로고

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นปีที่ ๔ ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า ระบบดิจิทัล

ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒

โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่าน

มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติการบริหารงานและการ

ให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. ๒๕๖๒”

มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้

“ดิจิทัล” หมายความว่า เทคโนโลยีที่ใช้การนำสัญญาณที่อยู่ในศูนย์เลขหนึ่ง หรือ สัญลักษณ์อื่นมาแทนคำสั่งฟังง เพื่อใช้สั่งหรือทำให้กระบวนการใด ๆ เพื่อให้มนุษย์ใช้ประโยชน์ “รัฐบาลดิจิทัล” หมายความว่า การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เป็นเครื่องมือในการ บริหารภาครัฐและการให้บริการภาครัฐ โดยปรับรูปแบบการบริหารกิจการและรูปแบบการให้บริการ ภาครัฐและการทำงานให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ความสะดวก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและอำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชน ในการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ ต่อสาธารณะ และการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานของรัฐ “หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ส่วนราชการ

ส่วนราชการในสังกัดอำนาจศาล องค์กรอัยการ ศาล องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ องค์กรอัยการ

สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ และหน่วยงานอื่นของรัฐ “สำนักงาน” หมายความว่า สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) * ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๖/ตอนที่ ๖๕ ก/หน้า ๑๔/๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๒

มาตรา 4 เพื่อให้การบริหารงานภาครัฐและการจัดทำบริการสาธารณะเป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และตอบสนองต่อการให้บริการประชาชนอย่างมีความสะดวกแก่ประชาชน ให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีการบริหารงานและการจัดทำบริการสาธารณะในรูปแบบและช่องทางจัดส่งโดยมีการบริหารจัดการและการบูรณาการกับหน่วยงานรัฐและการทำให้สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อกันเพื่อป้องกันข้อขัดแย้งที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงาน โดยมีหน่วยงานในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานภาครัฐและการจัดทำบริการสาธารณะในรูปแบบและช่องทางจัดส่งที่เหมาะสม รวมทั้งการเพิ่มข้อมูลความรู้ต่อสาธารณะและการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

ในการดำเนินการตามวรรคหนึ่ง อย่าให้ต้องเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ของหน่วยงานรัฐเท่านั้น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ โดยให้ดำเนินการดังนี้

(ก)

การกำหนดระบบจัดหลักเกณฑ์และสมบัติในการบริหารและการให้บริการของหน่วยงานของรัฐทุกแห่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและให้การใช้ระบบดิจิทัลอย่างคุ้มค่าและเต็มศักยภาพ

(ข)

การพัฒนามาตรฐาน หลักเกณฑ์ และวิธีการเกี่ยวกับระบบดิจิทัล และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่จำเป็น ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อสร้างและพัฒนากระบวนการทำงานของหน่วยงานของรัฐให้มีความสอดคล้องต่อสภาพเศรษฐกิจและสังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล โดยปราศจากความผิดพลาด ตรวจสอบได้ และประเมินเอกภาพกิจกรรมพัฒนาการบริการภาครัฐที่มีประสิทธิภาพและไม่ก่อการบริหารงานและการบริการประชาชนแบบบูรณาการ รวมทั้งให้ประชาชนเข้าถึงได้โดยสะดวก

(ค)

การกำหนดมาตรการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันข้อขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในการดำเนินการตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือความเป็นอันตรายต่อบุคคลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะเช่นเดียวกัน

(ง)

การรักษาและบำรุงรักษาโครงสร้างทางดิจิทัลและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานระบบประมวลผลให้เกิดความคุ้มค่าและเป็นไปตามเป้าหมาย โดยมีการวางแผน ตรวจสอบ และประเมินความคุ้มค่าในการดำเนินงานเพื่อให้เป็นไปตามการบริหารงานภาครัฐและการจัดทำบริการสาธารณะผ่านระบบดิจิทัล รวมทั้งพัฒนาให้มีแผนในการใช้งานเพื่อผลความคุ้มค่าและเกิดความสอดคล้องกับแผนงานและโครงการต่าง ๆ ของหน่วยงานของรัฐ

มาตรา 5 ให้มีแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลเพื่อกำหนดกรอบและทิศทางการบริหารงานภาครัฐและการจัดทำบริการสาธารณะในรูปแบบของระบบดิจิทัลเพื่อพัฒนาระบบ มีการปฏิบัติที่สอดคล้องต่อแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัล และมีการบูรณาการแผนงานและโครงการของประเทศโดยสอดคล้องต่อวัตถุประสงค์ตามมาตรา 4 ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนระดับชาติที่เกี่ยวข้อง

การจัดทำแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลตามมาตรานี้ อาจกำหนดให้หน่วยงานของรัฐที่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับการจัดบริการประชาชนการกำหนดแนวทางการดำเนินการหรือกำหนดชื่อหน่วยงานที่มีข้อมูลเผยแพร่ข้อมูลที่มีผลลักษณะข้อมูลเปิดภาครัฐไว้ด้วยได้ เมื่อมีการประกาศใช้แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลแล้ว ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการตามแผนดังกล่าวและต้องจัดทำหรือปรับปรุงแผนปฏิบัติการหรือแผนงานของหน่วยงานของรัฐให้สอดคล้องกับแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัล พร้อมทั้งส่งแผนปฏิบัติการหรือแผนงานดังกล่าวให้สำนักงานทราบด้วย

มาตรา 5 ให้คณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ประกอบด้วย

(1) นายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ (2) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เลขาธิการคณะกรรมการการพัฒนาระบบราชการ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นกรรมการ (3) กรรมการอื่นจำนวนหนึ่งคน ซึ่งนายกรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งโดยคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าวต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในด้านที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ให้ผู้แทนหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลเข้าร่วมประชุมเพื่อให้ข้อมูลหรือแสดงความคิดเห็นตามที่ประธานกรรมการหรือผู้ปฏิบัติงานของคณะกรรมการที่คณะกรรมการมอบหมาย ให้หน้าจากการเป็นกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลด้วย ในกรณีที่มีเหตุไม่ว่าจะประกาศใด ๆ อันทำให้ไม่มีกรรมการตาม (1) (2) หรือ (3) ในตำแหน่งใด ให้คณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลประกอบด้วยกรรมการทั้งหมดที่มีอยู่ เว้นแต่กรรมการไม่มีสิทธิหรือขาดจากการเป็นกรรมการที่พ้นหมด การปฏิบัติหน้าที่และการประชุมของคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลกำหนด ในกรณีที่คณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลมีมติให้มีการประชุมทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้ถือว่าการประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมที่ชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยการประชุมทางอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ให้บังคับใช้กับการประชุมของคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลด้วยโดยอนุโลม

(ก)

กำหนดมาตรฐาน ข้อกำหนด และหลักเกณฑ์เกี่ยวกับรัฐบาลดิจิทัล ให้เป็นการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตามมาตรา 4 วรรคสอง และตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้

(ข)

กำหนดแนวทางการจัดทำหรือปรับปรุงแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัล และการดำเนินการตามแผนดังกล่าวของหน่วยงานของรัฐ

(๕)

เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในการจัดให้มีหรือปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามแนววัตถุประสงค์มาตรา ๕ และขอบเขตของยุทธศาสตร์การจัดทํามาตรฐาน ในการพิจารณาอนุมัติหรืออนุกรรมาธิการงบประมาณ ค่าบริการ ค่าปรับ หรือค่าใช้จ่ายอื่นใด เพื่อประโยชน์ใน การดําเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัตินี้

(๖)

ให้คําแนะนําหรือข้อเสนอแนะแก่หน่วยงานของรัฐในการดําเนินการตาม แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัล และมาตรฐานข้อมูลภาครัฐ

(๗)

กํากับและติดตามให้หน่วยงานของรัฐดําเนินการให้เป็นไปตามแผนพัฒนา รัฐบาลดิจิทัล รวมทั้งเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้มีการดําเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับแผนงาน และโครงการในแผนดังกล่าว

(๘)

กํากับและติดตามการดําเนินงานของศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกลาง และศูนย์กลาง ข้อมูลเปิดภาครัฐ

(๙)

ออกรายงานหรือประกาศเพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้

(๑๐)

ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย หรือตามที่มี กฎหมายกําหนดให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานตามวรรคหนึ่ง คณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล อาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือบุคคลใดเพื่อปฏิบัติการตามที่คณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล มอบหมาย แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลตาม (๖) และการกําหนดมาตรฐาน ข้อกําหนด และ หลักเกณฑ์ตาม (๗) และระเบียบที่ออกตาม (๙) เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ให้ใช้บังคับได้

มาตรา ๘ ธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐตามมาตรา ๗ (๒) อย่างน้อยต้องประกอบด้วย

(๑)

การกําหนดสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบในการบริหารจัดการข้อมูลของ หน่วยงานของรัฐ รวมถึงสิทธิและหน้าที่ของผู้ครอบครองหรือผู้ควบคุมข้อมูลที่ตนมิได้เป็นผู้จัดทํา

(๒)

การสร้างระบบบริหารและระบบการจัดการและคุ้มครองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ การจัดทํา การจัดเก็บ การจัดทําหมวดหมู่ การประมวลผลหรือใช้ข้อมูล การเปิดหรือเปิดเผย ข้อมูล การตรวจสอบ และการทําลาย

(๓)

การมีมาตรการหรือแนวทางในการคุ้มครองข้อมูลภาครัฐ เพื่อให้ข้อมูล ถูกต้องครบถ้วน พร้อมใช้งาน เป็นปัจจุบัน สามารถบูรณาการและแลกเปลี่ยนกันได้ รวมทั้งมีการจัดทําข้อมูลสํารองเพื่อให้หน่วยงานของรัฐสามารถดําเนินการต่อเนื่องได้ ในกรณีมีเหตุการณ์ไม่ปกติ

(๔)

การมีมาตรการหรือแนวทางในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่มี ผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลอย่างเหมาะสม และมีระบบบริหารจัดการ รวมทั้งการกําหนดสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของผู้ที่เกี่ยวข้องให้ ครอบคลุมเพื่อความมั่นคงปลอดภัยและป้องกันการละเมิดข้อมูลบุคคลดังกล่าว

(๕)

การมีมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมการใช้ข้อมูลภาครัฐเพื่อการพัฒนา โครงสร้างของข้อมูล เนื้อหาสาระ รูปแบบการจัดเก็บ แหล่งข้อมูล และสิทธิในการเข้าถึงข้อมูล

มาตรา 9 ให้ประธานกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล หรืออนุกรรมการและบุคคลซึ่งคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลตั้งได้รับเชิญประชุมหรือคำตอบแทนตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด

มาตรา 10 ให้สำนักงานมีหน้าที่ดำเนินการและสนับสนุนการปฏิบัติงานตามที่คณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลมอบหมาย รวมทั้งรับผิดชอบงานธุรการและงานของคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล และให้สำนักงานดำเนินการดังต่อไปนี้ด้วย

(1) จัดทำแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลตามแนวนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนารัฐบาลดิจิทัลกำหนดและรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ และวิจัย เพื่อจัดทำตัวชี้วัด ดำเนินสนับสนุนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลและต่อคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (2) ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตามแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลตามมาตรา 7 (4) และมาตรฐาน ข้อกำหนด และหลักเกณฑ์ตามมาตรา 7 (5) และตามพระราชบัญญัตินี้ (3) สำรวจเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ และวิจัย เพื่อจัดทำตัวชี้วัด ดำเนินสนับสนุนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลและต่อคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (4) ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตามแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลตามมาตรา 7 (4) และมาตรฐาน ข้อกำหนด และหลักเกณฑ์ตามมาตรา 7 (5) และตามพระราชบัญญัตินี้ (5) ดำเนินการหรือสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรของหน่วยงานของรัฐรวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่และดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ (6) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่คณะรัฐมนตรีและคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลกำหนด

มาตรา 11 เพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดินและการบริการประชาชนในรูปแบบและช่องทางดิจิทัล ในกรณีที่กฎหมาย กฎ หรือระเบียบใดกำหนดให้ผู้ร้องขอมีผู้อนุญาต หรือผู้อนุญาต หรือผู้ยินยอมของตนเพื่อประโยชน์หรือดุลยพินิจ หรือผู้ต้องใช้เอกสารหรือหลักฐานของทางราชการที่หน่วยงานของรัฐออกให้ เพื่อประกอบการพิจารณาอนุญาต ยินยอม หรือดำเนินการใด ๆ หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบตามกฎหมาย กฎ หรือระเบียบดังกล่าว อาจจัดให้มีระบบการอนุญาต ยินยอม หรือดำเนินการดังกล่าวในรูปแบบและช่องทางดิจิทัลได้ โดยให้ถือว่าการอนุญาต ยินยอม หรือดำเนินการดังกล่าวที่ได้กระทำในรูปแบบและช่องทางดิจิทัลนั้นมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย

ในกรณีที่มีการเชื่อมโยงข้อมูลดิจิทัลจากหน่วยงานของรัฐอื่นหรือหน่วยงานของรัฐเดียวกันแล้ว ให้ถือว่าได้มีการยื่นเอกสารหรือหลักฐานตามกฎหมายตามที่หน่วยงานของรัฐนั้นกำหนด

มาตรา 12 เพื่อให้การบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัลเป็นไปตามวัตถุประสงค์ตามมาตรา 4 และเกิดการบูรณาการร่วมกัน ให้หน่วยงานของรัฐจัดทำธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐในระดับหน่วยงาน และดำเนินการจัดทำต่อไปให้เป็นไปตามธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐตามมาตรา 8

(1) จัดทำข้อมูลภาครัฐจากต้นทางให้อยู่ในรูปแบบข้อมูลดิจิทัล โดยเป็นข้อมูลที่มีคุณภาพ สมบูรณ์และเชื่อถือได้ และสามารถเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานของรัฐได้ สามารถแลกเปลี่ยนกับหน่วยงานของรัฐอื่นเพื่อนำไปประมวลผลต่อไปได้ (2) จัดทำกระบวนการหรือการดำเนินงานทางดิจิทัลตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางที่มีคุณภาพ และการให้บริการประชาชน กระบวนการหรือการดำเนินงานทางดิจิทัลดังกล่าวต้องทำงานร่วมกันได้ตามมาตรฐาน ข้อกำหนด และหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลกำหนด เพื่อให้สามารถสอดคล้องและเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานของรัฐหนึ่งไปยังหน่วยงานของรัฐอื่นได้ โดยมุ่งเน้นถึงการอำนวยความสะดวกและการเข้าถึงของประชาชนที่เป็นไปตามมาตรฐานและหลักการบริการข้อมูลระหว่างหน่วยงานของรัฐเป็นสำคัญ (3) จัดให้มีระบบการชำระเงินทางดิจิทัลอีกช่องทางหนึ่ง กรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้หน่วยงานของรัฐสามารถเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียม ค่าปรับ หรือค่าใช้จ่ายอื่นใดจากประชาชนจากการให้บริการของหน่วยงานของรัฐนั้น และอาจกำหนดให้หน่วยงานของรัฐแต่ละแห่งจัดให้มีเงินดังกล่าวผ่านได้ (4) จัดให้มีระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล เพื่อประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกในการบริการประชาชน ซึ่งมีมาตรฐานและแนวทางที่สอดคล้องกับหลักการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลกำหนด

(ก)

จัดให้มีระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลที่มีความปลอดภัยและเชื่อถือได้ของหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้ความพร้อมใช้ นำส่งต่อ และสามารถตรวจสอบได้ โดยอย่างน้อยต้องจัดให้มีระบบป้องกันหรือรับมือกับบุคคลหรือความเสี่ยงทางไซเบอร์ตามกฎหมายว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์

(ข)

จัดให้มีการพัฒนาทักษะบุคลากรภาครัฐให้มีความรู้ความสามารถในการดำเนินงานด้านการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล ให้เป็นไปตามแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (5) ให้มีการทบทวนแผนปฏิบัติการหรือแผนงาน นโยบาย และแนวปฏิบัติที่เกี่ยวกับการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัลของหน่วยงานของรัฐ รวมถึงการประเมินผลการดำเนินงานตามแผน นโยบาย และแนวปฏิบัติดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง การจัดทำข้อมูลในรูปแบบข้อมูลดิจิทัลตาม (1) ให้เป็นไปตามมาตรฐาน ข้อกำหนด และหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลกำหนด กรณีที่หน่วยงานของรัฐจัดทำข้อมูลดิจิทัลตาม (1) เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานของรัฐนั้นมีหน้าที่ดำเนินการให้ข้อมูลดังกล่าวเป็นปัจจุบันในการจัดทำหรือรวบรวมข้อมูลดิจิทัลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐนั้น และต้องจัดให้หน่วยงานของรัฐอื่นสามารถเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลดังกล่าวระหว่างกันโดยไม่จำกัดจำนวนคำ ข้อมูลลิขสิทธิ์ใหม่ทั้งหมด โดยคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลอาจวางระเบียบในการดำเนินการดังกล่าว ทั้งนี้ ภายใต้ธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐ

มาตรา 13 เพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดินและการให้บริการประชาชน ให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิทัลที่มีการจัดทำและครอบครองตามที่หน่วยงานของรัฐเห็นสมควร ซึ่งสอดคล้องกับธรรมาภิบาล

มาตรา 14 หน่วยงานของรัฐผู้รับข้อมูลดิจิทัลตามมาตรา 13 ต้องใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์เท่านั้นที่กำหนดของหน่วยงานที่ส่งข้อมูลให้ตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว และต้องไม่กระทำการใด ๆ ที่เป็นการเปิดเผยหรือโอนข้อมูลไปยังบุคคลที่ไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูล

มาตรา 15 ให้มีศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกลางสำหรับหน่วยงานของรัฐ เพื่อสนับสนุนการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการประชาชนในระบบดิจิทัล และดำเนินการในเรื่องดังต่อไปนี้

(ก)

กำหนดนโยบายและแนวทางการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิทัล เสนอคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลให้พิจารณาเห็นชอบ

(ข)

ประสานและให้ความช่วยเหลือแก่หน่วยงานของรัฐในการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิทัลระหว่างกัน รวมทั้งกำกับติดตามให้การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปในแนวทางและมาตรฐานเดียวกันตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลกำหนด

(ค)

จัดทำดัชนีอ้างอิงข้อมูลดิจิทัลของหน่วยงานของรัฐ และจัดเก็บบันทึกหลักฐานของการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิทัล

(ง)

เรื่องอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลมอบหมาย

มาตรา 16 ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่หน่วยงานของรัฐได้รับข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองของหน่วยงานของรัฐหรือครอบครองโดยบุคคลดังกล่าวในรูปแบบข้อมูลดิจิทัลเพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดิน หน่วยงานของรัฐนั้นสามารถเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจากหน่วยงานของรัฐหรือครอบครองโดยเจ้าของข้อมูลหรือรับประมวลผลได้

มาตรา 17 ให้หน่วยงานของรัฐจัดทำข้อมูลที่ต้องเปิดเผยตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการในรูปแบบข้อมูลดิจิทัลที่สามารถประมวลผลได้ โดยต้องเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของบุคคลได้และนำไปเผยแพร่ในช่องทางที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ในรูปแบบต่าง ๆ ได้ ทั้งนี้ มาตรการและหลักเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลกำหนด ซึ่งต้องไม่เป็นการประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเข้าถึงข้อมูล

มาตรา 18 เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการแก่ประชาชนและการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ ให้หน่วยงานของรัฐจัดทำข้อมูลดิจิทัลในรูปแบบที่สามารถเชื่อมโยงและประสานงานให้หน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานตามมาตรา 17 และเปิดเผยแก่ประชาชน

ให้คณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลกำหนดประเภท รูปแบบ และมาตรฐานของข้อมูลที่เปิดเผยแก่ประชาชนโดยศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐ ทั้งนี้ ต้องเป็นแนวทางและมาตรฐานเดียวกัน รวมทั้งสอดคล้องกับหลักการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นสากล

มาตรา ๑๙ ในระยะเริ่มแรก ให้สำนักงานดำเนินการให้หน่วยงานจัดเก็บข้อมูลกลางตามมาตรา ๑๔ (๒) เป็นการชั่วคราวก่อน เพื่อรอการจัดตั้งศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐ ให้คณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลพิจารณาความเหมาะสมและเสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐที่ดำเนินการเกี่ยวกับศูนย์กลางแลกเปลี่ยนข้อมูลกลาง ทั้งนี้ ในกรณีที่คณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลเห็นว่าข้อมูลที่หน่วยงานของรัฐจัดเก็บไว้ในศูนย์กลางข้อมูลกลางตามมาตรา ๑๔ (๒) มีความสำคัญต่อการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ให้เสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐดังกล่าวให้ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลนั้นไว้ในศูนย์กลางข้อมูลกลางต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีจะมีมติเป็นอย่างอื่น

มาตรา ๒๐ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ ปัจจุบันเทคโนโลยีได้มีความก้าวหน้าและเป็นส่วนหนึ่งที่มีผลต่อชีวิตและการประกอบธุรกิจของประชาชน ซึ่งในการบริหารงานและการให้บริการภาครัฐที่ผ่านมาอาศัยนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนได้อย่างเต็มที่ และโดยที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้มีการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน โดยให้มีการนำเทคโนโลยีเหมาะสมมาประยุกต์ใช้ในการบริหารราชการแผ่นดินและการให้บริการภาครัฐให้อยู่ในระบบดิจิทัล ขั้นตอนสำคัญประการหนึ่งของการปฏิรูประบบดิจิทัลที่ดีของรัฐพึงคำนึงถึงความจำเป็นที่ต้องให้มีระบบการทำงานและข้อมูลเชื่อมโยงกันระหว่างหน่วยงานของรัฐอย่างมั่นคงปลอดภัย มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว เปิดเผยและโปร่งใส รวมทั้งประชาชนได้รับความสะดวกในการรับบริการและสามารถตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐได้ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ปุณิกา/ธนบดี/จัดทำ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ปัญญ์สมัย/ตรวจ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๒