로고

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นปีที่ ๓ ในรัชกาลปัจจุบัน

มาตรา ๑ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๖๑”

มาตรา ๒[๑] พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓ ให้ยกเลิก

(๑)

พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. ๒๕๕๐ เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา

(๒)

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๕๐/๒๕๕๗ เรื่อง ให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พุทธศักราช ๒๕๕๐ เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ใช้บังคับต่อไป ลงวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๗ เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา

มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้

``` “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง “กรรมการ” หมายความว่า กรรมการการเลือกตั้งตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง และให้หมายความรวมถึงประธานกรรมการการเลือกตั้งด้วย “สำนักงาน” หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง “เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง “พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า พนักงานหรือลูกจ้างของสำนักงาน และให้หมายความรวมถึงพนักงานราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ หรือซึ่งคณะกรรมการ กรรมการ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด แต่งตั้งหรือมอบหมายให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้หรือกฎหมายที่คณะกรรมการมอบหมาย “ผู้สมัคร” หมายความว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร “วันเลือก” หมายความว่า วันที่คณะกรรมการประกาศกำหนดให้เป็นวันเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระดับอำเภอ ระดับจังหวัด หรือระดับประเทศ แล้วแต่กรณี “ผู้มีอำนาจการเลือกตั้ง” หมายความว่า ผู้มีอำนาจการเลือกตั้งระดับอำเภอ ผู้มีอำนาจการเลือกตั้งระดับจังหวัด หรือผู้มีอำนาจการเลือกตั้งระดับประเทศ แล้วแต่กรณี “สถานที่เลือก” หมายความว่า สถานที่ที่ผู้มีอำนาจการเลือกกำหนดให้เป็นสถานที่เลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระดับอำเภอ ระดับจังหวัด หรือระดับประเทศ แล้วแต่กรณี “จังหวัด” หมายความรวมถึงกรุงเทพมหานครด้วย “อำเภอ” หมายความรวมถึงเขตด้วย “ศาลกลางจังหวัด” หมายความรวมถึงศาลากลางกรุงเทพมหานครด้วย “ที่ว่าการอำเภอ” หมายความรวมถึงสำนักงานเขตด้วย “ผู้มีอายุ” หมายความว่า ผู้มีอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์ขึ้นไป นับถึงวันเลือก ในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในกรณีที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอื่น หรือโดยข้ออ้างอิงอื่น ให้ถือเอาวันที่กำหนดให้ม

มาตรา ๖ เพื่อประโยชน์ในการดําเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญนี้ ให้คณะกรรมการมีอํานาจวางระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดําเนิน การเกี่ยวกับการเลือก รวมทั้งกําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการอื่นใดที่จําเป็นให้แล้วเสร็จ หรือมิให้มีหรือมิให้มีบัญญัติไว้ในลําดับการเฉพาะในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้

มาตรา ๗ ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ในระหว่างเวลาที่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรให้แล้วเสร็จในวันประกาศผลการเลือก หากมีความจําเป็นอย่างยิ่งต้องมีการประชุม คณะกรรมการ ให้คณะกรรมการเลือกประธานผู้แทนสื่อมวลชนอีกครั้งหนึ่ง โดยกรรมการแต่ละ คนอาจอยู่ ณ สถานที่ประชุมหรืออยู่ในสถานที่อื่นใดก็ได้ตามที่คณะกรรมการกําหนด และหากเกิน ให้เป็นหลักฐาน หรือ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกําหนด

มาตรา ๘ การพิจารณาเรื่องใดของคณะกรรมการตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ให้เป็นไปตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการโดยประธานในกรณีที่ คณะกรรมการมีมติให้บุคคลอื่นเป็นผู้รับมอบอํานาจแทนคณะกรรมการ ให้บุคคลนั้นมีอํานาจ อาจกําหนดให้คณะนั้นที่มีมติยอมรับมอบอํานาจเป็นผู้รับมอบอํานาจแทนเพื่อช่วยดําเนินการวินิจฉัย หรืออาจให้คณะอื่นนั้นเป็นผู้ได้รับมอบหลักฐานหรือดําเนินการอื่นที่จําเป็นแทนคณะกรรมการ ก็ได้

การปฏิบัติหน้าที่ของสภาผู้แทนเกี่ยวกับการเลือกตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ผู้พิพากษาซึ่งประธานศาลฎีกา องค์คณะผู้พิพากษา ตลอด จนบุคคลซึ่งองค์คณะผู้พิพากษามอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่เหล่านี้ได้รับมอบให้ประชุมหรือดํา ตอบแทน แล้วแต่กรณี ตามระเบียบที่คณะกรรมการกําหนดหรือระเบียบตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการศาลยุติธรรมกําหนด

มาตรา ๙ ให้ประธานกรรมการการเลือกตั้งรักษาการตามพระราช บัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้

หมวด ๑

ผู้สมัครและการสมัครรับเลือก

มาตรา ๑๐ ภายใต้บังคับมาตรา ๙๗ วรรคสอง การแบ่งกลุ่มตามมาตรา ๑๑ เป็นไปเพื่อให้บุคคลผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และไม่ให้สมาชิกต้องพ้นจากมาตรา ๑๑ ทุกคนที่สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกผู้สมัครในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่ได้สมัคร

มาตรา ๑๑๑ วุฒิสภาประกอบด้วยสมาชิกจำนวนสองร้อยคนซึ่งมาจากการเลือกกันเองของบุคคลซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะหรือประโยชน์ร่วมกัน หรือทำงานหรือเคยทำงานด้านต่าง ๆ ที่หลากหลายของสังคมในแต่ละกลุ่ม ดังต่อไปนี้

(๑)

กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง อันได้แก่ผู้เคยเป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๒)

กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม อันได้แก่ผู้เป็นหรือเคยเป็นผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ ผู้ประกอบวิชาชีพด้านกฎหมาย หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๓)

กลุ่มการศึกษา อันได้แก่ผู้เป็นหรือเคยเป็นครู อาจารย์ นักวิจัย ผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษา หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๔)

กลุ่มการสาธารณสุข อันได้แก่ผู้เป็นหรือเคยเป็นแพทย์ทุกประเภท เทคนิคการแพทย์ สาธารณสุข พยาบาล เภสัชกร หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๕)

กลุ่มอาชีพเกษตรกรรม ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๖)

กลุ่มอาชีพทำสวน ทำไร่ ปศุสัตว์ ประมง หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๗)

กลุ่มพนักงานหรือลูกจ้างของบุคคลซึ่งใช้แรงงานหรือการจัดหางานของรัฐ ผู้ใช้แรงงาน หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๘)

กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพด้านการเงิน การธนาคาร การคลัง การประกันภัย หรือการลงทุนในหลักทรัพย์ หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๙)

กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อมตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๑๐)

กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่นนอกจากกิจการตาม (๙)

(๑๑)

กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว อันได้แก่ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ ผู้ประกอบกิจการหรือพนักงานโรงแรม หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๑๒)

กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๑๓)

กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี หรือการพัฒนา นวัตกรรม หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๑๔)

กลุ่มศิลปิน

(๑๕)

กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการหรือผู้พพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น ๆ หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๑๖)

กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและนันทนาการ นักกีฬา หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๑๗)

กลุ่มประชาสังคม กลุ่มองค์กรสาธารณประโยชน์ หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๑๘)

กลุ่มสื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๑๙)

กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๒๐)

กลุ่มอื่น ๆ การสมัครคนละอื่น ๆ ในทำนองเดียวกันตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด ผู้ที่คุณสมบัติตามมาตรา ๑๓ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๔ ย่อมมีสิทธิสมัครในกลุ่มอื่น ๆ ตาม (๒๐) ได้

มาตรา ๑๒ การเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นพระราชกฤษฎีกา

ภายในกำหนดวันนับตั้งแต่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบังคับ ให้คณะกรรมการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเกี่ยวกับการเลือก ดังต่อไปนี้

(๑)

กำหนดวันเลือกระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ

(๒)

กำหนดวันสมัคร โดยวันรับสมัครไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบังคับ และต้องกำหนดวันสมัครไม่เกินห้าวันติดต่อกัน วันเลือกในระดับอำเภอ ต้องไม่เกินสิบวันนับแต่วันสิ้นสุดระยะเวลารับสมัคร วันเลือกในระดับจังหวัด ต้องไม่เกินสิบวันนับแต่วันเลือกในระดับอำเภอ และวันเลือกในระดับประเทศ ต้องไม่เกินสิบวันนับแต่วันเลือกในระดับจังหวัด ทั้งนี้ ในการกำหนดวันเลือกในแต่ละระดับต้องกำหนดเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร

มาตรา ๑๓ ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

(๑)

มีสัญชาติไทยโดยการเกิด

(๒)

มีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบปีในวันสมัครรับเลือก

(๓)

มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ หรือทำงานในพื้นที่สมัครไม่น้อยกว่าสิบปี

(๔)

ผู้สมัครต้องมีภูมิลำเนาอยู่โดยถาวรในหนึ่งต่อไปนี้ต่อไปนี้

(ก)

เป็นบุคคลซึ่งมีทะเบียนบ้านในอำเภอที่สมัครรับเลือก

(ข)

มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในอำเภอที่สมัครรับเลือกมาแล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนับถึงวันสมัครรับเลือก

(ค)

มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในอำเภอที่สมัครรับเลือกมาแล้วไม่น้อยกว่าหกปีนับถึงวันสมัครรับเลือก (v) เคยทำงานหรือเคยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านอยู่ในอำเภอที่สมัครรับเลือก แล้วแต่กรณี เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าสองปี

(ง)

เคยศึกษาในสถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในอำเภอที่สมัครรับเลือกเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าสองปีการศึกษา ความใน (ข) ไม่ใช้บังคับแก่สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ และกลุ่มสังคมอื่น ซึ่งสังคมในกลุ่มตามมาตรา ๑๑๑ (๑๔) และ (๑๕) มาตรา ๙๗ ผู้สมัครต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

(๑)

ติดยาเสพติดให้โทษ

(๒)

เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต

(๓)

เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ

(๔)

เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือ นักบวช

(๕)

อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่

(๖)

วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ

(๗)

อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

(๘)

ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล

(๙)

เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปีนับถึงวันเลือกในระดับอำเภอ เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

(๑๐)

เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่า กระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ

(๑๑)

เคยถูกสั่งให้ออก หรือปลดออก หรือไล่ออกจากตำแหน่งของคลาสอื่นที่ให้พ้นสินสถานเป็นของแผ่นดินเพราะกระทำความผิด หรือเคยต้องคำพิพากษาให้คืนหรือชดใช้ทรัพย์สินแก่แผ่นดินเพราะกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

(๑๒)

เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ราชการการทุจริตต่อหน้าที่ในการยุติธรรม การทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง การทุจริตในการเลือกตั้ง การกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์สินของแผ่นดินหรือการกระทำความผิดเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดเกี่ยวกับการทุจริต

(๑๓)

เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินในความผิดเกี่ยวกับการทุจริต

(๑๔)

อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

(๑๕)

เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ

(๑๖)

เป็นลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์การอิสระ

(๑๗)

เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามีการเสนอการปฏิบัติ หรือการกระทำด้วยประการใด ๆ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือกรรมาธิการสิ้นไปโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้ประโยชน์ทรายจ่าย

(๑๘)

เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติวินิจฉัยว่ามีการกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

(๑๙)

เป็นข้าราชการ

(๒๐)

เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เว้นแต่ได้พ้นจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าวันนับถึงวันสมัครรับเลือก

(๒๑)

เป็นสมาชิกพรรคการเมือง

(๒๒)

เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง เว้นแต่ได้พ้นจากการดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าวันนับถึงวันสมัครรับเลือก

(๒๓)

เป็นหรือเคยเป็นรัฐมนตรี เว้นแต่ได้พ้นจากการเป็นรัฐมนตรีมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าวันนับถึงวันสมัครรับเลือก

(๒๔)

เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น เว้นแต่ได้พ้นจากการเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าวันนับถึงวันสมัครรับเลือก

(๒๕)

เป็นบุพการี ผู้สืบสันดาน หรือคู่สมรสของผู้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา รัฐมนตรี สมาชิกสภาท้องถิ่น สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในคราวเดียวกัน หรือผู้ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีพรรคหรือองค์การอิสระ

(๒๖)

เคยเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ

มาตรา ๑๙ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญซึ่งได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญต้องยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญในลักษณะเดียวกันพร้อมด้วยเอกสารแสดงคุณสมบัติประกอบการสมัคร และต้องทำตามระเบียบการสมัครที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด

ให้ผู้สมัครแต่ละคนสมัครเป็นตัวแทนในกลุ่มสมาชิกมาตรา ๑๑ ได้เพียงกลุ่มเดียวและจำกัดเขตเลือกตั้งเฉพาะกลุ่มสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญในเขตเดียวกัน ผู้สมัครมีสิทธิสมัครในกลุ่มตามมาตรา ๑๑ (๒๐) ได้ แม้จะมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะหรือประโยชน์ร่วมกัน หรือทำงานหรือเคยทำงานด้านอื่นในกลุ่มอื่น แบบใบสมัคร แบบหนังสือแจ้งการเสนอชื่อ วิธีการสมัคร ระยะเวลาการสมัคร สถานที่ที่สมัคร การเรียกกลับผู้สมัคร และวิธีการชำระค่าธรรมเนียมการสมัคร ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด แบบใบสมัครอย่างน้อยต้องมีข้อความที่ผู้สมัครต้องรับรองว่าตนมีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๓ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๔ การกำหนดสถานที่มีสิทธิต้องกำหนดให้อยู่ภายในเขตอำเภอที่องค์กรเลือก

มาตรา ๑๖ เอกสารและหลักฐานประกอบการสมัคร ประกอบด้วย

(๑)

เอกสารหรือหลักฐานอันแสดงว่าตนมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะหรือประโยชน์ร่วมกัน หรือทำงานหรือเคยทำงานด้านใดด้านหนึ่งตามมาตรา ๑๑ ทั้งนี้ ตามที่คณะกรรมการกำหนด

(๒)

ข้อความแสดงเจตจำนงของผู้สมัครซึ่งมีความชัดเจนตามที่เห็นสมควร

(๓)

เอกสารหรือหลักฐานอื่นตามที่คณะกรรมการกำหนด ผู้สมัครต้องรับรองในเอกสารหรือหลักฐานที่ยื่นต่อคณะกรรมการและหลักฐานที่แสดงว่าตนมีคุณสมบัติตามมาตรา ๑๓ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๔ ให้ครบถ้วน ความถูกต้องและเป็นจริงตามวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด เอกสารหรือหลักฐานตาม (๑) ต้องมีพยานอย่างน้อยหนึ่งคนลงลายมือชื่อยืนยันว่าผู้เป็นผู้สมัครตนเดียวกันนั้นจริง และต้องมีสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของพยานซึ่งลงลายมือชื่อรับรองถูกต้องแนบท้ายพร้อมกัน การกำหนดตาม (๒) ให้ดำเนินการส่งความสะดวกในการเผยแพร่ให้ผู้สมัครรับรู้ และการกำหนดตาม (๓) ต้องไม่สร้างภาระแก่ผู้สมัครเกินสมควร

มาตรา ๑๗ ในกรณีมีเหตุจำเป็นเฉพาะพื้นที่ที่ทำให้ไม่สามารถดำเนินการรับสมัครด้วยวิธีการในระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ ให้คณะกรรมการกำหนดวิธีการรับสมัครที่เหมาะสมอื่นได้ ให้คณะกรรมการกำหนดวิธีการรับสมัครที่เหมาะสมอื่นได้โดยเป็นการรับสมัครโดยตรงหรือผ่านทางไปรษณีย์

มาตรา ๑๘ ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการหรือทำให้ผู้อื่นเข้าใจว่าผู้สมัครหรือผู้ใดมีสิทธิพิเศษเหนือผู้สมัครรายอื่นในการสมัครหรือการได้รับเลือก

หน้าที่ของเจ้ากรรมการตรวจสอบคุณสมบัติ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบในเบื้องต้นหรือการพิจารณาอุทธรณ์หรือการพิจารณาคัดค้าน ต้องไม่ทำให้เกิดความได้เปรียบหรือเสียเปรียบแก่ผู้สมัครรายใดรายหนึ่งโดยไม่เป็นธรรม ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการกำหนดวิธีการตรวจสอบคุณสมบัติให้เป็นไปตามหลักการสำคัญดังกล่าวและให้เหมาะสมกับแต่ละกรณีในแต่ละพื้นที่ที่มีการรับสมัคร

มาตรา ๑๙ การเลือกในระดับอำเภอให้กระทำได้ แม้จะไม่มีผู้สมัครครบทุกกลุ่มตามมาตรา ๑๑

มาตรา ๒๐ ในกรณีที่ความปรากฏต่อผู้ดำเนินการการเลือกระดับอำเภอไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ว่าผู้สมัครผู้ใดขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามหรือสมัครมากกว่าหนึ่งกลุ่มหรือหนึ่งอำเภอ หรือแสดงข้อมูลในใบสมัครหรือเอกสารหรือหลักฐานประกอบการสมัครอันเป็นเท็จ ให้ผู้ดำเนินการการเลือกระดับอำเภอสั่งไม่รับสมัคร ในกรณีดังกล่าวนี้ให้การสมัครของผู้นั้นเป็นโมฆะ และให้ผู้ดำเนินการการเลือกตั้งแห่งอำเภอแจ้งคำสั่งลงชื่อผู้มีมูลออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัคร แล้วรายงานให้คณะกรรมการทราบ

ผู้ถูกสั่งออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัครตามวรรคหนึ่ง ไม่มีสิทธิเลือกและไม่มีสิทธิได้รับเลือก แต่ไม่มีผลกระทบต่อการรับสมัครหรือการเลือกที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ในกรณีที่มีความสงสัยว่าผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนในระหว่างการดำเนินการเลือกในระดับใดก่อนประกาศผลการเลือก ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำการฝ่าฝืนเพื่อให้การเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม และให้คณะกรรมการสั่งระงับสิทธิสมัครหรือสิทธิของผู้นั้นไว้เป็นการชั่วคราวเป็นเวลาไม่เกินหนึ่งปี สามารถดำเนินการดำเนินการดังกล่าวได้ตามที่คณะกรรมการกำหนดตามที่เห็นสมควร คำสั่งและการกำหนดของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด เมื่อคณะกรรมการมีคำสั่งดังกล่าว ควรสั่งให้แจ้งร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น

มาตรา ๒๑ ภายในการดำเนินการในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการเลือกระดับอำเภอ ให้ผู้ดำเนินการเลือกระดับอำเภอประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งทุกกลุ่มในแต่ละอำเภอ โดยมีรายละเอียดของผู้สมัครเพื่อให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป และให้ประกาศไว้ ณ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ศาลากลางจังหวัด และที่ว่าการอำเภอด้วย

การประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา ๒๒ กรณีที่ผู้สมัครคนใดถูกคณะกรรมการการเลือกระดับอำเภอสั่งไม่รับสมัครผู้ใดหรือสั่งลงชื่อผู้สมัครผู้ใด ผู้เห็นว่าตนเองหรือผู้อื่นถูกสั่งโดยมิชอบด้วยกฎหมายสามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาได้ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัครหรือวันที่ผู้ดำเนินการการเลือกตั้งสั่งลงชื่อ แล้วแต่กรณี

ในการพิจารณาและสั่งคดีของศาลฎีกาตามวรรคหนึ่ง ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับคำร้อง และให้คำวินิจฉัยของศาลฎีกาเป็นที่สุด โดยคำวินิจฉัยของศาลฎีกาต้องมีเหตุผลและคำชี้แจงประกอบการตัดสินใจอย่างชัดเจน ในกรณีที่เห็นว่าผู้ใดถูกสั่งโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ให้ศาลฎีกาสั่งให้แก้ไขบัญชีรายชื่อผู้สมัครหรือการเลือกตั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องตามที่เห็นสมควร

มาตรา ๒๓ ในกรณีที่ผู้สมัครผู้ใดซึ่งถูกสั่งออกจากบัญชีรายชื่อผู้สมัครก่อนการดำเนินการเลือกในระดับอำเภอหรือระดับชั้นใด ๆ ผู้เห็นว่าตนเองหรือผู้อื่นถูกสั่งโดยมิชอบด้วยกฎหมายในส่วนดังกล่าวนั้นมีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาได้ภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ผู้ดำเนินการเลือกตั้งสั่งลงชื่อ และให้คำวินิจฉัยตามมาตรา ๒๒ วรรคสอง สามารถใช้บังคับต่อคดีโดยอนุโลม

หมวด ๒

ผู้อำนวยการเกี่ยวกับการเลือก

มาตรา ๒๗ ในการดำเนินการเพื่อเลือกสมาชิกวุฒิสภา ให้มีคณะกรรมการเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงาน แนะนำ อำนวยความสะดวก และรายงานปัญหาหรืออุปสรรคเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภาต่อคณะกรรมการ ดังต่อไปนี้

(๑)

คณะกรรมการระดับประเทศ โดยให้คณะกรรมการปฏิบัติหน้าที่เป็นคณะกรรมการระดับประเทศ

(๒)

คณะกรรมการระดับจังหวัด ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดสำหรับจังหวัดอื่น และปลัดกรุงเทพมหานครสำหรับกรุงเทพมหานคร เป็นประธาน หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดหรือบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ จำนวนสามคน ผู้ทรงคุณวุฒิในเขตจังหวัดซึ่งไม่ได้เป็นหัวหน้าหรือผู้รับผลเลือกตั้งเป็นสมาชิกหรือหัวหน้าพรรคการเมือง หรือเป็นผู้สมัคร หรือผู้แทนพรรคการเมือง ผู้สมัคร หรือคู่สมรส เป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด จำนวนสองคนเป็นกรรมการ และให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดเป็นกรรมการและเลขานุการ

(๓)

คณะกรรมการระดับอำเภอ ประกอบด้วย นายอำเภอเป็นประธาน หัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอหรือบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ จำนวนสามคน ผู้ทรงคุณวุฒิในเขตอำเภอซึ่งไม่ได้เป็นหัวหน้าหรือผู้รับผลเลือกตั้งเป็นสมาชิกหรือหัวหน้าพรรคการเมือง หรือเป็นผู้สมัคร หรือผู้แทนพรรคการเมือง ผู้สมัคร หรือคู่สมรส เป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด จำนวนสองคนเป็นกรรมการ และให้ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอเป็นกรรมการและเลขานุการ ผู้มีอำนาจแต่งตั้ง การแต่งตั้ง และวิธีการได้มาซึ่งกรรมการตาม (๒) และ (๓) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด สำหรับกรุงเทพมหานคร คณะกรรมการอาจกำหนดให้แต่งตั้งข้าราชการกรุงเทพมหานครที่เหมาะสมในเขตพื้นที่ส่วนราชการประจำจังหวัดตาม (๒) และหัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอตาม (๓) ก็ได้ ผู้เป็นกรรมการโดยตำแหน่งหรือหัวหน้าส่วนราชการหรือบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐตาม (๒) หรือ (๓) แล้วแต่กรณี ซึ่งไม่เป็นผู้สมัคร ผู้แทนพรรคการเมือง ผู้สมัคร หรือคู่สมรส ต้องไม่เป็นสมาชิกของพรรคการเมืองใด ในกรณีที่ความปรากฏต่อคณะกรรมการว่า กรรมการตาม (๒) หรือ (๓) ผู้ใดมีการกระทำอันกระทบหรือมีเหตุอันควรสงสัยอย่างยิ่งว่าเกิดการไม่เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้คณะกรรมการมีมติให้กรรมการผู้นั้นพ้นจากตำแหน่ง และให้แต่งตั้งกรรมการแทนได้ตามที่เห็นสมควร ให้คณะกรรมการตามวรรคหนึ่ง และพนักงานของรัฐที่เกี่ยวข้องที่มิใช่เป็นพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา ๒๘ ในกรณีที่มิได้กำหนดการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ให้แต่งตั้งผู้มีอำนาจการเลือกตั้งระดับประเทศ ให้กรรมการเลขาธิการวุฒิสภาตามมาตรา ๒๖ (๒) เป็นผู้มีอำนาจการเลือกตั้งระดับประเทศ และให้กรรมการเลขาธิการตามมาตรา ๒๖ (๒) เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งระดับอำเภอ

มาตรา 26 เมื่อพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภามีผลใช้บังคับ ให้อำนวยการการเลือกตั้งเป็นผู้ดำเนินการให้การเลือกสมาชิกวุฒิสภาเป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้และตามที่คณะกรรมการกำหนด ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา 27 เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำเนินการการเลือกตั้งระดับจังหวัดซึ่งมีอำนวยการการเลือกตั้งระดับอำเภอ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งแต่งตั้งบุคคลผู้มีภูมิลำเนาในจังหวัดหรืออำเภอ แล้วแต่กรณี ที่มีการเลือกตั้งนั้นเป็นจำนวนหนึ่งทำหน้าที่เพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานของผู้ดำเนินการการเลือกตั้งระดับจังหวัดหรือผู้ดำเนินการการเลือกตั้งระดับอำเภอได้ ในกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบการเลือกตั้งตามมาตรา 29 (2) และ (3) เป็นผู้แต่งตั้งแทนคณะกรรมการก็ได้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด

ในการเลือกตั้งทุกระดับ คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งหรือมอบหมายให้ผู้อำนวยการทะเบียนกลางตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร์ดำเนินการหรือช่วยเหลือเกี่ยวกับการดำเนินการเลือกได้ ในการเลือกตั้งระดับประเทศ ให้คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานของผู้อำนวยการการเลือกตั้งระดับประเทศได้ การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรานี้ให้เป็นไปตามระเบียบ วรรคสอง และวรรคสาม ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา 28 ในการดำเนินการให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ให้คณะกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการดำเนินการเลือกตั้งหน้าที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ดังต่อไปนี้

(ก)

จัดให้มีสถานที่รับสมัครและสถานที่เลือกในเขตอำเภอ

(ข)

จัดให้มีการรับสมัคร

(ค)

ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัคร

(ง)

จัดทำบัญชีรายชื่อผู้สมัครตามมาตรา 26

(จ)

จัดทำเอกสารหรือข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัครทุกคนเพื่อให้ผู้สมัครตรวจสอบและใช้ประโยชน์ในการเลือก

(ฉ)

ควบคุมการเลือก การนับคะแนน และการรายงานผลการนับคะแนนให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม

(ช)

ประกาศรายชื่อผู้ได้รับเลือกตั้งระดับอำเภอ และส่งรายชื่อผู้ได้รับเลือกพร้อมทั้งคะแนนที่ผู้ได้รับเลือกตั้งได้รับไปยังผู้อำนวยการการเลือกตั้งระดับจังหวัด

(ซ)

บันทึกหมายเลขเสียของบัตรลงคะแนนการเลือกไว้เป็นหลักฐาน

(ฌ)

ปฏิบัติหน้าที่อื่นอันเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภาตามที่คณะกรรมการกำหนดหรือมอบหมาย สถานที่เลือกตั้งเป็นสถานที่ที่สามารถเดินทางไปได้โดยสะดวก พร้อมทั้งให้มีป้ายหรือเครื่องหมายอื่นใดเพื่อแสดงขอบเขตของเขตเลือกตั้งไว้ด้วย ในการดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา ๒๙ ในการดำเนินการให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับจังหวัด ให้ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดดำเนินการ ดังต่อไปนี้

(๑)

จัดให้มีสถานที่เลือกในแต่ละจังหวัด

(๒)

จัดทำบัญชีรายชื่อผู้ได้รับเลือกจากการเลือกระดับอำเภอแยกเป็นรายกลุ่ม โดยอย่างน้อยต้องระบุอาชีพและอายุของผู้สมัคร และประกาศให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปภายในสามวันนับแต่วันที่ได้รับบัญชีรายชื่อจากผู้อำนวยการเลือกตั้งระดับอำเภอ

(๓)

จัดทำเอกสารหรือข้อมูลแนะนำตัวของผู้ได้รับเลือกจากการเลือกระดับอำเภอเพื่อให้ผู้ได้รับเลือกได้ตรวจสอบและใช้ประโยชน์ในการเลือก ทั้งนี้ ให้ใช้เอกสารหรือข้อมูลที่ได้รับมาจากผู้อำนวยการเลือกตั้งระดับอำเภอ

(๔)

ควบคุมการเลือก การนับคะแนน และการรายงานผลการนับคะแนนให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม

(๕)

ประกาศรายชื่อผู้ได้รับเลือกในระดับจังหวัด และส่งบัญชีรายชื่อของผู้ได้รับเลือกพร้อมทั้งรายงานผลการเลือกตั้งไปยังผู้ตรวจการเลือกตั้ง

(๖)

บันทึกภาพและเสียงขณะมีการเลือกตั้งไว้เป็นหลักฐาน

(๗)

ปฏิบัติหน้าที่อื่นอันเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภาตามที่คณะกรรมการกำหนดหรือมอบหมาย ให้บังคับตามมาตรา ๒๘ วรรคสอง และวรรคสาม มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม

มาตรา ๓๐ ในการดำเนินการให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งระดับประเทศดำเนินการ ดังต่อไปนี้

(๑)

จัดให้มีสถานที่เลือกในระดับประเทศ

(๒)

จัดทำบัญชีรายชื่อผู้ได้รับเลือกจากการเลือกตั้งระดับจังหวัดแยกเป็นรายกลุ่ม โดยอย่างน้อยต้องระบุอาชีพและอายุของผู้สมัคร และประกาศให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปภายในสามวันนับแต่วันที่ได้รับบัญชีรายชื่อจากผู้อำนวยการเลือกตั้งระดับจังหวัด

(๓)

จัดทำเอกสารหรือข้อมูลแนะนำตัวของผู้ได้รับเลือกจากการเลือกตั้งระดับจังหวัดเพื่อให้ผู้ได้รับเลือกได้ตรวจสอบและใช้ประโยชน์ในการเลือก ทั้งนี้ ให้ใช้เอกสารหรือข้อมูลที่ได้รับมาจากผู้อำนวยการเลือกตั้งระดับจังหวัด

(๔)

ควบคุมการเลือก การนับคะแนน และการรายงานผลการนับคะแนนให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม

(๔)

เสนอรายชื่อและคะแนนของแต่ละบุคคลในแต่ละกลุ่มต่อคณะกรรมการเพื่อประกาศผลการเลือก

(๕)

บันทึกภาพและเสียงกระบวนการเลือกไว้เป็นหลักฐาน

(๖)

ปฏิบัติหน้าที่อื่นอันเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกสภาสูงที่คณะกรรมการกำหนดหรือมอบหมาย ให้ถือความในมาตรา ๒๕ วรรคสอง และวรรคสาม มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา ๓๖ ให้ประธานและกรรมการในคณะกรรมการระดับจังหวัดและกรรมการระดับอำเภอ ผู้ดำเนินการการเลือก และพนักงานดำเนินการเลือก ที่มิได้รับเบี้ยเลี้ยง ค่าตอบแทน และค่าใช้จ่ายอื่นตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และอัตราที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา ๓๗ ห้ามมิให้กรรมการ เลขานุการ ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ประธานและกรรมการในคณะกรรมการระดับจังหวัดหรือในคณะกรรมการระดับอำเภอ ผู้ดำเนินการเลือก หรือพนักงานดำเนินการที่ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ที่สมัครเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือช่วยดำเนินการ หรือกระทำการอื่นอันเป็นการขัดขวางหรือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งของคณะกรรมการ คณะกรรมการระดับจังหวัด หรือคณะกรรมการระดับอำเภอ ผู้ดำเนินการเลือก หรือพนักงานดำเนินการเลือกที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ประกอบรัฐธรรมนูญนี้

กรรมการ เลขานุการ ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ประธานและกรรมการในคณะกรรมการระดับจังหวัดหรือในคณะกรรมการระดับอำเภอ ผู้ดำเนินการเลือก หรือพนักงานดำเนินการเลือกที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ หรือกฎหมาย ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งของคณะกรรมการ หรือปฏิบัติหน้าที่ขัดหรือข้ามคำสั่งของคณะกรรมการ หรือคณะกรรมการระดับจังหวัดหรือคณะกรรมการระดับอำเภอเกี่ยวกับการเลือกตั้ง หากได้กระทำโดยสุจริต ย่อมได้รับความคุ้มครอง ไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางปกครอง

หมวด ๓

การเลือก

มาตรา ๓๘ การเลือกสมาชิกผู้มีสิทธิเลือกลงคะแนนลับตามวิธีการที่กำหนดในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้

มาตรา ๓๙ ในกรณีมีเหตุอันเป็นเฉพาะที่ทำให้ไม่สามารถดำเนินการเลือกได้ภายในระยะเวลาหรือวัน ที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา อาจกำหนด วัน เวลา หรือเหตุอื่นขึ้นเป็นได้ คณะกรรมการอาจกำหนดวันเลือกใหม่พร้อมทั้งกำหนดวัน เวลา หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่ หรือการเลือกวิธีใหม่

ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ว่าการดำเนินการเลือกต่อไปตามกำหนดวันเลือกตั้งอาจไม่เป็นธรรมหรือเรียบร้อย คณะกรรมการจึงประกาศกำหนดวันเลือกใหม่ได้ ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยเกิดขึ้นในระหว่างเวลาปิดการลงคะแนน คณะกรรมการจะสั่งยกเลิกการเลือก และประกาศกำหนดวันเลือกใหม่ได้

มาตรา ๗๓ ผู้มีสิทธอาจแนะนำตัวได้ตามวิธีการและเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด

บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ผู้สมัคร จะช่วยเหลือผู้สมัครในการแนะนำตัว ต้องปฏิบัติตามวิธีการและเงื่อนไขตามที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา ๗๔ ในระหว่างการดำเนินการเลือกตามมาตรา ๖๐ มาตรา ๖๑ หรือมาตรา ๖๒ ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่ผู้สมัครเข้าไปในสถานที่เลือก เว้นแต่เป็นผู้ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวกับการเลือก หรือผู้ซึ่งได้รับอนุญาตจากกรรมการ ผู้อำนวยการการเลือกระดับประเทศ ผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัด หรือผู้ช่วยอำนวยการการเลือกระดับอำเภอ แล้วแต่กรณี

เมื่อประกาศผลการนับคะแนนแล้ว ผู้สมัครหรือผู้ได้รับเลือกตั้งนั้นซึ่งไม่มีสิทธิที่จะเลือกหรือได้รับเลือก ต้องออกจากสถานที่เลือก

มาตรา ๗๕ ในระหว่างการดำเนินการเลือกตามมาตรา ๖๐ มาตรา ๖๑ หรือมาตรา ๖๒ ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปหรือถือสิ่งของหรือวัตถุใด ๆ เข้าไปเพื่อติดสื่อหรือแสดงข้อความหรือเครื่องหมายที่มีลักษณะเป็นการหาเสียงเลือกตั้ง หรือมีลักษณะเป็นการชี้นำหรือจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครรายใดรายหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง หรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครรายใดรายหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ทั้งนี้ โดยให้คำนึงถึงการอ่านความสงบตามมาตรา ๗๕ ด้วย

มาตรา ๗๖ ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการโดยมีเป็นการขัดขวางหรือกีดขวางแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในการเข้าไป ณ สถานที่เลือก หรือเข้าไปถึง ณ สถานที่เลือกภายในกำหนดเวลาที่จะเลือก

มาตรา ๘๐ การเลือกระดับอำเภอ ให้ดำเนินการ ดังนี้

(๑)

ผู้สมัครต้องมาลงชื่อสถานที่เลือกและแสดงตนภายในเวลาที่คณะกรรมการกำหนด ผู้ใดไม่มาหรือไม่แสดงตนให้หมดสิทธิที่จะเลือกและได้รับเลือก

(๒)

เมื่อผู้สมัครครบองค์ประชุมตาม (๑) แล้ว ให้ผู้ช่วยอำนวยการเลือกระดับอำเภอจัดให้ผู้สมัครแต่ละกลุ่มรวมอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ณ สถานที่ผู้ช่วยอำนวยการเลือกระดับอำเภอกำหนด (c) ให้ผู้สมัครแต่ละกลุ่มคะแนนเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกันได้ไม่เกินสองคน โดยจะลงคะแนนเลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกินจำนวนที่กำหนดไม่ได้ (d) เมื่อการลงคะแนนของกลุ่มใดแล้วเสร็จ ให้อำนวยการการเลือกธิบดีอำนาจดำเนินการให้การนับคะแนนของกลุ่มนั้นโดยเปิดเผย

(จ)

ให้ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดเรียงตามลำดับทำหน้าที่กรรมการผู้ได้รับเลือกตั้งของแต่ละกลุ่ม ในกรณีที่คะแนนเท่ากันให้ถือคะแนนที่กรรมการในที่ประชุมลงคะแนนให้ผู้ได้รับคะแนนเท่ากันนั้นให้ผู้ได้รับคะแนนเท่ากันดังกล่าวจับสลากเพื่อให้ได้ผู้ได้รับเลือกตั้งในกลุ่มนั้น ในกรณีที่ผู้ได้รับคะแนนไม่ถึงจำนวน ให้เฉพาะผู้ที่ได้รับคะแนนเท่ากันจับสลาก

(ฉ)

ในกรณีที่ผู้ได้รับเลือกตาม (จ) ผู้ใดไม่อยู่ในสถานที่เลือกในระหว่างดำเนินการเลือกตั้งต่อไป ให้ผู้ที่หมดสิทธิที่จะเลือกและได้รับเลือก และให้อาจารย์ผู้ได้รับเลือกตาม (จ) มีเพียงเท่าที่มีอยู่

(ช)

ในกรณีที่กลุ่มใดมีผู้สมัครไม่เกินจำนวน หรือมีผู้ทรายามาตรา (จ) ไม่เกินจำนวน ให้ผู้สมัครกลุ่มนั้นไม่ต้องดำเนินการเลือกตั้งต่อไป โดยให้ถือว่าผู้สมัครทุกคนซึ่งมารายงานตัวในกลุ่มนั้นได้รับเลือกตั้งแล้วสำหรับกลุ่มนั้น

(ซ)

กลุ่มใดที่ไม่มีผู้สมัคร ให้ถือการดำเนินการให้การเลือกตั้งสำหรับกลุ่มนั้นและไม่มีผลกระทบต่อการเลือกของกลุ่มอื่น

(ฌ)

ให้ผู้ได้รับเลือกตั้งในขั้นตอนนี้ของแต่ละกลุ่มแล้ว ให้ผู้ได้รับเลือกตั้งของแต่ละกลุ่มมาประชุมร่วมกันเพื่อเลือกกรรมการผู้ได้รับเลือกตั้งในขั้นตอนที่สองต่อไป โดยการนี้ให้แต่ละกลุ่มได้เสนอชื่อผู้ได้รับเลือกตั้งในกลุ่มของตนเองเพื่อให้ที่ประชุมลงคะแนนเลือก โดยการนี้ให้แต่ละกลุ่มได้เสนอชื่อผู้ได้รับเลือกตั้งในกลุ่มของตนเองเพื่อให้ที่ประชุมลงคะแนนเลือก

(ญ)

ให้ถือให้การแบ่งสายออกเป็นสายไม่เกินสี่สาย แต่ละสายประกอบด้วยจำนวนกลุ่มเท่ากัน เว้นแต่จะแบ่งเท่ากันไม่ได้ ให้แบ่งให้แต่ละสายมีจำนวนกลุ่มใกล้เคียงกันมากที่สุด และในแต่ละสายยังมีจำนวนกลุ่มไม่เกินห้ากลุ่มแต่ต้องไม่ย่อมกว่าสามกลุ่ม และให้บุคคลตาม (จ) ของแต่ละกลุ่มจัดสรรว่ากลุ่มของตนจะอยู่ในสายใด

(ฎ)

ให้ผู้ได้รับเลือกตั้งขั้นตอนนี้และกลุ่มผู้เลือกตั้งได้รับเลือกตั้งในกลุ่มอื่นที่อยู่ในสายเดียวกัน โดยเปลี่ยนแปลงการเลือกตั้งในขั้นตอนนี้ให้เป็นกลุ่มผู้เลือกตั้งในสายเดียวกันให้ได้กลุ่มละหนึ่งคน ในกรณีที่ผู้ได้รับเลือกตั้งในกลุ่มผู้เลือกตั้งในสายเดียวกันมีจำนวนไม่ถึงจำนวนที่กำหนด ให้เฉพาะผู้ที่ได้รับคะแนนเท่ากันจับสลาก

(ฏ)

เมื่อดำเนินการเลือกตาม (ฎ) แล้ว ให้ผู้ช่วยอำนวยการการเลือกธิบดีอำนาจดำเนินการให้การนับคะแนนโดยเปิดเผย ให้ผู้ได้รับเลือกตั้งในขั้นตอนนี้ของแต่ละกลุ่มมาประชุมร่วมกันเพื่อเลือกกรรมการผู้ได้รับเลือกตั้งในขั้นตอนที่สามต่อไป โดยการนี้ให้แต่ละกลุ่มได้เสนอชื่อผู้ได้รับเลือกตั้งในกลุ่มของตนเองเพื่อให้ที่ประชุมลงคะแนนเลือก โดยการนี้ให้แต่ละกลุ่มได้เสนอชื่อผู้ได้รับเลือกตั้งในกลุ่มของตนเองเพื่อให้ที่ประชุมลงคะแนนเลือก

(ฐ)

ให้ผู้ช่วยอำนวยการการเลือกธิบดีอำนาจส่งรายชื่อผู้ได้รับเลือกตาม (ฎ) ให้ผู้ช่วยอำนวยการการเลือกธิบดีอำนาจส่งรายชื่อผู้ได้รับเลือกตามมาตรา (ฐ) ภายในกำหนดจำนวนวันแล้วระดับอำนาจเพื่อดำเนินการต่อไป การดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีขาดโดยไม่มีผู้สมัครไม่เกินห้ากลุ่ม เมื่อได้ดำเนินการเลือกตาม (c) แล้ว ไม่ต้องจัดให้มีการลงคะแนน (๑๐) และให้แต่ละกลุ่มเลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่นแต่ละกลุ่มได้คนละหนึ่งคน โดยผู้สมัครในกลุ่มเดียวกันจะเลือกกันเองหรือเลือกกลุ่มเองมิได้

มาตรา ๑๓ การเลือกระดับจังหวัด ให้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้

(a) ผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอต้องลงลำดับสถานที่เลือกและแสดงตนภายในเวลาที่คณะกรรมการกำหนด ผู้ใดไม่มาหรือมาไม่ทันกำหนดให้พ้นจากสิทธิที่จะได้รับเลือกและได้ รับเลือก (b) เมื่อผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอครบพร้อมกันแล้วตาม (a) แล้ว ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัดให้ผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอแต่ละกลุ่มรวมอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัดกำหนด (c) ให้ผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอแต่ละกลุ่มลงคะแนนเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกันได้ไม่เกินสองคน โดยจะลงคะแนนเลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกินหนึ่งคนแม้ไม่ได้ (d) เมื่อการลงคะแนนของกลุ่มใดแล้วเสร็จ ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัดดำเนินการให้การนับคะแนนของกลุ่มนั้นโดยเปิดเผย (e) ให้ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดเรียงลำดับกันตามคะแนนที่ผู้ได้รับเลือกนั้นลงคะแนนให้ ในกรณีที่มีคะแนนเท่ากันให้ผู้ที่ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นลงคะแนนใหม่เฉพาะผู้ที่ได้คะแนนเท่ากัน ในกรณีที่ยังมีคะแนนเท่ากันอีกให้ใช้วิธีจับสลาก (f) ในกรณีที่ผู้ที่ได้รับเลือกตาม (e) ผู้ใดไม่อยู่ในสถานที่เลือกในระหว่างดำเนินการเลือกขั้นต่อไป ให้ผู้ที่หมดสิทธิที่จะเลือกและได้รับเลือก และให้ถือว่าผู้ได้รับเลือกตาม (e) มีเพียงเท่าที่มีอยู่ (g) ในกรณีที่กลุ่มใดมีผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอรวมกันแล้วไม่เกินห้าคนหรือมีผู้มารายงานตัวตาม (a) ไม่เกินห้าคน ให้ผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอกลุ่มนั้นไม่ต้องดำเนินการเลือกขั้นต่อไป โดยให้กลุ่มผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอทุกคนส่งรายงานรายชื่อในกลุ่มนั้นเป็นผู้ได้รับเลือกเพื่อส่งเสริมการพัฒนาระดับจังหวัด (h) กลุ่มใดไม่มีผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอ ให้พิจารณาดำเนินการเลือกสำหรับกลุ่มนั้นและไม่มีผลกระทบต่อการเลือกของกลุ่มอื่น (i) ให้ถือว่าการแยกกลุ่มออกเป็นกลุ่มย่อยนั้นไม่สามารถทำได้ แต่ละกลุ่มประกอบด้วยจำนวนกลุ่มเท่ากัน เช่นเดียวกับการเลือกในระดับอำเภอ และให้การเลือกในระดับจังหวัดเป็นไปตามลำดับและในแต่ละลำดับของกลุ่มที่ไม่มีผู้สมัครไม่เกินห้ากลุ่ม ให้ถือว่าผู้สมัครกลุ่มนั้นและผู้สมัครบุคคล (c) ของแต่ละกลุ่มต้องการกลุ่มของตนเองอยู่ในลำดับใด

(๑๑)

ให้ผู้ได้รับเลือกตั้งนั้นของแต่ละกลุ่มเลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่นที่อยู่ในสายเดียวกัน โดยแต่ละคนจะมีสิทธิเลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่นแต่ละกลุ่มไม่เกินกว่าที่ได้กำหนดหนึ่งคน ทั้งนี้ ผู้ได้รับเลือกตั้งในกลุ่มเดียวกันจะเลือกกันเองหรือไม่เลือกกันเองก็ได้

(๑๒)

เมื่อตำแหน่งการเลือกตาม (๑๑) แล้ว ให้ผู้ซึ่งอำนวยการการเลือกระดับจังหวัดดำเนินการให้การคัดเลือกแบบโดยเปิดเผย ให้ผู้ได้รับคะแนนสูงสุดอันดับแรกในแต่ละกลุ่มเป็นผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดสำหรับกลุ่มนั้น เพื่อไปดำเนินการเลือกในระดับประเทศต่อไป ในกรณีที่คะแนนกลับได้ผู้ได้รับคะแนนเท่ากันเป็นอันดับแรกให้ผู้ได้รับคะแนนสูงสุดกลับเลือกกันเอง ให้ผู้ได้รับคะแนนเท่ากันเป็นอันดับแรกเลือกกันเอง หรือให้ผู้ได้รับคะแนนเท่ากันเป็นอันดับแรกเลือกกันเองไม่ได้ ให้เสนอชื่อผู้ได้รับคะแนนเท่ากันเป็นอันดับแรกให้ผู้ซึ่งอำนวยการการเลือกระดับจังหวัดเลือกโดยการจับสลาก ให้เฉพาะผู้ซึ่งได้รับคะแนนเท่ากันเป็นอันดับแรกจับสลาก

(๑๓)

ให้ผู้ซึ่งอำนวยการการเลือกระดับจังหวัดส่งบัญชีรายชื่อผู้ได้รับเลือกตาม (๑๒) ให้ผู้ซึ่งอำนวยการการเลือกระดับประเทศพร้อมด้วยเอกสารหรือข้อมูลตามมาตรา ๒๙ (๓) ภายในวันถัดจากวันเลือกระดับจังหวัดเพื่อดำเนินการต่อไป การดำเนินการเลือกกรรมการระดับ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด ทั้งนี้ ในจังหวัดใดไม่มีผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอจากทุกกลุ่มการเลือกในจังหวัดให้นำกลุ่มนั้นไม่ได้ดำเนินการเลือกตาม (๑๒) แล้ว ไม่ต้องจัดให้มีการเสนอรายงานของแต่ละกลุ่มที่ไม่ได้รับเลือกตั้งในกลุ่มนั้น เพื่อให้แต่ละกลุ่มเลือกสมาชิกในกลุ่มเดียวกันเองหรือเลือกกันเองไม่ได้

มาตรา ๑๕ การเลือกระดับประเทศ ให้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้

(๑)

ผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดจะต้องส่งสถานที่เลือกและส่งเอกสารตามเวลาที่คณะกรรมการกำหนด ผู้ไม่มาร่วมการเลือกหรือมาไม่ทันให้หมดสิทธิเลือกและได้รับเลือก

(๒)

เมื่อผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดมาถึงสถานที่เลือกตาม (๑) แล้ว ให้ผู้ซึ่งอำนวยการการเลือกระดับประเทศจัดให้ผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดแต่ละกลุ่มรวมอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ณ สถานที่ผู้ซึ่งอำนวยการการเลือกระดับประเทศกำหนด

(๓)

ให้ผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดแต่ละกลุ่มลงคะแนนเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกันได้ไม่เกินคะแนน โดยจะลงคะแนนเลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกินหนึ่งคะแนนไม่ได้

(๔)

เมื่อการลงคะแนนของกลุ่มใดแล้วเสร็จ ให้ผู้ซึ่งอำนวยการการเลือกระดับประเทศดำเนินการรับจำนวนคะแนนโดยเปิดเผย

(๕)

ให้ผู้ได้รับเลือกตั้งในแต่ละกลุ่มที่มีคะแนนสูงสุดตามลำดับจนถึงจำนวนที่กำหนดในแต่ละกลุ่ม ให้ผู้ได้รับเลือกตั้งในแต่ละกลุ่มที่มีคะแนนสูงสุดตามลำดับจนถึงจำนวนที่กำหนดในแต่ละกลุ่มเป็นผู้ได้รับเลือกตั้งในระดับประเทศ ในกรณีที่คะแนนกลับได้ผู้ได้รับคะแนนเท่ากันเป็นอันดับสุดท้ายให้ผู้ได้รับคะแนนเท่ากันเป็นอันดับสุดท้ายเลือกกันเอง หรือให้ผู้ได้รับคะแนนเท่ากันเป็นอันดับสุดท้ายเลือกกันเองไม่ได้ ให้เสนอชื่อผู้ได้รับคะแนนเท่ากันเป็นอันดับสุดท้ายให้ผู้ซึ่งอำนวยการการเลือกระดับประเทศเลือกโดยการจับสลาก ให้เฉพาะผู้ซึ่งได้รับคะแนนเท่ากันเป็นอันดับสุดท้ายจับสลาก

(๖)

ในกรณีที่ผู้ได้รับเลือกตาม (๕) ยังไม่อยู่ในจำนวนที่เลือกในระหว่างการดำเนินการเลือกตั้งต่อไป ให้ผู้สมัครที่เหลือเลือกตั้งและได้รับเลือก และให้เลือกตั้งต่อไปได้ รับเลือกมีเพียงเท่าที่มีอยู่

(๔)

เมื่อได้ผู้ได้รับเลือกขั้นต้นของแต่ละกลุ่มแล้ว ให้ผู้ได้รับเลือกขั้นต้นของแต่ละกลุ่มตกลงกันว่าจะให้ผู้ใดเป็นผู้รับเลือกตาม (๓) ถ้าตกลงกันไม่ได้ให้จับสลาก

(๕)

ให้จัดให้มีการแบ่งสายออกเป็นสายไม่เกินสี่สาย แต่ละสายประกอบด้วยจำนวนกลุ่มเท่ากัน วันแต่ละวันแบ่งให้พากันไม่ได้ ให้แบ่งให้แต่ละสายมีจำนวนกลุ่มใกล้เคียงกันมากที่สุด และในแต่ละสายต้องมีกลุ่มไม่เกินกำหนดแต่ต้องไม่เหลือจำนวนกลุ่ม และให้บุคคลตาม (๓) ของแต่ละกลุ่มจับฉลากว่ากลุ่มของตนจะอยู่ในสายใด

(๖)

ให้ผู้ได้รับเลือกขั้นต้นของแต่ละกลุ่มเลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่นที่อยู่ในสายเดียวกัน โดยแต่ละคนเลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่นแต่ละกลุ่มในสายเดียวกันได้กลุ่มละไม่เกินห้าคน ผู้ได้รับเลือกขั้นต้นในกลุ่มเดียวกันจะเลือกกันเองหรือเลือกคนของกลุ่มเดียวกันเองไม่ได้

(๗)

เมื่อดำเนินการเลือกตาม (๖) แล้ว ให้ผู้ซึ่งผ่านการเลือกครบอันดับแรกสุดดำเนินการจับคะแนนโดยเปิดเผย แล้วแจ้งผลการจับคะแนนให้คณะกรรมการทราบ เมื่อคณะกรรมการได้รับรายงานตาม (๑๐) แล้ว ให้ระงับไม่ยอมทำหน้าที่เมื่อเห็นว่าหนทางดังกล่าวแล้ว ถ้าคณะกรรมการเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวไม่ปฏิบัติต้องสุจริต และเที่ยงธรรม ให้รายงานผลการเลือกตาม (๑๐) ในการจัดอันดับบุคคล โดยให้ผู้ได้รับคะแนนสูงสุดในแต่ละกลุ่มตามลำดับคะแนนที่ได้รับจากการเลือกในสายเดียวกัน และให้ผู้ได้รับคะแนนสูงสุดในแต่ละกลุ่มตามลำดับคะแนนที่ได้รับจากการเลือกในสายเดียวกัน และให้ผู้ได้รับคะแนนสูงสุดในแต่ละกลุ่มตามลำดับคะแนนที่ได้รับจากการเลือกในสายเดียวกัน และให้ผู้ได้รับคะแนนสูงสุดในแต่ละกลุ่มตามลำดับคะแนนที่ได้รับจากการเลือกในสายเดียวกัน ในการจัดเรียงลำดับตามวรรคสองสำหรับผู้ที่อยู่ในลำดับที่มีคะแนนเท่ากัน ให้จัดให้มีการจับสลากเพื่อเรียงลำดับต่อไป การดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา ๔๗ ในกรณีที่คณะกรรมการกำหนดให้การรับคะแนนด้วยเครื่องกลหรือเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ถ้าได้ดำเนินการรับคะแนนโดยเปิดเผย ให้ถือว่าเป็นการรับคะแนนโดยเปิดเผยแล้ว

มาตรา ๔๘ ในกรณีที่ผู้สมัครในระดับอำเภอ หรือผู้สมัครเลือกในระดับจังหวัด หรือระดับประเทศที่มีจำนวนมากเกินกว่าที่จะทำการเลือกของคณะกรรมการ ผู้สมัครในระดับอำเภอ หรือผู้สมัครเลือกในระดับจังหวัด หรือระดับประเทศที่มีจำนวนมากเกินกว่าที่จะทำการเลือกของคณะกรรมการ ผู้สมัครในระดับอำเภอ หรือผู้สมัครเลือกในระดับจังหวัด หรือระดับประเทศที่มีจำนวนมากเกินกว่าที่จะทำการเลือกของคณะกรรมการ

มาตรา ๔๙ ในกรณีที่ผู้สมัครในระดับอำเภอ หรือผู้สมัครเลือกในระดับจังหวัด หรือระดับประเทศที่มีจำนวนมากเกินกว่าที่จะทำการเลือกของคณะกรรมการ

หากกรณีที่มีชื่อเลื่อนบุคคลในบัญชีสำรองของกลุ่มใดขึ้นดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาแทนตามวรรคหนึ่ง แต่ไม่มีบุคคลในบัญชีสำรองของกลุ่มนั้นเหลืออยู่ในขณะด้วยเหตุใด ให้ประธานสภาผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งเฉพาะเลื่อนบุคคลในบัญชีสำรองในกลุ่มนั้นโดยที่ยังมีผู้อยู่ในบัญชีสำรองเหลืออยู่ แล้วดำเนินการเลื่อนบุคคลขึ้นดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิตามวรรคหนึ่ง การรับสมัครดังกล่าวให้มีผลเฉพาะการเลื่อนครั้งนั้น ในกรณีที่ทุกกลุ่มไม่มีรายชื่อบุคคลในบัญชีสำรองเหลืออยู่สำหรับการเลื่อนบุคคลขึ้นดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิตามวรรคสอง ให้ผู้มีสิทธิกำหนดประกาศวันยุบสภาผู้มีสิทธิ ตามที่เห็นสมควร แต่ในกรณีที่มีสมาชิกสภาผู้มีสิทธิเหลืออยู่ไม่ถึงหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกสภาผู้มีสิทธิทั้งหมดและของผู้มีสิทธิในกลุ่มนั้น ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิทธิกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้มีสิทธิใหม่ในกลุ่มนั้นในกรณีดังกล่าว ให้ผู้มีสิท

มาตรา ๕๒ ห้ามมิให้ผู้ใดจงใจทำเครื่องหมายเพื่อเป็นสิ่งเกินโดยวิธีใดไว้ที่บัตรลงคะแนน

มาตรา ๕๓ ห้ามมิให้ผู้ใดนำบัตรลงคะแนนใส่ลงในหีบบัตรลงคะแนนโดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือกระทำการใดในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งแสดงว่ามีผู้มาแสดงตน เพื่อเลือกตั้งโดยผิดไปจากความจริง หรือกระทำการใดอันเป็นเหตุให้บัตรลงคะแนนเพิ่มขึ้นจากความจริง

มาตรา ๕๔ ห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใดให้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ใดถ่ายภาพบัตรลงคะแนนที่ตนได้ลงคะแนนแล้ว

มาตรา ๕๕ ห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งนำบัตรลงคะแนนที่เลือกแล้วแสดงต่อผู้อื่นเพื่อให้ผู้อื่นทราบว่าตนเลือกหรือไม่เลือกผู้ใด

มาตรา ๕๖ บัตรลงคะแนนดังต่อไปนี้ ให้ถือเป็นบัตรเสียและให้ไม่นับเป็นคะแนน

(๑)

บัตรปลอม

(๒)

บัตรที่มีการทำเครื่องหมายเพื่อเป็นสิ่งเกินหรือเขียนข้อความใด ๆ ลงในบัตรลงคะแนน นอกจากเครื่องหมายในการลงคะแนน เว้นแต่เป็นการกระทำโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้ง

(๓)

บัตรที่ไม่ได้ทำเครื่องหมายลงคะแนน

(๔)

บัตรที่ทำเครื่องหมายลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครได้

(๕)

บัตรที่ทำเครื่องหมายลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครไม่ได้รับเลือก

(๖)

บัตรที่ลงคะแนนให้บุคคลเกินจำนวนที่กำหนด

(๗)

บัตรที่ลงคะแนนให้บุคคลใดเกินหนึ่งคะแนน

(๘)

บัตรที่มีลักษณะตามที่คณะกรรมการกำหนดว่าเป็นบัตรเสีย

มาตรา ๕๗ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเลือกตั้งแก่ผู้สูงอายุหรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนพิการหรือทุพพลภาพ ผู้สูงอายุ หรือผู้ประสบปัญหาในการใช้สิทธิเลือกตั้ง ผู้มีอำนาจการจัดการเลือกตั้งจะจัดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าในสถานที่ที่กำหนดไว้ หรือจัดให้มีการเลือกตั้งในสถานที่ที่กำหนดไว้ในวันเลือกตั้ง โดยอำนวยให้บุคคลดังกล่าวสามารถลงคะแนนเลือกตั้งได้โดยสะดวก ทั้งนี้ ตามระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้สูงอายุ หรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้ประสบปัญหาในการใช้สิทธิเลือกตั้งนั้น

หมวด ๔

การควบคุมการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม

มาตรา ๕๘ ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายกระทำการใด ๆ เพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัคร

การใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายตามมาตราแห่งนี้ มีให้หมายความรวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติหรือมิชอบปฏิบัติในตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้น หรือการแนะนำหรือชักชวนในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการเลือกของผู้สมัคร โดยมิได้เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ แม้ว่าการกระทำนั้นจะเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครใด ในกรณีที่หลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการฝ่าฝืนบัญญัติตามมาตราแห่งนี้ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาเห็น สมควรสั่งให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ซึ่งกระทำการระหว่างที่เห็นว่าอาจเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครใด ในกรณีที่พบพยานหลักฐาน ให้คณะกรรมการแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่นั้นและอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ของรัฐนั้น สมควรสั่งการของรัฐผู้ซึ่งกระทำการอันอาจเป็นคุณ หรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครใด พ้นจากหน้าที่ที่เป็นการชั่วคราว หรือสั่งให้ประจำกระทรวง ทบวง กรม ศาลากลางจังหวัด หรือที่ทำการอำเภอในเขตหรือท้องที่ของจังหวัดหรืออำเภอ หรือที่ทำการอื่นของจังหวัดหรืออำเภอได้

มาตรา 59 ก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง หากมีเหตุอันควรสงสัยว่าการเลือกตั้งมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้คณะกรรมการสั่งยับยั้ง ยกเลิก แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเลื่อนการเลือกตั้ง และตั้งวันเลือกตั้งใหม่ หรือสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่

การใช้อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม ให้ถือว่าเป็นการกระทำได้เพื่อให้การเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น หรือจังหวัดนั้น ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด ผู้ตรวจการเลือกตั้งและผู้ซึ่งทำงานการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใดพบเห็นการฝ่าฝืนมาตราแห่งนี้หน้าที่รายงานให้คณะกรรมการหรือกรรมการการเลือกตั้งทราบ

มาตรา 60 ก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง หากมีเหตุอันควรสงสัยว่าผู้สมัครผู้ใดกระทำการโดยฝ่าฝืนกฎหมายการเลือกตั้งของบุคคลอื่น อันทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้คณะกรรมการสั่งระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้นไว้เป็นการชั่วคราวในระยะเวลาไม่เกินหนึ่งปี คำสั่งของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด

เมื่อคณะกรรมการสั่งสิ้นสุดมาตราแห่งนี้ ให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น

มาตรา 61 ในกรณีที่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ผู้ใดให้ สัญญา ว่าจะให้หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดเพื่อจูงใจให้ผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ให้คณะกรรมการสั่งระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้นไว้ในระยะเวลาไม่เกินหนึ่งปี ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดดังกล่าวให้เป็นการชั่วคราวจนกว่าคำวินิจฉัยของศาลฎีกาจะถึงที่สุด

มาตรา 62 เมื่อคณะกรรมการประกาศผลการเลือกตั้งตามมาตรา 60 วรรคสอง ผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายการเลือกตั้งของบุคคลอื่น อันทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้คณะกรรมการสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น และให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น

เมื่อมีคำสั่งถึงที่สุดแล้วหรือได้พิจารณาแล้ว ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิเข้ารับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้นได้อีกหรือไม่ ให้เป็นการพิจารณาของคณะกรรมการ เมื่อคณะกรรมการสืบสวนหรือไต่สวน ทบทวนการพิจารณาให้ข้อมูล การชี้เบาะแสหรือคำให้การของบุคคลซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ว่าโดยเจตนาประโยชน์แก่การพิสูจน์การกระทำความผิดของผู้กระทำความผิดอื่นเป็นสำคัญแล้ว และสมควรที่จะใช้เป็นพยานหลักฐานการวินิจฉัยการกระทำความผิดของผู้กระทำความผิดอื่น คณะกรรมการอาจกันบุคคลนั้นไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดีแก่ก็ได้ เมื่อคณะกรรมการสืบสวนหรือไต่สวนเห็นควรกันตัวบุคคลใดไว้ ให้เสนอต่อการเลือกตั้งเพื่อพิจารณาอนุมัติ โดยแนบไปซึ่งรายงานการสืบสวนหรือไต่สวนที่แสดงให้เห็นว่าเป็นพยานที่สำคัญ และจำเป็นต่อการพิสูจน์การกระทำความผิดของผู้กระทำความผิดอื่น หรือไม่อาจหาพยานหลักฐานอื่นใดมาพิสูจน์การกระทำความผิดได้เท่ากับคำให้การของบุคคลนั้น ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับรายงานดังกล่าว

มาตรา ๖๖ การกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ในกรณีที่เป็นการกระทำของกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล ให้ถือว่าเป็นการกระทำของนิติบุคคลนั้นด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการกระทำนั้นมิได้อยู่ในอำนาจหน้าที่หรือกิจการของนิติบุคคลนั้น หรือผู้กระทำความผิดเป็นการเฉพาะตัวของกรรมการหรือผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลนั้น

มาตรา 26 ในกรณีที่มีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้กำหนดให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งโดยมิได้กำหนดระยะเวลาการสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ให้การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งดังกล่าวมีผลในทันทีและเริ่มนับระยะเวลานับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษา เว้นแต่ศาลจะมีหรือคาสั่งกำหนดระยะเวลาการสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไว้เป็นอย่างอื่น

มาตรา 27 ผู้ใดสมัครรับเลือกตั้งจากการทุจริตหรือกลุ่มหรือภาคหนึ่งอันอาจเป็นการไม่ปฏิบัติตามมาตรา 14 วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดห้าปี

มาตรา 28 กรรมการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 18 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 29 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 21 วรรคหนึ่ง หรือมาตรา 25 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดห้าปี

มาตรา 30 ผู้สมัครซึ่งมิได้ปฏิบัติตามวิธีการหรือเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนดตามมาตรา 26 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดห้าปี

บุคคลใดซึ่งมิใช่ผู้สมัครหรือคณะผู้สมัครในการเลือกตั้งใดซึ่งมิได้ปฏิบัติตามวิธีการหรือเงื่อนไขตามมาตรา 26 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท

มาตรา 31 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 27 หรือมาตรา 27 วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นไปเพื่อก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในสถานที่เลือกตั้ง ต้องระวางโทษเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดห้าปี

มาตรา 32 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 29 มาตรา 30 มาตรา 30 มาตรา 32 หรือมาตรา 32 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดห้าปี

มาตรา 33 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 34 หรือมาตรา 35 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 34 ผู้ใดอยู่ในสถานที่ลงคะแนนเลือกตั้งและไม่สามารถแสดงว่าตนมีสิทธิเลือกตั้งได้สมควรต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดห้าปี

ในกรณีที่มีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา ให้ศาลสั่งให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งรายนั้นมิอาจเป็นสมาชิกวุฒิสภาได้ในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในคำพิพากษา

มาตรา 35 ผู้ใดรับรองหรือเป็นพยานรับรองเอกสารหรือหลักฐานที่ใช้ประกอบการสมัครรับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกิน

สองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดห้าปี

มาตรา ๗๖๗ กรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งอื่นใดในพรรคการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผู้ใดกระทำการโดยวิธีใด ๆ อันเป็นการช่วยเหลือให้ผู้สมัครได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือทำให้ผู้สมัครผู้ใดไม่ได้รับเลือก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั่งพักถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น

ผู้สมัครโดยเจตนาให้กรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งอื่นใดในพรรคการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ช่วยเหลือเพื่อให้ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้สมัคร ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั่งพักถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น

มาตรา ๗๖๘ ผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดต่อไปนี้เพื่อจูงใจให้ผู้อื่นสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือยกเลิกสมัคร หรือกระทำการใด ๆ อันเป็นอุบายด้วยความหลอกลวง ให้ผู้นั้นหมดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือให้สิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นหมดหรือไม่คงผลแก่ผู้นั้นอีก โดยระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดห้าปี

(๑)

ข้อ ก. ให้ เงิน สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด

(๒)

ทำการแสดงหรือตัวอย่างอันมีผลกระทบต่อการรับรู้ต่าง ๆ

(๓)

เลี้ยงหรือรับรองจัดเลี้ยงผู้ใด

(๔)

หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายข้อความเท็จ หรือจูงใจให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณของผู้สมัครใด ความผิดตาม (๑) ให้ถือเป็นความผิดฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และให้คณะกรรมการการเลือกตั้งแจ้งเรื่องให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป

มาตรา ๗๖๙ ผู้ใดกระทำการอันเป็นเหตุให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจว่าผู้สมัครมีลักษณะหรือคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งอันเป็นการฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท และให้ศาลสั่งพักถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดห้าปี

มาตรา ๗๗๐ ผู้ใดกระทำการอันเป็นเหตุให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าใจว่าผู้สมัครมีลักษณะหรือคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งอันเป็นการฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท และให้ศาลสั่งพักถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดห้าปี

ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการบังคับหรือให้ด้วยอำนาจต่อคณะกรรมการ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้กระทำผิดมีกำหนดสิบปี

มาตรา ๑๗ ผู้ใดเรียกรับหรือรับทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดเพื่อจองสมัครรับเลือกหรือไม่จองสมัครรับเลือกเพื่อประโยชน์แก่ผู้สมัครผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดสิบปี

มาตรา ๑๘ ผู้ใดจงใจทำลายหรือทำให้เสียหายแก่บัตรเลือกตั้ง ให้บัตรลดลงจนเสียหายหรือเสียหาย หรือให้เป็นบัตรเสีย หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสียหายให้บัตรที่ใช้ได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดสิบปี

ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นผู้ดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดสิบปี

มาตรา ๑๙ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใดเรียกรับ รับ หรือยอมจะรับ ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เพื่อแลกเปลี่ยนหรือจูงใจไม่ไปเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดสิบปี

มาตรา ๒๐ ผู้ใดกระทำการโดยไม่สุจริตเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปลงคะแนน หรือทำลาย ทำให้เสียหาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งบัตรเลือกตั้ง หรือบัตรลงคะแนน หรือเอกสารหรือหลักฐานที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง หรือทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดสิบปี

มาตรา ๒๑ ผู้ใดได้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรักษาบัตรลงคะแนนสำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสภาผู้แทนราษฎร และไม่ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ไม่ว่าบัตรลงคะแนนนั้นเป็นบัตรลงคะแนนที่ยังมิได้นับคะแนนหรือไม่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดสิบปี

ในกรณีที่มีการกระทำผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องระวางโทษเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่า และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดสิบปี

มาตรา ๒๒ ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปออกเสียง หรือกระทำด้วยประการใดโดยมิได้มีอำนาจกระทำโดยชอบด้วยกฎหมายในที่เลือกตั้ง หรือในที่ใกล้เคียงกับที่เลือกตั้งหรือกระทำด้วยประการใดอันเป็นการรบกวนหรือทำให้เสียความสงบเรียบร้อยในที่เลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดสิบปี

มาตรา ๕๔ ผู้ใดเล่นหรือจัดให้มีการเล่นการพนันขันต่อใด ๆ เกี่ยวกับผลของการเลือก ตั้งระหว่างว่าผู้ใดจะถูกเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎร หรือรับเลือกตั้งแต่ละหมวดหรือแต่ละแผนก หรือทั้งจังหวัดรับ หรือให้ผลลัพธ์แห่งการออกเสียงเลือกตั้งของผู้เล่นกันทำนองดังกล่าว และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้จัดให้มีการเล่น

ถ้าการกระทำดังกล่าวกระทำเป็นการกระทำของผู้สมัคร ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น

มาตรา ๕๕ ในกรณีที่ศาลฎีกาสั่งให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้สมัครหรือผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งผู้สมัครหรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใด และในขณะเดียวกันให้มีการเลือกตั้งใหม่ไม่ว่าจะมีครั้งเดียวหรือไม่ ให้หลักฐานที่ผู้สมัครนั้นได้ใช้รับเงินในค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นเหตุให้ศาลสั่งบังคับให้ชำระเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่กองทุนพัฒนาจากหลักฐานการใช้จ่ายที่คณะกรรมการเสนอต่อศาล

เงินที่ได้รับตามมาตรานี้ให้เก็บนำส่งเข้ากองทุนเพื่อการพัฒนา พรรคการเมืองตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง

มาตรา ๕๖ ผู้ใดเปิดเผยหรือยอมแพ้ผลการตรวจความคิดเห็นของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกี่ยวกับการออกเสียงเลือกตั้งในระหว่างเจ็ดวันก่อนวันเลือกตั้งจนถึงเวลาปิดการเลือก ตั้งระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๕๗ ในกรณีที่ปรากฏว่าการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ถือว่าเป็นความผิดอันยอมความไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

มาตรา ๕๘ ผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ประกอบรัฐธรรมนูญนี้นอกจากจะต้องรับโทษในราชอาณาจักร และการกระทำของผู้นั้นยังถือว่าเป็น ผู้สนับสนุน หรือผู้ใช้ให้กระทำความผิดนั้น แม้กระทั่งนอกราชอาณาจักร ให้ถือว่าผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุน หรือผู้ใช้ให้กระทำความผิดนั้นได้กระทำในราชอาณาจักร

บทเฉพาะกาล

มาตรา ๕๙ ในวาระเริ่มแรก ให้คณะกรรมการอัยการสมาชิกจำนวนสองร้อยห้าสิบคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคำแนะนำของนายกรัฐมนตรีจากการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหาและแต่งตั้งให้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังต่อไปนี้

(๑)

ให้คณะกรรมการสรรหาดำเนินการคัดเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งต้องมีความรู้ความสามารถและมีความรู้ความเข้าใจในระบบการเมืองและการปกครองของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์

(๒)

ให้คณะกรรมการดำเนินการจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในบัญชีรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาได้คัดเลือกไว้ตามมาตรา ๕๗ และมาตรา ๕๘ และการดำเนินการดังกล่าวต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรไม่ต้องยกคำสั่งกันวัน แล้วให้จัดทำเป็นบัญชีรายชื่อเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยมอบให้ผู้ได้รับเลือกจากกลุ่มและคณะวิธีการสมัคร

(ข)

ให้คณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา คัดเลือกบุคคลผู้มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสมในอันจะเป็นประโยชน์แก่การปฏิบัติหน้าที่ของวุฒิสภาและการปฏิรูปประเทศดำเนินการตามไม่เกินหรือคนตามวิธีการที่คณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภากำหนด แล้วนำรายชื่อเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งนี้ ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จไม่ช้ากว่าระยะเวลาที่กำหนดตาม (ก)

(ค)

ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติตัดสินเลือกผู้ได้รับเลือกตาม (ก) จากบัญชีรายชื่อที่ได้รับจากคณะกรรมการสรรหาสมาชิกวุฒิสภาตามมาตรา ๘๔ และให้คัดเลือกบุคคลจากบัญชีรายชื่อที่ได้รับการสรรหาตาม (ข) ให้ได้จำนวนหนึ่งร้อยห้าสิบคนรวมทั้งผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นสมาชิกวุฒิสภา และให้คัดเลือกชื่อสำรองจากบัญชีรายชื่อที่ได้รับการสรรหาตาม (ข) จำนวนห้าสิบคน ทั้งนี้ ให้แล้วเสร็จภายในสามวันนับแต่วันที่ประธานคณะกรรมการเลือกตั้งส่งรายชื่อสมาชิกผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อครบจำนวนผู้ซึ่งได้รับการเลือกตั้งครั้งแรกตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

(ง)

ให้มีวุฒิสภาในระยะเวลา ๕ ปี (ห้าปี) ในส่วนที่เกี่ยวกับการแต่งตั้งตำแหน่งรัฐมนตรีให้รับบังคับแก่ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาที่ได้รับการสรรหาตาม (ข) (ข) และให้ใช้ความในมาตรา ๑๐๖ (๑๐๖) มาใช้บังคับแก่ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่ง

(จ)

ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติมีอำนาจชี้ขาดกรณีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการคัดเลือกตาม (ก) (ข) จำนวนสองร้อยห้าสิบคนดังกล่าวขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งต่อไป และให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ

(ฉ)

อายุของวุฒิสภาตามมาตรา ๘๔ นับแต่วันที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง สมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภาสิ้นสุดเมื่อวันที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติให้ดำรงตำแหน่งในบัญชีรายชื่อของตาม (๑) (ค) ขึ้นเป็นสมาชิกวุฒิสภาแทน โดยให้ประธานวุฒิสภาเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในพระบรมราชโองการ สำหรับสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่งเมื่อพ้นจากตำแหน่งที่ดำรงอยู่ในขณะได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาก็ให้พ้นจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาด้วย และให้สมาชิกวุฒิสภาที่ได้รับแต่งตั้งตามบัญชีรายชื่อสำรองตาม (ข) ขึ้นเป็นสมาชิกวุฒิสภาแทนในกรณีที่ตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาว่างลงไม่ว่าด้วยเหตุใด ให้สมาชิกวุฒิสภาที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในบัญชีรายชื่อสำรองตาม (ข) ขึ้นเป็นสมาชิกวุฒิสภาแทนในกรณีที่ตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาว่างลงไม่ว่าด้วยเหตุใด อยู่ในตำแหน่งแห่งอายุของพระบรมราชโองการ

(ช)

เมื่ออายุของวุฒิสภาสิ้นสุดลงตาม (ฉ) ให้ดำเนินการเลือกสมาชิกวุฒิสภาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้

มาตรา ๗๘ ในวาระเริ่มแรก สำหรับการดำเนินการตามมาตรา ๗๐ (๑) (ก) ให้กลุ่มตามมาตรา ๑๑ วรรคหนึ่ง มีสิบกลุ่ม ประกอบด้วย

(๑)

กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง อันได้แก่ผู้เคยเป็นข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๒)

กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม อันได้แก่ผู้เป็นหรือเคยเป็นผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ ผู้ประกอบวิชาชีพด้านกฎหมาย หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๓)

กลุ่มการศึกษาและการสาธารณสุข อันได้แก่ผู้เป็นหรือเคยเป็นครู อาจารย์ นักวิจัย ผู้บริหารสถานศึกษา บุคลากรทางการศึกษา แพทย์ทุกประเภท เทคนิคการแพทย์ สาธารณสุข พยาบาล เภสัชกร หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๔)

กลุ่มอาชีพกิจกรรม ปลูกพืชเลี้ยงลูก ทำสวน ทำไร่ ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๕)

กลุ่มพนักงานหรือลูกจ้างของบุคคลซึ่งมิใช่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐผู้ใช้แรงงาน ผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๖)

กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม พลังงาน องค์กรทรัพยากรและสารธารณูปโภค หรือทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร พัฒนาเทคโนโลยี หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๗)

กลุ่มผู้ประกอบกิจการด้านการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรม อันได้แก่ผู้ประกอบกิจการและผู้ประกอบธุรกิจอื่น ๆ หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๘)

กลุ่มสตรี ผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพพลภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มชนเผ่าลักษณะอื่น ประชากลุ่ม องค์กรสาธารณประโยชน์ หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๙)

กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและนันทนาการ นักกีฬา สื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม หรืออื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน

(๑๐)

กลุ่มอื่น ๆ การสังกัดกลุ่มอื่น ๆ ในทำนองเดียวกันตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด ผู้สมัครสมาชิกสภามาตรา ๗๐ และไม่สังกัดกลุ่มอื่นตามมาตรา ๑๑ ย่อมมีสิทธิสมัครในกลุ่มอื่น ๆ ตาม (๑๐) ได้

มาตรา ๗๙ ในวาระเริ่มแรก ผู้สมัครในแต่ละกลุ่มตามมาตรา ๗๐ อาจสมัครได้โดยวิธีการ ดังต่อไปนี้

(๑)

สมัครโดยยื่นใบสมัครด้วยตนเอง

(ข)

สมัครโดยยื่นใบสมัครด้วยตนเองพร้อมแสดงหนังสือแนะนำชื่อผู้สมัครจากองค์กรตามมาตรา ๓๗๓ แนบท้ายพร้อมกับใบสมัครด้วย ให้ผู้สมัครแต่ละคนมีสิทธิสมัครเพื่อเข้ารับเลือกในกลุ่มตามมาตรา ๓๗๐ ได้เพียงกลุ่มเดียว และสมัครโดยวิธีการตามวรรคหนึ่งได้เพียงวิธีการเดียว รวมทั้งมีสิทธิสมัครได้เพียงจำกัดเดียว และเมื่อได้ยื่นใบสมัครแล้วจะถอนการสมัครมิได้ ผู้ใดสมัครเข้ารับเลือกมากกว่าหนึ่งกลุ่ม มากกว่าหนึ่งวิธีการ หรือมากกว่าหนึ่งจำกัด อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามวรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๓๗๓ องค์กรซึ่งเสนอชื่อบุคคลตามกฎหมายไทยสมควรไม่เคยอาวุธสามปีและมิใช่ชาวต่างประเทศในกรณีการลงทัณฑ์จำคุกหรือดำเนินกิจกรรมทางการเมือง และได้ดำเนินการตามคำสั่งขององค์กรมาอย่างต่อเนื่อง และองค์กรที่มีกฎหมายจัดตั้ง ทั้งมีเอกสารเกี่ยวกับการเป็นสมาชิกสมาคมขององค์กร หรือมีบุคคลที่มีความรับผิดชอบเป็นผู้แทนองค์กรที่มีความสามารถตามคำสั่งขององค์กร และไม่สมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองหรือสมาคมที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการเมือง และไม่สมัครต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญเพื่อสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา และต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด และเมื่อไม่แน่ใจผู้สมัครต้องสมัครพร้อมเอกสารหรือหลักฐานที่ใช้ประกอบการสมัครด้วย

องค์กรตามวรรคหนึ่งต้องลงทะเบียนตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด และให้เลือกกลุ่มตามมาตรา ๓๗๐ ได้เพียงกลุ่มเดียว การเสนอชื่อบุคคลตามวรรคหนึ่งต้องทำโดยองค์กรตามวรรคหนึ่งที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมและพัฒนาประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง และให้ทำเป็นหนังสือโดยอย่างน้อยต้องมีประวัติระบุถึงเพศ ความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และสามารถพิสูจน์ผู้ได้รับการเสนอแนะเกี่ยวกับหนังสือยอมจากผู้ได้รับการเสนอชื่อนั้น ทั้งนี้ ตามที่คณะกรรมการกำหนด องค์กรตามวรรคหนึ่งซึ่งมีการเสนอชื่อหรือรับรองเอกสารหรือหลักฐานที่ใช้ประกอบการสมัครเป็นเท็จ ให้การเสนอชื่อหรือการรับรองเอกสารหรือหลักฐานดังกล่าวเป็นโมฆะ และให้คณะกรรมการประกาศให้ประชาชนทราบถึงการทำไป

มาตรา ๓๗๔ การเลือกตั้งสมาชิก ให้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้

(ก)

ผู้สมัครต้องลงคะแนนเสียงเลือกและแสดงตนเองในสถานที่คณะกรรมการกำหนด ผู้ไม่ลงหรือไม่ผ่านคะแนนให้หมดสิทธิที่จะเลือกและได้รับเลือก

(ข)

เมื่อผู้สมัครครบองค์ประกอบแล้ว (๑) แล้ว ให้ผู้สมัครลงคะแนนเสียงเลือกในกลุ่มที่สมัครและวิธีการที่สมัครรวมอยู่ในกลุ่มเดียวกันและวิธีการเดียวกันตามวรรคสอง

(ค)

ให้ผู้สมัครลงคะแนนเสียงและส่งคะแนนเสียงเลือกตั้งในกลุ่มตาม (ข) แล้ว ลงคะแนนเลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกันและวิธีการเดียวกันที่ได้ไม่เกินสามคน โดยรวมลงคะแนนเสียงเลือกตั้งไว้ได้ แต่ละคะแนนให้บุคคลใดเกินหนึ่งคะแนนมิได้ (d) เมื่อการลงคะแนนของกลุ่มใดและวิธีการสมัครโดยเห็นชอบ ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอดำเนินการให้มีการรับคะแนนของกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้นโดยให้ผู้ได้รับคะแนนสูงสุดสามลำดับแรกของแต่ละกลุ่มและแต่ละวิธีการสมัคร เป็นผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอสำหรับกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น เพื่อไปดำเนินการเลือกในระดับจังหวัดต่อไป ในกรณีที่กลุ่มใดไม่มีผู้ได้รับคะแนนแทนที่ครบถ้วน ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น และในกรณีที่มีผู้ได้รับคะแนนไม่ถึงสามคน ให้เสนอผู้ซึ่งได้รับคะแนนเป็นผู้ได้รับเลือก

(จ)

ในกรณีที่กลุ่มใดและการสมัครโดยวิธีการโดยไม่มีผู้สมัครไม่ถึงสามคนหรือมีผู้สมัครรายงานตัวตาม (ข) ไม่เกินสามคน ให้ถือว่าผู้สมัครทุกคนซึ่งมารายงานตัวนั้นเป็นผู้ได้รับเลือกสำหรับกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้นโดยไม่ต้องดำเนินการเลือก

(ฉ)

กลุ่มใดและการสมัครโดยวิธีการใดไม่มีผู้สมัคร ให้ถือว่าการดำเนินการเลือกสำหรับกลุ่มนั้นและการสมัครโดยวิธีการนั้น และไม่มีผลกระทบต่อการเลือกของกลุ่มและการสมัครโดยวิธีการอื่น ๆ

(ช)

กลุ่มใดและการสมัครโดยวิธีการใดที่ไม่มีผู้ได้รับคะแนนเลือกเลยมีจำนวนไม่เพียงพอหรือคะแนนของผู้สมัครแต่ละคนมีคะแนนเสมอกัน ให้ถือว่าการสมัครโดยวิธีการนั้น แต่ยังไม่ต้องทำการเลือกใหม่ ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอเสนอแต่งตั้งสมาชิกอาสาสมัครจากกลุ่มนั้นเพื่อให้ได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น การดำเนินการการสรรหาครั้งหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา 95 การเลือกระดับจังหวัด ให้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้

(ก)

ผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอต้องมาถึงสถานที่เลือกและแสดงตนภายในเวลาที่คณะกรรมการกำหนด ผู้ไม่มาหรือมาไม่ทันตามกำหนดให้หมดสิทธิ์ที่จะเลือกและได้รับเลือก

(ข)

เมื่อผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอมาครบหรือเมื่อพ้นเวลาตาม (ก) แล้ว ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัดจัดให้ผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอในกลุ่มเดียวกันและวิธีการสมัครเดียวกันจับสลากเพื่อกำหนดลำดับการเลือกตั้งในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัดกำหนด

(ค)

ให้ผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอ (1) ลงคะแนนเลือกบุคคลตาม (2) ลงคะแนนเลือกบุคคลตาม (2) ในกลุ่มเดียวกันและวิธีการสมัครเดียวกันได้ไม่เกินสองคน โดยออกเสียงเลือกแบบลับได้ แต่ละคะแนนให้ผู้คะแนนได้หนึ่งคะแนน (d) เมื่อการลงคะแนนของกลุ่มใดและวิธีการสมัครโดยเห็นชอบ ให้ผู้อำนวยการการเลือกระดับจังหวัดดำเนินการให้มีการรับคะแนนของกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น โดยปิดลับ ให้ผู้ได้รับคะแนนสูงสุดสีลำดับแรกของแต่ละกลุ่มและแต่ละวิธีการสมัคร เป็นผู้ได้รับเลือกตั้งดังกล่าวสำหรับกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น เพื่อไปดำเนินการเลือกในระดับประเทศต่อไป ในกรณีที่สำหรับกลุ่มใดผู้ได้รับคะแนนเท่ากันจนเป็นเหตุให้ผู้ได้รับคะแนนสูงสุดเกินสีคน ให้ผู้ได้รับคะแนนเท่ากันดังกล่าวจับสลากกันเองว่าผู้ใดจะได้รับเลือกในกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้น และในกรณีที่มีผู้ได้รับคะแนนไม่สูงถึงสี่คน ให้เฉพาะผู้ที่ได้รับคะแนนเป็นผู้ได้รับเลือก

(ข)

ในกรณีที่กลุ่มใดและการสมัครโดยวิธีการใดไม่มีผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอ ให้ดำเนินการเลือกสำหรับกลุ่มนั้นและการสมัครโดยวิธีการนั้น และไม่มีผลกระทบต่อการเลือกของกลุ่มและการสมัครโดยวิธีการอื่น ๆ

(ค)

กลุ่มใดและการสมัครโดยวิธีการใดมีผู้ไม่ได้รับคะแนนเลือกเลยมีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของจำนวนผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอในกลุ่มนั้นและการสมัครโดยวิธีการนั้น ให้ไม่นำผู้ได้รับคะแนนดังกล่าวมารวมในการเลือก และถือว่าการเลือกในกลุ่มนั้นโดยวิธีการนั้นเป็นโมฆะ ให้ผู้ว่าราชการการเลือกตั้งระดับจังหวัดดำเนินการให้ผู้ได้รับเลือกระดับอำเภอในกลุ่มนั้นและโดยวิธีการสมัครนั้นเลือกกันเอง โดยให้ถือว่าผู้ได้รับคะแนนเลือกสูงสุดเป็นผู้ได้รับเลือก และต้องจับสลากกันเองในกรณีที่มีคะแนนเท่ากัน

(ง)

ให้ผู้ว่าราชการการเลือกตั้งระดับจังหวัดแจ้งเรื่องที่มีผลกระทบต่อการเลือกตั้งตาม (ค) และ (ข) ให้ผู้ว่าการการเลือกระดับประเทศพร้อมด้วยเอกสารหรือข้อมูลตามมาตรา ๙๗ (๓) ภายในวันนัดการเลือกตั้งระดับจังหวัดเพื่อดำเนินการต่อไป การดำเนินการตามมาตราหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา ๙๗ การเลือกระดับประเทศ ให้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้

(ก)

ผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดต้องมาถึงสถานที่เลือกและแสดงตนภายในเวลาที่คณะกรรมการกำหนด ผู้ไม่มาหรือมาไม่ทันกำหนดให้หมดสิทธิที่จะเลือกและได้รับเลือก

(ข)

เมื่อผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดมาครบหรือเมื่อพ้นเวลาตาม (ก) แล้ว ให้ผู้ว่าการการเลือกระดับประเทศจัดให้ผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดเลือกกันเองในกลุ่มนั้นและการสมัครโดยวิธีการเดียวกันให้ได้ตามที่กำหนด ณ สถานที่ที่ผู้ว่าราชการการเลือกระดับประเทศกำหนด

(ค)

ให้ผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดตาม (ข) ลงคะแนนเลือกบุคคลตาม (ข) ในกลุ่มเดียวกันและวิธีการสมัครเดียวกันให้ได้ตามที่กำหนด โดยออกคะแนนเลือกตนเองก็ได้ แต่ละคะแนนให้บุคคลใดในกลุ่มเดียวกันและวิธีการสมัครเดียวกันก็ได้

(ง)

กลุ่มใดและการสมัครโดยวิธีการใดมีผู้ไม่ได้รับคะแนนเลือกเลยมีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของจำนวนผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัดและเลือกกันในกลุ่มนั้น แสดงการสมัครโดยวิธีการนั้น ให้เป็นบัญญัติว่าการสมยอมกันในการเลือก และถือว่าการเลือกไม่เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตดำเนินการให้ผู้ได้รับเลือกซึ่งขาดคุณสมบัตินั้นและโดยวิธีการสมัครนั้นเลือกกันเองใหม่ โดยให้ผู้ไม่ได้รับคะแนนเลือกนั้นหมดสิทธิที่จะเลือกและได้รับเลือก และต้องออกจากสถานที่เลือก

(๔)

เมื่อการลงคะแนนของกลุ่มโดยวิธีการสมัครโดยสมัครใจ ให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตดำเนินการนับคะแนนของกลุ่มนั้นและวิธีการสมัครนั้นโดยเปิดเผย แล้วแจ้งผลการนับคะแนนให้คณะกรรมการทราบ เมื่อคณะกรรมการได้รับรายงานตาม (๔) แล้ว ให้ระไม่น้อยกว่าสี่วันเมื่อพ้นกำหนดเวลาต่างกล่าวมา ถ้าคณะกรรมการเห็นว่าการเลือกเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ให้ถือเรียบร้อยกลับรายชื่อตามผลการเลือกตาม (๔) โดยให้จัดเรียงลำดับรายชื่อผู้ได้รับคะแนนสูงสุดในแต่ละกลุ่มและแต่ละวิธีการสมัครนั้นเลื่อนไหลขึ้นถึงลำดับที่นั้นเพื่อดำเนินการตามมาตรา ๗๗ ต่อไป ในการจัดเรียงลำดับตามวรรคสองสำหรับผู้ที่อยู่ในลำดับที่มีคะแนนเท่ากันให้ถือให้การจับสลากเพื่อเรียงลำดับต่อไป การดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา ๗๗ ผู้ใดซึ่งมิได้ยอมออกจากการเลือกตามมาตรา ๗๖ (๔) มาตรา ๗๖ (๕) หรือมาตรา ๗๖ (๖) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน

มาตรา ๗๘ ผู้ใดได้ดำเนินการเลือกบุคคลตามมาตรา ๗๖ (๔) ส่วนพรรคการเมืองตามมาตรา ๗๖ (๕) หรือส่วนให้คะแนนตามมาตรา ๗๖ (๖) สูงสุดในแต่ละกลุ่มและแต่ละวิธีการสมัครนั้นเลื่อนไหลขึ้นถึงลำดับที่นั้นเลื่อนไหลขึ้นถึงลำดับที่นั้นเพื่อดำเนินการตามมาตรา ๗๗ ต่อไป

ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติตัดสินบุคคลตามวรรคหนึ่งมิได้แต่จำนวนสิบคนเพื่อให้ความกราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเลือกซึ่งอาจนำหลักสิบคนเป็นผู้ซึ่งสำรอง และให้ประกาศรายชื่อสมาชิกสภาสูงและบุคคลในบัญชีสำรองในการดำรงตำแหน่งตามฐานานุศักดิ์

มาตรา ๗๙ ในการตัดสินบุคคลจากบัญชีสำรองในกรณีที่แต่งตั้งแทนที่ว่างตามมาตรา ๗๖ (๔) และตามมาตรา ๗๗ ให้ทำความในมาตรา ๗๖ วรรคสอง มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม

ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คือ โดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้มีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกสภาสูง เพื่อให้การเลือกสมาชิกสภาสูงเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ บิณฑ์ธรรม / Maker 4 เมษายน 2565 ภัทรานันธุ์ / Checker 29 มิถุนายน 2565 ภัทรานันธุ์ / Authorizer 29 มิถุนายน 2565 [1] ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๙/ตอนที่ ๖๙ ก/หน้า ๑๑/๑๖ กันยายน ๒๕๖๕