로고

พระราชบัญญัติ ควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก พ.ศ. ๒๕๖๐ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ให้ไว้ ณ วันที่ ๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ เป็นปีที่ ๒ ในรัชกาลปัจจุบัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการ โปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหาร สำหรับทารกและเด็กเล็ก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอม ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ประชุมรัฐสภา ดังต่อไปนี้

มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติควบคุมการส่งเสริมการตลาด

อาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก พ.ศ. ๒๕๖๐”

มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหกสิบวันนับแต่วันประกาศ

ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้

“ทารก” หมายความว่า เด็กซึ่งมีอายุแรกเกิดจนถึงอายุสิ้นสองเดือน “เด็กเล็ก” หมายความว่า เด็กอายุเกินสิ้นสองเดือนจนถึงสามปี “อาหารสำหรับทารก” หมายความว่า (ก) นมผงหรือผลิตภัณฑ์อื่นที่ใช้เป็นอาหาร ทั้งนี้ ซึ่งมีส่วนประกอบของสารอาหารที่ เหมาะสมและเพียงพอที่จะใช้เลี้ยงทารกตามกฎหมายว่าด้วยอาหาร (ข) นมผงหรือผลิตภัณฑ์อื่นที่ใช้เป็นอาหาร ทั้งนี้ ที่มีข้อความแสดงให้เข้าใจได้ถึง การเลี้ยงทารก “อาหารสำหรับเด็กเล็ก” หมายความว่า นมผงหรือผลิตภัณฑ์อื่นที่ใช้เป็นอาหาร ทั้งนี้ ที่มีข้อความแสดงให้เข้าใจได้ถึงการเลี้ยงเด็กเล็กและเหมาะตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดย คำแนะนำของคณะกรรมการ *ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๔/ตอนที่ ๖๓ ก/หน้า ๑๐/๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๐* “อาหารเสริมสำหรับการค้า” หมายความว่า อาหารที่ใช้เสริมคุณค่าทางโภชนาการ และสร้างความคุ้นเคยในการบริโภคอาหารให้แก่การที่มีอายุตั้งแต่ทารกขึ้นไปตามกฎหมายว่าด้วยอาหาร “ผู้ผลิต” หมายความว่า ผู้ที่ทำ ผลิต ประมวล แบ่งบรรจุ รวมบรรจุ หรือเปลี่ยนภาชนะบรรจุ “ผู้แทนจำหน่าย” หมายความว่า ผู้แทนจำหน่ายในประเทศของผู้ผลิต “ผู้จำหน่าย” หมายความว่า ผู้จำหน่าย ขาย แจก แลกเปลี่ยน ให้ หรือมีไว้เพื่อจำหน่าย ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ทางการค้า “ฉลาก” หมายความว่า ฉลากตามกฎหมายว่าด้วยอาหาร “โฆษณา” หมายความว่า การกระทำไม่ว่าจะวิธีใด ๆ ให้ประชาชนเห็น หรือทราบข้อความ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ทางการค้า “ข้อความ” หมายความรวมถึง การกระทำให้ปรากฏด้วยอักษร รูป รอยประดิษฐ์ ภาพ ภาพยนตร์ แสง เสียง เครื่องหมาย หรือการกระทำอย่างใด ๆ ที่ทำให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าใจความหมายได้ “ส่งเสริมการตลาด” หมายความว่า การกระทำใด ๆ ที่มีจุดมุ่งเน้นเพื่อการจำหน่าย สร้างความคุ้นเคย หรือประชาสัมพันธ์ หรือเพื่อการสนับสนุนส่งเสริมให้มีการบริโภคอาหารสำหรับทารก อาหารสำหรับเด็ก หรืออาหารเสริมสำหรับการค้า ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ทางการค้า “หน่วยบริการสาธารณสุข” หมายความว่า สถานพยาบาล หรือสถานพยาบาลของเอกชนโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 หรือสถานพยาบาลของรัฐ หรือหน่วยงานของรัฐที่มีวัตถุประสงค์ไม่แสวงหากำไรและดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับด้านสุขภาพและสาธารณสุข “องค์กรวิชาชีพด้านสาธารณสุข” หมายความว่า คณะกรรมการวิชาชีพในสาขาต่าง ๆ ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบวิชาชีพเวชกรรม แพทย์แผนไทย การพยาบาลและการผดุงครรภ์ ทันตแพทย์สภาตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพทันตกรรม สภาเภสัชกรรมตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพเภสัชกรรม สภาการแพทย์แผนไทยตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย สภาการสาธารณสุขชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน หรือสภาวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุขอื่นตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น “บุคลากรด้านสาธารณสุข” หมายความว่า บุคคลที่ปฏิบัติงานในหน่วยบริการสาธารณสุข และให้หมายความรวมถึงอาสาสมัครสาธารณสุขด้วย “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารเสริมสำหรับทารกและเด็กเล็ก “พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ "รัฐมนตรี" หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือออกประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ ประกาศนั้นเมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้

หมวด 1 คณะกรรมการควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก

มาตรา 5 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า "คณะกรรมการควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก" เรียกโดยย่อว่า คณะกรรมการ "ศจคท." ประกอบด้วย

1

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานกรรมการ

2

กรรมการโดยตำแหน่ง จำนวนแปดคน ได้แก่ อธิบดีกรมอนามัย อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เลขาธิการมูลนิธิส่งเสริมการพัฒนานโยบายสุขภาพ เลขาธิการมูลนิธิส่งเสริมการพัฒนานโยบายสุขภาพเด็ก และเลขาธิการมูลนิธิส่งเสริมการพัฒนานโยบายสุขภาพเด็ก

3

กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนห้าคน ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้แทนองค์กรเอกชนที่มีวัตถุประสงค์ในแง่การคุ้มครองเด็กและด้านโภชนาการเด็ก อาหารทารกและเด็ก ด้านสิทธิเด็ก และด้านการคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ ด้านสตรีและเด็ก และแต่งตั้งผู้มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ด้านการสื่อสารการตลาดและกฎหมาย อย่างละหนึ่งคน ให้อธิบดีกรมอนามัย เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้อธิบดีกรมอนามัยแต่งตั้งข้าราชการกรมอนามัย จำนวนสองคน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการ

มาตรา 6 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมิใช่ข้าราชการการเมือง ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

1

มีสัญชาติไทย

2

ไม่เป็นข้าราชการการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภานิติบัญญัติ ผู้บริหารท้องถิ่นกรรมการหรือผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือพระภิกษุสามเณร

3

ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

4

ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต

ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

ไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือมีประโยชน์ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในกิจการเกี่ยวกับอาหารสำหรับทารก อาหารสำหรับเด็กเล็ก หรืออาหารเสริมสำหรับทารก

ไม่เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ

ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก ให้ออก หรือเลิกจ้างจากหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานของเอกชน เพราะทุจริตต่อหน้าที่ ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง หรือกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง และประพฤติชอบในวงราชการ

มาตรา ๗ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสามปีนับแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้ง ผู้ซึ่งพ้นจากตำแหน่งอาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้แต่จะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระไม่ได้

ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคนใหม่แทน และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคนเดิม ในกรณีครบวาระของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระนั้น ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคนใหม่จะเข้ารับหน้าที่ ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งทั้งหมด ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นใหม่ทั้งคณะ

มาตรา ๘ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งเมื่อ

(ก) ตาย (ข) ลาออก (ค) รัฐมนตรีสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง เพราะขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๖

มาตรา ๙ การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม

ในการประชุมคณะกรรมการ ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม ในการประชุม ถ้ากรรมการคนใดมีส่วนได้เสียในเรื่องที่พิจารณา กรรมการผู้นั้นไม่มีสิทธิออกเสียงลงมติในเรื่องนั้น แต่ไม่นับรวมเป็นองค์ประชุมและองค์ประชุมยังคงมีอยู่ การพิจารณาข้อขัดข้องที่ประชุมให้ถือคะแนนเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด

มาตรา ๑๑ ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการในการควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารก อาหารสำหรับเด็กเล็ก และอาหารเสริมสำหรับทารก

ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาระบบในการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารก อาหารสำหรับเด็กเล็ก และอาหารเสริมสำหรับทารก

ให้คำแนะนำ หรือความเห็นแก่รัฐมนตรีในการออกประกาศเพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้

ให้คำแนะนำหรือความเห็นแก่รัฐมนตรีในการควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารก อาหารสำหรับเด็กเล็ก และอาหารเสริมสำหรับทารก เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้

ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการหรือคณะรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีมอบหมาย

มาตรา ๑๒ คณะกรรมการอาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่คณะกรรมการมอบหมายก็ได้

ให้คณะอนุกรรมการตามวรรคหนึ่ง มีจำนวนกรรมการไม่น้อยกว่าสามคน และแต่งตั้งจากผู้แทนส่วนราชการหรือผู้ทรงคุณวุฒิ

มาตรา ๑๓ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการอาจขอให้หน่วยงาน องค์กร หรือบุคคลใด จัดส่งเอกสารทางวิชาการหรือสถิติที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารก อาหารสำหรับเด็กเล็ก และอาหารเสริมสำหรับทารก และมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือเรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยคำหรือชี้แจง หรือส่งคำชี้แจง เอกสาร ข้อมูล หลักฐาน หรือสิ่งอื่นใดที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาได้

มาตรา ๑๔ ให้กระทรวงสาธารณสุข รับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ และให้มีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

จัดทำนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการในการควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารก อาหารสำหรับเด็กเล็ก และอาหารเสริมสำหรับทารก

ประสานงานและร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในการดำเนินการตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการในการควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารก อาหารสำหรับเด็กเล็ก และอาหารเสริมสำหรับทารก (ล) ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการในการควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารก อาหารสำหรับเด็กเล็ก และอาหารเสริมสำหรับทารกของกรมอนามัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เสนอคณะกรรมการ

5

เป็นศูนย์ข้อมูลกลางในการประสานสัมพันธ์หรือเผยแพร่ข้อมูลและเอกสารเกี่ยวกับการควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารก อาหารสำหรับเด็กเล็ก และอาหารเสริมสำหรับทารก ตลอดจนข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสังคม สันนิษฐาน รสนิยม หรือพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่ปัจจัยในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

6

ปฏิบัติการอื่นใดตามที่รัฐมนตรี คณะกรรมการ หรือคณะอนุกรรมการมอบหมาย หรือตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

หมวด 2

การควบคุมการส่งเสริมการตลาด

ส่วนที่ 1

อาหารสำหรับทารกและอาหารสำหรับเด็กเล็ก

มาตรา 14 ห้ามผู้ใดโฆษณาอาหารสำหรับทารก

ห้ามผู้ใดโฆษณาอาหารสำหรับเด็กเล็กโดยใช้ข้อความเกี่ยวกับการหรือเด็กเล็กไปสื่อโดยตรงหรือโดยอ้อมเพื่อให้เข้าใจได้ว่าเป็นอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับใช้เลี้ยงทารก

มาตรา 15 ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายอาหารสำหรับทารก หรืออาหารสำหรับเด็กเล็ก หรือวัตถุอื่น ต้องดำเนินการให้อาหารสำหรับทารกและอาหารสำหรับเด็กเล็กแตกต่างกันอย่างชัดเจนและสามารถแยกแยะเห็นหรือแยกแยะได้โดยง่าย

ฉลากอาหารสำหรับทารกและฉลากอาหารสำหรับเด็กเล็กตามวรรคหนึ่งต้องแตกต่างจากฉลากอาหารอื่นอย่างชัดเจน

มาตรา 16 ภายใต้บังคับมาตรา 15 การให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็กของผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็ก เพื่อมิให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็กที่อาจมีผลต่อสุขภาพของทารกหรือของทารก โดยไม่ปรากฏข้อความที่เป็นการกล่าวอ้างทางโภชนาการและสุขภาพ และกรณีเป็นอาหารสำหรับทารกต้องมีข้อมูล ดังต่อไปนี้

1

ข้อมูลเกี่ยวกับข้อแนะนำในการใช้อาหารสำหรับทารก

2

ข้อความระบุถึงความสำคัญของนมแม่ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดทำข้อมูล ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการ ข้อกําหนดในการให้อาหารสําหรับทารกหรืออาหารสําหรับเด็กเล็ก ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดโดยคําแนะนําของคณะกรรมการ

มาตรา ๑๓ การให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาหารสําหรับทารกหรืออาหารสําหรับเด็กเล็กของผู้ผลิต ผู้นําเข้า หรือผู้จําหน่ายอาหารสําหรับทารกหรืออาหารสําหรับเด็กเล็ก หรือตัวแทนบุคคลดังกล่าวแก่บุคลากรด้านสาธารณสุข ต้องส่งเอกสารข้อมูลที่มีหลักฐานทางวิชาการที่ชัดเจนให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดโดยคําแนะนําของคณะกรรมการ

มาตรา ๑๔ การส่งเสริมการตลาดอาหารสําหรับทารกและอาหารสําหรับเด็กเล็กของผู้ผลิต ผู้นําเข้า หรือผู้จําหน่ายอาหารสําหรับทารกหรืออาหารสําหรับเด็กเล็ก หรือตัวแทนบุคคลดังกล่าวต้องไม่ใช้

(ก) แจกหรือให้คูปองหรือสิทธิพิเศษได้รับส่วนลด ขายพ่วง แลกเปลี่ยนหรือให้อย่างรางวัลชนะขวัญหรือสิ่งอื่นใด (ข) แจกอาหารสําหรับทารกหรืออาหารสําหรับเด็กเล็ก หรือตัวอย่างอาหารสําหรับทารกหรืออาหารสําหรับเด็กเล็ก ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม (ค) ให้อาหารสําหรับทารกหรืออาหารสําหรับเด็กเล็ก สิ่งของ หรือสื่ออื่นใดแก่หญิงตั้งครรภ์ หญิงที่มีบุตรอายุไม่เกินสามปี หรือบุคคลในครอบครัวของหญิงดังกล่าว (ง) ติดต่อบุคคลผู้มีบุตรหรือครอบครัวที่มีบุตรเพื่อแนะนําหรือเสนออาหารสําหรับทารกหรืออาหารสําหรับเด็กเล็กไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือกระทําให้บุคคลในครอบครัวของหญิงดังกล่าวเข้าใจว่าอาหารสําหรับทารกหรืออาหารสําหรับเด็กเล็ก หรือผลิตภัณฑ์อื่นใดที่เสนอให้เป็นอาหารสําหรับทารกหรืออาหารสําหรับเด็กเล็ก

มาตรา ๑๕ ในกรณีที่ผู้ผลิต ผู้นําเข้า หรือผู้จําหน่ายอาหารสําหรับทารกหรืออาหารสําหรับเด็กเล็ก หรือตัวแทน ประสงค์จะมอบหรือให้สิ่งของ อุปกรณ์ หรือของใช้แก่หน่วยบริการสาธารณสุข สิ่งของ อุปกรณ์ หรือของใช้ดังกล่าวจะต้องไม่มีชื่อ ตรา หรือสัญลักษณ์ที่สื่อให้เห็นว่าเป็นอาหารสําหรับทารกหรืออาหารสําหรับเด็กเล็ก กรณีมีชื่อ ตรา หรือสัญลักษณ์อื่น ๆ ต้องไม่สื่อให้เกิดความเชื่อมโยงกับอาหารสําหรับทารกหรืออาหารสําหรับเด็กเล็ก

มาตรา ๑๖ ห้ามผู้ผลิต ผู้นําเข้า หรือผู้จําหน่ายอาหารสําหรับทารกหรืออาหารสําหรับเด็กเล็ก หรือตัวแทน ให้หรือเสนอว่าจะให้ของขวัญ เงิน สิ่งจูงใจ หรือประโยชน์ใดแก่บุคลากรด้านสาธารณสุข

ความในวรรคหนึ่งไม่ให้กระทบต่อการให้ตามหลักจริยธรรมของวิชาชีพ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดโดยคําแนะนําของคณะกรรมการ

มาตรา ๑๗ ห้ามผู้ผลิต ผู้นําเข้า หรือผู้จําหน่ายอาหารสําหรับทารกหรืออาหารสําหรับเด็กเล็ก หรือตัวแทนดําเนินการส่งเสริมการตลาดอาหารสําหรับทารกหรืออาหารสําหรับเด็กเล็กในลักษณะที่เป็นการชักจูงบุคลากรด้านสาธารณสุข หญิงตั้งครรภ์ หรือหญิงที่มีบุตรซึ่งเป็นผู้บริโภคอาหารสําหรับเด็กเล็ก ให้แนะนำหรือใช้

สนับสนุนองค์กรวิชาชีพด้านสาธารณสุขและสถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่มีการเรียนการสอนที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพแม่และเด็ก ในการดำเนินการจัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการ

มาตรา ๒๒ ห้ามผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็ก หรือจัดหา บริจาคอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็กให้แก่หน่วยบริการสาธารณสุขหรือบุคลากรด้านสาธารณสุข ความในวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับกับการจัดหาอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็กที่มีวัตถุประสงค์พิเศษเพื่อให้การช่วยเหลือหรือจัดผู้ที่มีความผิดปกติของการย่อยและการดูดซึมสารอาหารในระบบทางเดินอาหาร หรือผู้ที่มีความจำเป็นต้องได้รับอาหารดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดหาอาหารดังกล่าวที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการ

มาตรา ๒๓ ห้ามผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็ก หรือจัดหา บริจาคอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็กให้แก่หน่วยบริการสาธารณสุขหรือบุคลากรด้านสาธารณสุข ความในวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับกับผู้ผลิตที่เป็นบุคลากรด้านสาธารณสุขซึ่งดำเนินการเพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์หรือเพื่อประโยชน์ในการรักษาทารกหรือเด็กเล็ก

ส่วนที่ ๒ อาหารเสริมสำหรับทารก

มาตรา ๒๔ ห้ามผู้ใดโฆษณาอาหารเสริมสำหรับทารก มาตรา ๒๕ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายอาหารเสริมสำหรับทารก หรือจัดหา ต้องดำเนินการให้ฉลากอาหารเสริมสำหรับทารกแสดงข้อความในฉลากอาหารสำหรับเด็กเล็ก หรือฉลากอาหารอื่นอย่างชัดเจนและสามารถอ่านได้เพื่อเตือนและแนะนำการใช้งาน

มาตรา ๒๗ ในการส่งเสริมการตลาดอาหารเสริมสำหรับทารก ห้ามผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้อื่นทำให้อาหารเสริมสำหรับทารก หรือวัตถุแทน ทำการส่งเสริมการตลาดอาหารเสริมสำหรับทารกแก่บุคคลใด ๆ ในสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล หรือสถานพยาบาลซึ่งดำเนินการโดยกระทรวง ทบวง กรม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษาของรัฐ หน่วยงานอื่นของรัฐ หรือองค์กรภาคเอกชน ในลักษณะ ดังต่อไปนี้

แจกหรือให้บุคคลผู้มีหน้าที่หรือได้รับมอบหมาย ขายหรือ แลกเปลี่ยนสิ่งใดเพื่อจูงใจของขวัญหรือสิ่งอื่นใด

แจกหรือให้อาหารเสริมสำหรับทารก หรือวัตถุอาหารเสริมสำหรับทารก สิ่งของ หรือสิ่งอื่นใด ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม

มาตรา ๒๘ ห้ามผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้อื่นทำให้อาหารเสริมสำหรับทารก หรือ ตัวแทน ทำการส่งเสริมการตลาดอาหารเสริมสำหรับทารกแก่หญิงมีครรภ์ หรือหญิงที่มีบุตรซึ่งเป็นทารกอายุไม่เกินหกเดือน

มาตรา ๒๙ ให้นำบทบัญญัติมาตรา ๑๙ มาตรา ๒๐ มาตรา ๒๖ และ มาตรา ๒๗ มาใช้บังคับกับอาหารเสริมสำหรับทารกด้วย

หมวด ๓

หน้าที่ของเจ้าหน้าที่

มาตรา ๓๐ ในการปฏิบัติหน้าที่ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

เข้าไปในสถานที่ใด ๆ ในระหว่างเวลาทำการเพื่อตรวจสอบเอกสาร สื่อโฆษณา หรือสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทำความผิดตาม พระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ โดยความจำเป็นภายหลังการอธิบายถึงเหตุจำเป็น เพื่อให้เจ้าของหรือ ผู้ครอบครองสถานที่นั้น ๆ

ยึดหรืออายัดเอกสาร สื่อโฆษณา หรือสิ่งอื่นใดที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเกี่ยวข้อง กับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้

เรียกเอกสารหรือบุคคลใด ๆ มาให้ถ้อยคำ หรือคำชี้แจงเป็นหนังสือ หรือให้ส่ง เอกสารหรือสิ่งอื่นใดเพื่อตรวจสอบหรือเพื่อประกอบการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตาม (๑) หรือ (๒) ได้ ให้ร้องขอ อำนาจของศาลเพื่อออกหมายค้นหรือหมายจับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

มาตรา ๓๑ ในการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัว พนักงานเจ้าหน้าที่

บัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามแบบที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด

มาตรา ๑๓ เอกสาร สื่อโฆษณา หรือสิ่งอื่นใดที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ตรวจหรืออายัดไว้ตามมาตรา ๑๑ (๒) ให้ตกเป็นของแผ่นดิน และให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์สั่งทำลายสิ่งที่อาจจะมีการละเมิดหรือปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการ เมื่อปรากฏว่า

ไม่ปรากฏเจ้าของ หรือไม่มีผู้มาแสดงตัวเป็นเจ้าของ หรือผู้ครอบครองภายในกำหนดวันที่พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนด หรือ

ในกรณีที่ไม่สามารถคืนสิ่งของดังกล่าวให้แก่เจ้าของหรือผู้ครอบครองได้หรือจนสิ้นภายในกำหนดวันที่ได้รับแจ้งคำสั่งดังกล่าวไม่ว่ากรณีใดก็ตาม

ในกรณีที่มีการดำเนินคดี โดยผู้พิพากษาไม่ให้เปรียบเทียบ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่สั่งตัดสินคดีไม่ฟ้องคดี หรือศาลไม่ให้พิจารณาคดี และผู้เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองไม่ร้องขอคืนภายในกำหนดวันที่พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนด หรือเจ้าหน้าที่ราชการสั่งตัดสินคดีไม่ฟ้องคดี หรือจนสิ้นคำสั่งคำพิพากษาถึงที่สุด แล้วแต่กรณี

มาตรา ๑๔ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา

หมวด ๔

บทกำหนดโทษ

มาตรา ๑๕ ผู้ใดโฆษณาอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็กอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๕ วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง หรือผู้ใดโฆษณาอาหารเสริมสำหรับทารกอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๕ วรรคสาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละไม่เกินห้าพันบาทตลอดเวลาที่ยังไม่ปฏิบัติให้ถูกต้อง

มาตรา ๑๖ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายอาหารสำหรับทารก อาหารสำหรับเด็กเล็ก หรืออาหารเสริมสำหรับทารก หรือวัตถุที่เกี่ยวข้องไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๖ หรือมาตรา ๗ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสามแสนบาท และปรับอีกวันละไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังไม่ปฏิบัติให้ถูกต้อง

มาตรา ๑๗ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็กที่ติดฉลากหรือจำหน่ายที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๒ หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๓ วรรคหนึ่ง อันเป็นเหตุต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท

มาตรา ๑๘ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็กที่ติดฉลากหรือจำหน่ายที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๗ มาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๒๔ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท

มาตรา ๓๗ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็กหรืออาหารเสริมสำหรับทารก หรืออาหารเสริมสำหรับเด็กเล็กที่ระบุในหมวด ๑๘ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท

มาตรา ๓๘ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็กหรืออาหารเสริมสำหรับทารก หรืออาหารเสริมสำหรับเด็กเล็กที่ระบุในหมวด ๑๘ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท

มาตรา ๓๙ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายอาหารสำหรับทารกหรืออาหารสำหรับเด็กเล็กหรืออาหารเสริมสำหรับทารก หรืออาหารเสริมสำหรับเด็กเล็กที่ระบุในหมวด ๒๗ หรือมาตรา ๒๘ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท

มาตรา ๔๐ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายอาหารเสริมสำหรับทารก หรืออาหารเสริมสำหรับเด็กเล็กที่ระบุในมาตรา ๒๗ หรือมาตรา ๒๘ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท

มาตรา ๔๑ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายอาหารเสริมสำหรับทารก หรืออาหารเสริมสำหรับเด็กเล็กที่ระบุในมาตรา ๒๗ วรรคหนึ่ง ประกอบกับมาตรา ๒๙ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท

มาตรา ๔๒ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายอาหารเสริมสำหรับทารก หรืออาหารเสริมสำหรับเด็กเล็กที่ระบุในมาตรา ๒๗ วรรคหนึ่ง ประกอบกับมาตรา ๒๙ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท

มาตรา ๔๓ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายอาหารเสริมสำหรับทารก หรืออาหารเสริมสำหรับเด็กเล็กที่ระบุในมาตรา ๒๗ วรรคหนึ่ง ประกอบกับมาตรา ๒๙ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท

มาตรา ๔๔ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายอาหารเสริมสำหรับทารก หรืออาหารเสริมสำหรับเด็กเล็กที่ระบุในมาตรา ๒๗ วรรคหนึ่ง ประกอบกับมาตรา ๒๙ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท

มาตรา ๔๕ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายอาหารเสริมสำหรับทารก หรืออาหารเสริมสำหรับเด็กเล็กที่ระบุในมาตรา ๒๗ วรรคหนึ่ง ประกอบกับมาตรา ๒๙ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท

มาตรา ๔๖ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายอาหารเสริมสำหรับทารก หรืออาหารเสริมสำหรับเด็กเล็กที่ระบุในมาตรา ๒๗ วรรคหนึ่ง ประกอบกับมาตรา ๒๙ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท

มาตรา ๔๘ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๓๐ วรรคหนึ่ง (๓) หรือจัดทำรายชื่อไม่ถูกต้องตามสภาพคนในพื้นที่ตามหน้าที่ซึ่งมีปฏิบัติการตาม มาตรา ๓๑ วรรคสอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๔๙ บรรดาคำสั่งตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ถือเป็นอธิปไตยของชาติซึ่งต้อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษนำมาปฏิบัติเป็นอันดับแรก ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์การเปรียบเทียบที่ คณะกรรมการกำหนด และเมื่อมีเหตุผลให้ดำรงไว้ซึ่งการเปรียบเทียบตามที่เปรียบเทียบในลักษณะนั้นแต่พ้นกำหนดการเปรียบเทียบแล้ว ให้ถือวาดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

บทเฉพาะกาล

มาตรา ๕๐ ในวาระเริ่มแรก ให้คณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการตามมาตรา ๔ (๖) และ (๗) และให้อยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งบุคคลอื่นตามพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัตินี้ให้มีผลบังคับนับจากวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

มาตรา ๕๑ การกระทำหรือการออกคำสั่ง การออกหมายหรือการดำเนินการใด ๆ อันเป็นการเสริมสิทธิในการดำเนินการให้ต่อหน้าที่ในลักษณะนั้นที่พระราชบัญญัตินี้บังคับ ซึ่งไม่เป็นไปตาม มาตรา ๔๕ หรือความผิดตามมาตรา ๔๘ ทั้งนี้ ให้ถือเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยพระราชบัญญัตินี้ ใช้บังคับ

มาตรา ๕๒ ให้ดำเนินการออกประกาศตามพระราชบัญญัตินี้ให้แล้วเสร็จภายใน หนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้รัฐมนตรี รายงานเหตุผลต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ

ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ปัจจุบันมาตรการในการควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กยังไม่เหมาะสมและไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ประกอบกับประเทศไทยได้ให้การรับรองหลักเกณฑ์สากลว่าด้วยการตลาดอาหารทดแทนนมแม่ (The International Code of Marketing of Breast-milk Substitutes) ในการประชุมสมัชชาอนามัยโลกครั้งที่ ๓๔ (WHA ครั้งที่ ๓๔.๒๒) และในการประชุมสมัชชาอนามัยโลกครั้งที่ ๖๓ (WHA ครั้งที่ ๖๓.๒๓) ที่ประชุมมีมติให้แต่ละประเทศปรับปรุงกฎหมายควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กให้เป็นกฎหมาย ดังนั้น เพื่อให้ประเทศไทยมีมาตรการในการควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กที่เหมาะสมและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ ``` - ๑๘ - สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พิมพ์คำค/อัญชลี/จัดทำ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ปริณิธิ์ลี/ตรวจ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ```