로고

พระราชบัญญัติ มาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑ ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานสินค้าเกษตร พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ มาตรา ๓๖ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้

มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑”

มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้ “มาตรฐาน” หมายความว่า มาตรฐานสินค้าเกษตรหรือมาตรฐานสินค้าเกษตรในแต่ละกรณี “สินค้าเกษตร” หมายความว่า ผลิตผลหรือผลิตภัณฑ์อันเกิดจากการเกษตร การประมง การปศุสัตว์ หรือการป่าไม้ และผลพลอยได้ของผลิตผลหรือผลิตภัณฑ์ดังกล่าว “มาตรฐานทั่วไป” หมายความว่า มาตรฐานที่มีประกาศกำหนดให้เพื่อส่งเสริมสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐาน

*หมายเหตุ: จากราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๕/ตอนที่ ๑๘ ก/หน้า ๑๖/๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑* "ผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐาน" หมายความว่า ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตให้ ตรวจสอบและรับรองมาตรฐานตามพระราชบัญญัตินี้ และให้นายกองควบคุมสินค้าของรัฐซึ่งมี อำนาจหน้าที่ตรวจสอบและรับรองมาตรฐานตามกฎหมาย "ผู้ผลิต" หมายความว่า

ผู้ที่ทำการผลิตรวม ประมง การปศุสัตว์ หรือการเก็บเกี่ยวพืชผล

ผู้ที่ทำการผลิตสินค้าเกษตรในโรงงานอุตสาหกรรม หรือในโรงงานอื่นๆ หรือใน โรงฆ่าสัตว์ หรือกิจการอื่นซึ่งเกี่ยวกับสินค้าเกษตรตามที่คณะกรรมการกำหนด

ผู้ที่แปรสภาพสินค้าเกษตรวัตถุดิบเป็น แปรรูป หรือการผลิตด้วยวิธีการใด ๆ "บริษัท" (ยกเลิก) "คณะกรรมการ" หมายความว่า คณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตร "สำนักงาน" หมายความว่า สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ "ผู้อำนวยการ" (ยกเลิก) "เลขาธิการ" หมายความว่า เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและ อาหารแห่งชาติ "พนักงานเจ้าหน้าที่" หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตาม พระราชบัญญัตินี้ "รัฐมนตรี" หมายความว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

มาตรา ๔ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับแก่

หน่วยงานของรัฐซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบและรับรองมาตรฐานตามกฎหมาย

ผู้ประกอบการ ผู้ผลิต หรือผู้อื่นที่เกี่ยวข้องตามที่พระราชบัญญัตินี้กำหนด

มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รักษาการตาม

พระราชบัญญัตินี้ และให้อำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดอัตรา ค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้ ออกกฎกระทรวงยกเว้น และกำหนดกิจการอื่นกับออก ประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงและประกาศนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้

หมวด ๑

คณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตร ___________________________ *มาตรา ๓ นิยามคำว่า "บริษัท" ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔* *มาตรา ๓ นิยามคำว่า "ผู้อำนวยการ" ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔* *มาตรา ๓ นิยามคำว่า "เลขาธิการ" เพิ่มโดยพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔*

มาตรา 6 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตร” ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบหมาย เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นรองประธานกรรมการ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร อธิบดีกรมปศุสัตว์ อธิบดีกรมประมง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน อธิบดีกรมการข้าว อธิบดีกรมวิชาการเกษตร อธิบดีกรมการค้าภายใน อธิบดีกรมศุลกากร อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ หรือผู้อำนวยการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรม ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติหรือผู้แทน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยหรือผู้แทน ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยหรือผู้แทน และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจำนวนไม่เกินเจ็ดคน รวมเป็นกรรมการ และให้ผู้อำนวยการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติหรือผู้แทนเป็นเลขานุการ และให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติซึ่งเลขาธิการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเลขานุการ เพื่อช่วยในการบริหารงานวิชาการด้านมาตรฐานสินค้าเกษตร หรือเทคโนโลยี หรือข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐาน

[คำว่า “เลขาธิการ” แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551]

มาตรา 7 ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

1

กำหนดนโยบาย แผนงาน และมาตรการเกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานสินค้าเกษตรในสินค้าเกษตร

2

พิจารณาเสนอแนะต่อรัฐมนตรีในการออกกฎกระทรวงและประกาศตามพระราชบัญญัตินี้

3

พิจารณาเสนอแนะต่อรัฐมนตรีในการออกกฎกระทรวงและประกาศตามพระราชบัญญัตินี้

4

กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการรับฟังความคิดเห็นตามมาตรา 14

5

พิจารณาคุยุติกรณีข้อขัดข้องในการปฏิบัติตามมาตรา 14

6

ออกประกาศ และคำสั่งอื่นใดเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้

7

พิจารณาข้อมูลทางวิชาการด้านวิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยี หรือข้อมูลอื่นที่เกี่ยวกับมาตรฐาน

8

ปฏิบัติการอื่นใดตามที่พระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ

มาตรา 8 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

(ก) มีสัญชาติไทย (ข) มีอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบปีบริบูรณ์ [มาตรา 7 วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551] (ก) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย (ข) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ (ค) ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ (ง) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรรมการบริหาร ที่ปรึกษาพรรคการเมือง

มาตรา ๙ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะต้องอยู่ในตำแหน่งคราวละสามปี

ก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเมื่อวาระการดำรงตำแหน่งสิ้นสุดลง ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งแต่งตั้งใหม่จะเข้ารับหน้าที่ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งเมื่อครบวาระแล้ว อาจได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอีกได้แต่จะดำรงตำแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันไม่ได้ ในกรณีที่มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนตำแหน่งที่ว่างลงก่อนครบวาระ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งแต่งตั้งใหม่นั้นอยู่ในตำแหน่งได้เท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งตนแทน แต่ไม่ให้ถือว่าเป็นการดำรงตำแหน่งต่อเนื่องกัน

มาตรา ๑๐ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งเมื่อ

ตาย

ลาออก

รัฐสภามีมติให้ออก เพราะมีความประพฤติเสื่อมเสีย บกพร่องหรือไม่สุจริตต่อหน้าที่หรือทุจริตต่อความสามารถ

ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๘ ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระและยังมิได้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนตำแหน่งที่ว่าง ให้กรรมการที่เหลืออยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

มาตรา ๑๑ ในกรณีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิครบวาระแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใหม่ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งครบวาระปฏิบัติหน้าที่ไปพลางก่อนจนกว่าจะได้มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใหม่

มาตรา ๑๒ การประชุมกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการ จึงจะเป็นองค์ประชุม

กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคนหนึ่งคนใดจะมอบหมายให้กรรมการท่านอื่นที่เป็นประธานในที่ประชุม ถ้ามีประธานกรรมการไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานกรรมการทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมแทน ในกรณีที่ไม่มีประธานกรรมการและรองประธานกรรมการหรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้เสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเสียงเป็นเสียงชี้ขาด

มาตรา ๑๓ คณะกรรมการจะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่คณะกรรมการมอบหมายก็ได้ การประชุมของคณะอนุกรรมการ ให้อนุกรรมการคนหนึ่งเป็นประธาน

มาตรา ๑๔ ให้สำนักงานทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการ รับผิดชอบงานธุรการ งานประชุม การศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูล และกิจการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับงานของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะอนุกรรมการ

หมวด ๒ การกำหนดมาตรฐาน

มาตรา ๑๕ ในกรณีที่คณะกรรมการเห็นสมควรกำหนดมาตรฐานหรือสินค้าเกษตร ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะกรรมการวิชาการเพื่อพิจารณามาตรฐานหรือสินค้าเกษตรนั้นให้คณะกรรมการพิจารณา เมื่อคณะกรรมการพิจารณาเห็นชอบร่างมาตรฐานหรือสินค้าเกษตรตามที่คณะกรรมการวิชาการเสนอ หากคณะกรรมการเห็นควรปรับปรุงรายละเอียดของมาตรฐานหรือสินค้าเกษตรดังกล่าว ให้คณะกรรมการวิชาการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมตามข้อเสนอของคณะกรรมการ แล้วเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง หากคณะกรรมการพิจารณาเห็นชอบร่างมาตรฐานหรือสินค้าเกษตรนั้น ให้เสนอให้คณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติพิจารณาเพื่อให้ความเห็นชอบก่อนออกประกาศกำหนดมาตรฐานหรือสินค้าเกษตรนั้นเป็นมาตรฐานทั่วไป แล้วแต่กรณี

กฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้อาจกำหนดให้สินค้าเกษตร หรืออันตรายเจือปนในสินค้าเกษตรใดของผู้ส่งออกหรือผู้นำเข้าสินค้าเกษตรนั้น หรือบางส่วนหรือลักษณะของสินค้าอยู่ภายใต้การควบคุมบังคับให้มาตรฐานหรือเป็นมาตรฐานทั่วไปก็ได้

มาตรา ๑๖ ในการกำหนดมาตรฐานบังคับหรือมาตรฐานทั่วไปให้สินค้าเกษตร จะกำหนดในเรื่องดังต่อไปนี้อย่างหนึ่งอย่างใดหรือหลายอย่างก็ได้ (๑) วิธีการ การผลิต หรือกระบวนการจัดการการผลิตหรือผู้ผลิตที่เกี่ยวข้อง (๒) วิธีการ การตรวจสอบ ประเมิน ทดสอบ ทดลอง วิเคราะห์ หรือวิจัยที่เกี่ยวกับ (๑) หรือ (๒)

* มาตรา ๑๗ วรรคสาม แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๓

ข้อกำหนดรายการอย่างอื่นที่เกี่ยวกับสินค้าเกษตรตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา

มาตรา ๑๗ คณะกรรมการวิชาการที่แต่งตั้งตามมาตรา ๑๕ จะให้มีคณะหนึ่งหรือหลายคณะก็ได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ คณะกรรมการวิชาการในแต่ละคณะให้มีจำนวนไม่น้อยกว่าสามคน

คณะกรรมการวิชาการมีหน้าที่จัดทำร่างมาตรฐานสินค้าเกษตรหรือเสนอแนะคณะกรรมการในการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรฐานสินค้าเกษตรที่มีอยู่แล้ว รวมทั้งจัดทำข้อกำหนดที่เกี่ยวกับมาตรฐานตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๒๐ เพื่อเสนอคณะกรรมการพิจารณา คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม วาระการดำรงตำแหน่ง และการพ้นจากตำแหน่งของกรรมการวิชาการ รวมทั้งการประชุมและการดำเนินงานอื่นของคณะกรรมการวิชาการให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

มาตรา ๑๘ ก่อนออกกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานบังคับ ให้คณะกรรมการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด

ในกรณีที่เห็นสมควรเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองหรือรักษาความปลอดภัยสาธารณะ สุขอนามัย หรือสิ่งแวดล้อม คณะกรรมการอาจเสนอให้รัฐมนตรีออกกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานบังคับได้โดยไม่ต้องรับฟังความคิดเห็นตามวรรคหนึ่ง กฎกระทรวงตามวรรคสองต้องกำหนดวันที่บังคับใช้ไม่น้อยกว่าสิบห้าวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

มาตรา ๑๙ ในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อสวัสดิภาพของประชาชน ความมั่นคงของประเทศ หรือเพื่อประโยชน์ในทางเศรษฐกิจ คณะกรรมการอาจเสนอให้รัฐมนตรีออกกฎกระทรวงกำหนดให้ผู้ใดอยู่ภายใต้บังคับมาตรฐานบังคับโดยไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรา ๑๘ ก็ได้

หมวด ๓

ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายสินค้าเกษตรตามมาตรฐานบังคับ

มาตรา ๒๐ ในกรณีที่มีกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานบังคับสำหรับสินค้าเกษตรใด ห้ามผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่ายสินค้าเกษตรนั้น ในแต่ละได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่าย แล้วแต่กรณี ซึ่งสำนักงานดำเนินการออกให้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

การขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง กฎกระทรวงตามวรรคสองกำหนดขนาดหรือลักษณะของกิจการของผู้ผลิตให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องได้รับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ก็ได้

มาตรา ๒๐ ผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าที่ขอรับใบอนุญาตต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์

ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย

ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต

ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาต หรือเคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตแต่เวลาผ่านมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปี ในกรณีที่ผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคล ผู้แทนนิติบุคคล กรรมการผู้จัดการ หรือบุคคลซึ่งได้รับมอบหมายจากนิติบุคคลนั้นต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามวรรคหนึ่ง และต้องไม่เคยเป็นผู้แทนนิติบุคคล กรรมการผู้จัดการ หรือบุคคลอื่นใดที่กระทำแทนนิติบุคคลที่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตตาม (๕)

มาตรา ๒๑ ใบอนุญาตให้ใช้ได้เฉพาะผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าที่ระบุชื่อไว้ในใบอนุญาตเท่านั้นและให้ต่ออายุใบอนุญาตเป็นต้นฉบับต่อใบอนุญาต

การต่ออายุใบอนุญาตให้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

มาตรา ๒๒ ผู้รับใบอนุญาตเป็นผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าต้องแสดงใบอนุญาตไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย ณ สถานที่ทำการของผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าที่ระบุไว้ในใบอนุญาต

มาตรา ๒๓ ในกรณีที่ใบอนุญาตสูญหายหรือชำรุดเสียหายไม่สามารถนำมาใช้ได้ ให้ผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้า ยื่นคำขอรับใบแทนจากสำนักงานอธิบดีตามแบบของราชการที่สำนักงานมอบหมายภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับทราบการสูญหายหรือชำรุดเสียหายดังกล่าว

การขอใบแทนใบอนุญาตและการออกใบแทนใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนด * มาตรา ๒๐ วรรคสี่ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการฐานสินค้าตกเกรด (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๑ * มาตรา ๒๓ วรรคสี่ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการฐานสินค้าตกเกรด (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๑

มาตรา 25 การย้ายสถานที่ทำการของผู้ผลิต ผู้นำออก หรือผู้นำเข้า ที่ระบุไว้ในใบอนุญาตต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานหรือหน่วยงานอื่นของรัฐที่สำนักงานมอบหมายก่อน การขออนุญาตและการอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

มาตรา 26 ผู้รับใบอนุญาตเป็นผู้ผลิต ผู้นำออก หรือผู้นำเข้า ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้สำนักงานทราบหรือหน่วยงานอื่นของรัฐที่สำนักงานมอบหมายทราบล่วงหน้าก่อนเลิกประกอบกิจการไม่น้อยกว่าสามสิบวัน และเมื่อเลิกประกอบกิจการแล้ว ให้ส่งคืนใบอนุญาตให้แก่สำนักงานหรือหน่วยงานของรัฐที่สำนักงานมอบหมายภายในสามสิบวันนับแต่วันเลิกประกอบกิจการ

มาตรา 26/1 การมอบหมายของสำนักงานให้แก่หน่วยงานอื่นของรัฐตามมาตรา 26 วรรคหนึ่ง มาตรา 25 วรรคหนึ่ง มาตรา 25 วรรคสาม และมาตรา 26 ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

หมวด 4 การตรวจสอบและรับรองมาตรฐาน

มาตรา 27 ในกรณีที่มีการขอรับการกำหนดมาตรฐานสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ หรือผู้ผลิต ผู้นำออก หรือผู้นำเข้า แล้วแต่กรณี ต้องดำเนินการตรวจสอบและได้รับใบรับรองตามมาตรฐานนั้นจากผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐาน การขอรับการตรวจสอบและรับรอง และการตรวจสอบและรับรองตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

ค่าบริการตรวจสอบและรับรองตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ในกรณีที่มีการออกกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานหรือกำหนดกิจการของผู้ผลิตให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องได้รับอนุญาตตามมาตรา 20 วรรคสามแล้ว ให้ผู้ผลิตนั้นได้รับยกเว้นไม่ต้องขอรับการตรวจสอบและได้รับใบรับรองตามมาตรฐานดังจากผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐาน

มาตรา 28 ผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานต้องจัดทำรายงานผลการตรวจสอบเกี่ยวกับการขอรับการตรวจสอบตามมาตรา 27 วรรคหนึ่ง ในกรณีที่สำนักงานกำหนดให้มีการตรวจสอบซ้ำ ให้แจ้งสำนักงานทราบ

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานออกใบรับรองสำหรับสินค้านำเข้านั้นตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

มาตรา ๒๙ รัฐมนตรีเมื่อเห็นสมควรอาจเสนอคณะกรรมการออกประกาศกำหนดให้สินค้านำเข้าของทางราชการบางประเภทที่มีผลมาตรฐานที่เทียบเคียงกับมาตรฐานรับจึงไม่ต้องได้รับใบรับรองตามมาตรฐานของประเทศนั้น โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้านำเข้าของประเทศที่มีข้อตกลงหรือความร่วมมือระหว่างประเทศเกี่ยวกับการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้าดังกล่าว

ในกรณีที่ความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อประโยชน์ในทางเศรษฐกิจของประเทศ รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการอาจกำหนดให้สินค้านำเข้าของทางราชการบางประเภทตามวรรคหนึ่งไม่ต้องผ่านกระบวนการร่วมมือระหว่างประเทศเกี่ยวกับการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้านั้น แต่สินค้านำเข้านั้นต้องได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานด้วย เมื่อมีการออกประกาศตามวรรคสองแล้ว ให้คณะกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการตรวจสอบและรับรองมาตรฐาน และการแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานสินค้านำเข้าของประเทศที่นำเข้ามาตรฐานหนึ่งและวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

มาตรา ๓๐ การนำเข้าสินค้านำเข้าของทางราชการบางประเภทที่มีผลมาตรฐานที่เทียบเคียงกับมาตรฐานของประเทศหนึ่ง หากผู้แทนจำหน่ายหรือผู้ผลิตของประเทศนั้นได้รับการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้านำเข้าของประเทศนั้นแล้ว ให้ผู้แทนจำหน่ายหรือผู้ผลิตของประเทศนั้นยื่นคำขอรับการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้านำเข้าของประเทศนั้นต่อสำนักงานโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้านำเข้าของประเทศนั้น

ในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อประโยชน์ในทางเศรษฐกิจของประเทศ สำนักงานโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการอาจพิจารณาให้การตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้านำเข้าของประเทศที่มีข้อตกลงหรือความร่วมมือระหว่างประเทศเกี่ยวกับการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้านั้นและกันได้ การให้ความเห็นชอบต่อการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานของต่างประเทศมาตรฐานหนึ่งและวรรคสองให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

มาตรา ๓๑ ในกรณีที่มีประกาศกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับสินค้านำเข้าของประเทศหนึ่งแล้ว ผู้ผลิตผู้ส่งออก หรือผู้จำหน่าย แล้วแต่กรณี มีสิทธินำสินค้านำเข้านั้นเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบและรับรองใบรับรองตามมาตรฐานใหม่ไปปฏิบัติประกอบการตรวจสอบมาตรฐานที่ได้

การขอรับการตรวจสอบและรับรอง และการตรวจสอบและรับรองตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในประกาศของคณะกรรมการ

มาตรา ๓๒ ให้ยกเลิก

มาตรา ๒๙ แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒

มาตรา ๓๐ แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ค่าบริการตรวจสอบและรับรองตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ให้นำมาตรา ๒๕ และมาตรา ๓๐ มาใช้บังคับแก่การนำเข้าสิ่งสินค้าเกษตรตามมาตรฐานนี้ฯไปโดยอนุโลม

มาตรา ๓๒ ในกรณีที่สินค้าเกษตรได้รับการตรวจสอบและรับรองแล้วปรากฏว่าสินค้าเกษตรดังกล่าวไม่เป็นไปตามมาตรฐานดังกล่าว ให้ดำเนินการแจ้งให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้ส่งออก หรือผู้จำหน่าย แล้วแต่กรณี ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐานนั้นภายในระยะเวลาที่สำนักงานกำหนด หากไม่สามารถแก้ไขหรือปรับปรุงให้ตรงตามมาตรฐานนั้นได้ภายในเวลาที่กำหนดให้ถือว่าสินค้าเกษตรดังกล่าวไม่ตรงตามมาตรฐาน และให้ดำเนินการมิให้ออกจำหน่ายหรือให้ส่งสินค้าเกษตรนั้นกลับคืนประเทศต้นทางหรือให้ส่งสินค้าเกษตรนั้นกลับคืนประเทศต้นทางภายในระยะเวลาที่สำนักงานกำหนด โดยให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้จำหน่าย แล้วแต่กรณี เป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการส่งคืนสินค้าเกษตรนั้น

การสั่งให้ดำเนินการแก้ไขหรือปรับปรุงและการสั่งให้ทำลายหรือส่งคืนสินค้าเกษตรกลับคืนตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

หมวด ๕

การประกอบการตรวจสอบมาตรฐาน

มาตรา ๓๓ ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบการตรวจสอบมาตรฐาน เว้นแต่จะเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ตรวจสอบและรับรองมาตรฐานจากสำนักงาน

การขอรับใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๓๔ ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

เป็นนิติบุคคลที่มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินกิจการเกี่ยวกับการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตร

มีห้องปฏิบัติการของตนเองหรือสามารถเช่าห้องปฏิบัติการของผู้อื่น โดยห้องปฏิบัติการต้องมีศักยภาพสามารถและคุณสมบัติตามที่คณะกรรมการกำหนด ในแต่ในกรณีที่มีการตรวจสอบมาตรฐานสินค้าเกษตรที่ไม่จำเป็นต้องใช้ห้องปฏิบัติการให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกำหนด

ไม่เป็นผู้เคยประพฤติทุจริตหรือเคยถูกลงโทษ

ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตหรือเคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตแต่เวลาผ่านมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปี

คุณสมบัติหรือเงื่อนไขอื่นตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

มาตรา ๓๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร (ฉบับที่) พ.ศ. ๒๕๖๒

ผู้แทนนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นใดซึ่งกระทำการแทนนิติบุคคลที่เป็นผู้ขอรับใบอนุญาต ต้องไม่เคยเป็นผู้แทนนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นใดซึ่งกระทำการแทนนิติบุคคลที่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตตาม (๔)

มาตรา ๑๕ ใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานที่ระบุชื่อไว้ในใบอนุญาตเท่านั้นและให้ต่ออายุใบอนุญาตเมื่อครบกำหนดทุกปี การขอต่ออายุใบอนุญาตและการอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

มาตรา ๑๖ ให้ผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานแสดงใบอนุญาตไว้ในที่เปิดเผยและเห็นได้ง่าย ณ สถานที่ทำการของผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานที่ระบุไว้ในใบอนุญาต

มาตรา ๑๗ ในกรณีที่ใบอนุญาตสูญหายหรือชำรุดเสียหายในสาระสำคัญ ให้ผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานยื่นคำขอรับใบแทนจากสำนักงานภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับทราบการสูญหายหรือชำรุดเสียหายนั้น การขอใบแทนใบอนุญาตและการออกใบแทนใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

มาตรา ๑๘ การยกเลิกใบอนุญาตของผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

มาตรา ๑๙ ผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานต้องแจ้งการเลิกประกอบกิจการต่อสำนักงานก่อนเลิกประกอบกิจการไม่น้อยกว่าสิบห้าวันนับแต่วันที่เลิกประกอบกิจการแล้ว ให้ส่งคืนใบอนุญาตภายในสามสิบวันนับแต่วันที่เลิกประกอบกิจการ

มาตรา ๒๐ ผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานต้อง (๑) ไม่เปิดเผยต่อผู้อื่นซึ่งมิใช่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติการตรวจสอบมาตรฐานโดยปราศจากข้อยกเว้นที่เกิดความเสียหายต่อการดำรงอยู่ของผู้ขอให้ตรวจสอบและรับรองมาตรฐาน เว้นแต่เป็นการเปิดเผยตามหน้าที่หรือกฎหมายหรือตามความยินยอมของผู้ขอให้ตรวจสอบหรือการจัดการดังกล่าว (๒) ไม่ปล่อยให้ข้อมูลที่ตรวจสอบและรับรองมาตรฐานรั่วไหล (๓) แจ้งให้ผู้ขอให้ตรวจสอบและรับรองมาตรฐานทราบ และดำเนินการแก้ไขตามบทหรือข้อผิดพลาดที่พบในกรณีที่มีความคลาดเคลื่อนหรือผิดพลาดในการตรวจสอบและรับรองมาตรฐาน (๔) แจ้งให้สำนักงานทราบภายในสามวันนับแต่วันที่ตรวจพบความบกพร่องหรือผิดพลาดในการตรวจสอบและรับรองมาตรฐาน (๕)

หมวด 6

การควบคุม

มาตรา 41 ให้ผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานจัดทำรายงานผลการดำเนินงานตรวจสอบและรับรองมาตรฐานต่อสำนักงานทุกระยะเวลาตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่สำนักงานประกาศกำหนด

มาตรา 42 ให้ผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานเก็บรักษาผลการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานและเอกสารที่เกี่ยวข้องไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่าห้าปีนับจากวันที่สิ้นกระบวนการตรวจสอบได้ การเก็บรักษาผลการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานและเอกสารที่เกี่ยวข้องตามวรรคหนึ่งจะเก็บรักษาในรูปข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้

มาตรา 43 ในการปฏิบัติการตามหน้าที่ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจ

1

เข้าไปในสถานที่ทำการหรือที่ปฏิบัติการของผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานหรือผู้ประกอบการที่ได้รับใบรับรองมาตรฐาน เพื่อสอบถามผู้จัดการ ผู้ช่วยหรือผู้แทนในกิจการในเวลาอันสมควรระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก หรือในเวลาทำการของสถานที่นั้นเพื่อตรวจสอบการดำเนินงานของผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานหรือผู้ประกอบการที่ได้รับใบรับรองมาตรฐานว่าดำเนินการถูกต้องตามพระราชบัญญัตินี้หรือไม่

2

เข้าไปในสถานที่ทำการหรือที่ปฏิบัติการของผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานหรือผู้ประกอบการที่ได้รับใบรับรองมาตรฐาน เพื่อขอตรวจสอบการดำเนินงาน ตลอดจนเครื่องมือ อุปกรณ์ หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบมาตรฐาน

3

เข้าไปในสถานที่ทำการ สถานที่เก็บสินค้าเกษตร หรือสถานที่ขายของผู้ผลิต ผู้ส่งออก ผู้นำเข้า ผู้จำหน่าย หรือผู้ได้รับใบรับรองหรือเพื่อเก็บตัวอย่างสินค้าเกษตรที่ได้รับใบรับรองมาตรฐานไปวิเคราะห์ได้ ไม่มีสิ่งใดในมาตรานี้จะส่งผลบังคับแก่การสั่งเข้ามา หรือปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎกระทรวงหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ ซึ่งเป็นการตรวจสอบสินค้าเกษตรเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ หรือเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงตามผลการตรวจสอบมาตรฐาน หรือใบรับรองมาตรฐานหรือไม่ หรือเพื่อตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบมาตรฐาน

4

สุ่มตัวอย่างสินค้าเกษตรจากผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐาน หรือที่ได้รับผลิตหรือของจากผู้จำหน่ายหรือของจากผู้เก็บรักษาเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานในปริมาณที่สมควรเพื่อการตรวจสอบ

5

สั่งให้ผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐาน ผู้ผลิต ผู้ส่งออก ผู้นำเข้า หรือผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ หรือหลักฐานหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือแก้ไขความบกพร่อง หรือผิดพลาดที่ตรวจพบ

6

ยึดหรืออายัดสินค้าเกษตร เอกสาร วัตถุ เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด หรือมีมูลเหตุอันควรสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือสิ่งที่เกี่ยวข้อง ได้มีการใช้เครื่องหมายรับรองมาตรฐานซึ่งมีเหตุอันควรเชื่อว่าเป็นเท็จ หรือที่ได้ผลการตรวจสอบ และรับรองมาตรฐานที่บกพร่องหรือผิดพลาดตามมาตรา 40 (4) หรือที่ผลการตรวจสอบและรับรองไม่เป็นไปตามมาตรฐานตาม (5) ในการปฏิบัติหน้าที่ตาม (1) พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องไม่กระทำการอันมีลักษณะเป็นการค้นความลับของเอกสารหรือการสื่อสารตามกฎหมาย และในกรณีตาม (2) หรือ (3) หากมีลักษณะเป็นการค้นความลับของเอกสารหรือการสื่อสารตามกฎหมายต้องได้รับอนุญาตจากศาลเสียก่อน เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน หากมิได้ทำเช่นว่านั้นอาจทำให้เอกสารหรือหลักฐานต่างๆ อาจถูกทำลาย ซ่อนเร้น ทำลาย หรือทำให้เสียหายไปจากเดิม ให้ดำเนินการทันที ซึ่งกรณีของการกระทำดังกล่าวต้องมีการรายงานเกี่ยวกับการกระทำความผิดโดยแสดงหมายอำนาจปฏิบัติตามประมวลกฎหมายอาญาหรือพยานหลักฐานด้วยการค้น แต่จะเริ่มการค้นในเวลาฉุกเฉินได้ในวันเดียวกันเป็นเวลาฉุกเฉินของสถานที่นั้น

มาตรา 44 สำนักงานมาตรฐานพนักงานเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาหรือดำเนินการตามมาตรา 43 (3) นั้น ให้คณะกรรมการอำนาจดังต่อไปนี้

(ก) ในกรณีที่ผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าไม่ปรับปรุงรองตามมาตรฐานในแต่ให้ใช้เครื่องหมายรับรองมาตรฐานนั้นไว้เป็นการดำเนินมาตรฐาน คณะกรรมการอาจสั่งให้แก้ไขหรือปรับปรุงให้สินค้านั้นคงไว้เป็นไปตามมาตรฐานหรือให้ทำลาย หรือห้ามมิให้ใช้เครื่องหมายรับรองมาตรฐานนั้นไว้หรือการดำเนินการเพื่อรับรองมาตรฐานนั้นไปหยุดทันทีจนกว่าจะดำเนินการ (ข) ในกรณีที่ผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าไม่ปรับรองตามมาตรฐานสินค้านั้น หรือในกรณีที่นำเข้าสินค้าจะสั่งให้ส่งกลับคืนไปให้ได้ หรือสิ่งใดหรือให้ผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าแล้วแต่กรณี ขอรับรองตามมาตรฐานบังคับ ให้ผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้า แล้วแต่กรณี เป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการแก้ไข การปรับปรุง การทำลาย การส่งกลับคืน หรือการใช้สิ่งอื่นแทนการเพื่อรับรองมาตรฐานนั้นไปมาตรฐานบังคับ หรือการขยายมาตรฐานนั้นไปหรือการดำเนินการเพื่อให้เครื่องหมายมาตรฐานนั้นไปหยุดทันทีจนกว่าจะดำเนินการ

มาตรา 45 บรรดาสิ่งที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาหรือดำเนินการตามมาตรา 43 (3) นั้น ถ้าไม่ปรากฏว่าผู้ครอบครองรองมาตรฐานในสินค้านั้นเป็นผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า หรือพนักงานเมื่อการสั่งคืนตามกฎหมาย หรือมีความผิดไม่พ้นการดำเนินการให้ และผู้เสียหายอาจร้องขอรับรองมาตรฐานนั้นไว้ในสินค้านั้นเป็นไปตามมาตรฐานบังคับ และผู้เสียหายอาจร้องขอรับรองมาตรฐานนั้นไว้ในสินค้านั้นเป็นไปตามมาตรฐานบังคับได้ในวันเดียวกัน ให้ดำเนินการทันที

ในกรณีสินค้านำเข้าสินค้าหรือสิ่งที่มีการตรวจสอบหรือดำเนินการแล้วเสียหายหรือสูญเสียหรือมีความเสียหายหรือจะเสียหายเกี่ยวกับการรักษาเก็บรักษาให้คณะกรรมการหรือสิ่งอื่น สำนักงานจะจัดการออกตามกฎหมายในสินค้านั้นเสียก่อนคณะกรรมการจะดำเนินการต่อไป สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แผ่นดินก็ให้ เงินค่าขายทอดตลาดสินค้าเกษตรหรือสิ่งนั้นเมื่อหักค่าใช้จ่ายและค่าภาระติดพันทั้งปวง แล้วเหลือเงินจำนวนสุทธิเท่าใด ให้ส่งเป็นรายได้แผ่นดินค่าเกษตรหรือสิ่งนั้น

มาตรา ๕๑ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องมีบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ตามแบบที่ รัฐมนตรีประกาศกำหนด ในการปฏิบัติหน้าที่พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ต่อ บุคคลซึ่งเกี่ยวข้อง

มาตรา ๕๒ ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๔๓ ให้บุคคลซึ่ง เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกตามสมควร

มาตรา ๕๓ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้กรรมการมาตรฐานสินค้า เกษตร กรรมการวิชาการ อนุกรรมการ และพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวล กฎหมายอาญา

มาตรา ๕๔ ในกรณีที่มีผลการตรวจสอบตามมาตรา ๔๓ (๒) (๓) หรือ (๔) พบว่า สินค้าเกษตรที่อยู่ในครอบครองของผู้ส่งออก ผู้ผลิต หรือผู้นำเข้า ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของ คณะกรรมการมีมติว่า (ก) ประกาศผลการตรวจสอบไปประกอบการนำไปแก้ไขหรือกำจัดสินค้าเกษตรนั้น โดยให้ระบุข้อมูลดังต่อไปนี้ (ก) ในกรณีที่ปรากฏผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าส่งสินค้าเกษตรนั้นโดยแน่ชัด ให้ระบุชื่อผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้า พร้อมทั้งชนิดและลักษณะของสินค้าเกษตรหรือภาชนะบรรจุ นั้น และลักษณะของการกระทำหรือสิ่งที่ปรากฏที่เป็นเหตุให้สินค้าเกษตรนั้นไม่เป็นไปตาม เงื่อนไขที่ระบุในมาตรฐานหรือข้อกำหนด พร้อมทั้งระบุวิธีการจัดการหรือแก้ไขสินค้าเกษตรนั้น และเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติ (ข) ในกรณีที่ไม่ปรากฏผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าโดยแน่ชัดแต่ปรากฏ ผู้จำหน่ายหรือผู้ที่เป็นครอบครองเพื่อจำหน่ายส่งสินค้าเกษตรนั้น ให้ระบุชื่อผู้จำหน่ายหรือผู้ที่ เป็นครอบครองเพื่อจำหน่าย และลักษณะของการกระทำหรือสิ่งที่ปรากฏที่เป็นเหตุให้สินค้าเกษตร นั้นไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุในมาตรฐานหรือข้อกำหนด พร้อมทั้งชนิด และลักษณะของสินค้าเกษตรหรือภาชนะบรรจุนั้น (ข) เรียกเก็บสินค้าเกษตรหรือสิ่งที่ผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าส่งสินค้าเกษตรนั้น จัดเก็บสินค้าเกษตรภายในระยะเวลาที่กำหนด และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามที่คณะกรรมการ กำหนดทั้งการจัดการ การแก้ไข การกำจัด หรือการ ดำเนินการตามสมควรต่อไป

มาตรา 50 ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตเป็นผู้ผลิต ผู้นำออก หรือผู้นำเข้า หรือผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกฎกระทรวงหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ ให้สำนักงานคณะกรรมการฯ แจ้งเป็นหนังสือและเตือนผู้รับใบอนุญาตตามกรณีหนึ่งกรณีใดหรือทุกกรณีตามใบอนุญาตในระยะเวลาที่ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตนั้นไม่ได้

มาตรา 51 สำนักงานมีอำนาจสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต เมื่อปรากฏว่า

1

ผู้รับใบอนุญาตเป็นผู้ผลิต ผู้นำออก หรือผู้นำเข้าหรือผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานไม่ปฏิบัติตามมาตรา 2 หรือผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 19

2

ผู้รับใบอนุญาตเป็นผู้ผลิต ผู้นำออก หรือผู้นำเข้าหรือผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานแสดงข้อมูลที่เป็นเท็จในการขอใบอนุญาต

3

ผู้รับใบอนุญาตเป็นผู้ผลิต ผู้นำออก หรือผู้นำเข้าหรือผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในใบอนุญาต

4

ผู้รับใบอนุญาตเป็นผู้ผลิต ผู้นำออก หรือผู้นำเข้าหรือผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานไม่ปฏิบัติตามมาตรา 48 หรือมาตรา 49 หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการตามมาตรา 15 หรือมาตรา 25 หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการตามมาตรา 21 หรือมาตรา 27 ในกรณีที่สำนักงานมีคำสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต ให้ระบุในคำสั่งนั้นถึงเหตุผลและระยะเวลาที่จะพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตนั้นด้วย

มาตรา 52 การสั่งพักใช้ใบอนุญาตตามมาตรา 50 และการสั่งเพิกถอนใบอนุญาตตามมาตรา 51 ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

มาตรา 53 ให้สำนักงานประกาศรายชื่อผู้ผลิต ผู้นำออก ผู้นำเข้า หรือผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานที่ถูกสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตตามมาตรา 50 หรือมาตรา 51 ให้ผู้บริโภคหรือประชาชนทราบเพื่อประโยชน์แก่การคุ้มครองผู้บริโภคหรือประชาชน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

หมวด 7 เครื่องหมายรับรองมาตรฐาน

มาตรา 54 เครื่องหมายรับรองมาตรฐานสำหรับสินค้าอุตสาหกรรม มีดังต่อไปนี้

1

เครื่องหมายรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับสินค้าอุตสาหกรรมที่ได้รับใบรับรองตามมาตรฐานบังคับ ``` - ๑๖ -

เครื่องหมายรับรองมาตรฐานทั่วไปสำหรับสินค้าเกษตรที่ได้รับใบรับรองตามมาตรฐานทั่วไป

ลักษณะของเครื่องหมาย การใช้เครื่องหมาย และการแสดงเครื่องหมายให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง

มาตรา ๕๖ ผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าสินค้าเกษตรตามมาตรฐานทั่วไปต้องแสดงเครื่องหมายรับรองมาตรฐานตามมาตรา ๕๕ ก่อนนำออกจำหน่ายหรือส่งออกไปจากเจ้าของมาตรฐาน ในกรณีที่มีผู้รับอนุญาตให้นำออกจำหน่ายหรือส่งออกแทนเจ้าของมาตรฐาน

มาตรา ๕๗ ห้ามมิให้ผู้ใดใช้เครื่องหมายรับรองมาตรฐานตามมาตรา ๕๕ เว้นแต่เป็นผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าสินค้าที่ได้รับใบรับรองตามมาตรฐานบังคับหรือมาตรฐานทั่วไป แล้วแต่กรณี

หมวด ๘

การอุทธรณ์

มาตรา ๕๘ ผู้ผลิต ผู้ส่งออก ผู้นำเข้า ผู้ขอรับใบอนุญาต หรือผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานที่มิได้รับการรับรองหรือมิได้รับใบอนุญาตหรือมิได้รับการต่ออายุใบอนุญาต หรือมิได้รับใบรับรองตามมาตรฐานบังคับหรือมาตรฐานทั่วไป ให้ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มิได้รับการรับรองหรือมิได้รับใบอนุญาตหรือมิได้รับการต่ออายุใบอนุญาต หรือมิได้รับใบรับรองตามมาตรฐานบังคับหรือมาตรฐานทั่วไป แล้วแต่กรณี

ให้คณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์จากสำนักงาน คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด การอุทธรณ์ตามวรรคหนึ่ง ไม่เป็นเหตุให้ผู้ยื่นอุทธรณ์ได้รับการยกเว้นคำสั่งของสำนักงาน เว้นแต่จะมีการสั่งให้การบังคับไว้ก่อนโดยคณะกรรมการ

หมวด ๙

บทกำหนดโทษ

มาตรา ๕๙ ผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าใดฝ่าฝืนมาตรา ๕๖ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๕๗ วรรคสอง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสามแสนบาท

มาตรา ๖๐ วรรคสอง ตั้งแต่ระวางโทษปรับไม่เกินสามแสนบาท

```

มาตรา 45 ผู้รับใบอนุญาตเป็นผู้ผลิต ผู้นำออก หรือผู้นำเข้า ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 23 มาตรา 24 วรรคหนึ่ง มาตรา 25 วรรคหนึ่ง มาตรา 26 หรือมาตรา 45 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท

มาตรา 46 ผู้ผลิต ผู้นำออก หรือผู้นำเข้าผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 24 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท

มาตรา 47 ผู้ผลิต ผู้นำออก หรือผู้นำเข้าผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของสำนักงานภายในระยะเวลาที่กำหนดตามมาตรา 31 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท และปรับอีกวันละไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว

มาตรา 48 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 25 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 49 ผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 20 วรรคหนึ่ง มาตรา 21 วรรคหนึ่ง มาตรา 22 หรือมาตรา 24 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท

มาตรา 50 ผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 20 หรือมาตรา 23 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 51 ผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 46 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท

มาตรา 52 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งสั่งตามมาตรา 14 (4) หรือไม่อำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 24 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท

มาตรา 53 ผู้ผลิต ผู้นำออก หรือผู้นำเข้าผู้ใดไม่ดำเนินการหรือเก็บสินค้าให้เป็นตามคำสั่งของสำนักงานตามมาตรา 27 (2) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 54 ผู้ผลิต ผู้นำออก หรือผู้นำเข้าผู้ใดไม่ดำเนินการหรือเก็บสินค้าให้เป็นตามคำสั่งของสำนักงานตามมาตรา 27 (2) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 55 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของสำนักงานตามมาตรา 27 (2) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๒๙ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๖ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๓๐ ผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การตรวจสอบและรับรองมาตรฐานอันเป็นเหตุหรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้บริโภคหรือปกปิดข้อความจริงที่ควรบอกให้แจ้ง โดยเจตนาที่จะไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ผู้บริโภค ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๓๑ ผู้ใดให้ เรียก รับ หรือยอมจะให้เงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐาน เพื่อให้การออกผลการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดเรียก รับ หรือยอมจะรับเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นเพื่อกระทำการตามวรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษตามที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง

มาตรา ๓๒ ผู้ใดทำใบรับรองมาตรฐานหรือรายงานการตรวจสอบมาตรฐานขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใดปลอม หรือดัดแปลงข้อความ หรือแก้ไขข้อความใดในใบรับรองหรือรายงานดังกล่าวอันเป็นเหตุให้ข้อความดังกล่าวในใบรับรองหรือรายงานนั้นไม่ตรงต่อความจริง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐาน ผู้นั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๓๓ ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก ผู้นำผ่าน ผู้จำหน่าย หรือผู้มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าเกษตรที่มีเครื่องหมายรับรองมาตรฐานหรือรายงานการตรวจสอบมาตรฐานที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๓๔ ผู้ใดถอด ทำให้เสียหาย ทำลาย หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งตราหรือเครื่องหมายอันบ่งบอกว่าเป็นสินค้าได้รับรองมาตรฐานไม่ว่าโดยใด ๆ ในการปฏิบัติการตามหน้าที่เพื่อเป็นหลักฐานในการยึด อายัด หรือทำลายสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๓๕ ผู้ใดเสนอ จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าเกษตรที่มีตราหรือเครื่องหมายที่แสดงว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือเครื่องหมายรับรองมาตรฐานโดยวิธีหรือข้อความอันควรเชื่อได้ว่าเป็นการแสดงหรือรับรองมาตรฐาน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๓๖ ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดเป็นนิติบุคคล ถ้าการกระทำความผิดของนิติบุคคลนั้นเกิดจากการสั่งการหรือการกระทำของกรรมการ หรือผู้จัดการ หรือบุคคลซึ่งรับผิดชอบในกิจการนั้น ให้กรรมการ ผู้จัดการ หรือบุคคลนั้นต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้สำหรับความผิดนั้นด้วย

มาตรา ๓๗ บทเฉพาะกาล บทเฉพาะกาลนี้ให้ใช้บังคับแก่ใบรับรองมาตรฐานที่ออกให้ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับและยังมีผลใช้บังคับอยู่ในวันดังกล่าว

ในการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่บุคคลนั้น หรือในกรณีที่บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ต้องสั่งการหรือกระทำการ และจะนำไปสู่การกระทำอันเป็นเหตุให้บุคคลนั้นกระทำความผิด ผู้ที่ต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้สำหรับความผิดนั้น ๆ ด้วย

มาตรา ๗๗ บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ที่มีโทษปรับสถานเดียวให้คณะกรรมการเปรียบเทียบปรับตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบหมาย คณะกรรมการเปรียบเทียบปรับซึ่งแต่งตั้งตามวรรคหนึ่งให้มีจำนวนสามคน ประกอบด้วยข้าราชการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานหนึ่งคน และพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาสองคน เมื่อคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับตามวรรคหนึ่งปรับตามจำนวนที่เปรียบเทียบแล้ว ให้ถือว่าคดีเลิกกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

บทเฉพาะกาล

มาตรา ๗๘ บรรดามาตรฐานสินค้าเกษตรที่คณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติได้ประกาศไว้แล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ถือว่าเป็นมาตรฐานที่ได้กำหนดพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๗๙ ให้ผู้ได้รับใบรับรองเป็นผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ยื่นคำขอรับใบอนุญาตต่อสำนักงานภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับเพื่อขอรับใบอนุญาตจากสำนักงาน เมื่อได้ยื่นแล้วให้ถือว่าผู้นั้นเป็นผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานตามพระราชบัญญัตินี้จนกว่าสำนักงานจะมีคำสั่งไม่อนุญาตหรือใบรับรองนั้นสิ้นอายุ ทั้งนี้ ให้ปฏิบัติตามบัญญัติกับผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐานและการควบคุมผู้ประกอบการตรวจสอบมาตรฐาน รวมทั้งบทกำหนดโทษที่เกี่ยวข้องตามพระราชบัญญัตินี้แล้วบังคับกับผู้นั้น

มาตรา ๘๐ ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายรับรองตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมมาตรฐานสินค้าเกษตรก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ถือว่าได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายรับรองตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ให้ปฏิบัติตามบัญญัติเกี่ยวกับเครื่องหมายรับรองตามพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งบทกำหนดโทษที่เกี่ยวข้องตามพระราชบัญญัตินี้แล้วบังคับกับผู้นั้น

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี อัตราค่าธรรมเนียม ๑. ใบอนุญาตตามมาตรา ๒๐ ฉบับละ ๙๐,๐๐๐ บาท ๒. ใบอนุญาตตามมาตรา ๓๓ ฉบับละ ๖๐,๐๐๐ บาท ๓. ใบแทนใบอนุญาตตามมาตรา ๒๐ ฉบับละ ๖,๐๐๐ บาท ๔. ใบแทนใบอนุญาตตามมาตรา ๓๓ ฉบับละ ๖,๐๐๐ บาท ๕. การต่ออายุใบอนุญาตตามมาตรา ๒๐ หรือใบอนุญาตตามมาตรา ๓๓ ครั้งละกึ่งหนึ่งของค่าธรรมเนียมใบอนุญาตนั้น ในการออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมจะกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมให้แตกต่างกันโดยคำนึงถึงขนาดหรือลักษณะของกิจการหรือสาขาของการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานก็ได้ หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากประเทศไทยกำลังเร่งรัดพัฒนาสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐาน และโดยที่ในปัจจุบันสินค้าเกษตรของไทยซึ่งกำลังผลิตทั้งเพื่อบริโภคและจำหน่ายในต่างประเทศที่ไม่มีมาตรฐานในระดับที่เหมาะสมกับเหตุการณ์หรือความจำเป็นและไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค ประชาชนขาดความเชื่อถือ และส่งผลกระทบต่อการประกอบกิจการค้าเกษตรของไทย ทำให้ไม่สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ อันก่อให้เกิดความเสียหายแก่เศรษฐกิจของประเทศ สมควรปรับปรุงมาตรฐานสินค้าเกษตรให้เหมาะสมกับเหตุการณ์และความจำเป็นของสินค้าเกษตรนั้น เพื่อส่งเสริมสินค้าเกษตรให้ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคและเสริมสร้างความเชื่อถือแก่ประชาชนรวมทั้งเพื่อการค้าเกษตรที่ตรงต่อความต้องการของตลาดโลกและรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจของประเทศ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ พระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๖ มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ให้แก้ไขคำว่า “ผู้ตรวจสอบการ” ในพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็น “เลขาธิการ” ทุกแห่ง มาตรา ๔ ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ คงอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใหม่ตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ มาตรา ๑๐ บทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรีซึ่งอ้างถึงสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ให้ถือว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรีนั้นอ้างถึงเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ มาตรา ๑๑ บรรดาประกาศที่ออกตามความในมาตรา ๔๔ แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งใช้อยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้ จนกว่าจะมีประกาศที่ออกตามความในมาตรา ๔๔ แห่งพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ มาตรา ๑๒ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ หมวดเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขชื่อ ตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการของสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติจาก ผู้อำนวยการเป็นเลขาธิการ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการแบ่งส่วนราชการในความตามที่ คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการกำหนด ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ และเห็นชอบให้แก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องรวมทั้งแก้ไขอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการมาตรฐานสินค้าเกษตรแห่งชาติประสานสัมพันธ์ รวมทั้งเพิ่มเติม คุณสมบัติของกรรมการจากการแต่งตั้งให้สามารถแต่งตั้งผู้แทนหน่วยงานของรัฐซึ่งมีอำนาจ หน้าที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารให้เป็นกรรมการในคณะกรรมการดังกล่าวได้ นอกจากนี้ยังสมควรเพิ่มเติมคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มี คุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตรให้มีคุณสมบัติของผู้บริหารในส่วน