로고

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เป็นปีที่ ๔ ในรัชกาลปัจจุบัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการ โปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า

ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒

โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยเทคโนโลยีป้องกันประเทศ

มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติเทคโนโลยีป้องกันประเทศ

พ.ศ. ๒๕๖๒”

มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้

“เทคโนโลยีป้องกันประเทศ” หมายความว่า วิทยาการในการนำองค์ความรู้ที่มีอยู่ หลากหลายแขนงมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการป้องกันประเทศและด้านการทหารอื่น ๆ รวมถึงการประยุกต์ใช้ประโยชน์ในประเทศในส่วนรวม “อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ” หมายความว่า การวิจัย การพัฒนา การออกแบบ การผลิต การประกอบรวม การปรับปรุง การซ่อมสร้าง การเปลี่ยนลักษณะ การแปรสภาพ หรือ การให้บริการที่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการป้องกันประเทศ โดยอยู่ภายใต้ขอบเขตแห่งพระราชบัญญัตินี้ “สถาบัน” หมายความว่า สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ “ผู้อำนวยการ” หมายความว่า ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

และให้มีอำนาจออกระเบียบเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้

หมวด ๑

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

มาตรา 5 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า “คณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศ” ประกอบด้วย

(1) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานกรรมการ (2) กรรมการโดยตำแหน่ง จำนวนสิบสองคน ได้แก่ ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และประธานกรรมการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (3) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนไม่เกินหกคน ซึ่งจะต้องแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในด้านการทหาร เทคโนโลยีป้องกันประเทศ อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ หรือการวิจัย การพัฒนา และนวัตกรรม หรือด้านอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และในกรณีที่ประธานกรรมการไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้มอบหมายให้รองประธานกรรมการเป็นผู้ปฏิบัติราชการแทน

มาตรา 6 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา 5 (3) ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

(1) มีสัญชาติไทย (2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปีบริบูรณ์ และไม่เกินเจ็ดสิบปีบริบูรณ์ (3) ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต (4) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ (5) ไม่เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุก ไม่ว่าจะได้รับโทษจำคุกจริงหรือไม่ เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ (6) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นในคณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง (7) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งใด ๆ หรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ (8) ไม่เป็นผู้ที่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือกฎหมายว่าด้วยการก่อการร้าย หรือกฎหมายว่าด้วยยาเสพติด เว้นแต่เป็นผู้ที่พ้นโทษมาแล้วเกินห้าปี (9) ไม่เป็นผู้ที่เคยถูกคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งในฐานะกรรมการ หรือผู้บริหาร หรือเจ้าหน้าที่ในภาครัฐหรือภาคเอกชน เนื่องจากการกระทำทุจริตหรือประพฤติมิชอบ

มาตรา 7 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา 5 (3) ให้มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับการแต่งตั้งใหม่ได้แต่ไม่เกินสองวาระ

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระ อยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในประเภทเดียวกันจะเข้ารับหน้าที่ ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระและยังมิได้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนตำแหน่งที่ว่าง ให้กรรมการที่เหลืออยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ เมื่อพ้นตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำต้องพ้นจากบรรรณะ หรือตำแหน่งหน้าที่ที่ดำรงอยู่ในขณะได้รับแต่งตั้งด้วย ในระหว่างที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแต่ละประเภทยังไม่ครบจำนวน ให้ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งตามที่กำหนดไว้ในมาตรา ๕ (ก) ปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในประเภทนั้นไปพลางก่อนจนกว่าจะมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิครบจำนวนหรือได้รับแต่งตั้งแล้ว ในแต่ละครั้งจะต้องไม่เกินสามวัน จะไม่มีแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนตำแหน่งที่ว่างเพิ่มเติมได้ และให้คณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันประเทศช่วยป้องกันป

(ข)

ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้ให้เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศหรือตามที่คณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีมอบหมาย

มาตรา ๑๑ การประชุมของคณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม ให้ประธานคณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศเป็นประธานในที่ประชุมตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง การลงมติในที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมากเป็นประมาณ ถ้ามีคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่ง

มาตรา ๑๒ คณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงานเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่คณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศมอบหมายได้

คณะอนุกรรมการและคณะทำงานดังกล่าวไม่มีสิทธิเบิกส่วนได้เสียในการที่กระทำกับสถาบันหรือในกิจการที่เป็นการแข่งกับกิจการของสถาบันหรือเป็นการขัดหรือแย้งต่อผลประโยชน์ของสถาบัน ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม

มาตรา ๑๓ ให้ประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศและอนุกรรมการที่คณะกรรมการดังกล่าวตั้ง ได้รับเบี้ยประชุมและค่าใช้จ่ายอื่นตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด

มาตรา ๑๔ ให้สถาบันทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศ และปฏิบัติการอื่นใดตามที่คณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศมอบหมาย

หมวด ๒ คณะกรรมการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ

มาตรา ๑๔ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง เรียกว่า “คณะกรรมการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ” ประกอบด้วย (๑) ประธานกรรมการ ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์สูงในด้านเทคโนโลยีป้องกันประเทศ อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ หรือพลังงานทหาร (๒) กรรมการโดยตำแหน่ง จำนวนหกคน ได้แก่ เสนาธิการทหาร เสนาธิการทหารเรือ เสนาธิการทหารอากาศ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ (๓) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนสี่คน ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์สูงในด้านเทคโนโลยีป้องกันประเทศ อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

หรือการวิจัย การพัฒนา และนวัตกรรม หรือกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อกิจการของสถาบัน แต่ต้องไม่เป็นกิจการที่มีลักษณะเป็นเงินกู้ยืมประเภทต่าง ๆ พันธบัตรหรือตราสารหนี้ของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เว้นแต่เป็นผู้ลงทุนในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ให้ผู้อำนวยการเป็นกรรมการและเลขานุการ และให้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของสถาบัน เป็นผู้ช่วยเลขานุการได้ตามความเหมาะสม หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ รวมทั้งการสรรหาประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่างก่อนวาระ ให้เป็นไปตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด

มาตรา ๑๔ ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๑๓ (๑) และ (๓) ให้มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันมิได้

ให้ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระ อยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่

มาตรา ๑๕ ในกรณีที่ประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ ให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ตนแทน และในกรณีที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ จะไม่มีแต่งตั้งกรรมการหรือกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนตำแหน่งที่ว่างดังกล่าว

ในกรณีที่ประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ ให้คณะกรรมการอาจเลือกกรรมการหนึ่งคนที่อยู่ในตำแหน่งเข้าทำหน้าที่ประธานชั่วคราว

มาตรา ๑๖ คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม และการพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระของประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา ๑๔ (๑) และ (๓) และการประชุมของคณะกรรมการ ให้กำหนดในมาตรา ๓ มาตรา ๔ และมาตรา ๕ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

มาตรา ๑๗ คณะกรรมการมีหน้าที่และอำนาจควบคุมดูแลกิจการทั่วไปของสถาบัน ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในมาตรา ๖ รวมทั้งมีหน้าที่และอำนาจดังต่อไปนี้

(๑)

กำหนดนโยบายการบริหารงาน การดำเนินงาน และการบริหารกิจการของสถาบัน

(๒)

อนุมัติแผนกลยุทธ์ แผนการเงิน และงบประมาณประจำปีของสถาบัน

(๓)

ประเมินผลการดำเนินงาน ติดตาม ตรวจสอบ และกำกับดูแลการปฏิบัติงานของสถาบัน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด ```

(๔)

ควบคุมดูแลการดำเนินงานและการบริหารงานทั่วไป ตลอดจนออกระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนด หรือประกาศเกี่ยวกับสถาบัน ในเรื่องดังต่อไปนี้

(ก)

การบริหารงานทั่วไปของสถาบัน โครงสร้างองค์กร การกำหนดตำแหน่ง และค่าตอบแทน และการบริหารงานบุคคล

(ข)

การบริหารและการจัดการการเงิน การพัสดุ และทรัพย์สินของสถาบัน รวมทั้งการบัญชีและการตรวจสอบภายใน

(ค)

การสรรหา การแต่งตั้งและถอดถอนผู้อำนวยการ การปฏิบัติราชการของ ผู้อำนวยการ และการมอบหมายให้ผู้อื่นปฏิบัติราชการแทน

(ง)

กำหนดเครื่องแบบผู้อำนวยการ เจ้าหน้าที่ ลูกจ้าง รวมทั้งตราสัญลักษณ์ และเครื่องหมายของสถาบัน

(จ)

การจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นแก่ผู้ปฏิบัติงานของสถาบันตาม มาตรา ๑๓ (๕) และ (๖)

(๕)

การแต่งตั้งและกำหนดขอบเขตหน้าที่และอำนาจ และการปฏิบัติหน้าที่ ของคณะกรรมการตรวจสอบและผู้ตรวจสอบภายใน

(๖)

หลักเกณฑ์และวิธีการในการให้ทุนสนับสนุนการดำเนินการวิจัยด้านเทคโนโลยี ป้องกันประเทศ

(๗)

หลักเกณฑ์และวิธีการในการกำหนดราคากลางและการเปรียบเทียบ ค่าผลิตสินค้า ค่าดำเนินการ ค่าบริการ และค่าบริการในการดำเนินกิจการของสถาบัน

(๘)

หลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดทำแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่าย งบประมาณประจำปีของสถาบัน

(๙)

ให้ความเห็นชอบแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี ของสถาบัน และติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของสถาบันเพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไป ตามพระราชบัญญัตินี้

(๑๐)

ปฏิบัติหน้าที่อื่นใดที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของสถาบัน หรือตามที่ คณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศมอบหมาย ระเบียบเกี่ยวกับการจำหน่ายทรัพย์สินจากบัญชีเป็นสูญตาม (๔) (ข) ต้องเป็นไปตาม หลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด การควบคุมดูแลการดำเนินงานตามวรรคหนึ่ง คณะกรรมการอาจออกคำสั่งกำหนดแนวทาง การปฏิบัติงานให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี

มาตรา ๑๔ คณะกรรมการอาจแต่งตั้งผู้ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นที่ปรึกษา ของคณะกรรมการ และมอบอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติการอย่างใด อย่างหนึ่งตามที่คณะกรรมการมอบหมาย

ที่ปรึกษา และอนุกรรมการตามวรรคหนึ่ง อาจได้รับประโยชน์ตอบแทนในลักษณะ ค่าตอบแทนรายเดือนหรือในลักษณะอื่นตามที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา ๑๕ การจัดหาประโยชน์จากทรัพย์สินของสถาบันหรือการจัดหาประโยชน์ร่วมกับ บุคคลอื่นในกิจการของสถาบัน ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยการขายหรือการเช่า ในแง่เป็นผู้ผลิต ผู้จำหน่าย หรือผู้ให้บริการในกิจการของสถาบัน ให้สถาบันมีอำนาจจัดหาประโยชน์ร่วมกับ บุคคลอื่นในการจัดตั้งบุคคลตามมาตรา ๒๓ (๓)

``` สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หลักเกณฑ์และวิธีการแต่งตั้ง คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม องค์ประกอบ การประชุม วิธีการปฏิบัติหน้าที่ วาระการดำรงตำแหน่ง และการพ้นจากตำแหน่งของคณะอนุกรรมการ ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา 20 ให้ประธานกรรมการ กรรมการ ที่ปรึกษาของคณะกรรมการ และอนุกรรมการที่คณะกรรมการตั้ง ได้รับเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่นตามระเบียบที่คณะรัฐมนตรีกำหนด

หมวด 3 สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ

มาตรา 21 ให้มีสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ เรียกโดยย่อว่า “สทป.” และให้ชื่อภาษาอังกฤษว่า “Defence Technology Institute” เรียกโดยย่อว่า “DTI”

ให้สถาบันเป็นหน่วยงานของรัฐ มีฐานะเป็นนิติบุคคล และไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบราชการแผ่นดิน หรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ หรือกฎหมายอื่น ให้สถาบันมีวัตถุประสงค์เพื่อการวิจัยและพัฒนาตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายนี้ โดยไม่อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยการบริหารงานบุคคลของรัฐ กฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ กฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ กฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม กฎหมายว่าด้วยการบัญชี และกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการใช้จ่ายเงินของหน่วยงานของรัฐ ทั้งนี้ ให้สถาบันได้รับประโยชน์ตอบแทนไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมในฐานะที่เป็นหน่วยงานของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร และกฎหมายอื่น

มาตรา 22 ให้สถาบันมีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

(ก)

ศึกษา ค้นคว้า วิจัย และพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีป้องกันประเทศ และดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องหรือจำเป็น เพื่อเข้าไปสู่อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

(ข)

ส่งเสริมและสนับสนุนกิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหม หน่วยงานอื่นของรัฐ และเอกชน

(ค)

ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากร การเผยแพร่ความรู้วิชาการ และการพัฒนาบุคลากรด้านเทคโนโลยีป้องกันประเทศและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

(ง)

ประสานความร่วมมือทางเทคโนโลยีป้องกันประเทศและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศกับหน่วยงานของรัฐ องค์กรภาครัฐต่างประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ

(จ)

เป็นศูนย์ข้อมูลความรู้ด้านเทคโนโลยีป้องกันประเทศและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศให้แก่กระทรวงกลาโหมและหน่วยงานของรัฐเพื่อใช้ในการวางแผนและการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ

มาตรา 23 ให้สถาบันมีหน้าที่และอำนาจกระทำกิจการต่าง ๆ ภายในขอบแห่งวัตถุประสงค์ตามมาตรา 22 หน้าที่และอำนาจเช่นว่านี้ ให้รวมถึง

(ก)

ถือกรรมสิทธิ์และมีทรัพย์สิน และบริหารทรัพย์สิน

(ข)

ก่อให้เกิดสิทธิหรือทำให้พ้นจากภาระใด ๆ ที่มีในลักษณะอาจขายจำนำ ```

(๖)

ประกอบกิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

(๗)

ผู้สนับสนุน ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด

(๘)

จัดให้มีและให้ทุนเพื่อสนับสนุนการศึกษา ค้นคว้า วิจัย และพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ

(๙)

ทำความตกลงและร่วมมือกับองค์กรหรือหน่วยงานอื่นทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อประโยชน์ในการป้องกันประเทศ

(๑๐)

จัดให้หรือร่วมกับบุคคลอื่นในการจัดตั้งองค์กรหรือหน่วยงาน รวมตลอดถึง การเข้าร่วมทุน ถือหุ้น หรือเป็นหุ้นส่วนกับบุคคลอื่นทุกลักษณะใด เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการป้องกันประเทศ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศ กำหนด โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี

(๑๑)

เรียกเก็บและรับค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าตอบแทน ค่าสิทธิ ค่าสินค้า ค่าเช่า ค่าแหล่งสิทธิ และค่าบริการในการดำเนินกิจการตามวัตถุประสงค์ของสถาบัน รวมทั้งค่าความตกลง และกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับการดำเนินการนั้น ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด

(๑๒)

ยอมความและประนีประนอมยอมความเพื่อประโยชน์ของสถาบัน รวมทั้งการร้องทุกข์ ร้องขอหรือดำเนินคดีในศาลหรืออนุญาโตตุลาการในเรื่องที่เกี่ยวกับสถาบัน

(๑๓)

ให้มีใบรับฝากภาษีอากรสำหรับการนำเข้าสินค้าหรือวัสดุที่จำเป็นต้องใช้ไปในทางความตกลง ระหว่างประเทศที่ประเทศไทยมีพันธกรณีด้วย

(๑๔)

ให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีอากรนำใบรับฝากภาษีอากรไปใช้เป็นหลักฐานในการยกเว้นภาษีอากร กับบุคคลอื่น หรือเป็นหลักฐานในการขอคืนภาษีอากรตามกฎหมายว่าด้วยภาษีอากรนั้น

(๑๕)

ให้การสนับสนุนหรือร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนอื่น ๆ ในการผลิต พัฒนา หรือ ผลิตผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศ

(๑๖)

ดำเนินการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของสถาบัน

มาตรา ๒๔ ในกรณีที่คณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศเห็นว่า ยุทโธปกรณ์ที่สถาบันดำเนินการวิจัยหรือร่วมดำเนินการวิจัยมีความจำเป็นต้องผลิตเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการทหาร ของประเทศ หรือจำเป็นที่จะสนับสนุนให้ผลิตในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ตามขอบเขตให้สถาบัน ดำเนินการได้ ดังต่อไปนี้

(๑)

ส่งมอบงานของกรมการอุตสาหกรรมทหารของหน่วยงานของรัฐที่มีความสามารถ ผลิตเพื่อใช้ในกิจการของรัฐ

(๒)

กรณีที่เป็นยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในการสงคราม การผลิตและจำหน่าย สถาบันอาจ ร่วมกับเอกชนหรือกับบุคคลอื่นที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ โดยต้องดำเนินการร่วมกับ หน่วยงานตามพระราชบัญญัติกรมการอุตสาหกรรมทหารอย่างเคร่งครัด กรณีตาม (๒) อาจร่วมกับเอกชนหรือบุคคลอื่นที่มีความสามารถในการผลิตยุทโธปกรณ์ที่มี ความจำเป็นต้องการยกระดับความรู้ความสามารถให้แก่การปฏิบัติงานของบุคลากรของสถาบันใน การรบโดยวิธีรัฐร่วมดำเนินการ หรือการรบโดยประเทศร่วมดำเนินการ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และ วิธีการที่คณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศกำหนด การผลิตและการขายตามกรณีดังกล่าว ต้องเป็นไปตามลักษณะและประเภทของ ยุทโธปกรณ์ รวมทั้งหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศ กำหนดตามมาตรา ๒๓ (๔) ซึ่งต้องเป็นไปตามความตกลงระหว่างประเทศไทยกับประเทศอื่นด้วย ```

มาตรา ๒๕ ให้กิจการที่สถาบันจัดตั้งหรือร่วมกับบุคคลอื่นในการจัดตั้งองค์กรที่เป็นนิติบุคคลตามมาตรา ๒๓ (๔) ให้รับเงินไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยโรงงานผลิตอาวุธของเอกชน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด ซึ่งต้องมีมาตรการกำกับดูแลหรือควบคุมตามแนวทางที่กฎหมายดังกล่าวกำหนดไว้

มาตรา ๒๖ ทุนและทรัพย์สินของสถาบันมีดังต่อไปนี้

(๑)

เงินและทรัพย์สินที่รับโอนมาจากมาตรา ๔๔

(๒)

เงินทุนหมุนเวียนที่รัฐจัดสรรให้ตามความเหมาะสม รวมทั้งเงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับบริจาคหรือช่วยเหลือจากภาครัฐ เอกชน หรือองค์กรระหว่างประเทศ และเงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคหรือช่วยเหลืออื่นใด

(๓)

ค่าธรรมเนียม ค่าบำรุง ค่าตอบแทน ค่าผลิตภัณฑ์ ค่าเช่า ค่าบริการ และค่าบริการในการดำเนินการของสถาบัน

(๔)

ดอกผล และผลประโยชน์หรือรายได้อื่นที่เกิดจากการดำเนินการของสถาบัน

มาตรา ๒๗ บรรดาเงินของสถาบันไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ในกรณีที่สถาบันจัดตั้งขึ้นเพื่อสาธารณะ สถาบันในความเห็นชอบของคณะกรรมการอาจนำรายได้ของสถาบันในส่วนที่เห็นสมควรส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน

มาตรา ๒๘ ให้อสังหาริมทรัพย์ซึ่งสถาบันได้มาจากการให้หรือซื้อด้วยเงินของสถาบันเป็นทรัพย์สินของสถาบัน

ให้ถือว่าเงินอื่นนอกจากค่าครุภัณฑ์ ดูแล บำรุงรักษา ใช้ จำหน่าย และจัดหาประโยชน์จากทรัพย์สินของสถาบัน

มาตรา ๒๙ ทรัพย์สินของสถาบันไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี

มาตรา ๓๐ การใช้จ่ายของสถาบัน ให้ใช้จ่ายไปเพื่อกิจการของสถาบันโดยเฉพาะ การเก็บรักษาและเบิกจ่ายเงินของสถาบัน ให้เป็นไปตามข้อบังคับที่คณะกรรมการกำหนด

กำหนด

มาตรา ๓๑ ให้สถาบันมีผู้ปฏิบัติราชการคนหนึ่ง เป็นผู้บริหารกิจการของสถาบันภายในได้ การกำกับดูแลของคณะกรรมการ

คณะกรรมการมีอำนาจมอบอำนาจกรรมการ แต่ผู้ตั้ง และถอดถอนผู้อำนวยการ ให้ผู้อำนวยการมีอำนาจหน้าที่ในนามของสถาบันตามที่คณะกรรมการกำหนด ซึ่งต้องสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด

มาตรา ๓๒ ในกรณีที่ผู้อำนวยการสถาบันไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้คณะกรรมการแต่งตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนชั่วคราวในระหว่างที่ไม่มีผู้อำนวยการสถาบัน หรือจนกว่าจะมีการแต่งตั้งผู้อำนวยการสถาบันใหม่ หากตำแหน่งว่างไม่เกินสี่สิบห้าวันในระยะเวลาดังกล่าว ให้คณะกรรมการวางแผนให้รองผู้อำนวยการคนคณะรัฐมนตรีรับผิดชอบ

มาตรา 13 ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการหรือผู้อำนวยการไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองผู้อำนวยการที่มีอาวุโสตามลำดับทำหน้าที่แทน ถ้ามีรองผู้อำนวยการหรือไม่มีรองผู้อำนวยการที่ได้ ให้คณะกรรมการแต่งตั้งกรรมการหรือผู้ปฏิบัติงานคนหนึ่งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน

ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการคนหนึ่งเป็นผู้อำนวยการและกำหนดตำแหน่งผู้อำนวยการในกรณีที่ตำแหน่งผู้อำนวยการว่างลง ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการหรือผู้ปฏิบัติงานคนหนึ่งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนไปพลางก่อน

มาตรา 14 ผู้อำนวยการต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

(ก)

มีสัญชาติไทย

(ข)

มีอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปีบริบูรณ์ และไม่เกินหกสิบห้าปีบริบูรณ์

(ค)

มีความรู้ความสามารถในสาขาที่เหมาะสม

(ง)

เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์เหมาะสมกับกิจการของสถาบันตามที่กำหนดไว้ในกฎระเบียบ และกำหนดในข้อบังคับตามมาตรา 16 และมาตรา 17

(จ)

ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต

(ฉ)

ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

(ช)

ไม่เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกในคดีอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

(ซ)

ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่าเป็นการกระทำที่ร้ายแรงต่อประโยชน์ของราชการ

(ฌ)

ไม่เป็นข้าราชการการเมือง

(ญ)

ไม่เป็นกรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรที่มีวัตถุประสงค์ทางการเมือง

(ฎ)

ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 6 (4) (5) (6) (7) หรือ (8)

มาตรา 15 ผู้อำนวยการมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันมิได้

ให้มีการประเมินศักยภาพและผลงานของผู้อำนวยการอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้งตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา 16 นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ ผู้อำนวยการพ้นจากตำแหน่งเมื่อ

(ก)

ตาย

(ข)

ลาออก

(ค)

ถูกคณะกรรมการมีมติให้พ้นจากตำแหน่งด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการทั้งหมดที่มีอยู่ เพราะไม่ผ่านการประเมิน บกพร่องต่อหน้าที่ มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือหย่อนความสามารถ หรือเมื่อมีเหตุอื่นที่ทำให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่สถาบัน สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มติของคณะกรรมการให้ผู้อำนวยการพ้นจากตำแหน่งตาม (๔) และ (๕) ต้องประกอบด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการที่มีอยู่โดยไม่นับรวมตำแหน่งผู้อำนวยการ การพิจารณาคุณสมบัติเพราะวัยอายุเกินหกสิบห้าปีบริบูรณ์ ให้ถือว่าเป็นการพ้นจากตำแหน่งตามกำหนดเวลาในสัญญาจ้าง

มาตรา ๓๖ ผู้อำนวยการมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้

(๑)

บริหารกิจการของสถานบันให้เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ของสถาบัน ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนด ประกาศ และมติของคณะกรรมการ

(๒)

รับผิดชอบในการดำเนินงาน และเป็นผู้บังคับบัญชาข้าพนักงานและลูกจ้างทุกตำแหน่ง

(๓)

เสนอเป้าหมาย แผนการลงทุน แผนการเงิน แผนธุรกิจ แผนงาน และโครงการต่อคณะกรรมการ เพื่อให้การดำเนินงานของสถาบันบรรลุวัตถุประสงค์

(๔)

เสนอรายงานประจำปีเกี่ยวกับผลประกอบการและการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของสถาบัน รวมทั้งรายงานการเงินและบัญชี ตลอดจนเสนอแผนการเงินและงบประมาณต่อไปต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณา

(๕)

เสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินกิจการ การปรับปรุงกิจการ การดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของสถาบันให้มีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ต่อคณะกรรมการ

(๖)

บรรจุ แต่งตั้ง เลื่อน ลดตำแหน่ง และเลิกจ้างข้าพนักงานและลูกจ้างในตำแหน่งที่ต่ำกว่ารองผู้อำนวยการหรือเทียบเท่า ทั้งนี้ ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด

(๗)

วางระเบียบเกี่ยวกับการดำเนินงานของสถาบันโดยไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกำหนด ประกาศ หรือมติของคณะกรรมการ

(๘)

แต่งตั้งรองผู้อำนวยการหรือผู้ช่วยผู้อำนวยการ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ เพื่อเป็นผู้ช่วยปฏิบัติงานของผู้อำนวยการหรือผู้ช่วยผู้อำนวยการแทน

(๙)

ถอดถอนรองผู้อำนวยการหรือผู้ช่วยผู้อำนวยการ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ

มาตรา ๓๗ ในกิจการที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก ให้ผู้อำนวยการเป็นผู้แทนของสถาบัน และในกรณีที่ผู้อำนวยการไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองผู้อำนวยการซึ่งคณะกรรมการมอบหมายเป็นผู้แทนของสถาบัน ทั้งนี้ ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด

มาตรา ๓๘ ให้คณะกรรมการกำหนดค่าตอบแทน เงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้อำนวยการ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด

มาตรา ๓๙ การบัญชีของสถาบันให้จัดทำตามหลักการ ตามแนวปฏิบัติและหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนดซึ่งต้องไม่ขัดหรือแย้งกับการบัญชีของทางราชการ

เกี่ยวกับการเงิน การบัญชี และการพัสดุของสถาบัน ตลอดจนรายงานผลการตรวจสอบให้คณะกรรมการทราบอย่างน้อยปีละครั้ง ในการตรวจสอบภายใน ให้มีผู้ปฏิบัติงานของสถาบันที่มิใช่ผู้ตรวจสอบภายในโดยเฉพาะ และให้รับผิดชอบขึ้นตรงต่อคณะกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด ในกรณีที่มีปัญหา โยกย้าย เลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง และเลิกจ้างพนักงานผู้ตรวจสอบภายใน ให้ต้องขอความเห็นคณะกรรมการตรวจสอบพิจารณาเสียก่อน แล้วเสนอให้คณะกรรมการเพื่อให้ความเห็นชอบก่อน จึงดำเนินการได้

มาตรา ๔๔ ให้สถาบันจัดทำรายงานประจำปีเสนอคณะกรรมการและคณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีป้องกันประเทศ เพื่อเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยแสดงงบดูบัญชีการเงิน และบัญชีค่าใช้จ่ายในงบประมาณที่สถาบันได้รับราชการถูกต้อง พร้อมทั้งรายงานของผู้สอบบัญชี รวมทั้งแสดงผลงานของสถาบันในปีงบประมาณด้วย

ให้รัฐมนตรีเสนอรายงานประจำปีตามวรรคหนึ่งต่อคณะรัฐมนตรี และให้คณะรัฐมนตรีเสนอรายงานนั้นต่อรัฐสภาเพื่อทราบ

มาตรา ๔๕ ให้รัฐมนตรีมีอำนาจกำกับดูแลการดำเนินการของสถาบันให้เป็นไปตามกฎหมาย และให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสถาบัน ยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายของรัฐบาล และแผนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถาบัน ตลอดจนสั่งสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการของสถาบันได้

หมวด ๔

ผู้ปฏิบัติงานของสถาบัน

มาตรา ๔๖ ผู้ปฏิบัติงานของสถาบันมีสามประเภท ได้แก่

(๑)

เจ้าหน้าที่ที่กระทรวงกลาโหม ซึ่งปฏิบัติงานโดยได้รับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนจากงบประมาณของสถาบัน นอกจากตำแหน่งผู้ว่าการ

(๒)

ที่ปรึกษา ซึ่งปฏิบัติงานโดยได้รับเงินเดือนหรือค่าตอบแทนจากงบประมาณของสถาบัน

(๓)

เจ้าหน้าที่ที่จ้างโดยสถาบันตามสัญญาจ้าง ตามมาตรา ๔๘ เจ้าหน้าที่ที่กระทรวงกลาโหมตาม (๑) ให้มีสถานะเป็นข้าราชการและไม่มีสถานะเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของสถาบัน

(ก)

มีสัญชาติไทย

(ข)

มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์และไม่เกินหกสิบปีบริบูรณ์

(ค)

สามารถทำงานให้สถาบันได้เต็มเวลา

(ง)

มีคุณสมบัติอื่นตามที่คณะกรรมการกำหนดโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรี และผ่านการสอบแข่งขัน ของสถาบัน

(๔)

ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต

(๕)

ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

(๖)

ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

(๗)

ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำความผิดในลักษณะทุจริตหรือประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง

(๘)

ไม่เป็นผู้บริหารหรือผู้มีส่วนได้เสียในสถาบันอุดมศึกษาต่างประเทศ

(๙)

ไม่เป็นข้าราชการซึ่งดำรงตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ นักบวช หรือพนักงานของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานของรัฐ หรือผู้ปฏิบัติงานขององค์กรตามหน่วยอื่น

(๑๐)

ไม่เป็นผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรตามหน่วยอื่น

(๑๑)

ไม่มีกายต้องด้วยหมวดมาตรา ๖ (๒) หรือ (๔)

(๑๒)

กรณีไม่ (๑) ที่ได้รับตำแหน่งที่เคยลูกจ้างต่างประเทศที่สถาบันจำเป็นต้องว่าจ้างหรือแต่งตั้งบุคคลตามลักษณะของการว่าจ้างของสถาบัน

มาตรา ๖๒ เจ้าหน้าที่และลูกจ้างพ้นจากตำแหน่ง เมื่อ

(๑)

ตาย

(๒)

ลาออก

(๓)

อายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ เว้นแต่กรณีตามมาตรา ๔๕

(๔)

ถูกไล่ออกหรือปลดออก เพราะผิดวินัยตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด กำหนด การขาดคุณสมบัติเพราะวัยอายุเกินกาลถึงปีบริบูรณ์ ให้ออกว่าเป็นการพ้นจากตำแหน่งตามกำหนดเวลาในสัญญาจ้าง

มาตรา ๖๓ เพื่อประโยชน์ในทางบริหารงานของสถาบัน รัฐบาลอาจจดให้ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานในกระทรวง ทบวง กรม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ องค์กรตามหน่วยอื่น หรือหน่วยงานของรัฐ ปฏิบัติงานเป็นเจ้าหน้าที่ของสถาบันเป็นการชั่วคราวได้ โดยได้รับความยินยอมจากผู้บังคับบัญชาของบุคคลนั้น และต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลนั้นด้วย

สถานะเป็นเจ้าหน้าที่ของสถาบันตามวรรคหนึ่งให้คงอยู่จนกว่าจะมีการออกจากตำแหน่งตามมาตรา ๖๒ หรือจนกว่ารัฐบาลจะมีคำสั่งให้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานเดิม หรือจนกว่าสัญญาจ้างจะสิ้นสุดลง แล้วแต่กรณี เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าวให้ผู้นั้นกลับไปปฏิบัติหน้าที่ในสถาบัน ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐตามวรรคหนึ่งที่กลับไปปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานเดิมมีสิทธิได้รับเงินเดือนและสิทธิประโยชน์อื่นในระหว่างที่ไม่ได้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยงานเดิมตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการงบประมาณ

มาตรา ๔๗ ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องให้ผู้อำนวยการของสถาบันไปปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวในกิจการที่สถาบันเข้าร่วมทุน อื่น ๆ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนกับบุคคลอื่น หรือในกิจการของภาคเอกชน หากผู้อำนวยการพิจารณาเห็นว่า การให้ไปปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์และอยู่ภายใต้ความประสงค์ของสถาบัน ก็อาจพิจารณาสั่งให้ผู้อำนวยการของสถาบันไปปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวได้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด

บทเฉพาะกาล

มาตรา ๔๘ ในวาระเริ่มแรก ให้คณะกรรมการนโยบายเทคโนโลยีอวกาศแห่งชาติประกอบด้วย กรรมการตามมาตรา ๕ (๑)(๒) และกรรมการอื่น เพื่อปฏิบัติหน้าที่ที่กำหนดไว้ในมาตราก่อน แต่ไม่เกินกำหนดวันบังคับใช้พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ

มาตรา ๔๙ เมื่อพระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับแล้ว ให้พระราชกฤษฎีกาตั้งสถาบันเทคโนโลยีอวกาศแห่งชาติ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็นอันยกเลิก และให้มรดกกิจการ เงินทรัพย์สิน สิทธิ หนี้ รวมทั้งบรรดาสมบัติของสถาบันเทคโนโลยีอวกาศแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ที่มีอยู่ในวันก่อนที่พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับตกเป็นของสถาบันเทคโนโลยีอวกาศแห่งชาติ

มาตรา ๕๐ ให้คณะกรรมการบริหารสถาบันเทคโนโลยีอวกาศแห่งชาติที่แต่งตั้งตามพระราชกฤษฎีกาตั้งสถาบันเทคโนโลยีอวกาศแห่งชาติ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๔๓ ที่มีอยู่ในวันก่อนที่พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับ ทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการสถาบันเทคโนโลยีอวกาศแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัตินี้ โดยให้ประธานกรรมการ กรรมการโดยตำแหน่ง และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิยังคงดำรงตำแหน่ง และปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีการจัดตั้งแต่งตามพระราชกฤษฎีกาตั้งสถาบันเทคโนโลยีอวกาศแห่งชาติ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๔๓

การรับมรดกการจัดตั้งแต่งของประธานกรรมการกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันเทคโนโลยีอวกาศแห่งชาติตามพระราชบัญญัตินี้ ให้บรรดากรรมการดำเนินการในฐานะประธานกรรมการกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันเทคโนโลยีอวกาศแห่งชาติที่จัดตั้งตามพระราชกฤษฎีกาตั้งสถาบันเทคโนโลยีอวกาศแห่งชาติ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็นการกระทำจัดตั้งแต่งตามพระราชบัญญัตินี้ด้วย

มาตรา ๕๑ ให้อำนาจการสถาบันเทคโนโลยีอวกาศแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ตามพระราชกฤษฎีกาตั้งสถาบันเทคโนโลยีอวกาศแห่งชาติ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๔๓ ดำเนินการอยู่ในวันก่อนที่พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับ เป็นอำนาจการสถาบันเทคโนโลยีอวกาศแห่งชาติที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๕๒ ให้อนุเจ้าหน้าที่และลูกจ้างของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๕๐ ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับเป็นเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศพระราชบัญญัตินี้ในการจัดสรร

ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๕๐ โอนบรรดาเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศต่อไป เจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างตามวรรคหนึ่งที่มิได้แจ้งความประสงค์จะทำงานในสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศต่อไป หรือมิได้รับการคัดเลือกตามกระบวนการของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ให้ถือว่าเป็นการเลิกจ้างและให้มีสิทธิได้รับค่าชดเชยแทนการเลิกจ้างตามระเบียบ ข้อบังคับ ข้อตกลง หรือประกาศของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศที่กำหนดรายละเอียดการเลิกจ้างดังกล่าว ซึ่งต้องไม่เป็นการลดสิทธิที่ได้รับตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายแรงงานสัมพันธ์ หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง การประเมินผล และคุณภาพของเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างที่มิได้แจ้งความประสงค์จะทำงานในสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศต่อไป แต่สามารถทำงานในหน่วยงานอื่นของรัฐหรือเอกชนได้ ให้สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศดำเนินการประเมินผลและคุณภาพของเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างดังกล่าว เพื่อให้หน่วยงานอื่นของรัฐหรือเอกชนพิจารณารับเข้าทำงานต่อไป สำหรับเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างที่มิได้แจ้งความประสงค์จะทำงานในสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศต่อไป หรือมิได้รับการคัดเลือกตามกระบวนการของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ให้สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศจัดทำรายงานผลการประเมินผลและคุณภาพของเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างดังกล่าว และส่งรายงานดังกล่าวให้หน่วยงานอื่นของรัฐหรือเอกชนที่เกี่ยวข้องพิจารณารับเข้าทำงานต่อไป

มาตรา ๕๓ บรรดาบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อตกลง ประกาศ คำสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรีที่จัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๕๐ ให้ถือว่าเป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อตกลง ประกาศ คำสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรีนั้นอ้างถึงสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๕๔ บรรดายินยอม ข้อสัญญา ข้อตกลง หรือประกาศที่ออกตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๕๐ ที่มีผลใช้บังคับในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้ จนกว่าจะมีระเบียบ ข้อบังคับ ข้อตกลง หรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา ๕๕ การดำเนินการออกระเบียบ ข้อบังคับ ข้อตกลง และประกาศตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมดำเนินการโดยคำสั่งของรัฐมนตรีเพื่อทราบ

ผู้รับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่การพัฒนาด้านเทคโนโลยีป้องกันประเทศที่มีความสำคัญเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ ซึ่งต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบจากต้นทางการศึกษาวิจัย การผลิต และการนำไปใช้ประโยชน์ โดยมีความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานของกระทรวงกลาโหมและภาคเอกชน แต่รูปแบบของหน่วยงานของรัฐในปัจจุบันยังไม่เหมาะสมสำหรับการดำเนินกิจดังกล่าว สมควรจัดตั้งหน่วยงานของรัฐที่มีลักษณะเฉพาะขึ้นเพื่อดำเนินการดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ ไม่มีข้อความใดๆ ในภาพนี้ที่สามารถดึงข้อมูลได้ค่ะ