญหา คณะกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขสำหรับการจัดสรรเงินแต่ละประเภทให้เหมาะสมกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละหน่วยบริการสุขภาพปฐมภูมิ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อให้ได้รับค่าใช้จ่ายดังกล่าว
หน่วยบริการให้ได้รับการขึ้นทะเบียนผ่านหน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนดตามมาตรา 20 ในการให้บริการสุขภาพปฐมภูมิ
ให้นำส่งบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ แจ้งให้ผู้รับบริการ ซึ่งมีรายชื่อตามทะเบียนการให้สิทธิรับบริการสุขภาพปฐมภูมิและแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว ซึ่งมีหน้าที่ดูแลผู้รับบริการตามมาตรา 26 เพื่อความสะดวกและความจำเป็นในการรับบริการสุขภาพปฐมภูมิ ผู้รับบริการอาจขอเปลี่ยนแปลงหน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิที่ตนมีรายชื่อได้ ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามระเบียบและวิธีการที่คณะกรรมการประกาศกำหนด การจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ตามทะเบียน การแจ้งตามวรรคสอง และการเปลี่ยนแปลงหน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิตามวรรคสาม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
ค่าใช้จ่ายประจำเพื่อการจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิและการพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้อง
ค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนสิ่งก่อสร้างและครุภัณฑ์ที่ใช้ในการจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิ
ค่าใช้จ่ายเพื่อจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์และครุภัณฑ์ที่ใช้ในการจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิ
ค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด ประกาศกำหนด โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี คณะกรรมการอาจกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และการเก็บรักษาเงินค่าใช้จ่ายดังกล่าว ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง ในกรณีที่มีความจำเป็น คณะกรรมการอาจกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจัดสรรเงินค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้แก่หน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิที่มีความพร้อมให้บริการสุขภาพปฐมภูมิได้
ให้บริการสุขภาพปฐมภูมิ โดยให้ความสมบูรณ์และความชัดเจนในด้านการให้บริการ ตลอดจนการผลิตสนับสนุนบุคลากรที่มีศักยภาพและความพร้อมในการให้บริการ
ให้ข้อมูลแก่ผู้รับบริการเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของผู้รับบริการ รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยบริการอย่างเพียงพอ เพื่อให้ผู้รับบริการตัดสินใจเลือกใช้บริการหรือเข้ารับการส่งต่อ
แจ้งข้อมูลแก่ผู้รับบริการ ญาติ หรือผู้ดูแลใกล้ชิดเกี่ยวกับบริการที่เกี่ยวกับบุคลากรด้านสาธารณสุข หรือผู้รับบริการดูแลต่อเนื่องในกรณีที่จำเป็น และด้านสังคมที่จะรับดูแลผู้รับบริการก่อนจำหน่ายผู้รับบริการออกจากหน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ
จัดทำความสัมพันธ์ของผู้รับบริการการบันทึกหน้าที่ตาม (๒) และ (๓) อย่างเคร่งครัด เว้นแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงหน้าที่ของผู้รับบริการปฐมภูมิที่แตกต่างตามหลักเกณฑ์
จัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศการให้บริการสุขภาพปฐมภูมิเพื่อรองรับการตรวจสอบด้านสุขภาพมาตรฐาน และการบริหารจัดการระบบข้อมูลด้านสุขภาพ
ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานในด้านการให้บริการสุขภาพปฐมภูมิ ตามมาตรา ๒๔ การให้บริการสุขภาพปฐมภูมิตาม (๔) การให้ข้อมูลตาม (๕) และ (๖) การจัดทำ ระบบข้อมูลการให้บริการสุขภาพปฐมภูมิตาม (๔) และการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมคุณภาพ และมาตรฐานตาม (๖) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้ข้อมูล การจัดการข้อมูล การจัดการข้อมูลด้านสุขภาพ ของผู้รับบริการ และการเข้าถึงข้อมูลของแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว รวมทั้งการใช้ข้อมูลการให้บริการ สุขภาพของผู้รับบริการในหน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ เพื่อให้หน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิให้ผู้รับบริการและสำนักงานเข้าถึง ด้านสุขภาพตามกฎหมายว่าด้วยสุขภาพแห่งชาติ
บริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิให้บริการสุขภาพปฐมภูมิในจำนวนที่เหมาะสม เพื่อทำหน้าที่ดูแลผู้รับบริการซึ่งมีภูมิลำเนาในเขตพื้นที่ของหน่วยบริการนั้นในลักษณะที่เหมาะสม ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวตามวรรคหนึ่ง ให้หน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิแจ้งให้ผู้รับบริการและสำนักงานทราบโดยเร็ว เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมสุขภาพ การควบคุมโรค การป้องกันโรค การตรวจ วินิจฉัยโรค การรักษาพยาบาล การฟื้นฟูสมรรถภาพ หน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วย ปฐมภูมิต้องจัดทำหลักเกณฑ์ วัน และเวลาในการให้บริการสุขภาพปฐมภูมิและเผยแพร่ให้ผู้รับบริการ แจ้งให้ผู้รับบริการเพื่อรับบริการสุขภาพปฐมภูมิตามหลักเกณฑ์ วัน และเวลาดังกล่าวได้ การให้บริการสุขภาพปฐมภูมิตามวรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
บริการไปยังหน่วยบริการอื่น ให้หน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิแจ้งข้อมูลด้านสุขภาพ ครอบครัวของผู้รับบริการให้กับหน่วยบริการอื่นเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการให้การส่งต่อผู้รับบริการเป็นไปตาม ดังกล่าว ให้หน่วยบริการปฐมภูมิ เครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ หรือหน่วยบริการที่รับการส่งต่อ ตามวรรคหนึ่ง ดำเนินการตามความเหมาะสมและจำเป็น ``` - ๑๐ - เพื่อประโยชน์ในการส่งต่อผู้รับบริการ ให้สำนักงานร่วมกับหน่วยบริการปฐมภูมิ และเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิให้มีระบบข้อมูลด้านสุขภาพของผู้รับบริการและการเชื่อมโยง เพื่อใช้ข้อมูลดังกล่าว โดยต้องปฏิบัติตามมาตรา ๒๐ วรรคหนึ่ง (๔) การส่งต่อผู้รับบริการตามวรรคหนึ่ง การดำเนินการตามวรรคสอง และการจัดระบบ และการเชื่อมโยงเพื่อใช้ข้อมูลด้านสุขภาพตามวรรคสาม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
การควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของหน่วยบริการปฐมภูมิ และเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ
ให้คณะกรรมการสอบสวนตามวรรคหนึ่ง ประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานของรัฐที่ปฏิบัติงานด้านการแพทย์หรือการสาธารณสุขจำนวนหนึ่งคน ด้านกฎหมายหรือระบบการยุติธรรมจำนวนหนึ่งคน ด้านการเงินหรือการคลังจำนวนหนึ่งคน ผู้แทนองค์กรเอกชนซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่ไม่ใช่แสวงหากำไรและดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคจำนวนหนึ่งคน และผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนหนึ่งคน เป็นกรรมการสอบสวน มีหน้าที่สอบสวนและรายงานให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ต้องเป็นผู้ไม่มีส่วนได้เสียในเรื่องที่พิจารณา และให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขแต่งตั้งกรรมการสอบสวนคนหนึ่งเป็นประธานกรรมการสอบสวนแต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการสำนักงานจำนวนไม่เกินสองคนเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานของกรรมการสอบสวน การสอบสวนต้องกระทำให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนดนับแต่วันที่ได้รับคำสั่งแต่งตั้งดำเนินการ ไม่แล้วเสร็จในเวลาที่กำหนดปลัดกระทรวงสาธารณสุขอาจขยายเวลาได้โดยไม่เกินกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ในครั้งแรก และในกรณีที่กรรมการสอบสวนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขแต่งตั้งกรรมการสอบสวนแทนเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปและรายงานต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ โดยต้องแสดงเหตุผลไว้ด้วย ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้คณะกรรมการสอบสวนมีอำนาจเรียกพยานบุคคลตามที่เห็นสมควร และมีอำนาจสั่งเป็นหนังสือให้หน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิที่เกี่ยวข้องส่งเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ``` หน่วยบริการปฐมภูมิ ผู้ร้องเรียน หรือบุคคลใดที่เกี่ยวข้องให้ข้อยคำ หรือให้ส่งคำชี้แจง เอกสาร ข้อมูล หรือหลักฐานที่จำเป็น เพื่อประกอบการพิจารณาได้ เมื่อคณะกรรมการสอบสวนดำเนินการสอบสวนเสร็จแล้ว ให้เสนอความเห็นต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุขเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป ให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาออกคำสั่งตามมาตรา 27 ภายในเวลาสิบห้าวัน นับแต่วันที่ได้รับเรื่องจากคณะกรรมการสอบสวน
ในกรณีที่เป็นการกระทำโดยไม่เจตนา ให้มีคำสั่งแจ้งให้ปฏิบัติโดยถูกต้อง (ข) ในกรณีที่เป็นการกระทำโดยมีเจตนา ให้มีคำสั่งแจ้งให้ปฏิบัติโดยถูกต้องและสั่งให้หน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมินั้นชำระค่าใช้จ่ายในการจัดบริการทดแทนที่เกิดขึ้นจริง และให้เจ้าบ้านผู้มีสิทธิที่ย้ายการรับบริการไปจากเครือข่ายหมอประจำวิถีปฏิบัติการทางกฎหมายใช้บังคับ
แจ้งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การสอบสวนและวินิจฉัยข้อเท็จจริงดำเนินการ หรือกล่าวโทษไปยังประธานองค์กรวิชาชีพการแพทย์และสาธารณสุขที่องค์กรนั้นรับผิดชอบในการกระทำตาม (ข) ของหน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมินั้นเพื่อให้การสอบสวนวินิจฉัยข้อเท็จจริงดำเนินการตามกฎหมาย
ในกรณีที่ผู้บริหารหน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิไม่ดำเนินการ ให้ผู้รับบริการร้องเรียนต่อคณะกรรมการประกาศกำหนดหรือร้องเรียนต่อหน่วยงานที่กำหนดให้เพื่อให้การสอบสวนโดยให้ทำความในมาตรา 26 มาใช้บังคับโดยอนุโลม ผลการสอบสวนตามคำร้องเรียนที่หน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมินั้นไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการให้บริการสุขภาพปฐมภูมิตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด ให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามมาตรา 26 โดยอนุโลม ในกรณีที่ผลการสอบสวนตามคำร้องเรียนที่หน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมินั้นไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการให้บริการสุขภาพปฐมภูมิตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด ให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามมาตรา 26 โดยอนุโลม
(1) สั่งให้คณะกรรมการขึ้นทะเบียนของหน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมินั้น (2) แจ้งต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงตามกฎหมายว่าด้วยสภาวิชาชีพทางการแพทย์เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยสภาวิชาชีพทางการแพทย์ในกรณีที่เป็นสถานพยาบาลของรัฐ (3) แจ้งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้พิจารณาอนุมัติและจัดตั้งหรือยกเลิกคำขอทำหรือยกเลิกคำขอประกอบวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุขซึ่งมีส่วนรับผิดชอบในการกระทำของหน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมินั้น และให้การดำเนินการดังกล่าวในกรณีที่ผู้กระทำความผิดเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
การส่งเสริมและพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ
(1) โดยบูรณาการการดำเนินงานของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิของหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายหน่วยบริการปฐมภูมิ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รายการค่าใช้จ่ายตามวรรคหนึ่ง การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน และการเรียกคืนเงินค่าใช้จ่ายตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง
การรับฟังความคิดเห็นตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
หน้าที่ความรับผิดชอบ
เข้าไปในสถานที่ของหน่วยบริการปฐมภูมิหรือเครือข่ายบริการปฐมภูมิในเวลาราชการหรือสถานที่ซึ่งมีทรัพย์สินหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ เพื่อรวบรวมข้อมูล สอบถามข้อเท็จจริง ตรวจสอบ หรือเรียกเอกสารหรือสิ่งอื่นที่เกี่ยวข้องมา ติดตาม หรือบันทึกเอกสารที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ได้
ในการดำเนินการตาม (๑) ถ้าพบการระทำเกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจยึดหรืออายัดเอกสารหรือหลักฐาน ทรัพย์สินหรือสิ่งของเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาดำเนินการต่อไป
ออกคำสั่งเป็นหนังสือเรียกให้บุคคลใดมาให้ถ้อยคำหรือให้ส่งคำชี้แจง เอกสาร ข้อมูล หรือหลักฐานอื่นที่แสดงประกอบการพิจารณาของพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๑๔ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการ
บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามแบบที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
บทกำหนดโทษ
บทเฉพาะกาล
เมื่อมีการออกประกาศเพื่อกำหนดบริการสุขภาพปฐมภูมิตามมาตรา ๑๕ วรรคหนึ่ง แล้ว ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องขยายหรือจัดสรรสิทธิของบุคคลที่มีสิทธิได้รับบริการรักษาพยาบาล หรือรับบริการสาธารณสุขตามสวัสดิการหรือสิทธิของบุคคลนั้นโดยกฎหมาย ให้คณะกรรมการดำเนินการตามมาตรา ๑๖ เพื่อขยายหรือจัดสรรสิทธิของบุคคลดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปี นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
ภายในกำหนดระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง ให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการและสถาบันอุดมศึกษาดำเนินการเพื่อเพิ่มแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวและผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุขปฐมภูมิในระดับตำบลให้เพียงพอ ในกรณีที่มีเหตุจำเป็น ให้คณะกรรมการสามารถขยายระยะเวลาตามวรรคหนึ่งเพื่อให้การขยายระยะเวลาการใช้บังคับตามวรรคหนึ่ง ออกไปอีกเป็นระยะเวลาหนึ่งที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หมายนเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา ๔๗ วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับบริการสาธารณสุขของรัฐ และมาตรา ๕๕ บัญญัติให้รัฐต้องดำเนินการให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ อย่างทั่วถึง เสริมสร้างให้ประชาชนมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค โดยบริการสาธารณสุขดังกล่าวต้องครอบคลุมถึงการส่งเสริมสุขภาพ การควบคุมและป้องกันโรค การฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ การคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ การแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือกอื่นด้วย ประกอบกับในปี พ.ศ. ๒๕๔๕ ที่ผ่านมา (๒) ทศวรรษ (๒๐) ปีที่ผ่านมา การปฏิรูประบบสุขภาพโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมเป็นพลังสำคัญในการสร้างระบบสุขภาพที่เหมาะสม ดังนั้น สมควรมีกฎหมายเพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติดังกล่าว โดยการจัดระบบสุขภาพปฐมภูมิ ซึ่งมีคณะกรรมการระบบสุขภาพปฐมภูมิทำหน้าที่เป็นองค์กรกำกับดูแลที่เกิดจากการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาคประชาชน ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารจัดการระบบสุขภาพปฐมภูมิมีประสิทธิภาพทั่วประเทศ และให้ประชาชนชาวไทยมีสิทธิได้รับบริการสุขภาพปฐมภูมิที่เป็นธรรม มีคุณภาพ และมีมาตรฐาน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ วิจารณ์/ธนบดี/จัดทำ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ทิพย์มณี/วิทยพร/ตรวจ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๒